00:00:00 → 00:00:03 บนโซเชียลแชร์เรื่องเสียงดังในหูมีสาเหตุ
00:00:03 → 00:00:07 จากอาการไตอ่อนแอจึงแนะนำให้บำรุงไตเพื่อ
00:00:07 → 00:00:15 ช่วยให้อาการมีเสียงในหูดีขึ้นหือชัวร์
00:00:15 → 00:00:17 เหรอเรื่องนี้ถ้าจริงก็มีประโยชน์และควร
00:00:18 → 00:00:20 รีบบอกกันครับแต่ก่อนจะแชร์ต่อต้องเช็ค
00:00:20 → 00:00:22 ให้ถูกชัวร์ูนย์ชัวร์ก่อนแชร์สำนักข่าว
00:00:22 → 00:00:26 ไทยอสมทสอบถามกับอาจารย์สาขาวิชาโรคหูโสด
00:00:26 → 00:00:29 ประสาทการได้ยินและการทรงตัวภาควิชาโสด
00:00:29 → 00:00:33 นาสิิงวิทยาคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
00:00:33 → 00:00:35 ครับเสียงดังในหูเกิดจากอาการไตอ่อนแอ
00:00:35 → 00:00:38 จริงมั้ยครับเสียงดังในหูเนี่ยไม่ได้เกิด
00:00:38 → 00:00:42 จากไตอ่อนแอนะคะแต่ถ้าคนไข้มีภาวะไตวาย
00:00:42 → 00:00:45 หรือว่าการทำงานของไตผิดปกติอาจจะทำให้
00:00:45 → 00:00:47 เกิดเสียงดังในหูได้เนื่องจากมีของเสีย
00:00:47 → 00:00:50 คั่งอยู่ในร่างกายเนื่องจากโครงสร้างของ
00:00:50 → 00:00:53 ไตกับหูว่าคล้ายกันสามารถกรองของเสียได้
00:00:53 → 00:00:55 เหมือนกันเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วเนี่ยควรจะ
00:00:56 → 00:00:58 หาสาเหตุถ้ากังวลเรื่องไตก็ควรจะไปเจาะ
00:00:58 → 00:01:02 เลือดตรวจสุขภาพไปประจำปีปีละครั้งคนที่
00:01:02 → 00:01:05 มีปัญหาไตวายจะได้ยินเสียงในหูแบบไหนครับ
00:01:05 → 00:01:08 ขึ้นอยู่กับว่าประสาทหูเขาเสื่อมมากน้อย
00:01:08 → 00:01:10 แค่ไหนค่ะคนไข้ที่ไตวายส่วนใหญ่ประสาทหู
00:01:10 → 00:01:12 จะเสื่อมค่อนข้างเร็วเนื่องจากว่ามัน
00:01:12 → 00:01:15 สัมพันธ์กันโครงสร้างของไตกับหูคล้ายกัน
00:01:15 → 00:01:18 ส่วนใหญ่จะได้ยิน 2 ข้างเพราะว่าเป็นภาวะ
00:01:18 → 00:01:21 การทำงานของไตที่เสรมประสิทธิภาพเสียงก็
00:01:21 → 00:01:24 มีแล้วแต่เลยว่าเสียที่ความถี่ไหนถ้าความ
00:01:24 → 00:01:26 ถี่สูงก็จะเป็นเสียงวิดๆถ้าเกิดเป็นเสียง
00:01:26 → 00:01:28 ต่ำก็จะเป็นเสียงหึ่งๆเหมือนเสียงเครื่อง
00:01:28 → 00:01:31 จักรการที่ลักษณะเสียงดังในหูต่างกัน
00:01:31 → 00:01:34 เนี่ยก็ขึ้นอยู่กับโครงสร้างของหูชั้นใน
00:01:34 → 00:01:37 ด้วยค่ะว่ามันเสื่อมหรือว่าเสียสภาพไปตาม
00:01:37 → 00:01:40 โลกเดิมที่เป็นของเขาอ่ะคืออะไรอาจารย์
00:01:41 → 00:01:44 อธิบายว่าไตวายมีความสัมพันธ์กับหูถ้าไต
00:01:44 → 00:01:48 วายประสาทหูอาจจะเสื่อมเร็วกว่าคนอื่นแต่
00:01:48 → 00:01:51 ว่าไม่ได้เสมอไปไตกับหูเนี่ยโครงสร้างการ
00:01:51 → 00:01:54 ทำงานคล้ายกันแต่ถ้าเราควบคุมโรคได้ดีควบ
00:01:54 → 00:01:57 คุมไตได้ดีหรือว่าล้างไตสม่ำเสมอไม่ได้มี
00:01:57 → 00:01:59 ผลทำให้ประสาทหูเราเสื่อมเร็วกว่าคนอื่น
00:02:00 → 00:02:02 นะคะแต่เสียงดังในหูก็ยังมีเพราะว่าเป็น
00:02:02 → 00:02:05 การทำงานปกติของหูแล้วถ้ากินอาหารเพื่อ
00:02:05 → 00:02:08 บำรุงไตจะช่วยบำรุงหูหรือรักษาหูได้ด้วยม
00:02:08 → 00:02:11 ครับจากคำแนะนำที่ว่าบำรุงไตเพื่อจะบำรุง
00:02:11 → 00:02:14 หูจริงๆแล้วไม่เกี่ยวกันนะคะไม่จำเป็น
00:02:14 → 00:02:17 ต้องทานอาหารเพื่อบำรุงไตเพราะว่าหูกระต
00:02:17 → 00:02:20 อ่ะเป็นอวัยวะคนละส่วนกันถึงแม้โครงสร้าง
00:02:20 → 00:02:23 จะคล้ายกันแต่ว่ามันไม่ได้เกี่ยวกันโดย
00:02:23 → 00:02:26 ตรงค่ะอาจารย์อธิบายระบบการทำงานของไตส่ง
00:02:26 → 00:02:30 ผลต่อหูและทุกระบบของร่างกายการที่คนคน
00:02:30 → 00:02:32 ไข้ไตวายแล้วหูเสิมเร็วขึ้นเนื่องจากมี
00:02:32 → 00:02:35 ของเสียคั่งอยู่ค่ะแต่ถ้าคนไข้ไตวายแล้ว
00:02:35 → 00:02:39 ทานยาตามที่แพทย์สั่งแล้วก็คุมอาการของ
00:02:39 → 00:02:42 โรคไตได้นิ่งเนี่ยประสาทหูก็จะเสื่อมตาม
00:02:42 → 00:02:45 อายุปกติซึ่งของเสียที่คั่งอยู่ที่ไต
00:02:45 → 00:02:47 เนี่ยมันจะมีผลกับระบบเลือดทั้งหมดมันไม่
00:02:47 → 00:02:50 ใช่อยู่แค่ที่ไตที่เดียวค่ะก็จะระบบอื่น
00:02:50 → 00:02:53 ด้วยหัวใจสมองไม่ได้เกี่ยวกับหูอย่าง
00:02:53 → 00:02:55 เดียวเพราะว่าไตทำหน้าที่กองของเสียจาก
00:02:55 → 00:02:57 เลือดใช่ไหมยคะถ้าของเสียจากเลือดเนี่ย
00:02:58 → 00:03:00 ค่อนข้างเยอะออกซิเจนที่ไปเลี้ยงหูก็จะ
00:03:00 → 00:03:03 ต่ำลงแต่ถ้าเราสมมุติว่าคุมโรคไตได้ดีทาน
00:03:03 → 00:03:06 ยาตามแพทย์สั่งคุมได้นิ่งสม่ำเสมอทุก
00:03:06 → 00:03:09 อย่างก็เป็นไปตามอายุตามปกติอาจารย์ยังมี
00:03:09 → 00:03:11 คำแนะนำสำหรับผู้ที่มีปัญหาได้ยินเสียง
00:03:11 → 00:03:14 ดังในหูในคนไข้ที่มีเสียงดังในหูนะคะควร
00:03:14 → 00:03:16 จะมาพบแพทย์ค่ะไม่ใช่แก้ปัญหาด้วยการไป
00:03:16 → 00:03:21 ซื้อยาทานเองกินยาบำรุงเปิดคลิปหรือว่าทำ
00:03:21 → 00:03:23 การบริหารใดๆซึ่งไม่ได้มาตรฐานทางการ
00:03:23 → 00:03:26 แพทย์นะคะเพราะส่วนใหญ่แล้วเนี่ยเราต้อง
00:03:26 → 00:03:28 หาสาเหตุก่อนว่าเสียงดังในหูเราที่เกิด
00:03:28 → 00:03:31 ขึ้นเนี่ยเกิดจากอะไรถ้าอันที่เราสังเกต
00:03:32 → 00:03:34 ว่าถ้าอันเนี้ยเป็นปกติไม่ต้องไปหาาหมอ
00:03:34 → 00:03:37 คือ 1 เป็น 2 ข้างแล้วก็สังเกตได้ว่าได้
00:03:37 → 00:03:40 ยินในที่เงียบๆเป็นส่วนใหญ่อันที่เราควร
00:03:40 → 00:03:43 จะไปหาหมอคือ1ึเป็นข้างเดียวมีการได้ยิน
00:03:43 → 00:03:45 เสียงร่วมด้วยหรือว่าเสียงมันดังมากขึ้น
00:03:46 → 00:03:48 ข้างเดียวค่ะเสียงดังในหูข้างเดียวเนี่ย
00:03:48 → 00:03:51 ต้องหาสาเหตุคือเซลล์รับเสียงในหูเนี่ย
00:03:51 → 00:03:53 มันตายตั้งแต่เกิดอยู่แล้วมันเป็นเซลล์
00:03:53 → 00:03:55 setting เหมือนผมลร่วงถึงเวลาก็ร่วง
00:03:55 → 00:03:59 เมื่อเวลาตรงตำแหน่งที่เซลล์มันตายไปอ่ะ
00:03:59 → 00:04:02 ค่ะตัวข้างๆมันจะมาช่วยเพราะว่าไอ้ตัวที่
00:04:02 → 00:04:04 ทำงานหน้าที่ของมันน่ะมันเสียเพื่อนมันก็
00:04:04 → 00:04:07 เลยมาช่วยมันก็เลยต้องปล่อยเสียงดังขึ้น
00:04:07 → 00:04:09 เพื่อกระตุ้นเส้นประสาทแต่สรุปแล้วเรื่อง
00:04:09 → 00:04:11 เสียงดังในหูเกิดจากไตอ่อนแอร์นี่เป็นยัง
00:04:11 → 00:04:14 ไงครับเสียงดังในหูเพราะไตอ่อนแอร์เรื่อง
00:04:14 → 00:04:17 เนี้ยไม่ได้เป็นความจริงนะคะไม่ควรแชร์
00:04:17 → 00:04:20 ต่อเข้าใจและแก้ปัญหาให้ถูกจุดทำให้เรา
00:04:20 → 00:04:22 ใช้ชีวิตได้อย่างยั่งยืนนะครับส่งเรื่อง
00:04:22 → 00:04:25 น่าสงสัยแจ้งเตือนภัยข้อมูลเท็ปเพียงแอด
00:04:25 → 00:04:27 Line ศูน์ชัวร์ก่อนแชร์ไว้นะครับเข้าไป
00:04:27 → 00:04:30 ที่เพิ่มเพื่อนแล้วพิมพ์ค้นหา @s and
00:04:30 → 00:04:32 Share ยังมีอีกหลายเรื่องน่าสงสัยบน
00:04:32 → 00:04:34 สังคมออนไลน์หากได้รับอะไรมาอย่าเพิ่ง
00:04:34 → 00:04:39 แชร์ต่อร่วมตรวจสอบไปด้วยกันกับชัวร์ก่อน
00:04:39 → 00:04:55 [เพลง]
00:04:55 → 00:04:58
00:04:58 → 00:05:02 แชร์ L