00:00:00 → 00:00:08 [เสียงดนตรี]
00:00:08 → 00:00:10 หากเราลดการกินน้ำตาลลง
00:00:10 → 00:00:12 สิ่งที่จะเกิดขึ้นกับร่างกายของเราคือ
00:00:12 → 00:00:16 อันดับแรก ช่วยชะลอความเหี่ยวย่นของผิวหนัง ก่อนวัยอันควร
00:00:16 → 00:00:19 เพราะน้ำตาลที่สูงจะไปจับกับคอลลาเจน
00:00:19 → 00:00:21 ทำให้ผิวหนังขาดความยืดหยุ่น
00:00:21 → 00:00:23 ทำให้เกิดรอยเหี่ยวย่นได้ง่ายค่ะ
00:00:23 → 00:00:26 ประโยชน์ข้อต่อมาของการลดการกินน้ำตาลก็คือ
00:00:26 → 00:00:28 ช่วยลดการหิวง่าย
00:00:28 → 00:00:32 เพราะว่าปริมาณอินซูลินจะค่อย ๆ ปล่อยออกมา เพื่อรักษาระดับน้ำตาลของเรา
00:00:32 → 00:00:36 ทำให้ระดับน้ำตาลสามารถคงอยู่ได้ยาวนาน จนถึงมื้อถัดไป
00:00:36 → 00:00:39 โดยไม่ต้องรับประทานอาหารว่างระหว่างมื้อค่ะ
00:00:40 → 00:00:44 สิ่งหนึ่งที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างชัดเจน เมื่อเรากินน้ำตาลลดลง
00:00:44 → 00:00:47 จะทำให้เราควบคุมน้ำหนักได้ดียิ่งขึ้น
00:00:47 → 00:00:51 เพราะว่าน้ำตาลมักจะอยู่ในกลุ่มของ เครื่องดื่มและของหวาน
00:00:51 → 00:00:53 ซึ่งเป็นกลุ่มอาหารที่รับประทานได้ง่าย
00:00:53 → 00:00:55 ทำให้เรารับประทานในปริมาณที่เยอะ
00:00:55 → 00:00:59 ก็จะมีโอกาสทำให้เราได้รับพลังงานเกิน และทำให้น้ำหนักขึ้นได้
00:00:59 → 00:01:02 ซึ่งจะช่วยป้องกันในเรื่องของ ความเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน
00:01:02 → 00:01:04 และโรคหัวใจและหลอดเลือดได้
00:01:04 → 00:01:07 ข้อสุดท้าย เป็นการเปลี่ยนแปลงภายในร่างกายของเรา
00:01:07 → 00:01:09 เมื่อเรากินน้ำตาลที่ลดลง
00:01:09 → 00:01:12 ก็จะช่วยลดในเรื่องของไขมันที่ไปพอกตับได้
00:01:12 → 00:01:15 เพราะปริมาณน้ำตาลที่มากเกินไป จะเปลี่ยนเป็นไขมันที่ตับ
00:01:15 → 00:01:18 ดังนั้น การที่เราลดไขมันพอกตับได้
00:01:18 → 00:01:23 ก็จะช่วยลดโอกาสในเรื่องของตับอักเสบ ตับแข็ง และมะเร็งตับตามมาได้ค่ะ
00:01:23 → 00:01:27 [เสียงดนตรี]
00:01:27 → 00:01:29 น้ำตาลแบ่งเป็น 2 ประเภท
00:01:29 → 00:01:32 ประเภทแรก เป็นน้ำตาลที่เราเจอได้ในอาหารโดยธรรมชาติ
00:01:32 → 00:01:35 ได้แก่ น้ำตาลในผลไม้ เป็นน้ำตาลฟรุกโตส
00:01:35 → 00:01:38 หรือว่าน้ำตาลในนม คือน้ำตาลแล็กโทส
00:01:38 → 00:01:41 แต่อีกประเภทหนึ่ง เป็นน้ำตาลที่เราจะต้องระมัดระวัง
00:01:41 → 00:01:45 คือเป็นน้ำตาลที่เราเติมเพิ่มลงไปใน เครื่องดื่มและอาหารของเรา
00:01:45 → 00:01:50 เช่น น้ำอัดลม น้ำหวาน เบเกอรี อาหารที่มีรสชาติหวาน
00:01:50 → 00:01:53 ซึ่งน้ำตาลเติม ไม่ควรเกิน 6 ช้อนชาต่อวัน
00:01:53 → 00:01:56 หรือไม่ควรเกิน 25-30 กรัมต่อวัน
00:01:58 → 00:02:02 สัญญาณที่บ่งบอกว่า คุณเริ่มจะมีอาการติดหวานแล้ว
00:02:02 → 00:02:05 อันดับแรกเลย ในทุกมื้อจะต้องมีของหวาน
00:02:05 → 00:02:09 หรือว่าในทุกวันจะต้องมีการรับประทานอาหาร ที่เป็นของหวานร่วมด้วย
00:02:09 → 00:02:10 หรือประการที่สอง
00:02:11 → 00:02:13 หากเราไม่ได้รับประทานของหวานในวันนั้น ๆ
00:02:13 → 00:02:17 เราจะมีความรู้สึกโหยและหงุดหงิด เมื่อไม่ได้รับประทานมัน
00:02:17 → 00:02:21 เพราะฉะนั้น เราควรจะมีการปรับพฤติกรรม เพื่อลดปริมาณน้ำตาลลง
00:02:21 → 00:02:23 สิ่งที่อยากแนะนำ อันดับแรกเลย
00:02:23 → 00:02:27 เราควรจะเปลี่ยนของหวาน เป็นผลไม้ที่รสชาติไม่หวาน
00:02:27 → 00:02:31 อย่างเช่น แอปเปิล สาลี่ สับปะรด หรือฝรั่ง
00:02:31 → 00:02:35 เพื่อทดแทนในกลุ่มของ ของหวานที่มีปริมาณค่อนข้างเยอะค่ะ
00:02:35 → 00:02:38 ต่อมา เราลดปริมาณความหวาน อย่างค่อยเป็นค่อยไป
00:02:38 → 00:02:42 อย่างเช่น เราชงกาแฟโดยใช้น้ำตาล 2 ช้อนชา
00:02:42 → 00:02:47 เราลดลงเหลือช้อนชาครึ่ง หรือ 25% ของที่เคยใช้อยู่
00:02:47 → 00:02:50 หรือถ้าเกิดเครื่องดื่ม ที่เป็นลักษณะสำเร็จรูป
00:02:50 → 00:02:53 เราสามารถลดปริมาณการรับประทานได้
00:02:53 → 00:02:56 จากเดิมเคยกิน 1 แก้ว ก็เหลือครึ่งแก้ว
00:02:56 → 00:02:58 ทำแบบนี้ไปเป็นระยะเวลาสักประมาณ 1 อาทิตย์
00:02:58 → 00:03:01 แล้วก็ค่อย ๆ ปรับลดลงเรื่อย ๆ
00:03:01 → 00:03:04 ก็จะทำให้เรารู้สึกคุ้นชินกับ การลดปริมาณของหวานลงได้ค่ะ
00:03:04 → 00:03:09 มีสิ่งหนึ่งที่หลาย ๆ คนยังเข้าใจผิดอยู่ ในเรื่องของการใช้น้ำตาลเทียม
00:03:09 → 00:03:11 ในการลดในเรื่องของการรับประทานอาหารหวาน
00:03:11 → 00:03:15 อย่างเช่น เครื่องดื่มบางยี่ห้อ ที่ใช้น้ำตาลเทียมในการให้ความหวาน
00:03:16 → 00:03:18 ซึ่งจริง ๆ แล้ว ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม
00:03:18 → 00:03:20 ถ้าเรายังคงใช้น้ำตาลเทียมอยู่
00:03:20 → 00:03:22 ก็เท่ากับว่าเรายังติดความหวานอยู่
00:03:22 → 00:03:25 ซึ่งมีโอกาสที่เราจะหาอาหารหวานอื่น ๆ
00:03:25 → 00:03:30 เพื่อทดแทนความหวานที่เราไม่ได้กิน จากการรับประทานเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม
00:03:30 → 00:03:32 สิ่งที่อยากแนะนำสิ่งสุดท้าย ซึ่งเป็นเรื่องใกล้ตัวมาก
00:03:33 → 00:03:36 เราควรฝึกที่จะใส่ใจในการอ่านฉลากโภชนาการ
00:03:36 → 00:03:41 เพราะปัจจุบัน มีผลิตภัณฑ์ที่ผ่านเกณฑ์ ในเรื่องของปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม
00:03:41 → 00:03:44 โดยผลิตภัณฑ์ที่มีปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม
00:03:44 → 00:03:47 ในหนึ่งหน่วยบริโภค ของเครื่องดื่ม 200 มิลลิลิตร
00:03:47 → 00:03:49 ควรจะมีน้ำตาลไม่เกิน 12 กรัม
00:03:49 → 00:03:53 ซึ่งจะเป็นปริมาณน้ำตาลที่เหมาะสม ที่สามารถจะเลือกบริโภคได้ค่ะ
00:03:53 → 00:03:59 [เสียงดนตรี]