00:00:00 → 00:00:02 เราจะมารู้กันในเรื่องของโรคไขมันพอกตับ
00:00:02 → 00:00:06 ค่ะและในช่วงนี้นะคะเราจะมาพบกับแพทย์ผู้
00:00:06 → 00:00:09 เชี่ยวชาญจากแอปหมอดีจะมาพูดคุยในเรื่อง
00:00:09 → 00:00:12 ของโรคไขมันพอกตับกัน
00:00:12 → 00:00:21 [เพลง]
00:00:21 → 00:00:24 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:24 → 00:00:27 เลยนะคะก็เป็นที่ทราบกันดีนะคะว่าอาการ
00:00:27 → 00:00:30 ของโรคไขมันพอกตับเนี่ยค่ะจะไม่มีอาการใน
00:00:30 → 00:00:34 ช่วงแรกแต่หากว่ามีการอักเสบของตับแล้ว
00:00:34 → 00:00:36 และนำไปสู่ภาวะตับแข็งจะมีอาการอย่างไร
00:00:36 → 00:00:39 บ้างคะอาจารย์ภาวะไขมันข้างสะสมในตับหรือ
00:00:39 → 00:00:42 ไขมันพอกตับเป็นภาวะที่พบได้ดบ่อยในสังคม
00:00:42 → 00:00:46 ปัจจุบันรวมถึงสังคมในอนาคตด้วยนะคะซึ่ง
00:00:46 → 00:00:49 ไขมันพอกตับเนี่ยก็เกิดจากการที่ตับเนี่ย
00:00:49 → 00:00:52 มีปริมาณไขมันไปสะสมในตับที่มากเกินกว่า
00:00:52 → 00:00:55 ปกติโดยทั่วไปแล้วเนี่ยหน้าที่ของตับหน้า
00:00:55 → 00:00:58 ที่นึงที่สำคัญเลยก็คือการสะสมไขมันเก็บ
00:00:58 → 00:01:01 เอาไว้มาเป็นพลังงานสำรองในร่างกายของเรา
00:01:01 → 00:01:05 ให้เอามาใช้ในภาวะฉุกเฉินแต่หากมีการสะสม
00:01:05 → 00:01:08 ไขมันที่มากเกินไปโดยทั่วไปถ้ามากกว่า
00:01:08 → 00:01:11 5-10 per ของน้ำหนักตับเนี่ยก็จะก่อให้
00:01:11 → 00:01:14 เกิดภาวะที่เราเรียกว่าภาวะไขมันข้างสะสม
00:01:15 → 00:01:19 ในตับได้ซึ่งหักตับมีปริมาณไขมันไปสะสม
00:01:19 → 00:01:21 มากเกินไปเนี่ยก็จะก่อให้เกิดภาวะตับ
00:01:21 → 00:01:24 อักเสบถ้าเราปล่อยให้ตับอักเสบมากขึ้น
00:01:24 → 00:01:28 เรื่อยๆก็จะเกิดภาวะเกิดพังผืดสะสมในตับ
00:01:28 → 00:01:31 ได้และท้ายที่สุดก็จะเกิดภาวะที่เรียกว่า
00:01:31 → 00:01:33 ตับแข็งซึ่งก็จะเพิ่มความเสี่ยงของการ
00:01:33 → 00:01:37 เกิดมะเร็งตับโดยทั่วไปแล้วเนี่ยคนไข้ที่
00:01:38 → 00:01:41 มาหาหมอด้วยเรื่องภาวะไขมันคั่งสะสมในตับ
00:01:41 → 00:01:44 เนี่ยส่วนใหญ่เลยไม่มีอาการค่ะคนไข้เนี่ย
00:01:44 → 00:01:48 มักจะมาทราบก็ต่อเมื่อไปตรวจสุขภาพแล้วก็
00:01:48 → 00:01:51 ตรวจเจอว่ามีค่าตับอักเสบอาจจะเล็กๆน้อยๆ
00:01:51 → 00:01:54 หรือว่าไปอัลตร้าซาวตับแล้วก็เจอว่ามี
00:01:54 → 00:01:58 ภาวะไขมันสะสมอยู่ที่ตับนะคะเพราะฉะนั้น
00:01:58 → 00:02:01 โดยทั่วไปมักไม่มีอาการแต่หากระยะเวลาของ
00:02:01 → 00:02:04 โรคเป็นมากขึ้นคนไข้เริ่มมีภาวะตับอักเสบ
00:02:04 → 00:02:07 อันเนี้ยเขาอาจจะมีอาการแบบไม่จำเพาะเจาะ
00:02:07 → 00:02:12 จงได้เช่นอาจจะมีอาการเบื่ออาหารอ่อน
00:02:12 → 00:02:15 เพลียเหมือนกับไม่มีแรงหรือว่ามีอาการ
00:02:15 → 00:02:18 ลักษณะของจุกแน่นบริเวณใต้ชายโครงขวาได้
00:02:18 → 00:02:21 แต่หากตัวโรคเป็นมากขึ้นและกลายเป็นตับ
00:02:21 → 00:02:25 แข็งอันนี้อาจจะเกิดอาการที่เกิดจากภาวะ
00:02:25 → 00:02:29 แทรกซ้อนของภาวะตับแข็งได้ค่ะเช่นตัว
00:02:29 → 00:02:32 เหลืองตาเหลืองปัสสาวะสีเข้มขึ้นหรือมี
00:02:32 → 00:02:35 ลักษณะของขาบวมมีท้องโตขึ้นจากการที่มี
00:02:35 → 00:02:39 สารน้ำในท้องหรือมีภาวะซึมสับสนจากการที่
00:02:39 → 00:02:43 มีของเสียค้างในร่างกายค่ะอาจารย์ขาทำไม
00:02:43 → 00:02:47 คนผอมถึงเป็นไขมันพอกตับได้ค่ะก่อนอื่นคง
00:02:47 → 00:02:50 ต้องทราบก่อนว่าใครใครบ้างที่มีความ
00:02:50 → 00:02:53 เสี่ยงต่อการที่จะเกิดภาวะค้างสะสมในตับ
00:02:54 → 00:02:56 ต้องแบ่งเป็น 2 กลุ่มกลุ่ม 2 กลุ่มเนี่ย
00:02:56 → 00:02:59 ที่จะมีความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะข้างสะสม
00:02:59 → 00:03:01 ในตับคือกลุ่มกลุ่มที่ 1 คือกลุ่มที่
00:03:01 → 00:03:04 สัมพันธ์กับการดื่มแอลกอฮอล์คือคนที่ดื่ม
00:03:04 → 00:03:07 แอลกอฮอล์ต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานอันนี้
00:03:07 → 00:03:09 ก็จะเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดภาวะไขมัน
00:03:09 → 00:03:14 คั่งสะสมในตับส่วนในกลุ่มที่ 2 คือกลุ่ม
00:03:14 → 00:03:16 ที่ไม่ได้สัมพันธ์กับแอลกอฮอล์นะคะก็จะ
00:03:17 → 00:03:19 ได้แก่กลุ่มไหนบ้างก็คือกลุ่มคนไข้ที่ได้
00:03:19 → 00:03:23 รับยาบางอย่างเช่นได้รับยาฮอร์โมนยาคุม
00:03:23 → 00:03:27 บางชนิดหรือว่าได้ยากลุ่มเคมีบำบัดพวกนี้
00:03:27 → 00:03:30 ก็อาจจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไข
00:03:30 → 00:03:33 มันข้างสะสมในตับได้ส่วนอีกกลุ่มนึงซึ่ง
00:03:33 → 00:03:36 อันนี้เป็นกลุ่มที่สำคัญที่สุดในปัจจุบัน
00:03:36 → 00:03:40 ก็คือกลุ่มที่มีการเผาผลาญพลังงานในร่าง
00:03:40 → 00:03:43 กายที่ผิดปกติไปที่เรียว่ากลุ่มคนไข้ที่
00:03:43 → 00:03:46 เป็นกลุ่มภาวะดื้อต่ออินซูลินหรือเรียก
00:03:46 → 00:03:50 ว่ากลุ่มที่มี insulin resistance กลุ่ม
00:03:50 → 00:03:52 นี้คือกลุ่มอะไรก็คือภาวะ insulin
00:03:52 → 00:03:55 resistance เนี่ยก็ต้องบอกว่าในคนทั่วไป
00:03:55 → 00:03:59 ปกติค่ะเวลาที่ระดับน้ำตาลในเลือดของเรา
00:03:59 → 00:04:02 เนี่ยจะจะถูกควบคุมนะคะได้จากฮอร์โมนที่
00:04:02 → 00:04:05 เราเรียกว่าอินซูลินซึ่งฮอร์โมนอินซูลิน
00:04:05 → 00:04:08 เนี้ยจะถูกผลิตจากตับอ่อนดังนั้นเมื่อ
00:04:08 → 00:04:11 ระดับน้ำตาลในร่างกายเราสูงขึ้นตับอ่อนก็
00:04:11 → 00:04:14 จะผลิตอินซูลินออกมาเพิ่มมากขึ้นตัว
00:04:14 → 00:04:16 อินซูลินจะไปออกฤทธิ์ตามเซลล์ต่างๆของ
00:04:16 → 00:04:20 ร่างกายเช่นเซลล์ตับเซลล์กล้ามเนื้อเพื่อ
00:04:20 → 00:04:24 ดึงเอาน้ำตาลไปใช้ในตับเนี่ยน้ำตาลส่วน
00:04:24 → 00:04:26 ที่เกินก็จะเปลี่ยนไปเป็นไขมันแล้วไปพอก
00:04:26 → 00:04:29 ในตับเพราะฉะนั้นกลุ่มคนไข้ที่มีภาวะดื้อ
00:04:29 → 00:04:31 ต่ออินซูลินเนี่ยเซลล์อื่นๆเนี่ยเขาจะไม่
00:04:31 → 00:04:35 ตอบสนองต่ออินซูลินนะคะพอมีภาวะดื้อต่อ
00:04:35 → 00:04:37 อินซูลินตับอ่อนก็ต้องสร้างอินซูลินขึ้น
00:04:37 → 00:04:40 มาเพิ่มมากขึ้นพอสร้างเพิ่มมากขึ้นหน้า
00:04:40 → 00:04:43 ที่หลักก็ตับเนี่ยก็จะต้องเปลี่ยนน้ำตาล
00:04:43 → 00:04:46 ที่มันเพิ่มมากขึ้นนะคะเปลี่ยนไปเป็นไข
00:04:46 → 00:04:49 มันที่พอกอยู่ในตับดังนั้นเนี่ยกลุ่มคน
00:04:49 → 00:04:52 ไข้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินก็จะเพิ่ม
00:04:52 → 00:04:55 ความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันข้างสะสมใน
00:04:55 → 00:04:59 ตับแล้วใครบ้างที่มีโอกาสเกิดภาวะที่
00:04:59 → 00:05:02 เรียกเรียกว่าภาวะดื้อต่ออินซูลินนะภาวะ
00:05:02 → 00:05:05 อินซูลินพบได้ในกลุ่มที่ 1 พันธุกรรมดัง
00:05:05 → 00:05:09 นั้นถามว่าคนผอมเป็นภาวะไขมันคั่งตับได้
00:05:09 → 00:05:12 ไหมมเป็นได้ถ้าเขามีพันธุกรรมที่มีความ
00:05:12 → 00:05:15 สุ่มเสี่ยงต่อการเกิดภาวะดื้อต่ออินซูลิน
00:05:15 → 00:05:18 นอกจากนี้เนี่ยภาวะดื้อต่ออินซูลินยังพบ
00:05:18 → 00:05:20 ได้จากนอกจากเมื่อกี้พันธุกรรมใช่มต่อไป
00:05:20 → 00:05:23 เป็นพฤติกรรมพฤติกรรมบางอย่างจะเพิ่มความ
00:05:23 → 00:05:26 เสี่ยงต่อการเกิดภาวะดื้ออินซูลินเช่น
00:05:26 → 00:05:29 พฤติกรรมการกินที่ไม่ถูกต้องการับรับ
00:05:29 → 00:05:33 ประทานอาหารจำพวกไขมันที่มากเกินไปการรับ
00:05:33 → 00:05:36 ประทานอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตเช่นข้าว
00:05:36 → 00:05:39 แป้งน้ำตาลที่มากเกินไปจนเกิดภาวะอ้วนก็
00:05:39 → 00:05:42 จะเกิดภาวะที่เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิด
00:05:42 → 00:05:45 ภาวะดื้อต่ออินซูลินได้สุดท้ายเนี่ยภาวะ
00:05:45 → 00:05:48 ดื้ออินซูลินยังพบได้บ่อยในคนไข้ที่เป็น
00:05:48 → 00:05:52 ภาวะอ้วนลงพุงที่เราเรียกว่า metabolic
00:05:52 → 00:05:54 Syndrome กลุ่มเหล่านี้ก็จะได้แก่กลุ่ม
00:05:55 → 00:05:59 คนไข้ที่มีภาวะเส้นรอบพุงที่มากกว่าปกติ
00:05:59 → 00:06:03 ปกติเพศชายเราเอาที่เกิน 90 ซมผู้หญิงเรา
00:06:03 → 00:06:08 เอาที่ 80 ซมดังนั้นเนี่ยคนผอมตัวผอมแต่
00:06:08 → 00:06:11 ถ้าเส้นรอบพุงเกินอันเนี้ยก็อาจจะเพิ่ม
00:06:11 → 00:06:14 ความเสี่ยงต่อการเกิดมีภาวะดื้อต่อ
00:06:14 → 00:06:16 อินซูลินและก่อให้เกิดภาวะไขมันพอกตับได้
00:06:17 → 00:06:19 นอกจากนี้ก็อาจจะพบในกลุ่มคนแข้ที่เป็น
00:06:19 → 00:06:22 เบาหวานความดันแล้วก็ไขมันในเลือดสูงคน
00:06:23 → 00:06:25 อ้วนน่ะเป็นได้อยู่แล้วไขมันคั่งสะสมใน
00:06:25 → 00:06:29 ตับแต่คนผอมก็มีโอกาสที่จะเป็นพว่าข้าง
00:06:29 → 00:06:33 สะสมในตับได้จากตัวพันธุกรรมเองหรือถ้าคน
00:06:33 → 00:06:38 ผอมนั้นตัวผอมแต่ว่าถ้าพุงเอ่อมีระดับพุง
00:06:38 → 00:06:40 ที่มากกว่าเกณฑ์ตามปกติที่ควรจะเป็นก็
00:06:40 → 00:06:43 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดภาวะไขมันข้าง
00:06:43 → 00:06:46 ตับได้ค่ะอาจารย์คะและการดำเนินโรคของโรค
00:06:46 → 00:06:50 ไขมันพอกตับนั้นแบ่งได้เป็นกี่ระยะคะภาวะ
00:06:50 → 00:06:53 ไขมันข้างสะสมในตับหรือไขมันพอกตับเนี่ย
00:06:53 → 00:06:57 แบ่งได้ใหญ่ๆเป็น 4 ระยะนะคะระยะที่ 1 ก็
00:06:57 → 00:07:01 คือมีไขมันไปสะสมในตับแต่ว่ายังไม่ก่อให้
00:07:01 → 00:07:05 เกิดการอักเสบระยะที่ 2 คือพอมีไขมันข้าง
00:07:05 → 00:07:07 สะสมในตับมากขึ้นมากขึ้นเป็นระยะเวลาที่
00:07:07 → 00:07:11 นานขึ้นก็จะก่อให้เกิดการอักเสบที่เกิด
00:07:11 → 00:07:14 ขึ้นในตับหากการอักเสบนั้นเนี่ยเป็นระยะ
00:07:14 → 00:07:17 เวลาที่ต่อเนื่องนานเกิน 6 เดือนอันนี้จะ
00:07:17 → 00:07:20 เรียกว่าภาวะตับอักเสบเรื้อรำส่วนระยะที่
00:07:20 → 00:07:23 3 ก็คือเมื่อมีการอักเสบในเซลล์ตับเซลล์
00:07:24 → 00:07:26 บางส่วนอาจจะเริ่มตายเซลล์ตับบางส่วน
00:07:26 → 00:07:30 เริ่มตายก็จะมีกระบวนการของร่างกาย
00:07:30 → 00:07:33 ผลิตเอ่อเขาเรียกว่าพังผืดเข้ามาแทรกตรง
00:07:33 → 00:07:36 เซลล์ที่ตายในเนื้อตับทำให้เกิดภาวะพัง
00:07:36 → 00:07:39 ผืดเกิดขึ้นในเซลล์ตับซึ่งอันนี้เราจะ
00:07:39 → 00:07:42 เรียกว่าระดับที่ 3 ส่วนระดับสุดท้ายคือ
00:07:42 → 00:07:45 ระดับที่ 4 เมื่อมีพังผืดมากขึ้นมากขึ้น
00:07:45 → 00:07:48 ในเรื่อยๆในเซลล์ตับเพิ่มความเสี่ยงที่ทำ
00:07:48 → 00:07:50 ให้ตับนั้นกลายเป็นตับแข็งแล้วเมื่อไหร่
00:07:50 → 00:07:53 เป็นตับแข็งก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อการ
00:07:53 → 00:07:57 เกิดมะเร็งตับตามมาได้ค่ะแล้วโรคไขมันพอก
00:07:57 → 00:08:00 ตับรักษาได้อย่างไรคะการรักษาไขมันพอกตับ
00:08:01 → 00:08:03 จริงๆแล้วต้องบอกว่าใน
00:08:03 → 00:08:06 ปัจจุบันยังไม่มียาในการรักษาภาวะไขมัน
00:08:06 → 00:08:10 พอกตับโดยตรงเป็นการรักษาโดยอ้อมทั้งสิ้น
00:08:10 → 00:08:15 อย่างเช่นยากลุ่มที่เพิ่มความไวต่อ
00:08:15 → 00:08:18 อินซูลินนะคะพวกนี้เราก็จะใช้ในคนไข้ที่
00:08:18 → 00:08:22 เป็นเบาหวานนะคะหรือว่ายากลุ่มที่จะลดไข
00:08:22 → 00:08:26 มันในเลือดลดความดันในเลือดนะคะแต่ทั้ง
00:08:26 → 00:08:29 นี้ทั้งนั้นเนี่ยหากกระบวนการของไขพอกตับ
00:08:29 → 00:08:31 เป็นมากขึ้นจนเกิดภาวะตับอักเสบอันนี้เรา
00:08:32 → 00:08:34 อาจจะมียาที่ช่วยลดการอักเสบในตับที่เรา
00:08:34 → 00:08:36 เรียกว่าแอนติออกซินแต่เป็นการรักษาทาง
00:08:37 → 00:08:40 อ้อมเราไม่สามารถใช้ยาไปลดปริมาณไขมันใน
00:08:40 → 00:08:44 ตับได้โดยตรงในปัจจุบันนอกจากนี้หากระยะ
00:08:44 → 00:08:47 การดำเนินของโรคเข้าสู่ภาวะตับแข็งเป้า
00:08:47 → 00:08:49 หมายของการรักษาเนี่ยเป็นการควบคุมภาวะ
00:08:50 → 00:08:53 ตับแข็งให้ไม่เป็นมากขึ้นและรักษาภาวะ
00:08:53 → 00:08:57 แทรกซ้อนของการเกิดภาวะตับแข็งเช่นอาจมี
00:08:57 → 00:09:00 การให้ยาขับปัสสาวะถ้าคนไข้มีอาการขาบวม
00:09:00 → 00:09:04 มีน้ำในท้องหรือว่าท้องมารมีการให้ยาลด
00:09:04 → 00:09:06 ความดันบางชนิดเพื่อไปลดความดันหลอดเลือด
00:09:07 → 00:09:11 โป่งพองในหลอดอาหารหรือมีการให้ยาระบาย
00:09:11 → 00:09:16 เพื่อช่วยในการขับของเสียออกจากร่างกายนะ
00:09:16 → 00:09:19 คะแต่ทึงงนั้นพอเมื่อระยะเวลาการดำเนิน
00:09:19 → 00:09:23 โรคผ่านไปเรื่อยๆจนภาวะตับเข้าสู่ตับแข็ง
00:09:23 → 00:09:26 ระยะสุดท้ายหรือมะเร็งตับก็อาจจะมีการ
00:09:26 → 00:09:30 รักษาที่เรียกว่าการผ่าตัดเปลี่ยนตับได้
00:09:30 → 00:09:32 ซึ่งการผ่าตัดเปลี่ยนตับเนี่ยก็ต้องบอก
00:09:32 → 00:09:35 ว่าเป็นการผ่าตัดที่ค่อนข้างซับซ้อนนะคะ
00:09:35 → 00:09:38 แล้วก็อาจจะมีผลข้างเคียงภายหลังการผ่า
00:09:38 → 00:09:41 ตัดได้ดังนั้นเนี่ยในกลุ่มคนไข้เหล่านี้
00:09:41 → 00:09:44 เนี่ยก็คงจะต้องมาประเมินถึงประโยชน์ความ
00:09:44 → 00:09:48 จำเป็นหรือว่าผลแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้น
00:09:48 → 00:09:51 ซึ่งอันนี้อาจจะต้องพิจารณาเป็นรายๆไปและ
00:09:51 → 00:09:55 ท้ายที่สุดเลยหลักการและหัวใจที่สำคัญที่
00:09:55 → 00:09:58 สุดของการรักษาภาวะไขมันคั่งสะสมในตับ
00:09:58 → 00:10:01 อย่างที่บอกไปแล้วว่ายาไม่ใช่ตัวที่สำคัญ
00:10:01 → 00:10:04 ที่สุดแต่ตัวที่สำคัญที่สุดคือการลดน้ำ
00:10:05 → 00:10:08 หนักการปรับพฤติกรรมแลก็การควบคุมอาหาร
00:10:08 → 00:10:11 ค่ะอาจารย์คะสำหรับคนที่เป็นระยะเริ่มต้น
00:10:11 → 00:10:15 ของโรคไขมันพอกตับนั้นการรักษาโดยไม่ใช้
00:10:15 → 00:10:19 ยาทำได้อย่างไรบ้างคะโอเคค่ะจริงๆแล้วการ
00:10:19 → 00:10:21 หัวใจอย่างที่กล่าวไปแล้วว่าหัวใจสำคัญ
00:10:21 → 00:10:24 ของการรักษาภาวะไขมันค้างสะสมในตับคือการ
00:10:24 → 00:10:27 ปรับพฤติกรรมและการดูแลสุขภาพองค์รวมจริง
00:10:27 → 00:10:31 ๆแล้วเราใช้ได้ในทุกระยะของการรักษาภาวะ
00:10:31 → 00:10:34 ข้างสะไขไขมันข้างสะสมในตับได้เลยนะงั้น
00:10:34 → 00:10:38 หลักการก็คือ 1 คือสำคัญที่สุดคือการลด
00:10:38 → 00:10:41 น้ำหนักนะคะการลดน้ำหนักเนี่ยเป้าหมายคือ
00:10:41 → 00:10:44 อยากให้ลดน้ำหนักให้ได้ประมาณครึ่งกิลถึง
00:10:44 → 00:10:48 2 กลต่อเดือนนะคะโดยเป้าหมายอยากให้ให้
00:10:48 → 00:10:51 ลดให้ได้สัก 7 -10% ของน้ำหนักตัวตั้ง
00:10:52 → 00:10:54 ต้นในระยะเวลา 6 เดือนค่อยๆลดค่อยเป็น
00:10:54 → 00:10:57 ค่อยไปเราไม่มีความจำเป็นต้องลดเลยทันที
00:10:57 → 00:11:00 ค่อยเป็นค่อยไปลดอย่างต่อต่อเนื่องนะคะ
00:11:00 → 00:11:03 ให้ได้สัก 7 -10% ในช่วงระยะเวลา 6
00:11:03 → 00:11:06 เดือนแน่นอนการลดน้ำหนักทำไม่ได้ถ้าไม่
00:11:06 → 00:11:10 ควบคุมอาหารค่ะการควบคุมอาหารจึงเป็นการ
00:11:10 → 00:11:13 รักษาที่สำคัญมากๆถือว่ามากที่สุดเลยก็
00:11:14 → 00:11:16 ได้ในพระการรักษาภาวะไขมันพอกตับอาจารย์
00:11:17 → 00:11:19 คะและสำหรับคนที่ยังมีสุขภาพแข็งแรงทั่ว
00:11:19 → 00:11:24 ไปค่ะอาหารอะไรที่ดีต่อตับคะอาหารอะไรที่
00:11:24 → 00:11:27 เราควรจำเป็นต้องกินหรือว่าเลี่ยงอ่ะนะคะ
00:11:27 → 00:11:29 งั้นอาหารที่ควรเลี่ยงก็คือคืออาหารที่มี
00:11:29 → 00:11:32 พลังงานสูงโดยเฉพาะอาหารที่มีไขมันใน
00:11:32 → 00:11:35 เลือดสูงอาหารที่กลุ่มคาร์โบไฮเดรตสูง
00:11:35 → 00:11:40 เช่นกลุ่มข้าวแป้งน้ำตาลพวกเนี้ยควรหลีก
00:11:40 → 00:11:42 เลี่ยงนะคะนอกจากนี้เนี่ยก็อาจจะเพิ่ม
00:11:42 → 00:11:46 ปริมาณของโปรตีนชนิดดีเช่นโปรตีนจากปลา
00:11:46 → 00:11:49 เพิ่มมากขึ้นเพิ่มอาหารที่มีกากใยเช่นผัก
00:11:49 → 00:11:52 เพิ่มมากขึ้นนะคะนอกจากนี้เนี่ยการลดน้ำ
00:11:52 → 00:11:55 หนักนอกจากการควบคุมอาหารแล้วก็คงจะต้อง
00:11:55 → 00:11:59 ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายด้วยนะคะการออก
00:11:59 → 00:12:01 กำลังกายที่แนะนำก็จะเป็นการออกกำลังกาย
00:12:01 → 00:12:03 อย่างน้อยให้ได้สัก
00:12:04 → 00:12:08 30-45 ครั้ง 30-45 นาทีต่อครั้งโดยอยาก
00:12:08 → 00:12:12 ให้ทำสม่ำเสมอสัปดาห์นึงสัก 4-5 ครั้งอัน
00:12:12 → 00:12:16 นี้ก็จะเป็นอีกวิธีนึงในการรักษาภาวะไข
00:12:16 → 00:12:20 มันพอกตับนอกจากนี้สิ่งที่ควรปฏิบัติเลย
00:12:20 → 00:12:23 ในกลุ่มคนไข้ที่มีภาวะค้าสะสมในตับก็คือ
00:12:23 → 00:12:27 การหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์รวมทั้งไม่
00:12:27 → 00:12:30 ไม่แนะนำให้ซื้อยารับประทานกินเองไม่ว่า
00:12:30 → 00:12:33 จะเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอาหารเสริมยา
00:12:33 → 00:12:37 สมุนไพรเพราะพวกนี้อาจจะมีความเสี่ยงต่อ
00:12:37 → 00:12:41 การเกิดภาวะตับอักเสบได้ค่ะขอบคุณนะคะ
00:12:41 → 00:12:45 สำหรับการรับชมรายการ TNN Health ค่ะและ
00:12:45 → 00:12:48 อย่าลืมค่ะกด Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุก
00:12:48 → 00:12:51 ช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อ
00:12:51 → 00:12:55 ที่จะไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีีดีโอ
00:12:55 → 00:13:01 ที่น่าสนใจของทาง TNN นะคะ y