00:00:00 → 00:00:02 เป็นโรคที่กำลังได้รับความสนใจนะพี่โอ๊ค
00:00:02 → 00:00:05 คุณผู้ฟังเพราะว่ามีนักแสดงชื่อดังอย่าง
00:00:05 → 00:00:09 คุณยิบซีคิติเนาะเธอก็ได้ยิบซีใช่ก็ได้
00:00:09 → 00:00:12 ออกมาข่อนใจพี่โอ๊คป่ะเนี่ย
00:00:12 → 00:00:15 พี่พี่สับสนระหว่างยิบซียิบโซอ๋อก็ก็เป็น
00:00:15 → 00:00:17 พี่น้องกันแต่ว่ายิบซีเขาจะเป็นคนที่แบบ
00:00:17 → 00:00:20 ใส่Healตี้อะไรอย่างเงี้ยจนอ่าออกกำลัง
00:00:20 → 00:00:23 กายเยอะใช่เบอกว่าเสุขภาพดูแลสุขภาพดีค่ะ
00:00:23 → 00:00:26 เคร่งครัดมากทางด้านของการกินการนอนหรือ
00:00:26 → 00:00:30 ว่าการออกกำลังกายจนถึงขั้นว่าเป็นโรคโรค
00:00:30 → 00:00:33 PMDดdถึงขนาดที่ว่ารุนแรงจนอยากจบชีวิต
00:00:33 → 00:00:36 ตัวเองเลยเฮ้ยทำไมมันน่ากลัวขนาดนี้ก่อน
00:00:36 → 00:00:40 ก่อนที่จะรู้สึกว่าอยากจบอ่ามันรุนแรงจบ
00:00:40 → 00:00:43 อยากแบบทำร้ายตัวเองอ่ะเอาง่ายๆทำร้ายตัว
00:00:43 → 00:00:46 เองก่อนหน้านั้นเขาก็แบบความรุนแรงเยมัน
00:00:46 → 00:00:49 ถึงขั้นทำร้ายคนรอบข้างทำร้ายคนรักทำร้าย
00:00:49 → 00:00:53 เอ้ยมันเอ้ยความเป็นฮอร์โมนสวิงความเป็น
00:00:53 → 00:00:55 แบบคุณผู้หญิงอ่ะที่มันมีความสวิงใน
00:00:56 → 00:00:59 เรื่องของฮอร์โมนน่ะไม่น่าเชื่อนะว่า
00:00:59 → 00:01:01 รุนแรงได้ขนาดนี้มันเป็นอย่างนั้นจริง
00:01:01 → 00:01:04 มั้ยมันมันก้าวไปถึงจุดนั้นได้อย่างไร
00:01:04 → 00:01:08 อันเนี้เดี๋ยวเรามาตอบคำถามกับคุณหมอกัน
00:01:08 → 00:01:11 ดีกว่านะครับกับโรคPMDดdี
00:01:11 → 00:01:15 ฮอร์โมนสวิงทำอารมณ์แปรปรวนขั้นสุดกับคุณ
00:01:15 → 00:01:17 หมอนะครับนายแพทย์พูนศักดิ์สุชนวานิชนะ
00:01:18 → 00:01:21 ครับสูตินารีแพทย์ที่มาให้ข้อมูลความรู้
00:01:21 → 00:01:24 ทุกวันพฤหัสบดีของศุภค 22:00 น.นะครับ
00:01:24 → 00:01:27 สวัสดีครับคุณหมอคุณหมอต้นครับสวัสดีค่ะ
00:01:27 → 00:01:30 สวัสดีครับสวัสดีคุณปาล์มคุณโอ๊คแล้วก็
00:01:30 → 00:01:33 สวัสดีคุณผู้ฟังทางบ้านด้วยนะครับก็
00:01:33 → 00:01:35 สวัสดีปีใหม่ไทยย้อนหลังทุกๆท่านด้วยนะ
00:01:35 → 00:01:37 ครับก็หวังว่าคงขอบพระคุณมากครับหมอต้น
00:01:37 → 00:01:41 ครับก็ก็ต้องบอกว่าคุณหมอต้นเดินทางเพิ่ง
00:01:41 → 00:01:44 กลับมาจากต่างประเทศเมื่อสักสัปดาห์ก่อน
00:01:44 → 00:01:46 ใช่มั้ฮะครับผม
00:01:46 → 00:01:51 โอหเรียกว่าแอบแอบหนีไปเที่ยวสักนิดนึง
00:01:51 → 00:01:53 ครับมีน้ำกลัวกลัวเปียกกลัวเปียกเฮ้ยคุณ
00:01:53 → 00:01:59 หมอพักผ่อนบ้างเออเออเลยครับเออคุณหมอโห
00:01:59 → 00:02:02 พอได้อ่านส่งข่าวให้คุณหมอดูแหละแล้วก็
00:02:02 → 00:02:06 แบบเออน้องปาล์มเนาะเห็นข้อออมจริงๆอ่ะผม
00:02:06 → 00:02:10 อ่ะอันเนี้ยต้องต้องจะบอกว่าใกล้ตัวมันก็
00:02:10 → 00:02:13 มันก็เอ้ยตะงิดตะหงิดน้าเอ้ยมันมีจริงรึ
00:02:13 → 00:02:17 เปล่าเ้ยต้องฟาร์มขับเดี๋ยวๆ
00:02:17 → 00:02:21 เออ TMBD อ่ะความฮอร์โมนสวิงอ่ะผมอ่ะเอา
00:02:21 → 00:02:24 เอาคุณผู้ชายทั่วไปดีกว่าที่มีคุณแฟนคุณ
00:02:24 → 00:02:27 ภรรยาเนี่ยเอ้ยก็เริ่มสงสัยเอ้ยอย่างที่
00:02:27 → 00:02:31 เราเคยเจอเคยเจอกับชีวิตปกติของคนคู่กัน
00:02:31 → 00:02:34 เนี่ยมันเป็นโรคนี้หรือเปล่าหรือว่ามัน
00:02:34 → 00:02:37 แตกต่างจากที่เราเจอครับม.
00:02:37 → 00:02:39 ครับเอ่อเกี่ยวกับโรคที่อย่างคุณโอ๊คเกิด
00:02:39 → 00:02:42 มานะครับหัวข้อของเราวันนี้คือ PMD นะ
00:02:42 → 00:02:44 ครับหลายๆท่านคงรู้จัก PM แต่อันนี้มัน
00:02:44 → 00:02:46 มันคนละอันจาก PM 2.5
00:02:46 → 00:02:48 นะครับอ่าน้ำสภาพแล้วก็อ่าอันนั้นอันนั้น
00:02:49 → 00:02:51 มันเป็นส่วนละอองในอากาศนะเราคงจะเข้าใจ
00:02:51 → 00:02:54 กันแล้วนะครับแต่ว่า PMD เนี่ยชื่อมันดีๆ
00:02:54 → 00:02:58 แต่มันไม่ดีนะครับอืก็ไอ้เจ้าPMDดdีเนี่ย
00:02:58 → 00:03:00 นะครับเดี๋ยวเดี๋ยวเราจะค่อยๆอธิบายราย
00:03:00 → 00:03:03 ละเอียดเพื่อให้คุณผู้ฟังได้เข้าใจแล้วก็
00:03:03 → 00:03:05 จริงๆมันเป็นโรคที่ถ้าเราแปลเป็นภาษาไทย
00:03:05 → 00:03:09 นะครับเราก็จัด PMD เนี่ยไว้ในกลุ่มนึง
00:03:09 → 00:03:13 ของโรคโรคใหญ่ของมันก็คือ PMS นะครับ PMS
00:03:13 → 00:03:16 นี่ก็คือเอ่อถ้าชื่อเต็มๆของเค้า
00:03:16 → 00:03:19 ก็ syndrome ก็คือลักษณะของกลุ่มอาการ
00:03:19 → 00:03:22 หรือ syndrome เนี่ยนะครับที่มีอ่าแสดง
00:03:22 → 00:03:25 อาการก่อนจะมีประทำเดือนหรือพีมstrual
00:03:25 → 00:03:27 ก่อน menstruation นั่นเองอ่าอันเนี้ยคำ
00:03:27 → 00:03:30 ว่า PMS เนี่ยเป็นโรคที่เป็นคุณผู้หญิงนะ
00:03:30 → 00:03:33 ครับเพราะว่าแน่นอนเป็นเรื่องอาการก่อนมี
00:03:33 → 00:03:35 ประจำเดือนคุณผู้ชายคงไม่เป็นนะฮะแต่มัน
00:03:35 → 00:03:38 เป็นโรคที่แปลกอย่างนึงก็คือเป็นในคุณผู้
00:03:38 → 00:03:40 หญิงนะครับแต่ส่งผลกระทบทั้งคุณผู้หญิง
00:03:40 → 00:03:43 และคุณผู้ชายนะฮะเหมือนเหมือนอย่างคุณพี่
00:03:43 → 00:03:45 โอ๊คว่านะครับถึงแม้เราจะเป็นคุณผู้ชายนะ
00:03:45 → 00:03:48 ครับก็ควรจะให้ความสนใจกับรายการนี้ในวัน
00:03:48 → 00:03:50 นี้นะครับความรู้
00:03:50 → 00:03:53 สิหลายๆอย่างที่เกิดขึ้นกับคุณผู้หญิง
00:03:53 → 00:03:57 ข้างๆตัวเรานะครับค่ะอย่างงี้ครับเราเข้า
00:03:57 → 00:04:00 ใจอยู่แล้วว่าเ่อระบบของ่อฮอร์โมนคุณผู้
00:04:00 → 00:04:02 หญิงเนี่ยนะครับจะมีส่วนสำคัญในเรื่องของ
00:04:02 → 00:04:06 การควบคุมเ่อรอบประจำเดือนนะครับเอ่อผู้
00:04:06 → 00:04:09 หญิงเราเนี่ยนะครับเอ่อมีมดลูกมีรังไข่
00:04:09 → 00:04:12 อยู่ตั้งแต่เราเกิดละนะครับเพียงแต่ว่าใน
00:04:12 → 00:04:14 ช่วงที่ยังเป็นวัยเด็กเนี่ยนะครับ
00:04:14 → 00:04:16 ธรรมชาติมองว่าเอ่อเด็กผู้หญิงคนเนี้ยยัง
00:04:16 → 00:04:19 ไม่อยู่ในเหมือนกับการเจริญเติบโตอวัยวะ
00:04:19 → 00:04:22 ต่างๆยังพัฒนาไม่สมบูรณ์ก็ยังไม่ควรจะ
00:04:22 → 00:04:24 อยู่ในวัยเจริญพันธ์นะครับเราก็เรียกว่า
00:04:24 → 00:04:26 เป็นวัยเด็กอ่ะถูกแล้วก็คือธรรมชาติยัง
00:04:26 → 00:04:29 ไม่พร้อมให้เจริญพันธนะครับเพราะฉะนั้นใน
00:04:29 → 00:04:32 ส่วนของมดลูกหรือรังไขที่มีอยู่เนี่ยเค้า
00:04:32 → 00:04:34 ก็จะอยู่เงียบๆไปไม่ได้แสดงอะไรนะครับไม่
00:04:34 → 00:04:38 ได้แสดงอาการหรือทำหน้าที่อะไรจนกระทั่ง
00:04:38 → 00:04:40 เอ่อคุณเด็กๆผู้หญิงเนี่ยเริ่มเข้าสู่วัย
00:04:40 → 00:04:42 รุ่นนะครับอ่าอาจจะวัยรุ่นก็เดี๋นี้
00:04:42 → 00:04:44 ปัจจุบันนี้ก็อายุ 11 12 13 เริ่มเข้า
00:04:44 → 00:04:47 สู่วัยนะครับธรรมชาติมองว่าผู้หญิงคนนี้
00:04:47 → 00:04:50 เจริญเติบโตขึ้นมามากและพร้อมจะเจริญพันธ
00:04:50 → 00:04:52 พร้อมจะมีการขยายของพันซึ่งมันเป็นมัน
00:04:52 → 00:04:54 เป็นวัฏจักรธรรมชาติของของสัตว์ทุกชนิด
00:04:54 → 00:04:56 อยู่แล้วนะครับนะในผู้หญิงเนี่ยเราก็จะ
00:04:56 → 00:04:59 มองว่าเ่อเมื่อเข้าสู่วัยเจริญพันธ์วัย
00:04:59 → 00:05:01 ที่เป็นวัยรุ่นเนี่ยธรรมชาติจะมีการ
00:05:01 → 00:05:04 กระตุ้นให้รังไข่และเอ่อมดลูกเนี่ยเริ่ม
00:05:04 → 00:05:06 ทำงานโดยสมองเนี่ยจะหลับฮอร์โมนมากระตุ้น
00:05:06 → 00:05:09 รังไข่ก่อนเพื่อให้รังไข่เนี่ยมีการผลิต
00:05:09 → 00:05:12 ไข่แล้วก็ตกไข่นะครับส่วนของรังไข่ที่
00:05:12 → 00:05:14 ผลิตไข่และตกไข่เนี่ยมันก็จะสร้างหอ
00:05:14 → 00:05:16 ฮอร์โมนสำคัญอยู่ 2 ตัวก็คือฮอร์โมน
00:05:16 → 00:05:19 เอสโตรเจนกับฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนนะครับก็
00:05:19 → 00:05:22 ฟังชื่อให้คุณหูกันไว้นะครับฮอร์โมนของ
00:05:22 → 00:05:24 เพศหญิงคือเอสตรเจนกับโปรเจสโรนเนี่ยจะมี
00:05:24 → 00:05:27 การขยับตัวขึ้นลงตามรอบประจำเดือนอย่าง
00:05:27 → 00:05:29 โดยปกติเนี่ยเรารอบประจำเดือนเข้าโดย
00:05:29 → 00:05:31 เฉลี่ย 28 วันเนี่ยนะครับในช่วง 14 วัน
00:05:31 → 00:05:35 แรกจะเป็นช่วงที่เอ่อรังไข่จะเริ่มมีการ
00:05:35 → 00:05:38 สร้างไข่ขึ้นมาก่อนครับเมื่อไข่เจริญเติบ
00:05:38 → 00:05:39 โตขึ้นเนี่ยนะครับจนกลายเป็นไข่ที่สุก
00:05:40 → 00:05:42 ประมาณ 14 วันเนี่ยนะครับตัวอ่าเซลล์ไข่
00:05:42 → 00:05:44 เนี่ยมันจะสร้างฮอร์โมนเอโตรเจนให้ผู้
00:05:44 → 00:05:45 หญิงนะ
00:05:45 → 00:05:49 ครับเอโตรเจนเนี่ยจะส่งผลต่อยืดระบุพวงม
00:05:49 → 00:05:51 ลูกนะครับทำให้ในพวงมลูกเนี่ยมีการสะสม
00:05:51 → 00:05:54 เลือดหรือสะสมความหนาตัวเอาไว้เพราะหลัง
00:05:54 → 00:05:56 จากวันอาทิตย์วันที่ 14 ของรอบประจำเดือน
00:05:56 → 00:05:58 ไปแล้วไข่ตกแล้วเนี่ยนะครับเอ่อธรรมชาติ
00:05:58 → 00:06:00 ยังคงมีเอสโตรเจนอยู่แต่ก็จะมีฮอร์โมนอีก
00:06:00 → 00:06:03 ตัวนึงเพิ่มขึ้นมาคือฮอร์โมนโปรเจสโรน
00:06:03 → 00:06:06 ฮอร์โมนโปรเจสโตโรนเนี่ยจะมาส่งผลที่โพง
00:06:06 → 00:06:08 มรูปต่อจากเอสโตรเจนคือเอสโตรเจนเนี่ยทำ
00:06:08 → 00:06:11 ให้เยืปรูมันหนาตัวก่อนตัวโรนเนี่ยจะ
00:06:11 → 00:06:13 เหมือนกับเอ่อเพิ่มการผลิตอาหารมาเลี้ยง
00:06:13 → 00:06:15 ชั้นเยื่อบุคคลนี้เหมือนกับว่าเหมือนกับ
00:06:15 → 00:06:17 เตรียมเตรียมแหล่งอาหารไว้ให้ตัวอ่อนมา
00:06:17 → 00:06:19 ฝังตัวถ้าเกิดใครที่ตกไปแล้วเกิด
00:06:19 → 00:06:22 ปฏิสนุทธิแล้วก็มีตัวอ่อนมานะครับอือเอ่อ
00:06:22 → 00:06:24 เพราะฉะนั้นถ้าเกิดเรามีการตั้งครรภ์เกิด
00:06:24 → 00:06:27 ขึ้นมีตัวอ่อนมาฝังตัวเนี่ยเยื่อบุยก็จะ
00:06:27 → 00:06:30 หนาตัวนะครับเ่อทั้งจากอิพลของเอเจนกับ
00:06:30 → 00:06:32 อย่างที่กล่าวแล้วเนี่ยค่ะเอ่อหนาตัว
00:06:32 → 00:06:35 เพื่อสะสมอาหารเอาไว้เลี้ยงลูกจนกระทั่ง
00:06:35 → 00:06:37 ลูกเจริญเติบโต 9 เดือนคลอดออกมาเป็นเด็ก
00:06:37 → 00:06:41 คนนึงนะครับอืและในทางกลับกันถ้าเกิด
00:06:41 → 00:06:42 สมมุติในเดือนนั้นเนี่ยไข่ที่ตกออกมา
00:06:43 → 00:06:44 เนี่ยไม่ได้รับการผสมคือไม่มีการตั้ง
00:06:44 → 00:06:46 ครรภ์เกิดขึ้นเนี่ยนะครับพอถึงปลายๆของ
00:06:47 → 00:06:49 รอบเดือนก็คือประมาณ 27-28 วันของรอบ
00:06:49 → 00:06:52 ประจำเดือนเนี่ยธรรมชาติเนี่ยพบว่าเอ๊ะ
00:06:52 → 00:06:54 เราไม่จำเป็นต้องสะสมเลือดสะสมอาหาร
00:06:54 → 00:06:56 เลี้ยงใครแล้วนะครับพอถึงช่วงปลายๆวันที่
00:06:56 → 00:06:59 25 26 27 28 เนี่ยระดับฮอร์โมนใน
00:06:59 → 00:07:02 เลือดจะค่อยๆลดลงค่ะพอลดลงเยืกปุพลลูก
00:07:02 → 00:07:04 เหล่านี้ซึ่งเคยถูกพยุงไว้ด้วยฮอร์โมน 2
00:07:04 → 00:07:07 ตัวเนี้ยก็จะหลุดลอกออกมาแล้วก็ไหลเป็น
00:07:07 → 00:07:09 เลือดประจำเดือนออกมาออืนะครับเพราะ
00:07:09 → 00:07:11 ฉะนั้นช่วงที่เราตั้งครรภเราจึงไม่มี
00:07:11 → 00:07:13 ประจำเดือนไงเพราะว่าไอ้เลือดเหล่าเนี้ย
00:07:13 → 00:07:15 มันถูกสะสมไม่ใช่เลี้ยงลูกนะครับและความ
00:07:15 → 00:07:18 ที่นะครับและความที่เลือดประจำเดือนเนี่ย
00:07:18 → 00:07:21 เป็นชั้นของเยื่อบุรงพดลูกเพราะฉะนั้น
00:07:21 → 00:07:23 ลักษณะของเลือดประจำเดือนที่ออกมาเนี่ย
00:07:23 → 00:07:25 จึงไม่เหมือนเลือดที่เวลาเราออกจากเส้น
00:07:25 → 00:07:27 เลือดโดยตรงเนี่ยเวลาเรามีแผลมีดบาดเนี่ย
00:07:27 → 00:07:30 ออกจากเส้นเลือดตรงๆเนี่ยมันสีแดงสดใช่
00:07:30 → 00:07:32 มั้ยครับแต่ว่าเราจะสังเกตได้ว่าคุณผู้
00:07:32 → 00:07:34 ส่วนใหญ่เนี่ยประจำเดือนจะมีสีเหมือนกับ
00:07:34 → 00:07:37 น้ำตาลน้ำตาลคล้ำๆหน่อยทั้งนี้ก็เพราะว่า
00:07:37 → 00:07:40 เยื่อบุพงพลูกเนี่ยมันไม่ใช่เส้นเลือดโดย
00:07:40 → 00:07:42 ตรงแต่มันมีชั้นของเซลล์อยู่ด้วยเพราะ
00:07:42 → 00:07:44 ฉะนั้นสีมันจึงเห็นเป็นสีเหมือนกับสีน้ำ
00:07:44 → 00:07:47 ตาลน้ำตาลเข้มๆคล้ำๆสีเลือดหมูอะไรอย่าง
00:07:47 → 00:07:49 เงี้ยเพราะฉะนั้นการที่เราเห็นเลือดประจำ
00:07:49 → 00:07:51 เดือนเป็นสีค้ำๆเข้มๆเนี่ยถือเป็นเรื่อง
00:07:51 → 00:07:53 ปกตินะครับคุณผู้หญิงบางท่านไปรู้สึกว่า
00:07:53 → 00:07:55 เอ๊ะเลือดค้ำๆเป็นเลือดไม่ดีหรือเปล่า
00:07:55 → 00:07:57 เป็นเลือดเสียเปล่าอะไรอ่าเราจะเราจะพูด
00:07:57 → 00:08:00 กันว่าเป็นเลือดเสียนะครับเห็นอะไรดำๆ
00:08:00 → 00:08:02 หน่อยเนี่ยเสียหมดนะฮะขาวๆเนี่ยชอบนะฮะ
00:08:02 → 00:08:06 เป็นอย่างงี้กันนะฮะค่ะคุณโอ๊คอิ้มเลยนะ
00:08:06 → 00:08:09 ฮะเพราะฉะนั้นอย่างงี้นะครับพอที่เรา
00:08:09 → 00:08:11 อธิบายกันมาทั้งหมดเนี่ยก็เพื่อให้เข้าใจ
00:08:11 → 00:08:13 ว่าเรื่องประจำเดือนจริงๆเนี่ยถึงมันจะสี
00:08:13 → 00:08:16 ค้ำแต่มันเป็นของดีเพราะว่ามันใช้เป็น
00:08:16 → 00:08:19 อาหารเลี้ยงลูกขึ้นมาได้คนเลยนะครับอนี้
00:08:19 → 00:08:22 ดังนั้นจะเห็นได้ว่าวัฏจักรของการมีประจำ
00:08:22 → 00:08:24 เดือนเนี่ยก็คือจะมีการเพิ่มของฮอร์โมน
00:08:24 → 00:08:27 ตอนที่ไข่โตขึ้นแล้วตกนะครับแล้วพอช่วง
00:08:27 → 00:08:29 ท้ายๆถ้าเกิดไม่มีการฝังตัวไม่มีการตั้ง
00:08:29 → 00:08:32 ครรภ์ฮอร์โมนจะลดลงแล้วยึดบุคคลถึงจะรอด
00:08:32 → 00:08:35 เป็นประจำเดือนอืครับดังนั้นนะครับในช่วง
00:08:35 → 00:08:38 ท้ายๆก่อนที่เราจะเริ่มมีประจำเดือนท้าย
00:08:38 → 00:08:40 ของว่าประจำเดือน 28 วันเนี่ยนะครับตอน
00:08:40 → 00:08:44 ช่วงที่ระดับฮอร์โมนลดลงเนี่ยเราพบว่ามัน
00:08:44 → 00:08:47 เอ่อมีอาการบางอย่างนะครับที่ทำให้เกิดมี
00:08:47 → 00:08:49 การเปลี่ยนแปลงทางร่างกายของกลุ่มผู้หญิง
00:08:49 → 00:08:52 รวมทั้งทางสภาพจิตใจหรืออารมณ์ได้ด้วยโดย
00:08:52 → 00:08:55 อาการเหล่าเนะครับเอ่ออาจจะเกิดเร็วหรือ
00:08:55 → 00:08:58 ช้าเนี่ยขึ้นอยู่กับว่าเอ่อเริ่มมีการลด
00:08:58 → 00:09:01 ลงของฮอร์โมนเนี่ยเร็วช้าแค่ไหนนะครับ
00:09:01 → 00:09:04 เพราะฉะนั้นการลดลงของฮอร์โมนที่กล่าวถึง
00:09:04 → 00:09:06 เนี่ยถึงเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คุณผู้
00:09:06 → 00:09:08 หญิงนี่มีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและ
00:09:08 → 00:09:11 อารมณ์ในช่วงก่อนที่ประจำเดือนจะมาค่ะนะ
00:09:11 → 00:09:15 ครับและอ่าเวลาเราพูดถึงโรคที่บอกว่า PMS
00:09:15 → 00:09:17 หรือกลุ่มอาการก่อนประจำเดือนจะมาเนี่ยนะ
00:09:17 → 00:09:20 ครับเราจึงพบว่าอาการเหล่าเนี้ยโพประจำ
00:09:20 → 00:09:23 เดือนมาเสร็จแล้วนะครับครับพอประจำเดือน
00:09:23 → 00:09:25 มาปึ๊บมันก็จะเข้าสู่วัฏจักรของโรคประจำ
00:09:25 → 00:09:27 เดือนอันใหม่มันก็จะมีไข่ใบใหม่เกิดขึ้น
00:09:27 → 00:09:29 ใช่มั้ครับแล้วก็ระดับคอร์เมนในเรื่อง
00:09:29 → 00:09:32 ร่างกายก็จะค่อยๆสูงขึ้นอีกค่ะเพราะ
00:09:32 → 00:09:35 ฉะนั้นปัญหาเดิมที่เ่อมีปัญหาทางอาการทาง
00:09:35 → 00:09:37 ร่างกายและอารมณ์เนี่ยนะครับซึ่งมันเกิด
00:09:37 → 00:09:39 จากการลดลงของฮอร์โมนเนี่ยซึ่งหายหายไป
00:09:40 → 00:09:43 เมื่อประจำเดือนมาอืเพราะฉะนั้นเวลาที่
00:09:43 → 00:09:46 เราจะสังเกตว่าเอ๊ะเรามีโรคที่เกี่ยวข้อง
00:09:46 → 00:09:48 กับกลุ่มอาการก่อนนี้ประจำเดือนหรือ PMS
00:09:48 → 00:09:51 หรือไม่นะครับเราอาจจะสังเกตได้ว่าเอ่อ
00:09:51 → 00:09:54 เราอาจจะมีอาการเปลี่ยนแปลงทางร่างทางกาย
00:09:54 → 00:09:56 หรือทางอารมจะเล่าต่อให้ฟังว่าอาการอะไร
00:09:56 → 00:09:58 บ้างเนี่ยนะครับค่ะอาจจะเป็นได้ตั้งแต่
00:09:58 → 00:10:00 ช่วงก่อนมีประจำเดือน 1 ถึงหรือถึงบางคน
00:10:00 → 00:10:02 เนี่ยถ้ามีอาการเยอะๆเนี่ยอาจจะมีได้ตั้ง
00:10:02 → 00:10:04 แต่ก่อนก่อนประจำเดือนมาถึง 2 สัปดาห์
00:10:04 → 00:10:07 ว้าวนานมากอซึ่งถ้าใครโชคร้ายขนาดนั้น
00:10:07 → 00:10:09 เนี่ยเราคิดดูครับรอบประจำเดือนเรา 4
00:10:10 → 00:10:12 สัปดาห์ 2 สัปดาห์เนี่ยต้องทุกข์ทรมานกับ
00:10:12 → 00:10:14 อันนี้ไปแล้วครึ่งนึงอ่ะอค่ะนะครับเราก็
00:10:14 → 00:10:17 จะมีอาการแบบเนี้ยไปจนกระทั่งประจำเดือน
00:10:17 → 00:10:20 มานะครับอาการจะหายไปเมื่อประจำเดือนมา
00:10:20 → 00:10:23 2-3 วันคค่ะอืนะครับดังนั้นถ้าเรามี
00:10:23 → 00:10:26 อาการเอ่อแล้วมันแบบอาการที่ผิดปกติทาง
00:10:26 → 00:10:28 ร่างกายและอารมณ์ซึ่งเดี๋หมอเล่าให้ฟัง
00:10:28 → 00:10:31 ต่อไปเนี่ยแต่มันไม่หายหลังประจำเดือนมา
00:10:31 → 00:10:34 เนี่ยให้แยกออกไปเลยว่าไม่ใช่โรคนี้อ๋อ
00:10:34 → 00:10:36 ไม่ใช่ PMS ละเออเพราะฉะนั้นโรคเนี้ยมัน
00:10:36 → 00:10:37 บอกอยู่แล้วว่าเป็นโรคที่เกี่ยวกับกลุ่ม
00:10:37 → 00:10:39 อาการก่อนมีประจำเพราะฉะนั้นพอประจำเดือน
00:10:39 → 00:10:42 มาเสร็จต้องจบอืครับและในทางการแพทย์
00:10:42 → 00:10:45 เนี่ยเราจะวินิจฉัยว่าเอ่อมีอาการของ TMS
00:10:45 → 00:10:48 เนี่ยนะครับเอ่อเมื่อคุณผู้หญิงท่านนั้น
00:10:48 → 00:10:51 เนี่ยมีอาการผิดปกติในช่วงที่ก่อนมีรอบ
00:10:51 → 00:10:54 เดือนนะครับอ่าอย่างน้อย 2 รอบเดือนติด
00:10:54 → 00:10:56 ต่อกันอคือถ้าเป็นรอบเดือนเดียวมันอาจจะ
00:10:57 → 00:10:59 เป็นความเปลี่ยนแปลงจากเอ๊ะเราเครียดเรา
00:10:59 → 00:11:01 ดูแลสุขภาพไม่ดีในช่วงนั้นแต่ว่าถ้ามัน
00:11:01 → 00:11:03 เป็นติดต่อกัน 2 รอบเดือนขึ้นไปเนี่ยอัน
00:11:03 → 00:11:06 นี้ให้สงสัยว่ามีอาการ PS อพูดง่ายๆก็คือ
00:11:06 → 00:11:08 2 เดือนติดกันอย่างเงี้ยใช่มั้ใช่ครับ
00:11:08 → 00:11:11 ถึงเราถึงจะวินิจฉัยนะครับและอาการที่เรา
00:11:11 → 00:11:14 พบได้เนี่ยนะครับของ PMS เนี่ยนะครับจะมี
00:11:14 → 00:11:17 แตกๆแตกต่างกันแต่ว่าเอ่ออาการทางกายที่
00:11:17 → 00:11:19 เรามักจะพบได้มากๆเนี่ยนะครับก็คืออันที่
00:11:19 → 00:11:23 1 คือมีอาการเจ็บหรือบวมของเต้านมอือ่า
00:11:24 → 00:11:26 หลายๆท่านประจำเดือนจะคัดเต้านมอยู่แล้ว
00:11:26 → 00:11:29 นะครับแต่คัดเต้านมเนี่ยมันไม่ควรจะมาก
00:11:29 → 00:11:31 ถึงเจ็บหรือบวมจนทำให้มันเหมือนกับรบกวน
00:11:31 → 00:11:34 การใช้ชีวิตประจำวันของเราอ่ะอืครับอ่านะ
00:11:34 → 00:11:37 ครับอันที่ 2 จะมีอาการอืดท้องแน่นท้องนะ
00:11:37 → 00:11:40 ครับค่ะแล้วก็อันที่ 3 เนี่ยนะครับอาจจะ
00:11:40 → 00:11:43 มีการเปลี่ยนแปลงของอ่าระบบการขับถ่ายมี
00:11:43 → 00:11:46 การท้องผูกหรือว่าถ่ายเหลวนะครับเอ่อร่าง
00:11:46 → 00:11:48 กายจะรู้สึกว่าตัวบวมน้ำขึ้นน้ำหนักเพิ่ม
00:11:48 → 00:11:50 ขึ้นนะครับหรือบางคนอาจจะมีลักษณะของการ
00:11:50 → 00:11:53 มีสิวก็เป็นช่วงที่ระดับฮอร์โมนลดลงไงมัน
00:11:53 → 00:11:55 ก็เหมือนกับฮอร์โมนเพศหญิงน้อยลงเราก็จะ
00:11:55 → 00:11:58 มีอาการของฮอร์มนเพศชายก็คือมีสิวมีอะไร
00:11:58 → 00:12:01 มากขึ้นนะครับแล้วก็อาการเหล่านี้นะครับ
00:12:01 → 00:12:03 อาจจะมีร่วมด้วยการปวดตามข้อหรือกล้าม
00:12:03 → 00:12:07 เนื้อนะครับเอ่อมีความรู้สึกปวดศีรษะหรือ
00:12:07 → 00:12:10 ปวดศีรษะไมเกรนอย่างเงี้ยนะครับมีอาการ
00:12:10 → 00:12:12 ร้อนวุบวาดเหงื่อออกคล้ายๆกับคนหมดประจำ
00:12:12 → 00:12:14 เดือนเพราะว่าเป็นชุที่ขาดขาดฮอร์โมนอ
00:12:14 → 00:12:17 แล้วก็อาการที่รบกวน่าการใช้ชีวิตประจำ
00:12:17 → 00:12:20 วันเช่นอ่อนเพลียไปทั้งวันหรือว่าหลับนอน
00:12:20 → 00:12:22 หลับไม่สนิทนะครับหรือว่าความบางคนก็จะ
00:12:22 → 00:12:25 เปลี่ยนแปลงในลักษณะของการอ่าอยากอาหาร
00:12:25 → 00:12:27 มากขึ้นนะครับอันนี้คืออาการที่แสดงออก
00:12:27 → 00:12:30 ทางร่างกายนอกจากนั้นอาการทางอารมณ์เนี่ย
00:12:30 → 00:12:32 ก็จะมีลักษณะของการหงุดหงิดวิตกกังวลนะ
00:12:32 → 00:12:35 ครับมีปัญหาทางด้านสมาธิและความจำคือพูด
00:12:35 → 00:12:38 ง่ายๆบางทีเนี่ยช่วงที่มีอาการ PMS เนี่ย
00:12:38 → 00:12:41 จะเสียสมาธิในการทำงานเลยผลงานการทำงาน
00:12:41 → 00:12:44 การเรียนจะลดด้อยลงนะครับยังไงบ้างครับใน
00:12:44 → 00:12:46 รายที่เป็นมากๆเนี่ยอาจจะเป็นอาการซึม
00:12:46 → 00:12:50 เศร้าออกมาได้นะครับอแล้วก็อาการที่เป็น
00:12:50 → 00:12:53 เนี่ยนะครับถ้าเกิดสมมุติว่าภาวะ PMS
00:12:53 → 00:12:56 หรือภาวะกลุ่มอาการก่อมีประจำเดือนเนี่ย
00:12:56 → 00:12:59 เป็นอย่างรุนแรงนะครับจนกระทั่งเกิดการ
00:12:59 → 00:13:01 ซึมเศร้าที่ต่อเนื่องกันนะครับอันเนี้ย
00:13:01 → 00:13:03 อย่างกรณีของคุณยิบซีที่พี่ยกเป็นตัว
00:13:03 → 00:13:05 อย่างในข่าวที่เราทราบกันเนี่ยค่ะกลุ่ม
00:13:06 → 00:13:08 เนี้ยจะถูกจัดไว้ในกลุ่มประกที่เรียกว่า
00:13:08 → 00:13:12 PMDV หรือ PRstual dis foric disorder
00:13:12 → 00:13:15 นะครับซึ่งอันนี้จะมีอยู่ประมาณ 3-8% ของ
00:13:15 → 00:13:17 PNS ทั้งหมดพูดง่ายๆว่า PM กลุ่มอาการ
00:13:17 → 00:13:20 ก่อนเดือนเนี่ยถือเป็นอาการที่เ่อเป็น
00:13:20 → 00:13:22 เป็นเหมือนอาการใหญ่อ่ะที่อธิบายว่าตั้ง
00:13:22 → 00:13:24 แต่มีอาการตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ก่อนมี
00:13:24 → 00:13:27 ประจำเดือนไปจนถึงประมาณ 2-3 วันหลัง
00:13:27 → 00:13:29 ประจำเดือนมาก็จะหยุดลงค่ะนะครับแต่ถ้า
00:13:29 → 00:13:31 มันรุนแรงจนกระทั่งเกิดภาวะซึมเศร้าเกิด
00:13:31 → 00:13:34 ภาวะที่บางคนเนี่ยรุนแรงถึงขั้นทำร้าย
00:13:34 → 00:13:37 ร่างกายของตัวเองหรือข้ามไปทำร้ายร่างใจ
00:13:37 → 00:13:39 คนอื่นนะครับอย่างหลายๆท่านก็ตามข่าวของ
00:13:39 → 00:13:41 คุณยิซีเนี่ยก็จะพบว่าเอ่อคุณเมีอาการ
00:13:41 → 00:13:43 อย่างนี้ได้เนี่ยอันเนี้จะถูกจัดไว้ใน
00:13:43 → 00:13:46 กลุ่มของ PMDB นะครับคือมันเป็นขั้นกว่า
00:13:46 → 00:13:49 อีกหรอคะคุณหมอใช่ครับอันนี้ก็เป็นอาการ
00:13:49 → 00:13:52 ที่มันยิ่งกว่า TMS ขึ้นไปอืนะครับอ้าแน่
00:13:52 → 00:13:54 นอนเมื่อมันอยู่ในกลุ่มของ PMS เหมือนกัน
00:13:55 → 00:13:57 ก็มันก็จะเกิดขึ้น 1-2 สัปดาห์ก่อนประจำ
00:13:57 → 00:14:01 เดือนมาแล้วหายไปหลังประจำมา 3-3 วันอ่า
00:14:01 → 00:14:04 ค่ะครับคราวนี้สาเหตุหลายๆคนก็สงสัยว่า
00:14:04 → 00:14:06 PMS หรือ PMD ดีๆเนี่ยมันเกิดขึ้นจาก
00:14:06 → 00:14:09 อะไรนะครับในปัจจุบันเนี่ยเราก็ยังไม่ได้
00:14:09 → 00:14:11 ทราบชัดเจนนะครับว่าทำไมผู้หญิงบางท่าน
00:14:11 → 00:14:13 ถึงเป็นแล้วก็บางท่านหลายๆท่านที่โชคดีก็
00:14:13 → 00:14:16 ไม่เป็นนะครับอแต่ว่าเราพบว่าแน่นอนอัน
00:14:16 → 00:14:19 ที่ 1 ก็เหมือนกับที่ผมเล่าเรื่องระบบของ
00:14:19 → 00:14:22 ฮอร์โมนในร่างกายไปแล้วเราพบว่าการลดลง
00:14:22 → 00:14:24 ของฮอร์โมนหรือการที่ร่างกายขาดสภาวะของ
00:14:24 → 00:14:27 ฮอร์โมนเนี่ยทั้งเอสโตรเจนโปรเจสเตนซึ่ง
00:14:27 → 00:14:28 ตัวที่สำคัญมากๆเนี่ยจะเป็นส่วนของ
00:14:28 → 00:14:32 โปเจสเตอรที่ลดลงเนี่ยนะครับจะมีผลทำให้
00:14:32 → 00:14:36 เกิดภาวะของอาการ PMS หรือ PDB ตามมานะ
00:14:36 → 00:14:38 ครับครับนอกจากนี้นะครับเราเชื่อว่ายัง
00:14:39 → 00:14:41 อาจจะเกี่ยวข้องกับปัจจัยบางอย่างนอกจาก
00:14:41 → 00:14:43 ฮอร์โมนเพศแล้วก็คือพวกเกี่ยวกับอาจจะ
00:14:43 → 00:14:46 เกี่ยวกับสารเคมีบางชนิดในสมองนะครับเช่น
00:14:46 → 00:14:49 พวกสารเซโรโตนินที่ควบคุมเรื่องอารมณ์และ
00:14:49 → 00:14:51 ความรู้สึกนะครับอาจจะเกี่ยวข้องกับระบบ
00:14:51 → 00:14:54 ฮอร์โมนของความเครียดเช่นคอรติซอนะครับ
00:14:54 → 00:14:57 อาจจะเกี่ยวข้องกับสุขภาพโดยรวมทางกาย
00:14:57 → 00:15:00 เช่นอาจจะเป็นคนที่มีสุขภาพร่างกายไม่
00:15:00 → 00:15:02 แข็งแรงนะครับไม่แข็งแรงเนี่ยเราวัดง่ายๆ
00:15:02 → 00:15:05 อาจจะเป็นคนที่มีน้ำหนักตัวน้อยเกินไป
00:15:05 → 00:15:08 หรือมากเกินไปนะครับน้อยไปก็ไม่ดีมากไปก็
00:15:08 → 00:15:11 ไม่ดีนะครับในกลุ่มนี้แล้วก็อาจจะมีเอ่อ
00:15:11 → 00:15:14 คนที่มีโรคประจำตัวบางอย่างที่มีผลต่อ
00:15:14 → 00:15:17 ระบบการเอ่อหมุนเวียนของฮอร์โมนหรือระบบ
00:15:17 → 00:15:20 ของการควบคุมสารเคมีในสมองนะครับนอกจาก
00:15:20 → 00:15:23 นี้เรื่องของสภาวะทางจิตนะครับการใช้
00:15:23 → 00:15:26 ชีวิตในในสภาวะที่เครียดเกินไปไม่ว่าจะ
00:15:26 → 00:15:28 เครียดกับเรื่องของเอ่อร่างกายตัวเองนะ
00:15:29 → 00:15:31 ครับเอ่อเครียดกับเรื่องของการงานหรือ
00:15:31 → 00:15:33 ชีวิตครอบครัวเนี่ยเหล่าเนี้ยเราพบว่าอาจ
00:15:34 → 00:15:35 จะเป็นสาเหตุร่วมของการเกิดกลุ่มอาการ
00:15:35 → 00:15:38 ก่อนมีประจำเดือนไม่ว่าจะเป็น PMS PM
00:15:38 → 00:15:43 ได้นะครับอ่าออซึ่งก็ซึ่งก็แยกย่อยกันพอ
00:15:43 → 00:15:48 สมควรนะคุณหมอหมอโต้นะครับว่าอาการของ PMS
00:15:48 → 00:15:52 กับบทประจำเดือนแบบปกติเอ่อก็มีข้อสังเกต
00:15:52 → 00:15:55 ที่จริงๆมันก็ชิดกันมากแหละแต่ว่ามันก็มี
00:15:55 → 00:15:59 มีความระยะยาวและความถี่อ่าอครับคราวนี้
00:15:59 → 00:16:02 อาการดีๆเนี่ยถ้าเราจะพูดถึงความแตกต่าง
00:16:02 → 00:16:04 จาก PMS ที่เราจะพอแยกได้เนี่ยนะครับก็
00:16:04 → 00:16:07 คือว่าครับ PMD เนี่ยอาจจะทำให้คุณผู้
00:16:07 → 00:16:09 หญิงท่านนั้นมีอาการทางร่างกายคล้ายกับ
00:16:09 → 00:16:12 GMS อย่างเช่นท้องอืดคัดเต่านมปวดเก็ง
00:16:12 → 00:16:15 ท้องท้องเสียหรือว่าท้องผูกปวดศีรษะอะไร
00:16:15 → 00:16:17 อย่างที่บอกไปแล้วนะครับก่อนเพียงตอนไม่
00:16:17 → 00:16:19 หลับอะไรต่างๆเหล่านี้นะครับแต่อาการที่
00:16:19 → 00:16:23 เด่นชัดที่เราจะสงสัย PB PMD ก็คือมันจะ
00:16:23 → 00:16:25 มีลักษณะเด่นในการเปลี่ยนแปลงสภาวะจิตใจ
00:16:25 → 00:16:27 และอารมณ์ซึ่งจะส่งผลต่อการเปลี่ยน
00:16:27 → 00:16:30 พฤติกรรมในการดำเนินชีวิตของคนนั้นเลยบาง
00:16:30 → 00:16:33 คนเป็นคนที่อารมณ์ดีนะครับยิ่งย่างสาย
00:16:33 → 00:16:36 กลายเป็นคนเกรี้ยวกาดโมโหง่ายอืนะครับนะ
00:16:36 → 00:16:39 ครับแล้วก็คือลักษณะจะมีอันที่ 1 ก็คือจะ
00:16:39 → 00:16:41 มีลักษณะอารมณ์แปรปวนที่ค่อนข้างจะรุนแรง
00:16:42 → 00:16:44 แปรปรวนซึ่งรุนแรงเนี่ยฮะรุนแรงเนี่ย
00:16:44 → 00:16:47 กระทบไม่ได้กระทบตัวเองนะอาจจะไปกระทบ
00:16:47 → 00:16:51 เหมือนคนรอบข้างได้ด้วยอ่าโดยเฉพาะแบบคู่
00:16:51 → 00:16:53 ชีวิตคนในครอบครัวใช่มั้ยหมอต้นใช่ครับ
00:16:54 → 00:16:56 คุณผู้ชายเนี่ยจะสังเกตได้เลยคือเราอย่า
00:16:56 → 00:16:59 ไปคิดว่าไอ้ผู้หญิงมีก่อเออเรื่องธรรมดา
00:16:59 → 00:17:01 แต่ว่าถ้ามันเล็กๆน้อยๆไม่โอเคครับอย่าง
00:17:01 → 00:17:03 ที่เราบอกแค่แอ่อนเพลียหงุดหงิดเอานิด
00:17:03 → 00:17:06 หน่อยๆอยู่ในวิสัยที่เราง้อเข้าหน่อยเรา
00:17:06 → 00:17:08 เอาใจหน่อยหายแล้วเนี่ยอันนี้ไม่ค่อยมี
00:17:08 → 00:17:10 ปัญหาแต่ว่าถ้าเป็นคนที่จะมีอารมณ์แปรปน
00:17:10 → 00:17:13 รุนแรงเนี่ยบางครั้งอาจจะถึงทุบตีทำร้าย
00:17:13 → 00:17:16 ร่างกายเราทั้งๆที่ปกติเป็นคนแบบไม่ได้ตี
00:17:16 → 00:17:19 เราเงี้ยอยู่ข้างตีคนรอบข้างอ่าหรือว่าทำ
00:17:20 → 00:17:23 ร้ายร่างกายตัวเองอันนี้ก็มีนะครับแล้วก็
00:17:23 → 00:17:26 แล้วก็มักจะมีลักษณะที่คล้ายๆกับคนที่จะ
00:17:26 → 00:17:29 ส่อไปในทางของการเป็นเอ่อโรคซึมเศร้าก็
00:17:29 → 00:17:32 คือจะมีภาวะที่วิตกกังวลหงุดหงิดฉุนเฉียว
00:17:32 → 00:17:35 แล้วก็เอ่อจะรู้สึกเหมือนกับท้อแท้สิ้น
00:17:35 → 00:17:38 หวังแล้วก็เอ่อมักจะร้องไห้ง่ายบางทีก็
00:17:38 → 00:17:41 ร้องไห้ทั้งวันในช่วงที่มีอาการนะครับ
00:17:41 → 00:17:44 แล้วก็จะมีลักษณะของเอ่อเอ่อการเบื่อ
00:17:44 → 00:17:47 หน่ายไม่สนใจเกี่ยวกับเ่อสิ่งแวดล้อมรอบ
00:17:47 → 00:17:49 ข้างแล้วก็เสือยชาต่อการทำงานหรือการทำ
00:17:50 → 00:17:53 กิจกรรมที่ปกติเคยชื่นชอบนะครับออย่าง
00:17:53 → 00:17:56 อย่างบางทีแบบเราเห็นคุณผู้ชายเห็นคุณผู้
00:17:56 → 00:17:57 หญิงนะครับมีอาการก่อนมีประจำเดือนเนี่ย
00:17:57 → 00:18:00 นะครับบางทีโอ้ยเค้าดูจะดูเหมือนแบบเอ่อ
00:18:00 → 00:18:03 เพลียเหมือนกับเครียดเหมือนกับวิตกกังวล
00:18:03 → 00:18:05 แต่เราพาไปช้อปปิ้งแล้วหายะอย่างเงี้ยอัน
00:18:05 → 00:18:10 นี้อาจจะเป็น PMS นะครับอ๋ออ่าแต่ท่าน
00:18:10 → 00:18:13 ช้อปปิ้งแล้วยังไม่หายนะครับซื้อแล้วหาย
00:18:13 → 00:18:16 จบด้วยเงินเออไม่คือกิจกรรมช้อปปิ้งเนี่ย
00:18:16 → 00:18:19 ที่คุณผู้หญิงเคยชอบอ่ะฮะก็ยังเฉยชาไม่
00:18:19 → 00:18:22 ได้สนใจจะทำให้กิจกรรมนี้ด้วยอ๋ออันเนี้ย
00:18:22 → 00:18:25 อันเนี้ก็ก็น่าจะสงสัยว่าจะเอียงทาง CMD
00:18:25 → 00:18:28 แล้วก็ถ้าเราคิดว่าทำไมเราถึงต้องให้ความ
00:18:28 → 00:18:31 สำคัญในเรื่องคมันเป็นกลุ่มอาการเดียวก็
00:18:31 → 00:18:33 เพราะว่าสิ่งที่เรากลัวมากที่สุดของ PMD
00:18:33 → 00:18:36 เนี่ยก็คือถ้าร้ายแรงมากๆเนี่ยจะมีความ
00:18:36 → 00:18:39 คิดถึงการทำร้ายจนถึงค่าตัวอายได้อืครับ
00:18:39 → 00:18:43 เออเพราะฉะนั้นบางคนกระโดดตึกบางคนบางคน
00:18:43 → 00:18:46 กินยาฆ่าตัวตายบางคนเอาของมีคมมาทำร้าย
00:18:46 → 00:18:50 ร่างกายตัวเองค่ะอ๋อซึ่งถ้าเราจะแยกอ่า
00:18:50 → 00:18:52 ถ้าเราจะแยกเนี่ยครับในกลุ่มของผู้ที่
00:18:52 → 00:18:55 เป็นPMDดdีแล้วเนี่ยเราบอกว่า PMF เนี่ย
00:18:55 → 00:18:58 อาการ 1-2 สัปดาห์ก่อนมีประจำเดือนแต่ว่า
00:18:58 → 00:19:01 PMD เราจะเจอได้บ่อยว่าอาการมันจะชัดเจน
00:19:01 → 00:19:04 ช่วงประมาณสัก 6 วันก่อนประจำเดือนอืและ
00:19:04 → 00:19:06 จะรุนแรงที่สุดประมาณ 2 วันก่อนประจำ
00:19:06 → 00:19:10 เดือนมาอันนี้ก็รุนแรงมากโอ้โหรุนแรงคำ
00:19:10 → 00:19:14 ว่ารุนแรงใช่ครับคำว่ารุนแรงนี่เป็นยังไง
00:19:14 → 00:19:16 คุณหมอต้นรุนแรงเนี่ยนะครับก็อย่างที่เรา
00:19:16 → 00:19:19 บอกนะครับอะอาการเนี่ยนอกจากรบกวนการทำ
00:19:19 → 00:19:22 งานในชีวิตประจำวันแล้วไม่ได้แล้วเนี่ยคน
00:19:22 → 00:19:24 ไข้คนนั้นจะมีการพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลง
00:19:24 → 00:19:27 ไปจากเดิมเลยนะครับเช่นอาจจะเป็นคนเคยดู
00:19:27 → 00:19:29 แลสุขภาพก็กลายเป็นดูแลสุขภาพนะครับเป็น
00:19:30 → 00:19:32 คนเป็นคนอย่างที่เราบอกครับกิจกรรมเคย
00:19:32 → 00:19:35 ชื่นชอบไปออกกำลังกายไปช้อปปิ้งไปเงี้ยจะ
00:19:35 → 00:19:37 กลายเป็นนั่งหมดอะไรตายอย่างนะครับแล้ว
00:19:37 → 00:19:39 ไม่ว่าจะคิดเรื่องอะไรเนี่ยมันจะคิดไปใน
00:19:39 → 00:19:43 ทางที่ไม่ดีเสมอนะครับมันจะคิดบวกมันจะ
00:19:43 → 00:19:46 หายไปคิดบวกหายไปนะครับออารมณ์สวิงมันทำ
00:19:46 → 00:19:50 ได้ขนาดนั้นเลยต้นครับเมื่อเพราะฉะนั้น
00:19:50 → 00:19:52 เราถึงได้บอกว่าถึงแม้ผู้หญิงทุกคนจะมี
00:19:52 → 00:19:54 การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนในช่วงอ่าอย่างที่
00:19:54 → 00:19:55 เราบอกครับก่อนประจำเดือนมาเนี่ยฮอร์โมน
00:19:56 → 00:19:59 มันลดลงทุกคนอยู่ละค่ะนะครับแต่เฉพาะคน
00:19:59 → 00:20:02 ที่เป็นPMDดีเนี่ยมันจะมีอาการที่รุนแรง
00:20:02 → 00:20:05 ได้ถึงขนาดนั้นอย่างที่คุณโฮคถามนอออครับ
00:20:05 → 00:20:07 นะครับซึ่งตรงเนี้ยสาเหตุถ้าเราบอก PMS
00:20:07 → 00:20:08 อย่างที่เราบอกแล้วมีการเปลี่ยนแปลง
00:20:09 → 00:20:11 ฮอร์โมนโรคประจำตัวหรือว่าสารสื่อนำ
00:20:11 → 00:20:13 ประสาทแต่ว่าถ้าเป็นPMDดีเนี่ยต้องเรียน
00:20:13 → 00:20:16 ให้ทราบเลยว่าเรายังไม่มีหลักฐานที่ชัด
00:20:16 → 00:20:19 เจนที่สุดเรื่องนี้เลยนะครับยกเว้นเอ่อ
00:20:19 → 00:20:22 เรามักจะพบความเชื่อมโยงว่าคนกลุ่มเนี้ย
00:20:22 → 00:20:24 อาจจะมีปัญหาเรื่องการมีโรคซึมเศร้าหรือ
00:20:24 → 00:20:27 โรควิตกกังวลเป็นพื้นฐานอยู่แล้วอืก็คือ
00:20:27 → 00:20:29 เป็นร่วมด้วยใช่ครับเพราะฉะนั้นมันการ
00:20:30 → 00:20:31 เป็นพื้นฐานของโรคซึมเศร้าหรือวิตกกังวล
00:20:32 → 00:20:34 ซึ่งมันมีลักษณะเปลี่ยนแปลงของสารสื่อนำ
00:20:34 → 00:20:36 ประสาทที่ผิดปกติอยู่แล้วเนี่ยพอเกิดการ
00:20:36 → 00:20:38 เปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนเพศหญิงที่ลด
00:20:38 → 00:20:40 ลงเนี่ยนะครับมันจะส่งผลไปกระตุ้นให้
00:20:40 → 00:20:43 สภาวะอารมณ์เนี่ยแปรป่วนมากกว่าปกติจึงทำ
00:20:43 → 00:20:46 ให้เกิดอาการที่ทำไมมันถึงรุนแรงกว่า PMS
00:20:46 → 00:20:49 ปกติออือ่าครับนอกจากนี้นะครับถ้าเรา
00:20:49 → 00:20:51 สังเกตหรือได้ประวัติว่าถ้าคนในครอบครัว
00:20:51 → 00:20:53 มีประวัติของการเป็น PMS หรือ PMD อยู่
00:20:53 → 00:20:57 แล้วเนี่ยนะครับเอ่อคนๆนั้นเนี่ยจะมี
00:20:57 → 00:21:00 โอกาสมีความเสี่ยงต่อการเป็นได้มากขึ้น
00:21:00 → 00:21:02 อืนะครับแล้วก็ถ้าเรารู้ว่าใครเป็น PMS
00:21:02 → 00:21:05 หรือ PMD เนี่ยนะครับตอนช่วงที่เราจะต้อง
00:21:05 → 00:21:07 ระมัดระวังว่าคือเกิดคนๆนั้นตั้งครรภ์
00:21:07 → 00:21:11 แล้วคลอดบุตรอาจจะเกิดภาวะที่เราเรียกว่า
00:21:11 → 00:21:14 โพสตัมบลูหรือว่าซึมเศร้าหลังคลอดนะครับ
00:21:14 → 00:21:17 ได้มากซึ่งจะเสี่ยงต่อการเกิดการทำร้าย
00:21:17 → 00:21:20 ตัวเองหรือความคิดฆ่าตัวตายได้สูงขึ้นค่ะ
00:21:20 → 00:21:24 โหคุณหมออาการมันค่อนข้างใกล้เคียงกันมาก
00:21:24 → 00:21:26 ๆแต่ว่ามันก็จะมีระดับที่รุนแรงกว่าที
00:21:26 → 00:21:30 เนี้ยเราจะรู้ได้ยังไงว่าเราเป็น PMS PMD
00:21:30 → 00:21:33 หรือว่ามันเป็นนิสัยของเราอย่างเพื่อน
00:21:33 → 00:21:35 หญิงพลังหญิงอย่างแก๊งปามเนี้ยเวลาคุย
00:21:35 → 00:21:37 เรื่องอะไรแบบนี้กันจะบอกเป็น PMS หรือ
00:21:37 → 00:21:40 เปล่าเนี่ยก็จะชอบแซวกันว่าไม่ได้เป็น PMS
00:21:40 → 00:21:44 ค่ะเธอเป็นปราสาทอะไรอย่างเงี้ยอืคือจะจะ
00:21:44 → 00:21:45 ต้องแยกยังไงคะคุณหมอหรือว่าเราไปพบแพทย์
00:21:46 → 00:21:49 เลยดีมั้ยครับเอ่อเวลาเราวินิจฉัยเรื่อง
00:21:49 → 00:21:52 นี้นะครับเอ่อคุณหมอเนี่ยมักจะซึ่งแน่นอน
00:21:52 → 00:21:54 ก็ต้องเป็นหมอสินวีแพทย์อยู่แล้วล่ะจะทำ
00:21:54 → 00:21:58 งานร่วมกับเอ่อคุณหมอศิษแพทย์นะครับจะทำ
00:21:58 → 00:22:00 งานในเรื่องนี้เพื่อดูแลร่วมกันแต่ว่าคน
00:22:00 → 00:22:02 ที่มีปัญหาเหล่าเนี้ยส่วนใหญ่มักจะไปหา
00:22:02 → 00:22:05 คุณหมอสูงก่อนเพราะว่ามันเป็นอาการที่
00:22:05 → 00:22:08 เกี่ยวข้องกับประจำเดือนนะครับอืครับเอ่อ
00:22:08 → 00:22:11 เวลาเราสังเกตนะครับว่ามันเป็นแค่ไอ้ความ
00:22:11 → 00:22:13 เครียดของคนนั้นหรือว่าลักษณะบุคลิกของคน
00:22:13 → 00:22:16 นั้นหรือว่าจะถือจัดว่าเป็น TMS แล้วถือ
00:22:16 → 00:22:18 จัดว่าเป็น TMD เนี่ยนะครับสิ่งที่เกิด
00:22:18 → 00:22:20 ขึ้นคือมันมักจะเอาเวลาซักประวัติได้
00:22:20 → 00:22:23 เนี่ยประวัติเหล่านี้อย่างที่บอกครับต้อง
00:22:23 → 00:22:26 มีอาการที่เด่นชัดชัดเจนนะครับรบกวนการ
00:22:26 → 00:22:29 ดำเนินชีวิตประจำวันอ่าอย่างน้อย 2 รอบ
00:22:29 → 00:22:32 เดือนขึ้นไปอืนะครับอาการอาจจะเริ่มขึ้น
00:22:32 → 00:22:34 ได้ตั้งแต่ 1-2 สัปดาห์ก่อนประจำเดือนมา
00:22:34 → 00:22:38 และหายไป 2-3 วันเมื่อประจำเดือนมานะครับ
00:22:38 → 00:22:40 ถ้าเป็นถ้าเห็นว่าอาการมีเด่นชัดมากใน
00:22:40 → 00:22:43 ช่วง 6 วันแล้วก็รุนแรงขึ้น 2 วันก่อน
00:22:43 → 00:22:45 ประจำเดือนมาอันนี้จะโน้มอิงไปทาง PMD
00:22:45 → 00:22:48 มากขึ้นอือืแล้วก็เวลาเราซักประวัติเนี่ย
00:22:48 → 00:22:51 นะครับเราจำเป็นจะต้องซัดประวัติพื้นฐาน
00:22:51 → 00:22:53 ด้วยว่าเดิมทีเนี่ยบุคลิกของเขาเป็นคนยัง
00:22:53 → 00:22:56 ไงนะครับครับถ้าเป็นคนที่แบบแค่มีความ
00:22:56 → 00:23:00 หงุดหงิดมีความเหมือนกับดูฉุนเฉียวดู
00:23:00 → 00:23:02 เครียดดูอะไรแค่ช่วงสั้นๆนะครับแล้วมัน
00:23:02 → 00:23:04 ไม่ได้รุนแรงมากเนี่ยนะครับโดยเฉพาะอย่าง
00:23:04 → 00:23:07 ยิ่งอาจจะไม่ได้ส่งผลทำให้ทุกข์ทรมานต่อ
00:23:07 → 00:23:09 การดำเนินชีวิตประจำวันหรือว่าส่งผลกระทบ
00:23:09 → 00:23:12 กับคนรอบข้างเนี่ยนะครับอันเนี้ยเรายัง
00:23:12 → 00:23:15 อาจจะมองไปในงแง่ของการ PMS ธรรมดามาก
00:23:15 → 00:23:17 กว่าแต่ถ้าเกิดเป็นลักษณะอาการที่รุนแรง
00:23:17 → 00:23:20 อย่างที่บอกครับกระทบต่อการดำเนินชีวิต
00:23:20 → 00:23:22 และอาจจะส่งผลกระทบต่อครอบครัวคนรัก
00:23:22 → 00:23:24 เพื่อนร่วมงานต่างๆเหล่าเนี้ยอันเนี้ย
00:23:25 → 00:23:28 เป็นล้มอาราพดีๆมากขึ้นนะครับซึ่งพอเรา
00:23:28 → 00:23:30 ซักประวัติได้อย่างนี้นะครับคุณหมอก็จะมี
00:23:30 → 00:23:33 การพิสูจน์ครับด้วยการตรวจนะครับเราตรวจ
00:23:33 → 00:23:36 ก็จะตรวจเหมือนกับการตรวจร่างกายทางทาง
00:23:36 → 00:23:39 สุตินเวททั่วๆไปเพื่อดูว่ามีลักษณะของมด
00:23:39 → 00:23:43 ลูกประจำเดือนเอ่อมดลูกที่เอ่อมีเนื้องอก
00:23:43 → 00:23:46 มีซีกผิดปกติมั้ยดังไข่ 2 ข้างมีเนื้องอก
00:23:46 → 00:23:49 มีซีกนี่อะไรที่จากคนทั่วไปมั้ยนะครับ
00:23:49 → 00:23:51 ลำดับต่อไปก็จะเป็นการเจาะเลือดวัดระดับ
00:23:51 → 00:23:55 ฮอร์โมนนะครับที่เปลี่ยนแปลงนะครับแล้วก็
00:23:55 → 00:23:57 เ่อเราก็จะแยกโรคอื่นๆถ้าเราสงสัยนะครับ
00:23:57 → 00:23:59 ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องเช่นพวกซีโรโตนิน
00:23:59 → 00:24:03 เอ่อสารประสาทหรือว่าระดับของคอร์ติซอลนะ
00:24:03 → 00:24:05 ครับต่างๆเหล่าเนี้ยเราก็จะใช้ตัวตรงนี้
00:24:05 → 00:24:09 เพื่อแยกด้วยนะครับอ๋อหลังจากแยกแล้วเรา
00:24:09 → 00:24:12 พบว่าไม่ได้เกิดจากโรคประจำตัวอื่นๆใดๆ
00:24:12 → 00:24:15 หรือว่าโรคทางสมองที่ส่งผลต่อเ่ออารมณ์
00:24:15 → 00:24:16 แล้วนะครับอันนั้นถ้าเป็นโรคทางสมองก็
00:24:16 → 00:24:19 ต้องแยกไปรักษาอาจจะเป็นเนื้อออกในสมอง
00:24:19 → 00:24:21 เรื่องต่างๆที่เกี่ยวข้องนะครับแต่ว่าถ้า
00:24:21 → 00:24:23 ไม่มีอาการเหล่านั้นคือเราแยกโรคทางกาย
00:24:23 → 00:24:25 ได้หมดแล้วเนี่ยนะครับอันเนี้ยมีเรื่อง
00:24:26 → 00:24:28 จิตใจก็ก็ตามเนี่ยนะครับเราก็อาจจะต้อง
00:24:28 → 00:24:31 เอ่อให้จิตแพทย์เนี่ยร่วมในการดูแลด้วยนะ
00:24:31 → 00:24:34 ครับว่าเอ๊ะปัจจัยใดที่ส่งผลกระตุ้นแล้ว
00:24:34 → 00:24:37 ก็อ่าปัจจัยใดที่จะทำให้คนไข้อาการดีขึ้น
00:24:37 → 00:24:40 นะครับแล้วเราจะถึงจะเข้าสู่การรักษาที่
00:24:40 → 00:24:44 จะช่วยให้เอ่ออาการเนี่ยอย่างน้อยก็ลดให้
00:24:44 → 00:24:46 มีอาการให้มีน้อยลงนะครับแล้วก็เอ่อถาม
00:24:46 → 00:24:49 ว่าโรคเนี้ยเป็นแล้วมันจะหายได้มั้นะครับ
00:24:49 → 00:24:52 ถ้าถ้ามีความเข้าใจนะครับรักษาดูแลตัวเอง
00:24:52 → 00:24:57 ได้ดีนะครับนะโรคนี้หายได้อืหายขาดได้เลย
00:24:57 → 00:24:59 หายได้เลยครับหายได้เลยถ้าเค้าเข้าซึ่งคน
00:24:59 → 00:25:02 ไข้จำเป็นจะต้องได้รับความเข้าใจแล้วก็คน
00:25:02 → 00:25:04 ในครอบครัวก็ต้องเข้าใจด้วยเพราะว่ามันจะ
00:25:04 → 00:25:06 มีการรักษาทั้งทางให้รับประทานยาอย่างที่
00:25:06 → 00:25:08 เราบอกแล้วว่าเอ่อเมื่อเกี่ยวข้องกับ
00:25:09 → 00:25:11 ฮอร์โมนใช่มั้ยครับเราอาจจะมีการให้รับ
00:25:11 → 00:25:13 ประทานฮอร์โมนเพื่อเสริมในช่วงที่ฮอร์โมน
00:25:13 → 00:25:16 ขาดอ๋ออือ่าพอมันพอมันไม่ขาดปุ๊บเนี่ย
00:25:16 → 00:25:18 ปั๊บไอ้ตัวกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการมันก็
00:25:18 → 00:25:22 จะหายไปค่ะอ๋อนะครับอันที่ 2 ก็จะมีการ
00:25:22 → 00:25:24 จัดการเรื่องการปรับพฤติกรรมทางอารมณ์
00:25:24 → 00:25:28 ต่างๆนะครับซึ่งซึ่งเดี๋ยวหมอว่าเดี๋ยว
00:25:28 → 00:25:30 อาจจะต้องใช้เวลาอธิบายเยอะนะครับเดี๋ยว
00:25:30 → 00:25:33 เราจะอธิบายในช่วงช่วงหลักแล้วกันเอาให้
00:25:33 → 00:25:35 ละเอียดเลยอ่าเดี๋ยวช่วงที่ 2 เดี๋มา
00:25:35 → 00:25:39 อธิบายกันละเอียดกันออ่า
00:25:39 → 00:25:42 ช่วงที่ 2 ของสุขภาพดี 22:00 น.นะคะยังคง
00:25:42 → 00:25:45 อยู่กับคุณหมอต้นพี่โอ๊คแล้วก็ปาล์มนะคะ
00:25:45 → 00:25:49 กับโรค PMDD ฮอร์โมนสวิงพอได้ฟังคุณหมอ
00:25:49 → 00:25:52 ต้นพูดในช่วงแรกแล้วเนี่ยก็ทำให้นึกขึ้น
00:25:52 → 00:25:55 ได้ว่าเอ้ยผู้หญิงหรือว่าคุณแฟนที่ชอบ
00:25:55 → 00:25:58 อ้างว่าอย่ามายุ่งกับฉันเมนจะมาเมนจะมา
00:25:58 → 00:26:01 แล้วก็สงสัยว่าเมนมาทุกวันเลยหรอวะทำไม
00:26:02 → 00:26:04 อาการมันเป็นอย่างนั้นตลอดซึ่งพอฟังคุณ
00:26:04 → 00:26:06 หมอพูดแล้วเฮ้ยจริงนะเพราะว่าคุณหมอบอก
00:26:06 → 00:26:10 ว่าบางคนน่ะเป็นถึง 2 สัปดาห์ก่อนที่จะมี
00:26:10 → 00:26:12 ประจำเดือนนั่นแปลว่าโอ้ครับก็จริงเป็น
00:26:12 → 00:26:15 เรื่องจริงใช่เรื่องของอารมณ์หรือว่า
00:26:15 → 00:26:17 อาการทางกายอย่างอย่างส่วนตัวปามเองอ่ะ
00:26:17 → 00:26:21 ไม่ไม่ได้เป็นเยอะขนาดนั้นก็จะเป็นมาก
00:26:21 → 00:26:24 กว่าคือแสดงออกทั้งร่างกาย 1-2 วันก่อนมี
00:26:24 → 00:26:26 ประจำเดือนแค่นั้นเองปวดท้องอะไรอย่างงี้
00:26:26 → 00:26:30 ใช่มั้ท้องปวดท้องปวดเอ่อปวดบริเวณเต้านม
00:26:30 → 00:26:32 อะไรอย่างเงี้ยมีปวดหลังบ้างอะไรเงี้ยค่ะ
00:26:32 → 00:26:36 ไม่มีแบบว่าสวิงแบบจนแบบทานไปแบบอ๋ออัน
00:26:36 → 00:26:38 นั้นเป็นทุกวันค่ะพี่โฮกอันนั้นเป็นทุก
00:26:38 → 00:26:41 วันอยู่แล้วก็คือนน่าจะไม่เกี่ยวกับ PM
00:26:41 → 00:26:45 ดีๆนะนี่ไม่เจอปามี
00:26:45 → 00:26:49 ออล้อเล่นโอเคเออจริงๆอ่ะๆมันก็ยังมีความ
00:26:49 → 00:26:53 แบบน่าสนใจหมอต้นครับว่าเอ้ยระหว่าง
00:26:53 → 00:26:55 ระหว่างที่อย่างที่น้องปาบอกอ่ะเอ้ย
00:26:55 → 00:26:59 อารมณ์ที่มันแปรปรวนแบบเนี้ยกับ PMD อ่ะ
00:26:59 → 00:27:03 มันค่อนข้างที่จะแบบเอ่อหยิบย่อยแตกต่าง
00:27:03 → 00:27:06 กันขนาดนั้นหรือกินระยะเวลาที่แตกต่างกัน
00:27:06 → 00:27:09 มั้ยคุณหมอมต้นครับผมระยะเวลาเนี่ยนะครับ
00:27:09 → 00:27:12 เอ่ออย่างอย่างที่บอกกันว่า PMS กับ PMD
00:27:12 → 00:27:14 เนี่ยมันคล้ายคลึงกันก็คือเริ่มตั้งแต่
00:27:14 → 00:27:16 1-2 สัปดาห์แล้วก็ไปสิ้นสุดเมื่อประจำ
00:27:16 → 00:27:19 เดือนมาสัก 2-3 วันเพียงแต่ว่าอาการของ
00:27:19 → 00:27:22 PMD ที่ระยะเวลาเนี่ยเราจะพบว่ามันจะ
00:27:22 → 00:27:25 เด่นชัดมากๆประมาณ 1-2 วันอาการจะรุนแรง
00:27:25 → 00:27:28 ก่อนประจำเดือนมาเนี่ยตรงเนี้ยอ่าครับ
00:27:28 → 00:27:30 เพราะนั้นไปได้เป็นไปก็ได้ว่าถ้าสมมุติมี
00:27:30 → 00:27:32 อาการมา 1-2 สัปดาห์แล้วมันก็เท่าๆเดิมมา
00:27:32 → 00:27:35 ตลอดนะครับจนประจำเดือนหมดไปเนี่ยอันเนี้
00:27:35 → 00:27:39 TMS แต่ถ้าเกิดมีอาการนิดๆหน่อยๆนะครับ
00:27:39 → 00:27:41 แล้วก็พอประจำก่อนประจำเดือนมาจริงๆ 1-2
00:27:41 → 00:27:44 วันเนี่ยชัดเจนเลยปวดหัวรุนแรงขึ้นคัด
00:27:44 → 00:27:47 เต้านมรุนแรงขึ้นปวดท้องอย่างรุนแรงนะ
00:27:47 → 00:27:49 ครับแล้วก็อารมณ์เปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
00:27:49 → 00:27:51 เนี่ยอันเนี้ยมันจะน้องเอียงไปทาง PMD
00:27:51 → 00:27:55 มากขึ้นอือืเพราะฉะนั้นในเรื่องระยะเวลา
00:27:55 → 00:27:57 อย่างที่คุณโอ๊คถามเนี่ยอาจจะพอสังเกตได้
00:27:57 → 00:28:00 ว่ายิ่งขมวดใกล้ช่วงที่ขาดช่วงที่ประจำ
00:28:00 → 00:28:02 เดือนจะมาซึ่งนั่นเป็นช่วงที่ร่างกายขาด
00:28:02 → 00:28:05 ฮอร์โมนถึงที่สุดแล้วอ่ะนะครับอันเนี้ย
00:28:05 → 00:28:08 อาการเียงดีๆมันจะเด่นชัดขึ้นและอย่างที่
00:28:08 → 00:28:13 ตามข่าวต้นตามข่าวคุณยิบโสโซบอกว่า
00:28:13 → 00:28:18 อิปซิบซใช่มั้ยยิซเนาะยิบซยิบซบอกว่าเอ่อ
00:28:18 → 00:28:20 อาจจะเป็นเพราะออกกำลังกายมากกินอาหาร
00:28:20 → 00:28:25 คลีนอย่างเดียวจนทำให้เกิดภาวะของ PMD
00:28:25 → 00:28:28 มันเป็นไปได้อย่างนั้นมั้ยฮะขอต้นครับ
00:28:28 → 00:28:30 อย่างที่เราพูดไปในช่วงเอ่อครึ่งแรกของ
00:28:30 → 00:28:33 รายการเนี่ยนะครับช่วงเ่อก่อนเราจะพัก
00:28:33 → 00:28:35 เบรกไปเนี่ยเราพบว่าถึงแม้เราจะไม่ทราบ
00:28:35 → 00:28:38 สาเหตุชัดเจนว่าทำไมใครถึงมี PM
00:28:38 → 00:28:42 อ๋อมันอาจจะเราก็คิดว่าพื้นฐานของสุขภาพ
00:28:42 → 00:28:44 เนี่ยทั้งสุขภาพทางกายและสุขภาพทางจิต
00:28:44 → 00:28:47 เนี่ยล้วนแต่มีผลสำคัญต่อการทำให้เกิด
00:28:47 → 00:28:51 อาการเหล่านี้ได้นะครับการที่ใช้ชีวิตนะ
00:28:51 → 00:28:53 จริงๆการดูแลสุขภาพอย่างคนยิบซิงเป็นคน
00:28:53 → 00:28:55 ออกกำลังกายที่ดีเนี่ยอันเนี้ยจริงๆมันดี
00:28:55 → 00:28:58 อยู่แล้วล่ะสำหรับการดูร่างกายตัวเองใช่
00:28:58 → 00:29:00 มั้ครับเพียงแต่ว่าเอ่อทุกอย่างมันต้อง
00:29:01 → 00:29:04 เดินสายกลางอ่ะครับอือ้าเราเรามุ่งเน้นนะ
00:29:04 → 00:29:07 หมอว่าอย่างอย่าเท่าที่ทราบจากข่าวนะครับ
00:29:07 → 00:29:10 ว่าเ่อโดยการใช้ชีวิตของคุณเค้าเนี่ยก็
00:29:10 → 00:29:12 คือเป็นคนที่หุ่นใจสุขภาพมากๆใครที่
00:29:12 → 00:29:15 สุขภาพมากๆพอมันตึงกว่าสายกลางเช่นเ่อหมอ
00:29:15 → 00:29:18 ว่าคนทั่วไปเนี่ยนะครับมันมีเราดูแล
00:29:18 → 00:29:21 สุขภาพเราเข้มข้นกับอาหารการกินการดูแล
00:29:21 → 00:29:24 ออกกำลังกายต่างๆแต่มันจะมีวันพักบ้างอ่ะ
00:29:24 → 00:29:26 อครับที่เราบางทีเราก็คุมอาหารเราก็มีชีส
00:29:26 → 00:29:29 day นะครับไว้ไว้นะฮะบางทีแบบทำไมมันชีส
00:29:29 → 00:29:31 day เมื่อวานวันนี้ชีท day อีกแล้วอะไร
00:29:31 → 00:29:34 เงี้นะฮะคือความชีท day 6 วันเลยค่ะต่อ
00:29:34 → 00:29:36 สัปดาห์
00:29:36 → 00:29:40 ออกดูดูแลตัวเองสักวันนึงก็ยังดีไม่ทำเลย
00:29:40 → 00:29:43 ครับก็คืออย่างกรณีที่เ่อคุณน้องถามมายก
00:29:43 → 00:29:47 ตัวอย่างี้สิก็คือเท่าที่ดูจากจากที่คุณ
00:29:47 → 00:29:49 เค้าเล่าเองอ่ะนะครับที่หลายๆท่านคงไปหา
00:29:49 → 00:29:52 อ่านได้หลายเกียรติครับว่าโดยพื้นฐานคุณ
00:29:52 → 00:29:54 เนี่ยเต้องเป็นเด็กเลยครับเป็นคนที่เป็น
00:29:54 → 00:29:56 ห่วงเรื่องนี้แล้วก็เอ่อจะเป็นคนที่ทาน
00:29:56 → 00:29:59 อาหารอย่างบอกต้องทานอาหารที่คลีนมากๆนะ
00:29:59 → 00:30:02 ครับแล้วบางทีไม่ไว้ใจคนอื่นด้วยต้องทำ
00:30:02 → 00:30:04 คลีนมาจากบ้านแล้วเวลาเอาไปที่ทำงานถึงจะ
00:30:04 → 00:30:08 ไปผ่านนะครับอแล้วก็แล้วก็จะให้ความสำคัญ
00:30:08 → 00:30:11 กับเรื่องแบบคอยตามดูน้ำหนักตัวเองเอ๊ะจะ
00:30:11 → 00:30:13 อ้วนเกินไปมั้ยอะไรต่างๆเหล่าเนี้ยนะครับ
00:30:13 → 00:30:16 ซึ่งถ้ามันตึงมากๆเนี่ยมันทำให้สภาวะของ
00:30:16 → 00:30:19 เอ่อสุขภาพร่างกายมันไม่ดีะเพราะว่ามัน
00:30:19 → 00:30:22 เครียดใช่ครับเรายืนยันว่าการการทานอาหาร
00:30:22 → 00:30:26 เนี่ยนะเราต้องได้อาหารครบ 5 หมู่นะครับ
00:30:26 → 00:30:29 อ่ะ 5 หมู่แปลว่าอะไรบางคนเราเป็นไปค้น
00:30:29 → 00:30:31 มากเราต้องเคลียร์มากๆเราต้องดูแลสุขภาพ
00:30:31 → 00:30:34 ให้ดีมากเราตัดคาร์โบไฮเรตทิ้งเราตัดไข
00:30:34 → 00:30:38 มันทิ้งอืใช่มั้เราพยายามเฮ้ยมีแต่ผัก
00:30:38 → 00:30:41 โปรตีนเออมันจะก็มันก็เป็นจุดเริ่มต้นของ
00:30:41 → 00:30:44 การที่เรามีภาวะทุกโภชนาการก็คือทุก
00:30:44 → 00:30:46 โภชนาการไม่ได้แปลว่าขาดอาหารหรือไม่มี
00:30:46 → 00:30:48 เงินจะทานอาหารแต่ว่าสัดส่วนของการทาน
00:30:48 → 00:30:51 อาหารเนี่ยมันไม่ครบถ้วนนะครับอเราจะนะ
00:30:51 → 00:30:54 ครับเราอย่าไปมองว่าแป้งและไขมันเนี่ยมัน
00:30:54 → 00:30:58 ไม่ดีถ้าเราไม่มีแป้งเราขาดพลังงานนะครับ
00:30:58 → 00:31:01 นะอย่างยกตัวอย่างอคขอกล่าวคุณยิบซีอีกที
00:31:01 → 00:31:03 นึงที่คุณเเล่าให้เราฟังเองก็คือช่วงนั้น
00:31:03 → 00:31:05 เนี่ยโอโหบางบางทีแบบไม่พาจนกระทั่งเป็น
00:31:05 → 00:31:08 ลมจนหมดแรงอ่ะในที่สุดถึงเข้าใจถึงมีความ
00:31:08 → 00:31:10 เข้าใจว่าเฮ้ยไม่ได้มันต้องมีพลังงานบ้าง
00:31:10 → 00:31:12 เพราะฉะนั้นเราก็ต้องทานอาหารพวกแป้งให้
00:31:12 → 00:31:14 มีพลังงานบ้างอหรืออาหารพวกไขมันเนี่ยนะ
00:31:14 → 00:31:17 ครับบอกอุ้ยไม่เอาไขมันทานแล้วเดี๋อ้วนนะ
00:31:17 → 00:31:19 ครับร่างกายเราก็ต้องมีไขมันครับในบาง
00:31:19 → 00:31:22 ส่วนของอวัยวะของเราถ้าเราไม่มีไขมันเลย
00:31:22 → 00:31:25 อ่ะแบบดูนมากๆเลยเนี่ยนะครับไม่มีไขมัน
00:31:25 → 00:31:27 ใต้คือหนังเลยเนี่ยเราจะเหมือนหนังกระดูก
00:31:27 → 00:31:32 อ่ะครับอืเราเรานึกถึงชั้นเกราะที่ใช่ลืม
00:31:32 → 00:31:35 มากจนกระทั่งไม่มีเหมือนไม่มีไขมันเหมือน
00:31:35 → 00:31:37 หนังกระดูกเนี่ยมันไม่ได้ดูเป็นคนสุขภาพ
00:31:37 → 00:31:40 ดีครับค่ะคือผอมโรมอย่างเงี้ยค่ะออกโทร
00:31:40 → 00:31:43 ใช่มันจะดูมันจะร่างกายโทรมๆนะครับแล้วก็
00:31:43 → 00:31:45 ไขมันเองเนี่ยนะครับหลายท่านอาจจะลืมนึก
00:31:45 → 00:31:48 ไปว่าไขมันเนี่ยเป็นสารที่จำเป็นต่อระบบ
00:31:48 → 00:31:52 การเอ่ออมลิึมต่างๆของร่างกายยกตัวอย่าง
00:31:52 → 00:31:55 การย่อยสลายวิตามินบางอย่างนะครับเช่น
00:31:55 → 00:31:58 วิตามิน A k เนี่ยต้องละลายในไขมันอเรา
00:31:58 → 00:32:00 ผ่านไขมันเราก็ขาดวิตามินไปด้วยอุตส่าห์
00:32:00 → 00:32:02 กินผักผลไม้ให้ได้วิตามินปรากฏว่าไม่มีไข
00:32:02 → 00:32:06 มันมาช่วยในการย่อยวิตามินอ้าอย่างนั้นนะ
00:32:06 → 00:32:08 ครับจึงเป็นจึงเป็นเหตุผลว่าที่เราถูกสอน
00:32:08 → 00:32:11 มาตั้งแต่เด็กว่าขนาดไหนให้ครบ 5 หมู่
00:32:11 → 00:32:14 เนี่ยอันนี้ยังเป็นเรื่องจริงอยู่อืนะ
00:32:14 → 00:32:17 ครับเพราะฉะนั้นการดูแลตัวเองเนี่ยนะครับ
00:32:17 → 00:32:19 ก็ต้องไม่ไม่ตึงเกินไปคือเราทำเพื่อ
00:32:19 → 00:32:22 สุขภาพที่ดีแต่ว่าก็ต้องทานอาหารให้ครบ 5
00:32:22 → 00:32:24 หมู่แล้วในปริมาณที่เพียงพอสำหรับการ
00:32:24 → 00:32:29 บำรุงอค่ะนั่นแปลว่าพวกอาหารการออกกำลัง
00:32:29 → 00:32:31 กายหรือว่าการใช้ชีวิตที่มันเคร่งเครียด
00:32:31 → 00:32:34 เกินไปมันก็อาจจะเป็นปัจจัยเร้าของPMDดี
00:32:34 → 00:32:37 ใช่มั้ยคะคุณหมอใช่เลยครับเพราะฉะนั้นดี
00:32:37 → 00:32:40 เลยครับที่ที่เอ่อคุณปัพูดเรื่องนี้ขึ้น
00:32:40 → 00:32:42 มาเพราะว่าจริงๆแล้วถ้าเราจะโยงมาถึง
00:32:42 → 00:32:45 เรื่องอ่ากระบวนการในการรักษา TMS หรือ
00:32:45 → 00:32:48 TMD เนี่ยนะครับนะอันที่ 1 เนี่ยนะครับ
00:32:48 → 00:32:50 ก่อนที่เราจะไปถึงเรื่องของการใช้ยาหรือ
00:32:50 → 00:32:52 ใช้อะไรมารักษาเนี่ยก็คือปรับวิถีตรงนี้
00:32:52 → 00:32:55 ก่อนนะครับปรับวิถีคืออะไรนะครับรับ
00:32:55 → 00:32:58 ประทานอาหารให้ครบ 5:00 น.เป็นอาหารที่
00:32:58 → 00:33:00 แต่ว่าเราสามารถเลือกได้ให้เป็นอาหารที่
00:33:00 → 00:33:03 มีสุขภาพเช่นทานโปรตีนก็ทานโปรตีนที่ไม่
00:33:03 → 00:33:06 ใช่มีไขมันเยอะนะครับไม่ทานหมู 3 ชั้นคุณ
00:33:06 → 00:33:08 หมอบอกว่าต้องได้ไขมันด้วยซัดสมู 3 ชั้น
00:33:08 → 00:33:11 มันก็อาจจะมากไปใช่มั้ครับแล้วก็วิธีปรุง
00:33:11 → 00:33:14 อาหารเนี่ยนะครับไม่ใช่ทุกอย่างทอดหรือ
00:33:14 → 00:33:15 ผัดอย่างเดียวเนี่ยมันก็เต็มไปด้วยน้ำมัน
00:33:16 → 00:33:18 เหมือนกันนะครับเพราะฉะนั้นเราก็ต้องทำ
00:33:18 → 00:33:20 อาหารให้มันอบหรือนึ่งนะครับแล้วก็ยังยัง
00:33:21 → 00:33:23 คงไม่เสียคุณค่าของผัดผลไม้เหล่านั้นที่
00:33:23 → 00:33:26 เราทานอือนะครับแล้วก็ต้องมีการทานธัญพืช
00:33:26 → 00:33:28 เพื่อมีไฟเบอร์นะครับไฟเบอร์เนี่ยเป็น
00:33:28 → 00:33:30 ส่วนสำคัญในการเอ่อเผาผลาญแล้วก็ระบบของ
00:33:31 → 00:33:33 การย่อยอาหารของร่างกายเรานะครับอแล้วก็
00:33:33 → 00:33:36 สิ่งสำคัญก็คือเราชอบพูดถึงอาหาร 5 หมู่
00:33:36 → 00:33:39 แต่เราลืมปัจจัยที่ 6 ก็คือน้ำนะครับเรา
00:33:39 → 00:33:42 จำเป็นจะต้องดื่มน้ำมากๆด้วยเพราะเราบอก
00:33:42 → 00:33:44 แล้วว่าไขมันเป็นตรงกลางของการย่อย
00:33:44 → 00:33:48 วิตามิน A อ้าน้ำก็ต้องสำหรับวิตามิน BCF
00:33:48 → 00:33:51 นะครับแล้วก็เป็นตัวทำลายของสารต่างๆที่
00:33:51 → 00:33:53 จะไหลเวียนไปทั่วร่างกายเราเพราะฉะนั้น
00:33:53 → 00:33:55 ต้องดื่มน้ำให้ได้เพียงพอนะครับอย่างโดย
00:33:55 → 00:33:57 ทั่วๆไปเนี่ยในพุผู้ใหญ่เนี่ยเราก็ถือว่า
00:33:57 → 00:34:01 ประมาณ 6-8 แก้วต่อวันค่ะนะครับอย่าให้
00:34:01 → 00:34:04 ขาดบางคนดื่มน้ำน้อยไปก็ส่งเสร็จสุขภาพ
00:34:04 → 00:34:06 คราวนี้หลายๆคนถ้าพูดอย่างเงี้ยแล้วแบบ
00:34:06 → 00:34:08 อ้าวก็เรากังวลกับเรื่องน้ำหนักตัวนี่นะ
00:34:08 → 00:34:11 คุณหมอจะมาให้ทานขนาดนี้ได้ยังไงเราก็วัด
00:34:11 → 00:34:13 สิครับเราก็วัดดัชนีมวลกายเราด้วยนะครับ
00:34:13 → 00:34:17 น้ำหนักส่วนสูงให้มันเหมาะสมนะครับกายเรา
00:34:17 → 00:34:19 เคยพูดแล้วก็คือเอาน้ำหนักเป็นกิโลกรั
00:34:19 → 00:34:22 ตั้งแล้วก็หารด้วยส่วนสูงเป็นเมตรนะครับ
00:34:22 → 00:34:25 หาร 2 ครั้งก็คือส่วนสูงเป็นเมตรยกกำลัง 2
00:34:25 → 00:34:28 นะครับตรงนี้แล้วก็นอกจากดูแลเรื่องอาหาร
00:34:28 → 00:34:30 การกินแล้วเนี่ยนะครับในเรื่องของการออก
00:34:30 → 00:34:33 กำลังกายอันนี้ก็ควรจะมีเพราะว่าการออก
00:34:33 → 00:34:35 กำลังกายเนี่ยมันช่วยกระตุ้นระบบการไหล
00:34:35 → 00:34:39 เวียนของของเลือดของโลหิตทั่วร่างกายเรา
00:34:39 → 00:34:42 ซึ่งฮอร์โมนของเราเนี่ยมันก็ไหลเงียงผ่าน
00:34:42 → 00:34:45 กระแสเลือดค่ะนะครับเพราะฉะนั้นถ้าเรามี
00:34:45 → 00:34:48 การออกกำลังกายเลือดสูดฉีดได้ดีนะครับนอก
00:34:48 → 00:34:49 จากทำให้หัวใจและระบบไหลเวียนเลือดแข็ง
00:34:49 → 00:34:52 แรงแล้วเนี่ยมันจะช่วยทำให้สมดุลของ
00:34:52 → 00:34:54 ฮอร์โมนที่ส่งไปเลี้ยงร่างกายเราได้ดี
00:34:54 → 00:34:56 เอ่อเอ่อทั่วก็ตัวมากขึ้นเพราะฉะนั้นก็จะ
00:34:56 → 00:34:59 ลดปัญหาของ PMS ซึ่งเกี่ยวข้องกับการขาด
00:34:59 → 00:35:02 คอร์โมดได้นะครับครับคราวนี้ออกกำลังกาย
00:35:02 → 00:35:04 ควรจะออกกำลังกายขนาดไหนนะครับออกกำลัง
00:35:04 → 00:35:08 กายเนี่ยก็เอาให้มันดีต่อสุขภาพนะครับก็
00:35:08 → 00:35:10 คือตามคำแนะนำของแพทย์เนี่ยนะครับก็คือ
00:35:10 → 00:35:13 ควรจะได้ออกกำลังกายสักอ่าวันละประมาณ 30
00:35:13 → 00:35:16 นาทีเป็นอย่างน้อยนะครับอ่าในสัปดาห์นึง
00:35:16 → 00:35:19 เนี่ยให้ได้ประมาณ 3 วันต่อ 1 สัปดาห์นะ
00:35:19 → 00:35:22 ครับอ่านะโดยการออกกรรมการก็อาจจะทำอะไร
00:35:22 → 00:35:25 ที่มันเอ่อเป็นลักษณะของการผ่อนคลายนะ
00:35:25 → 00:35:27 ครับเช่นเอาง่ายๆก็คือที่ไม่ต้องใช้
00:35:27 → 00:35:31 อุปกรณ์เลยก็คือการเดินหรือการวิ่งนะครับ
00:35:31 → 00:35:33 หรือออกกำลังกายที่มันมีการเกียดร่างกาย
00:35:33 → 00:35:36 เพื่อให้กล้ามเนื้อเนี่ยได้มีการผ่อนคลาย
00:35:36 → 00:35:40 นะครับหลายๆท่านอาจจะไปโยคะนะครับไปยิม
00:35:40 → 00:35:43 อะไรต่างๆนะครับมีการยกน้ำหนักเดเทนนิ่ง
00:35:43 → 00:35:44 ต่างๆเหล่านี้ก็ช่วยเสริมความแข็งแรงใน
00:35:45 → 00:35:48 ร่างกายนะครับนอกจากนี้ก็อาจจะใช้วิธีการ
00:35:48 → 00:35:51 ขี่จักรยานอะไรต่างๆนี้คือพยายามทำ
00:35:51 → 00:35:53 กิจกรรมที่มันสอดคล้องกับนิสัยของเราที่
00:35:53 → 00:35:58 ทำให้สภาภาวะอารมณ์เราดีขึ้นนะครับนะก็ก็
00:35:58 → 00:36:01 อ่าแต่ว่าเน้นว่าให้มันสม่ำเสมอนะครับอื
00:36:01 → 00:36:05 แล้วก็แล้วก็ควรจะรู้จักจัดการคือสุขภาพ
00:36:05 → 00:36:07 ร่างกายเราเนี่ยไม่ใช่เฉพาะกายแต่ว่าต้อง
00:36:07 → 00:36:10 จัดการเรื่องใจด้วยเพราะฉะนั้นต้อง
00:36:10 → 00:36:12 เปลี่ยนพฤติกรรมนะครับรู้จักจัดการเรื่อง
00:36:12 → 00:36:15 ความเครียดอย่างสมนะครับอืออย่างในกรณี
00:36:15 → 00:36:18 ของถ้าถ้าไปตามเ่อเนื้อหาข้อมูลเกี่ยวกับ
00:36:18 → 00:36:21 สุขภาพของคุณิซีที่ที่คุณเกรุณาเล่า
00:36:21 → 00:36:23 ประสบการณ์ให้ฟังจะพบว่าตอนช่วงหลังๆ
00:36:23 → 00:36:25 เนี่ยพอคุณเเข้าใจเรื่องพวกนี้มากขึ้น
00:36:25 → 00:36:28 เนี่ยคุณยกกลับมานะครับหันมาดูแลอย่างถูก
00:36:28 → 00:36:31 ต้องละไม่ไม่ไปเครียดกับตัวเองเกินไปไม่
00:36:31 → 00:36:33 ไปเครียดกับการต้องควบคุมน้ำหนักต้องอะไร
00:36:33 → 00:36:36 อย่างนั้นมากเกินไปนะครับตรงเนี้ยก็ทำให้
00:36:37 → 00:36:39 อ่ามันอ่าเป็นวิธีการจัดการความเครียดที่
00:36:39 → 00:36:42 ดีอย่างนึงไม่ให้มันตึงเกินไปนะครับนอก
00:36:42 → 00:36:44 จากนี้นะครับเนื่องจากเราเป็นชาวพุทธนะ
00:36:44 → 00:36:48 ครับก็การนั่งสมาธินะครับฝึกกำหนดการหาย
00:36:48 → 00:36:50 ใจเนี่ยนะครับอันนี้ก็จะเป็นการช่วยผ่อน
00:36:50 → 00:36:52 คลายกล้ามเนื้อแลก็ผ่อนคลายความเครียดได้
00:36:52 → 00:36:55 อย่างดีซึ่งเป็นการทำง่ายๆทำด้วยตัวเอง
00:36:55 → 00:36:58 ที่บ้านก็ได้นะครับหรือบางท่านอาจจะไป่า
00:36:58 → 00:37:02 สถานที่เราทำโยคะนะครับหรือออกกำลังกาย
00:37:02 → 00:37:04 ที่ยิมแล้วก็ได้มีโอกาสพูดคุยกับเพื่อน
00:37:04 → 00:37:07 ที่ออกกำลังใจด้วยกันอันนี้ค่ะนะก็จะเป็น
00:37:07 → 00:37:10 การดูแลจัดการความเครียดได้อย่างเหมาะสม
00:37:10 → 00:37:14 นะครับมีภาพด้วยไม่ใช่เครียดแล้วก็ไปลง
00:37:14 → 00:37:19 ด้วยดื่มสุรานะครับหรือว่าสูบบุหรี่นะ
00:37:19 → 00:37:22 ครับเหล่าเนี้ยจะยิ่งส่งผลเสียต่อสุขภาพ
00:37:22 → 00:37:25 ทั้งทางร่างกายและจิตใส่ด้วยนะครับอือื
00:37:25 → 00:37:28 อันนี้ก็คือปรับเปลี่ยนก่อนการปรับเออการ
00:37:28 → 00:37:30 ปรับตัวปรับเปลี่ยนอย่างเงี้ยน้องปราบคุณ
00:37:30 → 00:37:33 หมอต้นครับมันครับแล้วก็เราอย่าลืมนะครับ
00:37:33 → 00:37:35 ว่าการดูแลสุขภาพที่สำคัญเนี่ยนอกจาก
00:37:35 → 00:37:38 เรื่องอาหารการกินเรื่องการออกกำลังกายนะ
00:37:38 → 00:37:40 ครับแล้วเราต้องดูแลเรื่องการพักผ่อนให้
00:37:40 → 00:37:44 กินพอด้วยนะครับก็นอนหลับให้ได้ 6-8 ชมง
00:37:44 → 00:37:47 ต่อวันแล้วก็หลับให้สนุกต่อเนื่องเพียงพอ
00:37:47 → 00:37:51 นะครับอืต้องเพียงพอต้องทุกอย่างต้องทุก
00:37:51 → 00:37:54 อย่างต้องไปด้วยครับใช่มันต้องไปให้ครบ
00:37:54 → 00:37:56 ถ้วนเราทำอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ครบถ้วน
00:37:56 → 00:37:59 เนี่ยนะครับเอ่อมันก็จะดีจากอาการ PMS
00:37:59 → 00:38:02 หรือ PMD ได้ช้าลงคือทำอย่างใดอย่างนึง
00:38:02 → 00:38:05 มันก็ดีขึ้นแหละครับแต่ว่ามันจะดีขึ้นช้า
00:38:05 → 00:38:07 ลงเพราะฉะนั้นถ้าจะทำแล้วเนี่ยทำให้มัน
00:38:07 → 00:38:10 ครบถ้วนไปเลยจะดีที่สุดอ่ะนะครับและอย่าง
00:38:10 → 00:38:12 ที่เราบอกแล้วบางทีไอ้ระดับของอาการเหล่า
00:38:12 → 00:38:16 เนี้ยมันเป็นระดับที่เอ่อรบกวนสภาพจิตใจ
00:38:16 → 00:38:18 ถึงขั้นเครียดซึมเศร้าหรือทำร้ายตัวเอง
00:38:18 → 00:38:20 เนี่ยหลายๆครั้งเนี่ยนะครับการปรับ
00:38:20 → 00:38:23 เปลี่ยนพฤติกรรมด้วยตัวเองอาจจะทำไม่ได้
00:38:23 → 00:38:25 ผลอาจจะต้องมีผู้เชี่ยวชาญมาช่วยปรับ
00:38:25 → 00:38:28 เปลี่ยนพฤติกรรมด้วยก็คืออาจจะต้องใช้นัก
00:38:28 → 00:38:31 จิตบำบัดนะครับหรืออาจจะต้องไปถึงกับพูด
00:38:31 → 00:38:34 คุยกับสิทธิแพทย์นะครับซึ่งก็จะมีกระบวน
00:38:34 → 00:38:36 การบำบัดในเรื่องของความคิดและพฤติกรรม
00:38:36 → 00:38:39 ซึ่งการพูดถึงนักจิตบำบัดหรือจิตแพทย์
00:38:39 → 00:38:40 เนี่ยเราอย่าไปรู้สึกนะครับว่าเอ๊ะมัน
00:38:40 → 00:38:43 เหมือนเราเป็นคนบ้าหรือเปล่าต้องไปหาเรา
00:38:43 → 00:38:45 เป็นโรคจิตหรือเปล่าไม่ใช่นะครับมันเป็น
00:38:45 → 00:38:48 เรื่องของการควบคุมดูแลเกี่ยวกับพฤติกรรม
00:38:48 → 00:38:51 แล้วก็ควบคุมดูแลต่อการปรับกับก็คือน้ำ
00:38:51 → 00:38:53 ประสาทต่างๆที่มันทำให้มีผลต่อเรื่องของ
00:38:53 → 00:38:56 จิตใจของเราอืครับนะครับเราไม่เคยได้ยิน
00:38:56 → 00:38:59 ว่าเฮ้ยคนซึมเศร้าหรือว่ามีโรคทางจิตใจ
00:38:59 → 00:39:00 แล้วที่เราบอกว่าเ้ยเพราะขาดยาแล้วมี
00:39:00 → 00:39:03 อาการก็เพราะว่ายาเหล่าเนี้ยมันไปช่วย
00:39:03 → 00:39:05 ปรับเรื่องสารสื่อนำประสาที่ผิดปกติในคน
00:39:05 → 00:39:07 ที่เป็นภาวะแบบเนี้ยให้ดีขึ้นได้ด้วยมัน
00:39:08 → 00:39:10 ก็จะช่วยให้เราสามารถจัดการสภาวะทาง
00:39:10 → 00:39:13 อารมณ์ที่คิดเป็นในแต่งแง่ลบนะครับเ่อ
00:39:13 → 00:39:15 ปรับเปลี่ยนให้มันเป็นแง่บวกแล้วก็
00:39:15 → 00:39:17 พฤติกรรมมันจะดีขึ้นซึ่งหลายๆครั้งเนี่ย
00:39:17 → 00:39:19 นะครับเอ่ออันเนี้ยเมื่อเรารักษาต่อ
00:39:19 → 00:39:21 เนื่องกับคุณหมอเนี่ยนะครับคุณหมอท่านจะ
00:39:21 → 00:39:25 ช่วยแะว่าตรงเนี้ยเอ๊ะมันเกินกำลังเราควร
00:39:25 → 00:39:27 จะต้องให้จิตแพทย์หรือว่าสิบัติช่วยแล้ว
00:39:27 → 00:39:30 หรือยังค่ะก่อนจะไปเรื่องของการทานยาคุณ
00:39:30 → 00:39:32 หมอคะการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของเราทั้ง
00:39:32 → 00:39:35 ด้วยการเปลี่ยนด้วยตัวเองหรือว่าให้คุณ
00:39:35 → 00:39:37 หมอช่วยแล้วเนี่ยระยะเวลาในการปรับ
00:39:37 → 00:39:40 เปลี่ยนนานมั้คะแล้วแต่ละคนเนี่ยแตกต่าง
00:39:40 → 00:39:43 กันมั้ยคะคุณหมออ่ามีความแตกต่างกันเยอะ
00:39:43 → 00:39:44 ขึ้นอยู่กับพื้นฐานครับอย่างที่เราบอก
00:39:44 → 00:39:47 แล้วเรื่องปัจจัยของการระดับฮอร์โมนที่
00:39:47 → 00:39:50 เปลี่ยนแปลงไปเนี่ยมันมันมีผลจากโรคประจำ
00:39:50 → 00:39:52 ตัวทั้งทางร่างกายและจิตใจแล้วก็พื้นฐาน
00:39:52 → 00:39:55 การดำเนินชีวิตลักษณะความเชื่อแล้วก็
00:39:55 → 00:39:58 พฤติกรรมที่มีในอดีตนะครับดังนั้นเมื่อ
00:39:58 → 00:40:01 เราติดตามจะรักษาคนไข้ผลที่เป็นPMDดเนี่ย
00:40:01 → 00:40:03 พอเราซักประวัติได้แล้วพบว่าชัดเจน
00:40:03 → 00:40:06 วินิจฉัยได้แล้วเนี่ยนะครับเราจะต้องถอย
00:40:06 → 00:40:09 กลับไปแก้ไอ้จุดที่เป็นปมต่างๆค่ะที่ทำ
00:40:09 → 00:40:12 ให้ที่ทำให้พฤติกรรมเขามาสู่ตรงนี้อื
00:40:12 → 00:40:14 เพราะฉะนั้นถ้าเราการซักประวัติหรือการ
00:40:14 → 00:40:17 ใช้เวลาในการควบคุมดูแลตรงเนะครับพอเรา
00:40:17 → 00:40:20 รู้จุดเนี่ยเอ่อวิธีการเอ่อปรับเปลี่ยน
00:40:20 → 00:40:23 พฤติกรรมเนี่ยจึงใช้เวลาต่างๆกันขึ้นอยู่
00:40:23 → 00:40:26 กับว่าเอ่อคนเหล่านั้นมีปมที่มันต่างกัน
00:40:26 → 00:40:29 แค่ไหนอย่างที่เราบอกแล้วว่าบางคนถ้ามี
00:40:29 → 00:40:32 ประวัติในครอบครัวมีครอบครัวเป็น PMS
00:40:32 → 00:40:34 หรือ PMD อยู่แล้วหรือว่าเอ่อมีพื้นฐาน
00:40:34 → 00:40:37 ของการเคยเป็นโรคซึมเศร้าเคยเป็นโรควิตก
00:40:37 → 00:40:39 กังวลอยู่แล้วเนี่ยกลุ่มนี้เรารู้เลยว่า
00:40:39 → 00:40:42 จะต้องใช้เวลานานกว่าคนอื่นค่ะนะครับแต่
00:40:42 → 00:40:44 โดยทั่วไปโดยเฉลี่ยเนี่ยมักจะใช้เวลาอยู่
00:40:45 → 00:40:48 ในช่วงประมาณสัก 3-6 เดือนนะครับอาการก็
00:40:48 → 00:40:53 จะค่อยๆดีขึ้นค่ะอ่ะอ่ามีระยะเวลาในการ
00:40:53 → 00:40:57 รักษาดูแลตัวเองอยู่แต่ว่าต้องต้องความ
00:40:57 → 00:41:02 ถี่หรือว่าความเหมาะสมหรือว่าความที่ขยัน
00:41:02 → 00:41:04 ในการดูแลตัวเองที่ให้มันเพื่ออาการมันดี
00:41:04 → 00:41:07 ขึ้นน่ะมันต้องกินระยะเวลาสักเเท่าเท่า
00:41:07 → 00:41:10 ไหร่ถึงจะพอตนครับเมื่อส่วนใหญ่เนี่ยนะ
00:41:10 → 00:41:12 ครับอ่าเมื่อเราเจอคนไข้ที่เป็นเนี่ยนอก
00:41:12 → 00:41:15 นอกจากพอเราแนะแนวทางปรึกษาวติกรรมเนี่ย
00:41:15 → 00:41:18 เราจะทำคลางดำเนินชีวิตกันนะครับแล้วก็
00:41:18 → 00:41:19 อย่างที่เราบอกเนี่ย
00:41:19 → 00:41:21 มันจะช่วยทั้งในเรื่องของอาหารการออก
00:41:21 → 00:41:23 กำลังกายให้เป็นตารางให้เป็นที่เขาจะได้
00:41:23 → 00:41:25 รู้เพราะว่าพอมันมีตารางอยู่เนี่ยนะครับ
00:41:25 → 00:41:28 อ่าเหมือนกับจดบันทึกกิจกรรมที่เราจะทำใน
00:41:28 → 00:41:30 แต่ละวันเนี่ยความเครียดมันจะลดลงเพราะ
00:41:30 → 00:41:32 ว่าเรารู้ว่าดำเนินชีวิตในแต่ละวันเนี้ย
00:41:32 → 00:41:35 เราทำอันนี้ตอนนี้เราทำอันนี้ตอนนี้ไหลไป
00:41:35 → 00:41:37 ซึ่งเมื่อเมื่อเราอ่าออกแบบการปรับ
00:41:37 → 00:41:39 พฤติกรรมร่วมกันเนี่ยนะครับไม่ว่าจะเป็น
00:41:39 → 00:41:41 กับสุตินนารีแพทย์หรือกับนัก
00:41:41 → 00:41:43 จิตมันสิแพทย์เนี่ยเอ่อกิจกรรมที่ทำนั้น
00:41:43 → 00:41:46 น่ะมันจะไม่ตึงเกินไปมันจะหย่อนๆทำให้
00:41:47 → 00:41:48 เป็นลักษณะกิจกรรมที่มันไม่เครียดนะครับ
00:41:48 → 00:41:51 เพราะฉะนั้นเอ่อโดยทั่วไปพอเราวางแผน
00:41:51 → 00:41:53 พฤติกรรมเสร็จแล้วเนี่ยอาจจะให้ไปลอง
00:41:53 → 00:41:56 ปฏิบัติสัก 1-2 สัปดาห์แล้วนัดกรรมภพก่อน
00:41:56 → 00:42:00 อืนัดกรรมภพพอดีขึ้นนะครับเราจะเว้นระยะ
00:42:00 → 00:42:02 เป็น 1 เดือนนะครับทำไมต้องเป็น 1 เดือน
00:42:02 → 00:42:05 เพราะว่าเมื่อลูกนี้มันเกี่ยวข้องกับ
00:42:05 → 00:42:07 กลุ่มอาการก่อนมีประจำเดือนมันมันก็เลย
00:42:07 → 00:42:09 ต้องเป็น 1 เดือนเพื่อให้มันผ่านการมี
00:42:09 → 00:42:11 ประจำเดือนอีกรอบนึงให้เราเห็นก่อนครับนะ
00:42:11 → 00:42:13 ครับว่าเอ๊ะพอหลังจากเนี้ยพอปรับเปลี่ยน
00:42:13 → 00:42:15 แล้วเนี่ยพอประจำเดือนรอบต่อไปมาปุ๊บเอ๊ะ
00:42:15 → 00:42:19 อาการมันดีขึ้นมั้ยอืถ้าดีขึ้นแสดงว่ามา
00:42:19 → 00:42:21 ถูกทางแล้วเราก็จะใช้เวลาอย่างที่นกถาม
00:42:21 → 00:42:24 เนี่ยก็คือถ้ามาถูกทางแล้วเนี่ยใช้เวลา
00:42:24 → 00:42:26 ปรับพฤติกรรมแบบเนะครับประมาณ 36 เดือน
00:42:26 → 00:42:30 เนี่ยอาการจะค่อยๆดีขึ้นจนถึงหายได้อ๋อ
00:42:30 → 00:42:33 ซึ่งถ้าเป็นคนที่อ่ารักษาถึงขั้นนี้แล้ว
00:42:33 → 00:42:35 หายเนี่ยนะครับเหลืออาการดีขึ้นชัดเจน
00:42:35 → 00:42:37 เนี่ยจนสามารถดำรงชีวิตได้ดีแล้วเนี่ยอาจ
00:42:37 → 00:42:41 จะไม่ต้องไปถึงสเต็ปของการใช้ยาค่ะอือ่า
00:42:41 → 00:42:44 อันนั้นก็จะจะเหมือนกับว่าเอ่อมันก็ลดการ
00:42:44 → 00:42:48 ใช้สารเคมีต่างๆในร่างกายลงได้นะครับค่ะ
00:42:48 → 00:42:51 แล้วถ้าใช้ยาคุณหมอเใช้ยาคล้ายกับกลุ่ม
00:42:51 → 00:42:54 ของคนเป็นซึมเศร้ามั้คะหรือว่าใช้ตัวยา
00:42:54 → 00:42:57 อะไรในการรักษาอ่าอันนี้จะมีทั้งอ่าทั้ง
00:42:57 → 00:43:00 คล้ายกันและต่างกันนะครับเวลาเราไปถึง
00:43:00 → 00:43:02 ขั้นที่ว่าโอเคเราปรับพฤติกรรมปรับการดำ
00:43:02 → 00:43:05 ชีวิตต่างๆแล้วเนี่ยพบว่าอาการมันยังไม่
00:43:05 → 00:43:08 ดีขึ้นหรือว่าดีขึ้นแต่ช้าเนี่ยนะครับนะ
00:43:08 → 00:43:11 เราจะต้องมุ่งของการโอเคต้องมีเครื่องมือ
00:43:11 → 00:43:14 ช่วยละซึ่งเวลาเราช่วยเนี่ยก็จะมียานะ
00:43:14 → 00:43:16 ครับยาในกลุ่มแรกที่เราใช้เนี่ยสาเหตุ
00:43:16 → 00:43:19 ตั้งต้นเนี่ยนะครับก็คือเราพบว่ามันเกิด
00:43:19 → 00:43:22 กับการเ่อขาดระดับฮอร์โมนในช่วงที่ประจำ
00:43:22 → 00:43:24 เดือนกำลังจะมาอย่างที่หมอเล่าไปตอนต้นไง
00:43:24 → 00:43:26 ว่าก่อนประจำเดือนมาฮอร์โมนมันลดระดับลง
00:43:26 → 00:43:29 แล้วอ่าต้องรอให้พอเริ่มนอกประจำเดือน
00:43:29 → 00:43:31 ใหม่พอประจำเดือนมาเสร็จปุ๊บมันถึงจะมี
00:43:31 → 00:43:33 การสร้างไข่ใบใหม่แล้วฮอร์โมนมันถึงจะไต่
00:43:33 → 00:43:35 ขึ้นมาใหม่เพราะงั้นในช่วงตรงเนี้ยมันมี
00:43:35 → 00:43:37 การขาดหายไปเนี่ยวิธีการง่ายที่สุดก็คือ
00:43:38 → 00:43:41 เราจะให้ฮอร์โมนไปทดแทนตรงนี้ค่ะนะครับ
00:43:41 → 00:43:43 อาจจะเป็นฮอร์โมนที่ทานในช่วงที่ในช่วง
00:43:43 → 00:43:46 ที่อ่าใกล้ๆก่อนประจำเดือนจะมาซึ่งเป็น
00:43:46 → 00:43:48 ช่วงที่มีอาการเนี่ยเพื่อทำให้อ่าไปแก้
00:43:48 → 00:43:51 ปัญหาให้ตรงจุดว่าตอนนั้นเขาดฮอร์โมนอยู่
00:43:51 → 00:43:54 ฮอร์โมนที่เราได้จากภายนอกไปแทนพอดีนะ
00:43:54 → 00:43:56 ครับแต่โดยทั่วไปการรับประทานแบบเนี้ยบาง
00:43:56 → 00:43:58 ครั้งเนี่ยอาจจะไม่สะดวกเพราะว่าคนไข้
00:43:58 → 00:44:00 ต้องมานั่งจำว่าช่วงนี้เราทานโปรเจคช่วง
00:44:00 → 00:44:03 นี้เราทานเอสโตรเจนเพราะฉะนั้นยาที่มีผล
00:44:03 → 00:44:05 ต่อการต่อไปฮอร์โมนแล้วใช้กันง่ายๆมากๆ
00:44:05 → 00:44:08 เนี่ยที่เรานิยมให้กันอยู่ก็คือยาไม่คุ
00:44:08 → 00:44:11 กำเนิดนั่นเองอืนะครับเพราะยาไม่คูณ
00:44:11 → 00:44:13 กำเนิดเนี่ยเรามีการให้ยาเนี่ยนะครับ
00:44:13 → 00:44:15 อย่างที่เราทานยาให้คุเนิดกันก็คือเอ่อ
00:44:16 → 00:44:19 เอ่อ 28 วันนะครับหรือหรือว่าแบบ 21 วัน
00:44:19 → 00:44:22 เนี่ยนะครับค่ะเ่อจริงๆแล้วเนี่ยไม่ว่าจะ
00:44:22 → 00:44:24 เป็น 28 วันหรือ 21 วันเนี่ยนะครับมันจะ
00:44:24 → 00:44:28 มีตัวยาแค่ 21 เม็ดนะครับส่วนถ้าเป็น 28
00:44:28 → 00:44:30 เนี่ยอีก 7 เม็ดที่เหลือเนี่ยมันเป็นแค่
00:44:30 → 00:44:32 เม็ดแป้งเอาไว้เพื่อให้เรานับรอบให้มัน
00:44:32 → 00:44:36 ตรงรอบประจำเดือนเท่านั้นเองออือ๋อครับก็
00:44:36 → 00:44:39 คือจะช่วยเรื่องฮอร์โมนด้วยแล้วก็ช่วยให้
00:44:39 → 00:44:41 ประจำเดือนมาปกตินี้อันนี้จริงมั้คะคุณ
00:44:41 → 00:44:44 หมอจริงครับพอเราพอเราได้เมื่อเราแทนที่
00:44:44 → 00:44:47 เราจะไปควบคุมคุมฮอร์โมนแค่เฉพาะในช่วง
00:44:47 → 00:44:49 ที่เราขาดก็คือตอนช่วงก่อนประจำเดือนมา
00:44:49 → 00:44:52 ไม่กี่วันเนี่ยนะครับการขามันซะตลอดทั้ง
00:44:52 → 00:44:55 เดือนเลยเนี่ยนะครับมันจะช่วย 1 ปรับให้
00:44:55 → 00:44:58 ฮอร์โมนมันสม่ำเสมอค่ะนะครับไม่มีช่วงที่
00:44:58 → 00:45:01 มันสวิงขึ้นสูงเกินไปหรือสวิงลงต่ำเกินไป
00:45:01 → 00:45:04 เหมือนมันเหมือนมันสมดุลตลอดทางเดือดนะ
00:45:04 → 00:45:07 ครับอันที่ 2 เนี่ยนะครับพอเราใช้ไม่ค
00:45:07 → 00:45:09 กำเนิดเนี่ยนะครับเอ่อความหนาตัวของยืด
00:45:09 → 00:45:12 บุคคลมันจะลดลงนะครับเพราะฉะนั้นอาการพอ
00:45:13 → 00:45:15 หนาตัวลดลงเนี่ยปริมาณประจำเดือนออกลด
00:45:15 → 00:45:18 มนุษย์จะบีบตัวน้อยลงนะครับอาการปวดท้อง
00:45:18 → 00:45:20 ประจำเดือนก็จะน้อยลงไปด้วยอาการที่ปวด
00:45:20 → 00:45:24 คัดเต้านมเนี่ยก็จะเบาลงไปด้วยนะครับ
00:45:24 → 00:45:26 เพราะฉะนั้นจุดประสงค์ของการใช้ยาเนี่ยก็
00:45:26 → 00:45:28 คืออันที่ 1 ไปแก้ที่จุดสาเหตุคือเรื่อง
00:45:28 → 00:45:31 ของเอ่อการไม่สมุนของฮอร์โมนนะก็อยากจะ
00:45:31 → 00:45:34 ใช้ได้ตั้งแต่เอ่ออย่างที่บอกฮอร์โมนแค่
00:45:34 → 00:45:37 ทานเป็นช่วงๆซึ่งหมอคิดว่ามันใช้ยากกว่า
00:45:37 → 00:45:38 กับฮอร์โมนที่เป็นยาไม่คูดที่พามาทั้ง
00:45:38 → 00:45:41 เดือนไปซะเลยอันนี้จะง่ายกว่าแล้วก็
00:45:41 → 00:45:44 เดี๋ยวเนี้ยจะมียาไม่คูกำเนิดชนิดที่เอา
00:45:44 → 00:45:48 ไม่รักษาอาการ PMS หรือ PMD โดยตรงนะครับ
00:45:48 → 00:45:50 ก็คือเมื่อกี้หมอบอกไปแล้วว่ายามไม่คง
00:45:50 → 00:45:52 เหนือเนี่ยมันจะมีตัวยาอยู่ 21 เม็ดนะ
00:45:52 → 00:45:55 ครับแล้วอีก 7 เม็ดเนี่ยจะไม่มีตัวยาอแต่
00:45:55 → 00:45:58 ว่ายังไม่เหนือชนิดที่ใช้สำหรับรักษา PMS
00:45:58 → 00:46:02 หรือ PMD เนี่ยเค้าจะเอ่อพยืดเม็ดที่มี
00:46:02 → 00:46:06 ตัวยาออกมาเป็น 24 เม็ด 24 เมนะฮะก็คือ
00:46:06 → 00:46:09 แทนที่จะมีแค่ 21 เม็ดแล้วหมดตัวยาแล้วเ
00:46:09 → 00:46:12 จะยื่นมาอีก 3 วันกลายเป็น 24 เมค่ะครับ
00:46:12 → 00:46:15 24 เมนะครับพอเม็ดที่ 25 26 27 28
00:46:15 → 00:46:17 ไม่มีตัวยาก็จริงแต่สัยาที่มันค้างใน
00:46:18 → 00:46:19 เลือดเนี่ยจะทำให้ฮอร์โมนเราเนี่ยยังไม่
00:46:19 → 00:46:23 ลดต่ำมาจนเป็นศูนยอครับครับนะในช่วง 4
00:46:23 → 00:46:25 วันนั้นพอมันกำลังลดลงปึ๊บอ่ะเราเข้าสู่
00:46:25 → 00:46:27 รอบประจำเดือนมาพอดีเรามีฮอร์โมนของรอบ
00:46:27 → 00:46:31 ใหม่มาพอออค่ะนะครับเพราะฉะนั้นให้ลองให้
00:46:31 → 00:46:34 ลองสังเกตดูนะครับถ้าเกิดไปปรึกษาสมมุติ
00:46:34 → 00:46:36 บางท่านที่อาจจะไม่ยังไม่ได้สะดวก 6 บแต่
00:46:36 → 00:46:39 รู้ว่าเอ๊ะเราน่าจะใช่แน่ๆเนี่ยนะครับก็
00:46:39 → 00:46:41 ทานกำเนิดเนี่ยให้เลือกทานชนิดที่เป็น
00:46:41 → 00:46:46 ฮอร์โมน 24 ไปถามครับ
00:46:46 → 00:46:50 ค่ะเราได้นะครับแล้วก็อ่าการทำมันก็ช่วย
00:46:50 → 00:46:53 เรื่องคุณกำเนิดด้วยไงเราเป็น PMF PMDB
00:46:53 → 00:46:55 อยู่เนี่ยถ้าท้องขึ้นมาอีกก็ไปกันใหญ่เลย
00:46:55 → 00:46:58 นะครับมันจะไปดูแลลูกดูแลการตั้งครรภ์
00:46:59 → 00:47:00 อะไรได้เดี๋เผลอทำร้ายตัวเองทำร้ายลูกไป
00:47:00 → 00:47:03 ด้วยอ๋อมันมีอย่างงั้นด้วยเหรอหมอต้นใช่
00:47:03 → 00:47:05 ครับมันมีครับเพราะว่าถ้าเป็นอย่างที่เรา
00:47:05 → 00:47:07 บอกแล้วคนที่เป็น PMF หรือเนี่ยมีแนวน้อง
00:47:07 → 00:47:11 จะเป็นpostชหรือBั Blue ได้ 2 ขึ้นก็คือ
00:47:11 → 00:47:13 การเปลี่ยนแปลงการตั้งคันเป็นเรื่องที่
00:47:13 → 00:47:16 เครียดมากของผู้หญิงนะครับตั้งครรภมันจะ
00:47:16 → 00:47:18 เกิดอันตรายกับเรามั้ยลูกจะสุขภาพเป็นยัง
00:47:18 → 00:47:20 ไงข้อประมาณแล้วบางคนก็ไม่รู้จะเลี้ยงลูก
00:47:20 → 00:47:23 ยังไงเลี้ยงไม่เป็นซึ่งพูดนี้เป็นความ
00:47:23 → 00:47:26 เครียดทั้งนั้นเพราะฉะนั้นไหนๆเรายังเป็น
00:47:26 → 00:47:28 โรคนี้อยู่เนี่ยนะครับทานยาไม่คูนเนอกจาก
00:47:28 → 00:47:30 ปรับฮอร์โมนแล้วเนี่ยอย่างน้อยป้องกันไม่
00:47:30 → 00:47:33 ให้ท้องแน่ๆนะครับจะได้ไม่เกิดปัญหาที่
00:47:33 → 00:47:35 แทรกซ้อนตามมาเพราะฉะนั้นกลุ่มของการใช้
00:47:35 → 00:47:38 ยาเนี่ย 1 เพื่อปรับฮอร์โมน 2 รักษาอาการ
00:47:38 → 00:47:40 ต่างๆอย่างที่เราบอกถ้าปวดพระเต้านมมากๆ
00:47:40 → 00:47:43 มีอาการปวดท้องก็ให้ยาที่รักษาอาการปวด
00:47:43 → 00:47:45 ฉำเพาะเหล่านั้นเพื่อให้ลดอาการลงพออาการ
00:47:45 → 00:47:48 ทางร่างกายน้อยลงเนี่ยจิตใจเขาก็สบายขึ้น
00:47:48 → 00:47:51 นะครับส่วนยาที่ใช้ต่อไปก็จะเป็นเอ่อยา
00:47:51 → 00:47:54 ที่เอ่อใช้รักษาโรคที่มันเกิดร่วมด้วย
00:47:54 → 00:47:56 เช่นมีปวดทิษะปวดไมเกรนมอะไรต่างๆเนี่ยก็
00:47:56 → 00:47:59 ใช้ยาแก้ปวดที่จำเพาะกับเรื่องแล้วก็
00:47:59 → 00:48:01 อย่างที่บอกไปแล้วว่าบางส่วนมันเกี่ยวกับ
00:48:01 → 00:48:04 เรื่องของสารสื่อนำประสาทนะครับเช่น
00:48:04 → 00:48:06 เซตโตเนินแล้วก็จะให้ยาที่ไปควบคุมสาร
00:48:06 → 00:48:08 เหล่านี้นะครับนะที่ช่วยเพิ่มระดับ
00:48:08 → 00:48:11 ฮอร์โมนเซตนหรืออย่างที่เราบอกมันสื่อ
00:48:11 → 00:48:14 นำศาอัดไปถึงกับเรื่องของที่เราทำให้เป็น
00:48:14 → 00:48:17 ซึมเศร้าเราก็จะให้ยากลุ่มที่รักษาเป็น
00:48:17 → 00:48:20 กลุ่มยาเ้าเรียก SSRI นะครับคือยาที่ช่วย
00:48:20 → 00:48:24 ต้านอาการเศร้าอืนะครับซึ่งตรงนี้ก็จะ
00:48:24 → 00:48:26 เป็นเป็นการใช้ยาร่วมกับจิตแพทย์จะเป็นคน
00:48:26 → 00:48:29 วางแผนการด้วยครับซึ่งแต่ละคนก็จะได้รับ
00:48:29 → 00:48:33 การรักษาที่แตกต่างกันรวมไปถึงตัวยาก็ไม่
00:48:33 → 00:48:35 ใช่ทุกคนที่จะได้ตัวยาเหมือนกันใช่มั้คะ
00:48:35 → 00:48:37 คุณหมอใช่ครับและขนาดยาก็จะไม่เท่ากันก็
00:48:37 → 00:48:40 ขึ้นอยู่กับระดับความจำเป็นของการขายนะ
00:48:40 → 00:48:42 ครับนอกเหนือจากนี้นะครับสมมุติถ้านอก
00:48:42 → 00:48:44 เหนือจากยาและฮอร์โมนที่เราพูดถึงแล้ว
00:48:44 → 00:48:48 เนี่ยนะครับอาหารอื่นๆนอกจากอาหาร 5 หมู่
00:48:48 → 00:48:50 เนี่ยนะครับเราพบว่าอาหารเสริมหรือ
00:48:50 → 00:48:53 วิตามินบางอย่างเนี่ยมีผลช่วยลด PMS หรือ
00:48:53 → 00:48:56 PMD ได้ก็คือพวกนี้เป็นกลุ่มของวิตามิน
00:48:56 → 00:49:00 B6 นะครับอือแมกนีเซียมนะครับแคลเซียมนะ
00:49:00 → 00:49:03 ครับเหล่าเนี้ยเอ่อพบว่าเอ่อช่วยมีส่วนทำ
00:49:04 → 00:49:07 ให้อาการของ PMS และ PMCD เดีขึ้นค่ะครับ
00:49:07 → 00:49:09 เราก็อาจจะมาส่งวิตามินพวกนี้ร่วมด้วยนะ
00:49:09 → 00:49:13 ครับอืก็มีหลากหลายวิธีในการปรับสภาพปรับ
00:49:13 → 00:49:15 เอ่อเรื่องของฮอร์โมนอยู่ในร่างกายของคุณ
00:49:16 → 00:49:20 ผู้หญิงใช่ครับค่ะอืค่ะทีนี้ปัมขอนอก
00:49:20 → 00:49:22 เรื่องนิดนึงคุณหมอพูดถึงเรื่องของการทาน
00:49:22 → 00:49:24 ฮอร์โมนหรือว่าทานยาคุมกำเนิดเนี่ยช่วย
00:49:24 → 00:49:27 ให้ผู้หญิงเนี่ยอาจจะอารมณ์ดีขึ้นแต่ว่า
00:49:27 → 00:49:30 ในยุคของปาล์มที่อยู่ม.ปลายอ่ะเพื่อน
00:49:30 → 00:49:34 เพื่อนผู้ชายที่อยากจะครับเอ่อเปลี่ยน
00:49:34 → 00:49:37 แปลงคือเป็นพูดง่ายๆคือ LGBTQ อ่ะเขาจะ
00:49:37 → 00:49:40 กินยาคุมกำเนิดกันน่ะค่ะฮิตมากๆช่วงนึง
00:49:40 → 00:49:43 แล้วทำให้เหมือนอารมณ์เ้าฉุนเฉียวแล้วก็
00:49:43 → 00:49:46 หงุดหงิดง่ายอันนี้มันเกี่ยวกับที่เขาทาน
00:49:46 → 00:49:48 ยาคุมมั้คะคุณหมอหรือว่าเป็นแค่ทำอะไร
00:49:48 → 00:49:51 น้องปาล์มไม่ๆแต่แบบเหมือนจะชอบเห็นเอ๊ะ
00:49:51 → 00:49:54 แปลกๆท่าทางหลายๆคนเหวี่ยงค่ะที่ที่กินยา
00:49:54 → 00:49:56 คุมอะไรอย่างเงี้ยค่ะมันเกี่ยวมั้คะคุณ
00:49:56 → 00:49:58 หมอในเพศชายที่ทานยาคุม
00:49:58 → 00:50:01 ครับจริงๆแล้วเนี่ยเอ่อหมอเรือนความจริง
00:50:01 → 00:50:03 ในร่างกายของเราก็คือมนุษย์เราทั้งผู้
00:50:03 → 00:50:06 หญิงผู้ชายเนี่ยนะครับทั้ง 2 เพศเรามี
00:50:06 → 00:50:07 ฮอร์โมนทั้งชายและหญิงอยู่ในตัวทั้งคู่
00:50:07 → 00:50:10 อ่าใช่ๆเพียงแต่ว่าโดยพันธุกรรมของเพศชาย
00:50:11 → 00:50:13 เนี่ยมันจะควบคุมให้ฮอร์โมนเพศชายเด็ด
00:50:13 → 00:50:15 แล้วไปทำให้ฮอร์โมนเพศหญิงเนี่ยแสดงผล
00:50:15 → 00:50:17 น้อยลงอแล้วก็มีลักษณะชายผู้หญิงกลับกัน
00:50:17 → 00:50:20 ก็คือเราจะมีโฮนเพศหญิงเด่นกว่าแล้วก็ไป
00:50:20 → 00:50:23 กดโฮนเพศหญิงครับดังนั้นพอถึงมาถึงหลัก
00:50:23 → 00:50:26 การตรงเนะครับคนที่เขาเป็นเพศชายมี
00:50:26 → 00:50:29 ฮอร์โมนเพศชายอยู่ในตัวเยอะเยอะแต่แนว
00:50:29 → 00:50:31 โน้มคือจิตใจเเนี่ยอ่าอยากจะเป็นอีกเทพ
00:50:31 → 00:50:34 นึงนะครับแล้วอยากเป็นเพศหญิงเนี่ยพื้น
00:50:34 → 00:50:37 ฐานเบื้องต้นเขาจึงมักจะนิยมใช้ฮวนเพศ
00:50:37 → 00:50:39 หญิงนี่แหละอืพอเราฮอร์โมนเพศหญิงเข้ามา
00:50:39 → 00:50:42 จากยาใช่มั้ยครับมันก็ช่วยไปกดฮอร์โมนเพศ
00:50:42 → 00:50:45 ชายทำให้ทำให้ความสมดุลเนี่ยในร่างกายเ
00:50:45 → 00:50:48 เป็นฮอร์โมนเพศหญิงมากขึ้นอืการแสดงออก
00:50:48 → 00:50:50 ทางร่างกายมันก็จะแสดงออกไปทางเพศหญิงมาก
00:50:50 → 00:50:53 ขึ้นไงอลักษณะของเพศชายเช่นมีขนดกอะไร
00:50:53 → 00:50:56 ต่างๆก็จะลดลงนะครับอาจจะเริ่มมีแบบเอ่อ
00:50:56 → 00:50:59 มีสะโพกขวายต่างเนี่ยมีการมีน้ำมีนวลมาก
00:50:59 → 00:51:02 ขึ้นก็จะมาจากการใช้คำนวเพศหญิงอืคราวนี้
00:51:02 → 00:51:04 ที่คุณปามถามว่าโอเคในเมื่อหลักการที่เรา
00:51:04 → 00:51:06 เพิ่มคำนวเพศหญิงเข้าไปเพื่อทำให้คุณผู้
00:51:06 → 00:51:09 ชาย LGBTBQ เนี่ยเขาได้เหมือนกับสภาพการ
00:51:09 → 00:51:12 แสดงออกทางร่างกายมันจะดีดไปเป็นผู้หญิง
00:51:12 → 00:51:13 ถามว่าจะมีผลต่อสภาพอารมณ์เนี่ยทำให้เป็น
00:51:14 → 00:51:17 PMS หรือ PND มั้ยต้องเรียนว่าในผู้หญิง
00:51:17 → 00:51:20 อในในคุณผู้ชายนะครับเไม่มีรอบประจำเดือน
00:51:20 → 00:51:24 ที่แท้จริงค่ะอเพราะฉะนั้นอ่าอาการที่
00:51:24 → 00:51:26 เป็นเนี่ยจะไม่ถึงขั้นที่เราจะวินิจฉัย
00:51:26 → 00:51:28 เป็น PMS หรือ PMD ดีๆได้เพราะมันไม่เกิด
00:51:28 → 00:51:30 การเหวี่ยงของฮอร์โมนขนาดนั้นเพียงแต่ว่า
00:51:30 → 00:51:32 เมื่อเราใช้ฮอร์โมนเนี่ยนะครับอ่ะสิ่งที่
00:51:32 → 00:51:34 ต่างกันอย่างงี้ผู้หญิงเราเนี่ยเรามี
00:51:34 → 00:51:36 ฮอร์โมนในร่างกายเราอยู่แล้วนะครับบางที
00:51:37 → 00:51:39 เราทานยาคุมทานไม่ตรงเวลาทานไม่สม่ำเสมอ
00:51:39 → 00:51:41 ลืมไปทานไปบ้างเนี่ยฮอร์โมนจากร่างกายเรา
00:51:41 → 00:51:44 ก็ยังคงอยู่เพราะฉะนั้นสภาวะของการเป็น
00:51:44 → 00:51:47 รากผู้หญิงมันก็จะอยู่ตลอดทุกวันค่ะในผู้
00:51:47 → 00:51:51 ชายที่มาทานเพื่อเป็น LGBTQ เพื่อปรับการ
00:51:51 → 00:51:53 แสดงออกทางร่างกายเราให้เหมือนเพศหญิง
00:51:53 → 00:51:55 เนี่ยนะครับอันนี้มีความสำคัญที่จะต้อง
00:51:55 → 00:51:59 ให้ขนาดยาที่เหมาะสมอืพอเราได้ขนาดยาที่
00:51:59 → 00:52:01 ไม่เหมาะสมเนี่ยช่วงไหนที่เราได้ฮอร์โมน
00:52:01 → 00:52:03 เพชรหญิงเยอะไปหรือได้ฮอร์โมนเพชหญิงลดลง
00:52:03 → 00:52:06 มากเกินไปเนี่ยลืมทานทานไม่ตรงเวลาเนี่ย
00:52:06 → 00:52:08 นะครับมันจะเกิดการเหี่ยงของฮอร์โมนค่อน
00:52:08 → 00:52:10 ข้างรุนแรงแล้วก็ลักษณะของมนเพศหญิงมันจะ
00:52:10 → 00:52:13 เหมือนกับอมันก็ทำให้อย่างที่เราบอกอยู่
00:52:13 → 00:52:15 แล้วพอขาดไปเพศหญิงหน่อยนึงเนี่ยเราก็มี
00:52:15 → 00:52:17 การเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ใน PMSCM ดีๆใช่
00:52:17 → 00:52:21 มั้ยครับพอเป็นผู้ชายเนี่ยซึ่งซึ่งปกติ
00:52:21 → 00:52:23 เค้าก็ไม่มีโฮนเพศหญิงในตัวอยู่แล้วหรือ
00:52:23 → 00:52:25 มีน้อยอยู่แล้วเห็นมั้ยครับนะพอช่วงไหน
00:52:25 → 00:52:27 ที่เค้าเกิดการขาดมันจะเกิดการเหวี่ยงที่
00:52:27 → 00:52:29 รุนแรงกว่าก็อาจจะเป็นไปได้ว่าเขาจะมี
00:52:29 → 00:52:33 อาการเหมือนกับ PMSM ดีๆหงุดหงิดฉนเฉียว
00:52:33 → 00:52:35 ต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้ระหว่างที่ใช้
00:52:35 → 00:52:38 หอมอนะครับครับแต่นึกหมายความว่าก็ต้องดู
00:52:38 → 00:52:40 พฤติกรรมพื้นฐานเด้วยนะเพราะว่าในคุณผู้
00:52:40 → 00:52:43 ชายเองเนี่ยมันก็จะมีลักษณะของโดยคองมนุ
00:52:43 → 00:52:45 เพศชายมันทำให้หงุดหงิดโมโหร้ายฉุนเฉียว
00:52:45 → 00:52:47 สังเกตนะฮะว่าถ้าอยู่ด้วยกันเป็นคู่เนี่ย
00:52:47 → 00:52:50 คุณผู้ชายจะอารมณ์แบบรุนแรงกว่าผู้หญิงจะ
00:52:50 → 00:52:53 เป็นคนอ่อนโยนกว่านะครับนี้มันเป็นเป็น
00:52:53 → 00:52:55 เหมือนกับวิวัฒนาการธรรมชาติของมนุษย์ว่า
00:52:55 → 00:52:57 ผู้ชายต้องแต่ก่อนต้องออกไปล่าสัตว์ต้อง
00:52:57 → 00:52:59 ไปเสี่ยงชีวิตไปหาอาหารมาเลี้ยงผู้หญิง
00:52:59 → 00:53:01 อะไรเงี้ยมันจึงมีลักษณะพฤติกรรมที่เป็น
00:53:01 → 00:53:04 แบบนั้นผู้หญิงอยู่กับเย้าเฝ้ากับเรือนดู
00:53:04 → 00:53:06 แลบ้านดูแลลูกมันก็จะเป็นอีกร่างตัดสิน
00:53:06 → 00:53:09 จิตใจเลยเพราะฉะนั้นผู้ชายไปใช้ผู้หญิง
00:53:09 → 00:53:11 ร่างกายอาจจะเปลี่ยนให้ผู้หญิงแต่จิตใจ
00:53:11 → 00:53:13 มันยังมีความแบบเนี่ยครับพันธุกรรมผู้ชาย
00:53:13 → 00:53:16 มันยังอยู่เนี่ยก็อาจจะมีการโมโหฉุนเฉียว
00:53:16 → 00:53:18 อารมณ์แปดปวนได้เหมือนกันจากพื้นผ่านตัว
00:53:18 → 00:53:20 เองโดยที่ไม่ได้เก็บไว้ฮอร์โมนที่ิทาน
00:53:20 → 00:53:23 ครับค่ะโอ้โหครบถ้วนมากเลยวันนี้คุณหมอ
00:53:23 → 00:53:27 อธิบายได้ละเอียดเกียดมากๆนะเอาจริงๆเห็น
00:53:27 → 00:53:29 ภาพตามไปด้วยเลยค่ะพี่โอ๊คไม่ปรับใช้น้อง
00:53:29 → 00:53:34 ปาไม่ปรับใช้เฮ้ยเฮ้ยบอกใครอ่ะเออโอเควัน
00:53:34 → 00:53:37 นี้ต้องขอบคุณคุณหมอมากๆนะคะที่ให้
00:53:37 → 00:53:39 เกียรติมาให้ความรู้แล้วก็แนวทางในการ
00:53:39 → 00:53:42 รักษาต่างๆเกี่ยวกับโรคของPMDดdีฮอร์โมน
00:53:42 → 00:53:46 สวิงในเพศหญิงนะคะขอบคุณคุณหมอพูนศักดิ์
00:53:46 → 00:53:50 มากๆเลยนะคะขอบคุณค่ะหมอต้นขอบคุณครับหมอ
00:53:50 → 00:53:53 ต้นค่ะนายครับสวัสดีครับนายแพทย์
00:53:53 → 00:53:58 พูนศักดิ์สุชนวนิชนะคะสุตินรีแพทย์