00:00:00 → 00:00:03 กำลังจะขับรถทางไกลๆนี่มีคำถามชวนคิด
00:00:03 → 00:00:06 เหมือนกันนะครับว่าถ้าต้องพึ่งกาแฟเนี่ย
00:00:06 → 00:00:10 เอ่อเพื่อให้ตื่นตัวควรกินแบบไหนดีที่สุด
00:00:10 → 00:00:13 วันนี้เราลองมาคุ้ยๆข้อมูลจากบทความกาแฟ
00:00:13 → 00:00:17 แก้เหนื่อยขับรถทางไกลดูนะครับใช่ค่ะมาดู
00:00:17 → 00:00:20 กันว่าซoกับอเมริกาโนที่เราดื่มกันเนี่ย
00:00:21 → 00:00:24 มันต่างกันยังไงแล้วแบบไหนจะเอ่อช่วยให้
00:00:24 → 00:00:27 เราตื่นตัวตอนขับรถได้ดีกว่ากันนะคะครับ
00:00:27 → 00:00:31 งั้นเริ่มจากเบสิคเลย Espresso Americano
00:00:31 → 00:00:34 จริงๆมันต่างกันตรงไหนครับแล้วมันมีผล
00:00:34 → 00:00:37 ต่างกันมั้ยเรื่องความตื่นตัวอืม Espresso
00:00:38 → 00:00:41 นี่คือตัวตั้งต้นเลยนะคะเป็นการสกัดกาแฟ
00:00:41 → 00:00:44 แบบเข้มข้นมากๆใช้น้ำน้อยๆค่ะส่วน
00:00:44 → 00:00:46 อมerิกาโนก็คือเอา Espresso shot นี่
00:00:46 → 00:00:50 แหละค่ะมาเติมน้ำร้อนลงไปอ๋อทำให้มันเจือ
00:00:50 → 00:00:54 จางลงใช่ค่ะดื่มง่ายขึ้นแต่ประเด็นคือถ้า
00:00:54 → 00:00:57 ใช้ช็อตเปรสโซเท่ากันเช่น 1 ช็อตเหมือน
00:00:57 → 00:01:01 กันปริมาณคาเฟอีนจริงๆมันแทบไม่ต่างกัน
00:01:01 → 00:01:04 เลยค่ะอ้าเหรอครับนึกว่าเข้มๆจะคาเฟอีน
00:01:04 → 00:01:07 เยอะกว่าความเข้มข้นของรสชาติต่างกันแต่
00:01:07 → 00:01:10 ตัวคาเฟอีนเท่ากันค่ะถ้าช็อตเท่ากันนะคะ
00:01:10 → 00:01:15 อ๋อครับเข้าใจและเอ่อที่คาเฟอีนมันช่วย
00:01:15 → 00:01:17 ให้เราตื่นเนี่ยมันทำงานยังไงในร่างกาย
00:01:17 → 00:01:20 เราครับค่ะคือในสมองเรามีสารตัวนึงชื่อ
00:01:20 → 00:01:23 adดิโนซีนนะคะสารตัวนี้ปกติมันจะค่อยๆ
00:01:23 → 00:01:26 เยอะขึ้นระหว่างวันทำให้เรารู้สึกพลบๆีย
00:01:26 → 00:01:30 ง่วงครับทีนี้พอเราดื่มกาแฟเข้าไปคาเฟอีน
00:01:30 → 00:01:33 มันจะไปแย่งจับกับตัวรับadดิโนซีนในสมอง
00:01:33 → 00:01:36 ค่ะไปขวางไว้ใช่ค่ะพอิโนซีนทำงานไม่ได้
00:01:36 → 00:01:39 เต็มที่สมองก็เลยไม่รับสัญญาณว่าเอ้ยง่วง
00:01:39 → 00:01:41 แล้วนะเราก็เลยรู้สึกตื่นตัวสดชื่นขึ้นมา
00:01:41 → 00:01:44 ค่ะอ๋อเข้าใจเหรอครับมันไปบล็อกสารง่วง
00:01:45 → 00:01:48 นี่เองแล้วปกติร่างกายเราใช้เวลานานมั้
00:01:48 → 00:01:51 ครับกว่ากาแฟจะเริ่มออกฤทธิ์ก็โดยทั่วไป
00:01:51 → 00:01:54 นะคะหลังจากดื่มไปแล้วเนี่ยคาเฟอีนจะ
00:01:54 → 00:01:56 เริ่มดูดซึมแล้วก็เริ่มรู้สึกได้ในประมาณ
00:01:56 → 00:01:59 สัก 30 นาทีค่ะครึ่งชั่วโมงใช่ค่ะแล้ว
00:01:59 → 00:02:02 ฤทธิ์ของมันก็จะอยู่ได้นานประมาณเอ่อ 4-6
00:02:02 → 00:02:04 ชม.โดยเฉลี่ยนะคะอันนี้ก็แล้วแต่คนด้วย
00:02:04 → 00:02:07 ค่ะ 4-6 ชม.
00:02:07 → 00:02:10 อืมถ้างั้นถ้าขับนานกว่านั้นเยอะๆแก้ว
00:02:10 → 00:02:13 เดียวคงไม่พอแน่ๆทีนี้กลับมาที่คำถามหลัก
00:02:13 → 00:02:18 เลยครับขับรถทางไกลระหว่างเปปสโซเข้มๆกับ
00:02:18 → 00:02:22 อมericาโนที่จิบง่ายกว่าไหนน่าจะเหมาะ
00:02:22 → 00:02:26 กว่ากันครับในเชิงกลยุทธ์ตรงนี้ก็น่าสนใจ
00:02:26 → 00:02:30 นะคะคือถ้ามองเรื่องให้ตื่นตัวนานๆเนี่ย
00:02:30 → 00:02:33 อเมริกาโนโดยเฉพาะถ้าสั่งแบบ double shot
00:02:33 → 00:02:38 หรือ 2 shot อาจจะอืมอาจจะดีกว่าค่ะอ้าว
00:02:38 → 00:02:40 ทำไมล่ะครับในเมื่อคาเฟอีนมันเท่ากันแทบ
00:02:40 → 00:02:44 เทียบช็อตต่อช็อตประเด็นมันอยู่ที่วิธี
00:02:44 → 00:02:47 ที่เราดื่มน่ะค่ะเอสรโซส่วนใหญ่เราดื่ม
00:02:47 → 00:02:50 ปื๊ดเดียวหมดใช่มั้ยคะใช่ครับมันก็จะได้
00:02:50 → 00:02:54 รับคาเฟอีนเข้าไปตู้มเดียวเร็วแรงแต่อาจ
00:02:54 → 00:02:57 จะหมดฤทธิ์เร็วเหมือนกันในขณะที่
00:02:57 → 00:03:00 อเมริกาโนเนี่ยปริมาณมันเยอะกว่าเราก็
00:03:00 → 00:03:04 สามารถค่อยๆจิบไปเรื่อยๆระหว่างทางได้อ๋อ
00:03:04 → 00:03:07 เหมือนค่อยๆเติมใช่ค่ะมันเหมือนการค่อยๆ
00:03:07 → 00:03:10 ปล่อยคาเฟอีนเข้าร่างกายอย่างต่อเนื่อง
00:03:10 → 00:03:13 อาจจะช่วยให้ระดับความตื่นตัวมันคงที่ได้
00:03:13 → 00:03:16 นานกว่าการรับไปทีเดียวค่ะเข้าท่าฮะแต่ก็
00:03:16 → 00:03:19 ต้องระวังนิดนึงนะคะคือการดื่มกาแฟเข้มๆ
00:03:19 → 00:03:23 หรือดื่มไลฟช็อตเร็วๆเนี่ยบางคนอาจจะใจ
00:03:23 → 00:03:25 สั่นหรือมีผลกับกระเพาะอาหารได้เหมือนกัน
00:03:25 → 00:03:29 ค่ะครับก็จริงอันนี้ก็ต้องดูตัวเองด้วย
00:03:29 → 00:03:32 แล้วแบบนี้มันมีเทคนิคการดื่มแนะนำมั้
00:03:32 → 00:03:35 ครับสำหรับคนขับรถทางไกลก็มีคำแนะนำค่ะ
00:03:35 → 00:03:38 อย่างแรกคือเรื่องเวลาควรดื่มก่อนเริ่ม
00:03:38 → 00:03:42 ขับสักเอ่อประมาณ 30 นาทีนะคะให้มันเริ่ม
00:03:42 → 00:03:45 ทำงานพอดีใช่ค่ะให้คาเฟอีนเริ่มออกฤทธิ์
00:03:45 → 00:03:48 พอดีตอนเราเริ่มขับแล้วก็อย่างที่คุยกัน
00:03:48 → 00:03:50 การเลือกเป็นอเมริกาโน 2 ช็อตแล้วค่อยๆ
00:03:50 → 00:03:53 จิบไปเรื่อยๆก็น่าจะเป็นทางเลือกที่ดี
00:03:53 → 00:03:56 กว่าการดื่มเปรสโซช็อตเดียวหรือหลายช็อต
00:03:56 → 00:04:01 ในเวลาสั้นๆค่ะแล้วถ้าสมมุติผมสั่งเปรส 2
00:04:01 → 00:04:04 ช็อตแต่แบ่งดื่มล่ะครับเช่นดื่มช็อตแรก
00:04:04 → 00:04:07 อีกชั่วโมงโงดื่มช็อต 2 แบบนี้พอจะเทียบ
00:04:07 → 00:04:11 กับการจิบอเมริกาโนยาวๆได้มยอืมในทาง
00:04:11 → 00:04:14 ทฤษฎีก็คือการทยอยรับคาเฟอีนเหมือนกันนะ
00:04:14 → 00:04:17 คะแต่ในทางปฏิบัติอาจจะไม่ค่อยสะดวกเท่า
00:04:17 → 00:04:20 มีแก้วเดียวไว้จิบเรื่อยๆค่ะแล้วก็เอสโซ 2
00:04:20 → 00:04:23 ช็อตติดกันอาจจะเข้มไปสำหรับบางคนได้ง่าย
00:04:23 → 00:04:26 กว่าด้วยค่ะแต่ว่านะคะที่สำคัญที่สุดเลย
00:04:26 → 00:04:29 จริงๆคือต้องย้ำว่ากาแฟมันเป็นแค่ตัวช่วย
00:04:29 → 00:04:33 นะคะใช่ค่ะคนหยุดทุกๆสัก 2-3 ชั่วโมงลงมา
00:04:33 → 00:04:35 ยืดเส้นยืด
00:04:35 → 00:04:37 หรือถ้าง่วงจริงๆก็หาที่ปลอดภัยงีบสั้นๆ
00:04:37 → 00:04:40 ดีที่สุดค่ะเพื่อความปลอดภัยนะคะเป็นข้อ
00:04:40 → 00:04:44 สรุปที่สำคัญมากๆค่ะกาแฟช่วยได้จริงแต่
00:04:44 → 00:04:46 ยังไงการพักผ่อนก็ต้องมาก่อนสรุปแล้วก็
00:04:46 → 00:04:49 คือการเลือกอเมริกาโนแล้วค่อยๆจีบอาจจะ
00:04:49 → 00:04:52 เป็นกลยุทธ์ที่ดีกว่าสำหรับขับรถยาวๆเนาะ
00:04:52 → 00:04:55 เพราะช่วยรักษาความตื่นตัวได้สม่ำเสมอ
00:04:55 → 00:04:58 กว่าแล้วก็ควรดื่มล่วงมากสักครึ่งชั่วโมง
00:04:58 → 00:05:01 ค่ะประมาณนั้นค่ะสุดท้ายนี้มีอีกมุมที่
00:05:01 → 00:05:05 น่าสนใจนะครับนอกจากจะเลือกชนิดของกาแฟ
00:05:05 → 00:05:07 แล้วเนี่ยการวางแผนว่าจะดื่มกาแฟเมื่อ
00:05:07 → 00:05:10 ไหร่บ้างระหว่างทางเช่นแก้วแรกดื่มก่อน
00:05:10 → 00:05:13 เริ่มแล้วถ้าต้องมีแก้ว 2 ควรจะดื่มตอน
00:05:13 → 00:05:17 ไหนดีเพื่อให้มันตื่นตัวไปได้ตลอดรอดฝั่ง
00:05:17 → 00:05:19 แต่ก็ไม่ไปกวนการนอนตอนกลางคืนเมื่อถึง
00:05:19 → 00:05:21 ที่มายแล้วอันนี้น่าเก็บไปคิดต่อเหมือน
00:05:21 → 00:05:25 กันนะครับถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ฝากกดติดตาม
00:05:25 → 00:05:28 กดไลก์กดแชร์ให้คนที่คุณห่วงใยและเป็น
00:05:28 → 00:05:30 กำลังใจให้กับช่องสุขภาพสนทนาได้มีแรง
00:05:30 → 00:05:34 สร้างสรรค์เรื่องราวดีต่อไปนะครับ