00:00:00 → 00:00:03 ขอต้อนรับสู่หมอ
00:00:03 → 00:00:08 พัทรพสุขภาพลึกและฟรีมีที่นี่สวัสดีครับ
00:00:08 → 00:00:10 ยินดีต้อนรับสู่การเจาะลึกข้อมูลกันอีก
00:00:10 → 00:00:13 ครั้งนะครับวันนี้เราจะมาคุยเรื่องที่
00:00:13 → 00:00:15 เอ่อหลายคนอาจจะคุ้นเคยแต่ก็อาจจะยังเข้า
00:00:15 → 00:00:18 ใจไม่ครบถ้วนนั่นก็คือเรื่อง LDL
00:00:18 → 00:00:22 คอเลสเตอรอลค่ะสวัสดีค่ะปกติเวลาเราเห็น
00:00:22 → 00:00:24 ผลตรวจสุขภาพเนี่ยเราก็จะเห็นแค่ค่า LDL
00:00:24 → 00:00:26 เป็นตัวเลขณวันนั้นเลยใช่มั้ครับแบบ
00:00:26 → 00:00:29 Snapsot ใช่ค่ะเหมือนถ่ายรูปแปะไว้แต่
00:00:29 → 00:00:31 แหล่งข้อมูลที่เราดูกันวันเนี้ยเขาเสนอ
00:00:32 → 00:00:35 ให้มองต่างไปนิดนึงคือมองให้มันเป็นพลวัต
00:00:35 → 00:00:39 เอ่อไดนามินะครับว่าสูงแค่ช่วงสั้นๆอาจจะ
00:00:39 → 00:00:42 โอเคแต่ถ้ามันสูงค้างนานๆอันนี้น่าจะต้อง
00:00:42 → 00:00:45 มาดูกันอืใช่เลยค่ะวันนี้เราจะมาลงลึก
00:00:45 → 00:00:48 เรื่อง LDL แล้วก็ค่าที่เกี่ยวข้องกัน
00:00:48 → 00:00:51 อย่าง AOB ด้วยโดยเฉพาะเลยนะคะในกลุ่มคน
00:00:51 → 00:00:54 ที่ทานแนวเอ่อโลคาบหรือคีโตเนี่ยข้อมูล
00:00:54 → 00:00:58 น่าสนใจมากครับเราจะมาดู 3 ขั้นตอนสำคัญ
00:00:58 → 00:01:01 ที่แหล่งข้อมูลเพูดถึงคือการสร้าง LDL
00:01:01 → 00:01:04 ขึ้นมาการเดินทางของมันในเลือดแล้วก็การ
00:01:04 → 00:01:06 ที่ร่างกายเอากลับไปกำจัดเป้าหมายคือ
00:01:06 → 00:01:09 เพื่อให้เข้าใจจริงๆเนาะว่าทำไมมันสูง
00:01:09 → 00:01:11 แล้วปัจจัยเสี่ยงจริงๆมันคืออะไรกันแน่
00:01:11 → 00:01:14 ไม่ใช่แค่เห็นเลขสูงแล้วตกใจหรือเห็นเลข
00:01:14 → 00:01:17 สูงแล้วบอกว่าดีเสมอไปถูกต้องค่ะทำความ
00:01:17 → 00:01:20 เข้าใจไม่ใช่แค่กลัวหรือด่วนสรุปไปทางใด
00:01:20 → 00:01:23 ทางหนึ่งโอเคค่ะงั้นเริ่มเลยมั้ยคะ
00:01:23 → 00:01:26 ประเด็นแรกที่ว่า LDL มันไม่ใช่ค่าตายตัว
00:01:26 → 00:01:29 ต้องมองเป็นพลวัตแล้วก็ระยะเวลาที่มัน
00:01:29 → 00:01:32 อยู่ในร่างกายนานแค่ไหนสำคัญกว่าแค่ค่า
00:01:32 → 00:01:35 สูงต่ำณตอนนั้นแหล่งข้อมูลเขาใช้คำว่า
00:01:35 → 00:01:39 เกิดขึ้นตั้งอยู่ดับไปน่าสนใจดีครับครับ
00:01:39 → 00:01:41 มาดู 3 ขั้นตอนนี้นะครับที่มันกระทบระดับ
00:01:41 → 00:01:44 LDL A ProB แล้วก็ความเสี่ยงด้วยขั้น
00:01:45 → 00:01:48 แรกเลยเกิดขึ้นหรือว่าการผลิตส่วนใหญ่ก็
00:01:48 → 00:01:52 ที่ตับครับที่ตับค่ะค่ะเกิดจากว่ามีพลัง
00:01:52 → 00:01:54 งานในรูปไขมันโดยเฉพาะตัวไตรกรซอไรด์หรือ
00:01:54 → 00:01:57 TG เนี่ยมากเกินไปที่ตับอาจจะเพราะกิน
00:01:58 → 00:02:01 เยอะไปกินผิดประเภทหรือแม้แต่ตอนที่ร่าง
00:02:01 → 00:02:03 กายเราสลายไขมันเก่าออกมาใช้เยอะๆก็ตาม
00:02:03 → 00:02:07 ครับพอ TG มันเยอะตับก็เลยต้องเอ่อสร้าง
00:02:07 → 00:02:11 VLDL ออกมา VLDL นี้เหมือนเรือขนส่งไข
00:02:11 → 00:02:14 มันครับพอมันสร้างออกมาเยอะ LDL ที่เป็น
00:02:14 → 00:02:17 ผลพ่วงต่อมามันก็จะเยอะตามไปด้วยอ๋อเข้า
00:02:18 → 00:02:21 ใจแล้วครับคือต้นทางมาจากพลังงานไขมันที่
00:02:21 → 00:02:24 ตับเยอะไปตับเลยสร้างเรือ VLDL ออกมาเยอะ
00:02:24 → 00:02:28 แล้วมันก็กลายเป็น LDL เยอะตามมาโอเคครับ
00:02:28 → 00:02:31 แล้วขั้นตอนตั้งอยู่ล่ะครับตอนที่มันลอย
00:02:31 → 00:02:33 อยู่ในเลือดเนี่ยอะไรทำให้มันค้างอยู่นาน
00:02:33 → 00:02:37 ขึ้นครับอันนี้สำคัญมากเลยค่ะคือระยะเวลา
00:02:37 → 00:02:40 ที่ LDL มันลอยอยู่ในเลือดหรือที่เขา
00:02:40 → 00:02:43 เรียกว่า Plasma Residence Time PRT
00:02:43 → 00:02:45 เนี่ยแหละค่ะที่มันสัมพันธ์กับความเสี่ยง
00:02:45 → 00:02:49 โดยตรงเลย PRT ยิ่งนานยิ่งเสี่ยงประมาณ
00:02:49 → 00:02:51 นั้นค่ะปัจจัยที่ทำให้มันอยู่นานขึ้นก็
00:02:51 → 00:02:55 เช่นเอ่อถ้า LDL มันมีขนาดเล็กแล้วก็แน่น
00:02:55 → 00:02:57 ๆที่เรียกว่า small dense LDL L หรือ
00:02:57 → 00:03:00 Type B เนี่ยมันจะเคลื่อนที่ช้ากว่า
00:03:00 → 00:03:02 แล้วก็มีแนวโน้มจะมุดเข้าผนังหลอดเลือด
00:03:03 → 00:03:06 ได้ง่ายขึ้นครับหรือถ้าในร่างกายมีภาวะ
00:03:06 → 00:03:09 อักเสบเรื้อรังอยู่เช่นจากดื้ออินซูลเลน
00:03:09 → 00:03:13 เบาหวานหรืออาจจะสารพิษอะไรต่างๆมันก็อาจ
00:03:13 → 00:03:15 จะทำให้ LDL ที่เข้าไปในผนังหลอดเลือด
00:03:15 → 00:03:18 แล้วออกมาได้ยากขึ้นเหมือนติดกลับอยู่
00:03:18 → 00:03:21 อย่างนั้นอ๋อการอักเสบก็เกี่ยวด้วยเกี่ยว
00:03:21 → 00:03:24 มากๆค่ะแล้วก็อีกอย่างคือการวัดค่า Apple
00:03:24 → 00:03:27 B อันนี้จะช่วยบอกจำนวนอนุภาคค่าของ LDL
00:03:27 → 00:03:31 ทั้งหมดเลยถ้าจำนวนอนุภาคเยอะแล้วแต่ละ
00:03:31 → 00:03:34 ตัวก็อยู่นานด้วยแบบนี้ความเสี่ยงก็ยิ่ง
00:03:34 → 00:03:36 เพิ่มขึ้นไปอีกเข้าใจแล้วครับคือทั้ง
00:03:36 → 00:03:39 จำนวนอนุภาค Apple B และระยะเวลาที่มัน
00:03:39 → 00:03:43 อยู่ PRT นี่คือหัวใจสำคัญเลยแล้วขั้นตอน
00:03:43 → 00:03:47 สุดท้ายครับดับไปหรือการเก็บกลับค่ะขั้น
00:03:47 → 00:03:49 ตอนนี้คือการที่ตับเนี่ยดึงเอา LDL กลับ
00:03:50 → 00:03:53 ไปกำจัดทิ้งโดยใช้ตัวรับบนผิวเซลล์ตับที่
00:03:53 → 00:03:57 ชื่อว่า LDL Receptor ตัวรับ LDL ใช่ค่ะ
00:03:57 → 00:03:59 ถ้าตัวรับเนี้ยทำงานได้ไม่ดีหรือมีจำนวน
00:03:59 → 00:04:03 น้อยลงการจะดึง LDL กลับไปทำลายที่ตับมัน
00:04:03 → 00:04:06 ก็จะช้าลง LDL ก็เลยค้างอยู่ในระบบนาน
00:04:06 → 00:04:10 ขึ้นไปอีกสรุปคือวงจรทั้งหมดเลยตั้งแต่
00:04:10 → 00:04:13 ผลิตเยอะไปหรือระหว่างทางมีปัญหาติดขัด
00:04:13 → 00:04:16 หรือปลายทางเก็บกลับได้ไม่ดีล้วนทำให้ LDL
00:04:16 → 00:04:19 มันอยู่ในเลือดนานขึ้น PRT สูงแล้วก็
00:04:19 → 00:04:21 เพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดหัวใจหรือ
00:04:21 → 00:04:24 ASCVD ถูกต้องค่ะต้องมองให้ครบทั้งวงจร
00:04:24 → 00:04:27 เลยไม่ใช่แค่จุดใส่จุดหนึ่งชัดเจนขึ้น
00:04:27 → 00:04:30 เยอะเลยครับทีนี้มาถึงคำถามที่หลายคน
00:04:30 → 00:04:34 สงสัยโดยเฉพาะชาวโลคาบหรือคีโตทำไมบางคน
00:04:34 → 00:04:39 ทานแบบนี้แล้วเอ๊ะ LDL มันสูงขึ้นล่ะครับ
00:04:39 → 00:04:41 แหล่งข้อมูลเขาบอกว่าช่วงแรกๆที่ปรับตัว
00:04:41 → 00:04:44 เนี่ยร่างกายเปลี่ยนมาใช้ไขมันเป็นหลักก็
00:04:44 → 00:04:48 อาจจะมีการสร้าง VLDL เพื่อขนส่งไขมันมาก
00:04:48 → 00:04:51 ขึ้นอันนี้ปกติใช่มั้ยครับอืมใช่ค่ะช่วง
00:04:51 → 00:04:54 แรกๆของการปรับตัวอาจจะเป็นแบบนั้นได้คือ
00:04:54 → 00:04:57 ร่างกายต้องขนส่งไขมันที่สลายออกมาหรือ
00:04:57 → 00:05:01 ที่เรากินเข้าไปมากขึ้นครับแต่กับดักที่
00:05:01 → 00:05:04 ข้อมูลนี้เขาชี้ไว้ก็คือว่าบางทีเราอาจจะ
00:05:04 → 00:05:07 ด่วนสรุปไปว่าอ๋อสูงแบบนี้ปกติไม่เป็นไร
00:05:07 → 00:05:11 สำหรับชาวคีโตชาวโลคาบอือฮึแต่จริงๆแล้ว
00:05:11 → 00:05:14 ความผิดปกติที่ทำให้ LDL สูงค้างเนี่ยมัน
00:05:14 → 00:05:17 ก็เกิดขึ้นได้แม้ว่าจะทานโลคาบนะคะอ้าว
00:05:17 → 00:05:19 ยังไงครับก็เช่นข้อแรกเลยคือเรื่องการ
00:05:19 → 00:05:22 ผลิตแม้ว่าเราจะลดคาร์โบไฮเดรตลดแป้งน้ำ
00:05:22 → 00:05:25 ตาลไปแล้วแต่ถ้าเรายังกินไขมันบางชนิด
00:05:25 → 00:05:28 หรือโปรตีนบางอย่างมากเกินไปหรือผิด
00:05:28 → 00:05:31 ประเภทมันก็อาจจะยังทำให้ TG ที่ตับสูง
00:05:31 → 00:05:35 อยู่ดีอ๋อถึงลดขาบแต่ถ้ากินไขมันผิดก็ยัง
00:05:35 → 00:05:38 สร้างเยอะอยู่ดีใช่ค่ะตับก็ยังคงสร้าง
00:05:38 → 00:05:42 VLDL VLDL ออกมาเยอะอยู่ดีหรือข้อ 2
00:05:42 → 00:05:45 คือเรื่องการเก็บกลับการที่เราจำกัดาฟนาน
00:05:45 → 00:05:48 มากๆหรือกินไม่สมดุลบางอย่างจนฮอร์โมนใน
00:05:48 → 00:05:50 ร่างกายมันเริ่มรวนเนี่ยมันก็อาจจะส่งผล
00:05:50 → 00:05:53 เสียต่อการทำงานของ LDL receptปตอรที่ตับ
00:05:53 → 00:05:56 ได้เหมือนกันทำให้ตับเก็บ LDL กลับได้แย่
00:05:56 → 00:05:59 ลงค่ะทำให้เก็บกลับได้น้อยลงแม้ว่าบางที
00:05:59 → 00:06:02 อาจจะมีข้อดีๆเกิดขึ้นเช่น LDL อาจจะมี
00:06:02 → 00:06:05 ขนาดใหญ่ขึ้นหรือการอักเสบในร่างกายลดลง
00:06:05 → 00:06:07 ก็ตามแต่เรื่องการเก็บกลับก็อาจจะมีปัญหา
00:06:07 → 00:06:11 ได้อยู่ดีโหแสดงว่าไม่ใช่แค่กินโลขาบแล้ว
00:06:11 → 00:06:15 จะโอเคเสมอไปแต่วิธีการกินให้ถูกต้องให้
00:06:15 → 00:06:18 สมดุลเนี่ยสำคัญมากจริงๆสำคัญมากๆค่ะ
00:06:18 → 00:06:20 แหล่งข้อมูลเขาย้ำเลยสรุปแล้วเนี่ยแหล่ง
00:06:21 → 00:06:22 ข้อมูลนี้เขาไม่ได้บอกให้เราแบบว่าเอ๊ะ
00:06:22 → 00:06:24 ไม่ต้องสนใจ LDL Air Prob แล้วนะแต่
00:06:24 → 00:06:27 เค้าเน้นให้เราเข้าใจความเชื่อมโยงกับ
00:06:27 → 00:06:30 ความเสี่ยง ASCVD ให้รอบด้านมากขึ้นทั้ง
00:06:30 → 00:06:32 มุมมองเดิมๆแล้วก็มุมมองใหม่ๆโดยเฉพาะ
00:06:32 → 00:06:36 เรื่องเอ่อระยะเวลาที่มันค้างอยู่ในเลือด
00:06:36 → 00:06:38 เนี่ยถูกต้องเลยค่ะต้องมองอย่างเข้าใจไม่
00:06:38 → 00:06:40 ใช่สุดต่งไปทางใดทางหนึ่งเลยความรู้ตอน
00:06:40 → 00:06:42 นี้มันยังเป็นเหมือนพื้นที่สีเทาๆนะคะ
00:06:42 → 00:06:46 ต้องใช้วิจารณญาณเยอะๆครับทางแก้ที่ยั่ง
00:06:46 → 00:06:49 ยืนจริงๆคือแก้ที่ต้นเหตุต้นเหตุค่ะคือ
00:06:49 → 00:06:52 ปากปากของเรานี่แหละการปรับการกินให้มัน
00:06:52 → 00:06:55 ถูกต้องเหมาะสมเพื่อควบคุมทั้งฝั่งการ
00:06:55 → 00:06:58 ผลิตไม่ให้มันมากเกินไปแล้วก็ส่งเสริม
00:06:58 → 00:07:01 ฝั่งการเก็บกลับให้มันมีประสิทธิภาพด้วย
00:07:01 → 00:07:03 ไม่ใช่ไปแก้ปลายเหตุด้วยการหาอาหารเสริม
00:07:03 → 00:07:06 หรือยามากินอย่างเดียวใช่ค่ะเพราะแบบนั้น
00:07:06 → 00:07:09 มันอาจจะไม่ได้แก้ทั้งระบบจริงๆแม้ว่าคน
00:07:09 → 00:07:11 ที่ร่างกายปรับตัวใช้ไขมันได้เก่งๆแล้ว
00:07:11 → 00:07:14 หรือ fat adดaptedเนี่ยอาจจะมีข้อได้
00:07:14 → 00:07:16 เปรียบเรื่องการอักเสบที่ต่ำกว่าซึ่งอาจ
00:07:16 → 00:07:19 จะช่วยยืดเวลาความเสี่ยงออกไปได้บ้างแต่
00:07:19 → 00:07:21 ก็ยังต้องระวังอยู่ดีก็ยังต้องติดตามผลใน
00:07:22 → 00:07:25 ระยะยาวอยู่ดีค่ะอือคือไม่ควรวางใจจากขู
00:07:25 → 00:07:28 แค่แบบปี 2 ปีหรือ 5 ปี 10 ปีซึ่งมันอาจ
00:07:28 → 00:07:31 จะยังบอกอะไรได้ไม่ทั้งหมดจริงๆสำหรับผล
00:07:31 → 00:07:34 ระยะยาวมากๆชัดเจนเลยครับต้องมอง LDL
00:07:34 → 00:07:37 เป็นพลวัตจริงๆให้ความสำคัญกับระยะเวลา
00:07:37 → 00:07:40 ที่มันสูงค้างโดยเฉพาะถ้ามันนานๆแม้ว่าจะ
00:07:40 → 00:07:44 ทันโลข่าวก็ตามแล้วหัวใจสำคัญก็คือการ
00:07:44 → 00:07:47 ปรับการกินที่ต้นเหตุนั่นเองใช่เลยค่ะ
00:07:47 → 00:07:49 แล้วก็อยากจะทิ้งท้ายเป็นคำถามให้ลองไป
00:07:50 → 00:07:53 คิดกันต่อนะคะว่าในเมื่อผลกระทบระยะยาว
00:07:53 → 00:07:56 จริงๆของการมี LDL สูงในบางกลุ่มเนี่ยมัน
00:07:56 → 00:07:59 อาจจะยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน 100% แล้ว
00:07:59 → 00:08:02 ร่างกายแต่ละคนก็ตอบสนองต่างกันไปอีกครับ
00:08:02 → 00:08:05 เราจะมีวิธีติดตามสุขภาพแล้วก็ปรับแนวทาง
00:08:05 → 00:08:08 การดูแลตัวเองของเราได้ยังไงบ้างโดยที่
00:08:08 → 00:08:10 ไม่ไปยุติกับแค่ค่าตัวเลขณวันที่ตรวจหรือ
00:08:10 → 00:08:13 กฎเกณฑ์อะไรที่มันตายตัวเกินไปเพื่อให้
00:08:13 → 00:08:15 เราเท่าทันกับพลวัตของร่างกายเราเองจริงๆ
00:08:15 → 00:08:20 ค่ะ
00:08:20 → 00:08:32 [เพลง]