00:00:00 → 00:00:04 สำหรับเรื่องนิ่วนะครับ งานวิจัยให้ ผลตรงข้ามจากสิ่งที่คนกังวลกันเลยครับ
00:00:04 → 00:00:10 สีจริงๆแล้วก็ไม่ใช่สีธรรมชาติของชา แต่เป็น สีที่เติมเข้าไปคือสีเหลือง FD&C หมายเลข 6
00:00:10 → 00:00:16 แล้วสีเหลือง FD&C หมายเลข 6 อันนี้ อันตรายหรือเปล่า วันนึงคนเราไม่ควรกิน
00:00:16 → 00:00:23 น้ำตาลเกินเท่าไหร่ ยกตัวอย่าง WHO กำหนดว่า ไม่ควรกินเกินขั้นสูงคือ 10% ของแคลอรี่
00:00:23 → 00:00:28 ที่ร่างกายต้องการต่อวัน มีการศึกษาว่าน้ำตาล ทำให้เกิดนิ่วได้ครับ สวัสดีครับ
00:00:28 → 00:00:32 ขอต้อนรับเข้าสู่ หมออ๊อกบอกเล่า ชาไทยเป็น ชาที่มีประโยชน์เยอะเลยนะครับ แต่ช่วงหลังๆ
00:00:32 → 00:00:38 นี่ชาไทยถูกพูดถึงกันมากขึ้นในแง่ที่เป็น อันตรายกับสุขภาพ ก็เลยทำให้คนที่ชอบดื่ม
00:00:38 → 00:00:43 ชา หรือคนที่กำลังคิดจะดื่มรู้สึกไม่มั่นใจ คลิปนี้เรามาดูเรื่องข้อกังวลของชา
00:00:43 → 00:00:49 ที่มีผลกับสุขภาพกันครับ เช่นทำให้เป็น นิ่วในไต ชาไทยทำให้ไขมันในเลือดสูง หรือ
00:00:49 → 00:00:54 ว่าเป็นโรคหัวใจเป็นความดัน ทำให้เป็น เบาหวานหรือว่าทำให้เด็กสมาธิสั้น หรือแม้
00:00:54 → 00:01:00 กระทั่งสีในชาไทยที่อาจจะทำให้เกิดมะเร็ง ได้ ส่วนตัวผมเป็นคนที่ชอบดื่มชาไทยมาก
00:01:00 → 00:01:06 เลยครับ โดยเฉพาะชาเย็น ท่านใดที่ชอบดื่มชา แบบไหน ชาเย็น ชาดำเย็น หรือว่าชามะนาว
00:01:06 → 00:01:12 หรือว่าแบบอื่นๆ ก็ลองเขียนมาคุยหรือว่ามาแชร์ กันนะครับ ผมขอเริ่มที่เรื่องนิ่วในไตก่อน-
00:01:12 → 00:01:17 เลยครับ ทำไมคนถึงกังวลเรื่องนี้ ก็เพราะ ว่าในชาเนี่ยมีสารที่ชื่อว่าออกซาเลต
00:01:17 → 00:01:22 ซึ่งสารตัวนี้สามารถจับกับแคลเซียม กลาย เป็นสารที่มีชื่อว่าแคลเซียมออกซาเลต
00:01:22 → 00:01:29 ตกตะกอนในไตได้ และถ้ายิ่งเติมนมเข้าไปแล้ว นะครับ นมมีแคลเซียม แคลเซียมก็จะเยอะขึ้น
00:01:29 → 00:01:34 ก็เลยยิ่งเพิ่มโอกาสการเกิดนิ่วเข้าไปอีก เขาว่าอย่างงั้นนะครับ เดี๋ยวเรามาค่อยๆดู
00:01:34 → 00:01:39 เรื่องนี้ทีละประเด็นกันครับ เริ่มที่ ออกซาเลตในชาก่อน ชาแต่ละแบบก็มีปริมาณ
00:01:39 → 00:01:46 ออกซาเลตที่แตกต่างกัน ชาไทยจัดอยู่ใน กลุ่มชาดำมีออกซาเลตมากที่สุดถ้าเราเอาชาดำ
00:01:46 → 00:01:53 ถุงนึงที่หนักประมาณ 2.4 กรัมมาชงก็จะ มีออกซาเลตโดยเฉลี่ยประมาณ 12 มิลลิกรัม
00:01:53 → 00:01:57 จริงๆแล้วปริมาณออกซาเลตก็ไม่ได้สูงมาก เมื่อเทียบกับการกินดาร์กช็อกโกแลตหรือ
00:01:57 → 00:02:03 ว่าแอลมอนในปริมาณน้ำหนักที่เท่ากัน แต่คนก็ยังกังวลเพราะว่าความเป็นชา คนทั่วไป
00:02:03 → 00:02:09 กินได้เยอะกว่าแล้วก็บ่อยกว่า บ่อยกว่าการกิน พวกช็อกโกแลตหรือว่าแอลมอน สำหรับ
00:02:09 → 00:02:13 เรื่องนิ่วเนี่ยนะครับ งานวิจัยให้ผลตรงข้าม จากสิ่งที่คนกังวลกันเลยครับ มีการ-
00:02:13 → 00:02:20 ศึกษาในคน 10 คนดื่มชาดำวันนึง 1 ลิตรครึ่ง คือถ้าคิดเป็นถ้วย ถ้วยใหญ่หน่อย ถ้วยละ
00:02:20 → 00:02:26 240 ซีซี ก็ดื่มประมาณวันละ 6 ถ้วยกว่า ให้ดื่ม 5 วันติด ถ้าคำนวณปริมาณออกซาเลต
00:02:26 → 00:02:33 ที่กินเข้าไปนะครับ ก็ประมาณวันละ 86 มิลลิกรัม คือถ้าคิดคร่าวๆก็ประมาณกินแอลมอน
00:02:33 → 00:02:39 16-17 เม็ด เสร็จแล้วเขาก็เก็บปัสสาวะไปตรวจ ปรากฏว่าในปัสสาวะก็ไม่ได้มีออกซาเลต
00:02:39 → 00:02:44 เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะสำคัญ เขาจึงสรุปว่า การดื่มชาไม่ได้เพิ่มความเสี่ยงของ
00:02:44 → 00:02:52 การเกิดนิ่ว อีกการศึกษานึงครับกับคนจีน ห้าแสนคน การศึกษานี้เขาทดสอบชาดำกับ
00:02:52 → 00:02:58 ชาเขียวครับ พบว่าการดื่มชาทั้ง 2 แบบไม่ได้ ทำให้เกิดนิ่วมากขึ้น แถมทำให้คนไข้นอน
00:02:58 → 00:03:04 โรงพยาบาลเพราะเป็นนิ่วลดลงอีก สำหรับใน เรื่องนี้นะครับ ชาเขียวได้ผลดีกว่าชาดำด้วย
00:03:04 → 00:03:09 ทำไมถึงเป็นอย่างนั้นครับทั้งๆที่ชา มีออกซาเลต แต่ไม่ได้ทำให้เกิดนิ่วแถมบาง-
00:03:09 → 00:03:14 การศึกษายังพบว่าลดโอกาสการเจ็บป่วยจาก การเป็นนิ่ว ด้วยเรื่องนี้ก็อธิบายได้จาก
00:03:14 → 00:03:20 การดื่มชาก็เหมือนกับการดื่มน้ำอย่างนึง นะครับ ทำให้ปัสสาวะไม่เข้มข้น โอกาสเกิดนิ่ง
00:03:20 → 00:03:25 ก็เลยลดลง อีกอย่างนึงพบว่าในปัสสาวะ ของคนที่ดื่มชาเนี่ยจะมีสารที่ชื่อว่าซิเตรด
00:03:25 → 00:03:30 เพิ่มขึ้น ซึ่งสารตัวนี้เป็นตัวที่ช่วย ลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วอีกทางนึงด้วย
00:03:30 → 00:03:37 นี่คือเหตุผลนะครับว่า ชาหรือว่าชาดำมี ออกซาเลตก็จริง แต่การกินแบบปกติในคนปกติ
00:03:37 → 00:03:41 ก็ไม่ได้ทำให้เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่ว แต่ต้องเน้นย้ำนะครับว่า การศึกษาที่-
00:03:41 → 00:03:45 เกี่ยวกับนิ่วสำหรับคนที่เป็นนิ่วหรือว่า มีความเสี่ยงของการเกิดนิ่วอยู่แล้ว
00:03:45 → 00:03:50 การกินชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ากินเยอะๆก็ยัง มีโอกาสเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่ว
00:03:50 → 00:03:57 เพิ่มขึ้นได้ครับ ถ้าเราเติมนมเข้าไปในชาล่ะ ในนมมีแคลเซียม การเพิ่มแคลเซียมเข้าไป
00:03:57 → 00:04:02 จะเป็นการเพิ่มโอกาสการเป็นนิ่วไหม คือ แคลเซียมที่เราได้จากอาหารการกินกับ
00:04:02 → 00:04:06 แคลเซียมที่เราตั้งใจกินเข้าไปเช่น แคลเซียม จากอาหารเสริม การดูดซึมไม่เหมือนกัน
00:04:06 → 00:04:12 ครับ แคลเซียมในอาหารไม่ได้เพิ่ม ความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไตครับ แล้วก็
00:04:12 → 00:04:18 แคลเซียมในอาหารจะไปจับกับออกซาเลตใน ลำไส้ ทำให้ออกซาเลตถูกทิ้งไปกับอุจจาระ
00:04:18 → 00:04:23 ในทางตรงข้ามครับ การกินแคลเซียมเสริมจะ เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วได้ มีงานวิจัย
00:04:23 → 00:04:29 กับผู้หญิงเก้าหมื่นเก้าพันกว่าคน แล้วก็ผู้ชาย สี่หมื่นห้าพันกว่าคน พบว่าแคลเซียมในอาหาร
00:04:29 → 00:04:36 จะลดความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไตได้ประ-มาณ 34% ในขณะที่แคลเซียมในอาหารเสริมจะ
00:04:36 → 00:04:41 เพิ่มความเสี่ยงของการเกิดนิ่วในไต 20% เพราะฉะนั้นชาถ้าใส่นม คือนมจริงๆนะครับ
00:04:41 → 00:04:48 ไม่ใช่ครีมเทียมก็ยังโอเคครับ ปัญหาอยู่ ตรงที่น้ำตาลเลยครับ ในคลิปกินหวานผมได้
00:04:48 → 00:04:54 เล่าว่า วันนึงคนเราไม่ควรกินน้ำตาลเกิน เท่าไหร่ ยกตัวอย่าง WHO กำหนดว่าไม่ควร
00:04:54 → 00:05:00 กินเกินขั้นสูงคือ 10% ของแคลอรี่ที่ร่างกาย ต้องการต่อวัน มีการศึกษาว่าน้ำตาล
00:05:00 → 00:05:06 ทำให้เกิดนิ่วได้ครับ ถ้ากินน้ำตาล 13.2 % ของแคลอรี่ก็จะเพิ่มความเสี่ยง
00:05:06 → 00:05:13 ของการเป็นนิ่วในไตได้ เพราะฉะนั้นถ้าเรา กินชาหรือชาไทย จะใส่หรือไม่ใส่นมก็ตาม
00:05:13 → 00:05:18 ก็ควรจะระวังน้ำตาลที่เติมด้วยนะครับ และ แน่นอน ถ้าเราเติมน้ำตาลหรือว่าใส่ครีมเทียม
00:05:18 → 00:05:25 พวกนี้ก็เป็นสาเหตุของโรคอื่นๆที่จะ ตามมาได้อีก เช่นโรคอ้วน เบาหวาน หรือว่า
00:05:25 → 00:05:31 โรคหัวใจเป็นต้น ปกติเวลาผมสั่งชานะครับ ผมก็จะเลือกเป็นไม่ใส่น้ำตาลเลย หรือว่าจะใส่่
00:05:31 → 00:05:37 แค่ 10 เต็มที่ก็ 20% ก็เลยไม่ทราบว่า ทุกท่านวันนึงดื่มชากี่ถ้วยครับ แล้วก็มีการ
00:05:37 → 00:05:44 ใส่นมใส่น้ำตาลมากน้อยแค่ไหน เขียนมาเล่า กันนะครับ ต่อมาก็คือเรื่องของคาเฟอีนในชา
00:05:44 → 00:05:50 ถ้าพูดถึงปริมาณคาเฟอีนในชาแล้ว ชาที่มี คาเฟอีนสูงสุดก็คือมัทฉะ รองลงมาก็คือพวก
00:05:50 → 00:05:56 ชาดำ คาเฟอีนคือสารที่ทำให้เรารู้สึกตื่นตัว ไม่รู้สึกง่วง แต่ในคนที่ไวกับคาเฟอีน
00:05:56 → 00:06:01 นะครับ หรือคนที่กินคาเฟอีนมากเกินไปก็อาจ จะทำทำให้เกิดอาการข้างเคียงได้ เช่นมีอาการ
00:06:01 → 00:06:07 กระวนกระวาย นอนไม่หลับ หัวใจเต้นเร็ว บางคนอาจจะเต้นผิดจังหวะ หรืออาจจะมีอาการ
00:06:07 → 00:06:13 กรดไหลย้อนได้ สำหรับคนที่กินคาเฟอีนเกิน วันละ 400 มิลลิกรัมหรือคร่าวๆก็คือชาดำ
00:06:13 → 00:06:19 ประมาณวันละ 5-10 ถ้วย ก็จะเสี่ยงการเกิดกระดูกพรุนได้อีก ต่อมาก็คือประเด็นเรื่องของสี
00:06:19 → 00:06:25 ในชาไทยครับ ชาไทยมีสีที่เป็นเอกลักษณ์คือ สีส้ม ซึ่งสีจริงๆแล้วก็ไม่ใช่สีธรรมชาติ
00:06:25 → 00:06:32 ของชาแต่เป็นสีที่เติมเข้าไปคือสีเหลือง FD&C หมายเลข 6 สีนี้มีชื่ออื่นๆอีก
00:06:32 → 00:06:37 เยอะแยะเลยนะครับ ตามที่แสดงขึ้นมาตรงนี้ สีที่เติมเข้าไปเป็นสีที่หลายประเทศใน
00:06:37 → 00:06:44 ยุโรปแบนไม่ให้ใช้ บางประเทศก็ให้ใช้แต่ ให้ใช้ในปริมาณที่จำกัด สำหรับ WHO ก็ยัง
00:06:44 → 00:06:49 ให้ใช้ได้ในบางผลิตภัณฑ์ครับ แต่ก็กำหนด ว่าไม่ควรกินเกินวันละ 0-4 มิลลิกรัมต่อ
00:06:49 → 00:06:56 น้ำหนักตัว 1 กก ทำให้ชาไทยหลายๆแบรนด์ที่ ไปขายต่างประเทศก็ใช้สีธรรมชาติมาแทน
00:06:56 → 00:07:02 เพราะว่าสีส้มกลายเป็นสีเอกลักษณ์ของชาไทย ไปแล้ว สีที่ใช้แทนก็อย่างเช่นเบต้าแคโรทีน
00:07:02 → 00:07:08 หรือว่าสารสกัดอานัตโตะที่ให้สีเหลืองส้ม เหมือนกัน แล้วสีเหลือง FD&C หมายเลข 6 อันนี้
00:07:08 → 00:07:13 อันตรายหรือเปล่า พวกสีสังเคราะห์นะครับ มักมีปัญหาว่าทำให้เกิดมะเร็งและหลายๆสี
00:07:13 → 00:07:19 ที่ผ่านมาก็ถูกถอดออกจากตลาด ไม่อนุญาต ให้ใช้เพราะทำให้เกิดมะเร็งจริงๆ สำหรับ
00:07:19 → 00:07:24 สีตัวนี้ก็มีความกังวลเหมือนกันครับว่าอาจ จะทำให้เกิดมะเร็งในไต มะเร็งต่อหมวกไต
00:07:24 → 00:07:29 หรือว่ามะเร็งอื่นๆได้ เพราะว่าในสัตว์ทดลอง สีตัวนี้ทำให้เกิดมะเร็งได้ โดยเฉพาะ
00:07:29 → 00:07:36 ถ้าใช้ในโดสสูงๆ แต่ยังไงก็ตาม การใช้ใน ระดับปกติหรือการใช้ในคนก็ยังไม่มีหลักฐาน
00:07:36 → 00:07:42 ว่าจะทำให้เกิดมะเร็งอะไร สำหรับเรื่อง ของสมาธิสั้นก็มีการศึกษานะครับว่า สีผสม-
00:07:42 → 00:07:49 อาหารหลายสีรวมทั้งสีตัวนี้ด้วยสัมพันธ์กับ พฤติกรรมของเด็กที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึง
00:07:49 → 00:07:54 เรื่องสมาธิสั้นด้วย พบว่าถ้าให้เด็กหลีกเลี่ยง สีตัวนี้นะครับ เด็กก็จะกลับมาปกติได้
00:07:54 → 00:07:59 เพราะฉะนั้นถ้ากังวลเรื่องของสมาธิสั้น นะครับ คำแนะนำก็คือถ้าเด็กสมาธิสั้น
00:07:59 → 00:08:04 อยู่แล้วก็ควรหลีกเลี่ยง ส่วนเด็กคนอื่นๆ นะครับให้สังเกตว่าเด็กคนไหนมีพฤติกรรม
00:08:04 → 00:08:10 ที่เปลี่ยนแปลงไปหลังจากกินสีพวกนี้ ถ้ามี ก็คงต้องหลีกเลี่ยงเช่นกันครับ ก็หวังว่า
00:08:10 → 00:08:15 คลิปนี้จะทำให้ทุกท่านได้เข้าใจข้อกังวล ของชาไทยที่แชร์กันในเน็ตได้ดีมากขึ้น
00:08:15 → 00:08:20 สามารถปรับวิธีการกินได้อย่างมั่นใจ หรือ ปรับลดปริมาณน้ำตาลหรือครีมเทียมเพื่อ
00:08:20 → 00:08:26 ประโยชน์กับสุขภาพ รบกวนช่วยแชร์คลิปนี้ ให้กับคนที่ชอบดื่มชาหรือว่าดื่มชาเป็น
00:08:26 → 00:08:31 ประจำด้วยนะครับ สำหรับใครที่มีความเห็น ข้อเสนอแนะอะไรก็เขียนมาบอกกันได้เลย
00:08:31 → 00:08:41 พบกันใหม่คลิปหน้าครับ สวัสดีครับ [เพลง]