00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับมีคนสอบถามผมเข้ามานะครับว่า
00:00:03 → 00:00:05 การใช้ป๊อปเปอร์เป็นระยะเวลานานจะส่งผล
00:00:05 → 00:00:08 เสียอย่างไรบ้างต่อร่างกายมันจะเสพติด
00:00:08 → 00:00:10 หรือเปล่าวันนี้ผมก็เลยอยากจะเอาเรื่อง
00:00:10 → 00:00:13 นี้มาเล่าให้ทุกคนฟังกันเลยนะครับและผม
00:00:13 → 00:00:16 มั่นใจเลยว่าผู้ใหญ่หลายคนหรือแม้กระทั่ง
00:00:16 → 00:00:18 วัยรุ่นบางคนก็ไม่เคยได้ยินเลยด้วยซ้ำไป
00:00:19 → 00:00:21 ว่าไอ้ป๊อปเปอร์นี่มันคืออะไรกันแน่วัน
00:00:21 → 00:00:24 นี้ผมจะพาทุกคนมารู้จักเพราะว่ามันก็มี
00:00:24 → 00:00:27 ข้อเสียซึ่งท่านจำเป็นจะต้องรู้และถ้า
00:00:27 → 00:00:30 บุตรหลานของท่านใช้อยู่แน่แน่นอนครับว่า
00:00:30 → 00:00:33 จะต้องมีการควบคุมดูแลให้ดีก่อนที่จะเกิด
00:00:33 → 00:00:36 ปัญหาที่มันแก้ไม่ได้นะครับพบกับผมนะครับ
00:00:36 → 00:00:38 นายแพทย์ธนีธนียวัเป็นอาจารย์แพทย์อยู่
00:00:38 → 00:00:40 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:41 → 00:00:44 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับป๊อปเปอร์
00:00:44 → 00:00:49 เนี่ยในอดีตนะครับมันคือยาตัวนึงซึ่งเรา
00:00:49 → 00:00:52 เอามาใช้ในกรณีที่เกิดกล้ามเนื้อหัวใจขาด
00:00:52 → 00:00:55 เลือดนะครับยาตัวนี้เนี่ยสมัยก่อนนะครับ
00:00:55 → 00:00:59 ตัวแรกที่สังเคราะห์ขึ้นมามันชื่อว่าเอIL
00:00:59 → 00:01:04 ไนทรนะครับเอิnนทรเนี่ยจะถูกบรรจุในขวดสี
00:01:04 → 00:01:07 ชาเป็นแอมปนะครับหรือเรียกว่าแampินะครับ
00:01:07 → 00:01:10 เวลาที่เราจะใช้เนี่ยเราจะต้องหักปากขวด
00:01:10 → 00:01:13 ออกนะครับหักปากขวดมันจะมีเสียงป๊อกนะ
00:01:13 → 00:01:17 ครับเราเลยเรียกว่า popper นะครับนี่แหละ
00:01:17 → 00:01:20 ที่มาของชื่อแล้วสมัยก่อนเวลาเขาหักปาก
00:01:20 → 00:01:23 ขวดออกมาปุ๊บเนี่ยเขาก็จะให้คนไข้สูตรดม
00:01:23 → 00:01:29 ครับดมเอาตัวเแหละเอnนนะครับเข้าไปในปอด
00:01:29 → 00:01:32 แล้วมันก็จะเข้าสู่กระแสเลือดของคนไข้ไป
00:01:32 → 00:01:35 ทำให้เส้นเลือดที่หัวใจมันขยายตัวขึ้นก็
00:01:35 → 00:01:38 ลดอาการเจ็บแน่นหน้าอกนะครับนี่คือที่มา
00:01:39 → 00:01:41 ที่ไปของยาตัวนี้เลยนะครับสังเคราะห์ออก
00:01:41 → 00:01:45 มาตั้งแต่ประมาณปี 1800 กว่านะครับนี่คือ
00:01:45 → 00:01:48 ยาตัวแรกในโลกที่เอาไว้ใช้รักษาเรื่องของ
00:01:48 → 00:01:52 กล้ามหัวใจขาดเลือดและมันชื่อว่าเอิไนท
00:01:52 → 00:01:56 ต่อมาเอิnนทรเนี่ยก็ได้มีการเอามาใช้ใน
00:01:56 → 00:02:00 กรณีที่เป็นพิษจากไซยานไนยนะครับอ่าใช้ใน
00:02:00 → 00:02:02 กรณีพิษจากไซยนแต่ตอนนี้เขาไม่ใช้แล้วนะ
00:02:02 → 00:02:05 ครับเไปใช้ตัวอื่นไฮดรอกโซลโคบาลินแทนนะ
00:02:05 → 00:02:10 ครับนี่คือประวัติศาสตร์ของมันเลยแต่ต่อ
00:02:10 → 00:02:13 มาครับมันก็มีการเอามาใช้ที่ผิดทางเพราะ
00:02:13 → 00:02:17 ว่าผลข้างเคียงของมันเจ้าตัวยาเอIL
00:02:17 → 00:02:19 Nitrite ตัวนี้เนี่ยหรือPoเปอร์เนี่ย
00:02:19 → 00:02:22 เวลาเราสูดดมเข้าไปมันไม่ได้ทำให้เส้น
00:02:22 → 00:02:25 เลือดของเรามันขยายเฉพาะที่หัวใจครับแต่
00:02:25 → 00:02:28 มันขยายทั้งร่างกายเลยดังนั้นเนี่ยเนี่ย
00:02:28 → 00:02:31 คนที่เค้าใช้ตัวนี้เค้าก็จะมีความรู้สึก
00:02:31 → 00:02:34 เหมือน high มีความสุขล่องลอยนะครับรู้
00:02:34 → 00:02:38 สึกตัวเองร้อนวูบวาบนะครับเหมือนอารมณ์
00:02:38 → 00:02:41 ทางเพศมันจะรุนแรงมากขึ้นนะฮะแล้วก็ทำให้
00:02:41 → 00:02:45 กล้ามเนื้อเนี่ยมันคลายตัวโดยเฉพาะกล้าม
00:02:45 → 00:02:48 เนื้อทางหูรูดต่างๆทวารหนักนะครับช่อง
00:02:48 → 00:02:52 คลอดนะช่องปากช่องคอพวกเนี้ยหรือว่าในปอด
00:02:52 → 00:02:55 ก็จะมีการขยายเอ่อของหลอดลมเพราะว่ากล้าม
00:02:55 → 00:02:58 เนื้อมันคลายตัวออกนะครับพอพอใช้แล้วมัน
00:02:58 → 00:03:02 มีฤทธิ์แบบเนี้ยเค้ารู้สึกแบบนี้ก็เลย
00:03:02 → 00:03:05 กลายมาเป็นที่ใช้ในหมู่เกนะครับหรือชาย
00:03:06 → 00:03:09 รักชายในช่วงประมาณปี 1970 - 1980 นะ
00:03:09 → 00:03:12 ครับเพื่อที่จะมีกิจกรรมในการร่วมเพศ
00:03:12 → 00:03:15 เพราะว่าเวลาที่เขา้าใช้เนี่ยเขาจะรู้สึก
00:03:15 → 00:03:17 ผ่อนคลายนะครับไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นนะ
00:03:17 → 00:03:20 ครับแต่แถมมีอารมณ์ทางเพศที่รู้สึกดีมาก
00:03:20 → 00:03:23 ขึ้นอีกต่างหากแล้วก็อ่าจะทำให้การร่วม
00:03:23 → 00:03:26 เพศทางทวันหนักเนี่ยมันไม่ได้เจ็บเท่าที่
00:03:26 → 00:03:28 มันควรจะเป็นนะครับก็เลยเป็นที่มาของการ
00:03:28 → 00:03:34 ใช้ยาตัวนี้นะต่อมาก็มีการใช้ในเพศอื่น
00:03:34 → 00:03:36 เหมือนกันนะครับทั้งผู้ชายผู้หญิงก็มีการ
00:03:36 → 00:03:40 ใช้เหมือนกันนะดังนั้นตรงเนี้ยมันก็จะลาม
00:03:40 → 00:03:45 ไปหลายๆคนแล้วนะครับตัวมันเองเนี่ยต้อง
00:03:45 → 00:03:48 บอกว่ามันไม่ใช้ยาเสพติดนะครับใช้แล้วมัน
00:03:48 → 00:03:51 ไม่ติดแต่ถ้าเราใช้เป็นประจำมันจะกลายไป
00:03:51 → 00:03:54 เป็นกิจวัตรอย่างหนึ่งของเราซึ่งเราต้อง
00:03:54 → 00:03:57 ใช้อ่ะบางทีเนี่ยเราไปใช้ในงานปาปาร์ตี้
00:03:57 → 00:04:01 ในผับนะครับถ้าเป็นในอ่าในยุคสมัยก่อนที่
00:04:01 → 00:04:04 อเมริกาก็จะมีการใช้ในพวกผับในบาร์พวก
00:04:04 → 00:04:07 เนี้ยเพื่อที่จะทำให้เวลาที่ออกไปเต้นบน
00:04:07 → 00:04:10 FL เนี่ยมันรู้สึกรู้สึกดีขึ้นนะครับรู้
00:04:10 → 00:04:14 สึกถึงแสงสีเสียงรอบๆตัวแบบชัดเจนมากขึ้น
00:04:14 → 00:04:18 แล้วก็รู้สึกล่องลอยนะนี่คือเหตุผลที่เขา
00:04:18 → 00:04:21 ใช้กันในหมู่นักเที่ยวต่างๆนะครับแล้วก็
00:04:21 → 00:04:23 นำมาสู่การใช้ในกรณีมีเพศสัมพันธ์
00:04:23 → 00:04:27 ด้วยข้อเสียของมันเนี่ยที่แบบบางคนอาจจะ
00:04:28 → 00:04:29 ไม่ทันคิดถึงนะครับอันนี้ไม่รับข้อเสีย
00:04:29 → 00:04:32 ทางร่างกายนะนับข้อเสียทางด้านสังคมก่อน
00:04:32 → 00:04:34 ดีกว่าว่ามันมีข้อเสียอะไรบ้างเพราะมัน
00:04:34 → 00:04:38 ชัดกว่านะครับคนที่เขาใช้ของพวกนี้เพื่อ
00:04:38 → 00:04:41 การมีเพศสัมพันธ์มันจะทำให้เค้าเนี่ยรู้
00:04:41 → 00:04:46 สึกปลอดภัยแล้วก็รู้สึกไม่ค่อยมีกำแพง
00:04:46 → 00:04:49 ขวางกั้นระหว่างบุคคละทีนี้การมี
00:04:49 → 00:04:51 เพศสัมพันธ์ก็อาจจะเป็นการมีเพศสัมพันธ์
00:04:51 → 00:04:54 ที่ไม่ได้ป้องกันครับโอกาสการติดเชื้อทาง
00:04:54 → 00:04:57 เพศสัมพันธ์ก็จะสูงขึ้นนะเพราะว่าอาจจะทำ
00:04:58 → 00:04:59 ให้คุณไม่ทันคิดอะไรแล้วก็ได้ในช่วงเวลา
00:05:00 → 00:05:00 นั้นนะ
00:05:01 → 00:05:04 ฮะและไม่เพียงแค่นั้นนะครับมันยังมีการ
00:05:04 → 00:05:07 ใช้ร่วมกับยาอื่นๆเราไม่รู้ว่ามีการใช้ยา
00:05:07 → 00:05:10 เสพติดตัวอื่นอะไรมยไม่จะเป็นยา K ยา E
00:05:10 → 00:05:15 ยาไอซนะครับ TRAL โปรนมีตั้งหลายตัวที่
00:05:15 → 00:05:18 วัยรุ่นเขาจะใช้กันอ่ะอาจจะสูบบุหรี่
00:05:18 → 00:05:22 กัญชาแอลกอฮอล์มีครบทุกอย่างนะครับและซ้ำ
00:05:22 → 00:05:24 ร้ายไปกว่านั้นเนื่องจากว่ามันเป็นยาขยาย
00:05:24 → 00:05:25 หลอดเลือด
00:05:25 → 00:05:29 ถ้าคุณเอามันไปกินกับ
00:05:29 → 00:05:32 ยาฟิraทาดฟิพวกนี้แล้วล่ะ
00:05:32 → 00:05:38 ก็ถึงตายครับถึงตายได้นะฮะเพราะอะไรรู้มย
00:05:38 → 00:05:41 บางคนอยากจะได้อารมณ์ทางเพศหรือการ
00:05:41 → 00:05:44 กระตุ้นทางเพศที่มันสูงมากๆก็อย่าใช้ยา
00:05:44 → 00:05:47 มากกว่าตัวนึงอ่าจะกินไอraเข้าไปแล้วก็จะ
00:05:47 → 00:05:50 ใช้ไอ้ป๊อปเปอร์นี่แหละสูตรดมเข้าไปด้วย
00:05:50 → 00:05:54 นะครับสุดท้ายมันเป็นยาขยายหลอดเลือดที่
00:05:54 → 00:05:56 แรงทั้งคู่คุณขยายหล่อเลือดทางร่างกายแบบ
00:05:56 → 00:06:00 รุนแรงมากความดันตกเสียชีวิตได้นะครับนี่
00:06:00 → 00:06:02 เป็นสิ่งที่ห้ามทำโดยเด็ดขาดแต่แน่นอน
00:06:02 → 00:06:04 ครับมันต้องมีคนเถียงเพราะว่ามันมีบางคน
00:06:04 → 00:06:07 ทำไปแล้วแล้วไม่เกิดอะไรขึ้นท่านก็ยังถือ
00:06:07 → 00:06:09 ว่าโชคดีนะครับที่ไม่เกิดอะไรขึ้นแต่ถ้า
00:06:09 → 00:06:12 วันนึงท่านโชคร้ายแล้วเกิดอะไรขึ้นมาอัน
00:06:12 → 00:06:15 นี้ก็ช่วยไม่ได้นะครับแน่นอนบางคนอาจจะ
00:06:15 → 00:06:17 บอกว่าโชคร้ายเออก็ตายไปเลยไม่เป็นอะไร
00:06:17 → 00:06:19 หรอกนะครับก็ถ้ามันเป็นอย่างนั้นก็ดีนะ
00:06:19 → 00:06:22 ครับตายไปเลยท่านอาจจะไม่ได้ทรมานแต่บาง
00:06:22 → 00:06:24 คนไม่เป็นแบบนั้นครับเพราะเพราะว่าโดน
00:06:24 → 00:06:27 ปั๊มหัวใจขึ้นมาได้แต่สมองขาดเลือดไปแล้ว
00:06:27 → 00:06:28 กลายไปเป็นผู้ป่วยติดเตียงแล้วก็อยู่
00:06:28 → 00:06:30 อย่างนั้นตลอดชีวิตนะครับท่านจะเอาอย่าง
00:06:30 → 00:06:34 งั้นหรือเปล่าก็แล้วแต่แล้วกันนะครับที
00:06:34 → 00:06:37 นี้เรามาดูกันในเรื่องของกลไกการออกฤทธิ์
00:06:37 → 00:06:39 ดีกว่าว่าทำไมมันถึงขยายหลอดเลือดแล้วมัน
00:06:39 → 00:06:41 ไปยุ่งอะไรในร่างกายเราแล้วมันมีผลเสีย
00:06:41 → 00:06:44 อะไรกันแน่นะครับอ่ะต้องบอกก่อนว่าเอิ
00:06:44 → 00:06:48 ไนตรเนี่ยเป็นตัวแรกซึ่งผลิตขึ้นมาในโลก
00:06:48 → 00:06:51 ในยากลุ่มนี้นะครับแต่ยาในกลุ่มเนี้ยมัน
00:06:51 → 00:06:56 จะเรียกรวมๆกลุ่มใหญ่ว่า Alkil nri alkิ
00:06:56 → 00:07:00 nitri ซึ่งมีอยู่หลักๆ 4 ตัว 1 amil
00:07:00 → 00:07:04 nitriต 2 buttil nitri 3 isobutyl
00:07:04 → 00:07:08 nriite 4 isopropy nitrite นะครับ
00:07:08 → 00:07:11 ปัจจุบันตัวที่ใช้กันเยอะที่สุดคือตัว
00:07:12 → 00:07:16 หลังแล้วไโซิnriตมีเยอะมากนะครับพวกนี้
00:07:16 → 00:07:19 เนี่ยนะฮะมันก็อยู่ในยากลุ่มที่เรียกว่า
00:07:19 → 00:07:24 อ่าแคิnรนั่นเองเวลาสูตรลมเข้าไปในร่าง
00:07:24 → 00:07:26 กายนะครับมันก็จะเข้าสู่ส่วนลึกของปอดถูก
00:07:26 → 00:07:30 ดูดซึมเข้าในกระแสเลือดแล้วมันก็จะปล่อย
00:07:30 → 00:07:33 ไนตรริกออกไซด์ออกมานะครับไนตรริกออกไซด์
00:07:33 → 00:07:37 ตัวนี้เนี่ยมันก็จะไปกระตุ้นสารตัวนึง
00:07:38 → 00:07:45 ชื่อว่า soluble guanil cycสนะครับ
00:07:45 → 00:07:51 scgp หรือกนีนtrฟอสเฟตนะครับให้กลายไป
00:07:51 → 00:07:55 เป็นอีกตัวนึงคือไซลิกอนmonโนฟอสเฟตหรือ
00:07:55 → 00:07:59 ไซคลิ GMP และไซคลิ GMP จะไปกระตุ้น
00:07:59 → 00:08:03 โปรตีนตัวนึงชื่อว่าโปรตีนไนส G ทำให้ลด
00:08:03 → 00:08:06 แคลเซียมในเซลล์ของร่างกายตรงนี้ฟังไม่
00:08:06 → 00:08:08 รู้เรื่องไม่เป็นไรนะครับเวลาลดแคลเซียม
00:08:09 → 00:08:13 ในเซลล์ของร่างกายมันจะทำให้เซลล์นั้นน่ะ
00:08:13 → 00:08:16 ยืดขยายออกโดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อนี่จึง
00:08:16 → 00:08:20 เป็นที่มาของการที่มันผ่อนหย่อนคลายกล้าม
00:08:20 → 00:08:23 เนื้อและรอบๆหลอดเลือดก็มีกล้ามเนื้อเช่น
00:08:23 → 00:08:26 กันถ้ากล้ามเนื้อรอบหลอดเลือดมันผ่อนคลาย
00:08:26 → 00:08:29 มันก็จะทำให้เส้นเลือดนั้นขยายก็จะเกิด
00:08:29 → 00:08:32 เส้นเลือดขยายขึ้นครับนี่คือกลไกการออก
00:08:32 → 00:08:38 ฤทธิ์ของตัวกลุ่มป๊อปเปอร์ทั้งหมดนะครับ
00:08:38 → 00:08:41 ทีนี้พอเส้นเลือดขยายแล้วมันเป็นยังไงต่อ
00:08:41 → 00:08:43 เมื่อกี้เรารู้ว่าเส้นเลือดขยายเพราะว่า
00:08:43 → 00:08:44 มันไปขยายตัวกล้ามเนื้อนะครับกล้ามเนื้อ
00:08:44 → 00:08:47 เราก็มีการผ่อนคลายมีการรีกเกิดขึ้นนะ
00:08:47 → 00:08:52 ครับแต่ในสมองล่ะอ่าในสมองเนี่ยมันก็จะทำ
00:08:52 → 00:08:55 ให้เส้นเลือดสมองมันขยายเช่นกันการที่
00:08:55 → 00:08:57 เส้นเลือดสมองขยายพร้อมกันทั้งสมองเนี่ย
00:08:57 → 00:09:02 มันจะทำให้สมองมันบวมนะครับมันบวมนิดนึง
00:09:02 → 00:09:04 คนที่เกิดสมองบวมตรงนี้เนี่ยเล็กๆน้อยๆ
00:09:04 → 00:09:09 เนี่ยมันจะมีความรู้สึกเมามึนๆนิดนึงแล้ว
00:09:09 → 00:09:12 ก็มีความสุขมีความยูฟเรียเกิดขึ้นมีความ
00:09:12 → 00:09:15 สุขแบบนั้นนะครับแล้วก็ความคิดความอ่านจะ
00:09:15 → 00:09:19 ช้าลงนะครับความรู้สึกผิดชอบชั่วดีมันจะ
00:09:19 → 00:09:22 หายไปในช่วงนี้นะฮะ
00:09:22 → 00:09:24 ฤทธิ์ของมันนะครับจะเกิดขึ้นภายใน 10-20
00:09:24 → 00:09:27 วินาทีนับตั้งแต่ท่านสูดดมเข้าไปนะครับ
00:09:27 → 00:09:29 แล้วก็จะอยู่ในร่างกายเพียงแค่ประมาณ 2
00:09:29 → 00:09:32 นาทีดังนั้นน่ะคนที่เขาใช้เนี่ยจะต้องสูด
00:09:32 → 00:09:35 มากกว่า 1 ครั้งแน่ๆสูดไปเรื่อยๆนะครับ
00:09:35 → 00:09:39 นี่คือเหตุผลที่มันเกิดปฏิกิริยาต่างๆ
00:09:39 → 00:09:43 ขึ้นในร่างกายถามว่าแล้วอันตรายของมันคือ
00:09:43 → 00:09:45 อะไรกันแน่เมื่อกี้เราบอกไปแล้วนะครับว่า
00:09:45 → 00:09:49 ถ้าท่านใช้คู่กับยาที่มันขยายหลอดเลือด
00:09:49 → 00:09:54 เช่นทาดฟินะนะครับก็ถึงตายได้อันที่ 2
00:09:54 → 00:09:58 การสูดดมที่มันมากเกินไปนะครับจะเกิดภาวะ
00:09:58 → 00:10:00 หนึ่งที่เรียกว่าเม
00:10:00 → 00:10:03 ฮีโมโลบินีเมียหรือถ้าเกิดโชคร้ายเมื่อ
00:10:03 → 00:10:04 กี้เราบอกว่ามันควรจะใช้สูตรใช่มั้ครับ
00:10:04 → 00:10:08 ถ้าท่านกินมันเข้าไปอ่ะเสร็จแน่บางคนบอก
00:10:08 → 00:10:10 ว่าสูตรมันช้าใช่มั้ยได้เข้าไปทีละนิด
00:10:10 → 00:10:12 เดียวออกฤทธิ์แค่ 2 นาทีอ่ะกินเข้าไปเลย
00:10:12 → 00:10:16 แล้วกันนี่อันนี้อันเนี้ยบอกเลยครับโชค
00:10:16 → 00:10:18 ร้ายแน่นอนเพราะว่าจะเกิดภาวะที่เรียกว่า
00:10:18 → 00:10:19 เม็ด
00:10:19 → 00:10:22 ฮีโมบินเมียภาวะนี้เนี่ยมันจะทำให้เลือด
00:10:22 → 00:10:25 ของคุณขนส่งออกซิเจนไม่ได้ครับแล้วคุณก็
00:10:25 → 00:10:29 จะขาดออกซิเจนซึ่งอาจจะถึงชีวิตได้เลยนะ
00:10:29 → 00:10:32 ครับภาวะนี้เนี่ยถ้าคุณเจาะเลือดออกมานะ
00:10:32 → 00:10:35 ครับเลือดของคุณมันจะสีน้ำตาลเหมือน
00:10:35 → 00:10:38 ช็อกโกแลตเลยสีเข้มๆนะฮะแล้วถ้าเกิดว่า
00:10:38 → 00:10:40 หมอคนไหนเก่งนะครับเเจาะเลือดออกมาว่า
00:10:40 → 00:10:42 เอ้ยทำไมสีมันน้ำตาลน้ำตาลให้เอาออกซิเจน
00:10:43 → 00:10:45 มาเป่าครับเดี๋ยวมันเปลี่ยนเป็นสีแดงได้
00:10:45 → 00:10:48 นี่นะครับถ้าใครตรวจเม็ดเทโบโกลบินในเมีย
00:10:48 → 00:10:51 ไม่เป็นเนี่ยเอาเอามาหยดไว้บนทิชชูแล้วก็
00:10:51 → 00:10:54 เอาออกซิเจนเป่ามันเปลี่ยนสีได้เป็นสีแดง
00:10:54 → 00:10:56 ถ้าเราตรวจออกซิเจนปลายนิ้วมันจะอยู่ที่
00:10:56 → 00:11:00 ประมาณ 85 นะฮะเนี่ยเป็นวิธีการตรวจการ
00:11:00 → 00:11:05 รักษาก็ต้องไปให้ยาตัวนึงชื่อว่า Metine
00:11:05 → 00:11:08 Blue นะครับยาตัวนี้ก็แน่นอนครับต้องมี
00:11:08 → 00:11:10 ใช้ในโรงพยาบาลเราไม่ได้มันเป็นยาฉีดนะ
00:11:10 → 00:11:14 ครับไม่ใช่ยากินนะฮะก็ฉีดอยู่ที่ประมาณ 1
00:11:14 → 00:11:17 กรัมต่อน้ำหนักกิโลกรันะครับเช่น 50 กก.
00:11:17 → 00:11:19 ก็ฉีดไป 50 กรัมอย่างนี้เป็นต้นนะฮะนี่
00:11:19 → 00:11:22 เป็นวิธีในการใช้เมลีนบลูนะภาวะนี้ตายได้
00:11:22 → 00:11:24 นะครับถ้าท่านสูดมันเยอะเกินไปหรือท่าน
00:11:25 → 00:11:28 ดื่มมันเข้าไปเลยนะพวกนี้ระวังให้ดีนะ
00:11:28 → 00:11:32 ครับนี่คืออันตรายข้อที่ 1 นะข้อที่ 2
00:11:32 → 00:11:36 คือถ้าเกิดว่ามีการสูดดมเข้าไปแล้วเกิด
00:11:36 → 00:11:39 มันปฏิกิริยาตอบสนองแรงเกินไปร่างกายทั้ง
00:11:39 → 00:11:42 ร่างกายเนี่ยเส้นเลือดขยายความดันตกคุณ
00:11:42 → 00:11:45 อาจจะล้มหัวฟาดแล้วก็บ๊ายบายเลยก็ได้นะ
00:11:45 → 00:11:47 ครับอันนั้นอาจจะเสียชีวิตเลยก็ได้เป็น
00:11:47 → 00:11:51 สิ่งที่ต้องระมัดระวังให้ดีนะครับแต่มัน
00:11:51 → 00:11:53 ก็ไม่ได้มีปัญหาอยู่แค่นั้นนะฮะมันมี
00:11:53 → 00:11:58 ปัญหาอีกครับคือถ้าเราใช้เรื้อรังแล้วมัน
00:11:58 → 00:12:02 จะทำให้ตาบอดครับอ่าอันเนี้ยอันเนี้เสร็จ
00:12:02 → 00:12:05 แน่นะครับเราเรียกว่า macular toxicity
00:12:05 → 00:12:09 โดยเฉพาะตัวที่มันเป็น isopropil nitrite
00:12:09 → 00:12:12 ตัวนี้ก็ดันบังเอิญเป็นตัวที่มีการใช้
00:12:12 → 00:12:14 บ่อยที่สุดในปัจจุบันเสียด้วยนะครับมันจะ
00:12:14 → 00:12:18 ทำให้มีปัญหาตรงนี้ได้มากขึ้นแล้วก็ตาบอด
00:12:18 → 00:12:20 บางคนโชคดีเวลาหยุดไปแล้วมันก็กลับมา
00:12:20 → 00:12:21 เหมือนเดิมบางคนก็ไม่กลับมาเป็นเหมือน
00:12:22 → 00:12:24 เดิมก็ตาบอดไปเลยก็ได้นะครับอันนี้เป็น
00:12:24 → 00:12:29 สิ่งที่เราเจอได้หลักๆนะครับระยะยาวบางคน
00:12:29 → 00:12:32 ความคิดอาจจะผิดเพี้ยนไปก็ได้นะฮะเพราะ
00:12:32 → 00:12:34 ว่าการที่สมองมันบวมอยู่บ่อยๆเนี่ยมันจะ
00:12:34 → 00:12:37 มีบางบริเวณที่มันขาดเลือดนะฮะถึงแม้ว่า
00:12:37 → 00:12:40 ผมจะบอกว่าโอ้มันขยายหล่อเลือดทั้งสมองนะ
00:12:40 → 00:12:42 ครับแต่แน่นอนครับการขยายหลอเลือดทั้ง
00:12:42 → 00:12:45 สมองคือมันบวมขึ้นถ้าตรงไหนที่มันโดนกด
00:12:45 → 00:12:48 ได้ง่ายเนี่ยเนี่ยมันก็โดนกดไปพอโดนกดไป
00:12:48 → 00:12:51 มันขาดเลือดครับหรือบางทีมันบวมบวมไปเจอ
00:12:51 → 00:12:55 อะไรกะโหลกครับบวมไปเจอกะโหลกกะโหลกมันทำ
00:12:55 → 00:12:58 ให้สมองมันอ่อนไปไม่ได้มันก็เหมือนกับ
00:12:58 → 00:13:00 เนื้อสมองสมมุติตรงนี้เป็นกะโหลกตรงนี้
00:13:00 → 00:13:02 เป็นเนื้อสมองโดนบี้อย่างเงี้ยบี้แรงๆอ่ะ
00:13:02 → 00:13:04 คุณก็ขาดเลือดตรงบริเวณนั้นได้นะครับทำ
00:13:04 → 00:13:07 ให้อาจจะมีปัญหาทางด้านของการแสดงอารมณ์
00:13:07 → 00:13:10 นะครับการพูดการจาความคิดความอ่านพวก
00:13:10 → 00:13:12 เนี้ยก็จะมีผลในระยะยาว
00:13:12 → 00:13:15 ได้บางรายงานยังพบว่ามันมีความเกี่ยวข้อง
00:13:15 → 00:13:19 ข้องกับการกดภูมิต้านทานแล้วก็มีผลต่อการ
00:13:19 → 00:13:22 ลดปริมาณสเปิร์มได้อีกนะครับแต่ไอ้ตรง
00:13:22 → 00:13:24 เนี้ยยังไม่ได้เป็นสิ่งที่ข้อมูลมันชัด
00:13:24 → 00:13:28 เจนขนาดนั้นแต่ว่าก็มีรายงานไว้ดังนั้นก็
00:13:28 → 00:13:30 ฟังหูไว้หูเผื่อไว้หน่อยแล้วกันมันไม่ได้
00:13:30 → 00:13:32 จำเป็นจะต้องใช้นะครับไอ้สิ่งนี้ก็เป็น
00:13:32 → 00:13:36 สิ่งที่ท่านต้องเข้าใจว่ามันมีผลในระยะ
00:13:36 → 00:13:40 ยาวเช่นกันเอิ่มแต่นอกเหนือจากนั้นเนี่ย
00:13:40 → 00:13:43 ก็แน่นอนครับการใช้ร่วมกับยาเสพติดชนิด
00:13:43 → 00:13:47 อื่นๆจะเป็นสิ่งที่เราต้องกังวลเสมอเพราะ
00:13:47 → 00:13:50 ว่าบางทีเราไม่รู้ว่าเค้าผสมอะไรเข้าไปใน
00:13:50 → 00:13:52 สิ่งที่เขาใช้บ้างอาจจะใช้ป๊อปเปอร์แล้ว
00:13:52 → 00:13:55 ก็ร่วมกับยางอื่นอีกเยอะแยะไปหมดนะฮะ
00:13:55 → 00:14:00 เนี่ยก็มีปัญหาได้ดังนั้นหลักๆนะครับคือ
00:14:00 → 00:14:02 การที่คุณใช้มันร่วมกับยาตัวอื่นโดยเฉพาะ
00:14:02 → 00:14:05 ยาขยะเหล่าเลือดการที่คุณกินมันเข้าไปเลย
00:14:05 → 00:14:07 อย่างเงี้ยอ่าอันเนี้ยเกิดภาวะเม็ด
00:14:07 → 00:14:10 ฮีโมบินเมียเสียชีวิตได้ใช้ระยะยาวมีผล
00:14:10 → 00:14:13 ต่อสมองแล้วก็มีผลบางคนอาจจะตาบอดได้นะ
00:14:13 → 00:14:16 ครับถ้าน้ำตัวนั้นมันหกโดนผิวหนังจะเป็น
00:14:16 → 00:14:19 ผิวหนังอักเสบรุนแรงถ้าเกิดว่าคนไหน
00:14:19 → 00:14:21 พยายามสูดดมและสูดแรงเกินไปแล้วเกิดน้ำ
00:14:21 → 00:14:24 ตัวนี้มันเข้าไปในจมูกและเข้าไปในปอด
00:14:24 → 00:14:27 เนี่ยจะเกิดปอดอักเสบอันนึงซึ่งเรียกว่า
00:14:27 → 00:14:29 ไโปรอนโมเนียไม่มีวิธีรักษาครับคุณต้องรอ
00:14:29 → 00:14:31 ไปเองว่ามันจะหายหรือไม่หายถ้ามันไม่หาย
00:14:32 → 00:14:35 ก็โชคร้ายหน่อยนะครับก็อาจจะปอดตรงส่วน
00:14:35 → 00:14:38 นั้นน่ะเสียไปเลยก็ได้นะครับบางคนใช้ระยะ
00:14:38 → 00:14:40 เวลานานมันมีการระคายเคืองในเยื่อบุจมูก
00:14:41 → 00:14:43 นะครับก็อาจจะเป็นแผลในจมูกก็ได้นะหรือ
00:14:43 → 00:14:45 บางคนใช้มากๆจมูกผมทะลุไปเลยก็มีเหมือน
00:14:45 → 00:14:49 กันนะครับงั้นนี้คือเป็นผลระยะยาวของการ
00:14:49 → 00:14:54 ใช้Poเปอร์ทีนี้Poปอรเนี่ยสำหรับทุกๆคนนะ
00:14:54 → 00:14:56 ครับมันไม่ได้ขายในบอกว่าเอ้ยเนี่ย
00:14:56 → 00:14:59 Poเปอร์ขายบนอินเทอร์เน็ตหาคุณหาซื้อได้
00:14:59 → 00:15:01 มันไม่ได้ขายรูปนั้นนะครับที่อเมริกา
00:15:01 → 00:15:04 เนี่ยก็จะมีการขายโดยปลอมแปลงเป็นอย่าง
00:15:04 → 00:15:07 อื่นเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับนะครับเช่น
00:15:07 → 00:15:09 เค้าอาจจะบอกว่ามันคือน้ำยาล้างเล็บนะ
00:15:10 → 00:15:13 ครับมันคืออ่าสเปรย์ที่เอาไว้หรือน้ำยา
00:15:14 → 00:15:16 ไว้ดับกลิ่นในห้องนะครับ Room Deutorizer
00:15:16 → 00:15:19 นะครับหรือมันอาจจะเป็นตัวที่เอาไว้ทำ
00:15:19 → 00:15:22 ความสะอาดตัวหัววดีโอเทปซึ่งเดี๋ยวนี้ไม่
00:15:22 → 00:15:24 มีใครใช้กันะนะฮะถ้าใครซื้อมาทำความสะอาด
00:15:24 → 00:15:26 หัววดีโอเทปไอ้นี่เพี้ยนแล้วมันไม่มีใคร
00:15:26 → 00:15:29 ใช้วดีโอเทปในโลกนี้แล้วตอนเนี้ยนะครับ
00:15:29 → 00:15:31 ดังนั้นเราก็รู้แล้วว่าเค้าเอาไปทำอะไรนะ
00:15:31 → 00:15:35 ฮะนี่นะครับก็มีการใช้พวกเนี้ยเยอะแยะไป
00:15:35 → 00:15:38 หมดส่วนยี่ห้อเนี่ยอแน่นอนหลายมันไม่ต้อง
00:15:38 → 00:15:40 ปิดแล้วครับบางคนอาจจะเคยได้ยิน Rush
00:15:40 → 00:15:43 Liquid Gold นะครับ Jungle Juice อะไร
00:15:43 → 00:15:45 พวกเนี้ยเยอะแยะไปหมดนะครับสำหรับนัก
00:15:45 → 00:15:48 เที่ยวที่เขา้าจะใช้กันนะงั้นอันนี้ก็
00:15:48 → 00:15:52 อยากให้ทวนรู้ทันมันว่ามันยังไงบ้างนะ
00:15:52 → 00:15:54 ครับถึงแม้ว่ามันจะออกฤทธิ์อยู่แค่ 2
00:15:54 → 00:15:57 นาทีแต่ถ้าท่านใช้มันไปเรื่อยๆมันก็จะส่ง
00:15:57 → 00:16:00 ผลร้ายต่อร่างกายในระยะยาวได้บางอย่างก็
00:16:00 → 00:16:04 หายบางอย่างก็ไม่หายเหมือนกันนะครับและ
00:16:04 → 00:16:08 ที่สำคัญคือมันจะไปทำให้คนนึงเนี่ยมี
00:16:08 → 00:16:10 โอกาสจะมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ได้ป้องกันสูง
00:16:11 → 00:16:13 มากขึ้นดังนั้นโอกาสที่ท่านจะติดเชื้อ
00:16:13 → 00:16:17 อะไรต่อมีอะไรเข้าไปก็มีได้โอกาสจะตั้ง
00:16:17 → 00:16:20 ครรภก็มีได้นะครับงั้นต้องระมัดระวังใน
00:16:20 → 00:16:23 การใช้ของพวกนี้มากๆนะครับโชคดีที่ว่าไอ้
00:16:23 → 00:16:26 นี่เนี่ยมันไม่ใช่เป็นเหมือนเกล็ดหรือ
00:16:26 → 00:16:29 เหมือนน้ำอะไรที่ไปหยอดตามอ่าเครื่องดื่ม
00:16:29 → 00:16:32 ต่างๆแล้วคุณดื่มเข้าไปแล้วคุณจะมีอาการ
00:16:32 → 00:16:34 มันไม่ได้มันต้องดมเข้าไปนะฮะมันถึงจะ
00:16:34 → 00:16:37 เกิดอาการขึ้นมาและเดี๋ยวนี้เนี่ยก็ไม่มี
00:16:37 → 00:16:40 ใครใช้ของพวกนี้ในการรักษาโรคกล้ามเนื้อ
00:16:40 → 00:16:42 หัวใจขาดเลือดแล้วครับเพราะว่าเขามียาอม
00:16:42 → 00:16:46 ใต้ลิ้นแทนแล้วนะฮะมียาอมใต้ลิ้นมีทุก
00:16:46 → 00:16:48 อย่างแทนหมดแล้วดังนั้นตัวเไม่มีการใช้ใน
00:16:48 → 00:16:51 ทางการแพทย์แล้วนะครับในทางการแพทย์เรา
00:16:51 → 00:16:53 ไม่ใช้แล้วนะฮะดังนั้นถ้าใครบอกว่าอุ๊ย
00:16:53 → 00:16:56 นี่ไงมันปลอดภัยในทางการแพทย์ก็ใช้กันอ่า
00:16:56 → 00:16:58 นั่นท่านโกหกแน่นอนนะครับเดี๋ยวนี้ไม่มี
00:16:58 → 00:17:01 ใครใช้กันแล้วนะฮะโอเควันนี้ผมก็หวังว่า
00:17:01 → 00:17:03 ทุกๆคนจะเข้าใจว่าป๊อปเปอร์มันคืออะไร
00:17:03 → 00:17:05 ประวัติศาสตร์ของมันเป็นอย่างไรนะครับ
00:17:05 → 00:17:09 แล้วมันมีผลร้ายต่อร่างกายของเราอย่างไร
00:17:09 → 00:17:11 บ้างถึงแม้ว่ามันจะไม่ใช่สิ่งเสพติดโดย
00:17:11 → 00:17:14 ตรงนะนะครับแต่มันก็นำไปสู่ปัญหาอื่นๆอีก
00:17:14 → 00:17:17 มากมายไม่ว่าจะเป็นปัญหาทางด้านของเพศ
00:17:17 → 00:17:19 สัมพันธ์ซึ่งไม่ได้ป้องกันนะครับโอกาสจะ
00:17:19 → 00:17:22 มีเพศสัมพันธ์ที่คุณติดเชื้อต่างๆมาก็ได้
00:17:22 → 00:17:24 นะครับการตั้งครรภ์มันไม่ได้มีการใช้
00:17:24 → 00:17:28 เฉพาะหมู่ชายรักชายเท่านั้นแล้วแต่ว่าใน
00:17:28 → 00:17:31 ทุกเพศมันก็มีการใช้ตัวนี้กันอยู่นะครับ
00:17:31 → 00:17:35 และการใช้ร่วมกับยาตัวอื่นๆอันตรายเสมอ
00:17:35 → 00:17:37 ท่านต้องระมัดระวังนะครับสุดท้ายผมต้อง
00:17:37 → 00:17:41 บอกอย่างนี้ครับว่าการที่เราจะมีความสุข
00:17:41 → 00:17:42 ทางเพศ
00:17:42 → 00:17:45 นะครับมันไม่ต้องใช้ตัวช่วยหรอกครับนะมัน
00:17:45 → 00:17:48 ใช้ฝีมือของท่านล้วนๆเลยอ่ะถ้าท่านรักคน
00:17:48 → 00:17:50 นึงท่านมีฝีมือท่านก็จะต้องทำให้เขามี
00:17:50 → 00:17:52 ความสุขได้อ่ะมันไม่จำเป็นต้องใช้ตัวช่วย
00:17:52 → 00:17:55 อะไรแบบนี้ซึ่งจะมีผลร้ายต่อร่างกายได้นะ
00:17:55 → 00:17:58 ครับถ้าท่านไหนใช้อยู่ใช้เป็นประจำเลิกไป
00:17:58 → 00:18:00 ดีกว่านะครับของพวกนี้ถึงแม้มันไม่ใช่ยา
00:18:01 → 00:18:03 เสพติดจริงๆแต่มันส่งผลร้ายต่อร่างกาย
00:18:03 → 00:18:05 อย่างที่ผมได้เล่าไปแล้วนะครับโอเควันนี้
00:18:05 → 00:18:07 ก็เล่าให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับใครสงสัย
00:18:07 → 00:18:10 อะไรก็สอบถามมานะครับขอบคุณมากครับสวัสดี
00:18:10 → 00:18:13 ครับ