00:00:01 → 00:00:06 หลายท่านมองว่านาฬิกาวัดระดับน้ําตาลในเลือด เป็นเรื่องโม้ เป็นเรื่องหลอกลวง
00:00:06 → 00:00:11 เดี๋ยววันเนี้ย เราจะมาคุยกันว่า นาฬิกาวัดระดับน้ําตาลในเลือด
00:00:11 → 00:00:15 แบบที่หมอถืออยู่เนี้ย เป็นเรื่องจริงมากน้อยแค่ไหน
00:00:15 → 00:00:20 มาฟังกันดูนะครับ ก่อนที่เราจะพูดถึงมันเนี้ย
00:00:20 → 00:00:23 เดี๋ยวเรามาดู คลิป วิธีการทํางานของมันดูก่อน
00:00:23 → 00:00:27 นะครับ เดี๋ยวหมอเปิดคลิปให้ดู การทํางานของมันก็เหมือน
00:00:27 → 00:00:31 นาฬิกาวัดข้อมือ โดยทั่วไป แต่มันจะมี วัด อยู่ตรงสายข้อมือ
00:00:31 → 00:00:36 ซึ่งตรง นั้นเนี้ย มันจะตรงกับ
00:00:36 → 00:00:40 เส้นเลือดที่เราคลําชีพจรเลยนะครับ โดยจะใช้วิธี โดยจะใช้การวัด
00:00:40 → 00:00:43 เนี่ย ประมาณสัd 90วินาทีนะครับ
00:00:43 → 00:00:47 แต่หน้าจอที่มันแสดงผล มันจะแสดงผลแค่สองค่า
00:00:47 → 00:00:52 คือระดับน้ําตาลในเลือดกับความดัน ที่เหลือจะต้องเชื่อมต่อกับตัวแอป
00:00:52 → 00:00:56 แล้วมันจะแสดงค่ามากกว่า 15 ฟังก์ชันเลยนะครับ นะ
00:00:56 → 00:00:59 เดี๋ยวมาดูกันว่า มันทํางานอย่างไร
00:00:59 → 00:01:04 มีที่มาที่ไปอย่างไร นะครับ ฝากกดติดตามและสั่นกระดิ่ง
00:01:04 → 00:01:07 เพื่อเป็นกําลังใจให้หมอ ในคลิปถัดถัดไปด้วยนะครับ
00:01:07 → 00:01:13 ขอบคุณครับ สวัสดีครับทุกท่าน กระผมนายแพทย์ อดุลย์ชัย
00:01:13 → 00:01:17 ธรรมาแสงเสริฐนะครับ เป็นศัลยแพทย์แล้วก็ศัลยแพทย์ตกแต่งนะครับ
00:01:17 → 00:01:28 ก็วันนี้จะมาพูดเรื่องคําถามทางบ้าน คําถามทางบ้านที่ถามกันมาเยอะก็คือเรื่องของนาฬิกาวัดระดับน้ําตาลในเลือดที่หมอสวมใส่อยู่นะครับ
00:01:28 → 00:01:35 ก็คือว่า เหตุมันเกิดจากการที่หมอเนี้ยทําคลิปลดน้ําหนัก 8กิโลใน 8 สัปดาห์แล้วหมอก็บอกว่า
00:01:35 → 00:01:43 หมอมีตัวช่วยอยู่ก็คือ ตัวนาฬิกาวัดระดับน้ําตาลในเลือดโดยที่ไม่ต้องเจาะเลือด
00:01:43 → 00:01:46 เพื่อที่ว่าจะได้ดู ระดับน้ําตาลในเลือดของหมอ
00:01:46 → 00:01:50 ต่ํามากน้อยแค่ไหน หรือต่ําจนเป็นอันตรายมากน้อยแค่ไหน
00:01:50 → 00:01:54 ถ้าต่ํามากจะได้หาอะไรกิน เดี๋ยวเป็นลมเป็นแล้งไป นะครับนะ
00:01:54 → 00:01:58 คราวนี้เรามาดูกันเลยว่า มันมีที่มาที่ไปอย่างไร
00:01:58 → 00:02:02 หมอรู้ได้อย่างไร ?ว่า มันมีเรื่องนี้อยู่ นะครับนะ อะ
00:02:02 → 00:02:08 ก็คือ ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า หมอ เนี่ย ในช่วงก่อนหน้านี้
00:02:08 → 00:02:12 ในช่วงโควิด เนี่ย หมอพัฒนาแอปพลิเคชันหนึ่งขึ้นมาก็คือ
00:02:12 → 00:02:17 แอปพลิเคชัน "ใกล้มือหมอ "นะครับนะ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันที่มีคนดาวน์โหลดเยอะมากเลยในช่วง
00:02:17 → 00:02:20 โควิดระบาด ประมาณเกือบ300,000 user นะครับ
00:02:20 → 00:02:24 แล้วก็ ก็ได้รับเชิญไปพูด เกี่ยวกับงานด้านนี้หลายงาน
00:02:24 → 00:02:29 ที่เกี่ยวข้องกับแอปพลิเคชันในช่วงโควิด แล้วก็ได้รางวัลด้วย นะ
00:02:29 → 00:02:35 ซึ่งตรงนั้นเอง เนี่ย มันทําให้หมอได้รับเชิญเข้าไปในกรุ๊ปไลน์กรุ๊ปหนึ่งนะครับนะ
00:02:35 → 00:02:38 กรุ๊ปไลน์ที่ว่า เนี่ย เป็นกรุ๊ปไลน์ของ
00:02:38 → 00:02:44 TaiwanMed เป็นกรุ๊ปไลน์ที่ เขามีกลุ่มStartUpจาก 3
00:02:44 → 00:02:47 เชื้อชาติก็แล้วกัน ไต้หวัน สิงคโปร์ ฮ่องกง
00:02:47 → 00:02:50 ก็ส่วนใหญ่ก็เป็นคนจีนเนอะ แต่ก็สามารถพูดภาษาอังกฤษได้
00:02:50 → 00:02:54 และแน่นอนว่าใน line นั้นน่ะ ส่วนใหญ่ก็จะคุยเป็นภาษาอังกฤษนะครับ
00:02:54 → 00:02:59 น่ะ ซึ่งตรงนั้นเนี้ย ทําให้หมอได้รับรู้ว่า มันมี บริษัท StartUp
00:02:59 → 00:03:04 จากประเทศหนึ่ง เขาพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่อย่างเงี้ย
00:03:04 → 00:03:07 ในการวัดค่าต่างๆและ ค่าสารเคมีในเลือด
00:03:07 → 00:03:13 ที่นอกเหนือจาก วัดระดับน้ําตาล มันวัด
00:03:13 → 00:03:15 ได้มากกว่าระดับน้ําตาลน่ะ มาดูกันว่า
00:03:15 → 00:03:19 พอหมอได้ข้อมูลมาตรงนี้แล้วเนี้ย หมอไปทําอะไรเพิ่มเติมไหม
00:03:19 → 00:03:22 มันมีจริงหรอ? คุณใส่อุปกรณ์ไออย่างเงี้ย
00:03:22 → 00:03:28 แล้วคุณจะวัดค่านู่นค่านี่ได้ในเลือด มันเป็นไปได้หรอ อ่ะ มาดูกัน
00:03:28 → 00:03:32 ปรากฏว่า มันมีคนนะครับ น่ะ
00:03:32 → 00:03:36 มีนักวิทยาศาสตร์นั่นแหละ ศึกษาเรื่องเนี้ย มานานแล้ว
00:03:36 → 00:03:40 โดยการใช้แสงที่ชื่อว่า near infra red ( NIR ) นะครับ
00:03:40 → 00:03:43 ดูที่คลื่นความถี่ของแสงอินฟราเรด ที่แตกต่างกัน
00:03:43 → 00:03:49 สามารถส่องเข้าไปในเส้นเลือดของเราเนี้ย แล้ววัดค่าต่างต่างได้
00:03:49 → 00:03:54 โดยแต่ละช่วงคลื่นก็วัด สารเคมีในเลือดที่แตกต่างกัน
00:03:54 → 00:03:58 ยกตัวอย่าง สมมุติว่า เขาจะวัด Cholesterol
00:03:58 → 00:04:02 เขาจะใช้ช่วงคลื่นที่ 3000 nm หรือถ้าจะวัด Uric acid
00:04:02 → 00:04:07 ก็จะใช้ประมาณ 1600 nm แต่วัดระดับน้ําตาล
00:04:07 → 00:04:10 จะอยู่ที่ 800 nm อันนี้พูด บอกไว้ก่อนเลย
00:04:10 → 00:04:13 เพราะฉะนั้น อย่างที่บอกว่า มันมีการพัฒนา
00:04:13 → 00:04:18 มาโดยรู้เรื่องนี้ มีตั้งแต่ปี 1994
00:04:18 → 00:04:22 ตอนนี้จะเกือบ 20 ปีแล้วอ่ะ คิดดูสิว่า
00:04:22 → 00:04:26 ความรู้ตรงนั้นเนี้ยมันพัฒนาไปถึงไหนแล้ว แต่ว่าเราไม่รู้ไง นึกออกปะ
00:04:26 → 00:04:30 เราก็เจาะนิ้วไป เจ็บ เจ็บมือไปอ่ะ น่าสงสารเนอะ
00:04:30 → 00:04:37 เออ อ่ะ มาดูกัน ต้องบอกว่า เมื่อกี้นี้ที่เล่าว่า
00:04:37 → 00:04:41 มันตรวจได้หลายค่า แต่จริงจริงเนี้ย มันมีการลงทุน
00:04:41 → 00:04:46 ในเรื่องของ อุปกรณ์สวม ที่วัดเกี่ยวกับระดับน้ําตาล
00:04:46 → 00:04:51 ด้วยเหตุผลหนึ่งก็คือว่า คนใน ในโลกเนี้ย ในโลกเนี้ย
00:04:51 → 00:04:56 มันเป็นเบาหวานกันเยอะ ปีหนึ่งตายกันมากกว่า 1.5 ล้านคนนะครับ
00:04:56 → 00:04:59 เขาบอกปัจจุบันเนี้ย มีคนเป็นเบาหวานประมาณ
00:04:59 → 00:05:03 537ล้านคน และจะ เพิ่มขึ้นอีก 46 เปอร์เซ็นต์
00:05:03 → 00:05:09 ในปี 2045 มันเลยเป็น เขาเรียกว่าไง
00:05:09 → 00:05:13 จุดที่ทําให้นักลงทุนเนี้ย ลงทุนเอาเงินมาลงทุนว่า เฮ้ย
00:05:13 → 00:05:21 คุณพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถวัดระดับน้ําตาลในเลือดโดยที่ไม่ต้องเจาะเลือดดีไหม อ่า
00:05:23 → 00:05:27 เครื่องต้นแบบต้องบอกว่า เครื่องต้นแบบมันเริ่มจากการวัดระดับ
00:05:27 → 00:05:30 เหมือนเขาเรียกไง วัดระดับออกซิเจนที่ปลายนิ้วอ่ะ
00:05:30 → 00:05:37 น่ะ เขาบอกว่าโดยวัด
00:05:37 → 00:05:41 คลื่นความถี่ต่างต่างไปที่ เส้นเลือดขนาดเล็กที่ปลายนิ้ว
00:05:41 → 00:05:43 แล้ววัดดู แล้วมันก็มีเครื่องออกมาและ
00:05:43 → 00:05:47 เห็นไหม และระบบมันก็ส่งไปที่ระบบ mechine learing Model
00:05:47 → 00:05:52 ให้พัฒนานู่นนี่นั่นเลยน่ะ อันนี้คือเครื่องต้นแบบที่วัดจากปลายนิ้ว
00:05:52 → 00:05:56 เขาบอกว่าวัดแบบปลายนิ้วอ่ะ มันพกพาไม่สะดวก
00:05:56 → 00:06:00 มันต้องทําเป็นแบบนาฬิกาเลยสิ นึกออกไหม
00:06:00 → 00:06:08 ก็เลยเปลี่ยนจากเส้นเลือดที่ปลายนิ้วซึ่งเป็นเส้นเลือดขนาดเล็ก มาเป็นเส้นเลือดที่ระหว่างข้อมือหรือที่เรียกว่า Interosseous Artery
00:06:08 → 00:06:13 เส้นเลือดนี้ค่อนข้างใหญ่กว่า พอเส้นมันใหญ่กว่า
00:06:13 → 00:06:19 มันก็วัดค่าได้ค่อนข้าง มีความ accuracy มีความแม่นยํามากกว่าด้วยซ้ําไป
00:06:19 → 00:06:27 เห็นไหม เพิ่ม accuracy ได้ด้วย นี่ น้องๆคนไทยยังทําได้เลย
00:06:27 → 00:06:31 น้องจาก ลาดกระบัง ทําแอปพลิเคชัน
00:06:31 → 00:06:36 ทําเครื่องมือแบบ เนี้ย วัดที่หลังข้อมือ ได้รางวัล
00:06:36 → 00:06:40 แต่มันไม่ได้มีการพัฒนาต่อ นี่ตั้งแต่ปี2562นะ
00:06:40 → 00:06:47 สามปีที่แล้ว มาดู น้องคนนี้ จาก ม รังสิต ก็พัฒนาเครื่องวัด
00:06:47 → 00:06:52 แบบพกพาแบบภาพแรกเลย เนี่ย เหมือนอันนี้ เหมือนอันนี้เลย
00:06:52 → 00:06:58 ที่หมอ ส่งให้ดู เรียกได้ว่า อุปกรณ์อัน เนี้ย
00:06:58 → 00:07:01 ส่งประกวดที่ไหนก็ชนะ แต่อย่างที่บอกนะ
00:07:01 → 00:07:05 มันไม่ได้มีการพัฒนาต่อ หรือเอาไปใช้ต่อทางด้านคลินิก
00:07:05 → 00:07:10 หรือเอาไปใช้มาค้าขาย น้องพวกนี้ได้รางวัลจบไปก็
00:07:10 → 00:07:13 อาจจะไปทํางานตามที่ต่างต่าง แล้วไม่ได้พัฒนาต่อ
00:07:13 → 00:07:19 มาดูกัน อุปกรณ์พวกอย่างเงี้ย มันเชื่อมั่นได้มากน้อยแค่ไหน
00:07:19 → 00:07:25 หมอก็ไป search หาข้อมูลมาเลย หลาย paper ปรากฏไปเจอ paper หนึ่ง สะดุดตามากมาก
00:07:25 → 00:07:31 ชื่อว่า Non invasive accuracy echanced blood glucose sensor using shallow dense neural networks with NIR
00:07:32 → 00:07:39 NIR ก็คือ Near infrared อย่างที่บอกว่า
00:07:39 → 00:07:42 ที่หมอบอกว่ามี ช่วงคลื่นความถี่ของแสงที่
00:07:42 → 00:07:45 Near infrared แล้วตรวจดูส่องดูเส้นเลือด
00:07:45 → 00:07:50 วัดค่าต่างๆ ที่สะดุดตาที่สุดก็เพราะว่า Paper
00:07:50 → 00:07:55 เนี้ย เป็น Paper ของคนไทย อ่านชื่อบอกว่า อะไรน่ะ
00:07:55 → 00:08:03 ศิริรัตน์ วชิรันทร์ พบพร อย่างเงี้ย นี่คือคนไทย
00:08:03 → 00:08:06 เราก็เลยไปหาบอกว่าเป็น ของมหาวิทยาลัยขอนแก่น คณะวิศวะ
00:08:06 → 00:08:12 ไปทดสอบ ค่าของเครื่องเนี้ย ที่ไหน ที่โรงพยาบาลท่าคันโท
00:08:12 → 00:08:17 กาฬสินธุ์ ได้ผลเป็นยังไง บอกว่า มีความเชื่อมั่น
00:08:17 → 00:08:20 97.8 เปอร์เซ็นต์ มีความแม่นยํา
00:08:20 → 00:08:24 97.8เปอร์เซ็นต์น่ะ เยอะไหมล่ะ แล้วบอกว่ามี
00:08:24 → 00:08:31 sensitivity 94.8 และ Specificity 98.7 โอ้โห
00:08:31 → 00:08:35 เกิน 95 เปอร์เซ็นต์หมดน่ะ แสดงว่าเครื่องมือนี้มันเชื่อถือได้เลยน่ะ
00:08:35 → 00:08:40 นึกออกไหม อ่ะ นี่ ปัจจุบันที่เรา
00:08:40 → 00:08:44 มีเห็นใช้กันอยู่ก็คือ เจาะที่ปลายนิ้ว
00:08:44 → 00:08:47 เจาะที่ปลายนิ้วเนี้ย ความเชื่อมั่นก็ประมาณ95เปอร์เซ็นต์น่ะ
00:08:47 → 00:08:51 เข้าใจปะ เพราะว่า หมอบอกว่า เออ มันเชื่อไม่ได้ 100เปอร์เซ็นต์
00:08:51 → 00:08:56 ไปถึงคนที่เป็นเบาหวานจะต้องโดนเจาะเลือดที่ข้อมือ เอ้ย ที่ข้อพับแขน
00:08:56 → 00:09:01 แล้วหมอจะตรวจหาค่าตัวหนึ่งที่ชื่อว่า Hemoglobin A1C
00:09:01 → 00:09:04 เชื่อไหมว่านาฬิกาตัว เนี้ย มันวัด Hemoglobin A1C ได้
00:09:04 → 00:09:08 แต่ต้องใส่ไปนานนานนะ เพราะค่า Hemoglobin A1C
00:09:08 → 00:09:11 เนี่ย มันจะต้อง เป็นช่วง เขาเรียกอะไร
00:09:11 → 00:09:18 เป็นค่าตรวจน้ําตาลที่อยู่ในช่วงระยะเวลา หนึ่งถึงสามเดือน เข้าใจไหม อ่า
00:09:18 → 00:09:23 อีกตัวหนึ่งก็คือ ตัวเขาเรียกว่า เอ่อ
00:09:24 → 00:09:29 เราก็จะเห็นว่าเขาจะมีขายตัวเครื่องอ่านแล้วก็ใช้ตัว sensor เนี้ย
00:09:29 → 00:09:35 จะติดอยู่กับร่างกายเรา โอ้โฮ หมอเคยเห็นแล้ว ตอนแรกจะทดลองใช้
00:09:35 → 00:09:40 เข็มยาวมาก อะ ไม่กล้าเลย คือถ้าสมมุติอ้วนอ้วน
00:09:40 → 00:09:46 หรือมีแขนที่ไขมันเยอะเยอะหน่อย อะ ยิงไปก็คงโอเค อะ
00:09:46 → 00:09:51 แต่สําหรับคน เขาเรียกไงอ่ะ หน้าท้องบางน่ะ
00:09:51 → 00:09:55 หมอยังกลัวเลยว่ามันจะแทงทะลุเข้าไปรึเปล่า เลยไม่กล้าใช้
00:09:55 → 00:10:01 ที่สําคัญไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือแบบไหนเนี้ย มันไม่ได้ซื้อครั้งเดียวแล้วจบ
00:10:01 → 00:10:09 คุณจะต้องตกเป็นทาสของบริษัทนั้นในการซื้อแผ่น strip หรือไม่ก็ต้องซื้อตัว sensor
00:10:09 → 00:10:12 ที่ต้องมาเปลี่ยนทุกทุกสองสัปดาห์ จริงๆในเมืองไทยอ่ะ
00:10:12 → 00:10:16 สัปดาห์หนึ่งก็ต้องเปลี่ยนแล้วรู้ปะ เพราะว่ามันทนเหงื่อไม่ได้ไง
00:10:16 → 00:10:21 ตรงบริเวณนั้นมันอาบน้ําไม่ได้ นึกออกปะ แล้วยิ่งคนเป็นเบาหวาน น่ะ
00:10:21 → 00:10:25 เหงื่อก็เยอะใช่ไหม แล้วก็เดี๋ยวก็ เขาเรียกไง
00:10:25 → 00:10:28 เดี๋ยวมันก็ติดเชื้ออ่ะ นึกออกไหม จริงจริงบอกว่า
00:10:28 → 00:10:34 มันอาจจะไม่เหมาะกับคนไทยน่ะ ไอ้แบบที่แทงที่หลังแขนเนี้ย
00:10:34 → 00:10:40 ของฝรั่งมีไหม นี่ ของฝรั่งมีไหม แบบเนี้ย ของฝรั่งมี
00:10:40 → 00:10:45 จะออกมาขายปี2024 แต่ของฝรั่งเขาก็บอกว่า เขามี
00:10:45 → 00:10:49 ที่ต้องเปลี่ยน skin patchsensor ทุก 7 วัน แล้วราคาล่ะ ไอ้เครื่องมือเนี้ย
00:10:49 → 00:10:51 อย่างที่บอก นาฬิกาเขาขายไม่แพงหรอก เขาขาย
00:10:51 → 00:10:55 อ่า ประมาณ200เหรียญ (US) แต่ไอ้ตัว skin patch ( sensor )
00:10:55 → 00:11:00 ที่คุณจะต้องเปลี่ยนทุกเจ็ดวันน่ะ มันขาย 100 เหรียญน่ะ
00:11:00 → 00:11:05 เพราะฉะนั้นอย่างที่บอกว่า โอ้โฮ คือ เราเข้าใจคน
00:11:05 → 00:11:10 คนขาย อะ คนขายเขาก็ต้องอยากจะขายให้เราซื้อต่อเนื่องใช่ไหม
00:11:10 → 00:11:15 แต่ประเด็นก็คือว่า ถ้ามันซื้อทีเดียวแล้วเราไม่ต้องซื้ออีก
00:11:15 → 00:11:19 อะ เฮ้ย มันโอเคกว่านะ มันโอเคกว่านะ
00:11:19 → 00:11:25 คุณจ่ายเงินทีเดียว อะ แต่จบเลย แต่ถามว่าแพงไหม แพง
00:11:25 → 00:11:32 ระดับบอกได้เลย30000กว่าบาท ( ฟังราคาแล้วเลิกเลยใช่ไหม!!!!
00:11:32 → 00:11:39 มาดูกัน ตัวเครื่องเนี้ย อย่างที่บอก ของหมอ เนี่ย
00:11:39 → 00:11:43 จะเป็นตัวที่ถูกลงมาหน่อย ตัว sensor เนี่ย ตัววัด เนี่ย
00:11:43 → 00:11:46 มันจะอยู่ที่ เอ่อ สายรัดข้อมือแล้ว
00:11:46 → 00:11:52 มันจะไม่อยู่ที่ตรงบริเวณ หลังด้านหลังข้อมือ
00:11:52 → 00:11:57 เพราะมันให้เหตุผลว่า ตรงบริเวณด้านสายรัดข้อมือ เนี่ย
00:11:57 → 00:12:01 มันมีชีพจรเราอยู่ ( Radial artery ) มันวัดจากตรงชีพจร เนี่ย
00:12:01 → 00:12:05 ซึ่งเป็นเส้นเลือดใหญ่กว่า Interosseous artery ที่อยู่ระหว่างข้อมือ เนี่ย
00:12:05 → 00:12:10 เส้นยิ่งใหญ่ ความเขาเรียกไง ความ
00:12:10 → 00:12:16 ความแม่นยําในการตรวจวัดก็ยิ่งชัดเจนขึ้น และสามารถวัดค่าต่างต่างได้มากขึ้นด้วย
00:12:16 → 00:12:21 น่ะ เพราะนั้นอย่างที่บอกว่า ที่สําคัญ อย่างที่บอก
00:12:21 → 00:12:24 มันไม่ต้องเปลี่ยน sensor และ ซื้อครั้งเดียวจบ
00:12:24 → 00:12:28 และมันก็วัดได้มากกว่าระดับน้ําตาล แต่ข้อเสียอย่างที่บอกว่า
00:12:28 → 00:12:33 ไอ้ตรงเนี้ย ( สายวัดข้อมือ ) มันจะเป็นตรงตัวปรับ คือถ้าปรับบ่อยบ่อยเนี้ย
00:12:33 → 00:12:39 สายมันจะหลวม น่ะ แล้ว เนี้ย ถ้าไอ้ตัว sensor เนี้ยน่ะ ไอ้ตรงจุดเนี้ย
00:12:39 → 00:12:42 ตัว เนี้ย นะ ที่หมอชี้ เนี่ย เนี่ย เอ่อ อย่าง เงี้ย ดําดํา
00:12:42 → 00:12:46 เนี่ย นะ ถ้ามันไม่อยู่ตรงเส้นชีพจร
00:12:46 → 00:12:50 มันก็วัดไม่ได้ ต้องพยายามให้มันตรงกับเส้นชีพจร
00:12:50 → 00:12:53 แต่จริงจริงต้องบอกว่า เออ มันก็ดีนะ ถ้ามันไปอยู่ตรงอื่น
00:12:53 → 00:12:57 เงี้ย แล้วมันวัดได้ เนี่ย มันแปลก นึกออกเปล่า
00:12:57 → 00:13:03 เราเคยเห็นตัว เอ่อ เขาเรียกไง อะ ตัวตรวจ วัดอุณหภูมิ อะ
00:13:03 → 00:13:06 แล้วไม่ว่าคุณไปยิงตรงไหน ตรงไหนไม่มีคนมันยังขึ้นเลย อะ
00:13:06 → 00:13:09 **** งี้ โคตร เว่อร์ เลย อะ โคตรมั่วเลย อะ นึกออก ปะ ไอ้ตัว
00:13:09 → 00:13:13 เนี้ย อย่างที่บอกว่า ถ้ามันไม่ตรงกับ เอ่อ เส้นชีพจร
00:13:13 → 00:13:15 จะวัดไม่ขึ้น เพราะฉะนั้น อย่าไปปรับบ่อย
00:13:15 → 00:13:17 แล้วก็อย่างที่บอกว่า ราคามันค่อนข้างแพง
00:13:17 → 00:13:23 ระดับเดียวกับ apple watch ultra นะครับน่ะ อะ อย่าง
00:13:23 → 00:13:26 แต่อย่างที่บอก ด้วยความที่ว่ามันวัดได้หลายค่า
00:13:26 → 00:13:30 มันวัดได้หลายค่าเกินไป หมอเลยมองว่ามันเหมาะกับ
00:13:30 → 00:13:33 เขาเรียกอะไร บุคลากรทางการแพทย์ คือ
00:13:33 → 00:13:37 พวกหมอหรือคนที่เรียนมาทางด้าน เนี้ย สามารถอ่านแล้วแปลผลได้
00:13:37 → 00:13:41 นึกออกไหม อ่านแล้วแปลผลได้นะครับนะ
00:13:41 → 00:13:47 หรือเหมาะกับผู้ป่วยที่เขาเรียกว่าอะไรล่ะ มีหมอคอยดูแล แต่จริงจริงเดี๋ยว
00:13:47 → 00:13:52 เนี้ย มันมี telemedicine นะ แต่จริงๆ ถามว่า ในปัจจุบัน มันก็ เออ
00:13:52 → 00:13:58 ใช้ได้แหละ เพราะว่ามี telemedicine อะ ที่ อันที่ 4 แผ่นชาร์จ อัน เนี้ย
00:13:58 → 00:14:03 แผ่นชาร์จ มันห้ามหายนะ แล้วก็ ห้ามชาร์จ นานเกิน จริงจริง
00:14:03 → 00:14:07 เนี่ย ชาร์จแค่ประมาณสัก สองชั่วโมงก็เต็มแล้ว
00:14:07 → 00:14:14 แต่บางคนไปชาร์จแช่เหมือนชาร์จมือถือ เครื่องมันพังนะ อะ ต่อ อันนี้
00:14:14 → 00:14:17 นี่คือหน้าจอ คือจริงจริงเนี้ย ตัวเครื่องเนี้ย
00:14:17 → 00:14:21 มันเหมือนแค่ตัวส่งน่ะ พอมันส่ง มันวัดได้อะไรเสร็จ
00:14:21 → 00:14:25 มันจะต้องไปแปรผลกับตัวแอปพลิเคชัน เราจะต้องเชื่อมต่อตัวแอปพลิเคชัน
00:14:25 → 00:14:28 download แอปพลิเคชัน แล้วเชื่อมต่อแอปพลิเคชัน เนี้ย
00:14:28 → 00:14:32 กับตัวนาฬิกา ก่อน นะครับ มันถึงจะ รู้ค่าทุกค่าเลย
00:14:32 → 00:14:36 แต่ถ้าสมมุติว่า เราใช้แค่ ตัว นาฬิกาอย่างเดียว มันจะรู้ได้แค่
00:14:36 → 00:14:42 สอง ค่า คือ ความดัน กับระดับน้ําตาล นะครับ น่ะ อ่ะ
00:14:42 → 00:14:47 มาดู พอมันแปลผลบอกว่า ระดับน้ําตาลมันไม่เหมือนกัน
00:14:47 → 00:14:52 บางคนบอกว่า เอ้ย ของหมอทําไม 8.68 มันต่ํามาก
00:14:52 → 00:14:56 ปกติของผม 100-200 อ่ะ เพราะมันใช้หน่วยไม่เหมือนกัน
00:14:56 → 00:14:59 ของคนไทยเนี้ย ของประเทศ คือจริงจริง หลายประเทศ
00:14:59 → 00:15:03 จะใช้หน่วย มิลลิกรัม/เดซิลิตร แต่เครื่องเนี้ย มันจะใช้
00:15:03 → 00:15:09 ใช้ใน แบบ ยุโรปอ่ะ มันจะใช้ ตัวหน่วยวัดเป็น มิลลิโม/ลิตร
00:15:09 → 00:15:13 โดยค่าปกติ น่ะ จะอยู่ที่ 4-5.6 mmol/l
00:15:13 → 00:15:16 ของหมอ 8.6 mmol/l เป็นเบาหวานเปล่า เปล่า !!!!!
00:15:16 → 00:15:20 หมอกินข้าวเสร็จไปชั่วโมงหนึ่งมานั่งวัดน้ําตาลมันขึ้น น่ะ
00:15:20 → 00:15:26 แต่ถ้าสมมุติถ้าคุณต้องการเปลี่ยนหน่วยเนี้ย หน่วยหน่วย เป็นมิลลิกรัม/เดซิลิตร
00:15:26 → 00:15:31 ก็ง่ายง่าย เอาค่านั้นมาคูณ 18 ก็จบแหละ
00:15:31 → 00:15:35 ที่สําคัญตัว ตัวแอปพลิเคชันเนี้ยมัน Record histroy
00:15:35 → 00:15:38 เรากดวัดเมื่อไหร่ มันกดทั้งวันมันก็กด มันก็ record
00:15:38 → 00:15:44 ทั้งวัน มัน record ทุกทุกวันที่เราวัด เหมือนกับ สมุด เขาเรียกอะไร
00:15:44 → 00:15:48 คู่มือเด็กดี อะ คนที่เป็น เอ๊ย คนที่เป็นความดันก็เป็น
00:15:48 → 00:15:52 ก็วัดได้นะ เพราะมันก็มี มีวัดระดับความดันของตัวเอง
00:15:52 → 00:15:56 แล้วก็จด record ให้ได้นะ หมอ Cardio ชอบเรียกว่าสมุดเด็กดี
00:15:56 → 00:16:00 เวลาคนไข้จดแล้วเอามาให้ดู
00:16:01 → 00:16:05 นี่คือ ในแอปพลิเคชัน มันวัดค่าอะไรได้บ้าง
00:16:05 → 00:16:10 อย่างที่หมอบอก มันวัดได้เนี้ย ทั้งหมดเท่าไรน่ะ 12ค่า
00:16:10 → 00:16:19 โอ้โห ระดับน้ําตาล / ความดัน / หัวใจ / อุณหภมูิ
00:16:19 → 00:16:23 ฟังก์ชัน เนี้ย เป็น 4 ฟังก์ชัน ที่เมื่อก่อนเนี้ย โอ้โห
00:16:23 → 00:16:30 ใครวัดได้นี่ แต่เดี๋ยวเนี้ย มากมาก blood pressure เนี้ย มี
00:16:30 → 00:16:37 huawei ใช่ไหม huawei วัดได้ ราคา 14000 วัดได้ค่าเดียว ของ blood pressure
00:16:37 → 00:16:42 แต่ตัว เนี้ย มันวัดได้ 12 ค่า วัดอะไรได้บ้าง วัด Blood Circulation
00:16:42 → 00:16:47 จริงจริงมันคือ เท่าที่หมอดูนะ คือมันคล้ายคล้ายCBC
00:16:47 → 00:16:53 CBCก็คือ Complete blood count ( Hct /Hb ) แต่มันไม่มีค่าเม็ดเลือดขาวกับเกล็ดเลือด
00:16:53 → 00:17:00 ถ้ามีก็ โคตรเว่อร์ วัง แต่ ในอนาคตอาจจะวัดได้นะ อันที่ 6
00:17:00 → 00:17:04 วัด microcirculation คือวัดค่าการไหลเวียนของโลหิต
00:17:04 → 00:17:07 มันจะบอกว่า มีเส้นเลือดตีบที่ไหนบ้าง
00:17:07 → 00:17:16 ซึ่งเหมาะกับคนที่เป็นเบาหวานมากเลย คนที่เป็นเบาหวานเนี้ยไม่รู้ตัวว่าเส้นเลือดตามปลายมือปลายเท้าของตัวเองมันตีบเล็กลง
00:17:16 → 00:17:27 เพราะว่าน้ําตาลเนี้ยมันไปทําลายหลอดเลือดขนาดเล็ก เราจะสังเกตว่าคนที่เป็นเบาหวานบางทีพอติดเชื้อที่แผลที่นิ้วที่อะไรเนี้ยต้องไปตัดใช่ไหม
00:17:27 → 00:17:34 ยิ่งตัดก็จากตัดนิ้วเดียวสองนิ้วสามนิ้วสี่นิ้วอย่างเงี้ย เพราะฉะนั้นตัวนี้มันจะตรวจได้ก่อนเลยว่าเฮ้ย
00:17:34 → 00:17:40 เส้นเลือดตามปลายมือปลายเท้าคุณมีปัญหาหรือเปล่า อันที่ 7 ในอนาคตน่ะ
00:17:40 → 00:17:45 อันที่ 7 กดไปเนี้ยยังไม่เจออะไรน่ะ มันเรียกว่า คือมันบอกว่า
00:17:45 → 00:17:52 สามารถดูด้วยว่ามีเส้นเลือดแขนขาตรงตําแหน่งไหนเนี้ย ตีบตันบ้าง เรียกง่ายง่ายก็คือ
00:17:52 → 00:17:57 เส้นเลือดนั้นเนี้ย มีหินปูนรึเปล่า มันดู arteriosclerosis
00:17:57 → 00:18:00 คือมีหินปูนเกาะ ที่เส้นเลือดหรือเปล่า อ่า
00:18:00 → 00:18:05 แต่ตอนนี้ฟังก์ชันยังใช้ไม่ได้ และอันที่ 8 คือ Sugar เนี้ย คืออะไร
00:18:05 → 00:18:09 คือตัว HbA1C เนี้ยแหละ ที่หมอบอกว่า
00:18:09 → 00:18:13 คุณจะต้องใส่ไปอย่างน้อย 1 -3 เดือน มันค่าตัวนี้มันถึงจะขึ้น
00:18:13 → 00:18:17 และมันขึ้นเป็นเปอร์เซ็นต์ ที่เป็น คนปกติ
00:18:17 → 00:18:21 ค่าจะน้อยกว่า 6 เปอร์เซ็นต์ และมันจะเหมาะกับที่ว่า
00:18:21 → 00:18:25 หมอเขาจะได้ไม่ต้องมาดูเราแล้วไงว่า เอ้ย เราคุมน้ําตาลได้ดีไม่ดี
00:18:25 → 00:18:30 หรือบางทีเป็นเบาหวาน วันนี้ เอ้ย อาทิตย์นี้หมอนัดจะไปตรวจ
00:18:30 → 00:18:35 อดอาหารให้ลดน้ําตาลลง แต่ หมอเขาจะแอบ HbA1C
00:18:35 → 00:18:39 ก่อนหน้านี้ โห คุณกินจุจัง หมอบอกวา่คุมน้ําตาลไม่ได้ อะไรอย่าง
00:18:39 → 00:18:44 เงี้ย เข้าใจนะ อันที่ 9 ดูอะไร โห ถ้าหมอ Cardio เนี่ย
00:18:44 → 00:18:48 มาเห็นนะ คือมันวัดแยก ได้ตั้งหกสิบค่า เอ้ย
00:18:48 → 00:18:51 เกือบอีก20ค่า อันนี้พูดผิดน่ะ
00:18:51 → 00:18:57 และมีค่าที่มันประเมินได้คือสําหรับคนทั่วไปน่ะ หมอดูเฉพาะ Coronary Perfusion Pressure
00:18:57 → 00:19:03 คือดูเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจว่ามันตีบรึเปล่า คือดูแรงดันว่าเส้นเลือดนี้มันพอ
00:19:03 → 00:19:08 ไหม ถ้าเส้นเลือดที่ไปเลี้ยง กล้สมเนื้อหัวใจ หรือเส้นเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจมันปกติ
00:19:08 → 00:19:10 เฮ้ย เราก็ไม่ต้องกลัวว่าเป็นเส้นเลือดหัวใจตีบ
00:19:10 → 00:19:18 นึกออกปะ ดีกว่าเราจะไปทํา CT scan Calcium score coronary อ่ะ ซึ่งแพงอ่ะ
00:19:18 → 00:19:21 ทําครั้งละก็เป็นหมื่นแล้วใช่ไหม อะ เออ
00:19:21 → 00:19:25 แต่มันไม่มีการตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจนะ ต้องรู้ก่อนนะ เพราะ
00:19:25 → 00:19:29 นาฬิกาบางยี่ห้อมันมีวัดคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ซึ่ง คนไข้ชอบเอามาให้อ่าน อะ
00:19:29 → 00:19:33 ส่วนใหญ่หมอเขาไม่อ่านหรอก นึกออกไหม อะ อันที่ 10
00:19:33 → 00:19:39 วัดค่าเลือดที่เลี้ยงในสมองอีก 6ค่า ส่วนใหญ่เราก็ดูเรื่องของ คือ
00:19:39 → 00:19:43 เลือดไปเลี้ยงมากเลี้ยงน้อย เส้นเลือดในสมองตีบหรือเปล่า นะ
00:19:43 → 00:19:49 อันที่ 11 นะครับ ดู กับไต ดูค่าอะไรได้บ้าง เฮ้ย มันดูค่า BUN/Cr
00:19:49 → 00:19:56 ได้ ก็คือ ค่าเขาเรียกว่าอะไร เอ่อ ค่า ที่ใช้บอกการทำงานของไต
00:19:56 → 00:19:59 อะไรอย่าง เงี้ย เออ ไม่เชิง ไม่เชิงเรียกโปรตีนในปัสสาวะ
00:19:59 → 00:20:02 เอาเป็นว่า แล้วก็อีกอันหนึ่งก็ดูค่า
00:20:02 → 00:20:09 RFR ( renal filter ratio ) คล้ายคล้ายค่า GFR
00:20:09 → 00:20:11 แต่ไม่เหมือนกันนะ มันละเอียดกว่า นะ
00:20:11 → 00:20:14 ค่ามันจะออกเป็นเปอร์เซ็นต์ แล้วอีกอันหนึ่งคือ
00:20:14 → 00:20:18 ดูค่าของ uric acid นะ แต่หน่วยเป็น ummol/l นะ
00:20:18 → 00:20:25 ไม่เหมือนของไทยอีกนะ ถ้า อ่านได้คุณจะต้องเอามาหาร 60 ถึงจะเป็นมิลลิกรัม
00:20:25 → 00:20:29 ซึ่งค่าปกติหนึ่ง 1.5 - 8 ทั้งนี้ทั้งนั้นเนี้ย
00:20:29 → 00:20:34 ไอ้ค่าต่างต่างเนี้ย ถ้าคุณบอก ฉันไม่อยากเอามาหารไม่อยากเอามาคูณ
00:20:34 → 00:20:39 บอกได้เลยมันมีค่าปกติบอกอยู่แล้ว ว่า
00:20:39 → 00:20:43 ค่าของคุณนั้นผิดปกติหรือเปล่า นึกออกไหม อ่า
00:20:43 → 00:20:46 ส่วนในเรื่องของปอด มีรายละเอียดอีก 30 ค่า
00:20:46 → 00:20:49 หมอยังงงเลย หมอเคยเอาเรื่องนี้ไปพูดในงาน startUP
00:20:49 → 00:20:53 แห่งหนึ่งนะ ปรากฏว่าหมอเขาก็มาถาม
00:20:53 → 00:20:57 คือคนในงาน เนี่ย เขาก็ถามว่า มันวัดได้ยังไง เราก็บอกว่า
00:20:57 → 00:21:03 เกินกว่าที่จะรู้ เพราะอะไร นี่มันคือค่า
00:21:03 → 00:21:07 ที่มันวัดได้ทั้งหมดเลย อะ 33 ค่าอยู่ข้างหลังหมอ
00:21:07 → 00:21:11 เนี่ย โอ้โห คือต้องบอกอย่างหนึ่ง
00:21:11 → 00:21:14 เอาง่ายง่ายน่ะ ถ้ามันวัดไม่ได้อ่ะ
00:21:14 → 00:21:19 มันก็ไม่มาบอกหรอกว่ามันวัดได้ คือบางคนบอกว่ามันโม้หรือเปล่าทําไมมันวัดได้นู้นนี่
00:21:19 → 00:21:23 คืออย่างที่บอกว่า หมอแค่วัด oxygen sat ได้ หมอพอและ
00:21:23 → 00:21:27 หมอไม่ต้องบอกว่าหมอวัดอย่างอื่นได้ ถูกปะ มาวัดให้ได้เยอะแยะ
00:21:27 → 00:21:30 ให้เขามาต่อว่าทําไม แต่ถ้าสมมุติว่า เขาเอามาโชว์
00:21:30 → 00:21:35 เขาวัดได้เนี้ย แสดงว่ามันวัดได้จริงน่ะ
00:21:35 → 00:21:39 มันวัดได้จริงน่ะ มันถึงได้กล้าเอามาโชว์อ่ะ ถูกปะ
00:21:39 → 00:21:46 อ่ะ อ่ะ ดูต่อไป นี่ สิ่งที่บอกมาทั้งหมดเนี้ย
00:21:46 → 00:21:52 มันมีการพัฒนาอยู่ในที่ใดที่หนึ่งในโลกแหละ อย่างอันเนี้ยก็ของประเทศญี่ปุ่น
00:21:52 → 00:21:56 พัฒนาตั้งแต่ปี 2018 เขาจะใช้เป็นตัว skin patch sensorเลยน่ะ
00:21:56 → 00:22:03 แล้วก็วัดที่เดียวกันเลยก็คือ ที่ข้อ ที่ข้อมือ ตรง ตรงชีพจร
00:22:03 → 00:22:08 แต่มันจะใช้เป็น คือ เป็นใช้เป็นแผ่นแปะ
00:22:08 → 00:22:14 ในอนาคตคุณไม่ต้องสวมนาฬิกา แต่คุณวางแผ่นแปะบางบางไว้ที่ข้อมือ
00:22:14 → 00:22:17 มันก็สามารถ ส่งรายละเอียดเข้าไปที่คลาวด์
00:22:17 → 00:22:21 ที่ เอไอ ในคลาวด์ได้หมดแล้ว แล้วมันก็
00:22:21 → 00:22:27 คํานวณส่งมาเตือนคุณที่มือถือ เหมือนนาฬิกาที่คุณสวมใส่อยู่
00:22:27 → 00:22:35 เข้าใจไหม อ่า ใครสนใจทํายังไง อ่า สั่งซื้อเลยไหม
00:22:35 → 00:22:38 ต้องบอกอย่างหนึ่งให้เข้าใจก่อนว่า หนึ่ง
00:22:38 → 00:22:46 มันเป็นอุปกรณ์สวมใส่ทางการแพทย์ ชื่อมันชัดเจน Wearable Medical Device ไม่ใช่ Smart watch น่ะ
00:22:46 → 00:22:50 เพราะฉะนั้นคุณจะมาดูนับก้าว โทรศัพท์ออกได้ไหม
00:22:50 → 00:22:53 อะไรอย่างเนี้ย ไม่ได้เลยน่ะ ถ้าคุณอยากได้ ฟังก์ชัน
00:22:53 → 00:22:56 นั้นคุณไปซื้อ apple watch ซื้อ huawei
00:22:56 → 00:23:04 แต่ถ้าคุณอยากรู้รายละเอียดของร่างกายคุณ คุณดู คุณ ตัวนี้ น่ะ ปัจจุบัน
00:23:04 → 00:23:08 ไม่มีขายออนไลน์ น่ะ เพราะฉะนั้น คุณไปหา shopee lazada เนี้ย
00:23:08 → 00:23:14 คุณจะได้แบบนี้มา เนี้ย แบบเนี้ย ที่หมอถืออยู่เนี้ย แล้วมันหลอก
00:23:14 → 00:23:20 วัดโคตรมั่วเลย น่ะ ไอ้ตัวเนี้ย นาฬิกาโป โปเกมอน คือวัดมั่วมาก
00:23:20 → 00:23:28 แถม แอป โอ้โห ไวรัสมาเลยครับ ไม่ น่ะ แล้ว
00:23:28 → 00:23:30 ตัวเรือนละสามพันแล้ว ไออย่างเงี้ย สามพันแล้ว
00:23:30 → 00:23:36 ไม่ใช้เลย นะครับ น่ะ นาฬิกาตัวนี้อย่างที่บอก
00:23:36 → 00:23:43 เหมาะสําหรับคนที่มีปัญหาสุขภาพหรือต้องการดูแลตัวเองอย่างต่อเนื่อง น่ะ แล้วก็มีหมอคอยให้คําแนะนํา
00:23:43 → 00:23:47 เพราะอย่างที่บอกว่า ท่านไม่สามารถอ่านค่า
00:23:47 → 00:23:50 ได้ทั้งหมดด้านหลังที่ หมอโชว์ก่อนหน้านี้ได้หรอก
00:23:50 → 00:23:53 มันเป็นไปไม่ได้ ถ้าท่านไม่ได้เรียนมาทางด้านเนี้ย
00:23:53 → 00:23:58 อย่างเนี้ยต้องเป็นหมอ chestMed เห็นแล้วยิ้มเลยชอบ นะครับ น่ะ
00:23:58 → 00:24:03 ยังมีขั้นตอนอีกมากนะครับ น่ะ ที่ จะเอามันเข้าไทย มันต้องผ่าน
00:24:03 → 00:24:08 อย ไทย อย ไทยนี่ เนี้ยบมาก น่ะ เพราะฉะนั้นตอนเนี้ย มันยังไม่มี
00:24:08 → 00:24:12 ในการสั่งซื้อ แต่ถามว่าเขาขายให้หมอได้ยังไง
00:24:12 → 00:24:17 ก็อย่างที่บอกว่า หมอเป็นหมอไง แล้วก็แฝงตัวอยู่ใน line
00:24:17 → 00:24:21 ก็ซื้อกับบริษัทเขาโดยตรง เขาก็ส่งมาให้ เพราะเขารู้ว่า
00:24:21 → 00:24:27 เฮ้ย สามารถอ่านค่าได้ แปลค่าได้ เข้าใจไหมครับ น่ะ
00:24:28 → 00:24:32 ปีใหม่แล้วนะครับ น่ะ ก็ขอให้ ทุกท่านมีความสุข นะครับ
00:24:32 → 00:24:37 มีความเจริญก้าวหน้า ปลอดโรค นะครับ น่ะ ในปี 2023 ( 2566 )
00:24:37 → 00:24:45 หมอขอนุญาต เอ่อ ฝากบทสวดมนต์ที่หมอ เอ่อ อ่านเอง
00:24:45 → 00:24:48 ให้ไว้เป็นคลิปน่ะ ว่าเดี๋ยวจะวาง ไว้ให้
00:24:48 → 00:24:51 เพราะอย่างที่บอกก็คือว่า ตัวเองก็สวดมนต์ทุกวัน
00:24:51 → 00:24:56 เห็นหลายท่านบอกว่า ดูคลิปหมอแล้วดูแล้วก็หลับไป
00:24:56 → 00:24:59 แสดงว่า เสียงน่าง่วงมาก หลายคนก็บอกชอบเสียงหมอ
00:24:59 → 00:25:06 หมอก็เลยอ่านบทสวดมนต์ก่อนนอนให้ เผื่อหลายท่านได้ฟังแล้วจะได้หลับฝันดี
00:25:06 → 00:25:09 สาระความรู้ดีดีจาก หมอเฉพาะทางบาทดียว และ youtube channel
00:25:09 → 00:25:14 หมอ เฉพาะทางบาทเดียวนะครับ สวัสดีปีใหม่ครับ