00:00:00 → 00:00:02 อาการของโรคพาร์กินสันไม่ใช่มีเพียงแค่
00:00:02 → 00:00:05 สั่นบางท่านนอนหลับแล้วนอนละเมออาจมีความ
00:00:05 → 00:00:08 เสี่ยงด้วยดังนั้นในวันนี้ค่ะเราจะพาคุณ
00:00:08 → 00:00:10 ผู้ชมนะคะไปรู้เรื่องราวเกี่ยวกับ
00:00:10 → 00:00:13 พาร์กินสันมากขึ้นซึ่งเราโชคดีค่ะได้รับ
00:00:13 → 00:00:16 เกียรติจากศาสตราจารย์นายแพทย์ุ่งโรจน์
00:00:16 → 00:00:19 ทิพยสิริหัวหน้าศูนย์ความเป็นเลิศทางการ
00:00:19 → 00:00:22 แพทย์โรคพาร์กินสันและกลุ่มโรคความ
00:00:22 → 00:00:25 เคลื่อนไหวผิดปกติโรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์สภา
00:00:25 → 00:00:28 กาชาติไทยไปฟังอาจารย์กัน
00:00:28 → 00:00:33 ค่ะ
00:00:33 → 00:00:37 อาจารย์คะขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะใคร
00:00:37 → 00:00:39 ที่มีความเสี่ยงในการที่จะเป็นโรค
00:00:39 → 00:00:42 พาร์กินสันคะเวลาเราซักประวัติจากผู้ป่วย
00:00:42 → 00:00:45 หรือมีความกลุ่มเสี่ยงเนี่ยเราจะต้องซัก
00:00:45 → 00:00:48 ดีๆเพราะว่าบางทีมันไม่ใช่ปัจจัยข้อใดข้อ
00:00:48 → 00:00:51 หนึ่งที่ไปเพิ่มความเสี่ยงเขาเยอะขึ้น
00:00:51 → 00:00:53 เสมอไปนะครับแล้วก็เช่นเดียวกันปัจจัยทาง
00:00:53 → 00:00:56 พันธุกรรมมันเป็นสิ่งที่เรารู้ใหม่นะครับ
00:00:56 → 00:00:58 ผู้สูงวัยในรุ่นเก่าๆเนี่ยเขาอาจจะเป็น
00:00:58 → 00:01:01 Parkinson แต่ครอบควรไม่ทราบซะด้วยซะซ้ำ
00:01:01 → 00:01:03 ไปเพราะว่าสมัยก่อนการรักการการวินิจฉัย
00:01:03 → 00:01:06 การรักษาโรคากิสั้นยังไม่ค่อยดีเท่าไหร่
00:01:06 → 00:01:08 เพราะงั้นเราจะซักถึงปัจจัยเสี่ยงร่วม
00:01:08 → 00:01:10 หลายๆอย่างนะครับอย่างที่คุหพูดเมื่อกี้
00:01:10 → 00:01:14 ถูกเลยว่าเป็นญาติสายตรงหรือเปล่านะครับ
00:01:14 → 00:01:17 ญาติที่เป็นเป็นพีซันอายุน้อยมยนะครับมี
00:01:17 → 00:01:21 กี่คนนะครับในครอบครัวในลักษณะแบบนี้
00:01:21 → 00:01:23 ลักษณะอาการเเป็นอย่างไรลักษณะอาการของ
00:01:23 → 00:01:26 กลุ่มพันธุกรรมจะมีความแตกต่างกับกลุ่ม
00:01:26 → 00:01:28 Parkinson อื่นๆด้วยนะครับขึ้นอยู่กับ
00:01:28 → 00:01:31 ยีนหรืออะไรต่างๆด้วยเราก็จะถามลงลึกใน
00:01:31 → 00:01:33 จุดตรงนี้มากขึ้นนะครับแล้วก็เสร็จแล้ว
00:01:33 → 00:01:36 เราก็จะมาประมวลผลว่าเอ๊ะความเสี่ยงผู้
00:01:36 → 00:01:39 ป่วยเป็นอย่างไรอาจารย์คะสัญญาณเตือนของ
00:01:39 → 00:01:41 โรคพาร์กินสันเนี่ยมีอะไรบ้างคะแล้วการ
00:01:41 → 00:01:44 นอนละเมอเนี่ยเกี่ยวข้องกับพิสันอย่างไร
00:01:44 → 00:01:48 คะครับจริงๆอาการของโรคพิสันเนี่ยเรายัง
00:01:48 → 00:01:50 พูดถึงเรื่องอาการของการเคลื่อนไหวอยู่
00:01:50 → 00:01:52 นะนนั้นยังเป็นอาการหลักของผู้ป่วยนะครับ
00:01:52 → 00:01:54 เพราะฉะนั้นอาการหลักของเขาคือการเคลื่อน
00:01:54 → 00:01:58 ไหวที่เริ่มขึ้นข้างใดข้างหนึ่งก่อนนะ
00:01:58 → 00:02:00 ครับโรคผากกิสเป็นโรคที่ที่ไม่เท่ากัน 2
00:02:00 → 00:02:03 ข้างเวลาซักประวัติผู้ป่วยไปเนี้ยเบอกว่า
00:02:03 → 00:02:06 เจะเริ่มข้างเดียวนะครับสิ่งที่เห็นชัด
00:02:06 → 00:02:08 ที่สุดก็สั่นเนอที่เราเคยคุยกันและหลายๆ
00:02:09 → 00:02:11 ท่านรู้นะครับสั่นเวลาผู้ป่วยเผลอๆเป็น
00:02:11 → 00:02:14 อาการแรกเริ่มเลยครับผมโดยเฉพาะที่ปลาย
00:02:14 → 00:02:17 นิ้วนะครับบางทีญาติจะสังเกตดูว่าเอ๊ะ
00:02:17 → 00:02:20 ทำไมนั่งดูทีวีอยู่คุณพ่อคุณแม่เาสั่น
00:02:20 → 00:02:23 เวลานั่งดูทีวีโดยที่ผู้ป่วยอาจจะไม่รู้
00:02:23 → 00:02:26 ตัวนะครับอันนี้เป็นอาการที่ที่ที่ค่อน
00:02:26 → 00:02:29 ข้างชัดและบ่งบอกว่าความโอกาสที่จะเป็นภา
00:02:29 → 00:02:32 กิสเยอะเดินแล้วมือสั่นอยู่ด้านนึงอัน
00:02:32 → 00:02:36 นั้นก็เป็นอาการที่ค่อนข้างชัดนะครับ
00:02:36 → 00:02:39 เคลื่อนไหวช้าลงกว่าเดิมอันนี้ประเมินยาก
00:02:39 → 00:02:43 ใช่มครับเอ๊ะช้าลงเพราะอะไรอายุที่เพิ่ม
00:02:43 → 00:02:46 ขึ้นข้อไม่ดีหรือเปล่ากล้ามเนื้ออ่อนแรง
00:02:46 → 00:02:47 หรือเปล่าแต่ส่วนใหญ่ถ้าเป็นเรื่องของ
00:02:47 → 00:02:51 ภาสันมันจะค่อยๆเพิ่มขึ้นแล้วเอ๊ะทำไมช้า
00:02:51 → 00:02:54 ด้านนึงดูเกรงๆด้านนึงเดินและแขนไม่ค่อย
00:02:54 → 00:02:56 แกว่งด้านนึงอันนี้เป็นลักษณะอาการที่เรา
00:02:56 → 00:02:59 รู้กันนะครับผมว่าเห็นผู้ป่วยแบบนี้เรามี
00:03:00 → 00:03:02 เกณฑ์การวินิจฉัยส่วนใหญ่บางทีหมอเห็น
00:03:02 → 00:03:04 อย่างนี้เราสามารถวินิจฉัยได้เลยนะครับ
00:03:04 → 00:03:07 คราวนี้เรื่องปัจจัยเสี่ยงมีความแตกต่าง
00:03:07 → 00:03:10 กันนะครับในปัจจุบันที่พูดไปในโรคพิสัน
00:03:10 → 00:03:13 มันมันมีมันมี trajectory การดำเนินโรค
00:03:13 → 00:03:15 ที่ค่อนข้างยาวแบบนี้สมมุติอาการเริ่มตรง
00:03:15 → 00:03:21 นี้นะครับมองย้อนกลับไปจะมีอาการนำมาก่อน
00:03:21 → 00:03:23 นะครับเเรียกว่าอาการนำนะครับก่อนที่ผู้
00:03:23 → 00:03:26 ป่วยจะเป็น Parkinson นะครับพูดถึงเมื่อ
00:03:26 → 00:03:27 กี้นี้ที่เราเด่นชัดคือเรื่องของการนอน
00:03:28 → 00:03:33 ละเมอกางดึกท้องผูกเรื้อรังนะครับดมกลิ่น
00:03:33 → 00:03:38 ไม่ได้นะครับซึมเศร้าหรือการเอ่อควบคุมใน
00:03:38 → 00:03:40 เรื่องของระบบเอ่อปัสสาวะการขับถ่ายหรือ
00:03:40 → 00:03:43 อะไรต่างๆในจุดตรงนี้นะครับความรู้สึกทาง
00:03:43 → 00:03:45 เพศที่ลดลงหรืออะไรต่างๆในจุดตรงนี้นะ
00:03:45 → 00:03:49 ครับก็จะเป็นอาการที่นำมาก่อนแต่แต่ละตัว
00:03:49 → 00:03:51 มีน้ำหนักไม่เท่ากันอย่างที่เราคุยกัน
00:03:51 → 00:03:54 เมื่อกี้นี้หมอจะเน้นตัวสำคัญำคัญนะครับ
00:03:54 → 00:03:58 ผมว่าละเมอกางดึกการละเมอกลางดึกนี่เป็น
00:03:58 → 00:04:01 เป็นปัญหาที่ที่เดี๋ยวนี้สังคมเข้าใจเยอะ
00:04:01 → 00:04:04 ขึ้นนะครับแต่ผู้ป่วยบางทีเยังตอบเองไม่
00:04:04 → 00:04:07 ได้นะว่าเขาละเมอหรือไม่ละเมองั้นเวลาเรา
00:04:07 → 00:04:10 ถามเรื่องของการละเมอปั๊บเราต้องไปถามที่
00:04:10 → 00:04:13 เอ่อสามีภรรยาของผู้ผู้ป่วยละเละเมอหรือ
00:04:13 → 00:04:16 เปล่าในปัจจุบันเนี้ยมีแบบสอบถามที่ใน
00:04:16 → 00:04:18 เรื่องของการประเมินในเรื่องของการนอน
00:04:18 → 00:04:21 ละเมอและมีการตรวจในเรื่องของการนอนละเมอ
00:04:21 → 00:04:24 ด้วยเช่นเดียวกันซึ่งเดี๋ยวเนี้ยสิ่ง
00:04:24 → 00:04:27 หนึ่งที่หมอมักจะแนะนำกลุ่มเสี่ยงถ้าเน
00:04:27 → 00:04:30 สงสัยนะเดี๋ยวนี้มันง่ายมากขึ้นเยอะด้วย
00:04:30 → 00:04:32 เทคโนโลยีในปัจจุบันเราบอกให้เค้าติด
00:04:32 → 00:04:35 กล้องเล็กๆที่ในห้องนอนน่ะติดไว้สัก
00:04:35 → 00:04:37 อาทิตย์นึงอ่ะเริ่มได้ข้อมูลแล้วว่าเ้ามี
00:04:37 → 00:04:40 ปัญหาหรือเปล่านะครับคราวนี้การนอนละเมอ
00:04:40 → 00:04:43 ในจุดตรงเนี้ยเอ่อมันไม่เหมือนนอนละเมอ
00:04:43 → 00:04:46 เด็กๆนะันมีความแตกต่างละเมอในผู้สูงวัย
00:04:46 → 00:04:50 เนี่ยนะครับผมเอ่อมันมักจะมาร่วมกับอาการ
00:04:50 → 00:04:53 ฝันนะครับงั้นเราจะใช้คำว่า Dream
00:04:53 → 00:04:57 enactment Behavior Dream คือการฝันนะ
00:04:57 → 00:05:00 ครับ enactment ก็คือเาเ rect ออกมานะ
00:05:00 → 00:05:03 ครับที่ออกมาเป็นในลักษณะของพฤติกรรมนะ
00:05:03 → 00:05:06 ครับเวลาเขารีคออกมาอาจจะเป็นในลักษณะของ
00:05:06 → 00:05:10 นอนๆอยู่แล้วพูดพูดนู่นพูดนี่อะไรต่างๆใน
00:05:10 → 00:05:13 จุดตรงนี้นะครับหรือบางครั้งออกมาเป็นใน
00:05:13 → 00:05:16 ลักษณะท่าทางเนาะบางคนรุนแรงมียกมือยกไม้
00:05:16 → 00:05:19 หรืออะไรต่างๆบางราตกเตียงก็มีเพราะว่า
00:05:19 → 00:05:22 อะไรเพราะว่าเขา rect จากสิ่งที่เขาฝัน
00:05:22 → 00:05:25 สิ่งที่เขาฝันในกลุ่มนอนวอพวกนี้มักจะ
00:05:25 → 00:05:28 เป็นสิ่งที่ค่อนข้างน่ากลัวตื่นเต้นผู้
00:05:28 → 00:05:30 ป่วยครึ่งนึงพอจำได้ว่าฝันอะไรเขาจะเล่า
00:05:31 → 00:05:33 เลยว่าอื้อหือทำไมเหมหมอผมไปผจญภัยอะไร
00:05:33 → 00:05:36 ต่างๆในลักษณะแบบนี้อันอันนี้เป็นสิ่งที่
00:05:36 → 00:05:38 ที่เป็นปัจจัยเสียงที่ค่อนข้างสำคัญนะ
00:05:38 → 00:05:41 ครับในปัจจุบันเนี่ยกลุ่มผู้ใหญ่ถ้ามี
00:05:41 → 00:05:45 ลักษณะอาการแบบนี้มักจะต้องตรวจให้
00:05:45 → 00:05:47 ละเอียดเพราะว่าอาจจะเป็นเรื่องของอาการ
00:05:47 → 00:05:50 ทางสมองอย่างใดอย่างหนึ่งโรคพาร์กินสันมี
00:05:50 → 00:05:53 กี่ระยะคะอาจารย์ครับจริงๆเนี่ยเป็นคำถาม
00:05:53 → 00:05:56 ที่คนไข้หรือครอบครัวมักจะถามบ่อยเพราะ
00:05:56 → 00:05:58 ว่าเขาจะกังวนเอ๊ะเราเป็นระยะต้นระยะกลาง
00:05:58 → 00:06:02 ระยะปนะครับจริงๆมันมีเกณฑ์นะเอ่อใน
00:06:02 → 00:06:05 เรื่องของการดูระยะของโรคพาร์กินสันแต่
00:06:05 → 00:06:07 แต่หมอมักจะขอเรียนว่าอย่างนี้มันเป็น
00:06:07 → 00:06:10 เรื่องของเอ่อการวิจัยโดยส่วนใหญ่ที่เรา
00:06:10 → 00:06:12 จะพูดถึงเรื่องของระยะนะครับแล้วก็เวลา
00:06:12 → 00:06:15 ถ้าผู้ป่วยรักษาดีขึ้นการตอบสนองต่อยาดี
00:06:15 → 00:06:18 ขึ้นอะไรต่างๆมันทีระยะมันถอยลงก็มีนะ
00:06:18 → 00:06:20 เพราะฉะนั้นหมอไม่อยากให้แบบผู้ป่วยหลายๆ
00:06:20 → 00:06:24 ท่านไปกังวลว่าอุ้ยเอ่อฉันเป็นระยะ 4
00:06:24 → 00:06:27 แล้วระยะอะไรต่างๆตรงนี้มันมันเอ่อใช้ใน
00:06:27 → 00:06:29 เรื่องของการวิจัยนะครับแต่หมอเรียนคร่าว
00:06:29 → 00:06:33 ๆอย่างงี้ครับว่าเอ่อเาแบ่งระยะตามลักษณะ
00:06:33 → 00:06:36 อาการของผู้ป่วยนะครับผู้ป่วยระยะที่ 1
00:06:36 → 00:06:38 ก็มักจะมีอาการอยู่แค่เพียงข้างเดียวของ
00:06:38 → 00:06:42 ร่างกายนะครับระยะที่ 2 ก็ 2 ข้างนะครับ 3
00:06:42 → 00:06:45 ก็คือ 2 ข้างบวกตรงกลางของร่างกาย 4 หรือ
00:06:45 → 00:06:47 5 ก็ต้องใช้พวกอุปกรณ์ช่วยเหลือการ
00:06:47 → 00:06:49 เคลื่อนไหวอะไรต่างๆนะครับมีปัญหาใน
00:06:49 → 00:06:51 เรื่องของการทรงตัวนะครับนี้เป็นเกณฑ์อัน
00:06:51 → 00:06:55 นึงที่เรามักจะใช้คร่าวๆนะครับแต่ว่าเวลา
00:06:55 → 00:06:58 เรารักษาผู้ป่วยในปัจจุบันเนี่ยเราจะเน้น
00:06:58 → 00:07:01 เรื่องของกิจวัตประจำวันแล้วเน้นในเรื่อง
00:07:01 → 00:07:06 ของฟังก์ชันที่เขาทำว่ากินข้าวได้ยเมื่อ
00:07:06 → 00:07:08 กี้คคนที่แล้วเราคุยกันเรื่องเอ่อรู้จัก
00:07:08 → 00:07:11 เตียงได้เปล่ากิจวัตรประจำวันเเป็นอย่าง
00:07:11 → 00:07:14 ไรนะครับแล้วเมื่อเราปรับยาหรือให้การ
00:07:14 → 00:07:16 รักษาไปแล้วเนี่ยสิ่งนั้นเขาดีขึ้นมย
00:07:16 → 00:07:19 คุณภาพชีวิตเาดีขึ้นหรือเปล่ากลับไปทำงาน
00:07:19 → 00:07:21 ได้หรือไม่หรืออะไรต่างๆพวกนี้เป็นสิ่ง
00:07:21 → 00:07:23 ที่เรามองมากกว่าเวลาเรารักษาผู้ป่วย
00:07:23 → 00:07:26 อาจารย์คะแล้วเราจะมีวิธีคัดกรองผู้ป่วย
00:07:26 → 00:07:29 พิสันอย่างไรคะเอ่อเดี๋ยวนี้ด้วย
00:07:29 → 00:07:32 เทคโนโลยีอะไรต่างๆเนี่ยเราสามารถที่จะ
00:07:32 → 00:07:35 ตรวจผู้ป่วย Parkinson ได้ในหลายรูปแบบนะ
00:07:35 → 00:07:38 ครับเอ่อ tradition จริงๆก็คือการเจอ
00:07:38 → 00:07:40 แพทย์เ face to face แล้วก็ตรวจร่างกาย
00:07:40 → 00:07:42 อย่างที่เราคุยกันในช่วงแรกแต่เดี๋ยวนี้
00:07:42 → 00:07:45 ด้วยเทคโนโลยีเนี่ยเราตรวจผู้ป่วยได้หลาย
00:07:45 → 00:07:48 ๆคนไปพร้อมๆกันนะครับโดยใช้ในเทคโนโลยี
00:07:48 → 00:07:51 คราวนี้สิ่งที่เราสรีนโดยส่วนใหญ่เนี่ย
00:07:51 → 00:07:54 เราก็จะ screen ในเรื่องของปัญหาทางด้าน
00:07:54 → 00:07:55 การเคลื่อนไหวอย่างที่เราคุยเมื่อกี้นี้
00:07:56 → 00:07:58 นะครับทางศูนย์ pinson เราเนี่ยก็มีมี
00:07:58 → 00:08:01 แอปพลิเคนะครับที่เราใช้สกรีนในเรื่องของ
00:08:01 → 00:08:05 เอ่อปัญหาของผู้ป่วยที่เป็น Parkinson ใน
00:08:05 → 00:08:08 บางครั้งเนี่ยคนไข้เขายังไม่มีอาการเราก็
00:08:08 → 00:08:14 สกรีนเจอแล้วหมอยกตัวอย่างเสียงนะครับทีเ
00:08:14 → 00:08:16 รู้สึกว่าเสียงเขาพูดได้ปกยังได้ปกติอยู่
00:08:16 → 00:08:18 เลยแต่จริงๆพอมาวัดจริงๆเป็นมาตรฐานแล้ว
00:08:19 → 00:08:23 ผ้ามันไม่ใช่แล้วสมมุตินะหมอให้ออกเสียง
00:08:23 → 00:08:25 อายาวๆ
00:08:26 → 00:08:29 อาเงี้ย 10 วินาทีเเราได้ค่าวัดมาประมาณ
00:08:30 → 00:08:33 25 ค่านะครับแล้วการออกเสียงปั๊บเสามารถ
00:08:33 → 00:08:36 แยกได้เลยว่าเป็น Parkinson หรือไม่ใช่
00:08:36 → 00:08:39 parkin เรามีข้อมูลที่ค่อนข้างเยอะนะ
00:08:39 → 00:08:42 ครับและในปัจจุบันเรื่องของปัญญาประดิษฐ์
00:08:42 → 00:08:44 อะไรต่างๆเราเอามาใช้เยอะเลยเสียงเป็นตัว
00:08:44 → 00:08:47 อย่างอันหนึ่งนะครับอีกอันนึงที่เราทำก็
00:08:47 → 00:08:52 คือในเรื่องของเอ่อลายมือนะครับการวาดนะ
00:08:52 → 00:08:55 ครับแม้กระทั่งการเขียนนะครับเป็นลายมือ
00:08:55 → 00:08:58 นะครับเราจะเห็นเลยว่าเอ่อผู้ป่วยเนี่ยจะ
00:08:58 → 00:09:00 มีการเขียนที่ตัวตัวตัวหนังสือนี้จะค่อยๆ
00:09:00 → 00:09:03 เล็กลงเรื่อยๆนะครับแล้วก็หรือไม่ว่าเวลา
00:09:03 → 00:09:05 เขาวาดเป็นวงก้นหอยแล้วจะเห็นว่าผู้ป่วย
00:09:05 → 00:09:08 บางดายวาดแล้วก็จะมีลักษณะของสั่นแล้วก็
00:09:08 → 00:09:11 เล็กๆในจุดตรงนี้ด้วยนะครับหลายๆองค์
00:09:11 → 00:09:13 ประกอบพวกเนี้ยเรามารวมกันแล้วเราก็จะได้
00:09:13 → 00:09:17 ค่าอันนึงนะครับที่ประเมินถึงความเสี่ยง
00:09:17 → 00:09:19 ของผู้ป่วยนะครับหรือบางรายก็อาจจะเป็น
00:09:19 → 00:09:21 เกณฑ์ที่เข้าเป็นโรคพิสันแล้วอย่างนี้
00:09:21 → 00:09:24 เป็นต้นครับผมอาจารย์คะแล้วการรักษาโรค
00:09:24 → 00:09:27 พิสันจะต้องทำอย่างไรคะจริงๆอย่างงี้ครับ
00:09:27 → 00:09:29 ว่าโรค Parkinson เนี่ยเป็นโรคที่รักษา
00:09:29 → 00:09:32 ได้มากๆเลยนะหมอเน้นอย่างนี้เพราะว่าเอ่อ
00:09:32 → 00:09:35 การรักษาโรคพากกินสันเนี่ยก้าวหน้าไปมาก
00:09:35 → 00:09:37 นะครับผมแล้วก็ในปัจจุบันมีการรักษาหลายๆ
00:09:37 → 00:09:40 รูปแบบนะครับที่แน่ๆก็คือเรื่องของยาที่
00:09:40 → 00:09:44 รับประทานยาจะไปเพิ่มสารโดปามีนในระบบ
00:09:44 → 00:09:46 ประสาทสารโดปามีนเป็นสารสื่อประสาทที่ขาด
00:09:47 → 00:09:49 ในผู้ป่วยพาร์กินสันเพราฉะนั้นเราเน้น
00:09:49 → 00:09:53 เรื่องของการทดแทนสารโดปามีนที่สม่ำเสมอ
00:09:53 → 00:09:55 นะครับและต่อเนื่องเพราะงั้นเราบอกคนไข้
00:09:55 → 00:09:58 ว่าคุณต้องทานยาต่อเนื่องและสม่ำเสมอโรค
00:09:58 → 00:10:01 ภากินสันรักษาได้ดีแต่ยังไม่หายขาดใน
00:10:01 → 00:10:03 ปัจจุบันนะครับเพราะฉะนั้นเราเน้นว่าพอ
00:10:03 → 00:10:06 ผู้ป่วยทานยาอาการดีขึ้นปั๊บคุณต้องทาน
00:10:06 → 00:10:08 ต่อเนื่องทานสม่ำเสมอนะครับและยังต้องพบ
00:10:09 → 00:10:11 แพทย์อยู่นะพะกเราต้องคอยประเมินอาการ
00:10:11 → 00:10:13 หรืออะไรต่างๆว่าเาตอบสนองเป็นอย่างไร
00:10:13 → 00:10:15 คราวนี้ในผู้ป่วยบางรายเนี่ยก็จะมีเรื่อง
00:10:15 → 00:10:20 ของการที่ยาคุมอาการได้ไม่ดีพอนะครับผู้
00:10:20 → 00:10:23 ป่วยบางรายเนี่ยพอพอระยะเวลาของโรคที่นาน
00:10:23 → 00:10:28 ขึ้นเนี่ยประสิทธิภาพของยาที่จะคุมอาการ
00:10:28 → 00:10:30 ได้ต่อเนื่องมันน้อยลงเพราะฉะนั้นผู้ป่วย
00:10:30 → 00:10:33 เจะมีอาการเราจะใช้สัแพทย์ On Off นะ
00:10:33 → 00:10:35 ครับ on ก็เหมือนกับ Switch on เคลื่อน
00:10:35 → 00:10:38 ไหวได้ดี Off ก็เหมือนกับถูกปิดสวิตช์ก็
00:10:38 → 00:10:41 เคลื่อนไหวช้าเกร็งอาการกลับมาั้นอาการเ
00:10:41 → 00:10:44 จะสลับนะฮะเดี๋ยวดีเดี๋ยวไม่ดีเดี๋ยวดี
00:10:44 → 00:10:46 เดี๋ยวไม่ดีแล้วมันจะมีความสัมพันธ์กับ
00:10:46 → 00:10:50 มื้อยาว่าเอ๊ะยาสมัยก่อน 4 ชม 5 ชั่วโมง
00:10:50 → 00:10:52 ไม่มีปัญหาเดี๋ยวนี้เหลือ 3 ช่ม 2
00:10:52 → 00:10:55 ชั่วโมงอะไรต่างๆอย่างี้เป็นต้นเคก็จะ
00:10:55 → 00:10:58 เริ่มมีปัญหาในจุดตรงนี้ยาทานก็คุมไม่พอ
00:10:58 → 00:11:01 เดี๋ยวนี้ก็ก็มีการรักษาโดยใช้เอ่อ
00:11:01 → 00:11:03 อุปกรณ์มากขึ้นนะครับเอ่อมีเรื่องของการ
00:11:03 → 00:11:05 ผ่าตัดที่เราเรียกว่า Deep Brain
00:11:05 → 00:11:08 stimulation นะครับผู้ป่วยมักจะเข้าใช้
00:11:08 → 00:11:10 คำว่าฝังชิปเข้าไปในสมองคือกระตุ้นสมอง
00:11:10 → 00:11:13 ด้วยไฟฟฟ้าอนี้คือส่วนหนึ่งมียาฉีดนะครับ
00:11:13 → 00:11:17 ใต้ผิวหนังที่เอ่อช่วยให้ยาได้สม่ำเสมอ
00:11:17 → 00:11:19 ที่ศูนย์ผากกินสันเราก็มีการรักษาพวกนี้
00:11:19 → 00:11:22 ทั้งหมดนะครับนี้เป็นการรักษาที่ที่เพิ่ม
00:11:22 → 00:11:26 จากยาที่ที่รับประทานขอบคุณนะคะสำหรับการ
00:11:26 → 00:11:29 รับชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืม
00:11:29 → 00:11:33 ค่ะกด Subscribe กดไลค์กดแชร์ในทุกช่อง
00:11:33 → 00:11:36 ทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะ
00:11:36 → 00:11:39 ไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีีดีโอที่
00:11:39 → 00:11:43 น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:11:43 → 00:11:46 คะ