00:00:00 → 00:00:03 จะลดน้ำหนักแบบ i s นะครับกินอะไรได้
00:00:03 → 00:00:06 บ้างนะครับคลิปนี้มีคำตอบนะครับหมอนึงบอก
00:00:06 → 00:00:09 เลยนะครับว่ากินอิ่มด้วยสวัสดีครับผมนาย
00:00:09 → 00:00:10 แพทย์ธวัชพงศ์สวัสดิ์กิจไปโหลดนะครับหรือ
00:00:10 → 00:00:12 ว่าหมอหนึ่ง Healthy ฮีโร่ที่ทุกคนรู้จัก
00:00:12 → 00:00:15 กันนะครับวันนี้นะครับเมื่อคุณชมทิปนี้จบ
00:00:15 → 00:00:17 นะครับคุณจะรู้เลยว่าจริงๆแล้วการทำไม
00:00:17 → 00:00:19 เอ๊ะเนี่ยคุณสามารถทานอะไรได้บ้างนะครับ
00:00:19 → 00:00:22 นะแล้วมันมีความชื่ออะไรที่บางอย่างที่
00:00:22 → 00:00:25 ผิดๆความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการทำ ISO จน
00:00:25 → 00:00:27 ทำให้หลายคนเนี่ยพยายามศึกษาการทำเองด้วย
00:00:27 → 00:00:30 ตนเองแล้วแต่ว่าไม่ผอมโอเคไหมนะครับเนาะ
00:00:30 → 00:00:33 แต่ก่อนอื่นนะครับหากคุณชมนึงจาก YouTube
00:00:33 → 00:00:36 นะครับสามารถกดไลค์กดแชร์กดติดตามกด
00:00:36 → 00:00:38 กระดิ่งเพื่อให้ไม่พลาดคลิปดีๆจากหมอ
00:00:38 → 00:00:40 หนึ่งนะครับนะแต่สำหรับใครที่ติดตามมา
00:00:40 → 00:00:42 หนึ่งจาก Facebook อยู่นะครับหรือ IG
00:00:42 → 00:00:45 อย่าลืมกด like กด Share กดหัวใจกดติดตาม
00:00:45 → 00:00:47 นะครับเพื่อที่คุณจะได้ไม่พลาดคลิปใหม่ๆ
00:00:47 → 00:00:50 จากเพจมา 1 แถวที่ฮีโร่เช่นกันนะครับนะคะ
00:00:50 → 00:00:53 นี้ย้อนกลับมาที่เราจะคุยกันวันนี้คือทำ i
00:00:53 → 00:00:57 s กินอะไรได้บ้างซึ่งหากคุณเป็นคนที่ไม่
00:00:57 → 00:00:59 เคยทำไมเอ๊ะมาก่อนเลยนะครับไม่เคยเข้าใจ
00:00:59 → 00:01:01 เกี่ยวกับการ a f เลยนะครับเดี๋ยวจะ
00:01:01 → 00:01:03 อธิบายให้ฟังนะว่าจริงๆแล้วหลักการของมัน
00:01:03 → 00:01:06 คืออะไรแต่สำหรับใครที่เข้าใจการทำ f
00:01:06 → 00:01:09 อยู่แล้วนะครับน้ารู้อยู่แล้วแต่ยังไม่
00:01:09 → 00:01:10 เข้าใจเกี่ยวกับเรื่องอาหารว่าจะกินอะไร
00:01:10 → 00:01:13 ได้บ้างนะครับว่าหนึ่งบอกเลยว่าค่าคุณไม่
00:01:13 → 00:01:15 เข้าใจตรงนี้เนี่ยมันจะทำให้คุณทำพลาด
00:01:15 → 00:01:17 แล้วอาจจะทำให้คุณกลับไปเกิดการโยโย่ได้
00:01:17 → 00:01:19 เนาะดังนั้นเพื่อให้คุณเข้าใจได้ง่ายขึ้น
00:01:19 → 00:01:22 มา 1 ต้องอธิบายเบื้องต้นให้คุณฟังก่อน
00:01:22 → 00:01:24 ว่าการทำ I F หรือ intermittent fasting
00:01:24 → 00:01:27 เนี่ยมันมาจากคำว่า Inter มิดเทนต์บวกกับ
00:01:27 → 00:01:30 คำว่าฟาสติ้ง intermittent แปลว่าเป็น
00:01:30 → 00:01:33 ช่วงๆฟาสติ้งมันคือการปลดอาหารดังนั้นมัน
00:01:34 → 00:01:37 คือการปลดอาหารเป็นช่วงพูดง่ายๆก็คือใน
00:01:37 → 00:01:39 ช่วงชีวิตในหนึ่งวันของคนเราเนี่ยมันก็จะ
00:01:39 → 00:01:41 มีช่วงที่กินแล้วก็มีช่วงที่หยุดกินแน่
00:01:41 → 00:01:42 นอนว่าตอนที่คุณนอนคุณต้องหยุดกินอยู่
00:01:42 → 00:01:45 แล้วถูกมั้ยนะครับเนอะหลักการของมันคือใน
00:01:45 → 00:01:47 ช่วงที่คุณทานเนี่ยร่างกายจะใช้พลังงาน
00:01:47 → 00:01:49 จากอาหารที่คุณทานเป็นหลักดังนั้นถ้าคุณ
00:01:49 → 00:01:52 ตื่นมาแล้วทำตั้งแต่ 8:00 นยัน 24:00 น 8
00:01:52 → 00:01:54 โมงเช้าถึงเที่ยงคืนสิบหกชั่วโมงนี้จะ
00:01:54 → 00:01:56 เป็น 16 ชั่วโมงที่คุณใช้พลังงานจากอาหาร
00:01:56 → 00:01:59 ภายนอกเป็นหลักทำให้คุณไม่ได้ใช้พลังงาน
00:01:59 → 00:02:02 จากไขมันแต่ผมนะครับไม่นำ 3 ถ้าสมมติว่า
00:02:02 → 00:02:04 พลังงานที่คุณทานเข้าไปแล้วมันเหลือใช้
00:02:04 → 00:02:07 ได้หมดมันก็ถูกเอาไปสะสมเป็นไขมันด้วยดัง
00:02:07 → 00:02:10 นั้นที่คุณภานนอกจากจะไม่ผอมแล้วยายอ้วน
00:02:10 → 00:02:12 ขึ้นอีกด้วยภาพแม่ดังนั้นเขาก็เลยบอกว่า
00:02:12 → 00:02:14 อ๋ออ๋อเราจำเป็นที่จะต้องให้ช่วงเวลาของ
00:02:14 → 00:02:17 การหยุดทานนะครับพูดง่ายก็คือมีช่วงเวลา
00:02:17 → 00:02:19 ที่เราได้ใช้พลังงานในร่างกายเราบ้างไม่
00:02:19 → 00:02:21 ได้ใช้พลังงานจากสิ่งที่เราทานอย่างเดียว
00:02:21 → 00:02:24 หรอซึ่งช่วงเวลาของการหยุดทานที่เหมาะสม
00:02:24 → 00:02:26 ก็คือมากกว่า 12 ชั่วโมงเป็นต้นไปเช่นคุณ
00:02:26 → 00:02:29 ตื่นนอน 8:00 นทางตั้งแต่ 8:00 นก็ควรจะ
00:02:29 → 00:02:32 อยู่ทานก่อน 20:00 นถ่านตอน 09:00 นก็ควร
00:02:32 → 00:02:35 จะหยุดทานก่อน 9:00 นนี้หลายคนก็เลยมักจะ
00:02:35 → 00:02:38 เข้าใจผิดว่าเฮ้ยแบบนี้แสดงว่าถ้าเราหยุด
00:02:38 → 00:02:41 ทานนานขึ้นเรื่อยๆแล้วก็ต้องผอมมากขึ้น
00:02:41 → 00:02:42 เรื่อยๆเพราะใช้ไขมันมากขึ้นเรื่อยๆสี
00:02:42 → 00:02:45 จริงไหมว่าหนึ่งเช่นถ้าเราอยู่ 12
00:02:45 → 00:02:47 ชั่วโมงใช้ไขมันได้ 12 ชั่วโมงอย่างนี้
00:02:47 → 00:02:51 ถ้าเราทานแค่วันละ 2 ชั่วโมงแล้วอีก 22
00:02:51 → 00:02:53 ชั่วโมงอยู่ทานได้ไหมนะครับใครที่เข้าใจ
00:02:53 → 00:02:54 กันทำไมเอสอยู่แล้วก็จะรู้ว่าแบบนี้เรียก
00:02:54 → 00:02:57 ว่า i s 22/2 ถูกแม้คือมีช่วงทานแค่ 2
00:02:57 → 00:03:01 ชั่วโมงต่อวันอีก 22 ชั่วโมงไปกินไปเลยนะ
00:03:01 → 00:03:03 ครับเหรอแน่นอนครับช่วงแรกๆคุณจะผอมลงแต่
00:03:03 → 00:03:05 หลังจากนั้นน้ำหนักจะนิ่งเร็วมากแล้วจะทำ
00:03:05 → 00:03:09 ให้คุณเกิดการโยโย่ด้วยเหตุผลที่ว่าบางคน
00:03:09 → 00:03:11 เนี่ยช่วงเวลา 2 ชั่วโมงต่อวันที่เขาทาน
00:03:11 → 00:03:14 เนี่ยสารอาหารเขาไม่เหมาะสมเลยจนทำให้
00:03:14 → 00:03:16 ร่างกายมองว่ากำลังอดอาหารดังนั้นสิ่ง
00:03:16 → 00:03:19 สำคัญจริงๆเวลาคุณทำไมเอ๊ะเพื่อลดน้ำหนัก
00:03:19 → 00:03:22 ลดความอ้วนเนี่ยมันไม่ใช่ว่าเราจะต้อง
00:03:22 → 00:03:25 พยายามปวดให้ได้นานที่สุดเพื่อที่จะทำให้
00:03:25 → 00:03:28 ผอมให้ได้มากที่สุดนะครับเพราะยิ่งคุณปวด
00:03:28 → 00:03:30 นานเท่าไหร่ช่วงเวลาของการทานต่อวันของ
00:03:30 → 00:03:32 คุณมันก็จะสั้นขึ้นเท่านั้นแล้วช่วงเวลา
00:03:33 → 00:03:35 การทานของคุณยิ่งสั้นคุณมีโอกาสที่จะได้
00:03:35 → 00:03:40 สารอาหารไม่ครบถ้วนดังนั้นการทำ I S ไม่
00:03:40 → 00:03:43 ได้บอกว่าคุณต้องทานอะไรแต่การทำไมเอ๊ะ
00:03:43 → 00:03:47 เป็นการบอกช่วงเวลาของการทานเฉยๆข้อนี้
00:03:47 → 00:03:49 ถ้าเราอยากจะผอมจริงๆที่เคยบอกไปนะครับ
00:03:49 → 00:03:52 เราจะต้องพูดถึงสามอย่างด้วยกัน 1 ปรับ
00:03:52 → 00:03:54 สารอาหารผู้หน้าคือการปรับช่วง Freeze
00:03:54 → 00:03:58 รู้ไหมปรับช่วงกินว่าต้องกินอะไรบ้าง 2
00:03:58 → 00:04:00 ปรับเวลาการทานหรือปรับช่วงฟ้าซอีกต่อไป
00:04:00 → 00:04:03 f3 สร้างระบบเผาผลาญพลังงานด้วยการออก
00:04:03 → 00:04:04 กำลังกายนะครับ Cardio บ้างเวทเทนนิ่ง
00:04:04 → 00:04:08 บ้างเนาะแต่นั้นใครที่เคยทำไมเอ๊ะแบบสนใจ
00:04:08 → 00:04:10 แต่ช่วง Fast อย่างเดียวก็เลยไม่ผอมข้อ
00:04:10 → 00:04:12 นี้เราช่วง feed กินอะไรได้บ้างนะครับ
00:04:12 → 00:04:14 สิ่งที่เราคุยกันวันนี้นะครับวันหนึ่ง
00:04:14 → 00:04:17 อยากให้ทุกคนนึกก่อนว่าในทุกๆวันนี้เรา
00:04:17 → 00:04:19 เคยได้ยินกันลดน้ำหนักแบบไหนมาบ้างเคยได้
00:04:19 → 00:04:23 ยินการทำโลว์คาร์บ hi-z ไหมอ่าเคยได้ยิน
00:04:23 → 00:04:26 การทำกี่ตัวที่เด็ก Diet ไหมเคยได้ยินการ
00:04:26 → 00:04:29 ทานแบบโลว์คาร์บ High Protein ไหมพวกนี้
00:04:29 → 00:04:31 สังเกตดีๆนะครับว่าการลดน้ำหนักแต่ละแบบ
00:04:31 → 00:04:34 เนี่ยทำไมมันผอมได้เหมือนกันนะมันมีอะไร
00:04:34 → 00:04:36 ที่เหมือนกันบ้างมันมีอะไรที่แตกต่างกัน
00:04:36 → 00:04:38 บ้างนะครับเนอะแล้วถ้าสังเกตก็จะรู้ว่า
00:04:38 → 00:04:41 หลายๆคนบางคนเขาทานแบบ low ค่าบวก i s
00:04:41 → 00:04:45 ทำไมโลคาบวก I F โลคาเป็นการปรับสาร
00:04:45 → 00:04:47 อาหารว่าเราจะกินพวกแป้งพวกคาร์โบไฮเดรต
00:04:47 → 00:04:51 น้อยลงไป f เป็นการปรับเวลาการทานดังนั้น
00:04:51 → 00:04:53 มันเลยทำร่วมกันได้แต่ถ้าทำ i s อย่าง
00:04:53 → 00:04:56 เดียวมันคือปรับเวลาการทานอย่างเดียวไม่
00:04:56 → 00:04:58 ได้ปรับสารอาหารเลยปรับช่วงฟักอย่างเดียว
00:04:58 → 00:05:01 ไม่ได้ปรับช่วง feed เลยคะดังนั้นคุณควร
00:05:01 → 00:05:04 ที่จะต้องมาสนใจว่าจริงๆแล้วหลักการปรับ
00:05:04 → 00:05:06 ช่วงสีเป็นยังไงถ้าถามมอ 1 มอหนึ่งไม่ได้
00:05:06 → 00:05:09 ใช้การกินแบบคีโตไม่ได้ใช้การกินแบบพวก
00:05:09 → 00:05:11 โลคาบหายแป๊ดนะครับเนอะเพราะอะไรเพราะ
00:05:11 → 00:05:15 หนึ่งรู้ว่าหลักการของการลดน้ำหนักบนโลก
00:05:15 → 00:05:18 นี้ของทุกวิธีเหมือนกันอย่างเช่นบางคนกิน
00:05:18 → 00:05:21 โลคาบ High Protein เขาก็จะกินขาดน้อยๆ
00:05:21 → 00:05:24 กินโปรตีนสูงส่วนที่คนนึงที่กิโลคาวไฮ
00:05:24 → 00:05:27 Flash ก็จะกินขาดน้อยๆกินโปรตีนตามน้ำ
00:05:27 → 00:05:31 หนักตัวแล้วก็กินไขมันสูงคนที่กินคีโต
00:05:31 → 00:05:34 จีนิค Diet ที่ตัวจริงเดชก็คือพวก very
00:05:34 → 00:05:36 low ขา very High Fat ตัวยังไงก็คือ
00:05:36 → 00:05:38 กินขาดน้อยมากๆแทบจะไม่กินเลยกินโปรตีน
00:05:38 → 00:05:42 ตามน้ำหนักตัวแล้วก็กินไขมันสูงมากๆอัน
00:05:42 → 00:05:45 นี้ถามว่าทำไมทั้ง 3 แบบเนี่ยมันถึงผอม
00:05:45 → 00:05:47 ได้เหมือนกันหมดเลยด้วยเหตุผลที่ว่าจริงๆ
00:05:47 → 00:05:50 แล้วหลักการลดน้ำหนักในปัจจุบันนะครับเรา
00:05:50 → 00:05:53 เน้นไปที่การลดการใช้พลังงานจากแป้งน้ำ
00:05:53 → 00:05:56 ตาลเพราะว่าระบบพลังงานของคนเราในวันนี้ 2
00:05:56 → 00:05:59 ส่วนคือมีใช้แป้งกับน้ำตาลเป็นแรงงานหลัก
00:05:59 → 00:06:02 แล้วก็ใช้ขายมีพลังงานหลักดังนั้นถ้าคุณ
00:06:02 → 00:06:05 อยากจะใช้ไขมันเป็นพลังงานหลักกูก็ต้องลด
00:06:05 → 00:06:08 การทานแป้งกับน้ำตาลลงดังนั้นสังเกตว่า
00:06:08 → 00:06:10 ไม่เป็นไม่ว่าจะเป็นการทานแบบโลว์คาร์บ
00:06:10 → 00:06:12 High Protein เขาก็รถแป้งกับน้ำตาลลง
00:06:12 → 00:06:15 เพื่อที่จะสลับไปใช้ไขมันมากขึ้นการทาน
00:06:15 → 00:06:17 แบบโลว์คาร์บ high-fat ที่เขาผอมไม่ได้
00:06:17 → 00:06:20 กินไขมันแล้วผอมแต่เขาลดการทานแป้งกับน้ำ
00:06:20 → 00:06:23 ตาลลงก็เลยสลับไปใช้ไขมันได้ดีการกินแบบ
00:06:23 → 00:06:26 คีโตเจนิคไดเอทบางคนเข้าใจว่ากินไขมัน
00:06:26 → 00:06:28 เพื่อลดไขมันจริงมันไม่ใช่ถ้าคุณกินไขมัน
00:06:28 → 00:06:31 เยอะแล้วคุณก็กินแป้งเยอะด้วยยังไงคุณก็
00:06:31 → 00:06:34 อ้วนแต่นั้นเขาผอมได้เพราะเขากินไขมัน
00:06:34 → 00:06:36 เยอะแต่เขารถการฐานแป้งกับน้ำตาลลงเห็น
00:06:36 → 00:06:38 ภาพไหมเพราะฉะนั้นคีย์หลักๆจริงๆแล้วมัน
00:06:39 → 00:06:41 เกิดจากการที่คุณลดการฐานแป้งกับน้ำตาลลง
00:06:41 → 00:06:45 แต่จะลดมากรถน้อยอีกเรื่องหนึ่งบางคนลด
00:06:45 → 00:06:49 มากสุดๆก็กลายเป็นการทานขี่โตบางคนลดไม่
00:06:49 → 00:06:52 ได้มากนะครับนะก็เป็นแค่ low ขาดเฉยๆเห็น
00:06:52 → 00:06:55 ภาพไหมโอเคเนาะนะครับนะซึ่งจริงๆโรคาก็มี
00:06:55 → 00:06:58 หลายระดับนะครับตั้งแต่บางคนกินขาดแค่
00:06:58 → 00:07:00 น้อยกว่า 20 กรัมต่อวันคะอันนี้ก็จะเรียก
00:07:01 → 00:07:03 ว่าเป็นคีโตจีนิคโลคาบเลยคือเป็นกี่ตัว
00:07:03 → 00:07:05 จีนิคเลยนะครับร่างกายก็จะหลับไปใช้ไขมัน
00:07:05 → 00:07:08 เยอะๆเลยนะครับแต่บางคนก็ไม่เหมาะเพราะ
00:07:08 → 00:07:11 ว่างานบางคนต้องใช้สมองคิดเยอะนะครับบาง
00:07:11 → 00:07:14 คนต้องใช้แรงพลังงานเยอะนะครับซึ่งถามว่า
00:07:14 → 00:07:17 จำเป็นต้องทำขนาดนั้นไหมนักเรียนมอ 1 700
00:07:17 → 00:07:19 คนในกลุ่มก็ไม่ได้ทำขนาดนั้นนะครับเขาก็
00:07:19 → 00:07:22 จะกินแปลงนะครับนะแต่ก็ลดปริมาณจากเดิม
00:07:22 → 00:07:24 เท่านั้นเองนะครับหรือบางคนอาจจะเป็นแบบ
00:07:24 → 00:07:27 รถขาดอันกลางก็จะทาน 20 ถึง 50 กรัมต่อ
00:07:27 → 00:07:30 วันหรือบางคนก็คุ้มขาดเล็กน้อยนะครับนะก็
00:07:30 → 00:07:33 กินประมาณ 50 100 กรัมต่อวันพวกนี้ก็ถือ
00:07:33 → 00:07:35 ว่าเป็นแบบ low ขาดเหมือนกันนะครับเนาะก็
00:07:35 → 00:07:38 จะสามารถลดน้ำหนักได้ดีดังนั้นที่เราถาม
00:07:38 → 00:07:40 กันมาว่าทำไมเอ๊ะกินอะไรได้บ้างบ่หนึ่ง
00:07:40 → 00:07:44 บอกนะเลยนะคะว่ากินได้ทุกอย่างแต่หลักการ
00:07:44 → 00:07:47 จริงๆช่วงของการกินคือคุณจะต้องกินแป้ง
00:07:47 → 00:07:50 กับน้ำตาลให้ลดลงเพื่อที่จะสลับไปใช้ไข
00:07:50 → 00:07:54 มันให้มากขึ้น i s เป็นการจัดเวลาการทาน
00:07:54 → 00:07:56 ไม่ได้บอกว่าคุณต้องทานอะไรแต่หลักการทาง
00:07:56 → 00:07:59 จริงๆคือคุณต้องพานโลขาดทานแป้งให้น้อย
00:07:59 → 00:08:02 ทานพี่ตาลให้น้อยเพื่อที่คุณจะได้สลับไป
00:08:02 → 00:08:05 ใช้พลังงานจากไขมันได้โอเคไหมแต่ขี้ข้อ
00:08:05 → 00:08:07 หนึ่งในช่วงของการทานที่คุณห้ามพลาดเด็ด
00:08:07 → 00:08:10 ขาดเลยคือเมื่อคนบอกมาหนึ่งที่เข้าใจแล้ว
00:08:10 → 00:08:13 ว่าต้องลดแป้งลดน้ำตาลไขมันที่ก็ไม่กินนะ
00:08:13 → 00:08:16 แล้วโปรตีนพี่ก็กินไม่ถึงด้วยกูลงรูปภาพ
00:08:16 → 00:08:18 นะว่าแบ่งน้ำตาลกะไปกินไขมันก็ไม่กิน
00:08:18 → 00:08:21 โปรตีนก็ไม่กินแบบนี้มันเรียกกันลดน้ำ
00:08:21 → 00:08:24 หนักแบบนี้ว่าการอดอาหารดังนั้นร่างกาย
00:08:24 → 00:08:26 ของคุณระบบพลังงานมันจะพังนะครับเนาะ
00:08:26 → 00:08:28 เพราะสารอาหารที่สำคัญมันไม่ได้รับพรนี้
00:08:28 → 00:08:31 ย้อนกลับไปนะครับทุกการลดน้ำหนักเลยไม่
00:08:31 → 00:08:33 ว่าจะเป็นโลคาบ High Protein low ขาด
00:08:33 → 00:08:35 หาย Flash หรือคีโตจีนิค Diet สิ่งที่เขา
00:08:35 → 00:08:38 จะไม่ไปแตะเลยแล้วก็จะทานให้เหมาะสมกับ
00:08:38 → 00:08:40 น้ำหนักตัวตลอดก็คือสารอาหารประเภทโปรตีน
00:08:41 → 00:08:43 เพราะโปรตีนไม่ใช่สารอาหารที่ให้เป็นพลัง
00:08:43 → 00:08:46 งานหลักแต่โปรตีนทำหน้าที่สำคัญที่สุดคือ
00:08:46 → 00:08:49 เอาไปสร้างซ่อมแซมส่วนต่างๆของร่างกาย
00:08:49 → 00:08:51 เป็นระบบภูมิคุ้มกันเป็นเสริมสร้างกล้าม
00:08:51 → 00:08:55 เนื้อเห็นภาพไหมนะครับดังนั้นในช่วง feed
00:08:55 → 00:08:57 หรือช่วงเวลาของการทานนอกจากคุณจะต้องลด
00:08:57 → 00:09:00 แป้งนะครับขวดน้ำตาลว่ามันจะต้องผ่าน
00:09:00 → 00:09:03 โปรตีนให้เหมาะสมด้วยซึ่งอย่างน้อยที่สุด
00:09:03 → 00:09:05 ถ้าคุณไม่ได้มีปัญหาโรคไตหรือไม่ได้มี
00:09:05 → 00:09:08 ภาวะโปตีนรั่วในปัสสาวะนะครับคุณควรจะ
00:09:08 → 00:09:10 ต้องทานโปรตีนให้ได้ 0.8 ถึง 1 กรัมต่อ
00:09:10 → 00:09:13 น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัมหากคุณออกกำลังกาย
00:09:13 → 00:09:15 กล้ามเนื้อเยอะกับจะทานมากกว่านั้นได้นะ
00:09:15 → 00:09:18 ครับโอเคไหมบางคนทาน 11.69 เลยด้วยซ้ำ
00:09:18 → 00:09:22 เนาะจึงนั้นตอบคำถามว่าการทำ if3 อ้าดทาน
00:09:22 → 00:09:25 อะไรได้บ้างคำตอบทานได้ทุกอย่างเลยแต่ใน
00:09:25 → 00:09:28 ช่วงเวลาของการทานคุณควรที่จะต้องลดการ
00:09:28 → 00:09:31 ทานอาหารที่เป็นแป้งและน้ำตาลลงและทานสาร
00:09:31 → 00:09:34 อาหารที่เป็นโปรตีนให้เพียงพอโอเคไหมนะ
00:09:34 → 00:09:36 ครับเนาะหิวผ่าน potent ให้อิ่มไม่ใช่หิว
00:09:36 → 00:09:39 ปั๊ปใส่แป้งใส่แป้งอย่างนี้ทำไมเอ๊ะยังไง
00:09:39 → 00:09:41 ก็ไม่ผอมเพราะไอ้เอฟแค่ช่วยจัดเวลาการทาน
00:09:42 → 00:09:45 ให้ใช้ไขมันได้มากขึ้นเฉยๆเท่านั้นเองนะ
00:09:45 → 00:09:47 ครับเนาะดังนั้นก็อย่าลืมนะครับนะสำคัญ
00:09:47 → 00:09:50 ที่สุดช่วง feed ในช่วงทานนะครับลดแป้ง
00:09:50 → 00:09:53 กับน้ำตาลทานโปรตีนให้อิ่มแค่นี้การทำใ้
00:09:53 → 00:09:56 ของคุณก็จะได้ประสิทธิภาพมากขึ้นนักเรียน
00:09:56 → 00:09:58 มอ 1 ออกกำลังกายเพิ่ม 10-15 นาทีต่อวัน
00:09:58 → 00:10:01 ก็ผอมแล้วนะครับเนาะดูดวงเอาเทคนิคดีๆใน
00:10:01 → 00:10:03 วันนี้ไปปรับใช้กันดูนะครับแล้วคุณจะรู้
00:10:03 → 00:10:05 เลยว่าการลดน้ำหนักของคุณมีความสุขมากคุณ
00:10:05 → 00:10:08 สามารถทานอิ่มได้ด้วยนะครับแล้วก็ยังลด
00:10:08 → 00:10:10 น้ำหนักได้อีกต่างหากก็ได้อะไรจากคลิปนี้
00:10:10 → 00:10:13 บ้างหรือว่าได้กำลังใจนะครับหรือว่าโอเค
00:10:13 → 00:10:15 รู้แล้วต้องทำอะไรบ้างนะครับพร้อมสู้ต่อ
00:10:15 → 00:10:17 ครับพิมพ์คำว่าสู้มาที่คอมเม้นด้านล่างนะ
00:10:17 → 00:10:20 มันถือว่าตอบนะครับแล้วพบกันคลิปถัดไปนะ
00:10:20 → 00:10:23 ครับใครที่อยากเข้าใจการลดน้ำหนักมากขึ้น
00:10:23 → 00:10:25 นะครับหากยังไม่ได้ชมคลิปนี้นะครับสามารถ
00:10:25 → 00:10:27 กดได้เลยนะครับในคลิป 3 ขั้นตอนลดน้ำหนัก
00:10:27 → 00:10:30 ครั้งสุดท้ายในชีวิตนะครับคลิปนี้เนี่ยจะ
00:10:30 → 00:10:32 ช่วยให้คุณเข้าใจพื้นฐานในการลดน้ำหนัก
00:10:32 → 00:10:35 และก็สามารถลดน้ำหนักได้อย่างง่ายในระยะ
00:10:35 → 00:10:38 เวลาสั้นๆเลยนะ