00:00:00 → 00:00:13 [เพลง]
00:00:13 → 00:00:16 ตึมนะในปัจจุบันเนี้ยนะฮะตอนแรกเขาก็บอก
00:00:16 → 00:00:20 ว่าเป็นแค่ physiologic condition นะตอน
00:00:20 → 00:00:23 หลังๆเนี่ยมันก็เริ่มมีรายงานที่เขาจะตี
00:00:23 → 00:00:27 พิมพ์หรือเค้าเคเป็นการรวบรวมเคสตามสถิติ
00:00:27 → 00:00:32 อ่ะนะแล้วก็มาบอกบอกว่ามันมันก็ไม่เชิง
00:00:32 → 00:00:35 ที่ว่าจะเป็น physiology เพียวๆได้อ่ะนะ
00:00:36 → 00:00:38 ฮะคือจะไปละเลแบบ
00:00:38 → 00:00:42 อ่าเอ่อดอนฟมอน้ำตาลขึ้นไปหน่อยตอนเช้าๆ
00:00:42 → 00:00:44 ไม่เป็นไรหรอกเป็น physiology เดี๋ยวมัน
00:00:44 → 00:00:47 ก็ลงนะไขมันขึ้นอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะ
00:00:48 → 00:00:51 หรือความดันขึ้นอะไรต่างๆนะคือตัวชี้วัด
00:00:51 → 00:00:54 เหล่านี้เนี่ยมันก็มันไดนามินะมันสูงได้
00:00:54 → 00:00:59 ต่ำได้นะเหมือนความดันสวิงอ่าน้ำตาลก็
00:00:59 → 00:01:02 สวิงได้นะฮะไขมงไขมันเนี่ยคอเลสเตอรอล
00:01:02 → 00:01:06 ไกินเนี่ยนะแต่ถามว่าในความเป็นจริงเนี่ย
00:01:07 → 00:01:10 ในความเป็นจริงในคำอธิบายต่างๆเหล่าเนี้ย
00:01:10 → 00:01:13 นะตัว physiology เหล่าเนี้ยนะมันก็จะ
00:01:13 → 00:01:17 ต้องมี timing อ่ะนะคือมีกรอบนะฮะที่ว่า
00:01:17 → 00:01:20 มันจะสวิงหรือว่ามันจะผิดปกติได้แค่ไหนนะ
00:01:20 → 00:01:24 มีตัวเลขชี้วัดเ่อคอยกำกับอยู่แล้วนะฮะ
00:01:24 → 00:01:29 เอ่อทีนี้ช่วงเวลาก็ดีนะหรือความสูงไปต่ำ
00:01:29 → 00:01:33 ไปก็ดีเนี่ยสิ่งเหล่าเนี้ยนะมันต้องมีขอบ
00:01:33 → 00:01:39 เขตนะฮะขอบเขตเ่ออย่างกรณีของน้ำตาลตอน
00:01:39 → 00:01:44 เช้าเนี่ย fing ชูก้าที่เรียกว่าอ่าฟมอ
00:01:44 → 00:01:48 น้ำตาลรุ่งอรุณเนี่ยนะมันมีตัวเลขในการ
00:01:48 → 00:01:52 ยึดเ่ะนะฮะนะก็เดี๋ยวเราจะคุยให้ฟังว่า
00:01:52 → 00:01:54 ว่ามันเป็นยังไงนะฮะแต่หมอบอกคร่าวๆใน
00:01:54 → 00:01:58 เรื่องของเปเปอร์ก่อนว่ามันมีงานวิจัยที่
00:01:58 → 00:02:02 ที่มีคนเ่อเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะเขาคเรียก
00:02:02 → 00:02:06 ว่ายึดน่ะนะนะแล้วก็ถือสามากเลยว่าถ้า
00:02:06 → 00:02:10 เกิดมีภาวะของน้ำตาลที่มันมันแช่อยู่
00:02:10 → 00:02:13 อย่างเงี้ยติดๆกันทุกวันทุกวันทุกวันแล้ว
00:02:13 → 00:02:15 จะไปบอกว่าด phenomenon เนี่ยมันเป็น
00:02:15 → 00:02:18 physiology อไม่ต้องไปสนใจมันปล่อยๆมัน
00:02:18 → 00:02:21 ไปก็ได้เงี้ยมันไม่ได้นะฮะเพราะว่าปรากฏ
00:02:21 → 00:02:25 ว่าเอ่ออันนี้เอออย่างกรณีเนี้ยนะฮะนมัน
00:02:25 → 00:02:28 มีเปเปอร์อันเนี้ยนะที่บอกนะฮะนะเรื่อง
00:02:28 → 00:02:31 ของฟมอเนี่ยเนี่ยนะ conclusion ของเค้า
00:02:31 → 00:02:35 เนี่ยก็คือว่ามันทำให้ตัว a1c เนี่ยนะฮะ
00:02:35 → 00:02:41 นะเนี่ยสูงขึ้นไปประมาณ 0.4% ต่อ 1 รอบ
00:02:41 → 00:02:43 ของอายุเม็ดเลือดแดงนะฮะเพราะฉะนั้น
00:02:43 → 00:02:46 ประมาณ 3-4 เดือนเนี่ยนะถ้าเกิดเราปล่อย
00:02:46 → 00:02:50 ให้ฟมอเกิดขึ้นแทบทุกเช้าน่ะนะนะมันจะมี
00:02:51 → 00:02:53 แนวโน้มที่ตัวเปอร์เซ็นต์ของน้ำตาลสะสม
00:02:53 → 00:02:58 อ่ะอ่อมันจะต้องถูกบวกเข้าไปนะจากอ่าปกติ
00:02:58 → 00:03:03 จากค่าที่ที่เรามีอยู่อ่ะนะฮะอีก 0.4% นะ
00:03:03 → 00:03:06 ฮะเพราะฉะนั้นใครก็ตามที่มันใกล้ภาวะพี
00:03:06 → 00:03:09 diabetes เนี่ยนะหรือมีภาวะล่อแร่่อแร่
00:03:09 → 00:03:14 ที่ a1c มัน 5.8 นะมันใกล้ๆ 6 6.1 เงี้ย
00:03:14 → 00:03:17 นะแล้วคุณก็มีดอน phenomenal เนี่ยอย่าง
00:03:17 → 00:03:20 ชัดเจนนะฮะนะเพราะฉะนั้นเราจะมาแชร์เชือน
00:03:20 → 00:03:24 เราจะมาปล่อยๆๆไปมันก็ไม่ได้นะฮะเพราะว่า
00:03:24 → 00:03:26 มันจะมีตัวนี้เนี่ยมาแอ on หรือมาบวกเข้า
00:03:26 → 00:03:31 ไปนะฮะเพราะฉะนั้นถ้า 6.1 1 + 0.4 ใน
00:03:31 → 00:03:35 ระยะอีก 3-4 เดือนใน 1 รอบอายุของเม็ดแดง
00:03:35 → 00:03:38 เนี่ยมันก็มีแนวโน้มเนี่ยที่เราจะถูก
00:03:38 → 00:03:42 วินิจฉัยกลายเป็นเบาหวานไปนะเนี่ยอันนี้
00:03:42 → 00:03:46 เฉพาะเรื่องของของปัญหาดอนเนมอนะฮะนะ
00:03:46 → 00:03:50 เพราะฉะนั้นก็เลยก็เลยมาคิดว่าเออเราจะ
00:03:50 → 00:03:53 แก้ไขยังไงดีนะฮะเราจะแก้ไขยังไงดีเพราะ
00:03:53 → 00:03:55 ฉะนั้นวันเนี้เราจะไปที่เรื่องของแนวทาง
00:03:56 → 00:03:59 การปฏิบัติอ่าที่จะลดลาวาศอกในเรื่องของ
00:03:59 → 00:04:03 น้ำตาลในช่วงดอนมมอหรือตอนเช้าๆนะฮะว่า
00:04:03 → 00:04:09 อ่าควรจะต้องคอนโทรลเค้าให้ดีที่สุดนะ
00:04:09 → 00:04:11 แล้วก็จะได้ไม่มีมีปัญหากับตัว
00:04:11 → 00:04:15 เปอร์เซ็นต์นิดๆหน่อยๆอ่ะที่จะมาบวกนะใน 1
00:04:15 → 00:04:19 รอบอายุของเมเเลอแดงนะฮะนะอันนี้ก็เป็น
00:04:19 → 00:04:22 เรื่องเป็นเป็นเรื่องเรื่องเรื่องเรื่อง
00:04:22 → 00:04:25 ที่มันขวางหูขวางตาหมอนะเราก็เลยคิดว่า
00:04:25 → 00:04:29 เออลองมาคุยกันดูนะฮะนะอีกอันนึงก็คือคือ
00:04:29 → 00:04:32 เร็วๆเนี้ยหมอก็ได้แชร์ลงไปในเพจ
00:04:32 → 00:04:35 longevity แล้วนะฮะในเรื่องของการพูดถึง
00:04:35 → 00:04:38 เรื่องของ Energy Balance Energy
00:04:38 → 00:04:41 inbalance นะฮะว่าในทางความหมายของ low
00:04:41 → 00:04:43 C ต้นตำรับเนี่ย low C High Fat ต้น
00:04:43 → 00:04:46 ตำรับเนี่ยเ่อเขหมายถึงอะไรนะฮะหมายถึง
00:04:46 → 00:04:51 อะไรและมันก็จะไปโยงใยในเรื่องของค่าความ
00:04:51 → 00:04:54 เหมาะสมหรือช่วงพอดีๆดีอ่าคือการไม่น้อย
00:04:54 → 00:04:58 ไปไม่มากไปไม่ต่ำไปไม่สูงไปนะฮะเราก็ใช้
00:04:58 → 00:05:01 คำว่า Normal Range Standard Range
00:05:01 → 00:05:04 optimal Range นะฮะซึ่งเหล่าเนี้ยก็จะ
00:05:04 → 00:05:07 มาเกี่ยวข้องกับพื้นฐานของเก้าอี้ 4 ขา
00:05:07 → 00:05:10 เนี่ยก็คือเรื่องการกินสำคัญที่สุดการนอน
00:05:11 → 00:05:14 นะการเว้นระยะการกินหรือการทำไนี่แหละนะ
00:05:14 → 00:05:17 ฮะแล้วก็การออกแรงออกกำลังนะทั้งหมดนี้นะ
00:05:17 → 00:05:20 ฮะต้องอยู่ในช่วงของความเหมาะสมพอดีพอดี
00:05:20 → 00:05:25 นะฮะซึ่งปัญหาหนึ่งที่จะตามมานะที่เราพูด
00:05:25 → 00:05:28 กันถึงในวันนี้ก็คือภาวะน้ำตาลรุ่งอรุณนะ
00:05:28 → 00:05:33 ฮะแคำเก๋เลย
00:05:33 → 00:05:40 เนอะทีนี้ฟมอนะอ่าเราใช้คำย่อว่า DP นะฮะ
00:05:40 → 00:05:43 นะทั่วๆไปนะฮะในเว็บต่างประเทศเก็ใช้เ
00:05:43 → 00:05:47 เนี่ยนะมีการยึดค่าน้ำตาลเท่าไหร่นะฮะน้ำ
00:05:47 → 00:05:51 ตาลเท่าไหร่ถึงจะเรียกว่าเออปกติไม่ไม่
00:05:51 → 00:05:55 ไม่ไม่ Cut Off ที่ที่ที่จะถือว่าเป็น
00:05:55 → 00:05:59 ช่วงของฟมอนะฮะเอ่อต้องบอกก่อนว่าแต่กฎ
00:05:59 → 00:06:02 ก่อนเนี่ยในต่างประเทศเยึดที่ 107 นะฮะ
00:06:02 → 00:06:05 107 นะคือในตำราเรียนเราก็ยึดที่ประมาณ
00:06:05 → 00:06:10 110 มิลกรัมเเดซิลิตรนะฮะนะแต่ต่าง
00:06:10 → 00:06:14 ประเทศเนี่ยนะเ 107 นะฮะ 107 แต่ในทาง
00:06:14 → 00:06:18 ปฏิบัติเนี่ยเราว่าเอาตัวเลขเป็นกลมๆกวงๆ
00:06:18 → 00:06:23 ก็คือ 100 ก็คือพูดง่ายๆคืออย่าได้มยอย่า
00:06:23 → 00:06:25 ที่จะทำให้น้ำตาลตอนเช้าๆของเราเนี่ยเป็น
00:06:26 → 00:06:30 ตัวเลข 3 หน่วย 3 หน่วยแล้วไม่โอเคนะฮะนะ
00:06:30 → 00:06:34 เอเพราะฉะนั้นเราก็พอรู้่ะเนาะถ้าเกิดเ่อ
00:06:34 → 00:06:38 เกิน 100 นะแต่ยังไม่เกิน 126 นะอันนี้ก็
00:06:38 → 00:06:42 เป็นภาวะก่อนเบาหวานซึ่งลักษณะน้ำตาลแบบ
00:06:42 → 00:06:46 เนี้ยก็คือฟมอนะถ้าเกิด 126 ก็จะถูก
00:06:46 → 00:06:48 วินิจฉัยว่าเป็นเบาหวานแะซึ่งก็ต้องตรวจ 2
00:06:48 → 00:06:51 ครั้งแล้วก็ไปตรวจ A1 C อะไรอีกนะฮะใน
00:06:51 → 00:06:54 การประกอบการวินิจฉัยนะแล้วโดยทั่วไปสมัย
00:06:54 → 00:06:58 ก่อนเนี่ยนะถ้าเกิน 140 นะก็อาจจะเริ่ม
00:06:58 → 00:07:03 แอดอ่าการใช้ยานะฮะการใช้ยานะหรือในแง่
00:07:03 → 00:07:06 น้ำตาลหลังอาหาร 2 ชั่วโมงถ้ามีการกินแบบ
00:07:06 → 00:07:12 ปกติเนี่ยนะก็เกิน 155 นะเนี่ยถ้ากิน
00:07:12 → 00:07:15 โลคราฟน้้ำตาลหลังอาหาร 2 ชั่วโมงเกิน 160
00:07:15 → 00:07:20 นะฮะนะอันนี้เราก็ถือว่าน่าจะอ่าต้องมี
00:07:20 → 00:07:24 การพิจารณาแก้ไขนะอ้าววันนี้เอาเอาดอน
00:07:24 → 00:07:27 มินอลนะเรายึดที่น้ำตาลนี่ประมาณไม่เกิน
00:07:27 → 00:07:31 เลขตัวเลข 3 หน่วยนะฮะทีนี้ตรงงเนี้ยต้อง
00:07:31 → 00:07:34 ทำความเข้าใจนะฮะว่าการเจาะน้ำตาลตอนเช้า
00:07:34 → 00:07:35 fing
00:07:35 → 00:07:40 ชูการคุณจะต้องเว้นระยะการกินก็คือคำสุด
00:07:40 → 00:07:45 ท้ายที่วางช้อนนะวางช้อนเลยในมื้อนั้น
00:07:45 → 00:07:51 เนี่ยนะแล้วนับไปเลย 8-12 ชมงนะฮะ 8-12
00:07:51 → 00:07:53 ชมงคือต้องไม่ต่ำกว่า 8 ชมงและต้องไม่
00:07:53 → 00:07:57 เกิน 12 ชมงนะในช่วงเวลาแบบนี้ในช่วงเวลา
00:07:57 → 00:08:00 แบบนี้เนี่ยนะเราถือว่าเป็นค่าน้ำตาลฟาติ
00:08:00 → 00:08:05 บัชูก้าที่ที่เหมาะสมนะเหมาะสมในการ
00:08:05 → 00:08:08 วินิจฉัยนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยหลายคน
00:08:08 → 00:08:13 เนี่ยส่วนใหญ่มักจะดียไงคือไปเจาะนะนะที่
00:08:13 → 00:08:16 มันนานเกินกว่า 2 ช่ม 13 144 ชมอะไร
00:08:16 → 00:08:19 อย่างเงี้ยนะบางคนอดตั้งแต่ 20:00 นแล้ว
00:08:19 → 00:08:23 กว่าจะมาได้เจาะก็ประมาณ 10 น 9 นนะหรือเ
00:08:23 → 00:08:27 นเหรือ 11:00 นอะไรอย่างเงี้ยนะเแต่ดีที่
00:08:27 → 00:08:31 สุดนะฮะก็ไม่ต่ำกว่า 8 ช่มไม่เกิน 12 ชมง
00:08:31 → 00:08:38 นะฮะเช่นเรากินคำสุดท้ายนะและจบมื้อนะ
00:08:38 → 00:08:41 มื้อสุดท้ายก่อนจะนอนเนี่ยนะฮะเราจบที่
00:08:41 → 00:08:45 ประมาณเท่าไหร่ 18:00 นนะ 18:00 นเพราะ
00:08:45 → 00:08:48 ฉะนั้นเวลาที่เหมาะสมเนี่ยนะที่จะเจาะน้ำ
00:08:48 → 00:08:53 ตาลแล้วตรวจว่ามันมีปัญหาฟมอมนะก็นับไป
00:08:53 → 00:08:57 เลย 8 ชมก็คือเมื่อไหร่ประมาณเท่าไหร่อ่า
00:08:57 → 00:09:03 18:00 น 6:00 นก็ 8 ชมก็จะตรวจได้ตั้ง
00:09:03 → 00:09:11 แต่ 2 นะ 2 ถึง 6 นะฮะ 8-12 ชมมนะฮะถ้า
00:09:11 → 00:09:14 เกินกว่านั้นเนี่ยนะเกินกว่านั้นเนี่ย
00:09:14 → 00:09:18 ส่วนใหญ่แล้วเนี่ยนะเอ่อมันก็จะ Error ะ
00:09:18 → 00:09:19 มันจะ
00:09:19 → 00:09:22 Error แต่คนส่วนใหญ่นะฮะคนส่วนใหญ่โดย
00:09:23 → 00:09:25 เฉพาะคนในเมืองเนี่ยส่วนใหญเราจะจบมื้อ
00:09:25 → 00:09:28 อาหารกันที่ประมาณ 19 20:00 น 19 20:00
00:09:29 → 00:09:32 นนะฮะเพราะฉะนั้นช่วงของค่าน้ำตาลที่จะ
00:09:32 → 00:09:36 เป็นการวินิจฉัยเรื่องดมมอเนี่ยนะสมมุติ
00:09:37 → 00:09:40 ว่าอย่างหมอเนี่ยส่วนใหญ่ก็จะประมาณเนี่ย
00:09:40 → 00:09:43 ประมาณ 19 20:00 นนะฮะถ้าไม่ได้ร้ายนะฮะ
00:09:43 → 00:09:46 นะเพราะฉะนั้นค่าน้ำตาลที่เหมาะสมที่จะ
00:09:46 → 00:09:50 ตรวจเนี่ยนะก็ตั้งแต่ตั้งแต่เมื่อไหร่
00:09:50 → 00:09:53 ตั้งแต่ราวๆ
00:09:53 → 00:09:56 อ่าเท่าไหร่บวกไปป
00:09:56 → 00:10:01 5 บวกไป 8 ชมเนี่ยนะนะฮะนะมื้อสุดท้ายจบ
00:10:01 → 00:10:07 19:00 นนะ 8 ชม 8 ชมก็ประมาณตีอะไร
00:10:07 → 00:10:12 เออ 8 ชมนะก็ประมาณ 4:00 นนะฮะ 4:00 น
00:10:12 → 00:10:15 เอ่อถึง 8 8 เอ่อ
00:10:15 → 00:10:19 ถึงนะให้อยู่ในให้อยู่ในช่วงระหว่างนี้
00:10:19 → 00:10:21 เนาะให้อยู่ในช่วงระหว่างนี้แล้วกันนะฮะ
00:10:21 → 00:10:24 อันเนี้ยก็จะเป็นค่าน้ำตาลที่เป็นฟีนอล
00:10:25 → 00:10:27 ที่ต้องมาพิจารณาจริงๆ
00:10:27 → 00:10:33 นะมีใครกินมื้อสุดท้ายกี่โมงล่ะกี่ทุ่มมี
00:10:33 → 00:10:35 คนกินจบที่ 20:00 นมั้ยส่วนใหญ่หมอก็จบ
00:10:35 → 00:10:38 20:00 นนัแหละนะ
00:10:38 → 00:10:41 ฮะเพราะฉะนั้นช่วงเวลาเหมาะสมในการเจาะ
00:10:41 → 00:10:45 น้ำตาลเนี่ยนะก็จะอยู่ในช่วงประมาณซัก
00:10:45 → 00:10:49 4:00 น - 8 นนะฮะบางทีเราตื่นขึ้นมา
00:10:49 → 00:10:52 เนี่ยนะตื่นขึ้นมาเราก็จะไปทำงานเนี่ยนะ
00:10:52 → 00:10:57 เราก็เอ่อลองลองเทสลองจอดน้ำตาลดูก่อนว่า
00:10:57 → 00:11:01 ตอนเนี้ยนะมันอยู่ในในระดับไหนนะอย่างของ
00:11:01 → 00:11:04 หมอเนี่ยส่วนใหญ่เวลาเจาะเนี่ยมันจะอยู่
00:11:04 → 00:11:07 ที่ประมาณ 80 นะคือส่วนใหญ่มันจะอยู่ที่
00:11:07 → 00:11:11 ประมาณ 88 นะฮะนะ 84 88 อะไรอย่างเงี้ย
00:11:11 → 00:11:15 นะอันนี้ก็คือหลังจากหลับไปแล้วเอ่อหลัง
00:11:15 → 00:11:19 จากตื่นขึ้นมานะฮะนะก็อยู่ในช่วง 8-12
00:11:19 → 00:11:23 ช่มเนี่ยแล้วเสร็จแล้วตอนเเราก็ได Fast
00:11:23 → 00:11:25 เราไม่ได้กินอะไรอย่าเงี้ยนะขับรถไปทำงาน
00:11:25 → 00:11:28 ขว่าจะถึงที่ทำงานอะไรต่ออะไรบางทีไปถึง
00:11:28 → 00:11:31 มีคนไข้รอตรวจเราก็ตรวจคนไข้ไปก่อนนะฮะ
00:11:31 → 00:11:34 ปรากฏว่าถ้ามีตัวนาฬิกา smart watch
00:11:34 → 00:11:36 Monitor เนี่ยเราก็จะเห็นเลยว่าน้ำตาล
00:11:36 → 00:11:40 มันก็ขึ้นน่ะนะจากเดิมตอนเช้าที่เอ่อเรา
00:11:40 → 00:11:43 กดดูเนี่ยมันอยู่ที่ 88 เงี้ยนะน้ำตาลมัน
00:11:43 → 00:11:46 ก็จะค่อยๆขึ้นไปขึ้นไปขึ้นไปนะฮะขึ้นไป
00:11:46 → 00:11:50 เรื่อยๆอันนี้ก็คือกรณีที่มันเกิน 12
00:11:50 → 00:11:53 ชั่วโมงนะฮะบางทีเราไปตรวจวัดแล้วเราก็จะ
00:11:53 → 00:11:57 ตกอกตกใจเพราะว่าตอนเนี้ยนะเราไม่ได้กิน
00:11:57 → 00:12:00 อะไรใช่มแต่ร่างร่างกายเนี่ยต้องมีการทำ
00:12:00 → 00:12:03 งานนะร่างกายต้องมีการใช้พลังงานต้องมี
00:12:03 → 00:12:06 น้ำตาลเ่ากล้ามน้มกล้ามเนื้อหรือสมองหรือ
00:12:06 → 00:12:09 อะไรก็ตามนะฮะมันต้องมีการใช้พลังงานนะ
00:12:09 → 00:12:12 เพราะฉะนั้นเนี่ยก็ตอนนี้ไม่ได้กินอะไรใน
00:12:12 → 00:12:15 ก็เป็นหน้าที่ของฮอร์โมนคอร์ติซอลนี่ที่
00:12:15 → 00:12:18 จะจัดหาน้ำตาลโดยกระบวนการกลูโคนิโอเจนิส
00:12:18 → 00:12:21 ที่ต่ำนะฮะก็จะหาน้ำตาลมาให้เราเสิร์ฟให้
00:12:21 → 00:12:24 เรา๋นี้การทำงานของคอร์ติซอลเราก็รู้ๆ
00:12:24 → 00:12:27 อยู่ว่าฮอร์โมนตัวแม่เนี่ยเวลาเขาทำอะไร
00:12:27 → 00:12:31 เนี่ยนะเขาจะวอรเสมอเขาจะมากไว้ก่อนนะฮะ
00:12:31 → 00:12:34 นะเพราะฉะนั้นเราก็ต้องดูให้ดีๆนะว่าเอ่อ
00:12:34 → 00:12:38 เาจัดหาน้ำตาลมาให้เราเนี่ยจากเดิมนะตอน
00:12:38 → 00:12:41 ตื่นขึ้นมาใหม่ๆเนี่ยมัน 88 นะเดี๋ยวมัน
00:12:41 → 00:12:44 ก็ไรซิ่งขึ้นไปเรื่อยๆเรื่อยๆๆๆนะเออไป
00:12:44 → 00:12:48 ถึงเท่าไหร่นะฮะไปถึงเท่าไหร่นะก็ควรจะ
00:12:48 → 00:12:50 บวกขึ้นไปอีกประมาณไม่เกิน 30 มิลิกรัม
00:12:50 → 00:12:54 เปซนะฮะก็ถึงจะอยู่ในเกณฑ์นะฮะเเรียกว่า
00:12:54 → 00:12:58 อยู่ในเกณฑ์ปกติแหละทั่วๆไปนะประมาณเนี้ย
00:12:58 → 00:13:02 นะก็คือบวกหรือบวกขึ้นไปจากตัวเลข 88
00:13:02 → 00:13:07 เนี่ยได้ไม่เกิน 30% นะก็ลองคิดออกมานะฮะ
00:13:07 → 00:13:10 นะถ้ากว่านั้นเนี่ยถ้ากว่านั้นเนี่ยก็
00:13:10 → 00:13:13 เริ่มที่จะเป็นปัญหาคล้ายๆฟมอนี่แหละนะฮะ
00:13:13 → 00:13:17 ก็คือน้ำตาลมันเกินขอบเขตไปหน่อยเสร็จ
00:13:17 → 00:13:20 แล้วพอเราเริ่มนะฮะที่จะกินนอะไรต่างๆ
00:13:20 → 00:13:23 เหล่าเนี้ยนะฮะร่างกายก็มีการได้รับพลัง
00:13:23 → 00:13:26 งานนะอินซูลินออกมาก็จะเริ่มมาเเรียก
00:13:26 → 00:13:29 Counter แเนี่ยหรือานน้ำตาที่คอร์ติซอล
00:13:29 → 00:13:33 เนี่ยก็ทำให้สูงขึ้นนะฮะนะกลไกทั่วไปของ
00:13:33 → 00:13:36 ร่างกายเนี่ยก็จะเป็นอย่างนี้
00:13:36 → 00:13:41 นะทีนี้เรามาดูในเรื่องของนะเรื่องของ
00:13:41 → 00:13:45 มมอนะนะน้ำตาลรุ่งอรุณเนี่ยเกิดขึ้นเพราะ
00:13:45 → 00:13:48 อะไรนะฮะก็มีประโยคอันเนี้ยนะว่ามันเป็น
00:13:48 → 00:13:51 เหตุเนือกมาจากฮอร์โมนที่มันทำงานในการ
00:13:51 → 00:13:55 ควบคุมน้ำตาลขัดแย้งกันนะฮะขัดแย้งกันนะ
00:13:55 → 00:13:59 ในลักษณะของฮอร์โมนในการควบคุมน้ำตาลใน
00:13:59 → 00:14:02 ตอนเช้านะฮะในตอนเช้าในตอนรุ่งอรุณเนี่ย
00:14:02 → 00:14:05 ก็จะมีอะไรบ้างนะฮะนะเพราะงั้นสาเหตุหลัก
00:14:05 → 00:14:09 ๆก็เกิดจาก imbalance นะหรือการนะที่เเ
00:14:10 → 00:14:13 เรียกเคาเตอรแนะที่มันไม่ไม่เหมาะกันไม่
00:14:13 → 00:14:17 พอดีกันนะฮะก็จะมีอยู่ 3 กลุ่มนะฮะ 3
00:14:17 → 00:14:20 กลุ่มก็คือคอร์ติซอลฮอร์โมนตัวแม่เรารู้
00:14:20 → 00:14:23 แล้วว่าแม่มานะอันนี้ก็เป็นพื้นฐานตาม
00:14:23 → 00:14:27 ธรรมชาติที่ต้องมาตาม cc rit นะฮะในการ
00:14:27 → 00:14:31 จัดหาพลังงานในการพุ่งความดันนะเนี่ยนะ
00:14:31 → 00:14:35 แล้วก็ในการดูแลนะอ่าว่าสุขเกิดความสุข
00:14:35 → 00:14:37 สบายเกิดการตื่นที่มันตื่นแล้วมันจะทำ
00:14:37 → 00:14:41 อะไรตอะไรต่อเนื่องกันไปได้ดีแค่ไหนนะอัน
00:14:41 → 00:14:44 ที่ 1 คอร์ติซอลก็ต้องมานะเพียงแต่ว่าเรา
00:14:44 → 00:14:47 ต้องรู้เเรียกคา characteristic นะฮะของ
00:14:47 → 00:14:51 คอร์ติซอลเนี่ยว่าแม่เนี่ยแม่นะเขาจะไม่
00:14:51 → 00:14:56 ค่อยพอดีนะเขามักจะวอร์ไปนะอ่าคอร์ติซอล
00:14:56 → 00:15:00 มาปุ๊บนะน้ำตาลก็จะขึ้นขึ้นะฮะน้ำตาลก็
00:15:00 → 00:15:03 ขึ้นก็ขึ้นตามนี้นะก็เรียกว่าเป็นกลไกตาม
00:15:03 → 00:15:05 physiologic
00:15:05 → 00:15:08 condition อันที่ 2 นะฮะเมื่อมีน้ำตาล
00:15:08 → 00:15:11 ขึ้นในกระแสเลือดนะฮะนะตัวเซ็นเซอร์เนี่ย
00:15:12 → 00:15:15 เ็นเซอร์หรือตัวติกเกอ Point นะฮะก็จะ
00:15:15 → 00:15:18 เกิดการไปกระตุ้นตัวพ่ออินซูลินเพื่อที่
00:15:18 → 00:15:21 จะมาเอาน้ำสาดลงนะฮะอันนี้มันก็ต้องเป็น
00:15:21 → 00:15:26 ไปตามอย่างนี้นะฮะนะเ่อเขาก็จะมาอ่าแล้ว
00:15:26 → 00:15:30 ก็จะมาเรียกว่ามามาเอาขึ้นเอาลงเนี่ยนะฮะ
00:15:31 → 00:15:34 แต่ในกรณีของฟมอเนี่ยอินซูลินมันจะมี
00:15:34 → 00:15:38 ลักษณะ 2 รูปแบบนะฮะนะเพราะว่าผู้คนเรา
00:15:38 → 00:15:41 เนี่ยในกรณีของที่มีเรื่องของบอ type
00:15:41 → 00:15:43 เรื่องของน้ำหนักตัวเรื่องของสัดส่วนร่าง
00:15:44 → 00:15:47 กายอะไรต่างๆนะฮะอ่ารูปแบบต่างๆของคน
00:15:47 → 00:15:50 เนี่ยมันก็จะทำให้พฤติกรรมนะของอินซูลิน
00:15:50 → 00:15:55 นะฮะนะอ่าในการเกิดฟมอมี 2 รูปแบบนะฮะ
00:15:55 → 00:15:58 กลุ่มคนประเภทหนึ่งเนี่ยเขาจะพบว่า
00:15:58 → 00:16:02 อินซูลินมันสูงนะมันสูงนะฮะคือคือมีการ
00:16:02 → 00:16:05 ตอบสนองนะต่อน้ำตาลที่คอร์ติซอลเอาขึ้นไป
00:16:05 → 00:16:09 เนี่ยนะโดยอินซูลินก็มาเยอะเลยนะฮะนะนการ
00:16:09 → 00:16:12 ที่สูงขึ้นเนี่ยแต่ปรากฏว่าเกิดนะเกิด
00:16:12 → 00:16:16 สภาวะที่เซลล์ต่างๆเนี่ยดื้อด้านไม่ตอบ
00:16:16 → 00:16:20 สนองนะฮะต่ออินซูลินที่อ่าเขาจะมาเอาน้ำ
00:16:20 → 00:16:23 ตาลเข้าเซลล์นะก็จะเอาน้ำตาลเข้าไปใน
00:16:23 → 00:16:25 เซลล์เนี่ยนะเพราะว่าน้ำตาลมันไม่ดีอย่าง
00:16:25 → 00:16:29 งู้นอย่างงี้นะนะกรณีอย่างนี้เนี่ยนะก็
00:16:29 → 00:16:31 เป็นลักษณะของอินซูลินนะฮะที่มีการตอบ
00:16:31 → 00:16:35 สนองในแง่ของการเกิดฟมอที่เรียกว่าเป็น
00:16:35 → 00:16:39 ภาวดือินซูลินนะฮะใน insulin resistance
00:16:39 → 00:16:41 ซึ่งก็ทายได้เลยอ่ะว่าพวกนี้ก็เกิดในคน
00:16:41 → 00:16:46 ไหนอ่ะก็คนสายพุงเครียดคนอ้วนๆนะคนคล้ายๆ
00:16:46 → 00:16:49 คนพวกกลุ่มสายเนื้อนี่แหละนะฮะนะอันนี้ก็
00:16:49 → 00:16:53 จะเจอเป็นลักษณะฟมอแบบนี้นะโดยมีอินซูลิน
00:16:53 → 00:16:57 เป็นลักษณะนี้นะอีกกลุ่มนึงเนี่ยอันนี้จะ
00:16:57 → 00:16:59 เจอขึ้นมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆในยุค
00:16:59 → 00:17:04 ปัจจุบันนะในยุคของอาหารแปรรูปนะะนะก็คือ
00:17:04 → 00:17:09 นะอินซูลินเนี่ยนะไม่สูงฮะไม่สูงนะอาจจะ
00:17:09 → 00:17:13 ต่ำไปหรืออาจจะปกติคืออินซูลินเลเวลปกติ
00:17:13 → 00:17:16 นะฮะถ้าตรวจนะฮะแต่ปรากฏว่าคุณภาพ
00:17:16 → 00:17:20 ประสิทธิภาพของอินซูลินนะเเรียกว่ามันขี้
00:17:20 → 00:17:24 เกียจมันไม่ทำงานมันไม่ขยันน่ะก็อาจจะทำ
00:17:24 → 00:17:27 นิดๆหน่อยๆนะฮะนะก็คือกลายเป็นอินซูลิน
00:17:27 → 00:17:31 ที่มันงอแงมันไม่ขยันนะฮะนะซึ่งถ้าเป็น
00:17:31 → 00:17:35 เช่นนี้เนี่ยนะมันก็เหมือนๆกันแหละว่ามัน
00:17:35 → 00:17:37 เอาน้ำตาลเข้าเซลล์ไม่ได้มันเปลี่ยนแปลง
00:17:37 → 00:17:40 มันปรับน้ำตาลอ่าลดลงไม่ได้นะก็เลยเกิด
00:17:40 → 00:17:43 น้ำตาลค้างนะเรียกว่าเป็นน้ำตาลรุ่งอรุณ
00:17:43 → 00:17:47 ดอนฟีนอลนะฮะอย่างนี้เนี่ยในปัจจุบันเขา
00:17:47 → 00:17:49 ก็เรียกกันว่าอิซูลินฟังก์ชันนะฮะนะ
00:17:50 → 00:17:53 อิซูลินฟังก์ชันนะแบบแรกเป็นอ insulin
00:17:53 → 00:17:56 resistance นะฮะซึ่งอันนี้ก็มีมานานแล้ว
00:17:56 → 00:17:59 เราก็เข้าอกเข้าใจกันดีเนาะกลุ่มที่ 3
00:17:59 → 00:18:05 ของสาเหตุของฟมอเนี่ยก็คือภาวะที่มีกลุ่ม
00:18:05 → 00:18:09 Fat Burning ฮอร์โมนเด่นนะนะก็คือมีมี
00:18:09 → 00:18:12 ฮอร์โมนเนี่ยอีกกลุ่มนึงน่ะนะซึ่งเรา
00:18:12 → 00:18:16 เรียกว่าฮอร์โมนลูกเทพนะนะพวกนี้เนี่ยนะ
00:18:16 → 00:18:19 เกิดการทำงานขึ้นมาแบบเด่นนะเเรียกว่า
00:18:19 → 00:18:26 เด่นนะเด่นยังไงนะฮะนะก็คือสมมุติว่านะ
00:18:26 → 00:18:30 เ่อคนๆนั้นน่ะนะฮะการตอบสนองของคอร์ติซอล
00:18:30 → 00:18:33 ก็ดีอินซูลินก็ดีเนี่ยอยู่ในขอบเขตนะฮะ
00:18:33 → 00:18:36 ตัวพ่อตัวแม่เนี่ยสงบเสงี่ยมนะฮะนะไม่ดุ
00:18:37 → 00:18:39 ดันไม่ก้าวร้าวไม่พุ่งไม่สวิงไม่เหวี่ยง
00:18:39 → 00:18:42 อะไรอย่างงี้นะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยกลุ่ม
00:18:42 → 00:18:45 ฮอร์โมนลูกเทพทั้งหลายนะฮะนะที่เขาจะออก
00:18:45 → 00:18:48 มาเพราพวกนี้เป็น Fat Burning ฮอร์โมนนะ
00:18:48 → 00:18:50 ฮะนะเพราะั้นเก็จะออกมาทำงานอย่างสบายอก
00:18:51 → 00:18:55 สบายใจนะเพราะเไหรก็ตามที่อคอร์ติซอลอยู่
00:18:55 → 00:18:59 อินซูลินมานะพวกนี้ก็ออกมาไม่ได้นะฮะออก
00:18:59 → 00:19:02 มาไม่ได้ก็เป็นระดับแค่ตัวลูกตัวหลานนะนะ
00:19:02 → 00:19:04 เขากลัวพ่อกลัวแม่
00:19:04 → 00:19:11 นะนะอ้านะนี้ปรากฏว่าเมื่อคนๆนั้นเนี่ยนะ
00:19:11 → 00:19:15 เอ่อมีอิทธิพลในแง่ของฮอร์โมน Fat
00:19:15 → 00:19:17 Burning เนี่ยมันเด่นนะฮะ Fat Burning
00:19:17 → 00:19:19 เด่นในที่นี้เนี่ยมันมีฮอร์โมนอะไรบ้าง
00:19:19 → 00:19:24 ที่เด่นก็มีโดฮอร์โมนนะฮะนะมีกลูคากอนมี
00:19:24 → 00:19:29 ไทรรอยด์มีแนีนะฮะนะพวกเนี้ยนะเอ่อเขเด่น
00:19:29 → 00:19:34 ขึ้นมานะฮะเเด่นขึ้นมาเก็พยายามนะเอ่อที่
00:19:34 → 00:19:39 จะมีการนะมีการกระตุ้นให้ร่างกายเได้ใช้
00:19:39 → 00:19:42 พลังงานอีกรูปแบบหนึนะฮะเขาเป็น Fat
00:19:42 → 00:19:44 Burning ฮอร์โมนเขาก็เลยเอาไซไซหรเอา
00:19:45 → 00:19:48 พลังงานที่สะสมไว้เนี่ยมาใช้แทนมาใช้แทน
00:19:48 → 00:19:52 นะฮะงั้นพวกนี้เนี่ยเราก็จะได้อะไรเราก็
00:19:52 → 00:19:56 จะได้กดไขมันอิสระกี้ Acid เราจะได้กีอ
00:19:56 → 00:20:00 กีอก็จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลแต่เนื่องจากว่า
00:20:00 → 00:20:03 ในกลุ่มของ Fat Burning ฮอร์โมนเนี่ยนะ
00:20:03 → 00:20:06 การสลายอะไรต่างๆเหล่าเจะอยู่ในขอบเขตของ
00:20:06 → 00:20:09 ความพอดีไม่เหมือนกับตัวแม่นะเพราะฉะนั้น
00:20:09 → 00:20:12 กีอที่จะเปลี่ยนเป็นน้ำตาลก็ดีระดับน้ำ
00:20:12 → 00:20:15 ตาลก็จะไม่เกินนะฮะไม่ต่ำไม่เกินนะฮะพอดี
00:20:15 → 00:20:18 พอดีนะฮะนะที่ร่างกายต้องการจะใช้นะฮะ
00:20:18 → 00:20:21 เนี่ยอันนี้มันเป็นอะไรเซ็นเซอร์บางอย่าง
00:20:21 → 00:20:27 ที่มันเป๊ะเลยนะนะหรือการสลายที่จะเกิดี
00:20:27 → 00:20:30 fy Acid นะฮะปวดขมันอิสระต่างๆนะฮะมัน
00:20:30 → 00:20:33 ก็เป็นการสลายเนี่ยมาให้ใช้ได้พอดีทุก
00:20:33 → 00:20:38 อย่างมันก็เลยพอดีนะฮะนะซึ่งเซึ่งในกรณี
00:20:38 → 00:20:43 ข้อ 3 เนี่ยนะฮะข้อ 3 เนี่ยเอ่องานวิจัย
00:20:43 → 00:20:47 หรือหรือหรือหรือการที่เขาเขียนเรื่องราว
00:20:47 → 00:20:51 ต่างๆนะฮะที่บอกเล่ากันมานะก็ปรากฏว่ามัน
00:20:51 → 00:20:54 จะเกิดภาวะอย่างนึงเที่เเรียกว่าการเพิก
00:20:54 → 00:20:58 เผยของเซลล์ต่างๆนะฮะเพราะอะไรนะเพราะ
00:20:58 → 00:21:01 เมื่อ Fat Burning ฮอร์โมนทำงานแล้วนะ
00:21:01 → 00:21:04 ทุกอย่างพอดีไม่ขาดไม่เกินนะฮะเซลล์ต่างๆ
00:21:04 → 00:21:08 แฮปปี้ได้พลังงานมาใช้เพียงแต่ว่ารูปแบบ
00:21:08 → 00:21:10 ของพลังงานที่เอามาใช้เนี่ยมันเป็นตัวไข
00:21:10 → 00:21:14 มันอิสระเป็นไิรและเป็นคีโตนหรืออาจจะจะ
00:21:14 → 00:21:18 เป็นแค่ตัวเ่อการเกิดแ adap นะที่ใช้กดไข
00:21:18 → 00:21:21 มอิาเป็นพลังงานแค่นี้เซลล์เก็แฮปปี้แล้ว
00:21:21 → 00:21:24 นะฮะเนี่ยนะเพราะฉะนั้นเนี่ยเมื่อเขา
00:21:24 → 00:21:29 ชาชินนะต่อผลของ Fat Burning ฮอรโมนลูก
00:21:29 → 00:21:32 เทพเหล่าเนี้ยนะทำให้เซลล์เนี่ยนะเกิดการ
00:21:32 → 00:21:35 ปรับตัวที่จะไม่ตอบสนองต่อการทำงานของ
00:21:35 → 00:21:40 อินซูลินนะนะเนี่ยนะเพราะฉะนั้นเนี่ยรูป
00:21:40 → 00:21:43 แบบอันที่ 3 เนี่ยนะก็จะเป็นอีกรูปแบบนึง
00:21:43 → 00:21:48 เนี่ยนะที่คล้ายๆกับว่าอินซูลินเนี่ยนะไป
00:21:48 → 00:21:51 มีผลที่จะเอาน้ำตาลเข้าเซลล์น่ะไม่ได้นะ
00:21:51 → 00:21:54 เหมือนกับว่าเหมือนกับว่าเซลล์เี่นะเป็น
00:21:54 → 00:21:57 รูปแบบนึงของเซลล์ที่เกิดการต่อต้าน
00:21:57 → 00:22:01 อินซูลินนะคล้ายข้อ 2.1 นะเพียงแต่ว่า
00:22:01 → 00:22:04 อินซูลินก็ไม่ได้สูงนะฮะไม่ได้สูงอะไรนะ
00:22:04 → 00:22:08 ฮะเพียงแต่ว่าเ่อเซลล์เนี่ยเขาเกิดการ
00:22:08 → 00:22:13 ความพออกพอใจนะฮะแล้วเกิดการเพิกเฉยฮะ
00:22:13 → 00:22:16 เพราะฉะนั้นรูปแบบเนี่ยนะฮะของสาเหตุนะ
00:22:17 → 00:22:21 ฟมอเนี่ยเราต้องเข้าใจว่าคนแต่ละคนเนี่ย
00:22:21 → 00:22:25 มันจะอยู่ในกรณีแบบไข้อ 1 ข้อ 2 หรือข้อ 3
00:22:25 → 00:22:28 อย่างข้อ 2 เป็น 2.1 หรือ 2.2 อันนี้ต้อง
00:22:29 → 00:22:33 มองให้ออกนะฮะมองให้ออกนะเนี่ยถ้าเรามี
00:22:33 → 00:22:36 ความรู้ในเชิงลึกๆนะฮะในแนวของโลค High
00:22:36 → 00:22:39 Good f ต่างๆเนี้ยหรือสิ่งต่างๆที่หมอ
00:22:39 → 00:22:42 ไลฟ์มารวมทั้งแผ่นภาพแผ่งปีเนี่ยนะลองไป
00:22:42 → 00:22:46 ไล่เรียงดูนะฮะเนี่ยเราจะเข้าใจฟีนอลใน
00:22:46 → 00:22:50 แบบนี้นะฮะแล้วเราก็พอจะมองออกว่าคนคน
00:22:51 → 00:22:53 หนึ่งเที่เมีปัญหาเรื่องน้ำตาลตอนเช้ามัน
00:22:53 → 00:22:56 ไม่ลดสักทีตัวอื่นๆเนี่ยตัวชี้วัดอื่นๆ
00:22:56 → 00:22:59 มันดีหมดแล้วแต่เขกุ้มอกกุ้มเหลือเกินนะ
00:22:59 → 00:23:02 ฮะเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ๊เน่าจะเป็นเบอร์ 1
00:23:02 → 00:23:06 หรือ 2.1 หรือ 2.2 หรือเบอร์ 3 กันแน่นะ
00:23:06 → 00:23:07 ฮะ
00:23:07 → 00:23:12 เี่ทีนี้หมอมีข้อสรุปอันนึงนะฮะว่าเอ่อ
00:23:12 → 00:23:15 อวัยวะในร่างกายของเราเนี่ยนะฮะหลักๆ
00:23:15 → 00:23:17 เกี่ยวกับระบบเมตาบอลิกหรือระบบเาผลา
00:23:17 → 00:23:20 เนี่ยมันก็ไม่พ้นตับกับกล้ามเนื้อตับกับ
00:23:20 → 00:23:23 กล้ามเนื้อนะฮะนะอ่าอาจจะมีตับอ่อนมี
00:23:23 → 00:23:27 เนื้อเยื่อไขมันอะไรนะตับเนี่ยนะฮะตับ
00:23:27 → 00:23:30 เนี่ยเวลานึกถึงตับเขเป็นศูนย์กลางนะของ
00:23:30 → 00:23:34 ระบบเบลิกของไขมันต่างๆนะเพราะงั้นไขมัน
00:23:34 → 00:23:36 ที่จะมาเป็นพลังงานหรือจะมาเป็นสารนอาหาร
00:23:36 → 00:23:39 เอาไปซ่อมอะไรต่างๆทุกอย่างเนี่ยก็จะต้อง
00:23:39 → 00:23:42 เกี่ยวข้องกับตับนะถ้าตับเมื่อไหร่ต้อง
00:23:42 → 00:23:45 เรื่องไขนะฮะคราวที่แล้วเราพูดไปเกี่ยว
00:23:45 → 00:23:49 กับเรื่องไขมันพอกตับนะะนั่นแะนะสิ่ง
00:23:49 → 00:23:52 เหล่านั้นเนี่ยก็จะวนเวียนมาที่ตับแล้ว
00:23:52 → 00:23:55 ตับจะจัดการยังไงดีไม่ดีนะเอาทางซ้ายเอา
00:23:55 → 00:23:59 ทางขวาดีนะงั้นตต้องวุ่นวายเกี่ยวกับ
00:23:59 → 00:24:03 เรื่องไขมันนะเอแล้วแต่ไขมันชนิดใดก็ตาม
00:24:04 → 00:24:07 มีที่มายังไงก็แล้วแต่เข้าทางเลือดดำ
00:24:07 → 00:24:10 เลือดแดงอะไรอย่างเงี้ยนะฮะแล้วแต่นะอัน
00:24:10 → 00:24:14 นี้เราคุยกันไปเยอะะนะฮะต่อไปเนี่ยเรา
00:24:14 → 00:24:17 ต้องนึกสิ่งที่คู่กระตับคือกล้ามเนื้อนะ
00:24:17 → 00:24:19 กล้ามเนื้อกล้ามเนื้อเนี่ยเราอาจจะถือว่า
00:24:19 → 00:24:23 เป็นศูนย์กลางของระบบเมตาบอลิกนะแต่ว่า
00:24:23 → 00:24:26 กล้ามเนื้อเนี่ยเขาใช้ได้ทั้งไขมันและน้ำ
00:24:26 → 00:24:29 ตาลนะเพราะฉะนั้นเเป็นศูนย์กลางใน 2
00:24:29 → 00:24:33 เรื่องนะฮะก็คือทั้งไขมันและน้ำตานะกล้าม
00:24:33 → 00:24:36 เนื้อในในร่างกายของเราเนี่ยนะก็จะมี 2
00:24:36 → 00:24:40 กลุ่มใหญ่ๆนะฮะนะก็คือกล้ามเนื้อสีอะไรนะ
00:24:40 → 00:24:45 สีแดงนะเเรียก slow T Muscle นะพวกนี้
00:24:45 → 00:24:50 ชอบใช้ไขมันนะชอบใช้ไตกิสนะชอบเผาไขมันนะ
00:24:50 → 00:24:54 ใช้ไขมันไตกิสเป็นพลังงานเกงๆนะพวกนี้ก็
00:24:54 → 00:24:58 คือเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อที่อ่าเราจะต้องทำ
00:24:58 → 00:25:01 พวกคาร์ดิโอต่างๆนะฮะนะเราจะใช้กล้าม
00:25:01 → 00:25:05 เนื้อหลักเป็นกลุ่ม slow สว Muscle นะแล
00:25:05 → 00:25:10 พลังงานที่ใช้ก็คือไินะเใช้แขนมาอีกกลุ่ม
00:25:10 → 00:25:14 นึงก็คือกล้ามเนื้อสีขาวนะฮะสีขาวนะอัน
00:25:14 → 00:25:17 นี้เเรียก Fast S Muscle นะนะกล้าม
00:25:17 → 00:25:21 เนื้อพวกนี้นะเขชอบใช้ไกลโคเจนนะฮะนะที่
00:25:21 → 00:25:25 เขมาเก็บสะสมไวนะก็คือการใช้น้ำตาลนะฮะเข
00:25:25 → 00:25:28 จะใช้ไกลโคเจนใช้น้ำตาลที่เด่นมากเลยนะ
00:25:28 → 00:25:31 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราพอจะมองออกมล่ะว่า
00:25:31 → 00:25:34 เอ่อถ้าพูดถึงเรื่องของการควบคุมน้ำตาล
00:25:34 → 00:25:39 หรือปัญหาของน้ำตาลที่มันเยอะอ่ะนะนะเรา
00:25:39 → 00:25:42 จะใช้อวัยวะอะไรนะที่มาช่วยจัดการหรือมา
00:25:42 → 00:25:48 ช่วยในการแก้ไขปัญหาิอนะเนี่ยนะก็ต้องเอา
00:25:48 → 00:25:51 เป็นกลุ่มนะเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อสีขาวนะฮะ
00:25:51 → 00:25:54 ซึ่งเป็น Fast with Muscle นะเพราะอัน
00:25:54 → 00:25:56 นี้เขาจะเด่นในเรื่องของการสต๊อกน้ำตาล
00:25:56 → 00:26:00 และการใช้น้ำตาลเป็นกำลังนะนี้เป็นข้อ
00:26:00 → 00:26:03 สรุปนะฮะนะเนี่ย Fat Burning ฮอร์โมนนะ
00:26:03 → 00:26:07 ฮะนะอ่าถ้ามีการนะกระตุ้นที่ slow twit
00:26:08 → 00:26:10 Muscle หรือกล้ามเนื้อสีอะไรนะกล้าม
00:26:10 → 00:26:15 เนื้อสีสีแดงนะฮะนะอันนี้ก็จะเกิดการใช้
00:26:15 → 00:26:20 ไตรกีเป็นพลังงานนะและไตรกีก็จะลดลงนะอ่า
00:26:20 → 00:26:23 แต่กรณี Fat Burning ฮอร์โมนที่มีผลต่อ
00:26:23 → 00:26:26 Fast T Muscle นะฮะนะอันนี้เขก็จะใช้
00:26:26 → 00:26:30 ไกลโคเจนหรือใช้อ่าน้ำตาลต่างๆนะทั้งสะสม
00:26:30 → 00:26:33 ทั้งใช้นะฮะเพราะฉะนั้นเราจะควบคุมน้ำตาล
00:26:33 → 00:26:36 เราไม่อยากให้เกิดมมอเราก็ต้องมาเ้าเรียก
00:26:36 → 00:26:38 pay Attention หรือมาโฟกัสในเรื่องของ
00:26:39 → 00:26:42 กล้ามเนื้อสีขาวนะนะที่เป็น Fast Muscle
00:26:43 → 00:26:46 นะฮะนะซึ่งกล้ามเนื้ออันเนี้ยนะวิธีการ
00:26:46 → 00:26:48 บริหารจัดการหรือการออกแรงออกกำลังหรือ
00:26:48 → 00:26:52 การใช้งานเขาก็คือการเวทและการต้านแรงนะ
00:26:52 → 00:26:56 ฮะนะหรือหรือหรืออาจจะมีฮิตร่วมด้วยนะเรา
00:26:57 → 00:26:59 ก็จะต้องออกกำลังกายอย่างเงี้ยถ้าเราอยาก
00:26:59 → 00:27:05 จะลดฟมอหรือเราจะควบคุมน้ำตาล
00:27:05 → 00:27:07 นะ
00:27:07 → 00:27:11 เอ่อมันมีกรณีนึงนะฮะในเรื่องของกล้าม
00:27:11 → 00:27:13 เนื้อในเรื่องของกล้ามเนื้อนะฮะนะซึ่งจะ
00:27:13 → 00:27:17 เป็นสไลด์ต่อไปแต่นี้หมอจะพูดเอ่ออันนี้
00:27:17 → 00:27:20 ก่อนอันนี้เราคงพอรู้แล้วว่าเรากินเนี่ย
00:27:20 → 00:27:23 แบบไ C นะฮะอ่าไ Cup ก็กระตุ้นอินซูลิน
00:27:23 → 00:27:27 สูงนะฮะอ่าเกิดภาวะดื้ออินซูลินแล้วการ
00:27:27 → 00:27:29 ดื้ออินซูลินเนี่ยนะของการกินแบบทั่วไป
00:27:29 → 00:27:33 แบบ High C หรือแบบอ่า 5 หมู่สารด aman
00:27:33 → 00:27:36 di เนี่ยนะฮะเนี่ยเนื้อเยื่อไขมันด้ว
00:27:36 → 00:27:38 อินซูลินก่อนหลังจากนั้นก็จะเป็นกล้าม
00:27:38 → 00:27:41 เนื้อนะฮะแล้วก็เป็นตับแล้วไปสิ้นสุดที่
00:27:41 → 00:27:46 ตับนะฮะเวลารีวนะฮะรีวก็ต้องรีเวที่ตับอน
00:27:46 → 00:27:50 ก่อนแล้วมาที่ตับนะแล้วมาที่กล้ามเนื้อนะ
00:27:50 → 00:27:53 ฮะนะเนี่ยถ้าพวกเนี้ยนะตับตับก่อนเนี่ย
00:27:53 → 00:27:56 รีวได้เนี่ยก็อยู่ในขั้นตอนเริ่มต้นของ
00:27:56 → 00:28:01 ภาวะ dmit แล้วถ้าก็เป็นบวนะนะแล้วหลัง
00:28:01 → 00:28:03 จากนั้นต้องพยายามเข้าใจเรื่องกล้ามเนื้อ
00:28:03 → 00:28:07 นะฮะในแบบสรุปที่หมอว่าไปเนี่ยนะฮะว่า
00:28:07 → 00:28:10 slow twit Muscle Fast T Muscle นะ
00:28:10 → 00:28:13 เนี่ยเขาใช้กล้ามเนื้อกันยังไงนะฮะแล้ว
00:28:13 → 00:28:16 สิ่งเหล่านี้จะตามมาด้วยนะการใช้พลังงาน
00:28:16 → 00:28:19 รูปแบบไหนเราจะเกิดอะไรขึ้นนะนะเตอนนี้
00:28:19 → 00:28:24 เรากำลังจะจัดการกับมอนะเพราะว่าถ้าปล่อย
00:28:24 → 00:28:28 ทิ้งไว้นะเดี๋ยวน้ำตาลสะสมมันจะเกินนะนะ
00:28:28 → 00:28:32 เอ่อ 0.4% นะฮะอันนี้ก็เป็นทั่วๆไปนะฮะ
00:28:32 → 00:28:36 เราพอรู้แล้วในเรื่องของการเลือินซูลินใน
00:28:36 → 00:28:41 ร่างกายนี้มันจะมีกรณีนึงนะฮะกรณีนึงก็
00:28:41 → 00:28:45 คือก็คือก็คือย้อนกลับไปแบบที่หมอพูด
00:28:45 → 00:28:47 เนี่ยในเรื่องของกลุ่มฮอร์โมนเผาผลพลัง
00:28:47 → 00:28:49 งาน
00:28:49 → 00:28:51 เด่นนะ
00:28:51 → 00:28:58 อแต่การกินแบบฟนะฮะนะเราก็รู้ว่ากินฟลรูป
00:28:58 → 00:29:01 แบบไหนก็ตามนะฮนะอินซูลินจะต่ำลงนะฮะแต่
00:29:01 → 00:29:05 เมื่อเวลาผ่านไปช่วงระยะนึงนะฮะ
00:29:06 → 00:29:09 นะมันจะมีผลบางสิ่งบางอย่างที่เกิดขึ้น
00:29:09 → 00:29:13 กับเซลล์ของตับและกล้ามเนื้อนะโดยเฉพาะ
00:29:13 → 00:29:16 ที่เซลล์กล้ามเนื้อเนี่ยนะเ่อจะมีการจะมี
00:29:16 → 00:29:19 ปัญหาการปรับตัวตอบสนองต่อการทำงานของ
00:29:19 → 00:29:23 อินซูลินไม่ค่อยดีไม่ค่อยดีนะก็เหมือนกับ
00:29:23 → 00:29:26 ว่าเรากินโลคาฟเนี่ยนะแล้วฮอร์โมนลูกเทพ
00:29:26 → 00:29:28 ต่างๆหรือฮอร์โมนเผ่าผันพลังงานแ Burning
00:29:28 → 00:29:32 ฮอร์โมนเไปจัดหาเพลังงานมาให้กล้ามเนื้อ
00:29:32 → 00:29:36 ได้ใช้นะฮะนะพอกล้ามเนื้อต่างๆเนี่ยนะ
00:29:36 → 00:29:39 ทั้งสีขาวสีแดงต่างๆมันชินหรือมันได้พลัง
00:29:39 → 00:29:43 งานนะในรูปแบบที่เป็นไขมันสลายตัวเนี่ยมา
00:29:43 → 00:29:46 ใช้เนี่ยนะมันก็จะมันก็เหมือนก็ชอบอ่ะ
00:29:46 → 00:29:49 แหละนะแล้วขณะเดียวกันเนี่ยมันก็จะพออกพอ
00:29:49 → 00:29:52 ใจเนี่ยนะฮะก็จะเกิดกระบวนการปิดกั้นหรือ
00:29:52 → 00:29:56 การไม่ตอบสนองนะฮะนะต่อการทำงานของ
00:29:56 → 00:29:58 อินซูลินเพราะอินซูลินนี่เขาคก็มีหน้าที่
00:29:58 → 00:30:01 แค่จะเอาน้ำตาลมาให้นะพออินซูลินตัวพ่อ
00:30:01 → 00:30:03 เอาน้ำตาลมาให้กล้ามเนื้อกล้ามเนื้อก็บอก
00:30:03 → 00:30:09 ว่าหึไม่เอาเออปิดสวิต์เไม่รับเพราะอะไรเ
00:30:09 → 00:30:14 ก็มีไตกีสไลใช้อยู่มีไขมันใช้อยู่แล้วมี
00:30:14 → 00:30:18 พลังงานแล้วพอแล้วชอบด้วยนะเเพราะฉะนั้น
00:30:18 → 00:30:21 อยู่ดีๆอินซูลินเนี่ยจะไปเอาน้ำตาลมาให้เ
00:30:21 → 00:30:25 นะนะเอ่อเขาก็เริ่มไม่ค่อยแยแสไม่ใยดีนะ
00:30:25 → 00:30:28 เอเนี่ยเพราะเมีของใช้อยู่แล้วแล้วเค้าก็
00:30:28 → 00:30:31 สุขสบายอยู่นะฮะกรณีอย่างนี้เนี่ยนะฮะ
00:30:31 → 00:30:34 กรณีอย่างนี้เนี่ยนะเอ่อเค้าเรียกว่าเกิด
00:30:34 → 00:30:38 การจะเกิดการต่อต้านอินซูลินนะที่มากขึ้น
00:30:38 → 00:30:42 หรือง่ายขึ้นนะเป็น physiologic insulin
00:30:42 → 00:30:45 resistance นะฮะนะมักจะเกิดที่กล้าม
00:30:45 → 00:30:50 เนื้อและที่ต่ำได้นะฮะได้แต่ส่วนใหญ่จะ
00:30:50 → 00:30:53 เกิดที่กล้ามเนื้อมากกว่านะโดยเฉพาะการพบ
00:30:53 → 00:30:58 ในกลุ่มคนที่ผอมน้ำหนักน้อยนะฮะหรือบอดี้
00:30:58 → 00:31:03 ใชในกลุ่มสายแป้งนะสายแป้งนะอันนี้เฉพาะ
00:31:03 → 00:31:08 บางกลุ่มและบางคนนะฮะนะหลายคนเนี่ยที่ยีน
00:31:08 → 00:31:13 หรือการวิวัฒนาการเนะมีการตอบรับมาดีนะฮะ
00:31:13 → 00:31:15 ก็อาจจะไม่มีก็ได้ทั้งๆที่คุณก็เป็นสาย
00:31:16 → 00:31:21 แป้งหรือผอมนะคือเราอ่ะเราสังเกตเห็นได้
00:31:21 → 00:31:23 ว่านะคนที่มาเช็คอัพต่างๆแล้วที่เปลี่ยน
00:31:23 → 00:31:27 เป็นโภชนาการแบบโฟน่ะนะแล้วมันเกิดฟมอเ
00:31:27 → 00:31:32 หรือเกิด a1c มันไม่ลดนะนะการอธิบายอะไร
00:31:32 → 00:31:35 ต่างๆเหล่าเนี้ยนะฮะนะคือมันต้องเข้าไป
00:31:35 → 00:31:39 ถึงเนื้อในลึกนิดนึงนะฮะนะเนี่ยมันก็มี
00:31:39 → 00:31:43 สภาวะนี้เกิดขึ้นด้วยนะฮะนะแล้วที่สังเกต
00:31:43 → 00:31:46 ก็จะเป็นในเรื่องของคนที่ค่อนข้างอะไรอ่ะ
00:31:46 → 00:31:50 ค่อนข้างอะไรสมส่วนค่อนผอมนะผอมแบบ
00:31:50 → 00:31:53 underweight นะเราก็คือน้ำหนักกับส่วน
00:31:53 → 00:31:57 สูงเนี่ยไม่อยู่ในเกณฑ์ของค่าค่าที่ดีอ่ะ
00:31:57 → 00:32:01 นะฮะค่าได้ดีนะนะเนี่ยมันก็จะเกิดปัญหา
00:32:01 → 00:32:04 อย่างนี้ขึ้นมานะกับการตรวจ laap หรือ
00:32:04 → 00:32:06 check up L ยิ่งถ้าเป็นเบาหวานด้วย
00:32:06 → 00:32:10 เนี่ยนะฮะนะเนี่ยบางทีเนี่ยมันปรับใน
00:32:10 → 00:32:11 เรื่องหรือมันแก้ในเรื่องของ DM
00:32:11 → 00:32:14 remission ได้แล้วเนี่ยนะแต่มันก็จะมา
00:32:14 → 00:32:16 ติดไอ้เรื่องของ D phenomenal นะใน
00:32:16 → 00:32:20 ลักษณะเอยู่ยาวนานเลยนะฮะเราเรียกว่า
00:32:20 → 00:32:23 physiologic insulin resistance นะของ
00:32:23 → 00:32:27 ตัวกล้ามเนื้อนะซึ่งเกิดทั้งเ่อสโลและอ่า
00:32:27 → 00:32:30 ฟ S Muscle นะฮะนะคือกล้ามเนื้อทั้งหมด
00:32:30 → 00:32:34 มีผลหมดเลยนะฮะแล้วก็จะมีความเด่นชัดมาก
00:32:34 → 00:32:37 มากๆกว่าเซลล์ตับนะฮะคือตับเนี่ยก็ดำที่
00:32:38 → 00:32:41 บอกก็รับผิดชอบกับเรื่องไขมันนะแต่ถ้า
00:32:41 → 00:32:43 เมื่อไหร่มีปัญหาเรื่องน้ำตาลเนี่ยส่วน
00:32:43 → 00:32:46 นึงก็ตับมันก็อาจจะเปลี่ยนอาจจะปรับอาจจะ
00:32:46 → 00:32:49 แปลงเป็นไตกีราเนี่ยแต่ส่วนใหญ่เนี่ยมัน
00:32:49 → 00:32:52 ก็จะมามีผลโดยตรงต่อกล้ามเนื้อโดยเฉพาะ
00:32:52 → 00:32:55 กลุ่มกล้ามเนื้อสีขาวหรือ Fast T Muscle
00:32:55 → 00:32:58 นะครับนี้ก็เป็นข้อสังเกต
00:32:58 → 00:33:01 นะซึ่งผลอันเนี้เนี่ยนะก็จะทำให้เกิด
00:33:01 → 00:33:04 ปัญหาน้ำตาลค้างอยู่ในกระแสเลือดนะน้ำตาล
00:33:04 → 00:33:09 สะสมไม่ลดลงนะและเกิดปรากฏการณ์ฟมอที่ยาว
00:33:09 → 00:33:14 นานนะฮะย้ำว่าที่ยาวนานนะเนี่ยคือที่ยาว
00:33:14 → 00:33:17 นานเนี่ยก็ดังที่หมอบอกตั้งแต่ต้นนะบางคน
00:33:17 → 00:33:22 ก็ยังถือว่าเป็น physiologic อยู่นะเแต่
00:33:22 → 00:33:24 มันยาวนานเกินไปเป็นปีๆอย่างเงี้ยอันนี้
00:33:24 → 00:33:27 ก็ไม่ใช่แล้วนะฮะไม่ใช่แล้วนะฮะนะที่จะ
00:33:27 → 00:33:31 พูดได้เต็มปากว่าไม่เป็นไรนะปล่อยปล่อยๆ
00:33:31 → 00:33:34 ไปนะอย่าไปรู้ดีกว่าร่างกายนักอะไรอย่าง
00:33:34 → 00:33:35 เงี้ย
00:33:35 → 00:33:40 นะอันนี้ก็พอเข้าใจเนานะ slow T Muscle
00:33:40 → 00:33:46 Fast T Muscle นะสีแดงอเขาชอบใช้ไกี
00:33:46 → 00:33:51 ชอบใช้ไขมันนะฮะนะถ้าสีขาวสีขาวนะฮะอัน
00:33:51 → 00:33:55 นี้นะเนี่ยเเราต้องทำอะไรบ้างวิ่งสปีด
00:33:55 → 00:33:58 ระยะสั้นเวทต้านแรงฮิตอะไรอย่างงี้นะฮะ
00:33:58 → 00:34:02 เนี่ยนะอันนี้เชอบใช้น้ำตาลนะเ่อใช้
00:34:02 → 00:34:04 ไกลโคเจนนะเพราะฉะนั้นใครที่เป็นเบาหวาน
00:34:04 → 00:34:08 เออเ่าใครที่จะสร้างกล้ามเนื้อใครที่จะ
00:34:08 → 00:34:11 ต้องควบคุมน้ำตรงน้ำตาลอะไรต่างๆนะก็ให้
00:34:11 → 00:34:16 สนใจในเรื่องของกลุ่มกล้ามเนื้อสีขาวฟ้าส
00:34:16 → 00:34:20 mus อันนี้เนี่ยก็ในรายงาน conclusion
00:34:20 → 00:34:24 เนี่ยก็คือ 0.4%
00:34:24 → 00:34:27 นะอ่า
00:34:27 → 00:34:34 ทีนี้แล้ว phin มันมีผลอะไรนะฮะผลเราก็
00:34:34 → 00:34:36 เห็นแล้วเมื่อกี้นี้ a1c จะเพิ่มขึ้น
00:34:36 → 00:34:40 เฉลี่ย 0.4% ต่อรอบอายุของ
00:34:41 → 00:34:45 Red เพรางั้นโดยรวมโดยสรุปเนี่ยฮะปัญหา
00:34:45 → 00:34:50 ฟอเนี่ยตรงๆเลยเนี่ยก็คือความไม่ปกติของ
00:34:50 → 00:34:51 อินซูลิน
00:34:51 → 00:34:56 นะอินซูลินมีการตอบสนองหรืออินซูลินเนี่ย
00:34:56 → 00:35:02 มีวิธีการการทำงานนะฮะนะไม่ไม่ไม่ปกติไม่
00:35:02 → 00:35:05 ธรรมชาตินะตามรูปแบบนะอันนี้เป็นประเด็น
00:35:05 → 00:35:09 นึงะนะนะอีกประเด็นนึงก็คือเป็นประเด็น
00:35:09 → 00:35:13 ของไอ้ตัวอ่าตัวระบบการตอบสนองของเซลล์
00:35:13 → 00:35:16 อวยวะต่างๆโดยเฉพาะตัวตับกับกล้ามเนื้อ
00:35:16 → 00:35:20 ตับกับกล้ามเนื้อเนี่ยนะเขาก็จะมีปัญหานะ
00:35:20 → 00:35:23 ในการที่จะยอมรับอินซูลินให้พาน้ำตาลเข้า
00:35:23 → 00:35:28 เซลล์ครับนะฮะก็ดังที่บอกไปนะทั้งหมดนี้
00:35:28 → 00:35:29 ก็เลยมาเกิดเป็น
00:35:29 → 00:35:34 ฟมอนะเพราะงั้นเวลาที่จะแก้ไขเราก็ต้อง
00:35:34 → 00:35:38 แก้เรื่องอินซูลินนะแล้วก็แก้เรื่องเนี่ย
00:35:38 → 00:35:42 เรื่องระบบนะฮะระบบการตอบสนองของเซลล์
00:35:42 → 00:35:45 อวัยวะต่างๆโดยเฉพาะที่ต่กับที่กล้าม
00:35:45 → 00:35:48 เนื้อนะแต่ในแง่ของน้ำตาลเราจะเน้นที่
00:35:48 → 00:35:52 เซลล์กล้ามเนื้อเซ์กนะตรงนี้แหละวันเนี้ย
00:35:52 → 00:35:55 นะก็คือที่จะมาพูดให้ฟังในแง่ของการ
00:35:55 → 00:35:59 ปฏิบัติว่าแล้วจะทำไงไงล่ะนะที่จะทำให้
00:35:59 → 00:36:04 ตัวอินซูลินนะเขามีปริมาณที่อยู่ในเกณฑ์
00:36:04 → 00:36:08 นะและไม่ขี้เกียจนะคือขยันทำงานนะเป็น
00:36:08 → 00:36:11 อินซูลินที่มีความว่องไวมีคุณภาพ
00:36:11 → 00:36:15 ประสิทธิภาพที่ดีนอกจากนี้ตัวเซลล์ต่างๆ
00:36:15 → 00:36:18 นะที่จะตอบรับนะกับการทำงานของอินซูลิน
00:36:18 → 00:36:24 ตามธรรมชาตินะฮะนะที่จะเข้าอ่าไปไปไปไปไป
00:36:24 → 00:36:28 ทำไปไปครบวงจรน่ะนะในการทำงานของอินซูลิน
00:36:28 → 00:36:31 เนี่ยนะฮะนะไม่มีการดื้อด้านนะไม่มีการ
00:36:31 → 00:36:36 งอแงนะโดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อนะนะทั้ง
00:36:36 → 00:36:39 หมดนี้นะฮะทั้งหมดนี้เนี่ยก็คือการปรับ
00:36:39 → 00:36:46 ที่เรื่องเก้าอี้สีขานะก็คือกินนอนนะอด
00:36:46 → 00:36:50 และออกแดงออกกำลังนะฮะเรื่องกินสำคัญที่
00:36:50 → 00:36:55 สุดนะฮะซึ่งก็จะมีเรื่องราวต่อไปอีก 6
00:36:55 → 00:36:59 รูปแบบนะฮะที่จะเอามานะให้ปฏิบัติกันใน
00:36:59 → 00:37:03 แง่ของการกินแต่ว่าหลักคร่าวๆคือคุณต้อง
00:37:03 → 00:37:08 กินอิ่มพบอิ่มครบนะฮะนะอิ่มครบนี่หมายถึง
00:37:08 → 00:37:11 ทั้งวันนะนะจะมื้อเดียวหรือ 2 มื้อก็ตาม
00:37:11 → 00:37:14 นะร่างกายจะเกิดการตอบสนองว่าอิ่มนะและ
00:37:14 → 00:37:19 สารอาหารพลังงานครบนะนะเมื่อเกิดการตอบ
00:37:19 → 00:37:23 สนองในลักษณะที่ว่านี้อิ่มครบนะฮะนะเราจะ
00:37:23 → 00:37:27 เป็นการควบคุมอินซูลินนะฮะเนี่ยเราควบคุม
00:37:27 → 00:37:32 อินซูลินได้สเต็ปนึงแล้วนะต่อไปอ่าพอกิน
00:37:32 → 00:37:35 อิ่มก็จะนอนหลับนะอันนี้มันก็จะตามๆกันมา
00:37:35 → 00:37:40 นะฮะนะกินดีนะก็จะหลับสบายกินอิ่มจะนอน
00:37:40 → 00:37:44 หลับนะฮะหลับยังไงก็จะหลับสนิทลึกยาวนาน
00:37:45 → 00:37:48 นะเขาเรียกว่า Quality of Sleep นะก็
00:37:48 → 00:37:52 อันนี้ก็คือคุณภาพในการหลับนะอ่าเมื่อ
00:37:52 → 00:37:55 เกิดนะคุณภาพในการหลับที่ดีนะฮะเราจะเป็น
00:37:55 → 00:37:59 การควบคุมคอซอนะเพรานั้นตัวพ่อตัวแม่
00:37:59 → 00:38:02 เริ่มถูกควบคุมในสตปแรกๆนะฮะด้วยการกิน
00:38:03 → 00:38:06 การนอนนะแต่ไอ้กินครบทั้งพลังงานสารอาหาร
00:38:07 → 00:38:10 อันนี้แหละนะก็มีรายละเอียดอีก 6 ข้อนะฮะ
00:38:10 → 00:38:15 ที่อยู่ทางด้านขวามือนะต่อไปนะพวกการอด
00:38:15 → 00:38:21 การเว้นระยะการกินนะฮะกรณีของฟมอเนี่ยนะฟ
00:38:21 → 00:38:26 ถ้าเรามีการทำไนะฮะนะไเนี่ยเราต้องนะวิธี
00:38:26 → 00:38:30 แก้ดอนมอนด้วย If นะฮะเราต้องล่นเวลาใน
00:38:30 → 00:38:34 การ If อ่านะก็คือต้องกินมื้อแรกให้เร็ว
00:38:34 → 00:38:39 ขึ้นนะฮะเพราะว่าฟมอเนี่ยนะเราจะต้องเอา
00:38:39 → 00:38:42 อินซูลินมาตอบสนองในการไล่น้ำตาลเข้าสู่
00:38:43 → 00:38:47 เซลล์นะนะไม่แช่น้ำตาลอยู่นะหรือไร้ซิ่ง
00:38:47 → 00:38:51 น้ำตาลขึ้นไปเยอะๆนะฮะนะนะอันนั้นเนี่ยนะ
00:38:51 → 00:38:54 เซลล์ต่างๆจะไม่ปลอดภัยนะแล้วทั้งตับทั้ง
00:38:54 → 00:38:58 กล้ามน้มกล้ามเนื้อจะกลัวนะกลัวกการพีค
00:38:58 → 00:39:02 ขึ้นไปนะหรือการสวิงขึ้นไปของอินซูลินนะ
00:39:02 → 00:39:06 แล้วอินซูลินที่ขึ้นๆๆเนี่ยนะมันจะยิ่ง
00:39:06 → 00:39:10 ได้อกได้ใจนะเเรียกว่าอินซูลินมันก้าว้าว
00:39:10 → 00:39:13 นะเพราะฉะนั้นตรงนี้เนี่ยนะฮะใครก็ตามที่
00:39:13 → 00:39:17 มีดอนคุณต้องปรับเวลาอาหารนะฮะไม่ดีการ
00:39:17 → 00:39:23 กินไปแบบใกล้ๆเที่ยงหรือบาทนะฮะนะก็ต้อง
00:39:23 → 00:39:26 ล่นเวลาเข้ามาใครจะล่นมากินที่ 8 น 9 น
00:39:26 → 00:39:29 หรือ 10 อะไรก็แล้วแต่นะฮะปรับให้มัน
00:39:29 → 00:39:33 เหมาะแล้วกันว่าน้ำตาลดอนโนมอเราสูงเยอะ
00:39:33 → 00:39:36 แยะแค่ไนนะนะเพะฉะนั้นมื้อแรกนะต้องเร็ว
00:39:36 → 00:39:39 ขึ้นนะฮะนะอันนี้เพื่อกระตุ้นอินซูลินให้
00:39:39 → 00:39:42 ออกมาควบคุมน้ำตาลให้สูงขึ้นนะคือให้
00:39:42 → 00:39:45 อินซูลินเมาช่วยเก็บน้ำตาลเข้าไปนะเอย่า
00:39:45 → 00:39:50 ให้น้ำตาลค่าน้ำตาลมันสูงอ่าไปเยอะๆฮะโดย
00:39:50 → 00:39:53 ทั่วไปเราก็คิดว่าไงนะถ้ากินเรียบร้อย
00:39:53 → 00:39:57 แล้วเนี่ยนะน้ำตาลเนี่ยควรจะสูงนะไม่เกิน
00:39:57 → 00:40:01 30% ของน้ำตาลก่อนกินนะฮะหรือเป็นตัวเลข
00:40:01 → 00:40:05 แบบฟิกๆเลยนะฮะนะก็คือไม่เกิน 140 ไม่
00:40:05 → 00:40:07 เกิน 140 นะ
00:40:07 → 00:40:14 ฮะแต่ถ้าเกิน 155 โอไม่โอเคไม่โอเคใชไม่
00:40:14 → 00:40:19 ได้นะฮะนะนะอันนี้นะตกลงก็คือต้องล่นเวลา
00:40:19 → 00:40:22 การกินในมื้อแรกนะคลืนเร็วขึ้นเร็วขึ้นนะ
00:40:22 → 00:40:25 ฮะอ่าเพื่ออัญเชิญตัวพ่ออินซูลินออกมา
00:40:25 → 00:40:29 เพื่อจะปรับน้ำตาให้ลดลงนะฮะอย่าไปแช่น้ำ
00:40:29 → 00:40:33 ตาลไว้นะต่อไปเรื่องเก้าอี้ตัวขาสุดท้าย
00:40:33 → 00:40:36 ก็คือการออกแรงออกกำลังนะอันนี้ก็เราเห็น
00:40:36 → 00:40:40 แล้วว่าเราต้องพยายามใช้งานในกล้ามเนื้อ
00:40:40 → 00:40:43 ที่เป็น f t mus หรือกล้ามเนื้อสีขาวฮะ
00:40:43 → 00:40:47 เพราะั้นเราก็ต้องเวทเนะฮะนะหรือฮิตสลับ
00:40:47 → 00:40:50 บ้างนะฮะแต่เทต้องเป็นหลักหการต้านแรง
00:40:50 → 00:40:53 resistance tring ทำเมื่อไหร่ก็ทำก่อน
00:40:54 → 00:40:57 อาหารมื้อแรกนะฮะก่อนอาหารมื้อแรกนะเนี่ย
00:40:57 → 00:41:02 สำหรับกรณีที่คนที่มีปัญหาดอนอนะกระตุ้น
00:41:02 → 00:41:05 กล้ามเนื้อสีขาวนะเพื่อช่วยลดน้ำต่าเพราะ
00:41:05 → 00:41:07 ว่ากล้ามเนื้อสีนี้ก็เป็นกล้ามเนื้อที่
00:41:07 → 00:41:11 เขาใช้น้ำต่านะอ่าน้ำตาก็จะได้ลดลงนะถ้า
00:41:11 → 00:41:16 ยังไม่ไม่รีบกินนะฮะไม่ได้กินก็เนี่ยนะทำ
00:41:16 → 00:41:19 แบบนี้นะฮะนะเนี่ยแต่ใช้กลุ่มกล้ามเนื้อ
00:41:19 → 00:41:22 ให้ถูกต้องนะฮะไม่ใช่เป็นเมแต่คาร์ดิโอ
00:41:22 → 00:41:25 ใช้กล้ามเนื้อสีดงสีแดงอะไรต่างๆอยู่นะฮะ
00:41:25 → 00:41:28 นะอันนี้ต้องเข้าใจเนา
00:41:28 → 00:41:32 นะต่อไปนะฮะนะเรามาดูแนวทาง 6 ข้อนะฮะใน
00:41:32 → 00:41:36 การกินนะฮะ what to eat กินให้อิ่มครบ
00:41:37 → 00:41:41 นะทั้งพลังงานและสารอาหารนะเอ่อเ่อกินยัง
00:41:42 → 00:41:45 ไงกินยังไงนะอันนี้คือแนวทางการกินในเชิง
00:41:45 → 00:41:50 ปฏิบัตินะฮะที่อ่าใครก็ตามมีปัญหาดอนมิอ
00:41:51 → 00:41:55 นะจะต้องเอาไปทำเพื่อแก้ไขนะฮะนะแล้วคุณ
00:41:55 → 00:41:58 จะเห็นว่าผลที่จะตามมาเนี่ยนะตัวน้ำตาล
00:41:59 → 00:42:02 ดอนฟีนอลเนี่ยเขาก็จะลดลงอยู่ในร่องในรอย
00:42:02 → 00:42:05 ก็คือไม่เป็นเลข 3 หน่วยไม่เป็นเลข 3
00:42:05 → 00:42:08 หน่วยลองไปทำดูนะฮะได้ผลนะฮะได้ผลนะแต่
00:42:08 → 00:42:11 ต้องเคร่งคัดนิดนึงในช่วงแรกๆในช่วงแรกๆ
00:42:11 → 00:42:15 นะทีนี้ทำอะไรบ้างนะข้อ 1 น้ำเปล่าน้ำ
00:42:15 → 00:42:19 เปล่าต้องถึงนะจริงๆเรื่องฟมอเรู้สึกหมอ
00:42:19 → 00:42:23 จะเคยต่อปัญหาเคสของเน่งหรือเปล่าเนาะที่
00:42:23 → 00:42:27 มีระดับน้ำตาลในเลือดเอ่อตอนเช้าๆยสูง
00:42:27 → 00:42:31 อยู่อ่ะมัน 100 กว่าๆนะ 100 กว่าๆ 120
00:42:31 → 00:42:35 110 กว่าอะไรเงี้ยนะถามว่าจะแก้ยังไงนะ
00:42:35 → 00:42:38 นี่แหละนะตอนนั้นเคยเคยคุยไปสั้นๆนะใน
00:42:39 → 00:42:45 ระหว่างไลฟนะเร็วๆนี้เอันนี้ก็มามามามามา
00:42:45 → 00:42:49 มาให้รายละเอียดเลยนะฮะนะก็ไม่เยอะนะฮะ
00:42:49 → 00:42:53 อันแรกน้ำนะฮะน้ำต้องถึงนะแล้วน้ำต้องถึง
00:42:53 → 00:42:57 เนี่ก็คือน้ำต่อวันนะน้ำต่อวันต้องถึง
00:42:57 → 00:43:03 นะหลักเข่าวๆก็คือนะ 25 กกินน้ำ 1
00:43:03 → 00:43:07 ลิตรเพราะฉะนั้นถ้า 75 กก็กิน 3 ลิตรนะ
00:43:07 → 00:43:11 กิน 3 ลิตรนะนะหรือถ้าเรามี
00:43:11 → 00:43:16 มิอเราต้องบวกนะเปล่านะเพิ่มเข้าไปอีกนะ
00:43:16 → 00:43:20 สักประมาณ 1-200 ซีซีก็ได้นะฮะหรือเรา
00:43:20 → 00:43:22 เป็นคนออกแรงออกกำลังอะไรต่างๆด้วยเนี่ย
00:43:22 → 00:43:25 นะฮะนะเพราะฉะนั้นน้ำเนี่ยต้องมากกว่า
00:43:25 → 00:43:28 นั้นเยอะฮะนะบวกเข้าไปอีก 500 ซีซีก็ได้
00:43:28 → 00:43:32 นะฮะนะเช่นถ้าหนักประมาณ 70 75 อะไร
00:43:32 → 00:43:36 เงี้ยนะก็กินเป็น 3,500 ลิตรไปเลยนะฮะอัน
00:43:36 → 00:43:40 นี้น้ำเปล่าจริงๆน้ำก็น้ำต้องถึงนะฮะน้ำ
00:43:40 → 00:43:45 ต้องถึงนะฮะถ้ากรณีกินน้ำนะเฉลี่ยวันละ 3
00:43:45 → 00:43:48 ลิตรเนี่ยนะในช่วงนะก่อนที่จะกินอาหาร
00:43:48 → 00:43:53 มื้อแรกนะฮะนะจะต้องนะอ่าใส่น้ำเข้าไป 1
00:43:53 → 00:43:57 ใน 3 หรือคือ 1 ลิตรอ่ะนะที่จะต้องได้
00:43:57 → 00:44:01 ทั้งวันนะต้องได้นะต้องได้สัก 1 ใน 3 นะ
00:44:01 → 00:44:05 ของ 3 ลิตรนะที่จะได้ในวันนั้นนะฮะนะก็
00:44:05 → 00:44:07 ต้องลำเรียงเข้าไปนะ
00:44:08 → 00:44:13 ฮะทีนี้น้ำเนี่ยนะน้ำเนี่ยจะไปอยู่ที่ไหน
00:44:13 → 00:44:16 จะไปอยู่ที่ไหนนะฮะแหล่งเก็บน้ำสำคัญของ
00:44:16 → 00:44:18 ร่างกายคือมวลกล้ามเนื้อนะฮะมวลกล้าม
00:44:18 → 00:44:23 เนื้อนะและจะถูกเก็บในรูปของไกลโคเจนใน
00:44:23 → 00:44:28 รูปของไกลโคเจนนะนะเรารู้มล่ะว่าอ่าตัว
00:44:28 → 00:44:30 มวลกล้ามเนื้อเนี่ยนะฮะนะถ้าเขาสามารถ
00:44:30 → 00:44:34 สต๊อกไคเจนได้นะฮะนะก็คือสต๊อกคาฟหรือน้ำ
00:44:34 → 00:44:37 ตาลต่างๆได้เนี่ยนะเวลาสิ่งเหล่านี้
00:44:37 → 00:44:41 เปลี่ยนเป็นไกลโคเจนจะมีน้ำมันล้อมลอบนะ
00:44:41 → 00:44:44 อีกเท่าไหร่ 4 โมเลกุลนะนะเพราะฉะนั้น
00:44:44 → 00:44:47 เนี่ยแหล่งเก็บน้ำที่สำคัญมากที่สุดใน
00:44:47 → 00:44:49 ร่างกายคือมวลกล้ามเนื้อหรือ Muscle
00:44:50 → 00:44:54 แเพราะฉะนั้นเนี่ยนะน้ำจะอยู่ในร่างนะ
00:44:54 → 00:45:00 อย่างเพียงพอนะนะที่จะไปลดปัญหาดอนฟมอนะ
00:45:00 → 00:45:04 ฮะนะก็ต้องมีมวลกล้ามเนื้อพอและเอ่อกล้าม
00:45:05 → 00:45:07 เนื้อเหล่านั้นจะต้องเป็นกลุ่มหรือมวล
00:45:07 → 00:45:10 กล้ามเนื้อที่เขาจะต้องมีการสต๊อกไทเจน
00:45:10 → 00:45:13 และใช้ไคเจนนะก็คือกล้ามเนื้อสี
00:45:13 → 00:45:17 ขาวเพราะฉะนั้นคือคืออย่างน้อยเนี่ยเพิ่ม
00:45:17 → 00:45:21 มวลกล้ามเนื้อนะให้ได้นะฮะนะนะแล้วหลัง
00:45:21 → 00:45:23 จากนั้นเนี่ยถ้าเป็นกลุ่มกล้ามเนื้อสีขาว
00:45:23 → 00:45:26 ฟ้าสวิตเนี่ยนะเก็จะเก็บไคเจนนะแล้วเก็บ
00:45:26 → 00:45:28 น้ำไ
00:45:28 → 00:45:31 นี้หลายคนเนี่ยนะโดยเฉพาะคนสายแป้งคนผอมๆ
00:45:31 → 00:45:35 คนน้ำหนักอ่าต่ำผักเกณอะไรต่างๆนะทำไม
00:45:35 → 00:45:39 เวลากินน้ำแล้วมันฉี่บ่อยนะเพราะกล้าม
00:45:39 → 00:45:42 เนื้อคุณน้อยนะมันไม่มีมันไม่มีอะไรมัน
00:45:42 → 00:45:46 ไม่มีแ่งเก็บน้ำนะนะคือกล้ามเนื้อน้อย
00:45:46 → 00:45:49 เนี่ยถึงกินน้ำเยอะๆก็เหอะนะฮะนะมันเก็บ
00:45:49 → 00:45:52 ไม่อยู่อ่ะเก็บไม่อยู่ก็ต้องไปขับออกไป
00:45:52 → 00:45:56 ขี่ออกนะเพราะั้นเนี่ยพวกนี้มันจะสำันะ
00:45:56 → 00:46:00 เวลาเราขาดน้ำนะฮะเราขาดน้ำนะคือน้ำเนี่ย
00:46:00 → 00:46:05 ไม่กระตุ้นอินซูลินแต่ถ้าคุณขาดน้ำนะการ
00:46:05 → 00:46:07 ขาดน้ำจะกระตุ้นทั้งอินซูลินและคอร์ติซอล
00:46:07 → 00:46:11 นะจะกระตุ้นทั้งตัวพ่อตัวแม่ฮเพราะว่าน้ำ
00:46:11 → 00:46:15 เนี่ยมันเป็นอ่าเป็นเป็นเป็นเป็นสารสำคัญ
00:46:15 → 00:46:18 ในร่างกายที่มันมีความสำคัญอันดับ 2 ลง
00:46:18 → 00:46:19 จาก
00:46:19 → 00:46:22 ออกซิเจนก็คืออันดับ 1 ออกซิเจนอันดับ 2
00:46:22 → 00:46:26 น้ำอันดับ 3 คอเลสเตอรอลนะนะก็นะขาดน้ำ
00:46:26 → 00:46:29 ไม่ได้นะนะฮะนะนะก็จะเกิดการกระตุ้น
00:46:29 → 00:46:33 อินซูรินนะฮะเกิดการกระตุ้นคอร์ติซอลนะ
00:46:33 → 00:46:38 ซึ่งพวกนี้นะเอ่อก็จะลดปัญหาแก้ปัญหามิอ
00:46:38 → 00:46:41 ไม่ได้ต่อจากน้ำเนี่ยน้ำต้องคู่กับอะไรฮะ
00:46:41 → 00:46:46 เกือเออเ่าอินซูลินเนี่ยนะฮะอินซูลินคือ
00:46:46 → 00:46:49 คือคือการแก้ไขดอนฟีนอลเนี่ยเราจะโฟกัส
00:46:49 → 00:46:51 ที่ตัวพ่ออินซูลินเป็นหลักเราต้องให้
00:46:52 → 00:46:55 อินซูลินเนี่ยเเเก่งๆเขยันอะไรเงี้ยนะฮะ
00:46:55 → 00:46:58 นะนะเพราะฉะนั้นอย่างแรกเนี่ยนะก็ต้อง
00:46:58 → 00:47:02 เติมน้ำช่วยเขานะฮะนะต่อมาเนี่ยนะ
00:47:02 → 00:47:08 อินซูรินนะฮะเอจะดีเพราะเกลือแร่ 4 ตัว 4
00:47:08 → 00:47:12 ตัวเนาะเอ่อมีอะไรบ้างมีโปแตสเซียมอันนี้
00:47:12 → 00:47:15 อันดับ 1 เลยนะโครเมียมอันดับ 2 นะ
00:47:15 → 00:47:18 แมกนีเซียมอันดับ 3 โซเดียมอันดับ 4 ไม่
00:47:18 → 00:47:21 เกี่ยวกับแคลเซียมนะเพราะงั้นเกลือแร่ 4
00:47:21 → 00:47:26 ตัวสำคัญเลยนะฮะนะที่จะต้องใส่เข้าล่างนะ
00:47:26 → 00:47:28 เพื่อไปช่วยอินซูรินโดยเฉพาะโปแทสเซียม
00:47:28 → 00:47:32 กับโครเมียมนะนะอันเนี้ยต้องไปช่วยนะฮะนะ
00:47:32 → 00:47:35 อย่างโซเดียมเนี่ยก็ยังมาช่วยในเรื่องน้ำ
00:47:35 → 00:47:41 ด้วยนะแล้วก็ตัวฮอร์โมนเ่ะนะอ่าอะไร an
00:47:41 → 00:47:45 โครเมียมนี่มันห่าจากไหนอาจารยโครเมียม
00:47:45 → 00:47:49 ใช่มยครับโครเมียมก็มาจากเนื้อสัตว์
00:47:49 → 00:47:52 เครื่องในสัตว์นะ
00:47:52 → 00:47:55 ฮะเดี๋ยวเดี๋ยวจะลงเป็นรายละเอียดย่อยๆ
00:47:55 → 00:47:58 ไว้ว่าจะกินกินโปแตสเซียมกินจากทางไหน
00:47:58 → 00:48:00 โครเมียมทางไหนแมกนีเซียมทางไหนโซเดียม
00:48:00 → 00:48:04 ทางไหนนะฮะตอนเเราเอาหลักๆก่อนว่านะว่า
00:48:04 → 00:48:07 อินซูลินเนี่ยเวลาเทำงานเนี่ยแร่ธาตุที่
00:48:07 → 00:48:10 เขาต้องการอันดับหนคือโปแตสเซียม
00:48:10 → 00:48:13 โปแตสเซียมต้องพอไม่งั้นเขาจะไม่ขยันเจะ
00:48:13 → 00:48:16 ไม่เก่งนะฮะเจะไม่เก่งนะฮะส่วนวิตามิน
00:48:16 → 00:48:20 เนี่ยนะวิตามินเนี่ยที่อินซูลินต้องการก็
00:48:20 → 00:48:25 คือ B1 B1 ไทอามีนนี่แหละนะฮะนะเอ่อไม่
00:48:25 → 00:48:28 งั้นเขาจะไม่เก่งเไม่ขยันน่ะนะฮะนะเนี่ย
00:48:28 → 00:48:32 เอ่ออินซูลินนี่เาจะเก่งนะเอ่อเขาจะไม่
00:48:32 → 00:48:36 ฟังก์ชันนะก็อย่างงี้แต่ทีนี้เรารู้มยล่ะ
00:48:36 → 00:48:40 ฮะว่าว่าระบบร่างกายของคนเราเี่เรื่องของ
00:48:40 → 00:48:43 การเ่าหมอเคยร้ายเรื่องเรื่องอินซูลิน
00:48:43 → 00:48:46 เนี่ยนะฮะอินซูลินต่างๆเหล่าเยนะถ้าเรียง
00:48:46 → 00:48:49 ลำดับอาหารเนี่ยนะก็ถามว่าอาหารสารอาหาร
00:48:49 → 00:48:55 ตัวไหนนะที่มันมันเข้าสู่เซลล์ยากมากนะ
00:48:55 → 00:49:00 เออเราเอา 2 ตัวสุดท้ายอ่ะเรารู้มล่ะนะ 2
00:49:00 → 00:49:03 ตัวสุดท้ายเนี่ยนะนะที่กว่าเขาจะเข้า
00:49:03 → 00:49:07 เซลล์ได้เนี่ยนะโอ้โหนะรอแล้วรออีกรอแล้ว
00:49:07 → 00:49:13 รออีกนะอะไรเอ่ยนะเป็นสารอาหาร 2 ตัวสุด
00:49:13 → 00:49:16 ท้ายที่เข้าเซลล์ค่อนข้างยากนะเพะนั้น
00:49:16 → 00:49:19 ร่างกายก็จะขาด 2 ตัวเนี้ย 2 กลุ่มเยมาก
00:49:19 → 00:49:20 ที่สุดมากที่
00:49:20 → 00:49:27 สุดเอออืวิตามินแลรึกษาเคมีครับไม่ใช่
00:49:27 → 00:49:30 วิตามินเนี่ยยังพอได้ฮะวิตามินยังพอได้เ
00:49:30 → 00:49:32 ยังกระตุ้นอินซูลินได้ดีแล้วอินซูลินก็
00:49:32 → 00:49:36 บอกว่าได้ๆๆๆเดี๋ยวเอาเข้าเดี๋ยวเอาเข้า
00:49:36 → 00:49:40 เออ 2 ตัวสุดท้ายเลยอ่ะสารรึกษาเคมีถูกะ
00:49:40 → 00:49:43 เพราะว่าสารรึกษาเคมีเนี่ยเาชอบอยู่กับไข
00:49:43 → 00:49:48 มันนะเขเข้าเซลล์แบบเเรียกว่าอะไรนะอ่า
00:49:48 → 00:49:51 อะไรนะเอ่อ permeable transportation เ
00:49:51 → 00:49:55 นะนะก็คือพวกสารพษาเคมีเข้าไปกับไขมัน
00:49:55 → 00:49:58 เป็นหลักนะ 80% เพราะฉะนั้นเวลาเเข้าเจะ
00:49:58 → 00:50:00 เข้าทางระบบน้ำเหลืองนะแล้วเข้าโดยการ
00:50:00 → 00:50:04 แพร่เขาไม่ต้องมาของ้ออินซูลินฮะนะแต่มัน
00:50:04 → 00:50:07 ก็จะมีอยู่ 20% ของสารรกษาเคมีนี่แหละที่
00:50:07 → 00:50:09 มันต้องเข้าทางระบบน้ำเลือดแล้วก็ต้อง
00:50:09 → 00:50:10 พึ่งอินซูลิน
00:50:10 → 00:50:14 นะแต่ตัวอีกตัวนึงอ่ะจากสารศึกษาเคมีก็
00:50:14 → 00:50:18 คือเกลือแร่นะไม่ใช่วิตามินนะวิตามินยัง
00:50:18 → 00:50:21 พอเข้าได้แต่เกลือแร่นี่แหละนะมันเข้าไม่
00:50:21 → 00:50:25 ได้นะมันถูกกีดกันเพราะว่าอินซูลินเนี่ย
00:50:25 → 00:50:27 มัวจะไปทำงานเอาตัวนั้นตัวนี้นะเอาน้ำตาล
00:50:27 → 00:50:30 เอากดอะมิโนเอาไขมงไขมันหรือว่าเอา
00:50:30 → 00:50:35 วิตามินเข้าไปก่อนหมดพลังแล้วหมดกำลังะนะ
00:50:35 → 00:50:38 นะหรือบางทีเนี่ยไปกินโลคราฟนะก็โอ้
00:50:38 → 00:50:42 อินซูลินมาน้อยอีกนะทั้งน้อยนะทั้งมี
00:50:42 → 00:50:45 ลำดับขั้นในการแจ้เอาตัวนั้นตัวนี้เข้า
00:50:45 → 00:50:49 เซลล์เนี่ยนะฮะนะเพราะฉะนั้นเนี่ยนะทำไม
00:50:49 → 00:50:52 อ่ะเวลาเรากินโลคราฟแล้วเราถึงค่อนข้าง
00:50:52 → 00:50:54 ถ้ากินไม่รู้เรื่องกินไม่เป็นกินมั่ว
00:50:54 → 00:50:58 เนี่ยนะฮะนะคุณก็จะมีปัญหาเรื่องอิเก
00:50:58 → 00:51:00 imbalance คุณจะมีปัญหาในเรื่องนี้แหละ
00:51:00 → 00:51:04 นะในเรื่องของสารศึกษาเคมีนะที่เป็นสารยา
00:51:04 → 00:51:07 นะมันไม่ได้มันไม่ได้นะคุณก็กระเสาะ
00:51:07 → 00:51:11 กระแสะนะอยู่อย่างนั้นแหละโดยเฉพาะเนี่ย
00:51:11 → 00:51:14 นะฮะนะตัวเกลือแรกเพราะว่าเกลือแรกไม่ได้
00:51:14 → 00:51:18 ถูกเก็บไว้ในร่างกายนะแล้วตัวที่เก็บ
00:51:18 → 00:51:20 เกลือแรกก็คืออินซูลินนะฮถ้ากินโล
00:51:20 → 00:51:24 อินซูลินมาน้อยนะเก็บยากเข้าไปอีกนะฮะนะ
00:51:24 → 00:51:27 นะเพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องกินต้องได้
00:51:27 → 00:51:30 เกลือแร่นะฮะนะแล้วก็ได้แบบวันต่อวันด้วย
00:51:30 → 00:51:34 นะวันต่อวันเพราะฉะนั้นในแง่ของเกลือแร่
00:51:34 → 00:51:39 เนี่ยนะเราต้องเข้าใจลึกๆนะฮะนะว่าเอ่อ
00:51:39 → 00:51:42 หลายคนก็จะไปตัดผักใบผักหัวนะแป้งเชิง
00:51:42 → 00:51:47 ซ้อนนะเอ่อจะกินแบบดีแบบไออนไดเอตเลย
00:51:47 → 00:51:49 อย่างเงี้ยนะฮะนะต้องคิดดีๆแล้วล่ะต้อง
00:51:49 → 00:51:52 คิดดีๆนะเนี่ยเรื่องราวเหล่านี้เนี่ยมี
00:51:52 → 00:51:55 ความหมายนะฮะเจะเป็นสารอาหารรองตัวเล็ก
00:51:55 → 00:51:58 ตัวน้อยก็ตามนะเมีความสำคัญนะมีความสำคัญ
00:51:58 → 00:52:02 เนี่ยโปแทสเซียมก็อินซูลินนะโครเมียมก็
00:52:02 → 00:52:05 อินซูลินนะสังกสีเนี่ยตัวต่อไปคือสังกสี
00:52:05 → 00:52:07 ก็อินซูลินนั่นแหละนะฮะแมกนีเซียมก็
00:52:07 → 00:52:12 คอร์ติซอลนะฮะนะโซเดียมโซเดียมนี่โอ้นะก็
00:52:12 → 00:52:16 ไปถ้วนน่ะนะแต่ที่สำคัญก็คือเอ่อการรักษา
00:52:16 → 00:52:19 น้ำอยู่ในกระแสเลือดและการรักษาและต้องมี
00:52:19 → 00:52:21 โซเดียมเข้าไขกระดูกนะฮะมันถึงจะเอา
00:52:21 → 00:52:24 แคลเซียมไปแพ็คที่กระดูกได้นะแคลเซียม
00:52:24 → 00:52:27 ต้องไปกับโซเดียมนะฮะนะถ้าคุกระดูกอะไร
00:52:27 → 00:52:30 กระดูกบางกระดูกจางกระดูกกรุนอะไรอย่าง
00:52:30 → 00:52:33 เงี้ยนะฮะนะมันต้องมีเกลือพาแคลเซียมไป
00:52:33 → 00:52:36 ด้วยนะนะแล้วก็ต้องมีอะไรมีเคทูอะไรอย่าง
00:52:36 → 00:52:40 เงี้ยนะอ่าอันนี้แหละนะสรุปว่านะเกลือแร่
00:52:40 → 00:52:44 ต้องกินวันต่อวันนะแล้วแหล่งของเกลือแร่
00:52:44 → 00:52:47 ที่สำคัญที่สุดก็อยู่ในพืชผักนะผักใบผัก
00:52:47 → 00:52:51 หัวมีแป้งเชิงซ้อนก็มีเกลือแร่เยอะแต่ผัก
00:52:51 → 00:52:54 ใบเผ่าหัวเยอะที่สุดนะฮะนะแล้วต้องวันต่อ
00:52:54 → 00:52:56 วันนะเ
00:52:57 → 00:53:01 นะแล้วทำไมอ่ะทำไมไม่กินจับผลไม้ล่ะนะพอ
00:53:01 → 00:53:05 ผลไม้มีฟุกโตสนะฮะฟุกโตสนะก็อาจจะพอเลือก
00:53:05 → 00:53:08 ได้บางกลุ่มเช่นเบอร์รี่นะฮะซึ่งอันนี้
00:53:08 → 00:53:11 เนี่ยลุกโตสไม่เยอะนะแล้วก็ไม่กระตุ้น
00:53:11 → 00:53:13 อินซูลินมากนะ
00:53:13 → 00:53:18 นะเอาล่ะนะให้รู้ว่าต้องมีเกลือแร่ 4 ตัว
00:53:18 → 00:53:23 นี้โดยเฉพาะนะโปแตสเซียมโครเมียมนะฮะนะ
00:53:23 → 00:53:26 ส่วนสังกสีเดี๋ยวเราไปได้จากสิ่งอื่นนะ
00:53:26 → 00:53:32 ข้อ 3 นะฮะข้อ 3 การแก้ปัญหาฟมอนะฮะนะก็
00:53:32 → 00:53:36 จะต้องมีเรื่องนี้ฮะน้ำส้มใสชูหมักนะนะก็
00:53:36 → 00:53:42 acv ccv นะฮะนะอันนี้ต้องมีนะฮะต้องมี
00:53:42 → 00:53:46 แต่ทีนี้มีแล้วต้องกินให้เป็นนะฮะวิธีการ
00:53:46 → 00:53:53 ใดที่จะทำให้เซลล์นะได้ตัวกดอะซิติกนะฮะ
00:53:53 → 00:53:58 นะเข้าสู่เซลล์ได้ดีที่สุดและไปกระตุ้นทำ
00:53:58 → 00:54:01 ให้อินซูลิน sensitive นะเก่งที่สุดนะฮะ
00:54:01 → 00:54:05 นะก็คือต้องเอาเขอยู่ในอาหารนะและสิ่งที่
00:54:05 → 00:54:08 เขาจะไปอยู่ด้วยในอาหารและไปช่วยกระตุ้น
00:54:08 → 00:54:11 อินซูลินนะอ่าในกระแสเลือดได้ดีมากเลยก็
00:54:11 → 00:54:15 คือการทำเป็นน้ำสละนะก็คืออยู่กับน้ำมัน
00:54:15 → 00:54:18 แต่ต้องเป็นสกัดเย็นนะและเอ่ออยู่ท่าม
00:54:18 → 00:54:23 กลางสารพษาเคมีต่างๆนะฮนอกจากนี้ก็คือทำ
00:54:23 → 00:54:28 ผักดองผักดองเรากินทั้งเนื้อผักน้ำด้วย
00:54:28 → 00:54:33 กันแล้วกินได้ทุกมื้อนะฮะอย่างน้ำสลัดี
00:54:33 → 00:54:37 ออยเราก็กินขออนุญาตครับไอ้น้ำน้ำส้มใาย
00:54:37 → 00:54:40 ชัวครับนอกจาก acv ccv เนี่ยตัวอื่น
00:54:40 → 00:54:43 เนี่ยมันพอจะแทนได้หรือว่ามันมีข้อคน
00:54:43 → 00:54:46 ระวังอะไรอย่างสับปะรดหรือว่าผลไม้อื่น
00:54:46 → 00:54:49 ที่เเอามาทำคือถ้าเป็นหมอเนี่ยหมอยัง
00:54:49 → 00:54:53 เชื่อในในองค์ความรู้เดิมๆเมื่อสัก 2-3
00:54:53 → 00:54:56 ปีที่แล้วเนี่ยนะว่ายังไม่ปลอดภัยนะเพราะ
00:54:56 → 00:54:59 กระบวนการที่เไปทำสิ่งเหล่านี้มาเนี่ยนะ
00:54:59 → 00:55:03 มันยังมีการหลงเหลือของของน้ำตาลอยู่
00:55:03 → 00:55:07 นะมันยังมีการหลงเหลือของอยู่น้ำตาลเแล้ว
00:55:07 → 00:55:09 ก็ควบคุมเปอร์เซ็นต์ความเข้มข้นของ
00:55:09 → 00:55:12 แอลกอฮอล์ได้ไม่ค่อยดีนักถ้าเป็นผลไม้
00:55:12 → 00:55:15 ชนิดอื่นนะฮะเพราะว่าล่าสุดผมลองลองซื้อ
00:55:16 → 00:55:18 เป็นสับปะรดมาเนี่ยนะไอ้ไอความหวานเนี่ย
00:55:18 → 00:55:22 ไม่ไม่รู้สึกนะฮะแต่ว่ากลิ่นแอลกอฮอล์
00:55:22 → 00:55:25 เนี่ยมันมันมันขึ้นแบบฉุนขึ้นจมูกขึ้นมา
00:55:25 → 00:55:28 เลยอ่ะเป็นเป็นเป็นกลิ่นแอลกอฮอล์ผสม
00:55:28 → 00:55:31 กลิ่นสับปะรดเลยอ่ะนั่นแหละมันไม่น่าไว้
00:55:31 → 00:55:35 ใจนะเพราะว่าพวกนี้เนี่ยมันก็จะไปทำให้
00:55:35 → 00:55:39 ให้ตับให้อินซูลินให้ฮอร์โมนมันเปลี่ยนก็
00:55:39 → 00:55:44 คือยังเป็น acv ccv อยู่นะ acv ก็ missis
00:55:44 → 00:55:48 Black นะถึงจะมีข่าวอะไรมาก็ตามนะฮะนะนะ
00:55:48 → 00:55:50 เขาก็ยังต้องรักษามาตรฐานคววามเป็น
00:55:50 → 00:55:52 ออร์แกนิคก็ดีนะฮะหรือเปอร์เซ็นต์
00:55:52 → 00:55:56 แอลกอฮอล์ไม่เกิน 4.5% อะไรงี้นะฮะส่วน
00:55:56 → 00:56:00 ccv ที่ทำในเมืองไทยก็ผ่านนะฮะใช้ได้นะ
00:56:00 → 00:56:03 ฮะแล้วก็อีกตัวนึงก็คือจาวมะพร้าวนะฮะนะ
00:56:03 → 00:56:08 นะของเ่อของนิวซีแลนด์นะอันนี้ดีที่สุดใน
00:56:08 → 00:56:12 โลกนะเป็นออร์แกนิคน้ำส้มใายชูหมักจากจาว
00:56:12 → 00:56:15 มะพร้าวจาวมะพร้าวนะหมอก็เคยเอารูปมาลง
00:56:15 → 00:56:16 แล้ว
00:56:16 → 00:56:20 นะก็ใช้ 3 ยี่ห้อเยจะใช้วนๆก็ได้แต่ส่วน
00:56:20 → 00:56:23 ใหญ่ของหมอใช้
00:56:23 → 00:56:28 Black ก็นี่นะทำน้ำล่ะนะฮะนะเ่าจะมีมาส
00:56:28 → 00:56:31 มาสเซอร์อะไรต่างๆแบบที่เรารู้กันเลยแหะ
00:56:31 → 00:56:34 ทำผักดองนะฮะผักดองออร์แกนิคนะแล้วเอาผัก
00:56:34 → 00:56:37 ดองมากินนะทั้งเนื้อผักและน้ำผักดองด้วย
00:56:37 → 00:56:40 นะพวกเนี้ยมันจะเข้าเซลล์ได้ดีกระตุ้น
00:56:40 → 00:56:44 อินซูลินได้เวิร์คนะนะเว่า insulin
00:56:44 → 00:56:46 sensitivity จะดี
00:56:46 → 00:56:51 มากอ่ะผ่านมาข้อ 4 นะฮะคือแป้งเชิงซ้อนนะ
00:56:51 → 00:56:55 ฮะนะคุณจะแก้ไขปัญหาฟมอต้องมีแป้งเชิง
00:56:55 → 00:56:58 ซ้อนนะแต่แต่ว่าอันนี้มันก็ต้องมีข้อแม้
00:56:58 → 00:57:02 นะฮะนะข้อแม้นะคือถ้าเกิดฟมอแล้วเราไม่
00:57:02 → 00:57:05 ได้เป็นเบาหวานหรือเราเป็นเบาหวานแล้วลรั
00:57:05 → 00:57:08 แล้วเนี่ยนะฮะนะเราก็มีโอกาสที่จะใช้แป้ง
00:57:08 → 00:57:12 เชิงซ้อนนะฮะมาปรับเรื่องฟมอนะฮะแต่
00:57:12 → 00:57:15 เทคนิคการใช้แป้งเชิงซ้อนเนี่ยนะฮะนะก็จะ
00:57:15 → 00:57:18 มีใน 2 เรื่องนี้นะฮะใน 2 เรื่องนี้ที่
00:57:18 → 00:57:22 หมอสรุปให้นะฮะนะแต่นี้หมออยากจะบอกว่า
00:57:22 → 00:57:27 กรณีที่เป็นเบาหวานแล้วยังไม่รันะฮะแป้ง
00:57:27 → 00:57:29 เชิงซ้อนใช้ไม่ได้นะฮะกินแป้งเชิงซ้อนไม่
00:57:29 → 00:57:35 ได้นะนะนะพอจะใช้ได้เฉพาะผักใบหรือผักใบ
00:57:35 → 00:57:38 กับผักหัวแล้วถ้าเป็นผักหัวต้องกินเฉพาะ
00:57:38 → 00:57:41 ในมื้อเย็นเท่านั้นนะฮะไม่ให้กินมื้อแรก
00:57:41 → 00:57:44 ถ้าคุณเป็นเบาหวานยังไม่ิันะมื้อแรกกิน
00:57:44 → 00:57:48 ผักใบนะถ้าไม่แน่ใจก็มื้อเย็นก็ผักใบด้วย
00:57:48 → 00:57:53 นะผักใบผักดองได้นะฮะนะนะแต่ถ้าเกิดไม่
00:57:53 → 00:57:57 หนักหนาอะไรนะแล้วอยากจะลองครับักหัวนะฮะ
00:57:57 → 00:58:00 ก็ักช่วงประมาณขีดครึ่งถึงไม่เกิน 2 ขีด
00:58:01 → 00:58:05 นะฮะแต่ให้กินในมื้อเย็นนะผักหัวอันนี้นะ
00:58:05 → 00:58:10 อันนี้นะกรณีของเบาหวานเบาหวานนะแต่ถ้า
00:58:10 → 00:58:13 ไม่แน่ใจกินเฉพาะผักใบพอนะกับผักรองห้าม
00:58:13 → 00:58:16 ใช้ผักปนะส่วนเป็นเบาหวานยังไม่ิัแป้ง
00:58:16 → 00:58:21 เชิงซ้อนกินไม่ได้กินไม่ได้นะนะฮะนะอัน
00:58:21 → 00:58:24 นี้ต้องรู้ด้วยว่าแป้งชงซ้อนมีกี่รูปแบบ
00:58:24 → 00:58:28 นะฮะนะเอ่อแป้งแงแท้แป้งเทียมเ่อข้าวแท้
00:58:28 → 00:58:30 ข้าวเทียมอะไรต่างๆเนี่ยนะเหล่านี้เป็น
00:58:30 → 00:58:36 รายละเอียดนะอ่าทีนี้กรณีที่กินแป้งเชือง
00:58:36 → 00:58:40 ซ้อนได้นะเบาหวาดิัแล้วหรือเป็นคนแบบทั่ว
00:58:40 → 00:58:44 ๆไปที่อ่าไม่มีปัญหาเรื่องเบาหวานแต่ว่า
00:58:44 → 00:58:50 มีปัญหาเรื่องฟมอนะฮะมีวิธีกินอยู่ 2 แบบ
00:58:50 → 00:58:54 นะอันแรกนะกินแป้งเชิงซ้อนนะโดยมีการ
00:58:54 → 00:58:57 จำกัดควบคุมปริมาณนะที่พอจะกินนได้ใน
00:58:57 → 00:59:02 โคต้าของคาฟในมื้อเย็นนะฮะก็แล้วแต่จะ 1
00:59:02 → 00:59:05 ทับพี 2 ทับพีอะไรอย่างงนี้นะฮะแต่ว่า
00:59:05 → 00:59:08 แป้งเชิงซ้อนเนี่ยต้อง 2 อย่างขึ้นไปนะฮะ
00:59:08 → 00:59:12 ในแต่ละมื้อนะฮะนะปริมาณสำคัญที่สุดเพราะ
00:59:12 → 00:59:15 ถ้าเล่นกับาฟเนี่ยนะต้องจำกัดควบคุม
00:59:15 → 00:59:19 ปริมาณ 1 ทับพีทับพีครึ่งไม่เกิน 2 ทพีนะ
00:59:19 → 00:59:22 แต่ละคนกินได้ไม่เท่ากันแล้วแต่เบอิ
00:59:22 → 00:59:26 สเตตัสนะฮะจะอ้วนจะผอมจะดื้ออินซูลินนะ
00:59:26 → 00:59:30 หรือจะมีปัญหาทสุขภาพอะไรนะแต่ถ้าคุณเป็น
00:59:30 → 00:59:35 พวกนักกีฬานะฮะนะหรือโอนะทั้งคาริโอทั้ง
00:59:35 → 00:59:37 เวทอะไรต่างๆเนี่ยแล้วก็ไม่ได้มีปัญหา
00:59:37 → 00:59:40 อะไรเนี่ยปริมาณแป้งเชิงซ้อนก็อาจจะ 3 ปี
00:59:40 → 00:59:44 คือคือไปได้ถึงเน็ตาฟถึงถึง 100 กรัน่ะ
00:59:44 → 00:59:48 100 กแต่ทั่วๆไปเราก็จำกัดไปที่ 20 2
00:59:48 → 00:59:52 นะหรือกลางๆก็ประมาณไม่เกิน 50 60 กรั
00:59:53 → 00:59:57 เน็ตครับนะนะสูงๆหน่อยพวกโหเล่นนักกีงนัก
00:59:57 → 01:00:01 กีฬาวัยรุ่นคนหนุ่มสาวอะไรต่างๆนะที่ร่าง
01:00:01 → 01:00:05 กายแข็งแรงดีนะก็สามารถเน็กาฟได้ไม่เกิน
01:00:05 → 01:00:07 100 กรัม
01:00:07 → 01:00:10 นะประโยชน์นะที่เรากินแบบเนี้ยก็คือกิน
01:00:10 → 01:00:14 แป้งเชิงซ้อนในมื้อเย็นในมื้อเย็นนะฮะ
01:00:14 → 01:00:18 นะเรากินเ้าเข้าไปเพื่อที่จะไปช่วยลดการ
01:00:18 → 01:00:22 ทำงานของคอร์ติซอลนะฮะนะที่จะออกมาในตอน
01:00:22 → 01:00:27 กลางคืนในตอนที่นอนนะหรืออไซอจะออกมาค่อน
01:00:27 → 01:00:31 ข้างเยอะนะในช่วงที่จะต้องสร้างน้ำตาลนะ
01:00:31 → 01:00:36 ตอนเช้าๆตอนเช้ามืดนะก็พรุ่งนี้ก็จะออกมา
01:00:36 → 01:00:39 ช่วงประมาณ 3:00 4:00 น
01:00:39 → 01:00:44 นะถ้านะถ้าเรามีการใช้แป้งเชิงซ้อนนะฮะนะ
01:00:44 → 01:00:49 นะที่จะกลายไปเป็นไกลโคเจนที่เ่านะฮะนะ
01:00:49 → 01:00:52 และไปทำให้ร่างกายหลับดีนะรวมทั้งจะไป
01:00:52 → 01:00:56 เบรคนะฮะอ่าความดุดันก้าวร้าวของฮอร์โมน
01:00:56 → 01:01:01 ตัวแม่กอิซอนะฮะเนี่ยวิธีนี้นะฮะในการกิน
01:01:01 → 01:01:06 นะมื้อที่ 2 นะฮะนะเนี่ยก็หลักๆคือการควบ
01:01:06 → 01:01:10 คุมคอร์ติซอลคอร์ติซอลแล้วตอนเช้าๆนะนะ
01:01:10 → 01:01:14 คอร์ติซอลเขาก็จะไม่เ่าไปพุ่งพ่านที่จะ
01:01:14 → 01:01:18 บีบเค้นตับนะหรือไปสลายกล้ามเนื้อแล้วไป
01:01:18 → 01:01:22 ขับอไปไปไปไปเอาน้ำตาลออกมาเยอะๆจนกลาย
01:01:22 → 01:01:23 เป็น
01:01:23 → 01:01:28 มิออันนี้กรณีที่ทั่วๆไปเลยนะฮะที่เราทำ
01:01:28 → 01:01:31 กันในการกินแบบเอ่อการกินถูกต้องเหมาะสม
01:01:31 → 01:01:34 ใน 1 วันแบบู Me Day มื้อแรกมื้อเย็นกิน
01:01:34 → 01:01:36 ยังไง
01:01:36 → 01:01:40 เพาะอีกแบบนึงเนี่ยนะฮะอีกแบบนึงบางคนก็
01:01:40 → 01:01:43 ไม่ได้สะดวกแบบนี้นะฮะนะก็จะกินเป็นแบบ
01:01:43 → 01:01:46 การกินแป้งเชิงซ้อนในวัน She Day หรือ
01:01:46 → 01:01:49 treat Day นะฮะนะอันนี้ก็คือสามารถกิน
01:01:49 → 01:01:52 แป้งเชิงซ้อนในมื้อแรกหรือมื้ออื่นๆได้
01:01:52 → 01:01:56 ทั้งวันนะฮะแต่ต้องเป็นบางวันนะฮะเป็นบ
01:01:56 → 01:01:59 ส่วนใหญ่ก็จะอยู่ในเกณฑ์ประมาณนะฮะประมาณ
01:01:59 → 01:02:02 วันเว้นวันเนี่ยมากที่สุดโดยเฉพาะพวกที่
01:02:02 → 01:02:06 เป็นนักกีฬานะฮะนะแล้วไม่ได้มีโรคแแเจ็บ
01:02:06 → 01:02:10 อะไรนะฮะนะหรือบางคนก็แค่สัปดาห์ละ 1
01:02:10 → 01:02:14 หรือ 2 วันนะฮะถ้าเริ่มมีปัญหา ncd มีโรค
01:02:14 → 01:02:16 คล้ายๆเจ็บด้วยอินซูลินอะไรอย่างงี้นะแต่
01:02:16 → 01:02:19 ถ้าแข็งแรงดีเนี่ยนะส่วนใหญ่ก็เป็นวัน
01:02:20 → 01:02:24 เว้นวันวันเว้นวนะเรียกว่าวัน Day หรือ
01:02:24 → 01:02:27 Day นะฮะที่จะใส่แป้งเชงซ้อนได้ตั้งแต่
01:02:27 → 01:02:31 มื้อแรกนะรวมทั้งทั้งวันเลยนะฮะอาจจะมี
01:02:31 → 01:02:35 สนคมื้อว่างหรือมื้อเย็นนะก็เป็นแป้งเชง
01:02:35 → 01:02:36 ซ้อน
01:02:36 → 01:02:40 อีประโยชน์นะฮะประโยชน์ในกรณีนี้นะฮะก็
01:02:40 → 01:02:43 คือเป็นการกระตุ้นการทำงานของอินซูลินนะ
01:02:43 → 01:02:46 ฮะก็คือเป็นการฝึกนะฮะฝึกการทำงาน
01:02:46 → 01:02:50 อินซูลินนะให้เข้าเข้าออกๆนะฮะนะคือไม่
01:02:50 → 01:02:54 ปล่อยให้เขาล้างลาหรือว่าเอ่อชินกับการ
01:02:54 → 01:02:57 ที่ไม่ต้องออกมาทำงานงานซะเลยทีเดียวนะฮะ
01:02:57 → 01:03:01 สัปดาห์นึงก็แล้วแต่จะกำหนดนะเ่อ 1 หรือ 2
01:03:01 → 01:03:04 วันนะหรือจะวันเว้นวันนะออกมาทำงานบ้างนะ
01:03:04 → 01:03:07 ฮะนะก็เขาก็จะได้ยังมีคุณภาพมี
01:03:07 → 01:03:10 ประสิทธิภาพนะฮะหรือยังขยันอยู่ยังมีความ
01:03:10 → 01:03:14 เก่งอยู่นะอันนี้ก็สามารถที่จะลดน้ำตาลใน
01:03:14 → 01:03:19 ตอนเช้าจากผลของซมอได้นะคือรูปแบบเนี่ยจะ
01:03:19 → 01:03:22 ใช้แบบไหนเนี่ยก็เคส by เสนะฮะนะที่เราจะ
01:03:22 → 01:03:28 แนะนำนะฮะนะ 4 ข้อแล้วเนาะนะอ่าข้อ 5 ข้อ
01:03:28 → 01:03:33 6 นะฮะนะข้อ 5 ก็คือ Don phenomenal
01:03:33 → 01:03:38 เนี่ยนะคุณจะต้องกินโปรตีนคุณภาพให้ครบนะ
01:03:38 → 01:03:42 เนี่ยกินโปรตีนคุณภาพให้ครบ
01:03:42 → 01:03:47 นะคือการคุมน้ำตาลในตอนเช้าเนี่ยนะส่วน
01:03:47 → 01:03:52 ใหญ่เนี่ยนะเป็นเรื่องของคิอนะฮะคิอแต่
01:03:52 → 01:03:54 ว่าทั้งวันนี่แหละนะฮะทั้งมื้อแรกและมื้อ
01:03:54 → 01:03:57 เย็นเนี่ยตัวโปรตีนในมื้อแรกกับมื้อเย็น
01:03:57 → 01:04:01 เนี่ยนะเอ่อโปรตีนเป็นสารอาหารนะฮะนะเรา
01:04:01 → 01:04:05 กินแล้วตับจะเป็นผู้เก็บเพื่อจะนำไปใช้นะ
01:04:05 → 01:04:08 ยังไม่ได้รีบร้อนที่จะใช้เลยนะฮะอ่าเพราะ
01:04:08 → 01:04:11 ฉะนั้นกินมื้อแรกนะก็ต้องกินโปรตีนไขมัน
01:04:11 → 01:04:16 สูงนะกับไขมันปานกลางไว้เยอะๆไว้เยอะๆนะ
01:04:16 → 01:04:21 ประมาณสัก 60% นะแล้วเราก็ไปเติมโปรตีนไข
01:04:21 → 01:04:25 มันต่ำต่ำมากในมื้อเย็นนะฮะอีกประมาณ 40%
01:04:25 → 01:04:28 นะหรือจะ 30% ก็แล้วแต่นะเพราะนั้นทั้ง
01:04:28 → 01:04:32 มื้อแรกมื้อเย็นนะจะเป็นการระดมการสะสม
01:04:32 → 01:04:36 สารอาหารที่ต่ำนะฮะเก็บรอไว้ที่ตับนะนะ
01:04:36 → 01:04:40 เพื่อว่าเดี๋ยวตอนกลางคืนนะตอนกลางคืนนะ
01:04:40 → 01:04:44 นะไอ้ตัวสารอาหารพวกนี้เจะถูกนำไปซ่อมไป
01:04:44 → 01:04:48 สร้างนะฮะเอนะอย่างตอนเเราอยากเหลือเกิน
01:04:48 → 01:04:51 ที่จะให้ตับอ่อนตับกล้ามโน้งกล้ามเนื้อ
01:04:51 → 01:04:54 อะไรต่างๆเมันได้ซ่อมได้สร้างได้แข็งแรง
01:04:54 → 01:04:58 ได้ทำงานเก่งๆนะฮะอ่าเนี่ยมีการตอบสนอง
01:04:58 → 01:05:02 ต่อฮอร์โมนดีๆนะฮเนี่ยเราก็ต้องใช้โปรตีน
01:05:02 → 01:05:06 คุณภาพทีนี้ความหมายอย่างนึงในการแก้ไข
01:05:06 → 01:05:09 ของฟมอเนี่ยก็คือโปรตีนที่มีความหนาแน่น
01:05:09 → 01:05:13 สารอาหารสูงนะฮะหนแน่นเอ่อโปรตีนที่มี
01:05:13 → 01:05:16 ความหนัดแน่นสารอาหารสูงเนี่ยนะในมื้อ
01:05:16 → 01:05:19 เย็นเนี่ยรูปแบบในการกินเนี่ยนะสำหรับ
01:05:19 → 01:05:23 กรณีที่จะแก้ฟีนอลเนี่ยก็คือ 3 อย่างนี้
01:05:23 → 01:05:28 นะต้องมาต้องจัดนะฮะในช่วงมื้อเย็นก็คือ 1
01:05:28 → 01:05:31 โปรตีนไขมันต่ำอันนี้เป็นตัวหลักเลยที่จะ
01:05:31 → 01:05:35 ต้องมีนะเราจะเอาไขมันต่ำต่ำมากเป็นหลัก
01:05:35 → 01:05:38 ก่อนแล้วเสริมด้วยไขมันปานกาโปรตีนไขมัน
01:05:38 → 01:05:41 ต่ำที่ต้องมีในมื้อเย็นในการที่จะปรับ
01:05:41 → 01:05:46 เรื่องดอนอคือตับตับเครื่องในนะฮะเรากิน
01:05:46 → 01:05:50 ตับเพื่อไปช่วยตับนะเพราะในตับมีวิตามิน
01:05:50 → 01:05:51 เอเรตินอล
01:05:51 → 01:05:56 ซึ่งจะไปช่วยในการเตรียมตับนะฮะให้มีการ
01:05:56 → 01:05:59 ทำงานอย่างดีในตอนรุ่ง
01:05:59 → 01:06:02 เช้าเเตรียมตับยังไงวิตามินเอเนี่ยไป
01:06:02 → 01:06:06 เตรียมตับยังไงนะฮะนะก็คือเตรียมตับในการ
01:06:06 → 01:06:10 ตอบสนองต่อคอร์ติซอลกับอินซูรินนะฮะ
01:06:10 → 01:06:13 วิตามินเอจะช่วยให้ตับนะตอบสนองต่อ
01:06:13 → 01:06:16 คอร์ติซอลแบบยังไงนะฮะ
01:06:16 → 01:06:19 นะก็คือการตอบสนองต่อคอร์ติซอลเนี่ยถ้า
01:06:19 → 01:06:23 ตับเนี่ยมันมีตัววิตามินเอเป็นสารอาหาร
01:06:23 → 01:06:27 อยู่นะคอร์ติซอลเนี่ยเ่าเาเรียกว่ามันจะ
01:06:27 → 01:06:32 มีผลต่อตับไม่มากไม่มากะนะคือเหมือนตับ
01:06:32 → 01:06:34 มันจะแข็งแกร่งแข็งแรงที่จะตอบโต้ต่อ
01:06:34 → 01:06:37 คอร์ติซอลคอร์ติซอลก็ไม่ค่อยบีบบังคับขับ
01:06:38 → 01:06:41 เฆี่ยนตับมากมายนะนะอันนี้นะถ้าต่ำมี
01:06:41 → 01:06:47 วิตามินเอรอท่าอยู่นะฮะขณะเดียวกันนะเวลา
01:06:47 → 01:06:52 ที่อินซูลินมานะฮะอินซูรินมานะเพื่อจะมา
01:06:52 → 01:06:56 ลงเอาน้ำตาลลงน้ำตาลจากมอลงนะแล้วถ้าตับ
01:06:56 → 01:06:59 นั้นเนี่ยนะมันมีวิตามินเออยู่นะมี
01:06:59 → 01:07:04 วิตามินเอตับเนี่ยนะตับเนี่ยมันจะรีบเก็บ
01:07:04 → 01:07:07 น้ำตาลนะตามคำสั่งของอินซูลิน
01:07:07 → 01:07:10 นะก็คือเหมือนมันไปเพิ่มอิซูลิน
01:07:10 → 01:07:13 sensitivity นะฮะนะก็คือมันช่วยให้
01:07:13 → 01:07:16 อินซูลินทำงานได้เกงเก่งนะแล้วรีบเก็บน้ำ
01:07:16 → 01:07:19 ตาลเข้าไปนะฮะน้ำตาลก็จะได้ไม่คั่งใน
01:07:20 → 01:07:23 กระแสเลือดมอก็จะลด
01:07:23 → 01:07:27 ลงอันต่อมาที่ต้องมีลองงมาก็คือไขมันต่ำ
01:07:27 → 01:07:31 มากนะก็คือกลุ่มสัตว์น้ำนะสัตว์เล็กๆที่
01:07:31 → 01:07:35 อยู่ในน้ำนะฮะนะแต่อันเนี้ยสิ่งที่เรา
01:07:35 → 01:07:38 ต้องการคือสังกสีสังกสีนะฮะเพราะฉะนั้น
01:07:38 → 01:07:41 สังกสีมีมากในอะไรที่สุดในสัตน้ำหอยโดย
01:07:41 → 01:07:46 เฉพาะหอยนางลมนะฮะนะหรือหอยต่างๆมีหมดนะ
01:07:46 → 01:07:49 ฮะหอยจะอันดับ 1 กุ้งกั้งอันดับต่อมาแล้ว
01:07:49 → 01:07:54 ก็ปูปลาหมึกนะปลาหมึกมีน้อยนะฮะนะปลามี
01:07:54 → 01:07:55 น้อยที่สุด
01:07:56 → 01:07:59 นะปลามีน้อยที่สุดนะฮะเพราะงั้นเมนูพวก
01:07:59 → 01:08:03 เนี้ยต้องมีนะฮะสังกสีไปช่วยอะไรนะฮะ
01:08:03 → 01:08:07 สังกสีก็ช่วยนะอูน sensitivity นะคือเป็น
01:08:07 → 01:08:10 รธาตุตัวนึงแหละที่ทำให้อินซูลินเเก่งเข
01:08:10 → 01:08:14 ขยะนะแต่หลักๆของสังกสีในมื้อเย็นเนี่ยนะ
01:08:14 → 01:08:21 เขาจะไปช่วยสมองทำให้เกิดภาวะหลับลึกนะ
01:08:21 → 01:08:25 กระบวนการหลับลึกจะต้องอาศัยนะตัวกด
01:08:25 → 01:08:31 อะมิโนไลซีนทำงานคู่กับสังกสีสังกสีนะฮะ
01:08:31 → 01:08:37 นะนะแรกๆมีทิปโฟนะฮะนะแล้วก็มีไลซีนนะ
01:08:37 → 01:08:40 แล้วก็มีสังกสีเราก็จะเกิด Deep Sleep
01:08:40 → 01:08:43 นะฮะ Deep Sleep นะฮะแต่เคร่การนอนหลับ
01:08:43 → 01:08:46 จะเกิด EP Sleep ที่ยาวขึ้นนะฮะยาวขึ้น
01:08:46 → 01:08:51 นะก็คือต้องเกิน 25% ของส Cycle อันนี้
01:08:52 → 01:08:56 สังกสีเป็นตัวช่วยนะเอเป็นตัวช่วยนะนะก็
01:08:56 → 01:08:59 ต้องมีสังกสีไปช่วยนอนหลับพอดับ EP Sleep
01:08:59 → 01:09:03 แล้วนะจะเป็นตัวประกันเลยว่าคอร์ติซอลเข
01:09:03 → 01:09:08 จะพอใจนะเขาจะไม่ออกมาวุ่นวายไม่ออกมา
01:09:08 → 01:09:13 ละลานนะแล้วตอนเช้าๆคิอเก็จะออกมาแบบปกติ
01:09:13 → 01:09:17 นะคือไม่เหวี่ยงไม่เยอะนะฮะเพราะนั้นฟมอ
01:09:17 → 01:09:22 มันก็จะไม่เกิดสังสีสำคัญในการนอนหลับนะ
01:09:22 → 01:09:25 และช่วยให้อู sensitivity
01:09:25 → 01:09:29 นี้ความหนาแน่นของสารอาหารนะที่จะขาดไป
01:09:29 → 01:09:33 ไม่ได้เลยและต้องมีในมื้อเย็นก็คือก็คือ
01:09:33 → 01:09:37 คอเลสเตอรอลกับโอเมก้า 3 นะอันนี้เราก็
01:09:37 → 01:09:40 ต้องเติมคือกลุ่มสัตว์น้ำกุงหอยปลาปูอะไร
01:09:40 → 01:09:43 ต่างๆตับเิบอะไรต่างๆนะมันก็มีอยู่แล้ว
01:09:43 → 01:09:46 ล่ะนะฮะแต่เราต้องมีไข่แดงมีไข่แดงนะ
01:09:47 → 01:09:49 เพราะฉั้นกินไข่ในมื้อเย็นนะอย่าไปช่วยใน
01:09:49 → 01:09:54 การลดมอตอนนะเพราะว่าคอเลสเตอรอลก็ดี
01:09:54 → 01:09:57 โอเมก้า 3 ก็ดีร่วมกับสารอาหารอื่นๆจะ
01:09:57 → 01:10:01 เกิดความหนาแน่งสารอาหารที่สูงเพื่อเนี่ย
01:10:01 → 01:10:04 ฮะเพื่อไปซ่อมสร้างตับตับอ่อนกล้ามเนื้อ
01:10:04 → 01:10:08 โดยเฉพาะกล้ามเนื้อนะฮะนะเนี่ยอันนี้ใน
01:10:08 → 01:10:11 ช่วงกลางคืนตอนที่เรานอนหลับนะอันนี้
01:10:11 → 01:10:14 สำคัญก็คือโปรตีนคุณภาพต้องครบนะฮะก็ตาม
01:10:15 → 01:10:19 เกมนี้นะฮะเไขมันสูงนะก็กินไม่เยอะนะฮะ
01:10:19 → 01:10:25 กินในมื้อแรก 10% นะก็พวกนี้ 3 ชั้นเบคอน
01:10:25 → 01:10:27 นมพีท
01:10:27 → 01:10:32 โยเกิร์ตไขมันปานกลางก็คือไข่ทั้ฟองนะ
01:10:32 → 01:10:36 เนื้อสัตว์ติดหนังเนื้อสัตว์ติดมันนะนะ
01:10:36 → 01:10:40 แต่ไม่ใช่ว่าติดมันมากถึงขนาด 3 ชั้นนะฮะ
01:10:40 → 01:10:41 นะ
01:10:41 → 01:10:45 เ่อเนื้ออะไรเนื้อสันนอกอย่าเงี้ยนะได้นะ
01:10:45 → 01:10:48 เป็นกลุ่มนี้นะฮะถั่วเหลืองก็จะเป็นพวก
01:10:48 → 01:10:52 เทมเป้นโตะเอหเน่าเงี้ย
01:10:52 → 01:10:56 นะเนี่ยอันนี้มื้อแรกมื้อแรกก็โปรตีนไข
01:10:56 → 01:10:58 มันสูงไขมันปกลางกินอย่างงนี้นะถ้ามื้อ
01:10:58 → 01:11:02 เย็นก็โปรตีนไขมันต่ำๆมากนะไขมันต่ำก็
01:11:02 → 01:11:06 เป็นปลาตัวใหญ่เครื่องในนะฮะตับนะฮะนะ
01:11:06 → 01:11:11 แล้วก็สันในอกไก่ฮะอะไรนะเ่อแต่ถ้าต่ำมาก
01:11:11 → 01:11:14 ต่ำมากก็คือปลาตัวเล็กนะก็ปูกุ้งหอยปลา
01:11:14 → 01:11:16 หมึกอะไร
01:11:16 → 01:11:21 พอันนี้ก็เนี่ยแยกกันกินนะเพื่อให้ร่าง
01:11:21 → 01:11:24 กายเนี่ยได้สารอาหารเข้าทางระบบหลอดเลือด
01:11:24 → 01:11:29 ดำไปที่ับนะแล้วก็ไปสะสมสะสมสะสมนะเพื่อ
01:11:29 → 01:11:33 ที่จะออกมาในการซ่อมสร้างตอนที่นอนหลับ
01:11:33 → 01:11:37 อต่อมาก็คือข้อสุดท้ายคือแหล่งพลังงานจาก
01:11:37 → 01:11:42 ไขมันดีนะนะอ่าเราก็ต้องครบ่ะนะสารอาหาร
01:11:42 → 01:11:48 พลังงานเกลือแรกนะน้ำนะฮะนะไขมันดีก็มื้อ
01:11:48 → 01:11:52 แรกน้ำสลัดตีออยนะฮะนะในเกงกินแบบโลค High
01:11:52 → 01:11:55 Good Fat นะถ้ามื้อเย็นมื้อเย็นก็เป็น
01:11:55 → 01:11:59 ไขมันดีแบบโงลู่ในมื้อเย็นอ่าก็มะพร้าว
01:11:59 → 01:12:03 อะโวคาโดถั่วเปลือกแข็งโกโก้
01:12:03 → 01:12:06 กะทิแล้วแต่จะเอามากินนะแต่ไม่ได้ต้อง
01:12:06 → 01:12:10 เยอะนะแต่ถ้าเป็นรูปของเพียวออยนะก็ทำ
01:12:10 → 01:12:13 เป็นน้ำสลัดแล้วก็กินในมื้อแรกให้ได้พลัง
01:12:13 → 01:12:17 งานคือทั้งหมดนี้นะฮะนะทั้งหมดนี้เราจะ
01:12:17 → 01:12:20 ได้แคลอรี่และนินเนนะฮะพลังงานและสาร
01:12:20 → 01:12:23 อาหารจากคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันตาม
01:12:23 → 01:12:26 ปริมาณและสัดส่วนที่เพียงพอถูกต้องเหมาะ
01:12:26 → 01:12:27 สมนะ
01:12:27 → 01:12:31 ฮะไม่สามาถเอ่อมันก็คือจะไม่เกิดปัญหาใน
01:12:31 → 01:12:34 เรื่องของ Energy im Balance นะฮะนะอัน
01:12:34 → 01:12:37 นี้เราเรียกว่า eny Balance นะฮะนะซึ่ง
01:12:37 → 01:12:39 เยีในที่นี้มันจะหมายถึงแคลอรี่และ
01:12:39 → 01:12:43 นิวเทรียนนะแล้วก็จะมาจากสารอาหารหลักก็
01:12:43 → 01:12:46 คือคาร์โบไฮเดตโปรตีนไขมันนะฮะนะเพราะ
01:12:46 → 01:12:50 อะไรเพราะถ้าเมื่อไหร่นะมันไม่ครบในรูป
01:12:50 → 01:12:53 แบบของ 6 อย่างนี้นะฮะาว่า Energy
01:12:53 → 01:12:57 imbalance จะไปมีผลเอ่อทันทีทันใดเลยต่อ
01:12:58 → 01:13:02 ต่อสมองนะแล้วแสดงออกมาในรูปของการนอนนอน
01:13:02 → 01:13:06 ไม่หลับหลับไม่ดีหลับตื้นๆหลับไม่สนิท
01:13:06 → 01:13:10 หลับไม่ลึกนะ Quality of Sleep ไม่ดีนะ
01:13:10 → 01:13:16 ฮะพอไม่ดีปุ๊บนะมันก็จะเกิดวงจรอุบาทที่
01:13:16 → 01:13:20 คอร์ติซอลก็จะต้องมาว่าฮึ้ยอยู่ไม่สุข
01:13:20 → 01:13:23 ร่างกายมันไม่สุกไม่สุขสบายอ่ะไม่สุขสบาย
01:13:23 → 01:13:26 คอร์ติซอลก็ก็ต้องออกมาลาดตระเวนว่าเป็น
01:13:26 → 01:13:31 ไรเป็นไรเป็นไรนะใครๆใครทำเอ่อให้มันไม่
01:13:31 → 01:13:36 สุขสบายนะฮะแล้วเป็นไงอ่ะพอซอลมาก็ก็จะมา
01:13:36 → 01:13:41 แอชกระตับนะขับเฆี่ยนบีบรีดนาานตับให้
01:13:41 → 01:13:47 เอ่อสร้างพลังงานออกมานะก็เกิดนี่แหละฟมอ
01:13:47 → 01:13:51 นะฮะไม่หายักทีไม่หายักทีเพราะมันมีวงจร
01:13:51 → 01:13:55 อุบาทนะที่เราแบบรู้เท่าไม่ถึงกัน
01:13:55 → 01:14:02 ก็หมดแล้วหมดแล้วจ้นะมีใครสงสัยอะไรมย
01:14:02 → 01:14:10 หวังว่าคงจะอยู่ในช่วงเวลาบวกลบ 10
01:14:10 → 01:14:14 นาทีคืออันนี้นะฮะมันเป็นเรื่องของแนวทาง
01:14:14 → 01:14:18 ปฏิปฏิบัติในการแก้ไขนะหมอก็ไล่เรียงมาใน
01:14:18 → 01:14:21 เรื่องของเก้าอี้ 4 ขานี่แหละนะฮะนะแต่
01:14:21 → 01:14:25 ว่าเรื่องการกินนะนะใครก็ตามที่มีแล้ว
01:14:25 → 01:14:28 อยากจะเปร่าเรื่องน้ำตาลไม่อยากจะแช่ทิ้ง
01:14:28 → 01:14:31 ไว้นะฮะนะเพราะว่างานวิจัยมันก็ค่อนข้าง
01:14:31 → 01:14:35 จะยืนยันว่ามันไม่น่าจะดีนักนะแต่เราก็
01:14:35 → 01:14:39 ต้องดูค่าแลบ f ของเราด้วยว่า a1c เนี่ย
01:14:39 → 01:14:41 มันพุ่งขึ้นมนะฮะมันเขยิบขึ้นไปกี่
01:14:41 → 01:14:45 เปอร์เซ็นต์นะเกณฑ์เฉลี่ยของเขาก็คือ 1
01:14:45 → 01:14:48 รอบเม็ดืแดงก็คือ
01:14:48 → 01:14:51 0.4% นะงคนอาจจะมากกว่านั้นนะก็อันนี้ก็
01:14:51 → 01:14:55 ต้องหาทางแก้ไขนะกินสำคัญที่สุดนะฮะถ้า
01:14:55 → 01:14:59 กินดีกินถูกต้องนะ Energy Balance นะฮะ
01:14:59 → 01:15:06 นะกินดีก็หลับดีหลับดีนะฮะนะนะแล้วกินก
01:15:06 → 01:15:08 หลับแค่เนี้ยพอแล้วนะแล้วก็ไปออกแรงออก
01:15:08 → 01:15:12 กำลังไนี่ไม่ต้องอะไรเลยนะฮะนะคือไเนี่ย
01:15:12 → 01:15:16 เขามาแจมนิดนึงตอนแรกๆอ่ะว่าอาจจะต้อง
01:15:16 → 01:15:18 กระเถิบการกินมื้อแรกเพื่อกระตุ้น
01:15:18 → 01:15:21 อินซูรินให้มาเร็วหน่อยนะอย่าไปแช่น้ำตาล
01:15:21 → 01:15:24 ไว้นานๆนะแล้วก็มาบอกว่ายังไม่ถึงยังไม่
01:15:24 → 01:15:27 ถึงเวลานะนะเดี๋ยวไม่ได้นะต้องไปกินนเอา
01:15:27 → 01:15:31 เที่ยงเอาบ่ายนะฮะนะแก้ก่อนนะเอาน้ำตาล
01:15:32 → 01:15:36 หายไปก่อนให้มันลดลงไปก่อนนะฮะเนาะมีใคร
01:15:36 → 01:15:39 สงสัยอะไรมั้ยล่ะอันนี้ก็เป็นที่มาที่ไป
01:15:40 → 01:15:44 นะผมตรวจคนไข้เบาหวานก็มีอยู่คนนึงนะฮะ
01:15:44 → 01:15:48 ติดติดตามกับผมอยู่อยู่ด้วยกันมาเป็นน่า
01:15:48 → 01:15:53 จะเป็นปีละก็เป็นผู้หญิงฟุงตับนะครับผอมๆ
01:15:53 → 01:15:56 อแล้วก็แฟนเเป็นฝรั่งออสเตรเลียแล้วเขาก็
01:15:56 → 01:16:00 แบบมีความรู้เรื่องคีโตโลคาฟอะไรเงี้ยเขา
01:16:00 → 01:16:04 ก็พยายามโลคาฟกันมานานมากเลยนะอาจารย์แบบ
01:16:04 → 01:16:08 เคร่งคัดมากเลย kcd CD เลยล่ะครับโอก็
01:16:08 → 01:16:12 อ่ามา Follow up กับผมก็น้ำตาลก็กินเม็ด
01:16:12 → 01:16:14 ฟอร์มิอยู่เม็ดนึงเงี้นะฮะแล้วก็น้ำตาลก็
01:16:14 → 01:16:18 ขึ้นเรื่อยๆขึ้นเรื่อยๆขึ้นเรื่อยๆแกก็ไป
01:16:18 → 01:16:22 เต้นซุมบ้าวันละชั่วโมง 2 ชั่วโมงตามแล้ว
01:16:22 → 01:16:25 ผมก็ตามมาเรื่อยๆสักพักนึงก็ตอนนั้นผมก็
01:16:25 → 01:16:28 ความรู้อะไรเรื่องพวกนี้ก็ยังไม่รู้นะว่า
01:16:28 → 01:16:31 มันมีเบาหวานฝั่งฝั่งอีกฝั่งนึงด้วยนะ
01:16:32 → 01:16:36 ครับอือ่าแล้วก็ตามไปตามมาก็เห็นหน้าโทรม
01:16:36 → 01:16:41 ลงโทมลงนะฮะแล้วก็ผอมลงผอมลงแต่พุงออกก็
01:16:41 → 01:16:45 เลยลองพอตอนนั้นก็เริ่มมีความประมาณสัก
01:16:45 → 01:16:48 3-4 เดือนเผมก็เริ่มเข้าใจว่าอ๋อมันมี
01:16:48 → 01:16:52 ฝั่งคอร์ติซอลอะไรด้วยเออก็เลยแนะนำให้
01:16:52 → 01:16:56 เขาบอกว่ากินไปเลยกิน 3 มือไปเลยก็ได้นะ
01:16:56 → 01:17:00 แล้วก็บอกให้ให้หยุดหยุดเต้นซุบก่อนหยุด
01:17:00 → 01:17:02 เต้น zumba หยุดคาร์ดิโอก่อนแล้วก็ให้ไป
01:17:02 → 01:17:08 เวทเว้นวันบ้างเอ่อก็ก็ลงมาเลยอาจารย์ก็
01:17:08 → 01:17:14 ลงมาเลยอ a14 ก็จาก6จ 6.8 เหลือ 6.5 วัน
01:17:14 → 01:17:17 นี้มาก็เหลือ 6.1 อะไรประมาณนี้ละแต่ก็
01:17:17 → 01:17:20 ยังมีปัญหาดอนฟมอนี่แหละอาจารย์มาไลฟ์พอ
01:17:20 → 01:17:25 ดีเลยเดี๋ยวผมก็จะได้ไปแนะนำเต่อคือดทาง
01:17:25 → 01:17:28 ปฏิบัติเนี่ยการก็ไม่ค่อยมีคนไลไม่ค่อยมี
01:17:28 → 01:17:32 คนมาบอกอะไรั้นนะเนี่ยสำคัญที่สุดคือการ
01:17:32 → 01:17:35 ใช้กล้ามเนื้อคือในเรื่องไขมันพอกตับ
01:17:35 → 01:17:37 เนี่ยก็คือตับจัดการกับไขมันเราก็พูดกัน
01:17:37 → 01:17:40 ไปเยอะ 2 ไรแล้วนะแต่ในเรื่องเนี้ยใน
01:17:41 → 01:17:43 เรื่องกล้ามเนื้อเนี่ยนะแต่ลวันเนี้เรา
01:17:43 → 01:17:46 เอากล้ามเนื้อเนี่ยมาจัดการกับมอทำได้นะ
01:17:46 → 01:17:51 ฮะทำได้นะหมอมีเคสก็ก็แฮปปี้เลยล่ะนะฮะนะ
01:17:51 → 01:17:54 ถ้าเขาเข้าใจนะฮะแล้วก็โอเคแต่คุณก็ต้อง
01:17:55 → 01:17:58 แยกกลุ่มนะของวิธีการที่จะไปจัดการับ
01:17:58 → 01:18:00 กล้ามเนื้อหรือเอากล้ามเนื้อมาใช้งาน
01:18:00 → 01:18:04 เนี่ยนะฮะนะใครที่บ้าคั่งพวกคาริโอนักเี
01:18:04 → 01:18:07 จักรยจักรยานทั้งวิ่งทั้งเดินอะไรต่างๆ
01:18:07 → 01:18:09 เหล่านี้นะต้องเปลี่ยนต้องเปลี่ยนมาเป็น
01:18:09 → 01:18:14 เวทเป็นฮิตนะเป็นต้านแรงอะไรต่างๆนะนะมัน
01:18:14 → 01:18:17 ต้องใช้กล้ามเนื้อให้ถูกกลุ่มด้วยนะฮะถึง
01:18:17 → 01:18:19 จะแก้ไขเรื่องน้ำตาลที่สูง
01:18:19 → 01:18:23 ได้หลายคนจัดการกับไขมันได้แต่จัดการกับ
01:18:23 → 01:18:26 น้ำมันไม่ได้เพราใช้กล้ามเนื้อผิดปุ่ม
01:18:26 → 01:18:29 นะก็ก็มีอย่างเงี้ยเอันเนี้ยอันนี้เป็น
01:18:29 → 01:18:31 ตัวหลักนะแต่ที่มาที่ไปมันก็จะเป็นอย่าง
01:18:31 → 01:18:33 เงี้ยเเรียกว่า folic insulin
01:18:33 → 01:18:36 resistance นะของตัวกล้ามเนื้อซึ่งกล้าม
01:18:36 → 01:18:40 เนื้อเนี่ยมีผลมากกว่าตับเยอะมาก
01:18:40 → 01:18:43 นะแต่ยังไงยังไงเราก็ควรจะไปคอนเฟิร์ม
01:18:43 → 01:18:45 ด้วยพวก H ir ก่อนเนาอาจารย์เนาะว่ามัน
01:18:46 → 01:18:49 ไปในทิศทางไหนใช่มั้ยครับใช่ฮะเพราะว่า
01:18:49 → 01:18:51 เวลาเจาะเราต้องเจาะเรื่องของ pling
01:18:51 → 01:18:56 อินซูลินร่วมกับอ่าน้ำตาลร่วมกับร่วมกับ
01:18:56 → 01:19:02 นี่แหละร่วมกับการที่จะต้องไปคำนวณ
01:19:02 → 01:19:05 Home คือบางทีเนี่ยเราต้องดู clinical
01:19:05 → 01:19:10 ด้วยนะนะดู clinical แล้วก็ดูเหตุดูผลนะ
01:19:10 → 01:19:14 ดู Lifestyle ดู activity อะไรต่างๆเแบบ
01:19:14 → 01:19:15 ครบเลย
01:19:15 → 01:19:19 นะพอเรารู้รายละเอียดอย่าเงี้ยเราจะมอง
01:19:19 → 01:19:22 Point มองประเด็นออกแล้วเราจะโฟกัสไปที่
01:19:22 → 01:19:25 จุดที่คุณจะเอาไปแก้ไขเลยนะฮส่วนบางที
01:19:25 → 01:19:28 ความรู้เนี่ยคุณก็ต้องมาฟังไลฟ์ก็ต้องมา
01:19:28 → 01:19:32 อ่านนะแล้วก็มาช็อตโน้ตมาติ๊กมาอะไรต่างๆ
01:19:32 → 01:19:35 แบบบรรดาพวกนักเรียนแถวหน้าทั้งหลายนี่
01:19:35 → 01:19:39 นะนะแล้วพวกนี้ก็จะเก่งเก่งนักเรียนไม่
01:19:39 → 01:19:42 รู้ว่าเมาก็ทาไหนแล้ว
01:19:42 → 01:19:47 อาจารย์เอเยกวางมาแล้วใช่ไหมโอ๊ตอยู่ข้าง
01:19:47 → 01:19:52 หน้าเลยหรือเปล่านะทีมเดิมครับพี่หมอทีม
01:19:52 → 01:19:56 เดิมนั่นแหละทีมเดิมครับผมบอกผมโคนต้น
01:19:56 → 01:20:00 ตะเคียนมาเตรียมตีแล้วครับนะวันนี้เอา
01:20:00 → 01:20:04 เรื่องการแก้ไขมิอไปแนะนำผู้คนนะฮะนะ
01:20:04 → 01:20:07 ใครจะอยู่ในเว็บไหนเอ้ยในในเพจไหนอะไร
01:20:07 → 01:20:11 ต่างๆเนี่ยนะนะก็แล้วแต่คนเจะเปิดใจยอม
01:20:11 → 01:20:15 รับนะแต่เหตุผลหรือเอ่อที่มาที่ไปมันมี
01:20:15 → 01:20:18 อย่างนี้นะเอ่อหมอมีงานวิจัยอันนึงนี่
01:20:18 → 01:20:21 แหละนะฮะปี 2017 นะฮะอาจจะเก่าไปนิดนึงนะ
01:20:21 → 01:20:25 แต่ก็ลองลองไปอ่านดูแล้วกันเนี่ยนะเรื่อง
01:20:25 → 01:20:29 การปรับเรื่องฟมอเนี่ยแต่ก็สรุปมาอยู่ใน
01:20:29 → 01:20:31 นี้แล้วล่ะนี่
01:20:31 → 01:20:36 ะส่วนอันนี้ห้ามทำนะฮะนะนะที่ว่ามีการกิน
01:20:36 → 01:20:39 เรื่องมะกอก mtt ออยแล้วก็อย่างงี้เลยอ่ะ
01:20:39 → 01:20:43 เพียวๆกระดกเลยเเรียกกระดกนะไม่ได้เอา
01:20:43 → 01:20:46 เข้าไปอยู่ในอาหารนะนะตอนนี้เราก็มีสูตร
01:20:46 → 01:20:50 น้ำมงน้ำมันอะไรต่างๆอร่อยๆ
01:20:50 → 01:20:57 นะส่วนเรื่องนี้จะคุยกันหน่อยมยนะ
01:20:57 → 01:21:02 อ่าอันเนี้ยนะฮะอันนี้ก็ของน้องอันันนะนะ
01:21:02 → 01:21:07 ก็มีอ่าอ่าหนูกวางก็อ่าเราก็มามาคุย
01:21:08 → 01:21:09 เรื่องการวิเคราะห์วิเคราะห์แนวทาง
01:21:09 → 01:21:12 วิเคราะห์แนวทังคือเค้าบอกอย่างงี้อ่าถาม
01:21:12 → 01:21:16 ว่านะนะอันนี้ก็ถามเป็นแบบสาธารณะแหละนะ
01:21:16 → 01:21:20 อ่าเวลาคุณหมอตรวจเลือดแล้วมีคนไข้ 2 คน
01:21:20 → 01:21:23 นะฮะที่รูปแบบของแลบเป็นแบบนี้เบอร์ 1
01:21:23 → 01:21:25 กับเบอร์ 2 นะฮะหญิง 1 กับหญิง 2 อันนี้
01:21:25 → 01:21:29 เป็นผู้หญิงหมดเลยนะฮะนะแล้วถามว่านะหมอ
01:21:29 → 01:21:31 เนี่ยหมอเนี่ยเห็นใบตรวจเลือดอย่างนี้
01:21:31 → 01:21:35 แล้วเนี่ยนะเขาจะห่วงคนไหนมากกว่ากันก็
01:21:35 → 01:21:39 คือใครจะมีอันตรายมากกว่ากันนะวิสัชนาว่า
01:21:39 → 01:21:44 อย่างไงนะพอเรามาเข้าตารางนะฮะนะหญิงหนึ
01:21:44 → 01:21:48 ทางด้านซ้ายนะนะเนี่ยอยู่อย่างงนี้นะฮะ
01:21:48 → 01:21:51 หญิง 1 หญิง 1 นะเบอร์นี้นะฮะเบอร์นี้นะ
01:21:51 → 01:21:54 นะแล้วก็หญิง 2 เนี่ยนะอันนี้เราก็
01:21:54 → 01:21:59 วิเคราะห์ดูที่ค่าแลบอย่างเดียวนะอย่าง
01:21:59 → 01:22:03 เดียวก็หญิง 1 ทางด้านซ้ายมือเนี่ยนะ
01:22:03 → 01:22:07 Total คอเลสเตอรอลก็เ 258 แต่มีไซเกิน
01:22:07 → 01:22:13 100 นะฮะ hdl ก็ 50 นะก็ยัง ow อยู่ใน
01:22:13 → 01:22:18 ระดับก่อนไปทางต่ำนะแต่ก็พอใช้ได้นะ rl
01:22:18 → 01:22:22 188 นะฮะทนี้เวลาเข้าในตารางเอ่อของ
01:22:22 → 01:22:26 ไลโปโปรตีนเ่อเซิกแล้วเนี่ยนะเ่อตัวเฉลย
01:22:26 → 01:22:32 ที่ออกมาไหารเวก็ 2.54 ก็คือกนะฮะสูงเลย
01:22:32 → 01:22:35 นะฮะเพราะฉะนั้นตัว ldl ก็เลยเป็น typ b
01:22:35 → 01:22:38 Small แล้วก็ tyg เนี่ย
01:22:38 → 01:22:42 4.64 นะฮะปกติไม่เกิน 4.49 นะแล้วพอ
01:22:42 → 01:22:46 เหลือไปดูเลนเนี่ยนะก็เกินเล็กน้อยนะฮะนะ
01:22:46 → 01:22:49 ก็คือมีพลังงานเกินนะเพราะว่าเป็นการกิน
01:22:49 → 01:22:54 ที่ยังเิดนะเนี่ยไม่สมดุลนะแต่ในเรื่อง
01:22:54 → 01:22:58 ของสารอาหารเรื่องโปรตีนนี่ก็พอดีพอ
01:22:58 → 01:23:01 ได้เพราะฉะนั้นอย่างนี้ก็เห็นได้ชัดเลย
01:23:01 → 01:23:06 ว่าคนๆเนี้ยมันก็เป็น Sugar เนอรนะนะก็
01:23:06 → 01:23:10 ยังมีเรื่องของการที่อาจจะกินเป็นสดัมี
01:23:10 → 01:23:13 การเออกิน 5 หมู่นะนะก็ครบแะโปรตีน
01:23:13 → 01:23:16 คาร์โบไฮเดรตไขมันนะแล้วก็ไม่ได้ปรับอะไร
01:23:16 → 01:23:21 นักนะฮะนะเพียงแต่ว่าอาจจะดูแลร่างกาย
01:23:21 → 01:23:23 อยู่พอสมควรแต่ว่าในองค์ความรู้เชิงลึกก็
01:23:23 → 01:23:27 ยังไม่ได้เข้าไปถึงอ่ารายละเอียดมากมาย
01:23:27 → 01:23:30 เลยนะนะเพราะฉะนั้นผลบมันก็เลยออกมานะก็
01:23:30 → 01:23:33 คือคุณดื้ออินซูลินนะนะแล้วก็คุณมีเรื่อง
01:23:34 → 01:23:37 ของพลังงานล้นเกินไปในกลุ่มที่มันเป็น
01:23:37 → 01:23:42 overc นะเแล้วก็ที่สำคัญก็คือตัวเอ่อ
01:23:42 → 01:23:45 เรือนำส่งพลังงานเนี่ยมันมีปัญหาในเรื่อง
01:23:45 → 01:23:49 ของ Small ldl type B อนะถ้าอย่างงี้
01:23:50 → 01:23:54 Apple B ก็น่าจะเยอะด้วยนะฮะนะแล้วก็
01:23:54 → 01:23:57 ความเสี่ยงหรือิสของ svd ก็จะเยอะกว่านะ
01:23:58 → 01:24:02 หมอก็จะต้องห่วงมากกว่านะนี่หมายถึงหมอนะ
01:24:02 → 01:24:06 แต่ว่าหมอคนอื่นเราก็แล้วแต่นะมันหลายๆ
01:24:06 → 01:24:08 รูปแบบขององค์ความรู้ที่เขาจะเข้าใจแลนำ
01:24:08 → 01:24:12 มาใช้เนเพราะฉะนั้นอันนี้ก็ต้องมีการ
01:24:12 → 01:24:16 อธิบายแล้วก็แนะนำนะฮะนะเข้าใจมยยอมรับ
01:24:16 → 01:24:19 โอเคยกับการปรับเปลี่ยนในเรื่องของอาหาร
01:24:19 → 01:24:23 การกินเป็นไปได้มกับไลฟ์สไตล์หรือการทำมา
01:24:23 → 01:24:28 หากินของคุณในตอนนี้นะถ้าไม่ได้จะรับยา
01:24:28 → 01:24:32 บ้างมยนะหรือยังไงอ่ะแล้วแต่นะฮะนะอันนี้
01:24:32 → 01:24:35 ก็ต้องเปิดช่องนะให้เา้าได้
01:24:35 → 01:24:39 เอ่อมีความเข้าใจและเกิดความร่วมมือ
01:24:39 → 01:24:42 นะก็แล้ว
01:24:42 → 01:24:46 แต่นี้นี้มาดูฝั่งนี้ฝั่งซ้ายนะฝั่งซ้าย
01:24:46 → 01:24:50 เนี่ยนะฝั่งซ้ายเนี่ยคนเนี้ก็เ่อก็น่าจะ
01:24:50 → 01:24:53 เป็นของอันันนั่นแหละนะก็คนนี้เขาก็เป็น
01:24:53 → 01:24:57 kcd นะมาประมาณ 9 ปีแล้วนะฮะนะแล้วก็รูป
01:24:58 → 01:25:02 แบบนะเ่าเขาก็จะเป็นเรื่องของ ket adap
01:25:02 → 01:25:06 นะฮะนะก็เป็น Fat burner นะก็เป็น ket
01:25:06 → 01:25:09 adap เอ้ยโทษทีเป็น Fat adap นะไม่ใช่ค
01:25:09 → 01:25:12 adap นะอาจจะมีิ adap บ้างแต่คงไม่เยอะ
01:25:12 → 01:25:14 นะเพราะว่าตอนเตัว Total cholesterol
01:25:14 → 01:25:18 กับ ldl ก็ยังสูงเยอะอยู่นะสูงเกินเกณฑไป
01:25:18 → 01:25:24 นะฮะนะคือแนวโน้มที่ตัว Flash adapt นะ
01:25:24 → 01:25:28 จะจะลดลงแล้วคีย adap จะมากขึ้นเนี่ย
01:25:28 → 01:25:31 ตารางนี้ต้องเขียวหมดนะฮะนะอันนี้เราอาจ
01:25:31 → 01:25:36 จะพูดได้ว่านะซึ่งึตางเมันจะเขียวหมดตัว
01:25:36 → 01:25:40 เลข 400 กว่าจะต้องลดกว่านี้ไปลดลงกว่า
01:25:40 → 01:25:45 นี้นะถ้าเราจะอิงตาม hdl hdl 70 ใช่นะ
01:25:45 → 01:25:50 คอเรอในผู้หญิงไม่เกิน 4.4 ก็ต้องคูณ 4.4
01:25:50 → 01:25:53 นะก็ต้องอยู่ในเกณฑประมาณักเท่าไหร่ 300
01:25:53 → 01:25:57 นิดๆนะแต่อันนี้มันเกินไปมันเกิน
01:25:57 → 01:26:00 ไปแล้วก็ตัว ldl เนี่ยนะก็ต้องอยู่ใน
01:26:01 → 01:26:04 เกณฑ์ไม่เกิน 3.3 เท่าของ 70 นะ
01:26:04 → 01:26:10 ฮะก็ 200 กลางๆแต่อันนี้มันก็เกินไปนะมัน
01:26:10 → 01:26:14 เกินซึ่งเอ่อในลักษณะของคนคนี้ก็น่าจะมี
01:26:14 → 01:26:18 ปัญหาที่ีตที่ตับหรือการเคียร์ไม่ดีต้อง
01:26:18 → 01:26:21 ไปปรับเรื่องการเคลียร์แล้วถามว่าคนเนี้ย
01:26:21 → 01:26:28 นะนะที่นะซหาร hdl tyg นะ remnant นะ
01:26:28 → 01:26:31 แล้วก็ non hdl ต่างๆก็อยู่ในเกณฑ์ดีสวย
01:26:31 → 01:26:34 งามนะฮะเพียงแต่ว่ามันมีปัญหาเรื่องไรปิด
01:26:34 → 01:26:39 เทิที่ Total คอสเตอแับ ldl เยอะนะเพราะ
01:26:39 → 01:26:43 ว่านะการเคลียร์ Lance ไม่ค่อยดีนักนะก็
01:26:43 → 01:26:45 ไปปรับเรื่องการเคลียร์
01:26:45 → 01:26:48 L จะปรับเรื่องการเคลียร์ Lance เนี่ยนะ
01:26:48 → 01:26:52 ก็ต้องไปปรับให้ receptor ที่ต่ำนะฮะนะ
01:26:52 → 01:26:54 เขายอมรับหรือเขาทำงานเก่ง
01:26:54 → 01:26:57 เกีตที่ตับเนี่ยมันก็ขึ้นอยู่กับตัว
01:26:58 → 01:27:01 ฮอร์โมนในหลายๆตัวนะฮะทั้งอินซูลินทั้ง
01:27:01 → 01:27:06 คอร์ติซอลทั้งไทรอย์นะหลักๆก็คือ 3 ตัวเ
01:27:06 → 01:27:09 นะเเพราะฉะนั้นก็จะต้องปรับนะเรื่อง
01:27:09 → 01:27:13 อินซูลินนะนะกิซอไทรรอยด์อินซูลีนกับ
01:27:13 → 01:27:18 ไทรรอยด์เนี่ยปรับคล้ายๆกันก็คือการเติม
01:27:18 → 01:27:22 คฟต้องเติมคที่ดี f to get Complex C
01:27:22 → 01:27:25 อะไรต่างๆนะ
01:27:25 → 01:27:29 แต่ถ้าเกิดว่าเอ่อแนวทางของชการที่ยึด
01:27:29 → 01:27:34 อยู่เนี่ยไม่ค่อยจะแนะนำนักก็ก็แล้วแต่นะ
01:27:34 → 01:27:36 ฮะก็ต้องยอมรับในเรื่องของค่าบที่เป็น
01:27:36 → 01:27:39 อย่างนี้ไปแต่อย่างตอนเของทางอยู่เกิน
01:27:39 → 01:27:43 100รเนี่ยอาจารย์ปฏิวัติก็แอดในเรื่องของ
01:27:43 → 01:27:46 ทั้งผลไม้ทั้งพืชผักเข้าไปเยอะแยะแล้วนะ
01:27:46 → 01:27:50 ฮะนะหมอว่าแลบอย่างเนี้ยมันจะลดลงเยอะเลย
01:27:50 → 01:27:54 นะฮะนะเพราะว่าเือแร่ต่างๆนะที่เราพูดไป
01:27:54 → 01:27:56 เมื่อกี้เนี่ยนะฮะนะที่จะไปช่วยให้
01:27:56 → 01:27:59 อินซูลินมันเก่งๆนะอ่าแล้วก็ไปช่วย
01:27:59 → 01:28:03 คอร์ติโซนคอร์ติซอลเนี่ยนะคือคือถ้าเรา
01:28:03 → 01:28:07 กินแบบ CD kcd เนี่ยปัญหานึงเนี่ยนะที่
01:28:07 → 01:28:10 หมอไม่ค่อยแน่ใจเนี่ยคือเกลือแรกเกลือแรก
01:28:10 → 01:28:13 กับสัศึกษาเคมีนะโดยเฉพาะในกลุ่มคนที่
01:28:13 → 01:28:17 เป็นพื้นฐานที่เป็นบอ typ สายแป้งแต่ถ้า
01:28:17 → 01:28:21 เขามาเติมผักใบผักหัวนะแบบในปัจจุบันเย
01:28:21 → 01:28:25 รวมทั้งเบอร์รี่ต่างๆนะกูโเดีเนี้ยสศึกษา
01:28:25 → 01:28:27 เบไฟโตนิวเทรียนเนี่ยนะแล้วก็เกลือแร่
01:28:27 → 01:28:31 ต่างๆนะตัวหลักๆเลยก็คือตัวโปแตสเซียม
01:28:31 → 01:28:35 เอ่อโครเมียมสังกสีอ่าแมกนีเซียมอะไรต่าง
01:28:35 → 01:28:40 ๆนะนะเนี่ยค่าแลปของทางรอยเนี่ยนะฮะนะที่
01:28:40 → 01:28:43 มันพวกเนี้ยเยอะๆเยอะๆ 500 600 อะไต่างๆ
01:28:44 → 01:28:46 เดี๋ยวมันจะลดลงฮะมันจะลดลงก็สิ่งเหล่า
01:28:46 → 01:28:48 นั้น
01:28:48 → 01:28:53 นะเพราะฉะนั้นแนวทางว่าคุณหมอจะห่วงฝั่ง
01:28:53 → 01:28:56 ไหนมากกว่ากันเนี่ยนะก็ห่วงฝั่งน้านซ้าย
01:28:56 → 01:29:03 มือเยอะกว่าขวามือนี่ก็แค่คุยๆแนะนำนะว่า
01:29:03 → 01:29:07 ไปปรับอะไรนิดๆหน่อยๆเนาะ
01:29:07 → 01:29:12 เอแต่ก่อนเนี่ยอันเนี้ยมันเยอะนะของเา
01:29:12 → 01:29:15 เริ่มที่ 700 800 เลยล่ะนะอันนี้ก็ลงมา
01:29:15 → 01:29:18 เยอะแล้วะนะ
01:29:18 → 01:29:21 ฮคือคือก็เหมือนมันมันทุกอย่างมันก็ดี
01:29:21 → 01:29:25 ขึ้นเนี่ยแหละนะในเรื่องของก็ดีเรื่องของ
01:29:25 → 01:29:28 การนำส่งพลังงานอ่าต่างๆก็
01:29:28 → 01:29:33 ดีเพราะว่าในเกณฑ์ของกลุ่มอาหารทางด้าน
01:29:33 → 01:29:38 คาฟต่ำต่างๆเนี่ยนะมันก็เป็นเรื่องของของ
01:29:38 → 01:29:41 สิ่งที่ดีอ่ะนะในการที่จะเอามาใช้เพื่อใน
01:29:41 → 01:29:44 การมาปรับดูแล
01:29:44 → 01:29:46 สุขภาพแต่ถ้าเกิด
01:29:46 → 01:29:49 ว่าจะปรับให้เนียบกว่านี้อีกหน่อยนึง
01:29:49 → 01:29:53 เนี่ยนะก็โอเคอ่ะนะฮะนะก็ต้องมีการปรับใน
01:29:53 → 01:29:56 เรื่องอย่างวันเนี้ยที่ไลฟไปนะอันนั้นก็
01:29:56 → 01:29:59 ใช้ได้หมดนะฮะ 6 อย่าง 6 ข้อเริ่มตั้งแต่
01:29:59 → 01:30:02 น้ำไปจนถึงไขมัน
01:30:02 → 01:30:04 ดีนะ
01:30:04 → 01:30:09 โอเคมีใครสงสัยอะไร
01:30:09 → 01:30:15 มยดูค่าแลบกันได้เก่งๆแล้วล่ะเนาะนะนะ
01:30:15 → 01:30:19 เนี่ยก็อยากจะบอกนะฮะว่าร่างกายของเรา
01:30:19 → 01:30:21 เนี่ยในเรื่องของระบบความสมดุลเรามี
01:30:21 → 01:30:26 homeostasis นะฮะเรามีออนะพวกนี้มันก็าน
01:30:26 → 01:30:30 กันน่ะานกัน osis ก็คือมันต้องมีความ
01:30:30 → 01:30:35 สมดุลิเนี่ยมันก็มีขาดหรือเกินสมดุลนะฮะ
01:30:35 → 01:30:39 เพื่ออะไรมือคือคล้ายๆมัน 80 20 นะอัน
01:30:39 → 01:30:42 นี้มันต้องเป็นตัวตั้งนะเยอะหน่อยนะก็
01:30:42 → 01:30:45 ประมาณ 80% อ่ามีฮอมาให้มันอะไรมันหวือๆ
01:30:45 → 01:30:50 หวาๆหนยนะมีพงมีพิษเข้าไปเพื่อฝึกร่างกาย
01:30:50 → 01:30:53 ให้ให้เกิดการชาชินหรือให้เกิดการรู้สึก
01:30:54 → 01:30:57 รู้สาต่อความเป็นพ้งเป็นพิษบ้างนะฮะนะมัน
01:30:57 → 01:31:01 ก็จะได้มีแบบอะไรที่มันวุบๆวาบๆนะเสียวๆ
01:31:01 → 01:31:06 เอออย่างเงี้ยนะนะแล้วก็ทุกอย่างนะฮะทุก
01:31:06 → 01:31:11 อย่างเเกณฑ์นะของความเป็นปกตินะนะนะใน
01:31:11 → 01:31:14 เรื่องของความเหมาะสมพอดีนะไม่น้อยไม่มาก
01:31:14 → 01:31:18 ไม่ต่ำไม่เกินอย่าเงี้ยนะเรายังต้องยึด
01:31:18 → 01:31:20 ถือตาม Normal Standard optimal Range
01:31:20 → 01:31:24 นะฮะซึ่งทั้งหมดเยมันก็จะวนมามาสู่ใน
01:31:24 → 01:31:28 เรื่องของ Energy Balance นะก็มา Balance
01:31:28 → 01:31:32 กับอะไรอ่ะในทางปฏิบัติครับโปรตีนไขมันนะ
01:31:32 → 01:31:35 เนี่ยนะค่าเลือดอะไรต่างๆที่มันจะสะท้อน
01:31:35 → 01:31:37 ออกมามันจะต้องเนี่ย Normal Range
01:31:37 → 01:31:40 Standard Range optimal
01:31:40 → 01:31:47 Range มันมีแค่
01:31:47 → 01:31:52 นั้นในหน้าเพจมีใครถามอะไร
01:31:52 → 01:31:55 มยมีครับมีครับ
01:31:55 → 01:32:03 ครับฮัลโหลเออมีถามว่าไมีครับเออเดี๋ยวนะ
01:32:03 → 01:32:06 หมอเห็นคำถามนึงอ่ะที่เขาบอกว่าอะไรนะ
01:32:06 → 01:32:09 ก่อนออกกำลังกายหลังออกกำลังกายอ่ะน้ำตาล
01:32:09 → 01:32:12 มันจะเป็นยังไงหเป่าอ้อเสงสัยว่าน้ำตาลใน
01:32:12 → 01:32:14 เลือดก่อนและหลังออกกำลังกายจะลดหรือจะ
01:32:14 → 01:32:19 เพิ่มครับ
01:32:19 → 01:32:23 เออคือสิ่งต่างๆเนี่ยมันเป็นไดนามิกนะมัน
01:32:23 → 01:32:24 เป็นได
01:32:24 → 01:32:28 นะนะทั้งน้ำตาลทั้งคือพลังงานเนี่ยพลัง
01:32:28 → 01:32:30 งานน้ำตาลกับไขมันเนี่ย
01:32:30 → 01:32:35 นะคือมันยังเป็นยังไงก็แล้วแต่นะฮะนะนะ
01:32:36 → 01:32:41 แล้วแต่นะว่าแต่ละบุคคลเนี่ยนะเอ่อมัน
01:32:41 → 01:32:47 อยู่ในขั้นไหนของเ่อระบบเมตาบอลิกอืนะก็
01:32:47 → 01:32:52 บอกยากว่าพื้นฐานหรืออะไรอ่ะอะไรอ่ะ
01:32:52 → 01:32:55 metabolic สตัสของเคน่ะมันเป็นยังไงมัน
01:32:55 → 01:33:00 เป็นยังไงแต่สิ่งสำคัญเลยสิ่งสำคัญเลยคือ
01:33:00 → 01:33:06 เรานะเราก็ต้องรู้อ่ะเอ่อ
01:33:06 → 01:33:10 ว่าว่าเราอ่ะกำลังจะเ้าเรียกว่าอะไรอ่ะ
01:33:10 → 01:33:13 อยู่อยู่ในรูปแบบของการใช้พลังงานแบบไหน
01:33:13 → 01:33:16 นะฮะนะเราจะเลือกใช้เป็น C burner เป็น
01:33:16 → 01:33:19 Fat burner นะแล้ว f burner มันก็ยัง
01:33:19 → 01:33:22 มีคีต adap มี Fat adap อะไรอย่างงี้นะ
01:33:22 → 01:33:27 นะเราอยู่ในสเตตัสขนาดไหนอยู่อ่ะ
01:33:27 → 01:33:30 นะซึ่งน้ำตาลเนี่ยมันจะเป็นยังไงก็ได้นะ
01:33:30 → 01:33:33 ฮะมันจะเป็นยังไงก็ได้สูงต่ำนะหรือปกติ
01:33:33 → 01:33:36 อะไรก็ได้ทั้งนั้นนะฮะแต่ต้องมีความเข้า
01:33:36 → 01:33:39 ใจนะเพราะน้ำตาลมันเป็นพลังงานมันเป็น
01:33:39 → 01:33:43 พลังงานนะแล้วสิ่งที่มาจัดการกับน้ำตาลก็
01:33:43 → 01:33:46 คือก็คือตัวพ่อตัวแม่โดยเฉพาะอินซูลิน
01:33:46 → 01:33:50 อินซูลินน้ำตาลเนี่ยเวลาที่คุณออกกำลัง
01:33:50 → 01:33:53 กายรูปแบบการออกกำลังกายเนี่ยอาจจะเป็น
01:33:53 → 01:33:56 การออกลกายที่มันไปกระตุ้นคอร์ติซอลแล้ว
01:33:56 → 01:34:00 คอร์ติซอลเนี่ยก็ไปกลูโคนนิน้ำตาลที่ตับ
01:34:00 → 01:34:03 เนี่ยนะหรือน้ำตาลจากพวกโปตรงโปรตีนอะไร
01:34:03 → 01:34:06 ต่างๆออกมาเยอะแยะไปหมดน้ำตาลมันก็สูงนะ
01:34:06 → 01:34:09 เสร็จแล้วเนี่ยตัวพ่ออินซูลินพอเห็นว่า
01:34:09 → 01:34:13 น้ำตาลเยอะเขาก็ต้องออกมา Balance นะบาน
01:34:13 → 01:34:17 ถ้าอินซูลินเนี่ยเเก่งเขยันแล้วเ
01:34:17 → 01:34:20 sensitivity เอ้เค้าเคอะไรเคเรียกว่า
01:34:20 → 01:34:24 ว่องไวอะไรต่างๆการบานของน้ำตาลเนี่ยมัน
01:34:24 → 01:34:27 ก็จะอยู่ในช่วงไม่เกิน 4 ช่มนะฮะส่วนใหญ่
01:34:27 → 01:34:30 ก็ 2 ช่วโมงนะเพราะว่าหน้าที่ของอินซูลิน
01:34:30 → 01:34:33 ถ้าเก่งและขยันแล้วก็เป็น physiologic
01:34:33 → 01:34:35 condition เนี่ยที่แก้ไขเรื่องภาวะน้ำ
01:34:35 → 01:34:38 ตาลสูงได้เนี่ยนะภายใน 2-4 ชั่วโมงเนี่ย
01:34:38 → 01:34:43 ก็ต้องอยู่ในเกฑ์ปกติก็มีเท่านั้นจะสูง
01:34:43 → 01:34:47 มากสูงน้อยนะหรือปกติเนี่ยนะก็อยู่ที่
01:34:47 → 01:34:57 อินซูลินนะเก่งมั้ยขยันมยนะ
01:34:57 → 01:35:02 คือพวกเยเออมันเป็นไดนามิมันเป็นไดนามินะ
01:35:02 → 01:35:06 เราไปเจาะน้ำตาลวัดน้ำตาลอะไรยังไงนะะ
01:35:06 → 01:35:10 แล้วเวลาเราเราออกแรงออกกำลังเราเล่นอะไร
01:35:10 → 01:35:13 ออกกำลังกายใช่มั้ยนะครับร่างกายมันจะใช้
01:35:13 → 01:35:16 อะไรมันก็ใช้ได้หมดนะใช้น้ำตาลก็ได้ใช้ไข
01:35:16 → 01:35:20 มันก็ได้ผมก็ผมก็ตอบไว่าแล้วแต่รูปแบบการ
01:35:20 → 01:35:23 ออกกำลังด้วยนะพี่หมอใช่แล้วแต่รูปแบบ
01:35:23 → 01:35:26 แล้วแต่ลักษณะของเขาด้วยถ้าถ้าไปออกกำลัง
01:35:26 → 01:35:28 แบบหนักๆเนี่ยน้ำตาลมันก็ขึ้นอยู่แล้วล่ะ
01:35:28 → 01:35:31 เพราะร่างกายมันต้องใช้น้ำตาลเออแต่ถ้า
01:35:31 → 01:35:34 ออกเบาๆออกแบบเวทหรืออะไรพวกนี้มันก็น้ำ
01:35:34 → 01:35:37 ตาลมันก็จะน้อยหน่อยเพราะร่างกายก็มันก็
01:35:37 → 01:35:38 เป็นไดนามิคอย่างที่คุณหมอบอกกันแหละแปล
01:35:38 → 01:35:42 ผันแล้วก็อยู่ที่การควบคุมตัวควบคุมคือ
01:35:42 → 01:35:46 คือตัวพ่อตัวแม่
01:35:46 → 01:35:51 ครับหรือเค้าเนี่ยอ่าเาเนี่ยอยู่ในขั้น
01:35:51 → 01:35:53 ที่ว่าสามารถที่จะไปกระตุ้นฮอร์โมนลูกลูก
01:35:53 → 01:35:58 เทพนะออกมาทำงานได้นะโดยสามารถควบคุมอ่อ
01:35:58 → 01:36:00 อินซูลินกับคอร์ติซอลได้ดีแล้วอย่าเงี้ย
01:36:01 → 01:36:05 นะโอ้คราวนี้อ่ะนะเอ่อน้ำตาลมันก็ไม่สูงอ
01:36:05 → 01:36:08 ฮะไม่สูงนะเพราะว่าพวกนี้เใช้เรื่องของ
01:36:08 → 01:36:13 เอ่อกดไขมันเป็นพลังงาน
01:36:13 → 01:36:18 หลักเราไม่รู้ว่าเริ่มต้นรายละเอียดก็
01:36:18 → 01:36:21 เป็นยังไงเออเพราะว่าคำถามมันสั้นอยู่แค่
01:36:21 → 01:36:24 เนี้ยนะกว้างด้วยมันกว้างไป
01:36:24 → 01:36:28 ถามถามอาจารย์ครับว่าไอ้ถ้าในคนที่เ้าไม่
01:36:28 → 01:36:30 มี insulin resistance แล้วก็ไม่มี
01:36:30 → 01:36:33 insulin ฟังก์ชันน่ะก็คือสุขภาพไม่ได้มี
01:36:33 → 01:36:36 ปัญหาอะไรอนะครับแล้วไปออกกำลังกายตอน
01:36:36 → 01:36:40 เช้านะฮะแล้วก็มาเจาะเลือดตอนเสสายที่โรง
01:36:40 → 01:36:43 พยาบาลนะด้วยความอาจจะไม่ทราบ
01:36:43 → 01:36:48 ปัหามันน้ำตาลมันจะขึ้นเกิน 125 ได้มั้ย
01:36:48 → 01:36:53 ครับถ้าเไม่ร่กันไปได้ได้ได้เจอมาแล้วได้
01:36:53 → 01:36:55 แต่แต่มันก็ไม่มีเพดานที่ชัดเจนใช่ไหม
01:36:55 → 01:36:58 ครับว่าถ้าไม่ฟังก์ชันไม่มี instance
01:36:58 → 01:37:01 แล้วมันจะขึ้นไม่ควรจะตัวเลขเท่าไหร่จริง
01:37:01 → 01:37:03 ๆมันมีเพดานเนี่ยเพดานส่วนใหญ่ก็คือไม่
01:37:03 → 01:37:05 เกิน
01:37:05 → 01:37:07
01:37:07 → 01:37:11 อืก็ประมาณสัก 1 ปีที่แล้วนะฮะผมผมเคยมี
01:37:11 → 01:37:14 ลูกค้าเช็คอัพคนนึงผู้หญิงเนาะอายุประมาณ
01:37:14 → 01:37:18 40 พอ ting บัเ 14
01:37:18 → 01:37:21 145 แต่เราดู metabolic มากอเเนี่ยค่อน
01:37:21 → 01:37:24 ข้างจะดีหมดน่ะเป็นลักษณะแบบแบบเป็น Fat
01:37:24 → 01:37:28 เบอร์เนอร์แน่นอนแล้วก็ a1c มันก็ดีอ่ะจำ
01:37:28 → 01:37:31 ไม่ได้เท่าไหร่แต่ว่าไม่สูงอ่ะไม่ไม่ถึง 5
01:37:31 → 01:37:34 อะไรอย่าเงี้ยคือดีหมดเลยเราก็งงว่าเอ้ย
01:37:35 → 01:37:38 เคเป็นสตสอะไรหรือเปล่าซักประวัติซ้ำอีก
01:37:38 → 01:37:43 รอบนึงปรากฏว่าไปเข้ายิมมาอย่างอย่างหนัก
01:37:43 → 01:37:46 พอสมควรเป็นชั่วโมงนะออกยิมมาสักพักนึง
01:37:46 → 01:37:49 อาบน้ำแต่งตัวก็มาโรงพยาบาลก็มาที่แผนกผม
01:37:49 → 01:37:56 ก็มาเฉาะเลือดเลยอืได้ 145 อื
01:37:56 → 01:38:00 ๆพวกนี้ก็เป็นิอิ
01:38:00 → 01:38:04 เออก็มันก็ต้องคุยกัน
01:38:04 → 01:38:08 น่ะคือจริงๆในต่างประเทศนะพวกแลบที่เช็ค
01:38:08 → 01:38:10 up เนี่ยนะูก็ต้องเตรียมตัวอย่างดีแล้ว
01:38:10 → 01:38:13 ต้องเข้าใจเรื่อง timing น่ะเวลา 8-12
01:38:13 → 01:38:18 ชมงนะถ้ามาเกินมาขาดอะไรไปต่างๆเนี่ยนะ
01:38:18 → 01:38:24 มันการแปรผลแหลบมันก็จะก้ำกึ่งนะนะ f
01:38:24 → 01:38:26 Positive f Negative นะแล้วก็ทำให้
01:38:26 → 01:38:29 เกิดว่าต้องมาเจ็บตัวเจาะตัมอะไรอย่าง
01:38:29 → 01:38:32 เงี้ยมันไม่เหมาะแล้วแล้วถ้าสมมุติว่าเ
01:38:32 → 01:38:35 ฟาสมาประมาณสมมุติอาจจะ 8 ชมงพอดีพอดี
01:38:35 → 01:38:38 หรือเกินนิดหน่อยนะฮะแต่ว่าเขากินอาหาร
01:38:38 → 01:38:42 เช้ามานะแต่เขามาถึงโรงพยาบาลซะเกือบจะ
01:38:42 → 01:38:43 เย็นแล้วอย่าง
01:38:43 → 01:38:47 เงี้ยมันมันมันจะแปลได้มั้ยครับมันแปลไม่
01:38:47 → 01:38:51 ได้แปลไม่ได้มันมีฮก็มีลูกค้าเบางคนบอก
01:38:51 → 01:38:55 กินตั้งแต่ 18:00 นกินตั้งแต่ 7:00 นเนาะ
01:38:55 → 01:38:57 แล้วก็ก่อนจะมาถึงโรงพยาบาลก็เป็นบ่ายแก่
01:38:57 → 01:38:59 ๆแล้วก็บอกว่าเนี่ยเข้าเที่ยงยังไม่ได้
01:39:00 → 01:39:03 กินแล้วแล้วนับจากมื้อเช้ามาเนี่ยผมอดมา 8
01:39:03 → 01:39:07 ชมงนะตรวจไม่ได้เหรออะไรแบบเนี้ยก็ตรวจ
01:39:07 → 01:39:11 ได้มันก็ไม่ได้ึตัวได้แต่ว่าผลเนี่ยมัน
01:39:11 → 01:39:16 ไม่แน่นอนนะจะเอาให้แปรผลคัอกันแบบนี้ไป
01:39:16 → 01:39:17 ก็แล้วแต่
01:39:17 → 01:39:21 นะเออแต่ถ้าจะให้ดีแนะนำไว้อย่างงี้เพราะ
01:39:21 → 01:39:25 อะไร
01:39:25 → 01:39:30 บางครั้งเนี่ยแลบเนี่ยมันมีความคล่าเื่อน
01:39:30 → 01:39:33 เออก็จะค่อนข้างเฟลืองเงินคราวนี้ของคุณ
01:39:33 → 01:39:36 วราธิปครับเมื่อกี้ที่ที่ตอบคำถามนะพี่
01:39:36 → 01:39:40 หมอเออแกบอกว่าเออย่างที่ผมบอกครับว่าการ
01:39:40 → 01:39:42 ออกกำลังว่าถ้าออกหนักๆอ่ะน้ำตาลมันก็
01:39:42 → 01:39:45 เพิ่มแต่ว่าหลังจากออกแล้วน้ำตาลมันก็ลด
01:39:45 → 01:39:48 ลงอันนี้เป็นเรื่องปกติเขบอกว่าใช่ผมก็
01:39:48 → 01:39:53 เจอแบบนี้แหละแต่หมอหลายๆคนไม่เชื่อโอ้ผม
01:39:53 → 01:39:56 ได้แต่บอกว่าร่างกายจะต้องใช้พลังงานจึง
01:39:56 → 01:39:58 ต้องใช้น้ำตาลในเลือดสูงหลจากนั้นก็ค่อย
01:39:58 → 01:40:00 ลด
01:40:00 → 01:40:04 ลงหมอหลายคนไม่เชื่อด้วยเหรอ
01:40:04 → 01:40:08 ครับต้องเข้าใจ physiology นะถ้าคุณไปเวท
01:40:08 → 01:40:13 นะเนี่ยนะมันก็น้ำตาลมันก็ขึ้นแหละแต่
01:40:13 → 01:40:16 จริงๆทั้งน้ำตาลทั้งไขมันน่ะมันก็ขึ้นน่ะ
01:40:16 → 01:40:20 ตอนที่มีการออกแรงออกกำลังเนี่ยร่างกาย
01:40:20 → 01:40:23 มันก็ต้องพยายามเที่จะใช้พลังงาน
01:40:23 → 01:40:26 แต่หลังจากนั้นเนี่ยนะอินซูลินเนี่ยมา
01:40:26 → 01:40:30 เก็บน้ำตาลนะเออประสิทธิภาพอินซูลินเนี่ย
01:40:30 → 01:40:34 ขยันเก่งดีแค่ไหนอย่างงี้อาจารย์ครับไอ้
01:40:34 → 01:40:36 ไอ้ไตกีนี่ก็มีิขึ้นเหมือนกันมฮะถ้าหาก
01:40:37 → 01:40:39 ว่าการออกกำลังกายนั้นเนี่ยคนคนนั้นเขา
01:40:39 → 01:40:42 ใช้เขาใช้ฟรี fy Acid เลยพกนี้เป็นพลัง
01:40:42 → 01:40:46 งานด้วยอขึ้นหมดทั้งน้ำตาลทั้งไขมันรวม
01:40:46 → 01:40:50 ทั้งการฟานี่แหละานี่แหละเอย่างเช่นกรณี
01:40:50 → 01:40:54 เค n มาเนี่ยนะแล้วก็โอ้โห 16 ชั่วโมง
01:40:54 → 01:40:59 แล้วนะนะคือมันเกิดรถติดมันเกิดเ่อไปแวะ
01:40:59 → 01:41:01 โน่นแวะนี่แล้วมันอะไรอย่างเงี้ยนะแต่ก็
01:41:01 → 01:41:05 ตั้งใจไแล้วจะมาตรวจเ 16 ช่วโมงพอตรวจไป
01:41:05 → 01:41:09 ไตกิรามันก็ขึ้นนะเพราะตอนนี้ยังไม่กล้า
01:41:09 → 01:41:13 กินอะไรไงนะร่างกายมันก็เลยเกิดแ adap นะ
01:41:13 → 01:41:18 แต่มันก็มานะมันก็ไม่เหมาะสม
01:41:18 → 01:41:22 นะก็ก็แล้วแต่เขาจะเข้าใจไม่เข้าใจขนาด
01:41:22 → 01:41:26 ไหนเคอทั้งทีเปลืองเงินเยอะแยะเนี่ยนะก็
01:41:26 → 01:41:32 ต้องทำให้ถูกมันแค่ปีละครั้ง 2
01:41:32 → 01:41:36 ครั้งต้องเตียนตัวเดือนเดือนก่อนที่ทำงาน
01:41:36 → 01:41:40 เเแบบเอยากจะขายโปรแกรมเนาะก็ทำ Afternoon
01:41:40 → 01:41:44 เชค up มาก็โก็ไม่รู้มันแปลอะไรกันยังไง
01:41:44 → 01:41:47 เหมือนกันนะเพราะว่าส่วนตัวผมผมก็ไม่ไม่
01:41:47 → 01:41:50 ได้เชียไม่ไม่จริงๆค้านไปเหมือนกันน่ะแต่
01:41:50 → 01:41:54 เราไม่มีอำนาจตัดสินใจก็
01:41:54 → 01:41:58 แต่เแต่เ้าไม่ได้ขายแล้วตอน
01:41:58 → 01:42:03 นี้อ้าวมีใครถคุณแซมนิวครับเบอกว่าเค้าเ
01:42:03 → 01:42:06 เป็นคนผอมสูงครับไม่เคยมีปัญหาเรื่องน้ำ
01:42:06 → 01:42:10 ตาลสูง BMI แค่ 199 อืแต่ว่าเป็นโรคตอน
01:42:10 → 01:42:13 ไม่หลับมามาร่วม 1 ปีอทำให้น้ำตาลสูงขึ้น
01:42:13 → 01:42:17 ในระดับพ PR diabetes ประมาณ 109 - 112
01:42:17 → 01:42:22 ครับหกแกก็แปลกใจเพราะว่าตลอดทั้งปีเนี่ย
01:42:22 → 01:42:24 ไม่กินหวานเลยรวมทั้งขนมหวานน้ำหวานน้ำ
01:42:24 → 01:42:28 อัดลมน้ำผลไม้ไม่กินมาเป็น 10 ปีก็พยายาม
01:42:28 → 01:42:31 หาคำตอบใน Google ครับแล้วก็มาตรงกับที่
01:42:31 → 01:42:35 หมอภัทระที่บอกว่าสาเหตุมาจากคอร์ติซอลอ
01:42:35 → 01:42:38 อ่าตอนนี้กินทีออยมาเกือบ 6 เดือนแล้วแต่
01:42:38 → 01:42:41 ไม่สม่ำเสมอนะครับปัญหานอนเรื่องการนอน
01:42:42 → 01:42:45 หลับเนี่ยเหมือนหมดไปแล้วอือน้ำตาลเนี่ย
01:42:45 → 01:42:49 ก็ลดลงเหลือ 95 -15 แต่ยังไม่นิ่งระยะ
01:42:49 → 01:42:53 เวลานอนแต่ละคืนประมาณ 6-7 ช่มรู้สึกเต็ม
01:42:53 → 01:42:55 อิ่มทองไม่ผูกไม่เหมินหัวเหมือนแต่ก่อน
01:42:55 → 01:42:59 ครับพี่หมอเอเคยใช้สมาร์ทโฟนวัดภาวะ EP
01:42:59 → 01:43:03 Sleep มั้ยได้ถึง 25% มั้ยของ 6-7
01:43:03 → 01:43:09 ชั่วโมงอ่านั่นน่ะสิครับถ้าได้นะถ้าได้ก็
01:43:09 → 01:43:12 โอเคแต่ถ้าขอมสูงอาการแบบนี้ก็เรียบร้อย
01:43:12 → 01:43:16 อ่ะครับเออก็ต้องเข้าใจเรื่องพลังงานพลัง
01:43:16 → 01:43:21 งานอืแล้วก็หมออยากจะบอกว่าเอ่อต้องต้อง
01:43:21 → 01:43:24 ตรวจเรื่องมวลกล้ามเนื้อเกับ viser Fat
01:43:24 → 01:43:27 นะฮะนะอันนี้มันเป็นมันเป็นมาอ criteria
01:43:28 → 01:43:32 นะที่จะเป็นตัวบอกสำคัญเลยของคนผอมสูงอ่ะ
01:43:32 → 01:43:37 ตรงปรุงตับนะว่าอ่า Skeleton Muscle mas
01:43:37 → 01:43:41 เนี่ยเป็นยังไงนะฮะนะมันมันน่าจะมันมัน
01:43:41 → 01:43:45 น่าจะค่อนข้างขึ้นยากอนะแต่อย่าให้มันลด
01:43:45 → 01:43:49 ลงนะฮะแล้วว Fat เนี่ยอย่าให้เยอะอย่าให้
01:43:49 → 01:43:54 เยอะนะเพราะว่า 2 อย่างนี้เนี่ยมันจะเป็น
01:43:54 → 01:43:57 มันจะเป็นตัวที่เป็นปัญหาในระยะยาวของคน
01:43:57 → 01:44:01 ตรง
01:44:01 → 01:44:02 นี้ครับ
01:44:03 → 01:44:06 ผมคราวนี้เจ้าเดิมเจ้าประจำครับพี่เหน่ง
01:44:06 → 01:44:10 ครับเออเขาบอกว่ากินน้ำผสมเกลือดำมาเกือบ
01:44:10 → 01:44:13 อาทิตย์แล้วพอพอกินน้ำเค็มก็หิวบ่อยหิว
01:44:13 → 01:44:17 น้ำบ่อยนะครับกินเยอะขึ้นน่าจะประมาณ 3
01:44:17 → 01:44:21 ลิตรนะแต่ว่าอะไรเนี่ยนอฟิมลก็ยังยังลง
01:44:21 → 01:44:25 ไม่ชัดเจนส่วนน้ำสลัดนี่ก็ใส่ acv อยู่
01:44:25 → 01:44:29 แล้วมื้อแรกเนี่ยกินประมาณอ่า 13:00 นถึง
01:44:29 → 01:44:32 14:00 นอครับมื้อที่ 2 กินประมาณ 19 -
01:44:32 → 01:44:36 20:00 นถือว่ากินเรทไปมยเรทไปฮะเรทไป
01:44:36 → 01:44:42 ครับคือถ้าตอนเช้าเนี่ยฟมอมันเยอะอ่ะเอ่อ
01:44:42 → 01:44:44 ขอให้คนที่เป็นอย่างเงี้ยเนี่ยให้กระเถิบ
01:44:44 → 01:44:48 มื้อมื้อแรกในการกินเนี่ยนะให้กระเถิบมา
01:44:49 → 01:44:53 ให้มาชิดๆ 10:00 นอ่ะให้มาให้มาให้มาให้
01:44:53 → 01:44:56 มาชิดขึ้น
01:44:56 → 01:45:01 นะเเกินเด่งกินมื้อแรกเมื่อไหร่นะบ 13 น
01:45:01 → 01:45:04 ถึง 14:00 นครับมันเรทไปฮะมันเรทไปต้อง
01:45:04 → 01:45:07 กระเถิบมาก่อนเที่ยนให้อยู่แถวๆประมาณนี้
01:45:07 → 01:45:10 แหละประมาณ 10:00 น 10:30 11:00 น
01:45:10 → 01:45:15 กระเถิบมากระเถิบเข้ามาเข้ามาก่อนนะพอ
01:45:15 → 01:45:17 กระเถิบเข้ามาเนี่ยเราจะกระตุ้นอินซูริน
01:45:17 → 01:45:22 มาเร็วขึ้นเพื่อมาจัดการน้ำตาลนะเพื่อมา
01:45:22 → 01:45:26 จัดการน้ำตาลแล้วเดี๋ยวมันจะหมุนเวียนอ่า
01:45:26 → 01:45:31 ไปที่มื้อเย็นนะแล้วก็ไปรถคอร์ติซอลนะเ่อ
01:45:31 → 01:45:35 โดยอัตโนมัติเนี่ยนะแล้วก็ตอนเช้าไอ้ตัว
01:45:35 → 01:45:39 จอ phal มันจะค่อยๆลดลงครับแล้วบอกว่า
01:45:39 → 01:45:41 ปริมาณคาฟเชิงซ้อนเนี่ยใช้วิธีคุมน้ำตาล
01:45:41 → 01:45:45 ไม่ให้เกิน 140 มิลกรัมต่อเดซิได้มมครับอ
01:45:45 → 01:45:50 อันนี้คือโงงๆอคืออย่างงี้นะหลักการกิน
01:45:50 → 01:45:55 คาฟเชิงซ้อนเนี่ยครับอยู่ในเกณฑ์ที่ว่า 25
01:45:55 → 01:45:59 เน็ตาฟเนี่ย 25 20-25 อ่าถ้าระดับกลางๆ
01:45:59 → 01:46:04 ก็เน็ตาฟประมาณ 50 -60 นะหรือระดับที่
01:46:04 → 01:46:07 เยอะขึ้นไปได้นะเพราะไม่มีการออกแรงออก
01:46:07 → 01:46:09 กำลังอะไรด้วยเนี่ยก็กินไปที่ประมาณ 100
01:46:09 → 01:46:15 ม 100 กรัมเลยนะเด็ดค 100 กรัมเลยนะกินใน
01:46:15 → 01:46:18 มื้อเย็นกินในมื้อ
01:46:18 → 01:46:23 เย็นกินในมื้อเย็นเป็นหลักนะ
01:46:23 → 01:46:26 ก็กินเน็ตค้าในระดับนี้เนี่ยร่างกายจัด
01:46:26 → 01:46:32 การได้นะแล้วเอ่อคอร์ติซอลเนี่ยมันจะไม่
01:46:32 → 01:46:35 เยอะนะเพราะถ้ากินเน็ตฟน้อยเกินไปเนี่ย
01:46:35 → 01:46:39 มันไป Balance คิอไม่ได้นะคิอก็ยังแผงนิด
01:46:39 → 01:46:43 ตอนเช้า donal ก็มานะลองเพิ่มเน็ตาขึ้นไป
01:46:43 → 01:46:45 อีกนะ
01:46:45 → 01:46:49 ฮะตอนนี้ไม่รู้กินอยู่เท่าไหร่กินอยู่ที่
01:46:49 → 01:46:53 20 25 ก็เพิ่มเป็น 50 60 อ๋อครับแล้ว
01:46:53 → 01:46:55 กีโยเกิร์ตนี่เอาไปกินมือแรกได้มั้ครับ
01:46:55 → 01:47:00 ร่วมกับ T ท Oil ของของกีโยเกิร์ตอ่ะครับ
01:47:00 → 01:47:03 ีกโยเกิร์ตน่ะเหรอใช่ไปกินมือแรกได้มั้
01:47:03 → 01:47:06 กับทรูออยเพราะว่าคุณเน่งเขากินทรูออยได้
01:47:06 → 01:47:11 ได้นะเป็นโปรตีนไขมันสูงเออได้ครับหน้า
01:47:11 → 01:47:15 ปริมาณ่ะครับพี่หมอีกโยเกิร์ตใช่มั้ยใช่
01:47:15 → 01:47:19 ครับก็ไม่เกิน 1 ถ้วยอ่ะ 250 กรัมรือเท่า
01:47:19 → 01:47:23 ไหร่ถ้วยนึงเท่าถ้วยเล็กๆอ่ะยเล็กๆแบบที่
01:47:23 → 01:47:29 เขาขายกันทั่วไปอือันนี้คุณเ็งบอกว่าเคย
01:47:29 → 01:47:32 กินขนมปางเติมครับก่อนออกกำลังหนักๆปรากฏ
01:47:32 → 01:47:36 ว่าน้ำตาลมันเบิ้ลไป 180 190 เลยโอ้ขม
01:47:36 → 01:47:42 ปังไม่ได้ฮะหนมปังเป็นไ bash ครับ
01:47:42 → 01:47:46 ใช่ครับ
01:47:46 → 01:47:49 ผมคือของเน่งเนี่ยเข้าใจว่าจะมีปัญหา
01:47:49 → 01:47:53 เรื่องตัวคอร์ติซอลที่มันยังมากวนๆอยู่ใน
01:47:53 → 01:47:57 ตอนกลางคืนและไปมีผลในตอนเช้ามืดอที่ไปทำ
01:47:57 → 01:48:00 ให้ฟมอเนี่ยมันยังเยอะนะเพราะฉะนั้น
01:48:00 → 01:48:03 ต้องลดคอร์ติซอลลดคอร์ติซอลนะเพราะฉะนั้น
01:48:03 → 01:48:06 มื้อเย็นเนี่ยเออมื้อเย็นนะจัดการ
01:48:06 → 01:48:12 คอร์ติซอลดีๆนะคอซอเนี่ยเขาจะสงบนะเขาก็
01:48:12 → 01:48:17 จะชอบเรื่องคาฟนะพวกคาฟนะแล้วเราก็ต้อง
01:48:17 → 01:48:21 พยายามเติมสารอาหารไอ้พวกสัตว์เล็กๆอ่ะปู
01:48:22 → 01:48:25 หอยปูปลาเลยนี่แหละนะที่บอกนะแล้วก็ตับ
01:48:25 → 01:48:32 เอ่อตับเครื่องในนะต้มเลือดหมูเนี่ยนะพวก
01:48:32 → 01:48:35 ต้มเลือดหมูอ่ะใส่ไส้ใส่เครื่องในใส่ตับ
01:48:35 → 01:48:38 อย่าเงี้ยนะเอ่อมันจะสร้างกล้ามเนื้อดีๆ
01:48:38 → 01:48:43 เลยด้วยต้มคือหมูเอ้ต้มต้ม่นหมูใช่มั้ย
01:48:43 → 01:48:46 เออคนอื่นเคกินตอนเช้านะเรากินตอนเย็นนะ
01:48:46 → 01:48:49 พี่หมอไม่ๆมันกินผิดไงมันไม่เข้าใจคือต้ม
01:48:49 → 01:48:52 ดหมูเนี่ยเป็นอาหารมื้อเย็นนะฮะนะแล้ว
01:48:52 → 01:48:55 เป็นเมื่ออาหารสร้างกล้ามนะฮะเป็นอาหาร
01:48:55 → 01:49:01 สร้างกล้ามนะเออใครไม่รู้ก็รู้ไว้นะ
01:49:01 → 01:49:07 เอครับอันนี้คุณกวางถามมาว่าถ้าในกรณีที่
01:49:07 → 01:49:10 เรากินแป้งแปรรูปบ่อยๆในวันีส Day เนี่ย
01:49:10 → 01:49:14 แล้วไม่มีอาการน็อกน้ำตาอแปลว่าร่างกาย
01:49:14 → 01:49:17 เราชินกับอินซูลินก้าวร้าวหรือเปล่าคะที่
01:49:17 → 01:49:20 ถามเช่นนี้เพราะว่าในคนที่เลือกทานคาฟ
01:49:20 → 01:49:23 ธรรมชาติมากกว่าการทานค้าแปรรูปเนี่ยแล้ว
01:49:23 → 01:49:27 วันนึงมาทานคาแปรรูปเยอะแล้วมีอาการนอก
01:49:28 → 01:49:30 น้ำตาลเนี่ยพอร่างกายเกิดอินซูลินก้าว
01:49:30 → 01:49:35 ล้าวหรือเ่าใช่ฮะใช่อินซูลินมันจะเหวี่ยง
01:49:35 → 01:49:41 สวิงนะฮะเพราะว่าถ้าคุณกินคาฟที่เป็น good
01:49:41 → 01:49:44 to get Complex คฟเนี่ยคือคฟที่ดีๆอ่ะ
01:49:44 → 01:49:48 นะอินซูลินเขาก็จะเป็นอินซูลินสงบคือเรา
01:49:48 → 01:49:52 นะอย่าไปกลัวอินซูลินจะมาเยอะแต่เราเรา
01:49:52 → 01:49:55 ต้องกลัวคาแรคเตอร์ของอินซูลินเนี่ยที่จะ
01:49:55 → 01:49:58 เป็นอินซูลินก้าวร้าวนะฮะ aggressive
01:49:58 → 01:50:01 อินซูลินนะเป็นสิ่งที่น่ากลัวส่วน
01:50:01 → 01:50:06 อินซูลินจะมาเยอะเลยนะนะเดี๋ยวเค้าก็จะลง
01:50:06 → 01:50:09 ฮะเคจะลงเอาจจะตกอกตกใจนิดนึงที่จะมา
01:50:09 → 01:50:12 บาลานซ์น้ำตาลเนี่ย
01:50:12 → 01:50:16 นะคือปริมาณอินซูลิน
01:50:16 → 01:50:22 นะมันยังมีผลนะน้อยกว่านะเนี่ยไอ้ไอตัว
01:50:22 → 01:50:26 เรื่องของคุณภาพประสิทธิภาพของมันน่ะที่
01:50:26 → 01:50:32 มันเป็นตัวแบบดุดันก้าวร้าวโมโหนะฮคือตรง
01:50:32 → 01:50:35 นี้เนี่ยมันไม่มีข้อตรวจพิสูจน์นะฮะเรา
01:50:35 → 01:50:37 ตรวจได้เฉพาะ fing อินซูลินแล้วก็วัด
01:50:37 → 01:50:41 ระดับปริมาณเท่านั้นนะแต่ปริมาณเนี่ยอย่า
01:50:41 → 01:50:45 ไปกลัวไม่ต้องไปกลัวมันให้กลัวลักษณะวิธี
01:50:45 → 01:50:47 การออกฤทธิ์ของมันหรือวิธีการที่อินซูลิน
01:50:47 → 01:50:50 มันเค้าเรียกว่าไม่ได้งอแงหรนะมันดุดัน
01:50:50 → 01:50:54 น่ะแล้วมันแบบไม่ยอมลงอ่ะไม่ยอมไม่ยอมา
01:50:54 → 01:50:57 regulate ลงเพรางั้นรูปแบบของอาหารเนี่ย
01:50:57 → 01:51:03 นะก็ต้องเป็น good to เกสนะ compex Car
01:51:03 → 01:51:06 นะนะซึ่งมันก็ต้องเป็นที่เราพูดกันว่า
01:51:06 → 01:51:09 เรียวฟ้งเรียวฟู้ดอะไรอย่างงั้นแหละนะแต่
01:51:09 → 01:51:13 ถ้าไปมีอะไรที่ออกนอกลู่นอกทางหยวนๆหน้า
01:51:13 → 01:51:16 อร่อยหน้าแซ่บนะนานๆแล้วเดี๋ยวขอกินทีนึง
01:51:16 → 01:51:19 อะไรอย่าเงี้ยนะเนี้แหละนะอินซูลินเ้า
01:51:19 → 01:51:22 เป็นอินซูลินพ่อพระมาอยู่ทุกวี่วันอยู่
01:51:22 → 01:51:25 อยู่ดีๆเนี่ยไปกระตุกเอย่างเงี้ยนะฮะนะเา
01:51:25 → 01:51:28 ก็จะกลายเป็นอินซูลินก้าวร้าวนะคือ
01:51:29 → 01:51:33 อินซูลินนี่เค้าแรงนะฮะแรงนะแรงในการตอบ
01:51:33 → 01:51:36 สนองนะไม่เหมือนคอร์ติซอลนะฮะคอร์ติซอล
01:51:36 → 01:51:38 ความเหวี่ยงวีนของคอร์ติซอลเนี่ยไม่
01:51:38 → 01:51:42 เหมือนกับอินซูลินคิอเขาจะน่ากลัวที่
01:51:42 → 01:51:47 ปริมาณที่มันพุ่งขึ้นสูงขึ้นนะนะแต่
01:51:47 → 01:51:49 อินซูลินเนี่ยมันน่ากลัวไม่ได้น่ากลัวที่
01:51:49 → 01:51:53 ปริมาณอินซูลินน่ากลัวที่ที่คาแรคเตอร์
01:51:53 → 01:51:56 ที่วิธีการออกฤทธิ์ของเขาแล้วแล้ว
01:51:56 → 01:51:59 คาแรคเตอร์มันวัดวัดลำบากด้วยใช่มยมันวัด
01:51:59 → 01:52:02 ลำบากมันวัดลำบากก็อาคุณอาจจะต้องวัด gki
01:52:02 → 01:52:07 น่ะฮะนะเอ่อกูโคสคีน index อ่ะซึ่งบางที
01:52:07 → 01:52:10 เนี่ยสมมุติว่าไปกินไอ้พวกอะไรหญ้าหวาน
01:52:10 → 01:52:13 เงี้ยไปกินไพวกสารทแทงความหวงความหวาน
01:52:13 → 01:52:15 อะไรอย่างเงี้ยนะแล้วปรากฏว่าเจาะ gki
01:52:15 → 01:52:19 เนี่ยมันค่อนข้างสูงเกิน 9 ไปเยอะๆเนี่ย
01:52:19 → 01:52:23 อยู่ประมาณ 48 ชมงเนี่ยนะนะที่มันเป็น
01:52:23 → 01:52:25 อย่างนี้เนี่ยก็เพราะว่าเกิดภาวะของ
01:52:25 → 01:52:28 ลักษณะอินซูลินที่เนี่ยเเรียกก้าวร้าว
01:52:28 → 01:52:30 เนี่ย
01:52:30 → 01:52:35 นะค่า gki มันเป็นตัวบอกถึงคาแรคเตอร์ของ
01:52:35 → 01:52:40 อินซูลินนะอ้อมๆได้นะแหมพอพอพูดเรื่องกิ
01:52:40 → 01:52:45 าฟนี่รู้สึกมีคนสารภาพบาปกันเพียบเลยพี่
01:52:45 → 01:52:49 หมอคุณเหน่งคุณเหน่งถามว่าเน็ตเน็ตคาฟตอน
01:52:49 → 01:52:51 เย็น 100 กรัมเนี่ยกลัวน้ำตาลหลังอาหาร
01:52:51 → 01:52:54 มันจะพีคไป 150 - 170 อ่ะมันจะดีเหรอ
01:52:54 → 01:52:58 ครับเออเราไม่รู้ว่าตอนเนี้ยกินอยู่เยอะ
01:52:58 → 01:53:03 มยนะกินอยู่เยอะมยถ้าถ้ากลัวเนี่ยก็ต้อง
01:53:03 → 01:53:08 แบ่งมาในมื้ออื่นนะคือแบ่งมาเป็นแบบสนค
01:53:08 → 01:53:13 เออคืออาจจะไม่ได้กินทูดเนี่ยนะอาจจะมี
01:53:13 → 01:53:14 มื้อแทรก
01:53:14 → 01:53:18 นะแล้วมื้อแทรกเนี่ยหลักๆก็คือให้เป็น
01:53:19 → 01:53:24 โปรตีนกับคาร์โบไฮเดรตที่เป็นกูดคฟ
01:53:24 → 01:53:28 อ๋อคุณเ่งคุณเ่งบอกว่าตอนเนี้ยลองกินข้าว
01:53:28 → 01:53:29 สาลีบัก
01:53:30 → 01:53:35 หวีดคีนัวอ่ารวมแล้ว 50 กรัมครับมือที่ 2
01:53:35 → 01:53:38 ได้ค่าเลือดมาประมาณ 136 ครับซึ่งค่า
01:53:38 → 01:53:40 เลือดก่อนกินเนี่ย 90 ครับพี่
01:53:40 → 01:53:47 หมออืมก็เยอะเยอะ
01:53:47 → 01:53:51 ไปหรือว่าถ้าเราเสริมไฟเบอร์จะได้มยพี่
01:53:51 → 01:53:57 หมได้อยู่ไฟเบอร์เนี่ยมันเป็นสารอาหารนะ
01:53:57 → 01:54:01 ฮะเดี๋ยวนะมันต้องดูหลายๆตัวนะต้องดูค่า
01:54:01 → 01:54:08 อินซูลินต้องดูค่าฮ่า ir
01:54:08 → 01:54:14 นะอืเพราะว่ามันลำดับวิธีกินมันก็มี
01:54:14 → 01:54:16 เทคนิคว่าจะกินยังไงไม่ให้น้ำตาลมันมัน
01:54:16 → 01:54:19 พุ่งขึ้นเร็วๆอ่ะพี่หมอเออคาฟนี้ต้องปิด
01:54:19 → 01:54:25 ท้ายอ่ะปิดท้ายนะฮะหลับดีมยล่ะถ้าหลับดี
01:54:25 → 01:54:30 ก็อย่าเพิ่งไปเพิ่มคาฟนะ
01:54:30 → 01:54:35 อืถ้าหลับดีก็ยังไม่ต้องไม่ต้องนะอาจจะ
01:54:35 → 01:54:37 กินเป็น
01:54:37 → 01:54:41 เอ่ออาจจะกินเป็นอาหารเสริมไปแทนแทนแทน
01:54:41 → 01:54:47 การกินเร Food นะคือก็ใช้โครเมียมใช้อะไร
01:54:47 → 01:54:50 อ่ะเอ่อโพแทสเซียมแมกนีเซียมสังกสีอะไร
01:54:50 → 01:54:53 ต่างๆเนี่ยที่เป็นอาหารเสริมมันช่วยออคุณ
01:54:53 → 01:54:57 แ่งบอกว่าหลับดีครับเออนะถ้าหลับดีก็ยัง
01:54:57 → 01:55:02 ไม่ต้องไปเพิ่มคาฟแบบนั้นนะแต่ว่านะจะทำ
01:55:02 → 01:55:07 ให้อินซูลินที่มันอ่าอะไรนะมันมันขี้
01:55:07 → 01:55:11 เกียจอะไรต่างๆแล้วมันเก่งขึ้นมันมันว่อง
01:55:11 → 01:55:13 ไวขึ้นอะไรอย่างเงี้ยนะก็ไปเสริมเสริม
01:55:13 → 01:55:16 สมุนไพรกับเสริมอาหาร
01:55:16 → 01:55:24 เสริมนะจะได้ไม่ต้องมีมีค้าปะปนไปเยอะนะ
01:55:24 → 01:55:29 เรามาหาทางเสริมไอ้พวกอะไรอ่ะพวกเอ่อพวก
01:55:29 → 01:55:35 เบอร์รี่พวกผักผงอ่าพวกเนี้ยนะ
01:55:35 → 01:55:40 พวกพวกมีมีกลุ่มอาหารเสริมอะไรต่างๆ
01:55:40 → 01:55:45 นะเอ่อมันมีมันมีหมอเคยแชร์ในเรื่องที่
01:55:45 → 01:55:49 ว่าอะไรอ่ะวิธีการที่จะ
01:55:49 → 01:55:53 ไปทำให้ตัวอินซูลินก็คอร์ติซอลเนี่ยในคน
01:55:53 → 01:55:57 ที่เป็นเบาหวานเนี่ยนะนะดีขึ้นน่ะดีขึ้น
01:55:57 → 01:56:01 นะฮะนะคือค่อนข้างจะ sensitivity มากขึ้น
01:56:01 → 01:56:04 เนี่ยนะเราก็จะใช้สมุนไพรอาหารเสริมอะไร
01:56:04 → 01:56:09 ต่างๆนะเดี๋ยวจะเอามาแชร์แล้วกันเอเคย
01:56:09 → 01:56:14 ไลฟ์ด้วยอ่ะเคยเคยโพสต์ไปอยู่ 2-3 ครั้ง
01:56:14 → 01:56:17 แล้วเดี๋ยวเอามารีรันน่ะนะที่มันก็จะมี
01:56:17 → 01:56:20 การใช้โครเมียมแมกนีเซียมโปแตสเซียม
01:56:20 → 01:56:25 สังกสีอะไรพวกเนี้ยเบบีนะแล้วก็ไอ้พวก
01:56:25 → 01:56:29 กลุ่มอะไรนะเฟอ่ะ
01:56:29 → 01:56:33 นะเอ่อคุณโอ๊ตถามว่าเราควรให้ความสำคัญ
01:56:33 → 01:56:39 กับ Ed มากกว่า remem ใช่มั้ยคะใช่ฮะนะ
01:56:39 → 01:56:42 Deep Sleep ต้องสำคัญที่สุดนะฮะนะ
01:56:43 → 01:56:48 นะ iem non iem อะไรเนี่ยนะนะ Deep
01:56:48 → 01:56:52 Sleep นี่นะสำคัญที่สุดนะนะเพราะว่าว่า
01:56:52 → 01:56:55 หลายคนเนี่ยหลับแค่ 4 ชมงนะแต่ใน 4 ช่ม
01:56:55 → 01:56:59 เนี่ย EP สฟเขา 1 ช่มกว่าๆ 1 ชม 15 นาที
01:56:59 → 01:57:03 เนี่ยแค่นี้ถือว่าพักผ่อนพอแล้วนะแค่นี้
01:57:03 → 01:57:06 ถือว่าการนอนนี่ประสบความสำเร็จและเป็น
01:57:06 → 01:57:10 ลักษณะเ่อการนอนที่มี Quality อ่ะมี
01:57:10 → 01:57:12 คุณภาพเพราะว่าคุณภาพอันดับหนึ่งของการ
01:57:13 → 01:57:17 นอนอยู่ที่ภาวะ Deep Sleep
01:57:17 → 01:57:21 นะครับคุณอัญชลีถามว่ากินโลคาให้แฟตมา
01:57:21 → 01:57:24 เดือนกว่าตัดข้าวแป้งน้ำตาล GG Oil ใน
01:57:24 → 01:57:28 มื้อแรกน้ำตาลสะสมจาก 8.3 เหลือ 5.9 ครับ
01:57:28 → 01:57:32 ค่า fasting บัอยู่ที่ 115 อย่างงี้
01:57:32 → 01:57:34 สามารถกินชีส Day ได้ไหม
01:57:34 → 01:57:39 คะเอ่อเป็นเวลานานเท่าไหร่แล้วนะเบอกว่า
01:57:39 → 01:57:42 กินโแ Fat มาเดือนกว่าครับพี่หมอ๋อเดือน
01:57:42 → 01:57:45 กว่ายังไม่ได้ฮะเดือนกว่ายังไม่ได้นะถ้า
01:57:46 → 01:57:50 น้ำตาลสะสม 8 กว่าใช่มยใช่ครับ 83 ต้อง
01:57:50 → 01:57:53 น้อยกว่า 3 เดือนต้อง 100 วันนต้อง 100
01:57:53 → 01:57:56 วันนะอันนี้ปล่อยไม่ได้นะอ่าปล่อยไม่ได้
01:57:56 → 01:57:59 แล้วจะมาทำเป็นแบบอุ๊ยเดี๋ยวจะขอชีทเ
01:58:00 → 01:58:04 หน่อยเถอะอดหยาบปากแห้งมานานแล้วอ่ะ
01:58:04 → 01:58:09 ยังแถวอย่าเพิ่งอย่าเพิ่งอย่าเพิ่งนะ
01:58:09 → 01:58:12 เดี๋ยวได้กินนะฮะนะยังไม่ได้นะฮะต้อง 1
01:58:12 → 01:58:16 รอบของอายุขขเม็ดละแดงอ่ะฮะนะอืไม่ผ่าน
01:58:16 → 01:58:19 อายุไขแมดหน้าแดงขึ้นไปแล้วอายุไขแมด้า
01:58:19 → 01:58:22 แดงเ่ะก็เราไม่ได้มีปัญหาเรื่องเรื่อง
01:58:22 → 01:58:25 เรื่องรูปร่างเมเแดงเรื่องไอ้ morphology
01:58:25 → 01:58:28 เรื่องอะไรใช่มั้ยก็ต้องไปนู่นนะฮะ 120
01:58:28 → 01:58:32 วัน 120 วันนะ
01:58:32 → 01:58:34 นะ
01:58:34 → 01:58:39 อืนะ 4 เดือนน่ะ 4 เดือนน่ะนะอย่าเพิ่ง
01:58:39 → 01:58:41 เดือนเดียวอย่าเพิ่งแล้ว 4 เดือนนี้อย่าง
01:58:41 → 01:58:45 งี้เขาเรียกรมิึเปล่าพี่หมอใช่ฮะต้อง 3
01:58:45 → 01:58:48 เดือนขึ้นไปือ 100 วันเนี่ยนะ
01:58:48 → 01:58:53 ทำถ้าจะี่อ่ะครับรัเนี่ย remission เนี่ย
01:58:53 → 01:58:55 มันต้อง Follow อยู่ประมาณ 2-3 ครั้งนะ
01:58:55 → 01:58:58 ให้แน่ใจอ่ะว่า laap ทุกอย่างเนี่ยอยู่ใน
01:58:58 → 01:59:01 เกณฑ์ที่ดีและโดยเฉพาะ insulin
01:59:01 → 01:59:04 sensitivity นะเอ่อถ้ามันต่ำกว่า 1.9
01:59:04 → 01:59:09 เนี่ยก็โอเคนะถึงจะ
01:59:09 → 01:59:13 remission ส่วนเอ่อ DM recovery ใช่
01:59:13 → 01:59:17 มั้ยโอ้ DM recovery นี่ต้องเกินปีนะฮะ
01:59:17 → 01:59:19 ต้องเกินปีต้องเกินปี 2 เดือนน่ะต้องเกิน
01:59:19 → 01:59:23 14 เดือนนะนะในฝรัเต้องเกิน 14 เดือน
01:59:23 → 01:59:32 ขึ้นไปนะเถึงจะใช้คำพวกนี้
01:59:32 → 01:59:36 ได้ก็อย่าเพิ่งทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่อง
01:59:36 → 01:59:38 ของระบบเมตาบอลิกเนี่ยโดยเฉพาะการเป็นเบา
01:59:38 → 01:59:41 หวานและการดีขึ้นหรือจะหายจากเบาหวาน
01:59:41 → 01:59:44 เนี่ยนะกว่าที่เราจะเป็นเบาหวานเนี่ยเรา
01:59:44 → 01:59:47 มีภาวะไฮเปอร์อินซูลินอนีเมียเรามีภาวะ
01:59:47 → 01:59:50 เอ่อที่ว่ามันดื้ออินซูลินแต่มันไม่มี
01:59:50 → 01:59:53 อาการอะไรต่างๆเนี่ยมามาเป็นระดับ 10 ปี
01:59:53 → 01:59:56 เพราะงั้นเวลาที่เราจะถอยเราจะรีเวอะไร
01:59:56 → 01:59:59 ต่างๆเนี่ยแค่เดือน 2 เดือนอะไรต่างๆ
01:59:59 → 02:00:04 เนี่ยยังๆเอ่อมันเป็นแค่ปลอมๆมันเป็นแค่
02:00:04 → 02:00:09 อะไรที่แบบมาแบบทำให้เราตายใจอ่ะนะแล้วก็
02:00:09 → 02:00:13 จะหวนกลับไปกินไอ้ที่อยากๆเงี้ยนะฮะเออ
02:00:13 → 02:00:19 ต้องต้องอดทนพอสมควรนะอดทนอดกั้นนะแล้วก็
02:00:20 → 02:00:23 ต้องชื่นชมยินดีเนี่ยกับอาหารใหม่ๆนะแล้ว
02:00:23 → 02:00:26 ก็ต้องมีความคิดสร้างสรรค์ที่จะเอาเมนู
02:00:26 → 02:00:30 ที่เป็นวัตถุดิบตั้งต้นต่างๆเนี่ยนะมา
02:00:30 → 02:00:33 ประกอบเป็นแบบนู้นแบบนี้แบบโน้นนะฮะนะให้
02:00:33 → 02:00:36 มันเกิดความหลากหลายเพราะว่าชีวิตของคน
02:00:36 → 02:00:38 เราชอบความหลากหลาย
02:00:38 → 02:00:43 นะเอพอมันหลากหลายแล้วเนี่ยนะมันก็จะอยู่
02:00:43 → 02:00:46 กันได้กับไดเอตอนั้นไปในระยะเวลายาวนาน
02:00:46 → 02:00:49 แต่ถ้าจะกินฟิกๆๆๆๆๆอย่างเดียวอย่างเงี้ย
02:00:49 → 02:00:55 นะเดี๋ยวมันจะไปตะบะแตกเสู้ไม่
02:00:55 → 02:01:00 ไหวครับอ่าคุณอัญชลีบอกไม่เคยหลุดเลยค่ะ
02:01:00 → 02:01:03 ระวังตลอดอ่าใช่
02:01:03 → 02:01:09 ครับ 1 เดือนนี่ถือว่าน้อยมากเลยพี่
02:01:09 → 02:01:12 หมอโอเคคุณเหน่งครับคุณเห่งบอกว่าอ่าคุณ
02:01:12 → 02:01:15 หมอพตอบกำลังกายนะต้องเสริมการออกกำลัง
02:01:15 → 02:01:19 กายเสริมการอดนะถ้าระดับน้ำหนักลงมาอยู่
02:01:19 → 02:01:23 ในอเอลิมิแล้ว
02:01:23 → 02:01:28 นะถ้าช่วงของน้ำหนักเนี่ยอยู่ในระดับอ lit
02:01:28 → 02:01:32 ก็ต้องรีบเสริมการออกกำลังกายหรือการทำ
02:01:32 → 02:01:36 If แต่ถ้าน้ำหนักลงไปอยู่ที่ low lit
02:01:36 → 02:01:38 นะ
02:01:38 → 02:01:44 low อันนี้ตัด AF ออกไปนะเวทอย่าง
02:01:44 → 02:01:48 เดียวของของคุณอัชลีแกจะมีปัญหาเรื่องไ
02:01:49 → 02:01:52 ไทรอย์เป็นพิษด้วยครับอารยโอแต่ว่าเ่า
02:01:52 → 02:01:55 อะไรเป็นพิษเท่าที่ฝังที่เท่าที่ดูช่วยดู
02:01:55 → 02:02:00 แลปให้เขาเนี่ยน่าจะสงบระดับนึงะก็ยาก็จะ
02:02:00 → 02:02:02 เหลือเป็นมิิมาโซนตัวเดียวแล้วก็เพิ่งจะ
02:02:02 → 02:02:09 ลดโดสลงไปะ
02:02:09 → 02:02:15 เอือก็ระวังเรื่องอารมณ์
02:02:15 → 02:02:19 อารมณ์เพราะว่าพวกเนี้ยมันมันมันมันปุ๊บ
02:02:19 → 02:02:23 ปั๊บได้เลยล่ะนะนะ
02:02:23 → 02:02:26 ครับของคุณเ่งครับอ่าสมมุติว่ากินทูออย
02:02:26 → 02:02:31 มื้อแรก 11:00 นมื้อเสริมคาประมาณ 15:30
02:02:31 → 02:02:34 นแล้วก็มื้อสุดท้ายเนี่ย 19:30 นเป็นเติม
02:02:34 → 02:02:38 คฟ 2 รอบแบบนี้ใช่มั้ยครับใช่ครับได้ได้
02:02:38 → 02:02:46 เออแบบนี้ได้เลย
02:02:46 → 02:02:50 นะโอเคได้เลยนะครับใช่ได้เลยนะ
02:02:50 → 02:02:55 อ่าอ่าโอเคช่วยตับช่วยกล้ามเนื้อ
02:02:55 → 02:02:59 ได้วันวันนี้ลูกเอ่อลูกศิษย์คุณหมอที่อร
02:02:59 → 02:03:02 ที่สุดนะฮะคุณเมย์เมหลิงครับเมหลิงอ๋อเม์
02:03:02 → 02:03:06 มาเหรอมาตลอดครับตลอดตอนนี้เบอกว่าจะขอไป
02:03:06 → 02:03:10 นอนนี่ผมเลยจะมาชิงถามก่อนไม่ให้ไป
02:03:10 → 02:03:14 นอนเคสๆนี้เป็นยังไงบ้างอ่ะครับพี่
02:03:14 → 02:03:18 หมอเอแค่นี้เราก็ไม่รู้อ่ะเอไปทางเหมอ
02:03:18 → 02:03:22 มอโต้อ่ะนะแต่ว่า
02:03:22 → 02:03:27 เอ่อมีปัญหาในเรื่องอะไรอ่ะน้ำหนักลดเร็ว
02:03:27 → 02:03:31 มากลดเยอะอ่ะลดเยอะนะแล้วตอนหลังเนี่ยมา
02:03:31 → 02:03:34 เอะใจในเรื่องเอนไซมตับหรือเปล่าก็เลยไป
02:03:35 → 02:03:38 ค่อนข้างเช็คอัพน่ะเ่อไปเช็คอัแบบครอบ
02:03:38 → 02:03:43 คลุมเลยก็ไปเจอเอาเอา viral โหลดเยอะ
02:03:43 → 02:03:49 นะครับเออมันเป็นปัญหาที่ตับนะฮะที่ตับนะ
02:03:49 → 02:03:52 ตับเนี่ยมันมันมีปัญญหา
02:03:52 → 02:03:56 กับมีเชื้อไวรัสที่ซ่อนเร้นอยู่อแล้วก็จะ
02:03:56 → 02:04:00 มีปัญหาทำให้เรื่องการจัดการพลังงานของ
02:04:00 → 02:04:04 ตับก็จะมีความบกพร่องแล้วตับก็ดังที่บอก
02:04:04 → 02:04:07 ไปตั้งแต่แรกว่าเขจัดการเรื่องไข
02:04:07 → 02:04:12 มันเพราะฉะนั้นเนี่ยเวลาที่จะคิดที่จะกิน
02:04:12 → 02:04:15 ไขมงไขมันอะไรต่างๆเนี่ยนะมันก็เลยกะ
02:04:15 → 02:04:18 กระอ่วนเหมือนกับว่าเตับเขไม่พร้อมที่จะ
02:04:18 → 02:04:23 จัดการับไขมันถ้าเราใชสูตรนะของทีออยแล้ว
02:04:23 → 02:04:25 ไปกินตามโดสอย่างเงี้ยบางทีกินไปแล้ว
02:04:25 → 02:04:29 เนี่ยมันเหมือนจะจะรู้สึกสำรักสำรักเพราะ
02:04:30 → 02:04:33 ว่าตไม่พร้อมอ่ะคล้ายๆเค้สคหน่งเลยเนาะ
02:04:33 → 02:04:39 ที่ที่ตักเออต้องต้องลดไขมันกลิ่นตัวลงอ
02:04:39 → 02:04:44 ครับเออนะแล้วก็แต่ว่าเมย์เมย์นี่ยังไม่
02:04:44 → 02:04:49 ได้กินไขมันไงเออเขาไปกินไขมันคงลูปนะไข
02:04:49 → 02:04:51 มันคงรูปต่างๆอ่ะพวกอะโวคาโดเนื้อมพัก
02:04:51 → 02:04:55 กะทิเอ่อถั่วเปลือกแข็งอะไรอย่างงี้อ๋อ
02:04:55 → 02:04:58 แล้วเค้าเเป็นสายไหนอ่ะครับพี่หมอบอดีไทย
02:04:59 → 02:05:00 อ่ะครับ
02:05:00 → 02:05:04 เอ่อตอนแรกๆเ้าบอกน้ำหนัก 122 นะฮะแล้วก็
02:05:04 → 02:05:08 ลดน้ำหนักลงมาเหลือประมาณ 50 กลางๆโอ้โห
02:05:08 → 02:05:11 แล้วตอนนี้เนี่ยตอนเนี้ยมันขึ้นมาเป็น
02:05:11 → 02:05:15 ประมาณ 57 58 นะรู้สึกว่าเคอายุน้อยอ่ะ
02:05:15 → 02:05:19 ฮะนะยังไม่เบญจเพศเลยอ่ะนะน่าจะอยู่แถว 24
02:05:19 → 02:05:21 อ่ะนะอื
02:05:22 → 02:05:25 แล้วก็ดูแล้ว่ะเป็นสายแป้งนะจะเป็นทรงพูม
02:05:25 → 02:05:30 ตับนะเ้าเหรอครับหรือไทรรอยด์นี่แหละนะฮะ
02:05:30 → 02:05:34 นะอืแล้วก็มันต้องมีประวัติอะไรต่างๆ
02:05:34 → 02:05:37 ละเอียดกว่านี้ว่าทำไมถึงเป็นไวรัสตับ
02:05:37 → 02:05:40 อักเสบ B นะมีการให้เลือดหรือมีปัญหาอะไร
02:05:41 → 02:05:43 มาก่อดหน้านี้หรือ
02:05:43 → 02:05:48 เป่าอืแต่ผลอันเนี้ยนะฮะก็เป็นผลที่จะไป
02:05:48 → 02:05:51 รบกวนการทำงานของตับนะฮะเออเพะก็จะมีมี
02:05:51 → 02:05:55 ภาวะเรื่องการอักเสบจะเป็นการอักเสบที่
02:05:55 → 02:05:58 เป็นแบบอ่าไม่เรื้อรังนะหรือเป็นการ
02:05:58 → 02:06:01 อักเสบที่ยังมีการ Active นะฮะเกิดขึ้น
02:06:01 → 02:06:05 Off and on ก็คือเเรียกว่า chronic
02:06:05 → 02:06:09 เอ่อ Active on top persistent
02:06:09 → 02:06:11 hepatitis viral b
02:06:11 → 02:06:14 hepatitis คือตอนเต้องมีการรักษาเรื่อง
02:06:14 → 02:06:19 ไวรัสนะอ่าด้วยการใช้ยาก่อดควบคุม Copy
02:06:19 → 02:06:23 ที่มันเอ่อทวีจำนวนขึ้นเนี่ยนะในระดับ
02:06:23 → 02:06:25 เป็นพันล้าน
02:06:25 → 02:06:30 เเออก็ต้องไปแก้เนี้ยก่อนนะส่วนเรื่อง
02:06:30 → 02:06:33 อาหารการกินเนี่ยก็เหมือนกับกินที่จะต้อง
02:06:33 → 02:06:36 ถึงทั้งพลังงานและสารอาหารไปบำรุงร่างกาย
02:06:36 → 02:06:40 บำรุงตัอ๋ออันนี้เป็นถือว่าเป็นพาโถแล้ว
02:06:40 → 02:06:42 ใช่มั้ยพี่หมอคือเป็นความผิดปกติแล้วใช่
02:06:42 → 02:06:46 มั้ยต้องต้องแก้เป็นโรคเออที่จะต้องมีการ
02:06:46 → 02:06:50 รักษาต้องเจอหมอทางด้านเอ่อติดเชื้อทาง
02:06:50 → 02:06:52 ด้านระบบทางเดินอาหาร
02:06:52 → 02:06:55 แล้วก็ต้อง Follow ดูเรื่องการเปลี่ยน
02:06:55 → 02:06:58 แปลงของตับด้วยอ่าว่ามันจะเกิดการอักเสบ
02:06:58 → 02:07:03 เกิดเอ่อการอ่ามีตับแข็งมีพังผืดนะหรือ
02:07:03 → 02:07:07 เกิดการกลายพันธ์ของตัว DNA ของ
02:07:07 → 02:07:11 ตับรู้สึกเคสนี้คุณเมย์เบอกว่าอะไรนะ
02:07:11 → 02:07:14 เหมือนกับกินคาฟเยอะไม่ได้ด้วยเนี่ยฮะพี่
02:07:14 → 02:07:16 หมอใช่มันกำลังเกิดจากอะไรอ่ะครับเพราะ
02:07:16 → 02:07:20 ว่าเก็สายแป้งคือก็คือตับเนี่ยมันมันไม่
02:07:20 → 02:07:24 ไหวอ่ะนะฮะมันไม่ไหวที่จะไปจัดการกับพลัง
02:07:24 → 02:07:28 งานทั้งคาฟทั้งไขมันและสารอาหารนะด้วย
02:07:28 → 02:07:30 เหตุนี้หรือเปล่าเนี่ยเาถึงน้ำหนัก
02:07:30 → 02:07:34 เปลี่ยนไปเยอะเลยลงมาถึง 50 กลางๆอ่ะนะ
02:07:34 → 02:07:38 ก่อนหน้านั้นสบายดีอะไรตรเนี่ยนะนะก็กิน
02:07:38 → 02:07:41 ซะจนแบบ 122
02:07:41 → 02:07:46 กลก็เป็นเพราะว่าอับอักเสบจากไวรัสที่มัน
02:07:46 → 02:07:51 แีขึ้นมาเอ่ามันก็เลยตับมันแย่ไปขนาดไหน
02:07:51 → 02:07:55 แล้วก็ไม่รู้่ะก็อาจจะต้องไอซี่ฮะนะต้อง
02:07:55 → 02:07:57 ตัดกิ้นเนื้อตัวทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับ
02:07:57 → 02:08:01 ประวัติที่ละเอียดนะแล้วก็ไปโฟกัสการดู
02:08:01 → 02:08:04 เรื่องตับให้ดีเพราะเวลาตับมีปัญหาเนี่ย
02:08:05 → 02:08:07 ตับกล้ามเนื้อมีปัญหาเนี่ยไอ้ตัวพลังงาน
02:08:07 → 02:08:11 เนี่ยนะและสารอาหารด้วยแหละนะฮะก็จะไม่
02:08:11 → 02:08:14 ได้นะเบื่อๆอยาก
02:08:14 → 02:08:18 ๆเหมือนเวลาเราเล่นกีฬาแล้วเราปวดกล้าม
02:08:18 → 02:08:21 เนื้อแล้วดอมอะไรต่างๆเวลาเราเกิดดอมเฟก
02:08:21 → 02:08:25 อะไรต่างๆเนี่ยเราก็ไม่ได้โหมกระหน่ำกิน
02:08:25 → 02:08:28 อยากกินหรือว่ากินแบบเป็นพายุบุกแคมนะ
02:08:28 → 02:08:32 ครับมันจะนอยอ่ะมันจะนอยมันจะเหมือนเบื่อ
02:08:32 → 02:08:35 อาหารไปด้วยเหมือนอยากจะอะไรเงี้อยากจะ
02:08:35 → 02:08:37 นอนอยากจะพักอะไรอย่า
02:08:37 → 02:08:43 เงี้ยทั้งตับทั้งกล้ามเนื้อคล้ายๆกัน
02:08:43 → 02:08:47 อืคุณคุณเน่งถามว่าไวรัสโหลดเนี่ยจะต้อง
02:08:47 → 02:08:49 ตรวจบ่อยมครับเพราะว่ากินยาต้านทุกวัน
02:08:49 → 02:08:52 อยู่แล้วถามหมอบอกให้ดูค่าตัอักเสบถ้ามัน
02:08:52 → 02:08:56 ขึ้นแปกๆแสดงว่าเอาไม่อยู่ใช่แล้วก็ต้อง
02:08:56 → 02:08:59 ไปตรวจ viral โหลดนะคือเบื้องต้นเนี่ยเก็
02:08:59 → 02:09:04 จะดูการทำงานของตับก่อนนะว่ามันมันอยู่ใน
02:09:05 → 02:09:08 เกณฑ์ที่ไม่เป็นเลข 3 หน่วยอ่ะคือไม่ได้
02:09:08 → 02:09:12 เป็นระดับเ่อ 100 ขึ้นไปอ่ะนะเออก็พวกนี้
02:09:12 → 02:09:15 ก็จะไม่ไม่ไม่ดูอ่ะไม่ต้องไปดูอ่ะนะมันดู
02:09:15 → 02:09:18 อ้อมๆได้ว่าตับยังไม่เป็นไรแต่้าเมื่อ
02:09:18 → 02:09:22 ไหร่ไวรัสมันกระดี้กระด้ามันแบ่งตัวมัน
02:09:22 → 02:09:26 เพิ่มปริมาณเพิ่มจำนวนเยอะๆเนี่ยนะเ่าพวก
02:09:26 → 02:09:30 เมันจะมีภาวะตับอักเสบอ่าหรือตับทำงาน
02:09:30 → 02:09:34 อะไรต่างๆไม่ค่อยได้นะเวลาตรวจเอนไซม์ตับ
02:09:34 → 02:09:38 มันก็จะพุ่งเอแล้วก็จะดูเปรียบเทียบกับ
02:09:38 → 02:09:40 ของเก่าเมื่อไหร่มันพุ่งเยอะๆอะไรอย่าง
02:09:40 → 02:09:43 เงี้ยเออก็ต้องไปดู viral โหลดสักทีนึงก็
02:09:43 → 02:09:47 คือไปเจาะดูไอ้ตัวกี้ของไวรัสต่างๆ
02:09:47 → 02:09:50 อืดังนั้นเนี่ยก็ต้องก็ต้องรักษาตัไป
02:09:50 → 02:09:53 พร้อมกับการกินให้ถูกไปด้วยแต่ว่าต้องลด
02:09:53 → 02:09:56 พวกไขมันอิ่มตัวลงใช่ไมมครับเคสแบบนี้ก็
02:09:56 → 02:09:58 เหมือนกันแหละว่าต้องปรับน้ำตาลปรับไขมัน
02:09:58 → 02:10:03 ปรับสารอาหารอะไรต่างๆนะให้พอดีที่ร่าง
02:10:03 → 02:10:06 กายจะพอรับได้แล้วตับสามารถจะเบอิ
02:10:06 → 02:10:10 ได้ดูแล้วมันมีแต่มูฟ่าเนาพี่หมอเที่มัน
02:10:10 → 02:10:13 จะสามารถไปเป็นพลังงานให้ได้นะใช่เราต้อง
02:10:13 → 02:10:16 ให้เขาเข้าทางระบบน้ำเหลืองไปอืเพราะว่า
02:10:16 → 02:10:19 ถ้ากินกินคาฟนี้ก็เรียบร้อยก็ลงตับอยู่ดี
02:10:19 → 02:10:22 ไปกินไปกินพวกอ่าอะไรนะโปรตีนหรือว่าไข
02:10:22 → 02:10:26 มันไขมันคงรูกที่มากับโปรตีนเี่มันก็ลง
02:10:26 → 02:10:28 ตัดอยู่ดีมันเข้าทาน้ำเลือดอ่ะนะพี่หมอ
02:10:28 → 02:10:32 ใช่แต่ก็ต้องกินนะแต่ต้องเลือกรูปแบบ
02:10:32 → 02:10:34 ปริมาณแล้วก็แบ่ง
02:10:34 → 02:10:39 มื้อแบ่งมเออเพราะว่า
02:10:39 → 02:10:43 เราเราเราโชคไม่ดีอ่ะที่ไปมีปัญหาเกี่ยว
02:10:43 → 02:10:47 กับตับตับอ่อนเอ่อเกี่ยวกับอวัยวะแกงกลาง
02:10:47 → 02:10:51 ในช่องท้างในช่องท้องหลักๆนะที่มันจะจะ
02:10:51 → 02:10:53 จัดการกับน้ำตาลกับไขมันน่ะซึ่งเป็นระบบ
02:10:53 → 02:10:56 พลังงานของร่าง
02:10:56 → 02:11:01 กายต้องค่อยๆค่อยๆตั้งสตี้บวกลบคูณหารแต่
02:11:01 → 02:11:04 แต่คุณเมย์นี่เขายังไม่ได้กินชีออยยังไม่
02:11:04 → 02:11:08 ได้ลองกินใช่มั้ฮะผมไม่แนยังไม่ได้กินอืเ
02:11:08 → 02:11:11 ถามว่าคีเฟอร์คีเฟอร์นมแพะเนี่ยสามารถกิน
02:11:11 → 02:11:17 ในมื้อเย็นหลังเบกเอได้มได้ฮะคือของเมย์
02:11:17 → 02:11:21 เนี่ยน้ำหนักแบบเนี้ยนะมันก็กินกินได้อ่ะ
02:11:21 → 02:11:24 แต่เลือกให้มันเป็นเร Food แล้วไม่ต้องไป
02:11:24 → 02:11:28 แบ่งคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันมื้อแรกมื้อ
02:11:28 → 02:11:31 หลังอะไรมากมายแล้วหรอกนะก็อาจจะกินมื้อ
02:11:31 → 02:11:36 เล็กๆนะเอ่อมีหลายมื้อ 3 มื้อ 4 มื้อได้
02:11:36 → 02:11:41 เลยเป็นมื้อย่อยๆอ๋อเขาจะกินร่วมกับมัน
02:11:41 → 02:11:44 มันน่าจะเป็นมันนะเป็นสัญลักษณ์รูปมันนะ
02:11:44 → 02:11:50 ครับได้ได้คือเร Food นะฮะนะเรฟนั้นเนี่ย
02:11:50 → 02:11:52 แม้ว่าองค์ประกอบเนี่ยมันจะเป็นคาฟเป็นไข
02:11:52 → 02:11:55 มันเนี่ยนะแต่ความเป็นเร Food ความเป็น
02:11:55 → 02:11:59 อาหารธรรมชาติเนะปฏิกิริยา randle Cycle
02:11:59 → 02:12:03 เนี่ยไม่ได้เกิดมากมายนะแบบการไปแปรรูป
02:12:03 → 02:12:07 หรือการไปแต่งเติมปรุงนั่นปรุงนี่แล้วก็
02:12:08 → 02:12:13 ใส่เอ่อเปรี้ยวหวานมันเค็มใส่ inss ใส่
02:12:13 → 02:12:14 อะไรอ่ะ
02:12:14 → 02:12:16 ดกิคาราจีแนน
02:12:16 → 02:12:23 เ่อผงปรุงรสเยอะแยะไปหมดเอ้อ
02:12:23 → 02:12:26 มันเป็นการเข้าคู่ของเรว Food มว่ามันจะ
02:12:26 → 02:12:31 เป็นโปรตีนไขมันคาร์โบไฮเดรตอ่าแต่มันเรฟ
02:12:31 → 02:12:34 เนี่ยมันกินร่วมกันได้ฮะปฏิกิริยาที่ไม่
02:12:34 → 02:12:39 ดีไม่ดีที่เ้ามาออกอากาศมาบอกกันว่ามันจะ
02:12:39 → 02:12:40 เป็นอย่างงั้นเป็นอย่างนี้เนี่ยมันเกิด
02:12:40 → 02:12:44 น้อย
02:12:44 → 02:12:48 เกิดคราวนี้เรื่องการคุณเหน่งถามเรื่อง
02:12:48 → 02:12:53 การหลับอ่ะครับพี่หมอออ่านอน 7 ชมครึ่ง
02:12:53 → 02:12:58 เนี่ยหลับลึกไปชั่วโมงครึ่งกับนอน 8 ชม่ง
02:12:58 → 02:13:00 แต่หลับลึกไป 1 ชมงบางวันหลับลึกแค่ 40
02:13:00 → 02:13:03 นาทีนี่ถือว่าน้อยไปมครับมันมีสัดส่วนควร
02:13:03 → 02:13:05 จะหลับลึกประมาณเท่าไหร่นะครับพี่หมอควร
02:13:05 → 02:13:08 จะประมาณ
02:13:08 → 02:13:14 24% นะของของการนอนหลับนะที่ว่าหลับ
02:13:14 → 02:13:18 สมมุติว่าหลับ 6 ชมงเนี่ยประมาณ 25% เ 24
02:13:18 → 02:13:22 25% 6 ชั่วโมงก็ประมาณสักชั่วโมงครึ่ง
02:13:22 → 02:13:25 ที่เป็น Deep Sleep นะ smart watch เี่
02:13:25 → 02:13:30 มันจะบอกได้ก็ประมาณนั้นแหละ Deep Sleep
02:13:30 → 02:13:35 นะอืครับผมคุณเครับเป็นช่วงที่ร่างกายจะ
02:13:35 → 02:13:39 ซ่อมแซมที่ร่างกายจะเอาพิษออกที่ร่างกายเ
02:13:39 → 02:13:41 เรียกว่าเกิดการสมานกลืนเกิดกระบวนการ
02:13:41 → 02:13:46 สมานกลืนนะของอวัยวัหลักๆนะสมองตับกล้าม
02:13:46 → 02:13:51 เนื้อพวก
02:13:51 → 02:13:58 ครับคุณเบี้แจ็คกี้ครับบอกว่าตอนนี้แถว
02:13:58 → 02:14:01 หน้าฮัลโหลครับผมเออบอกได้ครับคุณเบี้
02:14:01 → 02:14:04 แจคกี้บอกตอนนี้ rdl สูงขึ้นครับก็เลย
02:14:04 → 02:14:08 ปรับมากินู Oil คือตัดไขมันอิ่มตัวพวก mct
02:14:08 → 02:14:11 แล้วก็น้ำมันมะพร้าวออกเหลือแต่น้ำมัน
02:14:11 → 02:14:14 มะกอกกับี้อนครับนัดเจาะเลือดอีกรอบนึง
02:14:14 → 02:14:17 พฤษภาค
02:14:17 → 02:14:22 โอสูงสูงเยอะยล่ะสูงจนข้างในตารางบอกว่า
02:14:22 → 02:14:26 มันสูงเกินไปมั้ยมากเกินไปมยคือถ้าสูงนะ
02:14:26 → 02:14:31 แต่ว่ามันก็บอกว่าปกติเนี่ยอก็ไม่ต้อง
02:14:31 → 02:14:36 ปรับเหมือนขึ้นอยู่กับค่า hdl ด้วย ldl
02:14:36 → 02:14:40 สูงเนี่ยก็ร่างกายก็มีการนำส่งพลังงานที่
02:14:40 → 02:14:44 เป็นรูปแบบของไข
02:14:44 → 02:14:48 มันเราก็เป็น Fat burner เเป็น fat
02:14:48 → 02:14:51 adapt
02:14:51 → 02:14:56 ถ้ามันอยู่ในเกณฑ์นะ 3.3 ของ hdl อะไร
02:14:56 → 02:14:59 อย่างเงี้ยนะอันนี้ก็ไม่จำเป็นไม่จำเป็น
02:14:59 → 02:15:02 ต้อง
02:15:02 → 02:15:06 เป็นแต่ถ้ามันสูงปี๊ดเกินมากไปหน่อยนะฮะ
02:15:06 → 02:15:11 เกิน 3.3 ไปเยอะๆนะก็ก็แล้วแต่ก็ลดไขมัน
02:15:11 → 02:15:15 อิ่มตัวกินไฟเบอร์นะเปลี่ยนมาเป็นโปรตีน
02:15:15 → 02:15:20 จากสัตว์เล็กๆนะแล้วก็กินโปรตีนพืชด้ววย
02:15:20 → 02:15:24 อลม
02:15:24 → 02:15:27 อืไม่เป็นไรหรอกเดินหน้าถอยหลังได้มัน
02:15:27 → 02:15:30 เป็นไดนามิมันเป็นไดนามิคือคำว่าสูงขึ้น
02:15:30 → 02:15:34 นี่เราไม่รู้ว่าสูงขนาดไหนเออมันต้องดูใน
02:15:34 → 02:15:40 ตารางเออต้องเทียบตลแต่ก็เหมือนกับว่าเขา
02:15:40 → 02:15:44 อ่ะเรียนรู้แล้วล่ะนะแล้วแล้ว
02:15:44 → 02:15:49 เก็ก็คิดว่าจะปรับโดยการหนูจะขอตัดไขมัน
02:15:49 → 02:15:52 อิ่มตัวลงนะนะเออจะเพิ่มโปรตีนอย่างงั้น
02:15:52 → 02:15:57 จะเอ่อเพิ่มพวกไฟพุงไฟเบอร์อะไรเงี้ยอ๋อ
02:15:57 → 02:16:01 คุณแจ็คกี้บอกเี้แจ็คกี้ชินบอกว่าในตาราง
02:16:01 → 02:16:05 เป็นตัวแดงค่ะ 300 กว่าทั้ง 2 ตัว
02:16:05 → 02:16:09 เลยปับลงแบบนี้แหละที่พูดนี่แหละเดี๋ยวก็
02:16:09 → 02:16:13 ลงเดี๋ยวก็ลงเดี๋ยวก็ลงใช่มั้
02:16:13 → 02:16:16 ครับมันมีหลักการแล้วอ่ะนะแล้วก็รู้ที่มา
02:16:17 → 02:16:21 ที่ไปเออ ldl สูงก็ลดรพวกไขมันอิ่มตัวลง
02:16:21 → 02:16:26 นี่แหละทีนี้หมอจะบอกเหน่งกับเมหลิงนะนะ
02:16:26 → 02:16:30 เพราะว่าเรามีปัญหาเรื่องต่ำนะฮะนะให้ไป
02:16:30 → 02:16:34 ซื้อโคมไฟกกไก่ 150 วัตต์นะฮะแล้วตอนนอน
02:16:34 → 02:16:37 กลางคืนเนี่ยนะให้เปิดสวิตช์ที่จะฉายตัว
02:16:38 → 02:16:41 เรดไลท์เนี่ยนะฮะนะเนี่ย
02:16:41 → 02:16:45 เอ่อเอาภาขุนหนูอ่ะฮะบังช่องท้องส่วนบน
02:16:45 → 02:16:50 น่ะโดยเฉพาะด้านขวานะแล้วก็เปิดเปิดไอ้
02:16:50 → 02:16:53 ไอ้เลไลเนี่ยนะที่เป็นไฟโกกไก่เนี่ยให้
02:16:53 → 02:16:57 ห่างประมาณสักักเมตรนึงอ่ะสักเมตร
02:16:57 → 02:17:01 นึงักประมาณ 80 ซมหรือเมตรนึงเนี่ยฮะนะนะ
02:17:01 → 02:17:05 แล้วก็ฉายมาที่ตรงบริเวณตับหรือช่องท้อง
02:17:05 → 02:17:08 ส่วนบนนะที่เรามีปัญหาเกี่ยวกับตับนะนะ
02:17:08 → 02:17:13 เนี่ยแหละนะขายไปเลยประมาณ 20 นาทีนะก่อน
02:17:13 → 02:17:15 จะนอนก่อนจะ
02:17:15 → 02:17:20 นอนเราใช้ R Light เปีนะมาช่วยมาช่วย
02:17:20 → 02:17:23 ปรับเรื่องของการหมุนเวียนน้ำเลือดน้ำ
02:17:23 → 02:17:26 เหลืองแล้วก็กระตุ้นแอนติบอดี้หรือภูมิ
02:17:26 → 02:17:28 ต้านทานบริเวณ
02:17:28 → 02:17:31 นี้หรือถ้ามีการกินยาเนี่ยนะฮะยาก็จะออก
02:17:31 → 02:17:34 ฤทธิ์ดีขึ้นนะฮะนะแต่ว่าเราใช้ธรรมชาติ
02:17:34 → 02:17:39 บำบัดช่วยก็คือ R Light เปีนะฮะถ้ากัวจะ
02:17:39 → 02:17:43 ร้อนเกินไปก็เอาผ้าคุณหนูบางๆเนี่ยพวาง
02:17:43 → 02:17:46 วางกันตรงบริเวณชายโครงด้านขวาที่เป็น
02:17:46 → 02:17:48 ตำแหน่ง
02:17:48 → 02:17:51 ตับหรือไม่ก็นอนหงายเลยแล้วก็ก็ฉายตรง
02:17:51 → 02:17:56 บริเวณอ่าทวงอกท่องท้องไปเลยนานแค่ไหน
02:17:56 → 02:18:01 ครับพี่หมอ 20 นาที 20 นาทีโอประมาณเดียว
02:18:01 → 02:18:04 กับที่ลคอร์ดเลยนะพี่หมอเอ่าประมาณเดียว
02:18:04 → 02:18:07 กันเตัวเลขงานวิจัยคือ 22 นาทีนะฮะในการ
02:18:07 → 02:18:12 ใช้ R Light เปีนะพวกเ่อ rl เปีต่างๆกับ
02:18:12 → 02:18:16 เอ่อตำแหน่งของอวัยวะตำแหน่งร่างกายนะฮะ
02:18:16 → 02:18:21 หรือจะจะเปิดก็ได้เปิดใส่ใส่แทนดวลงไปเลย
02:18:21 → 02:18:24 แล้วก็เปิดแบบให้หลับอ่ะนะก็เปิดอยู่
02:18:24 → 02:18:28 อย่างเงี้ยประมาณสัก 20 นาทีนะแล้วให้มัน
02:18:28 → 02:18:30 ดับไปโดย
02:18:30 → 02:18:34 อัตโนมัตินะเผื่อบางทีเราหลับไปก่อนคือ
02:18:34 → 02:18:36 ต้องเหมือนเหมือนต้องเป็นสวิตช์ที่ตั้ง
02:18:36 → 02:18:39 นาฬิกา
02:18:39 → 02:18:42 ได้คือต้อง 150 วัตต์ด้วยใช่มั้ครับพี่
02:18:42 → 02:18:48 หมอเอ่อใช่ฮะ 150 วัตต์จะจะจะห่างจาก
02:18:48 → 02:18:51 ตำแหน่งน่ะตำแหน่งที่เราจะโฟกัสหวังผล
02:18:51 → 02:18:55 เนี่ยประมาณ 80 - 100 ซมแต่ถ้ารู้สึก
02:18:55 → 02:18:58 ร้อนเกินไปก็เอาเมตรนึงเมครึ่งเม 20 อะไร
02:18:58 → 02:19:01 ก็ได้
02:19:01 → 02:19:06 อ๋อแต่ถ้าเกิดเป็นตำแหน่งตำแหน่งที่เป็น
02:19:07 → 02:19:10 ตำแหน่งปลายมือปลายเท้าเนี่ยนะฮะนะเออ
02:19:10 → 02:19:13 อย่างเส้นเลือดโข่งเส้นเลือดคอดหรือว่าตา
02:19:13 → 02:19:14 ปลาหนังหนา
02:19:14 → 02:19:19 แม่เงี้เหมือนเหมือนรู้ใจอันนี้ให้ให้ฉาย
02:19:19 → 02:19:23 ที่ประมาณ 20-30 ซมก็ได้นะฮะโอ้โหผมกำลัง
02:19:23 → 02:19:26 จะถามเลยขายที่ประมาณ 1 ไม้บรรทัดนะฮะ 1
02:19:26 → 02:19:31 ไมดบรรทัดเนี่ยนะเอ่อแล้วก็อ่าๆๆๆประมาณ
02:19:31 → 02:19:33 15 นาทีก็พอ
02:19:33 → 02:19:36 โอ้โอเคครับเพราะเพราะว่ามันก็ร้อนเอา
02:19:36 → 02:19:38 เรื่องเหมือนกันนะพี่หมอเออถ้ามันร้อนเอา
02:19:38 → 02:19:42 เรื่องก็อ่ออ่าผักให้มันห่างไปหน่อยคุณ
02:19:42 → 02:19:46 โอ๊ตบอกหนูใช้ส่องผมหงอกมันช่วยได้ก็ได้
02:19:46 → 02:19:51 ฮะก็ได้หมดแหละอ้าเหรอครับใช่เออระปิ
02:19:51 → 02:19:54 เนี่ยมันมันมันช่วยเรื่องไมโทคอนเดรีย
02:19:54 → 02:19:58 นั่นแหละนะมันช่วยไฟีอ่ะฮะนะนะเพราะ
02:19:58 → 02:20:02 ฉะนั้นเนี่ยใครที่ไมโทคอนเดรียมันไม่ได้
02:20:02 → 02:20:07 ปลูกจำกัดอะไรต่างๆซะจนแบบเอ่อทำอะไรไม่
02:20:07 → 02:20:10 ค่อยได้มันถูกบล็อกถูกล็อกไปหมดแล้วเนี่ย
02:20:10 → 02:20:14 นะเ่าเดี๋ยวมันจะเกิดไฟีเหมือนออโต fy
02:20:14 → 02:20:17 แล้วพอไไมโตคอนเดรียมันดีขึ้นมัน
02:20:17 → 02:20:20 regenerate ขึ้นมาจากไอ้ Red Light เปี
02:20:20 → 02:20:23 พวกเนี้ยนะไม่ต้องกลัวเดี๋ยวอื่นๆเนี่ย
02:20:23 → 02:20:25 มันจะดีขึ้นดีขึ้นการอักส่งการอักเสบอะไร
02:20:25 → 02:20:28 ต่างๆไวล้งไวรัสอะไรที่สิ่งแปลกปลอมเลย
02:20:28 → 02:20:31 ต่างๆเซลล์กลายพันธุ์
02:20:31 → 02:20:36 ตเพราะว่าแสงสีแดงคือคือแสงท่าอาทิตย์นะ
02:20:36 → 02:20:41 ฮะนะคือพลังงานในรูปของซิสติกนะนะที่ที่
02:20:41 → 02:20:44 จะต้องมาจูนกับอ่าแหล่งพลังงานในระดับ
02:20:44 → 02:20:47 เซลล์นะฮะนะก็คือไมโตคอนเดรีย
02:20:47 → 02:20:50 ไมโตคอนเดรียเราฉ้แสงพวกเนี้ยเรากาให้ให้
02:20:50 → 02:20:53 มันทะลุเข้าไปที่ไมโตคอนเดรียของเซลล์
02:20:53 → 02:20:56 อวยวะต่าง
02:20:57 → 02:21:02 ๆก็ใส่เสื้อผ้าบังไว้ก็ได้ใช่มั้ยครับใช่
02:21:02 → 02:21:04 ถ้ามันร้อนก็เอาผ้าบังไว้
02:21:04 → 02:21:09 หน่อยหรือว่าเลื่อนให้มันห่างออกไปนะคือ
02:21:09 → 02:21:12 บางคนน่ะเปลือยไงงเปลือยไงเปลือยเปลือย
02:21:12 → 02:21:15 ผิวหนังอะไรอย่างเงี้ยแล้วกลัวว่าหลับ
02:21:15 → 02:21:19 เพลินไปแล้วไม่ได้มาปิดสวิตช์โอ้โห 3-4
02:21:19 → 02:21:22 ชมงเนี่ยเดี๋ยวมันจะไหม้มันจะเบิร์นเ
02:21:22 → 02:21:25 เพราะมันมันร้อนพอสมควรเลยแหละหลอดมัน
02:21:25 → 02:21:29 เริ่มๆมแล้วแต่คนคนนั้นจะทนความร้อน
02:21:29 → 02:21:31 เล
02:21:31 → 02:21:34 เออก็เหมือนตากแดดนั่นแหละเหมือนตากแดด
02:21:34 → 02:21:37 นั่นแหละเอออือ๋อมันช่วยเรื่องของ
02:21:37 → 02:21:40 ไมโทคอนเดรียนี่เองก็คือเ่อ Red Light
02:21:40 → 02:21:44 เนี่ยแสงไอ้อันเนี้ยอิเดอันเนี้ยนะเจะไป
02:21:44 → 02:21:52 มีผลกับเรื่องของของของไตคีย
02:21:52 → 02:21:57 แล้วก็เป็นตัวที่ที่ก็ทำให้คือที่เพิ่ม
02:21:57 → 02:22:01 จำนวนไมโตคอนเดรียได้นะเเพิ่มจำนวน
02:22:01 → 02:22:04 ไมโทคอนเดรียอะไรต่างๆ
02:22:04 → 02:22:08 ได้พอไมโทคอนเดรียแพงขึ้นเนี่ยมันก็แก้
02:22:08 → 02:22:11 ปัญหาอะไรได้ทุกอย่างเพราะฉะนั้นเ่อตับ
02:22:11 → 02:22:14 เราเนี่ยมันมีไวรัสไปซ่อนเล้นอยู่ในระดับ
02:22:14 → 02:22:16 เซลล์ในอินต
02:22:16 → 02:22:20 เซลูเราก็เอาแสงนี่ะวะแสงเล Light เปีนี่
02:22:20 → 02:22:24 แหละนะเข้าไปสู้นะอาหารการกิน
02:22:24 → 02:22:29 เอ่อยานะแล้วก็พวกกลุ่มวิตามินอาหารเสริม
02:22:29 → 02:22:33 อะไรต่างๆเนี่ยนะจัดได้ก็จัดไป
02:22:33 → 02:22:36 นะเพราะว่าอะไรไฟกกไก่เนี่ยมันไม่ได้แพง
02:22:36 → 02:22:41 นะนะเอส่วนที่จะไปตากแดดตากพระอาทิตย์นี่
02:22:42 → 02:22:44 มันก็ไม่ใช่หรอกเเราก็ใช้อ้อมๆอย่างนี้
02:22:44 → 02:22:55 แหละแต่วต้องพี่เนสนี่กกทุกวันนะพี่หมอ
02:22:55 → 02:23:00 เออได้ความรู้ได้ความรู้ครับคุณมีมีคนดู
02:23:00 → 02:23:03 เข้ามาใหม่ครับชื่อจักรคุณอะไรเนี่ย
02:23:03 → 02:23:07 จักรพันธ์เบอกว่าขอศึกษาด้วยคนครับน้ำตาล
02:23:07 → 02:23:14 ตอนเนี้ย 255 แก่อนทานุเย็นนี่ 230
02:23:14 → 02:23:16 ฮะ
02:23:16 → 02:23:20 ก็ต้องแชร์เรื่องเบื้องต้นอ่าในเรื่องของ
02:23:20 → 02:23:20 การ
02:23:21 → 02:23:24 อ่าการใช้บริการแนว low C High Good f
02:23:24 → 02:23:29 นะในการที่จะปรับเรื่องระบบเแล้วร 4 rp
02:23:29 → 02:23:32 เท่ากับ 4 ด้วยนะครับพี่หมอ
02:23:32 → 02:23:36 โอก็เยอะไปเยอะ
02:23:36 → 02:23:38 ไปไม่รู้เป็นเบาหวานด้วยึเปล่าคุณหมอว่า
02:23:38 → 02:23:40 จะเป็นเบาหวานมเนี่ยเป็นเบาหวานน่ะเป็น
02:23:40 → 02:23:44 เบาหวานใช่มน้ำตาลขึ้นมาตั้ง 230 อ่ะเออ
02:23:44 → 02:23:45 ใช่
02:23:45 → 02:23:48 อืก็แน่นอน
02:23:48 → 02:23:53 ครับเป็นเป็นเป็นชัดเจนนะฮะชัดเจนใช่มั้ย
02:23:53 → 02:23:56 ครับอบอกว่าพรุ่งนี้หมอนัดรับยาครับทั้ง
02:23:56 → 02:24:01 ยาฉีดยากินเลยอ่ะอ๋อฉีดยาเหรอฉีดยาเอาไว้
02:24:01 → 02:24:05 ก่อนนะต้องให้โอกาสกับตัวเองนะก็รับยาจาก
02:24:05 → 02:24:10 หมอมาก่อนนะแต่ถ้าเปิดใจรับปรับใจทำนะ
02:24:10 → 02:24:17 จักรพันธ์ก็เรียนรู้นะแล้วปรับการกิน
02:24:17 → 02:24:20 นะอื
02:24:20 → 02:24:24 ก็ต้องต้องต้องมีแนวทางอ่ะนะพอดีในเพจเรา
02:24:24 → 02:24:30 ไม่ได้มีแผ่นย่อๆนะก็ถูกๆผิดๆทำไปก่อนแ
02:24:30 → 02:24:32 สักอาทิตย์นึงเดี๋ยวก็พอจะรู้ไกด์ไลน์
02:24:32 → 02:24:37 แล้ว
02:24:37 → 02:24:41 นะตลัดกินนั่นแหละนะแล้วก็มื้อแรกนะกิน
02:24:42 → 02:24:46 คล้ายๆ CD kcd ตัดคาฟออกไปให้สนิทเลยนะ
02:24:46 → 02:24:49 อ่าแล้วมื้อเย็นเนี่ยก็ยังไม่ต้องนะไอ้คฟ
02:24:49 → 02:24:51 เิฟอะไรต่างๆเนี่ย
02:24:51 → 02:24:57 นะยังไม่ต้องนะจะได้ไม่ต้องใช้ยาส่วนยา
02:24:57 → 02:25:01 ฉีดนี่ชะลอชะลอไว้ก่อนนะแต่ถ้าน้ำตรงน้ำ
02:25:01 → 02:25:04 ตาลมันเกิน 500 400 อะไรนี้ก็ไม่
02:25:04 → 02:25:06 ได้
02:25:06 → 02:25:11 อืพวกพวกยาฉีดนี่มันมันเป็นยังไงอ่ะครับ
02:25:11 → 02:25:14 มันไปรดน้ำตาลรอครับพี่หมอหรือว่ายังไงฮะ
02:25:14 → 02:25:18 ก็ก็ผักน้ำตาลเข้าเซลล์อ่ะแหละมันที่ฉีด
02:25:18 → 02:25:20 นี่คือฉีดอินซูลินใช่่มั้ยพี่หมออินซูริน
02:25:20 → 02:25:22 เนี่ยยาจีบนะ
02:25:22 → 02:25:28 อ๋อสั้นออกฤทธิ์ปานกลางออกฤทธิยาวๆอ๋อก็
02:25:28 → 02:25:32 คือไปอัดอัดน้ำตาลเข้าเซล์ซเซลอยู่แล้ว
02:25:32 → 02:25:36 เออมันมันมามีเยอะแต่ไม่ตอบสนองก็ต้อง
02:25:36 → 02:25:39 เพิ่มปริมาณอินซูรินเพจะได้กดให้มันเปิด
02:25:39 → 02:25:41 ประตูให้ได้นะอย่าง
02:25:41 → 02:25:45 เงี้ยเพราะฉะนั้นในที่สุดเนี่ยถ้าให้ 10
02:25:45 → 02:25:48 ยูนิตมึงไม่เปิดกูให้มึง 20 กูให้มึง 30
02:25:48 → 02:25:51 อะไรอย่าเงี้ยไปเรอืยังไงยังไงมึงต้อง
02:25:51 → 02:25:53 เปิดพอเปิดแล้วไงอ่ะน้ำตาลก็เข้าไปใน
02:25:53 → 02:25:56 เซลล์เข้าไปแล้วก็ไปกระตุ้นให้เกิดการ
02:25:56 → 02:26:00 อักเสบเซลล์มันก็เน่าเสียหายตายนะก็คือ
02:26:00 → 02:26:02 มันกปั้นทุกดินน่ะ
02:26:02 → 02:26:06 นะอคือกูจะกดตัวเลขน้ำตาลอย่างเดียวแต่กู
02:26:06 → 02:26:11 ไม่ดูอย่างอื่นนใช่เออเซลก็พังพนา
02:26:11 → 02:26:17 ไปอเปลี่ยนมากินนะเรียนรู้การกินนะกินไม่
02:26:17 → 02:26:19 มีอะไรหรอกคาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมัน 3
02:26:19 → 02:26:22 เรื่องนี้แหละนะฮะตอนนี้เนี่ยเราก็มี
02:26:22 → 02:26:26 ปัญหากับคาร์โบไฮเดรตเราต้องตัดนะกลุ่ม
02:26:26 → 02:26:29 นี้ออกไปก่อนนะฮะนะไม่แน่ใจอะไรก็กินแต่
02:26:29 → 02:26:33 Animal เสเนื้อเกลือไข่เนื้อเกลือไข่นะ
02:26:34 → 02:26:37 ฮะกินอย่างนี้
02:26:37 → 02:26:41 ฮะแล้วก็จะเติมอะไรเนี่ยนะอะไรน้อที่ไม่
02:26:41 → 02:26:44 ชื่อพืชไม่ใช่สัตว์โอกินได้กินได้นะน้ำ
02:26:44 → 02:26:47 เปล่ากินได้โซดากินได้เกลือไม่ใช่พืชไม่
02:26:47 → 02:26:52 ใช่สัตว์กินได้กินได้นะอืครับผมคือไปแยก
02:26:52 → 02:26:56 พืชแยกสัตว์ก่อนเบื้องต้นนะใดๆที่เป็นพืช
02:26:56 → 02:27:00 เนี่ยอย่าเพิ่งอย่าเพิ่งเอาาเข้าปากนะเอ
02:27:00 → 02:27:03 แต่ใดๆที่เป็นสัตว์และผลิตภัณฑ์จากสัตว์
02:27:03 → 02:27:08 กินได้ยกเว้นนมนออมนมห้ามเด็ดขาดเพราะมัน
02:27:08 → 02:27:13 มีน้ำตาลนะน้ำตาลแลคโตสกาแลคโตสนะไม่กิน
02:27:13 → 02:27:18 กินเนื้อเกลือไข่กินกระดูกกินเครื่องในนะ
02:27:18 → 02:27:21 แล้วก็เอามาต้มเอามาผัดเอามาทอดอะไรต่างๆ
02:27:21 → 02:27:26 ก็ให้ใช้ผลิตภัณฑ์จากสัตว์อ่าแล้วก็ใช้
02:27:26 → 02:27:29 ความร้อนนะแล้วให้มันสุกแล้วก็รีบกินให้
02:27:29 → 02:27:30 มัน
02:27:30 → 02:27:34 อิ่มอือินเสร็จก็มาเปิดดูเลยว่าจะต้องทำ
02:27:34 → 02:27:37 อะไรยังไงอีกบ้างนะเพราะยังไงชีวิตวันๆ
02:27:37 → 02:27:41 นึงต้องมีการกินอย่างน้อยก็มื้อนึงล่ะนะ
02:27:41 → 02:27:45 แต่ถ้าไม่เอ่อไม่เข้าใจอะไรเลยเนี่ยก็คือ
02:27:45 → 02:27:48 นี่แหละจะกินมื้อ 2 มื้อได้ทั้งนั้นนะเอ
02:27:48 → 02:27:51 แล้วก็ตัดรายการพืชออกไป
02:27:51 → 02:27:55 ก่อนเอาพืชเอาสัตว์ให้ได้ก่อนในช่วงแรก
02:27:55 → 02:27:57 แล้วใดๆที่ไม่ใช่พืชไม่ใช่สัตว์น่ะนึกนิด
02:27:57 → 02:28:02 นึงแล้วก็กินได้ฮะเกลือกินได้โซดากินได้
02:28:02 → 02:28:05 น้ำเปล่ากินได้
02:28:06 → 02:28:09 นะให้ดูในระดับลึกๆ
02:28:09 → 02:28:13 นะน้ำผลไม้อุ้ยมีผลไม้ผลไม้เป็นพืชออกิน
02:28:13 → 02:28:19 ไม่ได้เอาพืชมาบวกน้ำมันก็คือพืช
02:28:19 → 02:28:22 นะจะกินโบนบอดเงี้ยเอากระดูกสัตว์เนี่ยมา
02:28:22 → 02:28:26 ต้มกันน้ำออก็ยังเป็นสัตว์อยู่นะฮะนะก็
02:28:26 → 02:28:30 กินได้ก็ปงเกลือเข้าไป
02:28:31 → 02:28:35 นะอืครับคือมีรายการบางสิ่งบางอย่างอย่า
02:28:35 → 02:28:37 ไม่กี่รายการหรอกที่จะมาช่วยในช่วง
02:28:37 → 02:28:41 สัปดาห์แรกเนี่ยน้ำส้มสายชูพอจะกินได้แต่
02:28:41 → 02:28:44 ต้องเลือกที่มีลักษณะขุ่นๆนะมีตะกอนเ
02:28:44 → 02:28:47 เรียกมาสเตอร์ตะกอนนะฮะอันนี้ก็มาปรุง
02:28:47 → 02:28:50 เป็นรสเปรี้ยวนะปรุงปรุงในน้ำซุปต้ม
02:28:51 → 02:28:54 กระดูกปรุงในการปรุงอาหารทำน้ำจิ้มอะไร
02:28:54 → 02:28:57 เงี้ยนะฮะเกลือก็ไม่ใช่พืชไม่ใช่สัตว์กิน
02:28:57 → 02:29:01 ได้นะเนื้อเกลือไข่เนื้อเกลือไข่
02:29:01 → 02:29:04 เออกินอย่างนี้ไป
02:29:04 → 02:29:08 นะแล้วก็ได้ดก็ตามนะฮะที่เป็นสนคเป็น
02:29:08 → 02:29:11 ระหว่างวันเนี่ยถ้าร่างกายเอาไม่อยู่เลย
02:29:11 → 02:29:15 เนี่ยกินไข่ต้มลูกเดียวไข่ต้มจิ้มน้ำปลา
02:29:15 → 02:29:19 นะน้ำปลาน้ำปลาแท้นะนะเอ่อไข่ต้มจิ้มน้ำ
02:29:19 → 02:29:23 ปลาเนี่ยนะสามารถกินได้ฮะนะเออกินไปได้
02:29:23 → 02:29:27 ถึงวันละ 30 ลูกก็มีคนทำมาแล้วนะกินอยู่
02:29:27 → 02:29:32 เดือนนึงนะฮะไข่ต้มจิ้มน้ำปลา 30
02:29:32 → 02:29:37 ลูกแต่ปกินข้าวแบบเดิมๆไม่ได้นะครับไม่
02:29:37 → 02:29:41 ได้ฮะนะข้าวเป็นพืชนะฮะนะกินไม่ได้กิน
02:29:41 → 02:29:45 แล้วน้ำตาลพุ่งนะฮะเพราะว่าอาณาจักรพืช
02:29:45 → 02:29:48 เนี่ยส่วนใหญ่มันก็ประกอบด้วยแป้งนะซึ่ง
02:29:48 → 02:29:52 ก็เปลี่ยนเป็นน้ำตาลนะฮะนะมันมีดีและไม่
02:29:52 → 02:29:55 ดีร่วมกันนะฮะจริงๆในพืชเราหวังผึ้ง
02:29:55 → 02:29:59 ไฟเบอร์นะแล้วก็สารอาหารรองวิตามินแร่ธาต
02:29:59 → 02:30:01 นะแล้วก็ความเป็นเฮิร์บเป็นสมุนไพรเป็นยา
02:30:01 → 02:30:07 เป็นสารรึกษาเคมีนะแต่มันมีมารอ่าอ่ามา
02:30:07 → 02:30:10 คอยขวางปากเราอยู่นะก็คือแป้งน้ำตาลเนี่ย
02:30:10 → 02:30:13 ไม่รู้จะเอาออกไปได้ยังไงนะแต่ถ้าสามารถ
02:30:13 → 02:30:18 เอาเขออกไปได้สกัดเค้านะออกไปได้ดีๆอ่ะนะ
02:30:18 → 02:30:23 ไฟเบอร์กินได้นะฮะนะสิ่งที่เป็นสารยาสิ่ง
02:30:23 → 02:30:25 ที่เป็นวิตามินแร่ทาตกินได้แต่อาจจะยาก
02:30:25 → 02:30:29 อยู่ในช่วงแรกๆนะเพราะฉะนั้นเพื่อป้องกัน
02:30:29 → 02:30:34 การฟิ้วนะฮะนะก็กินสัตว์อสักสัตว์ไปก่อน
02:30:34 → 02:30:38 นะฮะนะสัดว์รการพืชออกไปจากชีวิตนะตอนนี้
02:30:38 → 02:30:41 ต้องปรับแก้เรื่องภาวะน้ำตาลสูงเรื่องเบา
02:30:41 → 02:30:42 หวงเบาหวานเนี่ย
02:30:42 → 02:30:47 นะออคุณจักรพันธ์บอกว่า DK เดือนสิงหาคม
02:30:47 → 02:30:53 ครับโอตอนนี้กิน 2 มื้อโลครับเคยติด cgm
02:30:53 → 02:30:57 กับหมอทิมหมอทิมให้กินวิตามินดีแต่น้ำตาล
02:30:57 → 02:31:01 ไม่ลงครับออไม่รู้เพราะเคยติดวัคซีนหรือ
02:31:01 → 02:31:07 เปล่าอื kcd ปกติมันมันก็จะลงครับ
02:31:07 → 02:31:13 อืนะก็ต้องมามามาใช้ High Good Fat ดู
02:31:13 → 02:31:17 นะก็คือในการกิน kcd เนี่ยมันมันมันก็
02:31:17 → 02:31:20 เป็นเป็นแฟตนั่นแหละนะเป็นแฟต f เป็นพ Oil
02:31:20 → 02:31:23 นั่นแหละแต่ว่ามันไม่ใช่ High Good Fat
02:31:23 → 02:31:26 นะฮะเพราะหลักการเนี่ยคือต้อง High อ่า
02:31:26 → 02:31:30 แล้วก็เป็น Good Fat นะ Good Fat ในที่
02:31:30 → 02:31:34 นี้เนี่ยหมายถึงเอ่อ Fat ที่เป็นรูปของ
02:31:34 → 02:31:37 การ process นะฮะซึ่งมันเป็นรูปของเพีย
02:31:37 → 02:31:42 ออยเพียออยคืออันนี้นะฮะหมอจะบอกถึงท่าน
02:31:42 → 02:31:45 เอ่อคนที่ติดตามเพจเราแล้วก็จักรพันธ์
02:31:45 → 02:31:50 ด้วยนะฮเรื่องของอ่าเรื่องของ Real food
02:31:50 → 02:31:53 กับเรื่องของ Process Food นะฮะ process
02:31:53 → 02:31:56 Food ไม่ใช่กินไม่ได้นะคุณจะมีต้องมี
02:31:56 → 02:31:58 หลักการในการกิน process Food อย่างนึง
02:31:58 → 02:32:01 อ่ะนะก็คือ process Food นั้นเนี่ยเวลา
02:32:01 → 02:32:07 process แล้วนะมันจะต้องเพิ่มสารนอาหาร
02:32:07 → 02:32:10 นะอ่าหรือไม่ก็สารยาโดยเฉพาะสารพรึกษา
02:32:10 → 02:32:13 เคมีเพราะฉะนั้น process F อะไรก็ตามที่
02:32:13 → 02:32:16 สามารถเพิ่มสารอาหารเพิ่มสารพรึกษาเคมี
02:32:16 → 02:32:20 ได้อันนั้นเป็น process f ที่ดีหรือบาง
02:32:20 → 02:32:23 ทีดีกว่าเร Food นะฮะนะเพราะฉะนั้นน้ำมัน
02:32:23 → 02:32:27 พืชสกัดเย็นต่างๆที่มันเป็นออร์แกนิคแล้ว
02:32:27 → 02:32:32 ก็ที่มีขั้นตอนการโสนะที่ดีที่ดีนะนะอัน
02:32:32 → 02:32:37 นี้ถือว่าเป็นเป็นสารอาหารนะที่อาจจะ
02:32:37 → 02:32:39 เทียบเท่ากับเร Food เลยล่ะนะหรืออาจจะดี
02:32:39 → 02:32:43 กว่าด้วยนะฮะเพราะหลักการก็คือโพสแล้ว
02:32:43 → 02:32:48 ต้องเ่อมีปริมาณสารอาหารนะหรือสารยาเพิ่ม
02:32:48 → 02:32:52 ขึ้นให้ได้นะเพราะน้ำำมันสกัดเย็นเนี่ย
02:32:52 → 02:32:55 สามารถเพิ่ม 2 อย่างนี้โดยการพิสูจน์ได้
02:32:55 → 02:32:59 ด้วยงานวิจัยเพราะฉะนั้นไม่ต้องกลัวนะใคร
02:32:59 → 02:33:02 หน้าไหนมันจะมาบอกว่ามึงจะไปกินน้ำมัน
02:33:02 → 02:33:03 สกัดเย็นแล้วเดี๋ยวมันจะอย่างงู้นอย่าง
02:33:03 → 02:33:06 งี้อย่างงั้นเนี่ยแสดงว่าเไม่รู้จริงนะฮะ
02:33:06 → 02:33:10 เพราะสิ่งเน่ะมันโสแล้วเี่มันเพิ่มของดีๆ
02:33:10 → 02:33:15 ขึ้นมานะฮะเอใครจะทำได้บ้างล่ะนะเพราะ
02:33:15 → 02:33:18 ฉะนั้นหมอถึงได้บอกนะว่าน้ำมันสกัดเย็นนะ
02:33:18 → 02:33:22 เอ่อเป็น process Food ที่ดีที่สุดในโลก
02:33:22 → 02:33:25 คือเรื่องการ process เนี่ยมันก็มันมี
02:33:25 → 02:33:29 ทั้งกายภาพและทางเคมีนะเอเพราะฉะนั้นแต่
02:33:29 → 02:33:32 น้ำมันสกัดเย็นเนี่ย ess Oil ต่างๆเห่าเ
02:33:32 → 02:33:35 ซึ่งมันเป็น fl Oil นะฮะนะพวกนี้เป็นการ
02:33:35 → 02:33:39 process ที่มันเป็นกายภาพนะเป็น physical
02:33:39 → 02:33:42 process นะแล้วก็มีข้อจำกัดในเรื่องความ
02:33:42 → 02:33:44 ร้อนเรื่องของการใช้สารเคมีเพฉนั้นไม่
02:33:44 → 02:33:47 ต้องกลัวนะความเป็นออร์แกนิคอะไรต่างๆนนะ
02:33:47 → 02:33:51 มันโอเคไปเลยนะ
02:33:51 → 02:33:53 อย่างกรณีของน้ำมันมะกอกเนี่ยหมอก็รับได้
02:33:53 → 02:33:56 เฉพาะ Extra vergin เท่านั้นนฮะนะแต่ถ้า
02:33:56 → 02:33:58 ไม่ใช่ Extra vergin เนี่ยมันก็เป็น
02:33:58 → 02:34:01 process นะฮะแต่มันเป็น process ที่มี
02:34:01 → 02:34:05 การใช้ความร้อนนะซึ่งไม่อยู่ในข้อกำหนดนะ
02:34:05 → 02:34:08 ของการเป็นไขมันดีนะหรือเ่อยิ่งเป็นพวก
02:34:09 → 02:34:12 ไลฟต่างๆเนี่ยที่สามารถมาใช้ทอดใช้ผัดได้
02:34:12 → 02:34:16 อย่างเงี้ยถ้าอย่างนี้มันมีเคมีนะเแต่มัน
02:34:16 → 02:34:21 เป็นเคมีที่ระดับที่ที่พอจะผ่านเกณฑ์ที่
02:34:21 → 02:34:26 ที่เขากำหนดนอยู่บ้างนะแล้วเสร็จแล้วคุณ
02:34:26 → 02:34:32 ก็มาตีว่ามันเป็นของดีของดีริไม่ได้ดีๆ
02:34:32 → 02:34:38 จริงนะเพราะฉะนั้นโปรดใช้ High Good Fat
02:34:38 → 02:34:41 ต้อง High High High นะฮะนะ Good Fat
02:34:41 → 02:34:43 อย่างเดียวไม่ได้ต้อง High ด้วยในช่วงแรก
02:34:43 → 02:34:47 ช่วงแรกนะเพราะฉะนั้นเพียวออยจึงเป็นทาง
02:34:47 → 02:34:52 ออกนะในการที่จะเ้าเรียกว่ารีวนะหรือหรือ
02:34:52 → 02:34:55 ร Balance ในตอนเนี้ยนะที่เรามีปัญหา
02:34:55 → 02:34:58 เรื่องเรื่องน้ำตาลที่มันไม่ลงเพราะพลัง
02:34:58 → 02:35:01 งานต้องถึงก่อนนะฮะนะแล้วต่อไปก็เป็นพลัง
02:35:01 → 02:35:04 งานกับสารอาหารก็คิดว่าจักรพันธ์น่าจะมี
02:35:04 → 02:35:07 ปัญหาเรื่อง Energy im Balance ในแง่
02:35:07 → 02:35:11 ของพลังงานมันไม่ถึงและมันไม่ได้เป็นพลัง
02:35:11 → 02:35:15 งานที่ดีที่พอนะกับร่างกาย
02:35:15 → 02:35:18 ต้องการคือน้ำตาลมันไม่ลงใช่มั้ยพี่หมอ
02:35:18 → 02:35:22 แล้วพอไปกินแบบ CD kcd พวกนี้พอคีโตนมัน
02:35:22 → 02:35:25 ออกมามันเลยกลายเป็น dka ไปเลยเหรอครับ
02:35:25 → 02:35:29 เอออันนี้ไม่รู้ต้องต้องดูรายละเอียดด้วย
02:35:29 → 02:35:33 นะอ๋อจะเป็นเบาหวานพวกดารหรือเปล่ามีการ
02:35:33 → 02:35:37 ตรวจแยกโรคอะไรมาหรือยังอ๋อต้องคือถึงจะ
02:35:37 → 02:35:40 เป็นอ่าเบาหวันไทวันหรือว่าดารเนี่ยนะ
02:35:40 → 02:35:44 หรือมี้อะไรก็ตามนะฮะนะไม่รู้จักรพันธ์ุ
02:35:44 → 02:35:48 เท่าไหร่เกิน 35 ยังก็พวกเนี้ยนะยังไงก็
02:35:48 → 02:35:51 ต้อง High Good Fat นฮะนะเพราะว่าพลัง
02:35:51 → 02:35:54 งานตอนเที่ร่างกายมันจะใช้ได้เนี่ยนะก็
02:35:54 → 02:35:58 คือพวกปวดไขมันอิสระกับกีซอลนะที่อยู่ใน
02:35:58 → 02:36:00 ขอบเขตนะแล้วก็ต้องมาจาก High Food
02:36:01 → 02:36:05 Healthy Fat นะนะก็คือพวกตีออยอันนี้
02:36:05 → 02:36:09 คือคำ
02:36:09 → 02:36:13 ตอบคือคือคนเป็นเบาหวานเนี่ยมัน sensitive
02:36:13 → 02:36:14 มากกับพวกอะไร
02:36:14 → 02:36:18 อ่ะไขมันไม่ดีโปรตีนที่มันไม่ถูกอะไร
02:36:18 → 02:36:21 อย่างงี้ใช่มั้ยพี่หมอเอ่อใช่อันนั้นก็
02:36:21 → 02:36:23 คือเป็นภาวะที่คุณไปกระตุ้นอินซูลินก้าว
02:36:23 → 02:36:24 ร้าวอ่ะ
02:36:24 → 02:36:29 อ่าแล้วมันไม่ลงอ่ะมันไม่ลงนะหรือบางที
02:36:29 → 02:36:31 อินซูลินเนี่ยมันไม่ได้พุ่งเยอะนะฮะ
02:36:31 → 02:36:34 ปริมาณจำนวนหรือระดับเลเวลมันไม่ได้เยอะ
02:36:34 → 02:36:37 นะแต่พฤติกรรมของมันน่ะคือความก้าวร้าว
02:36:37 → 02:36:38 หรือ
02:36:38 → 02:36:41 aggressive อันนี้แหละมันเป็นปัญหาที่
02:36:41 → 02:36:44 เรากลัวนะเพราะอินซูลินถึงจะสูงมันก็
02:36:44 → 02:36:47 สามารถลงมาได้ถ้ามันเป็นอินซูลินที่ดีที่
02:36:47 → 02:36:50 เป็นพ่อพระนะฮ
02:36:51 → 02:36:56 อืแต่ถ้าอินซูลินที่ไม่สูงแต่เขคแกีเก้าว
02:36:56 → 02:37:00 ร้าวดุดันเนี่ยนะโอ้อันนี้นะสู้กับเ้ายาก
02:37:00 → 02:37:05 อยู่นะแล้วอินซูลินไม่ได้เป็นไม่ได้เป็น
02:37:05 → 02:37:10 ฮอร์โมนที่ depend on เบนนะฮะนะคือสมอง
02:37:10 → 02:37:13 เนี่ยหรืออะไรต่างๆที่เราจะไปควบคุมเค้า
02:37:13 → 02:37:16 เราควบคุมเไม่ได้นะนะอินซูลินเป็นฮอร์โมน
02:37:16 → 02:37:19 1 ใน 3-4 ตัวเนี่ยที่ไม่ได้อยู่ที่การ
02:37:20 → 02:37:23 ควบคุมโดยสมองนะสมองไม่ใช่ไม่ใช่ตัวควบ
02:37:23 → 02:37:28 คุมนะเพราะว่าตัวควบคุมอินซูลินคือคือ
02:37:28 → 02:37:32 Food Diary Food นะฮนะแล้ว Diary Food
02:37:32 → 02:37:34 ที่ควบคุมอินซูลินคืออะไรอ่ะก็คือ
02:37:34 → 02:37:37 คาร์โบไฮเดรตโปรตีนไขมันเอย่ามาบอกแต่
02:37:38 → 02:37:40 คาร์โบไฮเดรตอย่ามาบอกแต่เป็นแปรรูปแปร
02:37:40 → 02:37:43 เริบอะไรอย่างงั้นนะฮะจริงๆแล้วมันก็คือ
02:37:43 → 02:37:47 ทั้ง 3 ตัวนี้แหละนะะนะที่จะเอาไปมีราย
02:37:47 → 02:37:50 ละเอียดในการแปรร่งแปรรูปอะไรก็ว่าไปนะ
02:37:50 → 02:37:54 แต่มันมันมันทุกอย่างนะฮะทุกอย่างเออ
02:37:54 → 02:37:58 เพราะฉะนั้นตัดคาฟออกแต่กินโปรตีนไม่ถูก
02:37:58 → 02:38:02 กินไขมันไม่ดีไม่ใช่ก High Good Healthy
02:38:02 → 02:38:05 fy Fat อะไรต่างๆตเนี้ยนะก็ไม่แปลกหรอก
02:38:05 → 02:38:08 ที่อินซูลินเนี่ยอาจจะไม่เยอะแต่เขายัง
02:38:08 → 02:38:11 ก้าวร้าวดุดัน aggressive อยู่นะแล้วก็
02:38:12 → 02:38:15 ค่าโน่นค่าหนี้ต่างๆมันไม่ลงก็เหมือนกัน
02:38:15 → 02:38:18 เกิดไอ้ที่คุยกันไปในวันเนี้ยก็คือฟมอ
02:38:18 → 02:38:20 เนี่ย
02:38:20 → 02:38:24 นะพยายามรู้เข้าไปถึงไส้ในของอาหารนะรู้
02:38:24 → 02:38:27 เรื่องน้ำมันสกัดเย็นเนี่ยก็ต้องรู้ว่านะ
02:38:27 → 02:38:33 เขาเป็น process Food นะนะที่มันเปลี่ยน
02:38:33 → 02:38:37 แปลงแล้วเนี่ยอ่าที่มันเอามาจากธรรมชาติ
02:38:37 → 02:38:39 แล้วแต่น้ำมันเหล่าเนี้ยเราเรายอมรับ
02:38:39 → 02:38:44 เฉพาะุท Oil นะฮะเรายอมรับสิ่งที่เป็นที่
02:38:44 → 02:38:48 มาที่ไปจากผลไม้นะเราไม่ได้ยอมรับสีดออย
02:38:48 → 02:38:51 หรือเกรนออยนะฮะนะหรือ Vegetable Oil
02:38:51 → 02:38:54 เนี่ยเราไม่โอเคสิ่งเหล่านี้ไม่ใช่น้ำมัน
02:38:54 → 02:38:57 สกัดเย็นในอุดมคติที่จะเป็น Good Healthy
02:38:58 → 02:39:01 Fat แล้วก็จะพูดได้เต็มปากว่ามันเป็นน้ำ
02:39:01 → 02:39:04 มันสกัดเย็นที่มันเป็นอ่าอาหารแปรรูปที่
02:39:05 → 02:39:09 ดีที่สุดในโลกไม่ใช่นะต้องเป็นุเอ่อ fry
02:39:10 → 02:39:15 Oil fran Oil นะฮะเพะการแปรรูปรุนะที่
02:39:15 → 02:39:18 อยู่ในรูปของน้ำมันเนี่ยมันจะเป็นการ
02:39:18 → 02:39:22 เพิ่มวิตามินแล่ธาตุสารพรึกษาเคมีเป็นสาร
02:39:22 → 02:39:26 ยานะโดยเฉพาะสิ่งที่เขาทำงานวิจัยและยอม
02:39:26 → 02:39:29 รับมากๆเลยก็คือน้ำมันมะกอกนะที่เป็น
02:39:29 → 02:39:34 Extra เจิ Oil นะดรอีกเกนะแล้วก็เดิด
02:39:34 → 02:39:37 จอกเกอร์อะไรเนี่ยก็มาอวยอ่ะที่หมอเพิ่ง
02:39:37 → 02:39:41 พูดไปเมื่อไลฟที่แล้วอ่ะนะฮะนะว่าว่ามัน
02:39:41 → 02:39:46 มีทั้งเ่อความเป็นพลังงานและเป็นสารยาน่ะ
02:39:46 → 02:39:50 นะมันมันเราจะไปนั่งกินมะกอกมะกอกเงี้ย
02:39:50 → 02:39:54 มันไม่ได้นะเราก็ต้องกินน้ำมันมะกอกในรูป
02:39:54 → 02:39:59 แบบของโสนะ Extra vergin
02:39:59 → 02:40:01 เอมีคำถามอีก
02:40:01 → 02:40:05 มยมีจะ Request ครับ Request คุณปานเทพ
02:40:05 → 02:40:08 บอกลายหน้าขอแนวทางแก้ไขกฎไนย้อนบวกท้อง
02:40:08 → 02:40:11 ผูกฉบับอัปเดตปี 2025 หน่อย
02:40:11 → 02:40:16 [เสียงหัวเราะ]
02:40:16 → 02:40:19 ครับเออ
02:40:19 → 02:40:23 คือมันมันเหมือนจะออกนอกในเรื่องของอาหาร
02:40:23 → 02:40:25 ow C High CR Fat เ่ะคือจริงๆแล้ว
02:40:25 → 02:40:28 เนื้อในของอาหารโ C High Good Fat
02:40:28 → 02:40:31 ต่างๆเหล่าเนี้ยก็ต้องมีเรื่องเล่าวน
02:40:31 → 02:40:33 เวียนกันอยู่ในเรื่องของคาร์โบไฮเดรต
02:40:33 → 02:40:35 โปรตีนไขมันนี่แหละนะเพราะว่าคนส่วนใหญ่
02:40:35 → 02:40:39 ไม่เข้าใจไม่เข้าใจไส้ในของมันเ่ะนะนะเลย
02:40:39 → 02:40:43 เอามาปฏิประต่อแล้วเลยเอามาแก้ไขในเรื่อง
02:40:43 → 02:40:48 ที่จะทำให้ค่าแลบนะหรือผลทางด้านสุขภาพ
02:40:48 → 02:40:52 อะไรต่างๆอ่ะมันดีขึ้นเนี่ยมันเลยไม่ไป
02:40:52 → 02:40:58 ต่อยากมากนะเออเนี่ยเราก็ต้องรู้รู้ราย
02:40:58 → 02:41:01 ละเอียดอย่างพอสมควร
02:41:01 → 02:41:05 เลยคือแต่ว่าพวกนี้มันต้องอ่านนะฮะต้อง
02:41:05 → 02:41:10 บอกก่อนว่ามันต้องอ่านต้องอ่านนะดูที่
02:41:10 → 02:41:12 แว่นขยายอ่ะแล้วก็อ่านในจุดเหล่านั้นไป
02:41:12 → 02:41:14 ก่อน
02:41:14 → 02:41:19 เออสุดท้ายมันก็มาแก้ที่อาหารการปรับพวก
02:41:19 → 02:41:22 ที่ต้นเหตุตรงนี้ทั้งนั้นนะครับพี่หมอใช่
02:41:22 → 02:41:26 อืพี่ไพโรจมาช่วยตอบแล้วครับเออ
02:41:27 → 02:41:30 นะสุดท้ายมันก็มาอ 3 ตัวเนะฮค้าโปรตีน
02:41:30 → 02:41:34 แล้วก็ไขมันใช่นะหรืออย่างวันนี้ฟมอเห็นม
02:41:34 → 02:41:38 เวลาที่เราจะแก้ไขในเรื่องราวเหล่าเนี้ย
02:41:38 → 02:41:41 นะซึ่งมันมันก้ำกึ่งอ่ะเป็น physiology
02:41:42 → 02:41:44 หรือเป็น pathology กันแน่ในปัจจุบันนะฮะ
02:41:44 → 02:41:49 แต่แนวโน้มที่มันจะถูกคิดไปถึงการเป็นพล
02:41:49 → 02:41:52 ที่นะของภาวะ D phenomenon เนี่ยมันมาก
02:41:52 → 02:41:54 ขึ้นเรื่อยๆแล้วเพราะว่ามันมีงานวิจัยตัว
02:41:54 → 02:41:57 เนี้ยที่มันก็บอกว่าเออน้ำมันเพิ่ม a1c
02:41:57 → 02:42:00 ไปตั้ง 0.4% ต่อ 1 รอบของอายุไขแม่เลือด
02:42:00 → 02:42:04 แดงนะก็คือประมาณนี้แหละ 100 วันถึง 120
02:42:04 → 02:42:07 วันเพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อมันก็ต้องวนกลับ
02:42:07 → 02:42:10 มาที่พื้นฐานเนี่ยนะฮะว่าโดยเฉพาะอาหาร
02:42:10 → 02:42:13 เนี่ยเจะแก้ยังไงอาหารแก้ยังไงก็
02:42:13 → 02:42:17 คาร์โบไฮเดรตแก้ไงอ่ะนะเอ่อโปรตีนยังไง
02:42:17 → 02:42:21 แฟตแก้ยังไงน้ำเนิ้มนะสารอาหารรองวิตามิน
02:42:21 → 02:42:26 แร่ธาตุเออย่างเงี้ยแก้ได้มั้ยก็แก้ได้นะ
02:42:26 → 02:42:34 ท่านเข้าใจแล้วก็ต้องต้องต้องไปทำต้องไป
02:42:34 → 02:42:43 ทำอืครับ
02:42:43 → 02:42:46 ผมเมื่อกี้เหมือนมีใครจะถามอะไรหรือเปล่า
02:42:46 → 02:42:51 ครับอก็แชร์ได้นะฮะเรื่องเนี้ยนะหมอว่า
02:42:51 → 02:42:55 ยังไม่ค่อยมีคนพูดถึงนะในประเด็นเรื่อง
02:42:55 → 02:42:59 การแก้ไขดอนมอแต่มันก็แล้วแต่เขาจะคิด
02:42:59 → 02:43:02 ด้วยล่ะเพราะว่าบางทีเขาก็เก็คิดว่ามัน
02:43:02 → 02:43:05 เป็นแค่ physiology นะคนปกติก็เกิด Don
02:43:05 → 02:43:09 phenomenal ได้อะไรอย่างเงี้ยนะเอหรือ
02:43:09 → 02:43:13 ว่าคนที่ไปรีวในเรื่อง DM remission นะ
02:43:13 → 02:43:18 เอ่อแล้วแล้วมันก็มันก็ยังคายอยู่อย่าง
02:43:18 → 02:43:21 เงี้ยดอนนั่นยังยังเกิดขึ้นแทบทุบเท้าเลย
02:43:21 → 02:43:24 อย่างเงี้ยนะแต่หลายคนเนี่ยมามาโพสต์ผล
02:43:24 → 02:43:28 แลบเวลา foll เจาะแลบแล้วโอ้เวซก็ไปด้วย
02:43:28 → 02:43:31 อ่ะนะนะมันไม่ลงอ่ะอย่างน้อยมันไม่ลงอ่ะ
02:43:31 → 02:43:35 นะหรือบวกขึ้นไป 0.1 0.2 อะไรนี้ก็จะรู้
02:43:35 → 02:43:37 สึกคิตี้แล้วล่ะว่าโอ้มันเกิดอะไรขึ้น
02:43:37 → 02:43:41 แล้วจะแก้ยังไงอะไรเงี้ยสรุปว่าไอ้ดอน
02:43:41 → 02:43:45 เนมอในคนไข้ที่เขาเป็นเบาหวานที่ิัแล้ว
02:43:46 → 02:43:48 เนี่ยนะฮะถ้าสมมุติว่ามันดอนอยู่เป็นปี
02:43:48 → 02:43:52 เนี่ยเนี่ยผมผมว่ามันมันอาจจะเป็นหนึ่งใน
02:43:52 → 02:43:55 มาร์เกอร์สำคัญน่ะแต่อาจจะไม่ใช่ตัวชี้
02:43:55 → 02:43:58 ขาดนะว่าคนเนี้ยมันมีิสมันมีความเสี่ยง
02:43:58 → 02:44:02 มันมีแนวโน้มที่เขาจะกลับมาเป็นเบาหวาน
02:44:02 → 02:44:07 ได้อีกรอบใช่ไพ่ได้ 30 คือคือจะมีจะมีจะ
02:44:07 → 02:44:10 มีรีปของของเบาหวานน่ะกลับมาได้ในอีกไม่
02:44:10 → 02:44:13 ช้าใช่ก็ตอนนั้นเคยไลฟเรื่องงาวิจัยใน
02:44:13 → 02:44:15 ฮ่องกงเลยไ
02:44:15 → 02:44:20 ว่าว่า 70% นะของคนที่ตั้งใจเลยอ่ะนะที่
02:44:20 → 02:44:23 จะใช้เเอดต่างๆเนี่ยในการเค้าเรียกว่าร
02:44:23 → 02:44:27 Balance หรือ Reset รวเนี่ยเบาหวานเนี่ย
02:44:27 → 02:44:30 เ่า 100 คนน่ะมันได้ผล 70 คนแต่พอผ่านไป 1
02:44:30 → 02:44:34 ปีเนี่ยพอผ่านไป 1 ปีเนี่ยมันก็ลดลงมา
02:44:34 → 02:44:38 เหลือประมาณประมาณครึ่งนึงของ 70% น่ะแต่
02:44:38 → 02:44:40 พอผ่านไป 3 ปีมันเหลือ 88% เท่านั้นแหละ
02:44:40 → 02:44:43 นะคนนอกอันนั้นเนี่ยกลับมาเป็นเบาหวาน
02:44:43 → 02:44:46 ใหม่
02:44:46 → 02:44:49 อีกงานวิจัยอันเนี้ยมันทำในฮ่องกงแต่ว่า
02:44:49 → 02:44:53 มันเก็บข้อมูลได้ในช่วงระยะสั้นๆคือ 3 ปี
02:44:53 → 02:44:56 นี่เขาใช้วิธีการรักษายังไงครับแบบแบบยัง
02:44:56 → 02:44:57 ไง
02:44:57 → 02:45:02 ฮะก็มีทั้งใช้ยาไม่ใช้ยารวมทั้งใช้ di
02:45:02 → 02:45:06 Control ทุกอย่างนะฮะเพื่อเพื่อมุ่งเป้า
02:45:06 → 02:45:09 ว่าให้เกิด DM remission ตาม criteria
02:45:09 → 02:45:15 นะฮะแล้วหลังจาก DM แล้วเนี่ยนะก็ก็คุมนะ
02:45:15 → 02:45:20 ฮะคุมคุมไปเรื่อยๆอ่ะนะแล้วก็ดูดูว่า 1
02:45:20 → 02:45:22 ปีเป็นยังไง 3 ปีเป็นยังไง
02:45:22 → 02:45:28 นะพอ 3 ปีปุ๊บนะ DM Li เหลือแค่ 88% จาก
02:45:28 → 02:45:34 70% นะนี่เเรียกรีเวสนะรีเวสอีกนะพี่
02:45:34 → 02:45:36 หมอ
02:45:36 → 02:45:40 เออมันมันอาจจะเป็นเพราะว่าเข้าใจว่าเอ้ย
02:45:40 → 02:45:43 ฉันิัแล้วฉันหายแล้วฉันก็เลยกลับไปใช้
02:45:43 → 02:45:45 ชีวิตเหมือนเดิมกินเหมือนเดิมหรือเปล่าร
02:45:45 → 02:45:49 บอกคือส่วนใหญ่ก็คือองค์ความรู้
02:45:49 → 02:45:52 ในเรื่องในเรื่องของความเป็นไปที่เราจะ
02:45:52 → 02:45:55 เป็นเบาหวานเโดยเฉพาะรายละเอียดของ
02:45:55 → 02:45:56 อินซูลิน
02:45:56 → 02:46:00 อ่าหน้าที่การทำงานหรือฮอร์โมนอินซูลิน
02:46:00 → 02:46:03 เนี่ยมันมีมันมีเนื้อในอ่ะมีรายละเอียด
02:46:03 → 02:46:05 ยังไงบ้างอันนี้เราต้องรู้ให้จังหนับเลย
02:46:05 → 02:46:08 นะฮะอันต่อมาก็คือรู้เรื่องคาฟรู้เรื่อง
02:46:09 → 02:46:11 อาหารนี่แหละฮะทั้งคาฟโปรตีนไขมันเนี่ย
02:46:11 → 02:46:15 มันมีผลต่ออินซูลินหมดนะแล้วก็ต้องรู้ใน
02:46:15 → 02:46:19 ไส้ในที่จะกลับไปพยายามบาานหรือหรือควบ
02:46:19 → 02:46:24 คุมนะให้เป็นน่ะให้เป็นนะพอมันได้แล้ว
02:46:24 → 02:46:26 เนี่ยในที่สุดเนี่ยนะมันก็จะมีรายการ
02:46:26 → 02:46:29 อาหารกินแบบอร่อยๆแล้วอยู่ไปได้ระยะเวลา
02:46:29 → 02:46:31 ยาวนาน
02:46:31 → 02:46:36 อคือผมผมดูแล้วยังไม่มีใครพูดเรื่องของ
02:46:36 → 02:46:38 การ recovery ไงพี่
02:46:38 → 02:46:42 หมอเพราะว่าส่วนมากหลายๆคนก็พูดกันแต่
02:46:42 → 02:46:47 เรื่องริัอย่างเดียวแล้วก็คนทั่วไปพอฟัง
02:46:47 → 02:46:49 ว่าริเนี่ยเคก็จะเข้าใจว่าิก็คือหายจาก
02:46:49 → 02:46:52 เบาหวานไงซึ่งซึในความเป็นจริงแล้วมันไม่
02:46:52 → 02:46:55 ใช่นะมันแค่สงบเฉยๆเป็นสงบเป็นขั้นที่ 1
02:46:55 → 02:46:58 เออเอย่างเมื่อกี้ที่คุณพี่หมอแนะนำคุณ
02:46:58 → 02:47:02 อะไรเที่บอกว่ามันจะ recovery เนี่ยมันโห
02:47:02 → 02:47:06 ต้องใช้เวลาเป็นปปีใช่มเป็นปี 14 เดือนนะ
02:47:06 → 02:47:09 ฮะขึ้นไปต้องดูตรง
02:47:09 → 02:47:14 นั้นอืเอถึงจะให้ให้วินิจฉัยวิเคราะห์ว่า
02:47:14 → 02:47:16 เป็น DM
02:47:16 → 02:47:21 recovery คือต้องเกินปีอ่ะฮะเกิน
02:47:21 → 02:47:26 ปีแต่จะ recovery หรือ remission ก็ตาม
02:47:26 → 02:47:29 ที่ 3 ปีเนี่ยมันจะเป็นยังไงนะฮะเอ่อ
02:47:29 → 02:47:32 เพราะว่าตัวเลขของที่ฮ่องกงเนี่ยก็คือยัง
02:47:32 → 02:47:36 ไปได้ต่อได้แค่ 88% น่ะนอกนั้นมันไปต่อ
02:47:36 → 02:47:39 ไม่ได้อ่ะคือ 100 คนที่เป็นเนี่ยเหลือแค่
02:47:39 → 02:47:42 88% นอกนั้นก็คือกลับไปเป็นเบาหวานใหม่
02:47:42 → 02:47:45 อีกรอบนึงใช่มั้ครับใช่ๆกลับไปเอ่อเป็น
02:47:45 → 02:47:54 เบาวงเบาหวานเอ่อเป็นรอบรอบๆต่อ
02:47:54 → 02:47:58 ไปก็ถ้าเ้าเไม่รู้ซในอาหารมันก็พูดยาก
02:47:58 → 02:48:01 เนาะอืเพราะมันพลาดนิดนึงมันก็กลับมาเลย
02:48:01 → 02:48:04 อ่ะเออเพราะฉะนั้นในโลกเราเนี่ยมันก็จะวน
02:48:04 → 02:48:07 เวียนอยู่กับน้ำตาลกับไขมันอยู่งี้แหละนะ
02:48:07 → 02:48:12 ฮะนะซึ่งเป็นเป็นอะไรที่มันมันก็เกิดขึ้น
02:48:12 → 02:48:15 ตั้งอยู่ดับไปอ่ะนะน้ำตาลไขมันเนี่ยเป็น
02:48:15 → 02:48:22 ไม่เป็นนะรักษาซะจนล้าเงอะนะนี่คุณเบบี้
02:48:22 → 02:48:25 แจกกี้บอกตอนนี้หนูใช้ประโยคเปลี่ยน
02:48:25 → 02:48:28 เปลี่ยนจากวิธีมาเป็นวิถีครับจะได้ทำได้
02:48:28 → 02:48:34 ยาวๆเออใช่เออแล้วมีเปลี่ยนอืให้กำลังใจ
02:48:34 → 02:48:38 กับตัวเองคือคือตอนเเท่าที่ทราบนะครับไอ้
02:48:38 → 02:48:42 ผมว่าหมอหมอกระแสหลักอ่ะเค้ายังออกมาพูด
02:48:42 → 02:48:46 กันอยู่นะบางท่านนะหรว่าเพราบาหวานทำให้
02:48:46 → 02:48:50 สงบได้แต่แต่เหมือนกับเค้าเพยายามจะบอก
02:48:50 → 02:48:54 ว่ามันไม่หายอ่ะอ๋อ
02:48:55 → 02:48:59 เออซึ่งซึผมว่าเค้าเพูดเนี่ยจริงๆ่าในมุม
02:48:59 → 02:49:02 มองของเราเนี่ยมันไม่ใช่ฮะจริงๆมันหายอ
02:49:02 → 02:49:06 เพียงแต่ว่าไอ้ขั้นตอนที่จะหายเนี่ยคือ
02:49:06 → 02:49:09 ขั้นตอนหลังิัแล้วเราจะให้ร่างกายมัน
02:49:09 → 02:49:13 Fully rec จริงๆอ่ะมันมันมันค่อนข้าง
02:49:13 → 02:49:18 ที่จะต้องใช้ใช้ความอดทนแล้วก็มีแนวทาง
02:49:18 → 02:49:21 ที่ถูกต้องเนี่ยอาจมันอาจจะไม่ต้องเคร่ง
02:49:21 → 02:49:24 มากเท่ากับช่วงที่จะเข้ารัแต่มันต้องใช้
02:49:24 → 02:49:29 ระยะเวลาที่นานกว่าอืเพราะว่ามันอาจารย์
02:49:29 → 02:49:31 ว่ามันมันมีงานวิจัยใช่มั้ยฮะหรือไงนะที่
02:49:32 → 02:49:36 ว่า 14 เดือนเนี่ยใช่ได้ขนาในขนาดที่รั
02:49:36 → 02:49:37 เนี่ยมัน 3 เดือนหรืออย่างมากก็ 5-6
02:49:37 → 02:49:40 เดือนถูกมั้ยฮะถ้าถ้าเคร่งจริงๆนะคจกเลย
02:49:41 → 02:49:43 นะดีเลยนะอะไรอย่างเงี้ยรอบของเม็ดเลือ
02:49:43 → 02:49:46 แดง 1 รอบของอายุเม็ดเรือแดงมัน 3 เดือน
02:49:46 → 02:49:48 อาจจะมากกว่านั้นหน่อยนึงอย่างมาก 5 5
02:49:48 → 02:49:51 เดือน 6 เดือนในความรู้สึกผมนะอืถ้าถ้า
02:49:51 → 02:49:54 ถ้าเคร่งนะถ้าไม่เคร่งตัวใครตัวมันนะแต่
02:49:54 → 02:49:57 แต่แต่ว่าไอ้ rec เนี่ย 14 เดือนเนี่ยใน
02:49:57 → 02:50:01 ความเข้าใจผมเนี่ยมันต้องคนที่มีความรู้
02:50:01 → 02:50:04 แล้วมันต้องมีทั้งอาจจะอะไรอ่ะอาจจะมีขาบ
02:50:04 → 02:50:07 ไซคิบ้างถ้าถ้ามันไม่ได้อินซูรินมากหรือ
02:50:07 → 02:50:09 มันอาจจะต้องออกกำลังกายต้องไม่เครียด
02:50:09 → 02:50:12 เกินต้องนอนพออือะไรแบบเนี้ยแล้วก็ไม่
02:50:12 → 02:50:16 ประมาทหลุดปล่อยอ่ะอืหรือแม้กระทั่งไม่
02:50:16 → 02:50:19 ต้องเอาเอาใครกันไกลเลยนะตัวตัวผมเอง
02:50:19 → 02:50:23 เนี่ยตัวหมอโต้งเนี่ย 4 ปีหลังิัเนี่ยยัง
02:50:23 → 02:50:26 Recover ไม่ได้อ่ะรู้ตัวเลยถึงแม้ว่า a1c
02:50:26 → 02:50:30 ยังสวยแต่ว่าไม่ไม่สามารถกลับไปไปกิน
02:50:30 → 02:50:32 ประมาทได้หลุดนิดหลุดหน่อยอะไรงเงี้ย
02:50:32 → 02:50:36 โอ้โห gki มีปัญหา ckm ตรวจเคีโตนหายจ้อย
02:50:37 → 02:50:39 ไปเป็นอทิตย์อย่างเงี้ยมันมันก็รู้อยู่
02:50:39 → 02:50:44 แล้วว่าตัวเองยังไม่ปกติอ่ะอื
02:50:44 → 02:50:48 ๆอืนะเพราเพราะฉะนั้นไอ้ rec เนี่ยผมคิด
02:50:48 → 02:50:50 ว่ามันมันมันมันมันพั้วไม่ไม่มีทางมันไม่
02:50:50 → 02:50:53 ใช่เพียงแต่ว่าโอเคเราก็ต้องยอมรับแต่มัน
02:50:53 → 02:50:56 ไม่ง่ายไม่ง่ายมันประมาทไม่ได้มันต้อง
02:50:56 → 02:50:58 เล่นเกมยาว
02:50:58 → 02:51:03 ฮะแต่ในสต็ปแรกๆเนี่ยก็ให้กำลังใจโดยการ
02:51:03 → 02:51:06 ที่ต้องให้มิให้ได้
02:51:07 → 02:51:11 ก่อนแล้วก็หาความรู้หาองค์ความรู้นะหาแนว
02:51:11 → 02:51:14 ทางการปฏิบัติและหาวิธีการที่จะอยู่กับ
02:51:14 → 02:51:19 การ emission จนเปลี่ยนเป็น recovery
02:51:19 → 02:51:22 ก็คือเหมือนต้องต้องอีกต้องคูณ 3 อ่ะิั
02:51:22 → 02:51:26 คูณ 3 น่ะถึงจะเริ่มให้คำว่าเอออาจจะ
02:51:26 → 02:51:30 recovery นะเออ
02:51:30 → 02:51:34 เซึ่งการที่จะไปถึงจุดนั้นเนี่ยมันรู้แต่
02:51:34 → 02:51:37 เรื่องตัดคาฟมันไม่พอแล้วฮะพี่หมออ๋อไม่
02:51:37 → 02:51:40 ได้ต้องรู้รายละเอียดทุกตัวนะฮะนะเมื่อ
02:51:40 → 02:51:42 เมื่ออาทิตยที่แล้วนี่เราเราขยี้กันใน
02:51:42 → 02:51:44 เรื่องเบาหวานเนี่ยไม่ใช่เรื่องของน้ำตาล
02:51:44 → 02:51:47 อย่างเดียวเนี่ยนะมันก็สั่นสะเทิมวงการ
02:51:47 → 02:51:50 เหมือนกันนะพี่หมอเหรอเรามีเอาไปมีเอาไป
02:51:50 → 02:51:52 แชร์ต่ออะไรด้วยเยอะแต่ผมไม่ไม่ค่อยจะตาม
02:51:52 → 02:51:56 ไปดูมากนะเดี๋ยวของขึ้นเพราะแต่ละคนเก็จะ
02:51:56 → 02:52:00 มีมุมมองของเขาอ่ะเนาแต่ว่าก็ต้องแปลจาก
02:52:00 → 02:52:02 ไทยเป็นไทยอีกอ่ะว่าเออมันไม่ใช่เรื่อง
02:52:02 → 02:52:05 ของน้ำตาลอย่างเดียวใช่มั้พี่หมอก็พูดมา
02:52:05 → 02:52:09 ตั้งนานแล้วอือแล้วฮอร์โมนก็ไม่ใช่
02:52:09 → 02:52:14 อินซูลินตัวเดียวแต่อินซูลินเนี่ยเป็นตัว
02:52:14 → 02:52:18 หลักเพราะพวกนี้เมีทีมเวิร์คของเามี
02:52:18 → 02:52:20 เบื้องเบื้องหน้าเบื้องหลัง
02:52:20 → 02:52:24 เออเพรามึงก็ต้องเข้าใจอ่ะเข้าใจพื้นฐาน
02:52:24 → 02:52:28 พวกเนี้ย
02:52:29 → 02:52:30 อืครับ
02:52:31 → 02:52:36 ผมตอนนี้ก็รู้สึกวันวันนี้นี่จะคึกื้นกัน
02:52:36 → 02:52:40 เรื่องไฟกกไก่นะพี่หมอเ้ยพี่วอบอกว่า
02:52:40 → 02:52:43 เดี๋ยวนี้มีหวีที่เป็นแสงสีแดงด้วยนะมัน
02:52:43 → 02:52:46 ช่วยได้ี่หมอก็ไม่
02:52:46 → 02:52:50 รู้นี่มีคุณเบบี้บอกดูใช้อะไรเนี่ยฟูฟูริ
02:52:50 → 02:52:55 หินเปียอะไรเนี่ยมีไฟสีแดงนวดหน้าโอโอหมี
02:52:55 → 02:52:58 เทคนิคเยอะเว้ยเออแต่ผมก็เพิ่งรู้นะว่า
02:52:58 → 02:53:00 ไอ้แสงสีแดงนี่มันช่วยเรื่องของ
02:53:00 → 02:53:02 ไมโทคอนเดรียเลยเพี่หก็เป็นไมเอ่อ
02:53:02 → 02:53:04 ไมโทคอนเดรีย
02:53:04 → 02:53:07 regeneration เป็นเป็นเป็นปัจจัยนึงอ่ะ
02:53:07 → 02:53:11 ฮะนะของทางฟิสิกส์นะเกี่ยวกับเรื่อง
02:53:11 → 02:53:15 เรื่องพลังงานมันแล้วมันเห็นผลแบบ
02:53:15 → 02:53:19 significant มั้ยพี่หมอก็เท่าที่ดูที่
02:53:19 → 02:53:23 เขาเอามาพรีเซนอะไรกันนะหรือว่ากูรูต่างๆ
02:53:23 → 02:53:25 เนี่ยที่เข้าไปในแนวทางพวกนี้เนี่ยเาก็มี
02:53:25 → 02:53:29 รายงานเขมาเรื่อยๆอ่ะฮะอ๋อมีรายงานออกมา
02:53:29 → 02:53:35 เรื่อยๆอ่ะก็ดูแบบดูแบบน่าจะมีนัยยะนะว่า
02:53:35 → 02:53:39 ว่ามันมันก็ใช้ไปเลยนะ 1 มันไม่แพงแล้วก็
02:53:39 → 02:53:43 2 เอ่อไม่ได้เสียเวลามากอะไรนะนะแล้วก็
02:53:43 → 02:53:45 ทุกอย่างเนี่ยอยู่ที่ขั้นตอนการปฏิบัติ
02:53:45 → 02:53:50 แล้วก็การประจักษ์ซึ่งผลลัพธ์นะเอ่อได้
02:53:50 → 02:53:53 ไม่ได้ดีไม่ดีถ้าไม่ดีก็ไม่ต้องไปใช้ต่อ
02:53:53 → 02:53:56 นะเอแล้วก็แล้วก็มันก็ไม่ได้เสียหายเยอะ
02:53:56 → 02:54:00 นะราคามันก็แค่เป็นระดับ 100 กว่าบาทมั้ง
02:54:00 → 02:54:02 ไม่ถึง 100 ด้วยพี่หมอ 60 60 กว่าบาทเอง
02:54:02 → 02:54:05 พี่หมอพี่อะไรนะพี่ไพโรจเอาเอามาปล่อยของ
02:54:05 → 02:54:10 แล้วเนี่ยเอนะนั่น
02:54:10 → 02:54:13 แหละมันมันพูดไปก็คือมันไม่ได้ส่งผลเสีย
02:54:13 → 02:54:16 อะไรนอกจากถ้าเกิดคุณไปไปจ่อใกล้ๆมันก็จะ
02:54:16 → 02:54:22 ร้อนเออวไม่เออเหมือนการใช้ดินน้ำลมไฟ
02:54:22 → 02:54:27 เนี่ยแต่ก็มีการดัดแปลงแปรรูปมาให้สะดวก
02:54:27 → 02:54:31 นิดนึงเออังไงก็ใช้ก่อนนอนนี่แหละนะอย่าง
02:54:31 → 02:54:35 น้อยเนี่ยมันอาจจะมีคลื่นมีรังสีมีประจุ
02:54:35 → 02:54:38 อะไรต่างๆที่จะไปช่วยเหนียวน้ำการนอนหลับ
02:54:38 → 02:54:42 เสริมไปด้วยนะโอเคครับอีกเรื่องนึงพี่หมอ
02:54:42 → 02:54:45 เรื่องคีโตสครับของพี่ที่หมอมอโต้เเเป็น
02:54:45 → 02:54:49 นะครับพี่หมอะอ่าอันนี้เนี่ยของหมอมอโต้
02:54:49 → 02:54:52 เนี่ยที่เราแชร์กันไปเนี่ยแกเป็นทรงพุง
02:54:52 → 02:54:55 เครียดใช่่มั้ยที่บอกว่ามันจะเกิดหลัง
02:54:55 → 02:54:57 เกิดเกิดนานกว่าอ่ะกว่ากว่าที่จะเป็นน่ะ
02:54:57 → 02:55:03 นะใช่แล้วในสคนสายแป้ง่ะครับพี่หมอมันใช้
02:55:03 → 02:55:05 วิธีแก้แบบเดียวกันหรือเปล่าก็แบบเดียว
02:55:05 → 02:55:08 กันนะฮะใส่แป้งเนี่ยมันเกิดเร็วเพราะ
02:55:08 → 02:55:13 ปริมาณไขมันสะสมมันไม่เยอะอ๋อซ่อเหมือน
02:55:13 → 02:55:16 กันใช่มั้ยครับเออมันเผาไขมันเนี่ยมันก็
02:55:16 → 02:55:19 คือไขมันเนี่ยมันก็จะเป็นแหล่งที่เก็บงำ
02:55:19 → 02:55:23 ของไอ้สารพิษของอะไรต่างๆที่ไม่ดีอ่ะครับ
02:55:23 → 02:55:26 เพราะว่า Animal Bas เนี่ย Animal
02:55:26 → 02:55:29 Kingdom เนี่ยเอ่อวิวัฒนาการก็คือไม่
02:55:29 → 02:55:31 พยายามที่จะเอาของไม่ดีไปเก็บไว้ที่กล้าม
02:55:31 → 02:55:34 เนื้อที่ข้อต่อที่กระดูกที่เส้นเอ็นอะไร
02:55:34 → 02:55:36 อย่างเงี้ยไม่งั้นแล้วมันจะสูญพันไงนะ
02:55:36 → 02:55:39 เพราะสิ่งเหล่านี้มันจะถูกทำลายก็เลยเอา
02:55:39 → 02:55:43 ไปไว้ที่อวัยวะอ่าที่ไม่ไม่ได้ค่อยจำเป็น
02:55:43 → 02:55:45 อะไรต่างๆก็คือเนื้อเยื่อไขมุงไขมันอะไร
02:55:45 → 02:55:49 ต่างๆอืครับถึงจะไปสะสมที่ตับเติบอะไร
02:55:49 → 02:55:51 ต่างๆอีกเรื่องนึงครับเพราะฉะนั้นใน
02:55:51 → 02:55:54 ปัจจุบันการที่เราหันมากิน CD kcd กิน
02:55:54 → 02:55:58 Animal อะไรต่างๆเนี้ยนะมันก็พลิกภัยใน
02:55:58 → 02:56:00 กล้ามเนื้อข้อต่อเอ็นกระดูกอะไรต่างๆก็
02:56:00 → 02:56:04 ยังไม่ได้เยอะครับแต่การที่พืชมันไม่มี
02:56:04 → 02:56:07 ตีนเดินเนี่ยพอฉีดยาฉีดสารนู่นสารนี่อะไร
02:56:07 → 02:56:10 ต่างๆเนี่ยจะฉีดดอกฉีดใบฉีดรากฉีดต้นอะไร
02:56:10 → 02:56:12 ต่างๆมันรับหมดะนะเพราะมันเคลื่อนไหวไม่
02:56:12 → 02:56:19 ได้นะความเป็นพิษแอนตี้เอ่อนินอะไรนะแไฟ
02:56:19 → 02:56:25 โตอะไรเคมิคอลอะไรต่างๆมันก็เยอะไปครับ
02:56:25 → 02:56:30 เออเออก็ก็เนี่ยนะนี้เหตุที่คนสายพรุง
02:56:30 → 02:56:34 เครียดคนอ้วนๆคนตัวใหญ่ๆไขมันเยอะๆอ่ะนะ
02:56:34 → 02:56:37 บางทีมันก็เกิดช่วงแรกๆเลยอ่ะนะฮะถ้าพิษ
02:56:37 → 02:56:40 มันเยอะนะอ๋อแล้วแต่คนด้วยแล้วแต่ว่าพิษ
02:56:40 → 02:56:44 สะสมในตัวมากน้อยแค่ไหนเออแล้วบางคนบางคน
02:56:44 → 02:56:47 ไม่มีพิษอ่ะนะพิษน้อยก็ไม่เกิดก็ไม่เป็น
02:56:47 → 02:56:51 ไรไม่เกิดก็ไม่เปือหรือว่าบางทีมันมันยัง
02:56:51 → 02:56:54 ไปอะไรนะเค้าเรียกว่าดึงเอาไขมันส่วนนั้น
02:56:54 → 02:56:57 ออกมาไม่ถึงใช่มั้ยถึงอ่าเพราะไขมันที่
02:56:57 → 02:56:57 มัน
02:56:57 → 02:57:02 อองต reversible เนี่ยมันก็จะจะอยู่ลึกๆๆ
02:57:02 → 02:57:07 ๆๆไปนะแต่มันมีพิษเ่ะมันมีพิษแทรกอยู่
02:57:07 → 02:57:10 ด้วยเออเพราะฉะนั้นกว่าจะไปถึงจุดที่มัน
02:57:10 → 02:57:14 มีพิษเยอะๆอะไรอย่างเงี้ยนะมันก็อเอ่อมัน
02:57:15 → 02:57:18 ก็ต้องใช้ไขมันที่ไม่มีพิษไปก่อนน่ะช่วง
02:57:18 → 02:57:22 แรกๆถ้าเกิดเราเราไม่ได้เติมพลังงานอ่อ
02:57:22 → 02:57:25 ที่ไปให้เขาใช้ตามปกติอ่ะแล้วก็ร่างกายจะ
02:57:25 → 02:57:28 ต้องไปใช้ไขมันเนี่ยมันก็ใช้ไขมันที่ไม่
02:57:28 → 02:57:31 มีพิษไปก่อนกว่าจะไปถึงไขมันที่มีพิษมัน
02:57:31 → 02:57:35 ก็นานไปหน่อยแต่ก็สามารถที่จะไปเกิดคีโตส
02:57:35 → 02:57:39 หรือคีโตฟลูได้แต่ส่วนใหญ่นะถ้าเกิดใน
02:57:39 → 02:57:42 ระยะท้ายๆหลายๆเดือนน่ะ 9 เดือน 10 เดือน
02:57:42 → 02:57:45 เงี้ยครับพวกนี้มันจะเป็นคีโตสมันจะเป็น
02:57:45 → 02:57:48 ปัญหาที่ผิวหนังไม่ค่อยมีคีโตฟูอ่ะแต่ถ้า
02:57:48 → 02:57:52 เป็นคีโตฟูมันจะคีโตฟูในช่วงแรกๆเลยอ่ะนะ
02:57:53 → 02:57:57 อืจะคีโตฟูมันก็จะหนักไป
02:57:57 → 02:57:59 หมด
02:57:59 → 02:58:03 อืเพราะว่าอย่างอย่ามามาเซอร์ไพรส์ตรงว่า
02:58:03 → 02:58:07 ที่ว่าที่หมอมอโต้ให้กินอะไรนะน้ำมะเขือ
02:58:07 → 02:58:12 เทศนะครับเอแล้วมันก็เออเห็นผลเร็วใช้ได้
02:58:12 → 02:58:18 เลยนะเออก็ต้องมันมีสารไลโคปีนนะฮะนะเออ
02:58:18 → 02:58:20 แล้วก็อะไรอีกตัวไม่รู้เป็นสารึกษาเคมี
02:58:20 → 02:58:23 ตัวเก่งทีนี้หมอจะบอกอีกนิดนึงว่าเอ่อคน
02:58:23 → 02:58:26 ที่เป็น D ฟมอเนี่ยนะฮะนะมื้อเย็นเนี่ย
02:58:26 → 02:58:29 ถ้าสามารถกินน้ำมะเขือเทศได้ด้วยจะดีมาก
02:58:29 → 02:58:34 นะนะเพราะว่ารู้สึกว่ามันมีอยู่ช่วงนึง
02:58:34 → 02:58:38 หมอจะเอามาไลฟ์ในเรื่องของของอ่าอาหาร 1
02:58:38 → 02:58:41 อย่างเนี่ยที่จะลดปัญหาเรื่องฟมอได้เนี่ย
02:58:41 → 02:58:44 คำตอบคือให้กินน้ำมะเขือเทศมื้อเย็นนะฮะ
02:58:44 → 02:58:48 นะกินน้ำมะเขือเทศสัก 1 กล่องประมาณ 2002
02:58:48 → 02:58:53 50 ซีซอ่ะนะในมื้อเย็นในมื้อเย็นนะเพราะ
02:58:53 → 02:58:57 พวกเนี้ยมันจะมีตัวตัวเด่นเนี่ยคือไโปีน
02:58:57 → 02:59:01 กับกับตัวอะไรอีกตัวนึงก็ไม่รู้นะซึ่งพวก
02:59:01 → 02:59:02 เนี้ยมันจะไปทำให้เกิด insulin
02:59:03 → 02:59:06 sensitivity นะฮะนะพี่หมอ sensitivity
02:59:06 → 02:59:09 นะพี่หมอครับแล้วถ้าเรากินเป็นมะเขือเทศ
02:59:09 → 02:59:11 สดได้
02:59:11 → 02:59:15 มยเอ่ามะเขือเทศสดหรือว่ามะเขือเทศคือได้
02:59:15 → 02:59:17 ขาเคยได้ยินว่าไลโคปีนเนี่ยมันต้องโดน
02:59:17 → 02:59:20 ความร้อนก่อนถึงจะมีไลโคปีนเพเอ่อเพิ่มอ
02:59:20 → 02:59:26 ครับพี่บอกใช่แต่การอือ่านี่นะการทำอ่า
02:59:26 → 02:59:28 น้ำมะเขือเทศของดอยคำเนี่ยของโครงการหลวง
02:59:28 → 02:59:32 เนี่ยนะเขาเป็นวิธีการแปรรูปที่ไปเพิ่ม
02:59:32 → 02:59:34 ปริมาณของไลโคปีนโดยไม่ต้องไปผ่านความ
02:59:35 → 02:59:37 ร้อน
02:59:37 → 02:59:41 นะมันคือการแปรรูปที่ดีไงนะที่มันเป็น
02:59:41 → 02:59:44 ออร์แกนิคแล้วมันเพิ่มปริมาณความเข้มข้น
02:59:44 → 02:59:47 ของไลโคปีนเนี่ยนะโดยไม่ต้องไปผ่านความ
02:59:47 → 02:59:51 ร้อนนะเพราะไลโคปีนเนี่ยนะถ้ากินสดเนี่ย
02:59:51 → 02:59:53 นะไอ้มะเขือเทศเนี่ยถ้ากินสดเนี่ยไลโคปีน
02:59:53 → 02:59:57 ไม่เยอะแต่ไปผ่านความร้อนสักหน่อยเนี่ย
02:59:57 → 03:00:02 มันจะเยอะขึ้นเนี่ยนี้คือการ ess ที่จะไป
03:00:02 → 03:00:04 เพิ่มไปเพิ่มสารศึกษา
03:00:04 → 03:00:08 เคมีสึกษาเคมีแล้วมันยังไปเพิ่มเบต้าคีน
03:00:08 → 03:00:14 ด้วยอืครับผมนี่ไงโสแล้วมันดีอ่ะก็มีอ่ะ
03:00:14 → 03:00:17 ใช่มล่ะก็เหมือนกับน้ำมันอากาศเย็นน่ะ
03:00:17 → 03:00:22 แล้วโปเสแล้วสารพษาเคมีมันเยอะขึ้นนะแล้ว
03:00:22 → 03:00:24 ของไขมันอิ่มเดี่ยวซ้อนเน้ำมันมะกอกมันก็
03:00:24 → 03:00:26 เปลี่ยนไปด้วยจากการ
03:00:26 → 03:00:27 โปเส
03:00:27 → 03:00:31 อืมะกอกมะกอกที่เป็นลูกอ่ะนะอิ่มเดี่ยว
03:00:31 → 03:00:34 ซ้อนมันก็แบบนึงเพราะว่ามะกอกที่มันเป็น
03:00:34 → 03:00:38 ลูกเมันก็ยังมีแป้งมีโปรตีนนิดหน่อยมีมี
03:00:38 → 03:00:41 กากใยมีอะไรต่างๆแต่เอามะกอกเนี่ยมาโส
03:00:41 → 03:00:44 เป็นน้ำมันมะกอกสกัดเจน Extra เวจิออย
03:00:44 → 03:00:48 เนี่ยอุ๊ยปรากฏว่าเอ่อสัดส่วนของไขมัน
03:00:48 → 03:00:52 ต่างๆกลับดีขึ้นนะารศึกษาเคมีก็เยอะขึ้น
03:00:52 → 03:00:55 อีกนะฮะเยอะขึ้นกว่าอีมะกอกเป็นลูกๆที่
03:00:55 → 03:00:59 เป็นเรฟเอออืๆกันนะ
03:00:59 → 03:01:03 อือันนี้พูดถึงเรื่อง D phenomenal ก็
03:01:03 → 03:01:07 เลยดีแล้วล่ะนะจะบอกว่าน้ำมะเขือเทศนะฮะ
03:01:07 → 03:01:11 ลองนะให้เหน่งไปลองด้วยนะเนี่ยเ่อก็ลอง
03:01:11 → 03:01:14 ทานตอนมื้อเย็นเนี่ยหรือจะเป็นก่อนนอนก็
03:01:14 → 03:01:19 ได้นะแล้วแต่เรานะเนี่ยก็ดูซิว่าจะพอช่วย
03:01:19 → 03:01:23 ลดลาวาศอกในเรืื่องเนมอตอนเช้าได้ไม
03:01:23 → 03:01:28 นะที่ที่ที่กลัวว่าเอ้ยของดอยคำมันไม่ได้
03:01:28 → 03:01:31 ใส่น้ำตาลใช่มั้ยพี่บอกไม่ใส่ครับก็เป็น
03:01:31 → 03:01:36 99 อ๋อแล้วก็เป็นโลโซเดียมเป็นโอ่าวันละ
03:01:36 → 03:01:39 สัก 1 1 1 ก 1 กล่องหรอ
03:01:39 → 03:01:43 ครับ 250 ก
03:01:43 → 03:01:47 อืความถี่รครับพี่หมอคกินมื้อเย็นกินได้
03:01:47 → 03:01:51 วัน 1-3 กล่องเออโอ๊ 1-3 กล่องเลยเหรอ
03:01:51 → 03:01:54 ครับในช่วงที่ป่วยไงในช่วงที่มันอ๋อใน
03:01:54 → 03:02:00 ช่วงที่แท้อ๋อเป็นุมแท้เป็นผื่นเป็นอ่า
03:02:00 → 03:02:05 เป็นหวัดอะไรก็แล้วแต่นะคุณเ่งบอกปลดล็อค
03:02:05 → 03:02:07 กลับมากินน้ำมะเขือเทศตอนเย็นได้แล้วต้อง
03:02:07 → 03:02:10 ของดอยคำด้วยใช่มั้ยพี่หมอเต้องดอยคำนะฮะ
03:02:10 → 03:02:12 โลโซเดียม
03:02:12 → 03:02:17 99% อ๋อเ้าสมมุติถ้าสมมุติว่าอ่าหาดอยคำ
03:02:17 → 03:02:20 ไม่ได้แล้วเอามะเขือเทศสดมามามาผ่าน
03:02:20 → 03:02:24 กระบวนการของเราเองนี่ได้มครับก็พอได้ก็
03:02:24 → 03:02:28 กินไปเหอะอย่าไปเคร่งคัดมากแต่อีดอยคำ
03:02:28 → 03:02:32 เนี่ยมีทุกเซเว่นแหละออมีเซเว่นใช่
03:02:32 → 03:02:36 มยไม่ต้องถามเผื่อไว้บางคนเเชอบแบบเรว
03:02:36 → 03:02:38 Food อะไรอย่างเงี้ยครับ
03:02:38 → 03:02:43 เออแล้วแต่ลองดูลองดูแล้วแล้วอ่าพวก PM
03:02:43 → 03:02:46 2.5 นะครับพี่หมอที่มันเยอะเนี่ยเราเรา
03:02:46 → 03:02:50 มีอะไรที่มันพึกษาเคมีอะไรที่มันช่วยต้าน
03:02:50 → 03:02:55 การอักเสบอะไรพวกนี้เป็นพิเศษมั้ยครับ
03:02:55 → 03:02:59 อืคือคือก็เหมือนเดิมเก็คือกิน low C
03:02:59 → 03:03:01 High Good Fat เนี่ยนะคือให้นึกซะว่า
03:03:01 → 03:03:04 PM 2.5 เนี่ยมันเป็นอะไร
03:03:04 → 03:03:08 ที่ที่มันเหนียวอ่ะที่มัน
03:03:08 → 03:03:11 เหนียวอะไรก็ตามที่มันจะไปจับอยู่แบบ
03:03:11 → 03:03:15 เหนียวๆจับอย่าเงี้ยนะมันจับแล้วมันจะยึด
03:03:15 → 03:03:19 คือพีคือมันจะยึดแบบชนิดที่ไม่ไปไหนอ่ะ
03:03:19 → 03:03:22 ไม่ไม่ไม่ไม่นะแล้วก็เกิดปัญหาอะไรต่างๆ
03:03:23 → 03:03:26 พวกเนี้ยนะนะก็เหมือนเหมือนเราต้องกิน ow
03:03:26 → 03:03:29 C High Fat เนี่ยให้มันลื่นๆนะ
03:03:29 → 03:03:32 คอเลสเตอรอลเยอะๆอะไรเงี้ยนะจะไปทำให้มัน
03:03:32 → 03:03:36 ลื่นไปทำให้มันเกิดการเ่อไม่ไม่จับติดไม่
03:03:36 → 03:03:41 ไม่เหนียวไม่ไม่ยึดไม่ติดอะไเงี้อืครับผม
03:03:41 → 03:03:44 คือ PM 2.5 เนี่ยจริงๆแล้วเนี่ยมันก็มัน
03:03:44 → 03:03:46 เกิดเรื่องเกิดราวในไครมากที่สุดก็คือพวก
03:03:46 → 03:03:51 ที่ดื้อสุดเอ๋อครับก็ทุกวันนี้หมอตรวจคน
03:03:51 → 03:03:56 ไข้ uri ตรวจคนไข้ opd อะไรต่างๆที่เขมา
03:03:56 → 03:04:00 แต่ละคนมีปัญหาก็นี่เนี่ยนะดืสุรินทร์
03:04:00 → 03:04:03 เป็นหลักพื้นๆ
03:04:03 → 03:04:06 นะมันก็ดื้อกันเกือบหมดแล้วนะครับเดี๋ยว
03:04:06 → 03:04:10 นี้ดื้อกันเยอะมาก
03:04:10 → 03:04:13 ะรวมทั้งวัคซีนโควิด mrna ด้วยมั้ยฮะที่
03:04:13 → 03:04:18 เค้ากลัวกันเนี่ยใช่เแหละ
03:04:18 → 03:04:22 ก็แนวทางก็คือโหา Good Fat ทำนองนี้แหละ
03:04:22 → 03:04:28 หาอะไรลื่นๆ
03:04:28 → 03:04:32 ไปคือถ้าร่างกายเราแข็งแรงไอ้พวกนี้มันก็
03:04:32 → 03:04:35 ทำอะไรเราได้ไม่ไม่เท่าไหร่ใช่มั้ยพี่หมอ
03:04:35 → 03:04:37 มันก็ขับได้ใช่มั้ย
03:04:37 → 03:04:41 อืก็คือพวกนี้เต้องมาเต้องไปอยู่แล้วนะ
03:04:41 → 03:04:45 เหมือนเชื้อโรคอะไรต่างๆนะแต่ถ้าเรา
03:04:45 → 03:04:48 เตรียมสภาพงคงร่างกายจากอี 4 ขาของเรา
03:04:48 → 03:04:53 อย่างดีนะพวกนี้ก็อยู่ไม่นานฮะนะร่างกาย
03:04:53 → 03:04:58 ก็มีกลไกอ่ะนะที่จะพาเออกไปไม่สะสมแต่ถ้า
03:04:58 → 03:05:02 เราไปเปิดสวิตช์ให้มันมีอินซูลินให้มันมี
03:05:02 → 03:05:05 ของไม่ดีอะไรต่างๆเนี่ยรอท่าอยู่ทั้งใน
03:05:05 → 03:05:08 ระบบเลือดระบบเนื้อเยื่ออะไรต่างๆตรงนั้น
03:05:08 → 03:05:14 ตรงนี้นะเอ่อเคก็เคก็มาผสมโลง
03:05:14 → 03:05:18 อ่ะอย่างเค้าเข้าทางจมูกแล้วคุณเป็นจิก
03:05:18 → 03:05:21 อะไรในตีดเนี่ยแล้ววันๆคุณก็กินแต่ 2 น้ำ
03:05:21 → 03:05:23 อ่ะน้ำตาลกับน้ำมันพืชน้ำตาลกับน้ำมันพืช
03:05:23 → 03:05:24 แปะ
03:05:25 → 03:05:29 ลูกใช่ๆเข้าไปรูจมูกอ่ะนะจิกไนติมันจะแย่
03:05:30 → 03:05:34 แค่ไหนนะครับรู้สึกสัดาเออช่วงสัปดาห์ที่
03:05:34 → 03:05:37 มีเต็มไปหมดช่วงสัปดาห์ที่มี BM เยอะๆนี่
03:05:37 → 03:05:40 พี่หมอเงียบเลยนะช่วงนั้นน่ะโหคนไข้มีแต่
03:05:40 → 03:05:45 เรื่องไอกับเรื่องแบบเป็นแบบเป็น 2-3
03:05:45 → 03:05:51 อาทิตย์เป็นเดือนน่ะนะไปจนมลูกจะ
03:05:51 → 03:05:55 ปิ้นทำยังไงอ่ะจะช่วยเ้ายังไงอ่ะขนาดไหน
03:05:56 → 03:05:58 วะ
03:05:58 → 03:06:02 เนี่ยอันนี่คือระบบพวกปอดพวกหลอดลมเลยใช่
03:06:02 → 03:06:06 มั้ยพี่หมอมันไปหมดเลยมันเป็นออจี้นะฮะนะ
03:06:06 → 03:06:10 อก็คือไอ้พวกเจ็บคอเป็นหวัดเป็นน้ำมูก
03:06:10 → 03:06:12 หลอดลมอักเสบอะไรต่างๆชั่วร่งชั่วโรค
03:06:12 → 03:06:15 แบคทีเรียไวรัสเนี่ยมันไปแล้ว่ะฮะนะแต่
03:06:15 → 03:06:18 ที่มันไม่เกิดการสมานคืนเเพราะว่าเยื่อ
03:06:18 → 03:06:21 บุกพวกเนี้ยนะเยื่อบุกพวกเนี้ยมันก็โดน
03:06:21 → 03:06:25 โดนเค้าเรียกการซ้ำเติมอนะแต่ส่วนใหญ่มัน
03:06:25 → 03:06:27 เป็นการซ้ำเติมที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรค
03:06:27 → 03:06:30 มันเป็นการซ้ำเติมจากอ้าฝุ่น PM 2.5
03:06:30 → 03:06:34 เป็นการซ้ำเติมจากน้ำตาลกับน้ำมันพืชนะ
03:06:34 → 03:06:39 ที่กินเข้าไปแล้วมันเป็น rand ไซคนะอืตอน
03:06:39 → 03:06:42 นี้เจอเคสเยอะมากเลยครับอาจารย์ที่ที่แบบ
03:06:42 → 03:06:45 ว่าเป็นเป็นไข้หวัดใหญ่บ้างเนาะเป็นหวัด
03:06:45 → 03:06:49 ธรรมดาคออักเสบอะไรโควิดก็เจอนิดหน่อยนะ
03:06:49 → 03:06:52 เออคือคือหายจากยไอ้ติดเชื้องิหายใจเนี่ย
03:06:52 → 03:06:55 ก็อาจจะไม่สบายกัน 5 วัน 7 วันน่ะแต่ไอ
03:06:55 → 03:06:59 ต่อเป็นเดือนแล้วก็มาหาหมอด้วยความวิตก
03:06:59 → 03:07:02 กังวลขอเซเรย์ขอนั่นนี่โนนอะไรแบบเยเออขอ
03:07:02 → 03:07:05 เช็คขออะไรต่างๆคือคือคือไอบางคนก็บอกนอน
03:07:05 → 03:07:08 ไม่ได้อะไรอย่างเงี้ยนะแล้วก็โดนแบบอาจจะ
03:07:08 → 03:07:12 เปิดแอร์เบาๆโดนลมนิดนึงก็ไปละไอต่อ
03:07:12 → 03:07:15 เนื่องฮะอะไรแบบเนี้ยเพราะว่าการสมานคืน
03:07:16 → 03:07:19 ของเยื่อบุอะไรต่างๆเนี่ยมันไม่เกิดขึ้น
03:07:19 → 03:07:22 ไงฮะมันไม่เกิดขึ้นคือเราอย่าลืมว่าเ
03:07:22 → 03:07:24 lining เ่ะของระบบทางเดือนหายใจเนี่ยมัน
03:07:24 → 03:07:29 มีอายุทั้งหมดนะฮะ 77 วันนะ 77 วันเพราะ
03:07:29 → 03:07:31 ฉะนั้นตั้งแต่คุณป่วยสัก 2 อาทิตย์เนี่ย
03:07:31 → 03:07:34 นะร่วมกับอายุของเซลล์ Ling ของระบบทาง
03:07:34 → 03:07:36 เดินหายใจ 77 วันเนี่ยมันก็จะเกือบ 100
03:07:36 → 03:07:40 วันมันก็ไปประมาณ 90 วันเพรานั้นคนสมัย
03:07:40 → 03:07:43 ก่อนเนี่ยก็มีชื่อโรคว่า I 100 วัน I
03:07:43 → 03:07:45 100 วันเนี่ยถ้าเราตัดประเด็นเรื่องติด
03:07:45 → 03:07:48 เชื้อไวรัสแบคทีเรียอะไรออกเนี่ยมันก็คือ
03:07:48 → 03:07:51 เป็นปฏิกิริยานี้แะปฏิกิริยาที่เยื่อบุต
03:07:51 → 03:07:53 ต่างๆเนี่ยไม่สามารถสมานคืนได้มันเกิด
03:07:53 → 03:07:56 ความอ่อนแอแล้วเกิดการที่จะต้องขจัดใครมา
03:07:56 → 03:08:00 หาบอกว่าเทำใจครับเพราะว่าคุณเป็นโรคไอ
03:08:00 → 03:08:02 100รวัน
03:08:02 → 03:08:06 เออแต่ยาก็ช่วยนิดหน่อยนะเดี๋ยวหมอายยา
03:08:07 → 03:08:10 ให้นะแต่ว่าจะต้องไปงด 2 น้ำอย่างเคร่ง
03:08:10 → 03:08:14 ครัดแล้วก็ห้ามโดนพัดลมห้ามดื่มน้ำเย็น
03:08:15 → 03:08:18 ด้วยแล้วใก็ถามว่าแล้วกินอะไรได้บ้างแล้ว
03:08:18 → 03:08:22 หมอก็คือของเหนียวไปกินอะไรคุณไท 100 วัน
03:08:22 → 03:08:26 น่ะของเหนียวๆมันกินไม่ได้ฮะเพราะว่าเวลา
03:08:26 → 03:08:30 คุณกินแป้งน้ำตาลคุณกินผลไม้ปุ๊กโตสคุณ
03:08:30 → 03:08:33 กินนมผลิตภัณฑ์จากนมที่มีแลคโตสการแลคโตส
03:08:33 → 03:08:37 นะกินข้าวขาวกินขนมปังขนมปี๊บกินขนมไทย
03:08:37 → 03:08:39 ขนมต่างประเทศกินก๋วยเตี๋ยวบะหมี่ขนมจิน
03:08:39 → 03:08:42 มาม่าวุ้นิ้นก๋วยจั๊บอะไรเงี้ยนะแล้วไง
03:08:42 → 03:08:45 อ่ะนะสิ่งเหล่านี้เนี่ยขนมปังขนมปี๊บ
03:08:46 → 03:08:48 เนี่ยกูเต้นน่ะตัวดีนักนะฮะพวกนี้เหนียว
03:08:48 → 03:08:53 หมดเลยเหนียวหมดเลยกินกับกาแฟนี่แซ่บเออ
03:08:53 → 03:08:55 แล้วเสร็จแล้วเวลามันไปสัมผัสกับเซลล์
03:08:55 → 03:08:59 เยื่อบุที่มันอยู่ตั้งแต่ปากลงไปจนเอ่อ
03:08:59 → 03:09:02 ถึงคอเคออะไรต่างๆเหล่านี้มันก็ไปกระตุ้น
03:09:02 → 03:09:07 น่ะนะเอ่อมันเหมือนกับว่ามาแล้วมาแล้วนะ
03:09:07 → 03:09:10 คนเบอกว่าดื่มกาแฟดำกาฟแล้วก็ไม่ได้ใส่
03:09:10 → 03:09:15 น้ำแข็งไม่หวานเลยขมๆเอกินกับอะไร่ะฮะกิน
03:09:15 → 03:09:19 กับขนมเบเกอรี่อะไรอย่างเงี้ยไม่ได้นะ 2
03:09:19 → 03:09:22 น้ำน่ะน้ำตากน้ำมันพืชน่ะเอาออกไปก่อน
03:09:22 → 03:09:27 อย่าให้มาเจอะเจอกับอ่าหัวและคอของคุณนะ
03:09:27 → 03:09:30 กินอะไรได้บ้างล่ะก็กินสิน้ำซุปต้มกระดูก
03:09:30 → 03:09:34 นะน้ำซุปต้มกระดูกเนี่ยบนบอดนี่แหละนะนะ
03:09:35 → 03:09:39 ไปไปไปไปช่วยฟื้นนะไปช่วยฟื้นไอพวกเนี้ย
03:09:40 → 03:09:43 นะแล้วก็กินอะไรกินเกลือกินน้ำสลัดตีออย
03:09:43 → 03:09:46 อะไรพวกเนี้ยเนี่ยเอ่อไม่เหนียวลื่นนะ
03:09:46 → 03:09:51 ลื่นก็ไปหมดแหละนะเ่อลงท้องลงกระเพาะเอ่อ
03:09:51 → 03:09:54 ไปถ่ายออกนะเอ่อ
03:09:54 → 03:09:58 หรือหรือมันก็ไปกระตุ้นน่ะเการเกิดสารคัด
03:09:58 → 03:10:01 หลั่งที่จะเกิดการสลายตัวแล้วขับออกไปหมด
03:10:01 → 03:10:04 นะฮะเพราะะนั้นคุณก็จะไอออกอ้วกออกที
03:10:04 → 03:10:07 เดียวออกเลยนะแต่ถ้าคุณไปเจอของเหนียวๆ
03:10:07 → 03:10:08 เนี่ยมันไม่ออกพอมันไม่ออกเนี่ยมันก็
03:10:09 → 03:10:11 กระตุ้นให้ไอไๆไๆไอ
03:10:11 → 03:10:14 ๆ
03:10:14 → 03:10:17 เออคือคือเราก็รู้สาเหตุอนะแต่แต่ว่าพอ
03:10:17 → 03:10:21 เราบอกไปก็เก็ทำกันไม่ได้เนาแต่ของคุณหมอ
03:10:21 → 03:10:23 มีแจกชีสน่ะ
03:10:23 → 03:10:30 ไม่แกีดแกคีดใบนึงทำทำไม่ทำก็แล้วแต่ึงก็
03:10:30 → 03:10:34 ไอจนมลูกปิ้นจนอ้วกแตกือราเหลืองอ่ะแล้ว
03:10:34 → 03:10:40 แต่จชิดไเป็นโบัสอาจารย์เป็นคนใช่สูงอายุ
03:10:40 → 03:10:45 อย่างงี้ั้ฮะมีลูกหลายคนมาดูไครจนขี่เล็ด
03:10:45 → 03:10:48 ขี่ราดนัแหละนะ
03:10:48 → 03:10:50 เออ
03:10:50 → 03:10:55 ก็ก็ทำยังไงได้มันก็ต้องกดกันไอต้องช่วย
03:10:55 → 03:11:00 เอ่อเอ่ออะไรอ่ะช่วยการกดภูมิเพี้ยนนั่น
03:11:00 → 03:11:05 แหละนะนี้พวกนี้มันเป็นภูมิไวเกินเป็นเอ
03:11:05 → 03:11:08 ไฮเปอร์อะไรอ่ะ Hyper Airway
03:11:09 → 03:11:10 responsiveness หมด
03:11:10 → 03:11:15 เลยพอได้เสียรอยไปก็เดี๋ยวก็จะเบาขึ้นนะ
03:11:15 → 03:11:19 แต่คุณต้องไปปรับเรื่องอาหารด้วยงน้ำไม่
03:11:19 → 03:11:21 งั้นจะเป็นหนักขึ้นเรื่อยๆนะครับมันก็ไม่
03:11:21 → 03:11:24 หนักหรอกฮะแต่มันน่ารำคาญน่ะเพราะว่าแค่
03:11:24 → 03:11:28 พูดก็ไอะนะคือมันเหมือนมันเหมือนเริ่มมี
03:11:28 → 03:11:32 ความร้อนจากการพูดเมื่อไหร่เนี่ยก็ไอแล้ว
03:11:32 → 03:11:34 ที่หมอเจอไปบ่อก็คือพวกนักร้องอ่ะร้อง
03:11:34 → 03:11:36 กลางคืนน่ะแล้วก็เป็นอย่างเงี้ยเร้องเพลง
03:11:36 → 03:11:41 ไม่ได้ไงนะนะเร้องเพลงไม่
03:11:41 → 03:11:44 ได้แล้วก็ต้องมีบ้วนน้ำเกลือนะฮะก็เอา
03:11:44 → 03:11:47 เกลือชมพูเนี่ยผสมน้ำอุ่นแล้วก็คั่วปาก
03:11:47 → 03:11:51 คั้วคอ 3 นาทีแล้วก็บ้วนๆๆน่ะทำบ่อยๆมัน
03:11:51 → 03:11:54 จะดีท็อกไอ้พวกฝุ่น PM 2.5 ไอ้พวกมูก
03:11:54 → 03:11:58 เบือกขี้คอขี้เสลดไอ้พวกสารเหนียวๆน่ะนะ
03:11:58 → 03:12:01 ไอ้พวกกินหวานมักหวานแก่หวานหวานนำกินพวก
03:12:01 → 03:12:05 ข้าวแป้งน้ำตาลหรือกิน rand ไซคิน้ำตาลไข
03:12:05 → 03:12:09 มันอะไลงไปเออพวกนี้เกลือเป็นตัวดีท็อกซ์
03:12:09 → 03:12:13 อือาได้ได้เคล็ดลับมาอีก
03:12:13 → 03:12:17 แล้วก็คือชีสชีสที่แจกเนี่ยมันเป็นชีสคำ
03:12:17 → 03:12:21 ว่าสปูตุ้มอ่ะนะคุณไปแก้เรื่องสปูตุ้มตัว
03:12:21 → 03:12:24 S คืออะไรตัว P อะไรคุณคุณหมอผมต้องขอ
03:12:24 → 03:12:27 บ้างแล้ว
03:12:27 → 03:12:30 ล่ะโพสต์ให้เอ๊ะก็เคยโพสต์ไปแล้วนี่ไง
03:12:30 → 03:12:34 โพสต์ไปแล้วคำว่าสปูตุ้มเ่ะเหรอเออแก่
03:12:34 → 03:12:36 เรื่องไอเนี่ยเรื่องไอนะเดี๋ยวพี่หมอ
03:12:36 → 03:12:40 โพสต์เยอะมากครับผมงงไปหมดเลย
03:12:40 → 03:12:43 เนี่ยพี่หมอแล้วอย่างอ่าอะไรนะหัวใจเต้น
03:12:43 → 03:12:47 ผิดจังหวะอะไรเงี้ยอันนี้พอมันจะ่วยอะไ
03:12:47 → 03:12:50 ได้บ้างมั้ยพี่หมอเออพูดยากอ่ะนะพูดยาก
03:12:50 → 03:12:54 แต่รู้อย่างนึงน่ะคือพวกพวก AF เเอ
03:12:54 → 03:12:58 fibrillation เนี่ยนะก็ก็ส่วนใหญ่มันจะ
03:12:58 → 03:13:02 เจอในคนที่ดื้ออินซูลินน่ะอก็คือน้ำตาล
03:13:02 → 03:13:05 น่ะฮะน้ำตาลเนี่ยมันเป็นตัวที่ไปทำให้
03:13:05 → 03:13:08 กล้ามเนื้อหัวใจเนี่ยนะแล้วก็ขึ้นไฟ้าหัว
03:13:08 → 03:13:13 ใจเนี่ยมันเกิดเ่อเ้าเรียกว่าเกิดไอ้ความ
03:13:13 → 03:13:14 แปร
03:13:14 → 03:13:19 ปวดอืมปายเห็นก็มันก็มาคือเอคุณเป็นเอ
03:13:19 → 03:13:21 fibrillation เนี่ยโดยเฉพาะกรณีที่เป็น
03:13:21 → 03:13:24 ไทรรอยด์เป็นพิษแล้วมี AF มี aal
03:13:24 → 03:13:27 fibrillation รมด้วยครับนี่แหละการกิน
03:13:27 → 03:13:30 น้ำมันสกัดเย็นการลดลาวาสอบเรื่องการกินง
03:13:30 → 03:13:33 กินคาฟหรือกินคาฟก็ได้แต่คุณต้องกินแบบ to
03:13:33 → 03:13:36 me a day กินให้ถูกต้องใน 1 วันตามแนว
03:13:36 → 03:13:40 ที่เราแนะนำเอ่อ low Fat low Fat High
03:13:40 → 03:13:43 C T Oil อะไรอย่างเงี้ยนะมันจะมันจะ
03:13:43 → 03:13:48 แก้ได้แล้วก็อฟยาได้นะที่เคยเห็นมาอก็จะ
03:13:48 → 03:13:52 ไม่สามารถพันงได้หรอกว่าโอ๊ยกินโ้งกินคาฟ
03:13:52 → 03:13:55 แล้วจะไปทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะนะอะไร
03:13:55 → 03:14:00 เงี้ยอืๆมันมันคือมันผสมผสมกันน่ะใช่มย
03:14:00 → 03:14:02 เออมันแอบๆอยู่มันแอบๆอยู่แต่มันก็ไม่มี
03:14:02 → 03:14:06 อะไรที่จะมาเป็นตัวพุนะ
03:14:06 → 03:14:10 เออก็คือเราการกินให้มันถูกต้องเนี่ยนะ
03:14:10 → 03:14:12 แล้วปัจจุบันคฟส่วนใหญ่มันก็เป็น High
03:14:13 → 03:14:17 Bad คที่เราไม่ค่อยจะโอเคนักนะทั้งผลลมง
03:14:17 → 03:14:21 ผลไม้อะไรอย่างเงี้ยนะเออนี่คุณคุณกคุณ
03:14:21 → 03:14:24 กวางบอกตอนกิน CD kcd เนี่ยตากฝนกลับ
03:14:24 → 03:14:27 บ้านไม่เคยไายหรือป่วยเลยเออกินน้ำซุปต้ม
03:14:27 → 03:14:32 กระดูกบ่อยค่ะช่วยได้จริงๆค่ะใช่เออครับ
03:14:32 → 03:14:34 มีตัวแทนหมูบ้านมาถามอีกอเป็นขอเป็นคำถาม
03:14:34 → 03:14:38 สุดท้ายเนาพี่หมอเอออ่ะนี่สีดวงแกล้ไง
03:14:38 → 03:14:40 ครับ
03:14:40 → 03:14:44 [เพลง]
03:14:44 → 03:14:46 เออเออ
03:14:46 → 03:14:48 [เพลง]
03:14:49 → 03:14:51 ก็คือเหมือนเดิมอ่ะ ow C High Good
03:14:51 → 03:14:53 Fat เพราะว่า
03:14:53 → 03:14:57 ปัญหาของฮีโมรอยเนี่ยมันไม่ได้เกิดจาก
03:14:57 → 03:15:01 ไฟเบอร์นะคือไม่ได้เกิดจากเรื่องของอ่า
03:15:01 → 03:15:06 อะไรอ่ะอ่าคือกินอ่ากินผักน้อยไปกิน
03:15:06 → 03:15:10 ไฟเบอร์น้อยไปหรือว่าหรือว่ากินอะไรอ่ะ
03:15:10 → 03:15:12 ไม่ได้กินไพวกอะไรนะผละม่วงผลไม้แบบนู้น
03:15:12 → 03:15:17 แบบนี้อันนี้ไม่ใช่ไก็คือมันขาดน้้ำดีน้ำ
03:15:17 → 03:15:22 ดีนะแล้วตัวที่กระตุ้นน้ำดีนะก็คือแฟตก็
03:15:22 → 03:15:26 คือน้ำมันสกัด
03:15:26 → 03:15:29 เย็นก็คือน้ำมันมะกอกเนี่ยนะฮะเป็นตัวที่
03:15:29 → 03:15:35 กระตุ้นน้ำดีนะดีโลกดีที่สุดในโลกอั้นควง
03:15:35 → 03:15:38 ที่ตามมาจากปัญหาการขาดน้ำดีน้ำดีไม่พอ
03:15:38 → 03:15:42 น้ำดีไม่น้ำดีไม่ไม่สรองอ่ะนคือน้ำดีมัน
03:15:42 → 03:15:45 ไม่ดีจริงอ่ะนะก็คือเรียกว่าน้ำไม่ค่อยจะ
03:15:45 → 03:15:49 ดีอ่ะนะนะอาจจะออกมาน้อยมาเยอะแต่ว่ามัน
03:15:49 → 03:15:54 ไม่ดีอไม่ค่อยจะดีเพราะฉะนั้นเนี่ยคุณก็
03:15:54 → 03:15:58 ทำให้มันถูกต้องโดยการกินพวกกุมน้ำมัน
03:15:58 → 03:16:03 สกัดเย็นแบบเยซึ่งน้ำดีคุณจะดีพอน้ำดีมัน
03:16:03 → 03:16:07 ดีแล้วเนี่ยเนี่ยในระบบลำไส้อะไรต่างๆที่
03:16:07 → 03:16:13 มันจะเกิดปัญหาโน่นนี่เกิดยากออกมาย
03:16:13 → 03:16:19 อืครับๆก็ต้องนดีนะฮะน้ำดีน้ำจะดีได้ยัง
03:16:19 → 03:16:23 ไงเนี่ยเเป็นเรื่องที่เ่อเราต้องไปขยาย
03:16:23 → 03:16:25 ความกันต่อนะ
03:16:25 → 03:16:30 ฮะแล้วก็สิ่งที่เรากินในโหมดหมู่ของ Diet
03:16:30 → 03:16:34 แบบโ C High Good Fat เนี่ยพวกนี้ก็
03:16:34 → 03:16:37 แก้ปัญหาตั้งแต่ลำไส้แปปวนลำไส้รั่วนะ
03:16:37 → 03:16:40 ลิกกี้กัดเนี่ยนะรวมไปถึงเรื่องเนี่ย
03:16:40 → 03:16:44 ฮีโมรอยนะเรื่องฮีโมรอยนะฮะออ
03:16:44 → 03:16:46 diverticulum อะไรต่างๆที่มันเป็นถุง
03:16:46 → 03:16:49 เป็นกระเปาะอะไรอย่างเงี้ยนะคือพวกเนี้ย
03:16:49 → 03:16:53 มันมันเกิดจากการที่ว่าต้องแบคทีเรียที่
03:16:53 → 03:16:55 ที่มันอะไรโปรไบโอติกอ่ะมันจะต้องสร้าง
03:16:55 → 03:17:00 ไอ้ตัวชัดเจนแี้ Acid นะออกมาเพื่อออกมา
03:17:00 → 03:17:03 จัดการกับไอ้พวกไอ้พวกโปลิปไอ้พวกเนื้อ
03:17:03 → 03:17:05 งอกไอ้พวก
03:17:05 → 03:17:10 ไดิอะไรต่างๆค่ะแต่พวกเนี้ยมันเกิดน้อยไง
03:17:10 → 03:17:12 เพราะฉะนั้นยังไม่ค่อยจะมีคนมาเขียนราย
03:17:12 → 03:17:16 งานในต่างๆว่าอ๋อเหตุจริงๆแล้วคือการดื้อ
03:17:16 → 03:17:17 อินซูลิน
03:17:17 → 03:17:23 การกินที่ไม่ถูกต้องเอออือๆๆแต่เขาก็มีคน
03:17:23 → 03:17:27 แอบๆบอกว่ามันก็คือเป็นือินซูลินเนี่ยมัน
03:17:27 → 03:17:33 มีทั้งหมด 87 โรคตอนเนี้ยที่งานวิจัยนะฮะ
03:17:33 → 03:17:36 นะเอออยากเห็นน่ะพี่หมอเดี๋ยววงว่าถ้าเจอ
03:17:36 → 03:17:40 แล้วเ็แล้วเคุณก็ต้องไปแก้ด้วยอินซูลิน
03:17:40 → 03:17:44 เท่านั้นแหละอ้ามันจะมีการเปลี่ยนแปลงยัง
03:17:44 → 03:17:47 ไงเพราะอะไรอะไรต่างๆแล้วยืนยันหรือหยัง
03:17:47 → 03:17:50 แล้วแน่นอนแล้วนะเอออะไรอย่าเงี้ยครับโอ๊
03:17:50 → 03:17:54 คุณแก้ไปก่อนได้เลยนะฮะไม่ต้องรอรู้การ
03:17:54 → 03:17:56 อะไรอย่างงู้นอย่างงี้เนี่ยคุณกลายเป็น
03:17:56 → 03:18:00 มะเร็งไปก่อนแล้วอือเออจริงแล้วพี่หมอมัน
03:18:00 → 03:18:04 จะมันจะแบบขนาดฝอลดลงได้มครับหรือว่ายัง
03:18:04 → 03:18:07 ไงฮะคีโนเนี่ยมันเป็นตัวผ่าตัดโดย
03:18:07 → 03:18:13 ธรรมชาติอ๋อเี่ไงฮะนะพวกซีสพวกถุงน้ำพวก
03:18:13 → 03:18:17 ก้อนอะไรต่างๆนะทั้งที่ไทรอย์ทั้งที่ลูก
03:18:17 → 03:18:22 หมากทั้งที่ไตนะ renal SE นะออไม่ต้อง่า
03:18:22 → 03:18:25 ตัดคุณก็ต้องไม่ใช่ Poly ctic kidney
03:18:26 → 03:18:28 นะ polycystic Kid เมันต้องต้องผ่าตัด
03:18:28 → 03:18:31 มันต้องเจี่มันต้องทำอะไรอย่างงั้นนะแต่
03:18:31 → 03:18:35 ถ้าเป็นีดนิดๆหน่อยๆเ่อสักเซนึงไม่ไม่
03:18:35 → 03:18:40 เยอะไม่เกินอะไรอย่างเงี้ยนะเราก็บการ ay
03:18:40 → 03:18:43 เ่อที่ร่างกายจะเป็นคี adapted นะไปผ่า
03:18:43 → 03:18:45 ตัด
03:18:45 → 03:18:48 มันว่าสัคิงคีโตนพวกเนี้ยนะตรงไหนที่มัน
03:18:48 → 03:18:51 ABnormal มันผิดธรรมชาติมันจะไปอยู่ที่
03:18:51 → 03:18:56 อ๋อมันแก้ให้เองเออเจะไปแก้ให้เองนะซีส
03:18:56 → 03:19:00 ที่เ้านมที่มลูกังไข่ช็อกโกแลตซีสอะไร
03:19:00 → 03:19:03 ต่างๆแต่ต้องไม่ใหญ่เกินไปนักนะถ้าใหญ่
03:19:03 → 03:19:08 เกินไปมันก็ต้องผ่าตัดด้วย
03:19:08 → 03:19:12 อ้าแล้วแล้วแสงสีแดงอ่ะช่วยช่วยมยครับพี่
03:19:12 → 03:19:18 หมอเอ่อก็ก็ใช้ๆไปแล้วกันนะ
03:19:18 → 03:19:21 น้อยเนี่ยเอ่อมีอะไรดีๆแล้วก็ไม่เหนือบาก
03:19:21 → 03:19:25 ่าแรงนักอนะ
03:19:25 → 03:19:30 อืครับผมคือคือผมี่ไปอยู่เป่าๆอ่ะนะเออผม
03:19:30 → 03:19:34 คือผมก็เป็นแต่ผมผมไม่เป็นแล้วไงเออนี่ผม
03:19:34 → 03:19:37 ไม่เป็นมานานแล้วนะเออเออแต่ก่อนก่อนที่
03:19:37 → 03:19:40 มันจะมาเจอคุณหมอเนี่ยก็คือแบบโอดโอยนอน
03:19:40 → 03:19:44 ไม่หลับกันเลย 3 วัน 3 คืนปวนปวนคาง
03:19:44 → 03:19:48 เรืื่องฤทธิสีดวงปวดอโอใช่พี่หมอคือนอนก็
03:19:49 → 03:19:54 นอนนอนก็ปวดขยับตัวก็อู้ยใครไม่เคยเป็น
03:19:55 → 03:19:59 นะก็แค่ปรับร่างกายนะไอ้เป็น Fat burner
03:19:59 → 03:20:02 นะจะเป็นเ่อ Fat adap กีโต adap ก็ตามนะ
03:20:02 → 03:20:05 ถ้าระบบน้ำดีมันออกมาได้มันถูกกระตุ้น
03:20:05 → 03:20:08 แล้วมันก็ working เ่ะคือคือเป็นตัวที่จะ
03:20:08 → 03:20:11 เป็นตัวทำงานน่ะฮะทำงานที่จะเป็นตัวแก้
03:20:11 → 03:20:13 ปัญหาอะไรต่างๆเหล่าเนี้ในระบบทางเดือน
03:20:13 → 03:20:18 อาหารเนี่ยนะเดี๋ยวก็ปล่อยเขไปนะฮะนะแล้ว
03:20:18 → 03:20:20 ก็อีกอีกมิตินึงอีกเรื่องนึงก็คือเรื่อง
03:20:20 → 03:20:24 ของโปรไบโอติกนะที่จะต้องพยายามใช้ไอ้พวก
03:20:24 → 03:20:29 เส้นใยละลายน้ำเนี่ยนะโดยเฉพาะเกินเนะเอา
03:20:29 → 03:20:33 มาเปลี่ยนเป็นปนิอิดเป็นกดไขมันสายตนะอ
03:20:33 → 03:20:38 แล้วอีไขมันสายสั้นนะหรก็คืออะไรอ่ะก็คือ
03:20:38 → 03:20:43 คีนบอดี้ใช่มนะนบี้เหล่าเจะมีผลต่อต่อ
03:20:43 → 03:20:45 บริเวณที่มันเกิดขึ้นมาก่อนนะเพราะฉะนั้น
03:20:45 → 03:20:49 มันเกิดขึ้นอไส้นะคบเนี่ยเก็จะเข้าไปที่
03:20:50 → 03:20:53 เซลล์ลำไส้แล้วไปแก้ไขเรื่องลำไส้ลนะ
03:20:53 → 03:20:58 อืมีพวกมีโปลินะมี diverticulum อะไรต่าง
03:20:59 → 03:21:02 ๆสามารถจะทำให้เกิดเรื่องของคบอจาก
03:21:02 → 03:21:06 โปรไบโอติกไปย่อยสลายไขมันละลายน้ำอะไร
03:21:06 → 03:21:10 พวกเนี้ยนะฮะเกินดูรินเ่อเบตกูแคนอะไร
03:21:10 → 03:21:12 อย่างเงี้ยนะเอ่อพวกเนี้ยตรงตำแหน่งนั้น
03:21:12 → 03:21:16 เนี่ยเาจะถูกจัดการก่อนอ๋อครับผมจากนั้น
03:21:17 → 03:21:19 เนี่ยคีนบอเหล่าเนี้ยอ่าจะเข้าสู่ระบบ
03:21:19 → 03:21:22 portal เเพราะฉะนั้นที่ตับเนี่ยมันมีซีส
03:21:22 → 03:21:26 ใช่มนะหรือมันมีอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะพวก
03:21:26 → 03:21:31 คีนบอดี้เหล่านี้ก็จะไปแก้ไขนะอ่าเปิ SE
03:21:31 → 03:21:36 นะหรือแม้แต่โปลิปหรือไอ้อะไรซีสที่อยู่
03:21:36 → 03:21:38 ในถุงน้ำดงน้ำดีอะไรต่างๆที่มันเป็นอะไร
03:21:38 → 03:21:41 แปลกๆอ่ะนะที่มาเกิดขึ้นภายหลังจาก
03:21:41 → 03:21:45 พฤติกรรมการกินไม่เป็นกินมั่วซั่วแล้วก็
03:21:45 → 03:21:48 ไปดื้ออินซูลินแล้วก็อินซูลินเนี่ยไปทำ
03:21:48 → 03:21:50 ให้เกิดเป็นโน่นเป็นหนี่เพราะมันเป็น
03:21:50 → 03:21:54 ฮอร์โมนทางด้านอาบินะ
03:21:54 → 03:21:57 อ๋อก็ใช้คีโตนนี่แหละเงาของอินซูลินเนี่ย
03:21:57 → 03:22:00 มาเป็นตัวตัดออกมาเป็นตัวแก้ไขเพียงแต่
03:22:00 → 03:22:04 ว่าเราอ่ะมีวิถีทางที่จะแก้หรือที่จะ
03:22:04 → 03:22:07 อัญเชิญนะคีโตนโดยเฉพาะคีงคีโตนออกมา
03:22:07 → 03:22:09 ปฏิบัติการหรือยัง
03:22:09 → 03:22:11 ล่ะ
03:22:11 → 03:22:16 เออใช่อคำถามนี้ต้องยกให้คุณปานเทพนะครับ
03:22:16 → 03:22:20 หัวหน้าหมู่บ้านของผมเอปานเทพก็เข้าอยู่
03:22:20 → 03:22:21 นานแล้วอ่ะ
03:22:21 → 03:22:24 ปานเทพเจะเอาไปสูนะพี่
03:22:24 → 03:22:28 [เสียงหัวเราะ]
03:22:28 → 03:22:32 หมอเออแต่ว่าแกบอกว่าดีเหมือนจะฮานะแต่
03:22:32 → 03:22:35 ความรู้ใหม่มาเพียบเลยนะพี่หมอครับเอย่าง
03:22:35 → 03:22:38 เงี้คีโตนเนี่ยที่เป็นคีนคีโตนที่มัน
03:22:38 → 03:22:41 effective จริงๆเมันมันมันน่าจะมาในช่วง
03:22:41 → 03:22:44 กลางวันหลังจากที่เรากินพวกถี่อออย่างงี้
03:22:44 → 03:22:46 รึเป่าพี่หมอเพราะว่ามันมันเข้าเข้าไปเลย
03:22:46 → 03:22:49 อย่างเงี้ย
03:22:50 → 03:22:55 อ๋อคือคีโตนที่จะมาในตอนกลางวันก็มาได้ฮะ
03:22:55 → 03:22:57 ก็มาได้นะคือตอนกลางวันเนี่ยฮอร์โมนเผา
03:22:57 → 03:23:01 ผันพลังงานตัวหลักคือเลปตินเลปตินนะฮะ
03:23:01 → 03:23:06 เพียงแต่ว่าเราอ่ะได้ใส่ของดีๆและไอ้
03:23:06 → 03:23:08 metabolic สเตตัสของร่างกายเนี่ยมัน
03:23:08 → 03:23:12 พร้อมที่จะใช้ของดีอ่าเป็นเป็นพลังงานใน
03:23:12 → 03:23:17 รูปที่มันเป็นคีโตนที่เป็นคีคีโตนมั้ย
03:23:17 → 03:23:21 นะก็แล้วแต่มันมันก็ได้ทั้งหมดแหละนะฮะ
03:23:21 → 03:23:23 ได้ทั้งนั้นนะ
03:23:23 → 03:23:27 อืคือกำลังจะพูดถึงเรื่องไฟ R Light เปี
03:23:27 → 03:23:30 นะนะเอาเลยครับพี่หมอเพราะเวลาหมอเปิด
03:23:30 → 03:23:33 เนี่ยเหมี่ยวมี้วอ่ะที่นอนกระหมออ่ะนะ
03:23:33 → 03:23:35 เค้าก็จะนอนถ่างแข้งถ่างขาแล้วหลับเป็น
03:23:35 → 03:23:38 ตายเลย
03:23:38 → 03:23:44 ฮะเห็นภาพเห็นภาพเลยครับไว้จะถ่ายรูปแอบ
03:23:44 → 03:23:48 ไปให้ดูนะ
03:23:48 → 03:23:51 คือยังไงเอ่อคือมันก็สบายของมันใช่มยพี่
03:23:51 → 03:23:55 หอเออเหลับเลยอ่ะเหมียวๆเหมียวๆหลับแต่ผม
03:23:55 → 03:24:00 ว่าตอนนี้เหมี่ยวมี้วพี่หมอน่าจะหลับแล้ว
03:24:00 → 03:24:03 ล่ะ 3 ชมครึ่งนะพี่
03:24:03 → 03:24:08 หมอก่อนนะพอก่อนแล้วเออหมดหมดแล้วก็หมดคำ
03:24:08 → 03:24:11 ถามนะครับรู้สึกจะตอบถามครบทุกคนนะครับ
03:24:11 → 03:24:16 พี่หมอนะหมอสรุปว่าเรื่องดอนฟีนอลนะไม่
03:24:16 → 03:24:18 ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรในการทำความเข้า
03:24:18 → 03:24:23 ใจนะหรือแม้แต่แนวทางนะที่จะนำเอาวิธีการ
03:24:23 → 03:24:28 แก้ไขในเชิงปฏิบัติอ่าไปแก้ไปปรับดูนะฮะ
03:24:28 → 03:24:32 นะขอให้ได้นำเอาองค์ความรู้ในวันเนี้ยที่
03:24:32 → 03:24:35 เราไลฟ์กันมาเนี่ยนะแล้วก็เอาไปใช้ลองดู
03:24:35 → 03:24:39 นะฮะนะหวังว่าจะเป็นประโยชน์นะนะแล้วก็
03:24:39 → 03:24:42 ใครเอาไปใช้แล้วมีผลเป็นยังไงก็มาโพสต์
03:24:42 → 03:24:45 บอกด้วยก็ดีนะฮวันนี้แค่นี้นะครับสวัสดี
03:24:45 → 03:24:48 ครับครับหมอครับขอบคุณมากขอบคุณทุกคนเลย
03:24:48 → 03:24:50 นะครับในไลฟ์ด้วยครับขอบคุณครับอาจารย์
03:24:50 → 03:24:53 ครับขอบคุณทุกคนทุกคขอบคุณครับสวัสดีครับ
03:24:53 → 03:24:55 สวัสดีครับสวัสดี
03:24:55 → 03:25:04 [เพลง]
03:25:04 → 03:25:15
03:25:15 → 03:25:18 ครับ n
03:25:18 → 03:25:22 [เพลง]