00:00:01 → 00:00:04 กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีร่วมกับ

00:00:04 → 00:00:08 คณะวิทยาศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยภูมิ

00:00:08 → 00:00:11 ใจ

00:00:11 → 00:00:12 [เพลง]

00:00:12 → 00:00:19 เสนอไฟฉลาดคิดวิมีคำตอบปี 2 ตอนดื่มน้ำ

00:00:19 → 00:00:24 ด่างกินอาหารด่างดีต่อสุขภาพจริง

00:00:24 → 00:00:32 หรือเฮ้ยสมพรทำไรอยู่ไม่เห็นลกำลังกินน้ำ

00:00:32 → 00:00:35 ส้มน้ำส้มน้ำด่างอาหารด่างสามารถรักษาโรค

00:00:36 → 00:00:40 ไดู้้ไรอ่ะน้ำด่ามอาหารด่าง้วนะรักษาโลค

00:00:40 → 00:00:45 ไม่จริงหรอกโหอุส่าห์มาเยอะทั้ง Facebook

00:00:45 → 00:00:50 Instagram โอหนักวิชาการบางคนก็มีเออนาย

00:00:50 → 00:00:52 สุขภาพแข็งแรงดีมั้ยโฟิตปั๋งฟิตปั๋เลยนะ

00:00:53 → 00:00:55 เพราะกินน้ำส้มทุกวันทุกวันวันละกี่แก้ว

00:00:55 → 00:00:58 วันละ 5

00:00:58 → 00:01:03 แก้วไม่เชื่อไปก่อนนะสวัสดี

00:01:03 → 00:01:06 เพื่อนอาจารย์จิมสวัสดีครับอ้าหวัดดีอั้น

00:01:06 → 00:01:09 อาจารย์ทำอะไรีกครับอาจารย์อ๋อผมก็ดูการ

00:01:10 → 00:01:12 ทดลองเลยนิดหน่อยดูกำลังยุ่งใช่่มั้ครับ

00:01:12 → 00:01:15 แต่ผมจะรบกวนเวลาอันยุ่งนี้ของอาจารย์สัก

00:01:15 → 00:01:17 นิดนึงได้มั้ครับอาจารย์อ๋อได้ไม่มีปัญหา

00:01:17 → 00:01:20 โวันนี้ผมมีเรื่องสงสัยครับอาจารย์ครับอ

00:01:20 → 00:01:23 พอดีเนี่ยผมไปคุยกับเพื่อนมาแล้วเพื่อนผม

00:01:23 → 00:01:28 บอกว่าน้ำกับอาหารที่เป็นดาบซึ่งแน่นอน

00:01:28 → 00:01:31 เป็นพวกอาหารรสเปรี้ยวมะนาวส้มใช่มั้ย

00:01:31 → 00:01:35 ครับอาจารย์ครับทานด้วยกันดื่มด้วยกันจะ

00:01:35 → 00:01:38 ทำให้ต่อต้านโรคมะเร็งได้ครับอาจารย์

00:01:38 → 00:01:41 ประเด็นนี้เป็นยังไงบ้างครับอาจารย์ผมว่า

00:01:41 → 00:01:43 มันอาจจะมีความเข้าใจผิดหลายประการเกี่ยว

00:01:43 → 00:01:46 กับเรื่องเอ่ออาหารกรดอาหารที่เป็นด่าง

00:01:46 → 00:01:49 อะไรพวกนี้แต่ก่อนเนี่ยใช่มีนักวิศาสตร์

00:01:49 → 00:01:53 ท่านนึงนะฮะเค้าเคยทดลองเหมือนกับว่าเรา

00:01:53 → 00:01:55 เราคงบอทราบว่ากระต่ายปกติเนี่ยมันเป็น

00:01:55 → 00:01:57 สัตว์ที่กินพืชเป็นอาหารครับอาจารย์อัน

00:01:57 → 00:02:00 นี้เขาก็เลยทดลองให้กระต่ายเนี่ยกินอาหาร

00:02:00 → 00:02:03 ที่เป็นพวกเนื้อแทนอปรากฏว่าพอเขาไปตรวจ

00:02:03 → 00:02:08 สอบเอ่อปัสสาวะครับปัสสาวะเนี่ยมีภาวะ

00:02:08 → 00:02:11 เป็นกรดครับอาจารเขาก็เลยตั้งข้อ

00:02:11 → 00:02:14 สันนิษฐานว่าเนี่ยการกินเนื้อการบริโภค

00:02:14 → 00:02:19 เนื้ออืจะทำให้ภาวะของเอ่อพีชภาวะความ

00:02:19 → 00:02:22 เป็นกรดเบสของปัสสาวะเนี่ยครับออกแนวโน้ม

00:02:22 → 00:02:24 เป็นกรดมากขึ้นครับอาจารย์การกินผักผลไม้

00:02:25 → 00:02:28 เนี่ยจะมีภาวะที่เป็นด่านอก็เลยมีความ

00:02:28 → 00:02:31 เข้าใจว่าอาหารด่านเนี่ยจะมีผลดีต่อ

00:02:31 → 00:02:35 สุขภาพครับอืแล้วก็มันก็เลยไปโยงถึงว่า

00:02:35 → 00:02:39 การที่มีภาวะของเอ่อปัสสาวะเป็นด่างเนี่ย

00:02:39 → 00:02:42 อืหรือปัสสาวะเป็นกรดเนี่ยครับส่งผลต่อ

00:02:42 → 00:02:46 ภาวะพีของเลือดด้วยอืเรื่องมันเลยตีกัน

00:02:46 → 00:02:49 ใหญ่ในคันนี้อืผมก็เลยไปตีคามว่าการกิน

00:02:49 → 00:02:51 อาหารประเภทดังเนี่ยมีประโยชน์ต่อสุขภาพ

00:02:51 → 00:02:54 ส่วนการกินอาหารประเภทกรดเนี่ยเป็นโทษ

00:02:54 → 00:02:56 ซึ่งมันไม่เป็นความจริงครับอืออือเพราะ

00:02:56 → 00:02:59 งั้นการความเชื่อที่บอกว่าการกินอาหารที่

00:02:59 → 00:03:02 ที่เป็นกรดครับทำให้ปัสสาวะเป็นกรดแล้ว

00:03:02 → 00:03:04 ส่งผลให้พีในเลือกเป็นกรดด้วยไม่เป็นความ

00:03:05 → 00:03:07 จริงมันเป็นคนละส่วนกันอครับอืไม่ว่าเรา

00:03:07 → 00:03:10 จะกินอาหารที่เป็นกรดหรือเป็นด่างเข้าไป

00:03:10 → 00:03:13 เนี่ยโดยโกติแล้วร่างกายของเราเนี่ยพใน

00:03:13 → 00:03:16 กระแสเลือดเนี่ยมันจะมีตัวที่คอยปรับ

00:03:16 → 00:03:19 สมดุลให้มันคงที่อยู่แล้วอืมันไม่สามารถ

00:03:19 → 00:03:23 ที่จะเป็นพเป็นกดมากๆหรือว่าเป็นด่ามากๆ

00:03:23 → 00:03:24 ได้ถ้าอย่างนั้นเนี่ยคือร่างกายเราก็จะ

00:03:24 → 00:03:28 อยู่ไม่ได้อืเขาเรียกว่าเป็นภาวะคำรงดุล

00:03:28 → 00:03:31 หรือโฮมส asis ครับก็คืออาในร่างกายทุก

00:03:31 → 00:03:34 ระบบเนี่ยจะทำงานประสานกันอือเพื่อให้มัน

00:03:34 → 00:03:37 อยู่มีภาวะการเปลี่ยนแปลงในช่วงแคบๆครับ

00:03:37 → 00:03:41 ไม่ว่าจะเป็นพีในกระแสือดหรือว่าพีใน

00:03:41 → 00:03:44 ปัสสาวะอืแต่ 2 ส่วนนี้มันไม่ได้เกี่ยว

00:03:44 → 00:03:48 ข้องไม่ได้เชื่อมโยงกันครับอืกระจ่างะแต่

00:03:48 → 00:03:51 ยังกระจ่างไม่ที่สุดครับอาจารย์ถ้าเรารู้

00:03:51 → 00:03:55 ข้อมูลแต่ผมไม่ได้เห็นซึ่งการทดลองเนี่ย

00:03:55 → 00:03:57 เหมือนผมไม่ได้มาครับอาจารย์ครับออได้

00:03:57 → 00:04:00 อาจารย์สลับเวลาสักนิดนึงทดลองให้ผมได้

00:04:00 → 00:04:03 มั้ยครับอาจารย์ครับได้ๆอครับวันนี้เรายก

00:04:03 → 00:04:06 เรื่องราวโซเชียลที่พูดคุยทุกคนเข้าใจผิด

00:04:06 → 00:04:08 หรือถูกอันนี้ไม่รู้วันนี้เราจะมาทำการทด

00:04:08 → 00:04:11 ลองให้กระจ่างกันแล้วก็นี่แหละครับอาหาร

00:04:11 → 00:04:15 ที่บอกว่าอาหารด่าที่มีรสเปรี้ยวน้ำนี่

00:04:15 → 00:04:17 คือน้ำน้ำมะนาวน้ำมะนาวเราจะทดลองยังไง

00:04:18 → 00:04:21 ครับอาจารย์ครับเราจะทดลองดูภาวะพีของน้ำ

00:04:21 → 00:04:24 มะนาวอ่าโอเคครับก็เดี๋ยวดูให้เห็นคร่าวๆ

00:04:24 → 00:04:30 ก่อนว่ามันมีภาวะพีชตรงตามที่เค้ากล่าว

00:04:30 → 00:04:34 หรือเปล่าอันนี้ก็คือเป็นเอ่อพ Paper ก็

00:04:34 → 00:04:38 คือใช้ตรวจสอบภาวะพีอืก็คือจะได้พวกไป

00:04:38 → 00:04:40 อยู่แล้วแต่ว่านี่จะพนี่จะละเอียดหน่อย

00:04:40 → 00:04:44 ละเอียดหน่อยนะเริ่มจากน้ำมะนาโหนี่ถ้าดู

00:04:44 → 00:04:47 จากสีก็ครับถ้ามันเรามาเทียบกับแถบสีข้าง

00:04:47 → 00:04:50 กล่องก็จะเห็นชัดเลยว่ามันอยู่ในภาวะพีช

00:04:50 → 00:04:53 เป็นกรดเป็นกรดนะครับซึ่งจจก็รู้อยู่แล้ว

00:04:53 → 00:04:55 แหละว่าน้ำมะนาวมันควรจะต้องเป็นกรดถูก

00:04:55 → 00:04:59 ต้องนี้เหตุผลที่บอกว่าทำไมน้ำมะนาวที่มี

00:05:00 → 00:05:02 ภาว่าเป็นกรดตอนเรากินเข้าไปเนี่ยถึงจัด

00:05:02 → 00:05:05 ว่าเป็นอาหารด่าอืก็เพราะว่าดูจากขี้เท่า

00:05:05 → 00:05:09 ครับนะก็คือเราจะลองทดสอบดูว่าอ่ะขี้เท่า

00:05:09 → 00:05:12 นี้มันเป็นด่างจริงมยตามที่เขาว่า

00:05:12 → 00:05:18 กันพอจุ่มปุ๊บเรามาเทียบกับแถบข้างกล่อง

00:05:18 → 00:05:21 ก็จะเห็นชัดเจนว่ามันอยู่ในภาวะพีชที่

00:05:21 → 00:05:24 เป็นดาเป็นก็คือพีชค่อนข้างสูงอืครับ

00:05:24 → 00:05:30 ถ้าเราบอกว่าภาวะที่ถ้าเรากินน้ำหรือ

00:05:30 → 00:05:33 อาหารที่มีความเป็นด่าจะนต่อสุขภาพเนี่ย

00:05:33 → 00:05:35 ถ้าเราดื่มน้ำที่เท่าอืไปเลยไม่ดีกว่าเลย

00:05:35 → 00:05:38 อาหารที่เรากินเข้าไปเนี่ยไม่ว่าจะมีมี

00:05:38 → 00:05:40 ฤทธ์เป็นกรดหรือว่าเป็นด่าอือเมื่อเรากิน

00:05:40 → 00:05:43 เข้าไปเนี่ยมันอาจจะส่งส่งผลต่อภาวะพีชใน

00:05:43 → 00:05:46 ปัสสาวะได้ครับแต่ว่าภาวะพีชในปัสสาวะ

00:05:46 → 00:05:49 เนี่ยเออไม่ได้มีความสัมพันธ์กับภาวะพีช

00:05:49 → 00:05:51 ในเลือดอืเพราะงั้นเนี่ยการที่เราจะบอก

00:05:51 → 00:05:55 ว่าเรากินอาหารประเภทนึงส่งผลให้ภาวะพีช

00:05:55 → 00:05:58 ในเลือดเป็นด่านครับและช่วยรักษาโรคต่างๆ

00:05:58 → 00:06:00 อย่างเช่นโรคมะเร็งหรือว่าโรคกระดูกคุได้

00:06:00 → 00:06:03 เนี่ยมันอาจจะไม่เป็นความจริงอทีนี้ข้อ

00:06:03 → 00:06:05 แนะนำครับอาจารย์ครับในการเลือกรับประทาน

00:06:05 → 00:06:08 อาหารให้กับชาวชิกชิชาว Healthy Man

00:06:08 → 00:06:10 อย่างเงี้ครับอาจารย์ครับคามจริงแล้ว

00:06:10 → 00:06:12 เนี่ยร่างกายเราไม่สามารถที่จะขาดอะไร

00:06:13 → 00:06:15 อย่างหนึ่งได้อืเราต้องกินอาหารให้ครบ 5

00:06:15 → 00:06:18 หมู่ครับถ้าเรากินแต่ผักและผลไม้ไม่กิน

00:06:18 → 00:06:21 เนื้อสัตว์เลยร่างกายเราก็จะขาดสารอาหาร

00:06:21 → 00:06:24 พวกโปรตีนอหากเราไม่กินแป้งครับแล้วก็จะ

00:06:24 → 00:06:27 หาสารอาหารจำพวกคาร์โบไฮเดรตซึ่งทั้ง

00:06:27 → 00:06:29 คาร์โบไฮเดรตและโปรตีนเนี่ยมันเป็นแหล่ง

00:06:29 → 00:06:32 พลังงานสำพันธ์ของร่างกายครับเราต้องกิน

00:06:32 → 00:06:35 อาหารให้ครบ 5 หมู่อือนะออกกำลังกายให้

00:06:35 → 00:06:38 สม่ำเสมออืพัก่อนให้เพียงพอครับเียนน้ำ

00:06:38 → 00:06:42 ให้พอเหมาะอืถ้าทำได้ตามนี้แล้วเนี่ยครับ

00:06:42 → 00:06:44 สุขภาพเราก็จะดีเองอืเอาล่ะวันนี้รู้ความ

00:06:45 → 00:06:47 จริงแล้วขอขอบคุณอาจารย์มากครับขอบคุณมาก

00:06:47 → 00:06:49 ครับขอบคุณอาจารย์จีมากครับวันหลังผมมี

00:06:49 → 00:06:54 อะไรผมมาถามอีกนะครับ

00:06:54 → 00:07:02 อาจารย์ไฟฉลาดคิดวมีคำตอบปี 2 i