ควรบริโภคมะรุมในรูปแบบใดเพื่อประโยชน์ต่อสุขภาพโดยไม่เสี่ยงต่อผลข้างเคียง

Research Impact [by Mahidol] งานวิจัยมะรุมต้านมะเร็ง

จากช่อง : Mahidol Channel มหิดล แชนแนล


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0000:00:02 มะเร็งทุกๆอย่างอ่ะค่ะมันมีหลายสาเหตุนะ

00:00:0200:00:05 คะไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของพันธุกรรมนะคะ

00:00:0500:00:08 เป็นเรื่องยีนของแต่ละคนใช่มั้ยคะหรือว่า

00:00:0900:00:11 เป็นเรื่องของเชื้อชาติแต่ถ้าเราดูแล้วใน

00:00:1100:00:13 เรื่องของบทบาทของอาหารเนี่ยเราพบว่า

00:00:1300:00:16 มะเร็งลำไส้ใหญ่และทวารหนักเนี่ยมีสาเหตุ

00:00:1600:00:21 หลักๆเนี่ยมาจากอาหารเป็นส่วน

00:00:2100:00:26 ใหญ่มะเร็งลำไส้นับตั้งแต่ปีพุธศักราช

00:00:2600:00:30 2543 คนไทยมีผู้ป่วยโรคมะเร็งชนิดนี้

00:00:3000:00:32 เพิ่มขึ้นมากอย่างน่าตกใจจึงเป็นที่มาของ

00:00:3200:00:36 การศึกษาผักไทยในอาหารของสถาบันโภชนาการ

00:00:3600:00:38 เพื่อที่จะค้นหาสมุนไพรที่มีประโยชน์ใน

00:00:3800:00:44 การลดความเสี่ยงการเป็นมะเร็งลำ

00:00:4400:00:47 ไส้สาเหตุของมะเร็งลำไส้เนี่ยมันเป็น

00:00:4700:00:50 เรื่องของกระบวนการอักเสบที่เกิดขึ้นที

00:00:5100:00:53 นี้เนี่ยต้องมาสกรีนก่อนมันมีพืชสมุนไพร

00:00:5300:00:57 ตัวไหนสามารถที่จะลดเค้าเรียกเป็นดัชนี

00:00:5700:01:00 ชี้วัดการอักเสบนะคะเราก็เจอว่าอันดับที่

00:01:0000:01:03 ดีที่สุดเนี่ยก็คือมรุมก็คือใช้โดสหรือ

00:01:0300:01:06 ขนาดที่น้อยแต่สามารถที่จะลดการอักเสบได้

00:01:0600:01:07 ดีที่

00:01:0700:01:16 [เพลง]

00:01:1600:01:20 สุดในการวิจัยครั้งนี้ได้ทำการศึกษาการ

00:01:2000:01:23 ใช้มรุมในสัตว์ทดลองโดยจะแบ่งสัตว์ทดลอง

00:01:2300:01:27 ออกเป็น 3 กลุ่มกลุ่มแรกเนี่ยเราก็มองว่า

00:01:2700:01:29 เป็นเป็นหนูทดลองเนี่ยที่ไม่ได้รับการ

00:01:2900:01:32 เอ่อกระตุ้นด้วยสารก่อมะเร็งแล้วก็ไม่ได้

00:01:3200:01:34 ไม่ได้มะรุมด้วยก็คือได้อาหารตามปกติอัน

00:01:3400:01:37 นี้เขาเรียกว่าเป็นเป็นกลุ่มควบคุมแบบลบ

00:01:3700:01:39 นะคะเป็น Negative Control แล้วก็ส่วน

00:01:3900:01:41 กลุ่มที่เราเรียกว่ากลุ่มควบคุมบวกก็คือ

00:01:4100:01:43 เป็นหนูกลุ่มที่ถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็ง

00:01:4300:01:47 ลำไส้อันนี้ก็จะได้รับอาหารปกติโดยที่ไม่

00:01:4700:01:50 มีส่วนผสมของมะรุมนะคะแต่จะได้รับสาร

00:01:5000:01:53 กระตุ้นให้เป็นมะเร็งซึ่งทำให้ในระยะเวลา

00:01:5300:01:55 ที่เราทำการศึกษาเนี่ยสามารถกระตุ้นให้

00:01:5500:01:56 เกิดก้อนมะเร็ง

00:01:5600:02:00 ได้กลุ่มที่ 1 จะเป็นการเปรียบเทียบ

00:02:0000:02:02 ระหว่างกลุ่มควบคุมทั้ง 2 กลุ่มโดยกลุ่ม

00:02:0200:02:05 ควบคุมแบบลบเมื่อระยะเวลาผ่านไป 20

00:02:0500:02:09 สัปดาห์จะไม่เป็นมะเร็งลำไส้ส่วนกลุ่มควบ

00:02:0900:02:12 คุมแบบบวกเมื่อได้รับสารก่อมะเร็ง 2 ชนิด

00:02:1200:02:15 ภายใน 20 สัปดาห์จะมีอาการอักเสบหรือเป็น

00:02:1500:02:18 มะเร็งลำไส้จริงตามที่กำหนดจากนั้นเข้า

00:02:1800:02:21 สู่กระบวนการทดลองในสัตว์ทดลองกลุ่มที่ 2

00:02:2100:02:24 ซึ่งจะเป็นการศึกษาการกินมรุมในเชิงป้อง

00:02:2400:02:29 กันเราจะมีการผสมมรุมลงไปในอาหารที่ให้

00:02:2900:02:32 หนูกินโดยเราเราแบ่งออกเป็น 3 ขนาดนะคะ

00:02:3200:02:34 โดยที่มาของขนาดเนี่ยเราก็เทียบเคียงกับ

00:02:3400:02:38 ปริมาณการบริโภคของคนไทยด้วยมันจะมีตัว

00:02:3800:02:40 เลขอยู่ประมาณ 2 กรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กล

00:02:4000:02:43 แล้วก็มาเทียบเคียงกับไปในสัตว์ทดลองนะคะ

00:02:4300:02:46 เราผสมไปในหนูแต่ละกลุ่มเนี่ยให้แตกต่าง

00:02:4600:02:50 กันประมาณ 2 เท่าผสมในอาหารอยู่ที่ 6% นะ

00:02:5000:02:52 คะ 3% แล้วก็

00:02:5200:02:54 [เพลง]

00:02:5400:02:57 1.5% กลุ่มที่ 2 นี้จะแบ่งสัตว์ทดลองออก

00:02:5700:03:01 เป็น 6 กลุ่มย่อยๆกลุ่ม 3 4 และ 5 จะ

00:03:0100:03:03 เป็นสัตว์ทดลองที่ได้รับอาหารที่มีส่วน

00:03:0300:03:06 ผสมของมะรุมที่ต่างกันเพื่อที่จะศึกษาว่า

00:03:0600:03:09 มะรุมที่ได้รับนั้นจะไม่มีผลกระทบต่อร่าง

00:03:0900:03:14 กายแต่ในสัตว์ทดลองกลุ่มที่ 6 7 และ 8

00:03:1400:03:16 จะได้รับอาหารที่มีส่วนผสมของมะรุมต้ม

00:03:1600:03:18 ก่อน 2 สัปดาห์และจึงมีการให้สารก่อ

00:03:1800:03:22 มะเร็งหลังจากนั้นก็ให้อาหารที่มีส่วนผสม

00:03:2200:03:24 ของมะรุมต้มต่อไปอีก 3 สัปดาห์และเปลี่ยน

00:03:2400:03:28 เป็นอาหารปกติจนครบ 20 สัปดาห์ในการทดลอง

00:03:2800:03:30 ในสัตว์ทดลองกลุ่มสุดท้าย

00:03:3000:03:33 เป็นการศึกษาเชิงการรักษาผลในเชิงรักษา

00:03:3300:03:36 หรือบรรเทาสภาพของมะเร็งเนี่ยเพราะฉะนั้น

00:03:3600:03:37 หนูต้องถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็งก่อนหลัง

00:03:3700:03:39 จากนั้นเนี่ยเราถึงจะให้หนูเนี่ยได้รับ

00:03:3900:03:42 ฝักมรุมต้มที่ที่ 3 ขนาดหนู 3 กลุ่ม 3

00:03:4200:03:47 ขนาดเนี่ยนะคะการศึกษาในกลุ่มนี้สัตว์ทด

00:03:4700:03:50 ลองกลุ่มที่ 9 10 และ 11 จะมีการถูก

00:03:5000:03:52 กระตุ้นให้เป็นมะเร็งก่อนหลังจากนั้นจึง

00:03:5200:03:55 จะได้รับอาหารที่มีส่วนผสมของมะรุมต้มใน

00:03:5500:03:58 สัดส่วนที่ต่างกันไปอีก 15 สัปดาห์แต่ใน

00:03:5800:04:01 กลุ่มที่ 12 13 และ 14 จะไม่ได้รับสาร

00:04:0100:04:04 ก่อมะเร็งแต่จะได้รับอาหารที่มีส่วนผสม

00:04:0400:04:06 ของมะรุมต้มในสัดส่วนที่ต่างกันอีก 15

00:04:0600:04:10 สัปดาห์เช่นกันเพื่อที่จะศึกษาว่ามรุมที่

00:04:1000:04:12 ได้รับไปจะไม่มีผลกระทบต่อร่างกายเช่น

00:04:1200:04:15 เดียวกันเราก็เจอว่าในหนูกลุ่มควบคุมที่

00:04:1500:04:18 ได้รับสารกอมะเร็งอย่างเดียวเนี่ยนะคะก็

00:04:1800:04:21 ก็พบว่ามีก้อนมะเร็งเกิดขึ้นแล้วเราก็มา

00:04:2100:04:24 เปรียบเทียบอย่างในในในเชิงของการป้องกัน

00:04:2400:04:26 เนี่ยเราก็เอาหนูที่ได้รับอาหารผสมฝัก

00:04:2600:04:29 มะรุมต้มเนี่ยทั้ง 3 ขนาดเนี่ยมาเทียบกับ

00:04:2900:04:31 กลุ่มควบคุมที่เราเรียกว่ากลุ่มควบคุมแบบ

00:04:3100:04:34 บวกที่ได้รับสารก่อมะเร็งเราเจอว่าในหนู

00:04:3400:04:37 กลุ่มที่ได้รับฝักมะรุมต้มไม่ว่าจะโดสต่ำ

00:04:3700:04:39 หรือโดสสูงเนี่ยจำนวนก้อนมะเร็งนะคะหรือ

00:04:3900:04:43 ตัวพญาธิสภาพของมะเร็งเนี่ยมันดีขึ้นเป็น

00:04:4300:04:46 ลำดับนะคะโดยโดสที่สูงเนี่ยจะให้ผลในการ

00:04:4600:04:49 ลดจำนวนก้อนมะเร็งเนี่ยได้ดีกว่าในโดสที่

00:04:5000:04:52 ต่ำเมื่อเทียบกับกลุ่มควบคุมที่ไม่ได้รับ

00:04:5200:04:56 ฝักมะรุมต้มอันนี้ผลในเชิงป้องกันนะคะที

00:04:5600:04:58 นี้ในในกลุ่มที่เราให้หนูได้รับฝักบรุม

00:04:5800:05:00 ต้มหลังจากที่ถูกกระตุ้นให้เป็นมะเร็ง

00:05:0000:05:03 แล้วเราก็พบว่าจำนวนก้อนมะเร็งอ่ะค่ะก็ลด

00:05:0300:05:07 ลงเหมือนกันแต่เราพบว่าที่โดสต่ำกว่ากับ

00:05:0700:05:10 ให้ผลในการลดจำนวนก้อนมะเร็งได้ดีกว่าโดส

00:05:1000:05:12 ที่สูงซึ่งเราจะเห็นได้ว่าผลมันจะตรงกัน

00:05:1200:05:15 ข้ามระหว่างเชิงป้องกันกับในเชิงรักษาพอ

00:05:1500:05:17 หลังจากนั้นเนี่ยเราก็พยายามที่จะไปทบทวน

00:05:1800:05:20 ว่าการศึกษาในลักษณะของมะเร็งลำไส้เนี่ย

00:05:2000:05:23 เอ๊ะมันเป็นลักษณะแบบนี้ไมเราก็เจอค่ะว่า

00:05:2300:05:26 มันจะเป็นลักษณะนี้จริงๆการใช้โดสที่สูง

00:05:2600:05:30 มากๆเนี่ยบางครั้งมันพบว่าไม่ได้ลดภาวะ

00:05:3100:05:33 เอ่อพญาธิสภาพที่ดีขึ้นได้ดีเท่ากับที่

00:05:3300:05:37 โดส

00:05:3700:05:46 [เพลง]

00:05:4600:05:49 ต่ำเนื่องจากเราเจอว่าโดสที่ต่ำเนี่ยมัน

00:05:4900:05:51 ดีกว่าโดสที่สูงถูกมั้ยคะเพราะฉะนั้นการ

00:05:5100:05:53 บริโภคในรูปของอาหารเนี่ยอาจารย์มั่นใจ

00:05:5300:05:55 ว่าโดสมันจะไม่ได้สูงมากเพราะมันถูกจำกัด

00:05:5500:05:58 ด้วยปริมาณที่เราก็คงอิ่มซะก่อนแต่ถ้าเรา

00:05:5800:06:01 ไปทานเป็นแคปซูลคเอามาใส่เป็นผงอะไรอย่าง

00:06:0100:06:04 เงี้ยโอกาสที่เราได้ขนาดที่สูงเนี่ยแล้ว

00:06:0400:06:06 มันก็ไม่ได้ให้ผลดีไปกว่าที่โดสต่ำเพราะ

00:06:0600:06:08 ฉะนั้นในการศึกษาวิจัยครั้งนี้เนี่ยเรา

00:06:0900:06:10 ออกแบบให้เหมือนกับเป็นการบริโภคที่อยู่

00:06:1000:06:14 ในรูปของอาหารให้เอามะรุมเนี่ยมาอยู่ใน

00:06:1400:06:16 เมนูอาหารซึ่งมันอาจจะเพิ่มความหลากหลาย

00:06:1600:06:18 นะคะแต่ก่อนเรารู้จักกันแต่แกงส้มมะรุม

00:06:1800:06:21 อาจจะต้องมีการ create เมนูอะไรที่ทำให้

00:06:2100:06:24 ฝักมะรุมเนี่ยมันมาอยู่ในอาหารที่หลาก

00:06:2400:06:27 หลายเมนูมากขึ้นนะคะเพราะมีเหมือนกันมีคน

00:06:2700:06:31 เอาไปทำแกงอ่อมเอาไปทำเป็นำเอามารุมไปผัด

00:06:3100:06:33 อะไรอย่างเงี้ยนะคะก็อยากให้มีเมนูอะไร

00:06:3300:06:37 ที่ที่มันหลากหลายเมนูอะไรที่เป็นผักพื้น

00:06:3700:06:39 บ้านอาหารไทยอย่างเงี้ยค่ะที่มันเริ่มจะ

00:06:3900:06:42 หายหรือคนรุ่นใหม่ไม่รู้จักแล้วแต่มันมี

00:06:4200:06:45 ศักยภาพที่ดีในเชิงสุขภาพแล้วก็อยากจะให้

00:06:4500:06:48 มันกลับมาหรือเอาข้อมูลในงานวิจัยเนี่ยไป

00:06:4800:06:51 รองรับนะคะแทนที่หลายๆคนเนี่ยจะไปตื่น

00:06:5100:06:54 เต้นกับพืชผักอะไรของต่างประเทศซึ่งถ้า

00:06:5400:06:56 เราดูเนี่ยพืชผักสมุนไพรในประเทศไทยมี

00:06:5600:06:58 ศักยภาพในเชิงป้องกันเนี่ยดีกว่าเยอะเลย

00:06:5800:07:04 ค่ะ

00:07:0400:07:12 [เพลง]

00:07:2800:07:33 เเ

00:07:3300:07:41 [เพลง]