00:00:11 → 00:00:14 hmpv นะครับเดี๋ยวชื่อเต็มเดี๋ยวมาว่า
00:00:14 → 00:00:16 กันว่าชื่อเต็มว่าอะไรนะครับก็มีการแพร่
00:00:17 → 00:00:20 ระบาดในต่างประเทศเยอะแล้วก็เอ่อในจีนอ่ะ
00:00:20 → 00:00:23 นะนะครับแล้วก็กังวลว่าเอ๊ะมันจะเกี่ยว
00:00:23 → 00:00:25 กับเด็กไทยหรือเปล่าและหน้าหนาวแบบนี้มัน
00:00:25 → 00:00:28 จะกระทบต่อกลุ่มไหนบ้างนะครับก็เป็นอีก
00:00:29 → 00:00:32 หนึ่งโรคที่เขาบอกว่าอาจจะพบในหน้าหน้า
00:00:32 → 00:00:34 หนาวค่อนข้างเยอะและเด็กเล็กก็อาจจะ
00:00:34 → 00:00:37 เสี่ยงด้วยนะครับตอนนี้อยู่ในสายกับเรา
00:00:37 → 00:00:40 แล้วนะครับแพทย์หญิงศรีวลีสรีดาฟองนะครับ
00:00:40 → 00:00:43 กุมารแพทย์แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทาง
00:00:43 → 00:00:46 เดินอาหารและตับในเด็กโรงพยาบาลวิมุต
00:00:46 → 00:00:50 สวัสดีครับคุณหมอครับสวัสดีค่ะสวัสดีค่ะ
00:00:50 → 00:00:53 สวัสดีครับคุณหมออ่าคุณหมอครับ
00:00:53 → 00:00:56 hmpv มีชื่อเต็มๆมั้ยคุณ
00:00:56 → 00:01:00 หมอมีชื่อเต็มค่ะเค้าชื่อว่า Human เมต
00:01:01 → 00:01:06 นิโมไวรัสค่ะออเอ่อโรคนี้หลายๆคือผ่าน
00:01:06 → 00:01:10 หน้าผ่านตากันมาพอสมควรแล้วบอกว่า hmpv
00:01:10 → 00:01:14 เนี่ยเอ่อมันไม่ใช่โรคใหม่นะจริงๆมันมัน
00:01:14 → 00:01:16 ก็เจอกันมานานแล้วจริงจริงมยคุณหมอครับ
00:01:16 → 00:01:20 จริงค่ะหมอหมอเองก็ตกใจเหมือนกันวันนั้น
00:01:20 → 00:01:22 ที่มีข่าวขึ้นมาแล้วก็มีคนไข้เดินเข้ามา
00:01:22 → 00:01:26 ถามว่าอ่ามันระบากเหมือนเป็นโควิดเลยมั้ย
00:01:26 → 00:01:28 มันเป็นเรื่องใหญ่มากเลยมั้ยแต่จริงๆคือ
00:01:28 → 00:01:30 คือมันไม่ได้เป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้นอมัน
00:01:30 → 00:01:34 ไม่ได้เป็นไวรัสใหม่เป็นไวรัสเดิมเจอ
00:01:34 → 00:01:37 เมื่อ 20 ปีที่แล้วค่ะแล้วก็มีมาตลอดมี
00:01:38 → 00:01:41 ทุกปีมีมาตั้งแต่เรายังเด็กค่ะออแต่การ
00:01:41 → 00:01:45 รับรู้ของ hmpv เนี่ยค่อนข้างที่ชื่อหใช่
00:01:45 → 00:01:50 มชื่อไม่คุ้นหูเลยค่ะคุณหมอค 20 ปีื่อค่ะ
00:01:50 → 00:01:53 มันเป็นเพราะอะไรทำไมถึงมันมันดูไม่คุ้น
00:01:53 → 00:01:56 หูขนาดนั้นในขณะที่โควิด- 199 มันระบาด
00:01:56 → 00:02:00 ปุ๊บเดียวมาช้าโอ้โหดังกว่าซะขนาดนี้
00:02:00 → 00:02:04 ออคือคือจริงๆเขาเป็นไวรัสกลุ่มเดียวกับ
00:02:04 → 00:02:07 rsv ค่ะถ้าคนมีลูกเนี่ยก็จะรู้จัก RS
00:02:07 → 00:02:10 rsv นี่รู้จักแท้แน่นอนฮะเป็นมาแล้วฮะ
00:02:10 → 00:02:13 คุณลูกเป็นมาแล้วก็ rsv เนี่ยเราก็จะพบ
00:02:13 → 00:02:17 ช่วงหน้าฝนจนถึงหน้าหนาวทุกปี hmpv ก็คือ
00:02:17 → 00:02:21 เหมือนกันเลยค่ะครบช่วงหน้าฝนถึงหน้าหนาว
00:02:21 → 00:02:25 ค่ะเป็นทุกปีค่ะทุกแล้วก็อาการคล้ายายกัน
00:02:25 → 00:02:29 ก็คือมีทางเดินหายใจส่วนบนติดเชื้ออแล้ว
00:02:29 → 00:02:31 ก็มีทางเดินหายใจส่วนล่างติดเชื้อแต่ว่า
00:02:31 → 00:02:34 ที่ไม่คุ้นหูเนี่ยหมอคิดว่ามันอาจจะเกิด
00:02:34 → 00:02:38 จากที่เรายังไม่มีการสมอบแพร่หลาในในก่อน
00:02:38 → 00:02:40 หน้านี้แต่ว่าในปัจจุบันเนี่ยเราสวอได้
00:02:40 → 00:02:43 หมดแล้วค่ะเราก็จะสวบคู่กันกับ RS บาง
00:02:43 → 00:02:48 โรงบาลจะมีแค่แบบใหญ่โควิด rsv hmpv เออ
00:02:48 → 00:02:51 หรือหรือเพราะว่าอ่าถาเคียบอย่าง rsv คุณ
00:02:51 → 00:02:54 หมอ rsv เนี่ยเอ่ออาการที่เด็กเป็นเนี่ย
00:02:54 → 00:02:57 ค่อนข้างที่จะปรากฏชัดรุนแรงแล้วก็เป็น
00:02:57 → 00:03:01 ค่อนข้างที่จะกินระยะเวลาพอสมควรเอ่อ hmp
00:03:01 → 00:03:04 PV เองเนี่ยมันมันอ่อนแอกว่าหรือว่ามัน
00:03:04 → 00:03:07 อันตรายน้อยกว่าอย่างนั้นหรือเปล่าคุณหมอ
00:03:07 → 00:03:12 ก็คือมันแล้วแต่คนค่ะจะบอกว่ามันอันตราย
00:03:12 → 00:03:14 น้อยกว่ามก็คงจะบอกยากคือมันก็ลงปอดได้
00:03:14 → 00:03:18 เหมือน R แต่ว่ามันอาจจะไม่ได้ลงปอดง่าย
00:03:18 → 00:03:21 เท่า rsv เอางงี้แล้วกันคืออาการอาจจะไม่
00:03:21 → 00:03:24 ได้เยอะมากคือมันก็ไข้ไอน้ำมุ่งเหมือนๆ
00:03:24 → 00:03:26 กันเนี่ยแหละค่ะเพราะมันเป็นเชื้อไวรัส
00:03:26 → 00:03:29 ที่ผ่านระบบทางที่ใจใช่ค่ะก็เป็นเช่ไวรัส
00:03:29 → 00:03:33 แต่ว่า rsv เนี่ยคือมันพบในเด็กที่เป็น
00:03:33 → 00:03:36 เด็กเล็กมากๆเลยแล้วอาการรุนแรงได้เช่น
00:03:37 → 00:03:39 เด็กเดือนเงี้ยค่ะแล้วจนพบไปจนถึงเด็ก
00:03:39 → 00:03:42 ประถมเลยแต่ว่า hmpv เนี่ยคนที่มีอาการ
00:03:42 → 00:03:44 อาจจะเป็นกลุ่มที่แคบลงมาหน่อยอาจจะเป็น
00:03:44 → 00:03:48 เด็กวัยอนุบาลจนถึง 5 ปีอะไโตขึ้นมาหน่อย
00:03:48 → 00:03:51 อ่าใช่ค่ะค่ะอแล้วแต่ว่าจริงๆแล้วอายุไม่
00:03:51 → 00:03:54 ได้ชัดเจนคือถ้าสัมผัสก็เป็นได้หมดอ๋อ
00:03:54 → 00:03:56 จริงๆแล้วก็คือใกล้ชิดก็เป็นได้หมดแหละ
00:03:56 → 00:03:59 แต่ว่าจะปรากฏโรคในกลุ่มที่เข้าโรงเรียน
00:03:59 → 00:04:03 แล้วซะมากกว่าค่ะอ่าคุณหมออาการที่ปรากฏ
00:04:03 → 00:04:05 เอาอย่างงี้เข้าอาการที่ปรากฏเลยเราจะรู้
00:04:06 → 00:04:10 ได้ยังไงอ่ะว่าเอ่อลูกหลานของเราหรือว่า
00:04:10 → 00:04:13 เด็กๆที่เราเห็นกันอยู่เนี่ยเน่าจะเป็น
00:04:13 → 00:04:17 hmpv นะมีแนวโน้มว่าจะใช่นะอย่างเงี้ย
00:04:17 → 00:04:22 ครับจะสังเกตยังไงดีอ๋อคือจริงๆบอกไม่ได้
00:04:22 → 00:04:25 ว่าอาการนี้จะบ่งชี้ไปใน hmt เลยเพราะว่า
00:04:26 → 00:04:29 เค้าอาการคล้ายๆกันหมดเลยค่ะ hmt rsv
00:04:29 → 00:04:34 โควิดก็คือมีไอายน้ำมู่อืเหมือนกันแล้วก็
00:04:34 → 00:04:36 คนที่เป็นรุนแรงก็จะมีหลอดลมอักเสบคือจะ
00:04:36 → 00:04:39 ดูมีเหนื่อยมากขึ้นหายใจเร็วมากขึ้นหรือ
00:04:39 → 00:04:42 เป็นปอดอักเสบก็คือเหนื่อยมากขึ้นไปอีก
00:04:42 → 00:04:45 แล้วก็อาจจะหายใจอบบุมต้องการออกซิเจน
00:04:45 → 00:04:47 สังเกตว่าออกซิเจนต่ำพูดแล้วดูกระสับ
00:04:47 → 00:04:50 กระส่ายอะไรอย่างนี้เป็นต้นค่ะค่ะอืแต่
00:04:50 → 00:04:55 ถ้าเป็นเอ่อ rsv ก็จะไม่เป็น hmpv คือจะ
00:04:55 → 00:04:57 เป็นอย่างใดอย่างหนึ่งใช่มั้ยคะไม่ไม่ได้
00:04:57 → 00:05:00 มาเป็นทับซ้อนกันในเวลาเดียวกันใช่มคคุณ
00:05:00 → 00:05:04 หมอทับควรควรจะเป็นอย่างใดอย่างหนึ่งในใน
00:05:04 → 00:05:07 ในช่วงเวลาที่แพร่ระบาดนั้นแต่ว่าถามว่า
00:05:07 → 00:05:09 มีคนเป็นหลายยะได้มยก็มีได้ถ้าเกิดว่า
00:05:09 → 00:05:12 สมมุติว่าเราลูกเรานั่งอยู่ตรงกลางเพื่อน
00:05:12 → 00:05:14 คนนึงเป็น rsv เพื่อนคนนึงเป็น hmpv แล้ว
00:05:14 → 00:05:17 เราได้ทั้ง 2 เชื้อก็ได้แต่ว่าก็บอกไม่
00:05:17 → 00:05:20 ได้ว่าตัวก่อโรคตอนแรกมันเริ่มที่ตัวไหน
00:05:20 → 00:05:25 ค่ะอืออแสดงว่าก็อาจจะมีโอกาสเป็นได้แต่
00:05:25 → 00:05:29 ก็ใช่่ค่ะเป็นู่กันได้เป็นได้ตามที่คาบอก
00:05:29 → 00:05:30 ค่ะ
00:05:30 → 00:05:35 อืถ้าเป็นลักษณะแบบเนี้ยค่ะเอ่อตัวคุณพ่อ
00:05:35 → 00:05:39 คุณแม่เนี่ยควรจะเอ่อซื้อตัวสวอปเนี่ยมา
00:05:39 → 00:05:42 ตรวจเองที่บ้านก่อนเป็นการเบื้องต้นมย
00:05:42 → 00:05:45 หรือควรจะนำเด็กไปที่คุณหมอเลยไปโรง
00:05:45 → 00:05:49 พยาบาลเลยในเบื้องต้นน่ะคะคุณหมออค่ะคือ
00:05:49 → 00:05:53 ตอนเนี้ยมันมีที่สวอปที่ซื้อเองได้ในใน
00:05:53 → 00:05:58 โลกออนไลน์เนาะแต่ว่าหมอคิดว่ามันไม่ได้
00:05:58 → 00:06:01 มันเชื่อถือไม่ได้ได้เท่าของโรงพยาบาลน่ะ
00:06:01 → 00:06:04 ค่ะมันเป็นคนละชนิดกันแล้วก็ส่วนใหญ่ถ้า
00:06:04 → 00:06:06 เชื่อถือได้คือถ้ามัน Positive มักจะ
00:06:06 → 00:06:09 เชื่อได้ค่ะแต่ถ้า Negative เนี่ยบางที
00:06:09 → 00:06:11 มันอาจจะไม่ได้บอกว่าไม่เป็นคืออาจจะเป็น
00:06:11 → 00:06:15 แต่ว่าตรวจผิดวิธีหรือว่าอุปกรณ์มันไม่มี
00:06:15 → 00:06:18 มาตรฐานอะไรอย่างงี้แล้วก็ทีมันมีแพร่
00:06:18 → 00:06:21 หลายที่ขายกันอยู่อ่ะค่ะมันไม่มี hmpv
00:06:21 → 00:06:26 ด้วยอ๋อคือ sw แล้วไม่ได้มีตัวที่สวอปที่
00:06:26 → 00:06:31 เอ่อตรวยจะเจอ hmpv ได้อืค่ะค่ะตัวที่ขาย
00:06:31 → 00:06:34 ๆกันอยู่น่าจะเป็นปกติจะมีโควิดเนาะก็
00:06:34 → 00:06:36 เดี๋ยวนี้ก็จะมี rsv กับไข้หวัดใหญ่เข้า
00:06:36 → 00:06:41 ไปด้วยค่ะใหญค่ะอลักษณะถ้าคือตัวเชื้อ
00:06:41 → 00:06:43 เนี่ยมันเป็นเชื้อไวรัสส่วนใหญ่ก็คืออยู่
00:06:43 → 00:06:47 ในอากาศความเสี่ยงทุกคนเท่ากันหรือร่าง
00:06:47 → 00:06:51 กายของกลุ่มกลุ่มเด็กที่อ่อนแอมีเอ่อภูมิ
00:06:51 → 00:06:53 คุ้มกันบกพร่องหรือว่าเป็นภูมิแพ้มาตั้ง
00:06:53 → 00:06:55 แต่เด็กเนี่ยเขาจะเสี่ยงกว่ากลุ่มอื่นๆ
00:06:55 → 00:06:59 มั้ยคะใช่ค่ะเสี่ยงเสี่ยงกว่าแน่นอนค่ะ
00:06:59 → 00:07:02 เพราะว่าคนที่เป็นภูมิแพ้หรือหอขืดเนี่ย
00:07:02 → 00:07:04 เขาจะมีปัญหาโรคทางเดินหายใจอยู่แล้วก็
00:07:04 → 00:07:07 คือทางเดินหายใจเขอาจจะเปราะบางกว่าพอพอ
00:07:07 → 00:07:09 ได้รับการติดเชื้อเนี่ยเด็กบางคนอาจจะ
00:07:09 → 00:07:11 เป็นแค่อาการเหมือนไข้หวัดแต่เด็กกลุ่ม
00:07:11 → 00:07:13 นี้มีโอกาสที่จะเป็นรุนแรงเป็นหลอดลม
00:07:13 → 00:07:16 อักเสบหลอดอักเสบต้องใช้ออกซิเจนต้องพ่น
00:07:16 → 00:07:20 ยาต้องใช้เครื่องช่วยหายใจได้ค่ะอค่ะ
00:07:20 → 00:07:24 ลักษณะที่เขาเป็นเนี่ยถ้าอ่าลักษณะการ
00:07:24 → 00:07:26 รักษาขั้นตอนการรักษาเนี่ยส่วนใหญ่จะเป็น
00:07:26 → 00:07:29 ลักษณะคล้ายๆกับเวลาเราเป็นไข้หวัดหรือ
00:07:29 → 00:07:31 เป็น rsv เป็นไข้หวัดใหญ่แบบนี้ลักษณะ
00:07:31 → 00:07:34 คล้ายๆกันมั้คะคุณหมอหรือมีข้อจำเพาะแตก
00:07:34 → 00:07:36 ต่างกันยังไงมั้ย
00:07:36 → 00:07:40 คะมันเป็นการรักษาตามอาการค่ะเหมือน
00:07:40 → 00:07:40 เหมือนกับ
00:07:40 → 00:07:44 rsv ก็คือเพราะว่าเ้าเป็นไวรัสไม่มียา
00:07:44 → 00:07:47 ต้านไวรัสไม่มีวัคซีนป้องกันอเนาะแต่ว่า
00:07:47 → 00:07:51 แตกต่างจากไข้หวัดใหญ่นิดนึงเพราะว่าไข้
00:07:51 → 00:07:53 หวัดใหญ่เเป็นไวรัสก็จริงแต่ไข้หวัดใหญ่
00:07:53 → 00:07:57 ปัจจุบันมียารักษาไข้วัดโดยเฉพาะแล้วค
00:07:57 → 00:08:01 ครับอออือย่างงี้อย่างงี้เองเอ่อการรักษา
00:08:01 → 00:08:05 ตามอาการถือว่ายุ่งยากมยเพราะว่าเอ่อถ้า
00:08:05 → 00:08:07 ในมุมของการรักษาโรคของเด็กแล้วค่อนข้าง
00:08:07 → 00:08:09 ที่จะมีความที่แตกต่างจากผู้ใหญ่ค่อนข้าง
00:08:09 → 00:08:14 เยอะพอสมควรใช่ค่ะก็คือการรักษาตามอาการ
00:08:14 → 00:08:17 ของเด็กเนี่ยก็เมีไข้ไน้ำมุกเนาก็จะเป็น
00:08:17 → 00:08:20 ให้ยารดไข้ให้ยาบรรเทาอาการอะไรอย่าเงี้ย
00:08:20 → 00:08:23 ค่ะหรือว่ามีปัญหาหลอดลมจีดก็จะเป็นพ่นยา
00:08:23 → 00:08:26 แต่ว่าของเด็กยากทุกอย่างอยู่แล้วเพราะ
00:08:26 → 00:08:28 ว่าเด็กไม่รู้ว่าอันนี้เราพยายามช่วยเ
00:08:28 → 00:08:31 อยู่เอาจกลัวหรือไม่ให้ความร่วมมือหรือเข
00:08:31 → 00:08:34 อาจจะไม่อยากกินยาก็ได้อื
00:08:34 → 00:08:37 ค่ะค่ะซึ่งซึมันก็เป็นยากสำหรับคุณพ่อคุณ
00:08:37 → 00:08:41 แม่เลยเออจริงผมก็เคยเจอนะคือแบบมันก็เรา
00:08:41 → 00:08:44 เขาเราก็อยากที่จะให้เขาอ่าสมมุติกินยา
00:08:44 → 00:08:47 หรือว่าไม่ว่าจะเป็นการเอ่อมันอาจจะมีพ่น
00:08:47 → 00:08:51 ยาด้วยใช่มั้ยคุณหมอค่ะค่ะเออหลายๆอย่าง
00:08:51 → 00:08:54 เนอะรวมถึงขั้นเจาะหาเอ่อเจาะเลือดเจาะ
00:08:54 → 00:08:58 ให้น้ำเกลือบางครั้งยากเหมือนยากทุกส่วน
00:08:58 → 00:09:00 เลยก็จะยากหมด
00:09:00 → 00:09:03 เพราะว่าสมมุติว่าเราเป็นอาการแบบเยค่ะก็
00:09:03 → 00:09:06 คือใ้ไอน้ำมูกเราก็จะเหมือนเก็บคอมีน้ำ
00:09:06 → 00:09:09 มูกลงคอไม่อยากรับประทานอาหารถ้าเป็นผู้
00:09:09 → 00:09:11 ใหญ่เราก็ทานยาตามอาการแล้วก็ค่อยๆทาน
00:09:12 → 00:09:15 ข้าวแต่เด็กๆอ่ะเขาก็จะงอแงเขาจะอยากนอน
00:09:15 → 00:09:18 ไม่อยากทันข้าวไม่อยากทันยามันก็จะนำไป
00:09:18 → 00:09:21 สู่อาการที่เริ่มขาดน้ำขาดสารอาหารเขาก็
00:09:21 → 00:09:25 จะเริ่มเคลียมากขึ้นเรื่อยๆดูซึมลงก็ต้อง
00:09:25 → 00:09:28 มาเจาะเลือดอีกพอเจาะเลือดก็กลัวตอนเจาะ
00:09:28 → 00:09:33 เลือดอีกน่าจะยากขึ้นไปค่ะังถ้ามันมีความ
00:09:33 → 00:09:35 ยากและความซับซ้อนโดยเฉพาะในผู้ป่วยที่
00:09:35 → 00:09:38 เป็นเด็กเล็กๆอย่างเงี้ยค่ะแล้วเขาก็รู้
00:09:38 → 00:09:41 สึกไม่สบายเนื้อไม่สบายตัวอาการแทรกซ้อน
00:09:41 → 00:09:44 อื่นๆที่จะมาเป็นต่อเนื่องจากเวลาที่เขา
00:09:44 → 00:09:48 ติดเชื้อไวรัส smv ได้ได้แล้วเนี่ยมันมี
00:09:49 → 00:09:51 สถานการณ์อื่นๆต่อเนื่องยังไงได้บ้างมั้ย
00:09:51 → 00:09:56 คะคุณหมอค่ะก็ต่อเนื่องก็คือสมมุติว่าเรา
00:09:56 → 00:09:58 เป็นไข้ไอน้ำมุงตอนแรกมันก็จะติดเชื้อ
00:09:58 → 00:10:02 บริเวณแบบแถวๆจมูกเนาะแล้วก็ลงมาเป็นคอ
00:10:02 → 00:10:04 หอยแล้วก็จะมาเป็นหลอดลมหลอดลมก็จะเป็น
00:10:04 → 00:10:06 จุดแรกที่จะเริ่มมีความรุนแรงและเพราะว่า
00:10:06 → 00:10:09 ถ้าหลอดลมตีบเนี่ยเด็กจะเริ่มเหนื่อยต้อง
00:10:09 → 00:10:11 ให้พ้นยาขยายหลอดลมหรือว่าต้องให้
00:10:11 → 00:10:14 ออกซิเจนสักพักพอต่อจากหลอดลมมันก็จะเป็น
00:10:14 → 00:10:18 ปอดค่ะถ้ามีปอดอักเสบเนี่ยก็จะมีโอกาสที่
00:10:18 → 00:10:20 จะเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิมอีกนอกจากใช้
00:10:20 → 00:10:23 ออกซิเจนบางคนต้องใส่ท่อช่วยหายใจต้องมี
00:10:23 → 00:10:27 การเคาะปอดดูดเสียมหะซึ่งมันเป็นหการที่
00:10:27 → 00:10:29 ค่อนข้างน่ากลัวสำหรับเด็กอ่ะอ่ะค่ะแต่
00:10:29 → 00:10:31 ว่ามันไม่ได้เจ็บอะไรหรอกนะค่ะแต่ว่าเด็ก
00:10:31 → 00:10:34 อ่ะจะไม่ไม่แฮปปี้กับสิ่งนี้อยู่แล้วแล้ว
00:10:34 → 00:10:37 ก็พอเป็นปอดอักเสบอ่ะค่ะนอกจากเป็นปอด
00:10:37 → 00:10:40 อักเสบต hmpv เองเนี่ยอือค่ะมันก็มีโอกาส
00:10:40 → 00:10:42 ที่จะมีแบคทีเรียมาทับซ้อนได้อีกก็ทำให้
00:10:42 → 00:10:46 เขานอนโรงพยาบาลนานขึ้นไปอีกอาจจะมากถึง 1
00:10:46 → 00:10:50 อาทิตย์ได้เลยในบางคนออืโอ้โหโอก็นาน
00:10:50 → 00:10:54 เหมือนกันนะคะ 1 อาทิตย์นานค่ะนานเลยนะพอ
00:10:54 → 00:10:57 พอพูดถึงการเคาะปอดคุณหมอเคยเคยเห็นเอ่อ
00:10:57 → 00:11:00 กลุ่มเพื่อนเนี่ยะปอบเป็นมั้ยไม่เป็นครับ
00:11:00 → 00:11:03 แต่เคยเห็นคุณหมอทำคือคือดูคือคนที่เฝ้า
00:11:03 → 00:11:06 ดูอยู่เนี่ยรู้สึกเสียงดังมากคุณหมอปึกๆ
00:11:06 → 00:11:09 เลยจริงๆอ่าๆใช่ค่ะเอ่ออยากให้คุณหมอ
00:11:09 → 00:11:11 อธิบายทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเคาะปอด
00:11:11 → 00:11:15 ให้กับเด็กๆหรือว่าเอ่อผู้ป่วยที่ที่ต้อง
00:11:15 → 00:11:18 เคาะปอดอ่ะค่ะว่าจริงๆแล้วเสียงดังขนาด
00:11:18 → 00:11:20 นั้นที่เราได้ยินอยู่มันเจ็บมั้ยหรือมัน
00:11:20 → 00:11:24 เป็นประมาณไหนยังไงบ้างคะคุณหมอครับอ๋อ
00:11:24 → 00:11:28 คือคิดว่าเคปอดเนี่ยคุณพ่อคุณแม่ก็ตกใจ
00:11:28 → 00:11:30 เด็กๆก็ตกใจเพราะว่ามันดูเสียงดังแต่จริง
00:11:30 → 00:11:33 ๆมันไม่เจ็บนะคะมันคือเป็นการที่เหมือน
00:11:33 → 00:11:36 เราพยายามให้เกิดแรงสั่นสะเทือนผ่านทาง
00:11:36 → 00:11:39 หน้าอกไปให้มันไปถึงหลอดลมให้เสมพระที่
00:11:39 → 00:11:42 อยู่บริเวณนั้นน่ะค่ะมันค่อยๆหลุดออกมา
00:11:42 → 00:11:44 เพราะว่าการที่เราไอออกเองมันอาจจะไม่ได้
00:11:44 → 00:11:47 หลุดออกมาได้ทั้งหมดในแต่ละครั้งอ่ะค่ะ
00:11:47 → 00:11:50 แต่ถ้าเสมหะหลุดเสมหะน้อยลงอาการเราก็จะ
00:11:50 → 00:11:53 ได้ดีขึ้นความอักเสบของปอดก็จะค่อยๆดี
00:11:53 → 00:11:58 ขึ้นค่ะค่ะอืซึ่งทำจะทำให้หมอเอ่อสามารถ
00:11:58 → 00:12:02 เอ่อเอ่อเขาเรียกว่าเอ่อพยากรณ์อาการเอ่อ
00:12:02 → 00:12:05 ใช้คำถูกมั้ยอ่ะนะฮะวินิจฉัยวินิจฉัยเออ
00:12:05 → 00:12:08 โอโหแคคำนี้คำนี้ไม่ได้ไงเมื่อกี้ติดอยู่
00:12:08 → 00:12:11 ในหัววินิจฉัยอาการได้ได้ได้ใกล้แล้วก็
00:12:11 → 00:12:14 สามารถที่จะเ่ารักษาอาการได้ตรงรงมากขึ้น
00:12:14 → 00:12:17 ใช่มั้ยครับการับวิธีการต่างๆที่คุณหมอ
00:12:17 → 00:12:20 ใช้กับเด็กอ๋อในในส่วนของคปอดมันจะไม่ได้
00:12:20 → 00:12:23 เป็นการวินิจฉัยอ่ะค่ะก็คือเราจะทำกรณี
00:12:23 → 00:12:26 ที่รู้สึกว่าเเมื่อเมื่อเราตรวจแล้วเจอ
00:12:26 → 00:12:29 ว่าเขาเป็นปอดอีแล้วอ่ะค่ะอค่ะคือมันเป็น
00:12:29 → 00:12:33 หนึ่งในการรักษาครับซึ่งของผู้ใหญ่บางคน
00:12:33 → 00:12:35 น่ะค่ะก็อาจจะไม่ได้จำเป็นแต่ว่าของเด็ก
00:12:35 → 00:12:38 เนี่ยเด็กบางคนยังไอใครเจบหาไม่เป็นเลย
00:12:38 → 00:12:43 อันยก็จะช่วยได้เยอะอ๋ใช่อ๋อซึ่ง hmpv
00:12:43 → 00:12:49 เองเนี่ยตามตามตามหัวข้อแล้วเนี่ยเอ่อมัน
00:12:49 → 00:12:52 เด็กเนี่ยเขามีความเสี่ยงที่พอติดโรคนี้
00:12:52 → 00:12:56 แล้วมันจะลงปอดได้เร็วช้าต่างจากอาการของ
00:12:56 → 00:12:59 โรคอื่นหรือว่ามันมันเร็วขนาดไหนถึงต้อง
00:12:59 → 00:13:02 เราถึงต้องกังวลนะคุณหมอคือถ้าเป็นเด็ก
00:13:02 → 00:13:05 เล็กอ่ะค่ะก็มีโอกาสที่จะลงปอดได้ง่าย
00:13:05 → 00:13:08 กว่าี้เพราะว่าเขาไม่ได้แข็งแรงมากอ่าฮะ
00:13:08 → 00:13:11 ค่ะค่ะอืมเพราะฉะนั้นเองพอโตขึ้นมาหน่อย
00:13:11 → 00:13:13 มันก็จะมีกระบวนการกลไกของร่างกายที่จะ
00:13:14 → 00:13:17 ช่วยในการยับยั้งแล้วก็ชะลอแต่ว่าก็ยังมี
00:13:17 → 00:13:21 โอกาสได้ค่ะอืออค่ะแต่ถ้าพูดถึงระยะเวลา
00:13:21 → 00:13:25 ค่ะปกติไวรัสเนี่ยหมอก็จะพูดเหมือนกันทุก
00:13:25 → 00:13:27 คนเลยว่าถ้าเป็นไวรัสไม่ว่าจะเป็นไวรัส
00:13:27 → 00:13:30 อะไรเนี่ยมันสามารถหายเองได้ใน 2 ออือค่ะ
00:13:30 → 00:13:33 ถ้า 2-3 วันไม่หายสที่เราต้องคิดต่อคือ
00:13:33 → 00:13:36 มันไม่ได้เป็นไวรัสที่ติดเชื้อท่าหายใจ
00:13:36 → 00:13:38 สวนบนหรือเปล่ามันอาจจะเป็นทางเดินหายใจ
00:13:39 → 00:13:40 ส่วนล่างซึ่งคำว่าทางเดินหายใจส่วนล่าง
00:13:40 → 00:13:42 เนี่ยเราก็จะหมายถึงหอดลมแล้วก็ปอดเนี่ย
00:13:42 → 00:13:45 แหละค่ะอื 3 วันไม่หายเราต้องรับมาฟังปอด
00:13:45 → 00:13:48 ซ้ำหรือว่ามาเอเลยปอดหรือว่ามาดูว่าจริงๆ
00:13:48 → 00:13:50 ไม่ใช่ไวรัสเป็นแบคทีเรียมาทับซ้อนอะไร
00:13:51 → 00:13:55 อย่างอ๋อเพราะฉะนั้นที่คุณหมอคุณหมอตรวจๆ
00:13:55 → 00:13:57 กันแล้วไม่ไม่ไม่ไม่อยากให้เชื้อลงปอด
00:13:57 → 00:14:00 เนี่ยมันคืออันตรายที่จะเกิดขึ้นกับตัว
00:14:00 → 00:14:02 เด็กที่ป่วยเองใช่มั้ยฮะมันจะอันตรายขนาด
00:14:02 → 00:14:07 ไหนใช่ค่ะก็เค้าก็จะเหนื่อยมากขึ้นนะค่ะอ
00:14:07 → 00:14:10 ถ้าเกิดว่าเหนื่อยแล้วอ่อพ่นยาแล้วดีขึ้น
00:14:10 → 00:14:13 ก็โอเคก็ในระดับนึงแต่ถ้าเกิดว่าพ่นยา
00:14:13 → 00:14:15 แล้วไม่ดีขึ้นต้องใส่ออกซิเจนก็จะมี
00:14:16 → 00:14:18 ออกซิเจนว่าใส่แค่เป็นหน้ากากออกซิเจน
00:14:18 → 00:14:21 หรือว่าต้องใส่ท่อช่วยหายใจแล้วก็ก็จะนำ
00:14:21 → 00:14:27 ไปสู่การนอน ICU อะไรอย่างงี้อืค่ะเออก็
00:14:27 → 00:14:32 ผมเคยเห็นนะเด็กที่แบบเวลาเขาเขาเขาเ
00:14:32 → 00:14:35 เรียกว่าขากสลดไม่ได้นะใช่มั้ยขากสรดไม่
00:14:35 → 00:14:37 เป็นมันมันไอแบบเรายังเอาผู้ใหญ่ผู้ใหญ่
00:14:37 → 00:14:41 ยังถ้าสรดไม่ออกจากลำคอเนี่ยมันยังไอแบบ
00:14:41 → 00:14:43 ไอแบบหนักจัดเลยอ่ะแล้วเด็กเด็กเขายิ่ง
00:14:43 → 00:14:45 ไม่เป็นกว่าเรานี่คือมันยิ่งทรมานนะคุณ
00:14:45 → 00:14:49 หมอแล้วมันมันยิ่งเขาเรียกว่าอะไรเจ็บอก
00:14:49 → 00:14:51 เจ็บกล้ามเนื้ออกเจ็บคอเยอะขึ้นไปด้วย
00:14:51 → 00:14:56 เยอะขึ้นไปอีกอืมเพราะฉะนั้นการการดูแล
00:14:57 → 00:15:00 จึงต้องใกล้ชิดในระยะแรกๆเลยใช่มั้ยคุณ
00:15:00 → 00:15:04 หมอครับมันถึงจะมันถึงจะช่วยได้ง่ายขึ้น
00:15:04 → 00:15:08 ใชค่ะอืค่ะเพราะว่าตอนเนี้ยเราเราสามารถ
00:15:08 → 00:15:11 ตรวจเจอได้ได้เร็วขึ้นจริงๆการตรวจไอ้
00:15:11 → 00:15:13 ช่วงทีวีเจอก่อนแล้วก็ป้องกันได้ก่อนเฝ้า
00:15:13 → 00:15:18 ระวังอาการของลูกได้ก่อนครับในประสบการณ์
00:15:18 → 00:15:21 ของคุณหมอที่เจอตัวไวรัส hmpv มาเนี่ย
00:15:21 → 00:15:24 ระยะหลังเนี่ยเจอบ่อยกว่าในช่วงก่อนหน้า
00:15:24 → 00:15:27 นี้มยคะหรือว่ามีอัตราการกระจายหรือการ
00:15:27 → 00:15:30 เพิ่มที่น่าจะห่วงกังวลมสำหรับสถานการณ์
00:15:30 → 00:15:33 เอ่อเขาเรียกสภาพแวดล้อมภูมิอากาศที่
00:15:33 → 00:15:37 เปลี่ยนไปค่อนข้างเยอะในระยะช่วงหลังๆมา
00:15:37 → 00:15:41 เนี้ยค่ะคุณหมออากาศค่อนข้างแปรปรวนะค่ะ
00:15:41 → 00:15:45 ใช่ค่ะคือคือด้วยความเขาเป็นไวรัสของหน้า
00:15:45 → 00:15:48 ฝนและหน้าหนาวอ่ะค่ะเขาก็จะเยอะในช่วงนี้
00:15:48 → 00:15:51 อยู่แล้วด้วยแต่ว่าพออากาศเย็นลงอ่ะค่ะ
00:15:51 → 00:15:54 เชื้อโรคมันก็จะตายได้ยากขึ้นอยู่ได้นาน
00:15:54 → 00:15:57 ขึ้นก็เลยเป็นเหตุผลที่ว่าช่วงเนี้ยก็จะ
00:15:57 → 00:16:02 มีเชื้อเหล่าเงี้ยอยู่ได้เยอะขึ้นอืก็จะ
00:16:02 → 00:16:05 ป่วยง่ายขึ้นด้วยอ่ะค่ะของอค่ะเมื่อสัก
00:16:05 → 00:16:08 ครู่คุณหมอพูดถึงเ่อกลุ่มเสี่ยงส่วนใหญ่
00:16:08 → 00:16:12 ก็จะอยู่ในเด็กที่ประมาณ 5 ปีเอ่อไม่เกิน
00:16:12 → 00:16:15 นี้อะไรเงี้ยค่ะแต่ถ้าในกลุ่มของผู้สูง
00:16:16 → 00:16:19 อายุกลุ่ม 608 เนี่ยยังเป็นกลุ่มที่ต้อง
00:16:19 → 00:16:22 เฝ้าระวังสำหรับเชื้อไวรัสตัว hmpv นี้
00:16:22 → 00:16:25 หรือเปล่าคะต้องเฝ้าระวังเหมือนกันค่ะผู้
00:16:25 → 00:16:28 สูงอายุก็เป็นได้คล้ายๆ rsv ที่เมื่อก่อน
00:16:28 → 00:16:31 เราคิดว่ามีแค่เด็กผู้ใหญ่ก็เป็นได้อ
00:16:31 → 00:16:34 เหมือนกันเลยค่ะเพราะว่าเเป็นไวรัสมันก็
00:16:34 → 00:16:37 เป็นกลุ่มเดียวกันด้วยค่ะออออันเนี้ยขวัญ
00:16:37 → 00:16:40 สงสัยนิดนึงค่ะคุณหมอว่าถ้าในกรณีของผู้
00:16:40 → 00:16:43 ป่วยที่เคยเป็นโควิด- 199 แล้วก็โควิด
00:16:44 → 00:16:47 เนี่ยลงไปปอดและแล้วก็โอเคการรักษาโควิด-
00:16:47 → 00:16:51 199 หายแล้วล่ะแล้วพอในระยะถัดไปหลังจาก
00:16:51 → 00:16:55 นั้นมาติดเชื้อไวรัส smv เนี่ยกลุ่มเหล่า
00:16:55 → 00:16:59 เนี้ยที่เชื้อโควิดเคยลงปอดเนี่ย mpv
00:16:59 → 00:17:01 เนี่ยมันจะมีความเสี่ยงมากกว่าคนอื่นที่
00:17:01 → 00:17:05 ลงปอดม้แล้วอาการคุณหมอเคยเจอเคสแบบนี้
00:17:05 → 00:17:09 มั้ยคะมันหนักมากน้อยแค่ไหนอือ
00:17:09 → 00:17:13 อืคือถ้าถ้าตามประสบการณ์หมอยังไม่ค่อย
00:17:13 → 00:17:16 เจอ hmpv ต่อจากโควิดแบบเดี๋ยวนั้นเลยอ่ะ
00:17:16 → 00:17:19 ค่ะไม่ค่อยเจอแต่ถ้าเกิดว่าเว้นระยะเวลา
00:17:19 → 00:17:22 ให้ร่างกายได้รักษาตัวแล้วในหลักเดือนน่ะ
00:17:23 → 00:17:25 ค่ะส่วนใหญ่ไม่ได้มีปัญหาอะไรไม่ต่างจาก
00:17:25 → 00:17:27 คนอื่นแต่ถ้าเราเพิ่งหายปุ๊บแล้วเราติด
00:17:27 → 00:17:30 เชื้อใหม่เลยไม่ว่าแต่ hmpv หรือ rsv
00:17:30 → 00:17:33 หรือไข้หวัดใหญ่เค่ะอากายก็จะเป็นเยอะ
00:17:33 → 00:17:36 เพราะว่าปอดเนี่ยยังไม่ได้ิวดีเลยแล้วก็
00:17:36 → 00:17:38 มีการติดเชื้อซ้ำเข้าไปใหม่ก็มีโอกาสที่
00:17:39 → 00:17:41 จะเป็นรุนแรงมากขึ้นได้ค่ะ
00:17:41 → 00:17:47 อืก็ค่อนข้างที่จะเป็นเ่ออาการที่เราพบ
00:17:47 → 00:17:51 เจอในเอ่อโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ
00:17:51 → 00:17:54 ได้ได้เท่าที่ก็คล้ายๆกันหมดนะเพียงแต่
00:17:54 → 00:17:57 ว่าถ้าเป็นเด็กเล็กก็ต้องระมัดระวังเพิ่ม
00:17:57 → 00:18:01 เติมขึ้นมาหน่อยคล้าไม่หน่อยะเยอะพอสมควร
00:18:01 → 00:18:05 เยอะพอสมควรนะฮะเอ่อมันมันความการระบาด
00:18:05 → 00:18:08 อัตราการระบาดของเขาเนี่ยมันติดกันง่าย
00:18:08 → 00:18:11 ขนาดไหนครับคุณหมอเพราะว่าเอ่ออย่างเด็ก
00:18:11 → 00:18:15 เล็กใกล้ชิดอยู่ใกล้กันเอ่อเล่นของเล่น
00:18:15 → 00:18:19 ด้วยกันเรียนด้วยกันกินข้าวก็อาจจะแบบแตะ
00:18:19 → 00:18:22 ต้องตัวกันมันจะติดกันได้เลยมั้ยหรือว่า
00:18:22 → 00:18:24 มันอาจจะต้องความแข็งแรงภูมิต้านทานของ
00:18:24 → 00:18:32 แต่ละคนด้วยผสมกันไปก็ภูมิต้านทานด้วยส
00:18:32 → 00:18:39 อนเพราะว่าแ่กระ่าละองอ๋อที่บอกว่าแพ่าอย
00:18:39 → 00:18:43 ก็คือมาจากไอจามน้้ำมูกนั่นเองครับค่ะจ
00:18:43 → 00:18:46 ถ้าเกิดว่าเด็กไม่ได้ใส่แมเพื่อนไอใส่ก็
00:18:46 → 00:18:50 จะติดส่วนนึงหรือว่าการที่ไปสัมผัสสารคัด
00:18:50 → 00:18:53 หลังที่ปนเปื้อนเชื้อเหล่านั้นเป็นไอจาม
00:18:53 → 00:18:56 ทิ้งไว้แล้วไปนั่งต่อไปจับหรือว่าไปจับ
00:18:56 → 00:18:59 ของเล่นในส่วนเขเรียกอะไรนะคะสนามเด็ก
00:18:59 → 00:19:02 เล่นค่ะในห้างอะไรอย่างเงี้ยแล้วมีคนที่
00:19:02 → 00:19:06 ไอแล้วก็เราไปจัดต่อก็ติดได้อือแสดงว่า
00:19:07 → 00:19:10 หรือว่าไปสัมผัสที่มันมีแบบพื้นผิวบริเวณ
00:19:10 → 00:19:12 นั้นอยู่แล้วก็เอามือไปเข้าปากก็ได้
00:19:12 → 00:19:17 เหมือนกันอืค่ะวิธีป้องกันก็น่าจะเหมือน
00:19:17 → 00:19:20 ไข้หวัดทั่วๆไปหรือมีอะไรพิเศษที่ต้อง
00:19:20 → 00:19:25 เอ่อมีขั้นกว่ายังไงมั้ยคะคุณหมอป้องกัน
00:19:25 → 00:19:29 ก็อย่างที่ป้องกันโลกอื่นๆเคือใส่แมสเนาะ
00:19:29 → 00:19:31 เพราะว่าเป็นโรคที่ติดเชื้อทางเดินหายใจ
00:19:31 → 00:19:34 อ่ะค่ะมันติดต่อทางาฝอยใส่แมสช่วยได้เยอะ
00:19:34 → 00:19:38 เลยเหมือนเหมือนป้องกันโควิดแล้วก็ล้าง
00:19:38 → 00:19:41 มือบ่อยๆคือคำว่าล้างมือบ่อยๆของหมอเนี่ย
00:19:41 → 00:19:43 การที่ล้างให้สะอาดอ่ะค่ะก็คือต้องล้าง
00:19:43 → 00:19:46 ด้วยสบู่หรือว่าแอลกอฮอล์เจลอย่างน้อย 20
00:19:46 → 00:19:49 วินาทีเชื้อมันถึงจะหมดนะคะครับอืแล้วก็
00:19:50 → 00:19:53 ไม่ให้เด็กเอามือเข้าปากเข้าจมูกเนาะแล้ว
00:19:53 → 00:19:55 ก็สิ่งที่ผู้ปกครองหรือโรงเรียนจะช่วยได้
00:19:55 → 00:19:58 เนี่ยก็คือทำความสะอาดพวกพื้นผิวที่เด็ก
00:19:58 → 00:20:01 น่าจะไปสัมผัสเพื่อรบการติดเชื้อค่ะ
00:20:01 → 00:20:06 อืก็นี่เป็นข้อแนะนำที่เราเห็นเห็นกันใน
00:20:06 → 00:20:09 หลายๆโรคโดยเฉพาะโรคที่เอ่อระบบทางเดนทาง
00:20:09 → 00:20:12 เดินหายใจโรคจากไวรัสทางเดือนหายใจต่างๆ
00:20:12 → 00:20:17 นะฮะเอ่อเด็กๆเด็กๆเอ่อถ้าเป็นแล้วโอกาส
00:20:17 → 00:20:20 ที่จะเป็นแล้วมันจะหลายคนกังวลไงคุณเหมา
00:20:20 → 00:20:22 เป็นแล้วเดี๋ยวติดอีกแล้วมันจะเป็นหนัก
00:20:22 → 00:20:24 กว่าเดิมมันเป็นจริงมั้ยครับคุณ
00:20:24 → 00:20:28 หมอถ้าถ้าสมมุติว่าเราลูกเราเป็นแล้วปี
00:20:28 → 00:20:29 นี้
00:20:29 → 00:20:31 ปีหน้าก็ไม่ไม่ได้ต่างเท่าไหร่แต่ถามว่า
00:20:31 → 00:20:34 เป็นแล้วเป็นซ้ำได้มั้ยเป็นซ้ำได้ค่ะมีูม
00:20:34 → 00:20:37 แค่แป๊บเดียวเองค่ะอออภูมิแป๊บเดียวเอง
00:20:37 → 00:20:41 เหรอใช่ค่ะเหมือน rsv เป็นได้ตลอดออเหรอ
00:20:41 → 00:20:44 อ๋อหลักๆสัปดาห์หลักเดือนหลักหลักกี่
00:20:44 → 00:20:48 เดือนครับหลักเดือนค่ะหหลเดือนโอ้โหเออนะ
00:20:48 → 00:20:52 แสดงว่าอย่ากาดตกทีเดียวนะผม่ะเอาจริงๆนะ
00:20:52 → 00:20:55 แค่ rsv ผมก็เหนื่อยแล้วคุณ
00:20:55 → 00:20:59 หมอเป็นแล้วมันเป็น่ rsv เลยเป็นแล้วเป็น
00:20:59 → 00:21:01 อีกได้มันโอ้โหเป็นแล้วมันเป็นแบบไม่ได้
00:21:01 → 00:21:04 ไม่ได้เบาเลยนะแล้วก็เป็นแบบเอ่อยิ่งเด็ก
00:21:04 → 00:21:09 คนไหนที่กินยากด้วยนะคุณหมอนะค่ะน้ำก็กิน
00:21:09 → 00:21:13 ยากอาหารก็กินน้อยโอ้โหร่างกายยิ่งอ่อนแอ
00:21:13 → 00:21:18 อืยิ่งต้องแบบดูแลอย่างใกล้ชิดเข้าไปอีก
00:21:18 → 00:21:21 อืส่วนใหญ่ตัวที่เป็น
00:21:21 → 00:21:26 อ่อ hmpv เนี่ยเขาจะมีไข้ด้วยป่าคะคุณหมอ
00:21:26 → 00:21:30 มีค่ะแต่ว่าแล้วแต่คนนะคะบางคนก็ไม่มีไข้
00:21:30 → 00:21:33 บางคนก็มีไข้แต่ว่าส่วนใหญ่คนที่จะมาตรวจ
00:21:33 → 00:21:35 smv แล้วเจอที่โรงพยาบาลเนี่ยจะมาจะมา
00:21:35 → 00:21:39 ด้วยเรื่องไข้ไอไข้ไออ๋อไข้ไอเพราะว่าไอ
00:21:39 → 00:21:42 ไม่หายอะไรอย่างเงี้ค่ะแล้วก็จะมาตรวจ
00:21:42 → 00:21:47 แล้วก็จะเจออว่าเป็นเ TV ครับแล้วก็ยิ่ง
00:21:47 → 00:21:50 เขาเรียกว่าอะไรเหมือนฟึดฟัดข้างในหายใจ
00:21:50 → 00:21:53 ไม่ออกคล้ายๆหายใจไม่ออกใช่มั้ยคุณหมอ
00:21:53 → 00:21:58 ยิ่งๆๆมรวมของเด็กๆออในทางปากอะไรอย่าง
00:21:58 → 00:22:02 งี้ค่ะออครับมันก็ยิ่งแบบมันไม่มีตัวชุ
00:22:02 → 00:22:04 เครื่องมือเครื่องไม้เครื่องมือในการเอ่อ
00:22:04 → 00:22:06 อะไรนะดูดสลดอย่างงี้มั้ยฮะคุณหมอเข้าใจ
00:22:07 → 00:22:09 ผมพูดถูกมยใช่เพราะว่าที่ที่บ้านเราทำไม่
00:22:09 → 00:22:12 ได้แล้วก็เด็กบางคนเนี่ยอ่ะอย่างต้องลอง
00:22:12 → 00:22:15 ถามคุณโอ๊กเลยว่าเราเคยล้างจมูกให้ลูก
00:22:15 → 00:22:18 มั้ยเคยครับแต่ว่าต้องโหปล้ำกันเป็นแบบ
00:22:18 → 00:22:21 อ่าเเรียกใชภาพหนูมัดเลยเหรอโหยิ่งกว่า
00:22:21 → 00:22:23 นั้นจริก็หนูก็เอาไม่
00:22:23 → 00:22:28 อยู่โอน้มูกก็ก็ออกมาไม่หมดเพราะว่าไม่
00:22:28 → 00:22:31 ได้มันยอมมันต้องยอมใชบาอยู่ดีอืมัน
00:22:31 → 00:22:33 เหมือนกับว่าพอเราเป็นพ่อเป็นแม่เป็นผู้
00:22:33 → 00:22:36 ปกครองอ่ะพอถึงสักพักนึงเรายิ่งลูกร้อง
00:22:36 → 00:22:40 เยอะอ่ะโอ้โหยิ่งแบบอเอาแค่นี้แหละแต่ถ้า
00:22:40 → 00:22:45 ไปที่ถึงมือเอ่อพี่พยาบาลพี่พยาบาลนะพี่
00:22:45 → 00:22:47 พยาบาลนะพี่พยาบาลจับเลย
00:22:47 → 00:22:52 ฮะปุ๊ดได้เลยสบายเลยนะฮะเขามีเคล็ดลับของ
00:22:52 → 00:22:56 เขาโอ้โหค่ะเออนะครับก็ผมก็ดีใจนะที่ผมพา
00:22:56 → 00:23:01 ลูกไปถึงมือคือเอ่อทีมแพทย์ได้เพราะว่า
00:23:01 → 00:23:05 ไม่งั้นโอ้โหเ่อเอาสลดอะไรพวกนี้ออกยาก
00:23:05 → 00:23:08 จริงๆแล้วก็เรื่องของหยูกยากว่าจะเอ่อให้
00:23:08 → 00:23:12 มันถูกต้องนี่ก็ก็ยากพอสมควรก็ถือหมอง่าย
00:23:12 → 00:23:17 กว่าค่ะเอ้ยคุณหมอคะถ้าเป็นผู้ป่วยเนี่ย
00:23:17 → 00:23:21 ที่รักษาหายแล้วแต่ว่าอ่าเขาอาจจะยังแบบ
00:23:21 → 00:23:24 ปอดยังยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่อย่างเงี้ยค่ะ
00:23:24 → 00:23:28 คุณพ่อคุณแม่ที่รับน้องๆกลับมาดูแลต่อที่
00:23:28 → 00:23:32 บ้านเงี้ยจะมีวิธีในการดูแลหรือว่าต้องทำ
00:23:32 → 00:23:35 อะไรเพิ่มเติมกับน้องๆที่อยู่ในระยะพัก
00:23:35 → 00:23:37 ฟื้นที่อยู่ที่บ้านมั้ยคะการเคาะปอดเต้อง
00:23:37 → 00:23:41 ทำต่อมั้ดูดเสมหะต้องทำอย่างไรทำนองเค่ะ
00:23:41 → 00:23:42 คุณหมอ
00:23:42 → 00:23:46 อหมอคิดว่าถ้าวงมีเสมผะปริมาณมากถึงขั้น
00:23:46 → 00:23:49 ต้องดูดหรือเคาปอดอ่ะค่ะคจะอยู่ในโรง
00:23:49 → 00:23:52 พยาบาลก่อนเราจะให้กลับบ้านในกรณีที่คิด
00:23:52 → 00:23:55 ว่าอาการน้อยแล้วอาจจะมีไอน้ำมูกเล็กน้อย
00:23:55 → 00:23:59 แต่ว่าไม่เหนื่อยแล้วค่ะอค่ะอือ
00:23:59 → 00:24:02 ก็ไม่แนะนำให้ทำเองที่บ้านเพราะว่าเอ่อใน
00:24:02 → 00:24:05 ขณะที่เราทำอ่ะค่ะเด็กอาจจะหยุดหายใจร้อง
00:24:05 → 00:24:08 กั้นเยอะแล้วเขาจะขาดอากาศไปในช่วงนั้น
00:24:08 → 00:24:12 คิดว่าทำที่โรงพยาบาลปลอดภัยกว่าอ๋อตอน
00:24:12 → 00:24:14 แรกกำลังจะถามคุณหมอเลยว่าเอ๊ะมีสอนคุณ
00:24:14 → 00:24:17 คุณพ่อคุณแม่เคาะปอดมั้ยหรือยังไงแต่ถ้า
00:24:18 → 00:24:22 เคาะปอดทำที่บ้านได้ค่ะก็ก็จะเป็นสอนว่า
00:24:22 → 00:24:26 ให้ทำมือยยังไงเคาะบริเวณไหนอะไรเงี้ยค่ะ
00:24:26 → 00:24:29 แต่ก็อยู่ที่คุณพ่อคุณแม่ว่าทำหรือเปล่า
00:24:29 → 00:24:32 เพราะว่าก็ต้องก็ต้องเคาะแรงนิดนึงแต่ว่า
00:24:32 → 00:24:35 วันนี้อาจจะเป็นห่วงว่าลูกร้องทำต่อหน้า
00:24:35 → 00:24:37 ปู่ย่าตายายไม่ได้เลยเชื่อ
00:24:37 → 00:24:41 ผมเพราะว่าเคยเห็นคนน้องหลานน่ะโดนเคาะ
00:24:41 → 00:24:44 ปอดใช่มั้ยที่โรงพยาบาลเราแบบเราอึ้งไป
00:24:44 → 00:24:47 เลยอ่ะเสียงดังจังเลยเคจะเจ็บมนะอะไรอย่า
00:24:47 → 00:24:49 เงี้ยเอหน้าเริ่มหน้าเริ่มหงิกแล้วนะคือ
00:24:49 → 00:24:53 เราเราเราอ่ะเป็นห่วงไงเราก็เลยเห็นแบบ
00:24:53 → 00:24:56 เอ๊ยมันเสียงดังขนาดนี้เขาจะเจ็บมั้ยแต่ส
00:24:56 → 00:24:59 สถานการณ์ของเด็กที่
00:24:59 → 00:25:04 อไม่ได้วยวายหรือว่าเอ่อเหมือนกับว่าไม่
00:25:04 → 00:25:07 ได้แสดงความเจ็บปวดให้เราเห็นก็เลยมีความ
00:25:07 → 00:25:09 แค่อยู่ในระยะของความสงสัยก็เลยเมื่อกี้
00:25:10 → 00:25:12 ก็เลยเป็นที่มาของการถามคุณหมอว่าเอ๊ะขอ
00:25:12 → 00:25:16 ปอดมันเจ็บมากน้อยแค่ไหนทำนองเค่ะก็เลย
00:25:16 → 00:25:19 คือคือมันเสียงดังนะคะแต่ว่าเคาะเราไม่
00:25:19 → 00:25:22 ได้เคาะเหมือนเราตีนะคะคือคือไม่ได้ทำมือ
00:25:22 → 00:25:26 แบบนั้นต้องทำมือเเรียกว่าอะไรเป็นอุ้ง
00:25:26 → 00:25:29 อุ้งๆนิดนึงแล้วก็อคือมันจะเป็นส่วนของ
00:25:29 → 00:25:32 เอ่อสันมือกับปายนิ้วจะไม่ได้เป็นส่วนตรง
00:25:32 → 00:25:34 กลางที่เคาะไปทั้งหมดไม่ได้เคาะเหมือนเรา
00:25:34 → 00:25:37 เอามือไปตีอ่ะค่ะอ่าไม่ได้แบบแบมือแล้วตี
00:25:38 → 00:25:41 ปึ้งๆๆลงไปแต่เป็นลักษณะใช้อุ้งมือแล้วก็
00:25:41 → 00:25:45 เอ่อตบลงไปที่บริเวณปอดถูกต้องยคะคุณหมอ
00:25:45 → 00:25:48 ใช่ค่ะแต่ว่าเสียงมันก็เลยจะดังนิดนึงแต่
00:25:48 → 00:25:52 ว่าเราอ่าถ้าคุณพ่อคุณแม่จะเคาะเองอ่ะค่ะ
00:25:52 → 00:25:55 ค่ะหอกว่าก็ต้องมาตรวจที่โรงพยาบาลก่อน
00:25:55 → 00:25:58 อยู่ดีแล้วก็ต้องดูก่อนว่าเราต้องเส่วน
00:25:58 → 00:26:01 ไหนเป็นพิเศษเพราะปอดมี 2 ข้างเนาะแล้วก็
00:26:01 → 00:26:04 มีบนมีล่างด้วยถ้าอยู่โรงพยาบาลอ่ะค่ะ
00:26:04 → 00:26:06 แล้วเราเซยไปแล้วเราก็จะเห็นว่าอ่ะส่วน
00:26:06 → 00:26:10 นี้นะต้องทำท่านี้มันจะมีท่าคว่ำท่าหงาย
00:26:10 → 00:26:13 ท่านั่งเพื่อเาะให้เน้นบริเวณนั้นเป็น
00:26:13 → 00:26:16 พิเศษออไม่ใช่ลูกเอ๊ะมีอาการประมาณนี้
00:26:16 → 00:26:19 เสิร์ช Google เอ๊เคาะปอดทำยังไงอันนี้ทำ
00:26:19 → 00:26:23 ไม่ได้ใช่มั้ยคะอืค่ะค่ะครับผมเอ่อข้อควร
00:26:24 → 00:26:28 ระวังสำหรับ M hpv SV
00:26:28 → 00:26:31 นะครับข้อควรระวังข้อควรสังเกตสำหรับผู้
00:26:31 → 00:26:36 ปกครองทั้งหลายเราควรอืมสังเกตเอ่อระวัง
00:26:36 → 00:26:40 อะไรระวังอาการแบบไหนถึงเอ่อเป็นเป็นเป็น
00:26:40 → 00:26:43 ทุนในการที่จะดูแลลูกหลานดีครับคุณหมอ
00:26:43 → 00:26:48 ครับค่ะก็อาการที่ดูรุนแรงอยากให้รีบมาพบ
00:26:48 → 00:26:51 หมอเนี่ยก็คืออาการที่ดูหอบเหนื่อยหายใจ
00:26:51 → 00:26:54 และหน้าอกบุ๋มก็คือดูบริเวณชายโครงอ่ะค่ะ
00:26:54 → 00:26:56 อรู้สึกว่ามันบุมลงไปเนี่ยอันเนี้ยไม่ไม่
00:26:56 → 00:26:59 ได้เป็นปกติแะมันบุมแค่ช่วงที่ร้องไห้ได้
00:26:59 → 00:27:01 แต่ว่าถ้าไม่ร้องไห้แล้วบุมเนี่ยแปลว่า
00:27:01 → 00:27:04 เหนื่อยมากร่างกายต้องพยายามใช้หน้าอก
00:27:04 → 00:27:09 เพื่อช่วยหายใจเยอะๆค่ะหรือว่าอีกอย่าง
00:27:09 → 00:27:11 นึงนอกจากอาการทางระบบหายใจเนี่ยก็คือถ้า
00:27:12 → 00:27:15 เขารับประทานไม่ได้ซึมลงอืออ่อนเคลียมาก
00:27:15 → 00:27:18 ขึ้นเนี่ยค่ะไม่ไม่ทานอาหารเนาะอไม่ทาน
00:27:18 → 00:27:21 อาหารคือไม่ไม่มีน้ำเข้าไปในร่างกายกับ
00:27:21 → 00:27:24 หรูหรือว่าบางคนไอจนอาเจียนอาเจียนมาก
00:27:24 → 00:27:26 เพลียเยอะอะไรอย่าเงี้ยค่ะก็ควรจะมาให้
00:27:26 → 00:27:30 น้ำเกลือที่โรงพยาบาลอืเพราะว่านำไปสู่
00:27:30 → 00:27:34 ภาวะช็อกได้ถ้าเกิดว่าขาดน้ำนานๆอื
00:27:34 → 00:27:38 เอ่อซึ่งซึการเด็กที่ขาดน้ำนานๆอันตราย
00:27:38 → 00:27:39 มันขนาดไหนคุณ
00:27:39 → 00:27:43 หมอคือในในทางการแพทย์อ่ะค่ะเราจะมีวิธี
00:27:43 → 00:27:47 การดูว่าขาดน้ำมี 3 ระดับระดับ 3 เคือ
00:27:47 → 00:27:49 ช็อกและแต่ว่าระดับเบื้องต้นที่คุณพ่อคุณ
00:27:50 → 00:27:52 แม่เห็นได้คือจะเริ่มมีปากแห้งแล้วก็ดูตา
00:27:52 → 00:27:56 ลึกๆรู้สึกว่าเหมือนเหมือนผิวมันแห้งไป
00:27:56 → 00:27:59 แล้วก็มันบึมลงไปอ่ะค่ะอือันนี้ก็คือ
00:27:59 → 00:28:01 เบื้องต้นแต่ว่าในระดับที่ 2 เนี่ยที่มา
00:28:01 → 00:28:06 โรงพยาบาลแล้วเห็นคือชีพจรเร็วกว่าปกติอื
00:28:06 → 00:28:10 ครับค่ะแล้วก็เ่อความดันก็จะเริ่มต่ำลงใน
00:28:10 → 00:28:14 ระดับที่ 3 ความดันต่ำลงก็คือเริ่มมีภาวะ
00:28:14 → 00:28:17 ช็อกนั่นเองครับค่ะอืมซึ่งซึนันั่นแหละ
00:28:17 → 00:28:21 คือภาวะอันตรายที่จะอาจจะเกิดกับตัวเด็ก
00:28:21 → 00:28:24 ไดุ้หมอก็ไม่อยากให้ถึงขั้นระดับ 3 ก็
00:28:24 → 00:28:26 อยากให้พอปากแห้งเนี่ยถ้าทานไม่ได้คุณพ่อ
00:28:27 → 00:28:29 คุณแม่บังคับไม่ได้ก็มาให้น้ำเือเลยดี
00:28:29 → 00:28:31 กว่าออ่าเสังเกตเสังเกตง่ายมาเลยนะ
00:28:31 → 00:28:33 อันเนี้ยถ้าสังเกตปากแห้งนานๆใช่มั้ยคุณ
00:28:33 → 00:28:37 หมอเป็นเป็นักักเต็มวันแล้วกันเนาะสักวัน
00:28:37 → 00:28:41 นึงมยหรือครึ่งวันิคือถ้าปกติลูกเราไม่
00:28:41 → 00:28:44 ได้ปากแห้งแล้วนัเปากแห้งอ่ะค่ะเราก็ลอง
00:28:44 → 00:28:47 ให้ทานน้ำก่อนทานเกิแรกก่อนถ้ายังไม่ได้
00:28:47 → 00:28:50 ก็ควรมากับอีกอย่างนึงก็คือไม่ปัสสาวะติด
00:28:50 → 00:28:55 ต่อกันเกิน 6 ช่มอว่าร่างกายขาดน้ำ
00:28:55 → 00:28:59 อ๋อเออเรื่องนี้ก็จริิเพราะเพราะลูกผม
00:28:59 → 00:29:02 เนี่ยตอนที่เป็น rsv อ่ะเป็นยังไงไม่ไม่
00:29:02 → 00:29:06 ค่อยดื่มน้ำแล้วก็เรื่องฉี่เนี่ยก็ตามตาม
00:29:06 → 00:29:09 สภาพเลยเพราะว่าน้ำไม่มีใช่มั้ยคุณหมอฉี่
00:29:09 → 00:29:12 มันก็ไม่เกิดใช่เออใช่ถูกต้องพอไปถึงโรง
00:29:12 → 00:29:15 พยาบาลคุณหมอต้องเร่งให้กินให้น้ำเกลือ
00:29:15 → 00:29:18 คือถ้าถ้าลูกไม่ดื่มน้ำแล้วเราเชียร์ให้
00:29:18 → 00:29:21 ดื่มน้ำเขก็ถ้าเจ็บคอเจ็บคอไม่อยากดื่มอื
00:29:21 → 00:29:23 ใช่เจ็บคอไม่อยากดื่มใช่มั้ยคุณหมอผม
00:29:23 → 00:29:26 อธิบายถูกมั้ยเด็กๆเอจะเจ็บคอไม่ค่อยอยาก
00:29:26 → 00:29:29 ดื่มเออแต่ว่าต้องต้องบังคับหน่อยเนาะ
00:29:29 → 00:29:35 พยายามจิบๆเอาเออมันึ่งึ่งถ้าไม่ได้ก็มา
00:29:35 → 00:29:38 โรงพยาบาลให้น้ำเครืก็เพราะว่าบางทีไม่
00:29:38 → 00:29:42 ยอมจริงๆิดจบที่โรงพยาบาลนะคะเออช่วงช่วง
00:29:42 → 00:29:45 ที่มีการระบาดจริงๆคุณหมอเอาเอาแบบให้คุณ
00:29:45 → 00:29:47 ผู้ฟังได้รับทราบกันไปด้วยช่วงมีการระบาด
00:29:47 → 00:29:51 จริงๆอ่ะเด็กเข้าไปด้วยอาการป่วยด้วยโรค
00:29:51 → 00:29:52 นี้เยอะ
00:29:52 → 00:29:54 มย
00:29:54 → 00:30:00 อืมหมอว่าไม่ได้เยอะขนาดนั้นอืคือเมาช่วง
00:30:00 → 00:30:04 เวับ rsc เลยค่ะอ๋อมันคาบเกี่ยวกันค่ะมาก
00:30:04 → 00:30:08 4-5 เท่าเลยอ๋อก็มันเป็นโรคที่ใกล้เคียง
00:30:08 → 00:30:11 แล้วก็คาบเกี่ยวกันแล้วนะคุณหมอนะแล้วก็
00:30:11 → 00:30:14 ค่ะแต่ว่าก็แล้วแต่พื้นที่ด้วยอย่างอย่าง
00:30:14 → 00:30:16 ของโรงพยาบาลเหมาะเนี่ยก็จะมีช่วงนึงที่
00:30:16 → 00:30:20 hntv เยอะเพราะว่ามีโรงเรียนนึงเป็นอื
00:30:20 → 00:30:22 ค่ะก็คือพอเป็นแล้วก็จะเป็นกันทั้งโรง
00:30:22 → 00:30:24 เรียนเหมือนมือเท้าปากก็จะเป็นก็เป็นก
00:30:24 → 00:30:27 ทั้งโรงเรียนเป็นทางห้องก็จะมาทั้งกลุ่ม
00:30:27 → 00:30:30 โรงพาบาลใกลโรโรงเรียนนันก็มากันหลายคนก็
00:30:30 → 00:30:35 มีออส่วนใหญ่เวลาเป็นตัว hpv หรือ rsv
00:30:35 → 00:30:38 เนี่ยทางโรงเรียนต่างๆก็จะปิดการเรียนไป
00:30:39 → 00:30:41 เลยหรือเปล่าคะหรือว่าคำแนะนำทางการแพทย์
00:30:41 → 00:30:45 เนี่ยเอ่อควรจะทำอย่างไรเวลาถ้าเกิดมีผู้
00:30:45 → 00:30:49 ติดเชื้อเป็นเชื้อ hmpv rsv ที่อยู่ใน
00:30:49 → 00:30:51 ห้องเรียนนั้นๆนะค่ะคุณ
00:30:51 → 00:30:56 หมออืหมอคิดว่าคงยังไม่ถึงขั้นต้องปิดเลย
00:30:56 → 00:30:59 แต่ว่าถ้าถรู้เร็วแล้วรีบทำความสะอาดมัน
00:30:59 → 00:31:03 ก็โอเคค่ะเพราะว่าเอ่อมันเกิดจากการไอจาน
00:31:03 → 00:31:06 ถ้าเด็กคนนั้นหยุดเรียนได้เนี่ยมันก็จะจบ
00:31:06 → 00:31:10 ออค่ะอือก็เหมือนแยกตัวออกมาจากเอ่อกลุ่ม
00:31:10 → 00:31:14 ห้องแล้วก็กทำความสะอาดให้เรียบร้อยก็ไม่
00:31:14 → 00:31:16 ถึงขั้นต้องวิตกกังวลมากขนาดนั้นที่จะ
00:31:16 → 00:31:20 ต้องปิดการเรียนไปเลยใช่มั้ยคะอืค่ะใช่
00:31:20 → 00:31:25 ค่ะอืเอ่อโดยปกติแล้วสมมุตินะการการรักษา
00:31:25 → 00:31:27 ที่เกิดขึ้นคุณหมอเอ่อคนนี้สมมุติในห้อง
00:31:27 → 00:31:32 ในห้องเรียนมีเด็กที่ป่วยเป็น rsv กับมี
00:31:33 → 00:31:37 ป่วยเป็น hm PV PV อยู่พร้อมกันในห้อง
00:31:37 → 00:31:41 เลยเอ่อการติดโอกาสที่จะหายจากโรคนึงและ
00:31:41 → 00:31:43 ติดโรคนึงต่อกันเลยเนี่ยก็มีถูกต้องมั้ย
00:31:43 → 00:31:47 ครับมีค่ะเป็นคู่กันก็ได้ค่ะเป็นคู่กัน
00:31:47 → 00:31:51 เลยค่ะเป็นคู่กันเลยแล้วการรักษามันต่าง
00:31:51 → 00:31:54 กันมั้ยกับที่เป็นแบบเดี่ยวๆคุณหมอไม่
00:31:54 → 00:31:57 ต่างค่ะรักษาตามอาการเหมือนกันต่าแต่ว่า
00:31:57 → 00:32:01 มันก็มีโอกาสที่มีความรุนแรงมากกว่าได้
00:32:01 → 00:32:04 เพราะเราเป็น 2 เชื้อค่ะ
00:32:04 → 00:32:08 อืลักษณะว่าเชื้อไหนจะโดดเด่นกว่ากันก็
00:32:08 → 00:32:11 คือดูตามสถานการณ์ของผู้ป่วยเลยอันนี้
00:32:11 → 00:32:16 เข้าใจจถูกต้องมั้ยคะใช่ค่ะค่ะพอเอ่อตัว
00:32:16 → 00:32:20 ลักษณะทางของ rsv แลก็ hmpv เนี่ยก็คือ
00:32:20 → 00:32:26 เป็นการรักษาตามอาการดังนั้นคือถ้าใครที่
00:32:26 → 00:32:31 ต้องเฝ้าระวังเนี่ยก็จะต้องดูแลร่างกาย
00:32:31 → 00:32:36 ให้เอ่อห่างไกลจากเชื้อไวรัสอล้างมือแล้ว
00:32:36 → 00:32:39 ก็เหมือนทำร่างกายให้แข็งแรงเพราะว่าตอน
00:32:39 → 00:32:42 เนี้ยยังไม่มีวัคซีนอันเนี้ยถูกมั้ยคะคุณ
00:32:42 → 00:32:44 หมอเพราะไม่เหมือนไข้หวัดใหญ่น่าจะมี
00:32:44 → 00:32:47 วัคซีนแล้วถูกมั้ยคะอใช่่วัดใหญ่มีวัคซีน
00:32:47 → 00:32:50 แล้วโควิดมีวัคซีนแล้วแต่ว่า rsv กับ hmpv
00:32:50 → 00:32:54 ยังไม่มีวัคซีนแล้วก็ไม่มียาจำผอกค่ะอื
00:32:54 → 00:32:59 ซึ่งก็ต้องรักษาตามอาการนั้นๆไปใช่ค่ะ
00:32:59 → 00:33:01 ปัจจัยอะไรที่มันจะทำให้อาการหนักเพิ่ม
00:33:01 → 00:33:02 ขึ้นคุณ
00:33:02 → 00:33:07 หมอก็อาจจะเป็นโรคประจำตัวของเด็กด้วยค่ะ
00:33:07 → 00:33:09 ถ้าเด็กเป็นภูมิแพ้หรือว่าเป็นหอบหืด
00:33:09 → 00:33:12 เนี่ยก็คือหอบหอบหืดเนี่ยจะน่ากลัวหน่อย
00:33:12 → 00:33:15 ค่ะเพราะว่าหอบหืดคืออาการที่หลอดลมไวไม่
00:33:15 → 00:33:19 ว่าจะติดเชื้ออะไรที่ทาดินหายใจเนี่ยเขา
00:33:19 → 00:33:21 ก็จะเหนื่อยมากขึ้นได้ง่ายก็จะครับต้องมา
00:33:21 → 00:33:24 พ่นยาที่โรงพยาบาลหรือว่าต้องใช้ออกซิเจน
00:33:24 → 00:33:27 ได้ง่ายกว่าค่ะอืค่ะอันนี้ก็คือต้องเฝ้า
00:33:27 → 00:33:31 ระวังถ้าลูกเราเป็นหอผืดอยู่เดิมอ๋อเออ
00:33:31 → 00:33:35 ห่อผืดนี่ก็เป็นมีเขาเรียกว่ามีมีผลต่อ
00:33:35 → 00:33:37 โรคทางเดินหายใจค่อนข้างเยอะนะเพื่อป่วย
00:33:37 → 00:33:40 เป็นแบบหวัดอะไรแค่แค่หวัดก็มีผลแล้วนะน
00:33:40 → 00:33:44 สำหรับห่อผืดอ่ะใช่ค่ะใช่ค่ะโอ้โหอันนี้
00:33:44 → 00:33:47 เมื่อวานนี้เราได้คุยเรื่องฝุ่น PM 2.5
00:33:47 → 00:33:51 กันคุณหมอแล้วเอ๊ะในสถานการณ์ที่ตัว
00:33:51 → 00:33:55 hmpv เนี่ยก็มาในฤดูหนาวเหมือนกันในหน้า
00:33:55 → 00:33:58 หนาวเหมือนกันตัว PM 2
00:33:58 → 00:34:01 ก็มาในหน้าหนาวเหมือนกันเพราะว่าอากาศมัน
00:34:01 → 00:34:06 เอ่อไม่ค่อยมีลมความกดอากาศค่อนข้างสูง
00:34:06 → 00:34:11 ถ้าเจอ PM 2.5 แล้วน้องก็เป็น hmpv ด้วย
00:34:11 → 00:34:14 เนี่ยมันจะซ้ำเติมกระหน่ำกันให้ตัวผู้
00:34:14 → 00:34:18 ป่วยเนี่ยเป็นหนักขึ้นกว่าเดิมไคะก็มี
00:34:18 → 00:34:20 โอกาสที่จะเป็นหนักขึ้นกว่าเดิมค่ะเพราะ
00:34:20 → 00:34:24 ว่าเอ่อการที่เราสัมผัส PM 2.5 เนี่ยเรา
00:34:24 → 00:34:28 จะทำให้มีอาการน้ำมุกเยอะขึึ้นไอเยอะขึ้น
00:34:28 → 00:34:31 จมูกบวมอยู่แล้ว hmpv ก็ทำให้เกิดอาการ
00:34:31 → 00:34:33 เหล่านั้นทั้งหมดเลยบวกกับมีไข้เพิ่มให้
00:34:33 → 00:34:38 เข้าไปอแล้วก็อ่ออาจจะมีหลอดมอักเสบปลอด
00:34:38 → 00:34:56 อักเสบตามมาด้วยแต่อาการของ
00:34:56 → 00:34:59 pm.pwa เกงกระจองอแงบางครั้งเขาอาจจะ
00:34:59 → 00:35:02 สื่อสารออกมาไม่ได้หมดทุกอย่างใน
00:35:02 → 00:35:04 สถานการณ์ที่เขารู้สึกเป็นอยู่ทั้งหมดเลย
00:35:04 → 00:35:06 เงี้ยอันเนี้ยผมคิดนะฉันเจออะไรอีกแล้ว
00:35:06 → 00:35:11 เนี่ยเออเนาะเออแต่แต่เด็กๆอ่ะเขาเรื่อง
00:35:11 → 00:35:14 เจ็บไข้ได้ป่วยอ่ะเขาค่อนข้างที่จะแบบ
00:35:14 → 00:35:17 เอ่อไม่ค่อยได้แบบไม่ไม่ไม่ไม่ได้กลัว
00:35:17 → 00:35:20 ป่วยนะคือต่อให้ป่วยแค่ไหนก็ยังพร้อมที่
00:35:20 → 00:35:25 จะเล่นน่ะแต่แต่แต่พอป่วยแล้วตัวร้อนหาย
00:35:25 → 00:35:27 ใจไม่ออกเนี่ยมันเหนื่อยผู้ปกครองนะเวลา
00:35:27 → 00:35:31 แบบหมดหมดแรงหมดแรงเล่นแล้วอ่ะอ๋อเออเวลา
00:35:31 → 00:35:34 แบบจริงๆเอาคือเด็กไม่สบายไงก็เล่นไหว
00:35:34 → 00:35:37 อยากเล่นชอบเล่นชอบวิ่งชแต่พอแบบถึงเวลา
00:35:37 → 00:35:39 ที่ต้องแบบพักผ่อนแล้วมันหายใจไม่ออกมัน
00:35:39 → 00:35:42 ต้องนอนมันไม่ได้กินยาโอโหเนี่ยแหละตัว
00:35:42 → 00:35:46 หนักเลยอืออันนี้คุณหมอมีทริกอะไรที่แนะ
00:35:46 → 00:35:50 นำผู้ปกครองมั้ยคะผู้ปกครองกำลังเหมือน
00:35:50 → 00:35:54 กำลังระบายความรู้สึกอยู่เมื่อสัก
00:35:54 → 00:35:58 ครู่หมอบอกบอกไปหมดแล้วเออ
00:35:58 → 00:36:00 ถ้าไม่ไหวก็มาหา
00:36:00 → 00:36:02 หมอใช่
00:36:02 → 00:36:07 มยโอนะครับก็คือหมอช่วยได้แค่ว่าถ้ากินยา
00:36:07 → 00:36:09 ไม่ไหวยาบางตัวที่มันเปลี่ยนเป็นฉีดได้
00:36:09 → 00:36:11 แล้วเราเปิดสอยู่แล้วเราก็จะเปลี่ยนเป็น
00:36:11 → 00:36:14 ฉีดให้อเอ้อยาฉีดกับยากินเนี่ยมันมีความ
00:36:14 → 00:36:18 แตกต่างกันมเพราะเออเดี๋ยวอืมบางคนน่ะเคย
00:36:19 → 00:36:21 ได้ยินนะเอ่อความเชื่อบางอย่างอ่ะเข้าใจ
00:36:21 → 00:36:23 ว่าฉีดข้าวเส้นไปเลยงี้เหรอฉีดฉีดฉีดไม่
00:36:23 → 00:36:27 ดีนะยามันแรงเดี๋ยวเด็กเอยากินดีกว่าอะไร
00:36:27 → 00:36:29 เงี้ยคุณหมอจริงๆแล้วมันเป็นยังไงครับคุณ
00:36:29 → 00:36:34 หมอยาฉีดมันมีหลายแบบค่ะอก็ที่ให้ทางน้ำ
00:36:34 → 00:36:37 เกลือเนี่ยถ้าถ้าถามว่า hmpv มียาฆ่า
00:36:37 → 00:36:40 เชื้อมก็ไม่มีอยู่แล้วไม่มียาฉีดสำหรับ
00:36:40 → 00:36:43 รักษา hmpv ครับค่ะแต่ว่าอ่อถ้าเกิดว่า
00:36:43 → 00:36:46 ลูกเราดูขึ้นไส้อาเจียนแต่มีเสียนหาเยอะ
00:36:46 → 00:36:48 ถ้าเรากินยาแก้ขึ้นไส้อาเจียนไม่ได้ก็จะ
00:36:48 → 00:36:51 เปลี่ยนยาแก้ขืไส้อเเป็นฉีดได้อันนี้มี
00:36:51 → 00:36:54 หรือว่าติดเชื้อแทรกซ้อนมีแบคทีเรียมาทับ
00:36:54 → 00:36:58 เราต้องให้ยาปฏิชีวนะอ่ะค่ะค่ะเกว่ารับ
00:36:58 → 00:37:00 ประทานยาไม่ได้ยาปฏิชีวแล้วเนี่ยมียาฉีด
00:37:00 → 00:37:03 ก็เปลี่ยนไปฉีดได้เหมือนกันออืบางตัวมียา
00:37:03 → 00:37:07 ฉีดให้แล้วมันค่ะมันรุนแรงกว่าหรือมัน
00:37:07 → 00:37:11 อันตรายกว่ายาทานยากินมั้ยครับคุณหมอ
00:37:11 → 00:37:15 คือชอบอาการเป็นเยอะค่ะบอกว่ายาฉีดเนี่ย
00:37:15 → 00:37:19 แนวโน้มดีกว่าเพราะว่าอ่าส่งผลให้เห็นว่า
00:37:19 → 00:37:23 ดีขึ้นได้เร็วกว่าในช่วงแรกๆครับแต่ส่วน
00:37:23 → 00:37:25 ใหญ่การติดเชื้อแบคทีเรียค่ะที่ใช้ยา
00:37:25 → 00:37:28 ปฏิชีวนะเนี่ยเราต้องใช้ยายาปฏิสนะติดต่อ
00:37:28 → 00:37:31 กัน 7 วันให้ฉีดทุกวันก็คงไม่ไหวอาจจะฉีด
00:37:31 → 00:37:33 ในวันแรกๆแล้วดูแนวโน้มแล้วก็เปลี่ยนเป็น
00:37:34 → 00:37:40 ยากินต่อค่ะอืออค่ะอถ้าอิเกยวกว่าอืค่ะ
00:37:40 → 00:37:45 แต่ว่าถ้าสถานการณ์ดีขึ้นเอ่อในเลยระยะ
00:37:45 → 00:37:50 ที่หน่าห่วงกังวลมาแล้วก็ยากินก็น่าจะตอบ
00:37:50 → 00:37:53 โจทย์มากกว่าแต่ว่าถ้าในเด็กที่กินยายาก
00:37:53 → 00:37:58 เนี่ยมันต้องกลับไปเป็นยาฉีดอย่างเดียว
00:37:58 → 00:38:01 เลยมยถ้าอันไหนที่เลือกได้รเงี้ยค่ะคุณ
00:38:01 → 00:38:05 หมอถ้าเป็นเด็กกินยายากคือยาฉีดก็มีแค่ยา
00:38:05 → 00:38:08 ปฏิชีวนะหรือยาตามอาการบางตัวค่ะที่เหลือ
00:38:08 → 00:38:11 ก็เป็นยากินอยู่ดีอืก็ต้องพยายามกันอ่ะ
00:38:11 → 00:38:14 เนาะก็จะต้องมีกินยาเหมือนอย่างน้อยถ้า
00:38:14 → 00:38:17 ถ้าติดเชื้อค่ะยังไงก็ต้องกินยารดไข้
00:38:17 → 00:38:21 เพราะว่ายารดไข้ไม่มีฉีดอืยาพาาเนี่ยค่ะ
00:38:21 → 00:38:24 ยังไงก็ต้องกินยารสไข้สูงก็จะมีแต่ยากิน
00:38:24 → 00:38:29 เหมือนกันอือืเอ่อเอ่อช่วงท้ายแล้วคุณหมอ
00:38:29 → 00:38:32 ครับคุณหมอเอ่อนอกจากช่วงเนี้ยเราต้อง
00:38:32 → 00:38:35 ระวังโรคอย่างโรคเ่อทางระบบทางเดินหายใจ
00:38:35 → 00:38:38 อย่างอย่าง rsv เอ่อ
00:38:38 → 00:38:42 hmpv แล้วเนี่ยยังมีโรคอื่นๆที่ควรจะ
00:38:42 → 00:38:45 ระมัดระวังในช่วงนี้บ้างอีกมฮะอยากอยาก
00:38:45 → 00:38:48 ฝากเรื่องนี้มากเลยเพราะว่าเหมือนมีกระแส
00:38:48 → 00:38:51 เรื่อง hmpv แรงมากแต่จริงๆแล้ว hmpv ไม่
00:38:51 → 00:38:54 เยอะนะคะช่วงนี้ที่เยอะที่สุดคือไข้หวัด
00:38:54 → 00:38:57 ใหญ่ค่ะอ๋อไขหวัดใหญ่มีทั้งสายพันธุ์เอ
00:38:57 → 00:39:01 และสายพันธุ์ดีครับแล้วก็มีทุกวัยเลยค่ะ
00:39:01 → 00:39:04 มีตั้งแต่เด็กเล็กๆอเด็กโตแล้วก็ผู้ใหญ่
00:39:04 → 00:39:07 แล้วก็ผู้สูงอายุนี่ในโรงพยาบาลเจอเรื่อย
00:39:07 → 00:39:11 ๆเลยค่ะทุกวันค่ะอืในช่วงนี้ไหวัดใหญ่ใน
00:39:11 → 00:39:14 เด็กใช่มั้ยทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่คุณหมอ
00:39:14 → 00:39:17 บอกว่าช่วงนี้เจอเรื่อยๆเลยทั้ง a แล้วก็
00:39:17 → 00:39:20 B เมื่อกี้คุณหมอบอกในช่วงเดือนมกราคม
00:39:20 → 00:39:22 ที่ผ่านมามีคขวัดใหญ่สายพันธเอค่อนข้าง
00:39:22 → 00:39:26 เยอะครับค่ะเมื่อกี้คุณหมอบอกว่าตัว hmpv
00:39:26 → 00:39:29 เนี่ยถ้าถ้าหายไปแล้วโอเคแล้วก็กลับไป
00:39:29 → 00:39:32 เนี่ยฟื้นฟูร่างกายในหลักเดือนกลับมาเป็น
00:39:32 → 00:39:35 ซ้ำก็อาจจะไม่ได้รุนแรงมากไปกว่าครั้งแรก
00:39:35 → 00:39:38 ที่เป็นแต่ว่าถ้าตัวไข้หวัดใหญ่คุณหมอขอ
00:39:38 → 00:39:42 ความรู้สักนิดนึงค่ะว่าถ้าเป็นไข้หวัด
00:39:42 → 00:39:46 ใหญ่ครั้งแรกแล้วหายไปะแล้วกลับมาเป็นซ้ำ
00:39:46 → 00:39:49 ใหม่อีกรอบเนี่ยมันจะหนักกว่าเดิมมยถ้า
00:39:49 → 00:39:52 เป็นสายพันธุ์เดิมหรือถ้าเป็นสายพันธุ์
00:39:52 → 00:39:55 ที่ต่างกันออกไปเนี่ยมันจะเป็นลักษณะแบบ
00:39:55 → 00:39:59 ไหนได้บ้างคะอืคือแค่หวัดใหญ่เนี่ยค่ะ
00:39:59 → 00:40:03 เอ่อเราจะรู้จักว่ามันมี 2 สายพันธุ์ครับ
00:40:03 → 00:40:07 ค่ะนะก็คือมี a กับ B ปกติเป็นแล้วแล้ว
00:40:07 → 00:40:11 ถ้าเป็นเป็นอีกเนี่ยน่าจะเป็นตัวอื่นๆมาก
00:40:11 → 00:40:14 กว่าค่ะเพราะว่ามันมีแพ่ระบาดอยู่ในช่วง
00:40:14 → 00:40:19 เนี้ยหลายตัวครับค่ะแล้วก็ถ้าถ้าเดือนนึง
00:40:19 → 00:40:22 ภูมิก็จะหมดไปแล้วก็ไปติดเชื้อใหม่อาจจะ
00:40:22 → 00:40:25 เป็นตัวเดิมหรือตัวใหม่ก็ได้้าหวัดใหญ่
00:40:25 → 00:40:28 เนี่ยอยู่ที่ว่าตอนแรกเราเป็นรุถ้าลงกอด
00:40:28 → 00:40:30 เนี่ยค่ะก็เราอาจจะยังหายไม่ทันถ้าติดอีก
00:40:30 → 00:40:34 เชื้อนึงออ้ใช่เพราะร่างกายกว่าจะฟื้นูถด
00:40:34 → 00:40:37 ใหญ่รุนแรงพอสมควรครับค่ะไม่ค่อยมีคนเป็น
00:40:37 → 00:40:41 ไข้หวัดใหญ่แล้วไม่มีไข้ไม่ปวดเมื่อยตาม
00:40:41 → 00:40:46 ตัวออือก็ใหญ่ตามชื่อค่ะครับอืค่ะแล้วก็
00:40:46 → 00:40:51 เอ่อวัคซีนที่เราฉีดกันน่ะค่ะค่ะอือมี 4
00:40:51 → 00:40:53 สายพันธุ์นะคะคือสายพันธุ์ A 2 สาย
00:40:53 → 00:40:55 พันธุ์แล้วก็สายพันธุ์ b 2 สายพันธุ์แต่
00:40:55 → 00:40:58 ว่าไข้หวัดใหญ่จริงๆนี่เป็น 10 สายพันธุ์
00:40:58 → 00:41:00 เลยเราอาจจะไม่ได้ป้องกันได้ทั้งหมดใน
00:41:00 → 00:41:03 ครั้งแรกสมมุติว่าเราอาจจะติด a อ่อ
00:41:03 → 00:41:06 สมมุติเป็น A1 ที่มันมีในวัคซีนเราก็
00:41:06 → 00:41:09 อาการน้อยแต่พอครั้งที่ 2 เราไปติด A2
00:41:09 → 00:41:11 ที่มันไม่ได้มีในวัคซีนเราก็อาจจะเป็น
00:41:11 → 00:41:16 เยอะได้ครับค่ะอก็ขึ้นอยู่กับว่า
00:41:16 → 00:41:20 สถานการณ์ร่างกายตอนนั้นมีภูมิมากน้อยแค่
00:41:20 → 00:41:23 ไหนด้วยเช่นเดียวกันนะคะครับใช่ค่ะค่ะอ
00:41:23 → 00:41:26 ช่วงท้ายค่ะคุณหมอสำหรับตัว smv เนี่ยคุณ
00:41:26 → 00:41:29 หมออยากจะฝากอะไรถึงคุณผู้ฟังแล้วก็คุณ
00:41:29 → 00:41:34 พ่อคุณแม่ที่ฟังรายการนี้อยู่บ้างคะค่ะก็
00:41:34 → 00:41:38 hmpv ไม่ได้เป็นไวรัสตัวใหม่นะคะไม่ได้
00:41:38 → 00:41:40 น่ากลัวแต่ว่าก็ไม่ได้อยากให้ทุกคนวางใจ
00:41:40 → 00:41:43 การไม่ติดเชื้อไม่ป่วยก็ดีกว่าอยู่แล้วนะ
00:41:43 → 00:41:47 คะสำหรับเด็กๆแล้วก็การป้องกันไม่ได้ยาก
00:41:47 → 00:41:50 ค่ะก็คือให้ใส่แมสถ้าเกิดว่าต้องอยู่ร่วม
00:41:50 → 00:41:54 กันในที่คนจำนวนมากไปโรงเรียนเนี่ยค่ะ
00:41:54 → 00:41:57 แล้วก็หมล้างมือบ่อยๆด้วยสบู่แล้วก็เอใช้
00:41:57 → 00:42:01 เจลแอลกอฮอล์นะคะพยายามดูลูกว่าแนะนำว่า
00:42:01 → 00:42:03 ไม่ให้เด็กเนี่ยเอามือเข้าปากหรือเข้า
00:42:03 → 00:42:06 จมูกนะคโหยากสุด
00:42:06 → 00:42:10 เลยค่ะแล้วก็ถ้าอาการที่เหมาะอยากให้ที่
00:42:10 → 00:42:13 ทามาโรงพยาบาลน้ำอีกทีนึงก็คือหอบเหนื่อย
00:42:13 → 00:42:17 หายใจอบดุ๋มค่ะนะคะหรือว่าอาการซึมลงอ่อน
00:42:17 → 00:42:19 เชียถ้าเกิดว่ามีไข้สูงแล้วกินไม่ได้
00:42:19 → 00:42:21 เนี่ยอาการกินไม่ได้ขาดน้ำก็คือเริ่มจาก
00:42:22 → 00:42:25 ปากแห้งหรือว่าไม่ปัสสาวะเกิน 6 ชมงเป็น
00:42:25 → 00:42:28 ต้นไปค่ะอืนะเหล่านี้ก็เป็นข้อสังเกตนะ
00:42:28 → 00:42:31 แล้วก็อย่าชะล่าใจใช่มั้ยคุณหมอว่าเอ่อ
00:42:31 → 00:42:34 เดี๋ยวรออีกสักแป๊บนึงถ้าอาการเป็นอย่าง
00:42:34 → 00:42:36 งั้นอย่างงี้เดี๋ยวค่อยไปหาก็ได้อะไร
00:42:36 → 00:42:38 เงี้ยใช่มั้ยฮะถ้าเข้าเกณฑ์แบบที่บอก
00:42:38 → 00:42:40 เนี่ยโดยเฉพาะเรื่องของการขาดน้ำต้อง
00:42:40 → 00:42:43 ระมัดระวังเลยนะมันสู่ภาวะช็อกได้นะครับ
00:42:43 → 00:42:44 คุณหมอ
00:42:44 → 00:42:47 เอ่อครับวันนี้ขอบคุณคุณหมอมากเลยครับมา
00:42:47 → 00:42:50 ให้ความรู้นะครับแล้วก็ให้คุณผู้ฟังได้
00:42:50 → 00:42:53 ระมัดระวังด้วยโดยเฉว่าคนที่มีลูกๆหลานๆ
00:42:53 → 00:42:55 อยู่ในบ้านนะครับแล้วก็ที่สำคัญก็คือช่วง
00:42:55 → 00:42:57 นี้ต้องระมัดระวังไข้หวัดใหญ่
00:42:57 → 00:43:00 เป็นสำคัญเลยนะครับเอ่อเด็กๆนี้สามารถไป
00:43:00 → 00:43:05 รับวัคซีนใช้ไใหญ่ใหญ่ได้มยคุณหมอได้ค่ะิ
00:43:05 → 00:43:07 ได้ตั้งแต่อายุ 6 เดือนเลยค่ะ 6 เดือน
00:43:07 → 00:43:10 เป็นต้นไปได้เลยใช่มครับอ่ะนะครับก็ใครก็
00:43:10 → 00:43:12 ฟังอยู่ก็ระมัดระวังกันด้วยนะครับแล้วก็
00:43:12 → 00:43:15 หากยังไม่ได้รับวัคซีนก็แนะนำรับวัคซีน
00:43:15 → 00:43:18 กันซะจะได้ผ่อนหนักเป็นเบานะคุณหมอนะครับ
00:43:18 → 00:43:23 ใช่ครับขอบคุณครับคุณหมอครับค่ะขอบคุณค่ะ
00:43:23 → 00:43:25 ครับสวัสดีครับสัสดีครับสวัสดีค่ะขอบคุณ
00:43:25 → 00:43:27 ค่ะแพทย์หญิงศรีวลีสีดาฟองนะครับ
00:43:27 → 00:43:30 กุมารแพทย์แพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทาง
00:43:30 → 00:43:34 เดินอาหารและตับในเด็กโรงพยาบาลวิมุตติ
00:43:34 → 00:43:36 ครับ