00:00:00 → 00:00:02 อาจารย์ขาอันดับแรกอยากให้อาจารย์ช่วยให้
00:00:02 → 00:00:04 ความรู้คุณผู้ฟังสักนิดนึงค่ะได้ยินกัน
00:00:04 → 00:00:07 อยู่บ่อยๆเนาะค่ะยาสเตียรอยด์มันคืออะไร
00:00:07 → 00:00:11 คะอาจารย์ครับผมเดี๋ยวขอเกริ่นก่อนนะครับ
00:00:11 → 00:00:13 ว่าจริงๆเนี่ยสารสเตียรอยด์เนี่ยจริงๆมัน
00:00:13 → 00:00:15 เป็นฮอร์โมนชนิดนึงในร่างกายของคนเรานะ
00:00:15 → 00:00:18 ครับค่ะแล้วก็สางเซรอยเนี่ยจะถูกสร้างนะ
00:00:18 → 00:00:21 ครับจากป่อมหมวกไตชั้นนอกนะครับแล้วก็จะ
00:00:21 → 00:00:24 เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการการต่างๆในร่าง
00:00:24 → 00:00:27 กายมนุษย์เช่นลดอาการปวดลดอาการอักเสบนะ
00:00:27 → 00:00:30 ครับควบคุมพวกระบบน้ำและเกือได้ในร่างกาย
00:00:30 → 00:00:32 นะครับซึ่งจริงๆแล้วร่างกายคนเราเนี่ยจะ
00:00:32 → 00:00:35 ผลิตสารเซรอยแล้วก็จะใช้ในปริมาณที่เหมาะ
00:00:35 → 00:00:38 สมซึ่งร่างกายจะคำนวณเองนะครับแต่ว่าทาง
00:00:38 → 00:00:41 การแพทย์เนี่ยก็จะมีการผลิตยาสเตียรอยด์
00:00:41 → 00:00:43 ที่สังเคราะห์ซึ่งหมอเรียกกันว่า
00:00:43 → 00:00:46 คอร์ติโคสเตียรอยด์นะครับซึ่งเป็นใช้ใน
00:00:46 → 00:00:49 ประโยชน์ในการรักษาโรคนะครับซึ่งปกติแล้ว
00:00:49 → 00:00:53 เนี่ยการใช้ตัวคอร์ติโคสเตียรอยด์เนี่ยจะ
00:00:53 → 00:00:56 ใช้ในบางโรคที่มีความจำเป็นเท่านั้นแล้ว
00:00:56 → 00:00:59 ก็การใช้ยาเจะต้องอยู่ในการควบคุมอย่าง
00:00:59 → 00:01:02 ใกล้ชิดนะครับจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะครับ
00:01:02 → 00:01:06 ไม่ควรจะไปซื้อทานเองนะครับค่ะอ๋อเพิ่ง
00:01:06 → 00:01:08 คราวนี้ตัวเซรอยเนี่ยปัจจุบันเนี่ยก็จะมี
00:01:08 → 00:01:11 มากมายในท้องตลาดคือจริงๆแล้วเนี่ยยา
00:01:11 → 00:01:14 เซรอยเนี่ยหมอขอยกตัวอย่างเช่นเกสคนไข้
00:01:14 → 00:01:17 กลุ่มนึงที่น่าสงสารมากก็เป็นคนไข้กลุ่ม
00:01:17 → 00:01:20 โรค sle เคยได้ยินใช่มั้ครับ sle ก็คือ
00:01:20 → 00:01:23 โรคทุพวงนั่นแหละครับที่มีภูมิคุ้มกันทำ
00:01:23 → 00:01:26 ร้ายตัวเองนะครับซึ่งพวกนี้เนี่ยคนไข้
00:01:26 → 00:01:28 กลุ่มนี้ก็จำเป็นจริงๆที่จะต้องกินยา
00:01:28 → 00:01:32 สเตียรอยอย่างนานนะครับซึ่งคนไข้ใหม่ๆ
00:01:32 → 00:01:34 ส่วนใหญ่เนี่ยถ้าเกิดเพิ่งได้รับการ
00:01:34 → 00:01:36 วินิจฉัยโรคที่อาการเยอะๆเนี่ยจะต้องทาน
00:01:36 → 00:01:39 ยาเซียรอยด์กลุ่มเนี้ยค่อนข้างวันนึงหลาย
00:01:39 → 00:01:42 เม็ดนะครับอจะทานเป็นหลักเดือนหลักปีนะ
00:01:43 → 00:01:46 ครับซึ่งการทานยามากๆอย่างเงี้ยจริงๆทาง
00:01:46 → 00:01:49 การแพทย์ถ้าเกิดว่าตรวจโดยหมอที่เชี่ยว
00:01:49 → 00:01:51 ชาญเนี่ยเขาก็จะพยายามปรับยานะครับถ้า
00:01:51 → 00:01:55 อาการเบาลงอาการน้อยลงคุณหมอก็จะพยายามลด
00:01:55 → 00:01:57 ปริมาณการใช้ยาเตียรอยดกลุ่มนี้เพราะว่า
00:01:57 → 00:02:00 การทานยานานๆเมันไม่ดีค่ะ
00:02:00 → 00:02:04 ในงกลับกันครับก็ยาพวกเในท้องตลดแล้วก็
00:02:04 → 00:02:07 เหมือนที่ทางเอ่อท่านจทั้ง 2 ท่านพูด
00:02:07 → 00:02:10 เมื่อกี้ว่ายาชุดนี่แหละครับที่ว่าชาวไร่
00:02:10 → 00:02:14 ชาวสวนแรงงานเนี่ยชอบแล้วก็นิยมมากเพราะ
00:02:14 → 00:02:16 ว่าส่วนใหญ่จะมียาเซรอยเนี่ยเสริมเข้าไป
00:02:16 → 00:02:19 ในยาชุดนะครับที่เคยเห็นเนี่ยในพวกทาง
00:02:19 → 00:02:22 โซเชียล Media ในบางเคสในบางยาชุดเนี่ย
00:02:22 → 00:02:25 เผลอๆมียาเซียลอยเนี่ยหลายตัวเลยทีเดียว
00:02:25 → 00:02:28 ที่กินพร้อมๆกันพอกินพร้อมๆกันอย่างเงี้ย
00:02:28 → 00:02:32 ความไวในการลปวดรถอักเสบเนี่ยมันแน่นอน
00:02:32 → 00:02:34 ครับมันมันต้องไวมากทำให้เขาได้กลับไปทำ
00:02:34 → 00:02:37 งานได้เร็วเนาะพอกลับไปทำงานได้เร็วเนี่ย
00:02:37 → 00:02:40 เขาก็จะรู้สึกว่ายามันดีก็เลยติดใจอาจจะ
00:02:40 → 00:02:42 ซื้อเก็บไว้ซึ่งจริงๆอันนี้ผิดมากเพราะ
00:02:42 → 00:02:47 การทานยาเกมากๆมันไม่ดีครับผมอือืเพราะ
00:02:47 → 00:02:49 อย่างที่เห็นนะชาวบ้านชาวสวนอย่างที่บอก
00:02:49 → 00:02:51 เนาอย่างบ้านเราอยู่ต่างจังหวัดนะเวลา
00:02:51 → 00:02:53 กลับต่างจังหวัดทีเราจะเห็นเาจะมีเป็นยา
00:02:53 → 00:02:57 แบบในซองใสๆอ่ะค่ะอาจารย์เป็นเม็ดสีๆเนาะ
00:02:57 → 00:03:00 หลายๆเม็ดคือมีติดบ้านกันไว้เลยค่ะเหมือน
00:03:00 → 00:03:02 แบบมีอากาปวดเมื่อยปุ๊บฉันกินปุ๊บวันรุ่ง
00:03:02 → 00:03:05 ขึ้นฉันไปทำงานได้เลยอย่างเงี้ยอืมันเห็น
00:03:05 → 00:03:08 ผลไวมากีอาจจะเคยเห็นตามพวกงานวัดนะครับ
00:03:08 → 00:03:12 พวกแผงรอยครับที่ว่ามีวางในงานวัดมีแผง
00:03:12 → 00:03:15 รอยขายยาหลายๆอย่างแล้วก็จะมีพวกยาชุด
00:03:15 → 00:03:17 เนี่ยเอ่อเป็นแม็กเป็นใส่ถุงเล็กๆนะครับ
00:03:17 → 00:03:20 แล้วก็ขายว่าเี่เป็นยาแก้ปวดสารพัด
00:03:20 → 00:03:22 ประโยชน์อะไรเงี้ครับซึ่งจะเจอบ่อยมากนะ
00:03:22 → 00:03:27 ครับอืแล้วถ้าถ้าถ้ากินหมายถึงว่าต้องกิน
00:03:27 → 00:03:31 สะสมต่อเนื่องนานขนาดไหนอ่ะคถึงถึงจะมีผล
00:03:31 → 00:03:34 ต่อสุขภาพ่ะคะจริงๆจริงๆตรงเมันตอบไม่ได้
00:03:34 → 00:03:37 นะครับแต่ละคนเนี่ยการที่จะทานมากหรือว่า
00:03:37 → 00:03:41 ทานน้อยเนี่ยมันจะประสิทธิภาพหรือว่าการ
00:03:41 → 00:03:43 ที่เกิดผลปัญหาเนี่ยมันจะแตกต่างกันในแต่
00:03:43 → 00:03:46 ละเคสนะครับซึ่งอันนี้จริงๆตัวเลขเป๊ะๆ
00:03:46 → 00:03:48 เนี่ยมันไม่มีอยู่แล้วนะครับแต่ว่าที่
00:03:48 → 00:03:51 ง่ายๆคือว่าการกินยากลุ่มเนี้ยจริงๆมัน
00:03:51 → 00:03:54 ต้องทานยาโดยคำสั่งแพทย์นะครับแล้วก็ต้อง
00:03:54 → 00:03:57 มีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเนี่ยดูแลใกล้ชิดแล
00:03:57 → 00:04:00 ติดตามว่าเมื่อไหร่จะควรลดปริมาานยานะ
00:04:00 → 00:04:03 ครับค่ะค่ะออแล้วแต่ว่าส่วนใหญ่ก็คือหา
00:04:03 → 00:04:06 ซื้อรับประทานหาซื้อทานได้เอง
00:04:07 → 00:04:11 อแล้วจริงๆตามตามร้านยาเนี่ยก็น่าจะมี
00:04:11 → 00:04:13 หลายร้านนะครับโดยเฉพาะร้านที่เขาอาจจะ
00:04:13 → 00:04:17 ไม่ได้มีเสกรที่เา้ามาดูแลยาอย่างใกล้ชิด
00:04:17 → 00:04:20 อย่างเงี้ครับก็อาจจะมีการใช้ยาเซรอยใน
00:04:20 → 00:04:22 บางเคสนะครับไม่ต้องว่าร้านยาหรอกครับพวก
00:04:22 → 00:04:26 คลินิกหมอไม่ว่าจะเป็นหมอกระดูกหมอพวก
00:04:26 → 00:04:28 เรื่องปวดนะครับก็อาจจะมีการใช้ยา
00:04:28 → 00:04:30 สเตียรอยด์อย่างเงี้ยซึ่งจริงๆแล้วเนี่ย
00:04:30 → 00:04:32 ไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่นะครับในการใช้
00:04:32 → 00:04:35 ยากลุ่มนี้ในในเคสบางเคสนะครับค่ะค่ะรบ
00:04:35 → 00:04:38 กวนอาจารย์ช่วยขยายภาพใหญ่สักนิดนึงค่ะใน
00:04:38 → 00:04:40 เรื่องของโรคกระดูกและข้อเนี่ยค่ะมีการ
00:04:40 → 00:04:42 เอาพวกสารสเตียรอยด์หรือยาสเตียรอยด์มา
00:04:43 → 00:04:44 ใช้แบบผิดวัตถุประสงค์หรือผิดวิธียังไง
00:04:45 → 00:04:48 บ้างคะอาจารย์ก็จริงๆก็หลักๆคนไข้ทางลก
00:04:48 → 00:04:51 กระดูกและข้อนะครับก็จะมีอาการปวดนะครับ
00:04:51 → 00:04:55 ทางกระดูกอ่อกล้ามเนื้อเส้นเอ็นต่างๆนะ
00:04:55 → 00:04:58 ครับซึ่งพวกนี้เนี่ยก็แน่นอนคนแขมาก็ทุบ
00:04:58 → 00:05:00 ทรมานนะครับก็อยากจะหายปวดเร็วนะครับ
00:05:00 → 00:05:03 เพราะฉะนั้นการเอายาสเตียรอยด์เนี่ยส่วน
00:05:03 → 00:05:06 ใหญ่ก็คือจะให้คนไข้ทานนะครับอาจจะกิน 1
00:05:06 → 00:05:09 เม็ด 3 เวลาเช้าเที่ยงเยนะครับแล้วก็พวก
00:05:09 → 00:05:12 นี้จะกินประมาณระยะสั้นครับสักประมาณ 5-7
00:05:12 → 00:05:14 วันนะครับซึ่งพวกนี้จริงๆแล้วเนี่ยถามว่า
00:05:14 → 00:05:17 มันผิดแบบจิดจริงๆเลยมยเนี่ยมันก็เป็น
00:05:17 → 00:05:20 เหมือนเป็นเทคนิคของการทำให้คนไข้หายเร็ว
00:05:20 → 00:05:23 ขึ้นนะครับแต่ถ้าเกิดตามมาตรฐานจริยธรรม
00:05:23 → 00:05:25 ของแพ่เนี่ยมันไม่ควรจะใช้ยากลุ่มเนี้ยใน
00:05:25 → 00:05:28 เคสอย่างเยครับเพราะเราจะใช้สรอยเมื่อมัน
00:05:28 → 00:05:32 จำเป็นจริงๆอือืสงสัยเหมือนกันค่ะคุณหมอ
00:05:32 → 00:05:35 ขะอย่างการขายยาสเตรอยด์หรือว่ายาชุดที่
00:05:35 → 00:05:39 รวมๆอ่ะค่ะมันมันผิดหมายถึงว่าผิดกฎหมาย
00:05:39 → 00:05:42 มั้ยคะหรือว่าผิดอะไรมั้ยอ่ะคะจริจริงๆ
00:05:42 → 00:05:45 ไม่ได้ผิดกฎหมายนะครับเพราะว่ายาเียลอย
00:05:45 → 00:05:49 เนี่ยถ้าเกิดเป็นแพทย์นะครับมีเอ่อเอ่อใบ
00:05:49 → 00:05:52 รับวองจากแพทยสภาก็สามารถจ่ายยาได้นะครับ
00:05:52 → 00:05:55 แล้วก็เป็นสกรนี่ก็ก็ให้ยาได้นะครับไม่
00:05:55 → 00:05:57 ใช่ผิดกฎหมายอะไรเพียงแต่ว่าการเอามาใช้
00:05:57 → 00:06:00 เนี่ยอาจจะไม่ค่อยถูกวัตถุประสงค์นะครับ
00:06:00 → 00:06:02 ซึ่งอันนี้มันเป็นปัญหาในเชิงจริยธรรมนะ
00:06:03 → 00:06:05 ครับแล้วก็การใช้ยาพวกนี้ก็ทำให้คนไข้
00:06:05 → 00:06:07 ซึ่งไม่รู้นะครับไม่ได้มีความรู้ด้านนี้
00:06:07 → 00:06:10 เนี่ยเอ่ออาจจะทานยาโดยไม่จำเป็นถ้าเรา
00:06:10 → 00:06:13 คิดง่ายๆนะครับสมมุติว่าคนไข้เป็นคุณพ่อ
00:06:13 → 00:06:15 คุณแม่เราเป็นญาติพี่น้องเราเป็นเราก็คง
00:06:15 → 00:06:17 ไม่อยากให้ทานยากลุ่มนี้ครับเพราะมันไม่
00:06:17 → 00:06:20 มีเหตุผลในการทานยากลุ่มนี้ครับจริงค่ะ
00:06:20 → 00:06:23 ไม่อยากให้ทานคือเคยเห็นเหมือนกันค่ะอ
00:06:23 → 00:06:28 เอ่อเป็นเป็นคุณแม่สามีเออๆคือเคยเห็น
00:06:28 → 00:06:31 เหมือนกันคือเวลาแบบก็คือเ่อคุณแม่เนี่ย
00:06:31 → 00:06:33 เลี้ยงหลานใช่มั้ยคะหรือเลี้ยง 2 คนเนี่ย
00:06:33 → 00:06:36 พร้อมกันเลยทีเนี้ยเรู้สึกว่าปวดหลังอื
00:06:36 → 00:06:39 คือสมัยสมัยก่อนน่ะสมัยที่ยังไม่ได้สูง
00:06:39 → 00:06:42 อายุก็ก็จะกินยาแบบนี้เบอกเคกินยาชุดเค
00:06:42 → 00:06:45 กินแล้วหายอืกินยังไงก็ต้องกลับไปกินอีก
00:06:45 → 00:06:48 เพราะว่ามันปวดมากแล้วกินเสร็จอ่ะวันรุ่ง
00:06:48 → 00:06:51 ขึ้นหายเลยอะไรอย่าเงี้ยค่ะก็รู้สึกเป็น
00:06:51 → 00:06:54 ห่วงเหมือนกันพอฟังคุณมอเล่าเพราะเพยาพวก
00:06:54 → 00:06:56 นี้มันจะค่อนข้างค่อนข้างออกรึเร็วแล้วก็
00:06:57 → 00:07:00 ค่อนข้างแรงนะครับแต่ว่ามันจะมีภัยรรอย
00:07:00 → 00:07:03 เยอะมากเลยนะภร้ายเตียร์เดี๋ยวขอขอเนะ
00:07:03 → 00:07:05 ครับจริงๆหลักการง่ายๆคือสเตียรอยด์เนี่ย
00:07:05 → 00:07:08 นะไอ้ภยร้ายข้อที่ 1 เลยก็คือว่าตัวเซรอย
00:07:08 → 00:07:12 เนี่ยจะไปออกรกดระบบภูมิคุ้มกันของร่าง
00:07:12 → 00:07:14 กายนะครับซึ่งการกดระบบภูมิคุ้มกัน
00:07:14 → 00:07:17 ธรรมชาติเนี่ยทำให้คนไข้เนี่ยมีโอกาสติด
00:07:17 → 00:07:20 เชื้อได้ง่ายมากขึ้นอเช่นคนไข้ก็มีบาดผง
00:07:20 → 00:07:23 บาดแผลแผลก็จะหายช้าแต่ถ้าเกิดคนไข้ที่
00:07:23 → 00:07:26 เป็นกลุ่มเกราะบางนะครับเช่นมีโรคประจำ
00:07:26 → 00:07:30 ตัวเยอะมีเบาหวานที่ควบคุมไม่ดีเนี่ยค่ะ
00:07:30 → 00:07:33 ทำให้เกการติดเชืในกระแสเลือดได้มากขึ้น
00:07:33 → 00:07:36 นะครับอืข้อที่ 2 ก็คือในทางกระดูกและข้อ
00:07:36 → 00:07:39 นะครับก็จะทำให้เกิดเร่งให้ร่างกายเเกิด
00:07:39 → 00:07:41 ภาวะกระดูกพุนได้เร็วขึ้นนะครับแล้วก็
00:07:41 → 00:07:44 เสี่งเกิดภาวะเรื่องของกระดูกแตกหักใน
00:07:44 → 00:07:46 อนาคตซึ่งอันนี้จะเห็นง่ายมากเลยเช่นใน
00:07:46 → 00:07:49 เคสที่มอกยกตัวอย่างไปคนไข้กลุ่ม sle ที่
00:07:49 → 00:07:51 ต้องทานสเตียรอยด์ค่อนข้างเยอะแล้วก็นาน
00:07:51 → 00:07:54 ระดับนึงเนี่ยหลายกว่าหลายเคสเนี่ยจะมี
00:07:54 → 00:07:57 การเอ่อเกิดปัญหาภาวะแซงซ้อนจากการกิน
00:07:57 → 00:08:01 เซียรอยด์ระยะยาวนะครับจริงๆบาเหยดยาไปนา
00:08:01 → 00:08:05 ก็ได้นะครับแล้วพอมาตรวจมีภาวะปวดข้อสะโก
00:08:05 → 00:08:08 ึข้อสะโกเนี่ยมจะเกิดภาวะเเรียกว่าพ่อ
00:08:08 → 00:08:11 เอ่อหัวกระดูกสะโกตายขาดเลือดนะฮแล้วก็ทำ
00:08:11 → 00:08:15 ให้ตัวหัวตัวหัวสะโพกมันเสื่อมนะครับทำ
00:08:15 → 00:08:18 ให้สุดท้ายทงท่านก็จะเดินค่อนข้างลำบาก
00:08:18 → 00:08:21 ทุกขทรมานแล้วก็จะเจ็บมากแล้วก็สุดท้ายก็
00:08:21 → 00:08:23 อาจจะต้องไปผักตัดเพื่อเปลี่ยนข้อสะโพก
00:08:23 → 00:08:26 เทียมนะครับเป็นนทางกระดูกและข้อถ้าเกิด
00:08:26 → 00:08:29 เป็นคนอายุมากๆเนี่ยถ้าเกิดกินเกอยเกิดตก
00:08:29 → 00:08:32 ล้มเนี่ก็จะทำให้กระดูกชิ้นนั้นอาจจะหัก
00:08:32 → 00:08:35 ได้ง่ายๆนะครับอนะครับแล้วก็นเหมือนจาก
00:08:35 → 00:08:38 นั้นแล้วคนไหนถ้าเกิดกินนานๆเลยเนี่ยโดย
00:08:38 → 00:08:40 ไม่รู้เนี่ยกระดูกที่ว่าตอนแรกหายปวดใช่
00:08:40 → 00:08:42 มั้ครับพอกระดูกมันเริ่มบางกระดูกมัน
00:08:42 → 00:08:44 เริ่มพุนเนี่ยอันนี้โครงสร้างร่างกาย
00:08:44 → 00:08:47 เนี่ยมันก็จะแบบไม่ค่อยแข็งแรงแทนที่จะ
00:08:47 → 00:08:50 หายปวดเนาะระยะยาวเนี่ยกล้ามเนื้อข้อต่อ
00:08:50 → 00:08:52 จะทำงานหนักมากขึ้นเส้นเอทำงานหนักทำให้
00:08:52 → 00:08:55 ปวดกล้ามเนื้อเชนเอ็นรอบข้อเนี่ยได้มาก
00:08:55 → 00:08:58 กว่าเดิมด้วยซ้ำไปนะครับครับอีกกลุ่มนึง
00:08:58 → 00:09:01 ก็เป็นพวกทางเดินอาหารนะครับเช่นเอ่อถ้า
00:09:01 → 00:09:04 เกิดทางเกือรอยมากๆเนี่ยจะทำให้ตัวเยื่อ
00:09:04 → 00:09:07 บุเฉพาะอาหารเนี่ยบางลงเรื่อยๆอทำให้
00:09:07 → 00:09:10 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะแผนในกระเพาะอาหาร
00:09:10 → 00:09:13 ปวดท้องเรื้อรังนะครับหรือว่าจะมีสภาวะ
00:09:13 → 00:09:16 เลือดออกในระบบทางอืนอาหารมันเป็นหายๆนะ
00:09:16 → 00:09:19 ครับแล้วก็ตัวเซรอยเนี่ยจะมีปัญหาในคนใช้
00:09:19 → 00:09:22 กลุ่มเบาหวานและความดันสูงนะครับซึ่งถ้า
00:09:23 → 00:09:26 คนไข้กลุ่มเบาหวานเนี่ยจะทำให้คอนโทรลควบ
00:09:26 → 00:09:28 คุมน้ำตาลในเลือดค่อนข้างยากนะครับแล้วก็
00:09:28 → 00:09:31 น้ำตาลในเลือดจะสูงขึ้นนะครับตัวความดัน
00:09:31 → 00:09:34 โลหิตก็เช่นกันนะครับจะทำให้่าความดัน
00:09:34 → 00:09:37 เนี่ยมีความผิดปกติสูงขึ้นควบคุมยาก
00:09:37 → 00:09:39 เนื่องจากว่าเหมือนที่หมอกล่าวไปว่าจริงๆ
00:09:39 → 00:09:42 ฮอร์โมนพวกนี้มันควบคุมระบบเกือแร่เนาะ
00:09:42 → 00:09:45 ระบบสมดุลน้ำนะครับทำให้พวกเนี้ยน้ำมัน
00:09:45 → 00:09:48 ขับออกได้ลดลงทำให้ควบคุมความดันได้ยาก
00:09:48 → 00:09:51 ความดันเลยเพิ่มขึ้นนะครับและบางคนถ้า
00:09:51 → 00:09:54 เกิดกินงานาเนี่ยก็จะทำให้เกิดน้ำหนักตัว
00:09:54 → 00:09:57 มากขึ้นนะครับอาจจะส่งผลเรื่องของอารมณ์
00:09:57 → 00:09:59 นอนไม่หลับนะครับอุดหิดง่ายรู้สึกมี
00:09:59 → 00:10:03 อารมณ์แปรปรวนโมโหง่ายนะครับแลสุดท้ายเลย
00:10:03 → 00:10:05 ถ้าเกิดคนไหนที่ทานนานๆจริงๆเนี่ยทางภาวะ
00:10:05 → 00:10:09 การแพทย์เจริญจะเรียกว่าจะเกิดภาวะ hing
00:10:09 → 00:10:11 Syndrome นะครับ hing Syndrome เป็นคน
00:10:11 → 00:10:14 ไข้ที่ชินยานานๆเลยนะครับแล้วก็จะทำให้
00:10:14 → 00:10:16 ลักษณะโครงสร้างเหมือนใบหน้าเนี่ยจะกลมๆเ
00:10:16 → 00:10:18 เรียกว่าหน้าเหมือนพระจันทร์ทางการแพทย์
00:10:18 → 00:10:20 ก็เรียก Moon เฟซอ่ะนะครับแล้วก็จะมี
00:10:20 → 00:10:24 ลักษณะของโหนกที่เรนลำคอใหญ่ขึ้นนะครับ
00:10:24 → 00:10:28 ่างกายจะบวมฉุนะครับจะบวมฉุตามตัวตามแขน
00:10:28 → 00:10:31 ขาอาจจะมีรอยแตกสีม่วงนะครับตามผิวหนังนะ
00:10:31 → 00:10:34 ครับเพมุนเถือว่ากินเซรอยมาเยอะและนานมาก
00:10:34 → 00:10:37 นะครับซึ่งเป็นทำให้ความสมดุลของฮอร์โมน
00:10:38 → 00:10:41 ในร่างกายมันผิดปกติไปนะครับนี่คือปัญหา
00:10:41 → 00:10:43 ไภยร้างเียรอยด์คร่าวๆนะครับที่หมอกล่าว
00:10:43 → 00:10:46 ไว้นะครับอโอโหเยอะมากนะคะอาจารย์อเยอะ
00:10:46 → 00:10:49 มากครับเยอะมากครับ
00:10:49 → 00:10:54 ออที่เขาบอกว่ามีเชิญๆดอ๋อๆพูดเลยครับพูด
00:10:54 → 00:10:57 เลยบอกว่ามีนะครับค่ะอ๋อคือที่ที่เคยเห็น
00:10:57 → 00:11:00 ลักษณะของคนที่กินนานๆอ่ะอาจารย์มันเป็น
00:11:00 → 00:11:02 ตัวบ่งชี้ตัวนึงได้มั้ยคะมันเหมือนมีที่
00:11:02 → 00:11:05 เขาเรียกว่าอะไรอ่ะเหมือนหนอกปคะเ้าเรียก
00:11:05 → 00:11:08 ภาษาชาวบ้านน่ะอาจารย์เรียกว่าหนอกโกหรือ
00:11:08 → 00:11:12 หนอกหอยู่ตรงตรงหลังคออ่ะค่ะอันนี้คือคือ
00:11:12 → 00:11:14 เป็นสัญญาณแล้วว่ามันเริ่มมีเอฟเฟคกับ
00:11:14 → 00:11:16 ร่างกายนใช่อันนี้อันนี้หมอใช้คำว่าเป็น
00:11:16 → 00:11:19 เยอะมากแล้วครับนี้สัญญาครับที่ถือว่าแบบ
00:11:19 → 00:11:22 แปลว่าเพมกินเกลรอยมานานมากจริงๆอกินมา
00:11:23 → 00:11:25 นานมากจริงๆเกิดภาวะเอ่อเค้าเรียก cing
00:11:25 → 00:11:29 รมที่กล่าวไปนะครับอือ๋ออันนี้เป็นหนใน
00:11:29 → 00:11:32 อาการ cing Syndrome นะใช่ครับผมใช่ครับ
00:11:32 → 00:11:36 ผมอาจารย์แล้วอาจารย์เคยเจอเคสหนักๆแบบ
00:11:36 → 00:11:39 เนี้ยเข้ามารักษาบ้างมั้ยคะเอ่อจริงๆถ้า
00:11:39 → 00:11:42 เป็น cing Syndrome นะครับจริงๆมันก็ไม่
00:11:42 → 00:11:45 ได้ตรงกับทางหมอกระดูดซะทีเดียวนะครับ
00:11:45 → 00:11:47 ชิ่งสนโดนส่วนใหญ่จะไปพบแพทย์อายุรกรรมนะ
00:11:47 → 00:11:49 ครับแต่สิ่งที่หมอเจอบ่อยเลยก็นี่แหละ
00:11:49 → 00:11:53 ครับเคส sle แล้วะมีพ้อสะโพกเสื่อมนะครับ
00:11:53 → 00:11:56 พ่อสะโพกพังนะครับและอีกกลุ่มนึงที่เจอ
00:11:56 → 00:11:59 บ่อยมากก็คือคนที่มีกระดูกคุณก่อนวัยอัน
00:11:59 → 00:12:02 ควรนะครับพอตั้งประวัติกลับไปเนี่ยก็เ้ย
00:12:02 → 00:12:05 อายุยังไม่เยอะแต่ทำไมกระดูกผักง่ายพอ
00:12:05 → 00:12:08 ตั้งประวัติกลับไปเนี่ยก็ปรากฏว่าทานเตีย
00:12:08 → 00:12:10 รอยด์มาอย่างยาวนานนะครับแล้วก็ส่วนใหญ่
00:12:10 → 00:12:13 ก็จะเป็นการซื้อกินเองซื้อตามร้านยานะ
00:12:13 → 00:12:16 ครับที่เจอบ่อยมากแล้วก็บางคนก็ยังใจดี
00:12:16 → 00:12:19 ครับซื้อแล้วก็แจกเพื่อนด้วยคำว่ายาไม่ดี
00:12:19 → 00:12:23 คนรถปวดได้เร็วคือก็คนไทยก็มีน้ำจิตน้ำใจ
00:12:23 → 00:12:26 อะไแต่ว่าเก็ไม่รู้ครับว่ามันคือสเตียลอย
00:12:26 → 00:12:28 นะครับแล้วปากต่อปากอ่ะยิ่งเชื่อใช่ว่า
00:12:28 → 00:12:30 ฉันใช้เมื่อวานนี้วันนี้หายเลยอย่าเงี้ย
00:12:30 → 00:12:34 โอหเชื่อมากอืใช่ครับผมใช่ครับผมลูกหลาน
00:12:34 → 00:12:37 เตือนก็ไม่ฟังค่ะอ่ะนี้เรื่องใกล้ตัวเลย
00:12:37 → 00:12:42 นะใช่ๆครับผมอหูยที่คุณหมก็มาถึงวิธี
00:12:42 → 00:12:45 สังเกตเนาะวิธีสังเกตเนาะเพราะว่าจริงๆ
00:12:45 → 00:12:48 อ่ะผมว่าหลักการหลักๆเราต้องมีความรู้ว่า
00:12:48 → 00:12:51 จะต้องดูยาเซียรอยด์ยังไงนะครับจริงๆยา
00:12:51 → 00:12:54 เซียรอยด์ในประเทศไทยที่แบบกินนะครับหลัก
00:12:54 → 00:12:57 ๆเนี่ยที่เจอบ่อยมากเลยจะมีอยู่ 2 ชนิดนะ
00:12:57 → 00:13:00 ครับตัวที่ 1 1 เนี่ยหมอเรียกว่าเพิลน
00:13:01 → 00:13:03 เนาะอันนี้อาจจะไม่ต้องไปจำถึงขั้นชื่อยา
00:13:03 → 00:13:06 นะฮะว่ายาตัวเนี้ยมักจะมีขนาดประมาณ 5
00:13:06 → 00:13:09 มิลกรัมเนาะเพราะฉะนั้นในตัวเม็ดเนี่ยอาจ
00:13:09 → 00:13:13 จะมีการตอกเลข 5 ไว้บนเม็ดยาค่ะนะครับยา
00:13:13 → 00:13:17 เพิลนที่เจอบ่อยก็คือจะเป็นยาเม็ดกลมๆนะ
00:13:17 → 00:13:20 ครับขนาดเล็กขนาดประมาณักเส้นผ่าศูนย์
00:13:20 → 00:13:24 กลางประมาณ 5-8 มมนะครับค่ะแล้วก็ตัวเม็ด
00:13:24 → 00:13:26 เนี่ยมักจะมีสีชมพูไม่ก็สีขาวนะครับที่
00:13:27 → 00:13:30 เจอบ่อยมากเลยนะครับซึ่งตัวเนี้ยจะเป็นยา
00:13:30 → 00:13:33 ที่ใช้กันเยอะมากมากๆเลยตัวนึงทีเดียวนะ
00:13:33 → 00:13:36 ครับซึ่งการสังเกตก็จะประมาณนี้อีกตัวนึง
00:13:36 → 00:13:41 ที่เหในท้องตลาดก็คือเขาเรียกเก้าเานนะ
00:13:41 → 00:13:43 ครับซึ่งยาตัวนี้ก็จะมี 2 ขนาดนะครับก็
00:13:43 → 00:13:46 คือ 4 หรือ 5 มิลลิกรัมนะครับานิยาตัวนี้
00:13:46 → 00:13:49 จะมีหน้าตาเนี่ยหลากหลายรูปแบบมากนะครับ
00:13:49 → 00:13:53 จะหลากหลายมากกว่าเอ่อโลนนะครับที่เจอ
00:13:53 → 00:13:56 บ่อยจะเป็นเม็ดรีนะครับเล็กๆเลยครับเม็ด
00:13:56 → 00:13:59 รีเล็กๆเลยนะครับก็ไซส์ก็ประมาณเยนี่แหละ
00:13:59 → 00:14:02 ครับ 5 มิลลิเมตรอาจจะยาวประมาณไม่ถึง 1
00:14:02 → 00:14:05 ซมนะครับจะเล็กๆแล้วก็จะมีบาปตรงกลางนะ
00:14:05 → 00:14:08 ครับอาจจะมีเขียนตัว D ซึ่งตัวย่อมาจาก
00:14:08 → 00:14:11 dexa นะครับแล้วก็อาจจะมีเลข 5 สลักหรือ
00:14:11 → 00:14:13 ไม่ก็ได้นะครับนอกจากนั้น dexa เนี่ยก็
00:14:13 → 00:14:16 คือจะมีอาจจะมีลักษณะแบบกลมด้วยนะครับพวก
00:14:16 → 00:14:18 นี้จะค่อนข้างดูค่อนข้างยากนะครับจริงๆ
00:14:18 → 00:14:21 สำคัญที่สุดเนี่ยหมอคิดว่าการได้ยามา
00:14:21 → 00:14:24 เนี่ยไม่ว่าจะกินอะไรเนี่ยอาจะต้องถาม
00:14:24 → 00:14:27 ชื่อยานะครับจากจากแพทย์หรือว่าจากทางเ
00:14:27 → 00:14:30 สัตกรนะครับว่ายาตัวเนี้ยมันคือยายาอะไร
00:14:30 → 00:14:33 นะครับชื่อยาซึ่งปัจจุบันหมอก็ต้องแจ้ง
00:14:33 → 00:14:36 กันอยู่แล้วว่าเป็นยาอะไรนะครับอ่ะอื
00:14:36 → 00:14:39 อาจารย์ยา 2 ตัวนี้มันออกออกฤทธิ์ต่างกัน
00:14:39 → 00:14:42 มั้ยคะอาจารย์จริงๆนี่ก็ออกฤทธิ์คล้ายๆ
00:14:42 → 00:14:44 กันนะครับแต่ว่าทางการแพ่ในตัว dexa
00:14:44 → 00:14:47 เนี่ยจะแรงกว่าเิลนิดนึงนะฮ
00:14:47 → 00:14:51 อืครับผมแต่จริงๆไม่ต้องไปมายว่าตัวไหน
00:14:51 → 00:14:54 ยังไงแต่ว่า 2 ตัวนี้ยังไงก็เอาตรงๆก็คือ
00:14:54 → 00:14:57 ไม่ควรทานโดยไม่จำเป็นนะครับค่ะอาจารย์มี
00:14:57 → 00:15:01 เอ่อข้อโหม่งชี้หลักๆยคะว่าจริงๆแล้วคน
00:15:01 → 00:15:04 ไข้ต้องอาการประมาณไหนแพทย์ถึงจะสั่งยา
00:15:04 → 00:15:07 ที่มีสาสเตียนรอยให้อย่างเงี้ยค่ะอาจารย์
00:15:07 → 00:15:10 เอาตรงๆนะครับถ้าเป็นทางโรคกระดูกและข้อ
00:15:10 → 00:15:12 เนี่ยหมอไม่ให้เลยครับถ้าไม่จำเป็นอือ
00:15:12 → 00:15:15 จริงๆเวลากระเตียลอยเนี่ยโดยส่วนตัวที่
00:15:15 → 00:15:18 หมอทำที่คลินิกส่วนตัวเนาะก็ไม่มียากลุ่ม
00:15:18 → 00:15:21 นี้ให้คนไข้ครับยากลุ่มนี้จะใช้เฉพาะกรณี
00:15:21 → 00:15:24 ช่วยชีวิตแล้วจะเป็นยาฉีดอืนะฮะยาฉีดซึ่ง
00:15:24 → 00:15:27 เราจะเใช้ฉีดกรณีที่ว่าแพ้ยาเฉียบพันธุ์
00:15:27 → 00:15:30 อย่างเงี้ยครับียากลุ่มเนี้ยฉีดเพื่อลด
00:15:30 → 00:15:32 อาการอักเสบเฉียบพันธุเพื่อช่วยชีวิตคน
00:15:32 → 00:15:35 ไข้ครับเพราะฉะนั้นเนี่ยโดยส่วนตัวเนี่ย
00:15:35 → 00:15:39 ไม่ไม่ได้ใช้ยากลุ่มนี้เลยในในการปฏิบัติ
00:15:39 → 00:15:41 งานแต่ละวันแต่ที่หมอที่เขาต้องใช้งาน
00:15:41 → 00:15:44 กลุ่มนี้มากๆนจะเป็นหมออายุรกรรมนะครับ
00:15:44 → 00:15:46 ซึ่งนจะมีพวกกลุ่มหมออยุรกรรมโรคไตหมอ
00:15:46 → 00:15:50 อยุรกรรมโรคพ่อที่จะต้องจัดการรักษากลุ่ม
00:15:50 → 00:15:54 คนไข้ sle นะครับกลุ่มคนไข้โรครูมาตอยโรค
00:15:54 → 00:15:56 โกข้อจากภูมิคุ้มกันที่ผิดปกตินะครับซึ่ง
00:15:56 → 00:15:58 อันนี้เป็นความจำเป็นจริงๆที่ต้องใช้ยาก
00:15:58 → 00:16:01 กลุ่มนี้แล้วก็จริงๆเนี่ยทางหมออายุรกรรม
00:16:01 → 00:16:03 เนี่ยหมอเชื่อมว่าทุกคนเเขาทราบอยู่นะ
00:16:03 → 00:16:05 ครับว่าเตียรอยไม่ดีเขก็พยายามที่จะปรับ
00:16:05 → 00:16:09 ยาลดลงพยายามติดตามอาการไม่ว่าจะต้องเจาะ
00:16:09 → 00:16:12 เลือดนะครับดูการทำงานของไตนะครับดูพวก
00:16:12 → 00:16:15 อาจจะต้องตรวจปัสสาวะนะครับเพื่อดูว่า
00:16:15 → 00:16:18 ปัสาวะนี่มีความผิดติมากขึ้นหรือเปล่าไมี
00:16:18 → 00:16:20 สมดุลเือนแรกที่ผิดปกติหรือเปล่าอะไร
00:16:20 → 00:16:22 อย่างงี้ครับซึ่งอันนี้หมอเชื่อมั่นว่า
00:16:22 → 00:16:24 หมออยุรกรรมในประเทศไทยเนี่ยทุกคนเนี่ย
00:16:24 → 00:16:27 เขามีเมีความคิดเหมือนกันว่าจะไม่ต้องทาน
00:16:27 → 00:16:31 ยาพนี้มากเกินไปจะไม่จำเป็นซึ่งก็จะต้อง
00:16:31 → 00:16:35 ดูอย่างใกล้ชิดแน่นอนครับอืค่ะค่ะแล้วถ้า
00:16:35 → 00:16:38 เป็นอันเนี้ยค่ะพอดีคุณผู้ฟังสอบถามเข้า
00:16:38 → 00:16:41 มาค่ะคุณหมอคะถ้าเป็นเกี่ยวกับเรื่องของ
00:16:41 → 00:16:45 ยาทาลคะคุณหมอคะเป็นยาทาผิวหนังอักเสบอ่ะ
00:16:45 → 00:16:48 ค่ะแล้วทีเนี้ยคุณผู้ฟังบอกว่าคุณหมอให้
00:16:48 → 00:16:50 ยาทามีส่วนผสมของสเตียรอยด์จะเป็นอันตราย
00:16:50 → 00:16:54 ไหคะจริงๆนะครับถ้าเกิดเป็นยาทาหรือเป็น
00:16:54 → 00:16:57 ทาเฉพาะที่นะครับการใช้ยาทาเฉพาะที่ตาม
00:16:57 → 00:17:00 ผิวหนังเนี่ยส่วนใหญ่แล้วจะออกลิกเนี่ยใน
00:17:00 → 00:17:02 พื้นที่นั้นนะครับการดูดซึมเข้าสู่กระแส
00:17:02 → 00:17:05 เลือดแล้วจะไปรบกวนเรื่องของระบบการทำงาน
00:17:05 → 00:17:08 ของร่างกายเนี่ยพูดตรงๆว่าน้อยมากนะครับ
00:17:08 → 00:17:12 ซึ่งหมอผิวหนังที่เขาให้ยากลุ่มเยก็คงคิด
00:17:12 → 00:17:15 ละเอียดีถ้วนแล้วครับว่าจำเป็นต้องใช้ยา
00:17:15 → 00:17:18 เสตียรอยด์ในเคสนี้นะครับซึ่งพวกนี้ก็หมอ
00:17:18 → 00:17:21 ๆก็คงจะควรก็คงจะบอกนะครับว่าก็คือทา
00:17:21 → 00:17:24 เมื่อมีอาการถ้าอาการหมดไปแล้วก็อาจจะ
00:17:24 → 00:17:27 ต้องหยุดทาชากลุ่มนี้ครับ
00:17:27 → 00:17:30 อ๋อหมายถึงว่าถ้าอาการหายคว่าใช่ครับแต่
00:17:30 → 00:17:32 ว่าแต่ละโรคก็ไม่เหมือนกันนะครับอันนี้
00:17:32 → 00:17:35 คิดว่าจะต้องปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพราะว่า
00:17:35 → 00:17:37 แต่ละคนแต่ละโรคเนี่ยก็จะมีความแตกต่าง
00:17:37 → 00:17:40 กันนะครับแต่ว่าส่วนใหญ่หมอผี่นังเก็ทราบ
00:17:40 → 00:17:42 อยู่แล้วครับว่าการใช้ยาเตียรอยดมากๆทาน
00:17:42 → 00:17:45 นานๆเนี่ยก็จะมีผลกับเนื้อเยื่อถือหนัง
00:17:45 → 00:17:47 ได้เช่นกันครับผมอ
00:17:47 → 00:17:52 อ๋อค่ะมีคำถามอีกคำถามค่ะคุณผู้ฟังก็ถาม
00:17:52 → 00:17:55 เข้ามาเกี่ยวเกี่ยวกับเรื่องสเตียรอยด์
00:17:55 → 00:17:58 แต่เป็นในเรื่องของยาทาเหมือนกันค่ะคุณ
00:17:58 → 00:18:03 หมอคือคุณผู้ฟังถามเข้ามาว่าเอ่อตอนเนี้ย
00:18:03 → 00:18:06 นะคะเป็นผู้ฟคุณผู้ฟังวัยเกษียณแล้วคือ
00:18:06 → 00:18:09 เมื่อ 2 เดือนมาเนี้ยค่ะคือรอบดวงตาของ
00:18:09 → 00:18:12 คุณผู้ฟังเนี่ยนะคะแห้งแล้วก็แดงมากๆเลย
00:18:12 → 00:18:16 ไม่ทราบว่าแพ้อะไรค่ะแต่บังเอิญไปตรวจดวง
00:18:16 → 00:18:19 ตาประจำเนี่ยนะคะแล้วหมอก็บอกว่าอาจจะแพ้
00:18:19 → 00:18:23 เครื่องสำอางทีนี้หมอก็เลยให้ครีมที่มียา
00:18:23 → 00:18:27 สเตียรอยมาทาดวงตา 1 สัปดาห์ปรากฏว่าทา
00:18:27 → 00:18:31 แล้วตาไม่แห้งนะคะแล้วก็เหมือนว่าอาการ
00:18:31 → 00:18:34 หายแล้วก็ดีขึ้นนะค่ะเขาก็เลยถามว่าแล้ว
00:18:34 → 00:18:38 จะต้องทาต่อไปมั้ยคะหรือจะต้องหรือจะต้อง
00:18:38 → 00:18:41 หยุดหรือว่าทาแค่สั้นๆคะจริงๆอันนี้หมอ
00:18:41 → 00:18:44 หมอไม่ได้ตรวจคนไข้และประเมินเนาะแล้วก็
00:18:44 → 00:18:46 เพที่ฟังจากประวัติเนี่ยเคสนี้เหมือนจะ
00:18:46 → 00:18:49 เป็นกึ่งๆเคสทางผิวหนังด้วยนะครับอันนี้
00:18:49 → 00:18:52 หมอจริงๆแนะนำต้องไปปรึกษาแพทย์ที่ที่
00:18:52 → 00:18:54 เป็นเจ้าของไข้นะครับแล้วคิดว่าถ้าเกิด
00:18:54 → 00:18:56 เป็นแบบทาแล้วประมาณแค่ 1 สัปดาห์เนี่ย
00:18:56 → 00:19:00 ไม่น่าจะเกิดผลอะไรในระบบร่างกายหรอกครับ
00:19:00 → 00:19:02 เพราะมันเป็นการใช้ยาเฉพาะที่ไม่ใช่เป็น
00:19:02 → 00:19:05 แบบการกินเข้าไปนะครับซึ่งยากินมันจะดูด
00:19:05 → 00:19:08 ตึมทั้งระบบทางร่างกายการใช้ยาคาจริงๆดูด
00:19:08 → 00:19:12 ซึมน้อยมากๆนะครับแล้วก็ักจะเราหวังผลการ
00:19:12 → 00:19:15 รักษาเฉพาะที่เท่านั้นเองครับผมอค่ะคือ
00:19:15 → 00:19:19 ถ้าฟังแบบฟังแบบนี้แล้วอ่ะค่ะก็คือการการ
00:19:19 → 00:19:22 กินเข้าไปเนี่ยอันตรายกว่าดูอันตรายกว่า
00:19:22 → 00:19:26 ถูกมั้ยคะกว่าทาถูกต้องครับทานี่ทานี่มัน
00:19:26 → 00:19:29 ดุดซึมน้อยครับต้องทาเยอะจริงๆะทานานจริง
00:19:29 → 00:19:32 ๆอ่ะอันนั้นน่าจะเกิดปัญหาได้ครับผมแต่
00:19:32 → 00:19:34 ว่าแต่ละคนแต่ละโรคเหมือนที่หมอกล่าวนะ
00:19:34 → 00:19:36 ครับว่าควรปรึกษาหมอเจ้าของใครนะครับ
00:19:36 → 00:19:38 เพราะว่าหมอเองก็ไม่ได้ตรวจเขาแล้วเราก็
00:19:38 → 00:19:41 ไม่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังนะครับไม่
00:19:41 → 00:19:44 สามารถสรุปได้นะครับค่ะมีคำถามเขมาเรื่อย
00:19:44 → 00:19:47 ๆเลยค่ะคุณหมอคะครับยินดีครับผมค่ะคุณผู้
00:19:47 → 00:19:50 ฟังถามว่าคุณแม่เคยเปลี่ยนไตแล้วก็ได้รับ
00:19:50 → 00:19:54 ยาสเตียรอยด์ครั้งละเอ่อได้รับยา
00:19:54 → 00:19:57 สเตียรอยด์เนี่ยค่ะมา 10 ปีแล้วจะมีผลต่อ
00:19:57 → 00:19:59 กระดูกบวางมั้ยคะ
00:20:00 → 00:20:04 เอ่อกี่ปีนะครับทาน 10 ปีค่ะตอนนี้ยังทาน
00:20:04 → 00:20:08 ยามั้ยครับคาดว่าน่าจะยังทานอยู่ค่ะ
00:20:08 → 00:20:10 อาจารย์ทานอยู่ถ้าถ้าถ้าทานยาอยู่เนี่ย
00:20:11 → 00:20:13 คิดว่าอาจจะต้องไปตรวจประเมินนะครับว่า
00:20:13 → 00:20:16 ตัวกระดูกเนี่ยเป็นยังไงนะครับจริงนี้ก็
00:20:16 → 00:20:19 ต้องควรปรึกษาคุณหมอไปนะครับว่าอ่าจะ
00:20:19 → 00:20:22 สามารถลดปริมาณการใช้กลุ่มยาเสตียรอยพวก
00:20:22 → 00:20:25 นี้ได้หรือไม่นะครับถ้าเกิดลดได้ก็จะดี
00:20:25 → 00:20:28 มากแต่ถ้าเกิดจำเป็นต้องทานจริงๆเนี่ยก็
00:20:28 → 00:20:30 คราวนี้จะต้องมาเ่อเจอหมอกระดูกนะครับ
00:20:31 → 00:20:33 เพื่อตรวจประเมินเเรียกว่าตรวจวัดมวล
00:20:33 → 00:20:36 กระดูกนะครับประจำปีเลยต้องทำทุกปีเลย
00:20:36 → 00:20:39 เพื่อประเมินว่ากระดูกเนี่ยมันบางมากมั้ย
00:20:39 → 00:20:42 เข้าสู่ภาว่ากระดูกพุนหรือไม่ซึ่งถ้าเกิด
00:20:42 → 00:20:44 กระดูกเริ่มเป็นอย่างนั้นแล้วเนี่ยก็อาจ
00:20:44 → 00:20:46 จะต้องเริ่มรักษากระดูกพุนแบบจริงจังนะ
00:20:46 → 00:20:51 ครับออเหมือนรักษา 2 ต่อเลยมั้ยคะเนาะคือ
00:20:51 → 00:20:53 ถูกต้องครับคือบางคนเก็มีความจำเป็นน่ะนะ
00:20:53 → 00:20:56 ครับว่าจะต้องต้องทานยาเหมือนที่หมอกล่าว
00:20:56 → 00:20:59 เพราะว่าหลายๆโรเมันก็สเตียรอยเนี่ยมัน
00:20:59 → 00:21:02 เป็นยาที่มันจำเป็นในบางโลกจริงๆแล้วก็
00:21:02 → 00:21:04 มันมันหยุดไม่ได้ในบางเคสนะครับหยุดปุ๊บ
00:21:04 → 00:21:07 อาการเห่อเพราะฉะนั้นเนี่ยคนไข้คนไข้
00:21:07 → 00:21:09 กลุ่มเนี่ยยจะเป็นคนไข้ที่ค่อนข้างน่า
00:21:10 → 00:21:12 สงสารนะครับแล้วก็คนไข้กลุ่มเนี่ยก็ควรจะ
00:21:12 → 00:21:15 ต้องได้รับเนี่ยความรู้นะครับแล้วก็อาจจะ
00:21:15 → 00:21:17 ต้องมีการตรวจประเมินโดยละเอียดโดยหมอผู้
00:21:17 → 00:21:19 เชี่ยวชาญนะครับแต่ถ้าเกิดว่ากระดูกใหม่
00:21:19 → 00:21:22 หมอตอนนี้ที่กินเซรอยมากๆก็ในโรคกระดูก
00:21:22 → 00:21:24 ที่หมอรับผิดชอบเนี่ยก็ต้องคนมาตรวจเ
00:21:24 → 00:21:26 เรียกว่าตรวจมวลกระดูกนะครับเก็จะตรวจที่
00:21:27 → 00:21:29 โรงพยาบาลว่าจะตรวจเป็นการคล้ายๆกึ่ง
00:21:29 → 00:21:31 เครื่องเยนะครับจะตรวจบริเวณกระดูกฉัน
00:21:31 → 00:21:34 หลังนะครับแล้วก็ตรงกระดูกสะโพกนะครับถ้า
00:21:34 → 00:21:36 กระดูกเนี่ยมีภาวะกระดูกพุนแล้วเนี่ยหมอ
00:21:37 → 00:21:39 ก็จะพิจารณาเรื่องของให้ยากระดูกพุนโดย
00:21:39 → 00:21:41 ตรงนะครับซึ่งไม่ใช่แคลเซียมไม่ใช่
00:21:41 → 00:21:44 วิตามินดีนะครับจะเป็นยารักษาทางกระดูก
00:21:44 → 00:21:47 พุนโดยตรงที่มีมากมายนะครับอืครับผม
00:21:47 → 00:21:50 อาจารย์ขาถ้ามองในมุมของโรคของโรคกระดูก
00:21:51 → 00:21:55 และข้อเนี่ยค่ะอาจารย์ถ้าไม่ใช้ยาที่มีสา
00:21:55 → 00:21:57 สเตียรอยด์มันมีตัวเลือกอื่นมั้ยคะ
00:21:57 → 00:22:00 อาจารย์จริงๆมีมากมายเลยครับสเตียรอยนี่
00:22:00 → 00:22:03 เป็นแค่แค่ตัวนึงซึ่งอาจจะมีบางหมอหรือ
00:22:03 → 00:22:06 บางคนเนี่ยเอามาใช้เพื่อเพื่อเร่งความ
00:22:06 → 00:22:10 เร็วของการหายจริงๆยาพวกแก้ปวดกระดูกและ
00:22:10 → 00:22:12 ข้อเนี่ยในโลกใบนี้มีหลายกลุ่มมากเลยครับ
00:22:12 → 00:22:15 ยาที่ดีๆมากมายเริ่มต้นก็เป็นเช่นกลุ่ม
00:22:15 → 00:22:17 พาราเซตามอลนะครับที่เป็นยาพื้นฐานสามัญ
00:22:17 → 00:22:20 ประจำบ้านเป็นยากลุ่มแก้อักเสบที่ไม่
00:22:20 → 00:22:22 สเตียรอยด์นะครับเช่นถ้าเกิดทางการแพยเล
00:22:22 → 00:22:25 กลุ่มเช่นอาจจะเป็นยาโวทานนะครับยา
00:22:25 → 00:22:27 ไอบูเฟนพวกนี้นะครับซึ่งพวกนี้เป็นยาพื้น
00:22:27 → 00:22:30 ฐานนะครับที่ใช้ได้นะครับแล้วจะมีพวก
00:22:30 → 00:22:32 กลุ่มยาคลายกล้ามเนื้อนะครับแล้วมียาแก้
00:22:32 → 00:22:35 ปวดกลุ่มพวกฝิ่นเป็นอนุพันธ์ฝิ่นพวกเนี้ย
00:22:35 → 00:22:38 มันก็มีเยอะจริงๆนะครับซึ่งโรคใบนี้มียา
00:22:38 → 00:22:42 อื่นๆที่ใช้รักษาทากลิและข้อได้มากมายไม่
00:22:42 → 00:22:45 จำเป็นจะต้องไปทานเียรอยด์นะครับอืแสดง
00:22:45 → 00:22:47 ว่ามันมีตัวเลือกให้ใช้อีกเยอะแยะเลยแต่
00:22:47 → 00:22:51 ว่าก็ขึ้นอยู่กับการอ่าจ่ายยาหรือว่าการ
00:22:51 → 00:22:54 วินิจฉัยของแพทย์ที่เขาจะพิจารณาจ่ายยา
00:22:54 → 00:22:56 ให้คนไข้นะคะอาจารย์ใช่ครับผมถูกต้องครับ
00:22:56 → 00:23:01 ผมอือืแต่ว่าที่ที่มีบางส่วนเขาเลือกใช้
00:23:01 → 00:23:03 หรือเลือกจ่ายยาสเตรอยด์ให้กับคนไข้เนี่
00:23:03 → 00:23:07 เป็นเพราะว่ามันเห็นผลวแล้วมันก็หมายถึง
00:23:07 → 00:23:10 ว่าลดเวลาการรักษามั้คะอาจารย์หรือว่ายัง
00:23:10 → 00:23:12 ไงสุดท้ายแล้วก็ต้องกลับไปอีกก็ก็มันแล้ว
00:23:12 → 00:23:15 แต่เคสนะครับก็อาจจะเห็นผลไวยนี่แหละครับ
00:23:15 → 00:23:17 ที่เป็นสิ่งที่เป็นสำคัญที่เขาต้องการนะ
00:23:17 → 00:23:20 ครับแล้วก็อาจจะทำให้คนไข้มีความรู้สึก
00:23:20 → 00:23:23 ว่าเอ่อรักษาแล้วหายเร็วจังเลยหายดีจัง
00:23:23 → 00:23:26 เลยหมอเก่งจังเลยร้านยานี้ดีจังเลยเงี้ย
00:23:26 → 00:23:29 ให้กลับมากลับมาวิสิตใหม่กลับมากรบใหม่เ
00:23:29 → 00:23:32 อาจจะเป็นเทคนิคทางการตลาดอะไรประมาณนี้
00:23:32 → 00:23:35 ซึ่งจริงๆพวกนี้ก็เห็นมานานตั้งแต่ตั้ง
00:23:35 → 00:23:37 แต่ไหนแต่ลซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่นะครับ
00:23:37 → 00:23:40 ค่ะหมอตรวจทุกวันนี้ก็ก็เจอเจอทุกอาทิตย์
00:23:40 → 00:23:42 แล้วครับไอ้สเตียรอยที่พกมาโดยไม่จำเป็น
00:23:42 → 00:23:46 เนี่ยครับออแสดงว่าไปรับสเตียนลอยที่อื่น
00:23:46 → 00:23:49 มาแล้วมาหาอาจารย์คก็คือหมอเนี่ยมีทั้ง
00:23:49 → 00:23:51 หมอรุ่นเสารและหมอรุ่นใหม่ที่ใช้พวกนี้นะ
00:23:51 → 00:23:54 ฮซึ่งผมว่าหมอรุ่นใหม่นี่มันไม่ควรจะใช้
00:23:54 → 00:23:56 ยาพวกนี้แล้วครับมันมันไม่ค่อยถูกต้อง
00:23:57 → 00:23:58 ครับคิดง่ายๆเหมนที่ที่หมอกล่าวว่าถ้า
00:23:58 → 00:24:01 เป็นคุณแม่คุณคุณพ่อคุณเป็นญาคุน้องเราก็
00:24:01 → 00:24:04 คไม่อยากให้ทานพวกเียลอยโดยไม่มีเหตุผลนะ
00:24:04 → 00:24:07 ครับเไม่ได้ใช้กันเป็นยาที่เป็นยาแรกๆใน
00:24:07 → 00:24:11 รักรักษาเรื่องปวดืออักเสบนะครับอือค่ะ
00:24:11 → 00:24:14 ให้ยาแรงแต่ว่าผลกระทบในระยะยาวอาจจะไม่
00:24:14 → 00:24:17 ได้คำนึงถึงขนาดนั้นกันนะคะอาจารย์ก็เลย
00:24:17 → 00:24:20 จ่ายกันใหญ่เลยสเตียรอยอืคือคือบางคนก็
00:24:20 → 00:24:22 อาจจะคิดว่าถ้ายาสั้นๆเนาะไม่กี่วันอาจจะ
00:24:22 → 00:24:25 ไม่เป็นไรหรจริงๆเนี่ยบางคนคนไข้ก็อาจจะ
00:24:25 → 00:24:27 กินมาก่อนหน้านั้นแล้วก็ได้หรือว่าคนไข้
00:24:27 → 00:24:30 จะมีเนี่ยครับมีเบาหวานมีเรื่องอื่นต้อน
00:24:30 → 00:24:32 อยู่มีหลายหหลายปัจจัยที่ที่เี่ยงกับการ
00:24:32 → 00:24:35 ให้เซียลอยไอ้พวกนี้ก็ไม่ควรจะให้ถูกมั้ย
00:24:35 → 00:24:38 ครับอครับผมแล้วแล้วอีกหนึ่งตัวค่ะที่
00:24:38 → 00:24:43 สงสัยอย่างยารักษาสิวอ่ะค่ะคุณหมอคะมี
00:24:43 → 00:24:46 สเตียรอยด์มั้ยคะคือเราเคยได้ยินกันมาว่า
00:24:46 → 00:24:49 แบบกินยารักษาเสียวแล้วเสิวมันหายไว
00:24:49 → 00:24:52 เดี๋ยวระวังหน้าติดสเตียรอยด์นะต้องกิน
00:24:52 → 00:24:55 เรื่อยๆอะไรอย่างเงี้ยค่ะออันนี้อันนี้
00:24:55 → 00:24:58 มันแล้วแต่ยามันก็มีหลายตัวนะครับยารักษา
00:24:58 → 00:25:01 สิวเนี่ยจริงๆก็จะเป็นกลุ่มสเตียรอยด์
00:25:01 → 00:25:04 หรือว่าจะเป็นกลุ่มที่เป็นยารักษาสิวบวก
00:25:04 → 00:25:06 สเตียรอยด์ก็จะทำใหม่นะครับคือยามันมีแบค
00:25:06 → 00:25:09 เทิกยายาที่มันร่วมกันหลายๆตัวเลๆเดียว
00:25:09 → 00:25:12 อะไรอย่างเงี้ครับซึ่งพวกเนี้ยเอาตรงๆก็
00:25:12 → 00:25:15 คือตัวหมอเองก็ไม่สามารถจะไปสรุปได้ว่า
00:25:15 → 00:25:17 เป็นทางด้านของหมอผิวหนังเนาะแต่ว่าโดย
00:25:17 → 00:25:20 ส่วนตัวเนี่ยถ้าเกิดสิวมันอาการเบาลงอะไ
00:25:20 → 00:25:22 เงี้ยส่วนใหญ่เขาก็จะเอายาออกอยู่แล้ว
00:25:22 → 00:25:24 ครับไม่มีใครทานยาพวกเนี้ยแบบนานๆเลยก็คง
00:25:24 → 00:25:29 จะไม่เหมาะสมครับผมอือ๋อหมายถึงว่าในยาใน
00:25:29 → 00:25:32 ยาสิวเนี่ยก็คือมีส่วนผสมของสเตียรอยด์
00:25:32 → 00:25:34 บ้างหมายถึงว่าแล้วแต่แล้วแต่ตัวใช่มั้ยค
00:25:34 → 00:25:36 อันนี้บางตัวก็ไม่ใช่สเตียรอยนะครับบาง
00:25:36 → 00:25:39 ตัวก็จะอย่ามีบ้างซึ่งผมว่าถ้าเป็นหมอผิว
00:25:39 → 00:25:41 หนังเชี่ยวชาญเฉพาะด้านผิวหนังจริงๆเนี่ย
00:25:41 → 00:25:43 เพก็คณไม่ได้ให้เตียลอยอยู่แล้วครับเจะมี
00:25:43 → 00:25:46 ยามากมายเหมือนกันนะมันมีวิธีอื่นในการ
00:25:46 → 00:25:48 รักษาโรคมากมายเราไม่มีความจำเป็นต้องไป
00:25:48 → 00:25:52 ให้เียรอยครับผมเออเนาะเพราะว่าสมัยสมัย
00:25:52 → 00:25:54 ที่ยังเป็นวัยรุ่นนะคะคุณหมอคือกินยา
00:25:55 → 00:25:58 รักษาสิวอ่ะเยอะมากแต่คือไม่ได้ไม่เคยดู
00:25:58 → 00:26:01 แบบว่าเค้าผสมส่วนผสมมีอะไรอะไรอย่าเงี้ย
00:26:01 → 00:26:03 ค่ะแต่กินนานนะคะคุณหมอคงไม่ใช่
00:26:03 → 00:26:07 สเตียรอยด์หรอกเนาะคือกินเป็นปีเลยนะคะ
00:26:07 → 00:26:10 ไม่ไม่น่าจะใช่ครับไม่น่าจะใช่ครับอื
00:26:10 → 00:26:14 อาจารย์ค่ะในในแวดวงหมอกระดูกด้วยกันนะคะ
00:26:14 → 00:26:16 มีการพูดถึงประเด็นนี้บ้างมั้ยคะหรือว่า
00:26:16 → 00:26:19 รณรงค์กันบ้างมั้ยคะสำหรับอาจจะมีแพทย์
00:26:19 → 00:26:23 บางท่านหมอบางคนที่อาจจะจ่ายยาสเตรอยด์
00:26:23 → 00:26:25 เกินความจำเป็นอย่างเงี้ยค่ะอาจารย์เอา
00:26:25 → 00:26:29 ตรงๆที่ทางการแพทย์นี่ก็ก็ตอบยากนะครับก็
00:26:29 → 00:26:31 คือจริงๆเราจบมาเนี่ยเขาก็ไม่ได้ให้สอน
00:26:31 → 00:26:35 ใช้เซรอยเป็นญญาลำดับแรกๆนะครับในการ
00:26:35 → 00:26:38 รักษาปวดรักษาเรื่องการอักเสบนะครับก็จะ
00:26:38 → 00:26:40 มียามากมายหรือมกล่าวไปนะครับแต่ว่าอัน
00:26:40 → 00:26:42 นี้เป็นเรื่องราวของแต่ละบุคคลเนาะในการ
00:26:43 → 00:26:46 ใช้ยาที่มันก็อาจจะเขาชอบสไตล์นี้อะไร
00:26:46 → 00:26:48 อย่างเงี้ยแต่จริงๆที่หมอเขียนคทนนี้มา
00:26:48 → 00:26:51 ที่ลงในสยามรัฐนะครับก็คือว่าเราอยาก
00:26:51 → 00:26:54 เตือนนะครับว่าให้สังเกตนะก็จ่ายมาก็ตัว
00:26:54 → 00:26:56 นี้ไม่ต้องกินก็ได้เนาะเพราะว่ามันเป็น
00:26:56 → 00:26:59 สเตียรอยมันอันตรายมันไม่เหมาะสมกินตัว
00:26:59 → 00:27:02 อื่นก็น่าจะโอเคกว่าเราอยากให้มีการการ
00:27:02 → 00:27:04 เค้าเรียกว่าได้รู้จักยาได้มีความรู้ว่า
00:27:04 → 00:27:07 เออยากลุ่มเเป็นยังไงสังเกตยังไงนะครับ
00:27:07 → 00:27:10 ซึ่งพวกนี้น่าจะมีประโยชน์กับทุกคนนะครับ
00:27:10 → 00:27:12 ก็เลยตัดสินใจเขียนเรื่องนี้ไปครับผม
00:27:12 → 00:27:15 อาจารย์แต่ว่าถ้าเป็นคนไข้ทั่วไปหรือเป็น
00:27:15 → 00:27:18 ชาวบ้านอย่าเงี้ยค่ะอาจารย์เอ่อนอกจาก
00:27:18 → 00:27:20 วิธีการสังเกตอย่างที่อาจารย์เล่าให้ฟัง
00:27:20 → 00:27:22 ไปเมื่อสักครู่เนายา 2 ตัวัก 2 ลักษณะ
00:27:22 → 00:27:25 นั้นแล้วค่ะมันมีวิธีการสังเกตอื่นๆอีก
00:27:25 → 00:27:28 มั้ยที่เขาจะรู้ได้ว่าไยาที่เได้รับมา
00:27:28 → 00:27:30 เนี่ยมันมีสเตียรอยด์นะอะไรอย่างเงี้ย
00:27:30 → 00:27:32 แล้วเราก็มีสิทธิ์เลือกที่เราจะไม่รับยา
00:27:32 → 00:27:35 ที่มีสเตียรอยด์ได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะจริง
00:27:35 → 00:27:38 ๆหมอว่าจริงๆถามโดยตรงเลยก็นะครับว่ายา
00:27:38 → 00:27:40 ที่ให้มานี่เป็นเซรอยหรือเปล่าออืคือถ้า
00:27:40 → 00:27:44 เกิดเราเราไปทักเค้าเนาะหมอชื่อว่าล้านยา
00:27:44 → 00:27:47 หรือหมอก็ไม่กล้าจะจ่ายอเป็นคามหมายแล้ว
00:27:47 → 00:27:50 เนาะพักเฉยๆเลยง่ายๆเป็นเหมือนจิต
00:27:50 → 00:27:52 จิตวิทยาเนาะทักปุ๊บเอ้ยเราไม่กิน
00:27:52 → 00:27:55 สเตียรอยด์นะกสเตียรอยด์หรือเปล่าแค่นี้
00:27:55 → 00:27:58 หมอว่าเค้าก็คงไม่กล้าจ่ายแล้วครับ
00:27:58 → 00:28:01 ผู้ปวนไนะคะอาจารยว่าเรามีสิทธเลือกที่
00:28:01 → 00:28:04 เราจะไม่ทาสอยก็อีกอย่างนึงสุดท้ายคือ
00:28:04 → 00:28:07 เรื่องของการดูฉลากยาเนาะเพราะว่าฉลากยา
00:28:07 → 00:28:09 เดี๋ยวพอปีหน้านะครับก็จะมีการปรับ
00:28:09 → 00:28:13 เปลี่ยนตามกฎหมายเจะมีการเขียนชื่อยาโดย
00:28:13 → 00:28:16 ละเอียดนะครับในการเ่อออกฉลากยาไม่ว่าจะ
00:28:16 → 00:28:19 เป็นจากร้านยาหรือจากคลินิกหรือจากโรง
00:28:19 → 00:28:21 พยาบาลนะครับซึ่งพวกนี้ก็จะต้องระบุว่ายา
00:28:21 → 00:28:24 เรียกคนไข้คือยาอะไรนะครับความแรงเท่า
00:28:24 → 00:28:26 ไหร่นะครับซึ่งอนี้ก็น่าจะมีประโยชน์เช่น
00:28:26 → 00:28:30 กันในการอ่านดูนะครับว่ามีกลุ่มเินหรือ
00:28:30 → 00:28:33 เปล่ามีเก่าเานหรือเปล่าถ้ามี 2 ตัวนี้ก็
00:28:34 → 00:28:37 ก็ไม่ควรจะทานนะครับถ้าไม่จำเป็นอ๋อเจะ
00:28:37 → 00:28:39 เริ่มปีหน้าเหรอคะอาจารย์ฉลากยาบัละเอียด
00:28:39 → 00:28:42 เริ่มปีหน้าครับเริ่มปีหน้าครับอืเป็นกฎ
00:28:42 → 00:28:45 หมายครับชัดเจนครับอันนี้ก็ก็ทางแพทย์ทุก
00:28:45 → 00:28:48 คนก็พยายามปรับอยู่นะครับค่ะอืเห็นคุณผู้
00:28:48 → 00:28:52 ฟังพิมพ์เข้ามาบอกว่าเดี๋ยวนี้ไม่มีเพิลน
00:28:52 → 00:28:56 ขายตามร้านขายยาแล้วค่ะใช่มั้ยคะคุณหมอ
00:28:56 → 00:28:59 เอ่อจริงๆเควบคุมนะครับแต่เอาเข้าจริงๆ
00:28:59 → 00:29:02 เนี่ยก็บางร้านก็ยังมีจ่ายอยู่นะครับอ๋อ
00:29:02 → 00:29:04 รับประกันว่ามีแน่นอนทุกจังหวัดในประเทศ
00:29:04 → 00:29:07 ไทยแน่นอนนะครับก็แล้วแต่ร้านนะครับมีการ
00:29:07 → 00:29:10 ควบคุมแต่ว่าก็มีหลุดๆบ้างครับเพราะยาพวก
00:29:10 → 00:29:15 นี้มันก็มันมาได้หลายทางนะครับครับผมอืโ
00:29:15 → 00:29:18 หายไวได้ผลเร็วแต่ว่าระยะยาวนี่ก็ผลกระทบ
00:29:18 → 00:29:23 เยอะแยะไปหมดเลยนะคะอครับผมค่ะอยากอยาก
00:29:23 → 00:29:25 ถามคุณหมอค่ะอย่างอาการเบื้องต้นของที่
00:29:25 → 00:29:28 บอกว่ากระดูกพุนบางคนอาจจะไม่ได้ไปตรวจ
00:29:28 → 00:29:31 มวลกระดูกอะไรอย่างเงี้ยค่ะอย่างอย่างคุณ
00:29:31 → 00:29:35 แม่สามีก็เห็นอยู่บ่อยครั้งที่ทานสเตีย
00:29:35 → 00:29:37 แบบไม่รู้ว่าเป็นสเตียเรามั้แต่เป็นยาชุด
00:29:37 → 00:29:41 อ่ะก็คงใช่คือแบบอาการเบื้องต้นถ้าจะ
00:29:41 → 00:29:44 โหม่งชิว่าเขาแบบควรจะไปตรวจมวลกระดูก
00:29:44 → 00:29:47 มั้ยหรือเป็นกระดูกพุนจะอาการแรกเริ่มแบบ
00:29:47 → 00:29:49 ไหนอ่ะคะโอเคยินดีมากเลยครับจริงๆเนี่ย
00:29:49 → 00:29:51 ร่มกระดูกพุนนี่เป็นเรื่องเรื่องใหญ่มาก
00:29:51 → 00:29:54 นะครับของของทางกระดูกและข้อเนาแล้วก็ตอน
00:29:54 → 00:29:57 นี้ทางประเทศไทยเราก็คือเข้าสู่สังคมผู้
00:29:57 → 00:30:00 สูงอายุอย่างสมบูรณ์แบบซึ่งประชากรสผู้
00:30:00 → 00:30:03 สูงวัยเยอะมากจริงๆคราวนี้ไอ้โรคกระดูก
00:30:03 → 00:30:05 พรนเนี่ยมันจะเป็นโรคที่แบบเเรียกเป็นภัย
00:30:05 → 00:30:09 เงียบค่ะเงียบเพราะว่าไม่ค่อยแสดงอาการออ
00:30:09 → 00:30:12 แสดงอาการเมื่อเมื่อช้าไปแล้วเช่นล้มแล้ว
00:30:12 → 00:30:16 กระดูกหักเเรือกระดูกพุนอค่ะเพราะว่า
00:30:16 → 00:30:18 กระดูกพุนเนี่ยมันจะไม่รู้ตัวสักเท่าไหร่
00:30:18 → 00:30:20 ครับถามว่าจะสังเกตได้แบบเป๊ะๆเลยมั้ย
00:30:20 → 00:30:24 เนี่ยมันก็อาจะไม่ได้ 100% จริงๆถ้าเกิด
00:30:24 → 00:30:27 คนไทยนะครับถ้าเป็นผู้หญิงอายุเกิน 65 ปี
00:30:27 → 00:30:30 อืผู้ชายอายุเกิน 70 ปีแนะนำให้ไปตรวจมวล
00:30:30 → 00:30:33 กระดูกทุกคนนะครับอันนี้เป็นเเรียกว่า
00:30:33 → 00:30:37 เป็นเอแนวทางการแนะนำคนไข้นะครับในกลุ่ม
00:30:37 → 00:30:39 ผู้สูงไวยนะครับคราวนี้มันก็จะมีการตรวจ
00:30:39 → 00:30:42 ละเอียดมากมายเลยนะครับมันมีหลายอย่างมาก
00:30:42 → 00:30:45 มันมีจริงๆมันมีแอปในมือถือนะครับเรียกแส
00:30:45 → 00:30:49 นะครับเรียก f f fr นะครับแล้วก็มี R
00:30:49 → 00:30:53 Roger นะครับ a แล้วก็ x นะครับ x ก็คือ
00:30:53 → 00:30:55 พวกนี้มันจะเป็นเหมือนการคำนวณสกอคร่าวๆ
00:30:55 → 00:30:58 นะครับว่าเนี่ยเราเฉี่ยงกระดูกพุนมั้มัน
00:30:58 → 00:31:00 จะมีรายละเอียดจริงๆลองไปกดอ่านมันมี
00:31:00 → 00:31:03 เวอร์ชั่นภาษาไทยเลยนะครับก็สามารถคำนวณ
00:31:03 → 00:31:05 ได้คร่าวๆนะครับแล้วก็จริงๆถ้าเกิดจริงๆ
00:31:05 → 00:31:07 ทางกระทรวงสาธารณสุขเนี่ยเขาก็พยายาม
00:31:07 → 00:31:09 รณรงค์เรื่องนี้นะครับในในช่วงนี้แล้วก็
00:31:09 → 00:31:12 ปีต่อไปปีตต่อไปเพราะว่าเอ่อจะให้แบบทาง
00:31:12 → 00:31:15 เวหมอวิทยศาสตร์ครอบครัวหรือว่าหมอในโรงบ
00:31:15 → 00:31:18 ชุมชนเนี่ยสามารถประเมินตรงเนี้ยเป็นการ
00:31:18 → 00:31:21 เบื้องต้นเป็นการสกรีนตรวจเบื้องต้นนะ
00:31:21 → 00:31:23 ครับว่าคนไ้มีความเสี่ยงกระดูกพุนหรือไม่
00:31:23 → 00:31:25 ถ้าเกิดมีความเสี่ยงกระดูกพุนเนี่ยก็อาจ
00:31:25 → 00:31:28 จะเริ่มสตาร์ยาเลยหรือว่าอาจจะต้องส่งต่อ
00:31:28 → 00:31:31 ไปให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญแพทย์กระดูกและข้อ
00:31:31 → 00:31:33 นะครับส่วนเรื่องอาการเนี่ยอาการเนี่ยบาง
00:31:33 → 00:31:36 คนก็จะมีเรื่องของ 1 นะครับอาจจะมีปวดตาม
00:31:36 → 00:31:39 ข้อต่อไม่ปวดเมื่อยได้ง่ายขึ้นนะครับอาจ
00:31:39 → 00:31:43 จะมีส่วนสูงที่ลดลงเตี้ยลงนะครับเตี้ยลง
00:31:43 → 00:31:45 นะครับแต่ว่าคือกรณีเป็นอย่างเงี้จริงๆ
00:31:45 → 00:31:47 ส่วนใหญ่ก็จะแบบเป็นค่อนข้างเยอะแล้วนะ
00:31:47 → 00:31:49 ครับเช่นส่วนสูงเตี้ยลงคือกระดูกสัหลัง
00:31:49 → 00:31:53 มันเ่อยุบตัวลงค่อยๆยุบเช่นเคยเห็นคนสวน
00:31:53 → 00:31:56 อยู่ที่หลังค่อมใช่่มครับคคอ่าอันนั้นใช่
00:31:56 → 00:31:59 เลยคไหนหลังค่อมเนี่ยผมว่าเป็นเกือบ 100%
00:31:59 → 00:32:02 เอามาตรวจได้เลยออครับนหลังค่อมใช่ครับ
00:32:02 → 00:32:04 ครับใช่ครับไม่เกี่ยวกับคนนั่งหลังค่อม
00:32:04 → 00:32:07 ใช่มั้ยคะอาจารย์ไม่อันนั้นไม่เกี่ยวไม่
00:32:07 → 00:32:10 เกี่ยวไม่เกี่ยวค่ะแล้วก็คนไข้ผู้หญิงนะ
00:32:10 → 00:32:12 ครับถ้าเกิดเป็นผู้หญิงไวยหบดประจำเดือน
00:32:12 → 00:32:15 ถ้าเกิดหมดเนเกสัก 5 ปีนะครับอันนี้ก็แนะ
00:32:15 → 00:32:18 นำอจะต้องมาประเมินเรื่องของภาวะกระดูก
00:32:18 → 00:32:21 พูนอาจะใช้ตัวไอ้ frx หรือเรียกว่าแกสกอ
00:32:21 → 00:32:23 เนี่ยเหมือนเบื้องต้นแล้วถ้าเกิดมันมี
00:32:23 → 00:32:26 ความเสี่ยงจริงๆก็อาจจะไปตรวจเค้าเรียก
00:32:26 → 00:32:28 ว่าตรวจมวลกระดูกจริงๆจังๆนะครับซึ่ง
00:32:28 → 00:32:30 กระดูกพุนนี่เป็นเรื่องเรื่องใหญ่มากครับ
00:32:30 → 00:32:32 ไม่สามารถพูดจบแน่นอนวันนี้แล้วก็ถ้าเกิด
00:32:32 → 00:32:35 มันมีจริงๆเนี่ยมันก็ไม่ช่วยแค่กิน
00:32:35 → 00:32:39 แคลเซียมกินนมกินวิตามินดีแค่นี้มันมัน
00:32:39 → 00:32:41 ไม่พอเลยครับมันมันน้อยมากจริงๆมันต้อง
00:32:41 → 00:32:46 เป็นยาอืยารักษากระดูกพุ่นมันก็จะมียาลด
00:32:46 → 00:32:48 การทำลายกระดูกเป็นการชะลอการเสื่อมของ
00:32:48 → 00:32:51 กระดูกนะครับแล้วก็เป็นยาไปเพิ่มเนื้อ
00:32:51 → 00:32:54 กระดูกเพื่อให้กระดูกเนี่ยมันแบบแข็งแรง
00:32:54 → 00:32:56 ขึ้นงี้มันจะมียามากมายเลยจริงๆซึ่ง
00:32:57 → 00:32:59 แคลเซียมวิตามินดีพวกเนี้ยมันจะเป็นหนึ่ง
00:32:59 → 00:33:02 ในองค์ประกอบนะครับองค์ประกอบในการรักษา
00:33:02 → 00:33:04 นะครับแล้วก็อีกอย่างนึงคือเรื่องของการ
00:33:04 → 00:33:08 ป้องกันการถกล้มการบริหารร่างกายคือจริงๆ
00:33:08 → 00:33:10 เนี่ยแนะนำเลยถ้าเกิดคนสูงอายุนะครับก็
00:33:10 → 00:33:13 คืออยากให้ไปเล่นพวกลำไทยเก็กอ่ะครับออ
00:33:13 → 00:33:16 หรือว่าไปเดินค่ะแต่ลำไทเกกเนี่ยดูเหมือน
00:33:16 → 00:33:19 จะไม่เหนื่อยนะครับลองชวนดีเจทั้ง 2 ท่าน
00:33:19 → 00:33:21 ไปลองรำสชั่วโมงนะครับพอรับประกันเลย
00:33:21 → 00:33:24 ชั่วโมงนึงเหรอคะเหงื่อน่าจะท่วมเอ่อที่
00:33:24 → 00:33:27 พูดเนี่ยเพราะหมอเคยไปรำมาแล้วออตอนแรกก็
00:33:27 → 00:33:30 ดูเอ๊ะไม่เห็นจะเหนื่อยดูสโลว์โมชั่นดู
00:33:30 → 00:33:32 ช้าอะไรอย่าเงี้ยใช่ซึ่งดูมันไม่น่าจะมี
00:33:32 → 00:33:35 อะไรไม่น่าจเดี๋ยวเราไปวิ่งดีกว่าเล่น
00:33:35 → 00:33:38 บาสเกตบอลเป็นบอลดีกว่าแต่ลองไปรำดูครับ
00:33:38 → 00:33:40 รับประกันเหงื่อเหงื่อเต็มแน่นอนอโอ
00:33:40 → 00:33:43 เหงื่อมาเหมือนกันนะคะเพราะว่าเพราะว่าไท
00:33:43 → 00:33:46 เก็กมันเป็นการเกร็งกล้ามเนื้อครับออมัน
00:33:46 → 00:33:48 ต้องย่อต้องมีการเกร็งซึ่งพวกเนี้ยไอ้การ
00:33:48 → 00:33:50 เกร็งเนี่ย 1 มันได้โทนกล้ามเนื้อที่แข็ง
00:33:50 → 00:33:53 แรงขึ้นต่อมาเป็นการฝึกเ้าเรียกว่าเป็น
00:33:53 → 00:33:56 เหมือนฝึกเรื่องประสาทสัมผัสในร่างกาย
00:33:56 → 00:33:59 เข้าต่อนะครับว่าจะได้ป้องกันเรื่องการปก
00:33:59 → 00:34:02 ล้มได้ดีขึ้นจริงๆทางการแพทยมีศัพท์ว่า
00:34:03 → 00:34:05 Sensation จะเป็นแบบว่าการประสาทกับ
00:34:05 → 00:34:09 เรื่องของการเคลื่อนไหวการเดินการระวัง
00:34:09 → 00:34:11 เรื่องการล้มเนี่ยพวกนี้มันต้องมีการเทน
00:34:11 → 00:34:14 ซึ่งการรำไทเกนี่ดีมากอีกอย่างน้าง่ายๆก็
00:34:14 → 00:34:16 อจะเป็นเรื่องของการเดินเร็วๆเนาะเดิน
00:34:16 → 00:34:19 เร็วๆออกกำลังกายเดินเร็วบ้างช้าบ้างต้อง
00:34:19 → 00:34:22 แบบสลับไปสลับมานะครับึ่งจะช่วยเรื่องของ
00:34:22 → 00:34:25 เ่อกระตุ้นให้กระดูกมีความแข็งแรงแล้วก็
00:34:25 → 00:34:27 จะช่วยเสริมกล้ามเนื้อนะครับซึ่งกล้าม
00:34:27 → 00:34:29 เนื้อนี่สำคัญมากเลยถ้าเกิดกล้ามเนื้อเรา
00:34:29 → 00:34:32 พลังกล้ามเนื้อดีนะครับมันก็จะช่วยเรื่อง
00:34:32 → 00:34:34 ของลดแรงกระแทกนะครับแล้วก็กล้ามเนื้อดี
00:34:34 → 00:34:36 เนี่ยจะช่วยป้องกันเรื่องการอบรมได้ดี
00:34:36 → 00:34:39 ด้วยนะครับออเดี๋ยวค่อยหดุคุณนี่เป็น
00:34:39 → 00:34:42 เรื่องใหญ่จริงๆครับถ้าอยากฟัง๋ยค่อยมา
00:34:42 → 00:34:45 คุยกำลังจะบอกเลยว่าแอบจีบอาจารย์ไว้ล่วง
00:34:45 → 00:34:48 หน้าใช่เพราะว่าสนใจเรื่องกระดูกพุนใช่น
00:34:48 → 00:34:51 ค่ะจริงๆพผมผู้ฟังท่านใดเอยากฟังเรื่อง
00:34:51 → 00:34:54 กระดูกเรื่องใดก็ก็คอมเมนต์มาได้ครับก็
00:34:54 → 00:34:57 ฝากดีเจดูแล้วกันนะครับว่าเรื่องไหน่าสนจ
00:34:57 → 00:35:00 ได้นเอาจารมาคุเร่องกระดูกพเป็นการเฉพาะ
00:35:00 → 00:35:04 กันอีกนะรอบหน้านะอาจารยแต่ว่าสำหรับค่
00:35:04 → 00:35:06 คืนนี้อาจจะขอย้อนกลับมาเรื่องของ
00:35:06 → 00:35:08 สเตียรอยนิดนึงอาจารย์ประเด็นที่อาจารย์
00:35:08 → 00:35:12 อยากจะฝากทิ้งท้ายหรือว่าแนะนำกำชับไปถึง
00:35:12 → 00:35:16 อ่าเ้าเรียกอะไรผู้ใช้ยาทั้งหลายค่ะค่ะ
00:35:16 → 00:35:19 ครับผมก็จริงๆก็การรักษาโรคนะครับไม่ว่า
00:35:19 → 00:35:22 จะเป็นโรคอะไรเนี่ยตัวการใช้ยาเนี่ยมันจะ
00:35:22 → 00:35:25 ต้องสมเหตุสมผลนะครับยาเนี่ยควรจะต้อง
00:35:25 → 00:35:30 เป็นยาที่แบบว่าผ่านการให้ยาจากเภสัชกรนะ
00:35:30 → 00:35:33 ครับหรือจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญนะครับซึ่ง
00:35:33 → 00:35:35 การทานยาทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยหมอก็พูดตรงๆ
00:35:35 → 00:35:38 ว่ายาเเรากินไม่มียาไหนมันกินตลอดชีวิตนะ
00:35:38 → 00:35:42 ครับมันจะต้องมีการปรับยามีการหยุดยานะ
00:35:42 → 00:35:44 ครับึ่งพวกนี้เนี่ยมันควรจะต้องหลักการง
00:35:44 → 00:35:47 อย่าคือคนเราต้องมีวินัยนะครับวินัยในการ
00:35:47 → 00:35:51 กินยาในการดูแลตัวเองในการไปพบหมอพบเป็น
00:35:51 → 00:35:54 ศัจกรนะครับตามนัดนะครับซึ่งพวกนี้ไม่ควร
00:35:54 → 00:35:57 จะแบบไปซื้อยากินเองเหมือนที่หมอบอกว่า
00:35:57 → 00:36:01 ตามแขงในงานวัดตามยาชุดอะไรบางทีเห็นใน
00:36:01 → 00:36:03 ตลาดเยอะแยะเลยครับพวกยาชุดนี่มีเยอะจริง
00:36:04 → 00:36:07 ๆเลยสามารถดูได้เลยพวกตลาดนัดมีตลอดพวกเ
00:36:07 → 00:36:09 มันไม่ค่อยเหมาะสมนะแต่ว่าด้วยความที่
00:36:09 → 00:36:13 เป็นคนไทยเนาะบางทีคนไทยก็ทำอะไรตามใจก็
00:36:13 → 00:36:16 คือไทยแท้ซึ่งพวกนี้ก็จะแบบกินหายอ่ะกลับ
00:36:16 → 00:36:19 ไปทำงานชั้นหายะซึ่งพวกนี้จริงๆมันก็ไม่
00:36:19 → 00:36:21 ค่อยถูกต้องนะครับเพราะว่ายาพวกนี้เราไม่
00:36:21 → 00:36:23 รู้เลยว่ายาอะไรเพราะฉนั้นกินนานๆก็จะมี
00:36:23 → 00:36:26 ผลต่อร่างกายระยะยาวซึ่งอันเนี้ยมันมัน
00:36:26 → 00:36:29 ไม่ไม่ดีก็ฝากจริงๆก็คือฝากทั้งคนทุกคนนะ
00:36:29 → 00:36:31 ครับแล้วก็ถ้าเกิดเป็นคนสูงอายุก็ฝากลูก
00:36:32 → 00:36:34 หลานนะครับคอยดูแลใกล้ชิดนะครับว่าการทาน
00:36:34 → 00:36:37 ยาเมันจะต้องดูด้วยว่ากินยาอะไรแล้วก็ยา
00:36:37 → 00:36:41 บางตัวเนี่มันมันมีอันตรายมยมีผลเสียมาก
00:36:41 → 00:36:44 มยแล้วกินนานๆต้องปรึกษาแพทย์ปรึกษากชกร
00:36:44 → 00:36:47 นะครับว่าคนไหนเนี่ยยาตัวไหนเนี่ยอาจจะ
00:36:47 → 00:36:50 สามารถหยุดได้หรือว่าปรับยาเป็นตัวอื่นมย
00:36:50 → 00:36:52 อะไรอย่างเงี้ยถ้าเกิดยามันค่อนข้างจะ
00:36:52 → 00:36:56 อันตรายอย่างเงี้ยครับค่ะครับผมค่ะเ่อมี
00:36:56 → 00:36:59 คุณผู้ฟังถามทิ้งท้ายมานิดนึงค่ะน้องตั๊ก
00:36:59 → 00:37:03 ว่ายังไงว่าแอปแอปขอขออีกรอบนึงค่ะคุณหมอ
00:37:03 → 00:37:06 คาแอปตรวจโอเมวลกันดคะชื่อชื่อแ score นะ
00:37:06 → 00:37:09 ครับตัว f Strong Strong นะครับค่ะ x
00:37:09 → 00:37:15 แล้วก็ R rer นะครับค่ะค่ะ A นะครับค่ะ
00:37:15 → 00:37:18 แล้วก็ x xray นะครับค่ะแล้วก็พิมพ์ว่า
00:37:18 → 00:37:22 สกอมันก็จะสกอที่แปว่าสกอสกอสกอบอร์ดอะไ
00:37:22 → 00:37:28 เ c o r e ครับผมกดเข้าไปเนี่ยมันจะมี
00:37:28 → 00:37:30 เวอร์ชั่นให้เปลี่ยนเป็น weding ว่าเนี่ย
00:37:30 → 00:37:33 เป็นภาษาอะไรมันจะก็ไปกดภาษาไทยให้จะมี
00:37:33 → 00:37:37 แล้วก็จะมีวิธีการใช้แสกอ่านได้เลยครับใน
00:37:37 → 00:37:40 หน้าจอค่ะริงๆแสกอนี่มัน develop โดย Who
00:37:41 → 00:37:44 นะครับองงการอโลกอแล้วก็จะมีคน develop
00:37:44 → 00:37:47 จากทางได้ยินมั้ยครับฮัลโหลได้ยินค่ะย
00:37:47 → 00:37:50 โอเคโอเก็คือเจะ develop มาจาก Who เนาะ
00:37:50 → 00:37:54 แล้วก็จะมีใช้ Data เนี่ยข้อมูลเนี่ยจาก
00:37:54 → 00:37:56 ทุกประเทศเลยแล้วก็เหมือนจะว่าเรากดเป็น
00:37:56 → 00:37:59 ประเทศไทยใช่มั้ยครับเก็จะมีฐานข้อมูลว่า
00:37:59 → 00:38:01 เนี่ยคนไทยต้องอะไรอย่างเงี้ยเจะมีข้อมูล
00:38:01 → 00:38:04 ที่เขไปใส่ในระบบของแสกแล้วก็คำนวณมาเป็น
00:38:04 → 00:38:07 ว่าคนไทยเนี่ยอ่ะท่านใส่ตัวเลขประมาณ
00:38:07 → 00:38:10 เนี้ยคุณอยู่ในภาวะกระดูกพุนความเสี่ยง
00:38:10 → 00:38:12 แล้วนะอะไรอย่างเงี้ยครับเพราะก็จะมีตัว
00:38:12 → 00:38:15 เลขที่ต้องไปอ่านในนั้นจะมีข้อมูลเยอะนะ
00:38:15 → 00:38:18 ครับเดี๋ยวอาจจะต้องมาภาคต่อไปครับยค่ะ
00:38:18 → 00:38:21 ครับผมยังไงก็เนี่ยขอจีบอาจารย์ไว้ล่วง
00:38:21 → 00:38:24 หน้านะคะเดี๋ยวก็จะประสานไปขอให้อาจารย์
00:38:24 → 00:38:27 มาช่วยคุยให้ความรู้เรื่องของกระดูกพุน
00:38:27 → 00:38:28 แล้วก็การใช้แอปตัวนี้กันแบบละเอียดอีก
00:38:29 → 00:38:31 สักรอบนึงนะคะมีคุณผู้ฟังสนใจกันเยอะเลย
00:38:31 → 00:38:34 ค่ะเพราะว่าจริงๆแล้วแฟนรายการเราก็เป็น
00:38:34 → 00:38:36 ผู้สูงวัยกันเยอะเนาะอยู่ในวัยที่เสี่ยง
00:38:36 → 00:38:39 กระดูกพุนกันเยอะเลยค่ะอาจารย์อก็ถ้ายัง
00:38:39 → 00:38:42 ไงก็ลองไปติดตามใน Facebook หมอก็ได้นะ
00:38:42 → 00:38:43 ครับเพราะว่าเดี๋ยวหมอจะเขียนไว้เพราะว่า
00:38:43 → 00:38:46 จริงๆเราพูดอย่างนี้อาจจะไม่ไม่เห็นภาพนะ
00:38:46 → 00:38:48 เดี๋ยวอาจจะต้องทำเป็นวิดีโอคลิปวิธีการ
00:38:48 → 00:38:52 ใช้งานตัวตัวแกสกอนะครับก็อาจจะฝาก
00:38:52 → 00:38:54 Facebook หมอไว้แล้วกันนะครับว่าหมอ
00:38:54 → 00:38:57 สุนทรกขหาดใใหญ่นะครับก็เสิร์ชมาได้เลยกด
00:38:57 → 00:38:59 ติดตามนะครับเพราะเพื่อนเต็มแล้วครับกด
00:38:59 → 00:39:00 ติด
00:39:00 → 00:39:03 ตามไปเป็นแฟนเพจอาจารย์กันได้นะคะเผื่อมี
00:39:03 → 00:39:06 ประเด็นไปสอบถามอาจารย์กันได้เนาะค่ะได้
00:39:06 → 00:39:08 ครับยินดีครับหมอตวจหมอตอบเองทุกอย่างเลย
00:39:08 → 00:39:11 ครับตอบทุกคำถาม่ะวันนี้ต้องขอขอบพระคุณ
00:39:11 → 00:39:15 อาจารย์มากๆเลยค่ะครับผมสวัสดีค่ะครับ
00:39:15 → 00:39:18 ขอบคุณครับผมค่ะสวัสดีค่ะครับสวัสดีครับ
00:39:18 → 00:39:21 สวัสดีครับนายแพทย์สุนทรศรีสุวรรณอาจารย์
00:39:21 → 00:39:24 แพทย์กลุ่มงานศัลยศาสตร์ออโธปิดิกโรง
00:39:24 → 00:39:29 พยาบาลศูนย์หาดใหญ่จจังหวัดสงขลาค่ะ