00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับทางศูนย์พิษของโรงพยาบาล
00:00:03 → 00:00:06 รามาธิบดีนะครับล่าสุดได้รายงานว่ามีผู้
00:00:06 → 00:00:09 ป่วยทั้งหมด 3 รายมารักษาหลังจากที่มีการ
00:00:09 → 00:00:13 ใช้ยาเสพติดชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าลาบูบู 2
00:00:13 → 00:00:17 คนนะครับเสียชีวิตไป 1 คนกำลังรักษาอยู่
00:00:17 → 00:00:20 ยาเสพติดชนิดนี้นี่มันคืออะไรวันนี้
00:00:20 → 00:00:22 เดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟังนะครับพบกับผมนะครับ
00:00:22 → 00:00:24 นายแพทย์ธนีธนียวัณเป็นอาจารย์แพทย์อยู่
00:00:24 → 00:00:26 ที่ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:26 → 00:00:30 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับแน่นอน
00:00:30 → 00:00:32 ครับยาเสพติดเนี่ยมันอยู่คู่กับสังคมของ
00:00:32 → 00:00:35 เรามานานนะครับแล้วก็จะมีการปรับเปลี่ยน
00:00:35 → 00:00:39 รูปแบบให้มันจับยากมากขึ้นล่าสุดนะครับมี
00:00:39 → 00:00:42 การทำให้รูปแบบมันน่าใช้แล้วก็สามารถเข้า
00:00:42 → 00:00:46 ถึงเยาวชนได้โดยง่ายเค้าเอายาตัวนึงมาอัด
00:00:46 → 00:00:49 ให้มันเป็นเม็ดหน้าตาเหมือนtoอยที่ชื่อ
00:00:49 → 00:00:53 ว่าLavูบoก็เลยมีชื่อเรียกว่ายาเสพติด
00:00:53 → 00:00:57 ลาบูบoนะครับต้องบอกก่อนนะครับว่าตัวนี้
00:00:57 → 00:01:01 เนี่ยถ้าย้อนกันไปนะครับเมื่อปีที่แล้วก็
00:01:01 → 00:01:04 มีการระบาดมาทีนึงแล้วนะครับมีการระบาด
00:01:04 → 00:01:08 ของยาลาบูบูนี่แหละนะฮะและที่ศูนย์พิษ
00:01:08 → 00:01:10 รามาเเจอเนี่ยครับเาบอกว่าคนไข้เนี่ยมี
00:01:10 → 00:01:13 อาการกล้ามเนื้อเกร็งนะครับไม่ได้สติหัว
00:01:13 → 00:01:17 ใจหยุดเต้นหายใจไม่ได้สุดท้ายก็เสียชีวิต
00:01:17 → 00:01:19 ไปทั้งหมด 2 คนเลยทีเดียวตอนนี้เนี่ยเขา
00:01:19 → 00:01:22 กำลังเอายาเสพติดลาบูบู่ตัวเนี้ยไปตรวจ
00:01:22 → 00:01:26 สอบอยู่ว่ามันมีส่วนประกอบอะไรบ้างนะครับ
00:01:26 → 00:01:30 อย่างไรก็ตามครับผมลองย้อนไปดูในคลิปของ
00:01:30 → 00:01:34 ปีที่แล้วพบว่ามันมีการระบาดของยาลาบูบ
00:01:34 → 00:01:37 นี่แหละเหมือนกันลักษณะหน้าตาของมันก็
00:01:37 → 00:01:40 เหมือนกันกับที่นำเสนอข่าวในตอนนี้นะครับ
00:01:40 → 00:01:42 แต่ช่วงนั้นนะครับเขา้ามีการตรวจสอบองค์
00:01:42 → 00:01:47 ประกอบของยาเม็ดลาบูบูพบว่า 54% ของส่วน
00:01:47 → 00:01:53 ประกอบเนี่ยเป็นโคเคนครับ 18% เป็นยาหรือ
00:01:53 → 00:01:55 เดี๋ยววันนี้จะเล่าให้ฟังว่ามันคืออะไรนะ
00:01:55 → 00:01:57 ครับมีอีกส่วนนึงที่เหลือก็ก็คือเป็น
00:01:57 → 00:02:00 คาเฟอีนบวกกับแป้งนะครับทำให้มันกลายเป็น
00:02:00 → 00:02:04 เม็ดได้นี่คือส่วนประกอบที่มีทั้งหมดแล้ว
00:02:04 → 00:02:07 ต้องบอกนะครับว่าส่วนประกอบ 2 อย่างหลักๆ
00:02:07 → 00:02:12 เนี่ยไม่ว่าจะเป็นยาอีหรือตัวโคเคนเนี่ย
00:02:12 → 00:02:17 มันทำให้เกิดอาการเหมือนในกรณีผู้ป่วย 2
00:02:17 → 00:02:20 รายที่เสียชีวิตได้เลยครับผมขอเริ่มจากยา
00:02:20 → 00:02:23 e ก่อนเลยะกันนะครับeเเนี่ยมันย่อมาจาก
00:02:24 → 00:02:28 คำว่าasyนะครับชื่อทางเคมีคือ MDMA นะ
00:02:28 → 00:02:32 ครับย่อมาจากคำว่าเมทิลีนไดออกซี่เม็ด
00:02:32 → 00:02:36 แอมเฟetตามีนนะครับยาตัวนี้เนี่ยนะฮะมัน
00:02:36 → 00:02:41 จะไปทำให้จับกับตัวปลายประสาทของเรานะ
00:02:41 → 00:02:44 ครับในสมองปลายประสาทพวกเนี้ยก่อนที่จะ
00:02:44 → 00:02:46 ส่งสารสื่อประสาทออกไปเขาจะเรียกว่า
00:02:46 → 00:02:50 presynap เนี่ยก็คือเป็นช่องว่างระหว่าง
00:02:50 → 00:02:52 ตัวส่งกระแสประสาทกับตัวรับกระแสประสาทนะ
00:02:52 → 00:02:55 ครับช่องว่างระหว่างตรงเนี้ยมันจะต้องมี
00:02:55 → 00:02:58 สารเคมีจากตัวส่งประสาทนะครับสารเคมีตัว
00:02:58 → 00:03:00 นี้ก็จะไปจับตัวส่วนปลายแล้วก็นำส่งข้อ
00:03:00 → 00:03:03 มูลไปนะครับทีนี้ไอ้ตัวที่นำส่งข้อมูลนี่
00:03:04 → 00:03:07 แหละที่ยาีอ่ะมันไปยุ่งตรงนี้นะครับมันไป
00:03:07 → 00:03:12 ทำให้สาร 3 ตัวก็คือโดปามีนซีโรทนิน
00:03:12 → 00:03:16 และฟินเนี่ยแทนที่มันจะถูกเก็บเข้าไว้ใน
00:03:16 → 00:03:18 เซลล์ประสาทมันโดนปล่อยทิ้งออกมาหมดเลยนะ
00:03:18 → 00:03:23 ครับนะแต่ว่าผลรวมของมันเนี่ยจะทำให้มี
00:03:23 → 00:03:28 ซีโรโทนินในระบบประสาทที่สูงมากๆนะครับผล
00:03:28 → 00:03:32 ของเค้าในทางระบบประสาทเนี่ยนะฮะถ้ามี
00:03:32 → 00:03:35 ซีโรโทนินสูงขึ้นมาฉับพลันนะครับคนเนี่ย
00:03:35 → 00:03:39 เค้าก็จะรู้สึกว่าปลอดภัยนะครับรู้สึก
00:03:39 → 00:03:43 ปล่อยตัวปล่อยใจนะฮะมีความสุขมีความอิ่ม
00:03:43 → 00:03:46 เอิ่นะเจะมีความรู้สึกแบบนี้เพิ่มมากขึ้น
00:03:46 → 00:03:51 มานะครับแล้วก็นำไปสู่ปัญหาอย่างอื่นเช่น
00:03:51 → 00:03:54 เค้าอาจจะเห็นภาพอะไรที่มันชัดเจนมากขึ้น
00:03:54 → 00:03:55 หลอน
00:03:55 → 00:03:58 นะฮะแล้วเป็นการกระตุ้นตัวเส้นประสาทต่าง
00:03:58 → 00:04:00 ๆกระตุ้นประสาททำให้มีความตื่นตัวร่วมไป
00:04:00 → 00:04:03 ด้วยนะฮะทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยนะครับมันจะ
00:04:03 → 00:04:07 ทำให้มีการกระตุ้นประสาทแต่พอมันกระตุ้น
00:04:07 → 00:04:10 มากจนเกินไปมีสารซีโรโทนินมากจนเกินไป
00:04:10 → 00:04:13 นั่นแหละครับที่มันจะเกิดเรื่องนะครับ
00:04:13 → 00:04:16 เกิดเรื่องยังไงถ้าซีโรโทนินเนี่ยมันมาก
00:04:16 → 00:04:20 จนเกินไปนะครับแน่นอนช่วงแรกมีความสุขนะ
00:04:20 → 00:04:23 ครับแล้วก็อาจจะขาดความยับยั้งชั่งใจนะ
00:04:23 → 00:04:27 อาจจะจะมีการโดนรวนลามทางเพศหรือว่าการทำ
00:04:27 → 00:04:30 กิจกรรมอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ง่ายเพราะว่า
00:04:30 → 00:04:33 พอซิโรโทนินมันเยอะมากนะครับมันเป็น
00:04:33 → 00:04:35 ฮอร์โมนแห่งความไว้ใจนะครับมันมีการ
00:04:35 → 00:04:39 กระตุ้นฮอร์โมนชื่อออกซิโทซินทั้ง 2 ตัว
00:04:39 → 00:04:41 เนี้ยมันจะช่วยทำให้คุณรู้สึกไว้วางใจกับ
00:04:41 → 00:04:44 สถานการณ์ต่างๆที่เข้ามาจนรู้สึกชิลสบาย
00:04:44 → 00:04:47 มีความสุขแต่ถ้ามันมากไปกว่านั้นน่ะสิ่ง
00:04:47 → 00:04:50 ที่เกิดขึ้นก็คือซีโรทonนินเนี่ยมันจะทำ
00:04:50 → 00:04:52 ให้เกิดภาวะหนึ่งเรียกว่าซีโรทonin
00:04:52 → 00:04:54 syndrome ได้ซึ่งอันตรอันตรายถึงชีวิต
00:04:54 → 00:04:57 เลยทีเดียวนะครับโดยอาการของเขาค้าเนี่ย
00:04:57 → 00:05:00 ก็จะมีอุณหภูมิในร่างกายที่สูงมากขึ้นนะ
00:05:00 → 00:05:02 ครับสูงฉับพลันเลยเรียกว่า
00:05:02 → 00:05:04 ไฮเปอร์เทอร์เมียนะครับมีอาการกล้ามเนื้อ
00:05:05 → 00:05:07 แข็งเกร็งนะครับเกร็งทั้งร่างกายแล้วมี
00:05:07 → 00:05:10 อาการกระตุกด้วยถ้าเราไปตรวจสอบเนี่ยเรา
00:05:10 → 00:05:12 จะเป็นการตรวจรีฟนะครับเช่นถ้าเราเคยเห็น
00:05:12 → 00:05:14 เคาะที่เข่าแล้วเข่ามันกระเด้งขึ้นมาใช่
00:05:14 → 00:05:16 มั้ยสมมุติว่าผมเคาะตรงเส้นเอ็นตรงนี้โดย
00:05:16 → 00:05:18 ปกติเคาะไปมันอาจจะกระเด้งช้าๆนะครับแต่
00:05:19 → 00:05:21 คนพวกเนี้ยมันจะมีการกระเด้งที่เร็วขึ้น
00:05:21 → 00:05:24 เคาะปุ๊บกระเด้งทันทีอย่างนี้นะครับและ
00:05:24 → 00:05:27 ถ้าเราไปตรวจที่บริเวณเท้านะหรือตรงข้อ
00:05:27 → 00:05:30 มือตรงนี้ก็ได้นะครับถ้าเราจับแล้วเราดึง
00:05:30 → 00:05:32 อย่างเงี้ยมันจะมีการกระตุกแบบเนี้ยเรา
00:05:32 → 00:05:35 เรียกว่าโonนัสนะครับอันเนี้ยคืออาการที่
00:05:35 → 00:05:39 เราเรียกว่าซีโรทoninsyนrมถ้าปล่อยไว้ถึง
00:05:39 → 00:05:42 ชีวิตครับถึงชีวิตเลยนะฮะมันจะมีกล้าม
00:05:43 → 00:05:45 เนื้อแข็งเกร็งทั่วร่างกายเกิดอาการกล้าม
00:05:45 → 00:05:49 เนื้อสลายนะฮะและเกิดความร้อนที่มากจน
00:05:49 → 00:05:52 เกินไปทำให้ร่างกายทุกๆระบบเนี่ยไม่
00:05:52 → 00:05:57 สามารถทำงานได้เลยนะครับนี่คือผลของยา
00:05:57 → 00:06:03 หรือเซตasyนะครับนี่ระยะเฉียบพลันนะแต่
00:06:03 → 00:06:08 ระยะยาวเนี่ยนะฮะการที่คนๆนึงหยุดยาีไปนะ
00:06:08 → 00:06:11 ครับมันจะมีความรู้สึกว่าซิโรโทนินหายไป
00:06:11 → 00:06:14 จากสมองอย่างรวดเร็วแล้วพอมันเป็นแบบนั้น
00:06:14 → 00:06:18 น่ะคนเหล่านี้จะซึมเศร้าซึมเศร้ามากๆเลย
00:06:18 → 00:06:21 นะครับและมีโอกาสที่จะจบชีวิตตัวเองได้
00:06:21 → 00:06:23 ง่ายนะฮะ
00:06:23 → 00:06:25 ความเสพติดจากยา E เนี่ยนะครับมันอาจจะ
00:06:25 → 00:06:29 ไม่เท่ากับตัวโคเคนนะแต่มันก็เป็นยาที่
00:06:29 → 00:06:33 อันตรายเหมือนกันทีนี้ครับมาต่อกันที่
00:06:33 → 00:06:37 โคเคนโคเคนเนี่ยนะครับต้นกำเนิดมันน่ะมัน
00:06:37 → 00:06:41 อยู่ที่อเมริกาใต้นะครับมาจากต้นโคนี่
00:06:41 → 00:06:44 แหละแล้วก็สกัดเป็นสารโคเคนซึ่งสมัยก่อน
00:06:44 → 00:06:47 เนี่ยเราใช้โคเคนเนี่ยเป็นยาชาเป็นยาชา
00:06:47 → 00:06:50 เฉพาะที่เลยนะครับแต่เดี๋ยวเนี้ยแน่นอน
00:06:50 → 00:06:52 ครับว่าไม่มีใครเใช้กันแล้วเนื่องจากว่า
00:06:52 → 00:06:55 เรารู้ว่ามันเป็นยาเสพติดที่มีผลร้ายต่อ
00:06:55 → 00:07:00 ร่างกายนะครับตัวโคเคนตัวนี้นะครับมันทำ
00:07:00 → 00:07:02 หน้าที่บางอย่างที่คล้ายกับยาอีแต่มันไม่
00:07:02 → 00:07:05 ใช่แบบเดียวกันนะครับวิธีในการที่มันออก
00:07:05 → 00:07:08 ฤทธิ์กับระบบประสาทของเราเนี่ยคือมันจะไป
00:07:08 → 00:07:12 ยับยั้งการดูดซึมกลับของสารโดปามีน
00:07:12 → 00:07:15 ซีโรโทนินและนอยฟีนโดยจะมีผลต่อสาร
00:07:15 → 00:07:20 โดปามีนมากที่สุดการเอ่อลดการดูดซึมกลับ
00:07:20 → 00:07:22 เนี่ยมันคืออะไรนะครับต้องบอกว่าคิดถึง
00:07:23 → 00:07:27 ปลายประสาทเมื่อตะกี้ตัวนี้นะครับ
00:07:27 → 00:07:30 Synapsyaps po synaps นะครับมี 3 ตัว
00:07:30 → 00:07:33 นี้เป็นตัวส่งสารมาตรงกลางให้ตัวรับสาร
00:07:33 → 00:07:38 เอาสารไปแล้วก็ดำเนินการอะไรต่อนะครับสาร
00:07:38 → 00:07:40 เคมที่ปล่อยออกมาที่มันอยู่ในช่องว่างตรง
00:07:40 → 00:07:43 นี้ที่เรียกว่าเนี่ยมันไม่ได้อยู่ตรงนั้น
00:07:43 → 00:07:45 ตลอดเวลานะครับพอมันออกมาแล้วมันจะต้องมี
00:07:45 → 00:07:47 การดูดกลับไปเพื่อที่จะให้ตรงเนี้ยมัน
00:07:48 → 00:07:52 ว่างแล้วก็หยุดการส่งกระแสประสาทแต่โคเคน
00:07:52 → 00:07:54 ครับไปยับยั้งกระบวนการนี้ทำให้มันไม่
00:07:54 → 00:07:56 หยุดส่งกระแสประสาทครับมันส่งอยู่นั่น
00:07:56 → 00:08:00 แหละเกิดการกระตุ้นประสาทที่รุนแรงมากๆนะ
00:08:00 → 00:08:03 ครับโดยจะมีโดปามีนเป็นตัวที่เด่นนะครับ
00:08:03 → 00:08:05 โดปามีนเป็นตัวที่เด่นเนี่ยสิ่งที่เกิด
00:08:05 → 00:08:08 ขึ้นก็คือคุณจะมีความรู้สึกเหมือนตัวเอง
00:08:08 → 00:08:12 เนี่ยมีความสุขมากเสพติดแล้วลักษณะพิเศษ
00:08:12 → 00:08:14 อย่างนึงก็คือรู้สึกเหมือนตัวเองเนี่ย
00:08:14 → 00:08:17 เป็นพระเจ้าจะทำอะไรก็ได้มีความนาซีซิสมี
00:08:17 → 00:08:21 ความอีโก้สูงที่สุดในตัวเองอันเนี้ยคือ
00:08:21 → 00:08:25 โคเคนถ้าคุณมองให้เห็นภาพอ่ะยาีเนี่ยเวลา
00:08:25 → 00:08:28 เสพเข้าไปมันจะเหมือนคนที่แบบเฮาเข้ากับ
00:08:28 → 00:08:32 ทุกคนได้ดีไปหมดเลยอะไรก็ได้ไม่เศร้าไม่
00:08:32 → 00:08:36 มีอะไรที่หนักหนาสาหัสปัญหาในโลกนี้ไม่มี
00:08:36 → 00:08:38 เลยนะครับเข้ากับคนได้หมดเลยไม่มีคนไหน
00:08:38 → 00:08:41 เป็นผู้ร้ายทุกคนเป็นคนดีหมดนะครับแต่ถ้า
00:08:41 → 00:08:44 เป็นโคเคนเนี่ยเหมือนกับคุณเป็นหัวหน้า
00:08:44 → 00:08:47 มาเฟียเป็นเป็นบอสใหญ่อ่ะนะครับคุณมี
00:08:47 → 00:08:50 อำนาจมากนะครับคนที่เสพโคเคนจะมีความรู้
00:08:50 → 00:08:53 สึกประมาณนั้นนะฮะแล้วมันก็ยังเป็นสารที่
00:08:53 → 00:08:57 กระตุ้นประสาทได้มากเลยทีเดียวนะครับที
00:08:57 → 00:09:01 นี้โคเคนเนี่ยถ้าเราเสพเข้าไปเล็กๆน้อยๆ
00:09:01 → 00:09:03 เนี่ยอาการก็จะเป็นอย่างที่ว่าแต่ถ้ามัน
00:09:03 → 00:09:05 มากกว่านั้นแหละเกิดอะไรขึ้นนะครับถ้า
00:09:05 → 00:09:08 โคเคนเข้าไปในร่างกายมากนะครับมันจะทำให้
00:09:08 → 00:09:11 เกิดความดันโลหิตสูงฉับพลันนะฮะอาจจะมี
00:09:11 → 00:09:13 การหดเกร็งของเส้นเลือดโดยเฉพาะเส้นเลือด
00:09:13 → 00:09:16 ที่หัวใจทำให้เกิดการขาดเลือดของหัวใจฉับ
00:09:16 → 00:09:19 พลันได้เป็นพิษต่อตัวหัวใจทำให้หัวใจ
00:09:19 → 00:09:22 เนี่ยเกิดการเต้นผิดปกติหรือบางกรณีหยุด
00:09:22 → 00:09:24 เต้นขึ้นมาเฉยๆเลยนะครับอันเนี้ยเป็นสิ่ง
00:09:24 → 00:09:28 ที่เรากังวลถ้าคนไหนที่มีโอกาสจะเป็นสตรก
00:09:28 → 00:09:30 หรือเส้นเลือดสมองมันแตกมันก็จะเป็นเอา
00:09:30 → 00:09:34 ตอนนี้นี่แหละครับนะตอนที่เขาใช้โคเคนนะ
00:09:34 → 00:09:37 คือระบบทางด้านของปราสาทก็ส่วนหนึ่งระบบ
00:09:37 → 00:09:39 หลอดเลือดหัวใจก็อีกส่วนหนึ่งซึ่งจะมี
00:09:39 → 00:09:42 ปัญหาจากตัวโคเคนแต่ก็ไม่เพียงแค่นั้น
00:09:42 → 00:09:45 ครับโคเคนเนี่ยจริงๆมันมีแบบสูบเข้าไปอีก
00:09:45 → 00:09:48 นะครับภาษาอังกฤษเนี่ยเราจะเรียกว่า crack
00:09:48 → 00:09:50 นะครับ Crack โคนเห็นก็คือเวลาที่สูบเ
00:09:50 → 00:09:53 ต้องมีการเผาไฟแล้วมันจะมีเสียงแป๊กๆๆๆ
00:09:53 → 00:09:55 อย่างเงี้ยอันเนี้เเรียกว่าแครกนะครับ
00:09:56 → 00:09:59 แล้วเวลาสูบเข้าไปเนี่ยมันมีปัญหาอย่าง
00:09:59 → 00:10:03 หนึ่งก็คือทำให้ปอดอักเสบแบบรุนแรงมากๆนะ
00:10:03 → 00:10:07 ครับเราเรียกว่าแคพวกนี้นี่แหละครับที่
00:10:07 → 00:10:10 ปอดมันจะแย่มันไม่มียาแก้นะครับไม่มียา
00:10:10 → 00:10:12 แก้ไม่มียารักษาเราก็ต้องรักษาประคับ
00:10:12 → 00:10:14 ประคองด้วยการใส่ท่อชั่วหายใจแล้วก็ใช้
00:10:14 → 00:10:17 เครื่องชัวหายใจจนกว่าคนไข้จะดีนะครับแต่
00:10:17 → 00:10:20 ถ้าคนไข้ไม่ดีคนไข้ก็เสียชีวิตหรือถ้าไม่
00:10:20 → 00:10:23 เสียชีวิตก็ต้องติดอยู่กับเครื่องตลอดไป
00:10:23 → 00:10:26 อันเนี้ยไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดขึ้นกับใคร
00:10:26 → 00:10:30 บ้างนะครับบางคนก็เกิดบางคนก็ไม่เกิดนะ
00:10:30 → 00:10:33 นี่คือปัญหาของโคเคนที่มันน่ากลัวและมัน
00:10:33 → 00:10:37 ยังทำให้กล้ามเนื้อเกิดการสลายได้กล้าม
00:10:37 → 00:10:40 เนื้อสลายเราเรียกว่าแดomไมโอลisนะครับ
00:10:40 → 00:10:43 ซึ่งเท่าที่ดูทั้งหมดเนี่ยเป็นเกิดโรคหัว
00:10:43 → 00:10:45 ใจได้โรคหล่อเลือดสมองเกิดฉาพลันได้นะ
00:10:45 → 00:10:49 ครับมีอาการคุ้มคลั่งได้นะฮะถ้าเกิดมัน
00:10:49 → 00:10:53 มากจนเกินไปนะครับแล้วก็เวลาที่เราเนี่ย
00:10:53 → 00:10:56 หยุดโคเคนเราจะมีความรู้สึกมันติดแล้วมัน
00:10:56 → 00:10:58 อยากมากมันจะหงุดหงิดงุ่นง่านนะครับมัน
00:10:58 → 00:11:01 ยังไงก็ต้องหามาให้ได้อารมณ์ก็จะไม่ดีนะ
00:11:02 → 00:11:07 ทีนี้โคเคนเนี่ยมันไม่ได้หยุดแค่นี้ครับ
00:11:07 → 00:11:10 โคเคนมันมาจากอเมริกาใต้ใช่มั้ฮะที่
00:11:10 → 00:11:12 อเมริกาเนี่ยโคเคนเป็นยาเสพติดที่เราเจอ
00:11:12 → 00:11:16 กันบ่อยมากและที่สำคัญนะครับโคเคนจริงๆ
00:11:16 → 00:11:19 มันเป็นของที่มีราคาค่อนข้างมันจะสูงใน
00:11:19 → 00:11:22 ตลาดนะฮะดังนั้นคนที่เค้าขายเนี่ยเค้าก็
00:11:23 → 00:11:27 ต้องพยายามทำยังไงก็ได้ให้มันราคาถูกลงก็
00:11:27 → 00:11:31 เลยมีการเอาสารตัวนึงไปผสมสารตัวเนี้ยมี
00:11:31 → 00:11:35 ชื่อว่าเลวamีโซนะครับเลวamีโซเนี่ยเป็น
00:11:35 → 00:11:38 ยาฆ่าพยาธตัวกลมที่เราใช้ในสัตว์แต่เรา
00:11:38 → 00:11:41 ไม่ได้ใช้ในคนสมัยก่อนเคยมีใช้ในคนนะครับ
00:11:41 → 00:11:45 แต่ว่าเจอว่ามันทำให้เกิดโรคผิดปกติมาก
00:11:45 → 00:11:48 เขาเลยเลิกใช้ไปแล้วเรียกว่ามีโซตัวนี้
00:11:48 → 00:11:52 เนี่ยนะครับมันเป็นสารที่หน้าตามันเหมือน
00:11:52 → 00:11:54 โคเคเลยถ้าเกิดเอามาวางข้างๆกันเนี่ยมัน
00:11:54 → 00:11:57 ดูไม่ออกแล้วพอเอามารวมเป็นเนื้อเดียวกัน
00:11:57 → 00:12:00 เนี่ยต่อให้คุณเชี่ยวชาญมองโคเคนยังไงคุณ
00:12:00 → 00:12:03 ก็มองไม่ไม่ออกนะครับมันก็เลยเอาไว้หลอก
00:12:03 → 00:12:06 ผู้บริโภคได้ว่าเฮ้ยเนี่ยโคเคนบริสุทธิ์
00:12:06 → 00:12:09 100% นะอ่าแต่ที่อเมริกาเนี่ยนะครับก็
00:12:09 → 00:12:13 ต้องบอกว่าเราไปเจอว่าโคเคนผสมเลวามิโซ
00:12:13 → 00:12:17 เนี่ยเยอะมากเลยทีเดียวนะครับที่เค้าขาย
00:12:17 → 00:12:19 กันบอกว่าเนี่ยโคเคน 100% มันไม่ 100%
00:12:19 → 00:12:22 มันมักจะมีตัวเลวามิโซผสมอยู่เพราะว่าคน
00:12:22 → 00:12:24 ที่เขาขายเต้องการทำกำไรเยอะๆโคเคนมันแพง
00:12:24 → 00:12:27 ใช่มั้ยเลวamิโซมันถูกใช่มั้แต่ 2 ตัวนี้
00:12:27 → 00:12:28 หน้าตาเหมือนกันจับมันมารวมกันเลยไม่มี
00:12:28 → 00:12:31 ใครรู้หรอกแล้วเลวamิโซถ้าขนาดสูงบางคนก็
00:12:31 → 00:12:35 จะรู้สึกเมามึนๆด้วยนะครับปัญหาของเลวamซ
00:12:36 → 00:12:41 มันอยู่ตรงนี้ทำไมมันถึงหยุดใช้ไปทำไมทาง
00:12:41 → 00:12:44 FDA ของอเมริกาถึงยกเลิกการใช้เลวamิโซ
00:12:44 → 00:12:48 ในคนเหตุผลมันข้อแรกนะครับมันทำให้เกิด
00:12:48 → 00:12:52 ภาวะเม็ดเลือดขาวต่ำรุนแรงที่เราเรียกว่า
00:12:52 → 00:12:55 agนulซosนะครับคือมีภาวะที่เม็ดเลือดขาว
00:12:55 → 00:12:58 ชื่อว่านิวโตรฟิลเนี่ยต่ำมากๆพอมันต่ำมาก
00:12:58 → 00:13:01 เนี่ยครับร่างกายก็จะติดเชื้อง่ายพอมี
00:13:01 → 00:13:04 ปัญหาขึ้นมาก็จะมีไข้สูงนะครับมีแผลในปาก
00:13:04 → 00:13:06 ร้อนในเต็มไปหมดนะครับแล้วก็ติดเชื้อเข้า
00:13:06 → 00:13:09 ไปในกระแสเลือดนะอันเนี้ยถึงตายได้ถ้า
00:13:09 → 00:13:12 เกิดว่าเรารักษาไม่ทันนะครับแต่ยังไม่จบ
00:13:12 → 00:13:15 แค่นั้นครับเลวามีโซเเนี่ยมันยังสามารถทำ
00:13:15 → 00:13:19 ให้เกิดหลอดเลือดเลือดอักเสบรุนแรงได้นะ
00:13:19 → 00:13:22 ครับถ้าเป็นหมอเข้ามาฟังนะครับเลวamิโซ
00:13:22 → 00:13:26 ตัวเนี้ยมันจะทำให้เกิดแค่า vasculitis
00:13:26 → 00:13:30 นะครับแคย่อมาจาก anneutropil cyoplasmic
00:13:30 → 00:13:33 antibody ซึ่งถ้าเป็นหมอเข้ามาฟังเนี่ย
00:13:33 → 00:13:37 ต้องบอกว่ามันให้ผลบวกได้ทั้งpองค่าและcค
00:13:38 → 00:13:39 ให้ผลบวกได้ทั้ง
00:13:39 → 00:13:43 anoอกidแล้วก็ antein 3 ซึ่งเป็นตัวที่
00:13:43 → 00:13:46 อยู่ในgrandดูของนิวตรนะครับได้หมดเลย
00:13:47 → 00:13:49 อาการแสดงของมันเนี่ยเฉพาะเจาะจงมากมันจะ
00:13:49 → 00:13:53 เกิดผิวหนังตายเออบางคนจมูกหลุดออกมาเลย
00:13:53 → 00:13:55 หูดำไปทั้งอันเนี้ยหลุดออกมาเลยนะครับ
00:13:55 → 00:13:58 หรือผิวหนังตรงที่มันไปทำให้เกิดเส้น
00:13:58 → 00:13:59 เลือดอักเสบเนี่ยมันมีการอุตันของเส้น
00:14:00 → 00:14:02 เลือดผิวหนังจะดำๆเป็นปื้นๆแล้วตายไปเลย
00:14:02 → 00:14:07 นะครับนี่คือปัญหาของการใช้เลวามีโซนะ
00:14:07 → 00:14:10 ครับผมขอแถมศัพท์ภาษาอังกฤษให้อีก 2 คำนะ
00:14:10 → 00:14:14 ครับคำแรกคือคำว่า adulterate นะครับ
00:14:14 → 00:14:16 adult ที่แปลว่าผู้ใหญ่นี่แหละ
00:14:16 → 00:14:21 แต่ว่าถ้าเราเอามาใช้ในเรื่องของยาเสพติด
00:14:21 → 00:14:24 แล้วคำว่า adulterate คือการ
00:14:25 → 00:14:28 ผสมสาร 2 ตัวสมมุติคุณมีโคเคนนะครับแล้ว
00:14:28 → 00:14:31 คุณมีเรามิโซคุณจับมันมาผสมกัน adulterate
00:14:31 → 00:14:35 คือการผสมสาร 2 ตัวเพื่อที่จะหลอกผู้
00:14:35 → 00:14:38 บริโภคเออเพื่อที่จะหลอกก็คือคุณไม่ได้
00:14:38 → 00:14:41 ให้โคเคนไป 100% เต็มๆคุณเอาเลวามิโซใส่
00:14:41 → 00:14:44 เข้าไปสัก 30-40% อย่างเงี้ยอันเนี้ยเขา
00:14:44 → 00:14:45 เรียกว่า adulterate
00:14:45 → 00:14:49 แล้วมีในที่นี้เขาเรียกว่าสาร adulterant
00:14:49 → 00:14:52 นะครับนี่ก็คือเป็นการขี้โกงอีกคำศัพท์
00:14:52 → 00:14:54 นึงซึ่งผมอยากจะเล่าให้ทุกคนฟังก็คือคำ
00:14:54 → 00:14:59 ว่า laste l a c e d นะครับ l เนี่ย
00:14:59 → 00:15:02 คือการเอาสาร 2 ตัวที่เป็นยาเสพติดมาผสม
00:15:02 → 00:15:04 กันเหมือนกันแต่คำว่า l เนี่ยต่างจาก
00:15:04 → 00:15:08 adulterate ก็คือมันเป็นการที่จะเอายา
00:15:08 → 00:15:11 เสพติด 2 ตัวที่มันมีฤทธิ์ที่เรารู้ว่า
00:15:11 → 00:15:13 มันจะทำให้มันเมาหรือว่าทำให้ high มาก
00:15:13 → 00:15:16 ขึ้นเนี่ยเอามารวมกัน 2 ตัวเพื่อผลที่มัน
00:15:16 → 00:15:19 มากขึ้นนะครับอ่าดังนั้น adulterate
00:15:19 → 00:15:23 เนี่ยคือการหลอกลวงผสมเพื่อหลอกลวง l
00:15:24 → 00:15:26 เนี่ยคือเอา 2 ตัวมาผสมเพื่อให้ผลมันแรง
00:15:26 → 00:15:30 มากขึ้นแต่บางครั้งนะครับ adulterance ก็
00:15:30 → 00:15:34 เป็นตัวที่ทำให้ผลมันมากขึ้นก็คือเป็น
00:15:34 → 00:15:40 ทั้ง adultterant แล้วเป็นทั้ง
00:15:40 → 00:15:44 lนงั้นโคนเนี่ยเราจะสังเกตเห็นว่ามันมีผล
00:15:44 → 00:15:46 เสียค่อนข้างที่จะเยอะแล้วเราก็ไม่แน่ใจ
00:15:46 → 00:15:48 ด้วยว่าโคเคนนั้นมันบริสุทธิ์หรือไม่ถ้า
00:15:48 → 00:15:51 มันไม่บริสุทธิ์ก็จะมีสารในพวกเนี้ยปน
00:15:51 → 00:15:54 อยู่ได้แต่ปัญหาไม่ใช่ตรงนี้หรอกครับ
00:15:54 → 00:15:58 ปัญหาคืออะไรรู้มั้ครับยาอีเนี่ยก็เป็นยา
00:15:58 → 00:16:01 ที่มีราคาโคเคนก็เป็นยาที่มีราคาเหมือน
00:16:01 → 00:16:03 กันมันไม่ได้ผลิตในประเทศไทยหรือประเทศ
00:16:03 → 00:16:07 เพื่อนบ้านครับแปลว่ามันมาจากไหน
00:16:07 → 00:16:12 ล่ะเออใช่มั้ฮะโคเคนเนี่ยอเมริกาครับ
00:16:12 → 00:16:13 อเมริกาใต้
00:16:13 → 00:16:19 เม็กซิโกใช่มั้ฮะแล้วยาอีอ่ะมาจากทางไหน
00:16:19 → 00:16:20 ยุโรป
00:16:20 → 00:16:25 ครับมาจากนอกพื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียง
00:16:25 → 00:16:28 ใต้แล้วมันมาจากที่อื่นแล้วดังนั้นตรงนี้
00:16:28 → 00:16:32 นี่แหละต้องดูว่าเส้นทางของมันมายังไง
00:16:32 → 00:16:34 ครับเพราะว่ามันไม่ปกติแน่ๆโดยทั่วไป
00:16:34 → 00:16:36 เนี่ยสมัยที่เราเรียนเด็กๆแล้วก็จะบอกว่า
00:16:36 → 00:16:39 เออในย่านสามเหลี่ยงทองคำนะจะมีการลักลอบ
00:16:39 → 00:16:43 ยาเสพติดขนเข้ามาในอ่ามาจากจีนบ้างมาจาก
00:16:43 → 00:16:46 ที่โน่นที่นี่บ้างจากประเทศใกล้ๆบ้างแต่
00:16:46 → 00:16:48 ไอ้ 2 ตัวเนี้ยยาอีกับโคเคนเนี่ยมันไม่
00:16:48 → 00:16:50 ได้มาจากประเทศใกล้ๆเท่าไหร่หรอกครับมัน
00:16:50 → 00:16:53 มาจากประเทศที่ไกลขึ้นนะครับแต่แน่นอนอาจ
00:16:53 → 00:16:56 จะมีประเทศที่อยู่ใกล้บ้านเราสามารถผลิต
00:16:56 → 00:17:00 ไอ้ของพวกนี้ได้แล้วก็ได้นะครับแต่โคเคน
00:17:00 → 00:17:04 มันมาจากต้นโคต้นเนี้ยมันไม่ได้มางอกง่าย
00:17:04 → 00:17:07 ๆในช่วงในในแถวๆบ้านเรานะครับดังนั้นคิด
00:17:07 → 00:17:10 ว่าน่าจะมาจากที่อื่นซะมากกว่าแล้วแน่นอน
00:17:10 → 00:17:13 เวลาเค้าขายออกมาเอยากจะขายราคาแพงแต่ว่า
00:17:13 → 00:17:16 ต้นทุนต้องเอาให้มันถูกที่สุดเค้าก็อาจจะ
00:17:16 → 00:17:18 เอายาฆ่าพยาธเลวามิโซเเนี่ยผสมเข้ามาก็
00:17:18 → 00:17:21 ได้อันนี้ไม่มีใครรู้นะครับแต่มันเป็น
00:17:21 → 00:17:26 สิ่งที่น่ากังวลอย่างหนึ่งทำให้เวลาคนใช้
00:17:26 → 00:17:29 ยาพวกเนี้ยมันมีปัญหาหลายอย่างปนกัน
00:17:29 → 00:17:33 ลาบูบูเนี่ยถ้าอันที่ศูนย์พิษรามาส่งไป
00:17:33 → 00:17:36 ตรวจสอบในครั้งนี้นะครับถ้ามันเหมือนกับ
00:17:36 → 00:17:40 ลาบูบูในช่วงปีที่แล้วเนี่ยนะฮะมันเป็น
00:17:40 → 00:17:43 การประกอบกันของยาอี
00:17:43 → 00:17:46 โคเคนนะครับอาจจะบวกลบเลวามีโซอยู่ในนั้น
00:17:46 → 00:17:52 ไม่รู้นะครับเ่อคาเฟอีนแล้วก็แป้งอัดเม็ด
00:17:52 → 00:17:57 มาเป็นรูปลาบูบทtoอยที่ทุกคนชอบแล้วคุณ
00:17:57 → 00:18:01 คิดดูถ้ามันมียาพวกเนี้ยวางๆอยู่ตามโต๊ะ
00:18:01 → 00:18:02 ตามอะไรเงี้ยแล้วเด็กไม่เห็นเข้าคิดว่า
00:18:02 → 00:18:06 เด็กจะไม่กินเหรอเด็กเก็คิดว่าเฮ้ยอันนี้
00:18:06 → 00:18:08 มันเป็นขนมนี่มันเป็นราบูบู่มันต้องกิน
00:18:08 → 00:18:13 ได้มันดีมันเก้าไปเป็นไงครับตายครับเด็ก
00:18:13 → 00:18:17 อาจจะเสียชีวิตได้นะครับอ่าเนี่ยเป็นสิ่ง
00:18:17 → 00:18:19 ที่เรากังวลเพราะว่ายาเสพติดเดี๋ยวเนี้ย
00:18:19 → 00:18:21 คือเอาเข้ามาแล้วก็อาจจะมีการผสมสูตรเอา
00:18:21 → 00:18:23 เองเอายานี้บวกยานั้นเพื่อหวังว่ามันจะ
00:18:23 → 00:18:26 ได้ผลที่แรงมากขึ้นทำให้มันอยู่ในรูปที่
00:18:26 → 00:18:29 มันใช้แล้วแบบคนอยากใช้อ่ะนะครับนี่ในที่
00:18:29 → 00:18:32 นี้ก็คือรูปลาบวูบูแล้วก็มีการระบาดใน
00:18:32 → 00:18:34 ช่วงสงกรานต์นักท่องเที่ยวก็เดินไปกินกัน
00:18:34 → 00:18:37 หรือว่าตอนเอาจจะมีการระบาดไปตามแหล่ง
00:18:37 → 00:18:40 บันเทิงนะครับหรือวัยรุ่นซึ่งผมคิดว่าเรา
00:18:40 → 00:18:43 คงจะต้องมาเฝ้าระวังช่องทางออนไลน์ต่างๆ
00:18:43 → 00:18:45 ว่ามันมีใครเนี่ยขายของพวกนี้มั้ยเพราะ
00:18:46 → 00:18:47 บางทีนะครับถ้าเราเป็นผู้ใหญ่เราเปิดเข้า
00:18:47 → 00:18:50 ไปดูเอ้อขายลาบบูบู่เอ้ยเด็กๆลูกอม
00:18:50 → 00:18:53 ลาบูบู่ไม่เห็นมีอะไรเลยให้เด็กมันกินผู้
00:18:53 → 00:18:56 ใหญ่ก็ไม่สนใจทั้งๆที่จริงๆอ่ะมันคือสิ่ง
00:18:56 → 00:18:58 ที่น่ากลัวมากเพราะมันเป็นยาเสพติดแล้ว
00:18:58 → 00:19:04 คุณไม่รู้มันนะครับงั้นโดยสรุปนะครับยาอี
00:19:04 → 00:19:09 นะฮะมันจะทำให้เรามีซิโรโทนินเกินกว่า
00:19:09 → 00:19:12 ปกติติทำให้เรารู้สึกว่าทุกอย่างในโลก
00:19:12 → 00:19:14 เนี่ยมันไม่มีปัญหาเราเข้ากับคนได้ทุกคน
00:19:14 → 00:19:17 นะครับมันก็มีโอกาสที่คุณจะโดนอ่าหา
00:19:17 → 00:19:20 ประโยชน์ทางเพศหรือทางอะไรก็ได้นะครับ
00:19:20 → 00:19:23 แล้วถ้าใช้ไปมากๆก็จะมีอาการรุนแรงมี
00:19:23 → 00:19:26 อาการตัวร้อนนะฮะจนถึงขั้นที่ความร้อนสูง
00:19:26 → 00:19:29 เกินไปจนร่างกายหยุดทำงานซีโรโตนินsydrม
00:19:29 → 00:19:31 ถ้าไปบวกกับโคเคนปุ๊บก็กล้ามเนื้อสลาย
00:19:31 → 00:19:34 อย่างที่เป็นในข่าวในกรณีนี้ก็ได้นะครับ
00:19:34 → 00:19:36 และ 2 ตัวนี้เมื่อเสริมฤทธิ์กันมันก็จะมี
00:19:36 → 00:19:39 ปัญหาทำให้ความดันโลหิตสูงนะฮะหัวหัวใจก็
00:19:39 → 00:19:41 จะเต้นผิดปกติบางคนหยุดเต้นเส้นเลือดของ
00:19:41 → 00:19:43 หัวใจก็จะมีการหดเกร็งหรือเส้นเลือดสมอง
00:19:43 → 00:19:46 หดเกรงเกิดเป็นสโตรกเกิดเป็นกล้ามดหัวใจ
00:19:46 → 00:19:50 ขาดเลือดแล้วก็เสียชีวิตได้อาจจะมีผลจาก
00:19:50 → 00:19:53 ตัวเลวามิโซนะครับก็แน่นอนครับเลวามิโซทำ
00:19:53 → 00:19:57 ให้คนที่เขาใช้เป็นระยะเวลานึงเนี่ยอาจจะ
00:19:57 → 00:19:59 เกิดเมล็ดขาวต่ำรุนแรงนะครับบางคนก็อาจจะ
00:19:59 → 00:20:02 เกิดหลอดเลือดอักเสบรุนแรงมากๆนะครับ
00:20:02 → 00:20:05 เรียกว่า levamiso induce vacitis นะ
00:20:05 → 00:20:08 ครับซึ่งตรงเนี้ยเป็นสิ่งที่กังวลมากมาก
00:20:08 → 00:20:12 เหมือนกันสำหรับผมนะครับมันมีผลทั้งระยะ
00:20:12 → 00:20:15 สั้นและระยะยาวถ้าใครใช้มันอยู่รีบหยุด
00:20:15 → 00:20:18 ใช้เลยครับยาพวกเนี้ยมันหยุดใช้ทันทีได้
00:20:18 → 00:20:21 นะครับแต่ว่าก็จะมีความทรมานแน่ๆคุณก็
00:20:21 → 00:20:25 ต้องพยายามต่อสู้เอาใจช่วยให้ผ่านมันไป
00:20:25 → 00:20:27 ให้ได้นะครับมันต้องต่อสู้มันต้องอดทนนะ
00:20:27 → 00:20:30 ครับแต่ถ้าไม่ไหวจริงๆเนี่ยแนะนำว่าปรีบ
00:20:30 → 00:20:33 ปรึกษาจิตแพทย์เพราะว่าจะมีวิธีในการช่วย
00:20:33 → 00:20:36 เหลือให้ลดความทรมานเหล่านั้นลงแต่ก่อน
00:20:36 → 00:20:38 ที่เราจะเลิกอะไรก็แล้วแต่นะครับเราตั้ง
00:20:38 → 00:20:41 เป้าไว้ก่อนเราเลิกทำไมแล้วก็หลีกเลี่ยง
00:20:41 → 00:20:44 อย่าไปสนใจเบอร์คนไหนที่เรามีเบอร์เรามี
00:20:44 → 00:20:46 Line ของเอเจนคนไหนตัดทิ้งหมดให้หมด
00:20:46 → 00:20:48 เพื่อนคนไหนที่เป็นคนชวนเราเราก็ไม่ต้อง
00:20:48 → 00:20:51 ไปเจอมันอีกนะครับถ้าเพราะว่าถ้าเรายังคง
00:20:51 → 00:20:53 ไปเจอของพวกนี้มี Line ของเอเจนอยู่ในมือ
00:20:53 → 00:20:56 ปุ๊บเนี่ยเราก็มีโอกาสที่จะกลับมาใช้ซ้ำ
00:20:56 → 00:20:59 ได้อีกดังนั้นนอกจากตั้งเป้าหมายเราต้อง
00:20:59 → 00:21:02 ดูด้วยว่าเราตัดสิ่งที่เกี่ยวข้องออกไป
00:21:02 → 00:21:04 ให้หมดนะครับแล้วก็อย่าเอาตัวเข้าไปอยู่
00:21:04 → 00:21:07 ในสถานการณ์อะไรที่มันสุ่มเสี่ยงนะฮะและ
00:21:07 → 00:21:09 ทำอย่างเงี้ยติดต่อไปเรื่อยๆพยายามเลิก
00:21:09 → 00:21:12 ให้ได้นะครับงั้นวันนี้ผมก็ได้มาเล่า
00:21:12 → 00:21:16 เรื่องของยาลาบูบูถ้าโรงพยาบาลของ
00:21:16 → 00:21:18 รามาธิบดีเนี่ยเค้าตรวจออกมาแล้วมัน
00:21:18 → 00:21:20 เหมือนในปีก่อนนะครับก็น่าจะเป็นยาอีบวก
00:21:21 → 00:21:24 โคเคนบวกคาเฟอีนกับแป้งหรือว่าสารอื่นๆใน
00:21:24 → 00:21:26 นั้นอาจจะมีเลวามีโซอยู่ด้วยซึ่งทั้งหมด
00:21:26 → 00:21:29 เนี้ยสรุปแล้วเป็นอันตรายต่อร่างกายมากๆ
00:21:29 → 00:21:31 นะครับแล้วก็ถ้าท่านใช้อยู่ท่านอาจจะเป็น
00:21:31 → 00:21:34 คนชกร้ายคนต่อไปอาจจะเสียชีวิตเหมือนกรณี
00:21:34 → 00:21:37 ที่ไปถึงโรงพยาบาลรามาก็ได้หรือถ้าท่าน
00:21:37 → 00:21:39 ไม่เสียชีวิตท่านใช้ไปเรื่อยๆหวังว่าเอ๊
00:21:39 → 00:21:41 มันคงไม่เป็นไรหรอกฉันใช้นิดเดียวนะครับ
00:21:41 → 00:21:43 ใช้มาตั้งนานไม่เห็นมันเป็นอะไรเลยคุณอาจ
00:21:43 → 00:21:45 จะกลายไปเป็นคนที่มีเม็ดเลือดขาวต่ำติด
00:21:45 → 00:21:48 เชื้อในกระแสเลือดและเสียชีวิตหรือคุณอาจ
00:21:48 → 00:21:50 จะกลายไปเป็นคนที่มีหลอดเลือดอักเสบเพราะ
00:21:50 → 00:21:52 ว่าหลอดเลือดอักเสบเนี่ยมันต้องใช้ไปสัก
00:21:52 → 00:21:55 ระยะหนึ่งแต่จะเกิดขึ้นตอนไหนไม่มีใครรู้
00:21:55 → 00:21:58 นะครับถ้าเกิดขึ้นแล้วมันก็ช่วยไม่ได้
00:21:58 → 00:22:00 ครับผิวหนังที่มันตายเนี่ยมันก็ต้องปล่อย
00:22:00 → 00:22:03 มันตายไปแล้วสุดท้ายมันอาจจะเสียโฉมเสีย
00:22:03 → 00:22:07 รูปไปเลยก็ได้นะครับแน่นอนครับบางคนบอก
00:22:07 → 00:22:10 ว่าเออผลแค่นี้ครับไม่กลัวนะครับใช้ไปนาน
00:22:10 → 00:22:14 ๆครับมันมีปัญหามือสั่นความคิดความอ่าน
00:22:14 → 00:22:18 เสียหมดสมองก็เสียอารมณ์ก็ปรวนแปรนะครับ
00:22:18 → 00:22:22 มีปัญหาไม่ซึมเศร้าก็วิตกกังวลประสาทร้อน
00:22:22 → 00:22:25 นะฮะอารมณ์ทางเพศก็ลดลงและที่สำคัญครับ
00:22:26 → 00:22:28 บางคนเนี่ยนะครับมีปัญหาเรื่องของ
00:22:28 → 00:22:31 สมรรถภาพทางเพศหรือเป็นหมันได้เลยนะครับ
00:22:31 → 00:22:34 แต่ไม่เป็นไรครับถ้าท่านจะใช้ก็ระมัด
00:22:34 → 00:22:36 ระวังตัวเองกันแล้วกันนะครับแต่ว่าผมไม่
00:22:36 → 00:22:39 อยากให้ทุกท่านใช้แล้วถ้ามีผู้ปกครองคน
00:22:39 → 00:22:42 ไหนที่ดูคลิปนี้อยู่นะครับก็ลองสอลองดู
00:22:42 → 00:22:44 แล้วกันว่าบุตรหลานท่านเนี่ยมีโอกาสที่จะ
00:22:44 → 00:22:46 ติดไอ้ของพวกนี้มั้ถึงแม้ว่ามันจะดู
00:22:46 → 00:22:48 ลักษณะเหมือนการ์ตูนถ้าท่านไม่เคยเห็นมัน
00:22:48 → 00:22:50 มาก่อนนะครับให้ระวังไว้เสมอนะครับตาม
00:22:50 → 00:22:53 สถานบันเทิงออนไลน์ต่างๆนะครับก็ต้องมี
00:22:53 → 00:22:56 การตรวจตากันให้ดีนะครับโอเควันนี้เล่า
00:22:56 → 00:22:57 ให้ฟังเพียงเท่านี้นะครับขอบคุณมากครับ
00:22:57 → 00:23:01 สวัสดีครับ