00:00:06 → 00:00:10 ประชากรที่เกิดก่อนปี 2535 นะให้มาตรวจ
00:00:10 → 00:00:13 คัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบีเพื่อจะได้
00:00:13 → 00:00:16 ทราบว่าตัวเองเนี่ยเคยติดเชื้อหรือเปล่า
00:00:16 → 00:00:20 ติดเชื้อก็มีภูมิไหมหรือยังมีตัวเชื้อ
00:00:20 → 00:00:23 ไวรัสตับอักเสบบีอยู่ในตัวแล้วก็สามารถจะ
00:00:23 → 00:00:26 ถ่ายทอดเชื้อไปสู่ผู้อื่นได้เขาจะติดต่อ
00:00:26 → 00:00:29 ทางสังคมคัดหลั่งอื่นๆเช่นน้ำเหลืองน้ำ
00:00:29 → 00:00:32 เชื้อเลือดที่ผ่านเข้าสู่ร่างกายทางบาด
00:00:32 → 00:00:37 แผลจากกรรมพันธุ์อย่างแม่สู่ลูกซึ่งวิธี
00:00:37 → 00:00:38 ติดต่อเนี่ยจะคล้ายกับโรคเอดส์มากเลย
00:00:38 → 00:00:40 [เพลง]
00:00:40 → 00:00:44 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:44 → 00:00:50 การโรงหมอดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:50 → 00:00:53 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:00:53 → 00:00:56 การโรงหมอทางไทยพีบีเอสผ่อนค้าสลากวันนี้
00:00:56 → 00:00:59 พบกันเช่นเคยค่ะคุยกันเรื่องของไวรัสตับ
00:00:59 → 00:01:03 อักเสบบีกับเรื่องที่เรามักจะเข้าใจผิดนะ
00:01:03 → 00:01:05 คะเดี๋ยวคุยกับแพทย์หญิงกิตติยาศรีเลิศ
00:01:05 → 00:01:07 ฟ้าแพทย์อายุรกรรมฝ่ายการแพทย์ AIA ค่ะ
00:01:07 → 00:01:11 สวัสดีค่ะคุณหมอสวัสดีค่ะไวรัสตับอักเสบ
00:01:11 → 00:01:14 บีเอ๊ะมันมีแค่ B หรือมันมีอย่างอื่นด้วย
00:01:14 → 00:01:16 หรืออะไรเอาเป็นว่าคุณหมอช่วยให้เราได้
00:01:16 → 00:01:19 รู้จักกับไวรัสตับอักเสบก่อนแล้วกันว่า
00:01:19 → 00:01:23 มันคืออะไรมันเป็นยังไงแล้วมันอันตราย
00:01:23 → 00:01:27 หรือเปล่ามันก็มีอยู่หลายชนิดมาก A B C
00:01:27 → 00:01:30 D E แต่ว่าวันนี้เราจะมาเพ่งเล็งแต่
00:01:30 → 00:01:34 เฉพาะตับอักเสบมีนะครับเพราะว่าเดี๋ยวแค่
00:01:34 → 00:01:36 ตับอักเสบบีอย่างเดียวเนี่ยก็เวลาจะไม่พอ
00:01:36 → 00:01:41 เพราะฉะนั้นเราก็พูดถึงสถานการณ์ของไวรัส
00:01:41 → 00:01:44 ตับอักเสบบีในปัจจุบันนะซึ่งปัจจุบัน
00:01:44 → 00:01:48 เนี้ยคนไทยเนี่ยเพราะว่ามีการติดเชื้อ
00:01:48 → 00:01:51 ไวรัสตับอักเสบบีเนี่ยประมาณประมาณ 2.2-3
00:01:51 → 00:01:55 ล้านคนปัจจุบันนะความชุกเนี่ยตามความชุก
00:01:55 → 00:01:59 อยู่ที่ประมาณร้อยละ 4-5 ของประชากรที่
00:01:59 → 00:02:00 เกิดก่อนปี
00:02:00 → 00:02:06 2535 ท่านผู้ฟังเกิดปีอะไรเอ่ยก่อน
00:02:06 → 00:02:09 2535 เนื่องจากอะไรเนื่องจากว่าประชากร
00:02:09 → 00:02:11 ที่เกิดหลังปี
00:02:11 → 00:02:16 2535 เนี่ยได้มีการบรรจุวัคซีนป้องกัน
00:02:16 → 00:02:19 ไวรัสตับอักเสบบีเนี่ยในแผนการสร้างเสริม
00:02:19 → 00:02:23 ภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนของประเทศเด็ก
00:02:23 → 00:02:26 ทุกคนที่เกิดมาจะได้รับการฉีดวัคซีนไวรัส
00:02:26 → 00:02:29 ตับอักเสบบีจ้าเพราะฉะนั้นเขาก็จะมีภูมิ
00:02:29 → 00:02:32 คุ้มกันเพราะฉะนั้นอัตราความชุกของคนที่
00:02:32 → 00:02:37 เกิดหลังปี 2535 เนี่ยความทุกข์ลดลงเหลือ
00:02:37 → 00:02:40 ร้อยละ 0.6 ลงไปเยอะมากเหมือนกันเยอะมาก
00:02:40 → 00:02:43 อ้าวทีนี้กลายเป็นปัญหาของคนอายุ 30 ปี
00:02:43 → 00:02:46 ขึ้นไปถูกต้อง
00:02:46 → 00:02:50 คนนี้อายุ 30 ปีขึ้นไปช่วงนั้นเอออาจจะ
00:02:50 → 00:02:53 ไม่ได้รับวัคซีนไวรัสตับอักเสบจริงๆนะ
00:02:53 → 00:02:56 น้องลีสมัยก่อนนู้นเลยนะก่อนสัก 40 ปี
00:02:56 → 00:02:59 อะไรประมาณนั้นไอ้ไวรัสตับอักเสบเนี่ยพบ
00:03:00 → 00:03:03 ถึงร้อยละ 10 ของประชากรนะโอ้โหแล้วเนี่ย
00:03:03 → 00:03:06 มันลดลงมาเหลือร้อยละ 4-5 เนี่ยใน
00:03:06 → 00:03:12 ปัจจุบันเนี่ยนะคะของคนที่เกิดก่อนปี 2535
00:03:12 → 00:03:15 เพราะฉะนั้นอะไรก็ลองสาธารณสุขเข้ามา
00:03:15 → 00:03:19 รณรงค์เขาบอกว่าประชากรที่เกิดก่อนปี 2535
00:03:19 → 00:03:23 นะให้มาตรวจคัดกรองโรคไวรัสตับอักเสบบี
00:03:23 → 00:03:25 เพื่อจะได้ทราบว่าตัวเองเนี่ย
00:03:25 → 00:03:29 เคยติดเชื้อหรือเปล่าติดเชื้อก็มีภูมิไหม
00:03:29 → 00:03:34 ค่ะมีภูมิหรือยังมีตัวเชื้อไวรัสตับ
00:03:34 → 00:03:37 อักเสบบีอยู่ในตัวแล้วก็สามารถจะถ่ายทอด
00:03:37 → 00:03:39 เชื้อไปสู่ผู้อื่นได้
00:03:39 → 00:03:43 แล้วคนที่มีเชื้อเนี่ยก็อาจจะเป็นตับ
00:03:43 → 00:03:46 อักเสบเรื้อรังตับแข็งแล้วก็มะเร็งตับมี
00:03:46 → 00:03:50 ไวรัสตับอักเสบบีตัวเดียวก่อนคือที่เคย
00:03:50 → 00:03:53 ได้ก่อนมันไม่อยู่ช่วงหนึ่งไม่แน่ใจว่า
00:03:53 → 00:03:57 กี่ปีที่ผ่านมาค่ะคุณหมอคุณผู้ฟังว่าจะมี
00:03:57 → 00:03:59 การรณรงค์ว่าเอ้ยอย่าลืมน้ำแก้วเดียวกัน
00:03:59 → 00:04:02 นะเดี๋ยวมันติดเวลาตับอักเสบบีอ่ะอะไร
00:04:02 → 00:04:05 อย่างเงี้ยสักอย่างนึงอ่ะมันมาหลายปีแล้ว
00:04:05 → 00:04:08 นะก่อนหน้านี้แล้วก็หายๆไปอาจจะเป็นเพราะ
00:04:08 → 00:04:10 ว่าหลัง
00:04:10 → 00:04:15 2535 มามันมีการแบบบรรจุเป็นวัคซีนที่
00:04:15 → 00:04:19 ต้องได้รับใช่ไหมคะก็เลยน้อยลงก็เป็นความ
00:04:19 → 00:04:21 เข้าใจผิดอีก
00:04:21 → 00:04:25 คืองี้ดีมันไม่ได้ติดทั้งน้ำลายแต่ a อาจ
00:04:25 → 00:04:28 จะใช่ a นะไวรัสตับอักเสบ a ซึ่งวันนี้
00:04:28 → 00:04:31 เราไม่คุยกันเรื่อง a แต่ B เนี่ย
00:04:31 → 00:04:35 มีคนเข้าใจผิดว่าไวรัสตับอักเสบบีเนี่ย
00:04:35 → 00:04:38 ติดต่อกันง่ายที่น้องลีพูดมาตะกี้อ่ะมัน
00:04:38 → 00:04:42 ไม่ใช่ก็บอกว่ามันไม่ดีเนี่ยมันไม่ใช่โรค
00:04:42 → 00:04:44 ที่ติดต่อกันทางน้ำลายนะเพราะฉะนั้นการ
00:04:44 → 00:04:48 รับประทานอาหารร่วมกันดื่มน้ำร่วมกันทำ
00:04:48 → 00:04:52 งานในที่ทำงานเดียวกันนะไม่สามารถติดต่อ
00:04:52 → 00:04:55 ได้แล้วก็ไม่ติดต่อผ่านทางลมหายใจนะจ๊ะ
00:04:55 → 00:04:59 เออค่ะค่ะแต่ไวรัสสมัครเซฟ B เนี่ยเขาจะ
00:04:59 → 00:05:02 ติดต่อทางสังคมคัดหลั่งอื่นๆเช่นน้ำ
00:05:02 → 00:05:06 เหลืองน้ำเชื้อเลือดอื้อที่ผ่านเข้าสู่
00:05:06 → 00:05:10 ร่างกายทางบาดแผลจากกรรมพันธุ์นะคะจากแม่
00:05:10 → 00:05:13 สู่ลูกซึ่งวิธีติดต่อเนี่ยจะคล้ายกับโรค
00:05:13 → 00:05:16 เอดส์มากเลยโอ้จริงด้วยแฮะอ่ะทีนี้จากแม่
00:05:16 → 00:05:18 สู่ลูกไงเป็นยังไงเป็นสาเหตุที่พบบ่อยเลย
00:05:18 → 00:05:21 ในประเทศไทยนะคะมีโอกาสสูงที่จะติดเชื้อ
00:05:21 → 00:05:25 ระหว่างคลอดเพราะฉะนั้นเวลาคุณแม่ที่มา
00:05:25 → 00:05:27 ฝากครรภ์เนี่ยก็จะมีการตรวจเชื้อไวรัส
00:05:27 → 00:05:31 ส่วนนี้ว่าคุณแม่มีเชื้อไม้ถ้าพบว่ามารดา
00:05:31 → 00:05:33 มีเชื้อนี้อยู่เนี่ย
00:05:33 → 00:05:36 ทารกตั้งแต่เกิดเลยเนี่ยต้องรีบให้วัคซีน
00:05:36 → 00:05:40 แล้วก็ศาลภูมิต้านทานหรือว่าฮีโมโนก็เล่น
00:05:40 → 00:05:44 เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคนี้ได้พอสมควร
00:05:44 → 00:05:47 เลยคือคลอดมาแล้วถึงให้ใช่ค่ะฉีดตั้งแต่
00:05:47 → 00:05:51 ยังแบบเพิ่งออกมาเลยนะคะใช่ๆอันนี้ซึ่ง
00:05:51 → 00:05:53 เราเรารู้ก่อนแล้วไงตอนคุณแม่ฝากท้อง
00:05:54 → 00:05:57 เนี่ยอ๋อก็ตรวจตรวจเลือดตรวจอะไรอย่างงี้
00:05:57 → 00:05:59 คุณแม่อ่ะเนาะค่ะทีนี้จากแม่สุดลูกใช่
00:05:59 → 00:06:02 มั้ยคราวนี้ทางเลือกทางเลือดก็สมัยก่อน
00:06:02 → 00:06:05 เนี่ยพบเยอะอยากพวกบริจาคเลือดมาเงี้ย
00:06:05 → 00:06:09 แล้วเราก่อนผ่าตัดหรือหรือระหว่างผ่าตัด
00:06:09 → 00:06:11 เราได้เลือดเลือดของคนที่เป็นทหารโลก
00:06:11 → 00:06:12 เนี้ย
00:06:12 → 00:06:15 ทำให้เราติดไปด้วยอ๋อแต่ว่าปัจจุบันเนี่ย
00:06:15 → 00:06:19 พบการติดต่อทางเลื่อนน้อยลงเพราะว่าเอ่อ
00:06:19 → 00:06:21 ผู้บริจาคเลือดเนี่ยทางสภากาชาดเนี่ยเขา
00:06:21 → 00:06:24 ก็เอาเลือดเนี่ยมาตรวจหาเชื้อไวรัสต่างๆ
00:06:24 → 00:06:28 ค่ะเอ่อไวรัสตับอักเสบบีโรคเอดส์อะไรพวก
00:06:28 → 00:06:31 นี้ก็ตรวจกันมานานแล้วแหละค่ะอันนั้นติด
00:06:31 → 00:06:34 ติดทางเนี้ยน้อยลงอืมสบายใจได้ก็บริจาค
00:06:34 → 00:06:37 เลือดได้นะอะไรอย่างเงี้ยคราวนี้ทาง
00:06:37 → 00:06:40 เพศสัมพันธ์ผู้ที่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่
00:06:40 → 00:06:44 มีเป็นโรคนี้เนี่ยนะโดยไม่ใช้ถุงยาง
00:06:44 → 00:06:46 อนามัยเนี่ยมีโอกาสที่จะติดโรคสูงได้ถึง
00:06:46 → 00:06:49 ร้อยละ 30-50 เขาบอกว่ามากกว่าโรคเอดส์
00:06:49 → 00:06:53 ด้วยซ้ำจ้ะเอาจริงๆถุงยางอนามัยนี้มี
00:06:53 → 00:06:56 ประโยชน์นะกันโรคได้หลายโรคเลยนะคะคนที่
00:06:56 → 00:06:59 แต่งงานคู่แต่งงานใหม่เนี่ยก่อนจะแต่งงาน
00:06:59 → 00:07:02 เขาก็มีการตรวจตรวจเลือดหา
00:07:02 → 00:07:05 ไวรัสหลายอย่างทีเดียวรวมทั้งไวรัสตับ
00:07:05 → 00:07:07 อักเสบบีด้วยค่ะ
00:07:07 → 00:07:11 ยังไม่มีภูมิต้านทานก็ต้องฉีดวัคซีน
00:07:11 → 00:07:13 เดี๋ยวเราพูดต่อไป
00:07:13 → 00:07:17 ทางเลือกทางเพศสัมพันธ์การใช้อุปกรณ์หรือ
00:07:17 → 00:07:21 การใช้ของมีคมที่มีการปนเปื้อนเลือดของ
00:07:21 → 00:07:25 ผู้ที่มีเชื้อเช่นการใช้เข็มฉีดยาร่วมกัน
00:07:25 → 00:07:29 ผู้เสร็จยาเสพติด
00:07:29 → 00:07:33 ใช้เข็มฉีดยาร่วมกันอ๋อซึ่งสมัยนี้การฉีด
00:07:33 → 00:07:35 วัคซีนอะไรพวกนี้เราเปลี่ยนเข็มทุกคนถูก
00:07:35 → 00:07:39 มั้ยมาไม่ติดอ่ะการใช้เข็มสักตามตัว
00:07:39 → 00:07:41 นี้ร้านสัก
00:07:41 → 00:07:44 หรือสีที่ใช้สักตามตัวร่วมกันอันนี้ต้อง
00:07:44 → 00:07:49 ระวังก็ยังมีคนสักอยู่เยอะต้องระวังการ
00:07:49 → 00:07:52 เจาะหูเครื่องมือเจาะหูใช้คนเมื่อกี้มา
00:07:52 → 00:07:56 ใช้กับเราไม่สะอาดพออ้ายังติดได้อยู่อุ๊ย
00:07:56 → 00:08:00 การใช้แปรงสีฟันมีดโกนที่ตัดเล็บรวมกัน
00:08:00 → 00:08:01 ค่ะ
00:08:01 → 00:08:06 การถูกเข็มที่ติดเชื้อตามจากการทำงานใน
00:08:06 → 00:08:08 โรงพยาบาล
00:08:08 → 00:08:11 การสัมผัสกับเลือดน้ำเหลือง
00:08:11 → 00:08:15 สารคัดหลั่งโดยผ่านเข้าทางบัตรแผลอย่าง
00:08:15 → 00:08:18 เช่นพยาบาลคุณหมอที่อยู่โรงพยาบาล
00:08:18 → 00:08:23 ฉีดยาคนไข้และเข็มตามเขานะหรือว่าสัมผัส
00:08:23 → 00:08:27 กับเลือดน้ำเหลืองหรือสารคัดหลั่งของคน
00:08:27 → 00:08:31 ไข้แล้วเรามีแผลอยู่เรามีโอกาสติด
00:08:31 → 00:08:34 ในโรงพยาบาลในโรงพยาบาลเขาก็จะมีมาตรการ
00:08:34 → 00:08:38 ว่าถ้าโดนเข็มตำต้องทำยังไง 1 2 3 4 5
00:08:38 → 00:08:43 แล้วก็แบบอย่างพนักงานที่คอยเก็บขยะอัน
00:08:43 → 00:08:45 นั้นของพวกนี้ก็ต้องระวังเนาะใช่ค่ะอืม
00:08:45 → 00:08:49 ใช่ก็ถึงเดี๋ยวนี้เขาถึงมีเพราะฉะนั้นมี
00:08:49 → 00:08:52 มีมานานแล้วแหละเพราะฉะนั้นสำหรับใส่เข็ม
00:08:52 → 00:08:56 ที่ใช้แล้วโดยเฉพาะอ่าเพราะว่าจะได้ทิ้ง
00:08:56 → 00:08:59 ทั้งกล่องค่ะคนเก็บขยะหรืออะไรเขาจะได้
00:08:59 → 00:09:02 ไม่เสี่ยง
00:09:02 → 00:09:05 สำรองสำลีอะไรพวกเนี้ยผ้าแบบเช็ดเลือด
00:09:05 → 00:09:09 หรืออะไรพวกนี้เนาะค่ะโอ้โหอันนี้คืออะไร
00:09:09 → 00:09:14 อ่ะการติดต่อของไวรัสบีนะไม่ติดต่อง่าย
00:09:14 → 00:09:15 ค่ะ
00:09:15 → 00:09:18 แต่ว่ามันคล้ายกับโรคเอดส์จริงๆด้วยเพราะ
00:09:18 → 00:09:20 ว่ามันมีข่าวสารคัดหลั่งกับเลือด
00:09:20 → 00:09:25 แต่ว่าก็คือด้วยความที่แบบมันเป็นไวรัส
00:09:25 → 00:09:27 ตับอักเสบที่เขาเรียกว่าอะไรนะมันมีชื่อ
00:09:27 → 00:09:30 เสียงมากในทางที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นะคะ
00:09:30 → 00:09:35 อักเสบบีตัวบีนะคะมันมี abcde ใช่ไหมเยอะ
00:09:35 → 00:09:37 เชียวอยากรู้ใช่ไหมอยากรู้ก็ต้องมีตอนต่อ
00:09:37 → 00:09:39 ไปนะ
00:09:39 → 00:09:42 แต่ว่าบีที่ว่าคุยกันวันนี้มันเป็นตัวที่
00:09:42 → 00:09:45 แบบตัวหลักมากเลยที่ต้องระวังด้วยใช่ไหม
00:09:45 → 00:09:51 คะแบบเนี้ยคือเราก็ต้องตรวจคัดกรองถ้าถ้า
00:09:51 → 00:09:52 รู้ว่าเป็นน่ะ
00:09:52 → 00:09:56 แล้วยังไงอ่ะคือมันก็มีคนเข้าใจผิดว่า
00:09:56 → 00:10:02 ไม่หายขาดแล้วก็เหลือรังใช่ไหมตลอดชีวิต
00:10:02 → 00:10:05 อย่างเงี้ยอ่าไม่ใช่จะบอกว่า
00:10:05 → 00:10:14 90% แน่ะถ้าติดเชื้อนะอย่างน้องนี่นะ
00:10:14 → 00:10:19 ติดเชื้อจากอักเสบบีนะฮะ 90% เขาก็จะมี
00:10:19 → 00:10:24 ไข่อีกตัวนึงไปอ่าจะดีขึ้นใน 1-4 สัปดาห์
00:10:24 → 00:10:27 อ่ะเดือนนึงเขาดีจ้าตับอักเสบไงตาเหลือง
00:10:27 → 00:10:31 ตัวเหลืองไงทำไมอ่ะงงทำไมก็คืออาการตับ
00:10:31 → 00:10:35 อักเสบไงแล้วส่วนใหญ่ 90% ของลีฟังดีๆ 90%
00:10:36 → 00:10:40 หายขาดภายใน 6 เดือน
00:10:41 → 00:10:44 มา
00:10:44 → 00:10:48 ปุ๊บร่างกายมันมันกำจัดไวรัสได้ร่างกายจะ
00:10:48 → 00:10:50 สร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาจนไม่กลับไปเป็น
00:10:50 → 00:10:52 อีก
00:10:52 → 00:10:55 หน้าที่ของตับถ้าเจาะดูการทำงานของตับก็
00:10:55 → 00:10:58 จะปกติแล้วก็จะมีภูมิคุ้มกันจ้ะ
00:10:58 → 00:11:01 มีภูมิคุ้มกันแต่ถ้าจะมาเป็นไข้ตัวเหลือง
00:11:01 → 00:11:04 ตาเหลืองกันเป็นแบบระยะเวลาครึ่งปีขนาด
00:11:04 → 00:11:07 นี้ไม่ๆๆอันนั้นเป็นแค่ประมาณอาทิตย์ 2
00:11:07 → 00:11:10 อาทิตย์แล้วเค้าจะดีขึ้นค่อยๆดีขึ้นเพราะ
00:11:10 → 00:11:13 ว่าจะหายภายใน 6 เดือนเนี่ยมันก็จะแบบ
00:11:13 → 00:11:17 ค่อยๆสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาแบบนี้อ๋อคิด
00:11:17 → 00:11:21 ว่าแบบโหตัวเหลืองมากก็จะแค่ไม่ถึงเดือน
00:11:21 → 00:11:24 เนี่ยเขาจะหายแล้วแล้ว 6 เดือนเนี่ยปุ๊บ
00:11:24 → 00:11:28 เขาจะสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้เอ้าอ่า
00:11:28 → 00:11:35 ไม่มีสิ 90% ไม่มีจ้ะแต่ที่ 5 5-10% ไม่
00:11:35 → 00:11:38 หายขาดที่เหลือนี่แหละเออไม่ให้ขาดคือ
00:11:38 → 00:11:42 อะไรยังเจอเชื้ออยู่ยังเจอเชื้อแต่ว่าไม่
00:11:42 → 00:11:46 จะเอ่อไม่มีอาการแต่สามารถแพร่เชื้อไปสู่
00:11:46 → 00:11:50 ผู้อื่นได้หน้าที่ของตับก็ถ้าจอดนะถ้า
00:11:50 → 00:11:54 สิ่งของกลับก็ปกติแต่ไม่เชื้อเข้าใจไหม
00:11:54 → 00:11:57 เขาเรียกว่าเป็นแคริเออร์หรือเป็นพาหะมัน
00:11:57 → 00:12:00 ไม่ได้แสดงอาการไม่แสดงอาการแต่ฉันยังมี
00:12:00 → 00:12:03 เชื้อเข้าใจไหมน้องลีนถึง 10% ที่บอกว่า
00:12:03 → 00:12:05 ไม่หายขาดมันมีอยู่เปอร์เซ็นต์ตรงนี้อยู่
00:12:05 → 00:12:09 มีที่มีเชื้ออยู่ในตัวซึ่งไม่รู้แหละว่า
00:12:09 → 00:12:12 วัยใช่เพราะว่าทายไม่ได้ว่าจะเป็นใคร
00:12:12 → 00:12:16 เพราะว่าภูมิต้านทานมันสร้างไม่ได้ก็จะมี
00:12:16 → 00:12:21 ตัวไวรัสเนี่ยอยู่ในตัวอีกส่วนหนึ่งมี
00:12:21 → 00:12:22 เชื้อแล้วใช่ไหม
00:12:22 → 00:12:27 ตับอักเสบเรื้อรังสิจ๊ะเจาะเลือดยังไงนะ 6
00:12:27 → 00:12:31 เดือนแล้วก็ยังพบเชื้ออยู่แล้วก็หน้าที่
00:12:31 → 00:12:35 ของตับจะมีพวกเอนไซม์ขึ้นเป็นระยะๆหรือ
00:12:35 → 00:12:36 ตลอด
00:12:36 → 00:12:40 เอนไซม์จะขึ้นมากขึ้นน้อยก็แล้วแต่คน
00:12:40 → 00:12:43 ซึ่งถ้าไม่รักษาก็คือจะทำให้เกิดผังผืด
00:12:43 → 00:12:47 ที่ตับตับแข็งและเป็นมะเร็งตับได้
00:12:47 → 00:12:52 จ้าจากไวรัสตับอักเสบบีที่มีเชื้ออยู่ใน
00:12:52 → 00:12:55 ตัวแล้วก็มันแค่ไม่แสดงอาการแต่มันอยู่
00:12:55 → 00:12:59 กับเราไปตลอด 6 เดือนเราก็ยังมีเชื้ออยู่
00:12:59 → 00:13:02 มีกลุ่มนึงแสดงอาการเป็นตับอักเสบ
00:13:02 → 00:13:07 เรื้อรังมีอีกกลุ่มนึงค่ะแต่ 90% น่ะหาย
00:13:07 → 00:13:08 ขาด
00:13:08 → 00:13:13 ทำไมต้องมีอีก 5-10% ที่เหลือด้วยเนาะ
00:13:13 → 00:13:17 เอายังไงล่ะขอร้อยเลยไม่ได้แล้ว
00:13:17 → 00:13:20 นิดนึง
00:13:20 → 00:13:23 อย่างนี้คือแบบยังไงอ่ะถ้าเกิดมันแบบเรา
00:13:23 → 00:13:28 เป็นพาหะเออเราก็แค่พาหะเราไม่ได้เป็นที่
00:13:28 → 00:13:31 แบบอาการออกคือเราก็ไม่รู้แล้วแหละหรือ
00:13:31 → 00:13:34 อะไรเงี้ยเพราะฉะนั้นบางคนก็จะละเลยไงคือ
00:13:34 → 00:13:38 คือสมมุติก็มีหลายส่วนเขาก็ไม่ได้ไปหาหมอ
00:13:38 → 00:13:41 อีกใช่ไหมคือเขาเป็นตับอักเสบแล้วเขาก็
00:13:41 → 00:13:43 เขาก็ไม่การลืมตาเหลืองแล้วไงเขาก็สบายดี
00:13:43 → 00:13:49 จบจบไงจบใช่บางคนบางคนเขารักษาสุขภาพเวลา
00:13:49 → 00:13:52 เช็คร่างกายประจำปีเขาไปเจาะดูอ้าวตาย
00:13:52 → 00:13:56 ทำไมยังมีเชื้อไวรัสตับอักเสบบีอยู่นะ
00:13:56 → 00:14:01 แต่ว่าตับดีนี่ไม่อักเสบหน้าที่จับดีเขา
00:14:01 → 00:14:04 เรียกว่าเป็นพาหะแต่ว่าพวกนี้ก็ยังต้อง
00:14:04 → 00:14:08 ติดตามอย่างสม่ำเสมอทุกปีก็ว่าไปเวลาตรวจ
00:14:08 → 00:14:11 สุขภาพก็ต้องตรวจเรื่องตับด้วยปีนี้อาจจะ
00:14:11 → 00:14:15 ยังดีอยู่ปีหน้ารู้อะไรแหละแต่หน้าที่ 2
00:14:15 → 00:14:18 จับมันขึ้นมาเอนไซม์มันขึ้นมาตับเริ่มมี
00:14:18 → 00:14:22 การอักเสบมีการเสียหายเนี่ยค่ะก็ต้องให้
00:14:22 → 00:14:26 หมอพิจารณาโอ้โหทุกปีเลยเนาะใช่
00:14:26 → 00:14:30 ก็มีเชื้ออยู่แล้วไงอ่ะก็ต้องติดตามหน่อย
00:14:30 → 00:14:33 ไหมอ่ะก็อยู่เฉยๆของเชื้อไปได้ไหมอ่ะคือ
00:14:33 → 00:14:35 แบบว่าไม่ได้ก็ไม่ต้องมาทำอะไรฉันเธอก็
00:14:35 → 00:14:39 อยากรู้ก็คิดอย่างนี้ไง
00:14:39 → 00:14:43 คนที่มีเชื้อเฉยๆก็มีไปก็มีแต่มันมีส่วน
00:14:43 → 00:14:47 นึงไงน้องลีบอกแล้วตับมันค่อยๆอักเสบแล้ว
00:14:47 → 00:14:52 ก็เป็นตับแข็งมะเร็งต่อโอ้ยก็เลยต้องติด
00:14:52 → 00:14:55 ตามไม่คุ้มมากเพราะฉะนั้นนั่นแหละทุกปี
00:14:55 → 00:14:57 แหละถูกต้องแล้วค่ะ
00:14:57 → 00:15:02 ก็ไม่ธรรมดานะถึงแม้ว่าจะเป็นแค่พาหะก็
00:15:02 → 00:15:03 ไม่ธรรมดานะ
00:15:03 → 00:15:06 เธอก็มีฤทธิ์เดชอยู่เหมือนกันนะเนี่ยอืม
00:15:06 → 00:15:09 ค่ะมันไม่มียารักษาหรอกค่ะคุณหมอขนาดนั้น
00:15:09 → 00:15:11 เลยหรอมันมีมานานแล้วไม่ใช่หรอคะมันน่าจะ
00:15:11 → 00:15:14 มียาอะไรมาแบบสมัยก่อนเนี่ยสมัยก่อนเลยนะ
00:15:14 → 00:15:18 เขาบอกว่าไม่มียารักษาไอ้ตัวเนี้ยแต่ว่า
00:15:18 → 00:15:23 ปัจจุบันเนี่ยมันจะมีทั้งยากินยาฉีดนะค่ะ
00:15:23 → 00:15:26 แล้วก็แพทย์จะเลือกรักษาตามความเหมาะสม
00:15:26 → 00:15:29 ของผู้ป่วยแต่ละรายซึ่งอาจจะต้องทานยาติด
00:15:29 → 00:15:32 ต่อกันเป็นเวลานานหรือว่าอาจจะทานตลอด
00:15:32 → 00:15:36 ชีวิตยาพวกนี้ก็จะสามารถที่จะยับยั้งการ
00:15:36 → 00:15:39 แบ่งตัวของไวรัสควบคุมไวรัสไม่ให้เพิ่ม
00:15:39 → 00:15:44 ปริมาณมากขึ้นนะทำให้อาการสงบไม่ลุกลามลด
00:15:44 → 00:15:47 อาการอักเสบของตับนะชะลอหรือยับยั้งการ
00:15:47 → 00:15:51 ดำเนินไปสู่ภาวะตับแข็งหรือมะเร็งตับได้
00:15:51 → 00:15:55 อันนี้ก็คือตอบว่าความเข้าใจผิดที่ว่าไม่
00:15:55 → 00:16:00 มียาก็คือปัจจุบันมียาจ้าท่านที่หาได้
00:16:00 → 00:16:04 แล้วแต่ว่าคุณหมอจะให้แต่ละคนแบบไหน
00:16:04 → 00:16:08 แล้วเขาแสดงว่าคือถ้ามีอาการพวกนี้แหละ
00:16:08 → 00:16:11 ต้องใกล้ชิดคุณหมออยู่แล้วแหละใช่ไหมคะ
00:16:11 → 00:16:14 ว่าจะแบบมีการรักษาเอ๊ยแล้วอย่างเป็น
00:16:14 → 00:16:19 พาหนะเขาเรียกว่าเรื้อรังไหมคะพาหะ
00:16:19 → 00:16:28 [เพลง]
00:16:28 → 00:16:31 ก็ไม่ต้องกินยา
00:16:31 → 00:16:34 แต่ถ้าอยู่ในอีกภาวะหนึ่งที่ค่าเอนไซม์
00:16:34 → 00:16:38 ของตับมันขึ้นขึ้นอันนี้ต้องให้คุณหมอ
00:16:38 → 00:16:39 พิจารณา
00:16:39 → 00:16:42 ซึ่งการรักษาเดี๋ยวนี้ไวรัสตับอักเสบบี
00:16:42 → 00:16:46 เรื้อรังมีอยู่ 2 แบบก็คือ
00:16:46 → 00:16:50 แล้วแต่คุณหมอนะซึ่งจะพิจารณาลักษณะของคน
00:16:50 → 00:16:56 ไข้ระยะของโรคนะปัจจัยของตัวไวรัสบีซึ่ง
00:16:56 → 00:16:59 ยารับประทานเดี๋ยวนี้โอ้โหมีทั้ง 5 ชนิด
00:16:59 → 00:17:01 เนี่ยน้องรีมีทั้ง 5 อย่างเนี่ย
00:17:01 → 00:17:05 ยากินต้านไวรัสก็จะไปยับยั้งการแบ่งตัว
00:17:05 → 00:17:10 ของไวรัสได้ลดการอักเสบของตับหรือว่าชะลอ
00:17:10 → 00:17:13 หรือลดโอกาสการเกิดตับแข็งแล้วก็มะเร็ง
00:17:13 → 00:17:16 แล้วก็ยากลุ่มนี้ทานวันละครั้งเดียวผล
00:17:16 → 00:17:20 ข้างเคียงน้อยหรือมีอีกกลุ่มนึงซึ่งเป็น
00:17:20 → 00:17:24 ยาฉีดค่ะยาฉีดกลุ่มนี้เขาออกฤทธิ์ยังไง
00:17:24 → 00:17:28 เขากระตุ้นภูมิต้านทานของผู้ป่วยนะจะเป็น
00:17:28 → 00:17:32 พวกยาฉีดอ่าเทคไอเรสเตทอินเตอร์
00:17:32 → 00:17:35 interference นะฮะก็จะไปกระตุ้นภูมิต้าน
00:17:35 → 00:17:38 ทานของผู้ป่วยให้ต่อสู้กับไวรัสกระตุ้น
00:17:38 → 00:17:41 ภูมิต้านทานของคนนั้นเอง
00:17:41 → 00:17:45 ก็จะมีการควบคุมปริมาณไวรัสมีฤทธิ์ยับ
00:17:45 → 00:17:48 ยั้งการแบ่งตัวได้บ้างนะคะแต่ว่ายาฉีด
00:17:48 → 00:17:51 เนี่ยต้องใช้เวลารักษานานถึง 48 สัปดาห์
00:17:51 → 00:17:56 นะแล้วก็สามารถผลตอบสนองระยะยาว 6 เดือน
00:17:56 → 00:17:59 ได้ร้อยละ 33 ถึง 40
00:17:59 → 00:18:02 หลังหยุดยาแล้วภูมิต้านทานก็ที่ที่
00:18:03 → 00:18:05 กระตุ้นที่ยามันกระตุ้น
00:18:05 → 00:18:09 ในผู้ป่วยก็จะออกฤทธิ์ต่อสู้กับไวรัสอยู่
00:18:09 → 00:18:13 แล้วก็สามารถทำให้มีการตอบสนองเพิ่มขึ้น
00:18:13 → 00:18:16 ถึงร้อยละ 14 หลังหยุดยาไปแล้ว 1 ปีเพราะ
00:18:16 → 00:18:19 ฉะนั้นผลตอบสนองจากการรักษาด้วยยาฉีด
00:18:19 → 00:18:23 เนี่ยโอกาสกลับเป็นซ้ำน้อยกว่ายากินเพราะ
00:18:23 → 00:18:26 มันกระตุ้นสร้างภูมิต้านทาน
00:18:26 → 00:18:30 ของที่เป็นธรรมชาติเลยมาสู้กันในร่างกาย
00:18:30 → 00:18:33 เราแล้วก็แบบเป็นระยะยาวไปเลยค่ะ
00:18:33 → 00:18:37 แต่ว่าก็ไม่ได้หมายความว่าใครจะเอ้ยไปฉีด
00:18:37 → 00:18:39 กระตุ้นอย่างเดียวไม่ได้บางทีบางคนอาจจะ
00:18:39 → 00:18:42 เหมาะกับเรื่องของกินยาต้องให้คุณหมอเป็น
00:18:42 → 00:18:45 คนพิจารณาค่ะอืม
00:18:45 → 00:18:49 บางทีมันจะเหมือนเอ่อโรคอื่นได้มั้ยกิน
00:18:49 → 00:18:52 มั่งไม่กินมั่งหรืออะไรอย่างเงี้ยก็มีก็
00:18:52 → 00:18:55 มีผู้ป่วยประเภทนึงเออดูแล้วไม่เห็นมี
00:18:55 → 00:18:59 อะไรก็กินแล้วเบื่อๆๆไม่อยากไปหาคุณหมอละ
00:18:59 → 00:19:02 กินบ้างอะไรงี้เค้าบอกว่าไม่ได้นะความ
00:19:02 → 00:19:05 สำคัญของการรักษาด้วยยาต้านไวรัสเนี่ย
00:19:05 → 00:19:09 ต้องทานยาสม่ำเสมอไม่ขาดยาแล้วก็เพราะว่า
00:19:09 → 00:19:11 อะไรมันต้องรักษาระยะยาว
00:19:12 → 00:19:15 หลังหยุดยามีโอกาสเป็นซ้ำได้บ่อยกว่ายา
00:19:15 → 00:19:16 ฉีดด้วยซ้ำยากินเนี่ย
00:19:16 → 00:19:20 แล้วนอกจากนั้นเนี่ยการรักษาเนี่ยเพราะ
00:19:20 → 00:19:23 อะไรก็ให้คุณหมอดูในเพราะว่ามันมีการดื้อ
00:19:23 → 00:19:27 ยาของไวรัสบางทียามันมี 5 อย่างเนี่ยยา
00:19:27 → 00:19:30 ตัวนึงถูกกับคนนี้ไม่ถูกกับคนหนี้โอกาส
00:19:30 → 00:19:34 ดื้อยาก็ไม่เหมือนกันสำหรับผู้ป่วยแต่ละ
00:19:34 → 00:19:37 รายก็ต้องให้คุณหมออาจจะต้องเปลี่ยนยา
00:19:37 → 00:19:41 หรืออะไรแบบนี้นะคะคุณหมอจะเป็นคนพิจารณา
00:19:41 → 00:19:46 แล้วก็รักษาติดตามผลเลือดเป็นระยะๆอาจจะ
00:19:46 → 00:19:51 ต้องอัดระยะยาวถึงตลอดชีวิตด้วยซ้ำไม่ควร
00:19:51 → 00:19:55 หยุดยาเองค่ะค่ะโอ้โหเพราะฉะนั้นคือถ้า
00:19:55 → 00:19:57 ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ไม่อยากให้คุณหมอปรุง
00:19:57 → 00:20:00 ยาใหม่แล้วก็เริ่มต้นใหม่อุตส่าห์มาได้
00:20:00 → 00:20:04 ระดับนึงแล้วอ่ะยาวๆไปก่อนนะให้มันดีขึ้น
00:20:04 → 00:20:07 ก่อนเออแล้วเดี๋ยวนี้เขามีการนับจำนวน
00:20:07 → 00:20:10 ไวรัสด้วยนะน้องณีนอกจากเขาเขามียารับ
00:20:10 → 00:20:12 ประทานเนี่ยเวลาคนไข้อ่ะอ้าวคุณหมอไปถึง
00:20:12 → 00:20:15 อ่านอกจากเจาะการทำงานของตับและว่า
00:20:15 → 00:20:18 เอนไซม์มันคือตับถูกทำลายไหมเอนไซม์ขึ้น
00:20:18 → 00:20:23 มานับจำนวนไวรัสได้ด้วยจริงนับจำนวนได้
00:20:23 → 00:20:26 ด้วยไวรัสเขาเรียก viral load ถ้าเยอะ
00:20:26 → 00:20:28 ถ้าเยอะมากกว่าเท่าไหร่อะไรแบบนี้ต้องให้
00:20:28 → 00:20:32 คุณหมอพิจารณาต้องต้องรับยา
00:20:32 → 00:20:35 มันมาเป็นตัวๆให้เรานับได้ขนาดนั้นได้เขา
00:20:35 → 00:20:39 เรียกวัยรุ่น
00:20:39 → 00:20:44 ออกมาถ้าการรักษาดีนะไวรัสมันจะน้อยมาก
00:20:44 → 00:20:51 เออเราก็ดีใจหน่อยใช่ไหม
00:20:51 → 00:20:54 แต่น้อยลงก็ไม่ได้หมายความว่าจะหยุดยานะ
00:20:54 → 00:20:58 คะใช่ใช่คุณต่อไปเรื่อยๆนะคะเดี๋ยวมัน
00:20:58 → 00:21:02 โผล่ขึ้นมาอีกนะเอ๊ะคุณหมอไอ้ไวรัสตับ
00:21:02 → 00:21:06 อักเสบบีเนี่ยมันมีเหมือนอื่นๆเชื้ออื่นๆ
00:21:06 → 00:21:09 มั้ยมันมีย่อยมั้ยคะบีย่อยอ่ะส่วนใหญ่เขา
00:21:09 → 00:21:12 ก็พูดกันตัวเดียวกันไวรัสตับอักเสบบีมัน
00:21:12 → 00:21:15 ไม่เหมือนโควิดนะมันแป้งไปเรื่อยเปื่อย
00:21:15 → 00:21:18 ใช่ไหมคะหลายสายพันธุ์เค้ากำลังจะดีใจไม่
00:21:18 → 00:21:23 อ่ะนี่ก็ไม่เจอก็ยังต้องระวังกันอยู่นะ
00:21:23 → 00:21:26 มันอาจจะมีอะไรอีกหรือเปล่าก็ไม่รู้อะไร
00:21:26 → 00:21:32 อย่างเงี้ยเฮ้อเบาได้เบาใช่ทีนี้คือเอา
00:21:32 → 00:21:33 จริงๆ
00:21:33 → 00:21:36 ยารักษาไวรัสตับอักเสบเนี่ยที่บอกว่าต้อง
00:21:36 → 00:21:39 กินกันตลอดอย่างนี้เราก็ไม่รู้ว่า
00:21:39 → 00:21:42 มีใช้ส่งใช้สิทธิ์หรืออะไรหรือเปล่ามัน
00:21:42 → 00:21:45 ราคาแพงยังไงไหมอะไรอย่างนี้ก็เป็นที่ดี
00:21:45 → 00:21:49 ใจว่าคนที่เป็นไวรัสตับอักเสบบีเนี่ย
00:21:49 → 00:21:52 สามารถใช้สิทธิ์ประกันสุขภาพถ้วนหน้านะ
00:21:52 → 00:21:54 สิทธิ์บัตรทองน่ะหรือสิทธิ์ประกันสังคม
00:21:54 → 00:21:58 ได้จ้าค่ะ
00:21:58 → 00:22:03 ประกันสังคมอะไรพวกนี้ใช้ได้ค่ะก็ฟรีเลย
00:22:03 → 00:22:06 ใช่ไหมคะแต่จริงๆคือคนที่เป็นเนี่ยต้องหา
00:22:06 → 00:22:10 หมอผู้เชี่ยวชาญด้านเฉพาะเรื่องตับและทาง
00:22:10 → 00:22:12 เดินอาหารนะฮะไม่ใช่ไม่ใช่หมอทั่วไปนะไม่
00:22:12 → 00:22:16 ใช่หมออายุรกรรมทั่วไปค่ะอืมเป็นแบบนั้น
00:22:16 → 00:22:19 งั้นแสดงว่าก่อนที่จะไปตรวจได้เนี่ยมันมี
00:22:19 → 00:22:22 อาการออกมาแล้วถึงดื้อๆขึ้นมาอย่างงี้ใช่
00:22:22 → 00:22:27 ไหมคะแบบบางคนบางคนก็คือตรวจเจอจากตรวจ
00:22:27 → 00:22:30 สุขภาพตรวจสุขภาพเนี่ยสมมุติบริษัทบาง
00:22:30 → 00:22:34 บริษัทตรวจสุขภาพประจำปีอายุ 1 ให้ตรวจ
00:22:34 → 00:22:38 แค่เม็ดเลือดอายุแค่นี้ขึ้นไปให้ตรวจตับ
00:22:38 → 00:22:42 ไตไส้พุงไปด้วยเฮ้ยค่าตับทำไมขึ้นคนนี้
00:22:42 → 00:22:47 ถ้าปรับขึ้นคุณเคยตรวจเชื้อไวรัสไหมถ้า
00:22:47 → 00:22:51 ยังไม่เคยคุณตรวจเชื้อไวรัส B B ก่อน
00:22:51 → 00:22:55 ถ้าคุณเป็นก็ต้องมาดูกันละว่าต้องรักษา
00:22:55 → 00:22:57 หรือไม่รักษา
00:22:57 → 00:23:02 ฟังแบบนี้แล้วก็ยังมีอีกหลายคนที่ไม่ได้
00:23:02 → 00:23:06 มีสิทธิ์ในการจะไปตรวจสุขภาพไงอ๋อก็ถึง
00:23:06 → 00:23:09 บอกไงไปรู้แหละก็การตรวจสุขภาพที่สำคัญ
00:23:09 → 00:23:13 ประกันสังคมตรวจได้ฟรีปีละ 1 ครั้งจ้าก็
00:23:13 → 00:23:16 คือเห็นโฆษณาอยู่อ๋อมีประกันใช่บัตรทองก็
00:23:16 → 00:23:20 ตรวจสุขภาพฟรีนะคะไปตรวจเถอะค่ะนะจะได้
00:23:20 → 00:23:22 รู้จะไปบอกว่าไม่ตรวจก็ไม่ได้เป็นโรคอะไร
00:23:22 → 00:23:24 ไม่ใช่
00:23:24 → 00:23:27 แล้วมันจะได้รักษาตั้งแต่ต้นๆเนิ่นๆค่ะ
00:23:27 → 00:23:30 ไม่ใช่อะไรหรอกเนาะเพราะว่าเนี่ยมันไม่มี
00:23:30 → 00:23:32 อะไรแฝงอยู่ในตัวเราอ่ะเยอะแยะมากไม่รู้
00:23:32 → 00:23:36 จะยังไงแล้วเนี่ยนะคะทีนี้อ่า
00:23:36 → 00:23:40 เราก็โตแล้วเรื่องวัคซีนใช่ไหมผ่านร้อน
00:23:40 → 00:23:43 ผ่านหนาวมาเยอะแล้วเออตรวจประจำปีค่าส่ง
00:23:43 → 00:23:46 ค่าตอบอะไรก็ไม่ได้มีอะไรไม่ตรวจได้ไหม
00:23:46 → 00:23:49 อ่ะ
00:23:49 → 00:23:52 ช่วยตรวจได้ไหมแปลว่าไม่ต้องตรวจหรือไม่
00:23:52 → 00:23:55 เค้าเรียกอะไรนะไม่แบบไม่ฉีดวัคซีนอย่าง
00:23:55 → 00:23:59 เมื่อกี้บอกว่าคนที่เกิดก่อน 2535 อย่าง
00:23:59 → 00:24:01 เงี้ยเออไปคัดกรองหรืออะไรอย่างนี้ใช่ป่ะ
00:24:01 → 00:24:02 ใช่
00:24:02 → 00:24:07 ไม่ต้องได้ไหมอ่ะอันที่ 1 มีมีเชื้อแล้ว
00:24:07 → 00:24:10 คุณไม่ต้องฉีดยามีเชื้อแล้วมีเชื้ออยู่ใน
00:24:10 → 00:24:14 ตัวคุณต้องติดตามไปอีกฝั่งนึงอุ้ยคุณยัง
00:24:14 → 00:24:18 เวอร์จิ้นไม่มีคนไม่มีอะไรเลยยังมีคน
00:24:18 → 00:24:21 ประเภทนี้อยู่เฮ้ยเดี๋ยววัคซีนทำไมใช้ยัง
00:24:21 → 00:24:24 ว่ายังมีอยู่อ้าวไม่เจอไม่มีเชื้ออะไรไม่
00:24:24 → 00:24:27 มีเชื้อไวรัสอักเสบเลยโอ้โหจ่ายแล้วโชคดี
00:24:27 → 00:24:31 มากรอดมาให้ยุสมมุติ 50 แล้วกันนะสมมุติ
00:24:31 → 00:24:35 คน 50 ไปไปเช็คนะเฮ้ยยังไม่มีเชื้อยังไม่
00:24:35 → 00:24:40 มีภูมิค่ะไปฉีดวัคซีนค่ะได้อยู่ได้ผู้
00:24:40 → 00:24:43 ใหญ่ที่ฉีดได้เลยโรงพยาบาลรัฐบาลก็ถูก
00:24:43 → 00:24:43 หน่อย
00:24:43 → 00:24:47 300-500 บาทนะลงมาเอกชนก็อุ้ยราคาขว้าง
00:24:48 → 00:24:49 มากเลยเท่าที่ไปดูนะ
00:24:49 → 00:24:52 แล้วแต่โรงพยาบาลท่านผู้ฟังก็เลือกเอา 600
00:24:52 → 00:24:57 ถึง 1,200 บาทเข็มละนะเข็มละก็ฉีด 3 เข็ม
00:24:57 → 00:25:02 ชิ้นช่วง 06 0 ก็ฉีดแล้วก็ 1 อีก 1
00:25:02 → 00:25:06 เดือนแล้วก็ 6 เดือนแล้วก็ไปเจาะดูว่า
00:25:06 → 00:25:09 หลังฉีดแล้วภูมิต้านทานมันขึ้นไหมถ้าภูมิ
00:25:09 → 00:25:11 ต้านทานไม่ขึ้นก็ให้คุณหมอพิจารณาว่าจะ
00:25:11 → 00:25:17 ต้องฉีดซ้ำไหมค่ะก็จะมีคนประเภทนี้ที่โอ้
00:25:17 → 00:25:20 ยังไม่ยังอะไรดีนักเรียนจะใช้ศัพท์ว่า
00:25:20 → 00:25:22 อะไรไม่มีเชื้อไม่มีภูมิ
00:25:22 → 00:25:25 ไม่ตรวจเลยไปฉีดเลยดีกว่าทั้งนั้นเอางี้
00:25:25 → 00:25:29 ไม่ต้องมีคนอีกประเภทหนึ่งไปตรวจสุขภาพมี
00:25:29 → 00:25:33 ภูมิเรียบร้อยแล้วโชคดีไหมล่ะฉันไม่ต้อง
00:25:33 → 00:25:35 ทำอะไรอันนี้แหละสบายจริงๆเราไม่ได้เป็น
00:25:35 → 00:25:38 ในนั้นแน่ๆเลยคือเราเคยเป็นแล้วเราสร้าง
00:25:38 → 00:25:40 ภูมิไม่ๆเรายังไม่เคยเป็นหรือยังหรือมัน
00:25:40 → 00:25:42 ไม่รู้อ่ะ
00:25:42 → 00:25:45 คือเราเคยเป็นมาแล้วเราถึงมีภูมิเข้าใจ
00:25:45 → 00:25:48 มั้ยอ่าอีกประเภทหนึ่งซึ่งโชคดีมากค่ะ
00:25:48 → 00:25:51 แล้วเค้าจะไม่เป็นอือค่ะอ่ะแต่แสดงว่า
00:25:51 → 00:25:57 เพราะฉะนั้นก็คือถ้าถ้าเป็นถ้ามีอาการแบบ
00:25:57 → 00:26:00 ที่ต้องกินยาฉีดยา
00:26:00 → 00:26:04 ก็ต้องดูแลกันตลอดเนาะค่ะจะได้ตับของเรา
00:26:04 → 00:26:06 ทำงานได้ดีขึ้นไม่เสี่ยง
00:26:06 → 00:26:12 มะเร็งตับโอ้ยค่ะ
00:26:12 → 00:26:15 หลายอย่างเนาะอะไรก็กลายเป็นมะเร็งเนาะ
00:26:15 → 00:26:18 ใช่ดูแลตัวเองดีๆเนาะ
00:26:18 → 00:26:21 มีอะไรจะสรุปไหม
00:26:21 → 00:26:25 ก็คือต้องต้องดูแลตัวเองนะเพราะว่าโรคนี้
00:26:25 → 00:26:27 ไอ้การฉีดวัคซีนนี่ถือเป็นการป้องกัน
00:26:27 → 00:26:31 มะเร็งตับค่ะที่ดีที่สุดก็ต้องเช็คตัวเอง
00:26:31 → 00:26:36 ว่ามีเชื้อมีภูมิมีอะไรหรือยังนะคะค่ะก็
00:26:36 → 00:26:39 ไปเช็คปีนี้เช็คเลย
00:26:39 → 00:26:43 ปีละครั้งนะคะใช้สิทธิ์ของตัวเองให้เต็ม
00:26:43 → 00:26:45 ที่นะคะดูแลสุขภาพกันด้วยค่ะขอบคุณคุณหมอ
00:26:45 → 00:26:48 ค่ะสวัสดีค่ะหมดเวลาแล้วค่ะคุณผู้ฟังพบ
00:26:48 → 00:26:50 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการตรงหมอนะคะวัน
00:26:50 → 00:26:54 นี้ลาไปก่อนสวัสดีค่ะ
00:26:54 → 00:26:57 ว่ากันว่าการทำร้ายด้วยวาจาเจ็บเหมือนกับ
00:26:57 → 00:27:00 โดนตบหน้าแรงๆจริงหรือไม่และจะส่งผลอะไร
00:27:00 → 00:27:03 บ้างผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันทร์วิภาดิลก
00:27:03 → 00:27:05 สัมพันธุ์ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์
00:27:05 → 00:27:07 และครอบครัวมาเล่าให้ฟังครับ
00:27:07 → 00:27:12 [เพลง]
00:27:12 → 00:27:15 ซึ่งในเรื่องของผลการวิจัยเนี่ยเขาก็ได้
00:27:15 → 00:27:18 บอกว่าคนเราเนี่ยนะฮะถ้าได้ยินหรือได้
00:27:18 → 00:27:22 อ่านคำพูดหรือข้อความอะไรที่มันเป็นใน
00:27:22 → 00:27:25 เชิงลบและเอ่ยถึงตัวเราอ่ะมันก็จะสร้าง
00:27:25 → 00:27:27 ให้เราเกิดความรู้สึกเรียกว่าอะไรความ
00:27:27 → 00:27:30 เสียหายทางอารมณ์นะคะแล้วก็สมองซึ่งมันทำ
00:27:30 → 00:27:32 ให้เหมือนกับเราถูกตบหน้าเราดีๆนี่เอง
00:27:32 → 00:27:35 เพราะว่าตรงนี้เนี่ยเขามีการวิจัยนะคะมี
00:27:35 → 00:27:38 ผลการวิจัยว่ามันเทียบเท่าได้ประมาณนั้น
00:27:38 → 00:27:41 นะฮะแต่ถ้ามันหนักเข้าหนักเข้าหนักเข้า
00:27:41 → 00:27:45 แล้วคนที่ได้รับเนี่ยได้รับสารอันนี้ไม่
00:27:45 → 00:27:49 เข้มแข็งพอหรือมีความรู้สึกว่าอ่อนแอหรือ
00:27:49 → 00:27:52 อะไรก็ตามเนี่ยนะคะก็อาจจะทำให้ถึงขั้น
00:27:52 → 00:27:55 ที่จะซึมเศร้าลงไปแล้วก็ในที่สุดก็อาจจะ
00:27:55 → 00:27:57 ฆ่าตัวตายได้ซึ่งอันนี้เป็นความรุนแรงมาก
00:27:57 → 00:28:00 ทีเดียวการทำร้ายกันด้วยวาจาเนี่ยในภาษา
00:28:00 → 00:28:03 อังกฤษเขาจะเรียกว่า verbal abuse หรือ
00:28:03 → 00:28:06 ที่เรียกว่าการทำร้ายทำวาจาเนี่ยมันเป็น
00:28:06 → 00:28:10 อะไรที่เสียแทนนะคะนะคะในเรื่องของการ
00:28:10 → 00:28:12 เป็นเป็นบาดแผลทางจิตใจมากกว่าแต่คนเนี่ย
00:28:12 → 00:28:14 จะมองไม่เห็นความเจ็บปวดมันไม่เห็นบาดแผล
00:28:14 → 00:28:18 ถูกไหมคะแต่ว่าจริงๆแล้วมันเจ็บลึกนะฮะ
00:28:18 → 00:28:20 เจ็บปวดที่ฝังลึกและอย่างที่บอกอ่ะนะคะ
00:28:21 → 00:28:23 ว่ามันเหมือนกันมีดที่กรีดลงไปกรีดลงไป
00:28:23 → 00:28:26 กรีดลงไปในบางครั้งซึ่งมันไม่เห็นแผล
00:28:26 → 00:28:29 แต่มันมันเจ็บปวดมากโดยเฉพาะบางทีเนี่ย
00:28:29 → 00:28:32 มันทำจากเราได้ยินทุกวันๆๆแล้วการทำร้าย
00:28:32 → 00:28:36 โดยคนที่เรารักเนี่ยมานี่เจ็บปวดสาหัสเลย
00:28:36 → 00:28:39 นะคะซึ่งประเด็นนี้ทำให้เป็นห่วงไปถึงใน
00:28:39 → 00:28:41 ครอบครัวสมัยก่อนเนี่ยต้องเรียกว่าแต่ละ
00:28:41 → 00:28:44 รุ่นนะแต่ละเจนมันไม่เหมือนกันสมัยก่อน
00:28:44 → 00:28:47 เนี่ยมันจะเป็นการเก็บกดจะถูกสอนให้อดทน
00:28:47 → 00:28:50 เช่นถ้ารุ่นจะวิภาเนี่ยหลังสงครามโลกมา
00:28:50 → 00:28:54 ไม่นานนะคะพ่อแม่อะไรว่าอะไรเราต้องนิ่ง
00:28:54 → 00:28:59 นะเด็กดีต้องนิ่งไม่ไม่โทษทีไม่อะไรต่างๆ
00:28:59 → 00:29:01 เหล่านี้ฟังอย่างเดียวนะคะแล้วก็เก็บกด
00:29:01 → 00:29:05 ความรู้สึกนั้นเอาไว้ในใจชอบไม่ชอบก็แสดง
00:29:05 → 00:29:08 ออกไม่ได้สมัยก่อนนะคะมันจะเป็นลักษณะ
00:29:08 → 00:29:11 นั้นเพราะฉะนั้นในเทรนปัจจุบันเนี่ยเขามี
00:29:11 → 00:29:13 สิทธิ์ที่จะแสดงออกอะไรต่างๆมากมายถือว่า
00:29:13 → 00:29:16 เป็นสิทธิ์ที่เสรีภาพอะไรทำนองนั้นน่ะนะ
00:29:16 → 00:29:18 คะเพราะฉะนั้นแต่ละยุคแต่สมัยมันไม่มีคำ
00:29:18 → 00:29:21 ว่าผิดไม่มีคำว่าถูกมันขึ้นอยู่กับว่าใน
00:29:21 → 00:29:23 ยุคสมัยนั้นน่ะสังคมส่วนใหญ่เขานิยมอะไร
00:29:23 → 00:29:27 เช่นในสมัยนู้นเนี่ยเขานิยมว่าเด็กดีต้อง
00:29:27 → 00:29:31 ไม่โต้เถียงนะฮะเด็กดีต้องเชื่อฟังคำสั่ง
00:29:31 → 00:29:34 เอ่อผู้ใหญ่ชี้ซ้ายต้องซ้ายผู้ใหญ่ชี้ขวา
00:29:34 → 00:29:36 ต้องขวานี่คือเด็กดีนะคะแต่ในเด็กใน
00:29:36 → 00:29:39 ปัจจุบันนี้เด็กดีต้องกล้าแสดงออกใช่ไหม
00:29:39 → 00:29:42 คะที่จะแสดงออกแต่ต้องมีมารยาทนะในการ
00:29:42 → 00:29:45 แสดงออกไม่ใช่ว่าแสดงออกแบบไร้มารยาทอัน
00:29:45 → 00:29:48 นี้ก็ไม่โอเคนะคะแต่ต้องกล้าพูดกล้าทำ
00:29:48 → 00:29:52 กล้าตอบอะไรออกมาอะไรอย่างเงี้ยค่ะเพราะ
00:29:52 → 00:29:54 ฉะนั้นแต่ละยุคมันก็ขึ้นอยู่กับบริบทของ
00:29:54 → 00:30:03 สังคมในยุคนั้นๆ
00:30:03 → 00:30:06 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:30:06 → 00:30:08 ของไทยพีแดช็อต
00:30:08 → 00:30:11 spotify soundcloud Google podcast
00:30:11 → 00:30:14 Apple podcast และ YouTube Channel
00:30:14 → 00:30:21 Thai PBS portcast Thai PBS
00:30:21 → 00:30:26 [เพลง]