00:00:01 → 00:00:05 กล้ำไผลมบ่อยๆระวังเป็นโรคถุงผนังลำไส้
00:00:05 → 00:00:08 อักเสบปัญหาระบบทางเดินอาหารที่ต้องเร่ง
00:00:08 → 00:00:09 แก้
00:00:09 → 00:00:14 ไขเปิดแนวทางรักษาโรคถุงผนังลำไส้อักเสบ
00:00:14 → 00:00:16 และคำแนะนำเพื่อลดความ
00:00:16 → 00:00:19 เสี่ยงรู้จักประโยชน์ของไฟเบอร์ที่ดีต่อ
00:00:19 → 00:00:24 ลำไส้ตัวช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจ
00:00:24 → 00:00:27 ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในรายการ TNN
00:00:27 → 00:00:30 Health วันนี้
00:00:30 → 00:00:34 สวัสดีค่ะขอต้อนรับคุณผู้ชมเข้าสู่รายการ
00:00:34 → 00:00:38 TNN เข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิคุ้ม
00:00:38 → 00:00:42 กันรู้ทันโรคค่ะและดิฉันหมอดาวแพทย์หญิง
00:00:42 → 00:00:45 ฉัดาวจังวังกรแพทย์เฉพาะทางสาขาเวชศาสตร์
00:00:45 → 00:00:48 ครอบครัวพร้อมที่จะรับหน้าที่เป็นผู้
00:00:48 → 00:00:51 ดำเนินรายการพาคุณผู้ชมมาเข้าถึงสาระ
00:00:51 → 00:00:58 สุขภาพดีๆกันค่ะ
00:00:58 → 00:01:01 [เพลง]
00:01:01 → 00:01:04 สำหรับสัปดาห์นี้นะคะเราจะมาพูดคุยกัน
00:01:04 → 00:01:08 เรื่องโรคถุงผนังลำไส้อักเสบโรคระบบทาง
00:01:08 → 00:01:11 เดินอาหารที่ต้องเร่งรักษาค่ะสำหรับโรค
00:01:12 → 00:01:15 นี้นะคะหลายคนอาจจะสงสัยว่ามันมีด้วยหรือ
00:01:15 → 00:01:18 มีอยู่จริงค่ะเป็นโรคที่ถึงแม้ว่าไม่ได้
00:01:18 → 00:01:21 พบมากแต่ถ้าพบแล้วและไม่ได้รักษาเป็น
00:01:21 → 00:01:25 อันตรายถึงชีวิตได้เช่นกันถุงผนังลำไส้
00:01:25 → 00:01:29 อักเสบหรือ diverticulitis คือโรคที่เกิด
00:01:29 → 00:01:32 จากจากการอักเสบนูนพองบริเวณลำไส้ใหญ่
00:01:32 → 00:01:36 ส่วนล่างหรือผนังช่องทองที่ไม่แข็งแรงและ
00:01:36 → 00:01:39 มีถุงเล็กๆขึ้นมาส่งผลให้มีการบวมแดงเป็น
00:01:39 → 00:01:43 ฝีกลายเป็นแผลแตกได้โดยความเสี่ยงของโรค
00:01:43 → 00:01:46 ถุงผนังลำไส้อักเสบนี้จะมาจากพฤติกรรม
00:01:46 → 00:01:51 ต่างๆที่ไม่มีใครคาดคิดเช่นการกลั้นพายลม
00:01:51 → 00:01:54 บ่อยๆการมีน้ำหนักเกินเกณฑ์มาตรฐานมี
00:01:54 → 00:01:57 ปัญหาการขับถ่ายไม่สะดวกอีกทั้งโรคนี้หาก
00:01:58 → 00:02:01 เป็นแล้วไม่สามารถหายขได้ทำได้เพียงแค่
00:02:01 → 00:02:06 รักษาบรรเทาอาการเท่านั้นสำหรับสาเหตุของ
00:02:06 → 00:02:11 โรคทุงผนังลำไส้อักเสบคือ 1 อายุและเพศ
00:02:11 → 00:02:14 ยิ่งมีอายุมากขึ้นก็ยิ่งทำให้มีความ
00:02:15 → 00:02:18 เสี่ยงต่อการเกิดโรคถุงผนังลำไส้อักเสบ
00:02:18 → 00:02:22 สูงขึ้น 2 พันธุกรรมมีการศึกษาพบว่าผู้
00:02:22 → 00:02:25 ที่มีความสัมพันธ์ทางเครือญาติหรือเป็น
00:02:25 → 00:02:28 แฝดกับผู้ป่วยถุงผนังลำไส้อักเสบมีโอกาส
00:02:29 → 00:02:34 เกิดโรคนี้มากกว่าปกติ 3 โรคอ้วนผู้ที่มี
00:02:34 → 00:02:37 น้ำหนักตัวมากเกินไปจนเกิดเป็นโรคอ้วนอาจ
00:02:37 → 00:02:41 เสี่ยงเกิดภาวะไดอติติและมีเลือดออกใน
00:02:41 → 00:02:44 ระบบย่อยอาหารแต่ยังไม่อาจหาข้อสรุปหรือ
00:02:44 → 00:02:48 อธิบายได้ว่าโรคอ้วนมีความสัมพันธ์กับการ
00:02:48 → 00:02:51 เกิดโรคนี้อย่างไร 4 การรับประทานเส้นใย
00:02:51 → 00:02:54 อาหารไม่เพียงพอเส้นใยอาหารหรือไฟเบอร์
00:02:54 → 00:02:58 ที่พบมากในผักผลไม้และธัญพืชไม่ขัดสีนั้น
00:02:58 → 00:03:01 มีส่วนช่วยกระตุ้นการขับถ่ายการรับประทาน
00:03:01 → 00:03:04 อาหารประเภทนี้น้อยอาจทำให้เกิดความ
00:03:04 → 00:03:07 เสี่ยงของถุงผนังลำไส้อักเสบได้ 5 ออก
00:03:07 → 00:03:11 กำลังกายน้อยมีข้อสันนิษฐานว่าการเคลื่อน
00:03:11 → 00:03:14 ไหวร่างกายไม่มากพอหรือออกกำลังกายน้อย
00:03:14 → 00:03:18 กว่า 30 นาทีต่อวันอาจทำให้มีความเสี่ยง
00:03:18 → 00:03:21 ในการเกิดโรคเกี่ยวกับถุงผนังลำไส้อักเสบ
00:03:21 → 00:03:25 สูงขึ้น 6 การสุบบุหรี่ค่ะการสุบบุหรี่
00:03:25 → 00:03:27 นั้นนอกจากจะทำให้เกิดการอักเสบต่อร่าง
00:03:27 → 00:03:31 กายแล้วยังส่งผลทำให้เกิดโรคทุ้งผนังลำ
00:03:31 → 00:03:35 ไส้อักเสบได้ง่ายอีกด้วย 7 การใช้ยาบาง
00:03:35 → 00:03:39 ชนิดการใช้ยาแอสไพรินหรือยาแก้อักเสบใน
00:03:39 → 00:03:42 กลุ่มเอ็นเสดติดต่อกันเป็นประจำอาจเพิ่ม
00:03:42 → 00:03:45 ความเสี่ยงให้เกิดโรคถุงผนังลำไส้อักเสบ
00:03:45 → 00:03:48 นอกจากนี้การใช้ยาสเตียรอยด์และยาระงับ
00:03:48 → 00:03:51 ปวดชนิดเสพติดบางตัวอาจเสี่ยงก่อให้เกิด
00:03:51 → 00:03:54 ลำไส้ทะลุซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนร้ายแรงได้
00:03:54 → 00:03:59 ด้วย 8 การขาดวิตามินดีมีการศึกษาพบว่า
00:03:59 → 00:04:02 ผู้ป่วยถุงผนังลำไส้อักเสบที่มีระดับ
00:04:02 → 00:04:05 วิตามินดีต่ำกว่าปกติแต่ยังไม่มีข้อสรุป
00:04:05 → 00:04:08 ที่แน่ชัดว่าการขาดวิตามินดีเกี่ยวข้อง
00:04:09 → 00:04:13 กับการเกิดโรคนี้อย่างไร 9 การกลั้นผายลม
00:04:13 → 00:04:15 ทำให้เกิดการสะสมของแก๊สในระบบทางเดิน
00:04:16 → 00:04:19 อาหารช่องท้องจึงเกิดการขยายตัวและเป็น
00:04:19 → 00:04:22 สาเหตุของโรคถุงผนังลำไส้อักเสบได้สำหรับ
00:04:22 → 00:04:26 อาการของโรคถุงผนังลำไส้อักเสบค่ะอาจเกิด
00:04:26 → 00:04:29 ขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปในไม่กี่วันได้
00:04:29 → 00:04:33 แบบนี้ค่ะ 1 มีอาการกดเจ็บหรือปวดเกร็ง
00:04:33 → 00:04:37 ที่ท้องส่วนล่างบริเวณด้านซ้ายหรือด้าน
00:04:37 → 00:04:41 ขวาโดยอาจปวดเรื้อรังและรุนแรง 2 มีไข้
00:04:41 → 00:04:48 สูงกว่า 38 องศเซซ 3 หนาวสั่น 4 ท้องอืด 5
00:04:48 → 00:04:52 เบื่ออาหาร 6 ท้องผูกหรือท้องเสีย 7 รู้
00:04:52 → 00:04:55 สึกคลื่นไส้หรืออาเจียน 8 เหนื่อยอ่อน
00:04:55 → 00:04:59 เพลีย 9 อุจจาระปนเลือดหรือมีเลือดออกทาง
00:04:59 → 00:05:03 หนักทั้งนี้ผู้ป่วยต้องรีบไปพบแพทย์ทันที
00:05:03 → 00:05:07 นะคะหากมีอาการผิดปกติดังต่อไปนี้ 1 มี
00:05:07 → 00:05:10 อาการปวดท้องรุนแรงกว่าเดิมโดยเฉพาะเมื่อ
00:05:10 → 00:05:13 ขยับตัวหรือไอ 2 อุจจาระปนเลื่อนมากผิด
00:05:13 → 00:05:17 ปกติอุจจาระมีสีแดงหรือสีดำเนื่องจากมี
00:05:17 → 00:05:21 เลือดออกในระบบทางเดินอาหาร 3 มีลมหรือ
00:05:21 → 00:05:24 อุจจาระออกมาจากท่อปัสสาวะในขณะปัสสาวะ
00:05:24 → 00:05:27 ซึ่งเกิดจากการเชื่อมต่อกันอย่างผิดปกติ
00:05:27 → 00:05:30 ระหว่างทางเดินปัสสาวะและทวารหนัก
00:05:30 → 00:05:33 ได้รู้จักกับโรคถุงผนังลำไส้อักเสบกันไป
00:05:33 → 00:05:36 แล้วนะคะคุณผู้ชมในช่วงนี้เรายังอยู่กัน
00:05:36 → 00:05:39 ที่ถุงผนังลำไส้อักเสบโรคระบบทางเดิน
00:05:39 → 00:05:42 อาหารที่ต้องเร่งรักษาค่ะและในช่วงนี้นะ
00:05:42 → 00:05:45 คะเราจะไปพบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอาจารย์
00:05:45 → 00:05:48 หมอจะมาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของ
00:05:48 → 00:05:51 โรคถุงผนังลำไส้อักเสบกันสวัสดีค่ะ
00:05:51 → 00:05:56 อาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะ
00:05:56 → 00:06:01 [เพลง]
00:06:01 → 00:06:05 อาจารย์คะผู้ป่วยโรคถุงผนังลำไส้อักเสบจะ
00:06:05 → 00:06:07 ต้องรักษาตัวและกินยาไปตลอดชีวิตเลยหรือ
00:06:07 → 00:06:11 ไม่คะคือโรคกลุ่มนี้นะคะโรคถุงผนังลำไส้
00:06:11 → 00:06:14 อักเสบเนี่ยเป็นโรคที่เจอไม่บ่อยนะคะเอ่อ
00:06:14 → 00:06:16 ในการรักษาแล้วเนี่ยก็คือเ่อจำเป็นต้อง
00:06:16 → 00:06:19 กินยาแต่ไม่ได้หมายความว่าต้องกินตลอด
00:06:19 → 00:06:22 ชีวิตโดยส่วนใหญ่มักจะหายได้เองในระยะ
00:06:22 → 00:06:25 เวลาอันสั้นแต่ถ้าเป็นกรณีที่มีเอ่อโรค
00:06:25 → 00:06:28 รุนแรงหรือมีภาวะแทรกซ้อนก็อาจจะต้องใช้
00:06:28 → 00:06:30 เวลานานกว่าแต่ส่วนเนี่ยมักจะเป็นแบบไม่
00:06:30 → 00:06:33 รุนแรงมากกว่านอกจากผู้ที่มีอายุเยอะแล้ว
00:06:33 → 00:06:36 ค่ะอาจารย์ผู้ที่มีอายุน้อยเสี่ยงในการ
00:06:36 → 00:06:39 เป็นโรคนี้ได้หรือไม่คะกรณีโลกของถุงผนัง
00:06:39 → 00:06:42 ลำไส้อักเสบเนี่ยมักจะพบในคนไข้ที่อายุ
00:06:42 → 00:06:45 เกิน 60 ปีเป็นหลักแต่ก็จะมีบางกรณีที่
00:06:45 → 00:06:48 เจอได้ในคนที่อายุน้อยกว่า 60 ปีแต่ว่าก็
00:06:48 → 00:06:51 ไม่ไม่บ่อยนะคะทีนี้ถามว่าเป็นเพราะอะไร
00:06:51 → 00:06:53 เพราะว่ามันมีความผิดปกติบางอย่างของผนัง
00:06:53 → 00:06:56 ลำไส้เองหรือว่ามีกลไกบางงอย่างที่
00:06:56 → 00:06:59 สนับสนุนให้เขาเกิดเรื่องของถุงผนังลำไส้
00:06:59 → 00:07:01 มากกว่าปกติก็จะทำให้เกิดได้ในคนที่อายุ
00:07:01 → 00:07:05 ไม่ไม่มากนะคะแล้วแพทย์จะมีการวินิจฉัย
00:07:05 → 00:07:08 โรคถุงผนังลำไส้อักเสบอย่างไรคะอาจารย์
00:07:09 → 00:07:11 เริ่มต้นคือเราต้องสงสัยก่อนหมายความว่า
00:07:11 → 00:07:14 คนไข้มีอาการที่เข้าได้กับโรคนี้เมื่อ
00:07:14 → 00:07:17 แพทย์สงสัยก็จะมีการตรวจร่างกายเพิ่มเติม
00:07:17 → 00:07:20 นะคะกรณีที่เราต้องการความแน่นอนในการ
00:07:20 → 00:07:23 วินิจฉัยเนี่ยเราก็จะแนะนำให้คนไข้ทำ xray
00:07:23 → 00:07:26 คอมพิวเตอร์ช่องท้องเพื่อที่จะดูว่าถุง
00:07:26 → 00:07:28 ผนังล้ำไส้เนี่ยมันมีการอักเสบจริงหรือ
00:07:28 → 00:07:30 ไม่ 1 ก็คือเป็นการที่ที่จะเอ่อคอนเฟิร์ม
00:07:30 → 00:07:32 การวินิจฉัยว่าไม่ใช่โรคอื่นเมื่อเรา
00:07:32 → 00:07:35 คอนเฟิร์มได้แล้วเราก็จะดูว่าระดับของ
00:07:35 → 00:07:38 เอ่อการอักเสบหรือความรุนแรงของโลกเนี่ย
00:07:38 → 00:07:41 เป็นระดับไหนแล้วก็มีคภาวะแทรกซ้อนร่วม
00:07:41 → 00:07:43 ด้วยหรือเปล่าเนื่องจากในการรักษาเนี่ย
00:07:43 → 00:07:46 มันก็จะแตกต่างกันแล้วแนวทางในการรักษา
00:07:46 → 00:07:50 โรคถุงผนังลำไส้อักเสบทำได้กี่วิธีคะ
00:07:50 → 00:07:52 เบื้องต้นเนี่ยจะต้องแบ่งก่อนว่าเป็นคน
00:07:52 → 00:07:55 ไข้เอ่อไม่ซับซ้อนก็จะสามารถรักษาได้ด้วย
00:07:55 → 00:08:00 การกินยาหรือให้ยาทางหลอดเลือดนะคะคะซึ่ง
00:08:00 → 00:08:03 หลักๆแล้วก็จะเป็นเรื่องของยาแก้ปวดหรือ
00:08:03 → 00:08:06 ยาแก้บีบเกร็งของลำไส้ร่วมไปกับการพักลำ
00:08:06 → 00:08:09 ไส้หมายความว่ากินอาหารที่เป็นอ่อนๆก่อน
00:08:09 → 00:08:11 ก็คืออาในช่วงแรกอาจจะต้องเริ่มเป็น
00:08:11 → 00:08:13 เรื่องของอาหารที่เป็นน้ำเป็นหลักแล้วพอ
00:08:13 → 00:08:17 อาการปวดดีขึ้นก็จะกินอาหารที่เป็นอาหาร
00:08:17 → 00:08:20 อ่อนค่อยๆสเต็ปตามระดับความปวดโดยภาพรวม
00:08:20 → 00:08:23 แล้วก็คือจะรักษาด้วยยาเป็นหลักแต่ถ้า
00:08:23 → 00:08:26 เป็นกรณีที่คนไข้มีความเอ่อซับซ้อนหรือ
00:08:26 → 00:08:29 เป็นกลุ่มที่มีภาวะแทรกซ้อนร่วมด้วยเนี่ย
00:08:29 → 00:08:33 ไม่ว่าจะเป็นฝีที่บริเวณเ่อถุงผนังนั้น
00:08:33 → 00:08:35 คือมันอักเสบมากจนเกิดเป็นฝีบริเวณนั้น
00:08:35 → 00:08:38 หรือมีการแตกของถุงผนังลำไส้นั้นด้วยซึ่ง
00:08:38 → 00:08:40 ถ้ามันเป็นแบบนั้นเนี่ยถือว่าเป็นภาวะที่
00:08:40 → 00:08:42 ค่อนข้างจะรุนแรงจะต้องมีการรักษาอื่น
00:08:43 → 00:08:45 เพิ่มเติมในกรณีที่เป็นหนองเนี่ยอาจจะ
00:08:45 → 00:08:48 ต้องมีการเจาะเพื่อระบายหนองออกมาบริเวณ
00:08:48 → 00:08:51 หน้าหน้าท้องอันที่ 2 ก็คือถ้ามีเรื่อง
00:08:51 → 00:08:54 ของการแตกของถุงผนังน้ำไส้เนี่ยมันอาจจะ
00:08:54 → 00:08:57 ต้องมีการผ่าตัดเข้ามาเกี่ยวข้องนะคะอื่น
00:08:57 → 00:08:59 ๆที่เจอได้แต่เจอได้น้อยลงไปอีกก็คือ
00:08:59 → 00:09:02 เรื่องของเอ่อการที่มันมีการอักเสบซ้ำไป
00:09:02 → 00:09:05 ซ้ำมาก็จะเกิดการตีบของลำไส้เกิดการอุด
00:09:05 → 00:09:08 ตันของลำไส้ได้อาจจะเกิดการฟอร์มทาง
00:09:08 → 00:09:11 เชื่อมใหม่ของอวัยวะในช่องท้องบริเวณใกล้
00:09:11 → 00:09:13 เคียงถ้าเป็นแบบนั้นก็จะถือว่าเป็นภาวะ
00:09:13 → 00:09:16 ซับซ้อนอย่างมากก็คือแซกเป็นภาวะแทรกซ้อน
00:09:16 → 00:09:18 ที่ต้องได้รับการดูแลต่อเนื่องยาวนานแล้ว
00:09:18 → 00:09:20 ก็อาจจะต้องพิจารณาการผ่าตัดเป็นอันดับ
00:09:20 → 00:09:23 ต้นๆอาจารย์คะแล้วหากคนไข้ที่เป็นโรคทุง
00:09:23 → 00:09:26 ผนังลำไส้อักเสบไม่ได้รับการรักษาอย่าง
00:09:26 → 00:09:29 ทันท่วงทีหรือการรักษาด้วยวิธีที่ถูกต้อง
00:09:29 → 00:09:32 จะเกิดภาวะโรคภาวะแทรกซ้อนอะไรได้บ้างคะ
00:09:32 → 00:09:35 ค่ะโดยทั่วไปโรคถุงผนังล้ำแสรกอักเสบอ่ะ
00:09:35 → 00:09:38 นะคะเป็นภาวะที่เอ่อค่อนข้างจะรักษาไม่
00:09:38 → 00:09:41 ไม่ยากถ้าเกิดว่าไม่ไม่ซับซ้อนก็คือรักษา
00:09:41 → 00:09:43 ด้วยยาแล้วก็อาการมักจะดีขึ้นเองในเวลา
00:09:43 → 00:09:46 อันสั้นโดยทั่วไปก็ภายใน 2-3 วันหรือไม่
00:09:46 → 00:09:48 เกิน 1 สัปดาห์แต่ถ้าเกิดว่าโรคมันดำเนิน
00:09:48 → 00:09:50 ต่อหรือว่าเราไม่ได้รักษาอย่างถูกต้องเื
00:09:50 → 00:09:53 แต่แรกเนี่ยมันก็อาจจะเกิดภาวะแทรกซ้อน
00:09:53 → 00:09:55 ตามมาโดยภาวะแทรกซอนที่เกิดขึ้นมีอะไรได้
00:09:55 → 00:09:58 บ้างนะคะอันที่ 1 ก็คือที่เจอได้บ่อยที่
00:09:58 → 00:10:01 สุดนะคะประมาณ 7 10% ก็คือมีการเกิดฝี
00:10:01 → 00:10:04 ที่บริเวณใกล้ๆกับถุงผนังอักเสบนั้นการ
00:10:04 → 00:10:07 เกิดฝีเนี่ยมันก็จะทำให้เกิดหนองอยู่ข้าง
00:10:07 → 00:10:09 ในการที่จะรักษาเนี่ยก็ต้องมีเรื่องของ
00:10:09 → 00:10:12 การเจาะระบายหนองซึ่งทำให้ยุ่งยากขึ้นไป
00:10:12 → 00:10:14 อีกนอกจากจะมีฝีหนองแล้วเนี่ยบางครั้งมัน
00:10:14 → 00:10:17 อาจจะเกิดการแตกของถุงผนังน้ำไส้ที่
00:10:17 → 00:10:19 อักเสบนั้นเนื่องจากมันมีความบอบบางมี
00:10:20 → 00:10:22 ความอักเสบก็อาจจะทำให้แตกได้ง่ายขึ้นพอ
00:10:22 → 00:10:24 มันแตกปุ๊บเนี่ยอันนี้เป็นเรื่องใหญ่เลย
00:10:24 → 00:10:26 จะต้องมีการรักษาเรื่องของการผ่าตัดเข้า
00:10:26 → 00:10:29 มาเกี่ยวข้องด้วยเวลาที่แบบเร่งด่วนนอก
00:10:29 → 00:10:32 จากนั้นก็ยังมีเ่อภาวะแทรกซ้อนที่เกิด
00:10:32 → 00:10:35 ขึ้นได้แต่ไม่บ่อยนะคะก็คือการสร้างทาง
00:10:35 → 00:10:38 เชื่อมใหม่ระหว่างอวัยวะที่บริเวณใกล้
00:10:38 → 00:10:40 เคียงกับการอักเสบนั้นก็คือถ้าเกิดกรณี
00:10:40 → 00:10:43 แบบนี้เกิดขึ้นก็จะต้องมีการผลัตัดเข้ามา
00:10:43 → 00:10:46 เกี่ยวข้องเหมือนกันอ่านอกจากนี้ก็ยังมี
00:10:46 → 00:10:50 เรื่องของการเกิดตีบตันของลำไส้การอุดตัน
00:10:50 → 00:10:53 ของลำไส้เนื่องจากเป็นการอักเสบยาวนาน
00:10:53 → 00:10:56 เอ่อลำไส้ก็มีการสร้างพังผืนมากขึ้นโดย
00:10:56 → 00:10:59 ทั่วไปแล้วจะไม่พัฒนาไปเป็นโรคกลุ่มโรค
00:10:59 → 00:11:01 มะเร็งหรืออะไรแบบนี้นะคะเพียงแต่ว่ามัน
00:11:01 → 00:11:05 ก็จะทำให้เกิดเอ่อผลเสียในแง่ของการทำงาน
00:11:05 → 00:11:08 ของลำไส้ระยะยาวแล้วก็คุณภาพชีวิตของคณ
00:11:08 → 00:11:10 ไข้ก็อาจจะลดลงในแง่ที่ว่าปวดท้องเรื้อ
00:11:11 → 00:11:13 รังหรือว่ามีการขับถ่ายที่ผิดปกตินอกจาก
00:11:13 → 00:11:16 นี้นะคะในเรื่องของภาวะแทรกซ้อนเนี่ยอ่า
00:11:16 → 00:11:19 ที่จะต้องพูดถึงนะคะจะไม่ใช่ภาวะแทรกซ้อน
00:11:19 → 00:11:21 แต่เป็นสิ่งที่จะต้องคำนึงถึงเสมอในคนไข้
00:11:21 → 00:11:25 กลุ่มที่มีการอักเสบของถุงผนังลำไส้นั่น
00:11:25 → 00:11:27 ก็คือจะต้องหาเรื่องของมะเร็งลำไส้ร่วม
00:11:27 → 00:11:30 ด้วยอ่าไม่ได้เกี่ยวข้องกันตรงโดยตรงแต่
00:11:30 → 00:11:34 ว่าเนื่องจากว่าอาการของคนไข้ที่นำมาสู่
00:11:34 → 00:11:38 การวินิจฉัยภาวะเนี้ยอาจจะคล้ายคลึงกับ
00:11:38 → 00:11:40 อาการของโรคมะเร็งลำไส้ในการที่เรา
00:11:40 → 00:11:42 วินิจฉัยโรคนี้เราจะผ่านการทำเคเตอร์มา
00:11:42 → 00:11:45 ก่อนแต่อย่างไรก็ตามเคเตอร์เนี่ยเราจะพบ
00:11:45 → 00:11:48 ว่ามีประมาณสัก 10% ที่ทำให้ไม่สามารถ
00:11:48 → 00:11:51 วินิจฉัยภาวะมะเร็งลำไส้ได้หมายความว่าคน
00:11:51 → 00:11:54 ไข้อาจจะมีทั้ง 2 อย่างในเวลาเดียวกัน
00:11:54 → 00:11:56 เพราะฉะนั้นเนี่ยเลยเป็นข้อบ่งชี้ว่า
00:11:56 → 00:11:59 เมื่อไหร่ก็ตามที่มีการอักเสบของถุงผนังล
00:11:59 → 00:12:01 น้ำไส้เนี่ยจะต้องมีการส่องกล้องน้ำไส้
00:12:01 → 00:12:03 ใหญ่ภายหลังจากการอักเสบหายไปแล้วอย่าง
00:12:03 → 00:12:06 น้อยประมาณ 6-8 สัปดาห์ค่ะจะต้องมีการ
00:12:06 → 00:12:10 ตรวจเพิ่มเติมแล้วผู้ป่วยโรคนี้จะต้อง
00:12:10 → 00:12:12 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตอย่างไร
00:12:12 → 00:12:17 บ้างคะมีข้อมูลนะคะว่าเอ่อการเกิดเรื่อง
00:12:17 → 00:12:20 ของถุงกระเปาะลำไส้อักเสบเนี่ยมันอ่า
00:12:20 → 00:12:24 เกี่ยวข้องกับ 1 ก็คือภาวะการที่เรากิน
00:12:24 → 00:12:26 อาหารที่กากดใยต่ำอันที่ 2 ก็คือเรื่อง
00:12:26 → 00:12:29 ของภาวะอ้วนหรือการที่เราไม่ค่อยขยับร่าง
00:12:29 → 00:12:32 กายไม่ค่อยออกกำลังกายอันที่ 3 ก็คือการ
00:12:32 → 00:12:36 สูบบุหรี่นะคะก็จะเกี่ยวข้องอันที่ 4 ก็
00:12:36 → 00:12:39 คือเอ่อการใช้ยาบางชนิดเช่นยาต้านการ
00:12:39 → 00:12:42 อักเสบได้แก่พวกกลุ่มเอเตหรือยาแก้ปวด
00:12:42 → 00:12:46 กลุ่มโอยหรือกลุ่มสเตียรอยด์กลุ่มยากลุ่ม
00:12:46 → 00:12:49 เหล่าเนี้ยก็พบว่าเพิ่มโอกาสการเกิดถุง
00:12:49 → 00:12:51 ผนังลำไส้อักเสบได้เพราะฉะนั้นเนี่ยถ้า
00:12:51 → 00:12:54 เกิดในทางกลับกันถ้าเราจะคิดว่าเราจะป้อง
00:12:54 → 00:12:56 กันอย่างไรหรือปรับเปลี่ยนวิธีการใช้ใช้
00:12:56 → 00:12:58 ชีวิตอย่างไรเนี่ยเราก็พยายามเอ่อลดสิ่ง
00:12:58 → 00:13:01 เหล่านี้โดยแนะนำว่า 1 กินอาหารกากใยสูง
00:13:01 → 00:13:05 มากขึ้นอันที่ 2 ก็คือพยายามออกกำลังกาย
00:13:05 → 00:13:07 แล้วก็เพิ่ม activity ในการใช้ชีวิตประจำ
00:13:07 → 00:13:10 วันก็วันที่ 3 ก็เป็นไปได้ก็ลดความอ้วนงด
00:13:10 → 00:13:13 การสูบบุหรี่พยายามหลีกเลี่ยงการใช้ยาแก้
00:13:13 → 00:13:15 แก้ปวดโดยไม่จำเป็นแนะนำว่าควรปรึกษา
00:13:15 → 00:13:18 แพทย์ก่อนเสมอแล้วอาหารที่ควรเลี่ยงหรือ
00:13:18 → 00:13:21 ว่าควรรับประทานสำหรับผู้ป่วยโรคถุงผนัง
00:13:21 → 00:13:24 ลำไส้อักเสบคืออะไรคะอาจารย์สำหรับข้อมูล
00:13:24 → 00:13:28 เรื่องของอาหารที่เช่วยลดการเกิดอ่ะนะคะ
00:13:28 → 00:13:31 ก็หลักๆหๆแล้วก็จะเป็นเรื่องของอาหารที่
00:13:31 → 00:13:35 กากใยสูงจะช่วยทำให้การเกิดการอักเสบของ
00:13:35 → 00:13:37 ถุงผนังน้ำไส้เนี่ยลดลงอันนึงก็คือเรื่อง
00:13:37 → 00:13:40 ของอาหารที่จะทำให้เป็นมากขึ้นก็จะเป็น
00:13:40 → 00:13:42 กลุ่มอาหารที่เรียกว่า Western Diet ได้
00:13:42 → 00:13:45 แก่พวกแบบอาหารก่าไขมันสูงหรือว่าในกลุ่ม
00:13:45 → 00:13:48 พวกจังฟู้ดเหล่าๆเนี่ยมันก็จะเป็นตรงกัน
00:13:48 → 00:13:51 ข้ามกันอยากให้อาจารย์แนะนำค่ะว่าสำหรับ
00:13:51 → 00:13:53 ผู้ที่ไม่ชอบหรือว่าไม่ชินการรับประทาน
00:13:53 → 00:13:56 อาหารกลุ่มที่มีใยอาหารสูงจะทำอย่างไรได้
00:13:56 → 00:14:00 บ้างเพื่อที่จะได้ยอาหารค่ะอาจารย์ก็
00:14:00 → 00:14:03 สำหรับคนที่ไม่ไม่ชินกับการกินผับผลไม้สด
00:14:03 → 00:14:05 ใช่ไหมยคะเอ่อเราจริงๆแล้วเราต้องการแค่
00:14:05 → 00:14:07 ไฟเบอร์เนาะเพราะฉะนั้นเราอาจจะใช้วิธี
00:14:07 → 00:14:11 การเปลี่ยนรูปของความผักผลโสดเนี่ย
00:14:11 → 00:14:15 เปลี่ยนให้มันเป็นเ่อแปรรูปเช่นต้มนึ่ง
00:14:15 → 00:14:19 ผัดหรือว่าไปปรุงอาหารหรือว่ามาปั่นเป็น
00:14:19 → 00:14:22 น้ำปั่นหรืออะไรแบบเนี้ยก็อาจจะใส่รสชาติ
00:14:22 → 00:14:25 เพิ่มเติมอะไรแบบเนี้ยมันก็อาจจะคงความ
00:14:25 → 00:14:27 เป็นกากใหยโดยที่ไม่ได้อยู่ในรูปแบบของ
00:14:27 → 00:14:31 การกินสดๆอาจจะลำบากน้อยกว่าอะไรเงี้ค่ะ
00:14:31 → 00:14:33 เราจะมีวิธีการป้องกันเพื่อที่จะไม่ให้
00:14:33 → 00:14:36 เป็นโรคถุงผนังลำไส้อักเสบได้อย่างไรบ้าง
00:14:36 → 00:14:39 คะข้อแนะนำเนี่ยมันยังไม่ได้ชัดเจนนักนะ
00:14:39 → 00:14:42 คะแต่ว่าเท่าที่มีการศึกษามาเนี่ยพบว่า
00:14:42 → 00:14:44 หนึ่งในแง่ของยาเนี่ยยังไม่มีประโยชน์ไม่
00:14:44 → 00:14:47 ว่าตัวไหนก็ตามยังไม่ยังไม่มีคำแนะนำว่า
00:14:47 → 00:14:48 ต้องกินตัวนั้นตัวนี้ถึงจะทำให้ป้องกัน
00:14:49 → 00:14:50 ได้เรื่องของอาหารและการใช้ชีวิตจะะมาก
00:14:51 → 00:14:52 กว่าแนะนำเหมือนเดิมก็คือเป็นเรื่องของ
00:14:52 → 00:14:55 อาหารที่มีเน้นไฟเบอร์เป็นหลักหลีกเลี่ยง
00:14:55 → 00:14:58 อาหารพวกที่มันเป็นกลุ่มไขมันสูงหรือว่า
00:14:58 → 00:15:00 เป็นพวกกลุ่มจังฟอะไรแบบนี้ตี้เรื่องของ
00:15:00 → 00:15:04 การออกกำลังกายก็แนะนำว่าเพิ่มเอ่อการออก
00:15:04 → 00:15:07 กำลังเอ่อในใช้การใช้ชีวิตอะไรอย่างเงี้ย
00:15:07 → 00:15:10 ค่ะพยายามเปลี่ยนไสตล์ของตัวเองให้ Active
00:15:10 → 00:15:12 มากขึ้นหลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่เนาะแล้วก็
00:15:12 → 00:15:15 หลีกเลี่ยงการใช้ยาที่ไม่จำเป็นพยายามลด
00:15:15 → 00:15:17 ความอ้วนจริงๆแล้วที่แนะนำมาก็เป็นข้อดี
00:15:17 → 00:15:19 กับสุขภาพโดยรวมอยู่แล้วนะคะโดยที่ไม่ได้
00:15:19 → 00:15:22 เฉพาะเจาะจงของโรคนี้อย่างเดียวอยากจะฝาก
00:15:22 → 00:15:25 ไว้นิดนึงนะคะว่าในกรณีที่ถ้าคนไข้มี
00:15:25 → 00:15:28 อาการที่สงสัยนะคะได้แก่ 1 คืออาการปวด
00:15:28 → 00:15:30 ท้องไม่ว่าตรงไหนก็ตามเนาะอาจจะเป็นด้าน
00:15:31 → 00:15:33 ล่างด้านซ้ายด้านขวาและอันที่ 2 ก็คือ
00:15:33 → 00:15:36 เรื่องของไข้หรือมีอาการขึ่งไส้อาเจียนมี
00:15:36 → 00:15:38 ถ่ายเหวผิดปกติร่วมด้วยเนี่ยให้แนะนำว่า
00:15:38 → 00:15:42 ให้เข้ามาตรวจพบคุณหมอเฉพาะทางเพื่อที่จะ
00:15:42 → 00:15:44 ได้รับการวินิจฉัยอย่างถูกต้องนะคะหรือ
00:15:45 → 00:15:47 เพื่อที่จะนำไปสู่การรักษาให้ถูกต้องทัน
00:15:47 → 00:15:49 ท่วงทีก่อนที่จะเอ่อเปลี่ยนไปเรื่องของ
00:15:49 → 00:15:52 ภาวะไส้ซ้อนอื่นๆขอบพระคุณอาจารย์หมอที่
00:15:52 → 00:15:55 มาให้ความรู้ความเข้าใจในเรื่องของโรคถุง
00:15:55 → 00:15:58 ผนังลำไส้อักเสบค่ะและในช่วงนี้นะคะเราจะ
00:15:58 → 00:16:01 ไปรู้กันว่าใยอาหารหรือว่าไฟเบอร์นั้นดี
00:16:01 → 00:16:05 ต่อสุขภาพอย่างไรกันบ้างค่ะใยอาหาร Diary
00:16:05 → 00:16:09 Fiber คือส่วนของโครงสร้างของพืชร้อยละ
00:16:09 → 00:16:13 99 พบในผักผลไม้และเมล็ดธัญพืชซึ่งจะไม่
00:16:13 → 00:16:16 ถูกย่อยโดยเอนไซม์ในทางเดินอาหารยอาหารมี
00:16:16 → 00:16:19 ผลต่อระบบการทำงานของร่างกายหลายด้านเช่น
00:16:19 → 00:16:23 ลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดมีผลต่อระดับ
00:16:23 → 00:16:26 น้ำตาลลดอัตราเสียงการเป็นโรคหัวใจลดความ
00:16:26 → 00:16:29 อ้วนป้องกันมะเร็งปรับปรุปรุงหน้าที่ของ
00:16:29 → 00:16:33 ลำไส้ใหญ่เป็นต้นเราสามารถแบ่งใยอาหาร
00:16:33 → 00:16:38 เป็น 2 ชนิดคือ 1 ยอาหารที่ละลายน้ำหรือ
00:16:38 → 00:16:41 soluble Fiber คือเส้นใหญ่อาหารส่วนที่
00:16:41 → 00:16:44 มีคุณสมบัติในการละลายน้ำได้และสามารถดูด
00:16:44 → 00:16:48 ซับที่ละลายในน้ำได้ไว้กับตัวเช่น Pin กั
00:16:48 → 00:16:52 ul เป็นสารที่ละลายในน้ำที่ร่างกายย่อย
00:16:52 → 00:16:55 ไม่ได้พบได้ภายในเซลล์พืชมีส่วนทำให้
00:16:55 → 00:16:59 อาหารผ่านไปในทางเดินอาหารช้าลงนอกจากนี้
00:16:59 → 00:17:03 ยังช่วยลดการดูดซึมโคเลสเตอรอลพบมากในพืช
00:17:03 → 00:17:08 จำพวกถั่วรำข้าวโอ๊ตผักและผลไม้ 2 ใย
00:17:08 → 00:17:12 อาหารที่ไม่ละลายน้ำหรือ insoluble Fiber
00:17:12 → 00:17:14 ใยอาหารส่วนนี้จะไม่ละลายน้ำแต่จะเกิดการ
00:17:14 → 00:17:19 พองตัวในน้ำลักษณะคล้ายฟองน้ำทำให้มีการ
00:17:19 → 00:17:21 เพิ่มปริมาตรของกระเพาะอาหารจึงทำให้รู้
00:17:21 → 00:17:25 สึกอิ่มและเพิ่มปริมาตรของอุจจาระช่วย
00:17:25 → 00:17:27 เร่งให้อาหารผ่านไปตามทางเดินอาหารได้
00:17:27 → 00:17:31 เร็วขึ้นและช่วยเพิ่มมวลของอุจจาระทำให้
00:17:31 → 00:17:33 ช่วงเวลาที่กากอาหารค้างอยู่ในทางเดิน
00:17:33 → 00:17:37 อาหารสั้นลงหรือขับไถยเร็วขึ้นจะส่งผลทำ
00:17:37 → 00:17:40 ให้รู้สึกอยากถ่ายอุจจาระลดปัญหาท้องผูก
00:17:40 → 00:17:45 ได้เช่นเซลลูโลสเฮมิเซลลูโลสและลินินพบบน
00:17:45 → 00:17:49 ผนังเซลล์ของพืชใยอาหารประเภทนี้พบได้มาก
00:17:49 → 00:17:54 ในรำข้าวรวมทั้งในผักและผลไม้คุณสมบัติ
00:17:54 → 00:17:57 หลักของใยอาหารที่ดีต่อร่างกายได้แก่ 1
00:17:58 → 00:18:01 ลดระดับโคเลสเตอรอลไขมันในเลือดป้องกัน
00:18:01 → 00:18:05 โรคหัวใจใยอาหารที่ละลายน้ำสามารถลดระดับ
00:18:05 → 00:18:09 คอเลสเตอรอลในเลือดและตับใยอาหารที่ให้ผล
00:18:09 → 00:18:13 นี้คือเพคตินไซเลียมชนิดต่างๆเช่นกัวกำ
00:18:13 → 00:18:17 และบีนกำแหล่งอาหารที่ละลายน้ำนี้ได้แก่
00:18:17 → 00:18:21 รำข้าวโอ๊ตหรือบาเล่และถั่วต่างๆเมื่อ
00:18:21 → 00:18:24 สามารถช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลโดยรวมได้ก็
00:18:24 → 00:18:27 จะสามารถลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
00:18:27 → 00:18:29 ได้อีกทางหนึ่งโดยเฉพาะโรคหลอดเลือดหัวใจ
00:18:29 → 00:18:32 อุตันทั้งนี้การรับประทานใยอาหารในข้าว
00:18:32 → 00:18:37 โอ๊ตและเบต้ากลูแคนในปริมาณ 3-15 กรัมต่อ
00:18:37 → 00:18:42 วันจะช่วยลดระดับโคเลสเตอรอลได้ร้อยละ
00:18:42 → 00:18:45 5-15 จะเห็นได้ชัดในผู้ที่มีระดับไข้มัน
00:18:45 → 00:18:49 ในเลือดสูงส่วนใยอาหารที่ไม่ละลายน้ำเช่น
00:18:49 → 00:18:53 เซลลูโลสและรำข้าวสาลีจะไม่มีผลต่อระดับ
00:18:53 → 00:18:56 คอเลสเตอรอลในเลือด 2 ช่วยทำให้ลำไส้ใหญ่
00:18:56 → 00:19:00 ทำหน้าที่ได้ดีขึ้นยอาหารไม่ละลายน้ำมีผล
00:19:00 → 00:19:04 ต่อลำไส้ใหญ่ช่วยลดระยะเวลาการเดินทางของ
00:19:04 → 00:19:07 อาหารเพิ่มน้ำหนักอุจจาระและระบายบ่อย
00:19:07 → 00:19:10 ขึ้นเป็นตัวเจือจางปริมาณสารพิษในลำไส้
00:19:10 → 00:19:14 ใหญ่และทำให้การเตรียมสารสำหรับถูกย่อย
00:19:14 → 00:19:17 โดยจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่เป็นไปโดยปกติใย
00:19:17 → 00:19:21 อาหารที่ไม่ละลายน้ำเช่นรำข้าวสาลีช่วย
00:19:21 → 00:19:24 เพิ่มปริมาณอุจจาระอย่างมากมีประโยชน์ต่อ
00:19:24 → 00:19:27 ผู้ที่เป็นโรคท้องผูกรีสีดวงทวารผักและ
00:19:27 → 00:19:31 ผลไม้ส่วนกำและและซเพิ่มปริมาณอุจจระปาน
00:19:31 → 00:19:35 กลางขณะที่ถั่วและเพกทินเพิ่มน้อยที่สุด 3
00:19:35 → 00:19:38 ช่วยป้องกันมะเร็งลำไส้และเกิดถุงตันที่
00:19:38 → 00:19:42 ลำไส้ใหญ่การบริโภคใยอาหารมากจะยิ่งช่วย
00:19:42 → 00:19:46 ลดอุบัติการณ์ของการเกิดโรคมะเร็งในลำไส้
00:19:46 → 00:19:49 ใหญ่และโรคถุงตันที่ลำไส้ใหญ่ได้มากขึ้น
00:19:49 → 00:19:53 ทั้งนี้การบริโภคใยอาหารน้อยทำให้เกิดการ
00:19:53 → 00:19:56 เปลี่ยนแปลงของจุลินทรีย์ในระบบย่อยอาหาร
00:19:56 → 00:19:59 ลดการรวมตัวของกรดน้ำดี
00:19:59 → 00:20:02 เพิ่มเวลาของอาหารที่ตกค้างในลำไส้ใหญ่ลด
00:20:02 → 00:20:05 น้ำหนักและปริมาณอุจจาระตลอดจนความถี่ของ
00:20:05 → 00:20:10 การขับถ่ายอุจจาระ 4 ต้องระวังการรับ
00:20:10 → 00:20:14 ประทานใยอาหารที่มากเกินควรเนื่องจากอาจ
00:20:14 → 00:20:17 ลดการนำไปใช้ประโยชน์ของสารอาหารภายในลำ
00:20:17 → 00:20:21 ไส้เล็กได้ส่วนประกอบของอาหารจะถูกย่อย
00:20:21 → 00:20:25 และสารอาหารจะถูกหลุดซึมผ่านซเยอาหารชนิด
00:20:25 → 00:20:28 ต่างๆสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซมจาก
00:20:28 → 00:20:31 ตับอ่อนที่ใช้ย่อยคาร์โบไฮเดรตไขมันและ
00:20:31 → 00:20:35 โปรตีนใยอาหารอาจจะลดการนำไปใช้ประโยชน์
00:20:35 → 00:20:38 ของเอนไซม์สำหรับการย่อยไตรกีซาไลน์แป้ง
00:20:38 → 00:20:43 และโปรตีนภายในลำไส้ใยอาหารตามธรรมชาติ
00:20:43 → 00:20:48 เช่นธัญพืชผลไม้โดยทั่วไปมีผลลดการดูดซึม
00:20:48 → 00:20:51 ของเกลือแร่เช่นแคลเซียมเหล็กสังกสีและ
00:20:51 → 00:20:55 ทองแดงอย่างไรก็ตามผลของการลดการดูดซึม
00:20:55 → 00:20:59 ของเกลือแร่บางส่วนอาจมาจากไฟ
00:20:59 → 00:21:02 ในอาหารเหล่านั้นดังนั้นการรับประทานย
00:21:02 → 00:21:05 อาหารจึงจำเป็นต้องรับประทานให้พอเหมาะพอ
00:21:05 → 00:21:09 ดีไม่มากจนเกินไปเช่นกันค่ะและวิธีการรับ
00:21:09 → 00:21:12 ประทานยอาหารในแต่ละวัน 1 ควรรับประทาน
00:21:13 → 00:21:16 ข้าวเป็นอาหารหลักโดยเฉพาะข้าวกล้องหรือ
00:21:16 → 00:21:19 ข้าวซ้อมมือหรือผลิตภัณฑ์จากข้าวที่ไม่
00:21:19 → 00:21:24 ขัดซีเช่นขนมปังโควี 2 รับประทานผักผลไม้
00:21:24 → 00:21:28 ให้มากๆและกินพืชตระกูลถั่วให้หลากหลาย 3
00:21:28 → 00:21:31 รับประทานผลไม้ทั้งเปลือกเช่นแอปเปิล
00:21:31 → 00:21:36 องุ่นฝรั่ง 4 รับประทานผลไม้สดแทนการดื่ม
00:21:36 → 00:21:40 น้ำผลไม้คั้นยกตัวอย่างเช่นส้มสด 1 ผลมี
00:21:40 → 00:21:45 กากใยอาหารมากกว่าน้ำส้มคั้นถึง 6 เท่า
00:21:45 → 00:21:48 ข้อ 5 พยายามรับประทานผักให้ได้ทั้งต้น
00:21:48 → 00:21:51 ทั้งก้านค่ะหมายความว่ายังไงหมายความว่า
00:21:51 → 00:21:54 ควรรับประทานผักให้ได้มากที่สุดอย่างเช่น
00:21:54 → 00:21:57 ว่าผักคะน้าผักกวางตุ้งผักบุ้งนะคะถ้า
00:21:57 → 00:22:00 เป็นไปได้ค่ะคุรับประทานทั้งต้นทั้งก้าน
00:22:00 → 00:22:03 จะทำให้คุณได้รับใยอาหารที่เหมาะสมค่ะ 6
00:22:03 → 00:22:07 เติมถั่วต่างๆลงในอาหารเช่นในสลัดต้มจืด
00:22:07 → 00:22:11 หรือแกงต่างๆ 7 ดื่มน้ำมากๆเพราะเส้นใหญ่
00:22:11 → 00:22:15 อาหารจะทำงานได้ดีต้องมีน้ำช่วยสำหรับผู้
00:22:15 → 00:22:18 ที่ไม่คุ้นชินการรับประทานผักผลไม้สดควร
00:22:18 → 00:22:21 เพิ่มปริมาณอาหารที่มีกากใยทีละน้อยเพื่อ
00:22:21 → 00:22:23 ป้องกันไม่ให้ระบบการเยยอาหารเกิดความ
00:22:23 → 00:22:27 ปั่นป่วนค่ะเป็นอย่างไรกันบ้างคะสำหรับ
00:22:27 → 00:22:31 สาระสุขภาพดีๆที่ tn นำมาฝากคุณผู้ชมกัน
00:22:31 → 00:22:33 ในวันนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณผู้ชมจะ
00:22:33 → 00:22:37 สามารถนำสาระสุขภาพดีๆนี้ไปดูแลตัวเองให้
00:22:37 → 00:22:40 ห่างไกลจากโรคถุงผนังลำไส้อักเสบกันค่ะ
00:22:40 → 00:22:44 และขอบคุณคุณผู้ชมที่ติดตามรับชมรายการมา
00:22:44 → 00:22:47 โดยตลอดนะคะสามารถติดตามรับชมรายการ TNN
00:22:47 → 00:22:50 Health เป็นประจำได้ทุกวันเสาร์เวลาดี
00:22:50 → 00:22:55 15:00 น- 15500 น 30 นทีที่นี่ TNN ช่อง
00:22:55 → 00:22:58 16 และอย่าลืมค่ะกดไลค์กดแชร์กด
00:22:58 → 00:23:01 Subscribe เป็นกำลังใจให้หมอดาวและทีม
00:23:01 → 00:23:04 งาน TNN Health ในช่องทางโซเชียล Network
00:23:04 → 00:23:06 ต่างๆไม่ว่าจะเป็น YouTube tiktok
00:23:07 → 00:23:10 Facebook Instagram และ LINE official
00:23:10 → 00:23:13 เพื่อที่จะเข้าถึงทุกสาระสุขภาพเสริมภูมิ
00:23:13 → 00:23:16 คุ้มกันรู้ทันโรคไปด้วยกันแล้ววันนี้นะคะ
00:23:16 → 00:23:19 ขอบคุณเจ้าของสถานที่ใจดีค่ะ True
00:23:19 → 00:23:22 Digital Park ค่ะที่เอื้อเฟื้อสถานที่
00:23:22 → 00:23:25 ในการถ่ายทำรายการสำหรับวันนี้หมอดาวและ
00:23:25 → 00:23:28 ทีมงาน TNN Health ต้องขอตัวลาคุณผู้ชม
00:23:28 → 00:23:31 ชมไปก่อนสวัสดี
00:23:31 → 00:23:57 [เพลง]
00:23:57 → 00:24:01 ค่ะ y