00:00:00 → 00:00:04 และ
00:00:04 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:08 → 00:00:11 พิเศษสุดๆค่ะคุณผู้ชมอันนี้คือไม่มีสคริป
00:00:11 → 00:00:14 เลยแบบเลยนะคะเอาแบบคุยกันเลยว่าน้องคะมี
00:00:14 → 00:00:18 ปัญหาชีวิตสุขภาพอะไรยังไงไหนนะฮะค่ะจริง
00:00:18 → 00:00:20 ๆแล้วไม่ค่อยมีเท่าไหร่นะคะจะพอไปตรวจ
00:00:20 → 00:00:24 สุขภาพเนี่ยเรากดว่ารักกดว่าไปแต่เราสูง
00:00:24 → 00:00:28 คือส่วนที่สูงมากสองร้อยกว่า 230 และอัน
00:00:28 → 00:00:30 นี้ตัวรวมใช่ไหมคะคุณจะเข้าโดยใช้ตัว L
00:00:30 → 00:00:34 dl ใจให้มาให้เราจำไม่ได้แต่เขาจะสูงจน
00:00:34 → 00:00:36 คุณหมอต้องเตือนว่าเขาต้องไม่เหมือนกัน
00:00:36 → 00:00:39 กินอ่ะเดี๋ยวนะเป็นแฝดกันนะน้องแตงน้อง
00:00:39 → 00:00:41 แต่เราต้องไปสุดท้ายคะมันแตกตรงนี้แล้วก็
00:00:41 → 00:00:44 คือของหนูไม่เกินเธอขึ้นแต่ว่าเฮ้ยจริงๆ
00:00:44 → 00:00:46 ทุกอย่างและใกล้เคียงกันหมดเลยค่ะยกเว้น
00:00:46 → 00:00:49 แตกต่างตรงคอเลสเตอรอลก็เลยมานั่งคิดว่า
00:00:49 → 00:00:54 เอ๊ะเรากินอะไรที่มันแตกต่างกันก็จะเจาะ
00:00:54 → 00:00:57 จนมารู้ว่าโอ้มันน่าจะเกิดจากกาแฟเฮ้ยยัง
00:00:57 → 00:01:00 ไงคะเพราะว่าแตงจะเป็นคนชอบกินมีแต่ใส่นม
00:01:00 → 00:01:01 ข้น
00:01:01 → 00:01:05 จะกินกาแฟเป็นมงคลและกินทุกวันกินทุกวัน
00:01:05 → 00:01:08 วันศุกร์เวลาก่อนทำมันก็จะกินทุกวันจนไป
00:01:08 → 00:01:11 ตรวจสุขภาพนะคะคุณรู้ว่าคุณน้องหนูพี่เลย
00:01:11 → 00:01:13 นะจะเป็นเขาตัวนี้แล้วแต่เราเคยกินกาแฟ
00:01:13 → 00:01:17 แบบที่มันใส่ไซส์หลับอ่ะคุณมาขึ้นวัดก็
00:01:17 → 00:01:19 กินแบบนี้หวานเหมือนกันแต่มันไม่ได้หวาน
00:01:19 → 00:01:22 จากร้านที่เขาใส่นมคนมันต่างกันนะคะใส่
00:01:22 → 00:01:24 หลับกับนมก็แน่นอนค่ะ syrup เนี่ยก็คือ
00:01:24 → 00:01:27 เป็นน้ำตาลนะคะซึ่งเป็นน้ำตาลเชือกเน๊อะ
00:01:27 → 00:01:29 อาจสำหรับเรื่องของครูพจน์ syrup เนี่ย
00:01:29 → 00:01:32 มันจะมีเรื่องว่านะอนาคตนะเราก็มีโอกาส
00:01:32 → 00:01:35 ที่จะได้นักน้ำตาลมากเกินควรซึ่งก็เสียง
00:01:35 → 00:01:37 เป็นเรื่องเบาหวานแต่คราวนี้อนาคตไม่ต้อง
00:01:37 → 00:01:40 ไกลนะคะปัจจุบันเลยนะคะนี่เรื่องของนมข้น
00:01:40 → 00:01:43 เนี่ยเป็นนมที่มีการดัดแปลงซึ่งตรงจุดนี้
00:01:43 → 00:01:46 เนี่ยเขาจะทำให้เกิด L dl ก็คือใครมันโต
00:01:46 → 00:01:48 เร็วที่เราชอบพูดกันนะคะทำให้แอลดีแอล
00:01:48 → 00:01:51 โคเลสเตอรอลสูงซึ่งถามว่าทำไมก็คือมาจาก
00:01:51 → 00:01:54 กระบวนการจัดทำนมข้นขึ้นมาคือยิ่งถ้าเขา
00:01:54 → 00:01:57 ใช้เรื่องของเขาเรียกว่าถ่านแฟลชค่ะพัน
00:01:57 → 00:02:01 แฟลชก็คือย่อมาจากทานอาเซี่ยนสิบนะคะเป็น
00:02:01 → 00:02:04 คนไขมันชนิดต้องบอกว่าเป็นชนิดทานก็คือ
00:02:04 → 00:02:06 เป็นชนิดพิเศษขึ้นมาคือใช้ในสมัยก่อน
00:02:06 → 00:02:08 เนี่ยอุตสาหกรรมอาหารทั้งเปิดน้องแตง
00:02:08 → 00:02:10 เหมือนกับว่าเขาต้องการชื่อว่าเอ๊ยทำยัง
00:02:10 → 00:02:13 ไงนะให้แบบอาหารในมันคงอยู่คงรูปและอร่อย
00:02:14 → 00:02:16 ค่ะเขาก็เลยผลิตภัณฑ์แฟลชขึ้นมาแล้วก็
00:02:16 → 00:02:18 องค์ความรู้เดิมเนี่ยก็คือถ้าเป็นไขมัน
00:02:18 → 00:02:21 อิ่มตัวจะทำให้คนละสูงปรากฏไม่ใช่เลยเจ้า
00:02:21 → 00:02:24 ทานแฟนอยากกลับกลายเป็นว่าทำให้ไขมันใน
00:02:24 → 00:02:27 เลือดเราสู่หน้าและนำในนั้นก็คือกลุ่มที่
00:02:27 → 00:02:31 เป็นผลิตภัณฑ์นมข้นทีมเทียมนี่แหละเช้า
00:02:31 → 00:02:34 นี้ถ้าน้องจะกินก็คือต้องถาซื้อหาทรงเอง
00:02:34 → 00:02:35 แล้วก็หลีกเลี่ยงดีกว่า
00:02:35 → 00:02:39 ตั้งแต่พอไปตรวจสุขภาพมาก็เลยเปลี่ยน
00:02:39 → 00:02:43 พฤติกรรมหันมากินแบบอเมริกันโอล์ดแฮมแล้ว
00:02:43 → 00:02:46 แสบท้องมั้ยแต่พี่น่ะรู้สึกทรมานแต่มึงก็
00:02:46 → 00:02:48 ค่อยปรับไปเรื่อยๆจนมาหลังอย่างนี้เรารู้
00:02:48 → 00:02:52 สึกว่าอุ้ยเราเริ่มกินได้ละปกติแล้วก็
00:02:52 → 00:02:56 เริ่มชินกับรสขมๆอ่ะค่ะก็ยังใส่ใส่หลับ
00:02:56 → 00:02:59 อยู่แล้วเดี๋ยวตัวนี้เป็นบอกว่าแขนให้นี้
00:02:59 → 00:03:02 ตัวสุดโอ้นี่เดี๋ยวมาดูกันว่าเลยถูกใจยัง
00:03:02 → 00:03:05 ไงเนี่ยจะมาบอกหมอดาวได้จริงๆต้องบอกน้อง
00:03:05 → 00:03:07 ๆเขาว่ามันไม่ใช่แค่ปัจจัยเยอะแยะเนี่ย
00:03:07 → 00:03:10 ช่วงนี้ค่ะเรายังรู้ว่ามีปัจจัยที่หลักๆ
00:03:10 → 00:03:12 เนาะเพราะในความเป็นจริงแล้วสมมติว่าถ้า
00:03:12 → 00:03:14 เป็นคนออกกำลังกายเป็นคน Control ควบคุม
00:03:14 → 00:03:16 อาหารอย่างอื่นเนี่ยก็อาจจะไม่ใช่ว่าน้ำ
00:03:16 → 00:03:19 ตาลสูงจากโค้ช syrup ก็ได้เนอะดังนั้น
00:03:19 → 00:03:21 เนี่ยต้องเวลาอย่างอื่นปัจจัยอื่นให้ดี
00:03:21 → 00:03:26 ค่ะหางได้ความรู้บ้างว่ากเลยนะคะถ้าคุณ
00:03:26 → 00:03:28 หมอดาวมีอีกเรื่องหนึ่งที่สงสัยค่ะคุณ
00:03:28 → 00:03:30 เรื่องการทำ ISO เรากำลังเป็นเทรนด์ที่
00:03:30 → 00:03:33 แบบ Hit มากเลยอยากรู้ว่าเอ๊ะมันมีข้อดี
00:03:33 → 00:03:37 ข้อเสียยังไงอ่ะโอเคจะตามเค้าต้องบอกว่า
00:03:37 → 00:03:39 นิยามของ I F หรือว่า Inter Media
00:03:39 → 00:03:43 ฟาสติ้งก็คือการอดอาหารในช่วงระยะเวลา
00:03:43 → 00:03:47 หนึ่งโดยที่ไม่อยากให้ร่างกายเนี่ยรู้ตัว
00:03:47 → 00:03:50 คือร่างกายอยากจะรู้ตัวว่าเจ้าของร่างกาย
00:03:50 → 00:03:52 เขาไม่กินเนี่ยก็คือแบบตกใจเอาไม่กินหรอ
00:03:52 → 00:03:55 งั้นถ้าฉันไม่กินเธอไม่กินหมายถึงตัวเจ้า
00:03:55 → 00:03:57 ของร่างกายไม่กินเนี่ยฉันไม่แบบว่าเหมือน
00:03:57 → 00:03:59 กับเขาได้เลยฉันพยายามที่เราสอบถามให้เธอ
00:03:59 → 00:04:00 ก็ได้
00:04:00 → 00:04:02 นี้คือกระบวนการของ I F ที่เกิดขึ้นคราว
00:04:02 → 00:04:06 นี้ปัญหาคือว่าพอเราไปทำเนี่ยบางครั้งมัน
00:04:06 → 00:04:09 ก็ผิดๆถูกๆรวมไปถึงว่าแพรรี่หรือว่าพลัง
00:04:09 → 00:04:12 งานที่ราเติมในแต่ละวันหลังจากที่โอเค
00:04:12 → 00:04:14 สมมุติว่าเราทำไอเอสช่วงเวลาหนึ่งถึงช่วง
00:04:14 → 00:04:16 เวลาหนึ่งแล้วเพราะช่วงเวลาที่เหลือผู้
00:04:16 → 00:04:19 ฉันกินได้ก็กินไม่บันยะบันยังอันนี้คือ
00:04:19 → 00:04:22 น่ากลัวเหมือนกันค่ะคราวนี้ถ้าตามหลักการ
00:04:22 → 00:04:24 แล้ว intermediate ส่ิงที่เหมาะกับต้อง
00:04:24 → 00:04:26 บอกว่าบอกกับชีวิตมนุษย์เรานะคะก็คือว่า
00:04:26 → 00:04:29 ร่างกายของเราจะมีการหลังฮอร์โมนค่ะตาม
00:04:29 → 00:04:31 แสงแดดตามดวงอาทิตย์เมื่อไหร่ก็ตามเนี่ย
00:04:31 → 00:04:33 เที่ยงเรานั่นเนี่ยมีดวงอาทิตย์เล็กน้อย
00:04:33 → 00:04:35 เนี่ยร่างกายโรงเรียนปรับและเขาเรียกไบโอ
00:04:35 → 00:04:38 ติกข้อคล็อกหรือว่านาฬิกาชีวิตเนาะค่ะก็
00:04:38 → 00:04:41 จะมีการหลังฮอร์โมนเข้านี้ถ้า s.d. เนี่ย
00:04:41 → 00:04:44 ควรจะเป็นนะคะ 18:00 นจนถึงหกโมงเช้าถ้า
00:04:44 → 00:04:46 มันจะสอดคล้องกันก็คือสอดคล้องกันกับที่
00:04:46 → 00:04:50 ว่ามนุษย์ยุคหิน 18:00 นพระอาทิตย์ลาลับ
00:04:50 → 00:04:53 นอนเข้าถ้ำและเพราะว่าถ้าออกมาข้างนอก
00:04:53 → 00:04:56 เดี๋ยวเสือคาบไปกินไม่ต่อปาก 5 เท่านี้
00:04:56 → 00:04:58 ก่อนมาชุดว่ามนุษย์เราในปัจจุบันเนี่ยเรา
00:04:58 → 00:05:01 ก็เรียกว่าไอ้เอฟถ้างั้นเวลานี้ดีกว่าอัน
00:05:01 → 00:05:04 นี้คือต้องต้องดูเป็นรายๆไปบอกเลยเท่านี้
00:05:04 → 00:05:06 กลับมาที่ว่าคำถามคือว่าเนี่ยแล้วก็ทำ I
00:05:06 → 00:05:09 F แล้วแล้วจะไปกินอะไรที่ตามใจตัวเอง
00:05:09 → 00:05:10 อย่างเช่นข้าวเหนียวมะม่วงข้าวเหนียว
00:05:10 → 00:05:13 ทุเรียนได้ไหมคำตอบคือไม่ใช่เพราะอย่าลืม
00:05:13 → 00:05:16 ว่าเวลาช่วงที่คุณกินจะต้องมีทั้งพลังงาน
00:05:16 → 00:05:19 ที่ดีที่พอเหมาะและคุณภาพของอาหารที่
00:05:19 → 00:05:22 เหมาะสารอาหารที่เหมาะการที่คุณรับประทาน
00:05:22 → 00:05:24 ข้าวเหนียวมะม่วงข้าวเหนียวทุเรียนมันก็
00:05:24 → 00:05:28 คือกลุ่มตาล 5 ช่วยตอบหน่อยนะน้ำตาลเข้า
00:05:28 → 00:05:30 มาให้เดินหน้าซึ่งมันให้พลังงานค่ะ
00:05:31 → 00:05:33 แต่ว่าที่สำคัญเลยคุณต้องเน้นว่าโอเคคุณ
00:05:33 → 00:05:35 ต้องได้โปรตีนที่พอเหมาะและน้ำตาล
00:05:35 → 00:05:37 คาร์โบไฮเดรตต้องเป็นเขาเรียกว่า
00:05:37 → 00:05:39 คาร์บอเนตเชิงซ้อนค่ะหนูเขินแต่ก็คือเป็น
00:05:39 → 00:05:42 คาบูเด็ชกลุ่มที่อย่างเช่นเป็นยาอาหารสูง
00:05:42 → 00:05:45 นะคะเป็นข้าวกล้องนะคะเป็นผักใบเขียวจะ
00:05:45 → 00:05:47 ไม่ใช่เข้าแป้งที่รับพอกินเข้าไปปุ๊บและ
00:05:47 → 00:05:49 น้ำตาลในเลือดสูงปี๊ดเลยอันนั้นไม่ควรไม่
00:05:49 → 00:05:53 ใช่แล้วนี้เหมือนได้ยินมาค่ะอ่านตามที่
00:05:53 → 00:05:55 เขาแชร์กันในว่าออนไลน์อ่ะเขาบอกว่าการอด
00:05:56 → 00:05:58 อาหารให้ร่างกายได้รู้สึกหิวบ้างค่ะจะทำ
00:05:58 → 00:06:01 ให้เรารู้สึกดูเด็กทีนี้สิ่งมันมีข้อมูล
00:06:01 → 00:06:04 ที่เป็นแนวโน้มว่าจริงแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น
00:06:04 → 00:06:07 ต้องบอกนี้ก่อนค่ะขยายความก็คือว่าเมื่อ
00:06:07 → 00:06:09 ไหร่ก็ตามที่สิ่งมีชุดนึงเนี่ยได้อาหาร
00:06:09 → 00:06:12 ที่เพียงพอคำว่าเพียงความว่าคือเพียง
00:06:12 → 00:06:14 เพราะที่เขาจะดำรงชีพเนี่ยมันจะมีส่วนทำ
00:06:14 → 00:06:17 ให้เด็กถามว่าทำไมทำให้เด็กเพราะว่า
00:06:17 → 00:06:19 กระบวนการเผาผลาญของร่างกายเนี่ยมันก็ทำ
00:06:19 → 00:06:21 ให้เกิดพลังงานส่วนหนึ่งสรรหาและส่วนเกิด
00:06:21 → 00:06:24 ของเสียของเสียหรือว่าอนุมูลอิสระตรงนี้
00:06:24 → 00:06:28 จะทำให้แก่ดังนั้นถ้าคุณกินเยอะนอกจากว่า
00:06:28 → 00:06:30 พลังงานคุณใช้ไม่หมดมันสะสมให้คุณอ้วน
00:06:30 → 00:06:34 แล้วคุณยังจะแก่จากการที่ร่างกายเนี่ยมัน
00:06:34 → 00:06:36 จะเกิดอนุมูลอิสระจากการกินอาหารที่เยอะ
00:06:36 → 00:06:39 เกินควรอ่ะมันก็เลยเป็นเหตุผลว่าพริกกับ
00:06:39 → 00:06:42 กันนะธรรมการกับกันว่าโอเคถ้าสมุดว่าคุณ
00:06:42 → 00:06:45 อยากกินน้อยกินพอเหมาะพอดีคุณก็เลยแก่ช้า
00:06:45 → 00:06:49 ไงเออแบบนี้เราควรที่จะกินไหมน้อยคำว่า
00:06:49 → 00:06:52 กินน้อยก็คือกินให้พอดีกินให้พอดีคือยัง
00:06:52 → 00:06:54 ไงง่ายๆเลยค่ะอย่างนั้นแต่ไปกินข้าวเนี่ย
00:06:54 → 00:06:57 สมมติว่าเอ่อกินแล้วเว้ยเรารู้สึกเริ่ม
00:06:57 → 00:07:00 อิ่มแล้วประมาณ 80% เนี่ยมันจะเริ่มจะทำ
00:07:00 → 00:07:03 เมื่อไหร่เริ่มอิ่มแปลว่าเออลองพักสักพัก
00:07:03 → 00:07:06 นึงปรากฏถ้ามันจริงๆอยู่ซักเพราะว่าเริ่ม
00:07:06 → 00:07:08 อิ่มเนี่ยแปลว่าสมองมารับรู้แล้วว่าร่าง
00:07:08 → 00:07:11 กายโอเคได้น้ำตาลได้พลังงานพอเหมาะแล้วนะ
00:07:11 → 00:07:14 ครับสำหรับการทานอาหารที่ดีมากเลยเพราะ
00:07:14 → 00:07:17 ว่าคนไปบุฟเฟ่ต์จะทำต้องกินให้คุ้มให้ครู
00:07:17 → 00:07:19 มาสุดท้ายแล้วและมันจะทำให้เราทั้งแกะ
00:07:19 → 00:07:21 แล้วก็อ้วนใช่จริงๆแล้วอยากให้มองในทาง
00:07:21 → 00:07:24 กลับกันค่ะว่าถึงเราจะกินคุมให้ตายไม่
00:07:24 → 00:07:26 งั้นบุฟเฟ่ต์ทำไมยังอยู่ได้เขาก็ต้องได้
00:07:26 → 00:07:29 กำไรอยู่ดีดังนั้นอย่างบจะแปะเลยคือไปกิน
00:07:29 → 00:07:31 ก็คือกินให้มันหลากหลายแล้วก็ให้กำไรก็
00:07:31 → 00:07:36 เถอะเธอนอกค่ะและถ้าท่านต้องการติดตาม
00:07:36 → 00:07:39 ย้อนหลังนะคะสามารถติดตามได้ทางช่อง
00:07:39 → 00:07:42 YouTube นะคะและติดต่อค่ะและในส่วนของ
00:07:42 → 00:07:46 การติดตามรายการสดนะคะก็คือทาง Facebook
00:07:46 → 00:07:50 นะคะ g n Health ค่ะอย่าลืมค่ะกดไลค์กด
00:07:50 → 00:07:53 แชร์กด Subscribe เป็นกำลังใจให้เราทีม
00:07:53 → 00:07:56 งาน g n Health