00:00:06 → 00:00:08 ริ้วรอยบนใบหน้าจริงๆเกิดได้จากหลายอย่าง
00:00:08 → 00:00:11 อันแรกที่สุดง่ายๆเลยคือเกิดจากการขยับ
00:00:11 → 00:00:14 หน้าคือถ้าเรามีการแสดงสีหน้าเราก็จะเกิด
00:00:14 → 00:00:16 ความวุ่นวายหน้าได้อย่างเช่นตีนกาใช่ไหม
00:00:16 → 00:00:19 คะร่องแก้มจริงๆก็เกิดจากการยิ้มถ้าเรา
00:00:19 → 00:00:22 อยู่ในสถานที่ที่อากาศแห้งอากาศเย็นอากาศ
00:00:22 → 00:00:25 หนาวผิวเราจะสูญเสียน้ำมากกว่าก็จะแก่
00:00:25 → 00:00:27 เร็วกว่าก็เช่นเดียวกันจริงๆแล้วเราอยู่
00:00:27 → 00:00:29 ในประเทศไทยเนี่ยหน้าเราเด็กกว่าฝรั่ง
00:00:29 → 00:00:32 อยู่แล้วถ้าสมมุติว่าเราโดนแดดมากกว่าผิว
00:00:32 → 00:00:35 ก็จะแก่เร็วกว่าดังนั้นเนี่ยพฤติกรรมของ
00:00:35 → 00:00:39 การกันแดดมีส่วนคนที่ผิวคล้ำก็จะแก่ช้า
00:00:39 → 00:00:41 กว่าคนผิวขาวเนื่องจากมีเซลล์เม็ดสี
00:00:41 → 00:00:44 เมลานินเอาไว้ป้องกันแดดได้มากกว่า
00:00:44 → 00:00:46 [เพลง]
00:00:46 → 00:00:49 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:49 → 00:00:56 การโรงหมอกาชาติชั้นสุรีพรวงสถิตย์พรค่ะ
00:00:56 → 00:00:58 คุณผู้ฟังคะวันนี้นะคะเดี๋ยวเราก็จะได้มา
00:00:58 → 00:01:01 พูดคุยเรื่องของการรักษาริ้วรอยบนใบหน้า
00:01:01 → 00:01:04 นะคะด้วยการปลูกถ่ายเซลล์ไฟโปรพลัสนั่น
00:01:04 → 00:01:07 เองนะคะซึ่งเรื่องนี้เป็นยังไงนะคะแล้วก็
00:01:07 → 00:01:09 เรื่องของการรักษาริ้วรอยบนใบหน้าเนี่ยจะ
00:01:09 → 00:01:12 มีวิธีการอย่างไรบ้างคุยกับศาสตราจารย์
00:01:12 → 00:01:14 แพทย์หญิงรังสิมาวานิชภักดีเดชาค่ะ
00:01:14 → 00:01:17 อาจารย์ประจำภาควิชาตัดจากวิทยาคณะ
00:01:17 → 00:01:20 แพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาลมหาวิทยาลัยมหิดล
00:01:20 → 00:01:25 ค่ะสวัสดีค่ะอาจารย์คะสวัสดีค่ะอาจารย์คะ
00:01:25 → 00:01:27 คุยกันในวันนี้เป็นเรื่องของการรักษาริ้ว
00:01:27 → 00:01:29 รอยบนใบหน้าซึ่งเป็นปัญหาของใครหลายๆคน
00:01:29 → 00:01:32 โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่เริ่มอายุมากๆหรือ
00:01:32 → 00:01:34 ว่าอาจจะไม่ได้มีการบำรุงรักษาดูแลใบหน้า
00:01:34 → 00:01:37 มาเนิ่นนานอย่างเงี้ยค่ะหรือริ้วรอยบนใบ
00:01:37 → 00:01:39 หน้าเนี่ยรักษาได้ไหมแล้วคือมันเกิดจาก
00:01:39 → 00:01:42 อะไรอ่ะเดี๋ยวให้อาจารย์ได้ช่วยอ่าอธิบาย
00:01:42 → 00:01:45 ให้ฟังหน่อยค่ะค่ะริ้วรอยบนใบหน้าจริงๆ
00:01:45 → 00:01:48 เกิดได้จากหลายอย่างนะคะอันแรกที่สุดง่าย
00:01:48 → 00:01:52 ๆเลยคือเกิดจากการขยับหน้าคือถ้าเรามีการ
00:01:52 → 00:01:54 แสดงสีหน้าเราก็จะเกิดความวุ่นวายหน้าได้
00:01:54 → 00:01:57 อย่างเช่นตีนกาใช่มั้ยคะคือร่องแก้มจริงๆ
00:01:57 → 00:02:00 ก็เกิดจากการยิ้มเพราะฉะนั้นจริงๆแล้วอัน
00:02:00 → 00:02:03 นึงอ่ะมันเกิดจากการที่เราขยับใบหน้าแต่
00:02:03 → 00:02:06 แน่นอนเราก็ทุกคนก็ต้องอยากขยับใบหน้าได้
00:02:06 → 00:02:08 บ้างถูกไหมคะไม่ใช่แบบว่าหน้าแบบแข็งไป
00:02:08 → 00:02:11 หมดอะไรอย่างนี้ค่ะก็อันนั้นเป็นอันที่ 1
00:02:12 → 00:02:14 แต่เราจะบอกว่าริ้วรอยมันจะมาเพิ่มขึ้น
00:02:14 → 00:02:17 ได้คือจริงๆตอนเราเด็กๆเราก็มีริ้วรอยนะ
00:02:17 → 00:02:20 เด็กอายุน้อยๆไม่กี่ขวบก็เริ่มมีริ้วรอย
00:02:20 → 00:02:24 จากการขยับแต่ริ้วรอยพวกนี้จะมากขึ้นและ
00:02:24 → 00:02:28 อยู่ลึกขึ้นทั้งๆที่บางทีถ้าเราไม่ขยับ
00:02:28 → 00:02:31 หน้าก็จะเห็นริ้วรอยได้อันเนี้ยก็คือริ้ว
00:02:31 → 00:02:34 รอยที่มาจากอายุที่เพิ่มขึ้นมาจากคุณภาพ
00:02:34 → 00:02:38 ผิวที่แย่ลงค่ะซึ่งหลายคนก็เผชิญกับ
00:02:38 → 00:02:40 เรื่องของอายุที่เพิ่มขึ้นเนี่ยมันทำให้
00:02:40 → 00:02:43 ยังไงเราก็ต้องเผชิญกับริ้วรอยบนใบหน้าจะ
00:02:43 → 00:02:46 มากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับการบำรุงผิวหน้า
00:02:46 → 00:02:47 ของเรามาด้วยหรือเปล่าหรือว่าเป็นเรื่อง
00:02:48 → 00:02:52 ของพื้นเพผิวเราเป็นยังไงกันด้วยไหมคะเอา
00:02:52 → 00:02:53 เป็นอันแรกก่อนคือจริงๆกรรมพันธุ์มีส่วน
00:02:53 → 00:02:57 นะคะถ้าสังเกตดูดีๆอ่ะคนพวกเอ่อที่อยู่
00:02:57 → 00:03:00 ต่างประเทศต่างตะวันตกอ่ะค่ะยุโรปอเมริกา
00:03:00 → 00:03:03 พวกเนี้ยริ้วรอยเค้าจะมากกว่าผิวคนเอง
00:03:03 → 00:03:06 เชียร์เพราะจริงๆแล้วผิวคนเอเชียเนี่ยมี
00:03:06 → 00:03:09 ความหนาของชั้นหนังแท้เนี่ยมากกว่า
00:03:09 → 00:03:13 คนในกลุ่มนั้นอันนี้อันที่ 1 นะคะอันที่ 2
00:03:13 → 00:03:16 คือสถานที่ที่เราอยู่ว่าเป็นยังไงสถานที่
00:03:16 → 00:03:18 ที่เราอยู่คือถ้าเราอยู่ในสถานที่ที่
00:03:18 → 00:03:22 อากาศแห้งอากาศเย็นอากาศหนาวอันเนี้ยผิว
00:03:22 → 00:03:25 เราจะสูญเสียน้ำมากกว่าก็จะแก่เร็วกว่า
00:03:25 → 00:03:27 ก็เช่นเดียวกันจริงๆแล้วเราอยู่ในประเทศ
00:03:27 → 00:03:30 ไทยเนี่ยหน้าเราเด็กกว่าฝรั่งอยู่แล้วอัน
00:03:30 → 00:03:34 นี้นะคะอันนี้อันที่ 2 อันที่ 3 ก็คือการ
00:03:34 → 00:03:36 โดนแดด
00:03:36 → 00:03:39 ถ้าสมมุติว่าเราโดนแดดมากกว่าเราก็จะผิว
00:03:39 → 00:03:42 ก็จะแก่เร็วกว่าดังนั้นเนี่ยพฤติกรรมของ
00:03:42 → 00:03:46 การกันแดดมีส่วนถ้าสมมุติว่าฝรั่งก็
00:03:46 → 00:03:49 เหมือนกันเลยชอบอาบแดดในขณะที่ culture
00:03:49 → 00:03:53 ของคนเอเชียจะแบบเหมือนกับไม่ค่อยชอบโดน
00:03:53 → 00:03:57 แดดเราก็จะยิ่งแก่ช้าเข้าไปใหญ่คนที่ผิว
00:03:57 → 00:04:00 คล้ำก็จะแก่ช้ากว่าคนผิวขาวเนื่องจากมี
00:04:00 → 00:04:03 เซลล์เม็ดสีที่เป็นเซลล์เม็ดสีเมลานินเอา
00:04:03 → 00:04:05 ไว้ป้องกันแดดได้มากกว่าเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:04:05 → 00:04:09 จริงๆปัจจัยหลักๆเนี่ยจะอยู่เท่านี้ที่
00:04:09 → 00:04:11 เหลือก็เป็นพฤติกรรมการใช้ชีวิตแล้วค่ะ
00:04:11 → 00:04:15 คุณดีก็คือถ้าเราเอ่อใช้ชีวิตหรือใช้ร่าง
00:04:15 → 00:04:18 กายสิ้นเปลืองนะคะเกิดสารอนุมูลอิสระเยอะ
00:04:18 → 00:04:22 ๆยกตัวอย่างเช่นเราเครียดเราอดนอนเราสูบ
00:04:22 → 00:04:25 บุหรี่กินเหล้าหรือว่าเราเนี่ยเหมือนกับ
00:04:25 → 00:04:28 ว่ามีเขาเรียกว่าการใช้ร่างกายแบบ Extreme
00:04:28 → 00:04:31 เราก็จะแก่เร็วกว่าคนอื่นอันนี้ก็เป็น
00:04:31 → 00:04:33 เรื่องปกติค่ะ
00:04:33 → 00:04:36 มีหลายปัจจัยหลายอย่างแต่ว่าก็อยู่กับ
00:04:36 → 00:04:38 พฤติกรรมของเราด้วยที่เราก็ทำให้ผิวเรา
00:04:38 → 00:04:41 มันเสื่อมไปแล้วก็สามารถที่จะแบบว่าริ้ว
00:04:42 → 00:04:44 รอยเกิดขึ้นได้ง่ายมากกว่าปกตินั่นเอง
00:04:44 → 00:04:47 เพราะว่าเท่าที่ฟังอาจารย์มาค่ะเราอยู่ใน
00:04:47 → 00:04:50 โซนเอเชียดูเหมือนว่าเออเราภาษีดีกว่านะ
00:04:50 → 00:04:55 แล้วหน้าเราดีกว่าจริงๆค่ะจริงๆค่ะก็ตอน
00:04:55 → 00:04:58 หมอไปเรียนต่อที่อเมริกานะคะไม่มีใคร
00:04:58 → 00:05:01 เชื่อเลยว่าจบหมอไปแล้วเพราะว่าเพราะว่า
00:05:01 → 00:05:05 ผิวเราคุณภาพผิวเราหรือจุดด่างดำที่มีบน
00:05:05 → 00:05:06 ใบหน้าน้อยกว่า
00:05:06 → 00:05:10 แต่อาจารย์คะมันก็มีอีกอย่างนึงเหมือนกัน
00:05:10 → 00:05:12 ที่พอฟังแล้วมันเอ๊ะมันส่วนทางกันหรือ
00:05:12 → 00:05:15 เปล่าคือถ้าในแง่ของเอ่อการที่เราโดนแดด
00:05:15 → 00:05:18 มากๆอ่ะแน่นอนว่าเราก็สูญเสียความชุ่ม
00:05:18 → 00:05:20 ชื้นของผิวไปใช่ไหมคะแต่ในขณะเดียวกันที่
00:05:20 → 00:05:23 เอ่อคนไทยเนี่ยนะคะซึ่งเราโอ้โหเป็น
00:05:23 → 00:05:25 ประเทศที่เราก็มีแดดอยู่ตลอดเวลาแต่เรา
00:05:25 → 00:05:28 กลับขาดวิตามินดีเอ้ยยังไงเราควรจะไปยืน
00:05:28 → 00:05:31 ตากแดดมั้ยเอ้ยเดี๋ยวๆหน้าเราเป็นฝ้าเป็น
00:05:31 → 00:05:34 แบบผิวแห้งอะไรมีริ้วรอยเอ๊ะหรือว่าเรา
00:05:34 → 00:05:36 ควรจะยังไงดีอย่างเงี้ยค่ะแต่อาจารย์คือ
00:05:36 → 00:05:38 คือจริงๆเราสามารถใช้ชีวิตที่เหมาะสมทาง
00:05:39 → 00:05:41 สายกลางได้นะคะคือการโดนแดดเนี่ยให้
00:05:41 → 00:05:44 ประโยชน์หลายอย่างจริงๆก็ต้องยอมรับโดย
00:05:44 → 00:05:46 เฉพาะเรื่องเกี่ยวกับวิตามินดีนะคะซึ่ง
00:05:46 → 00:05:48 ถ้าสมมุติว่าเรากลัวเรื่องเกี่ยวกับการ
00:05:48 → 00:05:50 โดนแดดที่ผิวหนังมากเกินไปเราก็ใช้วิธี
00:05:51 → 00:05:53 การกินวิตามินดีเสริมได้
00:05:53 → 00:05:58 หรือๆๆเราอาจจะยอมโดนแดดที่ตัวแต่อาจจะทา
00:05:58 → 00:06:02 ครีมกันแดดที่หน้าอะไรแบบนี้ก็ได้นะคะ
00:06:02 → 00:06:39 คืออย่างน้อยยังอย่างน้อยยังให้โดนแดดนะ
00:06:39 → 00:06:42 ก็จริงๆแล้วเราอาจจะถ้าสมมุตินะคะว่าเรา
00:06:42 → 00:06:46 เนี่ยเป็นคนที่หรือแม้แต่ในคนบางคนที่ไม่
00:06:46 → 00:06:49 สามารถทาครีมกันแดดได้เรายังมีวิธีการ
00:06:49 → 00:06:51 ป้องกันอย่างอื่นนะคะอย่างเช่นสงสัยเสื้อ
00:06:51 → 00:06:55 ผ้าแขนยาวขายาวใช่ไหมคะใช้หมวกใช้ร่มก็
00:06:55 → 00:06:58 สามารถที่จะช่วยป้องกันแดดได้เหมือนกันนะ
00:06:58 → 00:07:00 คะ
00:07:00 → 00:07:03 ก็มีวิธีการป้องกันทางอื่นร่วมด้วยนะคะ
00:07:03 → 00:07:05 เผื่อว่าบางคนอาจจะไม่ค่อยได้ชอบดับทากัน
00:07:05 → 00:07:08 แดดนะคะอาจารย์คะแล้วเรื่องริ้วรอยเนี่ย
00:07:08 → 00:07:10 อาจารย์บอกว่าตั้งแต่ตอนต้นเลยว่าเรื่อง
00:07:10 → 00:07:13 ของการที่เราได้แสดงออกซึ่งทางสีหน้านะคะ
00:07:13 → 00:07:16 จะยิ้มจะอะไรก็แล้วแต่เนี่ยมันทำให้เกิด
00:07:16 → 00:07:19 ริ้วรอยได้แล้วอย่างนี้เราต้องทำหน้านิ่ง
00:07:19 → 00:07:22 ๆกันตลอดเวลาอาจารย์ก็ถือเป็นเหตุผลที่
00:07:22 → 00:07:25 ทำไมเราถึงไม่ได้คิดว่าเราจะต้องให้คนไข้
00:07:25 → 00:07:27 เนี่ยถึงขนาดว่าหน้าขยับไม่ได้เลยจริงๆ
00:07:27 → 00:07:30 ควรจะต้องในความเห็นของหมอเนี่ยริ้วรอย
00:07:30 → 00:07:34 ที่ดีและเหมาะสมก็คือริ้วรอยที่มีการขยับ
00:07:34 → 00:07:37 เกิดเมื่อการเราขยับอันนี้ไม่จำเป็นจะ
00:07:37 → 00:07:39 ต้องไปเอาออกให้เยอะแยะหรอกค่ะแต่เพียง
00:07:39 → 00:07:41 แต่ว่าเวลาที่เราทำหน้านิ่งๆอยู่เฉยๆมัน
00:07:42 → 00:07:44 ไม่ควรจะเห็นรอยถาวรที่อยู่บนหน้าขอยกตัว
00:07:44 → 00:07:47 อย่างอย่างเช่นอย่างหน้าผากรอยรอยริ้วรอย
00:07:47 → 00:07:49 ย่นบนหน้าผากหรือริ้วรอยขบวนคิ้วอ่ะค่ะใน
00:07:49 → 00:07:52 คนทั่วๆไปอ่ะเวลาอยู่เฉยๆจะไม่เห็นรอยนี้
00:07:52 → 00:07:54 แต่เวลาเลิกคิ้วหรือขมวดคิ้วก็จะเห็นรอย
00:07:54 → 00:07:57 ซึ่งอันนี้หมอคิดว่าเป็นเรื่องปกติแต่ถ้า
00:07:57 → 00:08:26 สมมุติว่าเราเนี่ยดันมีเหมือนกับ
00:08:26 → 00:08:29 ว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเราไม่ได้ยิ้มคือจะดู
00:08:29 → 00:08:32 ว่าเริ่มมีริ้วรอยผิวหน้าเราไม่ค่อยโอเค
00:08:32 → 00:08:35 แล้วเนี่ยก็คือทำหน้านิ่งๆแล้วมันมีริ้ว
00:08:35 → 00:08:38 รอยอยู่หรือเปล่าเห็นชัดไหมใช่ไหมคะใช่
00:08:38 → 00:08:41 ค่ะใช่ค่ะแล้วถ้าเกิดเรายิ้มเราแสดงซึ่ง
00:08:41 → 00:08:43 สีหน้ามารอยย่นรอยอะไรอย่างนี้อันนี้มัน
00:08:43 → 00:08:46 เป็นธรรมชาติอยู่แล้วแต่แค่ว่ามันมี
00:08:46 → 00:08:50 เขาเรียกอะไรเห็นชัดจนแบบว่ามันดูเกิน
00:08:50 → 00:08:54 กว่าปกติไปไหมอย่างนี้ถูกต้อง
00:08:54 → 00:08:57 แบบนี้นี่เองแล้วอย่างนี้ทำไงคะเพราะว่า
00:08:57 → 00:09:02 โอ้โหอาจารย์สารพัดครีมสารพัดสิ่งที่จะมา
00:09:02 → 00:09:05 ประโคมโฆษณากันเต็มที่เพิ่มความชุ่มชื้น
00:09:05 → 00:09:08 ให้กับผิวนู่นนี่นั่นในขณะที่อายุเราก็
00:09:08 → 00:09:11 มากขึ้นเรื่อยๆว่าครีมพวกเนี้ยมันช่วยลด
00:09:11 → 00:09:15 ริ้วรอยได้มากน้อยแค่ไหนคะอาจารย์คือเอา
00:09:15 → 00:09:18 เป็นว่าถ้าพูดถึงในแง่ของครีมหมอเชื่อว่า
00:09:18 → 00:09:21 ครีมเนี่ยมีประสิทธิภาพที่ดีมากๆในการ
00:09:21 → 00:09:26 ป้องกันการป้องกันเนี่ยน่าจะดีแน่ๆคือ
00:09:26 → 00:09:28 คือการใช้มอยเจอร์ไรเซอร์การใช้ครีมกัน
00:09:28 → 00:09:31 แดดพวกนี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เราแก่ก่อน
00:09:31 → 00:09:35 วัยได้เร็วๆแต่แต่ว่าการที่จะช่วยในการ
00:09:35 → 00:09:38 รักษาบางทีถ้าสมมุติว่ามันเป็นรอยลึกที่
00:09:38 → 00:09:40 มันอยู่ถาวรแล้วเนี่ยการที่จะใช้ครีมมา
00:09:40 → 00:09:42 เนี่ยมันอาจจะช่วยได้ไม่เยอะแล้วค่ะช่วย
00:09:42 → 00:09:44 ได้น้อย
00:09:44 → 00:09:47 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็ต้องเราก็ต้องอาจจะ
00:09:47 → 00:09:51 ถ้าคนไข้อยากจะมีเขาเรียกว่าถ้าคนไข้อยาก
00:09:51 → 00:09:53 จะทำให้ริ้วรอยพวกนี้หายไปอาจจะต้องมี
00:09:53 → 00:09:57 วิธีการรักษาวิธีอื่นมาเพิ่มเติมเพื่อที่
00:09:57 → 00:09:59 จะทำให้ประสิทธิภาพในการรักษาเนี่ยมันดี
00:09:59 → 00:10:02 ขึ้นกว่าเดิมค่ะเทคโนโลยีมันค่อนข้างเยอะ
00:10:02 → 00:10:04 นะคะอาจารย์ตอบโจทย์เพลงความงามหลากหลาย
00:10:04 → 00:10:07 รูปแบบมากเลยเอ่อโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้า
00:10:07 → 00:10:10 เกิดใครมีริ้วรอยรูปหน้าร่องลึกเอ่อเขา
00:10:10 → 00:10:13 เรียกอะไรเช่นหมากล่ะค่ะรอยน้ำหมากเออรอย
00:10:13 → 00:10:17 น้ำหมากอะไรประมาณเนี้ยค่ะก็อ่ะถ้าอย่าง
00:10:17 → 00:10:22 ที่รู้จักก็มีฟิลเลอร์อ่าแล้วก็
00:10:22 → 00:10:25 ท็อกซินใช่อะไรพวกนี้ค่ะมัน
00:10:25 → 00:10:29 ตอนนี้สิ่งสิ่งทั้งสองอย่างนี้มันยังโอเค
00:10:29 → 00:10:32 อยู่ใช่ไหมคือบางคนยังรู้สึกว่าฉีด
00:10:32 → 00:10:34 ฟิลเลอร์แล้วแบบหน้ามันก็จะนิ่งขยับไม่
00:10:34 → 00:10:37 ได้ฉีดโบท็อกซ์ไปด้วยอะไรอย่างนี้ค่ะ
00:10:37 → 00:10:41 อาจารย์คือคุณหมอคิดว่าอย่างนี้ค่ะจริงๆ
00:10:41 → 00:10:43 แล้วทางเลือกในการรักษาที่เกี่ยวกับความ
00:10:43 → 00:10:46 งามมีหลายอย่างแล้วตอนนี้ Option เรามี
00:10:46 → 00:10:50 เยอะขึ้นการเลือกรักษาอย่างปลอดภัยแล้วก็
00:10:50 → 00:10:53 มีประสิทธิภาพเนี่ยเป็นสิ่งสำคัญหลายๆ
00:10:53 → 00:10:55 ครั้งหมอยังเชื่ออยู่เหมือนกันว่าการ
00:10:55 → 00:10:59 รักษาพวกนี้จริงๆทำได้เลยแล้วก็หมอก็
00:10:59 → 00:11:02 สนับสนุนสำหรับคนที่ต้องการความมั่นใจนะ
00:11:02 → 00:11:04 คะแต่ว่าถ้าเกิดสมมุติว่าเราจะเลือกรักษา
00:11:04 → 00:11:07 เราก็ควรจะต้องเลือกรักษาให้เขาเรียกว่า
00:11:07 → 00:11:10 ยังไงดีเลือกทางเลือกที่ถูกต้องเลือกทาง
00:11:10 → 00:11:12 เลือกที่มีประสิทธิภาพและและปลอดภัยจริงๆ
00:11:12 → 00:11:16 นะคะก็ต้องปรึกษาแพทย์ที่เชี่ยวชาญค่ะมัน
00:11:16 → 00:11:18 เรื่องไม่ถูกสิคะอาจารย์เพราะว่าคือด้วย
00:11:18 → 00:11:21 ความที่ตกลงจะฟิวเลอร์ดีหรือจะโบท็อกดี
00:11:21 → 00:11:24 แล้วผิวหน้าเราอย่างเงี้ยค่ะแต่ละคนก็อาจ
00:11:24 → 00:11:26 จะพลิ้วแห้งผิวมันผิวสะสมอย่างนี้ค่ะมัน
00:11:26 → 00:11:30 มีผลในเรื่องของริ้วรอยที่เกิดขึ้น
00:11:30 → 00:11:34 มากกว่าคนที่มีผิวปกติไหมคะอย่างเช่นคน
00:11:34 → 00:11:37 ที่ผิวแห้งโอกาสที่มีริ้วรอยเนี่ยเกิดได้
00:11:37 → 00:11:40 ง่ายกว่าแบบนั้นเลยไหมคะใช่ค่ะคือคนที่
00:11:40 → 00:11:44 ผิวแห้งนะคะจะมีโอกาสเกิดริ้วรอยได้มาก
00:11:44 → 00:11:47 กว่าคนที่ผิวมันคนผิวมันนี่จะมีริ้วรอย
00:11:47 → 00:11:50 ชาร์จแต่ว่ามันก็มีข้อดีข้อเสียนะคะคนผิว
00:11:50 → 00:11:52 มันก็อาจจะมีสิวง่ายกว่าค่ะเพราะฉะนั้นก็
00:11:52 → 00:11:55 จริงๆแล้วหมอคิดว่าไม่ว่าเราจะมีสภาพผิว
00:11:55 → 00:11:58 แบบไหนอ่ะคะเราก็ควรที่จะเขาเรียกว่าดูแล
00:11:58 → 00:12:03 รักษาผิวของตัวเองให้ให้เรียกว่าให้เหมาะ
00:12:03 → 00:12:05 กับสภาพผิวของตัวเองเพื่อป้องกันไม่ให้
00:12:05 → 00:12:09 เกิดริ้วรอยขึ้นในเนี่ยเค้าเรียกว่าเร็ว
00:12:09 → 00:12:11 เกินไปอย่างงั้นดีกว่าอันนี้ถ้าแล้วถ้า
00:12:12 → 00:12:13 เกิดคนที่มีริ้วรอยอยู่แล้วล่ะคะอาจารย์
00:12:13 → 00:12:16 อย่างที่เมื่อกี้เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้น
00:12:16 → 00:12:19 ว่าเรามีเรื่องของการปลูกถ่ายเซลล์ใบโบรช
00:12:19 → 00:12:24 ใช่ไหมคะเอ่อชื่อว่าไฟโบราณนะคะอ่าตรงนี้
00:12:24 → 00:12:26 เนี่ยคือ
00:12:26 → 00:12:29 ลักษณะเหมือนกับเราไปเติมเต็ม feeler
00:12:29 → 00:12:32 หรือว่าเป็น Botox อะไรยังไงไหมคะอาจารย์
00:12:32 → 00:12:36 หมอจะเล่าอย่างนี้ให้ฟังก่อนง่ายๆว่าเวลา
00:12:36 → 00:12:38 ที่เรามีริ้วรอยมีร่องลึกใช่ไหมคะทุกวัน
00:12:38 → 00:12:41 นี้เราก็จะมีวิธีหลักๆในการรักษาคือฉีด
00:12:41 → 00:12:43 โบท็อกซ์กับฉีดฟิลเลอร์
00:12:43 → 00:12:46 Botox จะช่วยทำให้กล้ามเนื้อเนี่ยไม่
00:12:46 → 00:12:49 ค่อยขยับขยับน้อยลง
00:12:49 → 00:12:51 ดังนั้นเนี่ยเวลาที่กล้ามเนื้อไม่ขยับ
00:12:51 → 00:12:53 หรือขยับน้อยลงเนี่ยรอยย่นที่เกิดจากการ
00:12:54 → 00:12:56 ขยับมันจะน้อยลงด้วยอันนี้เป็นวิธีที่ 1
00:12:57 → 00:12:59 นะคะวิธีที่ 2 คือแล้วถ้าร่องมันอยู่แล้ว
00:12:59 → 00:13:02 อ่ะอยู่นานๆแล้วหมอยกตัวอย่างอย่างเช่น
00:13:02 → 00:13:05 ร่องแก้มอย่างนี้ร่องแก้มเนี่ยมันอยู่
00:13:05 → 00:13:08 อยู่แล้วเราขยับหรือไม่ขยับถ้าเราจะเอา
00:13:08 → 00:13:10 มันออกเราก็ต้องหาทางใส่อะไรเข้าไปเหมือน
00:13:10 → 00:13:13 กับเขาเรียกว่าใส่สารอะไรสักอันนึงหรือ
00:13:13 → 00:13:16 ใส่เค้าเรียกว่าฟิลเลอร์นะคะเข้าไปเพื่อ
00:13:16 → 00:13:20 ให้พื้นที่ตรงเนี้ยมันฟูขึ้นมาซึ่งซึ่ง
00:13:20 → 00:13:22 ร่างพวกนี้จริงๆเนี่ยเอ่อพอเติมเข้าไป
00:13:22 → 00:13:24 ปั๊บเนี่ยคนไข้ก็จะเห็นเลยว่าอ๋อมันฟู
00:13:24 → 00:13:28 ขึ้นอันนี้เหมือนเราใส่อะไรเข้าไปทันทีไป
00:13:28 → 00:13:31 ถมร่องนั้นอย่างนั้นดีกว่าผมร่องคราวนี้
00:13:31 → 00:13:34 คราวนี้ประเด็นก็คือว่าเหตุผลที่เราเกิด
00:13:34 → 00:13:37 ร่องนี้ถ้าเรามาดูที่สาเหตุมันเกิดจากการ
00:13:37 → 00:13:40 ที่เซลล์ของเราเนี่ยมันสร้างคอลลาเจนหรือ
00:13:40 → 00:13:43 กรดไฮยาลูโลนิกแอซิดที่อยู่ในผิวเราเนี่ย
00:13:43 → 00:13:44 น้อยลง
00:13:44 → 00:13:47 พอมันสร้างน้อยลงปั๊บเนี่ยร่องมันก็มา
00:13:47 → 00:13:51 ง่ายขึ้นเหมือนผิวเราหลัวค่ะผิวเราหลวมๆ
00:13:51 → 00:13:53 ขยับนิดหน่อยก็เกิดรอยหรือบางทีมันก็เกิด
00:13:53 → 00:13:56 อยู่เลยเป็นเขาเรียกว่าทำให้เกิดรอยที่
00:13:57 → 00:13:59 มันเป็นรอยแบบถาวรไปเลย
00:13:59 → 00:14:02 เพราะฉะนั้นเนี่ยจริงๆแล้วอ่ะเวลาที่เรา
00:14:02 → 00:14:06 จะรักษาคนถึงพยายามจะทดแทนสิ่งที่เราขาด
00:14:06 → 00:14:09 เข้าไปคราวนี้ถ้าเรามาดูในส่วนตั้งต้น
00:14:09 → 00:14:12 เนี่ยเอ่อจริงๆแล้วตัวเซลล์ที่เป็นตัว
00:14:12 → 00:14:14 สร้างคอลลาเจนกับไฮโดรแอซิดเนี่ยก็คือตัว
00:14:14 → 00:14:18 Fire นี่แหละค่ะเพราะฉะนั้นพอเราแก่ตัว
00:14:18 → 00:14:21 ไปโบกัสน้อยลงหรือบางทีทำงานน้อยลงยัง
00:14:21 → 00:14:23 อยู่เหมือนเดิมนะคะแต่ทำงานน้อยลง
00:14:23 → 00:14:38 อ่าเพราะฉะนั้นเนี่ยก็มีไอเดีย
00:14:38 → 00:15:25 [เพลง]
00:15:25 → 00:15:29 เรียกว่าตัวคนไข้เองอาจจะเวลาที่คุณหมอ
00:15:29 → 00:15:30 ฉีดไปแล้วเกิดมันเข้าไปในเส้นเลือด
00:15:30 → 00:15:33 ฟิลเลอร์มันจะไปอุดตันเส้นเลือดทำให้เกิด
00:15:33 → 00:15:36 เนื้อตายหรือตาบอดได้ซึ่งอันนี้ก็อาจจะ
00:15:36 → 00:15:40 เปลี่ยนมาเป็นข่าวกันอยู่เรื่อยๆ
00:15:40 → 00:15:44 ฟังแล้วก็น่ากังวลใจแล้วอย่างนี้คือเอา
00:15:44 → 00:15:47 แหละคือแล้วแต่ทางเลือกของคุณผู้ฟังละกัน
00:15:47 → 00:15:50 นะคะว่าจะแบบในการที่จะดูแลรักษาใบหน้า
00:15:51 → 00:15:53 เพื่อลดริ้วรอยเนี่ยเป็นแบบไหนแต่ก็ต้อง
00:15:53 → 00:15:56 ศึกษาดีๆนะคะมีเคสมีอะไรจะต้องดูเยอะๆเลย
00:15:56 → 00:15:59 แหละนะคะแต่ว่าอาจารย์คะแล้วไฟบาสเนี่ยนะ
00:15:59 → 00:16:02 คะค่ะคือมันอยู่กับเราเป็นธรรมชาติอยู่
00:16:02 → 00:16:04 แล้วแล้วอย่างนี้เราจะไปทำยังไงให้เขา
00:16:04 → 00:16:07 สามารถแข็งแรงได้ในขณะที่อ่าเราด้วยสภาพ
00:16:07 → 00:16:09 ร่างกายเอ่อขออภัยด้วยด้วยสภาพของเรา
00:16:09 → 00:16:11 เนี่ยที่อายุมากขึ้นเอ่อคอลลาเจนน้อยลง
00:16:12 → 00:16:14 ความชุ่มชื้นมันน้อยลงอะไรต่างๆเลยเรายัง
00:16:14 → 00:16:16 ทำให้เขาสามารถที่จะแข็งแรงแล้วก็ทำให้
00:16:16 → 00:16:19 มันเติมเต็มอิ่มฟูได้ด้วยหรอคะอาจารย์ใช่
00:16:19 → 00:16:21 ค่ะคืออย่างนี้ค่ะ
00:16:21 → 00:16:24 ตอนแรกสุดในไอเดียของการทำวิจัยเรื่องนี้
00:16:24 → 00:16:27 อ่ะค่ะคือคือหมอเนี่ยเคยเหมือนกับว่าเรา
00:16:27 → 00:16:31 ไปฟังงานต่างประเทศมันมีคนที่เอาตัวไป
00:16:31 → 00:16:34 โบราณเนี่ยมาเพาะเลี้ยงได้อยู่นะคะใน
00:16:34 → 00:16:37 อเมริกาเนี่ยเคยมีการทำแล้วว่าเออมันมี
00:16:37 → 00:16:39 การสาวเราสามารถปลูกถ่ายตัวเซลล์ไฟโบราณ
00:16:39 → 00:16:40 ได้
00:16:40 → 00:16:43 เพียงแต่ว่าประสิทธิภาพมันอาจจะยังไม่ได้
00:16:43 → 00:16:47 ดีมากคราวนี้เนี่ยหมอก็เลยเกิดเขาเรียก
00:16:47 → 00:16:49 ว่าเหมือนกับเกิดแรงบันดาลใจนะว่าเราอยาก
00:16:49 → 00:16:52 จะมีวิธีไหนที่สามารถที่จะเอามารักษาคน
00:16:52 → 00:16:55 ไข้ได้ดีขึ้นดีขึ้นกว่าเดิม
00:16:55 → 00:16:59 อ๋อก็เลยมาปรึกษากับอาจารย์อุไรวรรณซึ่ง
00:16:59 → 00:17:01 อาจารย์อาจารย์อุไรวรรณเนี่ยเป็นอาจารย์
00:17:01 → 00:17:05 เอ่อภาควิชาเภสัชวิทยาค่ะ
00:17:05 → 00:17:07 อาจารย์อุไรวรรณเนี่ยก็ถนัดแล้วก็เชี่ยว
00:17:07 → 00:17:11 ชาญในเรื่องของการเลี้ยงเซลล์หมอก็เลยมา
00:17:11 → 00:17:13 ปรึกษาอาจารย์ว่าเราจะมีวิธีไหนได้บ้าง
00:17:13 → 00:17:16 ไหมที่จะทำให้เกิดเซลล์ใบบัวบราสเวลาที่
00:17:16 → 00:17:18 เราเอาไปแล้วเนี่ยมันไม่ใช่เหมือนเดิมอ่ะ
00:17:18 → 00:17:21 สมมุติเซลล์ไฟฟ้า 2 คนอายุ 50 ก็จะเลี้ยง
00:17:21 → 00:17:24 ออกมาได้เท่ากับเซลล์ไฟบุบรัสของอายุ 50
00:17:24 → 00:17:27 ใช่ไหมคะเลี้ยงมันแล้วมันมีคุณภาพที่ดี
00:17:27 → 00:17:30 กว่าอาจารย์อุไรวรรณก็มานั่งคุยกันมา
00:17:30 → 00:17:33 ปรึกษามาทดลองลองผิดลองถูกเสร็จแล้วเนี่ย
00:17:33 → 00:17:37 เราก็ได้สูตรของการเลี้ยงเซลล์ที่สามารถ
00:17:37 → 00:17:40 ที่จะพัฒนาคุณภาพของตัวเซลล์ไฟเบาบาสของ
00:17:40 → 00:17:44 คนไข้เนี่ยให้ทำงานได้ดีกว่าเดิมอืมค่ะ
00:17:44 → 00:17:46 เพราะฉะนั้นเนี่ยเราก็เลยพอหลังจากที่เรา
00:17:46 → 00:17:49 ได้เขาเรียกว่าได้วิธีการเลี้ยงแบบนี้
00:17:49 → 00:17:53 แล้วเนี่ยเราก็เลยจดสิทธิบัตรวิธีการ
00:17:53 → 00:17:54 เลี้ยงเซลล์ค่ะอ๋อ
00:17:54 → 00:17:56 [เพลง]
00:17:56 → 00:17:59 จากการศึกษาที่เราศึกษามาในห้องทดลองนะคะ
00:17:59 → 00:18:01 เราเจอว่าเหมือนอย่างนี้ค่ะเราเหมือนเอา
00:18:01 → 00:18:04 เอานักเรียนมาเข้าห้องอบรมนึกออกไหมคะว่า
00:18:04 → 00:18:07 มาเข้าห้องสมมุติเราตัดชิ้นเนื้อของคนไข้
00:18:07 → 00:18:10 มาเนี่ยคนไข้ก็พอได้ชิ้นเนื้อมาเสร็จปั๊บ
00:18:10 → 00:18:13 ใช่ไหมคะคนไข้ก็จะเราก็จะเอาเซลล์ของคน
00:18:13 → 00:18:15 ไข้เนี่ยไปเลี้ยงเหมือนกับไปเข้าโรงเรียน
00:18:15 → 00:18:20 ทำให้มันเพิ่มจำนวนเด็กดีเพิ่มจำนวนขึ้น
00:18:20 → 00:18:23 มาเยอะขึ้นแล้วก็ไปอบรมให้เขาทำงานมาก
00:18:24 → 00:18:27 ขึ้นขยันมากขึ้นเพราะฉะนั้นเนี่ยพอตอนที่
00:18:27 → 00:18:30 เราฉีดกลับเข้าไปอ่ะค่ะจริงๆตอนแรกเราก็
00:18:30 → 00:18:32 ไม่ได้คาดหวังนะคะแล้วก็คาดหวังแค่ว่าอ๋อ
00:18:32 → 00:18:35 เออถ้าสมมุติว่าเราฉีดเอ่อกลับเข้าไปแล้ว
00:18:35 → 00:18:38 ก็ไอ้จำนวนที่เพิ่มขึ้นแล้วดีขึ้นและสิ่ง
00:18:39 → 00:18:41 ที่เราเจอเกินกว่าสิ่งที่เราคาดหวังก็คือ
00:18:41 → 00:18:45 พอเราฉีดเซลล์ดีๆที่ทำงานมากขึ้นเข้าไป
00:18:45 → 00:18:47 แล้วเนี่ยกลายเป็นว่าเซลล์ข้างเคียงอ่ะ
00:18:47 → 00:18:50 ที่มันอยู่ที่เดิมอ่ะค่ะที่มีเซลล์ดีๆไป
00:18:50 → 00:18:53 อยู่ด้วยอ่ะมันทำงานมากขึ้นด้วยอ๋อมีคนดี
00:18:53 → 00:18:58 เยอะขึ้นคนแบบขยันเยอะขึ้นใช่คนที่อยู่
00:18:58 → 00:19:00 ที่อยู่ที่เดิมอ่ะก็เลยอุ๊ยตายแล้วฉัน
00:19:00 → 00:19:04 ต้องขยันและฉันลุกขึ้นมาทำงานมากขึ้นเลย
00:19:04 → 00:19:07 ใช่เพราะฉะนั้นเราก็รู้สึกว่าอ๋อเอออัน
00:19:07 → 00:19:10 นี้มันก็ถือว่าเป็นอะไรที่เรียกว่าเกิน
00:19:10 → 00:19:13 ความคาดหวังของเรานะคะเราก็เจอว่าเอ้ยๆ
00:19:13 → 00:19:15 ตายแล้วเซลล์ทำงานมากขึ้นอะไรอย่างเงี้ย
00:19:15 → 00:19:18 เราก็ 2 คนก็ดีใจอาจารย์อุไรวรรณก็รีบจด
00:19:18 → 00:19:22 สิทธิบัตรของการเลี้ยงเซลล์ขึ้นมาเสร็จ
00:19:22 → 00:19:25 แล้วเนี่ยอาจารย์ก็พอพอกันเสร็จแล้วเราก็
00:19:25 → 00:19:28 เลยเอาอันนี้มาเริ่มทำการวิจัยในคน
00:19:28 → 00:19:33 เราก็ทดลองทำวิจัยในคนก่อนในคนเนี่ยเราก็
00:19:33 → 00:19:36 เรียกว่าทดลองฉีดในตำแหน่งเดียวก่อนก็คือ
00:19:36 → 00:19:38 ตำแหน่งร่องแก้ม
00:19:38 → 00:19:42 ค่ะพอเราเริ่มฉีดตำแหน่งร่องแก้มก็เก็บคน
00:19:42 → 00:19:45 ไข้เปรียบเทียบกับการฉีดฟิลเลอร์ก็คือเรา
00:19:45 → 00:19:49 เอาคนไข้มา 60 คนนะคะ 30 คนฉีดฟิลเลอร์
00:19:49 → 00:19:52 ร่องแก้มปกตินี่แหละค่ะอีก 30 คนฉีดตัว
00:19:52 → 00:19:55 ใส่บ่าบราก็คือขอให้คนไข้ตัดชิ้นเนื้อ
00:19:55 → 00:19:59 เลี้ยงเซลล์เข้าโรงเรียนฝึกอบรมแล้วก็ฉีด
00:19:59 → 00:20:01 กลับเข้าไป
00:20:01 → 00:20:05 เราเจอว่าการฉีดฟิลเลอร์เนี่ยก็ก็เป็นไป
00:20:05 → 00:20:08 ตามความคาดหวังปกตินะคะก็คือก็คือเอ่อ
00:20:08 → 00:20:12 ความคาดหวังปกติหมายถึงว่าคนไข้ก็อยู่ได้
00:20:12 → 00:20:17 สวยในระยะหนึ่งแต่พอเมื่อเวลาผ่านไปเซลล์
00:20:17 → 00:20:20 มันก็จะเขาเรียกว่าเพราะเมื่อเวลาผ่านไป
00:20:20 → 00:20:23 ร่องแก้มก็จะค่อยๆกลับคืนมาเพราะฉะนั้น
00:20:23 → 00:20:27 เนี่ยมันก็จะอยู่ได้ในระยะเวลาไม่เกิน 6
00:20:27 → 00:20:29 เดือนในตัวฟิลเลอร์ชนิดที่เราเลือกนะคะ
00:20:29 → 00:20:33 คือคือมีหลายประเภทพอดีเราเลือกประเภทที่
00:20:33 → 00:20:36 เรียกว่าเป็นเอ่อเป็นฟิลเลอร์มาตรฐานที่
00:20:36 → 00:20:41 ฉีดรังแกเราก็วัดเราก็มีการวัดวัดวัดร่อง
00:20:41 → 00:20:45 วัดปรินิพพานร่องถ่ายรูปเอ่อดูรูปสามมิติ
00:20:45 → 00:20:48 อะไรแบบนี้ค่ะแล้วก็เทียบกับกลุ่มที่เรา
00:20:48 → 00:20:51 ฉีดไปเปล่าๆเราเจอว่ากลุ่มที่ฉีดไฟเบาๆ
00:20:51 → 00:20:54 เนี่ยตัวร่องนี่มันยังดีขึ้นอยู่ถึงเป็น
00:20:54 → 00:20:58 ปีอ๋อนานๆแต่ซึ่งตอนนั้นเนี่ยใช่ค่ะซึ่ง
00:20:58 → 00:21:01 ตอนนั้นเนี่ยเราตามคนไข้แค่ปีเดียวเราไม่
00:21:01 → 00:21:04 ได้ติดตามนานกว่านั้นเพราะเราก็คิดว่า
00:21:04 → 00:21:06 แต่เราก็ยังไม่แน่ใจว่าผลจะเป็นยังไงใช่
00:21:06 → 00:21:09 ไหมคะเราก็เลยเคลมได้แค่ว่าอย่างน้อยการ
00:21:09 → 00:21:12 ฉีดไฟเบาบาสอยู่เกิน 1 ปีแน่ๆ
00:21:12 → 00:21:15 ถ้าสมมุติเอาของสุรีย์พรไปไปฉีดให้คนอื่น
00:21:15 → 00:21:18 ด้วยได้ไหมคะคนอื่น
00:21:18 → 00:21:22 ของมันเองใช่ค่ะซึ่งจริงๆอันนี้มันก็เลย
00:21:22 → 00:21:25 มีข้อดีว่าคนไข้ก็จะไม่แพ้แน่ๆไงคะเพราะ
00:21:25 → 00:21:27 มันเป็นเซลล์ไม่มีปฏิกิริยาเพราะมันคือ
00:21:27 → 00:21:30 เซลล์ของคุณสุรีย์พรเองอาจารย์แต่มันไม่
00:21:30 → 00:21:32 น่าเชื่อเลยเนอะเอาดึงแค่แบบเซลไปแบบ
00:21:32 → 00:21:35 เนื้อเยื่อไปนิดนึงอ่ะแล้วไปแบบดูแลใช่
00:21:35 → 00:21:39 เข้าโรงเรียนอย่างดีเข้าโรงเรียน
00:21:39 → 00:21:44 สามารถมาเติมเต็มร่องหมากได้ร่องน้ำหมาก
00:21:44 → 00:21:58 อุ๊ย
00:21:58 → 00:22:45 [เพลง]
00:22:45 → 00:22:47 เลยนะคะเป็นอีกแนวทางหนึ่งคือเทคโนโลยี
00:22:47 → 00:22:50 ใหม่ๆนวัตกรรมใหม่ๆแล้วก็คือด้วยความที่
00:22:50 → 00:22:54 เป็นคนไทยทำเองคิดค้นเองนะคะจดสิทธิบัตร
00:22:54 → 00:22:56 เรียบร้อยนะคะคุณผู้ฟังเราไม่ต้องกังวลใจ
00:22:56 → 00:22:58 กันไปแล้วก็ในระดับที่เป็นระดับอาจารย์
00:22:58 → 00:23:01 คุณหมออย่างนี้นะคะเพราะฉะนั้นน่าสนใจมาก
00:23:01 → 00:23:04 อาจารย์แล้วอย่างนี้คือโดยทั่วไปพอฟังราย
00:23:04 → 00:23:06 การนี้คือแบบเดินเข้าไปแบบว่าขอฉีดไฟเบา
00:23:06 → 00:23:08 Balance ค่ะอย่างนี้ได้เลยไหมคะ
00:23:08 → 00:23:12 ตอนนี้เนี่ยสิ่งที่เกิดขึ้นคือหมอไม่แน่
00:23:12 → 00:23:13 ใจคุณสุรีพอร์ตอาจจะเริ่มเห็นว่าเรามีการ
00:23:13 → 00:23:16 แถลงข่าวว่าศิริราชเนี่ยได้ License
00:23:16 → 00:23:18 Technology นี้ให้กับบริษัทเอกชนเป็นคน
00:23:18 → 00:23:19 ทำ
00:23:19 → 00:23:23 คือคือทางศิริราชเนี่ยคือเรามองว่าตอนนี้
00:23:23 → 00:23:26 สิ่งที่ศิริราชทำอยู่เนี่ยคือเราเน้น
00:23:26 → 00:23:29 เรื่องการทำวิจัยค่ะเราก็กำลังมุ่งเน้น
00:23:29 → 00:23:32 เรื่องเกี่ยวกับการเอาอันเนี้ยคือให้มัน
00:23:32 → 00:23:36 เป็นเขาเรียกว่าเป็นเป็นทำสวนที่เป็นงาน
00:23:36 → 00:23:38 วิจัยต่อเนื่องว่าอันนี้จะทำอะไรได้แต่
00:23:38 → 00:23:40 เราอ่ะในฐานะของศิริราชเองเราไม่ถนัดหรอก
00:23:40 → 00:23:43 เรื่องการให้บริการที่แบบนึกออกมั้ย
00:23:43 → 00:23:46 เกี่ยวกับความสวยงามอะไรเยอะๆแต่เรารู้
00:23:46 → 00:23:48 ว่าเทคโนโลยีที่เรามีมันดีอยู่เราก็เลย
00:23:48 → 00:23:51 ติดต่อแล้วก็มีการคุยกันกับบริษัทเอกชน
00:23:51 → 00:23:53 ว่าเราเนี่ยอยากจะ License ตัวเทคโนโลยี
00:23:53 → 00:23:57 นี้ให้กับบริษัทเอกชนเอาไปทำเพราะว่าเขา
00:23:57 → 00:23:59 น่าจะทำได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าเรา
00:23:59 → 00:24:02 คือทำให้มันเป็น commercialize ได้เราก็
00:24:02 → 00:24:05 เพิ่งเซ็นสัญญา License Technology ให้
00:24:05 → 00:24:08 กับบริษัท salet ซึ่งตอนนี้ได้มีการถ่าย
00:24:08 → 00:24:09 ทอดเทคโนโลยี
00:24:09 → 00:24:11 ก็ได้เข้าไปสอน
00:24:11 → 00:24:15 ทีมงานของทางบริษัทว่าเราจะเอาชิ้นเนื้อ
00:24:15 → 00:24:19 ยังไงมาอย่างมีประสิทธิภาพเราจะเราจะได้
00:24:19 → 00:24:22 ชิ้นเนื้ออย่างไรมาเราจะเอ่อเขาเรียกว่า
00:24:22 → 00:24:24 ยังไงจะเลี้ยงเซลล์ยังไงให้ได้คุณภาพดี
00:24:24 → 00:24:27 เท่ากันหมอเชื่อว่าอันเนี้ยจะกำลังจะเอา
00:24:27 → 00:24:30 ไว้เบิลภายในระยะเวลา 1-2 เดือนนี้เดี๋ยว
00:24:30 → 00:24:32 อีกสักพักนึงเอ่อทางบริษัทเซลล์แท็กก็คง
00:24:32 → 00:24:35 จะมีการบริการซึ่งคุณหมอที่เกี่ยวกับที่
00:24:35 → 00:24:38 สนใจนะคะเกี่ยวกับเรื่องความงามที่เขามี
00:24:38 → 00:24:40 บริการอยู่แล้วเขาอาจจะอยากที่จะให้
00:24:40 → 00:24:43 บริการนี้ในคลินิกหรือในโรงพยาบาลเขาก็จะ
00:24:43 → 00:24:46 มีการตัดชิ้นเนื้อและเนื้อให้บริษัท Cell
00:24:46 → 00:24:49 tax เป็นคนเลี้ยงเซลล์ขึ้นมาแล้วก็ส่ง
00:24:49 → 00:24:51 กลับมาให้คุณหมอฉีดเข้าไปให้คนไข้เหมือน
00:24:51 → 00:24:53 เดิมซึ่งอีกสักพักนึงเดี๋ยวอีกสักพัก
00:24:53 → 00:24:56 หนึ่งคงจะมีแต่ตอนนี้นะศิริราชอ่ะค่ะเรา
00:24:56 → 00:24:59 อ่ะจะยังมีเรื่องเกี่ยวกับการวิจัยอยู่
00:24:59 → 00:25:03 เราก็ยังเปิดรับอาสาสมัครนะคะที่ที่สนใจ
00:25:03 → 00:25:06 อยากจะมาเข้าร่วมโครงการวิจัยยังเปิดรับ
00:25:06 → 00:25:08 อยู่ค่ะเพราะว่าเรายังได้คนไข้ไม่ครบยัง
00:25:08 → 00:25:10 ค่ะนิดหน่อย
00:25:10 → 00:25:13 น่าสนใจมากค่ะเผื่อยังไงอาจจะเป็นอาสา
00:25:13 → 00:25:14 สมัครอีก 1 คน
00:25:14 → 00:25:18 ก็ต้องมาประเมินหน้าก่อนว่าเรียกว่าใช้
00:25:18 → 00:25:22 ได้ไหมนะคะเพราะว่าหลายๆครั้งเนี่ยบางที
00:25:22 → 00:25:24 อาจจะใช้ไม่ได้ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเช่น
00:25:24 → 00:25:26 อย่างนี้ค่ะเนื่องจากเราจะตัดชิ้นเนื้อ
00:25:26 → 00:25:29 จากตรงบริเวณหลังหูคนไข้บางคนเนี่ยไม่รู้
00:25:29 → 00:25:32 ตัวเองเนี่ยมีแผลเป็นอยู่ที่หลังหูมาก่อน
00:25:32 → 00:25:36 มีแผลหรือบางคนมีจุดด่างดำคือเนื้อเยื่อ
00:25:36 → 00:25:38 ตรงหลังหูไม่ได้เป็นเนื้อเยื่อที่คุณภาพ
00:25:38 → 00:25:41 ดีอย่างนี้เอามาเลี้ยงฉีกมันก็อาจจะไม่
00:25:41 → 00:25:43 ได้เกิดผลดีมากอะไรแบบนี้
00:25:43 → 00:25:47 ถ้าเกิดว่าใครสนใจข้อสอบถามไปได้ที่ 4
00:25:47 → 00:25:50 ราชเลยนะคะอ่าใช่ค่ะอาจารย์คะคุยกันเพลิน
00:25:50 → 00:25:53 ๆมาวันนี้โอ้โหได้ๆแนวความรู้ใหม่ๆเยอะ
00:25:53 → 00:25:55 แยะเลยนะคะวันนี้ต้องขอบคุณอาจารย์
00:25:55 → 00:25:57 รังสิมาด้วยที่มาร่วมพูดคุยกับรายการโรง
00:25:57 → 00:25:59 พยาบาลของเรานะคะขอบคุณค่ะอาจารย์คะ
00:25:59 → 00:26:02 ขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะ
00:26:02 → 00:26:04 เอาล่ะค่ะคุณผู้ฟังคะหมดเวลาแล้วนะคะพบ
00:26:04 → 00:26:06 กันใหม่ครั้งหน้ากับรายการโรงหมอทางไทย
00:26:06 → 00:26:08 พีบีเอส podcast สำหรับวันนี้ลาไปก่อนนะ
00:26:08 → 00:26:13 คะขอบคุณที่ติดตามรับฟังสวัสดีค่ะ
00:26:13 → 00:26:16 ความรักเกิดได้หลากหลายรูปแบบแต่ความรัก
00:26:16 → 00:26:19 แบบไหนเป็นรักที่ยืนยาวรักแบบไหนมีอายุ
00:26:19 → 00:26:22 สั้นผู้ช่วยศาสตราจารย์ดรจันทร์วิภาดิลก
00:26:22 → 00:26:24 สัมพันธ์ผู้เชี่ยวชาญด้านความสัมพันธ์และ
00:26:24 → 00:26:27 ครอบครัวมาเล่าให้ฟังครับจริงๆแล้วการบอก
00:26:27 → 00:26:31 รักเนี่ยจะสังเกตว่าคนบางคนบอกรักง่ายๆ
00:26:31 → 00:26:34 แต่ไม่ได้รักจริงแต่บางคนเนี่ยบอกรักยาก
00:26:34 → 00:26:39 ยากแต่จริงๆมันรักๆๆๆก็มันเป็นอะไรบาง
00:26:39 → 00:26:43 อย่างที่บางทีคนเรามันก็จะป๊อดน่ะเช่นบาง
00:26:43 → 00:26:46 คนเนี่ยนะคะเป็นชายหนุ่มนะกล้าบ้าบิ่นไป
00:26:46 → 00:26:49 ไหนไปกันลุยไหนลุยนั่นไม่เคยกลัวใครแต่พอ
00:26:49 → 00:26:52 ถึงเรื่องของหัวใจที่จะแสดงออกเนี่ยนะมัน
00:26:52 → 00:26:55 สั่นไปหมดอ่ะโดยเฉพาะผู้หญิงเนาะมันเขิน
00:26:55 → 00:26:58 น่ะแล้วที่สำคัญที่สุดเนี่ยผู้ชายหลายคน
00:26:58 → 00:27:02 นะคะกลัวเสียหน้ากลัวว่าบอกไปแล้วถ้าเขา
00:27:02 → 00:27:05 ใจไม่ตรงกับเราอาจจะยังไงล่ะเขาเรียกว่า
00:27:05 → 00:27:09 กลัวตกม้าตายนะคะหรือบางทีเนี่ยกลัวเสีย
00:27:09 → 00:27:12 เพื่อนถ้าประเภทที่เราเกิดไปชอบเพื่อน
00:27:12 → 00:27:16 สนิทเข้ายิ่งเธอเป็นเหมือนเพื่อนสนิทยิ่ง
00:27:16 → 00:27:21 ไม่มีสิทธิ์จะบอกไปว่ารักเธอใช่ไหมคะหรือ
00:27:21 → 00:27:24 เสียฟอร์มอะไรประมาณนั้นน่ะมันก็เป็นอัน
00:27:24 → 00:27:27 นึงที่ทำให้คนเราไม่กล้าบอกกันตรงๆแต่ก็
00:27:27 → 00:27:30 อยากให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้อ่าเพราะรู้แล้ว
00:27:30 → 00:27:33 ถ้าเขามีใจด้วยมันก็จะมีปฏิกิริยาตอบมา
00:27:33 → 00:27:36 แต่ถ้าเขาไม่มีใจมันก็จะได้ไม่เสียฟอร์ม
00:27:36 → 00:27:40 ไม่เสียหน้าไม่เสียเพื่อนถูกไหมคะไม่ว่า
00:27:40 → 00:27:42 หญิงรักชายหรือชายรักหญิงคือนายพ.ศเนี้ย
00:27:42 → 00:27:45 ผู้หญิงหลายคนก็รู้สึกว่าเออมันแฟรงค์
00:27:45 → 00:27:47 ดีเนาะที่เราจะบอกเลยว่าเรารักหรือไม่รัก
00:27:48 → 00:27:51 แต่บางทีบอกไปแล้วมันก็เสียความสัมพันธ์
00:27:51 → 00:27:54 ที่ดีเหมือนกันบางทีมันก็มองหน้ากันไม่
00:27:54 → 00:27:56 ติดถ้าเกิดใจมันไม่ตรงกันบางครั้งเนี่ย
00:27:57 → 00:28:00 การแสดงออกซึ่งความรักเนี่ยมันก็เป็นตัว
00:28:00 → 00:28:02 วัดว่าอีกฝ่ายหนึ่งรู้สึกอย่างไรกับเรา
00:28:02 → 00:28:05 มันก็เหมือนกันเรียนรู้กันด้วยภาษากาย
00:28:05 → 00:28:10 หรือสิ่งที่ออกมาที่มากกับคำพูดถ้าจะ
00:28:10 → 00:28:13 เรียกว่า verbal กับ nonver อ่ะ
00:28:13 → 00:28:17 นะคะแล้วก็เมื่อมันรู้สึกว่าแน่ใจแล้วว่า
00:28:17 → 00:28:20 เออเขามีใจตรงกับเราจึงอาจจะค่อยๆเอ่ยปาก
00:28:20 → 00:28:23 อะไรอย่างนี้ก็ได้หรือบางครั้งเนี่ยทำแบบ
00:28:23 → 00:28:25 นี้จนอีกฝ่ายหนึ่งก็รู้แล้วล่ะว่าเนี่ย
00:28:25 → 00:28:28 มันต้องมีความรู้สึกพิเศษต่อกันโดยเฉพาะ
00:28:28 → 00:28:31 คนที่มีความรักที่ยั่งยืนส่วนใหญ่ในการ
00:28:31 → 00:28:33 ครองชีวิตคู่เนี่ยมักจะเริ่มต้นด้วยความ
00:28:33 → 00:28:36 สัมพันธ์แบบเพื่อนเนี่ยจะยั่งยืนที่สุดดี
00:28:36 → 00:28:41 กว่าคนที่แบบเจอกันปั๊บปั๊บลุกสปาร์คพึ่บ
00:28:41 → 00:28:44 ๆๆมันจะฉาบฉวยมันขี้มักจะเป็นอย่างงั้น
00:28:44 → 00:28:47 ไม่ได้ว่าทุกคู่นะคะนะคะเพราะฉะนั้นมัน
00:28:47 → 00:28:49 ที่มักจะฉาบฉวยและทำให้ความสัมพันธ์มัน
00:28:49 → 00:28:53 ไม่ยืนยาว
00:28:53 → 00:28:57 This Is Thai PBS
00:28:57 → 00:29:00 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:29:00 → 00:29:02 ของไทยพีแดช็อต
00:29:02 → 00:29:05 spotify Sound Google ผ่อน Class
00:29:06 → 00:29:08 Apple podcast และ YouTube Channel
00:29:08 → 00:29:15 Thai PBS ผ่อน
00:29:15 → 00:29:20 [เพลง]