00:00:05 → 00:00:07 ต้อกระจกต้อเนื้อต้อหินต้อลมต้อไหน
00:00:08 → 00:00:10 อันตรายที่สุดค่ะต้อที่อันตรายที่สุดก็
00:00:10 → 00:00:13 คือต้อหินค่ะเนื่องจากว่าต้อหินจะทำให้ตา
00:00:13 → 00:00:15 บอดถาวรไม่สามารถเอากลับมาได้รองลงมาก็
00:00:15 → 00:00:18 คือต้อกระจกค่ะจะต้องมีการผ่าตัดเปลี่ยน
00:00:18 → 00:00:20 เลนส์ตาเทียมแต่ว่าพอเปลี่ยนเลนส์ไปแล้ว
00:00:20 → 00:00:23 ก็เอาการกลับมองเห็นที่ไม่เห็นนั้นน่ะคืน
00:00:23 → 00:00:26 มาได้นะคะก็คือเป็นบอดไม่ถาวรส่วนต้อ
00:00:26 → 00:00:28 เนื้อกับต้อลมเนี่ยไม่อันตรายไม่ทำให้ตา
00:00:28 → 00:00:31 บอดนะคะสามารถที่จะมาลอกเมื่อไหร่ก็ได้
00:00:31 → 00:00:34 การมองเห็นก็จะกลับคืนมาได้ดีสำหรับต้อ
00:00:34 → 00:00:36 เนื้อแต่ต้อลมเนี่ยก็เป็นนิดหน่อยไม่ส่ง
00:00:36 → 00:00:38 ผลต่อการมองเห็นอะไรก็ไม่ต้องลอกใช้ยา
00:00:38 → 00:00:42 รักษาตามอาการค่ะท่อหินเป็นมาจากสาเหตุ
00:00:42 → 00:00:46 อะไรถ้าไม่ผ่าตักจะเป็นอย่างไรต้อหินนะคะ
00:00:46 → 00:00:50 จริงๆก็มีหลายสาเหตุนะคะเช่นการที่อยู่ดี
00:00:50 → 00:00:52 ๆก็เกิดขึ้นเองส่วนใหญ่แล้วก็จะเกิดจาก
00:00:52 → 00:00:54 ประวัติครอบครัวที่เป็นต้อหินนะคะหรือว่า
00:00:55 → 00:00:58 บางคนเนี่ยมีภาวะโครงสร้างตาที่ผิดปกติก็
00:00:58 → 00:01:01 จะเกิดเป็นต้อหินมุมปิดได้ค่ะอย่างสาเหตุ
00:01:01 → 00:01:04 อื่นๆเช่นอุบัติเหตุทางตานะคะต้อหินแต่
00:01:04 → 00:01:07 กำเนิดหรือว่าใช้ยาสเตียรอยอันนี้ก็เป็น
00:01:07 → 00:01:10 สาเหตุของต้อหินได้ค่ะความดันตาคืออะไร
00:01:10 → 00:01:14 เหมือนความดันโลหิตมั้ยคะความดันตานะคะก็
00:01:14 → 00:01:18 คือความดันของของเหลวที่อยู่ในลูกตานะคะ
00:01:18 → 00:01:21 เอ่อจะเป็นค่าค่าหนึ่งที่ทำให้ลูกตาเนี่ย
00:01:21 → 00:01:25 คงลูกอยู่ได้โดยมันจะต้องเกิดความเอ่อ
00:01:25 → 00:01:28 Balance หรือว่าความสมดุลของเอ่อน้ำที่
00:01:28 → 00:01:32 อยู่ในตากับน้ำที่ออกจากตานะคะมันก็เลย
00:01:32 → 00:01:35 ได้เป็นค่าความดันนตาค่านึงค่ะความดันนตา
00:01:35 → 00:01:38 เนี่ยก็มีส่วนสำคัญถ้าใครความดันตาสูงก็
00:01:38 → 00:01:41 จะเสี่ยงเป็นต้อหินไม่ได้หมายความว่าคน
00:01:41 → 00:01:43 ที่มีความันตาสูงทุกคนจะต้องเป็นต้อหิน
00:01:44 → 00:01:47 ไม่ใช่นะคะแล้วก็เอ่อคนที่มีความดันตาต่ำ
00:01:47 → 00:01:50 ไม่ได้เป็นต้อหินก็ไม่ใช่นะคะต้อหินบาง
00:01:50 → 00:01:53 ชนิดเนี่ยก็ไม่จำเป็นต้องมีความดันตาสูง
00:01:53 → 00:01:57 ก็เช่นเดียวกันค่ะความดันรูปตาสูงเป็นต้อ
00:01:57 → 00:02:00 หินทำให้ตาบอดได้มยคะ
00:02:00 → 00:02:03 ถ้ากรณีที่เป็นต้อหินนะคะสิ่งที่เราจะ
00:02:03 → 00:02:07 รักษาเนี่ยก็คือลดระดับความดันตาให้ลดลง
00:02:07 → 00:02:10 ลดลงแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับว่าระยะของต้อหิน
00:02:10 → 00:02:12 เนี่ยเป็นรุนแรงมากหรือเปล่าอย่างเช่นถ้า
00:02:12 → 00:02:14 เป็นต้อหินแบบรุนแรงมากนะคะเราก็ต้องเอา
00:02:15 → 00:02:17 ความดันตาเนี่ยประมาณ 10 เลยค่ะการที่
00:02:17 → 00:02:20 ความดันตามากกว่า 10 ในกรณีที่เป็นรุนแรง
00:02:20 → 00:02:22 อันนี้ก็สาเป็นสาเหตุที่จะทำให้การมอง
00:02:22 → 00:02:25 เห็นลดลงไปเรื่อยๆจนถึงตาบอดได้ค่ะเพราะ
00:02:25 → 00:02:28 ฉะนั้นความดันตาจึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะ
00:02:28 → 00:02:31 ต้องควบคุมให้ดีในแต่ละคนที่เป็นต้อหิน
00:02:31 → 00:02:36 ค่ะคนเป็นต้อหินจะเห็นภาพลักษณะแบบใดคะคน
00:02:36 → 00:02:39 เป็นต้อหินจะมีการสูญเสียที่เรียกว่าเสีย
00:02:39 → 00:02:42 ลานสายตานะคะดังนั้นเนี่ยสมมุติว่ามเรา
00:02:42 → 00:02:44 มองหน้าคนตรงๆเนี่ยเราจะเห็นหน้าคนอยู่
00:02:44 → 00:02:47 แต่ว่ารอบข้างของหน้าคนเจะไม่เห็นก็คือ
00:02:47 → 00:02:51 เอ่อจะมองภาพที่ค่อนข้างแคบลงนะคะก็คือ
00:02:51 → 00:02:55 ลานสายตาเสียนั่นเองค่ะตกระจกกลายเป็นต้อ
00:02:55 → 00:02:56 หินได้ม
00:02:56 → 00:02:59 คะต้อกระจกสามารถที่จะกลายเป็นต้อหินได้
00:02:59 → 00:03:01 ได้แต่ว่าอันนั้นมันเกิดจากการที่ต้อ
00:03:01 → 00:03:04 กระจกสุกแล้วก็เลนตาบวมทำให้ช่องหน้ามั่น
00:03:04 → 00:03:06 ตาแคบแล้วก็ดันให้ความดันตาขึ้นอันเนี้ย
00:03:06 → 00:03:09 ก็คือเป็นภาวะแทรกซ้อนจากต้อกระจกนะคะอีก
00:03:09 → 00:03:12 อย่างนึงก็คือต้อกระจกเนี่ยพอมันบวมมาก
00:03:12 → 00:03:14 มันก็แตกออกมาจากถุมหุ้มเลนเลยนะคะก็เกิด
00:03:14 → 00:03:18 การอักเสบก็เป็นเอ่อต้อหินความดันตาสูง
00:03:18 → 00:03:22 ขึ้นได้เช่นเดียวกันค่ะต้อหินตรวจบได้จาก
00:03:22 → 00:03:25 อะไรบ้างคะปกติแล้วนะคะตัวต้อหินเนี่ย
00:03:25 → 00:03:28 เอ่อชนิดที่เป็นมากที่สุดจะไม่มีอาการค่ะ
00:03:28 → 00:03:32 เอ่อโดยที่ที่เอ่อพอคนไข้มาถึงเนี่ยเอ่อ
00:03:32 → 00:03:36 ส่วนใหญ่ก็มาถึงด้วยอาการตามัวที่มามาโดย
00:03:36 → 00:03:39 เอ่ออาการตามัวนะคะก็จะเป็นระยะสุดท้าย
00:03:39 → 00:03:41 ของโลกแล้วค่ะดังนั้นเนี่ยจริงๆแล้วสิ่ง
00:03:41 → 00:03:44 ที่ดีที่สุดก็คือมาตรวจกัดกรองหาต้อหิน
00:03:44 → 00:03:47 โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงในเรื่องของต้อ
00:03:47 → 00:03:50 หินได้แก่อายุ 40 ปีเอ่อเป็นโรคเบาหวาน
00:03:50 → 00:03:53 ความดันมีประวัติในครอบครัวเป็นต้อหิน
00:03:53 → 00:03:55 หรือว่ามีเอ่อลักษณะของเคยผ่าตัดตา
00:03:55 → 00:03:57 อุบัติเหตุทางตายอย่างเงี้ยค่ะตรวจคัด
00:03:57 → 00:03:59 กรองต้อหินเพียงปีละ 1 ครั้งเท่านั้นก็ก็
00:03:59 → 00:04:02 เป็นการป้องกันที่ดีที่สุดว่าไม่ให้บอด
00:04:02 → 00:04:06 จากการเป็นต้อหินค่ะคนไข้เป็นต้อหินแล้ว
00:04:06 → 00:04:11 คุณหมอนัผ่าตัดแล้วการผ่าตัดจะดีขึ้นมั้ย
00:04:11 → 00:04:14 คะการที่เป็นโรคต้อหินนะคะแล้วคุณหมอนัด
00:04:14 → 00:04:17 ผ่าตัดเนี่ยก็แสดงว่าเอ่อตัวของคนไข้เอง
00:04:17 → 00:04:20 มีข้อบ่งชี้แล้วอาจจะควบคุมความดันตาไม่
00:04:20 → 00:04:22 ได้หรืออยากจะให้ความดันตาเนี่ยลดลงกว่า
00:04:22 → 00:04:25 นี้หรือว่าหยอดยาไม่ได้มีผลข้างเคียงจาก
00:04:25 → 00:04:28 ยาก็เลยใช้คันผ่าตัดแทนซึ่งมันมีหลายแบบ
00:04:28 → 00:04:32 หลายสาเหตุหลายเอ่อเหตุผลนะคะที่จะทำการ
00:04:32 → 00:04:34 ผ่าตัดค่ะต้อหินเนี่ยจริงๆแล้วเวลาที่
00:04:34 → 00:04:37 รักษาเนี่ยก็คือจุดประสงค์คือมีการลดความ
00:04:37 → 00:04:41 นันตาแต่ว่าไม่ได้ทำให้ต้อหินเนี่ยหายไป
00:04:41 → 00:04:44 ก็จริงนะคะแต่ว่าก็จะช่วยลดไม่ให้เกิดการ
00:04:44 → 00:04:47 ตาบ่อจากการเป็นต้อหินค่ะดังนั้นเนี่ยถ้า
00:04:47 → 00:04:51 คุณหมอบอกว่าให้ผ่าตัดก็ก็ลองปรึกษานะคะ
00:04:51 → 00:04:54 แล้วก็ลองเอ่อเอ่อเอ่อักับคุณหมอดูนะคะ
00:04:54 → 00:04:57 ว่าเอ่อผลดีผลเสียของการผ่าตัดเนี่ยเป็น
00:04:57 → 00:05:01 ยังไงค่ะทำไมหยอดยาต้อหินแล้วขนตายาวขึ้น
00:05:02 → 00:05:06 คะก็ยาต้อหินบางชนิดนะคะโดยเฉพาะเอ่อชนิด
00:05:06 → 00:05:09 กลุ่มที่ทำให้เอ่อหยอดก่อนนอนนะคะมันจะมี
00:05:09 → 00:05:12 ฤทธิ์ที่ทำให้ตัวขนตาเนี่ยยาวขึ้นมันเป็น
00:05:12 → 00:05:18 เหมือนเอ่อขนข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้ค่ะ