00:00:06 → 00:00:09 สวัสดีครับผมวีระพงษ์ทวีศักดิ์ดิฉันสุด
00:00:09 → 00:00:13 ธิดาพรปริปและนี่คือศัลยกรรมความสุข
00:00:13 → 00:00:16 รายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความสุขมาก
00:00:16 → 00:00:19 ขึ้นมีความทุกข์น้อยลง
00:00:19 → 00:00:22 คุณผู้ฟังครับในช่วงเวลาที่ผ่านมาเนี่ย
00:00:22 → 00:00:26 เราจะได้ยินประโยคอยู่ประโยคหนึ่งที่คน
00:00:27 → 00:00:30 กลุ่มหนึ่งมักจะพูดกับคนอีกกลุ่มหนึ่ง
00:00:30 → 00:00:33 เป็นคำที่ได้ยินบ่อยมากแต่ว่าได้ยินแล้ว
00:00:33 → 00:00:36 เราจะรู้สึกยังไงมีความคิดเห็นยังไงหรือ
00:00:36 → 00:00:39 ทำให้เกิดปฏิกิริยายังไงเนี่ยก็ค่อยว่า
00:00:39 → 00:00:42 กันอีกทีนึงประโยคที่ว่านี้ก็คือไอ้เด็ก
00:00:42 → 00:00:43 สมัยนี้
00:00:43 → 00:00:47 [เพลง]
00:00:47 → 00:00:48 เลยครับพี่อ้อย
00:00:48 → 00:00:52 ได้ยินไอ้เด็กสมัยนี้แล้วรู้สึกยังไงได้
00:00:52 → 00:00:58 ยินบ่อยนะคะช่วงนี้ได้ยินบ่อย
00:00:58 → 00:01:03 ว่าไม่ค่อยพออกพอใจ
00:01:03 → 00:01:06 ว่าเด็กสมัยนี้อาจจะมีพฤติกรรมอะไรบาง
00:01:06 → 00:01:10 อย่างที่ไม่โอเคอ่ะใช่
00:01:10 → 00:01:14 คนที่พูดแน่นอนเลยคนที่พูดคำว่าไอ้เด็ก
00:01:14 → 00:01:18 สมัยนี้แสดงว่าคนที่พูดเนี่ยไม่ใช่เด็ก
00:01:18 → 00:01:22 สมัยนี้แน่ไม่ใช่แล้วเด็กสมัยนี้ก็บอกว่า
00:01:22 → 00:01:26 คนที่พูดอ่ะไอ้มนุษย์ลุงเอ้ย
00:01:26 → 00:01:28 มาว่าเขา
00:01:28 → 00:01:33 วันนี้เนี่ยผมนึกถึงคำนี้เพราะว่าผมได้มี
00:01:33 → 00:01:36 โอกาสได้รับโจทย์โจทย์หนึ่งมาได้ยินคำถาม
00:01:36 → 00:01:40 คำถามนึงมาบอกสมัยนี้เนี่ยมันจะมีปัญหา
00:01:40 → 00:01:42 เรื่องเกี่ยวกับเขาเรียกว่า Generation
00:01:42 → 00:01:45 Grab คือความต่างระหว่างวัย
00:01:45 → 00:01:47 แล้วเราจะทำยังไงดี
00:01:47 → 00:01:50 เพราะฉะนั้นไอ้คำพูดที่ว่าเด็กสมัยนี้
00:01:50 → 00:01:53 เนี่ยมันก็เป็นผลที่เกิดขึ้นจากประเด็น
00:01:53 → 00:01:55 ความขัดแย้งระหว่าง
00:01:55 → 00:01:58 ระหว่างวัยนี่แหละใช่ค่ะระหว่างความต่าง
00:01:58 → 00:02:02 นี่แหละแต่ว่าแล้วก็ถามว่าเขาถามว่าเอ๊ะ
00:02:02 → 00:02:06 แล้วเราจะจัดการยังไงกับมันผมเชื่อว่าตอน
00:02:06 → 00:02:08 นี้เป็นตอนที่ผู้ฟังพอได้ยินปุ๊บเนี่ยไม่
00:02:08 → 00:02:11 รู้แหละผู้ฟังเนี่ยไม่ว่าจะเป็นคนยุคไหน
00:02:12 → 00:02:14 เนี่ยนะถ้าเป็นคนในยุคหนึ่งก็จะมีความสุข
00:02:14 → 00:02:18 อีกแบบนึงแต่ถ้าเป็นคนอีกวัยหนึ่งก็จะมี
00:02:18 → 00:02:22 ความรู้สึกอีกแบบนึงวันนี้เรามาเคลียร์
00:02:22 → 00:02:26 ประเด็นนี้กันไอ้เด็กสมัยนี้แต่ว่าทันที
00:02:26 → 00:02:29 ที่ผมได้ยินเนี่ยแล้วบอกว่าแล้วเราจะจัด
00:02:29 → 00:02:32 การยังไงกับเรื่องเรื่องความต่างระหว่าง
00:02:32 → 00:02:33 วัย
00:02:33 → 00:02:35 เราจะได้ไม่ต้องพูดว่าไอ้เด็กสมัยนี้
00:02:35 → 00:02:39 เนี่ยเราจะจัดการยังไงกับมันเราจะได้อยู่
00:02:39 → 00:02:41 กับ
00:02:41 → 00:02:46 ทุกยุคทุกสมัยแบบแบบไม่ขุ่นมัวใช่ครับผม
00:02:46 → 00:02:48 นึกถึงอะไรเลยพี่อ้อยผมนึกถึงประโยคหนึ่ง
00:02:48 → 00:02:52 ครับเป็นประโยคในภาษาอังกฤษ
00:02:52 → 00:02:55 ซึ่งเราได้ยินบ่อยมากสมัยนี้เราได้ยิน
00:02:55 → 00:02:57 บ่อยมากเวลาที่เราเดินทาง
00:02:57 → 00:03:00 สำเนียงผมอาจจะไม่ค่อยจะเท่าไหร่นะแต่ว่า
00:03:00 → 00:03:02 จะพยายามเลียนแบบที่เราได้ยินมานะ
00:03:02 → 00:03:07 เวลาบางครั้งเนี่ยเราเดินทางโดยรถไฟฟ้า
00:03:07 → 00:03:10 แล้วเวลาที่เราจะขึ้นรถไฟฟ้าเนี่ยพอรถไฟ
00:03:10 → 00:03:18 ฟ้ามาจอดปุ๊บ
00:03:18 → 00:03:21 [เพลง]
00:03:21 → 00:03:24 แต่สำเนียงเขาจะน่าฟังกว่านี้หน่อย
00:03:24 → 00:03:27 เพราะว่าเราจะได้ยินอันนี้ทุกสถานนี้เลย
00:03:27 → 00:03:29 ใช่ค่ะ
00:03:29 → 00:03:33 ก่อนที่เราจะขึ้นก่อนที่เราจะลงเราจะได้
00:03:33 → 00:03:34 ยินเนี่ย
00:03:34 → 00:03:36 ไอ้เนี่ยเขาเป็นคำเตือนที่บอกว่า
00:03:36 → 00:03:39 ให้เราระมัดระวัง
00:03:39 → 00:03:43 เด็กแก๊ป BTS ก็คือช่องว่างระหว่างรถไฟ
00:03:43 → 00:03:47 กับสถานีเพราะว่ามันจะต้องมีช่องว่างนะ
00:03:47 → 00:03:51 ครับเขาบอกว่าให้เราระมัดระวังผมก็เลย
00:03:51 → 00:03:55 เหมือนกับว่าอ๋อเลยนะครับว่าอ๋อ
00:03:55 → 00:03:59 คำประกาศนี้แท้ที่จริงแล้วเนี่ยก็คือวิธี
00:03:59 → 00:04:01 การที่เราจะใช้
00:04:01 → 00:04:04 ในการเผชิญหน้ากับประโยคนี้ไอ้เด็กสมัย
00:04:04 → 00:04:06 นี้เนี่ย
00:04:06 → 00:04:09 อันนี้คือวิธีเลยนะผมรู้สึกว่านี่คือวิธี
00:04:09 → 00:04:13 ที่เราจะใช้ในการเผชิญหน้ากับความต่าง
00:04:13 → 00:04:16 ระหว่างวัยหรือว่าแก๊ป Generation Grab
00:04:16 → 00:04:20 คำเตือนนี้ก็เตือนว่าให้ระมัดระวังมันจะ
00:04:20 → 00:04:24 มีช่องว่างระหว่างสถานีกับรถไฟใช่ไหมที่
00:04:24 → 00:04:27 ผมพบก็คืออ๋อแสดงว่าวิธีที่เราจะใช้ก็คือ
00:04:27 → 00:04:31 เราก็แค่ระมัดระวัง
00:04:31 → 00:04:35 ก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่
00:04:35 → 00:04:40 ก็คือให้เราระมัดระวังว่ามันมีช่องว่าง
00:04:40 → 00:04:44 ระหว่างรถกับสถานีนะทำเราไม่ระวังเราจะตก
00:04:44 → 00:04:46 ลงไปนะ
00:04:46 → 00:04:50 หรือเราจะสะดุดเพราะฉะนั้นเราจะไม่ตกลงไป
00:04:50 → 00:04:52 ในช่องนั้นเพราะว่าเคยมีข่าวนะ
00:04:52 → 00:04:56 มีคนที่ก้าวพลาดแล้วขาตกลงไป
00:04:56 → 00:04:58 ตกลงไปเสร็จอันนี้นี่ต่างประเทศตกลงไป
00:04:58 → 00:04:59 เสร็จปุ๊บ
00:04:59 → 00:05:04 เอาไม่ขึ้นน่ะ
00:05:04 → 00:05:06 เวลาขึ้นมันจะติด
00:05:06 → 00:05:10 คนทั้งสถานีต้องลงมานั้นเป็นๆคลิปสมัย
00:05:10 → 00:05:14 ก่อนผมเห็นผู้คนก็น่ารักมากเป็นออกมาเป็น
00:05:14 → 00:05:18 แบบช่วยกันใหญ่เลยช่วยกันโยกรถ
00:05:18 → 00:05:20 จนกระทั่งมันมีช่องว่างที่มันใหญ่ขึ้น
00:05:20 → 00:05:22 แล้วเขาก็เอาขาขึ้นมาได้
00:05:22 → 00:05:24 ที่ตกลงไปเพราะอะไร
00:05:24 → 00:05:29 เพราะไม่ระวังค่ะคือถึงแม้จะมีช่องว่าง
00:05:29 → 00:05:32 แต่ถ้าเราระมัดระวัง
00:05:32 → 00:05:34 เราจะไม่ตกลงไป
00:05:34 → 00:05:39 ง่ายๆแค่นั้นเลยนี่พี่วีกำลังจะบอกว่า
00:05:39 → 00:05:43 ที่เราพูดมาถึง Generation Grab คือมัน
00:05:43 → 00:05:49 มีมีแต่ยังไงก็มีแต่ให้ระวังให้ระวังถ้า
00:05:49 → 00:05:51 เราไม่ระมัดระวังเราก็จะตกลงไปแค่นั้น
00:05:51 → 00:05:57 แหละทีนี้ข้อที่ 1
00:05:57 → 00:06:00 แล้วถ้าเราระมัดระวังเนี่ยอันนี้พอพูดถึง
00:06:00 → 00:06:07 Grab ของสถานีอันนั้นระมัดระวังวัย
00:06:07 → 00:06:10 ข้อที่ 1 ถ้าเราระมัดระวังนะพูดง่ายๆก็
00:06:10 → 00:06:13 คือว่าใส่ใจ
00:06:13 → 00:06:15 ถ้าเราใส่ใจเนี่ย
00:06:15 → 00:06:23 ผมพบว่าเราจะเข้าใจใส่ใจก็จะเข้าใจค่ะ
00:06:23 → 00:06:26 ไอ้เด็กสมัยนี้ทำไมมันถึง
00:06:26 → 00:06:29 เรื่องหนี้นั่นนู่นนะคะ
00:06:29 → 00:06:32 คือไม่ระวังก็เลยไม่ใส่ใจไม่ใส่ใจก็เลย
00:06:32 → 00:06:35 ไม่เข้าใจเพราะไม่เข้าใจก็เลยไม่พอใจ
00:06:35 → 00:06:37 [เพลง]
00:06:37 → 00:06:41 เพราะเราไม่ใส่ใจแล้ว
00:06:41 → 00:06:46 ผมมาลองยกมาประเด็นนึงเลยตอนนี้เด็กสมัย
00:06:46 → 00:06:49 นี้เนี่ยนะนักเรียนสมัยก่อนพี่อ้อยเป็น
00:06:49 → 00:06:50 นักเรียนนะ
00:06:50 → 00:06:52 ตอนที่เราเป็นนักเรียนเรามีระเบียบเยอะ
00:06:52 → 00:06:57 ไหมเยอะค่ะอย่างเช่นเคยเป็นนักเรียน
00:06:57 → 00:07:00 เธออายุ 14 ด้วย
00:07:00 → 00:07:02 ผมก็เคย
00:07:02 → 00:07:06 แสดงว่าเราเคยเป็นเด็กมาก่อนใช่ใช่ค่ะคือ
00:07:06 → 00:07:09 ผมคิดว่าวิธีในการใส่ใจข้อที่ 1 นะก็คือ
00:07:09 → 00:07:13 ว่าลองนึกดูสมัยเราเป็นเด็ก
00:07:13 → 00:07:16 เราจะพบความจริงอะไรบางอย่างอย่างเช่นตอน
00:07:16 → 00:07:19 นี้นะผู้ใหญ่หลายคนจะไม่เข้าใจเด็กแล้ว
00:07:19 → 00:07:23 บอกว่าไอ้เด็กสมัยนี้นะมันชอบเรียกร้อง
00:07:23 → 00:07:26 เออเป็นนักเรียนแล้วก็อยากจะไว้ผมอิสระ
00:07:26 → 00:07:29 ไม่อยากจะแต่งชุดนักเรียนแล้วแต่เขาจะ
00:07:29 → 00:07:34 เรียกร้องนะแต่ถ้าเราลองนึกดูสมัยที่เรา
00:07:34 → 00:07:38 เป็นเด็กผมจำได้อย่างหนึ่งพี่อ้อยพอนึกดู
00:07:38 → 00:07:42 ว่าสมัยเราเป็นเด็กเฮ้ยเราก็คิดแบบเขา
00:07:42 → 00:07:46 จริงๆตัวเองก็คิดว่าตอนเป็นเด็กเนี่ยก็
00:07:46 → 00:07:49 ดื้อเหมือนกันนะคือบ้านเนี่ยจะแบบกรอบทุก
00:07:49 → 00:07:55 อย่างเลยค่ะไม่ให้ไปไหนเองอะไรคือจะมีรถ
00:07:55 → 00:07:58 มารับที่บ้านโรงเรียนโรงเรียนบ้านอย่าง
00:07:58 → 00:08:00 นี้ไม่ให้ไปเองไม่ให้ไปไหนเสาร์อาทิตย์
00:08:00 → 00:08:03 ไม่ให้ไปต้องอยู่บ้านเป็นอย่างนี้ก็มี
00:08:03 → 00:08:07 ดื้อแบบหนีไปว่ายน้ำบ้านเพื่อนบ้างอะไร
00:08:07 → 00:08:09 อย่างนี้
00:08:09 → 00:08:13 แสดงว่าสมัยก่อนนู้นนี่เราก็เคยเป็นไอ้
00:08:13 → 00:08:16 เด็กสมัยนี้ของผู้ใหญ่สมัยนู้นงงเว้ย
00:08:16 → 00:08:20 ฟังดูแล้วมันเหมือนจะงงนะพวกเราเองเนี่ย
00:08:20 → 00:08:24 ก็เคยเป็นเด็กสมัยนี้ของผู้ใหญ่สมัยโน้น
00:08:24 → 00:08:27 เออแล้วเขาก็อาจจะบอกว่าไอ้เด็กสมัยนี้
00:08:27 → 00:08:31 เหมือนกันเขาก็พูดกับเราว่าไอ้เด็กสมัย
00:08:31 → 00:08:32 นี้
00:08:32 → 00:08:33 ในสมัยนู้น
00:08:33 → 00:08:35 [เสียงหัวเราะ]
00:08:35 → 00:08:38 ผมพบว่าเคล็ดลับคืออันเนี้ยพี่อ้อย
00:08:38 → 00:08:40 ถ้าเราใส่ใจ
00:08:40 → 00:08:44 แล้วเราจะเข้าใจเด็กอย่างเรื่องเด็กเนี่ย
00:08:44 → 00:08:46 จะต้องตัดผมสั้น
00:08:46 → 00:08:49 เชื่อไหมว่าผมเนี่ยตอนเป็นเด็กนี่นะผม
00:08:49 → 00:08:52 ช่วงนี้เรื่องขำอยู่ในตัวเองนะคือ
00:08:52 → 00:08:54 เวลาที่ถูกมาบอกว่า
00:08:54 → 00:08:58 พวกเธอเนี่ยยังเป็นเด็กอยู่เลยตัดผมสั้น
00:08:58 → 00:09:01 ไม่ต้องกังวลตัดผมยาวจะไปหล่อนู่นนี่นั่น
00:09:01 → 00:09:05 ยังเป็นเด็กอยู่ตัดผมสั้นก็คือครูเขาพูด
00:09:05 → 00:09:08 อย่างนี้เราก็โอเคเราก็ไปตัดผมสั้น
00:09:08 → 00:09:12 แต่เราอ่ะอยากให้ผมยาวไหมอยากเออเรามี
00:09:12 → 00:09:13 ความรู้สึกว่า
00:09:13 → 00:09:17 อยากให้ผมยาวอยากแต่ว่าครูก็ให้เหตุผลว่า
00:09:17 → 00:09:20 ตัดผมสั้นเธอยังเป็นเด็กอยู่นะ
00:09:20 → 00:09:24 อีก 2 วันถัดมาครูก็ให้กันบ้างแล้วเราก็
00:09:24 → 00:09:26 เป็นประเภทผมมันเป็นเด็กแบบ
00:09:26 → 00:09:30 การบ้านเนี่ยนะต้องจวนจะส่งถึงจะทำ
00:09:30 → 00:09:33 เหมือนกันเลยเหมือนกัน
00:09:33 → 00:09:37 แล้วเราก็จะดองไว้ก่อนนะ
00:09:37 → 00:09:46 คะไม่ใกล้เวลาแล้วก็ไม่หยิบค่ะ
00:09:46 → 00:09:51 ทีนี้พอเราพอเราแบบไม่รู้จักหน้าที่ตัว
00:09:51 → 00:09:52 เองไง
00:09:52 → 00:09:55 เราก็ไม่ทำการบ้านอย่างเงี้ยครูจะมาบอก
00:09:55 → 00:09:59 ว่าทำไมพวกเธอถึงไม่ทำการบ้านนี่พวกเธอโต
00:09:59 → 00:10:01 เป็นผู้ใหญ่แล้วนะต้องมีความรับผิดชอบสิ
00:10:01 → 00:10:05 ผมก็นึกเอ๊ะตกลงเราก่อนยังบอกว่าเราเป็น
00:10:05 → 00:10:06 เด็กอยู่เลย
00:10:06 → 00:10:09 ตกลงนี่เราเป็นเด็กหรือเป็นผู้ใหญ่เนี่ย
00:10:09 → 00:10:13 เราเหมือนกับเราคิดแต่เราไม่ได้สับสนหรอก
00:10:13 → 00:10:14 แต่เราขำในใจว่า
00:10:14 → 00:10:17 สรุปแล้วเราเป็นเด็กหรือผู้ใหญ่
00:10:17 → 00:10:20 เวลาที่อยากให้เราทำอะไรบางอย่าง
00:10:20 → 00:10:23 ให้เราทำตาม store และก็บอกว่าเราเป็น
00:10:23 → 00:10:23 เด็ก
00:10:23 → 00:10:27 แต่พออยากให้เรามีความรับผิดชอบก็บอกว่า
00:10:27 → 00:10:29 เธอเป็นผู้ใหญ่แล้ว
00:10:29 → 00:10:34 คืออันนี้ผมก็คิดนะแต่ความที่เราคิดแต่
00:10:34 → 00:10:38 ตอนนั้นเราไม่พูด
00:10:38 → 00:10:40 เราไม่พูดเพราะอะไรเพราะว่าเราก็ถูก
00:10:40 → 00:10:43 เลี้ยงมาแบบนั้นเราถูกหลอกมาแบบนั้น
00:10:43 → 00:10:45 แต่ถามว่า
00:10:45 → 00:10:50 เพื่อนเราอ่ะมีไหมที่เขาพูด
00:10:50 → 00:10:52 น่าจะมี
00:10:52 → 00:10:55 เขาก็เป็นอย่างนั้นแล้วครูก็จะ
00:10:55 → 00:10:57 คิดว่าเขาเป็นอย่างโน้นอย่างนี้เป็นเด็ก
00:10:57 → 00:11:01 ดื้ออะไรเงี้ยเราคิดเราคิดแต่เราไม่พูด
00:11:01 → 00:11:05 สำหรับต่อหน้าครูเราก็เลยไม่ใช่เด็กดื้อ
00:11:05 → 00:11:09 แล้วก็เลยกลายเป็นว่าประเด็นที่สำคัญที่
00:11:09 → 00:11:11 ผมนึกถึงเรื่องนี้เพราะว่า
00:11:11 → 00:11:15 เวลาที่เราพูดถึงเด็กสมัยนี้แบบที่เขาพูด
00:11:15 → 00:11:20 ทั่วไปนะผมก็จะคิดเลยว่าลองคิดดูดีๆ
00:11:20 → 00:11:22 ตอนที่เราเป็นเด็ก
00:11:22 → 00:11:25 เราก็เป็นแบบนี้แหละ
00:11:25 → 00:11:29 แทนที่จะเหมือนกับว่าไปเลยตำหนิไปเลย
00:11:29 → 00:11:33 เนี่ยลองกลับมาคิดทบทวนดูซิว่าตอนที่เรา
00:11:33 → 00:11:37 อายุเท่าลูกเท่าเด็กเนี่ยเราคิดยังไงแบบ
00:11:37 → 00:11:41 ไหนเนอะค่ะคือจะถูกจะผิดนี้อีกเรื่อง
00:11:41 → 00:11:45 หนึ่งวางไว้ก่อนแต่พอเรามีทัศนคติมีวิธี
00:11:45 → 00:11:48 คิดแบบนี้ว่าเออลองคิดดู
00:11:48 → 00:11:50 ลองใส่ใจดู
00:11:50 → 00:11:53 มา in the Gap
00:11:53 → 00:11:56 betteration
00:11:56 → 00:12:01 ช่องว่างมันมีแต่แค่ใส่ใจพอเราใส่ใจเรา
00:12:01 → 00:12:04 คิดเราจะเข้าใจ
00:12:04 → 00:12:06 แล้ว
00:12:06 → 00:12:10 การสื่อสารที่ออกไปมันก็จะเปลี่ยนแปลงไป
00:12:10 → 00:12:11 [เพลง]
00:12:12 → 00:12:14 หรือมันจะมีพี่อ้อยเคยมีประสบการณ์เกี่ยว
00:12:14 → 00:12:17 กับเรื่องกฎระเบียบในโรงเรียนไหมเรื่อง
00:12:17 → 00:12:21 อื่นอีกเรื่องกฎระเบียบในโรงเรียนเยอะ
00:12:21 → 00:12:26 พี่วีพูดเรื่องเด็กผู้ชายตัดผมสั้นเด็ก
00:12:26 → 00:12:29 ผู้หญิงก็เหมือนกันนะคะก็คือเขาจะให้ติ่ง
00:12:29 → 00:12:30 หูใช่ไหมคะ
00:12:30 → 00:12:33 นี่ค่ะมัธยมปลายค่ะ
00:12:33 → 00:12:36 ติ่งหูค่ะแต่ข้างหลังไอ้ย้อยไปอย่างนี้
00:12:36 → 00:12:38 เลย
00:12:38 → 00:12:41 คือครูเดินผ่านไปด้านหน้าเนี่ยเขาจะเห็น
00:12:41 → 00:12:44 ว่าเราผมสั้นแค่นี้แต่ถ้าดูข้างหลังเราจะ
00:12:44 → 00:12:48 เห็นว่ามันยาวนี่เลยค่ะย่อยเลยค่ะ
00:12:48 → 00:12:52 เอาเข้าจริงเด็กก็จะเป็นก็จะมีเทคนิคอะไร
00:12:52 → 00:12:56 ต่างๆนะสารพัดอย่างค่ะหรือว่ากระโปรงอะไร
00:12:56 → 00:12:59 อย่างนี้ต้องยาวแล้วเราก็จะ
00:12:59 → 00:13:03 ซื้อกระโปรงยาวมาค่ะแล้วเราก็ใส่ในโรง
00:13:03 → 00:13:06 เรียนเราก็จะปล่อยให้มันยาวพอเวลาเราออก
00:13:06 → 00:13:09 นอกโรงเรียนนะคะเราก็จะหมุนขอบ
00:13:09 → 00:13:15 มันสั้นขึ้นมาก็ไม่เบานะเนี่ย
00:13:15 → 00:13:19 เราผมเชื่อว่านะคุณผู้ฟังลองนึกดูถ้าเรา
00:13:19 → 00:13:22 รู้สึกอะไรบางอย่างเกี่ยวกับเด็กสมัยนี้
00:13:22 → 00:13:25 ที่เราไม่พึงพอใจอะไรบางอย่าง
00:13:25 → 00:13:28 เราไม่ชอบพฤติกรรมเขาหรือเราไม่ได้ลองนึก
00:13:28 → 00:13:29 ดู
00:13:29 → 00:13:32 แล้วเวลาที่หรือบางทีนึกไม่ออกนะให้ลอง
00:13:32 → 00:13:35 จินตนาการถึงวันที่เรานัดเจอเพื่อนเก่า
00:13:35 → 00:13:38 สมัยเรียนมัธยม
00:13:38 → 00:13:41 สังเกตุว่าเวลาที่เราเจอเพื่อนเก่าสมัย
00:13:41 → 00:13:44 มัธยมอ่ะแล้วเราก็ไปกินข้าวกันเนี่ย
00:13:44 → 00:13:47 เรื่องคุยจะมีอยู่แทบจะเรื่องเดียวเลย
00:13:47 → 00:13:51 เรื่องอะไรเรื่องโรงเรียนสมัยเก่าคุณครู
00:13:51 → 00:13:54 อะไรอย่างนี้ค่ะในโรงเรียนแล้วก็เรื่อง
00:13:54 → 00:13:57 วีรกรรมแสบๆของพวกเรา
00:13:57 → 00:14:00 แค่นั้นเลยเป็นเรื่องที่คุยกันแล้วแล้ว
00:14:00 → 00:14:04 คุยกันแล้วไงแล้วมันสนุกแล้วขำขำอะไรขำ
00:14:04 → 00:14:07 ตัวเองว่าเฮ้ยสมัยก่อนนี้เราก็ไม่เบา
00:14:07 → 00:14:10 เนี่ยประมาณแอบหลับในห้องเรียนได้อะไร
00:14:10 → 00:14:16 อย่างนี้แล้วก็ดันสอบได้ที่ 1
00:14:16 → 00:14:20 เป็นอย่างนั้นเลยลองคุณผู้ฟังลองนึกดูนะ
00:14:20 → 00:14:24 ถ้าเกิดว่าคุณผู้ฟังเป็นผู้ใหญ่สมัยนี้
00:14:24 → 00:14:25 ผู้ใหญ่สมัยนี้
00:14:25 → 00:14:28 ลองลองนึกดู
00:14:28 → 00:14:31 แล้วเราจะพบว่าแท้ที่จริงแล้วเราก็คือเคย
00:14:31 → 00:14:35 เป็นเด็กสมัยนี้ในของผู้ใหญ่สมัยนู้น
00:14:35 → 00:14:39 แต่ความสำคัญมันอยู่ตรงที่ว่ามันจะทำให้
00:14:39 → 00:14:41 เราอ่ะเข้าใจ
00:14:41 → 00:14:44 แล้วมันเป็นการความคิดแบบนี้มันเป็นการ
00:14:44 → 00:14:48 เติมเต็มช่องว่างอ่ะทำให้ช่องว่างยังมี
00:14:48 → 00:14:51 อยู่ไหมมีแต่เราไม่เดินตกลงไปในหลุมนั้น
00:14:51 → 00:14:54 น่ะก็คือว่าเราเจอพฤติกรรมบางอย่างแล้ว
00:14:54 → 00:14:56 เราจะไม่ขุ่นมัว
00:14:56 → 00:15:00 แล้วไอ้ความเข้าใจนี่นะพี่อ้อยรู้ไหมว่า
00:15:00 → 00:15:05 มันจะเป็นวิธีในการประสานรอยร้าว
00:15:05 → 00:15:09 แล้วเป็นวิธีในการแก้ปัญหาแล้วก็พัฒนา
00:15:09 → 00:15:10 เด็กด้วย
00:15:10 → 00:15:15 เคยมีถ้าเราแบบว่าไม่พอใจแล้วเราก็ดุด่า
00:15:15 → 00:15:18 ว่ากล่าวตำหนิลงโทษ
00:15:18 → 00:15:21 จะทำให้สถานการณ์แย่ลงกว่าเดิม
00:15:21 → 00:15:24 เคยมีครั้งหนึ่งครับพี่อ้อยครูคนนึงเขา
00:15:24 → 00:15:26 ใช้วิธีในการพัฒนาเด็กนะ
00:15:26 → 00:15:30 เขาเข้าใจเด็กสมัยนี้แต่เขาจะไม่ใช่วิธี
00:15:30 → 00:15:31 ตำหนิ
00:15:31 → 00:15:33 มีโรงเรียนโรงเรียนหนึ่ง
00:15:33 → 00:15:36 สมัยยุคหนึ่งเนี่ยเขาก็ตอนนี้ไม่น่าจะมี
00:15:36 → 00:15:39 กฎนี้แล้วล่ะยุคหนึ่งที่โทรศัพท์มือถือ
00:15:39 → 00:15:47 มันเพิ่งจะเริ่มมาใช้กันนะ
00:15:47 → 00:15:50 แต่ตอนนี้มันไม่น่าจะแล้วมันกลายเป็น
00:15:50 → 00:15:52 อวัยวะส่วนหนึ่ง
00:15:52 → 00:15:54 ในยุคที่เขายังห้ามเอามือถือมาโรงเรียน
00:15:54 → 00:15:56 เนี่ยก็มีเด็กเป็นคนก็เอามา
00:15:56 → 00:15:59 ครูก็จะมีมาตรการว่าใครที่เอามือถือ
00:15:59 → 00:16:02 มาเรียนนะก่อนเข้าเรียนต้องเอามือถือไป
00:16:02 → 00:16:04 ฝากไว้ในตะกร้า
00:16:04 → 00:16:08 ก็มีแต่ค่าเต็มไปหมดเลยแล้วถึงเวลาเย็น
00:16:08 → 00:16:10 แล้วค่อยค่อยมาเอาคืน
00:16:10 → 00:16:15 ก็มีเด็กหลายคนทำแบบนี้
00:16:15 → 00:16:18 หมายถึงก็เอามือถือไปฝากไว้ในตะกร้า
00:16:18 → 00:16:21 แต่มือถือที่มาฝากตะกร้านั้นน่ะเป็น
00:16:21 → 00:16:24 เครื่องเปล่า
00:16:24 → 00:16:26 จริงๆมีอีกเครื่องนึงที่มีอีกเครื่อง
00:16:26 → 00:16:27 หนึ่ง
00:16:27 → 00:16:30 เห็นเปล่าว่ามันจะได้ทุกมุกเลยอ่ะมันก็หา
00:16:30 → 00:16:35 วิธีจนได้แล้วครูเขาก็ถามว่ารู้ไหมรู้เขา
00:16:36 → 00:16:38 ก็มีตัว x
00:16:38 → 00:16:41 ค่าตรวจเจอเขาก็จะมีวิธีการลงโทษอะไรแล้ว
00:16:41 → 00:16:42 แต่เขา
00:16:42 → 00:16:44 แต่มีครูคนหนึ่งเขาใช้วิธีหนึ่งกับเด็กคน
00:16:44 → 00:16:46 หนึ่ง
00:16:46 → 00:16:51 คือพอเขาตรวจเจอว่าคนนี้เอามือถือเปล่าไป
00:16:51 → 00:16:54 ฝากไว้แล้วที่ตัวยังมีอีกเครื่องนึงเพราะ
00:16:54 → 00:16:55 เขาตรวจเจอนะ
00:16:55 → 00:16:59 ครูเขาไม่ตำหนิเขาไม่ลงโทษเลย
00:16:59 → 00:17:03 แต่ครูก็แค่บอกว่า
00:17:03 → 00:17:06 ครูเสียใจ
00:17:06 → 00:17:08 คือเสียใจแล้วก็
00:17:08 → 00:17:11 รู้สึกผิดหวังในตัว
00:17:11 → 00:17:15 ว่าเธอก็ทำแบบนี้เหรออะไรอย่างเงี้ย
00:17:15 → 00:17:19 คืออันนี้เป็นการลงโทษที่แบบแรงมาก
00:17:19 → 00:17:22 ลงโทษด้วยการไม่ลงโทษแล้วบอกว่าครูเสียใจ
00:17:22 → 00:17:25 เพราะว่าครูเนี่ย
00:17:25 → 00:17:29 เขาเรียกว่าอะไรมองว่าเธอเป็นคนที่
00:17:29 → 00:17:33 แบบหนึ่งแต่วันนี้เธอได้แสดงให้เห็นว่า
00:17:33 → 00:17:35 ไม่ใช่
00:17:35 → 00:17:38 แล้วไม่ลงโทษอะไรด้วยแค่บอกว่าครูเสียใจ
00:17:38 → 00:17:40 แต่ว่า
00:17:40 → 00:17:45 สิ่งนั้นเนี่ยมันกลับทำให้เด็กคนนี้เนี่ย
00:17:45 → 00:17:49 รู้สึกผิดหนักกว่าเดิมมาก
00:17:49 → 00:17:52 แล้วเปลี่ยนแปลงตัวเองจากวันนั้นเลย
00:17:52 → 00:17:55 เปลี่ยนแปลงตัวเองเลยนี่เห็นไหมว่าผมคิด
00:17:55 → 00:17:59 ว่าการที่เราแบบใส่ใจแล้วก็เข้าใจอะไรบาง
00:17:59 → 00:18:02 อย่างเนี่ยแล้วเราก็จะสามารถพัฒนาเด็กได้
00:18:02 → 00:18:06 แต่การที่เราจะพัฒนาเด็กคนหนึ่งไม่ใช่
00:18:06 → 00:18:08 ด้วยการลงโทษ
00:18:08 → 00:18:13 แต่ด้วยความเข้าใจอย่างแท้จริง
00:18:13 → 00:18:14 แล้วยังมี
00:18:14 → 00:18:17 พูดถึงเด็กสมัยนี้เนี่ยกับผู้ใหญ่สมัย
00:18:17 → 00:18:20 ก่อนเนี่ยพี่คิดว่ามันยังมีประเด็นไหนอีก
00:18:20 → 00:18:25 ไหมที่เราจะต้องแบบใส่ใจ
00:18:25 → 00:18:29 คืออันที่ตัวเองนึกออกนะคะ
00:18:29 → 00:18:31 จะไม่ใช่เป็น
00:18:31 → 00:18:33 ครูนักเรียน
00:18:33 → 00:18:38 มันเป็นกรณีที่เป็น Generation Grab ของ
00:18:38 → 00:18:43 ในที่ทำงานก็มีนะคะก็เยอะนะคะเพราะว่า
00:18:43 → 00:18:47 ส่วนใหญ่แล้วมันจะระดับหัวหน้าเนี่ยหรือ
00:18:47 → 00:18:51 ผู้บริหารก็จะเป็นเจนหนึ่งนะคะส่วนใหญ่ก็
00:18:51 → 00:18:53 จะเป็น Baby boomer อะไรอย่างนี้แล้วก็
00:18:53 → 00:18:56 ถ้าเป็น Gen ของคนทำงานก็จะเป็น X Y
00:18:56 → 00:18:58 อะไรอย่างเงี้ยก็จะเป็นคนละ Generation
00:18:58 → 00:19:01 กันมันก็จะมีช่องว่างระหว่างวัยนี่แหละ
00:19:01 → 00:19:05 ที่สื่อสารกันไม่เข้าใจนี่นั่นนู่นอะไร
00:19:05 → 00:19:09 อย่างนี้ทำไมเวลาสั่งงานไม่บอกเหตุผลอะไร
00:19:09 → 00:19:13 อย่างนี้นะคะก็จะมีแหละอันนี้เนี่ยอันนึง
00:19:13 → 00:19:16 ที่ที่ตัวเองประทับใจแล้วก็รู้สึกว่ามัน
00:19:16 → 00:19:19 เป็นการสร้างความเข้าใจโดยโดยใช้กิจกรรม
00:19:19 → 00:19:22 ที่พี่บีพูดว่าความเข้าใจมันจะต้องเกิด
00:19:22 → 00:19:25 ขึ้นเพราะฉะนั้นไอ้ตัวความระมัดระวัง
00:19:25 → 00:19:28 เรื่อง Gap อ่ะมันจะเกิดขึ้นนะคะอันเนี้ย
00:19:28 → 00:19:32 ก็คือคือทุกปีเนี่ยตามบริษัทต่างๆเนี่ยก็
00:19:32 → 00:19:36 จะมีเลี้ยงปีใหม่แล้วก็จะมีกิจกรรมส่วน
00:19:36 → 00:19:39 ใหญ่เนี่ยถ้าเป็นผู้บริหารก็จะมีกิจกรรม
00:19:39 → 00:19:43 ผู้บริหารนะคะก็เออพอพูดไปหารได้แสดงอะไร
00:19:43 → 00:19:46 เงี้ยอู้ยเด็กๆก็จะกรีดกราฟแต่ว่าก็จะจบ
00:19:46 → 00:19:50 ไปก็จะสนุกสนานกันนะเวลานั้นแต่มันมี
00:19:50 → 00:19:55 กิจกรรมนึงค่ะพี่วีที่ผู้บริหารน่ะลงมา
00:19:55 → 00:19:58 ร่วมกิจกรรมกับเด็กเป็นการแสดงและเป็นการ
00:19:58 → 00:20:00 เต้นเพลงพี่มอส
00:20:00 → 00:20:04 เหลวไหลจริงๆเลยอย่างนี้แล้วก็แบบขำมาก
00:20:04 → 00:20:09 เลยแต่ว่าเชื่อไหมคะว่าระหว่างที่ที่ก่อน
00:20:09 → 00:20:11 ที่จะกิจกรรมนี้เกิดขึ้นเนี่ยมันต้องมี
00:20:11 → 00:20:15 การซ้อมปกติแล้วผู้บริหารระดับสูงเด็กก็
00:20:15 → 00:20:17 จะมองว่าเขาไม่ถึง
00:20:17 → 00:20:20 เขาอยู่ข้างบนเขาไม่ค่อยฟังหรอกเด็กๆเขา
00:20:21 → 00:20:23 ไม่เข้าใจเราผู้ใหญ่ก็บอกอุ๊ยเด็กอะไร
00:20:23 → 00:20:27 เจ๊าะแจ๊ะแบบคือไม่ๆไม่ได้มองลงมาทั่วถึง
00:20:27 → 00:20:31 แต่พอไปร่วมกันซ้อมกิจกรรมนี้เท่านั้นน่ะ
00:20:31 → 00:20:33 ตั้งแต่นั้นมา
00:20:33 → 00:20:37 คือกลายเป็นเปลี่ยนพฤติกรรมกลายเป็นคุย
00:20:37 → 00:20:43 พูดคุยกันรู้เรื่องแล้วก็เก็บหายไปเลยค่ะ
00:20:43 → 00:20:46 อุ๊ยแสดงว่าอันนี้น่าสนใจนะก็คือ
00:20:46 → 00:20:50 แค่จะเรียกว่าไม่อยากเรียกว่าเป็นการลด
00:20:50 → 00:20:54 ตัวนะแต่ว่าเป็นการย่อตัวลงมาแล้วก็มาทำ
00:20:54 → 00:20:59 อะไรบางอย่างรวมกันแค่นั้นเข้าใจแล้วเรา
00:20:59 → 00:21:02 ก็จะแล้วเราก็เข้าใจเขาเลยเพราะว่า
00:21:02 → 00:21:07 บางทีเนี่ยเอาง่ายๆเลยนะผมผมเคยตอนนั้น
00:21:07 → 00:21:10 สมัยนู้นเคยมีกิจกรรมกิจกรรมหนึ่งกิจกรรม
00:21:10 → 00:21:12 วันลอยกระทง
00:21:12 → 00:21:14 แล้วครูเขาก็ให้เรา
00:21:14 → 00:21:16 ทำกระทง
00:21:16 → 00:21:19 ทำกระทงเสร็จแล้วมีการประกวดด้วยเราก็
00:21:19 → 00:21:21 เป็นคนทุ่มเทมากเลยทุ่มเททุ่มเททุ่มเท
00:21:21 → 00:21:22 เสร็จปุ๊บถึงเวลา
00:21:22 → 00:21:24 พอเราทุ่มเทมากๆ
00:21:24 → 00:21:28 ไอ้การเรียนเราเสียคือ
00:21:28 → 00:21:31 เราก็เลยเด็กกิจกรรมหรอคะพี่บีใช่เราก็
00:21:31 → 00:21:34 เลยแบบไม่ใส่ใจกันบ้างหรืองานที่เราจะ
00:21:34 → 00:21:38 ต้องทำอ่ะเราก็จะมาสนใจตรงนี้แล้วเราก็
00:21:38 → 00:21:42 แบบเราก็แบบเอาเวลาที่เราจะต้องเรียนน่ะ
00:21:42 → 00:21:44 มาทำอันนี้
00:21:44 → 00:21:46 แล้วก็โดนครูตำหนิ
00:21:46 → 00:21:49 พอโดนครูตำหนิเสร็จแล้วก็แบบเฮ้ยทำไมแบบ
00:21:49 → 00:21:53 คือเราไม่พอใจอ่ะจนกระทั่งในที่สุดแล้ว
00:21:53 → 00:21:56 ครูเขาก็ปล่อยให้เป็นอย่างนั้นนะแล้วถึง
00:21:56 → 00:22:00 เวลาเนี่ยตอนท้ายเนี่ยเขาค่อยมาขโมยแล้ว
00:22:00 → 00:22:04 ก็ค่อยมาสรุปแล้วค่อยมาสอนเราแต่ว่าตอน
00:22:04 → 00:22:06 นั้นระหว่างนั้นเนี่ยเขาจะไม่ตำหนิเขาจะ
00:22:06 → 00:22:08 ไม่ว่าเขาจะไม่อะไรเลยแต่ว่าเราเป็นเด็ก
00:22:09 → 00:22:13 เราก็คือถ้าแหละประมาณแบบไม่เข้าใจเลย
00:22:14 → 00:22:17 ผมเชื่อว่าแก๊ปเนี่ยเวลาที่มันเกิดแก๊ส
00:22:17 → 00:22:20 เนี่ยเป็นเพราะอะไรเพราะว่าเรายืนแล้วเรา
00:22:20 → 00:22:22 มองคนละจุด
00:22:22 → 00:22:26 แล้วอันนึงที่ที่อยากแทรกพี่บีนิดนึงคือ
00:22:26 → 00:22:31 เด็กที่สมมุติว่าเขาอายุ 13 เขาไม่มีวัน
00:22:31 → 00:22:37 จะเข้าใจคนอายุ 30 เออใช่แต่คน 30 อ่ะคุณ
00:22:37 → 00:22:42 น่ะเคยเป็น 13 คุณต้องเข้าใจ 13 สิเออโห
00:22:42 → 00:22:45 ประเด็นนี้ดีมากแล้วมันคือสิ่งนี้แล้วมัน
00:22:45 → 00:22:49 คือสิ่งเดียวกับคือครูเนี่ยเขาอ่ะเข้าใจ
00:22:49 → 00:22:53 เราเพราะเขาเคยเป็นเราแต่เราไม่เข้าใจเขา
00:22:53 → 00:22:55 เราก็จะพื้นฐานเพราะฉะนั้นแล้วมันไปเข้า
00:22:55 → 00:22:58 กับประเด็นที่พี่อ้อยบอกว่าผู้บริหาร
00:22:58 → 00:23:00 เนี่ยพอทำกิจกรรมปุ๊บ
00:23:00 → 00:23:04 ย่อลงมาย่อลงมาเพราะว่าเราเคยเป็นเหมือน
00:23:04 → 00:23:09 น้อมตัวลงมาแล้วอันนี้ก็คือการย่อตัวหรือ
00:23:09 → 00:23:12 การโน้มตัวเองลงมามันก็คือเป็นการเติม
00:23:12 → 00:23:16 เต็มทำให้ช่องว่างเนี่ยมันจะหายไปนะครับ
00:23:16 → 00:23:20 แล้วก็เพราะฉะนั้นผมคิดว่าคราวนี้เนี่ย
00:23:20 → 00:23:24 เป็นตอนที่เราพูดถึงเรื่องเรื่องหนึ่งที่
00:23:24 → 00:23:28 ฟังดูเหมือนจะเราคุยกันขำๆสรุปๆมากเลยนะ
00:23:28 → 00:23:30 แต่ว่าประเด็นนี้เป็นประเด็นที่มีความ
00:23:30 → 00:23:36 สำคัญมากโดยเฉพาะในยุคนี้เออปัญหาเยอะมาก
00:23:36 → 00:23:39 ถ้าเราไม่เข้าใจมัน
00:23:39 → 00:23:41 ไอ้ช่องว่าง
00:23:41 → 00:23:59 ถ้าเราไม่ใส่ใจนะ
00:23:59 → 00:24:03 แค่เราใส่ใจระมัดระวังแล้วเราก็จะเข้าใจ
00:24:03 → 00:24:07 แล้วก็พี่อ้อยนำเสนอเรื่องว่าถ้าเป็นผู้
00:24:07 → 00:24:08 ใหญ่นะ
00:24:08 → 00:24:12 เราอ่ะมีหน้าที่ต้องนมตัวลงไปเพราะอะไร
00:24:12 → 00:24:14 เพราะว่าเรามีสิทธิ์ที่จะเข้าใจเขาง่าย
00:24:14 → 00:24:18 กว่าเพราะเราเคยเป็นเด็กมาก่อนแต่เด็กไม่
00:24:18 → 00:24:22 มีทางเลยที่จะเข้าใจผู้ใหญ่ในแบบที่เพราะ
00:24:22 → 00:24:29 เขายังไม่เคยเลย
00:24:29 → 00:24:33 สถานการณ์ที่เกิดขึ้นในสังคมถ้าเรามีวิธี
00:24:33 → 00:24:36 ถ้าเรามีวิธีคิดที่ดีที่เหมาะสม
00:24:36 → 00:24:40 เราก็จะอยู่กับทุกสิ่งทุกสถานการณ์ได้แบบ
00:24:40 → 00:24:45 สดใสมีพลังนะแล้วก็เราจะไม่ขุ่นมัวและอัน
00:24:45 → 00:24:46 นี้ก็เป็น
00:24:46 → 00:24:50 แนวความคิดของรายการศัลยกรรมความสุขนะ
00:24:50 → 00:24:54 ครับที่จะมาส่งมอบแง่คิดมุมมองต่างๆผ่าน
00:24:54 → 00:24:56 เรื่องเล่าผ่านประสบการณ์ที่เราสองคนมีนะ
00:24:56 → 00:25:00 ครับทั้งผมและพี่อ้อยวันนี้เวลาในตอนนี้
00:25:00 → 00:25:03 หมดลงแล้วนะครับไอ้เด็กสมัยนี้ผมก็หวัง
00:25:03 → 00:25:06 ว่าช่องว่างนี้จะถูกเติมเต็มเข้าไปเรื่อย
00:25:06 → 00:25:10 ๆนะครับแล้วพบกับเราทั้งสองคนในตอนหน้า
00:25:10 → 00:25:12 ครับวันนี้ผมต้องลาไปก่อนครับสวัสดีครับ
00:25:12 → 00:25:16 สวัสดีค่ะ
00:25:16 → 00:25:19 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:25:19 → 00:25:21 ของไทย
00:25:21 → 00:25:33 spotify Sound Google podcast Apple
00:25:34 → 00:25:39 [เพลง]