00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแก้ไขความเข้าใจ
00:00:03 → 00:00:08 ผิดเรื่องหนึ่งนะครับนั่นก็คือคนผอมน่าจะ
00:00:08 → 00:00:11 ไม่ได้เป็นโรคอะไรน่าจะไม่มีโรคต่างๆซึ่ง
00:00:11 → 00:00:14 มันเป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องนะครับแล้ว
00:00:14 → 00:00:17 วันนี้ผมจะอธิบายให้เราเข้าใจกันเลยว่าคน
00:00:17 → 00:00:21 ผอมนั้นก็มีโรคได้มากมายนะครับแล้วเราก็
00:00:21 → 00:00:24 จำเป็นจะต้องดูแลตัวเองเช่นกันนะครับพบ
00:00:24 → 00:00:26 กับผมนะครับนายแพทย์ธานีธานีวันนะครับ
00:00:26 → 00:00:27 เป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศสหรัฐ
00:00:27 → 00:00:30 อเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่ายปอดและ
00:00:30 → 00:00:34 วิกฤตบำบัดนะครับเรื่องของคนผอมนั้นหลายๆ
00:00:34 → 00:00:38 คนอาจจะไม่ค่อยคิดอะไรมากนะครับแต่คนส่วน
00:00:38 → 00:00:40 ใหญ่ในสังคมเนี่ยมักจะเห็นว่าเออถ้าเรา
00:00:40 → 00:00:44 เป็นคนอ้วนเราจะได้ยินว่าเขามีโรคความดัน
00:00:44 → 00:00:49 สูงไขมันเมื่อวานนะครับโรคข้อเข่าเสื่อม
00:00:49 → 00:00:54 นะครับมีโรคต่างๆมากมายนอนกรนอยู่หายใจใน
00:00:54 → 00:00:56 ขณะหลับนะครับเป็นโรคหัวใจโรคหลอดเลือด
00:00:56 → 00:00:59 สมองโรคปอดโรคอะไรก็แล้วแต่ก็มักจะมาครับ
00:01:00 → 00:01:03 โรคอ้วนทั้งนั้นนะครับแต่ไม่ได้หมายความ
00:01:03 → 00:01:06 ว่าคนผอมจะเป็นโรคเหล่านั้นไม่ได้นะครับ
00:01:06 → 00:01:10 คนผอมเป็นเบาหวานได้ไหมนะครับได้นะครับ
00:01:10 → 00:01:14 ส่วนใหญ่ที่เราเจอเนี่ยคนผอมๆนะครับบาง
00:01:14 → 00:01:17 ครั้งเนี่ยมันเป็นเบาหวานขึ้นมาได้และเบา
00:01:17 → 00:01:19 หวานที่คนผอมมักจะเป็นจะเป็นเบาหวานชนิด
00:01:19 → 00:01:23 ที่ 1 ซึ่งจำเป็นจะต้องใช้อินซูลินในการ
00:01:23 → 00:01:27 รักษามันหมายความว่าอะไรนะครับหมายความ
00:01:27 → 00:01:29 ว่าคนที่เขาผอมเนี่ยนะครับเขามีปัญหา
00:01:29 → 00:01:32 อย่างหนึ่งก็คือว่าร่างกายเนี่ยไม่สามารถ
00:01:32 → 00:01:35 สร้างอินซูลินได้เพียงพอในกรณีนี้ก็เลยทำ
00:01:35 → 00:01:38 ให้เกิดเป็นเบาหวานขึ้นมานะครับแต่บางคน
00:01:38 → 00:01:41 ก็อาจจะมีภาวะอื่นๆร่วมด้วยยกตัวอย่าง
00:01:41 → 00:01:45 เช่นว่าไม่สามารถที่จะนำคือเซลล์ของเรา
00:01:45 → 00:01:48 เนี่ยมันอาจจะมีการดื้ออินซูลินได้นะครับ
00:01:48 → 00:01:50 ในบางคนแต่พวกนั้นเนี่ยการดื้ออินซูลิน
00:01:50 → 00:01:53 มักจะเจอในคนที่อ้วนซะมากกว่าในคนที่ผอม
00:01:53 → 00:01:55 เนี่ยส่วนใหญ่แล้วมันเป็นเพราะว่าร่างกาย
00:01:55 → 00:01:59 ของเขาเนี่ยมีปัญหาไม่สามารถสร้าง
00:01:59 → 00:02:01 อินซูลินได้อาจเนื่องด้วยมีโรคประจำตัว
00:02:01 → 00:02:04 บางชนิดที่ไปทำลายเซลล์ที่สร้างอินซูลิน
00:02:04 → 00:02:06 ก็เลยทำให้เกิดเบาหวานขึ้นมาก็ได้นะครับ
00:02:06 → 00:02:09 โดยอาการพวกนี้นะครับไม่ได้แปลว่าคนผอม
00:02:09 → 00:02:11 ทุกคนจะต้องเป็นโรคนี้นะครับแต่อาการของ
00:02:11 → 00:02:15 คนผอมนะครับที่เริ่มเกิดเบาหวานเนี่ยมัน
00:02:15 → 00:02:18 เป็นอย่างนี้นะครับมาจากอันมีได้หลายๆ
00:02:18 → 00:02:21 อย่างยกตัวอย่างเช่นเราอาจจะหิวบ่อยนะ
00:02:21 → 00:02:24 ครับปัสสาวะบ่อยด้วยหิวน้ำก็บ่อยแล้ว
00:02:24 → 00:02:27 ปัสสาวะออกบางครั้งหนึ่งเนี่ยมันมันสีมัน
00:02:27 → 00:02:30 จางนะครับมันไม่ได้สีเข้มเลยสีจางเรากิน
00:02:30 → 00:02:33 น้ำบ่อยเราปัสสาวะก็บ่อย
00:02:33 → 00:02:35 แล้วนอนกลางคืนก็ปัสสาวะกลางคืนบ่อยๆ
00:02:35 → 00:02:37 เหมือนกันนะครับอันนี้ก็เป็นสิ่งที่เรา
00:02:37 → 00:02:40 เจออ่านอกเหนือจากนี้บางคนเนี่ยตอนที่
00:02:40 → 00:02:44 เริ่มเป็นเบาหวานใหม่ๆเนี่ยน้ำหนักลดควบ 5
00:02:44 → 00:02:48 เลยเออแปลกไหมนะครับน้ำหนักลดอย่างรวด
00:02:48 → 00:02:51 เร็วเลยนะครับแบบรถพวกๆๆเลยแล้วก็ผอมลง
00:02:51 → 00:02:54 ผอมลงแต่ว่ามีอาการอย่างที่ผมบอกก็คือ
00:02:54 → 00:02:56 ปัสสาวะเยอะมากเลยแล้วก็หิวน้ำบ่อยมาก
00:02:56 → 00:02:58 กลางคืนก็ปัสสาวะอันนี้ก็คือเป็นอาการ
00:02:58 → 00:03:01 หนึ่งของเบาหวานนะครับต้องรีบไปตรวจนะ
00:03:01 → 00:03:03 ครับไม่งั้นจะอันตรายได้นะฮะ
00:03:03 → 00:03:06 บางคนมีการเปลี่ยนของสายตานะครับจากอยู่ๆ
00:03:06 → 00:03:09 สายตาสั้นทำไมมันหายแล้วเราก็หลงดีใจว่า
00:03:09 → 00:03:12 เฮ้ยไม่เป็นอะไรไม่ใช่ครับนั่นก็เป็น
00:03:12 → 00:03:14 อาการหนึ่งของเบาหวานเช่นกันนะครับงั้น
00:03:14 → 00:03:17 พวกนี้ก็เป็นได้แล้วจะต้องรีบไปตรวจด้วย
00:03:17 → 00:03:20 นะครับถ้าคนไหนที่ปล่อยให้เป็นยาวๆนานๆ
00:03:20 → 00:03:22 เนี่ยมันจะมีภาวะแทรกซ้อนขึ้นมาจนถึง
00:03:22 → 00:03:24 ชีวิตได้เลยนะครับคือภาวะที่เราเรียกว่า
00:03:24 → 00:03:27 dibetic ketoxidosis นะครับก็คือเป็น
00:03:27 → 00:03:31 การเกิดเลือดมันเป็นกรดนะครับก็ต้องระวัง
00:03:31 → 00:03:34 นะครับเพราะฉะนั้นเบาหวานเป็นได้ไขมันสูง
00:03:34 → 00:03:38 เป็นได้ครับบางคนเนี่ยผอมนะครับผอมหุ่นดี
00:03:38 → 00:03:41 เลยแต่คอเลสเตอรอลตัว ldl เนี่ยขึ้นไป 200
00:03:41 → 00:03:46 กว่านะครับบางคน 300 ด้วยอ่านะครับพวกนี้
00:03:46 → 00:03:49 เนี่ยมันเป็นปัญหาทางกรรมพันธุ์นะครับทาง
00:03:49 → 00:03:50 พันธุกรรม
00:03:50 → 00:03:53 ทางพันธุกรรมเนี่ยไม่ได้แปลว่าพ่อแม่ของ
00:03:53 → 00:03:56 เราจะต้องเป็นเสมอนะครับบางทีการกลาย
00:03:56 → 00:03:58 พันธุ์ของยีนส์เนี่ยมันมาเกิดขึ้นตอนที่
00:03:58 → 00:04:02 เรากำลังอยู่ในในวัยตัวอ่อนนะครับมันเกิด
00:04:02 → 00:04:04 การการกระทำตรงนั้นแล้วมันก็เป็นปัญหา
00:04:04 → 00:04:06 เฉพาะเราอย่างเดียวแต่พ่อแม่เราเนี่ยไม่
00:04:06 → 00:04:09 เป็นอะไรนะครับมันเกิดแบบนั้นได้นะฮะแล้ว
00:04:09 → 00:04:12 ไขมันพวกนี้เนี่ยถ้าเราไม่ตรวจมันก็ไม่
00:04:12 → 00:04:15 รู้ครับมันไม่มีอาการอะไรเลยและเมื่อมัน
00:04:15 → 00:04:18 มีอาการขึ้นมาแล้วล่ะก็อันนั้นเนี่ยมักจะ
00:04:18 → 00:04:22 แย่ไปแล้วถามว่าอาการอะไรนะครับคือโรคโรค
00:04:22 → 00:04:26 นี้นะครับเราจะเรียกมันว่า Family Hybrid
00:04:26 → 00:04:28 collectrol Lumia นะครับ Family ก็คือ
00:04:28 → 00:04:30 มันอยู่ในครอบครัวนี้แหละ Hyper ก็คือ
00:04:30 → 00:04:33 เยอะคอเลสเตอรอลมีเมียก็คือมีเลือดที่มี
00:04:33 → 00:04:36 คอเลสเตอรอลสูงๆนะครับพวกนี้คือในในคุณ
00:04:36 → 00:04:39 พ่อคุณแม่บางคนก็มีนะครับในตัวคนไข้บางคน
00:04:39 → 00:04:41 ก็มีบางคนก็เป็นทั้งครอบครัวบางคนก็เป็น
00:04:41 → 00:04:44 เฉพาะตัวของคนไข้เอกแต่พ่อแม่ไม่ได้เป็น
00:04:44 → 00:04:48 อะไรนะครับภาวะนี้จะมีค่าคอเลสเตอรอล ldl
00:04:48 → 00:04:51 เนี่ยสูงมากๆเลยแล้วมันไม่มีอาการแต่ว่า
00:04:51 → 00:04:55 ไอ้ ldl ตัวนี้เนี่ยมันจะไปอุดตามหลอด
00:04:55 → 00:04:57 เลือดต่างๆนะครับทำให้เกิดปัญหายกตัว
00:04:57 → 00:05:00 อย่างเช่นถ้าไปอุดตันหลอดเลือดของหัวใจก็
00:05:00 → 00:05:02 จะเกิดโรคหัวใจขึ้นมานะครับหัวใจขาดเลือด
00:05:02 → 00:05:05 ถ้าเป็นอุดตันหลอดเลือดสมองก็หลอดเลือด
00:05:05 → 00:05:09 สมองตีบไปนะครับก็จะเป็น Stroke หรือเป็น
00:05:09 → 00:05:12 อัมพฤกษ์อัมพาตขึ้นมาได้นะครับนั่นก็คือ
00:05:12 → 00:05:13 ปัญหา
00:05:13 → 00:05:16 ของการที่มีไขมันในเลือดสูงนะครับแล้วมัน
00:05:16 → 00:05:18 จะรู้ได้ด้วยวิธีการไปตรวจเลือดเท่านั้น
00:05:18 → 00:05:21 นะครับส่วนใหญ่แล้วเนี่ยนะฮะผมก็แนะนำว่า
00:05:21 → 00:05:23 วัยรุ่นเนี่ยควรจะตรวจสักครั้งหนึ่งเพื่อ
00:05:23 → 00:05:26 ให้แน่ใจนะครับถ้าอายุ 20 เนี่ยก็สัก
00:05:26 → 00:05:28 ครั้งหนึ่งอย่างน้อยๆก็เป็นเป็นพื้นฐาน
00:05:28 → 00:05:30 ไว้ว่าเรามีหรือไม่มีโรคนี้ซ่อนอยู่เพราะ
00:05:30 → 00:05:34 ว่าถ้ามีเนี่ยต้องรีบรักษานะครับเออแล้ว
00:05:34 → 00:05:36 อีกอย่างหนึ่งโรค Family ผมอยากจะอธิบาย
00:05:36 → 00:05:40 เพิ่มนิดนึงนะครับคือผมเคยได้ยิน
00:05:40 → 00:05:43 influencer ท่านหนึ่งนะครับบอกว่าตัว ldl
00:05:43 → 00:05:45 เนี่ยมันมีตัวใหญ่กับตัวเล็กนะครับแล้ว
00:05:45 → 00:05:48 ถ้าเป็น ldl ตัวเล็กเนี่ยนะครับมันจะ
00:05:48 → 00:05:52 สามารถชอนชัยแทรกซ้อนเข้าเอ่อแทรกแซงเข้า
00:05:52 → 00:05:54 ไปในตัวของผนังหลอดเลือดได้ทำให้เกิดผนัง
00:05:54 → 00:05:56 หลอดเลือดอักเสบรอบสุดท้ายก็จะมีการปิด
00:05:56 → 00:05:59 ของผนังหลอดเลือดตัวนั้นทำให้ไอ้เลือดไหล
00:05:59 → 00:06:00 เวียนไม่สะดวกนะครับแต่ถ้าเป็น ldl ตัว
00:06:00 → 00:06:02 ใหญ่เนี่ยมันไม่ค่อยเป็นแบบนั้น
00:06:02 → 00:06:06 คำกล่าวนี้ไม่ถูกต้องนะครับ
00:06:06 → 00:06:09 บางคนบอกว่าเฮ้ยเราคอเลสเตอรอลสูงมากๆแต่
00:06:09 → 00:06:12 ของเรามันเป็นตัวใหญ่หมดเพราะว่าเรากิน
00:06:12 → 00:06:15 คีโตนะครับมันก็เลยไม่เป็นอะไรนะฮะไม่
00:06:15 → 00:06:18 เกิดอะไรขึ้นมาหรอกไม่ใช่ครับข้อพิสูจน์
00:06:18 → 00:06:20 เนี่ยชัดเจนที่สุดในโลก Family Store
00:06:20 → 00:06:23 เลยเมียคือคนเหล่านี้เนี่ยนะครับมี
00:06:24 → 00:06:26 คอเลสเตอรอลที่สูงมากมีค่า ldl ที่สูงมาก
00:06:26 → 00:06:28 แล้วเกือบทั้งหมดของ ldl ของเขาเป็นตัว
00:06:28 → 00:06:32 ใหญ่หมดเลยครับแต่เรารู้นะครับว่าคนที่
00:06:32 → 00:06:34 เป็น Family High เป็น collarena นั้นมี
00:06:34 → 00:06:37 โอกาสเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือด
00:06:37 → 00:06:41 สมองสูงกว่าคนทั่วๆไปมหาศาลเลยนะครับเออ
00:06:42 → 00:06:45 ถ้าเกิดว่า ldl ตัวใหญ่แล้วมันไม่เป็นโรค
00:06:45 → 00:06:46 พวกนั้นแล้วท่านจะอธิบายได้ยังไงว่าคน
00:06:46 → 00:06:49 เหล่านี้ทำไมมันถึงเป็นโรคพวกนี้มากกว่า
00:06:49 → 00:06:51 คนทั่วๆไปเออนะครับงั้น
00:06:51 → 00:06:54 ปกติเดี๋ยวนี้เนี่ยเราไม่ดูกันที่ตัวใหญ่
00:06:54 → 00:06:56 หรือตัวเล็กเราดูกันที่ปริมาณของ
00:06:56 → 00:07:00 คอเลสเตอรอลนะครับถ้า ldl เนี่ยมันสูงนะ
00:07:00 → 00:07:03 ครับยังไงก็ไม่ปลอดภัยนะครับต่อให้มัน
00:07:03 → 00:07:05 เป็นตัวใหญ่ตัวเล็กมันก็ไม่ปลอดภัยแต่ไอ้
00:07:05 → 00:07:07 ตัวใหญ่ตัวเล็กเนี่ยมันจะมีผลต่อการตัด
00:07:07 → 00:07:08 สินใจเมื่อ
00:07:08 → 00:07:12 คอเลสเตอรอลของท่านปกตินะครับอยู่ในเกณฑ์
00:07:12 → 00:07:14 ปกติหรือค่อนไปทางศูนย์แต่มันยังไม่สูง
00:07:14 → 00:07:19 ตรงนั้นเนี่ยเราสามารถตรวจขนาดของ ldl
00:07:19 → 00:07:23 หรือเราตรวจจำนวนอนุภาคเพื่อบอกว่าเรามี
00:07:23 → 00:07:25 โอกาสเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดแล้วหลอดเลือด
00:07:25 → 00:07:28 หัวใจเราหลอดเลือดสมองมากน้อยแค่ไหนเพื่อ
00:07:28 → 00:07:31 ผลในการดูแลของเรานะครับเช่นเราอาจจะ
00:07:31 → 00:07:35 คอเลสเตอรอลปกติแหละแต่เราไม่แน่ใจเราขอ
00:07:35 → 00:07:37 ไปตรวจเพิ่มเติมได้ไหมขอตรวจว่าเรามี
00:07:37 → 00:07:40 particle หรืออนุภาคของคอเลสเตอรอล ldl
00:07:40 → 00:07:42 เนี่ยมันกี่ตัวนะครับหรือเราไปตรวจขนาด
00:07:42 → 00:07:44 ของอนุภาคว่ามีเยอะเหมือนกันเนาะมันใหญ่
00:07:44 → 00:07:46 มันเล็กนะครับถ้าของเราเฮ้ยมันเป็นตัว
00:07:46 → 00:07:49 เล็กหมดเลยฮะต่อให้เราคอเลสเตอรอลสูงตรง
00:07:49 → 00:07:50 นั้นเนี่ยท่านควรจะปรับเปลี่ยนวิธีการใช้
00:07:50 → 00:07:52 ชีวิตเช่นไปออกกำลังกายเรื่อยๆเพื่อให้
00:07:52 → 00:07:55 มันหายไปเพื่อลดระดับลงไปอะไรอย่างเงี้ย
00:07:55 → 00:07:57 นะครับหรือบางคนถ้ามีโรคหัวใจอยู่ใน
00:07:57 → 00:07:59 ครอบครัวเยอะๆเช่นคุณพ่อคุณแม่เนี่ยโอ้โห
00:07:59 → 00:08:03 อายุ 40-50 ก็โรคหัวใจมาและจะถามหาพวกนี้
00:08:03 → 00:08:05 เนี่ยอาจจะถึงขั้นทานยาเลยก็ได้นะครับถ้า
00:08:05 → 00:08:08 ท่านไม่สามารถเอามาลงมาได้นะครับตรงนี้ก็
00:08:08 → 00:08:10 เป็นสิ่งหนึ่งซึ่งอยากจะชี้แจงให้เข้าใจ
00:08:10 → 00:08:12 นะครับเรื่องของไขมันสูงเจอในคนที่ผอมได้
00:08:12 → 00:08:15 แล้วก็ไม่ได้แปลว่ามันปลอดภัยนะครับมัน
00:08:15 → 00:08:19 ไม่มีอาการจนกว่าท่านจะแย่ไปแล้วนะครับก็
00:08:19 → 00:08:21 คือมีโรคหลอดเลือดแทรกซ้อนไปเรียบร้อย
00:08:21 → 00:08:23 แล้วนะครับอ่า
00:08:23 → 00:08:26 ต่อมาโรคความดันโลหิตสูงคนผอมเป็นไปไม่
00:08:26 → 00:08:28 ได้ไม่ใช่ครับคนผอมก็เป็นโรคความดันโลหิต
00:08:28 → 00:08:30 สูงได้ครับอันนี้เจอได้เรื่อยๆเลยนะครับ
00:08:30 → 00:08:34 ถ้าเกิดว่ายังไงเนี่ยก็ต้องมีการวัดความ
00:08:34 → 00:08:37 ดันตัวเองอย่างสม่ำเสมอนะครับถ้าไม่เคย
00:08:37 → 00:08:39 วัดมาก่อนช่วงวัยรุ่นแน่ๆก็คือควรจะต้อง
00:08:39 → 00:08:42 ไปวัดนะครับเราจะได้รู้ว่ามันสูงแค่ไหน
00:08:42 → 00:08:44 ตรวจประจำปีไปเลยนะครับเพราะว่าถ้าเรา
00:08:44 → 00:08:46 ปล่อยจนกระทั่งมันเกิดอาการขึ้นมาแล้ว
00:08:46 → 00:08:48 เนี่ยอันนั้นจะแย่แล้วเพราะว่าบางคนเนี่ย
00:08:48 → 00:08:51 คงเข้าใจผิดอยู่ว่าความดันโลหิตสูงอาการ
00:08:51 → 00:08:55 ก็คืออาการปวดหัวไม่ใช่ครับถ้ามันปวดหัว
00:08:55 → 00:08:57 เพราะว่าความดันสูงนะแปลว่าความดันของ
00:08:57 → 00:08:59 ท่านสูงมากๆแล้วมันสูงมานานแล้วด้วยนะ
00:08:59 → 00:09:02 ครับแล้วก่อนที่มันจะสูงถึงระดับนั้น
00:09:02 → 00:09:05 เนี่ยท่านอาจจะมีปัญหาเช่นหัวใจของท่าน
00:09:05 → 00:09:08 มันโตไปแล้วนะครับไตของท่านเริ่มเสื่อมละ
00:09:08 → 00:09:10 นะครับอย่างนี้เป็นต้นหลอดเลือดของท่านก็
00:09:10 → 00:09:12 เริ่มไม่ดีแล้วดังนั้นเนี่ยเราควรจะต้อง
00:09:12 → 00:09:14 ป้องกันความกำลังจะสูงเนี่ยส่วนใหญ่แล้ว
00:09:14 → 00:09:18 ไม่มีอาการอะไรทั้งสิ้นเลยไม่มีเลยนะครับ
00:09:18 → 00:09:20 ถ้ามันมีก็แปลว่าแย่ไปแล้วนะครับ
00:09:20 → 00:09:23 แล้วพอมันแยกไปแล้วการกลับมาทำให้มันกลับ
00:09:23 → 00:09:26 เป็นเหมือนเดิมเนี่ยมันไม่ได้ทำได้เสมอไป
00:09:26 → 00:09:28 นะครับทำได้บางกรณีบางกรณีคือทำไม่ได้เลย
00:09:28 → 00:09:32 นะครับงั้นก็คือจะต้องมีการตรวจวัดสม่ำ
00:09:32 → 00:09:34 เสมออย่างน้อยก็ปีละครั้งนะครับคนผอม
00:09:34 → 00:09:37 สามารถเป็นโรคความดันโลหิตสูงได้นะครับ
00:09:37 → 00:09:40 คุณผอมสามารถนอนกรนดูดหายใจในขณะหลับได้
00:09:40 → 00:09:43 ไหมได้ครับบางคนคิดว่าจะต้องอ้วนๆเท่า
00:09:43 → 00:09:45 นั้นถึงจะมีการนอนกรนแล้วก็หยุดหายใจใน
00:09:45 → 00:09:47 ขณะหลับแต่ผมคิดว่าต้องมีหลายคนแหละครับ
00:09:47 → 00:09:50 ที่เคยไปเที่ยวแล้วก็ค้างคืนกับเพื่อนและ
00:09:50 → 00:09:52 เห็นว่าไอ้เพื่อนคนผอมเนี่ยมานอนกรนเหลือ
00:09:52 → 00:09:55 เกินแล้วนะครับหลายๆคนก็อาจจะมีความรู้
00:09:55 → 00:09:57 สึกเฮ้ยมันมีอย่างนั้นจริงๆนะครับเหตุผล
00:09:57 → 00:10:00 ที่คนผอมเนี่ยนอนกรนแล้วก็มีการหยุดหายใจ
00:10:00 → 00:10:04 ในขณะหลับได้เนี่ยมันคือคนเอเชียเนี่ยมี
00:10:04 → 00:10:07 รูปหน้าหรือโครงกระดูกของหน้าเนี่ยแตก
00:10:07 → 00:10:10 ต่างจากคนยุโรปหรือคน closion นะครับก็
00:10:10 → 00:10:13 ระบบของคนเอเชียหรือก็รูปหน้าแล้วก็ช่อง
00:10:13 → 00:10:15 ขอบของคนเอเชียเนี่ยมันจะแคบกว่านะครับทำ
00:10:15 → 00:10:18 ให้มีโอกาสที่จะเกิดการอุดตันได้จากลิ้น
00:10:18 → 00:10:20 เวลาที่เรานอนนี่แหละครับเรานอนปุ๊บลิ้น
00:10:20 → 00:10:22 มันตกลงไปข้างหลังไปอุดทางเดินหายใจของ
00:10:22 → 00:10:25 เราก็ทำให้เรามีการนอนกรนถ้ามันอุดยังไม่
00:10:25 → 00:10:27 สนิทเนี่ยลมเข้าไปได้ลมเข้าไปปุ๊บมันก็จะ
00:10:27 → 00:10:30 มีเสียงเหมือนเสียงกรดนะครับแต่ถ้ามันอุด
00:10:30 → 00:10:33 สนิทเลยอันนั้นก็มีลมเข้าออกมันก็จะไม่
00:10:33 → 00:10:36 เกิดเสียงมันก็จะเป็นการหยุดหายใจในขณะ
00:10:36 → 00:10:39 หลับไปแล้วพวกนี้ถ้าเราไม่แก้ไขจะเกิด
00:10:39 → 00:10:42 อะไรขึ้นโรคต่างๆถามหาเลยครับท่านก็จะรู้
00:10:42 → 00:10:46 สึกว่าตอนเช้าแล้วมานอนไม่พอนะครับตื่นมา
00:10:46 → 00:10:49 ก็ปวดหัวบางคนไม่เป็นแบบนี้ก็มีไม่มี
00:10:49 → 00:10:52 สมาธิในช่วงระหว่างวันหงุดหงิดง่ายนะครับ
00:10:52 → 00:10:55 แล้วปล่อยไว้นานๆโรคอ้วนก็จะเริ่มตามมา
00:10:55 → 00:10:58 แล้วครับโรคเบาหวานโรคความดันพวกนี้ก็จะ
00:10:58 → 00:11:00 คมได้คุมได้ยากขึ้นบางคนที่มีโรคหัวใจ
00:11:00 → 00:11:03 หรือโรคหลอดเลือดสมองอยู่แล้วมันก็จะคุม
00:11:03 → 00:11:05 ไม่ค่อยได้นะครับเพราะฉะนั้นพวกนี้เป็น
00:11:05 → 00:11:08 เบาะเกิดของทุกอย่างถ้าเราไม่เคยตรวจเรา
00:11:08 → 00:11:10 ก็ควรจะไปตรวจโดยเฉพาะคนไหนที่นอนกรนต่อ
00:11:10 → 00:11:12 ให้เราผอมก็ตามก็ต้องไปตรวจนะครับเพราะ
00:11:12 → 00:11:15 ว่ามันรักษาได้เราก็จะป้องกันปัญหาต่างๆ
00:11:15 → 00:11:18 ในอนาคตได้นะครับนอกเหนือจากนี้พวกข้อ
00:11:18 → 00:11:21 เสื่อมต่างๆคนผอมเป็นได้ไหมได้ครับแต่
00:11:21 → 00:11:23 โอกาสมันจะน้อยกว่าในคนอ้วนเพราะว่าข้อ
00:11:23 → 00:11:25 เสื่อมเนี่ยมันเกิดจากการที่มีน้ำหนักลง
00:11:25 → 00:11:28 ไปบริเวณข้อนั้นเยอะๆแล้วก็มีการใช้ข้อ
00:11:28 → 00:11:31 ที่มันไม่ถูกต้องที่ผิดหรือมีการบาดเจ็บ
00:11:31 → 00:11:33 ซ้ำๆอยู่เรื่อยๆโดยที่เราอาจจะไม่รู้ตัว
00:11:33 → 00:11:36 อ่าอย่างนี้เป็นต้นนะครับก็ขึ้นอยู่กับ
00:11:36 → 00:11:39 ท่าทางของท่านด้วยถ้าท่านเดินแล้วมันหลัง
00:11:39 → 00:11:41 งุ้มอย่างนี้อยู่เรื่อยๆก็จะมีการปวดหลัง
00:11:42 → 00:11:45 ได้ปวดคอได้ดังนั้นคนผอมเนี่ยบางคนก็จะมี
00:11:45 → 00:11:48 การปวดคอปวดหลังปวดกระดูกได้เหมือนกันนะ
00:11:48 → 00:11:49 ครับ
00:11:49 → 00:11:53 แล้วผอมในอนาคตเป็นโรคอะไรได้อีก
00:11:53 → 00:11:56 คนผอมเนี่ยจะเป็นโรคกระดูกพรุนได้ง่าย
00:11:56 → 00:11:58 กว่าคนอ้วนนะครับ
00:11:58 → 00:12:01 ทำไมถึงเป็นเช่นนั้นนะครับคือสาเหตุหนึ่ง
00:12:01 → 00:12:04 เนี่ยเขาเชื่อว่าการที่มีน้ำหนักเนี่ยไป
00:12:04 → 00:12:06 กดลงบนกระดูกอยู่เรื่อยๆมันเป็นการ
00:12:06 → 00:12:08 กระตุ้นทำให้กระดูกมันมีการพัฒนาแล้วก็
00:12:08 → 00:12:10 สร้างตัวให้มันหนามากขึ้นนะครับแล้วก็
00:12:10 → 00:12:13 ความอ้วนเนี่ยนะครับตัวไขมันมันก็จะมีการ
00:12:13 → 00:12:15 สร้างฮอร์โมนพวกเอสโตรเจนพวกอะไรพวกนี้
00:12:15 → 00:12:17 เข้ามาช่วยเรื่องของกระดูกได้บ้างนะครับ
00:12:17 → 00:12:20 แต่ในคนที่ผ่อนๆเนี่ยมันไม่มีของพวกนี้นะ
00:12:20 → 00:12:23 ครับก็โอกาสจะเกิดโรคกระดูกพรุนเนี่ยจะ
00:12:23 → 00:12:25 สูงกว่าคนอ้วนก็ต้องดูแลตัวเองดีๆนะครับ
00:12:25 → 00:12:27 ถ้าเราออกกำลังกายสม่ำเสมอแข็งแรงพวกนี้
00:12:27 → 00:12:30 ก็เป็นการหลีกเลี่ยงการเกิดโรคกระดูกพรุน
00:12:30 → 00:12:30 ใน
00:12:30 → 00:12:34 ในตัวท่านได้นะครับดังนั้นพวกนี้ก็จำเป็น
00:12:34 → 00:12:36 จะต้องไปดูแลตัวเองนะครับงั้นเราจะเห็น
00:12:36 → 00:12:40 ว่ามีหลายโรคนะครับที่เราเคยเข้าใจมาก่อน
00:12:40 → 00:12:42 ว่ามันเกิดกับคนอ้วนเท่านั้นไม่ใช่ต่อไป
00:12:42 → 00:12:44 แล้วนะครับคนผอมก็เกิดได้นะครับไม่ว่าจะ
00:12:44 → 00:12:48 เป็นโรคไขมันสูงเบาหวานความดันนะครับโรค
00:12:48 → 00:12:51 ข้อโรคกระดูกพรุนต่างๆพวกนี้มันเกิดขึ้น
00:12:51 → 00:12:54 ได้โรคหยุดหายใจในขณะหลับการนอนกรนเกิด
00:12:54 → 00:12:57 ได้หมดเลยนะครับเพราะฉะนั้นอยากจะให้ทุกๆ
00:12:57 → 00:13:01 คนเนี่ยที่คิดว่าตัวเองรู้สึกปกติดีก็ไป
00:13:01 → 00:13:03 ตรวจดีกว่าครับไปตรวจจะได้รู้ว่ามันปกติ
00:13:03 → 00:13:06 แน่ๆหรือเปล่าตรวจเลือดตรวจความดันตรวจ
00:13:06 → 00:13:08 อะไรพวกนี้ให้เรียบร้อยนะครับเราจะได้รู้
00:13:08 → 00:13:11 แล้วก็ตรวจประจำปีไปเรื่อยๆนะครับเราเจอ
00:13:11 → 00:13:14 ปัญหาก่อนมันดีกว่าเราไปเจอเอาทีหลังตอน
00:13:14 → 00:13:16 ที่เราแย่ไปแล้วระหว่างที่จะมาแก้ไขมัน
00:13:16 → 00:13:18 แก้ไม่ได้แล้วนะครับบางคนเสียแล้วเสียเลย
00:13:18 → 00:13:21 บางคนโชคดีที่ยังพอแก้ได้แต่มันก็อย่าไป
00:13:21 → 00:13:23 แก้มันจะดีกว่าครับไม่ต้องกันมันไว้ตั้ง
00:13:23 → 00:13:25 แต่ก่อนที่มันจะเป็นนะครับโอเควันนี้ก็
00:13:25 → 00:13:27 สั้นๆง่ายๆเท่านี้นะครับใครมีอะไรสงสัยก็
00:13:27 → 00:13:29 สอบถามมาได้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
00:13:29 → 00:13:31 ครับ