ดาวพลูโตมีอิทธิพลต่อตัวตนอย่างไร

ปมในใจมาจากไหน? ถอดรหัส เข้าใจตัวเองอย่างลึกซึ้งผ่านศาสตร์แห่งดวงดาว | On the way with Chom EP.30

จากช่อง : Life Dot


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 การรู้จักตัวเองกับการรู้จักเกี่ยวกับตัว

00:00:0200:00:04 เองไม่เหมือนกัน

00:00:0400:00:07 คำว่า Self discovery เนี่ยมันคือการที่

00:00:0700:00:10 เราเข้ามาค้นพบตัวเองจริงๆว่าจริงๆแล้ว

00:00:1000:00:13 อ่ะเรามีแก่นอะไรอยู่ข้างในเราจะมาคุยกัน

00:00:1300:00:17 ในเรื่องของโหราศาสตร์เอามาผนวกกับการที่

00:00:1700:00:19 ให้เข้าใจในเรื่องของตำแหน่งของดวงดาว

00:00:1900:00:22 เพื่อสอดคล้องกับบุคลิกภาพตัวตนของคนๆ

00:00:2200:00:25 นั้นข้อดีข้อเสียเขามีอะไรอยู่ข้างในซ่อน

00:00:2500:00:26 อยู่

00:00:2600:00:28 >> คนที่เขาไม่กล้าเข้าหาเราอะไรเงี้ยเพราะ

00:00:2800:00:29 ดาวภูโตเหรอคะ

00:00:2900:00:30 >> อื

00:00:3000:00:33 จริงๆไม่ได้หยิ่งนะคะแต่ว่าดาวภูโตค่ะ

00:00:3300:00:35 เรื่องขอให้โทษดาวภูโต

00:00:3600:00:38 >> เราจะกลับมาดูในส่วนที่จะดูเป็นข้อเสีย

00:00:3800:00:39 >> อื

00:00:3900:00:41 >> คืออารมณ์

00:00:4100:00:43 >> ถ้าครั้งไหนที่ปล่อยให้ตัวเองอ่ะตอบโต้

00:00:4300:00:46 กลับไปด้วยอารมณ์ชมจะเสียใจทุกครั้งก็

00:00:4600:00:48 เห็นคนที่ด่ามาด่ากลับไม่โกงอะไรเงี้ย

00:00:4800:00:50 แล้วมันสบายอ่ะเอออยากทำแบบแกได้อะไร

00:00:5000:00:55 เงี้ยชมควรทำไงอ่ะเราสามารถฝืนลิขิตฟ้า

00:00:5500:00:58 พลังของดวงดาวได้มั้ยคะ

00:00:5800:01:00 >> คุณรู้จักตัวเองดีแค่ไหน On the way

00:01:0000:01:04 with ชม EP นี้คุณนี้แชลิสาผู้ให้คำ

00:01:0400:01:07 ปรึกษาด้านโหราศาสตร์จิตวิทยาเชิงลึกและ

00:01:0700:01:10 พลังงานบำบัดจะมาถอดรหัสดวงดาวเปิดประตู

00:01:1000:01:13 สู่การค้นพบและเข้าใจตัวเองในมุมที่ลึก

00:01:1300:01:21 ขึ้นเพื่อชีวิตที่สมดุลทั้งกายและใจ

00:01:2100:01:23 วันนี้มีคำถามมากมายไม่รู้จะเริ่มจากอะไร

00:01:2300:01:27 ก่อนดีคุณชมอยากรู้เกี่ยวกับเรื่องอะไรคะ

00:01:2700:01:36 เรื่องสุขภาพภาพกายใจความงามแล้วก็

00:01:3600:01:38 [เพลง]

00:01:3800:01:39 hours later

00:01:3900:01:42 >> ถ้าอยากรู้เยอะขนาดนี้ไปงานนี้ดีกว่าไหคะ

00:01:4200:01:45 ครั้งแรกงานมหกรรมชีวิตและสุขภาพที่ครบ

00:01:4500:01:48 ทุกมิติร่วมทุกศาสตร์การดูแลตัวเองทั้ง

00:01:4800:01:51 กายใจและความงามให้คุณได้ค้นหาเวอร์ชั่น

00:01:5100:01:53 ใหม่ของชีวิต Wellness Talk Health

00:01:5300:01:55 Tech Mindful Living Immersive

00:01:5500:01:58 Experience Life Expo

00:01:5800:02:00 Come explore the better you 15-16

00:02:0000:02:02 พฤศจิกายนดูรายละเอียดในคอมเม

00:02:0200:02:06 >> 15-16 พฤศจิกายนนี้ Live Expo 2

00:02:0600:02:08 >> ครับ Live Expo ไม่ใช่ Expo

00:02:0800:02:10 >> 15-16 พฤศจิกายนนี้

00:02:1000:02:12 >> ครับ

00:02:1200:02:16 >> 15-16 พฤศจิกายนนี้ Live Expo 2025

00:02:1600:02:23 TUOB Live Mpear

00:02:2300:02:26 >> ก่อนอื่นต้องเท้าความค่ะพี่นีคะ

00:02:2600:02:28 >> พอดีว่ารู้จักพี่นีพาผ่านทางเพื่อนสนิทชม

00:02:2800:02:30 คนนึงเป็นเพื่อนแบบเรียนมัธยมมาด้วยกัน

00:02:3000:02:31 เลยแล้วเก็แบบว่าเป็น

00:02:3100:02:32 >> อ

00:02:3200:02:34 >> เป็น FC ของพี่นี

00:02:3400:02:39 >> เออพอดีว่าเป็นเพื่อนที่มีความสนใจแบบ

00:02:3900:02:41 >> เอ่อสอดคล้องกันหลายๆเรื่องทั้งเรื่อง

00:02:4100:02:44 สุขภาพ Wellness แล้วก็แบบว่าการพัฒนาตัว

00:02:4400:02:46 เองอะไรเงี้ยแบบอยากจะเป็นอะไรที่ดีขึ้น

00:02:4600:02:49 อะไรอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็ตอนที่จะมาทำราย

00:02:4900:02:51 การเนี้ยเขาก็บอกว่าเขาอ่ะนึกนึกถึงพี่

00:02:5100:02:54 นีชนก็เลยบอกกับทางทีมงานไปอ่าทีนี้ก็ไป

00:02:5400:02:58 แอบก็ไปแอบดูใน IG อะไรเงี้ยครับ

00:02:5800:02:59 >> แล้วก็ฟังจากที่เพื่อนเล่าอะไรเงี้ยแต่

00:02:5900:03:03 ว่าถามว่าเข้าใจแบบว่าลึกซึ้งมว่าจริงๆ

00:03:0300:03:05 แล้วงานของพี่นีคืออะไรเนี่ยก็ยังไม่เข้า

00:03:0600:03:07 ใจเท่าไหร่เข้าใจว่าอ่ะมันเป็น healing

00:03:0700:03:10 ศาสตร์นึงแหละแต่ว่าเมคนิคมันเป็นยังไง

00:03:1000:03:12 อยากให้พี่นีเล่าให้ฟังนิดนึงว่าเป็นมา

00:03:1200:03:15 ยังไงถึงได้มาทำสิ่งที่ทำอยู่ทุกวันนี้

00:03:1500:03:19 แล้วก็อธิบายให้คนอย่างชมแล้วก็ชาวเน็ต

00:03:1900:03:21 เข้าใจหน่อยค่ะว่ามันคืออะไรคะ

00:03:2100:03:23 >> ค่ะต้องเท้าความก่อนว่างานประจำเนี่ยเป็น

00:03:2300:03:25 การที่นีเนี่ยเอ่อพวกเราเนี่ยสร้าง

00:03:2500:03:26 คอมมิunity

00:03:2600:03:29 ก็คือเป็นเดูแลในส่วนของ Wellness ของ

00:03:2900:03:31 Wonderfruit แต่ว่าอันที่เป็นงานส่วนตัว

00:03:3100:03:34 เนี่ยเป็นงานที่เราเนี่ยช่วยให้คนเนี่ย

00:03:3400:03:37 เข้าใจตัวเองมากขึ้นเหมือนเป็นที่ปรึกษา

00:03:3700:03:40 ด้านตัวตนเนาะโดยการที่นี้ก็ใช้หลาย

00:03:4000:03:41 ศาสตร์จริงๆแล้วอ่ะนะคะแต่ว่าครั้งนี้

00:03:4100:03:44 เนี่ยที่มาคุยกับชมเนี่ยก็คือเราจะมาคุย

00:03:4400:03:47 กันในเรื่องของโหราศาสตร์ซึ่งโหราศาสตร์

00:03:4700:03:50 เนี่ยก็คือเป็นการศึกษาการโคจรของดวงดาว

00:03:5000:03:52 แล้วก็เป็นโหรศาสตร์ทางตะวันตก

00:03:5200:03:55 >> ซึ่งโหรศาสตร์นี้เนี่ยเป็นโหรศาสตร์ที่

00:03:5500:03:57 ได้เอามาผนวกกับการที่ให้เข้าใจในเรื่อง

00:03:5700:04:00 ของตำแหน่งของดวงดาวเพื่อสอดคล้องกับ

00:04:0000:04:02 บุคลิกภาพ

00:04:0200:04:05 >> ตัวตนของคนๆนั้นนิสัยใจคอหรือแม้แต่พลัง

00:04:0500:04:09 งานข้างในศักยภาพความคิดสร้างสรรค์ต่างๆ

00:04:0900:04:12 ข้างในหรือแม้แต่ข้อดีข้อเสียที่เขามี

00:04:1200:04:14 ข้างในเนี่ยว่าจริงๆแล้วเนี่ยเขามีอะไร

00:04:1400:04:17 อยู่ข้างในซ่อนอยู่แล้วเขาสามารถที่จะใช้

00:04:1700:04:21 พลังงานพวกนี้เนี่ยให้มันเกิดสิ่งที่ดี

00:04:2100:04:23 ที่สุดกับเขาได้อย่างไรบ้าง

00:04:2300:04:26 >> โหราศาสตร์มันก็เป็นสatมั้คือจริงๆแล้ว

00:04:2600:04:29 อ่ะค่ะมันมีความเป็นสatอยู่นิดนึงเหมือน

00:04:2900:04:31 กันแต่ทีนี้เนี่ยด้วยความที่แต่ละคนเนี่ย

00:04:3100:04:34 ไม่มีใครเหมือนกันเลยแต่ละคนเกิดมาเนี่ย

00:04:3400:04:38 ก็คือจะมีพลังงานของตัวเองอยู่แล้วพลัง

00:04:3800:04:40 งานเหล่านั้นเนี่ยมันก็จะบ่งบอกได้ว่าแต่

00:04:4000:04:43 ละคนเนี่ยนิสัยยังไงในรูปแบบไหนฉะนั้น

00:04:4300:04:46 สมมุติว่าเราเกิดมาเรามีเวลาเกิดวันเดือน

00:04:4600:04:49 ปีเกิดเวลาใช่มั้ยคะทางโหรศาสตร์ที่เป็น

00:04:4900:04:51 Western Astrology เนี่ยเรามองว่า

00:04:5100:04:54 วินาทีที่เราเกิดเนี่ยดวงดาวข้างบนเนี่ย

00:04:5400:04:57 วางตำแหน่งแบบไหนแล้วตำแหน่งนั้นเนี่ยมี

00:04:5700:05:01 ผลอย่างไรกับเรามีผลกับนิสัยใจคอมีผลกับ

00:05:0100:05:05 แม้แต่อนาคตหรือแม้แต่การใช้ชีวิตของคนๆ

00:05:0500:05:08 นั้นที่ดำเนินมาที่มาอยู่บนโลกใบนี้

00:05:0800:05:10 ฉะนั้นเรามองว่าถ้าเกิดสมมุติมนุษย์จิต

00:05:1000:05:13 ของเราเนี่ยเป็นพลังงานในตัวของเราอ่ะค่ะ

00:05:1300:05:15 จริงๆแล้วเราไม่ได้มีแค่ซันไซด์หรือว่า

00:05:1500:05:17 ที่เราเข้าใจกันว่าถ้าเราเกิดสมมุติว่า

00:05:1700:05:20 ถ้าเกิดชมเกิดเอ่อมิถุนายนนึกออกมั้คะเรา

00:05:2000:05:23 จะต้องเป็นแคนเซอร์หรือไม่ก็อาจจะเป็น

00:05:2300:05:26 เจมิในแงของโหศาสตร์ไม่ว่าจะเป็นไทยฮินดู

00:05:2600:05:30 หรือว่าจีนหรือว่าทางสากลเนี่ยก็จะมีการ

00:05:3000:05:32 คำนวณที่แตกต่างกันแต่ว่าในแง่ของการที่

00:05:3200:05:35 เราเอามาใช้อิงกับหลักจิตวิทยาเนี่ยมันจะ

00:05:3500:05:38 เป็นโหรศาสตร์ที่เป็นสากลฉะนั้นตรงเคือ

00:05:3800:05:40 เราจะมองว่าอ่ะถ้าเกิดสมมุติว่าเราเกิด

00:05:4000:05:44 ราศีกรกฎยกตัวอย่างเราไม่ใช่มีแค่ดาว

00:05:4400:05:46 อาทิตย์อยู่ในนั้นดาวเดียวแต่ถ้าเกิดเรา

00:05:4600:05:48 เข้ามาดูชาร์จของเราที่เราเรียกว่า natal

00:05:4800:05:51 ch เนี่ยนะคะมันจะเป็นการที่เราเห็นพื้น

00:05:5100:05:54 ของดวงดาวทั้งหมดที่ตอนที่วินาทีที่เรา

00:05:5400:05:56 เกิดเนี่ยมันเป็นเหมือนกับเป็น snapsot

00:05:5600:05:59 ใช่แล้วมันจะเป็นธาตุคือจริงๆมันคือธาตุ

00:05:5900:06:01 อ่ะมันคือธาตุทั้งหมดที่หล่อหลอมเป็นพวก

00:06:0100:06:04 เราขึ้นมาถ้าเกิดสมมุติว่าเราเข้าใจตัว

00:06:0400:06:07 เองแบบนี้เนี่ยเหมือนอัตราตัวตนของเรามัน

00:06:0700:06:10 จะแยกส่วนออกจากความเข้าใจว่าเฮ้ยเราเป็น

00:06:1000:06:12 แบบนี้นะถ้าเกิดสมมุติเราเป็นคนขี้โมโหยก

00:06:1200:06:14 ตัวอย่างเราก็จะขี้โมโหขี้โมโหทำไมเรา

00:06:1400:06:16 เป็นคนขี้โมโหแบบนี้แต่ถ้าเกิดสมมุติเรา

00:06:1600:06:19 เข้าใจดาวเราจะมองเห็นว่าอ๋อจริงๆแล้วที่

00:06:1900:06:22 มาของอารมณ์โมโหของเราอ่ะมันมาจากที่ไหน

00:06:2200:06:23 อย่าง

00:06:2300:06:27 หมายความว่าดวงดาวแต่ละดวงอาจจะมีผลต่อ

00:06:2700:06:29 เราในแบบนั้น

00:06:2900:06:31 >> ใช่มันเป็นพลังงานที่เชื่อมโยงกัน

00:06:3100:06:34 >> เหมือนกับเราและดวงดาวความจริงแล้วเป็น

00:06:3400:06:34 หนึ่งเดียวกัน

00:06:3400:06:36 >> มีดาวอะไรที่แบบเด็ดๆที่แบบว่าอิทธิพลแรง

00:06:3600:06:38 ๆบ้างมั้ยคะ

00:06:3800:06:40 >> มีค่ะเดี๋เราจะค่อยๆ

00:06:4000:06:43 >> โอเคเดี๋จะใช้เราเป็นเคส study ใช่มั้

00:06:4300:06:44 >> ใช่ค่ะ

00:06:4400:06:44 >> อือ

00:06:4400:06:47 >> แล้วอย่างงี้คนที่อยากจะทำแบบเนี้ย

00:06:4700:06:48 >> อือฮึ

00:06:4800:06:53 >> ต้องมีปัญหาหรือว่าต้องมีข้อสงสัยหรือว่า

00:06:5300:06:55 มีปมอะไรหรือเปล่าหรือว่าจริงๆก็เป็นใคร

00:06:5600:06:59 ก็ได้ไม่มีจำกัดมีข้อจำกัดอะไรมั้คะอ

00:06:5900:07:03 >> การที่เรามาที่นี่เนอะเหมือนกับเรามี

00:07:0300:07:06 purpose บางอย่างของการที่เรามาเกิดจริง

00:07:0600:07:09 ๆแล้วทุกคนเหมือนกันหมดค่ะแล้วสิ่งที่

00:07:0900:07:11 สำคัญที่สุดคือการที่เราเนี่ยได้รู้จัก

00:07:1100:07:14 ตัวเองการรู้จักตัวเองกับการรู้จักเกี่ยว

00:07:1400:07:17 กับตัวเองไม่เหมือนกันการรู้จักตัวเองคือ

00:07:1700:07:19 การที่เรารู้จักตัวเองจริงๆโดยที่ไม่ได้

00:07:1900:07:22 มีองค์ประกอบอะไรคือการที่เราเข้าไปแล้ว

00:07:2200:07:25 เราสามารถที่จะเอ่อมีความสุขได้ด้วยตัว

00:07:2500:07:27 เองเข้าใจแก่นแท้ในตัวเอง

00:07:2700:07:29 >> แต่การที่เรารู้จักเกี่ยวกับตัวเองคือ

00:07:2900:07:32 สิ่งที่คนส่วนใหญ่พวกเราทุกคนรู้จักกัน

00:07:3200:07:35 แบบนี้เช่นเรารู้จักเกี่ยวกับตัวเองว่า

00:07:3500:07:36 เราทำอาชีพอะไร

00:07:3600:07:36 >> อ

00:07:3600:07:39 >> เราชื่ออะไรเราพ่อแม่ชื่ออะไรเรามีสัตว์

00:07:3900:07:42 เลี้ยงชื่ออะไรครอบครัวเราเป็นยังไงคือ

00:07:4200:07:45 นี่คือสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับเราแต่ว่า

00:07:4500:07:47 การที่เราใช้คำว่า self discovery เนี่ย

00:07:4700:07:49 มันคือการที่เราเข้ามาค้นพบตัวเองจริงๆ

00:07:5000:07:53 ว่าจริงๆแล้วอ่ะเรามีแก่นอะไรอยู่ข้างใน

00:07:5300:07:54 แล้วหลังจากนั้นเนี่ยโอเคมันก็เป็นสิ่ง

00:07:5400:07:57 ที่ต่อยอดไปเป็นในเรื่องของพรสวรรค์ใน

00:07:5700:07:59 เรื่องของ direction ในการใช้ชีวิตเส้น

00:08:0000:08:03 ทางที่จะเลือกเดินอาชีพที่เราจะอยากจะทำ

00:08:0300:08:05 หรือแม้แต่การเรียนว่าเราอยากจะเรียนอะไร

00:08:0500:08:08 ดีอะไรเงี้ยค่ะคือมันเป็นการที่เหมือนกับ

00:08:0800:08:12 ในแต่ละช่วงชีวิตอ่ะเราจะมีจุดเปลี่ยนบาง

00:08:1200:08:14 อย่างแล้วจุดเปลี่ยนนั้นเนี่ยเป็นจุด

00:08:1400:08:16 เปลี่ยนที่บางครั้งเราเกิดให้เราตั้งคำ

00:08:1600:08:19 ถามขึ้นมาว่าเฮ้ยเราเกิดมาที่นี่มันคือ

00:08:1900:08:22 อะไร purpose มันคือ purpose อะไรเรามา

00:08:2200:08:24 เพื่ออะไรซึ่งลึกๆบางคนก็รู้อยู่แล้วแหละ

00:08:2400:08:27 บางคนก็อาจจะไม่รู้ฉะนั้นนีมองว่าคนที่จะ

00:08:2700:08:30 จุดประกายให้เขาเนี่ยเริ่มเข้าใจตัวเอง

00:08:3000:08:32 หรือเริ่มสนใจที่อยากจะเข้าใจตัวเองเนี่ย

00:08:3200:08:34 มันจะต้องมีจุดเปลี่ยนบางอย่าง

00:08:3400:08:36 >> อาจจะมีจุดเปลี่ยนที่เหมือนกับมันแค่แบบ

00:08:3600:08:38 มันนิดเดียวก็ได้ว่าเหมือนกับเอ๊ะทำไม

00:08:3900:08:40 ชีวิตเราถึงแบบ

00:08:4000:08:43 >> เป็นแบบนี้นะยกตัวอย่างหรือว่าเอ๊ะทำไม

00:08:4300:08:46 สิ่งที่เราได้ค้นพบหรือได้เจอหรือแบบตลอด

00:08:4600:08:50 เส้นทางมามีมันเริ่มมีการหักเหงานที่ทำมา

00:08:5000:08:52 เอ๊ะทำไมเราเริ่มไม่มีความสุขคือจริงๆ

00:08:5200:08:55 แล้วอ่ะค่ะมันอยู่ที่ความสุขเป็นหลักความ

00:08:5500:08:57 สุขและความสมดุลคือเชื่อว่าในเรื่องของ

00:08:5700:08:59 พลังงานที่มัน flow เนอทุกวันนี้เราจะพูด

00:08:5900:09:02 กันถึงเรื่องพลังงานเยอะมากแล้วถ้าเกิด

00:09:0200:09:05 สมมุติว่าชมเเริ่มสังเกตเนี่ยจะเห็นเลย

00:09:0500:09:07 ว่าหลังๆมาเนี่ยช่วงเวลาสัก 5-6 ปีที่

00:09:0700:09:10 ผ่านมาเนี่ยคือเราจะได้คยินคำว่า self

00:09:1000:09:14 เยอะมากในในโลกของ Wellness เองในโลกของ

00:09:1500:09:17 การเข้าใจตัวเองก็จะมีทั้ง self love

00:09:1700:09:20 ใช่มั้คะ self

00:09:2000:09:23 อะไรต่างๆก็คือการกลับมารักตัวเองกลับมา

00:09:2300:09:28 เข้าใจตัวเองดูแลตัวเองรู้จักตัวเองการ

00:09:2800:09:30 รู้จักตัวเองแบบนี้เนี่ยล่ะค่ะมันคือการ

00:09:3000:09:33 ที่เชื่อว่าทุกๆคนตอนนี้เราเริ่มรู้แล้ว

00:09:3300:09:35 อ่ะว่าตัวตนเราอ่ะสำคัญที่สุด

00:09:3600:09:36 >> อื

00:09:3600:09:38 >> ฉะนั้นเนี่ยมันเหมือนกับเราไม่ได้พึ่งพา

00:09:3800:09:42 องค์ประกอบนอกตลอดเวลาตราบใดที่เรายังไม่

00:09:4200:09:45 ได้รู้จักตัวเองเนี่ยมันจะทำให้ชีวิตของ

00:09:4500:09:48 เราเนี่ยมีพลังงานที่ส่งออกนอกพอเราส่ง

00:09:4800:09:49 ออกนอกนอกปุ๊บเนี่ยเราไม่สามารถที่จะ

00:09:5000:09:52 control situation หรือว่าสถานการณ์ที่

00:09:5200:09:54 เป็นรอบนอกได้ถูกมั้คะทีนี้พอมันมีอะไร

00:09:5400:09:56 เกิดขึ้นปุ๊บข้างในเราก็รวน

00:09:5600:09:58 >> เพราะว่าเหมือนแบบเฮ้ยเกิดกระทบทุกอย่าง

00:09:5800:10:01 เข้ามาแต่ถ้าเกิดข้างในเราแน่นแกร่งแล้ว

00:10:0100:10:04 ก็แข็งแรงเนี่ยมันก็จะทำให้เราผ่านพ้น

00:10:0400:10:07 ช่วงต่างๆในเหตุการณ์ในชีวิตไปได้ก็

00:10:0700:10:09 เหมือนกับ self care self love ในการ

00:10:0900:10:12 รักตัวเองในการดูแลตัวเองที่ทุกคนลุกขึ้น

00:10:1200:10:15 มาออกกำลังอยากที่จะเข้าใจตัวเองมากขึ้น

00:10:1500:10:18 สุขภาพที่แข็งแรงก็เกิดจากตัวเขา

00:10:1800:10:21 >> อืมทีนี้คนที่เดินเข้ามาหาพี่นีอ่ะค่ะ

00:10:2100:10:24 ส่วนใหญ่เมาเพราะเรื่องอะไรคะ

00:10:2400:10:26 >> ส่วนใหญ่เขาจะมีจุดเปลี่ยนค่ะเขาจะมีคำ

00:10:2600:10:30 ถามกับตัวเองว่าเอ๊ะเขาเดินทางเส้นทางมา

00:10:3000:10:32 สักพักละทำไมมันเหมือนกับมันมีบางสิ่งบาง

00:10:3200:10:35 อย่างที่มันเหมือนกับจิตของเขาเองความรู้

00:10:3500:10:37 สึกข้างในที่ลึกที่สุดของเขาเนี่ยเหมือน

00:10:3700:10:39 กับมันเริ่มมีคำถามอย่างที่บอก

00:10:3900:10:42 >> พอมีคำถามแล้วบางครั้งเขาก็โอเคอาจจะอยาก

00:10:4200:10:45 ได้ตัวช่วยอาจจะอยากได้คนที่สามารถที่จะ

00:10:4500:10:46 มาปรึกษาได้

00:10:4600:10:49 >> คำถามเระบุระบุได้มั้คะว่าคำถามคืออะไร

00:10:4900:10:51 >> ได้นะคะบางคนเค้าก็จะมีเลยว่าสมมุติมี

00:10:5100:10:54 ปัญหาเรื่องการงานมีปัญหากับครอบครัวหรือ

00:10:5400:10:56 แม้แต่บางครั้งแบบตื่นมาแล้วแบบเออฉันมา

00:10:5600:10:57 ทำอะไรที่นี่

00:10:5700:10:59 >> เหมือนกับบางทีเขาไม่รู้เลยว่าเหมือนกับ

00:10:5900:11:01 จริงๆเราส่วนใหญ่ก็ไม่ได้รู้อยู่แล้วด้วย

00:11:0100:11:04 >> คือถ้าเราตัดทุกอย่างออกหมดเลยนะไม่ว่าจะ

00:11:0400:11:06 เป็นสิ่งที่เรารู้เกี่ยวกับตัวเองทั้งหมด

00:11:0600:11:08 เรามีความสุขได้ด้วยตัวเองด้วยอะไรบ้าง

00:11:0800:11:10 อะไรแบบเนี้ยค่ะคือ self discovery

00:11:1000:11:13 เนี่ยมันเป็นการที่ให้เราค้นพบตัวเองก่อน

00:11:1300:11:15 เนาะเหมือนกับค้นพบก่อน

00:11:1500:11:15 >> ค่ะ

00:11:1500:11:18 >> พอค้นพบเสร็จปุ๊บเนี่ยหลังจากนั้นเราจะ

00:11:1800:11:20 เข้าใจตัวเองได้ยังไงเหมือนเป็นเส้นทาง

00:11:2000:11:23 เหมือนกันเป็นการแบบปัดทุกอย่างออกเพื่อ

00:11:2300:11:25 ให้เส้นทางเเหมือนเฮ้ยเราค้นพบตัวเองแล้ว

00:11:2500:11:27 เราเป็นประมาณนี้นะเรามีแก่นประมาณนี้

00:11:2700:11:30 แล้วเราก็จะค่อยๆเดินทางเส้นทางนั้นเพื่อ

00:11:3000:11:32 ให้เข้าใจตัวเอง

00:11:3200:11:35 >> มันพอจะยกตัวอย่างเป็นเคสได้มั้ยคะว่าแบบ

00:11:3500:11:39 เอ้ยออกมาแล้วมันค้นพบอะไร

00:11:3900:11:39 >> อื

00:11:3900:11:42 >> แล้วเราแยกออกมายังไงอือ

00:11:4200:11:44 >> โหศาสตร์ที่ทำให้เราได้ค้นพบตัวเองเนี่ย

00:11:4400:11:48 นะคะคือมันมีวิธีการที่เราจะนำมาจำแนกกัน

00:11:4800:11:51 ได้คือโหรศาสตร์มีหลายแบบแต่ละแต่แบบนี้

00:11:5100:11:55 เนี่ยจะเป็นการแบ่ง 12 ช่องตามหลักของ

00:11:5500:11:56 โหศาสตร์สากล

00:11:5600:11:56 >> ค่ะ

00:11:5700:11:58 >> 12 ช่องเนี้ยจริงๆถ้าเกิดสมมติเราเจาะ

00:11:5800:12:01 ลึกดีๆเนี่ยมันจะมีความหมายใน 12 ห้องนี้

00:12:0100:12:03 ด้วยคือเราจะเรียกภาษาดาวเราจะเรียกว่า

00:12:0300:12:06 เป็นห้องทีนี้การที่เราจะดูตำแหน่งของดาว

00:12:0600:12:10 เนี่ยเราจะดูว่าดาวแต่ละดวงเนี่ยเขาอยู่

00:12:1000:12:14 ในห้องไหนในช่วงเวลาที่คนๆนั้นเกิด

00:12:1400:12:17 >> อืหมายความว่าดาวดาวดาวดวงเนี้ยถ้าอยู่

00:12:1700:12:18 ห้องเนี้ยมันจะส่งเรื่องนี้

00:12:1800:12:21 >> ถ้ามันไปอยู่อีกห้องนึงมันก็อาจจะ

00:12:2100:12:22 >> กระทบอีกแบบหนึ่ง

00:12:2200:12:26 >> ถูกต้องค่ะทีนี้ถ้าจะให้ไล่เอิ่มคร่าวๆเน

00:12:2600:12:28 ว่าห้อง 1 เนี่ยห้อง 1 เนี่ยเป็นเกี่ยว

00:12:2800:12:30 กับตัวตนของเรา

00:12:3000:12:33 >> คืออาจจะเป็นนิสัยบุคลิกในแง่ของตัวตน

00:12:3300:12:36 ทั้งหมดที่เกี่ยวกับเรื่องของ self นะคะ

00:12:3600:12:38 ห้องที่ 2 เนี่ยมันจะเป็นในเรื่องของการ

00:12:3800:12:40 เงินคือบางครั้งเราอาจจะไม่ได้อยากใช้คำ

00:12:4000:12:42 ว่าเป็นเรื่องของการเงินแต่มันเป็นใน

00:12:4200:12:45 เรื่องของสิ่งที่เรามีสิ่งที่เราเป็นเจ้า

00:12:4500:12:47 ของในเรื่องของก็ได้ในเรื่องของอะไรก็ตาม

00:12:4700:12:50 ที่มันเป็นอะไรที่เราเป็นเจ้าของสิ่งๆ

00:12:5000:12:52 นั้นนะคะห้องที่ 3 เป็นในเรื่องของการ

00:12:5200:12:55 สื่อสารแล้วก็อาจจะเป็นในเรื่องของการ

00:12:5500:12:58 เดินทางที่แบบระยะใกล้ๆห้องที่ 4 คือ

00:12:5800:12:59 เรื่องของครอบครัว

00:12:5900:12:59 >> อ

00:12:5900:13:01 >> คือครอบครัวในทุกรูปแบบคือมันมองได้หลาย

00:13:0100:13:04 มิติด้วยนะคะชมว่าอันนี้คือเป็นต้องบอก

00:13:0400:13:08 ว่าเป็นความหมายแบบที่เบื้องต้นที่สุด

00:13:0800:13:11 >> แต่ถ้าเราจะมองในแง่ของที่ลงไปในทรัมลงไป

00:13:1100:13:13 ในระดับจิตวิญญาณเนี่ยความหมายก็จะต่าง

00:13:1300:13:17 กันออกไปมันก็จะลึกเข้าไป

00:13:1700:13:19 จุดที่มันแบบลึกที่สุดข้างใน

00:13:2000:13:20 >> อ

00:13:2000:13:22 >> จิตวิญญาณข้างในที่มันกับจุดเบื้องลึกของ

00:13:2200:13:23 เราเนี่ยคืออะไร

00:13:2300:13:27 >> ถ้าสมมุติว่าเราได้วันเดือนปีเกิดเวลาตก

00:13:2700:13:30 ฟากได้ไอ้แผ่นนี้ออกมาแล้วอย่างเงี้ยเอ่อ

00:13:3000:13:34 เห็นแล้วล่ะว่าเป็นดาวดวงนี้ตกช่องนี้แต่

00:13:3400:13:38 ว่าการตีความก็อาจจะตีความได้ทั้งแบบผิว

00:13:3800:13:42 เผินหรือว่าเราอาจจะต้องเจาะลึกไปอีกหรือ

00:13:4200:13:45 ว่าผ่านอะไรต่างๆคือมันผ่านก็ได้ผ่านดาว

00:13:4500:13:49 เองก็ได้หมดเลยคือเราสามารถนำหลายๆศาสตร์

00:13:4900:13:52 มารวมกันก็ได้เมื่อเรารู้ตัวแล้วว่าโอเค

00:13:5200:13:55 เรามีพลังงานประมาณนี้นะผ่านจากดาวทีนี้

00:13:5500:13:57 เราก็เริ่มขึ้นอยู่กับเราละว่าเราอยากที่

00:13:5700:14:00 จะบำบัดตัวเองในรูปแบบไหนทีนี้เราจะมาที่

00:14:0000:14:02 ห้องที่ 5 ห้องที่ 5 คือพวกความคิดสร้าง

00:14:0200:14:05 สรรค์ในทุกรูปแบบความสนุกสนานต่างๆหรือ

00:14:0500:14:07 แม้จะเป็นในเรื่องของเด็กก็ได้มันมีความ

00:14:0700:14:09 สนุกสนานอาจจะตีความหมายไปว่าเออเป็นใน

00:14:0900:14:13 เรื่องของความแบบยังแฮในเรื่องของลูก

00:14:1300:14:17 energy Energy การแสดงออกของเรานะคะ

00:14:1700:14:18 ห้องที่ 6 เนี่ยคือเป็นห้องที่เกี่ยวกับ

00:14:1800:14:20 สุขภาพ

00:14:2000:14:23 >> แล้วก็ในเรื่องของอมการใช้ชีวิตประจำวัน

00:14:2300:14:25 ต่างๆห้องที่ 7 แน่นอนเป็นเรื่องของคู่

00:14:2500:14:26 ครอง

00:14:2600:14:29 >> ก็คือจะเป็นทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นคนรอบ

00:14:2900:14:30 ข้างลุก

00:14:3000:14:32 >> อืกัลยาณมิตรต่างๆ

00:14:3200:14:34 >> ใช่ค่ะโดยส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มคนที่ใกล้

00:14:3400:14:37 ตัวเราก็จะอยู่ในห้องที่ 7 ถูกต้อง

00:14:3700:14:40 >> AA โซน A โอเค

00:14:4000:14:42 >> ห้องที่ 8 จะเป็นอะไรที่อยู่ในส่วนลึกของ

00:14:4200:14:44 เราไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของจิตวิญญาณข้าง

00:14:4400:14:48 ในนะคะเป็นในเรื่องของเสิ่งที่เราเกี่ยว

00:14:4800:14:51 ดองกับคนอื่นการแชร์ resource อย่างเช่น

00:14:5100:14:53 ถ้าเกิดเวลาเราแต่งงานแล้วเหมือนกับพวก

00:14:5300:14:55 resource ของเราทั้งหมดที่เหมือนกับเรา

00:14:5500:14:56 ต้องมาจอยกับคนอื่น

00:14:5600:14:58 >> อันนี้จะเป็นในเรื่องของ de ข้างในที่มี

00:14:5800:15:00 แบบความรุ่มลึกข้างใน

00:15:0000:15:02 >> ในเรื่องของการตายบางคนก็พูดในเรื่องของ

00:15:0200:15:06 การตายได้การสูญเสียอะไรต่างๆนะคะ

00:15:0600:15:08 >> ส่วนห้องที่ 9 จะเป็นในเรื่องของความรู้

00:15:0900:15:12 >> ความรู้ที่เราสนใจการเรียนรู้ทุกประเภทใน

00:15:1200:15:15 เรื่องของเอิ่การเดินทางไกลห้องที่ 10

00:15:1500:15:18 คือห้องที่อยู่จุดสูงสุดของเราก็คือเป็น

00:15:1800:15:20 ห้องของความสำเร็จอะไรก็ตามที่เราเป็น

00:15:2000:15:25 สิ่งที่เรามุ่งหวังความสำเร็จการงานหรือ

00:15:2500:15:27 แม้แต่จะเป็นสิ่งที่เราคาดหวังหรือว่า

00:15:2700:15:29 สิ่งที่เป็นตัวตนของเราจริงๆที่เรามาที่

00:15:2900:15:31 นี่บางคนอาจจะมองว่าเป็น purpose จริงๆ

00:15:3100:15:33 ที่แท้จริงของเราก็ได้

00:15:3300:15:33 >> อื

00:15:3300:15:36 >> ห้องที่ 11 คือเพื่อนฝูงเพื่อนฝูงในทีนี้

00:15:3600:15:37 ก็อาจจะเป็นวงกว้างหน่อย

00:15:3700:15:38 >> ไม่ใช่โซน A ละ

00:15:3800:15:42 >> ไม่ใช่โซน A ละ BCD เป็นคอมityใช่เป็นใน

00:15:4200:15:45 สังคมที่เราอยู่อะไรอย่างเงี้ยค่ะ

00:15:4500:15:48 >> ห้อง 12 คือสิ่งที่เราซ่อนเอาไว้ข้างใน

00:15:4800:15:50 >> จริงๆแล้วถ้าห้อง 12 ถ้าแปลเป็นโหศาสตร์

00:15:5000:15:52 ไทยมันคือวินาศแต่จริงๆไม่อยากใช้คำนี้นะ

00:15:5200:15:54 เพราะมันอาจจะฟังดูแบบน่ากลัวนิดนึงแต่

00:15:5400:15:56 ว่าถ้าเป็นทางโหศาสตร์สากลก็คือเป็นสิ่ง

00:15:5600:15:59 ที่ซ่อนเร้นในใจเป็นเรื่องของจิตวิญญาณ

00:15:5900:16:01 เป็นอะไรที่เหมือนกับเรา

00:16:0100:16:03 >> ไม่สามารถที่จะเห็นได้ด้วยตาปาก

00:16:0300:16:04 >> Dar เงี้ยเหรอ

00:16:0400:16:05 >> อะไรอย่างงั้น

00:16:0500:16:07 >> เออด้าน Dar

00:16:0700:16:09 >> ไม่หรอค่ะก็มองในแง่ของshชadowได้ก็คือ

00:16:0900:16:11 เป็นshชadowที่เราเก็บเอาไว้หรืออะไร

00:16:1100:16:13 อย่างงี้ก็ได้ด้วยแต่ห้องพวกเนี้ยค่ะต้อง

00:16:1400:16:16 บอกนิดนึงก่อนว่าห้องเหล่านี้เนี่ยเป็น

00:16:1600:16:18 ห้องที่ที่เป็นความหมายที่เรานิยามมนุษย์

00:16:1800:16:21 นิยามขึ้นมาในแบบที่มันลงได้หลายระดับ

00:16:2100:16:24 อย่างที่เมื่อกี้ที่ชมถามในระดับที่ลึก

00:16:2400:16:26 ที่สุดเนี่ยมันจะไปอีกเรื่องนึงเลยมันจะ

00:16:2600:16:28 ไปในเรื่องที่ค่อนข้างลึกมันลงไปเลยว่า

00:16:2800:16:30 ตอนเด็กๆมันมีเหตุการณ์อะไรบ้าง

00:16:3000:16:31 >> หรือย้อนไปยิ่ง

00:16:3100:16:34 >> ย้อนไปไกลได้ทั้งหมดเลยเพียงแต่ว่ามัน

00:16:3400:16:38 ขึ้นอยู่กับว่าคนที่เราคุยด้วยเเปิดมั้ยเ

00:16:3800:16:40 อยากที่จะคุยเรื่องนั้นหรือเปล่าถ้าเไม่

00:16:4000:16:43 อยากคุยเราก็ไม่ได้อยากที่จะต้องไปเปิด

00:16:4300:16:45 ตรงนั้นนอกเสียจากว่าเขาเปิดมาก่อนอะไร

00:16:4500:16:47 เงี้ยค่ะทีนี้เราจะมาดูในเรื่องของ

00:16:4700:16:49 จักราศีก็คือในเรื่องของดาวเคราะห์ด้วยนะ

00:16:4900:16:52 คะดาวเคราะห์แน่นอนเริ่มจากดาวอาทิตย์

00:16:5200:16:52 >> ค่ะ

00:16:5200:16:55 >> ดาวอาทิตย์แน่นอนแสงสว่างความเป็นตัวเอง

00:16:5500:16:57 ความที่เวลาเราบอกว่าจักรวาลหมุนรอบตัว

00:16:5800:17:00 เองเนี่ยจริงๆแล้วเราเใช้พระอาทิตย์เป็น

00:17:0000:17:00 หลัก

00:17:0000:17:03 >> เพราะว่าพระอาทิตย์ก็คือระบบสุริยะหมุน

00:17:0300:17:06 รอบดาวอาทิตย์ก็คือเป็นความเป็นตัวตนของ

00:17:0600:17:09 พวกเราทุกคนนะคะดาวจันทร์เนี่ยเป็นดาวที่

00:17:0900:17:11 น่าสนใจมากเลยเพราะว่าเป็นดาวที่ค่อนข้าง

00:17:1100:17:14 เชื่อมโยงกับผู้หญิงพลังงานแห่งความนุ่ม

00:17:1400:17:17 นวลความเป็นกลางคืนอารมณ์ในทุกรูปแบบหรือ

00:17:1700:17:20 แม้แต่พลังงานเพศหญิงที่เป็นฮอร์โมนข้าง

00:17:2000:17:22 ในหรืออะไรบางครั้งถ้าเกิดเรามองในแง่ของ

00:17:2200:17:24 การรักษาที่เป็น healing เนี่ยเราจะมอง

00:17:2400:17:26 สังเกตมั้คะจะมีพระจันทร์เต็มดวง

00:17:2600:17:27 >> อื

00:17:2700:17:29 >> แล้วก็พระจันทร์ข้างขึ้นข้างแรมการเดิน

00:17:2900:17:32 ทางวัฏจักรการโคจรของของพระจันทร์

00:17:3200:17:35 >> ที่เหมือนกับมันสามารถสอดคล้องกับสุขภาพ

00:17:3500:17:37 ของเราได้ด้วยอารมณ์ของผู้หญิงอะไรเงี้ย

00:17:3700:17:40 นะค่ะดาวพุทธก็คือในแง่ของการสื่อ

00:17:4000:17:42 แล้วเป็นไปได้มั้ยคะว่าใน 12 ช่องมันมี

00:17:4200:17:43 ดาวซ้ำกันเป็นไปได้มั้คะ

00:17:4300:17:46 >> ไม่ค่ะมันก็จะแตกต่างกันหมดเลยก็คืออิง

00:17:4600:17:49 ตามการโคจรของดาวข้างบนซึ่งก็ไม่ได้มีดาว

00:17:4900:17:50 ไหนซ้ำ

00:17:5000:17:50 >> อื

00:17:5000:17:53 >> แปลว่าดาวมี 12 หรือมากกว่าด

00:17:5300:17:55 >> จริงๆแล้วดาวมีเยอะมากดาวมีทั้งเอิ่ดาว

00:17:5500:17:57 เคราะห์ดาวเคราะห์น้อย

00:17:5700:17:59 >> แล้วมีดาวอะไรที่แบบแรงๆแล้วแบบไม่ค่อยตก

00:17:5900:18:00 เหมือนกันคะ

00:18:0000:18:02 >> พวกเราทุกคนมีเหมือนกันหมดเลยค่ะ

00:18:0200:18:03 >> เพียงแต่ว่าตกคนละช่อง

00:18:0300:18:04 >> ใช่ถูกต้อง

00:18:0400:18:07 >> อ๋อก็แปลว่ามี 12 ดาวหลักๆหรอคะ

00:18:0700:18:09 >> หมดเลยค่ะใช่แล้วทุกคนมีเหมือนกันหมดขึ้น

00:18:0900:18:11 อยู่กับว่าอย่างที่บอกว่าพลังงานเป็นพลัง

00:18:1100:18:13 งานที่อยู่ข้างบนใช่มคะอย่างเช่นถ้าเกิด

00:18:1300:18:15 อ่ะดาวศุกร์เป็นดาววีนัส

00:18:1500:18:17 >> ทีนี้ดาววีนัสเนี่ยมันขึ้นอยู่กับว่าไปตก

00:18:1700:18:18 ที่ห้องไหน

00:18:1800:18:20 >> ห้องไหนแล้วยังมีราศีไหนอีกด้วย

00:18:2100:18:22 >> คือมันไม่ใช่แค่ห้องอย่างเดียวแต่มันคือ

00:18:2200:18:25 ราศีด้วยราศีมาก่อนแล้วห้องเนี่ยเหมือน

00:18:2500:18:27 กับเป็นองค์ประกอบที่มันย่อยไปอีกต่อมา

00:18:2700:18:29 เป็นดาวศุกร์ดาวศุกร์เนี่ยเป็นดาวที่แน่

00:18:2900:18:32 นอนเรื่องของความสวยงามพลังเพศหญิง

00:18:3200:18:32 >> ค่ะ

00:18:3200:18:34 >> แล้วก็ในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ในทุก

00:18:3400:18:37 รูปแบบศิลปะอะไรต่างๆก็คือในเรื่องของดาว

00:18:3700:18:40 ศุกร์ดาวพฤหัสบดีเนี่ยเป็นดาวที่นี่ว่า

00:18:4000:18:42 หลายๆคนน่าจะเคยได้ยินเนาะว่าดาวพฤหัส

00:18:4200:18:42 เป็น

00:18:4300:18:47 >> ใช่เป็นครูแล้วก็เป็นดาวที่ให้พลังบวก

00:18:4700:18:50 เยอะมากใครที่มีดาวพฤหัสบดีเด่นเนี่ยจะ

00:18:5000:18:53 เป็นคนที่มีพลังเยอะมากข้างในบางคนก็อาจ

00:18:5300:18:55 จะบอกว่าเป็นในแง่ของแบบความกุดลักที่

00:18:5600:18:58 เหมือนกับว่าบริ

00:18:5800:19:01 อะไรเงี้ยนะคะดาวเสาร์เป็นดาวเอิ่stิลนะ

00:19:0100:19:03 คะก็คือเป็นดาวที่เน้นความหนักแน่นมีแม่

00:19:0300:19:08 แบบของการที่ทำให้เราเนี่ยมีความมั่นคงใน

00:19:0800:19:11 จิตใจในขณะเดียวกันก็ถ้าเกิดสมมติเขาไม่

00:19:1100:19:12 สมดุลถ้าเกิดสมมติว่าดาวเสาร์ของเราไม่

00:19:1200:19:15 สมดุลเนี่ยมันจะทำให้เราเนี่ยมีความยึด

00:19:1500:19:16 มั่นถือมั่นค่อนข้างเยอะ

00:19:1600:19:18 >> แต่ดาวเสาร์นี่ก็แบบชื่อเสียงไม่ค่อยดี

00:19:1800:19:22 >> ใช่คือจริงๆดาวเสาร์เนี่ยเขาน่าสงสารนะคะ

00:19:2200:19:24 >> เพราะว่าจริงๆแล้วเขาไม่ใช่ว่าไม่ดีเพียง

00:19:2400:19:26 แต่ว่าเาอ่ะมาเพื่อให้เราเนี่ยได้รับรู้

00:19:2600:19:27 บทเรียนบางอย่าง

00:19:2700:19:29 >> แต่มนุษย์เราบางทีเราก็ไม่ค่อยชอบบทเรียน

00:19:2900:19:31 อะไรที่มันหนักๆเนาะอย่างที่บอกเมีพลัง

00:19:3100:19:32 งานที่หนัก

00:19:3200:19:33 >> พอมันหนักปุ๊บเนี่ยบางครั้งบทเรียนที่เขา

00:19:3300:19:35 ให้มามันก็ค่อนข้างต้อง handle ต้องท้า

00:19:3500:19:36 ทายหน่อย

00:19:3600:19:39 >> มันก็เลยทำให้เหมือนกับคนมักจะกลัวดาว

00:19:3900:19:41 เสาร์เหมือนพอดาวเสาร์มาสมมุตินะดาวเสาร์

00:19:4100:19:42 ย้าย

00:19:4200:19:44 >> หรือว่าอะไรที่เรามักจะเคยได้ยินกันเป็น

00:19:4400:19:47 ประจำเนี่ยมันเลยทำให้คนกลัว

00:19:4700:19:47 >> ค่ะ

00:19:4700:19:50 >> ถ้าเกิดเป็นโหรศาสตร์สากลเราจะมีดาวอีก 3

00:19:5000:19:51 >> ถูกต้อง

00:19:5100:19:52 >> ใช่แล้ว

00:19:5200:19:55 >> ก็ยูเรนัสนะคะเป็นดาวที่เขาเนี่ยจะมีการ

00:19:5500:19:58 โคจรที่ค่อนข้างรวนเรนิดนึงมันเลยทำให้

00:19:5800:20:01 พลังงานของเขาเนี่ยมีความไม่แน่นอนพลัง

00:20:0100:20:04 งานที่ไม่คาดฝันมีความเป็นเอกลักษณ์ของ

00:20:0400:20:06 ตัวเองค่อนข้างสูงมากใครที่มียูเรนัสเด่น

00:20:0600:20:09 เนี่ยจะเป็นคนที่ทำอะไรเนี่ยแผลๆแล้วก็มี

00:20:0900:20:12 อะไรที่มันคิดอะไรไม่เหมือนคนอื่นมีความ

00:20:1200:20:15 คิดของตัวเองมีอะไรต่างๆที่มันดูแบบสวน

00:20:1500:20:18 กระแสชาวบ้านมีความเป็นกบฏอยู่ข้างในอะไร

00:20:1800:20:20 เงี้ยค่ะต่อไปก็คือ Neptune เนาะNepปทูน

00:20:2000:20:23 เนี่ยจะเป็นพลังงานของความที่มีความแบบ

00:20:2300:20:25 ฝันมีความลอยอ่ะคือเขาไม่มีพลังงานที่มัน

00:20:2500:20:28 flat ลอยอยู่ในอากาศ

00:20:2800:20:31 >> คือจะมีความอารทิสติที่มันเกินเลยไปกว่า

00:20:3100:20:32 วีนัสขึ้นไปอีก

00:20:3200:20:34 >> เอ่อมีศิลปะที่เป็นแบบมีความลึกซึ้งความ

00:20:3400:20:37 ละเอียดอ่อนข้างในแล้วก็มาสุดท้ายนี่แหละ

00:20:3700:20:40 ค่ะก็คือพลูโตมีพลังงานที่เข้มข้นเป็นดาว

00:20:4000:20:43 เคราะห์ที่ไม่ได้มีขนาดใหญ่แต่ว่าพลังงาน

00:20:4300:20:46 แน่นมาก

00:20:4600:20:49 >> งั้นพี่ขอถามชมก่อนว่าชมรู้สึกว่าตัวเอง

00:20:4900:20:50 รู้สึกอย่างไรกับตัวเองบ้าง

00:20:5000:20:51 >> รู้สึกยังไงหรอ

00:20:5100:20:53 >> ณเวลานี้เลย

00:20:5300:20:56 >> อืม

00:20:5600:20:59 ชมก็ไม่แน่ใจว่ามันแยกออกมั้ย

00:20:5900:20:59 >> อื

00:20:5900:21:01 >> เพราะว่ามันเป็นlลogic

00:21:0100:21:01 >> อื

00:21:0100:21:03 >> ชมรู้สึกว่ามันเป็นความแบบความรู้สึกแบบ

00:21:0300:21:06 มัน base on logic ด้วยว่าทุกอย่างมัน

00:21:0600:21:08 ก็เป็นไปได้ด้วยดี

00:21:0800:21:09 >> อื

00:21:0900:21:12 >> เออไม่ได้ทุกข์ร้อนแต่มันก็ไม่ได้มีแบบ

00:21:1200:21:15 มันก็ไม่ได้หวือหวาซึ่งมันก็มันก็ควรจะ

00:21:1500:21:17 เป็นอย่างี้มวะอ

00:21:1700:21:18 >> เออ

00:21:1800:21:19 >> อือฮึ

00:21:1900:21:21 >> เป็นคำตอบที่ดีมั้ยคะ

00:21:2100:21:24 >> แล้วอย่างที่ผ่านมาตั้งแต่เด็กจนโตอ่ะค่ะ

00:21:2400:21:26 รู้สึกว่าตัวเองเดินอยู่ในเส้นทางที่ตัว

00:21:2600:21:27 เองรู้สึกอย่างไรบ้าง

00:21:2700:21:31 >> อืมตั้งแต่เด็กจนนี่กำลังเข้าสู่เซessชั

00:21:3100:21:32 แล้วใช่มั้ค่ะ

00:21:3200:21:35 >> ตั้งแต่เด็กจนโตมาเหรอ

00:21:3500:21:37 เอ่อ

00:21:3700:21:39 รู้สึกว่าตัวเองอ่ะไม่จะค่อยเป็นคนที่

00:21:3900:21:43 Adventurous อะไรนะคะก็เหมือนกับว่ามี

00:21:4300:21:46 โอกาสมี Opportunity อะไรเข้ามาก็ไป

00:21:4600:21:47 >> อือฮึ

00:21:4700:21:50 >> ชีวิตไม่ได้ง่ายแต่ก็ไม่ได้อยากบ่นว่ายาก

00:21:5000:21:53 เพราะรู้ว่า Fortunate รู้ว่าเราแบบว่ามี

00:21:5300:21:54 โอกาสให้ดี

00:21:5400:21:55 >> อ

00:21:5500:21:58 >> โชคดีแต่ว่าก็ไม่ได้ง่ายนะอะไรเงี้ยเออ

00:21:5800:22:04 แล้วตอนที่ทำอยู่ก็ทำไปโดยที่รู้สึกว่า

00:22:0400:22:06 โชคดีแล้วที่ได้ทำอะไรเงี้ยเออ

00:22:0600:22:07 >> อ

00:22:0700:22:10 >> แต่ว่าพอตอนเนี้ยเหมือนเราออกมาเป็นอีก

00:22:1100:22:11 แบบนึง

00:22:1100:22:12 >> อื

00:22:1200:22:15 >> มามีชีวิตอีกแบบที่เหมือนเราดีไซน์ว่าเรา

00:22:1500:22:17 จะใช้เวลาของเรายังไงได้เองอะไรเงี้ย

00:22:1700:22:18 >> อ

00:22:1800:22:21 >> ก็กลับไปมองที่เมื่อก่อนทำได้ยังไงวะอะไร

00:22:2100:22:26 อย่างเงี้ยฮะก็มีความสุขมยคิดว่ามันก็สุข

00:22:2600:22:28 แบบที่ว่าเพราะว่าเราไม่ได้เอาชีวิตเราไป

00:22:2900:22:30 เปรียบเทียบกับใครไง

00:22:3000:22:30 >> อื

00:22:3000:22:32 >> มันก็เลยรู้สึกว่าเออมันมันก็โอเคโอเคก็

00:22:3200:22:34 ไม่ได้รู้สึกว่าเอออยากมีชีวิตแบบคนนั้น

00:22:3400:22:36 แบบคนนี้อะไรอย่างเงี้ยก็รู้สึกว่าเออที่

00:22:3700:22:38 เป็นอยู่ก็อ

00:22:3800:22:40 >> ก็ดีแล้วเอออาจจะมีคนที่ดีกว่าเราแต่ก็

00:22:4000:22:44 เรื่องของเขาแต่พอมานะวันเนี้ยออกมาแล้ว

00:22:4400:22:46 มันมีชีวิตอีกแบบมีลูกมีครอบครัวมีอะไร

00:22:4600:22:52 อย่างเงี้ยก็มองย้อนไปก็แบบว่าเออก็หนัก

00:22:5200:22:55 เหมือนกันตอนนั้นอะไรเงี้ยมันก็เป็นstrส

00:22:5500:22:57 อีกแบบนึงมันก็เป็นเรื่องที่เหมือนกับว่า

00:22:5700:23:00 เราต้องหาบาanceซใหม่ในทุกๆวันเพราะว่า

00:23:0000:23:03 เหมือนเราอ่ะเป็นเจ้าของเวลาอันเนี้แล้ว

00:23:0300:23:06 เราไม่ได้แบบเอาเวลาของเราไปให้คนอื่น

00:23:0600:23:09 แล้วก็เอาไปเลยเธอจะปล่อยฉันกี่โมงก็ได้

00:23:0900:23:12 อะไรก็ได้เงี้ยตอนเคือเหมือนมันเราแบบว่า

00:23:1200:23:15 เหมือนเรา in control กับชีวิตของเรามาก

00:23:1500:23:17 ขึ้นแต่มันก็strสไปอีกแบบนะ

00:23:1700:23:18 >> อื

00:23:1800:23:19 >> เพราะว่าเราก็จะแบบมาคิดเรื่อง

00:23:1900:23:22 productivity มาคิดเรื่องว่าเป็นแม่ดี

00:23:2200:23:24 หรือยังเป็นคนนี้ดีหรือยังเก่งหรือยัง

00:23:2400:23:25 อะไรอย่างเงี้ย

00:23:2500:23:26 >> มันก็อ

00:23:2700:23:27 >> อีกแบบ

00:23:2700:23:28 >> อื

00:23:2800:23:32 >> เออแต่ก็ไม่รู้สึกว่าไม่อยากคอมเพลอะไร

00:23:3200:23:32 >> อื

00:23:3200:23:33 >> ค่ะ

00:23:3300:23:35 >> แล้วในตัวตนล่ะคะถ้าเกิดสมมุติว่าพี่ถาม

00:23:3500:23:38 ว่าแล้วตัวตนของชมเองชมรู้สึกยังไงกับตัว

00:23:3800:23:39 เอง

00:23:3900:23:43 >> รู้สึกยังไงกับตัวเองเหรออืก็รักตัวเองนะ

00:23:4300:23:49 เออก็ภูมิใจอุ๊ยไม่อยากชมตัวเองออกสึ

00:23:4900:23:53 ก็ภูมิใจค่ะหรือว่าไม่ได้เก่งที่สุดหรือ

00:23:5300:23:56 ว่าไม่ได้แบบเกิดมาแล้วแบบว่า challenged

00:23:5600:24:00 ขนาดนั้นไม่ได้ว่ามีพรสวรรค์อะไรที่แบบ

00:24:0000:24:02 ว่าโดดเด่น

00:24:0200:24:02 >> อือฮึ

00:24:0200:24:04 >> อะไรอย่างเงี้ยไม่ได้แบบเก่งแบบสุดโต่งใน

00:24:0400:24:07 เรื่องใดเรื่องหนึ่งแต่ว่าก็พอใจ

00:24:0700:24:08 >> อื

00:24:0800:24:09 >> เป็นประโยชน์มั้ยคะไปต่อ

00:24:0900:24:11 >> เป็นได้

00:24:1100:24:14 >> คือจริงๆวันเนี้ยค่ะก็อย่างที่เรารู้กัน

00:24:1400:24:18 อยู่แล้วเนว่าเราจะมาดูดาวชม

00:24:1800:24:21 >> ให้กับทุกๆคนให้ได้รับรู้ไปด้วยกันด้วย

00:24:2100:24:23 วันนี้นะคะก็

00:24:2300:24:26 >> คือมันมีชื่อเรียกหลายแบบมากนะก็คือไม่

00:24:2600:24:29 ว่าจะเป็นอชารอย่างที่บอก Blueprint

00:24:2900:24:29 >> อือื

00:24:2900:24:33 >> ก็คือสิ่งที่พี่พิมพ์มาให้เนี่ยมันเป็น

00:24:3300:24:37 ชาร์จตอนที่ช่วงเวลาเกิดที่ชมเกิด

00:24:3700:24:37 >> ค่ะ

00:24:3700:24:40 >> สิ่งที่เห็นเด่นชัดมากที่สุดนะคะ

00:24:4000:24:42 >> แล้วก็เป็นสิ่งที่พี่จะเรียกว่าเป็นแหล่ง

00:24:4200:24:45 พลังงานของคนๆนั้นนะคะ

00:24:4500:24:48 >> แหล่งพลังงานนั้นของชมเนี่ยคือความคิด

00:24:4800:24:49 สร้างสรรค์อ

00:24:4900:24:51 >> และความสร้างสรรค์ของตัวเอง

00:24:5100:24:55 >> คือชมมีความสร้างสรรค์ในตัวเองเยอะมาก

00:24:5500:24:56 >> ที่อใช่

00:24:5600:24:56 >> อื

00:24:5600:24:58 >> ความสร้างสรรค์ความสร้างสรรค์ในที่นี้ไม่

00:24:5900:25:02 ได้ไม่ได้ว่าจะต้องออกมาในลักษณะของงาน

00:25:0200:25:04 >> หรือว่าความcreครattiveนะคะมันคือความ

00:25:0400:25:08 หลากหลายในตัวเองความที่มีการผสมผสานบาง

00:25:0800:25:10 สิ่งบางอย่างที่ออกมาซึ่งนี่เห็นเด่นชัด

00:25:1000:25:13 มากก็คือในเรื่องของการแต่งกาย

00:25:1300:25:13 >> อื

00:25:1300:25:15 >> คือถ้าเกิดสมมุติว่าเราไม่ได้มาดูพลังงาน

00:25:1500:25:18 แบบนี้เนี่ยคือเราจะมองว่าอ๋อคนเนี้ยชอบ

00:25:1800:25:22 แฟชั่นคือชมชอบแต่งตัวแล้วก็อาจจะมีความ

00:25:2200:25:23 แต่งตัวที่ mix and match much match

00:25:2300:25:26 ได้หลากหลายแต่พอเราเข้ามาดูในพลังงานของ

00:25:2600:25:30 ดาวเนี่ยเราจะเห็นเลยว่าที่มาที่ชมชอบ

00:25:3000:25:34 แฟชั่นแล้วก็สามารถที่จะเอิ่มแครี่ได้ใน

00:25:3400:25:36 หลายๆลุคเนี่ยมันเป็นเพราะว่าเราเนี่ยมี

00:25:3600:25:38 พลังงานของความสร้างสรรค์เยอะมากข้างใน

00:25:3800:25:39 คือเรากำลังพูดในเรื่องของ self

00:25:4000:25:42 discovery เนาะฉะนั้นมันคือการค้นพบตัว

00:25:4200:25:44 เองที่แบบลึกเข้าไปอีกว่าเหมือนกับคนๆ

00:25:4400:25:47 เนี้ยไม่ได้แค่ชอบความฉาบฉวยของแฟชั่นแต่

00:25:4700:25:52 ว่าแฟชั่นคือฟอร์มนึงที่ทำให้ชมได้แสดง

00:25:5200:25:54 ตัวเองออกไปให้ทุกๆคนได้เห็น

00:25:5400:25:55 >> ค่ะ

00:25:5500:25:59 >> อืมอันนี้คือสิ่งที่เอิ่สามารถที่จะนำไป

00:25:5900:26:02 ใช้ในรูปแบบอื่นก็ได้แต่ชมเลือกที่จะ

00:26:0200:26:04 พรีเซนตตัวเองแล้วก็เหมือนกับว่าแสดงตัว

00:26:0400:26:07 เองออกมาผ่าน outlet นี้ก็คือแฟชั่นทีนี้

00:26:0700:26:09 รู้สึกบ้างมว่าตัวเองเวลาแต่งตัวหรืออะไร

00:26:0900:26:12 มันมีความแบบมันสามารถที่จะแมชไปได้แบบใน

00:26:1200:26:14 ทุกรูปแบบ

00:26:1400:26:16 >> อืม

00:26:1600:26:20 ก็มีอะไรที่เราแครี่ไม่ได้ก็มีนะคะเออค่ะ

00:26:2000:26:21 ก็มีเหมือนกัน

00:26:2100:26:21 >> อือฮึ

00:26:2100:26:25 >> แต่ก็สนุกก็ก็ก็นั่นแหละค่ะก็คิดว่ามัน

00:26:2500:26:28 เป็นเรื่องของการอย่างที่บอกเป็นการสื่อ

00:26:2800:26:28 สารอ

00:26:2800:26:32 >> อย่างหนึ่งเหมือนกับว่าบอกอารมณ์บอกไวเรา

00:26:3200:26:34 อือใช่อือฮึก็อันนั้นน่ะคือ 1 เรื่องที่

00:26:3400:26:36 เห็นว่าเป็นสิ่งที่ชัดเจนมาก

00:26:3600:26:38 >> แล้วก็เป็นตัวตนที่

00:26:3800:26:41 >> ค่อนข้างแข็งแรงในแง่ของการที่เราเป็นตัว

00:26:4100:26:44 ของตัวเองมีความเป็นตัวของตัวเองค่อนข้าง

00:26:4400:26:46 สูงมากนะคะแล้วก็ทุกสิ่งทุกอย่างที่สื่อ

00:26:4600:26:51 สารออกไปมีความจริงอยู่เสมอคือไม่ได้มี

00:26:5100:26:54 อะไรที่เหมือนกับต้องระวังตัวคือเหมือน

00:26:5400:26:56 กับมีตัวตนของเองคือเป็นยังไงก็เป็นอย่าง

00:26:5700:26:59 งั้นก็พูดออกไปแบบนั้นสิ่งสำคัญที่สุดอีก

00:26:5900:27:02 อย่างนึงคือเป็นคนที่มีดาวพลูโตเนี่ยเด่น

00:27:0200:27:05 มากๆนะคะมีPowerาเวอร์ในตัวเองมีพลังใน

00:27:0500:27:09 ตัวเองแล้วก็มีอำนาจถ้าเกิดสมมุติลองลอง

00:27:0900:27:11 นึกถึงตัวเองอ่ะชมจะรู้สึกว่าคือเรา

00:27:1100:27:14 เหมือนอยู่ออกจากทุกสิ่งทุกอย่างอ่ะคือ

00:27:1400:27:16 มันไม่ได้อยู่ในแบบสมมุติชมอยู่ในวงการ

00:27:1600:27:19 ใช่มั้ยคะเป็นนักแสดงว่าความเป็นชมมันคือ

00:27:1900:27:22 ความเป็นชมที่มันไม่ได้มีใครกล้าเข้าไป

00:27:2200:27:24 แตะขนาดนั้นอันเนี้ยมันคือเป็นพลังงานที่

00:27:2500:27:28 เราเห็นชัดมากว่าคนๆเนี้ยมีอำนาจในตัวเอง

00:27:2800:27:30 แล้วก็มีpowerาเวอร์บางอย่างที่ทำให้คน

00:27:3000:27:33 ไม่ได้กล้าเข้ามายุ่งขนาดนั้นด้วย

00:27:3300:27:33 >> อื

00:27:3300:27:35 >> ถ้าเกิดสมมุติว่าชมอาจจะนึกว่าโอเคก็เป็น

00:27:3500:27:38 เพราะว่าเราไม่ได้ยุ่งอะไรกับใครแล้วก็

00:27:3800:27:40 แบบโอเคอาจจะอยู่กับครอบครัวแต่ถ้าเกิด

00:27:4000:27:42 เราดูพลังงานเราจะเห็นเลยว่าคนๆเนี้ยเขา

00:27:4200:27:45 ส่งพลังงานบางอย่างออกไปว่าเขามีอำนาจตรง

00:27:4500:27:45 นี้

00:27:4500:27:47 >> ก็คือเวลาคนที่เขาไม่กล้าเข้าหาเราอะไร

00:27:4700:27:49 เงี้ยเพราะว่าเพราะดาวภูโตเหรอคะ

00:27:4900:27:51 >> อือ

00:27:5100:27:54 >> จริงๆไม่ได้ยิงนะคะแต่ว่าดาวพูโตค่ะเป็น

00:27:5400:27:58 เรื่องขอให้โทษดาวพูโต

00:27:5800:28:00 ใช่ค่ะคือมันมีหลายดาวเนาะแต่ว่าดาวฟูโต

00:28:0000:28:03 เนี่ยเป็นดาวที่เด่นมากนะคะฉะนั้นไม่ว่า

00:28:0300:28:06 ทำอะไรออกไปเนี่ยมันจะมีพลังเยอะมาก

00:28:0600:28:06 >> อื

00:28:0600:28:10 >> คือชมมีเป็นคนที่มีพลังในตัวเองเยอะมากๆ

00:28:1000:28:12 >> เหรอชมเก่าคิดว่าชมยังไม่พอใจกับ

00:28:1200:28:14 เอเนอร์gจีที่ชมมี

00:28:1400:28:15 >> เยอะแล้วนะคะ

00:28:1500:28:18 >> เออชมยังไม่พอใจยังแบบว่าเกลียดเวลาที่

00:28:1800:28:19 ตัวเองขี้เกียจ

00:28:1900:28:20 >> อื

00:28:2000:28:22 >> อะไรอย่างเงี้ยเกลียดไม่ชอบเวลาที่แบบเฉา

00:28:2200:28:24 ไม่ชอบวันที่ไม่ productive

00:28:2400:28:24 >> อื

00:28:2400:28:27 >> ชมบอกว่าต้องทำอะไรตลอดเวลาคือเราชอบที่

00:28:2700:28:30 เราเวลาเราแข็งแรงแล้วเรามีแบบเราไม่ป่วย

00:28:3000:28:32 เราสุขภาพดีแล้วเราเหมือนแบบเรา fulless

00:28:3200:28:35 ของเราอ่ะคือเราเต็มในตัวเราเราสามารถที่

00:28:3500:28:38 จะพร้อมที่จะทำสิ่งต่างๆได้อย่างเต็มที่

00:28:3800:28:40 อันเนี้ยค่ะมันคือเป็นพลังงานที่ intense

00:28:4000:28:42 เป็นพลังงานที่ extrem นั่นแหละก็คือเรา

00:28:4200:28:45 อ่ะเป็นคนที่มีพลังงานเยอะมากเราถึงอยาก

00:28:4500:28:47 ที่จะเอาพลังงานเออกไปอ

00:28:4700:28:49 >> พอนึกออกมั้ยคะแต่ถ้าเกิดสมมุติเราบอกว่า

00:28:4900:28:51 โอเคเรายังรู้สึกพลังงานเรายังไม่พออะไร

00:28:5100:28:54 เรายังอยากมีแรงเยอะกว่านี้เนี่ยมันเป็น

00:28:5400:28:55 เพราะวันนั้นเราอาจจะพลังงานดรอป

00:28:5500:28:55 >> ค่ะ

00:28:5500:28:57 >> พอมันดรอปปุ๊บเราก็อยากจะตีตื้นให้มัน

00:28:5700:29:00 เป็นพลังงานที่เราทำทุกอย่างได้แล้วชมมี

00:29:0000:29:03 ความสามารถเยอะมากที่จะทำอะไรได้หลากหลาย

00:29:0300:29:06 แล้วก็ที่สำคัญที่สุดอีกดาวนึงที่

00:29:0600:29:10 อันเนี้ยคือเห็นชัดมากคือความฉลาดค่ะ

00:29:1000:29:11 >> อื

00:29:1100:29:16 >> เป็นคนที่ฉลาดมากเลย

00:29:1600:29:17 ต้องเรียกว่าฉลาดสุดๆ

00:29:1700:29:18 >> อื

00:29:1800:29:19 >> อือฮึ

00:29:1900:29:20 >> อื

00:29:2000:29:21 >> อันนี้ดาวอะไรคะ

00:29:2100:29:22 >> อันนี้ดาวพุทธค่ะ

00:29:2200:29:24 >> อ๋อดาวพุทธนะคะ

00:29:2400:29:24 >> อือื

00:29:2400:29:27 >> เป็นคนที่มีดาวพุทธเด่นอีกตัวนึงนะคะเป็น

00:29:2700:29:31 ดาวที่เห็นชัดเลยว่าใช้สมองและความคิด

00:29:3100:29:34 เนี่ยแบบได้แยบยนมากๆ

00:29:3400:29:36 >> อืดูน่ากลัวเหมือนกันแยบยน

00:29:3600:29:39 >> แล้วก็แยบยนแล้วก็มีความคิดที่ลึกซึ้งนะ

00:29:3900:29:41 คะทำให้เวลามีปัญหาอะไรเข้ามาเนี่ยชม

00:29:4100:29:44 สามารถที่จะแก้มันด้วยการเหมือนอยู่กับ

00:29:4400:29:45 ปัญหาก่อน

00:29:4500:29:47 >> แล้วก็แบบอ่ะค่อยๆแก้มันไป

00:29:4800:29:50 >> แล้วด้วยพลังที่มีต่างๆที่รวมกันเนี่ยทำ

00:29:5000:29:53 ให้สามารถที่จะทะลวงเข้าไปในปัญหาและอยู่

00:29:5300:29:56 กับมันได้จนกว่าจะแก้ออกอะไรเงี้ยค่ะแล้ว

00:29:5600:29:59 ก็ในเรื่องของการสื่อสารด้วยว่าการสื่อ

00:29:5900:30:02 สารเนี่ยเด่นที่เวลาเราคุยกับใครเวลาที่

00:30:0200:30:06 เราจะสื่อสารในทุกรูปแบบเนี่ยจะมี

00:30:0600:30:08 challeng บางอย่างในการที่เราจะสื่อสาร

00:30:0800:30:08 กับคนอื่น

00:30:0800:30:12 >> อทีนี้เอาแบบไม่เกรงใจบ้างพี่นีไม่เกรงใจ

00:30:1200:30:14 เอาแบบว่า

00:30:1400:30:15 Daride

00:30:1500:30:17 >> Dark Side ใช่มั้คะคือพลังทั้งหมดอ่ะ

00:30:1700:30:20 ค่ะเขามีทั้งข้อดีและข้อเสียไม่มีดาวไหน

00:30:2000:30:22 เลยที่มีข้อดีอย่างเดียว

00:30:2200:30:24 >> มันขึ้นกับความสมดุลของตัวเราทีนี้ถ้า

00:30:2400:30:27 เกิดสมมุติเราจะกลับมาดูในส่วนที่ดูเป็น

00:30:2700:30:29 อาจจะดูเป็นข้อเสียที่เหมือนกับอ่าเราอาจ

00:30:2900:30:30 จะอ

00:30:3000:30:32 >> ไม่สมดุลหรืออะไรต่างๆเนาะ

00:30:3200:30:36 >> คืออารมณ์ในเรื่องของอารมณ์ความอ่อนไหว

00:30:3600:30:37 ง่าย

00:30:3700:30:40 >> แล้วก็เป็นอารมณ์ที่อาจจะสวิงไปมาได้ค่อน

00:30:4000:30:43 ข้างเยอะความไม่มั่นคงในทางอารมณ์ที่

00:30:4300:30:45 เหมือนกับจะต้องคอยมอนิเตอร์ตัวเองว่าเออ

00:30:4500:30:48 เรารู้สึกอย่างไรไม่แน่ใจเป็นแบบนี้มั้

00:30:4800:30:53 >> อืมจะเป็นคนที่แบบเวลามีอะไรอ่ะชมจะดีล

00:30:5300:30:53 อ่ะ

00:30:5300:30:54 >> อื

00:30:5400:30:56 >> เวลามีอะไรมาฮิตเนี่ย

00:30:5600:30:57 >> อือฮึ

00:30:5700:31:01 >> ชมจะแบบว่าrespอช้ามากหมายถึงว่าในแง่ของ

00:31:0100:31:02 อารมณ์อะไรเงี้ยนะคะ

00:31:0200:31:03 >> อือฮึ

00:31:0300:31:05 >> นั่นแหละอย่างที่บอกถ้าใครมา

00:31:0500:31:07 >> ทำให้ชมรู้สึกอะไรหรืออะไรอย่างเงี้ยบาง

00:31:0700:31:12 ทีชมจะแบบเหมือน part lลogicอ่ะมันจะทำ

00:31:1200:31:13 งานก่อน

00:31:1300:31:14 >> อะไรอย่างเงี้ยก็อย่างที่พี่นีบอกเมื่อ

00:31:1400:31:15 กี้อยู่กับปัญหา

00:31:1500:31:16 >> อื

00:31:1600:31:19 >> แต่เราก็รู้สึกว่าเหมือนบางทีเราก็ละเรา

00:31:1900:31:21 เหมือนเราเก็บอารมณ์เราเอาไว้ข้างไหนแล้ว

00:31:2100:31:24 เราไม่ได้เราดีลกับความรู้สึก

00:31:2400:31:24 >> อือฮึ

00:31:2400:31:25 >> ทีหลัง

00:31:2500:31:26 >> อือฮึ

00:31:2600:31:29 >> เออเราจะดีลกับปัญหาก่อนอะไรเงี้ยแล้วก็

00:31:2900:31:34 บางทีก็รู้สึกว่ากับตัวเองก็ก็หนัก

00:31:3400:31:35 >> อือฮึ

00:31:3500:31:38 >> เออชมก็ไม่แน่ใจว่ามันดีหรือไม่ดีคือโอเค

00:31:3900:31:41 เวลาเรารีแอคด้วยอารมณ์ช้าชมก็รู้สึกว่า

00:31:4100:31:43 ถ้าครั้งไหนที่ปล่อยให้ตัวเองอ่ะเหมือน

00:31:4300:31:45 แบบว่า

00:31:4500:31:47 ตอบโต้กลับไปด้วยอารมณ์ชมจะเสียใจทุก

00:31:4700:31:48 ครั้ง

00:31:4800:31:49 >> อื

00:31:4900:31:52 >> ก็เลยเหมือนเป็นบทเรียนให้ตัวเองว่าสมอง

00:31:5200:31:53 ของก่อน

00:31:5300:31:53 >> อื

00:31:5300:31:57 >> บางทีก็เห็นคนที่เหมือนด่ามาด่ากลับไม่

00:31:5700:31:57 โกงอะไรเงี้ย

00:31:5700:31:58 >> อื

00:31:5800:32:01 >> แล้วมันสบายอ่ะมันโล่งมันแบบอะไรอย่าง

00:32:0100:32:03 เงี้ยแบบเอออยากทำแบบแกได้อะไรอย่างเงี้ย

00:32:0300:32:04 แต่ว่าทำไม่ได้

00:32:0400:32:05 >> อือฮึ

00:32:0500:32:08 >> แต่เอาจริงๆนะรุ่นเนี้ยนะก็ไม่ค่อยมีอะไร

00:32:0800:32:10 ทำอะไรเราได้แล้วนอกจากจะเป็นเกี่ยวกับ

00:32:1000:32:11 ถ้าเกี่ยวกับครอบครัวเกี่ยวกับลูกมากกว่า

00:32:1100:32:13 อะไรอย่าเงี้ยแล้วก็พอมีเรื่องมีอะไร

00:32:1300:32:16 เงี้ยมาฮิตแล้วแบบว่าเรามีทั้งความโกรธ

00:32:1600:32:18 ทั้งความแบบอะไรเงี้ยทุกอย่างเลยแต่ว่า

00:32:1800:32:21 เหมือนสมองเราอ่ะมันให้เรา manage กับ

00:32:2100:32:25 ปัญหาหาแบบให้มันแบบgraสfulที่สุด

00:32:2500:32:25 >> อือฮึ

00:32:2500:32:29 >> แต่ข้างในเนี่ยแบบว่า

00:32:2900:32:32 เออข้างในนี่แบบว่าอืแต่ว่าก็ไม่ค่อยมี

00:32:3200:32:35 ใครไม่ค่อยมีใครได้เห็นอย่างเงี้ยค่ะ

00:32:3500:32:36 >> อือฮึพี่ช่วยตอบให้ได้ค่ะ

00:32:3600:32:38 >> ได้เอาเลยค่ะ

00:32:3800:32:40 >> คืออย่างที่บอกนะคะว่าเป็นคนที่ความคิด

00:32:4000:32:41 เด่นมาก

00:32:4100:32:43 >> ฉะนั้นความคิดเนี่ยมันกลบทุกอย่างหมด

00:32:4300:32:45 เพราะเรารู้ว่านั่นคือ strength คือข้อดี

00:32:4500:32:48 ของเราพอเราแก้ปัญหาหรือมีอะไรเข้ามา

00:32:4800:32:50 กระทบเนี่ยถึงบอกนะคืออย่างที่บอกเน้นใน

00:32:5000:32:54 เรื่องของความคิดก่อนคือมันจะแจเอาตรรกะ

00:32:5400:32:57 เข้ามาในการที่จะแก้ปัญหามันไม่เป็นข้อ

00:32:5700:33:00 เสียชมแต่ว่ามันเป็นในลักษณะของสิ่งที่

00:33:0000:33:03 เราอาจจะเป็น sensitive คือจุดบอบบางแล้ว

00:33:0300:33:06 ก็เป็นจุดที่เราอาจจะซ่อนเร้นเอาไว้อย่าง

00:33:0600:33:09 ที่บอกก็คือในเรื่องของอารมณ์ซึ่งอารมณ์

00:33:0900:33:12 เนี่ยนอกจากจะอ่อนไหวมากๆแล้วอ่ะนะคะยัง

00:33:1200:33:16 มีความอิ่อาจจะสวิงไปมาได้เพราะด้วยความ

00:33:1600:33:18 ที่อารมณ์ของชมเนี่ยเป็นอารมณ์ที่เหมือน

00:33:1800:33:20 กับอย่างที่ชมบอกเนี่ยคือชมเก็บเอาไว้

00:33:2000:33:21 ด้วยค่ะ

00:33:2100:33:24 >> แต่ขะเวลากันที่มาว่าทำไมเราถึงเก็บแต่พอ

00:33:2400:33:27 เรามาดูดดาวปุ๊บเราจำแนกได้หมดเลยว่าโอเค

00:33:2700:33:29 เนี่ยคือคนนี้ฟอร์มขึ้นมาเนี่ยเขามีพลัง

00:33:2900:33:32 งานอะไรบ้างแล้วอย่างของชมเนี่ยก็คือใน

00:33:3200:33:34 เรื่องของอารมณ์เนี่ยเป็นในเรื่องของความ

00:33:3400:33:37 รู้สึกในเรื่องของความอ่อนไหวต่างๆเนี่ย

00:33:3700:33:40 เป็นส่วนที่ sensitive มากๆ

00:33:4000:33:43 >> และนั่นคือที่มาที่ทำไมชมถึงเก็บเอาไว้

00:33:4300:33:45 แล้วก็ไม่แสดงให้ใครเห็นหรือแม้แต่กับตัว

00:33:4500:33:48 เองคือการที่เวลาเราปิดกับคนอื่นน่ะค่ะ

00:33:4800:33:51 มันก็เหมือนกับเป็นการที่เราปิดกับตัวเรา

00:33:5100:33:51 เองด้วย

00:33:5100:33:52 >> อื

00:33:5200:33:55 >> ฉะนั้นมันเลยถึงบอกว่าทำไมถึงดีลayเพราะ

00:33:5500:33:57 ว่ากว่ามันจะผ่านขบวนการของอารมณ์เนี่ย

00:33:5700:34:00 มันไปขับมันไปลงloบของความคิดก่อนพอมันลง

00:34:0000:34:02 รูบความคิดปุ๊บเราก็จะพยายามที่จะคิดให้

00:34:0200:34:04 ได้เหมือนกับอยากจะแก้ปัญหาในแบบที่เรา

00:34:0400:34:06 ถนัดแต่บางครั้งอารมณ์ที่เราฝังเอาไว้

00:34:0700:34:09 แล้วความที่มันบอบบางมากๆเนี่ยมันเลยทำ

00:34:0900:34:12 ให้เราซ่อนสิ่งนี้ไว้จนมันมีเหตุการณ์บาง

00:34:1200:34:14 อย่างหรือว่าอะไรบางอย่างที่มันมาแบบ

00:34:1400:34:16 กระทบแล้วทำให้มันผุดขึ้นมาอ

00:34:1600:34:18 >> ทีนี้ก็จะเขื่อนแตกแบบว่า

00:34:1800:34:20 >> ใช่

00:34:2000:34:22 แล้วมันจะสะสมโดยการที่เหมือนกับร้อย

00:34:2200:34:24 เรียงเอาทุกอย่างอ่ะค่ะที่เหมือนกับเป็น

00:34:2400:34:27 เหตุการณ์ซ้ำๆที่เรารู้สึกแบบนี้หรือว่า

00:34:2800:34:30 อะไรก็ตามที่ทำให้เรารู้สึกว่าเออเราแบบ

00:34:3000:34:32 เราฝังมันไปข้างในอ่ะแล้วอยู่ดีมันแบบอาจ

00:34:3200:34:34 จะมีคนพูดแค่คำเดียวที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง

00:34:3400:34:37 อะไรเลยแล้วอยู่ดีก็เทอารมณ์ออกมาทั้งหมด

00:34:3700:34:40 อะไรแบบนี้ได้เชื่อมั้ยหนังแบบหนัง

00:34:4000:34:43 ครอบครัวหนังอะไรเงี้ยยังไม่อยากดูเลยอ่ะ

00:34:4300:34:43 หนังแบบว่า

00:34:4300:34:44 >> ใช่คือเราหนี

00:34:4400:34:47 >> หนังไม่อยากดูเลย

00:34:4700:34:50 >> ดูการ์ตูนดิดิสนีย์บางทียังร้องไห้เลย

00:34:5000:34:51 >> นั่นแหละค่ะ

00:34:5100:34:51 >> ค่ะ

00:34:5100:34:54 >> มันเป็นแหล่งพลังงานที่ sensitive มากๆ

00:34:5400:34:57 แล้วก็แต่จริงๆเป็นพลังงานที่ดีมากๆนะคะ

00:34:5700:35:00 ถ้ามองในแง่ของความโอบอ้อมอารี

00:35:0000:35:02 >> ในแง่ของความรักแล้วในแง่ของการที่เราแบบ

00:35:0200:35:05 เห็นอกเห็นใจคนอื่นเนี่ยเอathyนี่คือมี

00:35:0500:35:07 แบบพลังล้นมาก

00:35:0700:35:07 >> อื

00:35:0700:35:11 >> คือเยอะมากๆข้างในแต่พอมาในแง่ของการที่

00:35:1100:35:13 เราอยากที่จะรู้จักตัวเองหรือเข้าใจตัว

00:35:1300:35:15 เองเนี่ยกลายเป็นว่ามันมีกำแพงปิดกั้น

00:35:1500:35:15 >> ค่ะ

00:35:1500:35:18 >> เพราะว่าเราไม่อยากที่จะอ่อนแอ

00:35:1800:35:20 ไม่อยากที่จะอ่อนไหว

00:35:2000:35:24 >> ชมควรทำไงอ่ะดูหนังแล้วปล่อยดูซีรีย์แล้ว

00:35:2400:35:26 ปล่อยควรจะเป็นอย่างงั้น

00:35:2600:35:28 >> จริงๆแล้วมันเริ่มจากอย่างงั้นได้เลยนะคะ

00:35:2800:35:30 ใช่คือสิ่งที่เราหนีอ่ะมันคือการที่เรา

00:35:3000:35:32 หนีตัวเองแหละอย่างเช่นเราไม่อยากดูหนัง

00:35:3200:35:35 ประเภทนี้เพราะเรามองว่าเออแบบฉันดูไม่

00:35:3500:35:38 ได้พอฉันดูปุ๊บแล้วฉันจะแบบน้ำตาแตกแน่

00:35:3800:35:40 นอนอะไรเงี้ยทีเนี้ยอ่ะเราก็ต้องมานั่ง

00:35:4000:35:42 ถามตัวเองแล้วว่าแล้วทำไมเราถึงน้ำตาแตก

00:35:4200:35:44 >> ใช่มั้มันไม่ใช่แค่ว่าก็ฉันเป็นคนแบบนี้

00:35:4400:35:47 ฉันเลยดูแบบนี้ไม่ได้แต่คือเวลาเรามา

00:35:4700:35:50 ศึกษาดวงดาวอ่ะค่ะเราหาที่มาได้หมดเลยว่า

00:35:5000:35:53 ทำไมแล้วทำไมล่ะทำไมเราถึงไม่อยากที่จะดู

00:35:5300:35:56 ไม่อยากที่จะแตะเพราะว่ามันมีบางมุมของ

00:35:5600:35:58 เราที่เราไม่อยากแตะเขาเลยเพราะมัน

00:35:5800:36:02 sensitive มากถ้าเป็นไปได้อาจจะลองเปิด

00:36:0200:36:02 >> ค่ะ

00:36:0200:36:04 >> เอาเปิดประตูนี่แหละแง้มเข้าไปเองเลยเปิด

00:36:0400:36:08 เองเลยแล้วก็ลองดูว่าข้างในนั้นมีอะไรมัน

00:36:0800:36:11 อาจจะมีเอิ่ที่มาที่ลึกซึ้งกว่าเหตุการณ์

00:36:1100:36:14 ปัจจุบันก็ได้อาจจะเป็นที่มาของตั้งแต่ใน

00:36:1400:36:15 วัยเด็ก

00:36:1500:36:17 >> อาจจะลองทบทวนคนดูก็ได้ค่ะว่าอ่ะที่ผ่าน

00:36:1700:36:19 มาเราเคยมีเหตุการณ์อะไรที่มันทำให้เรา

00:36:1900:36:22 รู้สึกว่าแบบอ่อนไหวค่อนข้างมากมันมีอะไร

00:36:2300:36:26 ที่มันกินใจเราหรือว่าเอิ่มการที่ผู้คน

00:36:2600:36:28 อื่นคนรอบข้างคนที่เรารักเนี่ยเหมือนเขา

00:36:2800:36:30 ทำอะไรกับเราแล้วมันทำให้เรามีความรู้สึก

00:36:3000:36:32 แบบนี้อะไรเงี้ยค่ะคือบางครั้งเนี่ยเรา

00:36:3200:36:34 ต้องย้อนกลับไปถ้าเกิดจริงๆแล้วถ้าย้อน

00:36:3500:36:37 ได้มันเป็นการมันสามารถย้อนได้ไปถึงตอน

00:36:3700:36:39 ที่อยู่ในครรภของแม่ด้วยแต่

00:36:3900:36:42 >> อย่างเงี้ยของพี่นีมีมั้ยมีพากลับไปมั้ย

00:36:4200:36:45 >> จริงๆแล้วเราทำได้ค่ะเราสามารถที่จะย้อน

00:36:4500:36:48 ไปจนถึงแบบช่วงเวลาที่เขาก่อนมาเกิดได้

00:36:4800:36:51 >> จริงๆชมได้ยินพวกแบบเทรปี้แบบอะไรอย่าง

00:36:5100:36:54 เงี้ยเออเยอะมากเลยทีเนี้ยมีคนนำพาเรา

00:36:5400:36:57 กลับไปตรงนั้นได้จริงๆเราไปอาจจะไปเห็น

00:36:5700:36:59 ภาพหรือว่าไปแบบ

00:36:5900:37:01 >> มีประสบการณ์อะไรที่มันเหมือนจริงเหมือน

00:37:0100:37:02 ฉายหนังตรงนั้น

00:37:0200:37:03 >> อือฮึ

00:37:0300:37:05 >> ฉายเสร็จแล้วเราได้อะไรอ่ะ

00:37:0500:37:08 >> คือจริงๆแล้วมันมีหลายแบบนะมันก็มีแบบที่

00:37:0800:37:11 เราจะเข้าไปเองก็ได้คือถ้าถามความเห็นของ

00:37:1100:37:14 นีค่ะคือนีมองว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเราเข้า

00:37:1400:37:16 ไปเองโดยที่เราทำความเข้าใจว่าเราค่อยๆ

00:37:1600:37:19 นั่งอยู่นิ่งๆคนเดียวเนอะเราค่อยๆนึกอ่ะ

00:37:1900:37:21 เหมือนกับอยู่กับตัวเองคนเราบางครั้งเรา

00:37:2100:37:23 รู้สึกว่าเราก็อยู่กับตัวเองตลอดเวลาแต่

00:37:2300:37:25 ความจริงแล้วมันไม่ใช่แบบนั้นเลยเรามี

00:37:2500:37:27 เวลาให้กับตัวเองน้อยมากเวลาที่ไม่ต้อง

00:37:2700:37:30 คิดอะไรแค่นั่งอยู่นิ่งๆแล้วเราอาจจะลอง

00:37:3000:37:33 แบบโอเคค่ะลองนั่งนิ่งๆแล้วลองย้อนดูอ่ะ

00:37:3300:37:35 ว่าเฮ้ยมันมีเหตุการณ์อะไรบ้างที่เหมือน

00:37:3500:37:38 กับมันทำให้เรารู้สึกสะเทือนใจเสียใจอะไร

00:37:3800:37:41 ก็ตามแต่ตั้งแต่เด็กจนโตเอาแบบที่เราใช้

00:37:4100:37:43 ความที่เราจำได้ก่อน

00:37:4300:37:45 >> ทีนี้เนี่ยพอเราเริ่มจำได้แล้วถ้าเกิด

00:37:4500:37:47 สมมุติว่าเราใช้ความเข้าใจของตัวเองเข้า

00:37:4700:37:50 ไปทำความเข้าใจในเหตุการณ์นั้นแล้วมัน

00:37:5000:37:53 เกิดเฮ้ยอยู่ดีๆมันอาจจะมีแบบเฮ้ยหายเฮ้ย

00:37:5300:37:55 อยู่ดีเราเข้าใจพอแค่แค่เราเข้าใจบาง

00:37:5500:37:57 อย่างอ่ะมันจะมีปรากฏการณ์บางอย่างที่ทำ

00:37:5700:37:59 ให้ตรงนั้นมันคลายออกได้

00:37:5900:37:59 >> อือ

00:37:5900:38:02 >> แต่มันก็มีอีกกรณีนึงถ้าเกิดสมมุติว่าเรา

00:38:0200:38:05 รู้สึกว่าเราทำงานกับกไม

00:38:0500:38:08 มันยังไม่เวิร์คมันยังไม่ได้ผลอาจจะลอง

00:38:0800:38:11 อ่ะอาจจะมีที่เหมือนกับเป็นคนนอกที่อยาก

00:38:1100:38:13 เขาอาจจะมาช่วยให้พาให้เรากลับกันไปตรง

00:38:1300:38:15 นั้นถ้าเกิดถามมีรู้สึกว่าการที่เราทำได้

00:38:1500:38:18 ด้วยตัวเองจริงๆโดยที่ไม่ต้องพึ่งพาใคร

00:38:1800:38:20 เนี่ยมันดีที่สุดเพราะว่าตัวเราเองนี่

00:38:2000:38:22 แหละเป็นยาที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง

00:38:2200:38:26 >> โอแต่ว่าจะพาตัวเองไปได้ชมว่าน้อยคนนะคะ

00:38:2600:38:27 ที่จะพาไปได้

00:38:2700:38:30 >> คือจริงๆเราทำได้ค่ะเพียงแต่ว่าเรากล้าพอ

00:38:3000:38:33 หรือเปล่ามากกว่าถ้าเรากล้าพอว่าแบบโอเค

00:38:3300:38:35 เราจะไปแตะในจุดที่เรา sensitive

00:38:3500:38:36 >> อ

00:38:3600:38:38 >> แล้วเรากล้าที่จะอยู่ตรงนั้นแล้วยอมรับ

00:38:3800:38:42 ได้เนี่ยนี่เชื่อว่าชมก็คือชมหายได้

00:38:4200:38:45 >> แล้วต่อไปชมอาจจะดูละครพรแล้วก็แบบเศร้า

00:38:4500:38:47 เรื่องครอบครัวแล้วก็แบบยิ้มได้ไม่แบบอื

00:38:4700:38:50 ไม่ได้ไม่ได้มีอะไรที่มันสะเทือน

00:38:5000:38:52 >> ใจอีกต่อไปอะไรเงี้ยค่ะพอเราได้คำตอบ

00:38:5200:38:55 อย่างงี้กับตัวเองปุ๊บสิ่งที่เราได้ต่อมา

00:38:5500:38:58 คือเราสมดุลมากขึ้นนี่แหละคือ self

00:38:5800:39:01 discovery ที่ทุกคนอาจจะมองว่าแบบเออฉัน

00:39:0100:39:03 ก็รู้จักตัวเองอยู่แล้วทำไมฉันต้องหาแต่

00:39:0300:39:05 บางครั้งมันมีมุมบางอย่างตรงนั้นแหละมัน

00:39:0500:39:07 คล้ายๆว่าอะไรสักอย่างแต่เราหาคำตอบไม่

00:39:0700:39:10 ได้ถ้าเราแก้ได้แล้วถ้าเราสมมุติเราเปิด

00:39:1000:39:13 ใจกับตรงนี้ได้เนี่ยเราจะมีความสุขมาก

00:39:1300:39:13 ขึ้น

00:39:1300:39:14 >> อื

00:39:1400:39:16 >> มันมีคือคนเรามันจะมีกำแพงบางอย่างที่เรา

00:39:1600:39:19 ปิดเราปิดกั้นบางส่วนที่เราไม่ค่อยอยากจะ

00:39:1900:39:20 เข้าไปแตะ

00:39:2000:39:23 >> อาจจะเป็นเค้าเรียกอาจจะเป็นอชadowของตัว

00:39:2300:39:26 เองอาจจะเป็นเอ่อมุมบางสิ่งบางอย่างที่ทำ

00:39:2600:39:29 ให้เราสะเทือนใจอาจจะเป็นข้อเสียอะไรก็

00:39:2900:39:32 ได้มันได้หมดอ่ะค่ะมันมันไม่จำเป็นว่าจะ

00:39:3200:39:34 ต้องเป็นสิ่งที่เลวร้ายอย่างเดียวมันอาจ

00:39:3400:39:36 จะเป็นอะไรที่บอบบาง sensitive กับเราก็

00:39:3600:39:37 ได้

00:39:3700:39:42 >> อทีเนี้ยเราสามารถฝืน

00:39:4200:39:44 ลิขิตฟ้าพลังของดวงดาวได้มั้คะ

00:39:4400:39:47 >> คือดาวคือเราเราคือดาวถ้าเกิดเราฝืนดาวก็

00:39:4700:39:49 คือเราฝืนธรรมชาติในตัวเองอ

00:39:4900:39:51 >> ถ้าเกิดเราเข้าใจว่าดาวคือธรรมชาติเราจะ

00:39:5100:39:53 รู้สึกว่าดาวไม่ใช่ดับดาวเคราะห์ที่ลอย

00:39:5300:39:56 อยู่แล้วแบบไม่มีที่มาที่ไปมันก็คือ

00:39:5600:39:57 ธรรมชาติอย่างหนึ่ง

00:39:5700:39:59 >> แล้วก็ธรรมชาติเหล่านี้ก็คือตัวของเรา

00:39:5900:40:02 >> อ่าแล้วอย่างเงี้ยถ้าบอกว่าดาวแบบดาว

00:40:0200:40:04 เนี้ยทำให้เราแบบขี้โมโหอย่างเงี้ย

00:40:0500:40:07 >> เราก็แค่เข้าใจตัวเองว่าแบบสมแต่เรารู้

00:40:0700:40:08 อย่างน้อยเรารู้ที่มาแล้วไงว่าเราไม่ใช่

00:40:0900:40:11 ขี้โมโหแบบไม่มีที่มาที่ไปสมมุติว่าความ

00:40:1100:40:12 อารมณ์ร้อน

00:40:1200:40:15 คือดาวอังคารยกตัวอย่างใช่คะอ่ะดาวอังคาร

00:40:1500:40:18 มีชื่อว่าอหตเป็นพลังที่ร้อนเหมือนกับว่า

00:40:1800:40:21 มีความมุ่งมั่นแต่ในขณะเวลาเดียวกันก็อาจ

00:40:2100:40:23 จะถ้าเกิดไม่สมดุลก็จะกลายเป็นว่าเป็น

00:40:2300:40:26 พลังที่ทำให้คนนั้นมีอารมณ์ร้อนได้ยกตัว

00:40:2600:40:27 อย่าง

00:40:2700:40:28 >> พออารมณ์ร้อน

00:40:2800:40:30 >> เรารู้แล้วว่าอ๋อที่มาของเราอ่ะมันไม่ใช่

00:40:3000:40:32 ว่าตัวเราเป็นคนนิสัยไม่ดี

00:40:3200:40:34 >> คือมันแค่เรารู้ว่าเราไม่ใช่คนนิสัยไม่ดี

00:40:3400:40:37 อ่ะมันจบละอย่างน้อยที่แน่ๆเราไม่ได้โทษ

00:40:3700:40:40 ตัวเองละเหมือนกับเฮ้ยเราเป็นคนแย่เนาะ

00:40:4000:40:42 >> แต่เรารู้แล้วเอ้ยมันมีที่มาว่าเรามีพลัง

00:40:4200:40:44 งานนึงในตัวเราที่เหมือนกับเราต้อง handle

00:40:4400:40:47 เค้าหน่อยแทนที่เราจะวิ่งหนีพลังงานนี้

00:40:4700:40:49 เพราะเขาเป็นตัวเราแล้วก็เปิดรับนี่คือ

00:40:4900:40:51 ที่มาของแกนหลักทั้งหมดอ่ะค่ะว่าทำไมเรา

00:40:5100:40:54 ต้องมาค้นพบตัวเองเพราะว่าค้นพบตัวเองของ

00:40:5400:40:57 เราในที่นี้เนี่ยเรามาจำแนกส่วนเลยอ่ะว่า

00:40:5700:41:00 เรามีอะไรบ้างที่เราหลบซ่อนอยู่ที่เราไม่

00:41:0000:41:03 อยากรับรู้ที่เราไม่อยากให้ใครเห็นอย่าง

00:41:0300:41:05 ประสบการณ์นะคะที่ผ่านมาเนี่ยคนที่เข้ามา

00:41:0500:41:07 หาเนี่ยเขาจะต้องมีจุดเปลี่ยนก่อนหรือบาง

00:41:0800:41:11 ครั้งเขามีคำถามกับตัวเองว่าทำไมเขามีอ่า

00:41:1100:41:15 นิสัยแบบนี้ทำไมเขามีความกลัวหรือว่ามี

00:41:1500:41:17 ความไม่มั่นใจอะไรข้างในที่มันเหมือนกับ

00:41:1700:41:19 มันตะขิดตะขวงอยู่ในใจคือมันมีบางคนที่

00:41:2000:41:20 เขากลัว

00:41:2000:41:21 >> อ

00:41:2100:41:23 >> เขาจะมีความกลัวบางอย่างที่เขาอธิบายไม่

00:41:2300:41:23 ได้

00:41:2300:41:23 >> ค่ะ

00:41:2400:41:27 >> แล้วพอมาถึงเขาจะบอกว่าเนี่ยเขาเนี่ยไม่

00:41:2700:41:30 ชอบปฏิเสธคนสมมติอยากเนอะน้องถามเออแล้ว

00:41:3000:41:32 ทำไมเขาจะค่อยๆเล่าให้ฟังไปเรื่อยๆคือ

00:41:3200:41:34 เวลาดูดาวแบบเนี้ยค่ะเราจะไม่นีจะไม่พูด

00:41:3400:41:35 คนเดียว

00:41:3500:41:37 >> ไม่ใช่เหมือนแบบมาพูดแล้วแบบคนนั่งฝั่ง

00:41:3700:41:39 แล้วเหมือนแบบคอยเช็คว่าแบบเธอแม่นเธอไม่

00:41:3900:41:41 แม่นจริงไม่จริงคือมันจะไม่มีอะไรที่มัน

00:41:4100:41:43 เกี่ยวกับเรื่องของความแม่นยำเลยมันเป็น

00:41:4300:41:45 อะไรที่เราเดินทางไว้ด้วยกัน

00:41:4500:41:47 >> เวลาเราเอิ่อย่างเคสอย่าเงี้ยก็อย่างอเขา

00:41:4700:41:50 บอกว่าเค้าเนี่ยไม่กล้าที่จะที่จะปฏิเสธ

00:41:5000:41:53 ผู้คนไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรพอเราดูดาว

00:41:5300:41:56 ปรากฏว่าเา้ามีดาวที่หลบมุมอยู่อย่างของ

00:41:5600:41:59 ชมเนี่ยดาวพุทธคือเด่นมากคือสามารถที่จะ

00:41:5900:42:02 คิดทำสามารถที่จะexpนตัวเองออกไปได้คือ

00:42:0200:42:02 สามารถที่จะ

00:42:0200:42:04 >> แล้วพุนี่คือเรื่องสื่อสารเหรอคะ

00:42:0400:42:06 >> สื่อสารทั้งหมดใช่ค่ะแต่ดาวของคนๆนี้

00:42:0600:42:08 เนี่ยดันกลายเป็นว่าดาวของเขาเนี่ยดาว

00:42:0800:42:11 พุทธเนี่ยหลบมุมอยู่คือทำองศาในรูปแบบที่

00:42:1100:42:14 เหมือนกับมันเหลือบอยู่ข้างในแล้วทำให้

00:42:1400:42:16 เขาไม่สามารถที่จะเปล่งแม้แต่จะเปล่งพลัง

00:42:1600:42:18 งานนี้ออกไปได้

00:42:1800:42:20 >> ทีนี้เนี่ยเขาไม่เคยเข้าใจเรู้สึกว่าเขา

00:42:2000:42:23 เป็นคนที่แย่แบบเหมือนกับมันมีข้อเสีย

00:42:2300:42:26 >> แล้วก็หาคำตอบไม่ได้พอแค่มาเห็นดาวว่าแบบ

00:42:2600:42:28 อ๋อดาวพุทธเค้าอ่ะมันเป็นดาวพุทธที่มัน

00:42:2800:42:31 หลบอยู่นะแล้วมันทำให้เหมือนพลังงานที่

00:42:3100:42:33 เขาจะเปล่งเสียงออกไปมันกลายเป็นเปล่ง

00:42:3300:42:35 เข้ามาในตัวเองคือเหมือนกับว่ามันทวนกลับ

00:42:3500:42:38 มาหมดแค่เราอธิบายเขาแค่เนี้ยว่าแบบโอเค

00:42:3800:42:40 เริ่มค่อยๆลองแบบจริงๆแล้วเนี่ยมันสอนให้

00:42:4000:42:41 เาไปร้องเพลง

00:42:4100:42:43 >> คือเหมือนว่าลองแบบลองแนะนำเอ่ะค่ะ

00:42:4300:42:44 >> คาราโอเกะ

00:42:4400:42:47 >> ไปเปล่งเสียงใช่ลองเปล่งเสียงโดยใช้ความ

00:42:4700:42:49 กล้าของตัวเองเนี่ยที่จะนำเอาเสียงตัวเอง

00:42:4900:42:52 ออกมาแล้วเขาก็ลองไปฝึกทำดูปรากฏว่าพอเ

00:42:5200:42:55 ฝึกทำแล้วเบอกเออมันแปลกมากเลยอ่ะว่าพอ

00:42:5500:42:58 ต่อไปเขาจะพูดอะไรอ่ะมันเกิด flow บาง

00:42:5800:43:00 อย่างที่เหมือนกับทำให้เขาสามารถสื่อสาร

00:43:0000:43:02 ได้โดยที่ปกติมันจะเหมือนกับเคยมีนะคะนึก

00:43:0300:43:05 ว่าคนที่supรสแล้วไม่กล้าพูดเ่ะมีค่อน

00:43:0500:43:07 ข้างเยอะมากเลยเหมือนกับพอมีอะไรเกิดขึ้น

00:43:0700:43:10 แล้วแทนที่จะอยากจะอธิบายตัวเองอธิบายไม่

00:43:1000:43:13 ได้ละเก็บแล้วคนที่เก็บเนี่ยเยอะมากมัน

00:43:1300:43:16 เลยทำให้คนเปัญหาแล้วก็ depress ไม่

00:43:1600:43:19 สามารถเอาพลังงานตัวเองออกจากตัวได้เนี่ย

00:43:1900:43:21 เราแค่บอกเขาแค่เนี้ยแล้วลองให้เขาแนะนำ

00:43:2100:43:23 ให้เขาไปทำในสิ่งที่เรารู้สึกว่ามันเหมาะ

00:43:2300:43:24 กับเขาอ

00:43:2400:43:27 >> ปรากฏว่ามันได้ผลมากๆแล้วเขาก็พร้อมที่จะ

00:43:2700:43:31 เริ่มที่จะแสดงออกในการสื่อสารออกไปอะไร

00:43:3100:43:33 เงี้ยค่ะเป็นการมันเรื่องของเสียงพี่นี

00:43:3300:43:37 เคยมีแบบมีฟีดแบคหรือว่ามีคนที่แบบว่าบอก

00:43:3700:43:38 ว่าเอ้ย

00:43:3800:43:42 >> อมันก็โหรศาสตร์มันก็เหมือนเรื่องของการ

00:43:4200:43:44 ดูดวงเรื่องของการมูเรื่องของการอะไรที่

00:43:4400:43:46 แบบมันไม่ค่อยเป็น scientific เท่าไหร่

00:43:4600:43:46 อ่ะ

00:43:4600:43:46 >> อือฮึ

00:43:4600:43:48 >> ที่นี่มีความคิดเห็นกับเรื่องนี้ยังไงฮะ

00:43:4800:43:50 >> โอเคคือจริงๆต้องบอกก่อนนะว่าบ้านเรา

00:43:5000:43:53 เนี่ยใช้คำว่ามูในรูปแบบที่แบบแต่ละคนน่า

00:43:5300:43:55 จะเข้าใจกันแตกต่างกัน

00:43:5500:43:57 >> แต่ที่แน่ๆเนี่ยเวลาเรานึกถึงคำว่า

00:43:5700:44:00 มูเตูเนี่ยมันเหมือนกับว่าเราเน้นใน

00:44:0000:44:02 เรื่องของสิ่งที่เราเชื่อแล้วเรามองไม่

00:44:0200:44:04 เห็นถูกมั้คะคืออะไรก็ตามที่เรามันเกิน

00:44:0500:44:07 เลยสายตาที่เราเข้าใจเนี่ยเราจะเน้นคำว่า

00:44:0700:44:10 มูแต่ว่าคือสิ่งที่นีนำมาวันนี้นะคะแล้ว

00:44:1000:44:12 ก็ที่เรามาแชร์กันวันนี้เนี่ยมันเป็น

00:44:1200:44:15 โหรศาสตร์ที่มันอิงกับการเข้าใจตัวเองใน

00:44:1500:44:18 แง่ของบุคลิกภาพแล้วก็ในแง่ของที่มันเอา

00:44:1800:44:20 จิตวิทยาเนี่ยเข้ามาผสมด้วยคือนีมองว่า

00:44:2000:44:22 จริงๆแล้วมันจะมูหรือไม่มูอ่ะมันขึ้นอยู่

00:44:2200:44:25 กับเราคือเราจะมองว่ามูก็ได้เราจะมองว่า

00:44:2500:44:28 ไม่มูก็ได้แต่ว่าที่แน่ๆเนี่ยถ้าเกิด

00:44:2800:44:30 สมมุติว่าคนๆนั้นเนี่ยศึกษาโหรศาสตร์ทาง

00:44:3000:44:33 ตะวันตกแล้วนำเอาจิตวิทยาเข้ามาช่วยในการ

00:44:3300:44:36 เข้าใจตัวเองมากขึ้นเนี่ยมันจะทำให้เขา

00:44:3600:44:38 เริ่มเห็นความเป็นจริงของตัวเองค่ะ

00:44:3800:44:43 >> ความเป็นที่เราในการที่ศึกาเราไม่ได้ของ

00:44:4300:44:47 ตัวอย่างว่ารู้แล้วว่ามีดาวศุกร์เด่นสม

00:44:4700:44:49 อย่างเงี้ยแล้วกลายเป็นว่าบางคนถ้าเกิดพอ

00:44:4900:44:51 รู้อย่างงี้ปุ๊บกลายเป็นเฮ้ยฉันคือดาว

00:44:5100:44:53 ศุกร์ฉันคือดาวศุขนั่นเองฉันจะต้องไปไหว้

00:44:5300:44:55 ดาวศุกร์แล้วเดี๋ยววันนี้ฉันต้องไปแบบจุด

00:44:5500:44:56 ธูปแบบขอดาวศุขอะไรเงี้ย

00:44:5600:44:59 >> เนี่ยมันคือมันคือเราอ่ะดันใช้ศาสตร์ที่

00:44:5900:45:01 แทนที่จะเข้าใจตัวเองกลายเป็นผ่านความที่

00:45:0100:45:04 เป็นความเชื่อมันก็กลายเป็นว่าคนๆนี้ใช้

00:45:0400:45:07 พลังในแง่ของแบบความเชื่อในการที่มาเข้า

00:45:0700:45:09 ใจดวงดาเรามันขึ้นอยู่กับตัวเราว่าเราจะ

00:45:0900:45:12 มองคำว่ามูยังไงแล้วเราจะเชื่อแบบไหนแล้ว

00:45:1200:45:15 เราจะปฏิบัติตัวเองผ่านศาสตร์เหล่านั้น

00:45:1500:45:16 ยังไงอะไรเงี้ยค่ะมากกว่า

00:45:1700:45:18 >> อืมันก็เหมือนอย่างที่พี่นีบอกนะมันเป็น

00:45:1800:45:21 เรื่องมันเป็นเรื่องของสมดุลน่ะเนาะ

00:45:2100:45:23 เหมือนกับว่าเรารู้ว่าเอ้ยเราได้รับ

00:45:2300:45:24 อิทธิพล

00:45:2400:45:26 >> ของดวงดาวนี้แล้วทำให้เรามีพลังอันนี้

00:45:2600:45:28 แล้วเราจะ

00:45:2800:45:32 เราจะนำพลังอันเนี้ไปใช้ให้เป็นประโยชน์

00:45:3200:45:35 กับตัวเองยังไงหรือว่าถ้าเรามีมันมากเกิน

00:45:3500:45:37 ไปเราจะเบี่ยงเบนหรือว่าเราจะเอาพลังนั้น

00:45:3700:45:40 ไปไปใช้กับอะไรอย่างอื่นอะไรเงี้ยเนาะ

00:45:4000:45:42 >> เนี่ยตั้งแต่คุยมาคือชมเข้าใจแล้วตั้งแต่

00:45:4200:45:45 วินาทีแรกที่ชมบอกชมไม่เข้าใจเลยตอนนี้ชม

00:45:4500:45:46 เข้าใจแล้ว

00:45:4600:45:47 >> โอเคเข้าใจ

00:45:4700:45:48 >> ใช่ค่ะถูกต้องเลย

00:45:4800:45:50 >> วันนี้นะคะก็ได้ความรู้ดีๆเยอะเลยนะคะ

00:45:5000:45:54 แล้วก็สำหรับใครนะคะที่เอ่อมีข้อสงสัยนะ

00:45:5400:45:56 คะอยากจะให้ชมเนี่ยทำคเทนเกี่ยวกับเรื่อง

00:45:5600:45:58 สุขภาพเรื่องไหนนะคะแชร์มาบอกกันได้เลย

00:45:5800:46:01 ค่ะหรือว่าดูคเทนนี้นะคะจบแล้วเนี่ยชอบ

00:46:0100:46:03 อะไรหรือว่าไม่ชอบอะไรเนี่ยนะคะก็เม้นต์

00:46:0300:46:05 มาบอกกันได้เลยค่ะเพราะว่ารายการเรานะคะ

00:46:0600:46:08 เราอยากที่จะพัฒนานะคะแล้วก็ปรับปรุงราย

00:46:0800:46:10 การให้ดียิ่งๆขึ้นไปนะคะแล้วก็จะได้มี

00:46:1000:46:13 สุขภาพที่ดีไปด้วยกันค่ะและที่สำคัญนะคะ

00:46:1300:46:15 ฝากกดไลค์กดแชร์นะคะแล้วก็กด Subscribe

00:46:1500:46:17 เป็นกำลังใจให้กับช่อง Life Do ของเรา

00:46:1700:46:21 ด้วยนะคะและปลายปีนี้ค่ะเราจะมีงานใหญ่นะ

00:46:2100:46:23 คะเพื่อคนรักสุขภาพนะคะ Life Expo ค่ะก็

00:46:2300:46:26 จะเป็นงานมหกรรมนะคะชีวิตแล้วก็สุขภาพนะ

00:46:2600:46:29 คะที่ครบวงจรที่สุดเลยนะคะก็ฝากติดตาม

00:46:2900:46:29 ด้วยก็แล้วกัน

00:46:2900:46:36 [เพลง]