00:00:00 → 00:00:03 เราจะมารู้กันว่ากู้ระบบเผาผลาญลดน้ำหนัก
00:00:03 → 00:00:06 อย่างถูกวิธีเพื่อที่จะป้องกันโรคนิ่วใน
00:00:06 → 00:00:10 ถุงน้ำดีทำอย่างไรติดตามชมพร้อมๆกันค่ะ
00:00:10 → 00:00:12 อย่างที่กล่าวไปแล้วในช่วงต้นรายการนะคะ
00:00:12 → 00:00:15 ว่าไขมันส่วนเกินทำให้เกิดความเสี่ยงรก
00:00:15 → 00:00:18 นิ่วในถูกน้ำดีเร็วกว่าที่คิดโดยโรง
00:00:18 → 00:00:21 พยาบาลพญาไทยได้ให้ข้อมูลไว้ดังต่อไปนี้
00:00:21 → 00:00:24 ไขมันส่วนเกินเป็นตัวการกระตุ้นให้เกิด
00:00:24 → 00:00:27 โรคนิ่วในถุงน้ำดีได้เร็วขึ้นสาเหตุจาก
00:00:27 → 00:00:29 พฤติกรรมการรับประทานที่เมื่อร่างกายได้
00:00:29 → 00:00:33 ได้รับไขมันเข้าไปในปริมาณที่สูงขณะที่
00:00:33 → 00:00:36 ตับซึ่งทำหน้าที่ผลิตน้ำดีออกมาสลายไขมัน
00:00:36 → 00:00:38 ได้ไม่เพียงพอทำให้ไขมันส่วนหนึ่งที่ย่อย
00:00:38 → 00:00:41 สลายไม่ทันนั้นต้องตกตะกอนอยู่ภายในถุง
00:00:41 → 00:00:45 น้ำดีจนจับตัวเป็นก้อนนิ่วตามมารวมถึง
00:00:45 → 00:00:48 ภาวะอ้วนหรือน้ำหนักเกินมาตรฐานยิ่งเป็น
00:00:48 → 00:00:50 ตัวกระตุ้นให้เกิดโรคนิ่วในถุงน้ำดีเพราะ
00:00:51 → 00:00:54 มีระดับคอเลสเตอรอลที่สูงโดยวิธีการลดน้ำ
00:00:54 → 00:00:58 หนักอย่างถูกวิธีและกู้ระบบเพาพลานให้ดี
00:00:58 → 00:01:01 ทำได้ดังต่อไปนี้ค่ะการลดน้ำหนักอย่างถูก
00:01:01 → 00:01:05 วิธีนอกจากจะช่วยปรับรักษาระบบการเผาผลาน
00:01:05 → 00:01:08 แล้วยังช่วยป้องกันโรคนิ่วในถุงน้ำดีได้
00:01:08 → 00:01:11 สำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักควรหลีก
00:01:11 → 00:01:14 เลียกพฤติกรรมดังต่อไปนี้พฤติกรรมการอด
00:01:15 → 00:01:18 มื้อกินมื้อพฤติกรรมการเลือกรับประทาน
00:01:18 → 00:01:22 เฉพาะผักและผลไม้รวมไปถึงพฤติกรรมที่งด
00:01:22 → 00:01:25 การรับประทานคาร์โบไฮเดรตและไขมันทั้งนี้
00:01:25 → 00:01:29 เพื่อป้องกันระบบเผาผลาญพังนั่นเป็นเพราะ
00:01:29 → 00:01:32 ว่าเมื่อรับประทานอาหารปริมาณน้อยๆหรือ
00:01:32 → 00:01:35 รับประทานแต่ผักระบบย่อยอาหารของเราจะเคย
00:01:35 → 00:01:37 ชินกับการย่อยอาหารกลุ่มนี้ในปริมาณเท่า
00:01:37 → 00:01:40 นี้และร่างกายก็จะปรับให้ระบบการเพ้า
00:01:40 → 00:01:43 พล้านทำงานน้อยลงแต่เมื่อไหร่ที่เรากลับ
00:01:43 → 00:01:47 มารับประทานอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตไขมัน
00:01:47 → 00:01:49 เพิ่มปริมาณของอาหารหรือหันมารับประทาน
00:01:49 → 00:01:52 อาหารมื้อเย็นจะกลายเป็นว่าน้ำหนักจะ
00:01:52 → 00:01:55 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเพราะระบบเผาผลาน
00:01:55 → 00:01:58 ไม่ตอบสนองและมักจะกลับมาลดน้ำหนักได้ยาก
00:01:58 → 00:02:02 ขึ้นอีกนั่นเองสำหรับวิธีการปรับการรับ
00:02:02 → 00:02:05 ประทานอาหารเพื่อการลดน้ำหนักที่ถูกต้อง
00:02:05 → 00:02:09 ต้องทำดังนี้ควบคุมแคลอรีที่รับประทานใน
00:02:09 → 00:02:12 แต่ละวันโดยให้ค่อยๆลดลงจากเดิมไม่เกิน
00:02:12 → 00:02:16 500 กิลแคลอรีเมื่อลดน้ำหนักได้สักระยะ
00:02:16 → 00:02:19 หนึ่งแล้วจึงค่อยลดจำนวนแคลอรี่ลงอีกเล็ก
00:02:19 → 00:02:22 น้อยอย่าเร่งลดจำนวนแคลอรี่มากเกินไป
00:02:22 → 00:02:25 เพราะเมื่อร่างกายเคยได้รับแคลอรีต่อวัน
00:02:25 → 00:02:29 มากแล้วจู่ๆปริมาณแคลอรีลดลงอย่างรวดเร็ว
00:02:29 → 00:02:32 ร่างกายจะเกิดการกักตุนไขมันไว้ใช้ในช่วง
00:02:32 → 00:02:35 เวลาที่ได้รับพลังงานน้อยเกินไปมากๆนั่น
00:02:35 → 00:02:38 เองให้ความสำคัญกับการรับประทานโปรตีน
00:02:38 → 00:02:41 เพราะโปรตีนนั้นมีส่วนสำคัญในการทำงานของ
00:02:41 → 00:02:44 ระบบเผาผลาญร่างกายจึงจำเป็นต้องได้รับ
00:02:44 → 00:02:47 โปรตีนเพียงแต่ต้องเลือกเป็นโปรตีนที่มี
00:02:47 → 00:02:51 ไขมันต่ำเช่นอกไก่เต้าหู้ถั่วหรืออาหาร
00:02:51 → 00:02:54 ทะเลโดยรับประทานในปริมาณที่เหมาะสมคือ
00:02:54 → 00:02:58 ผู้หญิงควรได้รับโปรตีนประมาณ 46 กรัมต่อ
00:02:58 → 00:03:03 วันและผู้ชายประมาณ 56 กรัต่อวันสำหรับ
00:03:03 → 00:03:06 การคำนวณว่าปริมาณโปรตีนที่เราควรได้รับ
00:03:06 → 00:03:08 ต่อวันเป็นอย่างไรนั้นทำได้ง่ายๆดังนี้
00:03:08 → 00:03:12 ค่ะแยกเป็นเพศก่อนถ้าเป็นคุณผู้หญิงนะคะ
00:03:12 → 00:03:15 ให้เอาส่วนสูงที่เป็นเซนติเมตลบด้วย 110
00:03:15 → 00:03:18 ในขณะที่ถ้าเป็นคุณผู้ชายค่ะให้เอาส่วน
00:03:18 → 00:03:21 สูงที่เป็นเซนติเมตลบด้วย 100 เช่นถ้า
00:03:21 → 00:03:25 เป็นคุณผู้หญิงนะคะสูง 160 ซมค่ะให้ -
00:03:25 → 00:03:28 110 = 50 นั่นหมายถึง 50 เนี่ยควรจะ
00:03:29 → 00:03:32 เป็นน้ำหลักที่เขาควรจะมีนะคะก็คือ 50 กก
00:03:32 → 00:03:35 นั่นเองและโปรตีนที่ควรได้รับก็คือ 50
00:03:35 → 00:03:39 กรัมต่อวันในขณะที่คุณผู้ชายค่ะเช่นถ้า
00:03:39 → 00:03:44 สูง 180 ซมค่ะให้-บ 100 ก็จะเป็น 80 กก
00:03:44 → 00:03:46 นั่นหมายถึงเขาควรจะหนักแค่นี้ก็คือ 80
00:03:46 → 00:03:50 กกค่ะและโปรตีนที่ควรจะได้รับเฉลี่ยแล้ว
00:03:50 → 00:03:53 ก็คือ 80 กรัมต่อวันนั่นเองค่ะเลื่องการ
00:03:53 → 00:03:56 รับประทานอาหารกลุ่มคาร์โบไฮเดรตประเภท
00:03:56 → 00:04:00 ขัดสีเช่นขนมปังขาวข้าวขาวหรือเค้กเพราะ
00:04:00 → 00:04:02 คาร์โบไฮเดรตที่ถูกย่อยเป็นโมเลกุลเล็กๆ
00:04:02 → 00:04:05 จะกลายเป็นน้ำตาลหรือที่เราเรียกกันว่า
00:04:05 → 00:04:08 กลูโคสจะมีส่วนที่ถูกดุดซึมเข้าสู่กระแส
00:04:08 → 00:04:11 เลือดเพื่อนำไปใช้เป็นพลังงานตามอวัยวะ
00:04:11 → 00:04:14 ส่วนต่างๆและบางส่วนถูกเก็บเอาไว้ในตับ
00:04:14 → 00:04:17 และกล้ามเนื้อก่อนที่ตับจะเปลี่ยนน้ำตาล
00:04:17 → 00:04:20 นั้นให้เป็นไขมันเพื่อเก็บไว้เป็นพลังงาน
00:04:20 → 00:04:23 สำรองซึ่งหากเราไม่ได้ใช้ก็จะเกิดเป็นไข
00:04:23 → 00:04:26 มันสะสมและทำให้อ้วนได้นั่นเองรับประทาน
00:04:26 → 00:04:29 อาหารเช้าอย่าให้ขาดเพราะการรับประทาน
00:04:29 → 00:04:31 อาหารเช้าจะช่วยให้อัตราการเผาผลาญพลัง
00:04:32 → 00:04:34 งานของร่างกายเพิ่มขึ้นตลอดทั้งวันแต่
00:04:34 → 00:04:36 ทั้งนี้ควรเลือกรับประทานอาหารเช้าที่
00:04:36 → 00:04:38 เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนอุดมไปด้วย
00:04:38 → 00:04:41 โปรตีนสูงและไขมันต่ำไม่ใช่แค่การเลือก
00:04:41 → 00:04:44 รับประทานอาหารที่ถูกต้องเหมาะสมแต่การ
00:04:44 → 00:04:47 ออกกำลังกายก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยแก้ปัญหา
00:04:47 → 00:04:50 ไขมันส่วนเกินได้ที่สำคัญการลดน้ำหนักไม่
00:04:50 → 00:04:53 เพียงช่วยลดความเสี่ยงนิ่วในถุงน้ำดีแต่
00:04:53 → 00:04:57 ยังลดโอกาสเสี่ยงโรคได้อีกมากมายด้วย
00:04:57 → 00:05:00 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:05:00 → 00:05:03 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:05:03 → 00:05:06 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:05:07 → 00:05:10 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:05:10 → 00:05:14 การสดคลิปวีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:05:14 → 00:05:17 คะ