00:00:05 → 00:00:08 สวัสดีครับนายแพทย์วิกรมเนติสินครับแพทย์
00:00:08 → 00:00:11 เฉพาะทางด้านมะเร็งวิทยาโรงพยาบาลนวเวช
00:00:11 → 00:00:13 ครับเดี๋ยววันนี้นะครับเราจะมาคุยกันถึง
00:00:13 → 00:00:16 เรื่องของการรักษามะเร็งด้วยระบบภูมิคุ้ม
00:00:16 → 00:00:19 กันมะเร็งแบบเฉพาะบุคคลกันนะครับอยากให้
00:00:19 → 00:00:21 อาจารย์ค่ะช่วยอธิบายค่ะว่าจริงๆแล้ว
00:00:21 → 00:00:25 มะเร็งนี่คืออะไรอ่ะคะครับผมสำหรับเซลล์
00:00:25 → 00:00:27 มะเร็งคืออะไรนะครับตัวเซลล์มะเร็งเนี่ย
00:00:28 → 00:00:30 ก็คือเป็นเซลล์ที่เกิดการกลายพันครับจริง
00:00:30 → 00:00:32 ๆแล้วเซลล์ปกติของเราเี่ครับมีโอกาสจะ
00:00:32 → 00:00:34 เปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งได้ตลอดเวลาเลย
00:00:34 → 00:00:36 ครับแล้วในร่างกายคนเราปกติเนี่ยก็จะมี
00:00:36 → 00:00:39 เซลล์มะเร็งเกิดขึ้นอยู่ทุกวันนะครับแต่
00:00:39 → 00:00:41 เพียงแต่ว่าร่างกายของเราเนี่ยจะสามารถ
00:00:41 → 00:00:43 กำจัดเซลล์ปิดปกติเหล่านั้นได้นะครับก็
00:00:44 → 00:00:46 เลยจะทำให้เราไม่เกิดเป็นโรคมะเร็งเซลล์
00:00:46 → 00:00:49 มะเร็งเกิดขึ้นได้แต่โรคมะเร็งไม่ได้เกิด
00:00:49 → 00:00:50 ทุกคนนะครับเพราะฉะนั้นถ้าเกิดว่าเกิด
00:00:50 → 00:00:52 เซลล์มะเร็งมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆแล้ว
00:00:52 → 00:00:55 ร่างกายของเราไม่สามารถกำจัดเซลล์เหล่า
00:00:55 → 00:00:57 นั้นออกจากร่างกายได้เนี่ยก็จะกลายเป็น
00:00:57 → 00:01:00 โรคมะเร็งตามมานะครับแล้วถถามว่าเซลล์
00:01:00 → 00:01:02 มะเร็งเกิดขึ้นได้ยังไงนะครับจริงๆแล้ว
00:01:02 → 00:01:05 มันเกิดจากระบบกระบวนการปกติของกลไกการ
00:01:05 → 00:01:08 การวงจรชีวิตของเซลล์ปกติของเราเลยครับ
00:01:08 → 00:01:10 ซึ่งเซลล์ของเรานะครับจะมีการเกิดแก่เจ็บ
00:01:10 → 00:01:13 ตายเป็นวงจรปกติอยู่แล้วนะครับซึ่งใน
00:01:13 → 00:01:15 กระบวนการเกิดแก่เจ็บตายของเซลล์ของเรา
00:01:15 → 00:01:17 เนี่ยจะมีการคัดลอกรหัสธุกรรมเป็นวงจรนะ
00:01:17 → 00:01:20 ครับซึ่งการคัดลอกรหัสธุกรรมซ้ำๆซ้ำๆ
00:01:20 → 00:01:23 เรื่อยๆนะครับยิ่งคัดลอกบ่อยก็จะมีโอกาส
00:01:23 → 00:01:25 คัดลอกผิดมากขึ้นเรื่อยๆนะครับเพราะ
00:01:25 → 00:01:27 ฉะนั้นเวลาเกิดการคัดลอกผิดก็จะเป็นการ
00:01:27 → 00:01:30 รหัธุกรรมที่ผิดปกติหรือหรือที่เรียกว่า
00:01:30 → 00:01:33 รหัสพันธุกรรมที่กลายพันธุ์นะครับเซลล์
00:01:33 → 00:01:34 ที่มีรหัสพันธุกรรมที่กลายพันธุ์ก็คือ
00:01:34 → 00:01:38 เซลล์มะเร็งนั่นเองนะครับมะเร็งชนิดไหน
00:01:38 → 00:01:42 ที่พบมากสุดในไทยคะเอ่อถ้าตามอุบัติการณ์
00:01:42 → 00:01:44 ตามสถิตินะครับก็จะแบ่งเป็นเพศชายนะครับ
00:01:44 → 00:01:46 มะเร็งที่พบมากในเพศชายนะครับก็จะเป็น
00:01:46 → 00:01:49 เรื่องของมะเร็งตัดและทางเดินน้ำดีนะครับ
00:01:49 → 00:01:52 มะเร็งปอดมะเร็งลำไส้นะครับพวกเนี้ยก็จะ
00:01:52 → 00:01:54 วนเวียนกันอยู่ 1-2 3 อันดับแรกอยู่
00:01:54 → 00:01:56 เรื่อยๆนะครับสำหรับของเพศหญิงนะครับ
00:01:56 → 00:01:59 อันดับแรกเลยก็คือเป็นมะเร็งเต้านมนะครับ
00:01:59 → 00:02:02 มะเร็งปับมดลูกนะครับรวมถึงมะเร็งลำไส้นะ
00:02:02 → 00:02:06 ครับพวกนี้ก็จะมีการวนเวียนกันอยู่นะครับ
00:02:06 → 00:02:09 ปัจจุบันมีวิธีการในการรักษาโรคมะเร็งนี่
00:02:09 → 00:02:13 กี่วิธีอ่ะคะนวัตกรรมในการรักษาโรคมะเร็ง
00:02:13 → 00:02:15 นะครับวิธีการรักษาที่เราใช้กันเป็นประจำ
00:02:15 → 00:02:18 เลยก็คือ 1 สำคัญมากสุดก็คือการผ่าตัดนะ
00:02:18 → 00:02:21 ครับการผ่าตัดก็คือการพยายามเอาก้อนที่
00:02:21 → 00:02:23 เราเห็นเนี่ยออกจากร่างกายให้ได้มากที่
00:02:23 → 00:02:25 สุดหรือให้หมดนะครับเพื่อที่จะทำให้ก้อน
00:02:26 → 00:02:27 มะเร็งนั้นเนี่ยหมดออกจากร่างกายนะครับ
00:02:27 → 00:02:29 อันอันดับที่ 2 ที่เราใช้กันบ่อยก็คือการ
00:02:30 → 00:02:32 รักษาด้วยยานะครับไม่ว่าจะเป็นยาเคมี
00:02:32 → 00:02:35 บำบัดยาพุ่งเป้ายาพูมมันบำบัดนะครับทั้ง
00:02:35 → 00:02:37 นี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับชนิดของเซลล์
00:02:37 → 00:02:40 มะเร็งว่าโรคมะเร็งนั้นๆเนี่ยตอบสนองกับ
00:02:40 → 00:02:42 ยาชนิดไหนนะครับเราก็จะเลือกใช้ตามนั้นนะ
00:02:42 → 00:02:44 ครับ 3 เลยที่เราใช้กันบ่อยๆก็คือการใช้
00:02:44 → 00:02:47 รังสีรักษาร่วมในการรักษามะเร็งนะครับไม่
00:02:48 → 00:02:50 ว่าจะเป็นการใช้รังสีรักษาหลังผ่าตัดการ
00:02:50 → 00:02:53 ใช้รังสีรักษาร่วมกับยาเคมีบำบัดในมะเรง
00:02:53 → 00:02:56 บางชนิดนะครับเพื่อทำให้หายขาดนะครับหรือ
00:02:56 → 00:02:58 ว่าการใช้รังสีรักษาเพื่อการรักษาแบบ
00:02:58 → 00:03:00 ประคับประคองทั้งนี้ทั้งนั้นนั้นก็ขึ้น
00:03:00 → 00:03:02 อยู่กับชนิดของมะเร็งและก็ระยะของโลกที่
00:03:02 → 00:03:04 เป็นนะครับอันดับที่ 4 ที่มีการใช้ก็คือ
00:03:04 → 00:03:07 จะเป็นเรื่องของการใช้เซลล์บำบัดนะครับก็
00:03:07 → 00:03:09 คือเป็นการเอาเซลล์ออกมาจากนอกร่างกายนะ
00:03:09 → 00:03:13 ครับเพื่อพัฒนาไปใช้ในการฆ่าเซลล์มะเร็ง
00:03:13 → 00:03:15 แล้วใส่กลับเข้าไปในตัวคนไข้อันนี้ก็เป็น
00:03:15 → 00:03:17 เทคโนโลยีการรักษาแบบใหม่ที่ยังมีข้อ
00:03:17 → 00:03:20 จำกัดในการใช้รักษาเฉพาะมีประโยชน์หรือ
00:03:20 → 00:03:23 ว่ามีการใช้ในมะเร็งบางชนิดเท่านั้นนะ
00:03:23 → 00:03:25 ครับแล้วก็อาจจะยังใช้ได้ไม่ได้อย่างแพร่
00:03:25 → 00:03:29 หลายนักในประเทศไทยของเรานะครับคุณหมอคะ
00:03:29 → 00:03:32 อยากจะทราบว่าในเรื่องของนวัตกรรมการ
00:03:32 → 00:03:35 รักษาโรคมะเร็งด้วยระบบภูมิต้านทานแบบ
00:03:35 → 00:03:38 จำเพาะบุคคลนี่คืออะไรอ่ะคะแล้วก็อยากให้
00:03:38 → 00:03:40 คุณหมอช่วยอธิบายตรงนี้ด้วยค่ะเมื่อไหร่
00:03:40 → 00:03:42 ก็ตามที่ร่างกายเรามีเซลล์เมรเกิดขึ้นนะ
00:03:42 → 00:03:44 ครับร่างกายเราจะสร้างเซลล์ไม่เลือดขาว
00:03:44 → 00:03:47 จำเพาะที่จำเพาะกับเซลล์ที่หน้าตาผิดปกติ
00:03:47 → 00:03:49 นั้นแล้วไปทำลายมันนะครับถ้าเราสามารถ
00:03:49 → 00:03:52 ทำลายได้หมดเราก็จะไม่เป็นโรคมะเร็งแต่ใน
00:03:52 → 00:03:55 บางกรณีร่างกายของเรานะครับไม่สามารถ
00:03:55 → 00:03:58 กำจัดได้หมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ 1 ก็
00:03:58 → 00:04:01 คือตัวมะเร็งเองมีการหลบหลีกการตรวจจับ
00:04:01 → 00:04:04 ของระบบคุมิคุ้นกันได้ก็คือมันเกิดขึ้น
00:04:04 → 00:04:07 แล้วแหละแต่มันไปพลางตัวอยู่มันไม่สามารถ
00:04:07 → 00:04:09 ระบบคุ้มกันของเราเนี่ยไม่สามารถจัดได้
00:04:09 → 00:04:11 ว่าอันเนี้ยคือเซลล์ผิดปกติพอมันไม่รู้
00:04:11 → 00:04:13 ว่าเป็นเซลล์ผิดปกติมันก็ไม่ทำลายมันก็
00:04:13 → 00:04:15 ปล่อยให้มันเติบโตไปก็กลายเป็นโรคมเร็ง
00:04:15 → 00:04:18 เกิดขึ้นหรือตัวเซลล์มะเร็งนั้นเนี่ยมัน
00:04:18 → 00:04:20 มีกลไกบางอย่างที่เวลาเม็ดเลขาวเข้ามาถึง
00:04:20 → 00:04:23 ตัวมันละมันมีตัวกดปิดสวิตช์การทำงานของ
00:04:23 → 00:04:25 เม็ดเลือดขาวทำให้เม็ดเลือดขาวเวลามาถึง
00:04:25 → 00:04:27 เซลล์มะเร็งแล้วเนี่ยไม่สามารถกำจัดได้ก็
00:04:27 → 00:04:30 ทำให้เซลลมะเร็งหลุดรอดแล้วก็มีชีวิตต่อ
00:04:30 → 00:04:32 ก็กลายเป็นโรคมะเร็งเกิดขึ้นพอเป็นการ
00:04:32 → 00:04:34 สะสมมากขึ้นเรื่อยๆก็เลยทำให้เราไม่
00:04:34 → 00:04:37 สามารถกำจัดมันได้ครับและในปัจจุบันนะ
00:04:37 → 00:04:39 ครับเรามีการค้นพบว่าระบบคุ้มกันเนี่ยยัง
00:04:39 → 00:04:42 มีบทบาทอย่างอย่างมากมากขึ้นอีกในการที่
00:04:42 → 00:04:44 จะรักษาโรคมะเร็งนะครับเมื่อก่อนเนี่ยเรา
00:04:44 → 00:04:47 รู้แค่ว่าถ้าภูมิคุ้มกันดีนะครับร่างกาย
00:04:47 → 00:04:49 เราคนที่มีระบบภูมคุ้มกันดีจะเป็นโรค
00:04:49 → 00:04:51 มะเร็งน้อยกว่าคนที่ระบบภูมิคุ้มกันไม่ดี
00:04:51 → 00:04:54 แต่ปัจจุบันเนี่ยเราสามารถที่จะกระตุ้น
00:04:54 → 00:04:56 ให้การทำงานของระบบคุ้มกันของคนไข้ที่
00:04:56 → 00:04:58 เป็นโรคมะเร็งแล้วเนี่ยมากระตุ้นให้เกิด
00:04:58 → 00:05:00 การทำงานที่มากขึ้นแล้วเพื่อไปรักษาโรค
00:05:00 → 00:05:04 ได้นะครับเมื่อถ้าเราได้ยินกันบ่อยๆก็คือ
00:05:04 → 00:05:06 จะมีเรื่องของระบบของยาพุงกันบำบัดนะครับ
00:05:06 → 00:05:09 ยาพุงุ้งกบำบัดเนี่ยจะไปช่วยทำให้ระบบ
00:05:09 → 00:05:12 เม็ดเลือดขาวเนี่ยที่มีประสิทธิภาพในการ
00:05:12 → 00:05:14 ที่จะมาเจอกับเซลล์มะเร็งแล้วเนี่ยทำงาน
00:05:15 → 00:05:17 ได้ดีขึ้นอย่างที่ผมเกริ่นไปครับว่าเซลล์
00:05:17 → 00:05:18 มะเร็งเนี่ยสามารถที่จะปิดสวิตช์ไม่ให้
00:05:19 → 00:05:21 เม็ดเลดขาวที่มันมาที่เซลล์มะเร็งแล้ว
00:05:21 → 00:05:23 เนี่ยทำงานได้นะครับก็คือมาเจอกันแล้ว
00:05:24 → 00:05:27 แหละแต่อยู่เป็นเพื่อนกันไม่ไปฆ่ามันอยู่
00:05:27 → 00:05:30 เฉยๆแต่ว่ายาตัวเนี้ยจะไปเปิดสวิตช์ทำให้
00:05:30 → 00:05:32 เม็เล็ดขาวที่มาที่เซลล์มะเร็งแล้วเนี่ย
00:05:32 → 00:05:35 ่ามันได้มากขึ้นก็ทำให้ที่จะรักษาโรค
00:05:35 → 00:05:38 มะเร็งได้ดีขึ้นนะครับแต่การรักษาด้วย
00:05:38 → 00:05:40 ระบบคุ้มกันแบบจำเพาะบุคคลเนี่ยอันเนี้ย
00:05:40 → 00:05:43 จะแตกต่างออกไปอันดับแรกเลยก็คือเราจะ
00:05:43 → 00:05:46 ต้องสอนก่อนครับว่าถ้าเจอเซลล์หน้าตาแบบ
00:05:46 → 00:05:48 เนี้ยอันเนี้ยคือเซลล์มะเร็งนะเมดเลือด
00:05:48 → 00:05:50 ขาวจะต้องผลิตเมดเลือดขาวที่จำเพาะกับ
00:05:50 → 00:05:52 เซลล์ที่หน้าตาผิดปกติแบบเนี้ยแล้วผลิต
00:05:53 → 00:05:55 ออกมาเยอะๆเลยเหมือนกับเพิ่มทหารที่
00:05:55 → 00:05:58 จำเพาะออกมาแล้วก็เข้ามารุมสกรมารุมค่า
00:05:58 → 00:06:00 เซล์ผิดปกติเนี่ยเพื่อให้ให้เซลมเร็ง
00:06:00 → 00:06:02 เนี่ยตายไปนะครับแต่ความสามารถนั้นเนี่ย
00:06:02 → 00:06:05 แต่ละคนไม่เท่ากันครับแล้วจะทำยังไงล่ะ
00:06:05 → 00:06:08 ที่จะกระตุ้นให้เม็ดเลือดขาวของแต่ละคน
00:06:08 → 00:06:10 เนี่ยสร้างเซลล์จำเพาะเซลล์เมเลือดขาว
00:06:10 → 00:06:12 จำเพาะที่จำเพาะกับเซลล์มะเร็งนั้นเกิด
00:06:12 → 00:06:14 ขึ้นได้ใหม่นะครับอันเนี้ยเราก็จะเรียก
00:06:14 → 00:06:16 ว่าเป็นระบบภูมิพุ้งการจำเพาะแบบจำเพาะ
00:06:16 → 00:06:19 บุคคลครับที่จะสร้างให้เซลล์เมดขาวที่มี
00:06:19 → 00:06:21 หน้าตาจำเพาะกับเซลล์มะเร็งของแต่ละคน
00:06:21 → 00:06:24 เนี่ยออกมามากขึ้นนะครับวิธีการของมัน
00:06:24 → 00:06:27 เนี่ยก็คือการที่จะกระตุ้นให้เม็ดเลือด
00:06:27 → 00:06:29 ขาวสร้างเซลล์เม็ดเลือดขาวจำเเพาะที่
00:06:29 → 00:06:31 เรียกว่าเป็นทีเซลล์พิฆาตนะครับเป็น
00:06:31 → 00:06:34 ทีเซลล์จำเพาะที่จำเพาะกับโปรตีนบนผิว
00:06:34 → 00:06:36 เซลล์มะเร็งเพื่อสร้างออกมามากขึ้นแล้วก็
00:06:36 → 00:06:40 ไปทำลายเซลล์มะเร็งให้มากขึ้นครับคุณหมอ
00:06:40 → 00:06:42 คะแล้วการรักษาด้วยวิธีการนี้ค่ะใช้ได้
00:06:42 → 00:06:45 กับมะเร็งทุกชนิดเลยหรือเปล่าคะจริงๆถ้า
00:06:45 → 00:06:48 ตามทฤษฎีครับก็ต้องเรียกว่าใช้ได้กับ
00:06:48 → 00:06:50 มะเร็งเกือบทุกชนิดครับเพราะว่าเซลล์
00:06:50 → 00:06:52 มะเร็งทุกชนิดเนี่ยจะมีโปรตีนจำเพาะบนผิว
00:06:52 → 00:06:55 เซลล์ที่แตกต่างกันไปเป็นเซลล์มะเร็ง
00:06:55 → 00:06:57 เหมือนกันนะครับอย่างเช่นยกตัวอย่างเช่น
00:06:57 → 00:06:59 เป็นมะเร็งปอดเหมือนกัน 10 คนเนี่ยแต่
00:06:59 → 00:07:01 หน้าตาของโปรตีนบนผิวเซลล์ของเซลล์มเร็ง
00:07:01 → 00:07:03 ปอดของคนไข้แต่ละคนเนี่ยจะไม่เหมือนกัน
00:07:03 → 00:07:06 เลยเพราะฉะนั้นถ้าเราใช้ยาทั่วๆไปการตอบ
00:07:06 → 00:07:09 สนองก็จะไม่ได้เหมือนกันทุกคนบางคนตอบ
00:07:09 → 00:07:11 สนองดีบางคนตอบสนองไม่ดีนะครับเพราะ
00:07:11 → 00:07:13 ฉะนั้นในกรณีที่เราจะเลือกวิธีการแบบนี้
00:07:13 → 00:07:16 ก็คือเราจะต้องสกัดเอาโปรตีนบนผิวเซลล์
00:07:16 → 00:07:19 ของเซลล์มะเร็งของแต่ละคนออกมานะครับแล้ว
00:07:20 → 00:07:23 ก็ไปทำการผลิตในหลอดในห้องทดลองแล้วมาฉีด
00:07:23 → 00:07:26 กลับไปกระตุ้นให้ร่างกายของคนไข้แต่ละคน
00:07:26 → 00:07:28 นั้นเนี่ยสร้างเซลล์มลึกขาวจำเพาะกับ
00:07:28 → 00:07:30 โปรตีนที่เรากระตุ้นเข้าไปเซลล์มนึขาวที่
00:07:30 → 00:07:32 ได้ออกมาก็จะเป็นเซลล์มะนขาวที่จำเพาะกับ
00:07:32 → 00:07:36 โปรตีนบนผิวเซลล์มะเร็งของคนไทคนนั้นๆพอ
00:07:36 → 00:07:38 ได้จำนวนมากขึ้นแล้วเนี่ยเมลดขาวที่เรา
00:07:38 → 00:07:40 กระตุ้นออกมาเนี่ยก็จะจะจำเพาะกับก้อน
00:07:40 → 00:07:43 มะเร็งมากพอผลิตออกมาปุ๊บมันก็จะวิ่งเข้า
00:07:43 → 00:07:45 ไปในเซลล์ที่มีหน้าตาแบบที่มันเรียนรู้
00:07:45 → 00:07:47 แล้วว่าแหละว่าอันเนี้ยคือเซลล์มะเร็งนะ
00:07:47 → 00:07:49 เซล์มขาวที่จำเพาะพวกนี้ก็จะวิ่งกูเข้าไป
00:07:49 → 00:07:51 ทำลายเซลล์มะเร็งที่เกิดขึ้นที่มีหน้าตา
00:07:51 → 00:07:54 แบบที่มันเรียนรู้แล้วก็จะทำให้เมคาของ
00:07:54 → 00:07:58 เราทำลายเซลลมะเร็งได้ดีขึ้นครับการรักษา
00:07:58 → 00:08:00 ด้วยระบบภูมิต้านทางามะเร็งแบบจำเพาะ
00:08:00 → 00:08:02 บุคคลเนี่ยค่ะสามารถทำร่วมกับการรักษา
00:08:02 → 00:08:06 มะเร็งแบบอื่นๆได้หรือไม่คะก็การรักษา
00:08:06 → 00:08:09 มะเร็งแบบด้วยระบบคุ้มคกันแบบจำเพาะบุคคล
00:08:09 → 00:08:11 นับนะครับปกติแล้วเนี่ยการรักษาร่วมที่
00:08:11 → 00:08:14 เป็นการรักษาหลักเลยก็คือการใช้ยาภูมิ
00:08:14 → 00:08:16 คุ้มกันบำบัดครับเพราะอย่างที่อธิบายเป็น
00:08:16 → 00:08:19 เบื้องต้นนะครับเมื่อเรามีเซลล์มึดขาว
00:08:19 → 00:08:22 จำเพาะกับก้อนมะเร็งแล้วนะครับวิธีการที่
00:08:22 → 00:08:24 เราใช้ระบบปุ้มกันแบบจำเพาะบุคคลเนี่ยก็
00:08:24 → 00:08:27 คือจะเพิ่มเซลล์มนขาวที่จำเพาะนะครับพอ
00:08:27 → 00:08:29 เพิ่มจำนวนมากขึ้นแล้วเซลลล์มขาวที่
00:08:29 → 00:08:31 จำเพาะเนี้ยก็จะไปที่ก้อนมะเร็งใช่่มั้ย
00:08:31 → 00:08:33 ครับมีจำนวนมากเลยล้อมก้อนมะเร็งเต็มไป
00:08:33 → 00:08:35 หมดเลยพร้อมที่จะฆ่ามันะแต่อย่างที่บอก
00:08:36 → 00:08:37 ตั้งแต่ต้นครับว่าเซลล์มะเร็งเนี่ยก็ยัง
00:08:37 → 00:08:40 มีกลไกอีกกลไกนึงที่จะไปปิดสวิตช์ไม่ให้
00:08:40 → 00:08:43 เซลล์มืเขาที่มันกรัวกันเข้ามาเนี่ยทำงาน
00:08:43 → 00:08:45 นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยยาที่จะไปเปิด
00:08:45 → 00:08:47 สวิตช์ตรงเนี้ยก็จะเป็นตัวที่จะช่วยส่ง
00:08:47 → 00:08:50 เสริมกันทำให้เซมขาวที่กูเข้ามาแล้วเนี่ย
00:08:50 → 00:08:52 ทำงานได้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นไปอีก
00:08:52 → 00:08:54 เพราะฉะนั้นการรักษาร่วมที่เราใช้กันร่วม
00:08:54 → 00:08:57 กับระบบคูมคุ้มกันแบบฉพาะบุคคลเนี่ยก็คือ
00:08:57 → 00:08:59 ยาภูมิคุ้มกันบำบัดนะครับที่จะจะไป
00:08:59 → 00:09:01 กระตุ้นทำให้เซลล์มืขาวที่เกิดขึ้นเนี่ย
00:09:01 → 00:09:03 ทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วยนะครับกับอีกแบบ
00:09:03 → 00:09:05 นึงก็คือในปัจจุบันก็จะมีการใช้ร่วมกับ
00:09:05 → 00:09:08 การรักษาที่เป็นการรักษามาตรฐานโดยทั่วๆ
00:09:08 → 00:09:11 ไปไม่ว่าจะเป็นการใช้ระบบนี้หลังผ่าตัด
00:09:11 → 00:09:13 หรือว่าการให้หลังจากที่ได้ยาบัตครบแล้ว
00:09:13 → 00:09:15 เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้มันเกิดโรคมะเร็ง
00:09:16 → 00:09:18 กลับเป็นซ้ำนะครับพวกนี้ก็จะมีการรักษา
00:09:18 → 00:09:20 ร่วมกันแต่หลักๆเลยที่เราใช้ก็คือระบบของ
00:09:20 → 00:09:24 เรื่องของยาภูมการบำบัดครับการรักษาด้วย
00:09:24 → 00:09:26 วิธีนี้ค่ะอาจารย์จะช่วยให้ผู้ป่วยเนี่ย
00:09:26 → 00:09:29 มีโอกาสที่จะหายขาดจากโรคมะเร็งมั้คะ
00:09:30 → 00:09:32 ถ้าเราใช้การรักษาด้วยระบบภูมปุมกันแบบ
00:09:32 → 00:09:35 จำเพาะบุคคลร่วมกับยาภูมปมกันบำบัดนะครับ
00:09:35 → 00:09:37 เปรียบเทียบกับการใช้ยาภูมปกบำบัตอย่าง
00:09:37 → 00:09:40 เดียวเนี่ยพบว่าคนไข้ที่ใช้ 2 อย่างร่วม
00:09:40 → 00:09:43 กันเนี่ยมีโอกาสหายขาดได้มากกว่าคนไข้ที่
00:09:43 → 00:09:46 ใช้การยาพุ้มกันบัตแบบเดียวเนี่ยหลายเท่า
00:09:46 → 00:09:48 ตัวนะครับเลยทำให้ปัจจุบันเนี่ยเริ่มมี
00:09:48 → 00:09:51 การศึกษาวิธีการรักษาแบบเนี้ยเอ่อในคนไข้
00:09:51 → 00:09:53 มะเร็งชนิดอื่นๆมากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:09:53 → 00:09:56 เพราะฉะนั้นโดยหลักการแล้วเชื่อว่าถ้าการ
00:09:56 → 00:09:58 รักษานี้มีการศึกษามากขึ้นมากขึ้นเรื่อยๆ
00:09:58 → 00:10:01 ก็จะจะทำให้คนไข้มีโอกาสที่จะมีโอกาสหาย
00:10:01 → 00:10:03 ขาดจากโรคมะเร็งที่เป็นมากขึ้นครับแต่
00:10:03 → 00:10:05 ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับระยะของโรค
00:10:05 → 00:10:07 ที่เป็นด้วยนะครับเพราะว่าอย่างการศึกษา
00:10:07 → 00:10:10 ในมะเร็งเม็ดสีที่ผมอธิบายเมื่อสักครู่
00:10:10 → 00:10:12 เนี่ยก็คือเป็นการรักษาเสริมหลังจากที่
00:10:12 → 00:10:15 คุณหมอผ่าตัดสามารถผ่าตัดเอาก้อนมะเร็ง
00:10:15 → 00:10:18 ออกได้หมดแล้วแล้วก็ใช้ยาภูมบำบัดร่วมกับ
00:10:18 → 00:10:21 ระบบภูมิปกแบบจำเพาะุคคลในคนในคนไข้
00:10:21 → 00:10:23 มะเร็งมเม็ดสีหลังผ่าตัดอันเนี้ยก็จะ
00:10:23 → 00:10:25 เพิ่มโอกาสหายขาดได้มากขึ้นแต่ถ้าเป็น
00:10:25 → 00:10:28 มะเร็งระยะแพร่กระจายมาแล้วการใช้ยาร่วม
00:10:28 → 00:10:31 กันก็จะเพิ่มโอกาสการรอดชีวิตได้ยาวนาน
00:10:31 → 00:10:33 ขึ้นมากกว่าการใช้ยาตัวใดตัวหนึ่งเพียง
00:10:33 → 00:10:35 ตัวเดียวแต่เพียงแต่โอกาสหายขาดก็ยังน้อย
00:10:35 → 00:10:37 อยู่นะครับเพราะฉะนั้นเนี่ยสำคัญเลยก็ยัง
00:10:37 → 00:10:40 ยังจำเป็นที่ยังจะต้องตรวจเจอมะเร็งตั้ง
00:10:40 → 00:10:42 แต่ระยะต้นเพื่อเพิ่มโอกาสหายขาดได้มาก
00:10:42 → 00:10:45 ขึ้นส่วนนวัตกรรมการรักษาที่มันมีการ
00:10:45 → 00:10:47 พัฒนามากขึ้นมากขึ้นตามเวลาโดยเฉพาะใน
00:10:47 → 00:10:50 ปัจจุบันเนี่ยมีความก้าวกระโดดในว
00:10:50 → 00:10:52 นวัตกรรมการรักษามะเร็งมากขึ้นแล้วเนี่ย
00:10:52 → 00:10:54 ก็จะช่วยคนให้คนไข้เนี่ยมีโอกาสหายขาดจาก
00:10:54 → 00:10:57 รกมะเร็งได้มากขึ้นครับสุดท้ายนี้นะคะ
00:10:57 → 00:10:59 อยากจะขอคำแนะนำจากคุณหมอค่ะในเรื่องของ
00:11:00 → 00:11:02 การป้องกันความเสี่ยงการป่วยเป็นโรค
00:11:02 → 00:11:05 มะเร็งแล้วก็เพื่อให้ทุกคนมีสุขภาพที่
00:11:05 → 00:11:08 แข็งแรงค่ะในปัจจุบันนะครับถึงแม้ว่า
00:11:08 → 00:11:10 นวัตกรรมการรักษามะเร็งจะดีขึ้นมากขึ้นดี
00:11:10 → 00:11:12 ขึ้นเรื่อยๆเรื่อยๆแล้วนะครับแล้วก็คนทำ
00:11:12 → 00:11:15 ให้คนไข้ที่เป็นมะเร็งเนี่ยมีโอกาสหายขาด
00:11:15 → 00:11:17 มากขึ้นแต่สิ่งที่อยากจะเน้นย้ำโดยสำคัญ
00:11:17 → 00:11:19 เลยก็คือ 1 เราจะต้องตรวจเจอมะเร็งในระยะ
00:11:19 → 00:11:21 ต้นนะครับเพราะมะเร็งระยะต้นเนี่ยรักษา
00:11:21 → 00:11:24 หายขาดได้ในเกือบเกือบทุกชนิดมะเร็งรวม
00:11:24 → 00:11:26 ถึงการรักษาก็ไม่ซับซ้อนแล้วก็ไม่ยากนะ
00:11:26 → 00:11:28 ครับเมื่อเปรียบเทียบกับมะเร็งระยะลูกราม
00:11:28 → 00:11:30 หรือว่าว่ามะเร็งระยะที่มากขึ้นนะครับ
00:11:30 → 00:11:32 เพราะฉะนั้นอันดับที่ 1 เลยก็คือการตรวจ
00:11:32 → 00:11:35 คัดกรองมะเร็งครับหมออยากแนะนำให้คนไข้
00:11:35 → 00:11:37 ทุกคนนะครับตรวจคัดกรองมะเร็งอย่างถูก
00:11:38 → 00:11:41 ต้องและถูกวิธีนะครับเป็นประจำนะครับ
00:11:41 → 00:11:43 เพื่อตรวจเพื่อทำให้เราเจอมะเร็งในระยะ
00:11:43 → 00:11:46 เริ่มต้นทำให้รักษาหายขาดได้นะครับอันดับ
00:11:46 → 00:11:49 ที่ 2 ก็คือการลดความเสี่ยงนะครับเจาก
00:11:49 → 00:11:52 ปัจจัยแวดล้อมที่เป็นสิ่งที่เราสามารถลด
00:11:52 → 00:11:54 ความเสี่ยงได้นะครับเพราะอย่างที่อธิบาย
00:11:54 → 00:11:57 ตั้งแต่ต้นๆว่าปัจจัยที่ทำให้เรามีโอกาส
00:11:57 → 00:11:59 เป็นมเร็งได้มากกว่าคนทั่วไปก็คือปัจจัย
00:11:59 → 00:12:02 แวดล้อมที่เพิ่มความเสี่ยงที่เราทำตัวเอง
00:12:02 → 00:12:05 นะครับการกินอาหารที่ผิดวิธีนะครับการกิน
00:12:05 → 00:12:08 ของปิ้งย่างบ่อยๆนะครับการกินเนื้อดิบ
00:12:08 → 00:12:11 เนื้อแดงบ่อยๆนะครับการสูบบุหรี่การกิน
00:12:11 → 00:12:14 เหล้านะครับรวมถึงการใช้ยาที่ไม่จำเป็น
00:12:14 → 00:12:16 พวกเยครับก็เป็นปัจจัยแวดล้อมที่เรา
00:12:16 → 00:12:18 สามารถหลีกเลี่ยงได้นะครับเพราะฉะนั้นถ้า
00:12:18 → 00:12:20 เราหลีกเลี่ยงได้เราก็จะลดโอกาสเกิดเป็น
00:12:20 → 00:12:22 มะเร็งได้มากกว่าคนที่มีปัจจัยแวดล้อมผี
00:12:22 → 00:12:25 ปกติเหล่านี้กระตุ้นอยู่เรื่อยๆนะครับรวม
00:12:25 → 00:12:27 ถึงการส่งเสริมสุขภาพที่เราสามารถทำได้
00:12:27 → 00:12:30 ง่ายยกตัวอย่างเช่นการที่พักผ่อนให้เพียง
00:12:30 → 00:12:33 พอออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอควบคุมน้ำหนัก
00:12:33 → 00:12:36 ให้ดีไม่มีไม่ให้เกิดภาวะอ้วนนะครับหรือ
00:12:36 → 00:12:38 ว่าการทำจิตใจให้ไม่เครียดนะครับพวกนี้
00:12:38 → 00:12:41 ครับก็เป็นปัจจัยที่เราสามารถปรับเปลี่ยน
00:12:41 → 00:12:43 พฤติกรรมเพื่อที่ทำให้เราห่างไกลจากโรค
00:12:43 → 00:12:45 มะเร็งได้มากขึ้น
00:12:45 → 00:12:49 [เพลง]
00:12:49 → 00:12:53 ครับ tn and Health เราจะรวบรวมความรู้
00:12:53 → 00:12:56 ทางด้านสุขภาพจากแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อ
00:12:56 → 00:12:59 ถือพร้อมก่อติดความเคลื่อนไหวจากทุก
00:12:59 → 00:13:03 ประเด็นสุขภาพรอบโลกสะท้อนผ่านความคิดมุม
00:13:03 → 00:13:05 มองของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและองค์ความรู้
00:13:05 → 00:13:09 ทางด้านต่างๆ tn and Health เข้าถึงทุก
00:13:09 → 00:13:13 สาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้มกันรู้ทัน
00:13:13 → 00:13:27 [เพลง]
00:13:27 → 00:13:31 โรค
00:13:31 → 00:13:42 [เพลง]
00:13:42 → 00:13:45 M