การเห็นภาพถ่ายของมหาวิทยาลัยที่ไม่เคยไป ทำให้เกิดความทรงจำผิดได้อย่างไร

ความทรงจำของคุณทั้งหมดเป็นเรื่องจริงหรือไม่ - Daniel L. Schacter

จากช่อง : จงใฝ่รู้อยู่เสมอ — TED-Ed


ดูคำบรรยาย / View Transcript

00:00:0600:00:08 จากการศึกษาในปี 1990

00:00:0800:00:13 ผู้เข้าร่วมถูกทำให้นึกถึงช่วงเวลา ในวัยเด็กตอนที่พลัดหลงในห้างสรรพสินค้า

00:00:1300:00:17 บางคนสามารถเล่าได้อย่างชัดเจน

00:00:1700:00:20 บางคนจำได้แม้กระทั่ง ว่ามีชายชราที่มาช่วยเหลือเขานั้น

00:00:2000:00:23 สวมเสื้อสักหลาด

00:00:2300:00:28 แต่จริง ๆ แล้วไม่มีใครเลยที่ เคยหลงในห้างสรรพสินค้าจริง ๆ

00:00:2800:00:30 พวกเขาสร้างความทรงจำผิด ๆ

00:00:3000:00:35 เมื่อนักจิตวิทยาที่ศึกษาเรื่องนี้ บอกพวกเขาว่าพวกเขาเคยหลง

00:00:3500:00:37 และถึงแม้ว่าพวกเขา จะไม่สามารถจำเหตุการณ์พลัดหลงนั้นได้

00:00:3700:00:40 แต่ครอบครัวของพวกเขา ก็ช่วยยืนยันอีกเสียงหนึ่ง

00:00:4000:00:45 และมันไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองคน ที่คิดว่าจำได้ว่าตนเคยพลัดหลง

00:00:4500:00:48 แต่เป็นจำนวนหนึ่งในสี่ ของพวกเข้าร่วมเลยต่างหาก

00:00:4800:00:50 การค้นพบนี้อาจจะฟังดูเหลือเชื่อ

00:00:5000:00:54 แต่มันค่อนข้างสะท้อน ถึงความเป็นจริงพื้นฐานที่ว่า

00:00:5400:00:57 ความทรงจำของเรานั้น ในบางครั้งเชื่อถือไม่ได้

00:00:5700:01:01 แต่ถึงอย่างนั้นพวกเรายังคง ไม่รู้อย่างแน่ชัดว่าอะไรทำให้มันแย่ลง

00:01:0100:01:03 ในทางประสาทวิทยา

00:01:0300:01:07 งานวิจัยได้ชี้ชัดว่า บางส่วนของความทรงจำของเรานั้น

00:01:0700:01:10 แตกต่างไปจากสิ่งที่เคยเกิดขึ้นจริง

00:01:1000:01:14 งานศึกษาเรื่องห้างสรรพสินค้าแสดง ให้เห็นว่าเราสามารถประมวลผลข้อมูลผิด ๆ

00:01:1400:01:16 จากปัจจัยภายนอก

00:01:1600:01:18 เช่น คนอื่น ๆ หรือข่าวสารต่าง ๆ

00:01:1800:01:22 มารวมเข้ากับความ ทรงจำของเราโดยไม่รู้ตัว

00:01:2200:01:27 ซึ่งข้อสังเกตุนี้เป็นเพียงแค่ตัวอย่างหนึ่ง ที่ส่งผลต่อความทรงจำของเรา

00:01:2700:01:28 ในอีกการศึกษาหนึ่ง

00:01:2800:01:32 ที่ซึ่งผู้ศึกษานั้นได้แสดงให้เห็น โดยแสดงภาพถ่ายแบบสุ่ม

00:01:3200:01:34 ให้กลุ่มศึกษา

00:01:3400:01:39 โดยในรูปเหล่านั้นมีรูปถ่ายมหาวิทยาลัย ที่พวกเขาไม่เคยไปเลยซักครั้ง

00:01:3900:01:42 สามสัปดาห์ต่อมา

00:01:4200:01:47 ผู้เข้าร่วมส่วนใหญ่ในกลุ่มศึกษา บอกว่าพวกเขาอาจจะหรือค่อนข้างมั่นใจ

00:01:4700:01:50 เคยมีโอกาสได้ไปที่มหาวิทยาลัยนั้น ในอดีต

00:01:5000:01:55 ผู้เข้าร่วมนั้นเกิดข้อมูลที่ผิดเพี้ยน จากเพียงภาพถ่ายที่พวกเขาเคยเห็น

00:01:5500:02:01 ไปสู่ความทรงจำที่ พวกเขาเชื่อว่ามันเคยเกิดขึ้นจริง ๆ

00:02:0100:02:05 ในการทดลองหนึ่ง ผู้ทดลอง ได้ถูกแสดงภาพของแว่นขยาย

00:02:0500:02:09 และถูกบอกให้จินตนาการ ถึงภาพของอมยิ้ม

00:02:0900:02:13 พวกเขามักจะคิดว่าเขาเคยเห็น ทั้งแว่นขยายและอมยิ้มจริง ๆ

00:02:1300:02:17 พวกเขาต้องพยายามที่จะเชื่อมโยง วัตถุนั้นเพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง

00:02:1700:02:21 ไม่ว่าพวกเขาจะเคยเห็นมันจริง ๆ หรือแค่เพียงจินตนาการถึงมันก็ตาม

00:02:2100:02:25 มีอีกการศึกษาหนึ่งที่นักจิตวิทยาถาม คำถามกับผู้เข้าร่วมกว่า 2,000 คน

00:02:2500:02:29 เกี่ยวกับความเห็นถึงการ ทำให้กัญชาถูกกฎหมาย

00:02:2900:02:32 ซึ่งงานนี้แสดงให้เห็นถึงอีก ปัจจัยหนึ่งที่มีอิทธิพลต่อความทรงจำ

00:02:3200:02:38 ผู้เข้าร่วมตอบคำถามที่มีทั้ง ปี 1973 และปี 1982

00:02:3800:02:43 กลุ่มของพวกที่กล่าวว่าพวกเขา สนับสนุนกัญชาให้ถูกกฎหมายในปี 1973 นั้น

00:02:4300:02:46 แต่มีรายงานบอกว่าที่จริงพวกเขา นั้นได้คัดค้านกฎหมายนี้ในปี 1982

00:02:4600:02:53 พวกเขามีแนวโน้มที่จะระลึกได้ว่าพวกเขา ต่อต้านการทำให้ถูกกฎหมายจริง ๆ ในปี 1973

00:02:5300:02:57 ซึ่งนับเป็นการนำเอาทัศนคติเดิม ๆ ต่อเรื่องหนึ่งมาเปรียบกับทัศนคติใหม่

00:02:5700:03:00 โดยความคิดเห็น, ความรู้สึก, และประสบการณ์ของเราในปัจจุบัน

00:03:0000:03:04 สามารถที่จะทำให้เกิดความขัดแย้ง ในด้านความรู้สึกต่อความทรงจำในอดีต

00:03:0400:03:06 ในอีกงานวิจัยหนึ่ง

00:03:0600:03:10 ผู้วิจัยได้ทำการแบ่งผู้เข้าร่วมออก เป็นสองกลุ่มและให้ข้อมูลพื้นฐาน

00:03:1000:03:16 เกี่ยวกับประวัติสงครามและให้ พวกเขาเหล่านั้นโหวตว่าฝ่ายไหนจะชนะ

00:03:1600:03:19 ผู้วิจัยให้ข้อมูล แต่ละกลุ่มเหมือนกันทุกอย่าง

00:03:1900:03:23 เว้นแต่ผู้วิจัยบอกว่าใคร จะชนะสงครามเพียงกับแค่หนึ่งกลุ่มเท่านั้น

00:03:2300:03:27 โดยที่อีกกลุ่มไม่ได้รู้ ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร

00:03:2700:03:30 ในทางทฤษฎี คำตอบของ ทั้งสองกลุ่มนั้นควรที่จะเหมือนกัน

00:03:3000:03:32 เพราะความน่าจะเป็น ที่แต่ละฝ่ายจะชนะนั้น

00:03:3200:03:35 ไม่ได้ส่งผลว่าใครจะชนะจริง ๆ

00:03:3500:03:39 ถ้าบอกว่ามีโอกาสเพียง 20% ที่จะเกิด พายุฟ้าคะนองและพายุฟ้าคะนองเกิดขึ้นจริง ๆ

00:03:3900:03:44 นั่นไม่ได้ทำให้โอกาสที่จะเกิด พายุฟ้าคะนองกลายเป็น 100% ขึ้นมา

00:03:4400:03:48 ถึงอย่างนั้นกลุ่มที่รู้คำตอบ ว่าสงครามจะจบอย่างไร

00:03:4800:03:53 ได้โหวตฝ่ายที่ชนะมากกว่าฝ่ายที่ท่าทาง เหมือนจะชนะมากกว่ากลุ่มที่ไม่รู้คำตอบ

00:03:5300:03:58 ความผิดเพี้ยนของความทรงจำทั้งหมด สามารถที่จะส่งผลกระทบต่อโลกความเป็นจริง

00:03:5800:04:03 ถ้าตำรวจสอบปากคำโดยใช้ คำถามชี้นำกับพยานหรือผู้ต้องสงสัย

00:04:0300:04:10 คำตอบที่ได้อาจจะระบุไม่ถูกต้อง หรือได้รับคำสารภาพที่ไม่น่าเชื่อถือ

00:04:1000:04:13 หรือแม้จะไม่ใช้คำถามชี้นำ

00:04:1300:04:17 การกล่าวอ้างหรือให้ข้อมูลผิด ๆ ของตำรวจก็ สามารถที่นำไปสู่การให้การผิด ๆ ของพยานได้

00:04:1700:04:18 ในศาล

00:04:1800:04:21 หากผู้พิพากษากล่าวว่า หลักฐานนั้นไม่เป็นที่ยอมรับ

00:04:2100:04:26 และให้คณะลูกขุนมองข้ามมันไป พวกเขาอาจจะไม่สามารถขัดอย่างนั้นได้

00:04:2600:04:29 ในทางการแพทย์ หากคนไข้ นั้นมองหาความเห็นที่สองเพิ่มเติม

00:04:2900:04:33 และผู้ให้ความเห็นที่สองนั้นพะวง ถึงคำวินิจฉัยของคนแรก

00:04:3300:04:37 ซึ่งอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อข้อสรุปได้

00:04:3700:04:41 ความทรงจำนั้นไม่ได้เป็นตัวแทน ที่หนักแน่นที่จะแสดงถึงความเป็นจริง

00:04:4100:04:43 แต่เป็นตัวแทนของการรับรู้ส่วนบุคคล

00:04:4300:04:46 และมันก็ไม่ได้ผิดอะไร

00:04:4600:04:50 แต่ปัญหาจะเกิดขึ้นเมื่อเราคิดว่า ความทรงจำนั้นเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริง

00:04:5000:04:53 แทนที่เราจะยอมรับว่ามันเป็นสัจธรรมพื้นฐาน

00:04:5300:04:56 เกี่ยวกับธรรมชาติของความทรงจำ