00:00:00 → 00:00:02 พอพูดถึงเกริเนี่ยค่ะว่าอาหารเป็นพิษอ่ะ
00:00:02 → 00:00:05 ค่ะอาจารย์เราจะนึกถึงเหมือนในละครในหนัง
00:00:05 → 00:00:08 ว่าแบบโอ๊ชนพิษบาดแผลไม่ไหวเป็นพิษอีก
00:00:08 → 00:00:11 แล้วอันนี้คำว่าเป็นพิษเนี่ยค่ะอาจารย์
00:00:11 → 00:00:14 พิษนี่คือพิษอะไรคะอืคำถามที่ดีมากเลยค่ะ
00:00:14 → 00:00:18 คือจริงๆแล้วคำว่าอาหารเป็นพิษเนี่ยมันมา
00:00:18 → 00:00:21 จากภาษาอังกฤษว่า Food poisoning นะครับ
00:00:21 → 00:00:24 ค่ะซึ่งจริงๆแล้วถ้าเอาตรงตามโตมันควรจะ
00:00:24 → 00:00:28 เป็นพิษใช่มครับค่ะแต่ไปดูในยาเมันเหมือน
00:00:28 → 00:00:31 กับเป็นภาษาที่เราใช้ติดปมากกว่าอ๋อซึ่ง
00:00:32 → 00:00:35 อ่าคำว่าอาหารเป็นพิษหรือูพิเนี่ยนิยามก็
00:00:35 → 00:00:39 คือเหมือนกับอาการที่เกิดจากเอ่อพิษของ
00:00:39 → 00:00:41 อาหารแต่ไม่ใช่เป็นพิษนะหมายความว่าเป็น
00:00:41 → 00:00:45 พิษภัยกับอาหารนั่นเองค่ะอก็คืออย่างเช่น
00:00:45 → 00:00:48 การติดเชื้อหรือสารอาหารบางอย่างสารบาง
00:00:48 → 00:00:50 อย่างที่มันมากับอารทางแล้วต่อให้เกิด
00:00:50 → 00:00:55 อาการทางระบบไอาหารนั่นเองครับค่ะหรือถ้า
00:00:55 → 00:00:58 เราจะใช้คำอื่นที่มันดูเข้าใจง่ายก็คือ
00:00:58 → 00:01:02 อุจระร่วงเฉียบพัน์หรือว่าเอ่อท้องเดิน
00:01:02 → 00:01:04 เฉียดันอย่างเงี้ยนะครับค่ะหรือว่าแปล
00:01:04 → 00:01:07 แล้วจะงงมากขึ้นึเปล่าไม่ค่ะแต่ว่าส่วน
00:01:07 → 00:01:09 ใหญ่คือคนน่ะจะไม่ค่อยชอบใช้เพราคุณจะบอก
00:01:09 → 00:01:11 ว่าอุ๊ยคำว่าอุจจาระมันอาจจะดูแบบไม่
00:01:11 → 00:01:14 สุภาพคนก็ชอบใช้อาหารเป็นพิษออาจจะเสียง
00:01:14 → 00:01:18 ว่าท้องเดินก็ได้แต่คำว่าท้องเดินนี่ไม่
00:01:18 → 00:01:21 ค่อยคุ้นหูเลยเนิก็ไม่ผิดนะครับไม่ผิด
00:01:21 → 00:01:24 เพียงแต่ว่าต้องเไปนิดนึงว่ามันอาจจะไม่
00:01:24 → 00:01:28 ได้แปลว่าพินะครับอแต่ถ้าพูดถึงสาเหตุ
00:01:28 → 00:01:32 แล้วมันก็มีทั้งอ่อการติดเชื้อและไม่ติด
00:01:32 → 00:01:34 เชื้ออืค่ะส่วนการติดเชื้อจากแบคทีเรีย
00:01:34 → 00:01:37 เนี่ยมันมีทั้งไวรัสแบคทีเรียและอื่นๆนะ
00:01:37 → 00:01:41 ครับทีนี้ถ้าพูดถึงว่ามีคำว่าพอยซหรือ
00:01:41 → 00:01:43 ท็อกซินเนี่ยอยู่ในนั้นมยมีนะครับเพราะ
00:01:43 → 00:01:46 ว่าแบคทีเรียบางอย่างเนี่ยเวลามันมากับ
00:01:46 → 00:01:49 อาหารเนี่ยเราไม่ได้ติดเฉพาะแบคทีเรียแต่
00:01:49 → 00:01:52 บางครั้งติดจากทอกซินหรือเรียว่าเอ่อที่
00:01:52 → 00:01:55 เราบอกพอยซันเนี่ยก็คือท็อกซินของ
00:01:55 → 00:02:00 แบคทีเรียนั่นเองอืค่ะครับค่ะแลอาจารย์คะ
00:02:00 → 00:02:03 นี่คือนิยามคร่าวๆว่าพ po หรืออาหารเป็น
00:02:03 → 00:02:06 พิเนี่ยเราจะหมายถึงอาการที่เกิดจากสิ่ง
00:02:06 → 00:02:09 ที่มาจากอาหารค่ะค่ะพิษภัยจากการรับ
00:02:09 → 00:02:11 ประทานอาหารอันนี้ค่ะพิษภัยนี่ทุกคนฟัง
00:02:11 → 00:02:14 แล้วดูมันก็แบบน่ากลัวนะคะอ่ะอาหารเป็น
00:02:14 → 00:02:17 พิษกินมากก็เป็นพิษเช่นอ้วนก็เป็นพิษแต่
00:02:17 → 00:02:20 ทีนี้อยากจะรู้อยากจะรู้ค่ะอาจารย์ว่าการ
00:02:20 → 00:02:23 ติดเชื้อค่ะที่อาจารย์บอกว่ามีทั้งไวรัส
00:02:23 → 00:02:25 และแบคทีเรียค่ะอย่างไหนมากกว่ากันและใน
00:02:25 → 00:02:27 หน้าร้อนอย่างเงี้ยค่ะเราจะพบเชื้ออะไร
00:02:27 → 00:02:28 มากกว่ากัน
00:02:28 → 00:02:32 คะในหน้าร้อนเนี่ยเชื้อที่มากับอากาศร้อน
00:02:32 → 00:02:34 ที่ทนกับออากาศร้อนได้ดีก็ต้องเป็น
00:02:34 → 00:02:38 แบคทีเรียนะครับอือค่ะเพราะว่าเชื้อไวรัส
00:02:38 → 00:02:41 เนี่ยจะอยู่ในสภาพแวดล้อมเนี่ยได้ไม่นาน
00:02:41 → 00:02:45 ค่ะอ่าคือคือถ้าไวรัสเนี่ยมันจะผ่านมา
00:02:45 → 00:02:47 ส่วนญจะเป็นเด็กด้วยแล้วก็หรือคนสูงอายุ
00:02:47 → 00:02:50 ไม่เลยที่ภูมิข้านทๆอาจจะไม่ค่อยดีหรือ
00:02:50 → 00:02:53 คุกคีกันมากๆเช่นเด็กๆเเล่นกันก็คือแบบ
00:02:53 → 00:02:56 ว่าพวกไวรัสจะมาแลมหายใจอะไรอย่างเงี้ย
00:02:56 → 00:02:59 ครับแต่แบคทีเรียไม่ใช่แบคทีเรียเนี่ย
00:02:59 → 00:03:03 สามารถที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมภายนอกเนี่ย
00:03:03 → 00:03:08 ได้นานอออยู่ในตู้เย็นเนี่ยก็สามารถที่จะ
00:03:08 → 00:03:10 ยังคงอยู่ได้แต่บางชนิดก็ยังแพร่กระจาย
00:03:10 → 00:03:12 ได้นะฮะถึงแม้ความเย็นในตู้เย็นแต่ว่าถ้า
00:03:12 → 00:03:15 พูดถึงอากาศร้อนแล้วเชื้อที่เจริญได้ดีก็
00:03:15 → 00:03:17 คือแบคทีเรียอย่างเช่นอีคอนหรือว่าพวก
00:03:17 → 00:03:21 กลุ่มโมเนลอะไรอย่าเงี้ยนะครับอีวาเงี้ย
00:03:21 → 00:03:23 ค่ะส่วนใหญ่มันจะอยู่ในกลุ่มอาหารอะไรอ่ะ
00:03:23 → 00:03:26 คะที่เราจะแบบพบๆเจอๆหรือว่าเพราะว่าอ
00:03:26 → 00:03:28 ด้วยความเค่ะอย่างวันเนี้น้องขวัญบอกว่า
00:03:28 → 00:03:30 วันนี้อากาศร้อนมากแค่กับข้าวตั้งไว้ก็
00:03:30 → 00:03:32 แทบจะบูดแล้วค่ะอาจารย์แล้วยิ่งแบบกับ
00:03:32 → 00:03:36 ข้าวข้างนอกอะไรอย่าเงี้ยค่ะอาจารย์ดีมาก
00:03:36 → 00:03:39 ฮเป็นคำถามที่ดีมากคือจริงๆแล้วอาหาร
00:03:39 → 00:03:42 เนี่ยได้ทุกชนิดเลยที่เชื้อมันจะแฝงตัวมา
00:03:42 → 00:03:46 โดยเฉพาะอาหารที่ปรุงเสร็จนานแล้วออค่ะ
00:03:46 → 00:03:50 คือถ้าอาหารที่เราปรุงสุกใหม่ๆเนี่ยมัน
00:03:50 → 00:03:53 ผ่านความร้อนขนาดแบบดุดดือดอย่างเงี้ยนะ
00:03:53 → 00:03:56 ครับแบคทีเรียมักจะต่อให้แบคทีเรียก็มัก
00:03:56 → 00:04:00 จะไม่รอดอืนะครับแต่ต้องมีข้อยกเว้นนิด
00:04:00 → 00:04:03 นึงตรงที่ว่ามันจะอย่างเช่นที่กี้เราบอก
00:04:03 → 00:04:06 ว่าท็อกซินหรือว่าพิษที่เป็นสร้างจาก
00:04:06 → 00:04:09 แบคทีเรียอย่างเช่นในข้าวที่ค้างคืนเนี่ย
00:04:09 → 00:04:12 หรือว่าพวกเนยหรือชิสหรือว่าเสละที่มัน
00:04:12 → 00:04:16 ค้างคืนอยู่ในตู้เย็นก็ตามเนี่ยค่ะไอ้พวก
00:04:16 → 00:04:20 แเอ่อซีรียหรือว่าสฟเนี่ยที่เป็นท็อกซิน
00:04:20 → 00:04:22 เนี่ยท็อกซินพวกนี้กลับไม่กลัวความร้อนนะ
00:04:22 → 00:04:26 ฮะค่ะเอาข้าวที่มีมีท็อกซินพวกนี้มาขัด
00:04:26 → 00:04:29 ด้วยความร้อนแบบในกระทะในเตาอย่างเงี้ย
00:04:29 → 00:04:32 ท็อกซินนี้ก็ยังไม่ไม่เสื่อมไปกินรับ
00:04:32 → 00:04:35 ประทานเข้าไปเนี่ยก็มีอาการท้องร่วง
00:04:35 → 00:04:38 อุจจระร่วงได้เช่นกันอือค่ะแต่ถ้าพูดถึง
00:04:38 → 00:04:41 ว่าถ้าโดยส่วนใหญ่แล้วต่อให้เชื่ออะไรก็
00:04:41 → 00:04:45 ตามถ้าเราผ่านความร้อนระดับปรุงสุขเนี่ย
00:04:45 → 00:04:50 ใหม่ๆอมักจะไม่มีปัญหานะครับค่ะค่ะคุณจะ
00:04:50 → 00:04:53 มีปัญหาคือปรุงสุกก็จริงแต่ว่าทิ้งไว้นาน
00:04:53 → 00:04:56 หลชั่วโมงเช่นอาหารที่ทำไว้แต่เช้าแล้ว
00:04:56 → 00:04:59 เราไปซื้อตอนบ่ายตอนเย็นอย่างเงี้ยค่ะอื
00:04:59 → 00:05:02 อืค่ะแมกระทั่งอาหารที่ไม่ไม่ผ่าความร้อน
00:05:02 → 00:05:05 เช่นพวกยำพวกเอ่ออย่างส้มตำหรืออะไรอย่าง
00:05:05 → 00:05:08 เงี้ยนะครับที่แบบว่าเอ่อไม่ได้ผันความ
00:05:08 → 00:05:11 ร้อนเลยอันนี้ก็จะเสี่ยงนะครับถ้าน้ำที่
00:05:11 → 00:05:14 ล้างไม่สะอาดผักล้างไม่เกลี้ยงอย่างเงี้ย
00:05:14 → 00:05:17 ครับค่ะแล้วถือว่าถ้าอย่างงั้นพูดถึง
00:05:17 → 00:05:20 อาหารที่ปรุงไว้นานรวมถึงอถ้าคุณหมอบอก
00:05:20 → 00:05:22 ว่าแบคทีเรียเนี่ยบางชนิดที่แบบเ่อผ่าน
00:05:22 → 00:05:26 ความร้อนด้วยกันมาผัดใหม่เช่นเราใส่ตู้
00:05:26 → 00:05:28 เย็นไว้แล้วมาอุ่นใหม่อย่างเงี้ยมัน
00:05:28 → 00:05:31 สามารถจะรับประทานได้ไหมหรือว่าจริงๆแล้ว
00:05:31 → 00:05:35 ในฤดูร้อนเนี่ยเราควรจะเอ่อปรุงอาหารแค่
00:05:35 → 00:05:39 เพียงพอรับประทานเป็นมื้อๆไปอ่ะคะมาถูก
00:05:39 → 00:05:43 ต้องเลยฮะคือกรณีแรกที่บอกว่าคิที่มันทน
00:05:43 → 00:05:45 ความร้อนได้อันนั้นก็โอกาสเกิดจะน้อยกว่า
00:05:45 → 00:05:48 ค่ะแต่ถ้าเพื่อความไม่ประมาทเนี่ยก็อย่าง
00:05:48 → 00:05:51 ที่เผู้ดำเนินการพูดก็คือว่าเราไม่ควรจะ
00:05:51 → 00:05:54 เก็บอาหารที่ค้างเราควรจะรับประทานซื้อ
00:05:54 → 00:05:57 แต่พอดีอืรับประทานให้ให้หมดภายในมื้อนะ
00:05:57 → 00:06:00 ครับแล้วควรจะรับประทานอาหารที่แบบคงสุข
00:06:00 → 00:06:05 สานะครับอืค่ะอาจารย์คะหยกเได้ยินบ่อยมาก
00:06:05 → 00:06:08 ว่าถ้าหน้าร้อนเนี่ยนะคะอย่าทานแกงกะทิ
00:06:08 → 00:06:10 เพราะว่าถ้าเก็บไว้เนี่ยทั้งแบบเสียงที่
00:06:10 → 00:06:14 จะบูดแล้วก็ท้องเสียได้รวมถึงอาหารทะเล
00:06:14 → 00:06:16 อะไรอย่างเงี้ยค่ะมันเกี่ยวข้องกันมั้ยคะ
00:06:16 → 00:06:17 ช่วงนี้เพราะว่าส่วนใหญ่อย่างที่อาจารย์
00:06:17 → 00:06:21 บอกว่าอาหารจำพวกยำแหมมันก็แซ่บเนาะแล้ว
00:06:21 → 00:06:23 มันก็แบบว่าซีซาเหมาะกับช่วงที่แบบอากาศ
00:06:23 → 00:06:26 ร้อนๆหรือว่าถ้าเกิดได้ทานน้ำอับลมอีกสัก
00:06:26 → 00:06:29 หน่อยโอ้โหมันช่างแบบใช่เลยแบบคายร้อนได้
00:06:29 → 00:06:32 ดีอะไรอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์ครับแยกยกคู้
00:06:32 → 00:06:35 กืมางประเด็นอย่างกะทิเนี่ยก็อาจจะบูด
00:06:35 → 00:06:38 ง่ายแล้วอาจจะเป็นที่เพาะเชื้อที่ดีได้อ
00:06:38 → 00:06:42 นะครับแต่ก็ไม่มีงานศึกษาวิจัยคอนเฟิร์ม
00:06:42 → 00:06:45 นะฮะว่าเอ๊ะกะทิกับที่ไม่มีกะทิเนี่ย
00:06:45 → 00:06:46 เมื่อทิ้งไว้ด้วยกันเนี่ยแบคทีเรียไหน
00:06:46 → 00:06:50 เจริญเจริญในในถาดไหนดีกว่านะครับอค่ะแต่
00:06:50 → 00:06:53 แต่แต่แต่ก็ยอมรับว่าไปทบทวนดูในใน
00:06:53 → 00:06:56 อินเทอร์เน็ตก็มีคนพูดถึงกะทิว่าเออเสียง
00:06:56 → 00:06:58 แต่ที่แน่ๆคืออาหารทุกชนิดเี่จะมีกะทิ
00:06:58 → 00:07:00 หรือไม่มีกะทิถ้าทิ้งไ้วนาก็เช่นกันแต่
00:07:00 → 00:07:04 ถ้าอาหารทะเลอาหารทะเลนี่เอ่อไม่เกี่ยว
00:07:05 → 00:07:07 มันมันคือเป็นกรณีพิเศษเพราะว่าเชื้อบาง
00:07:07 → 00:07:11 ชนิดจะชอบมากับพวกอาหารประเภศทะเลอืค่ะ
00:07:11 → 00:07:14 แต่ทีนี้ถ้าคนที่จะเสียงก็คือคนที่เป็น
00:07:14 → 00:07:18 เช่นกลุ่ม้านทำไม่ดีครับเชเป็นตับแข็งมี
00:07:18 → 00:07:21 กินยากุกวดภูมิอะไรอย่างเงี้ยครับอืแต่
00:07:21 → 00:07:24 ถ้าเราปรุงสุกซะอย่างถ้าคนคุมปกติเนี่ย
00:07:24 → 00:07:27 นมักจะไม่ค่อยมีปัญหานะครับแต่ที่จะมี
00:07:27 → 00:07:30 ปัญหาคือเช่นเรารับประทานอ่าพวกหอยหรือ
00:07:30 → 00:07:32 อะไรที่เราไม่สุกไม่เต็มที่อะไรอย่าง
00:07:32 → 00:07:36 เงี้ยหอยดองกุ้งดองปูดองใช่อืหรือลวกอ่ะ
00:07:36 → 00:07:39 ลวกแต่ลวกแล้วมันยมีแดงๆหรืออะไรอย่าง
00:07:39 → 00:07:41 เงี้ยนะครับพวกพวกนี้ก็จะเสี่ยงมีเชื้อ
00:07:41 → 00:07:44 ที่มากับกลุ่มที่เรียกว่าซีฟู้ดนั่นเอง
00:07:44 → 00:07:49 ครับอืค่ะค่ะอันนี้เนี่ยถ้าเราเอ่ออาการ
00:07:49 → 00:07:53 เริ่มต้นของคนที่ป่วยเป็นอาหารเป็นพิษอ่ะ
00:07:53 → 00:07:56 ค่ะคุณหมอมันมักจะเริ่มต้นด้วยลักษณะอะไร
00:07:56 → 00:08:00 เป็นอย่างแรกๆคะครับก็ก็คือคำถามที่ดีฮะ
00:08:00 → 00:08:04 คือทางเดินอาหารคนเราเนี่ยที่จะได้ิแสง
00:08:04 → 00:08:06 อาการของเรื่องของอาริหรือคือหรออาหารนะ
00:08:06 → 00:08:09 ครับที่เหลือมีอาการได้หมดเลยตั้งแต่
00:08:09 → 00:08:12 กระเพาะอาหารลำไส้เล็กและลำไส้ใหญ่นะครับ
00:08:12 → 00:08:15 อือมันจะมีธรรมชาติของเชื้อแต่ละตัวที่
00:08:15 → 00:08:17 อย่างเช่นไวรัสอย่างเงี้ยก็จะชอบลงที่
00:08:17 → 00:08:20 กระเพาะแล้วก็ไปนำไส้เล็กค่ะอาการของ
00:08:20 → 00:08:23 กระเพาะคืออาเจียนเด่นนะครับอคอาหารเป็น
00:08:23 → 00:08:26 พิิที่เราบอกว่าเป็นพวกท็อกซินเนี่ยก็จะ
00:08:26 → 00:08:30 คล้ายๆกับไวรัสนะครับอค่ะส่วนถ้าเป็น
00:08:30 → 00:08:34 แบคทีเรียเนี่ยมีวางกรณีที่ชอบไปที่ลำไส้
00:08:34 → 00:08:37 เล็กอย่างเดียวอืบางอย่างไปที่ลำไส้ใหญ่
00:08:37 → 00:08:39 อย่างเดียวงั้นถ้าเป็นลำไส้เล็กเนี่ยถ่าย
00:08:39 → 00:08:42 จะเป็นน้ำเยอะมากยกตัวอย่างเช่นอิวาตะโลก
00:08:42 → 00:08:45 อืค่ะค่ะนะจะถ่ายแบบว่าแทบจะหมดตัวเลยถ้า
00:08:45 → 00:08:48 ให้น้ำไม่ทันก็ก็เสียชีวิตได้นะฮะอแล้วก็
00:08:48 → 00:08:51 ลำไส้ใหญ่ก็ถ่ายก็จะแบบเป็นน้ำน้อยหน่อย
00:08:51 → 00:08:55 จะข้นๆจะแบบอาจจะเอ่อมีเลือดถ่ายเป็น
00:08:55 → 00:08:58 เลือดถ้าเป็นแผลในลำไส้อือค่ะแล้วก็มีไข้
00:08:58 → 00:09:01 ได้เพราะว่าถ้ามีการติดเชื้อในกระแสเลือด
00:09:01 → 00:09:03 หรือมีการอักเสบรุนแรงก็มีใช่ได้เช่นกัน
00:09:03 → 00:09:06 นะครับค่ะแล้วก็ยังไม่พูดถึงความแส้งซ้อน
00:09:06 → 00:09:08 ก็คือถ้าเสียน้ำและเกือแรกก็จะทำให้เกิด
00:09:08 → 00:09:12 มีภาวะอ่าหมดสติมีเรื่องของไตวายเรื่อง
00:09:12 → 00:09:16 ของ้าร่างกายไม่มีแรงเพราะขัดเกือแรกอื
00:09:16 → 00:09:20 ค่ะนะครับอาจารย์คะทำไมถึงไตวายล่ะคะใน
00:09:20 → 00:09:22 เมื่อท้องเสียเาาคนก็จะคิดว่าอ้ามันก็จะ
00:09:22 → 00:09:25 ต้องน่าเกี่ยวกับแบบว่าแค่ถ่ายตัวอะไร
00:09:25 → 00:09:27 อย่างเงี้ยค่ะอ่ะเสียน้ำก็อีกส่วนนึงแต่
00:09:27 → 00:09:30 ทำไมถึงไตวายล่ะคะ
00:09:30 → 00:09:33 ครับคือเรื่องของการที่เกิดโรคไตตามมา
00:09:33 → 00:09:37 เนี่ยของการที่เราเสียน้ำเนี่ยเพราะว่าพอ
00:09:37 → 00:09:40 เราเสียน้ำเนี่ยร่างกายจะชดเชยก็คือน้ำ
00:09:40 → 00:09:44 น้ำในเลือดของคนเราเนี่ยจะลดน้อยลงอืพอลด
00:09:44 → 00:09:47 ลงมากๆเนี่ยก็คือปริมาตรเลือดเนี่ยลดลง
00:09:47 → 00:09:52 เลือดไปที่อวยวะก่างัก็น้อยลงโดยเฉพาะ
00:09:52 → 00:09:54 เลือดที่ไปเลี้ยงสมองและเลี้งเลี้งไฟด้วย
00:09:54 → 00:09:59 พอไตเลือดที่ไปไกลดลงเนี่ยไก็อ่ะทำงานไม่
00:09:59 → 00:10:05 ได้ละอืค่ะเเราเรียกว่าไว 7 คันอ๋อนะคะ
00:10:05 → 00:10:09 แล้วพอเสียน้ำกับเกือแร่เกือแร่สำคัญเช่น
00:10:09 → 00:10:12 โปแทสเซียมอย่างเงี้ยโซเดียมอย่างเงี้ยพอ
00:10:12 → 00:10:14 เราถ่ายออกไปมันไม่ได้ออกจากน้ำอย่าง
00:10:14 → 00:10:17 เดียวมันออกเือแลออกไปด้วยอืทีเนี้ยหัวใจ
00:10:17 → 00:10:20 ก็จะเส้นปิดจังหวะได้กล้ามเนื้อไม่มีแรง
00:10:20 → 00:10:24 ได้นะครับโซเดียมต่ำซึมหมดสติได้เห็นมั้ย
00:10:24 → 00:10:27 ฮะเพงั้นเราพูดถึงอาการของลำไส้มันไม่จบ
00:10:27 → 00:10:30 แค่ลำไส้มันมีสคนึงอายวะอื่นเพราะร่างกาย
00:10:30 → 00:10:35 เราทำงานสัมพันธซึ่งกันและกันอืค่ะค่ะอื
00:10:35 → 00:10:39 แล้วอย่างเงี้ถ้าเป็นลักษณะเอ่อปวดคือบาง
00:10:39 → 00:10:42 ครั้งเนี่ยแค่ถ่ายท้องเนี่ยเราก็จะไม่ไป
00:10:42 → 00:10:45 โรงพยาบาลไงอือใช่คนชอบอดทนนะค่ะ่ใหคนจะ
00:10:45 → 00:10:48 ทนกันไหวทนกันเกงเก่งเออเออแล้วคือแบบว่า
00:10:48 → 00:10:51 อ่ะไม่ไปโรงพยาบาลเราก็หาคาร์บอนมากิน
00:10:51 → 00:10:54 บ้างล่ะหรือแล้วก็ใช่กินอ่าน้ำเกลือแร่
00:10:54 → 00:10:56 บ้างล่ะแต่จริงๆแล้วน่ะมันใช่วิธีการที่
00:10:56 → 00:11:00 ถูกต้องมยหรือปวดลักษณะแบบไหนต้องไปโรง
00:11:00 → 00:11:04 พยาบาลคะค่ะคืออยากทราบลิมิตว่าลิมิตแค่
00:11:04 → 00:11:07 ไหนว่าอ่ะทนแค่นี้แหละพอนะเออพอแล้วล่ะ
00:11:07 → 00:11:10 เราก็ไปหาคุณหมอคำถามที่ดีมากเลยฮะคือคำ
00:11:10 → 00:11:12 ถามนี้มีตั้ง 3 คำถามซ่อนอยู่ในคำถามนี้
00:11:12 → 00:11:16 นะฮะเอาเอาอันแรกก็คืออ่าหมายความว่าคำ
00:11:16 → 00:11:19 ถามแรกก็คือว่าที่ซื้อคือเ่อคาร์บอนมากิน
00:11:19 → 00:11:23 เนี่ยตอบว่าไม่ได้ช่วยอะไรไม่ได้ช่วยเลย
00:11:23 → 00:11:25 นะครับเป็นความเข้าใจทิฐิหลายคนก็คิดว่า
00:11:25 → 00:11:29 กินเพื่อไปดูดซักสารทิหรืออะไรเงี้ยไม่
00:11:29 → 00:11:32 ช่วยนะครับไม่ช่วยส่วนเกลือแรกช่วยน้ำและ
00:11:32 → 00:11:35 เกลือแรกเพราะว่ารี้ที่หมอพูดเมื่อสัก
00:11:35 → 00:11:38 ครู่ก็คือว่าเอ่อพอแทกซ้อนที่สำคัญก็คือ
00:11:38 → 00:11:42 การสูญเสียน้ำและเกลือแร่อดังนั้นถ้าเป็น
00:11:42 → 00:11:44 ไม่มากเนี่ยแล้วเราไม่ได้เราสามารถดื่ม
00:11:44 → 00:11:47 ได้เราไม่อาเจียนรุนแรงเนี่ยเราคนไข้ตัว
00:11:47 → 00:11:50 คนไข้เนี่ยสามารถที่จะรักษาตัวเองก่อนค่ะ
00:11:51 → 00:11:55 ครับด้วยการชดเชยน้ำกับเสือแร่ที่เสียไป
00:11:55 → 00:11:59 นะครับให้ทันนะครับแต่ทีนี้คำถามที่ดีมาก
00:11:59 → 00:12:02 ตามสุดท้ายก็คือเมื่อไหร่เราจะไปหาหมอใน
00:12:02 → 00:12:04 กรณีที่เป็นอาหารเดือนเพชรหรือท้องเดือน
00:12:04 → 00:12:07 เฉียพันถูกต้องมั้ยฮะค่ะเช่นมันก็มีพูด
00:12:07 → 00:12:10 ไว้หลายข้อเอาเอาไปทีละข้อเลยอันแรกนะ
00:12:10 → 00:12:14 ครับ 1 ก็คืออาเจียนรุนแรงอืค่ะค่ะ
00:12:14 → 00:12:16 อาเจียนจนเรารับประทานอะไรไม่ได้รับ
00:12:16 → 00:12:19 ประทานดื่มน้ำยังไม่ได้อันนี้ต้องไปแน่
00:12:19 → 00:12:21 นอนเพราะว่าแปลว่าเรามีแต่เสียน้ำอย่าง
00:12:21 → 00:12:25 เดียวเราไม่สามารถืบน้ำถ่าต่าันได้เลยนะ
00:12:25 → 00:12:29 ครับอันที่ 2 ถ่ายเป็นเลือดแสดงว่า
00:12:29 → 00:12:32 มันอาจจะมีเรื่องอื่นแล้วล่ะมีการแผลลึก
00:12:32 → 00:12:34 มีอะไรอย่างเงี้ยหรือจริงๆแล้วอาจจะไม่
00:12:34 → 00:12:36 ใช่ช่องเดินอาจจะมีแผลในลำไส้ก็ได้อันนี้
00:12:36 → 00:12:39 ต้องไปครบแพทยแล้วแหละค่ะนะครับหรือถ้า
00:12:39 → 00:12:41 มันเกิดจากการติดเชื้อก็เป็นเชื้อที่แบบ
00:12:41 → 00:12:43 มันทำให้เกิดแผเยอะแล้วจนทำให้มีเลือดออก
00:12:43 → 00:12:47 ในอิฉานะครับมีไข้สูงเกิน 39 แสดงว่าถือ
00:12:47 → 00:12:50 ว่าไข้หนาวสั่นหลวดทนไม่ไหวแว่าเชื้อเข้า
00:12:50 → 00:12:53 สู่กระแสเลือดอันที่ 3 นะครับอันที่ 4 ก็
00:12:53 → 00:12:58 คือมีอุปัสาวะไม่ออกไจพังละไจเสื่อมละอือ
00:12:58 → 00:13:03 อืค่ะอันที่ 5 เอ่ออารทางสมองเช่นอึมละ
00:13:03 → 00:13:06 สับสนะไม่รู้ะไม่รู้ว่าติดเชื้อหรือว่า
00:13:06 → 00:13:11 ขาดสารน้ำจนสมองขาดเลือดในเียงออืค่ะอัน
00:13:11 → 00:13:13 ที่ 6 ก็คือก้ามเนื้อไม่มีแรงเลยขาด
00:13:13 → 00:13:15 โปแทสเซียมอันนี้ตัวอย่างนะครับที่สำคัญ
00:13:15 → 00:13:18 เนี่ยคือสิู้เนี้ยจะต้องไปพบแพทย์เลยไม่
00:13:18 → 00:13:22 ต้องรอนะครับแต่ตรงคข้าถ้าถ่ายน้อยๆแล้ว
00:13:22 → 00:13:26 ไม่มีไพ่อะไรเลยอาจจะชุบเเือนแรกไปไปก่อน
00:13:26 → 00:13:30 เพราะว่าหลายครั้งก็หายเองนะได้นะครับค่ะ
00:13:30 → 00:13:33 อาจารย์ครับเกลือแรกมาตอบหนเอครบถ้วนเลย
00:13:33 → 00:13:36 ค่ะอาจารย์แต่ทีนี้เลยอยากทราบในส่วนของ
00:13:36 → 00:13:38 เกลือแรกค่ะอาจารย์ส่วนใหญ่คนชอบคิดว่า
00:13:38 → 00:13:41 อ่ะเกลือแร่เนี่ยค่ะเป็นผงเกลือแร่หรือ
00:13:41 → 00:13:43 เครื่องดื่มชูกำลังบางคนแยกไม่ออกบางคน
00:13:43 → 00:13:45 ชอบบอกว่าอ่ะก็เพราะว่าอันเนี้ยเขาเขียน
00:13:45 → 00:13:49 ไว้ว่าเอาไว้ทานตอนเสียเหงื่อมากๆห้าม
00:13:49 → 00:13:52 ห้ามทานห้ามดื่มเกินวันละ 2 ขวดโปรดอาจ
00:13:52 → 00:13:54 ฉลากก่อนทุกครั้งเราจะได้ยินอย่างงี้ค่ะ
00:13:54 → 00:13:56 แล้วบางคนชอบคิดว่าอ้าอันนี้ก็คือเกลือ
00:13:56 → 00:13:59 แร่เหมือนกันเหมือนกันมั้ยคะอาจารย์
00:13:59 → 00:14:02 ไม่เหมือนนะครับเพราะว่าเอ่อเครื่องดื่ม
00:14:02 → 00:14:05 ชุเอ่อตอนที่เราดื่มพวกพวกที่ไปเแรกที่
00:14:05 → 00:14:07 ออกกำลังกายอะไรอย่างเงี้ยเขาไม่ได้ออก
00:14:07 → 00:14:12 แบบมาไว้สำหรับกรณีแบบชดเชยจากการถ่าย
00:14:12 → 00:14:16 ถ่ายท้องแบบนี้นะครับอาหารเป็นพิษงั้นถ้า
00:14:16 → 00:14:18 จะแนะนำก็คุรจะเป็นเครือแรกงเครือแรกที่
00:14:18 → 00:14:21 แบบว่าได้มาตรฐานอืเอ่อที่ที่เราเรียกว่า
00:14:21 → 00:14:27 O นะครับแต่ถามว่าถ้ามันไม่มีหาไม่ทัน
00:14:27 → 00:14:31 เราก็สามารถใช้อะไรก็ได้แทนไปได้นะครับ
00:14:31 → 00:14:34 ครับแล้วก็ประทังไปก่อนแล้วก็ดื่มน้ำสลับ
00:14:35 → 00:14:37 กับเือแรกที่มีอยู่อะไรก็ได้ดื่มไปก่อน
00:14:37 → 00:14:41 แล้วค่อยไปหาเพิ่มก็ได้ครับแก้ปัญหาเฉพาะ
00:14:41 → 00:14:46 หน้าไปก่อนครับอค่ะอือค่ะแล้วถ้าเป็น
00:14:46 → 00:14:49 อย่างนี้เนี่ยคือไอ้กรณีที่คุณหมอบอกว่า
00:14:49 → 00:14:53 จะมีผลต่อไตแล้วก็สุดท้ายคือจะปัสสวะไม่
00:14:53 → 00:14:55 ออกเนี่ยความเฉียบพลันตรงเนี้ยน่ะถ้าพูด
00:14:55 → 00:14:59 แบบเป็นคร่าวๆจากระยะเวลาของการถ่ายท้อง
00:14:59 → 00:15:03 เนี่ยเอ่อเป็นหลักวันหลักชั่วโมงหรือเอ่อ
00:15:03 → 00:15:07 เป็นประมาณไหนคะถึงจะเกิดภาวะเ่อปัสสาวะ
00:15:07 → 00:15:11 ไม่ออกอะไรทำนองเยค่ะคุณหมอค่ะคือจริงๆ
00:15:11 → 00:15:13 แล้วมันก็เกิดตั้งแต่ตอนที่เราถ่ายเยอะๆ
00:15:13 → 00:15:16 เลยนะครับอส่วนใหญ่แล้วระยะพักตัวของ
00:15:16 → 00:15:18 เชื้อเนี่ยจริงๆแล้วส่วนใหญ่อยู่ที่ 1-2
00:15:18 → 00:15:21 2 วันนะครับแต่ถ้าเป็นจากท็อกซินไอ้้ที่
00:15:21 → 00:15:23 เมื่อกี้บอกมันจะเร็วมาก 4-6 ชั่วโมก็
00:15:23 → 00:15:26 เริ่มเกิดแล้วนะครับค่ะทีนี้เนี่ยถามว่า
00:15:26 → 00:15:31 เกิดเมื่อไหร่ไตที่จะทำมันไม่มีเอ่อคำตอบ
00:15:31 → 00:15:34 ที่ชัดเจนมันอยู่ที่ว่าเชื้อแต่ละตัวออก
00:15:34 → 00:15:37 ฤทธิ์ณวันแรกหรือวันที่ 2 สรุปว่าวันไหน
00:15:37 → 00:15:40 ที่เสียน้ำเยอะๆนั่นแหละครับวันนั้นถ่าย
00:15:40 → 00:15:43 เยอะเลยยิ่งเยอะอันนั้นละครับมีโอกาสไพัง
00:15:43 → 00:15:47 สังเกตยังไงว่าไตเสียสีปัสสาวะฮอถ้าสี
00:15:47 → 00:15:51 ปัสสาวะเข้มจับเลยหรือปริมาณที่ออกน้อย
00:15:51 → 00:15:55 มากๆน้อยผิดสังเกตอันนี้แสดงว่าไตเราน่า
00:15:55 → 00:16:00 จะเริ่มเสื่อมแล้วนะครับค่ะเอ่าให้ให้
00:16:00 → 00:16:02 ระวังไวเลยเพราะว่าถ้าเรามัวแต่คิดว่ามัน
00:16:03 → 00:16:06 ไม่มีอะไรเราก็จะอาจจะช้าเกินไปนะครับค่ะ
00:16:06 → 00:16:10 ก็ต้องรีบไปพบแพร่ที่โรงพยาบาลอืค่ะเมื่อ
00:16:10 → 00:16:13 สักครู่คุณหมอบอกว่ามีอะไรทานได้ทานก่อน
00:16:13 → 00:16:16 เลยถ้าเป็นลักษณะของเกลือแร่สไปท์ใส่
00:16:16 → 00:16:20 เกลือได้มั้ยคะคุณหมอหยุดท้องร่วงจริงๆ
00:16:20 → 00:16:24 รือเปล่าโอเอ่อถ้าน้ำอัดลมใช่มั้ยฮะน้ำ
00:16:24 → 00:16:27 อัดลมอย่าลืมว่ามันไม่ได้มีเฉพาะคือแลมัน
00:16:27 → 00:16:31 มีลมด้วยด้วยออันนี้ก็มีความเป็นกดด้วย
00:16:31 → 00:16:35 อันนี้หมอไม่แนะนำดีกว่านะครับค่ะค่ะคือ
00:16:35 → 00:16:36 หมายความว่าเมื่อกี้พูดเราพูดถึงพวก
00:16:37 → 00:16:40 เครื่องดื่มเ่อพวกเ่อนักกีฬาดื่มอะไรที่
00:16:40 → 00:16:43 หลังออกใชเครับถ้าเราหาไม่ทันเราก็ใช้ตัว
00:16:43 → 00:16:46 นั้นแทนไปก่อนได้แต่ถ้ากรณีน้ำอัดลมเนี่ย
00:16:46 → 00:16:51 มันมีแก๊สเข้าไปด้วยมันอาจจะทำให้ลำบากลำ
00:16:51 → 00:16:54 ไส้มากขึ้นนะครับอหรือมีลมในลำไส้มากขึ้น
00:16:54 → 00:16:57 อะไรอย่างเงี้ยครับอืค่ะอาจารย์คะพอดีก็
00:16:57 → 00:17:00 ไม่ไม่แนะนำอืค่ะอาจารย์คะคุณผู้ฟังบอก
00:17:00 → 00:17:03 ว่าได้รับความรู้จากอาจารย์ความรู้ใหม่
00:17:03 → 00:17:05 เลยไม่เคยทราบมาก่อนเลยว่าผงถ่านไม่ช่วย
00:17:05 → 00:17:08 อะไรแลถ้าผงถ่านไม่ช่วยอะไรแล้วเรากินกัน
00:17:08 → 00:17:11 ไปทำไมคะที่ผ่านมาหรือว่าสั่งแบบคุณแบบ
00:17:11 → 00:17:14 แบบสั่งเป็นเก๋ๆแบบว่าเหมือนแบบเยียวยจิต
00:17:14 → 00:17:16 ใจอ่ะกำพระเถอะนะแล้วก็อเดี๋ยวก็กลับไป
00:17:16 → 00:17:19 แล้วก็จะดีขึ้นเองผมเข้าใจว่าเรื่องพวก
00:17:19 → 00:17:24 นี้อาจจะใช้ในกรณีที่อืมใช้มานานนะครับ
00:17:24 → 00:17:27 แล้วก็มันก็มียาหลายตัวที่เรารักษากัน
00:17:27 → 00:17:31 เนี่ยบางครั้งเราก็มันก็ช่วยไได้ไม่มาก
00:17:31 → 00:17:35 แต่เราก็ยังยังมีการใช้กันอยู่นะครับอื
00:17:35 → 00:17:40 แต่ว่าเอ่อจริงๆแล้วคนที่เอ่อคนที่ถยเอ่อ
00:17:40 → 00:17:44 อุจะท้องเดินใช้ว่าท้องเดินนะค่ะเราต้อง
00:17:44 → 00:17:47 ระวังก็คือเรื่องของการสูญเสียน้ำและ
00:17:47 → 00:17:51 เกลือแร่ค่ะกับอีกอันนึงคือการติดเชื้อ
00:17:51 → 00:17:55 ที่เข้ากับแสเรืออ่าใช่มฮะค่ะเพราฉะนั้น
00:17:55 → 00:17:58 เราถ้าที่เหลือแล้วเนี่ยถ้าน้อยๆเนี่ย
00:17:58 → 00:18:02 เนี่ยรัมักจะไม่ทำให้อันตรายต่อร่างกายอื
00:18:02 → 00:18:07 นะครับส่วนผงถ่านเนี่ยก็ถ้าเป็นน้อยๆเรา
00:18:07 → 00:18:09 ทานก็ไม่ได้ช่วยอะไรหรือไม่ทานก็ไม่ได้ทำ
00:18:09 → 00:18:13 ให้ไม่ทำให้แย่ใช่มั้ยฮะแต่ถ้ารุนแรงเรา
00:18:13 → 00:18:17 กินทานุงทาตก็ไม่ได้ช่วยอีกออคือนะครับ
00:18:17 → 00:18:19 คือคือว่าไม่มีผลอะไรเลยไม่ว่าคุณจะอาการ
00:18:19 → 00:18:22 หนักอาการเบาจุดหัวใจหลักก็คือไม่ให้แค่
00:18:22 → 00:18:25 เสียน้ำเท่านั้นเป็นหลักถูกมั้ยคะคือถ้า
00:18:25 → 00:18:28 มันเสียเราก็ต้องชดเชยให้ทันอ่าค่ะใช่มฮะ
00:18:28 → 00:18:31 เอออีกอันนึงคืออย่าไปทานยาหยุดข่าใช่ที่
00:18:31 → 00:18:34 ว่าจะถามเลยคารบางคนมันจะมียาหยุดขายบาง
00:18:34 → 00:18:38 ตัวที่แบบทานแล้วจะไปหยุดเงี้ยนะครับอัน
00:18:38 → 00:18:40 นี้มันก็มีข้อเสียมากกว่าเพะนี้บางคนอาจ
00:18:40 → 00:18:42 จะมองว่าเออทำไมไม่ดีล่ะเราไปหยุดเใช่
00:18:42 → 00:18:45 มั้ยครับใช่ค่ะมันไม่ได้อยู่แค่นั้นถ้า
00:18:45 → 00:18:48 เป็นการติดเชื้อเชื้อมันก็มันก็อยู่ข้าง
00:18:48 → 00:18:53 ในใช่มยครับและอาจจะสร้างพรตามมามากขึ้น
00:18:53 → 00:18:56 ก็เราถูกปลูกฝังมาค่ะอาจารย์ว่าผงถ่าน
00:18:56 → 00:18:58 เนี่ยมันจะช่วยรวบรวมเชื้อโรคต่างๆมันจะ
00:18:58 → 00:19:01 ไปจับเชืโลกในลำไส้ของเราแล้วเสร็จแล้วพอ
00:19:01 → 00:19:04 เราถ่ายออกมาก็จะเป็นสีดำนะมันจะออกไปให้
00:19:04 → 00:19:07 หมดเลยอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันไม่ใช่เลยใช่
00:19:07 → 00:19:10 มั้ยคะไม่ไม่ไม่ไม่น่าจะถูกฮะคือหลาย
00:19:10 → 00:19:13 ครั้งพอติดเชื้อรุนแรงโดยเฉพาะท้ารุนแรง
00:19:13 → 00:19:15 นะครับทานผงถ่านไปเยอะแค่ไหนก็ไม่ช่วยนะ
00:19:15 → 00:19:19 ฮะมันก็มันเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องก็ถ
00:19:19 → 00:19:23 มันมันต้องต้องไปศึกษาในงานวิจัยด้วยค่ะ
00:19:23 → 00:19:26 ค่ะเอ๊ะแล้วสุดท้ายผงถ่านมีประโยชน์อะไร
00:19:26 → 00:19:28 คะทำไมต้องมีอยู่ตอนนี้ด้วย
00:19:28 → 00:19:31 ทำไมเยังถึงอยู่ในท้อง
00:19:31 → 00:19:34 ตลาดคือสุดท้ายแล้วคือเหมือนดูเหมือนเข
00:19:34 → 00:19:36 ไม่มีประโยชน์เลยอ่ะค่ะคุณ
00:19:36 → 00:19:40 หมอครับก็ในกรณีที่อย่างที่ที่หมอพูดอ่ะ
00:19:40 → 00:19:44 ก็คือว่าถ้าการเอ่ออาหารเป็นพิษเนี่ยมี
00:19:44 → 00:19:47 ทั้งแบบติดเชื้อและไม่ติดเชื้อนะครับถ้า
00:19:48 → 00:19:51 ไม่ติดเชื้อเราก็ขจัดปัจจัยที่เป็นสาเหตุ
00:19:51 → 00:19:55 อาหารที่สเหพอมันถ่าออกไปมันก็หยุดค่ะนะ
00:19:55 → 00:19:58 ครับแต่ถ้าติดเชื้อมันก็ไม่ใช่ทุกกรณี
00:19:58 → 00:19:59 ต้องต้องทันยาฆ่าเชื้อ
00:19:59 → 00:20:04 ปฏิชีวนะนะครับถ้าร่างกายแข็งแรงก็สามารถ
00:20:04 → 00:20:08 หายการอับปุปกติเช่นกันอืแต่ถ้าเป็นกรณี
00:20:08 → 00:20:13 ที่เชื้อรุนแรงยังไงก็ต้องให้ยาเพื่อไป
00:20:13 → 00:20:17 เอ่อ่าเชื้อที่เยอะและรุนแรงนั้นนะครับอ
00:20:17 → 00:20:20 ค่ะค่ะดังนั้นการรักษามันึงอยู่ที่ 2
00:20:20 → 00:20:22 ปัจจัยหลักคือถ้าติดเชื้อรุนแรงต้อง
00:20:22 → 00:20:28 พยายามเอ่อให้คุณหมอจัดการให้ยาฆ่าเชื้อ
00:20:28 → 00:20:31 และ 2 เราก็ต้องชดเชยน้ำและเกลือแร่เพื่อ
00:20:31 → 00:20:34 ป้องกันภาวะแซกพอมจากการสูญเสียน้ำและ
00:20:34 → 00:20:38 เกือแร่จากการาออกไปค่ะอาจารย์คะจะสอด
00:20:38 → 00:20:40 คล้องกับคุณผู้ฟังทางบ้านที่เมื่อกี้
00:20:40 → 00:20:43 อาจารย์พูดเลยค่ะว่ารบกวนถามว่าเคยได้ยิน
00:20:43 → 00:20:45 ว่าท้องเสียเนี่ยถ้ามีอาการหนักถึงขั้น
00:20:45 → 00:20:47 ติดเชื้อในกระแสเลือดได้เนี่ยคุณผู้ฟัง
00:20:47 → 00:20:49 ทางบ้านเลยถึงว่าต้องมีวิธียังไงคะที่
00:20:50 → 00:20:51 ป้องกันไม่ให้ถึงขั้นนั้นเพราะเมื่อกี้
00:20:51 → 00:20:53 อาจารย์เพิ่งพูดมาเลยเนาะว่าติดเชื้อใน
00:20:53 → 00:20:56 กระแสเลือดเนน้องขวัญเนาะใช่ค่ะใช่ค่ะคือ
00:20:56 → 00:20:59 อย่างงี้ฮะคือคือความรุนแรงเนี่ยมันมี
00:20:59 → 00:21:02 ปัจจัยของหนึก็คือจากจากอ่าเชื้อที่เรา
00:21:02 → 00:21:05 ล็อเข้าไปค่ะว่าเชื้อนั้นน่ะมีความเอ่อ
00:21:05 → 00:21:08 รุนแรงของธรรมชาติของเชื้อแต่ละตัวเนี่ย
00:21:08 → 00:21:11 ความรุนแรงไม่เท่ากันค่ะนะครับ 2 ก็คือ
00:21:11 → 00:21:14 เป็นปัจจัยเรื่องของปริมาณเชื้อที่รับ
00:21:14 → 00:21:15 เข้า
00:21:15 → 00:21:18 ไปเชื้อในตัวเดียวกันคนนึงรับเยอะอีกคน
00:21:18 → 00:21:22 นึงรับไม่เยอะเพราะอาการไม่เท่ากันครับ
00:21:22 → 00:21:26 และปัจัยที่สำคัญก็คือภูมิต้านทานของตัว
00:21:26 → 00:21:29 พวกกเองอือฮึถ้าถ้าเป็นคนแข็งแรงบางที
00:21:29 → 00:21:32 เผลอๆเดี๋ยวหายเองใช่มั้ยครับอแต่ตรงข้าม
00:21:32 → 00:21:35 คนที่ภูมิตั้นทันไม่ดีเช่นเป็นโรคสัแขง
00:21:35 → 00:21:39 เป็นโรคเบาหวานินญากดภูมิได้เคมีอะไร
00:21:39 → 00:21:42 อย่างเงี้ยอันนี้ต้องระวังเป็นพิเศษอาหาร
00:21:42 → 00:21:44 ต้องสะอาดเป็นพิเศษนะครับอปรุงสุขเป็น
00:21:44 → 00:21:47 พิเสล้างมือทุกครั้งอะไรอย่างเงี้ยครับ
00:21:47 → 00:21:50 ล้างภาชนะให้สะอาดอย่างเงี้ยครับอืออีก
00:21:50 → 00:21:52 อันนึงที่ต้องระวังก็คือบ้านเราเนี่ยน้ำ
00:21:52 → 00:21:58 แข็งเราอากาศร้อนเราชน้ำน้ำแข็งน้ำแข็ง
00:21:58 → 00:22:02 ต้องดูดีๆเพราะว่าส่วนมากเราไม่ได้ควบคุม
00:22:02 → 00:22:05 คุณภาพการผลิตใช่มั้ยครับพอน้ำแข็งละลาย
00:22:05 → 00:22:08 มันก็คือน้ำที่เราดื่มเข้าไปอืเรา
00:22:08 → 00:22:11 อุตส่าห์ดื่มน้ำขวดคละลิน้ำขวดที่เป็นน้ำ
00:22:11 → 00:22:15 ที่แบบสะอาดแต่น้ำแข็งแไม่สะอาดฝนออกมาก็
00:22:15 → 00:22:20 คือไม่สะอาดนะครับอืค่ะค่ะรวมถึงผักผลไม้
00:22:20 → 00:22:23 ก็ต้องล้างให้สะอาดครับค่ะแต่ส่วนใหญ่
00:22:23 → 00:22:26 เพื่อลดเชื้อลงอืค่ะคนที่ลดปริมาณเชื้อลง
00:22:26 → 00:22:29 ก็ยิ่งบอกว่าถ้าเชื้อปริมาณเยอะกับปริมาณ
00:22:29 → 00:22:32 น้อยอาการก็ไม่เท่ากันถ้าน้อยร่างกายคุม
00:22:32 → 00:22:35 ต้านทานดีก็ขจัดได้ทันถูกต้องมั้ยฮะทหาร
00:22:35 → 00:22:39 เยอะกว่าเยอะกว่าศัตรูเพะฉะนั้นทหารก็ชนะ
00:22:39 → 00:22:42 แต่ถ้าศัตรูเข้ามาพร้อมๆกันทหารก็เยอะ
00:22:42 → 00:22:45 อยู่ดีแต่ว่าเชื้อโรคเยอะมากอืค่ะ่ะเราก็
00:22:45 → 00:22:48 ทหารของเราก็แพ้อย่างเงี้ยครับเให้ฟังนะ
00:22:48 → 00:22:52 ครับออืค่ะเออแต่ว่าส่วนใหญ่อ่ะค่ะ
00:22:52 → 00:22:54 อาจารย์คนชี้ชะตากันในตอนนี้อากาศที่ร้อน
00:22:54 → 00:22:57 มากอย่างที่เรา 2 คนได้พูดไปอ่ะค่ะว่าพอ
00:22:57 → 00:23:00 เสร็จปุ๊บแล้วเนี่ยค่ะน้ำแข็งที่บางคนเข
00:23:00 → 00:23:04 แช่ผักกับแช่อาหารบางครั้งกับเครื่องดื่ม
00:23:04 → 00:23:06 บางร้านเนี่ยเขาก็มาปนกันเพราะว่าน้ำแข็ง
00:23:06 → 00:23:10 ละลายเร็วไปหาน้ำแข็งไม่ทันใช่ใช่มั้ยคะ
00:23:10 → 00:23:11 ส่วนใหญ่คนจะท้องเสียแบบเงี้ยอย่างเงี้ย
00:23:11 → 00:23:15 เราคือเราต้องหลีกเลี่ยงยังไงดีคะอาจารย์
00:23:15 → 00:23:18 เพราะว่าก็อยากได้อะไรดเป็นเทิส่วนตัวของ
00:23:18 → 00:23:22 หมอนะฮะเนี่ยถ้าหมอไม่แน่ใจเรื่องน้ำน้ำ
00:23:22 → 00:23:28 แข็งเนี่ยหมอจะใช้ดื่มจากน้ำเย็น้าน้ำ
00:23:28 → 00:23:31 เย็นนะฮะก็ดื่มน้ำเย็นธรรมดาอ๋อก็คือไม่
00:23:31 → 00:23:35 เอาไม่รับน้ำแข็งใช่ๆถ้าเราไม่มั่นใจนะ
00:23:35 → 00:23:38 ครับอืแต่ทีนี้มันก็แล้วแต่แล้วแต่เอ่อ
00:23:39 → 00:23:41 ความชอบของแต่ละคนมันก็บังคับไม่ได้ 100%
00:23:41 → 00:23:44 อือค่ะแต่ว่าเราก็ให้ตระหนักไว้แล้วกัน
00:23:44 → 00:23:47 ว่ามันมีหนทางใดบ้างที่เชื้อมักจะมาใน
00:23:47 → 00:23:49 หน้าร้อนที่เราคุยกันอยู่นี้ใช่มั้ยครับอ
00:23:50 → 00:23:53 ค่ะค่ะเอ่อพอพูดถึงลักษณะการรับประทาน
00:23:53 → 00:23:55 เกี่ยวกับเรื่องของการกินน้ำแข็งประเทศใน
00:23:55 → 00:24:00 แถบบ้านเราอ่ะจะกินน้ำกับน้ำแข็งแต่ใน
00:24:00 → 00:24:03 ฝั่งตะวันตกอ่ะเขาจะกินแบบเหมือนน้ำเพียว
00:24:03 → 00:24:07 ๆไปเลยอันเนี้ยมันทำให้เอ่อลักษณะการกิน
00:24:07 → 00:24:09 การใช้ชีวิตแบบเนี้ยคนที่อยู่ทางด้าน
00:24:09 → 00:24:13 ตะวันตกเขามีเรื่องของอาการท้องเสียหรือ
00:24:13 → 00:24:16 ว่าเป็นอาหารเป็นพิษเนี่ยน้อยกว่าฝั่ง
00:24:16 → 00:24:17 เอเชียหรือเปล่าคะคุณ
00:24:17 → 00:24:21 หมอหรือว่าในประเทศเขตร้อนอะไรเงี้ยค่ะก็
00:24:21 → 00:24:24 ก็ไม่นะครับคือจริงๆแล้วของเขาก็มีคนไข้
00:24:24 → 00:24:27 เป็นเอ่อ f foring หรืออาหารเป็นพิษได้
00:24:27 → 00:24:30 ไม่ไม่น้อยเลยเหมือนกันอือค่ะเพียงแต่ว่า
00:24:30 → 00:24:33 ของเรานี่อาการร้อนเป็นพิเศษก็จาก
00:24:33 → 00:24:38 แบคทีเรียก็จะเด่นชัดขึ้นนะครับค่ะอือื
00:24:38 → 00:24:40 ค่ะงั้นก็คงต้องระวังทั้งหมดไม่ว่าจะ
00:24:40 → 00:24:43 อากาศเย็นหรืออากาศร้อนแต่อากาศร้อนก็
00:24:43 → 00:24:48 แบคทีเรียเจริญได้ได้กว้างนะครับค่ะเจริญ
00:24:48 → 00:24:51 ได้เร็วอืส่วนใหญ่ค่ะวันนี้แบบพอดีได้มี
00:24:51 → 00:24:54 โอกาสไปแถวแถวทองสนามหลวงจะเห็นแบบเขาขาย
00:24:54 → 00:24:57 ผลไม้คือฝรั่งเนี่ยคนคนต่างชาติน่ะค่ะเขา
00:24:57 → 00:25:00 จะจะแบบมีความมั่นใจในของบริโภคใช่มั้ยคะ
00:25:00 → 00:25:02 แบบว่าผักสลัดเขาอาจจะไม่ได้ล้างผลไม้เ
00:25:02 → 00:25:05 ไม่ได้ล้างเทานเลยแต่ถ้าเป็นคนไทยเราเห็น
00:25:05 → 00:25:08 ะอุ๊ยแม่เจ้าทานเลยเหรอเอออะไรอย่าเงี้ย
00:25:08 → 00:25:11 เราจะตกใจว่าแบบทานเลยเหรออะไรอย่าเงี้ย
00:25:11 → 00:25:13 ค่ะอันอันนี้คือคนฝรั่งหรือคนไทยที่ทาน
00:25:13 → 00:25:17 เลยคนคนต่างชาติอาจารย์ชาตทานเลยคือแบบ
00:25:17 → 00:25:21 ว่าอย่างเช่นไม่ได้ศึกษาเราประเทศไทยดี
00:25:21 → 00:25:25 ใช่ใช่คือคิดในใจว่าอุยแม่เจ้าเขาจะท้อง
00:25:25 → 00:25:27 เสียมน้อือไม่เค้าก็อยู่เมืองไทยมานาน
00:25:27 → 00:25:30 แล้วหรือเปล่าเก็เลยแใส่ไปแล้วดีอ่าอาจจะ
00:25:30 → 00:25:35 ปรับปรับลำไส้ไปแล้วใช่ปรับตัวได้แล้วอือ
00:25:35 → 00:25:37 ค่ะแต่ว่าแต่ว่าส่วนใหญ่ค่ะจะเห็น
00:25:37 → 00:25:39 พฤติกรรมอย่างเงี้ยคือไม่ว่าจะเป็นผลไม้
00:25:39 → 00:25:41 มีเปลือกไม่มีเปลือกเราควรล้างก่อนถูก
00:25:41 → 00:25:46 มั้ยคะใช่ค่ะคือยังไงก็ต้องควรจะล้างให้
00:25:46 → 00:25:49 สะอาดอือแต่อย่างที่เมื่อกี้เอ่อที่ที่
00:25:49 → 00:25:52 พูดว่าทอข้าปรอกออกไว้แล้วเนี่ย 1 คือน้ำ
00:25:52 → 00:25:56 ที่เขล้างสอาดใหต้องดูด้วยอ 2 ปอกไว้นา
00:25:56 → 00:25:59 ปอกไว้นานหรือยังอค่ะทุกๆอย่างเวลาอยู่
00:25:59 → 00:26:03 นานแบคทีเรียก็ค่อยเพิ่มตามเวลาทนอค่ะออ
00:26:03 → 00:26:06 แล้วนึกถึงแตงโมที่อยู่ในตู้แช่เลยนะคะ
00:26:06 → 00:26:08 พี่หยกออ่าเพราะว่าแตงโมคือสัมผัสสดกับ
00:26:08 → 00:26:12 อ่าผนังตู้ตู้ใสๆอ่ะตู้แก้วแล้วก็เจอกับ
00:26:12 → 00:26:15 น้ำแข็งน้ำแข็งก้อนใหญ่ซึ่งเวลาเาสไลด์
00:26:16 → 00:26:19 น้ำแข็งพี่ยกเคยเห็นป่ะอเออไสไลด์มาตาม
00:26:19 → 00:26:23 รางซึ่งรางก็น่าจะไม่ได้ล้างหรอกอืค่ะเออ
00:26:23 → 00:26:26 แต่ว่าเนี่ยค่ะส่วนใหญ่คือผลไม้ค่ะคนชอบ
00:26:26 → 00:26:29 บอกว่าส้มไม่ต้องล้างก็ได้เดี๋ยวเราก็ปอก
00:26:29 → 00:26:31 เปลือกอ่ะมังคุดไม่ต้องล้างก็ได้เดี๋ยว
00:26:31 → 00:26:35 เราก็ปอกเปลือกจริงๆคือล้างถูกมคะครับ
00:26:35 → 00:26:38 ครับคือเราก็ไม่มั่นใจว่าตรงเปลือกนั้น
00:26:38 → 00:26:41 สอาดจริงมยถูกต้องมครับคแต่ทีนี้ทั้งนั้น
00:26:41 → 00:26:44 เนี่ยเอ่อพวกนี้เนี่ยเราก็อย่าเพิ่งกังวล
00:26:44 → 00:26:47 มากเกินไปเพราะว่าถ้าเราคนส่วนใหญ่เป็นคน
00:26:47 → 00:26:50 ที่แข็งแรงไม่ได้มีโรคประจำตัวอือภูมิ
00:26:50 → 00:26:53 ต้างทานจึงปกติเหมือนจำนวนทหารทิมากปกติ
00:26:53 → 00:26:57 อืดังนั้นบางทีเราก็ในแต่ละวันเราก็ไม่มี
00:26:57 → 00:26:59 ทางทางที่เราจะแบบไม่ได้รับอะไรเลยไม่ได้
00:26:59 → 00:27:02 รับเชื้อเลยเป็นไปไม่ได้มันก็ต้องมีบ้าง
00:27:02 → 00:27:05 แต่ว่าการที่เชื้อมันเข้าไปเนี่ยึงก็มี
00:27:05 → 00:27:08 ด่านการต่อสู้ของในทางเดินอาหารก็คือใน
00:27:08 → 00:27:10 กระเพาะอาหารเราเนี่ยนะครับอ่าจะมีความ
00:27:10 → 00:27:15 เป็นโกรธอยู่ดังนั้นถ้าเรารับไม่มากมันก็
00:27:15 → 00:27:18 มีการป้องกันของมันอยู่แล้วอืแต่ที่พูด
00:27:18 → 00:27:20 อย่างงี้ก็ไม่ได้ให้ประมาทก็คือหมายความ
00:27:20 → 00:27:22 ว่าเพียงแต่ว่าที่พูดเมื่อกี้คือเดี๋ยว
00:27:22 → 00:27:24 เราก็ไม่ต้องเกร็งมากเกินไปแค่นั้นเองอ
00:27:24 → 00:27:27 ค่ะอาจารย์พูดแบบนี้ทำให้หยกนึกถึงนะคะ
00:27:27 → 00:27:29 น้องขวัญพี่นึกถึงคำนี้ค่ะว่าเออสะอาด
00:27:30 → 00:27:33 เกินไปอยู่ยากนะลูกต้องรับรับเชื้อโลกไป
00:27:33 → 00:27:36 บ้างงี้มีใช่ท่าใส่กลางเลยอ่าลูกหลานเรา
00:27:37 → 00:27:39 จะได้มีภูมิก็บอกว่าถ้าสะอาดเกินไปไม่ได้
00:27:39 → 00:27:44 เออเงี้ยเพราะว่าจะป่วยง่ายอือืออาจารย์
00:27:44 → 00:27:47 คะแล้วสำหรับอ่ะค่ะคนที่พิ่งผ่านการอาหาร
00:27:47 → 00:27:50 เป็นพิษหรือว่าท้องเดินท้องเสียไปบ้าง
00:27:50 → 00:27:53 เนี่ยค่ะอาหารมื้อแรกหรือว่าช่วงแรกที่
00:27:53 → 00:27:54 เราควรรับประทานควรเป็นอะไรเพราบางคนบอก
00:27:55 → 00:27:57 ว่าโอ๊ยชันท้องเสียออกไปตั้งเยอะฉันก็
00:27:57 → 00:28:00 ต้องเติมอะไรเข้าไปในร่างกายเราควรทาน
00:28:00 → 00:28:03 เนื้อสัตว์ไปเลยมหรือควรอาหารประเภทแป้ง
00:28:03 → 00:28:05 ก่อนหรือว่าอ้าแล้วงั้นฉันทานผักดีกว่า
00:28:05 → 00:28:08 หรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะครับคำถามที่ดีมาก
00:28:08 → 00:28:12 ครับคือพอช่วงที่เราึ่งฟื้นหรือกำลังจะดี
00:28:12 → 00:28:17 ขึ้นค่ะจากเ่ออาหารเป็นพีทเราควรจะทาน
00:28:17 → 00:28:21 อาหารอะไร 1 ก็คือเราทานได้ทุกอย่างนะแต่
00:28:21 → 00:28:25 ว่าเราต้องเราต้องมั่นใจว่าการย่อยอาหาร
00:28:25 → 00:28:28 ของเราเนี่ย 1 คือเราอการย่อยอาหารเรายัง
00:28:28 → 00:28:31 ไม่ดีเต็มที่ค่ะดังนั้นอาหารที่รับประทาน
00:28:31 → 00:28:37 เนี่ยก็ไม่ควรจะแบบประเภทมันเกินไปอืหรือ
00:28:37 → 00:28:40 ว่าย่อยยากเกินไปอัน 1 อันที่ 1 นะฮะค่ะ
00:28:40 → 00:28:44 อันที่ 2 อ่ะที่ควรจะเลี่ยงเลยนะก็คือพวก
00:28:44 → 00:28:48 อ่านมเพราะว่าการย่อยนมเนี่ยอาจจะไม่ค่อย
00:28:48 → 00:28:51 ดีณช่วงที่เรากำลังฟื้นตัวค่ะถ้าเราไปรับ
00:28:51 → 00:28:55 ประทานเอ่อผลิตภัณฑ์จากนมดื่มนมอะไรอย่าง
00:28:55 → 00:28:58 เงี้ยก็อาจจะทำให้อ่าคันแบบที่เรียกว่า
00:28:58 → 00:29:01 ควรจะหายแต่ว่าก็ยังไม่หายสักทีอืค่ะ
00:29:01 → 00:29:04 อาหารรถจจะกระตุ้นทางเดินอาหารได้ก็ควร
00:29:04 → 00:29:07 เลี่ยงคันจหมายถึงเผ็จเปรี้ยวอย่างเงี้ย
00:29:07 → 00:29:13 นะครับค่ะนะครับแล้วก็กาแฟน้ำอัดลมที่มัน
00:29:13 → 00:29:16 จะไปกระตุ้นทอาหารได้เช่นกันมีคาเฟอีน
00:29:16 → 00:29:20 อย่างเงี้ยก็ควรจะเรียงนะครับอค่ะก็ควรจะ
00:29:20 → 00:29:24 กินอาหารที่ไม่มันเี้ยวให้ละเอียดอาหาร
00:29:24 → 00:29:27 ที่ไม่ไม่หนักเกินไปเบาๆอะไรอย่างเงี้ยอื
00:29:27 → 00:29:30 อืค่ะทุกอย่างแต่ขอให้มันไม่หนักเกินไปอื
00:29:30 → 00:29:33 ค่ะเพราะว่าส่วนใหญ่เวลาท้องเสียค่ะจะได้
00:29:33 → 00:29:35 ยินคุณหมอที่แบบว่าช่วงนี้อย่าเพิ่งทาน
00:29:35 → 00:29:38 พวกผักสดนะเลี่ยงไปก่อนทานพวกอ่อนๆพวกแบบ
00:29:38 → 00:29:42 โจ๊กข้าวต้มหรืออะไรอย่างเงี้ยค่ะจะได้
00:29:42 → 00:29:44 ยินตที่คุณหมอเแนะนำอย่างงี้ก็อาจจะเป็น
00:29:44 → 00:29:47 เพราะว่าข้าวส้มกระโจ๊กย่อยง่ายอะไรอย่าง
00:29:47 → 00:29:50 เงี้ยครับคอือแต่จริงๆแล้วทานข้าวสวยได้
00:29:50 → 00:29:53 มั้ยถ้าเราเยไม่ละเอียดมันก็ไม่มีปัญหา
00:29:53 → 00:29:55 ครับใช่ค่ะแต่ถ้าเรากินหมูกรอบหมู 3 ชั้น
00:29:56 → 00:29:59 อันนี้ไม่ข้าวขาหมูยงมันก็หนย่อยยากเกิน
00:29:59 → 00:30:01 ไปพวกไคร
00:30:01 → 00:30:04 มาเดี๋ยวรอให้อีกสักงสวันอาจจะได้เลยแล้ว
00:30:05 → 00:30:10 แต่คนแข็งแรงเร็วอะไรอย่าเงี้ยอค่ะค่ะถ้า
00:30:10 → 00:30:13 ถ้าเป็นอย่างงี้นี่คือคนที่เพิ่งท้องเสีย
00:30:13 → 00:30:16 ก็ถือว่าต้องทนุถนอมตัวหน่อยการออกกำลัง
00:30:16 → 00:30:20 กายนี่ทำได้มยหรือว่าอ่าเว้นไปก่อน 2-3
00:30:20 → 00:30:23 วันให้เอ่อหลังจากที่เริ่มแข็งแรงมากขึ้น
00:30:23 → 00:30:27 ค่อยออกกำลังกายแต่บางคนแบอืนิดๆหน่อยๆทำ
00:30:27 → 00:30:30 เสียอยู่ที่อากาศนะฮถ้าเ่อเราโอหเราเสีย
00:30:31 → 00:30:33 น้ำเืแล้วมีฟแซกซอนเยอะเนี่ยแนะนำให้อยู่
00:30:33 → 00:30:35 ไปเป็นอาทิตย์เลยดีกว่าออเป็นอาทิตย์เลย
00:30:35 → 00:30:38 แต่ว่าสมมุติว่าถ้าเราถ่ายนิดเดียวแวบ
00:30:38 → 00:30:41 เดียวหายอย่างเงี้ยอันนี้ก็น้อยๆก็ไม่ได้
00:30:41 → 00:30:44 มีข้อห้ามอะไรก็ออกเบาๆได้เช่นไปเดินไป
00:30:44 → 00:30:48 จอกกิ้งเบาๆได้นะครับค่ะอยู่ที่อาการคน
00:30:48 → 00:30:51 ไข้ณตอนนั้นนะครับอือค่ะถ้ารุนแรงขนาดว่า
00:30:51 → 00:30:55 ต้องแบบมีปัญหาเกือแร่ไม่สมดุลไปทาง
00:30:55 → 00:30:58 สมมุตินะครับอันนี้นี้เราก็อย่าเพิ่งไป
00:30:58 → 00:31:01 หักโหมค่ะให้ร่างกายค่อยๆซ่อมก่อนซ่อมแม
00:31:02 → 00:31:04 ตัวเองให้หายก่อนอืเหมือนบางคนแอบเสียดาย
00:31:04 → 00:31:08 ไงพี่หยกซ้อมมาทั้งปีมีวิ่งฮมาราธอนวิ่ง
00:31:08 → 00:31:12 มาราธอนอะไรเงี้ยเหมนเออไม่ได้แบบแต่ว่าเ
00:31:12 → 00:31:14 แบบท้องเสียนิดๆอะไรอย่าเงี้ยแค่จุดแบบ
00:31:14 → 00:31:17 เริ่มๆแต่คืออันนั้นก็คือแทนที่จะได้
00:31:17 → 00:31:19 ประโยชน์กับตัวเองเนาะเป็นทำร้ายตัวเอง
00:31:19 → 00:31:21 เฉยเลยอ่ะเวลาที่แข่งขันไม่ควนนะครับ
00:31:21 → 00:31:24 เพราะว่าถ้าเราไม่แข็งแรงเราไปแข่งขันเรา
00:31:24 → 00:31:27 ก็อาจจะมีร่างกายเราอาจยังไม่ืตัวอะไร
00:31:27 → 00:31:32 อย่าเงี้นะครับอออืค่ะก็อก็กันดีกว่า
00:31:32 → 00:31:34 ไม่ให้ป่วยในช่วงที่เราจะไปแข่งกันก็คือ
00:31:34 → 00:31:37 รับประทานอาหารที่ปรุงสุขแล้วก็เรื่องของ
00:31:37 → 00:31:41 สุขอนามัยก็ดูแลกันดีๆใช่มั้ยคะคุณหมอใช่
00:31:41 → 00:31:46 ฮะใช่ฮะอืทานของที่ปรุงสุกแล้วก็ล้าง
00:31:46 → 00:31:50 สะอาดจันชามช้อนอะไรอย่างเงี้ยน้ำดื่ม
00:31:50 → 00:31:53 สะอาดมือเราก็ต้องล้างมือก่อนอ่าใช่ค่ะๆ
00:31:53 → 00:31:56 เรื่องมือสำคัญค่ะเพราะตอนนี้พอหางหาย
00:31:56 → 00:31:58 โควิดคนอาจจะไม่ล้างมือแล้วส่วนใหญ่ก็คือ
00:31:58 → 00:32:01 เห็นทานข้าวกันทีไรก็ถ่ายรูปตลอดถ่ายรูป
00:32:01 → 00:32:07 แทนการล้างมือถ่ายรูปแ้าือใช่ๆๆใช่ๆถ่าย
00:32:07 → 00:32:09 รูปแล้วก็ลงไว้ว่ารีวิวว่าร้านนี้เรามา
00:32:09 → 00:32:13 ทานแล้วอันนี้อร่อยนะอันนี้ไม่อร่อยนะอ
00:32:13 → 00:32:16 ใช่มันเป็นพฤติกรรมสมัยนิยมใช่ค่ะสมัย
00:32:16 → 00:32:20 นิยมเพราะว่ามันมันมันมันหายไปจริงๆนะคะ
00:32:20 → 00:32:22 แต่ก่อนเราจะเห็นว่าอ้าก็ฉีดีดมือก่อนใช่
00:32:22 → 00:32:27 เดี๋ยวนี้ไม่ไม่ไม่ไม่มีอืนะคะครับก็นี้
00:32:27 → 00:32:29 เรียกว่าแบบว่าได้รับความรู้จากอาจารย์
00:32:30 → 00:32:32 แบบมากมายหลายมุมนะคะเพราะว่าอย่างเงี้ย
00:32:32 → 00:32:35 อย่างอ๋อยินดีอย่างเรื่องอย่างเรื่อง
00:32:35 → 00:32:38 คาร์บอนนี่ไม่รู้มาก่อนเลยจริงแล้วก็เป็น
00:32:38 → 00:32:41 คนนึงที่ถ้าท้องเสียก็หาคาร์บอนเหมือน
00:32:41 → 00:32:44 ก่อนเหมือนกันออใช่ครับเหมือนก็ได้เป็น
00:32:44 → 00:32:46 ความรู้ส่วนตัวของหมอเนี่ยหมอก็ไม่เคย
00:32:46 → 00:32:49 รักษาดยเอ่อด้วยสุนของผมนะผมไม่เคยรักษา
00:32:49 → 00:32:54 คนด้วยผงคารบอนนะฮค่ะอืค่ะเอือคือคือไม่
00:32:54 → 00:32:57 เคยไม่เคยใช้จริงๆอืนะค่ะเพราะว่าเลยเลย
00:32:57 → 00:32:59 คิดว่ามันไม่น่าจะช่วยเพราะว่าเราก็รักษา
00:32:59 → 00:33:02 คนอื่นเราก็รักษาคนไข้ก็ไม่เคยใช้ง
00:33:02 → 00:33:04 คาร์บอนในการรักษาเรื่องอาหารเป็นพิษหรือ
00:33:04 → 00:33:09 ว่าท้องเดิมอืค่ะโเรียกว่าวันนี้ได้ข้อ
00:33:09 → 00:33:11 มูลครบถ้วนจากอาจารย์นะคะวันนี้ต้องขอ
00:33:11 → 00:33:13 ขอบพระคุณอาจารย์มากเลยนะคะที่มาให้ความ
00:33:13 → 00:33:17 รู้กับเราค่ะอาจารย์คะขอบพระคุณค่ะสวัสดี
00:33:17 → 00:33:19 ค่ะต้องขอบคุณทางรายการด้วยนะครับที่ให้
00:33:19 → 00:33:22 ความรู้ประชาชนครับขอบคุณค่ะขอบพระคุณค่ะ
00:33:22 → 00:33:27 อาจารย์สวัสดีค่ะสวัสดีครับค่ะสวัสดีค่ะ
00:33:27 → 00:33:30 ก็ที่จบไปนะคะนายแพทย์กิตตินะคะชื่นโยงนะ
00:33:30 → 00:33:32 คะนายแพทย์เชี่ยวชาญกลุ่มงานอายุรศาสตร์
00:33:32 → 00:33:34 โรงพยาบาลราชวิถีกรมการแพทย์กระทรวง
00:33:34 → 00:33:37 สาธารณสุขนะคะ