00:00:00 → 00:00:01 เอ้ยเราเริ่มอายุเพิ่มขึ้นละเราเริ่ม
00:00:01 → 00:00:04 ศึกษาศาสตร์antiทอเพิ่มขึ้นต้องบอกว่าทุก
00:00:04 → 00:00:06 การประชุมมีการพูดถึงน้ำแร่ที่มาจาก
00:00:07 → 00:00:08 ไแลนด์
00:00:08 → 00:00:11 คนที่จบมาทางด้านเนี้ยมีไม่เยอะwaterอ sui
00:00:11 → 00:00:12 มีอยู่จริง
00:00:12 → 00:00:15 >> คนเราอ่ะควรจะต้องดื่มน้ำยังไง
00:00:15 → 00:00:17 >> คนหลายคนจะชอบบอกว่า 8 แก้วพอม 8 แก้ว
00:00:17 → 00:00:20 เท่านี้หรือ 8 แก้วเท่านี้คนที่บ้านไม่
00:00:20 → 00:00:23 สบายภูมิแพ้คือเป็นเม็ดที่หลังแขนมีโอกาส
00:00:23 → 00:00:25 ไปconเฟerรซที่ต่างประเทศแล้วก็ได้เจอ CEO
00:00:25 → 00:00:28 ของ Iceland Sprรingให้ลองดื่มน้ำ Iceland
00:00:28 → 00:00:31 Sprรing 3-10 4 เดือนยูต้องเริ่มเห็น
00:00:31 → 00:00:33 ความแตกต่างในร่างกายไม่อย่างงั้น Money
00:00:33 → 00:00:34 Back G การนี้ฝรั่งพูด
00:00:34 → 00:00:36 >> เฮ้ยเอางั้นเลย
00:00:36 → 00:00:38 >> เราก็เลยโทรไปถามเขาบอกว่าน้ำเนี้ยมี
00:00:38 → 00:00:40 คุณสมบัติ 2 อย่างที่แตกต่างจากน้ำยี่ห้อ
00:00:40 → 00:00:44 อื่น 1 คือค่าพี PH สูงมากๆถึง 8.88 แปลๆ
00:00:44 → 00:00:45 เนี่ยค่ะ
00:00:45 → 00:00:50 >> ต้องยอมรับว่าหลังจากดื่มน้ำนี้แล้วเนี่ย
00:00:50 → 00:00:52 >> ไม่ต้องแปรงฟันนะตอนเช้าก็เอาแบคทีเรียดี
00:00:52 → 00:00:55 ๆในปากเข้าไปมันก็เหมือนเวลาเรากินพีหรือ
00:00:55 → 00:00:57 โปรไบโอติกแล้วใช่มเรื่องนี้เรื่องจริง
00:00:57 → 00:00:57 เหรอเนี่ย
00:00:57 → 00:00:59 >> เรื่องจริงค่ะแต่เราอาจจะเกรงใจคุณข้างๆ
00:00:59 → 00:01:03 นิดนึงแต่ก็ไม่เป็นไรเพื่อสุขภาพ
00:01:03 → 00:01:05 >> สวย Story พcสกับอุ่มโอลิเวียสวัสดีค่ะ
00:01:05 → 00:01:08 รายการที่เราจะเชิญผู้เชี่ยวชาญตัวจริงมา
00:01:08 → 00:01:10 พูดคุยในเรื่องของสุขภาพแล้วก็ความสวย
00:01:10 → 00:01:12 ความงามวันนี้อุมยินดีมากๆเลยนะคะที่แขก
00:01:12 → 00:01:14 รับเชิญของเราเนี่ยไม่ใช่หมอหมอแต่ว่า
00:01:14 → 00:01:17 เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านน้ำที่เขาเรียกว่า
00:01:17 → 00:01:19 Water ค่ะพี่เฟสวัสดีค่ะ
00:01:19 → 00:01:21 >> สวัสดีค่ะก็
00:01:21 → 00:01:23 >> ตื่นเต้นแล้วก็ยินดีมากๆแล้วก็ขอบคุณพี่
00:01:23 → 00:01:26 เฟมากๆนะคะที่วันนี้เนี่ยจะมาแบ่งปันความ
00:01:26 → 00:01:29 รู้เรื่องของการดื่มน้ำกับเราหลังจากที่
00:01:29 → 00:01:32 ได้คุยกับพี่เฟเนาะแล้วก็ได้ลองดื่มน้ำ
00:01:32 → 00:01:35 แล้วมก็รู้สึกว่าเฮ้ยการดื่มน้ำอ่ะมัน
00:01:35 → 00:01:39 สำคัญมากๆแล้วมันส่งผลกับทั้งสุขภาพเรา
00:01:39 → 00:01:42 แล้วก็ความสวยของเราด้วยนะคะก็ขออนุญาต
00:01:42 → 00:01:46 ให้พี่เฟให้ความรู้นิดนึงแล้วกันว่า water
00:01:46 → 00:01:47 คืออะไร
00:01:47 → 00:01:50 >> โอเคก็จริงๆแล้วเนี่ยในเมืองไทยอ่ะคนอาจ
00:01:50 → 00:01:53 จะยังไม่ค่อยรู้จักว่า water su คืออะไร
00:01:53 → 00:01:56 นะคะจริงๆคล้ายๆกับ Wine su แต่ว่ามันมี
00:01:56 → 00:02:00 ความเอ่อ Nich แล้วก็เจาะลึกเข้าไปมาก
00:02:01 → 00:02:04 กว่านั้นในโลกเนี่ยเอ่อ Water Silor อาจ
00:02:04 → 00:02:07 จะมีไม่เยอะอาจจะแบบว่าตอนที่พี่เฟยจบมา
00:02:07 → 00:02:09 เนี่ยเอ่อไปถูกเทรนอยู่ที่ยุโรปนะคะก็
00:02:09 → 00:02:12 เป็นแค่หลักร้อยในโลก
00:02:12 → 00:02:17 >> อ๋อใช่ใช่ใช่พิเศษมมันนิชมากๆเลยแล้วก็คน
00:02:17 → 00:02:20 อาจจะแบบเอ๊ะอะไรคือ Water Silor แล้ว
00:02:21 → 00:02:23 มันยังไงนะอาชีพนี้มีด้วยหรอมีอยู่จริงใน
00:02:23 → 00:02:24 โลกนี้ด้วยหรอ
00:02:24 → 00:02:27 >> เออเนี่ยถึงก้อยแบบอยากรู้ว่ามันคืออะไร
00:02:27 → 00:02:32 ทำอะไรต้องแบบเรียนนานแค่ไหนยังไงเออ
00:02:32 → 00:02:36 >> คือจริงๆเนี่ยต้องบอกเลยว่าเอ่อคนที่จบมา
00:02:36 → 00:02:39 ทางด้านเนี้ยมีไม่เยอะในโลกแล้วอาชีพของ
00:02:39 → 00:02:42 Water Simia มีอยู่จริงซึ่งโดยปกติอ่ะ
00:02:43 → 00:02:45 ที่จะเห็นได้ในต่างประเทศนะคะของประเทศ
00:02:45 → 00:02:47 ยุโรปเนี่ยเขาให้ความสำคัญของคนที่ดื่ม
00:02:47 → 00:02:48 น้ำ
00:02:48 → 00:02:48 >> อื
00:02:48 → 00:02:51 >> แล้วเขาก็ฝรั่งเขาจะเรียกว่า sophisticate
00:02:51 → 00:02:53 มากในเรื่องของน้ำ
00:02:53 → 00:02:53 >> จริง
00:02:53 → 00:02:56 >> ในเมืองไทยคนอาจจะคิดทั่วๆไปว่าน้ำเนี่ย
00:02:57 → 00:03:01 คือยังไงอ่ะดื่มเมื่อเรากระหายน้ำแบบนี้
00:03:01 → 00:03:02 แต่ในต่างประเทศไม่ใช่นะ
00:03:02 → 00:03:05 >> เพราะว่าในอดีตดั้งเดิมโดยเฉพาะในยุโรป
00:03:05 → 00:03:09 เนี่ยเขาจะมีน้ำประเภทที่เรียกว่าแบบเป็น
00:03:09 → 00:03:12 Curative Water คือน้ำเพื่อรักษาน้ำ
00:03:12 → 00:03:16 เพื่อช่วยบำบัดให้สุขภาพร่างกายดีขึ้น
00:03:16 → 00:03:16 >> อ
00:03:16 → 00:03:19 >> เอ่ออันนี้ตั้งแต่สมัยแบบโบราณมากๆนะคะ
00:03:19 → 00:03:22 >> จริงๆอันเนี้เนี่ยคืออุมแบบแอบแชร์นิดนึง
00:03:22 → 00:03:26 ก็แล้วกันนะว่าได้มีโอกาสไปเมืองน้ำแร่มา
00:03:26 → 00:03:28 แล้วก็ได้ความรู้อย่างเช่นเอ่อผมไปเมือง
00:03:28 → 00:03:32 น้ำแร่ของลชเนาะรู้ว่าอ๋อน้ำแร่ตรงนั้น
00:03:32 → 00:03:37 น่ะดื่มไม่ได้นะมันเอาไว้ทาเอาไว้อาบอะไร
00:03:37 → 00:03:39 อย่างี้เพื่อรักษาโรคใช่
00:03:39 → 00:03:42 >> อ่าเก็จะแบ่งแต่ละที่ไม่เหมือนใช่แต่ละ
00:03:42 → 00:03:44 จุดของในโลกเนี่ยก็จะมีคุณสมบัติที่แตก
00:03:44 → 00:03:48 ต่างเพราะว่าด้วยภูมิศาสตร์เขาก็จะมีองค์
00:03:48 → 00:03:51 ประกอบของเอ่อคุณสมบัติของน้ำที่ช่วย
00:03:51 → 00:03:54 บำบัดไม่เหมือนกันอย่างตะกี้ที่หมออ๋มพูด
00:03:54 → 00:03:58 เลยว่าน้ำเนี่ยช่วยเอ่อช่วยเรื่องผิวหรือ
00:03:58 → 00:04:00 ช่วยเรื่องอะไรคนที่เป็นโรคเรื้อนหรือโรค
00:04:00 → 00:04:02 อะไรอย่างเงี้ยโรคโรคผิวหนังอ่ะเอ่อใน
00:04:02 → 00:04:05 สมัยโบราณเขาก็จะไปแช่ในเหล่าเนี้ยแล้วก็
00:04:05 → 00:04:07 จะดีแต่ดื่มไม่ได้นะอาจจะ
00:04:07 → 00:04:11 >> แรงไปหรือว่ามีสารเอ่อบางชนิดที่เยอะเกิน
00:04:11 → 00:04:13 ไปที่ไม่ดีกับร่างกายทีนี้เนี่ย Water
00:04:13 → 00:04:18 Silor ก็พี่เฟไปเทรนมาค่อนข้างซีเรียส
00:04:18 → 00:04:22 แล้วก็แบบว่าต้องทั้ง Take a test เป็น
00:04:22 → 00:04:25 ex ต้องรู้ทั้งtheoryี่แล้วก็แบบว่าต้อง
00:04:25 → 00:04:26 ชิมน้ำเยอะมาก
00:04:26 → 00:04:27 >> อ๋อ
00:04:27 → 00:04:32 >> เอ่อลิ้นของเราต้องอยู่ในสภาพที่แบบว่า
00:04:32 → 00:04:35 ก่อนชิมน้ำเนี่ยเขาก็จะมีcrครทีเรียเลยนะ
00:04:35 → 00:04:38 ว่าต้องเป็นน้ำที่อุณหภูมิห้องเราต้องไม่
00:04:38 → 00:04:40 หิวมาก่อนเพราะว่าไม่อย่างงั้นมันจะขับ
00:04:40 → 00:04:43 เค้าเรียกว่าน้ำลายต่างๆออกมาที่ทำให้รส
00:04:43 → 00:04:46 ชาติอาจจะเพี้ยนไปได้timมิ่งหรือจังหวะ
00:04:47 → 00:04:50 ที่ดื่มน้ำต้องเป็นยังไงเวลาไหนของวัน
00:04:50 → 00:04:52 อย่างเงี้ยค่ะก็จะเป็นการเทรนน้ำหลากหลาย
00:04:52 → 00:04:56 ประเภททำให้เราได้เข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับ
00:04:56 → 00:05:00 น้ำมากขึ้นว่าจริงๆน้ำเนี่ยช่วยรสชาติของ
00:05:00 → 00:05:03 อาหารให้ดีขึ้นหรือแย่ลงเพราะฉะนั้น water
00:05:03 → 00:05:06 suor ที่จบมาเนี่ยอาจจะหมายถึงว่า work
00:05:06 → 00:05:08 ควบคู่กับร้านอาหารอ
00:05:08 → 00:05:10 >> ที่เป็น fine dining
00:05:10 → 00:05:12 แล้วก็ดีไซน์เมนูออกมาเป็นเหมือน water
00:05:12 → 00:05:14 pairing อ่ะค่ะ
00:05:14 → 00:05:16 >> เหมือนที่เขาทำ wi pairing แต่ว่าอันนี้
00:05:16 → 00:05:17 เป็น water pairing
00:05:17 → 00:05:19 >> โอ้โห sophisticate มาก
00:05:19 → 00:05:21 >> sophisticate ใช่มั้คะยกตัวอย่างเช่น
00:05:21 → 00:05:23 aperative อย่างเงี้ยควรจะดื่มน้ำประเภท
00:05:23 → 00:05:27 ไหนเพื่อเรียกน้ำย่อยเอ่อน้ำแบบไหนควรจะ
00:05:27 → 00:05:29 ดื่มกับappetiเซอร์
00:05:29 → 00:05:32 >> น้ำแบบไหนที่ต้องดื่มกับเมนแบบนี้เมนดิช
00:05:32 → 00:05:36 แบบนี้หรือน้ำแบบไหนกับของหวาน
00:05:36 → 00:05:36 >> อ่า
00:05:36 → 00:05:39 >> เป็นต้นที่จะช่วยเสริมให้รสชาติดีขึ้น
00:05:39 → 00:05:42 เพราะบางคนถ้าไม่ทราบเนี่ยแล้วไปเลือกน้ำ
00:05:42 → 00:05:45 ประเภทเนี้ยแมตชในเมนูก็อาจจะรสชาติแย่ลง
00:05:45 → 00:05:46 เป็นไปได้
00:05:46 → 00:05:47 >> อ่า
00:05:47 → 00:05:49 >> ค่ะเพราะว่าเขาจะเทรนเราเรื่องของหลายๆ
00:05:49 → 00:05:52 อย่างอย่างเช่นเทสบัของลิ้นนะคะเาก็จะบอก
00:05:52 → 00:05:56 ว่าลิ้นเราเนี่ยจะต้องรับรสหลักๆคือ 4 รส
00:05:56 → 00:05:59 4 รสประกอบไปด้วยอะไรความหวาน
00:05:59 → 00:06:00 >> อื
00:06:00 → 00:06:04 >> ความเปรี้ยวความเค็มและความขม
00:06:04 → 00:06:04 >> อ่าใช่
00:06:04 → 00:06:06 >> ไม่มีเผ็ดนะ
00:06:06 → 00:06:09 >> คนไทยใส่เองอันนี้ไม่มีเผ็ดแต่ว่าอันนี้
00:06:09 → 00:06:13 คือ 4 รสชาติหลักๆที่ลิ้นเราอ่ะเทสบัจะ
00:06:13 → 00:06:17 ต้องรับรถให้ได้แล้วลิ้นเราก็เป็นจุดรับ
00:06:17 → 00:06:19 รถต่อมแต่ละจุดไม่เหมือนกัน
00:06:19 → 00:06:21 >> แล้วมันมีความสำคัญอย่างเช่นว่าแต่ละรถ
00:06:21 → 00:06:23 เนี่ยมันมีมันมีจุดประสงค์ของมันเพื่อ
00:06:23 → 00:06:27 ป้องกันให้ร่างกายเราอ่ะ survive ได้
00:06:27 → 00:06:27 >> อื
00:06:27 → 00:06:29 >> ยกตัวอย่างเช่นความหวานไม่ใช่กินเพื่อ
00:06:29 → 00:06:32 อร่อยนะคะรับรสอุ้ยอันนี้อร่อยจังเลยไม่
00:06:32 → 00:06:36 ใช่แต่จริงๆอ่ะธรรมชาติสร้างมาให้ความ
00:06:36 → 00:06:38 หวานเกิดจากเอ่อเราจะได้รับรสว่าอันนี้
00:06:38 → 00:06:41 คือแป้งน้ำตาลเพื่อเป็นพลังงานให้กับร่าง
00:06:41 → 00:06:41 กาย
00:06:41 → 00:06:42 >> อื
00:06:42 → 00:06:45 >> อ่าส่วนความเปรี้ยวเนี่ยก็เพื่อการขับ
00:06:45 → 00:06:49 สไลเวอร์หรือขับน้ำลายออกมาในการย่อยต่าง
00:06:49 → 00:06:49 ๆ
00:06:49 → 00:06:50 >> ออ
00:06:50 → 00:06:53 >> อย่างเช่นความเค็มเนี่ยก็จะได้รับเรื่อง
00:06:53 → 00:06:57 ของแร่ธาตุต่างๆที่เกี่ยวข้องกับการใช้
00:06:57 → 00:06:59 พลังงานความอยู่รอดของร่างกายและสุดท้าย
00:06:59 → 00:07:02 ความขมอันเนี้ยเพื่อให้ร่างกายเรียนรู้
00:07:02 → 00:07:06 และรับรสว่าอันเนี้คือทอกสิคนะคือสารพิษ
00:07:06 → 00:07:06 >> อ่าอย่างเช่นว่า
00:07:06 → 00:07:10 >> ไม่ใช่หวานเป็นลมขนเป็นยางี้
00:07:10 → 00:07:12 คือนึกออกมาเหมือนแบบเวลาถ้าเกิดคนที่
00:07:12 → 00:07:16 เา้าต่อมรับรสความขมบกพร่อง
00:07:16 → 00:07:19 >> เวลาเขาดื่มน้ำที่มีสารเคมีเยอะแล้วมี
00:07:19 → 00:07:23 กลิ่นพลาสติกหรือกลิ่นเคมีเขาจะไม่รับลด
00:07:23 → 00:07:25 ตรงนี้มันคือเป็นอันตรายกับร่างกายได้
00:07:25 → 00:07:28 >> อ๋อเป็นอย่างงี้นี่เอง
00:07:28 → 00:07:30 >> แต่ละใช่ค่ะแต่ละรสชาติเนี่ยก็คือร่างกาย
00:07:30 → 00:07:33 ดีไซน์มาให้มันมีฟังก์ชันว่าทำไมถึงต้อง
00:07:33 → 00:07:36 รับรถเหล่านั้น
00:07:36 → 00:07:38 คือเป็นเบสิคพื้นฐานตอนที่ไปเทรนเป็น
00:07:38 → 00:07:41 Water Silor นะคะแล้วก็อย่างเช่นว่า
00:07:41 → 00:07:44 เวลาที่เราจะเทสน้ำอย่างเงี้ยถ้าเราหิวก็
00:07:44 → 00:07:46 เทสไม่ได้นะต้องกินข้าวมาก่อนให้อิ่ม
00:07:47 → 00:07:48 >> เอ้าเพราะอะไรอ่ะคะ
00:07:48 → 00:07:51 >> เพราะว่ามันจะทำให้ต่อมรับรสของลิ้น
00:07:51 → 00:07:52 เปลี่ยน
00:07:52 → 00:07:54 >> หรือเพี้ยน
00:07:54 → 00:07:54 >> เพี้ยนได้
00:07:54 → 00:07:55 >> ออด้วยความหิว
00:07:55 → 00:07:58 >> ด้วยความหิวเพราะสไลเวอร์ขับออกเยอะ
00:07:58 → 00:08:00 >> ความเปรี้ยวก็จะนำ
00:08:00 → 00:08:00 >> อื
00:08:01 → 00:08:03 >> อ่าดังนั้นการที่เราจะรับรดน้ำที่มีความ
00:08:03 → 00:08:05 เปรี้ยวก็จะบกพร่อง
00:08:05 → 00:08:06 >> อ๋อ
00:08:06 → 00:08:07 >> หรือลดลงไปอออ๋อ
00:08:07 → 00:08:11 >> แบบนี้หรือถ้าดื่มสมมุติว่าเราเพิ่งกิน
00:08:11 → 00:08:14 รับประทานเสร็จในเมลนั้นๆก็ต้องรอสัก
00:08:14 → 00:08:17 ประมาณ 30 นาทีถึงชั่วโมงนึงแล้วก็ต้อง
00:08:17 → 00:08:20 อ่าไม่สุบหรี่ถ้าสำหรับคนที่สุบหรี่แล้ว
00:08:20 → 00:08:23 ก็ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มาก่อนต้องทำให้ลิ้น
00:08:23 → 00:08:25 ของเราเป็นกลางให้มากที่สุด
00:08:25 → 00:08:27 >> ก่อนที่เราจะเทสเริ่มเทสน้ำเหมือนเวลาเรา
00:08:27 → 00:08:30 เทสวนใช่มั้ยคะถ้าเกิดคนที่อ่าอาจจะเข้า
00:08:30 → 00:08:33 ใจก็คือต้องปรับรถของลินให้เป็นกลางก่อน
00:08:33 → 00:08:36 ที่เราจะเทสแก้วต่อไปหรือเหมือนกับคล้ายๆ
00:08:36 → 00:08:39 กับเทสเพฟฟูมอ่ะค่ะเทสน้ำหอมเราก็ต้องดม
00:08:39 → 00:08:39 กาแฟอ
00:08:40 → 00:08:43 >> อ๋อใช่ๆนรัก่อนใช่
00:08:43 → 00:08:46 >> ให้จมูกมันกลับมาสู่สภาพปกติโดยที่กลิ่น
00:08:46 → 00:08:48 ก่อนหน้านั้นเนี่ยจะกระทบกับกลิ่นถัดไป
00:08:48 → 00:08:49 แบบเนี้ยค่ะ
00:08:49 → 00:08:50 >> อ๋อ
00:08:50 → 00:08:53 เพราะจริงๆแล้วขอแรปupันิดนึงเนาะ water
00:08:53 → 00:08:56 เนี่ยก็คือจะต้องมีความรู้ว่าน้ำแต่ละ
00:08:56 → 00:09:00 แหล่งน้ำแต่ละที่มีคุณสมบัติยังไงดีต่อ
00:09:00 → 00:09:04 สุขภาพยังไงใช้ทำอะไรรวมถึงรสชาติของน้ำ
00:09:04 → 00:09:06 ในแต่ละที่มาแมชกับอีก
00:09:06 → 00:09:09 >> ถูกต้องใช่ค่ะยกตัวอย่างเช่นเนี่ยเอ่อ
00:09:09 → 00:09:12 Water Salia ก็สามารถคล้ายๆ work in
00:09:12 → 00:09:14 conjunction กับ nutritionist นัก
00:09:14 → 00:09:17 โภชนาการอย่างเงี้ยได้แล้วก็บอกว่าโอเคใน
00:09:17 → 00:09:21 บางกรณีนะสมมุติว่าเ่อบริษัทที่เขาผลิต
00:09:21 → 00:09:24 น้ำอันนี้เขาเรียกว่าเป็นmanมade water
00:09:24 → 00:09:27 นะคะคือน้ำประดิษฐ์โดยมนุษย์อย่างเงี้ย
00:09:27 → 00:09:29 คือน้ำบรรจุขวดที่
00:09:29 → 00:09:32 >> ที่ไม่ใช่มาจากแหล่งน้ำธรรมชาติแล้วเรา
00:09:32 → 00:09:34 อยากจะประดิษฐ์น้ำเนี้ยให้มันมีคุณสมบัติ
00:09:34 → 00:09:39 สุดท้ายอ่ะมีอะไรที่ตอบโจทย์ Consumer
00:09:39 → 00:09:41 Nend Consumer ยกตัวอย่างเช่น Water
00:09:41 → 00:09:44 Sia พูดได้ว่าโอเคนะถ้าคุณเนี่ยนอนหลับ
00:09:44 → 00:09:49 ไม่ลึกหรือคุณมีอาการกล้ามเนื้อตึงอย่าง
00:09:49 → 00:09:51 เงี้ยควรจะดื่มน้ำที่มีส่วนผสมของ
00:09:51 → 00:09:52 แมกนีเซียมมากขึ้น
00:09:52 → 00:09:54 >> เป็นต้นอ่าอย่างเงี้ยค่ะ
00:09:54 → 00:09:55 >> โอ
00:09:55 → 00:09:57 >> เบอร์นั้นเลย
00:09:57 → 00:09:59 >> ก็คือคเซิร์นในเรื่องของน้ำกับสุขภาพมากๆ
00:09:59 → 00:10:02 >> ถูกต้องก็คือจะลิงก์ไปกับ anti-aging
00:10:02 → 00:10:04 หรือ wellbeing ของเราไปด้วยหรือว่าใน
00:10:04 → 00:10:08 ต่างประเทศเก็จะมีการวิจัยออกมาว่าน้ำที่
00:10:08 → 00:10:12 ในโซนบางโซนในประเทศอเมริกานะคะมีส่วนผสม
00:10:12 → 00:10:14 ของลิเธียม
00:10:14 → 00:10:14 >> อ๋อ
00:10:14 → 00:10:18 >> บางบางๆแต่ไม่ใช่ว่าอ่าไม่ใช่ว่าเยอะจน
00:10:18 → 00:10:21 เกินไปนะคะก็จะช่วยเรื่องของ depression
00:10:21 → 00:10:21 >> อ
00:10:21 → 00:10:24 >> แบบนี้อ่าอ่ะสำหรับใครไม่รู้จักลิเธียม
00:10:24 → 00:10:26 ลิเธียมคือเป็นเหมือนมุสบิไลเซอร์
00:10:26 → 00:10:27 >> ค่ะ
00:10:27 → 00:10:30 >> อ่าซึ่งเป็นยาด้วยแต่ว่าบังเอิญว่ามัน
00:10:30 → 00:10:32 เป็นแร่ธาตุที่อยู่ในน้ำบางที่ด้วย
00:10:32 → 00:10:34 >> ใช่อีก 1 ใช่ค่ะแต่ว่าต้องเป็นปริมาณ
00:10:34 → 00:10:37 ประมาณเ่อประมาณปริมาณนึงนะคะที่ไม่ใช่
00:10:37 → 00:10:39 ว่าเยอะจนเกินไปเพราะถ้าเยอะเกินจนเกินไป
00:10:39 → 00:10:42 อาจจะทอกสิคได้ด้วยเหมือนกัน
00:10:42 → 00:10:44 >> ก็แปลว่าน้ำเนี่ยก็ต้องแบบเลือกให้ดี
00:10:44 → 00:10:47 เหมาะกับเราแล้วก็มากไปก็ไม่ได้น้อยไปก็
00:10:47 → 00:10:48 ไม่ดี
00:10:48 → 00:10:50 >> ถ้างั้นมขออนุญาตขอความรู้นิดนึงจาก
00:10:50 → 00:10:52 waterอรมิย
00:10:52 → 00:10:53 เลย
00:10:53 → 00:10:56 >> ว่าแบบว่าเออจากอย่างเงี้ยจริงๆแล้วเนี่ย
00:10:56 → 00:10:59 คนเราอ่ะควรจะต้องดื่มน้ำยังไง
00:10:59 → 00:11:03 >> อ่าคือหลักการมันง่ายมากเลยค่ะหมออุ๋มคน
00:11:03 → 00:11:05 หลายคนจะชอบบอกว่าเอ๊ะเอ๊ะ 8 แก้วพอมย
00:11:06 → 00:11:08 เห็นได้ยินมาตั้งแต่เด็กอ่ะ 8 แก้ว 2
00:11:08 → 00:11:09 ลิตร
00:11:09 → 00:11:13 >> เออพอมยหรือว่า 8 แก้วเท่านี้หรือ 8 แก้ว
00:11:13 → 00:11:14 เท่านี้
00:11:14 → 00:11:14 >> อ่า
00:11:14 → 00:11:17 >> ขนาดของแก้วต้องเป็นเท่าไหร่นะอย่างเงี้ย
00:11:17 → 00:11:17 >> อ่า
00:11:17 → 00:11:21 >> จริงๆ Water Silia เขามีเอ่อ criteria
00:11:21 → 00:11:23 minimum requirement ในการดื่ม
00:11:23 → 00:11:24 >> อื
00:11:24 → 00:11:27 >> โดยคำนึงถึงน้ำหนักตัว
00:11:27 → 00:11:28 >> ละเอียด
00:11:28 → 00:11:28 >> ใช่มั้คะ
00:11:28 → 00:11:33 >> customiz ต่อคนเลยอ่ะดูว่าแต่ละคนเนี่ย
00:11:33 → 00:11:36 อะไรที่เหมาะที่ดีที่สุดยกตัวอย่างเช่น
00:11:36 → 00:11:37 สมมุติหมออุมน้ำหนัก 50
00:11:37 → 00:11:38 >> อ่าหนัก 50
00:11:38 → 00:11:44 >> 50 แล้วให้จับตัวเลขเนี่ยคูณ 30
00:11:44 → 00:11:46 >> 50 * 30
00:11:46 → 00:11:49 >> อ่าได้ 1,500 แปลว่า 1,500 มลต
00:11:49 → 00:11:50 >> เป็นมินิัม
00:11:50 → 00:11:52 >> มินิัมนะเอ่อแล้วไม่ใช่ก็ไม่ไม่ใช่ที่
00:11:52 → 00:11:56 ดื่มทันทีให้จบภายในเอ่อ inone go นะ
00:11:56 → 00:12:00 หมายถึงว่าดื่มจบทันที 100 มอันนี้คือ
00:12:00 → 00:12:01 ทยอยดื่มทั้งวัน
00:12:01 → 00:12:03 >> ถูกต้องต้องทยอยจิบยกตัวอย่างเช่นตื่น
00:12:03 → 00:12:06 อื่นมาตอนเช้าดีที่สุดคือน้ำอุณหภูมิห้อง
00:12:06 → 00:12:07 ปกติ
00:12:07 → 00:12:08 >> อันนี้เราทำถูกอยู่
00:12:08 → 00:12:10 >> อันอันนี้ดีที่สุดนะคะแต่ว่าเดี๋ยวมันจะ
00:12:10 → 00:12:12 มี exception เรื่องอื่นก็คือดีที่สุดคือ
00:12:12 → 00:12:14 อุณหภูมิห้องปกติเพราะว่าอะไรเพราะว่า
00:12:14 → 00:12:17 ร่างกายต้องใช้พลังชีวิตในการไปย่อย
00:12:17 → 00:12:20 อุณหภูมิของเอ่อลิquวิดหรือของเหลวที่
00:12:20 → 00:12:22 เข้าร่างกายถ้าไม่ใช่อุณหภูมิใกล้เคียง
00:12:22 → 00:12:24 กับร่างกายหรืออุณหภูมิเลือดน่ะเต้องใช้
00:12:24 → 00:12:25 พลังชีวิตไปย่อย
00:12:25 → 00:12:26 >> อื
00:12:26 → 00:12:29 >> ไปไปทำงานอ่าอ่าอย่างน้ำเย็นไปเราก็ต้อง
00:12:29 → 00:12:30 >> อ่าเต้องปรับ
00:12:30 → 00:12:32 >> ถูกต้องทีเนี้ยถ้ามันเป็นอุณหภูมิห้อง
00:12:32 → 00:12:34 อยู่แล้วเวลาเราตื่นดื่นขึ้นมาปุ๊บเรา
00:12:34 → 00:12:37 ดื่มแล้วไม่ต้องแปรงฟันนะตอนเช้าก็เอา
00:12:37 → 00:12:40 แบคทีเรียดีๆในปากเข้าไปมันก็เหมือนเวลา
00:12:40 → 00:12:42 เรากินพรีหรือโปรไบโอติกแล้วใช่มเรื่อง
00:12:42 → 00:12:43 นี้เรื่องจริงเหรอเนี่ย
00:12:43 → 00:12:46 >> เรื่องจริงค่ะแบคทีเรียตอนกลางคืนดีนะ
00:12:46 → 00:12:48 เพราะว่ามันก็อยู่ในปากเราเนี่ยเนาะ
00:12:48 → 00:12:50 >> อ๋อก็คือมันแบบเป็นทางเดินอาหารเหมือนกัน
00:12:50 → 00:12:52 >> ถูกต้องมันจะไปช่วยเรื่องของไดจสชัตั้ง
00:12:52 → 00:12:53 แต่เช้าเลย
00:12:54 → 00:12:54 >> ออ
00:12:54 → 00:12:56 >> แต่เราอาจจะเกรงใจคุณข้างๆนิดนึงแต่ก็ไม่
00:12:56 → 00:12:59 เป็นไรเพื่อสุขภาพ
00:12:59 → 00:13:02 >> ก็ดื่มไปเลยนะคะตอนเช้าก็ประมาณเอ่อ
00:13:02 → 00:13:03 ประมาณนึง
00:13:03 → 00:13:06 อ่าอาจจะสัก 500 มลตหรือเยอะอยู่นะ
00:13:06 → 00:13:08 >> คืออย่างมันขึ้นอยู่กับว่าคืนก่อนหน้า
00:13:08 → 00:13:11 นั้นน่ะเราใช้ชีวิตยังไง 300-500 มลตได้
00:13:12 → 00:13:14 ได้เลยไม่ใช่แค่จิบจึ๊กนึงอย่างเงี้ยอาจ
00:13:14 → 00:13:17 จะยังไม่ได้ activate ร่างกายเพียงพอ
00:13:17 → 00:13:19 >> อ๋อแล้วดื่มน้ำน้อยไปเพราะว่าตอนเช้ามัน
00:13:19 → 00:13:22 อาจจะน่าจะดื่มประมาณ 200 อ่ะ
00:13:22 → 00:13:25 >> ก็ถ้าแก้วถ้าเรารู้สึกว่ามันพอแล้วไม่ได้
00:13:25 → 00:13:29 กระหายก็อาจจะว่าโอเคแต่ถ้าวันก่อนหน้า
00:13:29 → 00:13:32 นั้นเราใช้ชีวิตหนัก
00:13:32 → 00:13:34 คำว่าหนักหมายถึงพูดเยอะมั้ย
00:13:34 → 00:13:36 >> อ้าพูดเยอะตลอดอยู่แล้วอ่ะ
00:13:36 → 00:13:38 >> พูดเยอะมั้ย
00:13:38 → 00:13:41 รับประทานอาหารรสที่จัดเค็มเปรี้ยวหวาน
00:13:41 → 00:13:45 >> อ่ารสจัดรวมถึงอาหารที่ชุรสด้วยมั้ย
00:13:45 → 00:13:46 >> เผ็ดถูกต้องค่ะ
00:13:46 → 00:13:46 >> อ๋อค่ะ
00:13:46 → 00:13:49 >> แปลว่าถ้าเกิดเราอ่ะดื่มน้ำไม่พอในวัน
00:13:49 → 00:13:51 ก่อนหน้านั้นเนี่ย 200 มลตในวันรุ่งขึ้น
00:13:51 → 00:13:52 อาจจะไม่พอนะ
00:13:52 → 00:13:52 >> ออ
00:13:52 → 00:13:54 >> อ่าร่างกายก็ยังดีไฮเดรต
00:13:54 → 00:13:57 >> ทีเนี้ยเราก็ควรดื่มไปเรื่อยๆระหว่างวัน
00:13:57 → 00:14:00 นะคะในตะกี้เราใช้ 30 * 50 ออกมาเป็น
00:14:00 → 00:14:04 1,500 ใช่ตอนเช้าดื่มไปสักเลซอ่ะ 250-
00:14:04 → 00:14:05
00:14:05 → 00:14:05 >> อ่า
00:14:05 → 00:14:09 >> แล้วก็ทยอยดื่มก่อนเที่ยนเที่นตอนบ่ายตอน
00:14:09 → 00:14:12 เย็นแล้วก็ก่อนนอนเพราะว่าทันทีที่คุณรู้
00:14:12 → 00:14:16 สึกกระหายน้ำแปลว่าอะไรรู้มออุ๋มแปลว่า
00:14:16 → 00:14:20 เราขาดน้ำประมาณ 1% ของ bodyight เรียบ
00:14:20 → 00:14:20 ร้อยแล้ว
00:14:20 → 00:14:25 >> 1% ของ bodyight มันไปเอฟเฟคสมองของเรา
00:14:25 → 00:14:27 แล้วให้เรารู้สึกกระหายน้ำถูกต้องแปลว่า
00:14:27 → 00:14:30 ถ้าคุณกระหายปุ๊บแปลว่าคุณน่ะขาดน้ำแล้ว
00:14:30 → 00:14:34 นะแต่ถ้าจะดีที่สุดคือจิบไปเรื่อยๆไม่ให้
00:14:34 → 00:14:36 ไม่ให้เกิดความรู้สึกกระหาย
00:14:36 → 00:14:36 >> อื
00:14:36 → 00:14:40 >> อันเนี้คือดีร่างกายก็จะแบบมี blood flow
00:14:40 → 00:14:42 bl circulation ที่ดี
00:14:42 → 00:14:45 >> อ๋ออันนี้สำคัญมากเลยเนาะเพราะว่าผิวเรา
00:14:45 → 00:14:47 อ่ะถ้าสมมุติว่ามีบล circulation ที่ดี
00:14:47 → 00:14:48 ผิวเราก็จะสวย
00:14:48 → 00:14:49 >> ถูกต้อง
00:14:49 → 00:14:52 >> แล้วก็อย่างเช่นโดยเฉพาะผมด้วยเนาะ
00:14:52 → 00:14:52 >> ใช่
00:14:52 → 00:14:55 >> เพราะว่ายาหลายๆตัวที่ไปกระตุ้นให้ผมขึ้น
00:14:55 → 00:14:57 น่ะคือไปกระตุ้น blood circulation ที่
00:14:57 → 00:14:59 หนังศีรษะเหมือนกัน
00:14:59 → 00:15:01 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้าเกิดใครมีปัญหาผิว
00:15:01 → 00:15:03 ปัญหาผมดื่มน้ำก็ช่วย
00:15:03 → 00:15:06 >> เกินมากจริงๆเนี่ยตะกี้เอ่อพี่เฟยังพูด
00:15:06 → 00:15:11 ไม่จบว่า 1,500 มม.เนี่ยคือมินิัมแต่ถ้า
00:15:11 → 00:15:13 หมออุ๋มวันนั้นเนี่ยมีการใช้ชีวิตที่ไม่
00:15:14 → 00:15:17 ปกติหมายถึงอะไรบ้างหมายถึง 1 ออกกำลัง
00:15:17 → 00:15:19 กายวันนั้นมีเหงื่อออกใช่มั้ย
00:15:19 → 00:15:19 >> ออ
00:15:19 → 00:15:21 >> แล้วก็สูญเสียน้ำ
00:15:21 → 00:15:24 >> 2 พูดเยอะพูดกับคนไข้ตั้งแต่เช้าจนเย็น
00:15:24 → 00:15:27 >> แล้วดื่มแค่ 1,500 มลตเอาไม่อยู่นะ
00:15:27 → 00:15:27 >> ออ
00:15:27 → 00:15:30 >> เพราะเราเสียน้ำจากการที่เราต้องพูดอยู่
00:15:30 → 00:15:31 เรื่อยๆ
00:15:31 → 00:15:33 >> 3 อาจจะมีการรับประทานอาหารรสจัดหรือ
00:15:33 → 00:15:37 ดื่มแอลกอฮอล์วนหรืออะไรต่างๆกาแฟชาพวก
00:15:37 → 00:15:37 นี้คือ
00:15:37 → 00:15:38 >> ดีต
00:15:39 → 00:15:39 อื
00:15:39 → 00:15:41 >> ในร่างกายเราก็ต้องดื่มน้ำเข้าไปทดแทนเคย
00:15:41 → 00:15:45 สังเกตมเวลาเราดื่มชาหรือกาแฟห้ามดื่มน้ำ
00:15:45 → 00:15:47 ตามนะแล้วไม่ให้ดื่มน้ำไปหลายๆชั่วโมงเรา
00:15:47 → 00:15:49 จะเริ่มคอแห้ง
00:15:49 → 00:15:49 >> ใช่
00:15:49 → 00:15:51 >> อย่างเงี้ยค่ะเป็นต้นแค่เบสิค 3 สิ่ง
00:15:52 → 00:15:54 เนี้ยเอ่อยังไม่รวมถึงว่าถ้าเราเครียดถ้า
00:15:54 → 00:15:56 เรานอนน้อย
00:15:56 → 00:15:58 >> ค่ะถ้าเราเครียดถ้าเรานอนน้อย
00:15:58 → 00:15:59 >> นอนน้อยก็แห้งน้ำ
00:15:59 → 00:16:01 >> ใช่ถ้าเราเดินทาง travel
00:16:01 → 00:16:01 >> อ๋อ
00:16:01 → 00:16:04 >> เราก็จะดีรตมากกว่าปกติ
00:16:04 → 00:16:04 >> อื
00:16:04 → 00:16:05 >> อ่า
00:16:06 → 00:16:09 >> สังเกตเวลาเราต้อง travel ข้ามโซน
00:16:09 → 00:16:10 คือเกิดปัญหาละ
00:16:10 → 00:16:13 >> ใช่บางคนท้องผูกเกิดถูกต้องอันนี้ก็เกิด
00:16:13 → 00:16:17 จากการที่มันไม่ flow น้ำคือมีส่วนสำคัญ
00:16:17 → 00:16:20 มากๆเวลาเราต้องขึ้นเครื่องอ่ะความกดดัน
00:16:20 → 00:16:22 ของอากาศอ่ะเปลี่ยนปุ๊บความดันของเลือดก็
00:16:22 → 00:16:23 เปลี่ยน
00:16:23 → 00:16:24 >> อ่าใช่
00:16:24 → 00:16:26 >> ถ้าเราดื่มน้ำน้อยกว่าปกติ
00:16:26 → 00:16:29 >> ก็ยิ่งเอฟเฟกก็ไม่ใช่เพราะฉะนั้น 1,500
00:16:29 → 00:16:31 เนี่ยดื่มถึง
00:16:32 → 00:16:33 >> หรือเปล่าอ
00:16:33 → 00:16:36 >> แล้วปัจจัยอื่นที่กระทบร่างกายก็จะทำให้
00:16:36 → 00:16:38 เราต้องดื่มน้ำมากขึ้นนะ
00:16:38 → 00:16:38 >> อื
00:16:38 → 00:16:41 >> อันนี้คือเบสิคมากๆเลย
00:16:41 → 00:16:45 >> อืมน้ำก๊อกเอามาต้มหรือว่าน้ำกรองน้ำกรอง
00:16:45 → 00:16:48 แต่ละแบบมีหลายแบบเนาะน้ำกรองอะไรเงี้ยจน
00:16:48 → 00:16:51 ถึงน้ำแร่ต่างๆขออนุญาตให้พี่เฟซช่วยแนะ
00:16:52 → 00:16:54 นำนิดนึงว่าแต่ละอย่างเนี่ยคืออะไรแตก
00:16:54 → 00:16:55 ต่างกันยังไง
00:16:55 → 00:16:59 >> โอเคคือต้องบอกก่อนเลยว่าน้ำจริงๆแล้ว
00:16:59 → 00:17:04 เนี่ยแยกเป็น 2 แบบน้ำที่เป็นmanมade
00:17:04 → 00:17:06 water ไม่ใช่ธรรมชาติเค้าเรียกว่า
00:17:06 → 00:17:10 manมadeใช่ไม่ใช่มาจากแหล่งน้ำธรชาติคือ
00:17:10 → 00:17:13 มาจากน้ำปปาน้ำปปาน้ำปปานี่ก็แมนเมดแล้ว
00:17:13 → 00:17:13 เหรอ
00:17:13 → 00:17:15 >> ใช่ค่ะน้ำประปาก็คือแมนเมด
00:17:15 → 00:17:19 >> เพราะว่าเขาผ่านอะไรมาเออใช่ก็มีการ
00:17:19 → 00:17:21 process เกิดขึ้นโดยมนุษย์เขาก็เลยเรียก
00:17:21 → 00:17:24 ว่าเป็นmanมade water กับอันที่ 2 คือน้ำ
00:17:24 → 00:17:25 ที่ธรรมชาติ
00:17:25 → 00:17:26 >> อ
00:17:26 → 00:17:28 >> ก็คือน้ำแร่ธรรมชาติเดี๋ยวขออนุญาตให้ข้อ
00:17:28 → 00:17:31 มูล 2 อย่างซึ่งไม่เหมือนกันเลย
00:17:31 → 00:17:32 >> นะคะอ
00:17:32 → 00:17:35 >> น้ำที่เป็นมนุษย์ประดิษฐ์หรือเขาเรียกว่า
00:17:35 → 00:17:38 manมmade water เนี่ยเนี่ยก็อาจจะมาจาก
00:17:38 → 00:17:43 อ่าน้ำประปาแล้วก็อ่าเอามาต้มให้สะอาด
00:17:43 → 00:17:44 >> อ
00:17:44 → 00:17:44 >> อ่า
00:17:44 → 00:17:47 >> อ่าผ่านการความร้อนต่างๆฆ่าเชื้อโรค
00:17:47 → 00:17:49 อันเนี้แล้วก็มาดื่ม
00:17:49 → 00:17:52 >> อ่าอันนี้ก็ประเภทแรกซึ่งก็มีทั้งข้อดี
00:17:52 → 00:17:54 ข้อเสียที่ไม่เหมือนกันน้ำแต่ละประเภทอัน
00:17:54 → 00:17:57 ที่ 2 น้ำที่มาจากต้นทางคือน้ำประปาแล้ว
00:17:57 → 00:17:59 ก็ผ่านเครื่องกรอง
00:17:59 → 00:18:02 >> อ่าที่คัดสาร
00:18:02 → 00:18:03 >> เอ่อเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะ
00:18:03 → 00:18:05 >> กรองเอาเชื้อโรคออก
00:18:05 → 00:18:07 >> ทั้งเชื้อโรคโคทั้งแร่ธาตุ
00:18:07 → 00:18:07 >> อ่าบางอัน
00:18:07 → 00:18:09 >> ทั้งที่จำเป็นและไม่จำเป็นกับร่างกายเอา
00:18:09 → 00:18:10 ออกไป
00:18:10 → 00:18:10 >> อ่า
00:18:10 → 00:18:15 >> อ่านะคะอันนี้ก็คือน้ำที่อยู่ในเอ่อกลุ่ม
00:18:15 → 00:18:17 ที่เป็นน้ำประปาแล้วก็ผ่านเครื่องกรอง
00:18:17 → 00:18:19 >> อ๋อก็แปลว่าประดิษฐ์ 2 รอบอีก
00:18:19 → 00:18:22 >> ประดิษฐ 2 รอบประดิษฐ์โดยทางก่อนนะน้ำมา
00:18:22 → 00:18:25 จากแหล่งแม่น้ำแล้วก็ประดิษฐแล้วก็มา
00:18:25 → 00:18:27 ประดิษฐ์ในการผ่านเครื่องเพราะว่าถูก
00:18:27 → 00:18:29 process อย่างเช่นหลายๆคนอาจจะเคยได้ยิน
00:18:29 → 00:18:32 น้ำผ่านเครื่องกรอง Ro อย่าง
00:18:32 → 00:18:32 >> เงี้ย
00:18:32 → 00:18:35 >> TDS หรือ Total Resolve Solid สาร
00:18:35 → 00:18:37 ละลายที่หลงเลยอยู่ในน้ำก็จะเท่ากับ 0
00:18:37 → 00:18:39 >> ก็คือไม่มีเลยมันกรองดีมาก
00:18:39 → 00:18:42 >> ไม่มีน้ำคือกรองเอาทุกอย่างออกไปหมดเลย
00:18:42 → 00:18:43 >> คลอลีนก็ไม่มี
00:18:43 → 00:18:47 >> ก็จะไม่เหลือใดๆอยู่ในน้ำเชื้อโรคก็ไม่มี
00:18:47 → 00:18:48 >> เอาเลิศ
00:18:48 → 00:18:49 >> มันฟังดูดีนะ
00:18:49 → 00:18:54 >> อ่าฟังดูดีใช่ค่ะแล้วก็สุดท้ายเนี่ยน้ำ
00:18:54 → 00:18:58 ประดิษฐ์แมนเมต้นทางคือน้ำประปาดีๆนี่เอง
00:18:58 → 00:19:01 ผ่านเครื่องกรองแล้วก็เปลี่ยนโมเลกุล
00:19:01 → 00:19:02 >> ของน้ำอ
00:19:02 → 00:19:04 >> ให้มีค่าเป็นด่าง
00:19:04 → 00:19:05 >> อ่าค่ะใช่
00:19:05 → 00:19:07 >> อันนี้ก็อีกประเภทนึง
00:19:07 → 00:19:09 >> อ่าอันนี้เราพูดถึงจำแนกแต่ละประเภท
00:19:09 → 00:19:12 cegอี่ของน้ำก่อน
00:19:12 → 00:19:14 >> ของกลุ่มน้ำmanมade water อ่ะเดี๋ที่นี้
00:19:14 → 00:19:17 พี่ฟิก็จะมาพูดถึงกลุ่มที่เป็นน้ำแร่
00:19:17 → 00:19:20 ธรรมชาติจริงๆน้ำแร่ธรรมชาติในต่างประเทศ
00:19:20 → 00:19:22 เขาเรียกว่า Minerals water ซึ่งอย.ให้
00:19:22 → 00:19:25 ความคำจำกัดความของมันว่าน้ำแร่ธรรมชาติ
00:19:25 → 00:19:26 แค่นี้แหละ
00:19:26 → 00:19:29 >> เพราะว่าเไม่ได้มีคำ
00:19:29 → 00:19:31 >> อื่นเขาก็จะเรียกว่าน้ำแร่ธรรมชาติแต่ใน
00:19:31 → 00:19:34 ต่างประเทศจริงๆเขามี 3 catory นะอุ้ย
00:19:34 → 00:19:36 >> อ่าใช่
00:19:36 → 00:19:37 >> เปิดโลกมาก
00:19:37 → 00:19:38 >> เปิดโรคน้ำ
00:19:38 → 00:19:40 >> เปิดโลกมาก
00:19:40 → 00:19:42 >> ค่ะอันแรกก็คือ Minerals water นี่แหละ
00:19:42 → 00:19:45 คือน้ำที่มีส่วนของผสมของแล้ธาตุทั้งที่
00:19:45 → 00:19:48 จำเป็นแล้วก็ไม่จำเป็นกับร่างกายยกตัว
00:19:48 → 00:19:50 อย่างน้ำที่อยู่ตามลำธาร
00:19:50 → 00:19:51 >> อือๆ
00:19:51 → 00:19:52 >> แล้วก็ไปไปเก็บ
00:19:52 → 00:19:54 >> กไปไปเก็บมาจากลำธาร
00:19:54 → 00:19:57 >> ถูกต้องค่ะแล้วก็มาเอ่อลำเลียงน้ำเข้า
00:19:57 → 00:19:59 บรรจุขวดอ่าอย่างี้เขาก็เรียกว่า Minerals
00:19:59 → 00:20:00 water ชนิดหนึ่ง
00:20:00 → 00:20:00 >> อื
00:20:01 → 00:20:04 >> อันที่ 2 คือ Artition World ซึ่งภาษา
00:20:04 → 00:20:06 ไทยไม่มีคำแปลนะคะ Artian World ก็คือ
00:20:06 → 00:20:10 น้ำที่อยู่ใต้ดินแล้วก็โดยธรรมชาติแล้วก็
00:20:10 → 00:20:13 ดูดขึ้นมาเหมือนสูบน้ำมันน่ะ
00:20:13 → 00:20:14 >> อ๋อ
00:20:14 → 00:20:17 เออเดี๋ยวนะฟังดูน้ำบาดาลหรือเปล่า
00:20:17 → 00:20:20 >> ต้องอยู่กับว่ามันอยู่ตามแหล่งน้ำ
00:20:20 → 00:20:23 ธรรมชาติพลาดหรือเปล่าถ้าน้ำบาดาแล้วเป็น
00:20:23 → 00:20:26 แบบว่าไหลมาจากน้ำประปาแล้วมาเก็บกัก
00:20:26 → 00:20:27 >> อืม
00:20:27 → 00:20:29 >> มันก็อาจจะไม่ใช่อย่างงั้นแต่ว่าความหมาย
00:20:29 → 00:20:32 ของน้ำแร่ธรรมชาติหมายถึงว่ามันต้องมาจาก
00:20:32 → 00:20:36 โซนโซนที่เป็นเค้าเรียกว่าอะไรอ่ะแหล่ง
00:20:36 → 00:20:36 น้ำอ่ะ
00:20:36 → 00:20:39 >> แล้วเขาจะต้องแบบว่าเหมือนไม่ใช่โซนที่
00:20:40 → 00:20:42 อยู่ใกล้ๆใกล้ห้องน้ำอ่า
00:20:42 → 00:20:44 >> อ่าไม่ใช่น้ำที่อยู่ใกล้ๆห้องน้ำเลยเป็น
00:20:44 → 00:20:46 โซนที่เขาอนุรักษ์ไว้ว่าสำหรับ
00:20:46 → 00:20:49 >> ใช่ค่ะคือในเก็จะมี Definition ว่าต้องมี
00:20:49 → 00:20:51 การหมุนเวียนไหลผ่านใต้ใต้ดินอยู่เท่า
00:20:51 → 00:20:55 ไหร่ circulation ของไม่ใช่ของน้ำอ่ะที่
00:20:55 → 00:20:58 วิ่งอยู่ใต้ใต้พื้นพิภพอ่ะ
00:20:58 → 00:21:00 >> มันมันจะมีวิธีการวัดแต่มันอยู่ใต้ดินนะ
00:21:01 → 00:21:03 แล้วก็สูบขึ้นมาโดยธรรมชาติมันก็อย่างใต้
00:21:04 → 00:21:06 พื้นพิภพของโลกเนี่ยมันก็จะมีหลายหลายlอร
00:21:06 → 00:21:10 ใช่มั้คะมันจะไปถึงlอerlอรนึงที่น้ำเนี่ย
00:21:10 → 00:21:11 flow อยู่ตลอด
00:21:11 → 00:21:14 >> น้ำต้อง flow คีย์เวิร์ดใช่ค่ะไม่ใช่น้ำ
00:21:14 → 00:21:14 นิ่ง
00:21:14 → 00:21:17 >> ออไม่ใช่น้ำนิ่งน้ำบ่อบาดาลอย่างเราไม่
00:21:17 → 00:21:19 ใช่
00:21:19 → 00:21:22 >> ถูกต้องเป็นแบบนั้นอ่าอันนี้เขาเรียกว่า
00:21:22 → 00:21:24 Arition World แล้วอันที่ 3
00:21:24 → 00:21:26 >> คือ Spring Water
00:21:26 → 00:21:26 >> อื
00:21:26 → 00:21:29 >> หมายถึงอะไรก็ตะกี้ที่อธิบายไปหลายๆLayอ
00:21:29 → 00:21:32 อยู่ใต้ผืนพิภพนะคะแล้วก็น้ำก็มีความ flow
00:21:32 → 00:21:35 ไหลไหลแรงประมาณนี้นะคะแล้วเขาก็ผุดขึ้น
00:21:35 → 00:21:37 มาโดยธรรมชาติ
00:21:37 → 00:21:38 >> อยู่บนพื้นดิน
00:21:38 → 00:21:40 >> น้ำพุเค้าเรียกนี้หรือเปล่า
00:21:40 → 00:21:41 >> น้ำพุร้อนอย่างงั้น
00:21:41 → 00:21:44 >> อ่าน้ำพุร้อนมันจะเป็นฮอตสปริงแต่ว่ามัน
00:21:44 → 00:21:45 อาจจะไม่ฮอตก็ได้
00:21:45 → 00:21:47 >> อาจจะไม่ฮอตก็ได้แต่ส่วนใหญ่ถ้ามันจะผุด
00:21:47 → 00:21:49 ขึ้นมาโดยธรรมชาติมันจะมีแรงดันใต้พืน
00:21:49 → 00:21:51 พิภพที่ทำให้น้ำเหล่านั้นน่ะ
00:21:51 → 00:21:54 >> มันมันขึ้นมาจากใต้ดินใช่
00:21:54 → 00:21:57 >> อันนี้ก็คือน้ำแร่ธรรมชาติซึ่งที่มาของ
00:21:57 → 00:22:00 น้ำก็ต่างกันมันทำให้
00:22:00 → 00:22:03 >> content หรือ minerals หรือแร่ธาตุต่างๆ
00:22:03 → 00:22:06 ที่อยู่ในน้ำก็แตกต่างกันไป
00:22:06 → 00:22:07 >> อื
00:22:07 → 00:22:10 >> เอ่อกลับไปเรื่องราวที่หมออุมตะกี้พูดถึง
00:22:10 → 00:22:11 น้ำที่ไปแช่
00:22:11 → 00:22:11 >> อื
00:22:11 → 00:22:15 >> อ่าว่าอาจจะมี content ของแร่ธาตุที่สูง
00:22:15 → 00:22:16 มากๆก็
00:22:16 → 00:22:17 >> อือ
00:22:17 → 00:22:20 >> อาจจะมาจากโซนต่างที่ที่ผ่านหินผ่านแร่
00:22:20 → 00:22:23 ธาตุผ่านต่างๆเหล่าเนี้ยค่ะมันทำให้น้ำ
00:22:23 → 00:22:27 ตรงโซนนั้นๆเนี่ยมีส่วนประกอบที่แตกต่าง
00:22:27 → 00:22:27 กันไป
00:22:27 → 00:22:30 >> อ๋อเข้าใจละหินไม่เหมือนกัน
00:22:30 → 00:22:31 >> ใช่
00:22:31 → 00:22:33 >> อ่าเพราะฉะนั้นแร่ธาตุที่น้ำไปอยู่ตรง
00:22:33 → 00:22:35 นั้นมันก็เลยแตกต่างกัน
00:22:35 → 00:22:35 >> ใช่ค่ะ
00:22:35 → 00:22:36 >> อ่า
00:22:36 → 00:22:39 >> ทีนี้คุณคุณประโยชน์หรือคุณสมบัติของน้ำ
00:22:39 → 00:22:42 ที่เป็นmanมade water กับน้ำแร่ธรรมชาติ
00:22:42 → 00:22:46 เนี่ยมีข้อดีข้อเด่นข้อด้อยไม่เหมือนกัน
00:22:46 → 00:22:49 >> อ่าอย่างเช่นว่าจริงๆอ่ะหมุทราบอยู่แล้ว
00:22:49 → 00:22:52 เนาะหลายท่านก็ทราบว่าคนเราอ่ะคือส่วน
00:22:52 → 00:22:54 ประกอบของร่างกายอ่ะจริงๆก็คือน้ำ
00:22:55 → 00:22:56 >> อจริง
00:22:56 → 00:22:59 >> ถ้าเราขาดน้ำ 3 วันโอกาสที่เราจะเสีย
00:22:59 → 00:23:00 ชีวิตก็มี
00:23:00 → 00:23:01 >> ใช่มี
00:23:01 → 00:23:05 >> ในขณะเดียวกันถ้าเกิดเราอ่ะเลือกน้ำที่ดี
00:23:05 → 00:23:08 เข้าไปในร่างกายมันก็จะสามารถสร้างสิ่งดี
00:23:08 → 00:23:10 ๆให้กับร่างกายได้เยอะมาก
00:23:10 → 00:23:13 >> อันนี้แอบแบบมีbelฟเลยนะ
00:23:13 → 00:23:15 >> เมื่อก่อนน่ะไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
00:23:15 → 00:23:19 >> แล้วก็ไม่เคยอะไรไม่เคยสนใจไม่เคยใส่ใจ
00:23:19 → 00:23:22 มันแต่ว่าวันที่เราเริ่มรู้สึกว่าเอ้ยเรา
00:23:23 → 00:23:25 เริ่มอายุเพิ่มขึ้นละเราเริ่มศึกษาศาสตร์
00:23:25 → 00:23:27 anti aging เพิ่มขึ้นโอมันก็มีโอกาสที่
00:23:27 → 00:23:30 จะไปประชุมสัมมนาแพทย์antiทออะไรอย่าง
00:23:30 → 00:23:34 เงี้ยก็ต้องบอกว่าทุกการประชุมมีการพูด
00:23:34 → 00:23:36 ถึงน้ำแร่ที่มาจากไอซ์แลนด์
00:23:36 → 00:23:37 >> อื
00:23:37 → 00:23:40 >> ก็เลยต้องบอกว่าอันนั้นน่ะเป็นจุดประกาย
00:23:40 → 00:23:43 อันนึงเราก็เก็บข้อมูลไว้แล้วล่ะคืออุมก็
00:23:43 → 00:23:47 เริ่มไปประชุมนะตั้งสักประมาณอายุ 35 36
00:23:47 → 00:23:50 แล้วเริ่มไปประชุมะแล้วก็อุมาก็เห็นพี่เฟ
00:23:50 → 00:23:53 อ่ะดื่มน้ำแร่อยู่เรื่อยๆเราก็มองดูพี่เฟ
00:23:53 → 00:23:56 มาหลายปีจนสุดท้ายเนี่ยก็รู้สึกว่าอืได้
00:23:56 → 00:23:59 เวลาและพอเข้าเลข 4 ใช่มั้ยเราก็อมันต้อง
00:23:59 → 00:24:01 ดูแลตัวเองมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ยก็เลยแบบ
00:24:01 → 00:24:04 >> ไปปรึกษาพี่เฟเพราะว่าอยากสวยเหมือนพี่
00:24:04 → 00:24:06 เฟี้
00:24:06 → 00:24:06 >> ค่ะ
00:24:06 → 00:24:08 >> เนี่ยแหละก็เลยมาปรึกษาพี่เฟเนาะแล้วก็
00:24:09 → 00:24:11 เออได้ลองดื่มน้ำแร่
00:24:11 → 00:24:13 >> แล้วก็เออมันก็ดีจริงๆแต่ว่าทั้งนี้ทั้ง
00:24:13 → 00:24:16 นั้นเนี่ยก็อยากจะถามพี่เฟรมเหมือนกันว่า
00:24:16 → 00:24:18 >> เป็นไงมาไงถึงได้เป็นไพโอเนียได้เริ่ม
00:24:18 → 00:24:21 ดื่มก่อนคนอื่นเค้าแล้วก็สวยมาก
00:24:21 → 00:24:26 >> คือจริงๆต้องบอกอย่างงี้ว่าตอนแรกก็ไม่
00:24:26 → 00:24:30 ได้อินกับการดื่มน้ำอะไรกันขนาดนี้นะแต่
00:24:30 → 00:24:32 ว่าต้องเล่าให้ฟังก่อนเลยว่า
00:24:32 → 00:24:34 >> คนที่บ้านไม่สบาย
00:24:34 → 00:24:35 >> อื
00:24:35 → 00:24:38 >> มีอาการอันนี้ประสบการณ์ส่วนตัวนะค่ะมี
00:24:38 → 00:24:41 อาการเป็นภูมิแพ้คือเป็นเม็ดที่หลังแขน
00:24:41 → 00:24:42 กะหลัง
00:24:42 → 00:24:42 >> อ
00:24:42 → 00:24:47 >> แล้วด้วยความที่บ้านเนี่ยมีโรงงานที่ผลิต
00:24:47 → 00:24:49 เกี่ยวกับครึ่งกรองน้ำเกี่ยวกับน้ำอยู่
00:24:49 → 00:24:49 แล้ว
00:24:50 → 00:24:51 >> นะคะก็
00:24:51 → 00:24:54 >> เอ่อได้ไปเอ่อมีโอกาสไปคอนเฟerรซที่ต่าง
00:24:54 → 00:24:58 ประเทศแล้วก็ได้เจอ CEO ของเ่อไแลนสปริง
00:24:58 → 00:25:01 แล้วเขาก็เลยบอกว่ายูเนี่ยถ้าพี่ชายยูอ่ะ
00:25:01 → 00:25:04 มีอาการแบบเนี้ยให้ลองดื่มน้ำไแลนสปริง
00:25:04 → 00:25:07 ขวด 0.5 5 ลิตรแบบเนะคะวันละ 4 ขวดเช้า
00:25:07 → 00:25:10 กลางวันเย็นก่อนนอนเช้านี่หมายถึงอย่าง
00:25:10 → 00:25:13 ตะกี้ที่พูดเลยตื่นมาก็ดื่มเลยไม่ต้อง
00:25:13 → 00:25:14 แบ่งฝัน
00:25:14 → 00:25:15 >> ดื่มเลย 1 ขวด
00:25:15 → 00:25:17 >> ถูกต้องที่อุณหภูมิห้องปกติดีที่สุด
00:25:17 → 00:25:18 >> อ
00:25:18 → 00:25:21 >> อ่าแล้วก็ดื่มเข้าไปเลยเช้ากลางวันเย็น
00:25:21 → 00:25:23 ก่อนนอนให้ดื่มแบบเนี้ยทุกวันถ้าอยากจะ
00:25:23 → 00:25:25 ดื่มเกินแล้วไม่อยากดื่มน้ำไอซนสปริงก็
00:25:25 → 00:25:28 ได้ไม่เป็นไรแต่ว่าขออย่างน้อยมินิัม 2
00:25:28 → 00:25:29 ลิตรแบบนี้นะ
00:25:29 → 00:25:30 >> อื
00:25:30 → 00:25:32 >> 3-4 เดือนยูต้องเริ่มเห็นถึงความแตกต่าง
00:25:32 → 00:25:35 ในร่างกายไม่อย่างงั้นมันแบการันทีอันนี้
00:25:35 → 00:25:36 ฝรั่งพูด
00:25:36 → 00:25:37 >> เฮ้ยเอางั้นเลย
00:25:37 → 00:25:39 >> ใช่อุ๊ยีอคชัเหมือนพี่ชายพี่ไฟเลยแบบนี้
00:25:39 → 00:25:41 แหละเฮ้ยเอาจริงดิ
00:25:41 → 00:25:44 >> เอาจริงดิออกล้าทาเชื้อกล้าดื่ม
00:25:44 → 00:25:47 >> ใช่พี่ชายบอกได้กันมาเป็นคอนเทนเนอร์เลย
00:25:47 → 00:25:50 ค่ะตอนนั้นนะก็จัดเลยค่ะเอาเข้ามาใน
00:25:50 → 00:25:52 ประเทศไทยตอนนั้นยังไม่มีไขในประเทศไทยก็
00:25:52 → 00:25:56 ดื่มดื่มไปโดยที่ไม่กินยาแก้แพ้ภูมิแพ้นะ
00:25:56 → 00:25:59 คะอยากรู้เพราะว่าอยากy bad การันตี
00:25:59 → 00:26:01 >> คือแบบว่าหยุดการรักษาทางการแพทย์ไปเลย
00:26:01 → 00:26:04 >> ใช่เพราะว่าฝรั่งบอกว่าคุณลองคุณลอง
00:26:04 → 00:26:06 Challeng ฝรั่งให้ Challeng นี้พี่ชาย
00:26:06 → 00:26:10 แล้วบอกลองดูผ่านไป 3 เดือนหมออุ๋มเกิด
00:26:10 → 00:26:12 อะไรขึ้นรู้ไหมต้องโทรกลับไปหาฝรั่งแล้ว
00:26:12 → 00:26:15 ก็บอกว่าอยู่ใส่สารอะไรเข้าไปในนี้หรือ
00:26:15 → 00:26:17 เปล่า
00:26:17 → 00:26:18 >> คือ
00:26:18 → 00:26:19 >> คืออะไร
00:26:19 → 00:26:21 >> เอ่อสิ่งที่เกิดขึ้นบนพี่ชายก็คือเม็ดๆ
00:26:21 → 00:26:23 ที่หลังแขนกับหลังเริ่มยุบ
00:26:24 → 00:26:24 >> ออ
00:26:24 → 00:26:27 >> เริ่มยุบตัวลงแต่ยังไม่หายนะหายเหมือน
00:26:27 → 00:26:29 โกหกอ่ะเหมือนแบบเอ้ยอยู่ใส่น้ำพิเศษอะไร
00:26:29 → 00:26:31 หรือเปล่าอะไรเงี้ยไม่ใช่เราก็เลยโทรไป
00:26:31 → 00:26:33 ถามเเขาบอกว่าน้ำเนี้ยมีคุณสมบัติ 2
00:26:33 → 00:26:36 อย่างที่แตกต่างจากน้ำยี่ห้ออื่น 1 คือ
00:26:36 → 00:26:41 ค่าพีที่สูงมากๆถึง 8.88 เนี่ยค่ะ
00:26:41 → 00:26:41 >> อ
00:26:41 → 00:26:44 >> 8.88 88 เระบุไว้บนขวดกับอันที่ 2 คือ
00:26:44 → 00:26:47 ค่าของความสารละลายที่หลงเหลืออยู่ในน้ำ
00:26:47 → 00:26:52 หรือค่า TDS ที่ 58 มกรัต่อลิตรคือต่ำมาก
00:26:52 → 00:26:56 เกือบเท่าน้ำ RO อ่ะ RO เนี่ยคือ 0 ไม่
00:26:56 → 00:26:58 เหลือสารละลายหลงเหลือในน้ำละ
00:26:58 → 00:27:01 >> อืแล้วถ้าจะพอถามได้มั้ว่าถ้าน้ำประปา
00:27:01 → 00:27:02 เนี่ยมันมีค่า TDS เท่าไหร่
00:27:03 → 00:27:05 >> ไม่ไม่สามารถพูดได้เพราะว่าน้ำประปาแต่ละ
00:27:05 → 00:27:06 โซนจริงๆไม่เท่ากัน
00:27:06 → 00:27:06 >> อ
00:27:06 → 00:27:09 >> แต่ว่าไม่ควรจะเกิน 100 เพราะว่าเขาคัด
00:27:09 → 00:27:11 กรองออกไปเยอะมากอืออื
00:27:11 → 00:27:14 >> เออไม่ไม่ควรจะเกิน 100 แต่ว่าแต่ละโซนก็
00:27:14 → 00:27:16 ไม่ไม่เท่ากันและอีกอย่างนึงท่อลำเลียง
00:27:16 → 00:27:17 น้ำที่เข้าบ้านด้วย
00:27:17 → 00:27:18 >> อ
00:27:18 → 00:27:22 >> ใช่อันเนี้ยคือจริงๆแล้วเป็นประเด็นมาก
00:27:22 → 00:27:24 เลยนะคอนโดเนี่ยเป็นประเด็นคือพอคอนโดมัน
00:27:24 → 00:27:27 ชักเริ่มแบบ 10 ปีอ่ะคือท็อปปะปามันเริ่ม
00:27:27 → 00:27:28 เก่า
00:27:28 → 00:27:30 >> น้ำเอ่อน้ำมันเริ่ม
00:27:31 → 00:27:33 >> บางทีแบบมีสีแดงเวลาเราไม่อะไรอย่างเงี้ย
00:27:33 → 00:27:34 ก็คือรู้เลยอ่ะ
00:27:34 → 00:27:37 >> คือจะบอกว่าจริงๆอ่ะการปะปาบอกว่าน้ำปะปา
00:27:37 → 00:27:41 ดื่มได้สะอาดถามว่าจริงมยต้นทางอาจจะใช่
00:27:41 → 00:27:41 อ้อ
00:27:41 → 00:27:46 >> แต่ระหว่างทางที่ลำเลียงอ่ะเราไม่รู้ว่า
00:27:46 → 00:27:49 >> มีการ cleaning pine หรือเปล่า
00:27:49 → 00:27:49 >> อ
00:27:49 → 00:27:52 >> ท่อที่ลำเลียงมาตั้งแต่ต้นทางไปจนถึงการ
00:27:52 → 00:27:56 เข้าบ้านของเราแล้วเรากล้าเปิดแล้วดื่มมย
00:27:56 → 00:27:57 >> ขนาดไหนอันเนี้ย
00:27:57 → 00:28:00 >> ก็จะมี question mark นิดนึง
00:28:00 → 00:28:00 >> อ่าอันนี้จริง
00:28:00 → 00:28:03 >> มันเลยทำให้ TDS อ่ะต่างแล้วก็ทำให้
00:28:04 → 00:28:06 Content หรือสิ่งที่ตามมาในน้ำอ่ะต่าง
00:28:06 → 00:28:07 ด้วย
00:28:07 → 00:28:10 >> อ๋อเข้าใจละเข้าใจละ
00:28:10 → 00:28:12 >> หมายถึงว่าดื่มน้ำเนี่ยได้เรื่อยๆทุกเพศ
00:28:12 → 00:28:15 ทุกวัยแล้วมันไม่มีการสะสมแร่ธาตุในร่าง
00:28:15 → 00:28:17 กายที่น่ากลัว
00:28:17 → 00:28:17 >> ออ
00:28:17 → 00:28:19 >> คนอาจจะเคยได้ยินว่าการดื่มน้ำแร่เป็น
00:28:19 → 00:28:21 ระยะเวลาต่อเนื่องนานๆต้อง take a เบรค
00:28:21 → 00:28:24 นะต้องหยุดนะไม่งั้นอาจจะมีแร่ธาตุในร่าง
00:28:24 → 00:28:25 กายมากจนเกินไป
00:28:25 → 00:28:28 >> มีคนพูดถึงกับว่าดื่มน้ำแร่ต่อเนื่องนานๆ
00:28:28 → 00:28:30 แล้วจะเป็นนิ่วจริงหรือเปล่า
00:28:30 → 00:28:33 >> ในกรณีที่ TDS สูงอย่างเช่นเกิน 100
00:28:33 → 00:28:34 >> อ๋อ
00:28:34 → 00:28:35 [เพลง]
00:28:35 → 00:28:39 ใช่เพราะว่าเราอ่ะในร่างกายของเราจริงๆ
00:28:39 → 00:28:41 อาจจะมีความจำเป็นเป็นที่ต้องการแร่ธาตุ
00:28:41 → 00:28:44 บางชนิดหรือไม่ต้องการแร่ธาตุบางชนิดขึ้น
00:28:44 → 00:28:46 อยู่กับแต่ละคนในการใช้ชีวิตและการรับ
00:28:46 → 00:28:48 ประทานอาหาร
00:28:48 → 00:28:48 >> อ
00:28:48 → 00:28:52 >> น้ำเนี้ยถ้ามีแร่ธาตุทั้งที่บางทีขวด
00:28:52 → 00:28:55 เดียวกันเนี่ยอาจจะจำเป็นกับคนที่ป่วย
00:28:55 → 00:28:59 หนักมากแล้วก็ขาดสารอาหารขาดต่างๆมากกว่า
00:28:59 → 00:29:02 อีกคนนึงที่ปกติ
00:29:02 → 00:29:05 >> ปกติดีเพราะฉะนั้นถ้าคนลักษณะเนี้ยแล้ว
00:29:05 → 00:29:08 ดื่มตรงเนี้ยไปบ่อยๆในกรณีที่ TDS สูงมาก
00:29:08 → 00:29:11 ๆนะคะมันก็จะเกินความจำเป็นและเหล่าเนี้ย
00:29:12 → 00:29:15 ก็คือจะไปสะสมในร่างกายแล้วสุดท้ายก็ก่อ
00:29:15 → 00:29:17 ให้เกิดเอ่อ
00:29:17 → 00:29:20 >> เป็นก้อนเป็นโรคนิ่้วโรคไตได้
00:29:20 → 00:29:20 >> อื
00:29:20 → 00:29:23 >> แต่ในกรณีที่ TDS ต่ำอย่างเช่นน้อยน้อย
00:29:23 → 00:29:26 กว่า 100 นะคะถ้าดีที่สุดก็อยู่ในเรange
00:29:26 → 00:29:29 แบบ 0-50 อย่างเงี้ยมันก็จะยากมากที่จะ
00:29:29 → 00:29:33 สะสมก้อนต่างๆอย่างเช่นนิ่วหรือหรือโรค
00:29:33 → 00:29:34 โรคไตอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:29:34 → 00:29:37 >> ใช่ๆเพราะฉะนั้นเนี่ยในต่างประเทศเนี่ย
00:29:37 → 00:29:40 จริงๆแล้วเขาไม่ใช่เฉพาะคนที่ไม่สบาย
00:29:40 → 00:29:42 แต่คนที่รักษาสุขภาพอยู่แล้วออกกำลังกาย
00:29:42 → 00:29:44 เนี่ยอันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งกลุ่มกลุ่มคน
00:29:45 → 00:29:47 ที่กำลังโตอย่างเช่นเด็ก
00:29:47 → 00:29:51 >> หรือแม่ที่ท้องกำลังตั้งครรภ์หรือแม่ที่
00:29:51 → 00:29:53 ให้นมลูกอย่างเงี้ยค่ะเขา need นี้
00:29:53 → 00:29:55 แคลเซียมเยอะตัวน้ำไซนสปริงไม่ใช่ว่าให้
00:29:55 → 00:29:58 แคลเซียมนะแต่ด้วยความที่เป็นอัลคาไลนที่
00:29:58 → 00:30:01 สูงเนี่ยเขาไปเร่งกระบวนการสร้างแคลเซียม
00:30:01 → 00:30:05 ให้กลับมาเร็วเพราะฉะนั้นคนผู้ใหญ่กลุ่ม
00:30:05 → 00:30:08 Aging Society นะคะที่มีแนวโน้มที่จะ
00:30:08 → 00:30:10 กระดุกหุนเข่าสืเดิมต่างๆเนี่ย
00:30:10 → 00:30:11 >> อ่าวัยหมดประจำเดือน
00:30:11 → 00:30:14 >> ถูกต้องเวลาดื่มน้ำที่มีแอลคไลนที่สูงก็
00:30:14 → 00:30:16 จะไปช่วยเร่งกระบวนการสร้าง
00:30:16 → 00:30:16 >> อ
00:30:16 → 00:30:19 >> แคลเซียมเหล่านี้ให้กลับมาเร็วขึ้นคนที่
00:30:19 → 00:30:22 ดูแลรักษาสุขภาพคนที่มันอยู่ในไลฟสลอ่ะ
00:30:22 → 00:30:24 เพราะว่ามันดื่มได้ทุกเพศทุกวัยแล้วดื่ม
00:30:24 → 00:30:28 ได้ตลอดเวลาเอ่อแม้ว่ากระทั่งเด็กก็ดื่ม
00:30:28 → 00:30:30 ได้กลุ่มสูงอายุก็ดื่มได้คนออกกำลังกายก็
00:30:30 → 00:30:32 ดื่มได้คนไม่สบายอย่างพี่ชายพี่ฟิก็ดื่ม
00:30:32 → 00:30:36 ได้คนที่ชอบเอ่อ Enjoy ไลฟสไตลที่ดื่ม
00:30:36 → 00:30:39 เอ่อชาเขียวเอามาชงกาแฟแต่กาแฟก็อร่อย
00:30:39 → 00:30:43 ขึ้นพอคุณฝรั่งเขาอธิบายมาแบบนี้เราเสร็จ
00:30:43 → 00:30:47 ปุ๊บก็เลยตกใจมากไม่ใช่ตกใจเพราะอะไรรู้ม
00:30:47 → 00:30:49 อุมเพราะไม่เข้าใจ
00:30:49 → 00:30:51 >> ในวันนั้นคือพูดอะไรอ่ะไม่เก็ดแล้วไม่รู้
00:30:51 → 00:30:55 เรื่องเลยพ 8.88 88 มันดียังไงแล้ว TDS
00:30:55 → 00:30:59 58 มิลกรัต่อลิตรคืออะไรคุณพ่อก็เลยบอก
00:30:59 → 00:31:01 งั้นบินไปเลยค่ะบินไปดูที่ประเทศ
00:31:01 → 00:31:03 ไอซ์แลนด์เลยวันนั้นน่ะไอซ์แลนด์น่ะมัน
00:31:03 → 00:31:04 ยังไม่ได้
00:31:04 → 00:31:05 >> ไม่เหมือนทุกวันนี้
00:31:05 → 00:31:08 >> มันเข้าไม่ถึงอ่ะแล้วมันก็เป็นแบบประเทศ
00:31:08 → 00:31:11 อะไรอ่ะไอซ์แลนด์ไอแลนด์หรอใกล้ๆอังกฤษ
00:31:11 → 00:31:14 หรือเปล่าในวันนั้นนะเราก็ไม่ไม่คุ้นเคย
00:31:14 → 00:31:16 ใช่มั้คะถ้าสำหรับคนที่ไม่คุ้นชินว่า
00:31:16 → 00:31:18 ประเทศไอซ์แลนด์คือที่ไหน
00:31:18 → 00:31:22 >> เขาอยู่ใน continent หรือทวีประหว่างทวีป
00:31:22 → 00:31:26 อเมริกากับถุยยุโรปนะคะแล้วก็เกิด
00:31:26 → 00:31:28 >> จากการระเบิดของภูเขาไฟ
00:31:28 → 00:31:30 >> ใต้ใต้ดินขึ้นมา
00:31:30 → 00:31:31 >> ใต้ดินเนี่ยขึ้นมา
00:31:31 → 00:31:32 >> แล้วก็กลายเป็นเกาะ
00:31:32 → 00:31:36 >> เป็นเกาะเขาก็จะมีการเค้าเรียกว่าอะไรการ
00:31:36 → 00:31:38 ระเบิดของภูเขาไฟอยู่รอบๆทำให้เขาก่อขึ้น
00:31:38 → 00:31:40 มาเป็นประเทศอ
00:31:40 → 00:31:42 >> ไอซ์แลนด์ที่เรียกว่าไอซ์แลนด์แล้วก็ออ
00:31:42 → 00:31:44 โอเคประเทศไอซ์แลนด์อยู่ที่นี่นะแล้วยัง
00:31:44 → 00:31:47 ไงต่อนะมันต้องบินยังไงนะต้องไปเลโอเวอร์
00:31:47 → 00:31:49 ที่ไหนต้องโอเคไปอยู่ส่วนใหญ่ไม่มีไฟท์
00:31:49 → 00:31:53 บินตรงจากประเทศไทยนะคะก็ต้องไป Stop
00:31:53 → 00:31:55 over ที่ยุโรปแล้วก็ค่อยบิน connecting
00:31:55 → 00:31:57 flight ไปถึงตกใจมากหมออุ๋มคือยังไงรู้
00:31:57 → 00:32:00 มยทำไมมันบิซี่มากประเทศนี้ประเทศนี้มีคน
00:32:00 → 00:32:03 แค่ 300,000 คนแต่Airรพอร์ตบิซี่แบบ
00:32:03 → 00:32:04 ฮ่องกงอ่ะ
00:32:04 → 00:32:05 >> เอ้ยจริงเหรอ
00:32:05 → 00:32:08 >> แบบสิงคโปร์อ่ะมันคืออะไรเพราะคนทรานิ
00:32:08 → 00:32:10 เยอะมาก
00:32:10 → 00:32:12 >> Connecting จากอเมริกาไปยุโรปจากยุโรปไป
00:32:12 → 00:32:13 อเมริกา
00:32:13 → 00:32:14 >> ผ่านไอซ์แลนด์
00:32:14 → 00:32:15 >> ผ่านไอซ์แลนด์แล้วประเทศไอซ์แลนด์มี
00:32:15 → 00:32:18 เครื่องบินมี Airline เป็นของตัวเองมี
00:32:18 → 00:32:20 National Bankงของตัวเองแล้วประเทศเขามี
00:32:20 → 00:32:22 Population แค่ 300,000 คน
00:32:22 → 00:32:23 >> โห
00:32:23 → 00:32:25 >> แต่ที่น่า Amazing ไปกว่านั้นคืออะไรคะ
00:32:25 → 00:32:29 Life Longevity อ่ะไลฟที่อ่าคนที่จะ
00:32:29 → 00:32:30 อายุยืนน่ะ
00:32:30 → 00:32:31 >> อื
00:32:31 → 00:32:32 >> ติดท็อป F ของโลก
00:32:32 → 00:32:33 >> อ้าจริงสิ
00:32:33 → 00:32:34 >> ในประเทศไอซ์แลนด์
00:32:34 → 00:32:37 >> อ้าวเหรอเพราะว่าคนเราส่วนใหญ่ไม่ได้นึก
00:32:37 → 00:32:40 ถึงนะนึกถึงแบบอะไรอ่ะอิตาลีใช่มยญี่ปุ่น
00:32:40 → 00:32:44 >> อ่าแต่ไอซ์แลนด์คือติดท็อปใช่
00:32:44 → 00:32:46 >> แปลว่าอะไรเราก็ wonder แล้วก็แบบ
00:32:46 → 00:32:48 question คืออะไรหรอออสงสัยมันต้องมี
00:32:48 → 00:32:49 อะไรดีๆที่ประเทศนี้
00:32:49 → 00:32:50 >> อื
00:32:50 → 00:32:53 >> ประเทศเนี้ยพอไปถึงเนี่ยเนี่ยลงจาก
00:32:53 → 00:32:56 เครื่องบินลงไปเนี่ยข้างทางจะเห็นเลยเป็น
00:32:57 → 00:32:59 หินสีดำๆเต็มไปหมดเลย
00:32:59 → 00:33:00 >> อ๋อ
00:33:00 → 00:33:02 >> อ่าเพราะคือหินลาวาที่
00:33:02 → 00:33:03 >> อ๋อที่
00:33:03 → 00:33:04 >> ที่เย็นตัวแล้ว
00:33:04 → 00:33:05 >> อื
00:33:05 → 00:33:06 >> เพราะว่าประเทศนี้เกิดจากการระเบิดของภู
00:33:06 → 00:33:09 เขาไฟก็จะมีหินลาวาเต็มไปหมด
00:33:09 → 00:33:12 >> จากนั้นสักพักคุณก็จะเห็นเกรเซียได้ทาน้ำ
00:33:12 → 00:33:15 แข็งสักพักคุณก็อาจจะเห็นป่าสีเขียว
00:33:15 → 00:33:17 >> สักพักก็จะมีบลูลากูนคือประเทศเเต็มไป
00:33:17 → 00:33:21 ด้วยเอ่อ Natural Resource เยอะมากในใน
00:33:21 → 00:33:24 ประเทศเล็กๆของเขาทีนี้จุดที่พี่ไฟไปอ่ะ
00:33:24 → 00:33:28 ก็ไปดูแหล่งน้ำเนี่ยนะคะคือได้เห็นว่า
00:33:28 → 00:33:30 แหล่งน้ำเนี่ยเขาอยู่ในเขตป่าสงวน
00:33:30 → 00:33:30 >> อ
00:33:30 → 00:33:33 >> กว่าจะเข้าไปได้เต้องมีการdetทครถเรามี
00:33:33 → 00:33:37 สารเคมีอะไรมั้ยมีการตรวจดีเทคต่างๆ
00:33:37 → 00:33:41 >> ขนาดนั้นเลยคือแบบว่าไม่ต้องการสิ่งแปลก
00:33:41 → 00:33:45 ปลอมเจือปนกันถูกต้องแบบนั้นเลย 3er ต้อง
00:33:45 → 00:33:48 ถูกตรวจแล้วมีแบบตำรวจนำอ่ะอ่ากว่าจะเข้า
00:33:48 → 00:33:51 ไปในเขตป่าสงวนนี้ได้แล้วพอไปถึงแหล่งน้ำ
00:33:51 → 00:33:54 แหล่งน้ำนี้คืออะไรคือเกรเซียทาน้ำแข็ง
00:33:54 → 00:33:55 >> อ
00:33:55 → 00:33:57 >> ที่ใช้เวลา
00:33:57 → 00:34:00 >> ละลายผ่านหินลาวาที่มีความพิเศษชนิดนึง
00:34:00 → 00:34:03 ที่เรียกว่าบาซาิlavาอกใช้เวลาทั้งหมด 40
00:34:03 → 00:34:06 ปีในการละลายลงมาแล้วอยู่ใต้พื้นพิภพแล้ว
00:34:06 → 00:34:10 ก็ผุดขึ้นมาโดยธรรมชาติการกรอง 40 ปีเลย
00:34:10 → 00:34:12 นะหมออุ๋มตรงเนี้ยแล้วพี่เฟก็ไปเทสน้ำ
00:34:12 → 00:34:14 แซอceแล้วก็บอกว่า
00:34:14 → 00:34:17 >> โอ้โหมันเป็นอย่างงี้อ๋อการกรองมันเป็น
00:34:17 → 00:34:20 อย่างงี้ใช้เวลา 40 ปีจริงๆเหรออยู่
00:34:20 → 00:34:23 >> อ่าไปดูมาเดี๋ยวๆอยากรู้เลยว่าที่เขาให้
00:34:23 → 00:34:26 ไปเทสเนี่ยก็คือว่าไอ้เอ่อน้ำจากเกรเซีย
00:34:26 → 00:34:29 ใช่มั้ยคะซึมเข้าไปข้างล่างเสร็จแล้วมัน
00:34:29 → 00:34:32 ก็ผุดขึ้นมาแล้วเขา้าก็เอาน้ำที่ผุดขึ้น
00:34:32 → 00:34:34 มาให้ชิมเลย
00:34:34 → 00:34:36 >> เราไปมันผุดอยู่เราก็ไปตัก
00:34:36 → 00:34:37 >> ไปตักเลย
00:34:37 → 00:34:40 >> โหซึ่งเนี่ยวันนี้ก็มีตัวอย่างของหิน
00:34:40 → 00:34:44 บาซอติวาร็อกมาให้ดูนะคะหน้าตาลักษณะ
00:34:44 → 00:34:47 อย่างนี้แล้วเขาก็จะแบบว่าจริงๆอ่ะน้ำ
00:34:47 → 00:34:51 >> น้ำที่เขา้าเป็นทาน้ำแข็งซึ่งถูกฟอร์ม
00:34:51 → 00:34:53 เกรเซียโดยปกติไม่ใช่เพิ่งเพิ่งฟอร์มปี
00:34:53 → 00:34:54 ที่แล้วนะ
00:34:54 → 00:34:57 >> เใช้เวลาเป็นหลายร้อยล้านปีมากในการฟอร์ม
00:34:57 → 00:34:59 ทานน้ำแข็งมันเลยทำให้เขาไม่เจอมลพิษ
00:34:59 → 00:35:02 มลภาวะณปัจจุบันหรือpoชionที่เกิดขึ้น
00:35:02 → 00:35:04 >> เเลยบริสุทธิ์
00:35:04 → 00:35:07 >> มากแล้วพอละลายผ่านเข้าไปเนี่ยฟิเตอร์
00:35:08 → 00:35:10 ผ่านหินลาวาเนี้ย
00:35:10 → 00:35:12 ซึ่งมันหนาเนาะอันนี้มันเป็นแค่ก้อเล็กๆ
00:35:12 → 00:35:14 ที่เราไปหยิบมานะคะใช้เวลา 40 ปีแล้วก็
00:35:14 → 00:35:18 กรองแล้วก็ผุดขึ้นมาบซอติกlaารออกชนิดนี้
00:35:18 → 00:35:20 ชนิดเดียวที่ประเทศไอซ์แลนด์มีค่าพีที่
00:35:20 → 00:35:24 สูงมากๆเาก็เลยไปได้คุณสมบัติพีที่สูงนี้
00:35:24 → 00:35:24 มา
00:35:24 → 00:35:26 >> อ๋อมันเป็นอย่างนี้นี่เอง
00:35:26 → 00:35:27 >> ถูกต้อง
00:35:27 → 00:35:27 >> คือ
00:35:27 → 00:35:31 >> แล้วแล้วก็เป็นที่มาของที่ที่ระบุอยู่บน
00:35:31 → 00:35:34 ขวดเนี้ยค่ะว่าพ 88 เพราะว่าบารซาิเนี้ย
00:35:34 → 00:35:37 มีค่าที่อยู่ข้างในเนี้ย
00:35:37 → 00:35:37 >> อ่า
00:35:37 → 00:35:40 >> ที่เป็นที่ประเทศนี้ประเทศเดียวคือประเทศ
00:35:40 → 00:35:44 ไอซ์แลนด์ไม่ใช่ว่าผุดที่ไหนก็ไม่รู้ลาวา
00:35:45 → 00:35:47 ที่อื่นแล้วจะได้ค่าแบบนี้ไม่ใช่
00:35:47 → 00:35:51 >> อ๋อเข้าใจก็เลยเป็นที่มาว่าแต่ละโซนแต่ละ
00:35:51 → 00:35:53 พื้นที่ของโลกเขาก็จะมีคุณสมบัติที่แตก
00:35:53 → 00:35:54 ต่างกัน
00:35:54 → 00:35:57 >> แล้วค่า TDS ที่ต่ำก็เป็นเพราะว่าการกรอง
00:35:57 → 00:36:00 ผ่านหินลาวาเนี้ยมาจากต้นทางคือทานน้ำ
00:36:00 → 00:36:01 แข็ง
00:36:01 → 00:36:02 >> ไม่ใช่น้ำฝน
00:36:02 → 00:36:05 >> ไม่ใช่น้ำฝนหรือน้ำอะไรทั่วไปที่เกิดขึ้น
00:36:05 → 00:36:07 ปัจจุบันเพราะฉะนั้นมันเพียวมาก
00:36:07 → 00:36:08 >> อื
00:36:08 → 00:36:11 >> มันก็ไม่ค่อยมีสารอะไรอยู่ในนั้น
00:36:11 → 00:36:14 >> เลยเป็นที่มาของ 2 คุณสมบัตินี้แล้วที
00:36:14 → 00:36:16 เนี้ยพี่ชายอ่ะ
00:36:16 → 00:36:18 >> พอกลับมานะพี่ไฟก็กลับมาแล้วก็ออร์ตกัน
00:36:18 → 00:36:22 ดื่มมาปีนึงหายจากโรคภูมิแพ้อันนี้
00:36:22 → 00:36:22 ประสบการ
00:36:22 → 00:36:27 >> ออดื่มกันเฉพาะในครอบครัวเหรอคะ
00:36:27 → 00:36:31 >> ใช่ค่ะชallengนี้ทำไมฉันไม่ชนะสักทีพี่
00:36:31 → 00:36:36 ชายบอกดื่มต่อไปเผื่อเผื่อจะแบบว่า oney
00:36:36 → 00:36:39 back การันทีอะไรอย่างเงี้ยผ่านไป 1 ปี
00:36:39 → 00:36:40 โลกแพ้หาย
00:36:40 → 00:36:41 >> หายเลยหรอ
00:36:41 → 00:36:44 >> หายเลยอันนี้ประสบการณ์ส่วนตัวนะหายเลย
00:36:44 → 00:36:48 โทรกลับไปหาฝรั่งใหม่ไม่ใช่ขอเงินคืน
00:36:48 → 00:36:52 โทรไปถามเ้าว่าอยู่คือไม่ได้ขอเงินคืน
00:36:52 → 00:36:55 แล้วล่ะแต่จะเลิกดื่มน้ำนี้ได้มยพอหายละ
00:36:55 → 00:37:00 >> อ๋อเออจริงหายเลิกดื่มป่ะเออฝรั่งบอกว่า
00:37:00 → 00:37:06 >> ได้สิแต่คุณน่ะหมายถึงพี่ชายนะจะใช้ชีวิต
00:37:06 → 00:37:07 แบบเดิมมั้ย
00:37:07 → 00:37:07 >> อื
00:37:07 → 00:37:11 >> แบบเดิมคืออะไร 1 ไม่ออกกำลังกาย 2
00:37:11 → 00:37:12 เครียดมาก
00:37:12 → 00:37:16 >> 3 รับประทานอาหารไม่ดี 4 นอนน้อย
00:37:16 → 00:37:17 >> อือื
00:37:17 → 00:37:23 >> 5 เต็มไปหมดเลยคืออาจจะดิหรือสุบรีอะไร
00:37:23 → 00:37:26 ก็ว่าไปอ่าถ้ายังใช่
00:37:26 → 00:37:26 >> อื
00:37:26 → 00:37:28 >> ก็อาจจะมีสิทธิ์กลับมาเป็นโรคแพ้เหมือน
00:37:29 → 00:37:31 เดิมเพราะกรดเต็มไปหมดเลยการใช้ชีวิตใน
00:37:31 → 00:37:34 ทุกในทุกๆวันเนี้ยมันมีแต่กรดแล้วเราไม่
00:37:34 → 00:37:37 ได้อินทคด่างเขไปอ่ะเพื่อปรับให้ร่างกาย
00:37:37 → 00:37:42 สมดุลพี่ชายก็เลยฟังเสร็จแล้วก็พูดต่ออีก
00:37:42 → 00:37:45 อย่างเงี้ยมันมีมวิธีที่จะไม่ต้องดื่มน้ำ
00:37:45 → 00:37:46 เนี้ยเออเออ
00:37:47 → 00:37:48 >> แต่ขอด่างอ่ะ
00:37:48 → 00:37:49 >> จริง
00:37:49 → 00:37:50 >> น้ำด่างอ่ะแบบอื่นมีมย
00:37:50 → 00:37:51 >> อือๆ
00:37:51 → 00:37:55 >> ฝรั่งบอกว่างงตกลงเนี่ยเงินก็ไม่ได้ไปละ
00:37:55 → 00:37:59 ยังจะหาวิธีต่ออีกฝรั่งแต่ว่ามีอันแรกให้
00:37:59 → 00:38:03 หยดกดสารเอ่อศาลวิทยาศาสตร์อ่ะค่ะให้ปรับ
00:38:03 → 00:38:07 ค่าพีแบบเกิน 10 ไปเลยได้นะน้ำประปาคุณ
00:38:07 → 00:38:09 เอาน้ำประปาแล้วก็หยดสารเข้าไป
00:38:09 → 00:38:11 >> พก็จะสูง
00:38:11 → 00:38:16 >> อืแต่ไม่กไม่กล้าการันตีนะว่าเคมีเคมี
00:38:16 → 00:38:19 อะไรที่หลงเลยอยู่ในน้ำจะเป็นยังไงก็ at
00:38:19 → 00:38:22 your own risk ฝรั่งบอกงี้อ่ะอันที่ 2
00:38:22 → 00:38:26 >> ยูก็ทำเอ่อเอาน้ำmanมadeเนี่ยmanมade
00:38:26 → 00:38:28 water เนี่ยก็หมายถึงเอาน้ำเนี้ยมาผ่าน
00:38:28 → 00:38:31 เครื่องกรองชนิดนึงที่ปรับโมเลกุลของน้ำ
00:38:31 → 00:38:34 แล้วทำให้ค่าของน้ำเป็นด่างอย่าลืมนะต้น
00:38:34 → 00:38:38 ทางของน้ำก็คือน้ำประปาใช่ไหมและ 2 ถ้า
00:38:38 → 00:38:40 ผ่านครึ่งกรองเนี้ยแล้วคุณไม่ดื่มทันที
00:38:40 → 00:38:42 อ่ะประโยชน์ของน้ำก็
00:38:42 → 00:38:43 >> จะค่อยๆ
00:38:43 → 00:38:45 >> ลดลงอ่าลดลง
00:38:45 → 00:38:48 >> อ๋อ Especially ถ้าทิ้งไว้แบบ 2 วัน
00:38:48 → 00:38:51 อาทิตย์นึงคุณสมบัติเขาก็จะ
00:38:51 → 00:38:54 >> ลดลงตามไปด้วยแบบนั้นนะคะแปลว่าถ้าเกิด
00:38:54 → 00:38:56 น้ำที่ผ่านเครื่องกรองแล้วไม่ดื่มทันที
00:38:56 → 00:39:00 อ่ะมันก็จะไม่ไม่เท่าไม่เท่ากัน
00:39:00 → 00:39:00 >> ออ
00:39:00 → 00:39:03 >> อ่าฝรั่งบอกแบบนี้หรืออันที่ 3 ก็ต้อง
00:39:03 → 00:39:04 ดื่มน้ำด่าง
00:39:05 → 00:39:07 >> ที่เป็นน้ำแร่ด่างธรรมชาติ
00:39:07 → 00:39:07 >> อื
00:39:08 → 00:39:10 >> อย่างเช่นไอซแลนสปริงเป็นต้นพี่ชายฟัง
00:39:10 → 00:39:13 เสร็จก็ต้องดื่มน้ำนี้ต่อไป
00:39:13 → 00:39:16 >> ก็เลยเป็นที่มาของการนำเข้ามาเพราะว่า
00:39:16 → 00:39:17 ต้องดื่มอยู่แล้ว
00:39:17 → 00:39:17 >> อ๋อ
00:39:17 → 00:39:21 >> ให้พี่ชายดื่มแล้วก็คิดว่าถ้าประสบการณ์
00:39:21 → 00:39:23 ดีๆแบบนี้เกิดขึ้นกับคนในครอบครัวพ่อก็
00:39:23 → 00:39:28 เลยบอกว่าเอออย่างเงี้ยให้มาแจกจ่ายให้คน
00:39:28 → 00:39:31 ไทยที่นี่ได้มีโอกาสได้สัมผัสน้ำแร่
00:39:31 → 00:39:34 ธรรมชาติที่มีค่าพีสูงถึง 8.88 88 แบบ
00:39:34 → 00:39:38 ที่ประสบการณ์เปลี่ยนชีวิตพี่ชายพี่เฟย
00:39:38 → 00:39:39 >> อ๋อ
00:39:39 → 00:39:41 >> แบบนี้ค่ะเค้าก็ educate เราให้ความรู้
00:39:41 → 00:39:43 เรานะบอกว่าจริงๆอ่ะมันอยู่ที่การใช้
00:39:43 → 00:39:45 ชีวิตของเรา
00:39:45 → 00:39:45 >> อื
00:39:45 → 00:39:49 >> ถ้าเราสามารถทำให้ชีวิตเราไลฟ์สไตลที่
00:39:49 → 00:39:51 เป็นอยู่ในแต่ละวันเนี่ยเป็นดาบเราก็จะ
00:39:52 → 00:39:55 healthy นอนให้เพียงพอ
00:39:55 → 00:39:59 >> เอ่อไม่เครียดซึ่งพูดง่ายๆเนาะแต่ว่าทำ
00:39:59 → 00:40:02 กันได้มากน้อยแค่ไหนอันนั้นอีกเรื่องนึง
00:40:02 → 00:40:04 >> ออกกำลังกายคาร์ดิโอทั้งหัวใจเวทรับ
00:40:04 → 00:40:06 ประทานอาหารที่
00:40:06 → 00:40:08 >> ที่มีด่างเยอะก็คือส่วนใหญ่จะเป็นผักสด
00:40:08 → 00:40:10 ที่ไม่ผ่านความร้อน
00:40:10 → 00:40:13 >> เพราะว่าอื่นๆถ้าผ่านความร้อนแล้วก็จะก็
00:40:13 → 00:40:15 จะเทิร์นเปลี่ยนค่าเป็นกรดซะส่วนใหญ่นะคะ
00:40:16 → 00:40:20 ลดพวกอาหารหรือ beverage ที่จะดีไฮเดรต
00:40:20 → 00:40:24 ร่างกายอย่างเช่นชากาแฟหรือแอลกอฮอล์แบบ
00:40:24 → 00:40:24 นี้
00:40:24 → 00:40:26 >> อ่า No way ฟังดูแล้ว
00:40:26 → 00:40:29 >> เปลี่ยนเปลี่ยนชีวิตให้เป็นชีวจิตอ่ะเออ
00:40:29 → 00:40:31 ซึ่งคนส่วนใหญ่ทำไม่ค่อยได้
00:40:31 → 00:40:32 >> ทำไม่ได้
00:40:32 → 00:40:34 >> ก็เลยเป็นที่มาว่าอ่ะถ้าเป็นอย่างนั้นเรา
00:40:34 → 00:40:37 ก็เลยต้องพึ่งน้ำดื่มไนน้ำแร่ธรรมชาติ
00:40:37 → 00:40:39 Iceland Spring ซึ่งมีค่าพีที่สูง
00:40:39 → 00:40:41 เปรียบเสมือนเราอินทคผักเข้าไปในร่างกาย
00:40:41 → 00:40:42 บ่อยๆ
00:40:42 → 00:40:47 >> ถ้าเราขี้เกียจกินกินเอ่อผักสดแล้วประกอบ
00:40:47 → 00:40:50 กับว่าอัตราที่ต้องใช้ 20 หน่วยของด่างมา
00:40:50 → 00:40:53 ล้างให้สมดุลในกรณีที่เราอินทคกรด 1
00:40:53 → 00:40:55 หน่วยอย่างเงี้ยมันก็ไม่มีวันที่เราจะ
00:40:55 → 00:40:58 สามารถกินกินด่างได้เยอะมากแล้วในเคสของ
00:40:58 → 00:41:02 พี่ชายที่ประสบการณ์ส่วนตัวนะก็คือ
00:41:02 → 00:41:03 >> เค้า
00:41:03 → 00:41:05 ตรงนี้แล้วดีขึ้นก็เลยดีมาถึงคนใน
00:41:05 → 00:41:08 ครอบครัวอื่นๆอย่างเช่นตัวพี่เฟเองนะ
00:41:08 → 00:41:10 >> กำลังจะบอกว่าไม่ได้ป่วยไม่ได้เป็นโรค
00:41:10 → 00:41:14 อะไรแล้วเราได้มีโอกาส access ถึงน้ำ
00:41:14 → 00:41:16 เนี้ยแล้วก็ดื่มไปทุกวันตามที่ฝรั่งแนะนำ
00:41:16 → 00:41:17 พี่ชาย
00:41:17 → 00:41:18 >> อื
00:41:18 → 00:41:20 >> ผลปรากฏก็คือว่าผิวดีขึ้น
00:41:20 → 00:41:20 >> อื
00:41:20 → 00:41:25 >> ผิวฉ่ำขึ้นข้างในเหมือนฟูขึ้นเ้าบอกว่า
00:41:25 → 00:41:28 ผิวคือสิ่งสุดท้ายที่จะสะท้อนร่างกายเ
00:41:28 → 00:41:31 อัจฉริยะมากคือเขาจะไปเป็นแบบว่าเน้น
00:41:31 → 00:41:34 เรื่องของการปรับองค์ข้างในให้
00:41:34 → 00:41:35 >> อือๆ
00:41:35 → 00:41:37 >> ให้แข็งแรงก่อนให้สมบูรณ์แล้วเขาถึงจะมา
00:41:37 → 00:41:38 สะท้อนที่ผิวอ
00:41:38 → 00:41:41 >> ใช่ๆอันนี้อันนี้จริงมากนะแล้วก็อุมก็มี
00:41:41 → 00:41:44 บีฟมากว่าศาสตร์ของหมอผิวหนังเองอ่ะแพทย์
00:41:44 → 00:41:47 แผนปัจจุบันน่ะค่ะเราเชื่อว่าผิวหนังอ่ะ
00:41:47 → 00:41:51 คือหน้าต่างของร่างกายถ้าร่างกายไม่ดีเรา
00:41:51 → 00:41:54 จะมีผื่นถ้าร่างกายเราดีผิวเราจะสวย
00:41:54 → 00:41:57 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยการสวยจากภายในเนี่ยคือ
00:41:57 → 00:41:58 believe สุดๆ
00:41:58 → 00:42:00 >> ว่าเราต้องสวยจากภายในใช่
00:42:00 → 00:42:03 >> แล้วพี่ไปอาจจะไม่ได้พูดอันเนี้ยในใน
00:42:03 → 00:42:05 เมืองไทยเยอะแต่ว่าจริงๆมันช่วยเสริมรส
00:42:05 → 00:42:08 ชาติของเครื่องดื่มแล้วก็อาหารด้วยน้ำมา
00:42:08 → 00:42:08 อุ้ม
00:42:08 → 00:42:10 >> โอ๊ยอันนี้จริงที่สุดลองมาแล้วอะไรเค้า
00:42:10 → 00:42:12 เรียกว่ากระแสชาเขียวค่ะ
00:42:12 → 00:42:14 >> อ่ามาความจริงก็ดื่มชาเขียวมานานแล้วล่ะ
00:42:14 → 00:42:17 แล้วก็มาสะดุดในเรื่องของเออขมบ้างอะไร
00:42:17 → 00:42:20 บ้างอะไรอย่างเงี้ยหรือแม้กระทั่งรสชาติ
00:42:20 → 00:42:22 กลุ่มไม่ชอบกลิ่นเครื่องดื่มที่เป็น
00:42:22 → 00:42:23 สาหร่าย
00:42:23 → 00:42:23 >> อ่า
00:42:23 → 00:42:25 >> อ่าชาเขียวสาหลยไม่ชอบอะไรอย่างเงี้ยต้อง
00:42:25 → 00:42:28 บอกว่าชาเขียวกระปุกเดิมเนี่ยที่เราไว้ชง
00:42:28 → 00:42:31 กับน้ำทั่วไปอ่ะแต่พอวันนึงอยู่ดีๆคิด
00:42:32 → 00:42:35 นิมิตมันง่ายไงเราก็แค่เปิดฝาใช่ป่ะแล้ว
00:42:35 → 00:42:40 ก็ใส่ชาเขียวลงไปแล้วก็หย่อนตัวปั่นคนอ่า
00:42:40 → 00:42:43 >> เชคเรียบร้อยแล้วก็มาดื่มแบบเฮ้ย
00:42:43 → 00:42:46 >> เป็นชาเขียวที่ไม่ขมที่สุดในชีวิตของชัน
00:42:46 → 00:42:50 แล้วแบบรสชาติดีกลิ่นแบบกำลังดีทุกอย่าง
00:42:50 → 00:42:53 จริงๆหมออุมาพูดเหมือนเชฟชื่อดังในเมือง
00:42:53 → 00:42:53 ไทย
00:42:53 → 00:42:54 >> อ
00:42:54 → 00:42:57 >> เอ่อแล้วก็ในร้านอาหารไฟingหลายที่คือเขา
00:42:57 → 00:43:00 บอกว่าเขาอ่ะใช้น้ำไซenสปริingน้ำแร่
00:43:00 → 00:43:03 ธรรมชาติไซenสปริงมาทำโคตรู te
00:43:03 → 00:43:03 >> อ๋อ
00:43:03 → 00:43:07 >> อ่าเค้าอ่ะลองใช้ te ที่เขา develop ขึ้น
00:43:07 → 00:43:08 มาเนี่ย
00:43:08 → 00:43:11 >> คิดค้นสุดขึ้นมาเนี่ยแล้วก็บ่ม
00:43:11 → 00:43:14 >> กับน้ำแร่หลายประเภทหลายตัว
00:43:14 → 00:43:17 >> แล้วมาจบที่ไนสปริงเาบอกมันทำให้ชาของเขา
00:43:17 → 00:43:18 อร่อยที่สุด
00:43:18 → 00:43:19 >> อื
00:43:19 → 00:43:19 >> แล้วเขอ
00:43:19 → 00:43:21 >> เหมือนเป็นเชฟชื่อดัง
00:43:22 → 00:43:27 >> อันนี้เปลี่ยนจากอาชีพดร.อุมียเป็นนัก
00:43:27 → 00:43:30 อันเนี้ยก็เป็นอีกหนึ่งในทเ้าเรียกว่า
00:43:30 → 00:43:32 Customer ในต่างประเทศที่เขาที่เขาใช้
00:43:32 → 00:43:35 ประโยชน์จากน้ำไอเซenสปริงเอาไปหุงข้าวก็
00:43:35 → 00:43:37 จะทำให้ข้าวอร่อยขึ้น
00:43:37 → 00:43:37 >> อย่างงั้นเลย
00:43:37 → 00:43:40 >> แบบนั้นเลยร้านโมากาเสะหลายที่ในเมืองไทย
00:43:40 → 00:43:43 และต่างประเทศใช้น้ำไซเซนสปริงหุงข้าว
00:43:43 → 00:43:44 >> อ๋อ
00:43:44 → 00:43:46 >> ใช่ค่ะ
00:43:46 → 00:43:48 >> อ๋มเล่าประสบการณ์ผมก่อนดีกว่าอันที่ 1
00:43:49 → 00:43:50 ผมไปเรียน aging
00:43:50 → 00:43:50 >> อ่า
00:43:50 → 00:43:52 >> อ่าพอไปเรียน aging ปุ๊บเนี่ยเขาก็จะพูด
00:43:52 → 00:43:54 เรื่องน้ำต่างๆเนี่ยเนี่ยเหมือนเอ่อ
00:43:54 → 00:43:57 เหมือนที่พี่เฟยเล่าให้ฟังแต่เราก็สรุป
00:43:57 → 00:44:00 ได้แล้วล่ะว่าเฮ้ยมันจะต้องดื่มน้ำด่าง
00:44:00 → 00:44:04 แล้วก็เราก็รู้อยู่ว่าอ่าตัวน้ำด่างที่
00:44:04 → 00:44:06 เป็นน้ำแร่ธรรมชาติเนี่ยราคามันจะสูงนิด
00:44:06 → 00:44:08 นึงถ้าเปรียบเทียบกับเราซื้อเครื่องกรอง
00:44:08 → 00:44:11 มาเป็นการลงทุน 1 ครั้งแต่ว่าเอ้ยเราได้
00:44:11 → 00:44:14 น้ำที่คุณภาพเป็นน้ำด่างเหมือนกันแหละก็
00:44:14 → 00:44:17 ประหยัดกว่าเราก็เริ่มต้นจากการติด
00:44:17 → 00:44:19 เครื่องกรองน้ำแบบที่ทำให้เกิดน้ำด่างมา
00:44:19 → 00:44:20 ก่อนอ
00:44:20 → 00:44:22 >> แต่เราก็ keep in mind นะว่าเราต้อง
00:44:22 → 00:44:24 ดื่มจากก๊อกนี้เท่านั้นเพราะว่าถ้าเราเอา
00:44:24 → 00:44:26 ไปแช่ตู้เย็นหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะ
00:44:26 → 00:44:29 คุณสมบัติมันจะหายไปตามกาลเวลา
00:44:29 → 00:44:32 >> 24 ช่มงแรกดีสุด 3 วันปุ๊บ
00:44:32 → 00:44:34 >> ไม่มีแล้วไม่มีความเป็นด่าอีกแล้วคราวนี้
00:44:34 → 00:44:37 เนี่ยก็ดื่มมาจนวันนึงเนี่ยในคอนโดเนี่ย
00:44:37 → 00:44:41 ก็นิมิตเรื่องของท่อน้ำในคอนโดที่มันเก่า
00:44:41 → 00:44:42 >> อื
00:44:42 → 00:44:45 >> เราก็เลยเอ้าชิบหายละไอ้ที่ไอ้กองมาแล้ว
00:44:45 → 00:44:48 เราก็มาดื่มเนี่ยคือมันมีลูกบ้านอ่ะนะ
00:44:48 → 00:44:52 พิมพ์มาบอกว่าไม่กล้าดื่มน้ำที่คนโดากจาก
00:44:52 → 00:44:54 เครื่องกองเลยค่ะต้องซื้อน้ำดื่มตลอดเลย
00:44:54 → 00:44:56 ค่ะเราก็อ้าตายละ
00:44:56 → 00:44:56 >> ฉันก็ดื่มอยู่
00:44:56 → 00:45:01 >> ฉันดื่มอยู่ขอเปลี่ยนก็แล้วกันก็เลยได้
00:45:01 → 00:45:04 แบบเออติดต่อพี่เฟไปแล้วก็มีโอกาสได้ลอง
00:45:04 → 00:45:07 คือความประทับใจแรกเลยอ่ะคือปากกว้าง
00:45:07 → 00:45:10 >> ทำให้เราแบบดื่มได้เลยง่ายแล้วก็คือ
00:45:10 → 00:45:12 >> อุมเป็นคนไม่ค่อยชอบดื่มน้ำ
00:45:13 → 00:45:16 >> จะรู้สึกอึดอัดเวลาได้ดื่มน้ำอ่ะ
00:45:16 → 00:45:18 >> ไม่รู้เพราะอะไรแบบเคยจมน้ำตอนเด็กๆหรือ
00:45:18 → 00:45:19 อะไรสักอย่าง
00:45:19 → 00:45:20 >> อืค่ะ
00:45:20 → 00:45:22 >> เพราะฉะนั้นถ้าเราดื่มจากปลายเล็กอ่ะมัน
00:45:22 → 00:45:25 ใช้เวลานานแล้วเราไม่แฮปปี้สมมุติว่าเรา
00:45:25 → 00:45:27 ดื่มน้ำใช้เวลา 5 วินาทีเหมือนกันแต่ถ้า
00:45:28 → 00:45:31 ดื่มจากปากกว้างอ่ะมันได้ปริมาณเยอะกว่า
00:45:31 → 00:45:33 อ่าอันนี้ก็ทำให้ผมแบบดื่มน้ำได้เยอะขึ้น
00:45:33 → 00:45:36 แล้วก็พี่เฟก็สั่งมาเลยน้องผมจะต้องดื่ม
00:45:36 → 00:45:40 ท่านี้นะนะคะเราก็อ่ะพยายามFอแล้วก็ดูว่า
00:45:40 → 00:45:46 เป็นยังไงที่ชัดเจนมากๆอ่ะค่ะคืออุ๋มอยู่
00:45:46 → 00:45:49 ในออฟฟิศเงี้ยเด็กๆอ่ะทยอยป่วยเป็นหวัด
00:45:49 → 00:45:52 ไข่หวัดใหญ่บ้างโควิดบ้างอะไรในออฟฟิศอ่ะ
00:45:52 → 00:45:53 ปั๊อื
00:45:53 → 00:45:54 >> ไม่เคยเป็นเลย
00:45:54 → 00:45:55 >> อื
00:45:55 → 00:45:58 >> ไม่เคยติดเลยทั้งๆที่ฉันก็ไม่ใส่แมสด้วย
00:45:58 → 00:45:58 >> อื
00:45:58 → 00:46:00 >> เวลาอยู่ในออฟฟิศอะไรอย่างเงี้ยเวลามาเจอ
00:46:00 → 00:46:02 คนไข้เราใส่แมสเนาะแต่ว่าอ่าในออฟฟิศก็
00:46:02 → 00:46:06 >> ไม่มีเลยแล้วก็ทุกคนก็จะรู้ว่าเอ้ยอุมทำ
00:46:06 → 00:46:08 งานหนักมากคือตั้งแต่ตื่นยันหลับตื่นยัน
00:46:08 → 00:46:10 หลับแล้วเราก็นอนแค่อ
00:46:10 → 00:46:13 >> 5 ชม 6 ช่มงหรืออะไรอย่างเงี้ยแต่เราแบบ
00:46:13 → 00:46:16 พลังงานไม่มีดรอปเมื่อเทียบกับ
00:46:16 → 00:46:19 >> เด็กที่อายุ 20 กว่า 30 อะไรอย่างเงี้ย
00:46:19 → 00:46:22 >> แล้วก็ป่วยด้วยแล้วไอ้นี่ก็เนerี้ไม่ดรอป
00:46:22 → 00:46:22 แม่
00:46:22 → 00:46:25 >> อ่าแล้วก็ไม่ได้ป่วยอีกเป็นไปได้ยังไงอ่า
00:46:25 → 00:46:29 >> จริงแล้วก็สำหรับเรื่องผิวเมื่อปีก่อนน่ะ
00:46:29 → 00:46:33 อุมาจะต้องพึ่งการฉีดเติมเต็ม
00:46:33 → 00:46:37 >> ในเรื่องของงานผิวเพื่อฉีดตัวไฮโรนิซิด
00:46:37 → 00:46:39 เนาะเพื่อให้มันไปอุ้มน้ำในผิว
00:46:39 → 00:46:40 >> อ
00:46:40 → 00:46:43 >> ตลอดคือถ้าสมมุติว่าเราไม่ฉีดจะรู้สึกเลย
00:46:43 → 00:46:45 ว่าผิวเราแบบดรอปไปไหนต่อไหนไม่รู้
00:46:45 → 00:46:46 >> อื
00:46:46 → 00:46:48 >> แต่อันเนี้ยคือลืมไปเลยว่าต้องฉีด
00:46:48 → 00:46:52 >> ออเพราะว่ามันอิ่มอิ่มเอออันนี้คืองงงง
00:46:52 → 00:46:53 แต่ว่าก็
00:46:53 → 00:46:57 >> แล้วสุดท้ายเนี่ยต้องยอมรับว่าหลังจาก
00:46:57 → 00:47:01 ดื่มน้ำนี้แล้วเนี่ยดื่มน้ำอื่นไม่อร่อย
00:47:01 → 00:47:03 อีกเลยโหเวลาต้องเดินทางไปต่างประเทศนี่
00:47:03 → 00:47:05 คือถึงขั้นกับแบบหงุดหงิดอยากจะเอามันใส่
00:47:05 → 00:47:10 ลงไปในกระเป๋าเดินทางด้วยแต่ว่าทำไม่ได้
00:47:10 → 00:47:13 >> คือสเราสามารถรับรถต่างได้เลยใช่มั้คะ
00:47:13 → 00:47:15 >> ต่างแล้วสำหรับบุ๋มเองเนี่ยคือเป็นคนแบบ
00:47:15 → 00:47:18 ไม่เค้าเรียกไม่ดื่มน้ำเพราะน้ำไม่อร่อย
00:47:18 → 00:47:19 >> อื
00:47:19 → 00:47:22 >> ก็กลายเป็นว่าอู่อุมดื่มน้ำได้ในปริมาณ
00:47:22 → 00:47:23 ที่เยอะขึ้นที่เหมาะสม
00:47:23 → 00:47:24 >> อื
00:47:24 → 00:47:26 >> อะไรอย่างเงี้ยเออคือแบบ
00:47:26 → 00:47:29 >> หมออุ่มรู้มว่าทำไมตะกี้ที่หมออุ่มพูดมา
00:47:29 → 00:47:31 ว่าเอ๊ะเราก็สังเกตว่าเอ๊ะน้องๆในออฟฟิศ
00:47:31 → 00:47:34 เนี่ยป่วยกันไปละแต่หมอก็ใช้ชีวิตก็ไม่
00:47:34 → 00:47:37 ได้น้อยไปกว่าเขานะแต่ทำไมไม่ป่วยอ
00:47:37 → 00:47:39 >> ก็ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นที่มาว่าถ้าเราดื่ม
00:47:40 → 00:47:42 น้ำเนี่ยเป็นด่างในร่างกายอ่ะค่ะโอกาสใน
00:47:42 → 00:47:45 การติดเชื้อต่างๆที่ร่างกายจะอักเสบอ่ะ
00:47:45 → 00:47:47 >> มันก็จะลดลงอันนั้นก็เรื่องนึง
00:47:47 → 00:47:47 >> อือ
00:47:47 → 00:47:51 >> ส่วนที่หมอบอกว่าน้ำเนี้ยทำไมไปดื่มน้ำ
00:47:51 → 00:47:54 อื่นแล้วไม่อร่อยอ่ะจริงๆไม่ได้ใส่ผงชูรส
00:47:54 → 00:47:56 ในน้ำนะหมอ
00:47:56 → 00:47:59 พี่ไฟจะบอกว่าเพราะรสที่เรารับได้เนี่ย
00:47:59 → 00:48:01 มันรู้สึกได้จากลิ้นเรา
00:48:01 → 00:48:01 >> อื
00:48:01 → 00:48:05 >> แล้วลิ้นของคุณหมอเนี่ยถูกปรับไปด้วย
00:48:05 → 00:48:07 >> การดื่มไซ and Sprรingเหมือนไซens Spring
00:48:07 → 00:48:10 เนี่ยเทรนลิ้นเราอ่ะให้รู้สึกได้ว่าน้ำ
00:48:10 → 00:48:14 ที่พีที่สูงอ่ะหรือประมาณ 8.88 88 เนี่ย
00:48:14 → 00:48:17 มันจะต้องหวานประมาณนี้เพราะน้ำด่างจะมี
00:48:17 → 00:48:18 ความหวาน
00:48:18 → 00:48:20 >> กว่าน้ำเป็นกรดน้ำเป็นกรดจะออกเปรี้ยว
00:48:20 → 00:48:24 ส่วนที่น้ำที่หมอบอกว่าดื่มได้แล้วดื่ม
00:48:24 → 00:48:27 ได้ง่ายขึ้นน่ะเป็นอาจจะเป็นเพราะว่าคน
00:48:27 → 00:48:28 ส่วนใหญ่ที่ไม่ชอบดื่มน้ำเพราะมันรู้สึก
00:48:28 → 00:48:32 แบบอึดแบบมันหนักๆอะไรอย่างเงี้ย
00:48:32 → 00:48:35 >> เพราะว่าค่า TDS ที่สูงมันมีความหนักใน
00:48:35 → 00:48:36 น้ำ
00:48:36 → 00:48:36 >> อ๋อ
00:48:36 → 00:48:39 >> แต่แต่คนส่วนใหญ่อธิบายไม่ได้ว่าน้ำหนัก
00:48:39 → 00:48:41 คืออะไรน้ำมันหนักมันมันไม่ make เซense
00:48:41 → 00:48:43 แต่จริงๆคือมวลน้ำอ่ะ
00:48:43 → 00:48:47 มวลของน้ำมันเบาน้ำไซ spring เนี่ยมันเบา
00:48:47 → 00:48:50 ทำให้มัน flow แล้วมันดื่มคล่องคอแล้วมัน
00:48:50 → 00:48:51 ง่ายใช่
00:48:51 → 00:48:54 >> เพราะฉะนั้นเนี่ยเอ่อมันก็เลยสะดวกต่อการ
00:48:54 → 00:48:56 ดื่มแล้วทำให้เราสามารถดื่มน้ำได้มากกว่า
00:48:56 → 00:48:57 ปกติ
00:48:57 → 00:49:00 >> อ๋อมิน่ามันคือน้ำอันเดียวที่มันสามารถ
00:49:00 → 00:49:03 ดื่มได้หมดขวด 500 ml ในครั้งเดียวอัน
00:49:03 → 00:49:06 อื่นคือแบบอือต้องใช้เวลานิดนึงซึ่งจริงๆ
00:49:06 → 00:49:08 อีกประเภทนึงที่พี่เฟมไม่ยังไม่ได้เล่า
00:49:08 → 00:49:10 ให้หมออุมฟังคืออะไรรู้มั้ยในต่างประเทศ
00:49:10 → 00:49:12 เขาเอาไปทำ wiing
00:49:12 → 00:49:16 >> อ้าอ่าอ่าคือหมายถึงว่าใน event ของ Wine
00:49:16 → 00:49:19 pairing เนี่ยเขาต้องปรับลิ้นให้เป็น
00:49:19 → 00:49:20 กลาง
00:49:20 → 00:49:20 >> อ๋อ
00:49:20 → 00:49:24 >> เก็จะใช้นามไen Spring เนี่ยแหละดื่ม
00:49:24 → 00:49:27 >> ใช่กลวกปากกล้วกลิ้น
00:49:27 → 00:49:30 >> แล้วก็อาจจะเอาออกเพื่อปรับลิ้นเราเพราะ
00:49:30 → 00:49:32 ว่าถ้าเราดื่มตลอดเวลาเราก็จะแน่นท้องมาก
00:49:32 → 00:49:34 ในการดื่มไวายใช่มั้ฮะ
00:49:34 → 00:49:36 >> เอ่อเพื่อให้เพื่อให้เรารู้สึกได้ว่าอ๋อ
00:49:36 → 00:49:38 วายแก้วนี้เป็นอย่างงี้ไวแก้วนี้เป็น
00:49:38 → 00:49:39 อย่างงี้
00:49:39 → 00:49:39 >> ออ
00:49:39 → 00:49:42 >> อ่ามันก็จะมีประโยชน์หลากหลายอย่างซึ่ง
00:49:42 → 00:49:44 ซึ่งอาจจะไม่ได้ไม่ได้พูดถึงมากนักใน
00:49:45 → 00:49:45 เมืองไทย
00:49:45 → 00:49:50 >> เป็นความรู้แล้วแบบเปิดโลกแล้วมันก็อย่าง
00:49:50 → 00:49:53 ที่เสมอแหละพี่เฟก็นมต้องพิสูจน์ด้วยตัว
00:49:53 → 00:49:56 เองแล้วก็พิสูจน์ด้วยตัวเองจริงๆ
00:49:56 → 00:50:00 >> เพราะอะไรรู้มยฝรั่งเขาบอกมา
00:50:00 → 00:50:02 ซึ่งก็ยังไม่ได้เงินเ้าเลยเนี่ยทุกวัน
00:50:02 → 00:50:06 เนี้ยแถมต้องไปซื้อเขาอีก
00:50:06 → 00:50:10 เนี่ยอันดับแรก as a water ก็จะบอกคุณ
00:50:10 → 00:50:12 ว่าคุณดื่มน้ำเถอะ
00:50:12 → 00:50:12 >> อ
00:50:12 → 00:50:15 >> ไม่ต้องนำ Spring ก็ได้นะแต่ขอให้ดื่ม
00:50:15 → 00:50:16 >> อะไรก็ได้ขอให้ดื่ม
00:50:16 → 00:50:19 >> น้ำอะไรก็ได้จริงๆน้ำหลายชนิดที่อยู่ใน
00:50:19 → 00:50:21 เมืองไทยที่เป็นmanมade water อยู่ในขวด
00:50:21 → 00:50:25 เนี่ยนะคะพี่ 4 ก็มีนะ 5 ก็มีนะ
00:50:25 → 00:50:25 >> เอ้าเหรอ
00:50:25 → 00:50:26 >> 6 ก็มีนะคะ
00:50:27 → 00:50:29 >> ลงไปถึง 4 นี่คือแบบเดี่ยวได้
00:50:29 → 00:50:33 >> ใช่ค่ะมีค่ะมีน้ำในเมืองไทยนะregิister
00:50:33 → 00:50:36 กับอยอ่ะเป็นแบบเกิน 3,000 ยี่ห้ออ่ะ
00:50:36 → 00:50:40 >> โอ้เหรออุ๊ยตายแล้วเยอะมากทั้งอบต.อบจ.
00:50:40 → 00:50:44 อะไรก็ทำน้ำส่วนตำบลส่วนอะไรหมดอันนี้ก็
00:50:44 → 00:50:46 regิสเตอร์กับอย.หมด
00:50:46 → 00:50:50 >> น้ำเหล่านั้นน่ะคุณภาพเป็นอย่างไรพีเท่า
00:50:50 → 00:50:53 ไหร่แต่อย่างน้อยมันบริสมันสะอาดแบบว่า
00:50:53 → 00:50:55 ดื่มแล้วไม่ท้องเสียอ่ะก็ได้regิสเตอร์
00:50:55 → 00:50:58 กับอย.ละว่าเป็นน้ำดื่มบรรจุขวด
00:50:58 → 00:50:58 >> อื
00:50:58 → 00:51:02 >> อ่าก็เลยจะเล่าให้ฟังว่าดื่มไปเถอะน้ำอ่ะ
00:51:02 → 00:51:02 ดี
00:51:03 → 00:51:06 >> ดื่มไม่ถึงนะอย่างน้อย 30 คูณน้ำหนักตัว
00:51:06 → 00:51:09 ถ้าคุณใช้ไลฟ์สไตลที่หนักก็ดื่มให้มาก
00:51:09 → 00:51:12 ขึ้นถ้าคุณใช้ไลฟ์สไตล์อะไรที่แบบว่ากิน
00:51:12 → 00:51:16 ยาไปด้วยหรือเหงื่อออกหรือพูดเยอะหรือนอน
00:51:17 → 00:51:19 น้อยเครียดอะไรอย่างเงี้ยคุณสังเกตมั้ยคะ
00:51:19 → 00:51:23 ว่าถ้าเกิด 1% ของร่างกายน้ำหนักเราอ่ะ
00:51:23 → 00:51:26 หายไปด้วยน้ำน่ะสมมุติวิ่งแล้วเหงื่อออก
00:51:26 → 00:51:28 แล้วถ้าคุณไม่ดื่มน้ำนี่คุณก็หายมาก
00:51:28 → 00:51:31 >> แต่ถ้า 5% ของน้ำหนักตัวคุณหายไป
00:51:31 → 00:51:31 >> อื
00:51:31 → 00:51:34 >> โดยน้ำเนี่ยคุณจะเริ่มกระทบอวัยวะเส้น
00:51:34 → 00:51:37 ประสาทละจะเริ่มแบบสมองเหมือนคิดช้าอ่ะ
00:51:37 → 00:51:37 ค่ะ
00:51:37 → 00:51:40 >> เคยเป็นมยตาพ้าๆแบบอุ้ยแบบตามองไม่ค่อย
00:51:40 → 00:51:42 ชัดเอสมองทำไมคิดช้าจัง
00:51:42 → 00:51:44 >> แล้วเหนื่อยหายใจไม่ค่อยออกพอดื่มน้ำออก
00:51:44 → 00:51:46 ไปจิบปึ๊บเอ้อเฟรชขึ้น
00:51:46 → 00:51:47 >> ออใช่ๆ
00:51:47 → 00:51:49 >> อ่ามันเป็นอย่างงั้นแต่ถ้าคุณสูญเสียน้ำ
00:51:49 → 00:51:52 เกิน 15% ของบอเวทอ่ะ
00:51:52 → 00:51:52 >> อื
00:51:52 → 00:51:55 >> ก็อาจจะมีอาการอวัยวะfaียหรือถึงขั้นเสีย
00:51:55 → 00:51:57 ชีวิตได้เลยนะหมอ
00:51:57 → 00:51:57 >> อื
00:51:58 → 00:52:02 >> 15% จาก 50 กก.นี่ก็คือประมาณ 7.5 กก.
00:52:02 → 00:52:05 >> แต่ถ้า 1% คือที่เรารู้สึกกระหายเนี่ย
00:52:05 → 00:52:06 ประมาณ 500 ม.อื
00:52:06 → 00:52:09 >> ก็ขาดน้ำไปเท่านี้ค่ะขวดเนี้ยขวด
00:52:09 → 00:52:11 >> ก็เยอะอยู่ได้แล้วถ้าขาดไปประมาณ 10 ขวด
00:52:11 → 00:52:15 เนี้ยหมอก็จะกระทบอวัยวะหมอละหรืออาจจะ
00:52:15 → 00:52:18 ถึงขั้นตายได้อันนี้คือเราพูดถึงกรณีขาด
00:52:18 → 00:52:20 น้ำก็เลยอยากจะบอกว่าดื่มไปเถอะค่ะ
00:52:20 → 00:52:23 >> น้ำเนี่ยสำคัญแต่ถ้าเราได้น้ำดีๆอย่าง
00:52:23 → 00:52:26 เช่นไซen Spring ที่มีคุณสมบัติของพีที่
00:52:26 → 00:52:28 สูงมันก็จะช่วยไปสร้างสิ่งดีๆให้กับร่าง
00:52:28 → 00:52:30 กายได้เช่นเดียวกันด้วย
00:52:30 → 00:52:33 >> ก็คือไม่ใช่แค่ว่าได้น้ำที่จะมาแบบทำนู่น
00:52:33 → 00:52:35 ทำนี่ให้ร่างกายอยู่รอดได้แต่ได้
00:52:35 → 00:52:37 คุณสมบัติอื่นๆที่แอดไป
00:52:37 → 00:52:38 >> ถูกต้อง
00:52:38 → 00:52:40 >> ที่เราอาจจะได้ benefit มากขึ้น
00:52:40 → 00:52:41 >> ถูกต้อง
00:52:41 → 00:52:43 >> อ่า
00:52:43 → 00:52:46 น้ำไม่มีวันหมดอายุนะจริงๆน้ำอยู่ได้ตลอด
00:52:46 → 00:52:49 แต่สิ่งที่ต้องระบุ expiry เดทบนขวดก็คือ
00:52:49 → 00:52:52 ตัวพลาสติกดีๆนี่เองที่เป็นห่วงเขา
00:52:52 → 00:52:54 >> เพราะฉะนั้นวิธีการที่สำคัญที่สุดอยากจะ
00:52:54 → 00:52:58 บอกทุกคนเลยว่าอย่าโดนการเก็บนะคะอย่าโดน
00:52:58 → 00:53:01 แสงแดดอย่าไว้ในรถแล้วโดนแสงแดด
00:53:01 → 00:53:04 >> หรือเก็บในที่ที่ร้อนจัดๆเพราะจริงๆไม่
00:53:04 → 00:53:07 ใช่แค่น้ำและขวดพลาสติกนะลิปสติกของเรา
00:53:07 → 00:53:11 เมอัพของเรามาสการลิปสติกแป้งออนถ้าโดน
00:53:11 → 00:53:13 แสงแดดเนี่ยก็เปลี่ยน
00:53:13 → 00:53:14 >> อื
00:53:14 → 00:53:17 >> เปลี่ยนสภาพน้ำหอมก็เปลี่ยนสภาพอ
00:53:17 → 00:53:19 >> ใช่มั้ยคะเพราะฉะนั้นแสงแดดและความร้อน
00:53:19 → 00:53:21 เนี่ยเป็นสิ่งอันตรายกับผิวด้วยนะกับ
00:53:21 → 00:53:23 ภาชนะด้วยอ่า
00:53:23 → 00:53:25 >> ออจริงๆแล้วก็คือ apply ได้กับน้ำดื่มทุก
00:53:25 → 00:53:26 ยี่ห้อด้วย
00:53:26 → 00:53:28 >> ถูกต้องถูกต้องแล้วหนึ่งในคุณสมบัติที่
00:53:28 → 00:53:31 แบบภาคภูมิใจมากของ Asin Spring เขาเอง
00:53:31 → 00:53:33 เขาก็บอกเขารักโรคแล้วเขาก็อ่า recycle
00:53:33 → 00:53:37 ได้แถม BPA ฟรีซึ่งอาจจะทำให้เอ่อน้ำ
00:53:37 → 00:53:39 เนี่ยเขามีคุณภาพที่
00:53:39 → 00:53:40 >> เหมือนมาจากแหล่งผลิตเลย
00:53:40 → 00:53:41 >> ใช่
00:53:41 → 00:53:44 >> แล้วก็จะไม่ได้เ่อ absorb ความเป็น
00:53:44 → 00:53:46 พลาสติกต่างๆเข้าไปในน้ำ
00:53:46 → 00:53:46 >> อื
00:53:46 → 00:53:48 >> ใช่ก็จะมั่นใจได้ว่าสำหรับเด็กหรือผู้
00:53:48 → 00:53:50 ใหญ่เนี่ยที่ดื่มน้ำเนี้ยก็จะไม่มีสาร BPA
00:53:50 → 00:53:51 ตกค้างอยู่
00:53:51 → 00:53:55 >> อ่าอันนี้เราถามนิดนึงแล้วกันนะว่าเรื่อง
00:53:55 → 00:53:59 ไมโครพลาสติกด้วยเกรดคุณภาพของขวดเนี้ย
00:53:59 → 00:54:02 มันจะช่วยลดปัญหาเรื่องของไมโครพลาสติก
00:54:02 → 00:54:03 ที่ละลายมาในหน้า
00:54:03 → 00:54:05 >> คือจริงๆเนี่ยเรื่องไมโครพลาสติกเป็นอะไร
00:54:05 → 00:54:07 ที่ debatable อย่างที่ Water Sm
00:54:08 → 00:54:10 Association ที่พี่เฟต้องไปประชุมทุกๆปี
00:54:10 → 00:54:13 นะคะเขาก็จะมีการพูดคุยกันถึงสิ่งเหล่า
00:54:13 → 00:54:15 นี้จริงๆไม่ใช่แค่เฉพาะ
00:54:15 → 00:54:17 >> เอ่อขวดพลาสติกทุกอย่างที่เราใช้ที่เป็น
00:54:18 → 00:54:21 พลาสติกเนี่ยก็ไม่ควรรีuseอยู่แล้ว
00:54:21 → 00:54:24 >> เอากลับมาใช้ใหม่แล้วคุณภาพอย่างชอนที่
00:54:24 → 00:54:26 เราใช้เวลาเรากินตาม
00:54:26 → 00:54:29 >> ร้านสะดวกซื้อหรือว่าตาม
00:54:29 → 00:54:31 >> เอ่อฟุคอร์ดอะไรอย่าเงี้ยนะคะก็มีโอกาส
00:54:31 → 00:54:35 ที่จะมีทั้งไมโครพลาสติกหรือว่า stainless
00:54:35 → 00:54:39 ต่างๆ Stainless steel หรือเอ่อช้อนซ่อม
00:54:39 → 00:54:40 ที่มีโลหะ
00:54:40 → 00:54:43 >> ก็อาจจะมีโอกาสที่มีโลหะเอ่อ
00:54:43 → 00:54:44 >> เข้าไปในร่างกายได้เหมือนกันอย่างเช่นสาร
00:54:45 → 00:54:47 ปลอดหรือสารต่างๆกำลังจะบอกว่ามันขึ้น
00:54:47 → 00:54:50 อยู่ทุกอย่างมันมันมีโอกาสหมดแต่ว่ามัน
00:54:50 → 00:54:52 ขึ้นอยู่กับคุณภาพและชนิด
00:54:52 → 00:54:55 >> ของพลาสติกเหล่านั้นที่เราใช้แม้กระทั่ง
00:54:55 → 00:54:57 ล่าสุดนะคะพี่เฟยไปประชุมแล้วเขาก็ยังมี
00:54:57 → 00:55:02 โอกาสเอ่อได้พูดถึง GL botอleที่เจอ
00:55:02 → 00:55:03 ไมโครพลาสติกอยู่ในนั้น
00:55:03 → 00:55:04 >> อ้าวเราตาย
00:55:04 → 00:55:07 >> เราก็ตกใจว่าเฮ้ยมันเป็นไปได้หรอ
00:55:07 → 00:55:07 >> อ
00:55:07 → 00:55:10 >> แต่ผลปรากฏของรีเสิร์ชเนี้ยเขาก็ไปทำ
00:55:10 → 00:55:14 testing แล้วเขาก็บอกว่ามันเกิดมาจากฝา
00:55:14 → 00:55:15 ขวดค่ะ
00:55:15 → 00:55:16 >> ที่เป็นพลาสติก
00:55:16 → 00:55:17 >> อ๋อ
00:55:17 → 00:55:20 >> แล้วอาจจะไม่ได้คุณภาพเพราะเอ่อ quality
00:55:20 → 00:55:21 เกรดของพลาสติก
00:55:21 → 00:55:22 >> อื
00:55:22 → 00:55:24 >> เนี้ยเวลาน้ำ
00:55:24 → 00:55:29 >> น้ำไปโดนก็ทำให้มีสารเคมีเหล่านั้นหล่นมา
00:55:29 → 00:55:31 ในน้ำได้แต่จริงๆไม่ได้เกิดจากตัวก๊าซ
00:55:31 → 00:55:34 อยู่ที่คุณภาพของพลาสติกเพราะฉะนั้นจะบอก
00:55:34 → 00:55:37 ว่าจริงๆไมโครพลาสติกมันไม่ใช่เป็นเรื่อง
00:55:37 → 00:55:39 ใหม่ที่เพิ่งเกิดแต่ว่าจริงๆมันก็มีอยู่
00:55:40 → 00:55:42 ในรอบตัวเราอยู่แล้วโดยที่เราไม่รู้ตัว
00:55:42 → 00:55:45 แต่ว่าล่าสุดที่พูดกันเยอะขึ้นอาจจะเป็น
00:55:45 → 00:55:47 ผลมาจาก
00:55:47 → 00:55:51 >> เอ่อคุณภาพของขวดน้ำบางขวดบางชนิดอ่ะค่ะ
00:55:51 → 00:55:55 ที่ไม่อาจจะใช้คุณภาพของพลาสติกที่ไม่ถึง
00:55:55 → 00:55:55 >> อื
00:55:55 → 00:55:58 >> เอ่อแล้วก็ก่อให้เกิดผลกระทบลักษณะแบบนี้
00:55:58 → 00:56:00 เกิดขึ้นเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วก็ไม่ใช่
00:56:00 → 00:56:03 เฉพาะขวดน้ำแต่ว่ารวมไปถึงภาชนะอื่นอื่น
00:56:03 → 00:56:05 ช้อนซ่อมแบบนี้ได้เหมือนกัน
00:56:05 → 00:56:08 >> อืวันนี้ก็ต้องขอบคุณพี่เฟมมากๆนะคะที่มา
00:56:08 → 00:56:11 เปิดโลกของเรื่องน้ำดื่มกอมก็ได้ความรู้
00:56:11 → 00:56:13 เพิ่มเยอะเลยแล้วก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์
00:56:13 → 00:56:16 กับคนทั่วไปที่รับชมคลิปนี้ด้วยนะคะก็
00:56:16 → 00:56:18 ขอบคุณพี่เฟรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง
00:56:18 → 00:56:19 ที่มาเยือนกันค่ะ
00:56:19 → 00:56:20 >> ขอบคุณ
00:56:20 → 00:56:36 [เพลง]