00:00:00 → 00:00:02 วิธีการใช้ยามให้คุณกำเนิดแบบที่เราเห็น
00:00:02 → 00:00:05 ในข่าวเนี่ยก็จะเป็นวิธีที่จริงๆก็มีคน
00:00:06 → 00:00:08 ใช้กันอยู่เยอะนะครับก็ที่เราเรียกว่า
00:00:08 → 00:00:10 เป็นยาคุณกำเนิดชนิดหลังมีเพศสัมพันธ์
00:00:10 → 00:00:13 หรือว่าที่เรียกกันว่าเป็นชนิดฉุกเฉินนะ
00:00:13 → 00:00:16 ครับซึ่งวัตถุประสงค์อ่ะมันก็ต้องเป็นการ
00:00:16 → 00:00:20 ใช้ในกรณีฉุกเฉินจริงๆนะครับเช่นเอ่อได้
00:00:20 → 00:00:22 พลาดพั้งไปมีเพศสัมพันธ์โดยที่ไม่ได้มี
00:00:22 → 00:00:25 การป้องกันไว้ก่อนนะครับเพราะฉะนั้นแทน
00:00:25 → 00:00:27 ที่จะปล่อยให้มีความเสี่ยงการตั้งครร์
00:00:27 → 00:00:29 เต็มที่ไปเลยเนี่ยอย่างน้อยๆเนี่ยพยายาม
00:00:29 → 00:00:31 หาวิธีมาสกัดกั้นการตั้งครรภ์ไว้บ้าง
00:00:31 → 00:00:34 อย่างน้อยก็ช่วยลดโอกาสความเสี่ยงไปได้นะ
00:00:34 → 00:00:38 ครับค่ะคราวนี้เดี๋ยวก่อนที่เราจะพูดถึง
00:00:38 → 00:00:40 ยาเมกมกำเนิดชนิดฉุกเฉินเนี่ยนะครับก่อน
00:00:41 → 00:00:43 อื่นหมอหมออธิบายเ่อปูพื้นให้หลายๆท่าน
00:00:43 → 00:00:46 ที่เข้ามาฟังเนี่ยจะได้จะได้พอทราบกันว่า
00:00:46 → 00:00:48 เอาเอาถึงกระบวนการของการตั้งครรภ์ก่อนดี
00:00:48 → 00:00:51 กว่านะครับเราจะได้เข้าใจว่าพอเรารู้
00:00:51 → 00:00:53 กระบวนการการตั้งครรภ์เราจะได้เข้าใจว่า
00:00:53 → 00:00:57 กลไกของการใช้ยาไม่คกำเนิดเนี่ยมันไปมี
00:00:57 → 00:01:00 ประสิทธิภาพป้องกันตรงจุดไหนนะครับค่ะค่ะ
00:01:00 → 00:01:03 เอ่อถ้าเรามองในอวของคุณผู้หญิงนะครับที่
00:01:03 → 00:01:06 เป็นเพศภายนอกเนี่ยนะครับพอลึกเข้าไป
00:01:06 → 00:01:08 เนี่ยมันก็จะเป็นช่องคลอดนะครับสุดช่อง
00:01:08 → 00:01:10 คลอดเข้าไปเนี่ยก็จะเราก็จะเจอกับปากมด
00:01:11 → 00:01:13 ลูกนะครับเหนือจากปากมดลูกขึ้นไปเนี่ยก็
00:01:13 → 00:01:16 จะเป็นตัวมดลูกะึตัวมดลูกเนี่ยพอถอต่อจาก
00:01:16 → 00:01:18 ป่ามดลูกขึ้นไปเนี่ยเขาก็จะเป็นช่องว่างๆ
00:01:18 → 00:01:21 ที่ที่เราเรียกว่าโพงมดลูกซึ่งซึลูกเนี่ย
00:01:21 → 00:01:24 ก็จะมาฝัตัวตรงนี้แหละค่ะนะครับครนี้ด้าน
00:01:24 → 00:01:27 บนของโงดลูกเนี่ยทั้ง 2 ข้างทั้งซ้ายขวา
00:01:27 → 00:01:29 เนี่ยเขาจะมีท่อเล็กๆครับยื่นไปทางด้าน
00:01:29 → 00:01:32 ซ้ายและขวาท่อเจะเป็นทางเดินของไข่เราก็
00:01:32 → 00:01:34 เรียกกันว่าท่อนำไข่หรือว่าบางท่านก็
00:01:34 → 00:01:37 เรียกว่าปีกมดลูกนะครับก็คือตัวมดลูกเ
00:01:37 → 00:01:40 อยู่ตรงกลางนะครับด้านล่างเป็นปากมดลูก
00:01:40 → 00:01:42 ที่เขามาต่อช่องทอดอย่างที่เราบอกไปสัก
00:01:42 → 00:01:44 ครู่แล้วก็เขจะมีปีกทางด้านบนเนี่ยไปทั้ง
00:01:44 → 00:01:47 ซ้ายและขวาซึ่งส่วนส่วนปลายของกิ่งมดลุก
00:01:47 → 00:01:49 หรือทอดนำไข่เนี่ยก็จะไปอยู่ใกล้ๆกับหลัง
00:01:49 → 00:01:51 ไข่นะครับไม่ได้ติดกันแต่ว่าจะอยู่ใกล้ๆ
00:01:51 → 00:01:54 กันคราวนี้กระบวนการเจริญพันธุ์ของมนุษย์
00:01:54 → 00:01:57 เราเนี่ยนะครับเอ่อเอ่อจริงๆเนี่ยเรามี
00:01:57 → 00:01:59 เซลล์ไข่อยู่ในหลังไข่ตั้งแต่เกิดแล้วนะ
00:01:59 → 00:02:01 ครับครับเด็กๆผู้หญิงทุกคนเนี่ยมีมีเซลล์
00:02:01 → 00:02:03 ไข่อยู่ะเพียงแต่ว่ารังไข่นั้นน่ะจะยัง
00:02:03 → 00:02:06 ไม่ทำงานจนกว่าเมื่อเราเข้าสู่วัยเจริญ
00:02:06 → 00:02:09 พันธุ์นะครับซึ่งเเ่อตั้งต้นเนี่ยก็จะ
00:02:09 → 00:02:11 เป็นส่วนของวัยรุ่นนั่นแหละนะครับซึ่ง
00:02:11 → 00:02:13 เดี๋ยวนี้ก็วัยรุ่นเราโหตั้งแต่อายุ 11
00:02:13 → 00:02:16 12 ศษาบางคนก็จะเริ่มแล้วจริงๆแล้วเราจะ
00:02:16 → 00:02:18 ดูว่าเริ่มวัยเจริญันเมื่อไหร่ก็เริ่มมี
00:02:18 → 00:02:20 ประจำเดือนแล้วแหละเราก็จะเริ่มสังเกตว่า
00:02:20 → 00:02:23 อ่าแสดงว่ามันมีกลไกของการตกไขเกิดขึ้นนะ
00:02:23 → 00:02:25 ครับซึ่งอันเนี้ยมันก็จะมาจากการกระตุ้น
00:02:25 → 00:02:27 ด้วยฮอร์โมนที่มาจากต่อมใต้สมองเหมือน
00:02:27 → 00:02:29 เหมือนร่างไข่เรามีไข่เตรียมไว้แล้วฮะแต่
00:02:29 → 00:02:31 ว่ามันจะเริ่มทำงานเมื่อต่อมใต้สมองมัน
00:02:31 → 00:02:34 กระตุ้นให้มันทำงานนะครับออธิบายอย่างนี้
00:02:34 → 00:02:37 ก่อนคราวนี้เวลาเราพูดถึงกระบวนการตั้ง
00:02:37 → 00:02:40 ครรภ์เนี่ยก็คือหลังจากที่ฮอร์โมนของต่อม
00:02:40 → 00:02:43 ใต้สมองมากระตุ้นรังไข่รังไข่ก็จะคัดเอา
00:02:43 → 00:02:45 เซลล์ไข่นะครับแล้วพัฒนาให้กลายเป็นไข่
00:02:45 → 00:02:48 ที่สุกนะครับในแต่ละเดือนเนี่ยก็จะมีไข่
00:02:48 → 00:02:51 สุกเนี่ย 1 ใบนะครับซึ่งก็อาจจะมีการสลับ
00:02:51 → 00:02:54 ไปทั้งรังไข่ซ้ายรังไข่ขวาสลับนาทีกันนะ
00:02:54 → 00:02:56 ครับแต่ในไข่ที่สุก 1 ใบเนี่ยนะครับเรา
00:02:56 → 00:02:59 นึกภาพง่ายๆมันมันจะเหมือนเซลล์ไข่ที่ลอย
00:02:59 → 00:03:00 อยู่ในถุง
00:03:00 → 00:03:03 ถุงที่ห่อหุ้มเขาอยู่แล้วก็พอเวลาผ่านไป
00:03:03 → 00:03:05 นานวันขึ้นเนี่ยเจ้าถุงเจะขยายขนาดใหญ่
00:03:05 → 00:03:08 ขึ้นแล้วก็เรานึกภาพเหมือนลูกโป่งฮะมนลูก
00:03:08 → 00:03:11 โป่งใส่น้ำแล้วมีเซลล์ไข่ลอยอยู่ค่ะพอลูก
00:03:11 → 00:03:13 โป่งมันใหญ่ขึ้นมากๆถึงจุดนึงนะครับเ่อ
00:03:13 → 00:03:15 ประมาณว่าถ้าเส้นผักสูนกลางเอยู่ที่
00:03:15 → 00:03:17 ประมาณ 18-20 มลมเนี่ยไอ้ลูกโป่งเนี่ย
00:03:18 → 00:03:19 ผนังมันจะบางแล้วเหมือนเราเป่าลูกโป่งฮะ
00:03:19 → 00:03:22 เป่าใหญ่มากๆมันก็แตกนะครับพอแตกเนี่ยของ
00:03:22 → 00:03:25 เหลวที่บรรจุเซลล์ไข่อยู่ในนั้นเนี่ยมัน
00:03:25 → 00:03:28 ก็จะไหลออกมาจากอ่ารังไข่แล้วก็เไหลลงไป
00:03:29 → 00:03:31 อยู่ในอุ้งเชงของเราแล้วเซลล์ไข่ก็จะลอย
00:03:31 → 00:03:32 อยู่ในของเหลวเนี่ยฮะอยู่ในช่องว่างใน
00:03:32 → 00:03:35 อุ้มเกของเราค่ะนะครับที่เราเรียกว่าตก
00:03:35 → 00:03:38 ไข่นะครับค่ะานี้ไข่ที่ตกมาเนี่ยนะครับ
00:03:38 → 00:03:41 ที่ลอยอยู่เนี่ยตัวท่อนำไข่ที่อยู่ใกล้ๆ
00:03:41 → 00:03:44 เนี่ยนะครับเขาจะพยายามแบบโบกนะครับมันจะ
00:03:44 → 00:03:46 ส่วนไายของท่อนำไข่เนี่ยมันจะมีลักษณะ
00:03:46 → 00:03:49 เหมือนขนเล็กๆคอยโบกเหมันปากแตรครับแล้ว
00:03:49 → 00:03:52 ก็โบกได้ให้เกิดแรงดูดแล้วก็ดูดเอาเสไข
00:03:52 → 00:03:54 เข้ามานะครับค่ะเมื่อเซลล์ไข่เข้ามานะ
00:03:54 → 00:03:57 ครับถ้าเกิดกระบวนการเเกิดขึ้นในวันเดียว
00:03:57 → 00:03:59 กับที่เรามีเพศสัมพันธเนะครับคุณผู้ชาย
00:03:59 → 00:04:01 เนี่ยก็จะหลังน้ำอสุจิไว้ในช่องคลอดนะ
00:04:02 → 00:04:05 ครับแล้วก็เอ่ออสุจิเนี่ยมันก็จะว่ายผ่าน
00:04:05 → 00:04:07 ขึ้นไปนะครับเพื่อไปหาเซลล์ไข่โดยว่าย
00:04:07 → 00:04:09 ผ่านด่านแรกที่เขาเจอก็คือบริเวณที่เรียก
00:04:09 → 00:04:12 ว่าปากมดลูกซึ่งตรรงปากมดลูกเนี่ยเขาจะมี
00:04:12 → 00:04:14 มูกเหนียวๆนะครับไว้คอยสกัดจับสิ่งแปลก
00:04:14 → 00:04:17 ปลอมสกัดจับเชื้อโรครวมทั้งสกัดจับไอ้ตัว
00:04:17 → 00:04:19 อสุจิที่เป็นสิ่งแปลกปอมด้วยเนี่ยคือในใน
00:04:19 → 00:04:21 ร่างกายผู้หญิงเนี่ยเขาคก็จะถือว่าอสุจิ
00:04:21 → 00:04:23 นี่เป็นสิ่งแปลกปอมเพราะว่าผู้หญิงไม่มี
00:04:23 → 00:04:26 อสุจิใช่มั้ยครับคราวนี้พออจิบ้ผ่านมา
00:04:26 → 00:04:28 เนี่ยอาุจิจะต้องมีความสามารถในการเหมือน
00:04:28 → 00:04:30 กับแทรกซึมตัวเองเนี่ยนะครับให้ให้เหมือน
00:04:30 → 00:04:33 กับไหลผ่านเข้าไปในมูกของปากรถลูกที่ที่
00:04:33 → 00:04:35 เป็นเหมือนกับด่านป้องกันเนี่ยยแล้วก็จะ
00:04:35 → 00:04:38 ไหลปนกับมูกเนี่ยผ่านเข้าไปในพรงมดลูกนะ
00:04:38 → 00:04:40 ครับแล้วก็ขึ้นไปด้านบนนะครับแล้วก็
00:04:40 → 00:04:42 เลี้ยวซ้ายเลี้ยวขวาไปตามท่อนำไข่ที่ปีก
00:04:42 → 00:04:45 มดลูกทั้ง 2 ด้านแล้วก็ว่ายไปจนกระทั่ง
00:04:45 → 00:04:48 เกือบจะถึงส่วนปลายครับถ้าเกิดมีเซลล์ไข่
00:04:48 → 00:04:50 ที่ถูกท่อน้ำไข่จับเข้ามาได้เก็จะไปเกิด
00:04:50 → 00:04:54 การปฏิสนธิกันบริเวณส่วนปลายนะครับแล้วก็
00:04:54 → 00:04:56 เกิดเป็นตัวอ่อนหลังจากนั้นตัวอ่อนเนี่ย
00:04:56 → 00:04:58 จะเดินทางผ่านท่อนำไข่นะครับย้อนกลับมา
00:04:58 → 00:05:01 แล้วก็กลับมาฝังตัวอยู่ในพวงดลูกนะครับ
00:05:01 → 00:05:04 อันนี้ก็เป็นกระบวนการของการตั้งครรภ์นะ
00:05:04 → 00:05:08 ครับอคราวนี้เอ่อถ้าเราพูดถึงวิธีการคุม
00:05:08 → 00:05:10 กำเนิดโดยการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเนี่ยนะ
00:05:10 → 00:05:13 ครับกลไกในการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดเนี่ยนะ
00:05:13 → 00:05:15 ครับเขาจะมีกลไกในการป้องกันการตั้งครัน
00:05:15 → 00:05:20 อยู่ 3 จุดนะครับจุดที่ 1 ก็คือเค้าจะไป
00:05:20 → 00:05:23 ยับยั้งที่รังไข่นะครับเอคือยับยั้งไม่
00:05:23 → 00:05:25 ให้เกิดการสร้างไข่หรือสร้างไข่แล้วไข่
00:05:25 → 00:05:27 นั้นเป็นไข่ที่ไม่สมบูรณ์ไม่สามารถจะตก
00:05:27 → 00:05:30 ไข่ได้ก็คือไปดักตั้งแต่ต้นทางเลยไม่ให้
00:05:30 → 00:05:33 ไม่ให้มีไข่ออกมานะครับเ่อกลไกอันที่ 2
00:05:33 → 00:05:36 ก็คือจะมีการเปลี่ยนแปลงลักษณะของมูกที่
00:05:37 → 00:05:40 ปากมดลูกครับคเพื่อดักจับอสุจิเนี่ยทำให้
00:05:40 → 00:05:43 อสุจิเนี่ยผ่านเข้าไปในพวงลูกได้ยากขึ้น
00:05:43 → 00:05:46 ค่ะนะครับอันนี้คือเป็นขั้นที่ 2 ไปดัก
00:05:46 → 00:05:48 ขั้นแรกไปดักไข่ไว้ะขั้นที่ 2 ก็มาดัก
00:05:48 → 00:05:51 อสุจินะครับแล้วก็ขั้นสุดท้ายเนี่ยนะครับ
00:05:51 → 00:05:54 ก็จะมีลักษณะของการเปลี่ยนแปลงสภาพของ
00:05:54 → 00:05:57 ผนังของโพรงวดลูกครับอืที่เราจะมีผนัง
00:05:57 → 00:05:59 ชั้นในสุดเนี่ยเขาจะเรียกว่าเยื่อบุโพงวด
00:05:59 → 00:06:01 ลูกนะครับเจะไปเปลี่ยนแปลงสภาพของเยอบุพ
00:06:01 → 00:06:04 ลูกเนี่ยให้มันมีสภาวะที่ไม่เหมาะสมที่
00:06:04 → 00:06:08 ตัวอ่อนจะมาฝังตัวสำเร็จอืก็คือกระบวนการ
00:06:08 → 00:06:12 ของยาไม่กุกำเนิดทั้งหลายเนี่ยเราจะมีการ
00:06:12 → 00:06:15 ป้องกันการตั้งครรภ์ใน 3 จุดนี้ค่ะคราว
00:06:15 → 00:06:17 นี้กลับมาที่หัวเรื่องของเราเนี่ยนะครับ
00:06:17 → 00:06:20 เวลาเราพูดถึงยาเม็ดคุณกำเนิดชนิดฉุกเฉิน
00:06:20 → 00:06:23 เนี่ยนะครับเอ่อข้อเสียของมันเนี่ยนะครับ
00:06:23 → 00:06:25 ก็คือคือคือโอเคล่ะมันมันก็ไม่รู้จะทำไง
00:06:25 → 00:06:27 มันก็ต้องป้องกันมันก็ต้องหาอะไรมาป้อง
00:06:27 → 00:06:31 กันไปก่อนนะฮะแต่ว่าก็คือประสิทธิภาพใน
00:06:31 → 00:06:33 การป้องกันเนี่ยมันจะไม่ได้ป้องกันทั้ง 3
00:06:33 → 00:06:37 จุดนะครับอเพราะว่ายาเม็ดชนิดคุณชนิด
00:06:37 → 00:06:38 ฉุกเฉินเนี่ยมันใช้เมื่อหลังจากมี
00:06:38 → 00:06:41 เพศสัมพันธ์ไปแล้วอันนั้นจะไม่ได้ไปป้อง
00:06:41 → 00:06:43 กันการสร้างไข่หรือการตกไข่นะครับไอ
00:06:43 → 00:06:46 กระบวนการนั้นมันจะผ่านมาแล้วนะครับแล้ว
00:06:46 → 00:06:48 ก็จะไม่สามารถป้องกันไปเปลี่ยนแปลงสภาพ
00:06:48 → 00:06:51 มูกที่ปากมดลูกอะไรได้เลยเพราะว่าอสุจิ
00:06:51 → 00:06:53 เนี่ยมันคือหลังพีเพศสัมพันธ์อสุจิมันก็
00:06:53 → 00:06:56 ได้ผ่านเข้าไปแล้วฮะเรียบร้อยไปแล้วจะ
00:06:56 → 00:06:58 เหลือแค่กลไกอันสุดท้ายครับคือเคก็จะ
00:06:58 → 00:07:01 พยายามไปเปลี่ยนแปลงสภาพของเยื่อบุครูก
00:07:01 → 00:07:04 ให้เอ่อท้ายที่สุดถ้าเกิดบังเอิญมีอสุจิ
00:07:04 → 00:07:06 ไปผสมกับไข่แล้วกลายเป็นตัวอ่อนเนี่ยเวลา
00:07:06 → 00:07:09 เขาจะมาฝังตัวเนี่ยก็จะฝังตัวได้ยากขึ้น
00:07:09 → 00:07:12 นะครับเพราะฉะนั้นเมื่อมันป้องกันเพียง
00:07:12 → 00:07:14 แค่กลไกอันเดียวเนี่ยนะครับประสิทธิภาพ
00:07:14 → 00:07:16 ของการป้องกันการนคันจึงต่ำกว่ายาไม่ก
00:07:16 → 00:07:19 กำเนิดแบบปกติอืเพราะฉะนั้นก็ต้องเรียน
00:07:19 → 00:07:21 ว่ายาไม่กกำเนิดชนิดฉุกเฉินเนี่ยทำไมเรา
00:07:21 → 00:07:24 ถึงเรียกว่าฉุกเฉินก็เพราะว่าเราไม่แนะนำ
00:07:24 → 00:07:26 ให้เอามาใช้ในการคุมกำเนิดโดยทั่วไปตาม
00:07:27 → 00:07:29 ปกตินะครับสำหรับูสามีภรยาที่ที่ยังไม่
00:07:29 → 00:07:31 พร้อมมีบุอะไรอย่างเงี้ยอันนั้นควรจะทาน
00:07:31 → 00:07:33 ยาไมกำหนิดที่เป็นแผงที่เป็นฮอร์โมนรวม
00:07:33 → 00:07:36 กันมากกว่านะครับคราวนี้ยาไมโครกเนชนิด
00:07:36 → 00:07:39 ฉุกเฉินเนี่ยมันประกอบไปด้วยอะไรบ้างใน
00:07:39 → 00:07:41 ตัวยาที่มีเนี่ยนะครับจะเป็นฮอร์โมนเ่อ
00:07:41 → 00:07:44 ที่เราเรียกว่าฮอร์โมนโปรเจสโตเจนขนาดสูง
00:07:44 → 00:07:47 นะครับเอ่อซึ่งเอ่อเมื่อมันมีขนาดสูง
00:07:47 → 00:07:49 เนี่ยมันก็จะเข้าไปเปลี่ยนแปลงสภาพยอุง
00:07:50 → 00:07:52 ลูกได้ได้อย่างรวดเร็วนะครับก็มันจึง
00:07:52 → 00:07:54 เหมาะสำหรับการใช้ในการป้องกันการตั้งคัน
00:07:55 → 00:07:57 หลังจากที่เเหมือนกับพาดพั้งมีการร่วมเพศ
00:07:57 → 00:08:00 โดยที่ไม่ได้ป้องกันไว้ก่อนนะครับนะแล้ว
00:08:00 → 00:08:03 ก็เอ่อเมื่อมันมีขนาดสูงนะครับข้อเสียที่
00:08:03 → 00:08:08 ตามมาก็คือเอ่อผลข้างเคียงของยาก็จะมีสูง
00:08:08 → 00:08:10 เช่นบางท่านทานแล้วเนี่ยจะมีอาการเวียน
00:08:10 → 00:08:13 ศีรษะขึ้นไส้อาเจียนนะครับและผลที่จะเกิด
00:08:13 → 00:08:16 ขึ้นที่สำคัญำคัญเลยก็คือจะมีลักษณะของ
00:08:16 → 00:08:18 การไปเปลี่ยนแปลงสภาพเยื่อบุกพงมดลูก
00:08:19 → 00:08:21 เนี่ยไอ้ตัวเยื่อบุพงมลูกเนี่ยท้ายที่สุด
00:08:21 → 00:08:23 มันก็จะหลุดล่อออกมาเป็นประจำเดือนครับ
00:08:23 → 00:08:26 เพราะฉะนั้นเขาก็จะมีผลต่อรอบประจำเดือน
00:08:26 → 00:08:30 ทำให้มีการเอ่อประจำเดือนมาผิดปกตินะครับ
00:08:30 → 00:08:32 โดยชมีประจำเดือนอาจจะไม่มาตามกำหนดหรือ
00:08:32 → 00:08:38 ขาดหายไปได้นะครับค่ะคราวนี้เอ่อการใช้ยา
00:08:38 → 00:08:40 ยาไม่กำเนิดด้วยฮอร์โมนขนาดสูงเนี่ยนะ
00:08:40 → 00:08:43 ครับแล้วเอ่อมันมีการขาดหายของเอ่อประจำ
00:08:43 → 00:08:46 เดือนไปอันนั้นก็ยิ่งทำให้เราปวดเสียงเนล
00:08:46 → 00:08:49 นั่นอีกเพราะว่าคนที่ไม่ได้มีเพศเ่อไม่
00:08:49 → 00:08:51 ได้ป้องกันไว้ก่อนแล้วมาใช้แบบฉุกเฉิน
00:08:51 → 00:08:53 เนี่ยตัวเองก็จะเสี่ยงอยู่แล้วว่าลุ้นว่า
00:08:53 → 00:08:55 มันจะท้องมั้ยนะฮะประจำเดิมก็จะยิ่งมาช้า
00:08:55 → 00:08:58 ไปอีกจากตัวยานี้ได้อนะครับเพราะฉะนั้นก็
00:08:58 → 00:09:00 จะยิ่งทำให้ตื่นเต้นหวาดเสียวไปมากกว่า
00:09:00 → 00:09:02 นั้นอีกว่าเอ๊ะตกลงเราประจำเดือนมาช้าเรา
00:09:02 → 00:09:05 ท้องหรือเปล่าหรือว่าเป็นเพราะผลของยานะ
00:09:05 → 00:09:09 ครับแล้วก็เจ้าตัวเอ่อฮอร์โมนจากยาเนี่ย
00:09:09 → 00:09:12 นะครับนอกจากไปทำให้เลักษณะของประจำเดือน
00:09:12 → 00:09:15 มาช้าแล้วเนี่ยบางครั้งอาจจะมีเลือดออก
00:09:15 → 00:09:17 ที่ผิดปกติที่ไม่ใช่ประจำเดือนยครับมันจะ
00:09:17 → 00:09:20 เป็นเลือดกระปิกระปอยออกมาได้นะครับอัน
00:09:20 → 00:09:22 นี้เราพูดถึงการใช้ในผู้ใหญ่ทั่วๆไปแต่
00:09:22 → 00:09:25 ว่าถ้าเราดูอย่างในในเคสที่เรายกมาวัน
00:09:25 → 00:09:27 เนี้ที่เป็นหัวข้อของเราเนี่ยค่ะถ้าเป็น
00:09:27 → 00:09:31 ในวัยเด็กเนี่ยนะครับเเขายังอยู่ในวัยที่
00:09:31 → 00:09:33 บางทีรังไข่ยังไม่เริ่มทำงานเลยยังไม่มี
00:09:33 → 00:09:36 สภาพฮอร์โมนต่างๆที่มาขัดทุนเลยนะครับ
00:09:36 → 00:09:38 เพราะฉะนั้นเมื่อเราไปใช้เนะครับอ่าไอ้ใช
00:09:38 → 00:09:41 ยให้คุเหชนิดฉุกเฉินซึ่งมีฮอร์โมนสูง
00:09:41 → 00:09:43 เนี่ยอันตรายที่เกิดขึ้นก็คืออาจจะไปทำ
00:09:43 → 00:09:46 ให้เกิดความผิดปกติของตัวรังไข่ทำให้เกิด
00:09:46 → 00:09:49 มีภาวะถุงน้ำที่รังไข่หรือซีตั้งแต่ยัง
00:09:49 → 00:09:52 เด็กได้เลยนะครับแล้วก็อาจจะมีผลต่อการมี
00:09:52 → 00:09:56 รอบประจำเดือนที่ผิดปกติตามมาค่ะค่ะแล้ว
00:09:56 → 00:09:59 ก็แน่นอนครับอ่าเนื่องจากเด็กเนี่ยก็ยัง
00:09:59 → 00:10:01 เป็นวัยที่เ่อสมองยังไม่ได้หลัฮอร์โมนมา
00:10:02 → 00:10:03 กระตุ้นรังไข่หรือให้มีประจำเดือนหรือว่า
00:10:04 → 00:10:05 ถ้ามีก็เพิ่งเป็นช่วงต้นๆเนี่ยนะครับถ้า
00:10:05 → 00:10:09 เป็นเด็กวัยวัยรุ่นๆอายุ 11 12 เนี่ย
00:10:09 → 00:10:11 กรณีแบบเนี้ยก็จะทำให้มีอาการข้างเคียง
00:10:11 → 00:10:14 ต่างๆได้มากขึ้นด้วยนะครับเช่นอาการขึ้น
00:10:14 → 00:10:16 ไส้อาเจียนเลือดออกพิโกติเนี่ยก็จะมีได้
00:10:16 → 00:10:19 มากกับผู้ใหญ่ครับออค่ะแม้กระทั่งในคำแนะ
00:10:19 → 00:10:22 นำจากบริษัทผู้ผลิตยาเองเนี่ยนะครับเอ่อ
00:10:22 → 00:10:24 ในการใช้ยาคุณกำเนิดชนิดฉุกเฉินเนี่ยนะ
00:10:24 → 00:10:27 ครับใน 1 เดือนเนี่ยไม่ควรรับประทานเกิน
00:10:27 → 00:10:30 กว่า 4 เม็ดนะครับใช่อคือคือคือลักษณะ
00:10:30 → 00:10:33 วิธีการรับประทานอลืมอธิบายไปคือเราควรจะ
00:10:33 → 00:10:36 รับประทาน 1 อ่าทันทีที่หลังจากนี้
00:10:36 → 00:10:37 เพศสัมพันธ์แล้วไม่ได้ป้องกันนะครับถ้า
00:10:37 → 00:10:40 รู้ตัวนะต้องรีบไปหายามารับประทานนะครับ
00:10:40 → 00:10:43 หรือถ้าจะให้ได้ผลดีเนี่ยไม่ควรจะเกินภาย
00:10:43 → 00:10:46 ใน 1 ชั่วโมงนะครับอแล้วพอหลังจากเราทาน
00:10:46 → 00:10:48 เม็ดแรกไปเสร็จแล้วเนี่ยนะครับอีก 12
00:10:48 → 00:10:50 ช่วโมงถัดไปเนี่ยนะครับให้ทานซ้ำอีก 1
00:10:50 → 00:10:53 เม็ดค่ะนะครับเพราะฉะนั้นก็จะต้องทานทั้ง
00:10:53 → 00:10:57 หมด 2 เม็ดในในในการใช้ 1 ครั้งดังนั้น
00:10:57 → 00:11:00 เมื่อเบริษัทผู้ผลิตเแนะนำเพราะว่านะครับ
00:11:00 → 00:11:03 ไม่ควรจะใช้เกิน 4 เม็ดต่อเดือนนึงก็แปล
00:11:03 → 00:11:05 ว่าเราไม่ควรจะมีโอกาสใช้ยานี้เกิน 2
00:11:05 → 00:11:07 ครั้ง่ะ 2 ครงเพราะครั้งนึงมันต้องใช้ 2
00:11:07 → 00:11:11 เม็ดถูมครับออ่านั่นก็แปลว่าเราชีวิตของ
00:11:11 → 00:11:13 เราเนี่ยมันก็ไม่ควรจะมีเหตุฉุกเฉินอะไร
00:11:13 → 00:11:15 เกินกว่า 2 ครั้ง่ะนะครับออะไรมันจะมี
00:11:15 → 00:11:18 เรื่องฉุกเฉินไม่ได้ป้องกันมีมีมีอีกะ้ำ
00:11:18 → 00:11:22 ซ้ำๆๆเงี้ยอันนั้นมันไม่ใช่ะนะฮะนะครับ
00:11:22 → 00:11:26 เพราะฉะนั้นอันนี้ก็ต้องถือว่าเอ่อในกรณี
00:11:26 → 00:11:28 เนี้ยถ้าเป็นจริงตามนั้นแล้วก็มีการ
00:11:28 → 00:11:30 เตรียมยาในให้กับเด็กเนี่ยก็ถือเป็น
00:11:30 → 00:11:32 เรื่องที่ที่น่าตำหนิมากๆเพราะว่ามันไม่
00:11:32 → 00:11:34 ใช่เพียงแค่ว่าเ่ออาจจะเกิดอาการข้าง
00:11:34 → 00:11:36 เคียงกับเด็กแต่ว่ามันจะเกิดผลเสียยังทำ
00:11:36 → 00:11:39 ให้เกิดซีสเกิดถุงน้ำอะไรงี้ตามมาได้ด้วย
00:11:39 → 00:11:42 โอซีสตั้งแต่ยังเด็กก็มีครับก็กลายก็กลาย
00:11:42 → 00:11:44 เป็นสุขภาพก็คือมันรบกวนกับสุขภาพของเด็ก
00:11:44 → 00:11:47 ในระยะยาวอ่ะนะครับอย่างเราเป็นซีสตั้ง
00:11:47 → 00:11:49 แต่อายุน้อยๆเนี่ยซีสมันก็มีโอกาสจะใหญ่
00:11:49 → 00:11:52 ขึ้นสัปดาห์ก่อนเราก็พูดถึงเรื่องซีสหรือ
00:11:52 → 00:11:53 ถุงน้ำไปแล้วถ้ามันใหญ่มากๆเนี่ยเราก็
00:11:53 → 00:11:55 ต้องมีการผ่าตัดไม่งั้นเราป้องกันมันเรา
00:11:55 → 00:11:58 กลัวมันจะแตกหรือมันจะบิดคั่ก็ต้องต้อง
00:11:58 → 00:12:01 พึงสังวนให้ดีนะครับว่ามันจริงๆมันยังมี
00:12:01 → 00:12:03 วิธีการอื่นๆที่เราป้องกันได้ตั้งแต่ก่อน
00:12:03 → 00:12:05 เช่นเราใส่ถิงยางอนามัยอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:12:05 → 00:12:07 ครับอันนั้นก็ยังจะดีกว่าข้อเสียอย่าง
00:12:07 → 00:12:10 อื่นๆเนี่ยนะครับนะที่เราติดตามดูเนื่อง
00:12:10 → 00:12:13 จากเ่อการการใช้ยานี้ในเด็กในในทางความ
00:12:13 → 00:12:15 เป็นจริงก็ยังมีน้อยนะครับค่ะเพราะฉะนั้น
00:12:15 → 00:12:17 นอกจากการเกิดถุมน้ำแล้วเนี่ยนะครับผล
00:12:17 → 00:12:19 ระยะยาวว่าจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็น
00:12:19 → 00:12:21 มะเร็งหรืออะไรต่างๆเหล่านี้อันนี้เรายัง
00:12:21 → 00:12:24 ไม่พบนะครับค่ะนะครับนอกนอกเหนือจากนั้น
00:12:24 → 00:12:27 เนี่ยเอ่อข้อห้ามของการใช้ยาเม็ดคุม
00:12:27 → 00:12:29 กำเนิดชนิดฉุกเฉินเนี่ยก็จะคล้ายกับการ
00:12:29 → 00:12:32 ใช้ยไม่คงเหนิดชนิดปกติที่เราเป็นแผงอ่ะ
00:12:32 → 00:12:36 โดยเอ่อเ่อข้อเสียของเจ้ายาฮอร์โมนพวกนี้
00:12:36 → 00:12:39 ก็คือมันจะมีผลต่อเรื่องของการแข็งตัวของ
00:12:39 → 00:12:41 เลือดที่ผิดปกติได้เพราะฉะนั้นต้องระมัด
00:12:41 → 00:12:44 ระวังในผู้ที่เอ่อมีความเสี่ยงเรื่องโรค
00:12:44 → 00:12:47 หลอดเลือดอุดตันนะครับอย่างเช่นเ่อบาง
00:12:47 → 00:12:49 ท่านก็โดยเฉพาะยิ่งบางทีสูบบุหรี่อย่าง
00:12:49 → 00:12:52 เงี้ยนะครับสูบบุหรี่ก็จะมีปัญหาเรืื่อง
00:12:52 → 00:12:54 การเอ่อเกิดลิ่มเลือดอุดตันที่เส้นเลือด
00:12:54 → 00:12:57 ได้อันนี้ก็ถ้าไปใช้ยาไม่คุมกำเนิดซึ่ง
00:12:57 → 00:12:59 เป็นฮอร์โมนขนาดสูงอย่างยาคุมกำเนิด
00:12:59 → 00:13:01 ฉุกเฉินเนี่ยก็จะมีความเสี่ยงมากขึ้นใช่
00:13:01 → 00:13:04 เคยก็เคยมีคนเข้าใจผิดครับเนึกว่าอ๋อก็
00:13:04 → 00:13:07 มันเป็นแบบฉุกเฉินแบบยาขนาดสูงก็เป็นการ
00:13:07 → 00:13:10 พูดกันว่าไปเปลี่ยนแปลงสภาพของงช่องคลอด
00:13:10 → 00:13:13 อะไรต่างๆทำให้เชื้อมันเข้าไปไม่ได้อัน
00:13:13 → 00:13:15 นี้ไม่ใช่นะครับคอันนี้เไปเปลี่ยนแปลง
00:13:15 → 00:13:17 สภาพไม่ใช่ของช่องคอแต่ไปเปลี่ยนแปลงสภาพ
00:13:17 → 00:13:20 ของเยื่อบุพพลูกตอนที่ลูกจะฝังตัวต่างหาก
00:13:20 → 00:13:23 อืคุณหมอคะอยากให้ย้ำอีกครั้งหนึงถ้า
00:13:23 → 00:13:27 อย่างในกรณีที่คนที่ถูกล่วงละเมิดทางเพศ
00:13:27 → 00:13:30 อ่ะค่ะทีเนี้ยอย่างอย่างการนอกจากแบบใช้
00:13:30 → 00:13:34 ยาคุมฉุกเฉินแล้วยังมีเอ่อชนิดไหนอีกอ่ะ
00:13:34 → 00:13:37 คะของการที่จะลองแบบอยากป้องกันภายหลัง
00:13:37 → 00:13:40 ใช่ป้องกันภายหลังอ่ะคหากเราถูกเพชรหรือ
00:13:40 → 00:13:44 มีคดีคมอะไรก็อย่างน้อยครับก็ค่ะเ่อแจ้ง
00:13:44 → 00:13:47 เจ้าหน้าที่นะคือมันก็ต้องให้เป็นโอเคอัน
00:13:47 → 00:13:49 นี้ก็ต้องเป็นอันนี้เป็นกระบวนการที่เรา
00:13:49 → 00:13:51 ต้องทำนะแต่ว่าเราแจ้งก็เจ้าหน้าที่เอา
00:13:51 → 00:13:55 เรื่องเอาวแลอะไรว่ากันไปตผก็ว่ากันไปแต่
00:13:55 → 00:13:57 ในทางส่วนของเราเนี่ยสิ่งที่ต้องป้องกัน
00:13:57 → 00:14:00 ทันที 1 ต้องป้องกันเรื่องการตั้งันนะ
00:14:00 → 00:14:02 ครับเพราะฉะนั้นถ้าต้องกเรื่องการตั้งคัน
00:14:02 → 00:14:04 อย่างที่หมอบอกแล้วประสิทธิภาพของยาเม็ด
00:14:04 → 00:14:06 กำเนิดเนี่ยมันจะดีมากๆถ้าเป็นแบบไอหลัง
00:14:06 → 00:14:08 ร่วมเพศเนี่ยนะครับก็คือจะดีว่าถ้าเราใช้
00:14:09 → 00:14:12 ทันภายใน 1 ชั่วโมงอถ้ายิ่งไปเนี่ย
00:14:12 → 00:14:15 ประสิทธิภาพก็จะลดลงเรื่อยๆนะครับนี้ใคร
00:14:15 → 00:14:17 ใครที่ถูกขืนใจเนี่ยมันไม่มีขืนใจแล้ว
00:14:17 → 00:14:20 ปล่อยเราออกมาเอขืนเสร็จแล้วเธอออกไปหา
00:14:20 → 00:14:23 ชื้อยาได้อะไเงี้ยมันไม่เป็นอย่างงั้นไง
00:14:23 → 00:14:25 บางทีมันข้ามไปถึงเช้ารืออะไรเงี้ยกว่าจะ
00:14:25 → 00:14:29 มาได้เนะฮะเพราะฉะนั้นการคุณกำเนิดแบบ
00:14:29 → 00:14:30 หลังจากมีเพศพัณฑ์ไปแล้วเนี่ยนะครับนอก
00:14:30 → 00:14:33 เหนือจากไอ้การใช้ยาแบบฉุกเฉินเนี่ยนะ
00:14:33 → 00:14:36 ครับเอ่อจริงๆแล้วเนี่ยการคุกำหนดอีกชนิด
00:14:36 → 00:14:39 นึงที่เราเรียกว่าการใช้ห่วงอนามัยนะครับ
00:14:39 → 00:14:41 ห่วงอนามัยเนี่ยก็จะเป็นวัสดุที่เป็น
00:14:41 → 00:14:43 เหมือนพลาสติกเล็กๆนะครับเอ่อแล้วอาจจะมี
00:14:43 → 00:14:46 แบบบางบางชนิดก็จะมีลักษณะของเหมือนกับ
00:14:46 → 00:14:50 หวงที่มีทองแดงอยู่ด้วยซึ่งคอปเปอร์เนี่ย
00:14:50 → 00:14:51 หรือทองแดงเนี่ยจะเป็นสารที่มี
00:14:51 → 00:14:53 ประสิทธิภาพช่วยป้องกันขับแงขันได้ดีกว่า
00:14:53 → 00:14:55 ด้วยนะครับค่ะการใช้ห่วงอนามัยอย่าเงี้ย
00:14:56 → 00:14:58 ครับเราจะใส่เข้าไปเอ่อเพื่อมันให้มัน
00:14:58 → 00:15:01 เป็นวางตัวอยู่ในโพงบนลูกนะครับแล้วก็
00:15:01 → 00:15:03 สร้างสภาวะในโพงบลูกที่ไม่เหมาะสมกับการ
00:15:03 → 00:15:06 ที่ตัวอ่อนจะมาฝังตัวคราวนี้ปกติแล้ว
00:15:06 → 00:15:08 เนี่ยเวลาเกิดการปฏิสนธิขึ้นเนี่ยนะครับ
00:15:08 → 00:15:11 สมมุติมีเพศสัมพันธ์กันะเ่อเกิดตัวอ่อน
00:15:11 → 00:15:13 ขึ้นกว่าตัวอ่อนจะเดินทางมาถึงแล้วก็มา
00:15:13 → 00:15:15 ฝังตัวได้เนี่ยนะครับจะใช้เวลาโดยเฉลียบ
00:15:15 → 00:15:18 ประมาณสัก 5 วันค่ะเพราะฉะนั้นในคนที่เลย
00:15:18 → 00:15:20 จาก 1 ชั่วโมงมาแล้วโอเคล่ะอาจจะทายามให้
00:15:20 → 00:15:23 คุณกำเนิดแบบฉุกเฉินไปด้วยค่ะแต่ว่าถ้า
00:15:23 → 00:15:25 มันเลยจาก 1 ชั่วโมงไปเนี่ยควรจะไปปก
00:15:25 → 00:15:28 ปรึกษาคุณหมอแล้วก็หาวิธีนะครับก็คือใส่ห
00:15:28 → 00:15:31 มาลัยตามหลังเขไปด้วยอ่าอันนี้เราต้อง
00:15:31 → 00:15:35 เดินไปหาหมอถูกมั้ยคะครับมันจะสามารถใช้
00:15:35 → 00:15:38 ได้เอ่อแได้ประสิทธิภาพดีแม้จะเลยจากการ
00:15:38 → 00:15:40 ร่วมเพศมาแล้วถึง 5 วันค่ะเพราะว่าตัว
00:15:40 → 00:15:44 อ่อนยังเดินทางมาไม่ถึงไงครับอ่าอนะมันก็
00:15:44 → 00:15:46 จะช่วยช่วยป้องกันได้อีกชั้นหนึงอันนี้
00:15:46 → 00:15:48 คือท่านที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นแล้ว
00:15:48 → 00:15:50 อ่าหรือเกิดกับลูกหลานของท่านแล้วเนี่ยนะ
00:15:50 → 00:15:52 ครับขั้นตอนที่ 1 คือเรื่องป้องกันการ
00:15:52 → 00:15:55 ตั้งคอืขั้นตอนที่ 2 คือเรื่องป้องกันโรค
00:15:55 → 00:15:58 ติดเชื้อนะครับป้องกันโรคติดเชื้อเนี่ยก็
00:15:58 → 00:15:59 แน่นอนครับเมื่อเเกิดเหตุการณ์นี้เดี๋ยว
00:15:59 → 00:16:02 เราไปพบคุณหมอขึ้นแล้วก็เคุณหมอท่านใส่
00:16:02 → 00:16:04 หุงอนามัยอะไรต่างๆให้แล้วเนี่ยค่ะก็ควร
00:16:04 → 00:16:07 จะมีการตรวจโรคติดเชื้อครับอืการตรจโรค
00:16:07 → 00:16:09 ติดเชื้อเนี่ยจะสามารถเอ่ออันที่ 1 คุณ
00:16:10 → 00:16:12 หมอจะใช้อุปกรณ์เล็กๆนะครับเหมือนกับกั้น
00:16:12 → 00:16:14 สำลีเล็กๆเองนะครับนุ่มๆเนี่ยไปแตะบริเวณ
00:16:14 → 00:16:16 ปากบัดลูกเพื่อย้อมเอาเชื้อโรคที่มีส่วน
00:16:16 → 00:16:18 เกี่ยวข้องกับการติดต่อทเพสำพันธ์เนี่ย
00:16:18 → 00:16:21 ซึ่งมีอยู่เป็นโอเป็น 10 ๆชนิดเลยครับ
00:16:21 → 00:16:24 สามารถได้ในการอป้ายนี่ไปตรวจครั้งเดียว
00:16:24 → 00:16:26 นะครับนอกจากนั้นก็จะมีการเจาะเลือดเพื่อ
00:16:26 → 00:16:30 ตรวจโรคที่มีความเสี่ยงสูงเช่นเ่อิิหรือ
00:16:30 → 00:16:34 ว่า HIV มันมีอีกข้อสงสัยนึงที่มีคนชอบ
00:16:34 → 00:16:36 พูดถึงกันบ่อยๆว่าจริงๆแล้วยาเม็ดุม
00:16:36 → 00:16:39 กำเนิดฉุกเฉินเนี่ยมันมันสามารถที่จะเป็น
00:16:39 → 00:16:42 ยาทำแทงได้กลไกการทำงานมันไปถึงขนาดนั้น
00:16:42 → 00:16:46 มยอ่ะคะเอ่อจริงๆไม่ถึงขนาดนั้นครับเอ่อ
00:16:46 → 00:16:48 ในส่วนของยาเม็ดคุเหลือชนิดฉุกเฉินเนี่ย
00:16:48 → 00:16:50 มันเป็นยาเม็ดที่มีฮอร์โมนขนาดสูงก็จริง
00:16:50 → 00:16:53 ครับแต่ว่ายาฮอร์โมนขนาดสูงเนี่ยอันเนี้ย
00:16:53 → 00:16:55 มันจะไปเปลี่ยนแปลงสภาพโพงมรุอย่างที่หมอ
00:16:56 → 00:16:58 บอกเพื่อป้องกันการสังตัวแต่แรกแต่ในกรณี
00:16:58 → 00:17:00 ที่ตัวอ่อนนั้นได้ฝังตัวสำเร็จไปแล้ว
00:17:00 → 00:17:04 เนี่ยนะครับเอ่อเอ่อไอ้ยาคุมพวกเนี้แทบจะ
00:17:04 → 00:17:07 ไม่ช่วยอะไรครับค่ะอือ่าคือคือถ้าเฝังตัว
00:17:07 → 00:17:09 สำเร็จไปแล้วเนี่ยมันมีการเชื่อมของของ
00:17:09 → 00:17:12 เซลล์รกนะกับเส้นเลือดหลักของแม่ไปแล้ว
00:17:12 → 00:17:14 เนี่ยนะครับต่อให้เอุงรูปมีการเปลี่ยน
00:17:14 → 00:17:16 แปลงสภาพไปเนี่ยสมมุติเราจะใช้ยาตัวเนี้ย
00:17:16 → 00:17:19 ตามหลังเข้าไปในขนาดเยอะๆเลยเนี่ยนะครับ
00:17:19 → 00:17:22 ก็ก็จะไม่ค่อยช่วยอะไรนะครับอืค่ะใช้ยา
00:17:22 → 00:17:24 พวกเนี้ยที่ที่เขาบอกว่าอุ๊ยบางทีใช้แล้ว
00:17:24 → 00:17:26 อันเนี้ยหมอก็เคยได้ยินเบอกว่าใช้แล้ว
00:17:26 → 00:17:30 เหมือนกับใช้เป็นทำแทงได้เนี่ยอันนั้นไม่
00:17:30 → 00:17:36 อหเลืออหอันเลือออกมันมาจากผลข้างเคียง
00:17:36 → 00:17:38 ของยาเองนะครับอย่างที่เราบอกตอนต้นจะมี
00:17:38 → 00:17:41 ปัญหาเรื่องเลือดออกกระปิดกระปอยได้นะ
00:17:41 → 00:17:43 ครับหรือมีปัญหารอบประจำเมืองผิดปกติอัน
00:17:43 → 00:17:46 นั้นตามมาได้นะครับเพราะฉะนั้นอันเนี้ย
00:17:46 → 00:17:49 อย่าไปใช้ในการป้องกันแบบไปทำแทงนะครับ
00:17:49 → 00:17:51 แล้วก็จริงๆแล้วเนี่ยการทำแทงด้วยตัวเอง
00:17:51 → 00:17:54 หรือว่าไปใช้ยาต่างๆที่ตามที่เขาโฆษณา
00:17:54 → 00:17:56 เนี่ยมันมีความเสี่ยงสูงต่อการเกิดภาวะ
00:17:56 → 00:18:01 แพงแล้วไม่ครบคคตามด้วยการตกเลือดนะครับ
00:18:01 → 00:18:04 การตกเลือดในปริมามาคนไขเสียชีวิตได้นะ
00:18:04 → 00:18:08 ครับแล้วก็เมื่อเมื่อเกิดการแทงที่ไม่ครบ
00:18:08 → 00:18:10 มีการมีการเลือดออกเป็นระยะเวลานานๆแล้ว
00:18:10 → 00:18:13 เนี่ยมันจะย่อมนำไปสู่การเสี่ยงต่อการติด
00:18:13 → 00:18:15 เชื้อในพวงลูกติดเชื้อในอุ้งเชิงการตามมา
00:18:15 → 00:18:18 ได้ด้วยอีกคำถามนึงที่เจอกันบ่อยๆอ่ะค่ะ
00:18:18 → 00:18:21 เขาบอกว่าหลังทานยาคุมฉุกเฉินแล้วเนี่ย
00:18:21 → 00:18:23 เราจะมั่นใจหรือเราจะรู้ได้ยังไงคะว่าไม่
00:18:23 → 00:18:25 ท้องแน่ๆแล้วค่ะคุณมมันต้องมีวิธีการดู
00:18:25 → 00:18:28 ยังไงอ่ะคเอาล่ะครับอันนี้แะครับเป็นสิ่ง
00:18:28 → 00:18:30 ที่ต้องกั้นใจอย่างหนักเพราะว่าจะเห็นได้
00:18:30 → 00:18:34 ว่าที่บผลคั้นเคงของอญาเอันแรกก็คือดันทำ
00:18:34 → 00:18:37 ให้ประจำเดือนเลื่อนถูกมั้ยครับแล้วไอ้
00:18:37 → 00:18:39 ตัวเราเองอ่ะก็ก็ตุ้นๆต่อมๆอยู่แล้วว่า
00:18:39 → 00:18:42 เอ้ไปมีเพศสำคัญมาแล้วมันจะท้องไม่ท้อง
00:18:42 → 00:18:44 แล้วประจำเดือนมันก็จะไม่มาตามนัดเราก็
00:18:44 → 00:18:47 ยิ่งกลัวไปใหญ่นะครับให้เรายึดหลักอย่าง
00:18:47 → 00:18:49 นี้ครับเอ่อถ้าเกิดสมมุติเราเริ่มวันที่
00:18:49 → 00:18:52 มีเพศสัมพันธ์นะวันที่มีเพศสัมพันธ์เสร็จ
00:18:52 → 00:18:54 ปึ๊บเนี่ยนะครับเ่อเมื่อไหร่เราถึงจะ
00:18:54 → 00:18:57 สามารถตรวจเรื่องการตั้งครรภ์ได้นะครับนะ
00:18:57 → 00:18:59 นับไปจากนั้น 14 วันนะครับเราสามารถปรวจ
00:18:59 → 00:19:02 กันตั้งได้เลยนะครับโดยที่นับจากวันที่มี
00:19:02 → 00:19:05 เพสัมพันธ์ไปอ่ะนะครับแต่ว่าวิธีการตรวจณ
00:19:05 → 00:19:08 ขณะ 14 วันเป๊ะเนี่ยถ้าจะให้แม่นยำจริงๆ
00:19:08 → 00:19:10 เนี่ยมันต้องตรวจด้วยการเจาะเลือดคือเจาะ
00:19:10 → 00:19:12 ดูฮอร์โมนของรกนะครับที่เราเรียกว่า
00:19:12 → 00:19:15 ฮอร์โมนเบต้า SC นะครับคราวนี้ถามว่าต้อง
00:19:16 → 00:19:18 ทำถึงขนาดนั้นมในเมื่อเราก็พยายามทานแบบ
00:19:18 → 00:19:21 ฉุกเฉินป้องกันตามหลังไปแล้วเนี่ยนะครับ
00:19:21 → 00:19:23 จริงๆแล้วเนี่ยแทนที่เราจะไปเจาะเลือดตอน
00:19:23 → 00:19:25 14 วันเนี่ยให้เรารอไปอีก 1 สัปดาห์ครับ
00:19:25 → 00:19:28 อีก 7 วันให้หลังก็คือนับไป 21 วันนะครับ
00:19:28 → 00:19:31 ให้กั้นใจรอนะครับเรารู้ว่าประจำดอาจจะมา
00:19:31 → 00:19:34 ช้าได้เพราะยานะครับแต่ว่าพอไปถึง 21 วัน
00:19:34 → 00:19:36 ปุ๊บเนี่ยให้เราตรวจปัสสาวะได้นะครับถ้า
00:19:36 → 00:19:38 ถึง 21 วันแล้วตรวจปัสสวะแล้วยังไม่ขึ้น
00:19:38 → 00:19:41 เนี่ยอันนี้ไม่ตั้งครันแน่นอนออค่ะนะครับ
00:19:41 → 00:19:44 เพราะฉะนั้นถ้าถ้าใจร้อนทนไม่ไหวเอาไม่
00:19:44 → 00:19:47 ได้คุณหมออีก 7 วันหนูก็ทนไม่ไหวขาดใจตาย
00:19:47 → 00:19:50 เงี้นะครับก็ก็ไปเจาะเลือดตอนคร 14 วันก็
00:19:50 → 00:19:53 ได้ไปบอกบอกคุณหมอว่าอยากจะเช็คนะครับแต่
00:19:53 → 00:19:56 ว่าถ้าถ้าจะเอาแบบสบายๆไม่ต้องเจ็บตัวก็
00:19:56 → 00:20:00 ขั้นใจรองให้ครบ 21 วัน 21 วันนะครับอ
00:20:00 → 00:20:03 แล้วถ้าตรวจแล้วมันผลปัสสาวะไม่ขึ้นก็
00:20:03 → 00:20:07 เป็นอันจบอ๋อเพราะเพราะบางคนก็รอเนาะรอ
00:20:07 → 00:20:10 ประจำเดือนรอประจำเดือนมาแต่ทีนี้ประจำ
00:20:10 → 00:20:13 เดือนดันขาดช่วงเหมือนที่คุณหมอบอกครับ
00:20:13 → 00:20:16 มันขาดเพราะยาเองก็ได้ครับเอค่ะอืเครียด
00:20:16 → 00:20:20 ใหทำให้ตืเต้นกันไปใหญ่ครับลุ้นกันไปใหญ่
00:20:20 → 00:20:23 นะคะอย่างงี้ครับอันนี้จริงๆแล้วเนี่ยถ้า
00:20:23 → 00:20:26 เราพูดถึงวิธีการคุมกำเนิดโดยการใช้ยาคุม
00:20:26 → 00:20:29 กำเนิดเนี่ยคือจริงๆทางการแพทย์เราก็ถือ
00:20:29 → 00:20:32 ว่าเป็นวิธีที่ดีอันนึงนะครับคือการใช้ยา
00:20:32 → 00:20:35 ไม่คุงกำเนิดเนี่ยนะครับเอ่อมันเป็นวิธี
00:20:35 → 00:20:38 ที่ 1 คนไข้สะดวกครับคนไข้สามารถใช้ด้วย
00:20:38 → 00:20:41 ตัวเองได้ใช่มั้ยไม่ต้องไปเราทานยาเราทาน
00:20:41 → 00:20:43 เองได้อ่ะมันไม่ต้องไปเหมือนกับใส่ห่วง
00:20:43 → 00:20:45 อนามัยเราต้องวิ่งไปหาหมออย่างที่หมอพูด
00:20:45 → 00:20:49 ไปตอนต้นน่ะนะครับอันที่ 2 ถ้าเป็นถ้าเรา
00:20:49 → 00:20:51 เทียบเอ่อค่าใช้จ่ายในการคุมกำเนิดด้วย
00:20:51 → 00:20:54 การใช้รับประทานยาคุมกำเนิดเนี่ยจริงๆ
00:20:54 → 00:20:56 แล้วถ้าเทียบกับวิธีอื่นๆเช่นใส่ห่วง
00:20:56 → 00:20:59 อนามัยฝังยาคุมอะไรต่างๆทั้งหลายเนี่ยนะ
00:20:59 → 00:21:01 ครับหรือแม้แต่ฉีดยาคุมเนี่ยวิธีรับ
00:21:01 → 00:21:04 ประทานยาคุมก็ถือเป็นวิธีที่ค่าใช้จ่าย
00:21:04 → 00:21:09 ต่ำนะครับอืและปัจจุบันเนะครับเอ่อสถาน
00:21:09 → 00:21:12 บริการของรัฐเนี่ยนะครับก็เก็จะมีถ้าใคร
00:21:12 → 00:21:14 ต้องการการคุมกำเนิดโดยใช้ยไม่คกำเนิด
00:21:14 → 00:21:16 เนี่ยสามารถเป็นขอการปรึกษาเรื่องการคง
00:21:17 → 00:21:20 กำเนิดแล้วก็รับยคกำเนิดคกำเนิดฟรีด้วยอื
00:21:21 → 00:21:23 ง่ายๆว่าแไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเลยนะครับ
00:21:23 → 00:21:26 คราวนี้ถ้าเราพูดถึงอ่าในประโยชน์ของิคุณ
00:21:26 → 00:21:28 กำเนิดเนี่ยนะครับปัจจุบันเ่อมก็นเรียน
00:21:28 → 00:21:30 ให้ทราบว่าปัจจุบันเนี่ยยาไม่คลุมเหนือด
00:21:30 → 00:21:32 เนี่ยเราจะแบ่งออกเป็น 3 แบบนะครับแบบที่
00:21:32 → 00:21:35 1 ก็เป็นยาไกลุมเหนือดที่เป็นแผงๆที่เรา
00:21:35 → 00:21:37 รู้จักกันน่ะที่เห็นบอกไปซื้อยาคุมทางก็
00:21:37 → 00:21:40 คืออันนี้แหละเราเรียกว่ายาเมกุมเหือชนิด
00:21:40 → 00:21:44 ฮอร์โมนรวมนะครับก็คือในฮในในเอ่อแผงนึง
00:21:44 → 00:21:46 เนี่ยก็จะประกอบไปด้วยฮอร์โมนเอสโตรเจน
00:21:46 → 00:21:48 กับฮอร์โมนโปรเจสตินหรือโปรเจสเตอโรน
00:21:48 → 00:21:52 เนี่ยนะครับค่ะอันนี้เป็นแบบที่ 1 แบบที่
00:21:52 → 00:21:53 2 เนี่ยเป็นฮอร์โมนชนิดที่มี
00:21:54 → 00:21:56 โปรเจสเตอโรนอย่างเดียวนะครับอันนี้ก็จะ
00:21:56 → 00:22:00 เป็นฮเอ่อเป็นยาไม่คเนิดแบบพิเศษที่ใช้
00:22:00 → 00:22:02 เพื่อประโยชน์อื่นๆในแง่ของการไม่ใช่ป้อง
00:22:02 → 00:22:04 กันการตั้งันอย่างเดียวแต่ว่าใช้ในการ
00:22:04 → 00:22:06 รักษาโรคบางอย่างด้วยนะครับซึ่งเดี๋ยวเรา
00:22:06 → 00:22:09 จะอธิบายกันต่อไปแล้วก็ประเภทที่ 3 ก็คือ
00:22:09 → 00:22:12 อันนี้นะะครับยายาไม่คชนิดฮอร์โมนสูงนะ
00:22:12 → 00:22:15 ครับก็คือชนิดฉุกเฉินที่ใช้ป้องกันหลัง
00:22:15 → 00:22:18 ร่วมเพศนะครับอืค่ะไอ้ชนิดที่ 3 เราเรา
00:22:18 → 00:22:21 พูดไปะนะครับคราวนี้มาทำความเข้าใจอีก 2
00:22:21 → 00:22:24 ชนิดที่เหลือดีกว่านะครับคือกเนเนี่ย
00:22:24 → 00:22:27 ปัจจุบันนี้นะครับว่าประโยชน์ในการใช้สอย
00:22:27 → 00:22:30 เนี่ยก็อาจจะขยายไปมากกว่าการคุมกำเนิด
00:22:30 → 00:22:32 ทั่วๆไปด้วยเพราะว่าคุณลักษณะของยาเม็ด
00:22:32 → 00:22:34 เนี่ยรุ่นใหม่ๆเนี่ยมันก็จะมีประโยชน์
00:22:34 → 00:22:37 หลายๆประการนะครับเอ่อยังไม่คุมกำเนิด
00:22:37 → 00:22:39 เนี่ยนะครับโดยหลักการเนี่ยถ้าเป็นแบบที่
00:22:39 → 00:22:42 1 ก็คือชนิดฮอร์โมนรวมเนี่ยนะครับอ่าจะ
00:22:42 → 00:22:43 เป็นฮอร์โมนชนิดที่เา้ามีฮอร์โมน
00:22:44 → 00:22:47 เอสโตรเจนกับโปนกันอยู่นะครับนซึ่งซึ่ง
00:22:48 → 00:22:51 เ่อเขาจะแบ่งเป็น 2 แบบก็คือแบบที่มีใน
00:22:51 → 00:22:55 แผนมี 21 เม็ดนะครับกับแบบที่ในแผงมี 28
00:22:55 → 00:22:58 เม็ดค่ะนะครับให้คุณผู้ฟังอ่าทำเราเข้าใจ
00:22:58 → 00:23:01 ไเลยครับว่าไม่ว่าจะเป็นแบบ 21 หรือ 28
00:23:01 → 00:23:04 เม็ดเนี่ยแท้จริงแล้วเนี่ยเอ่อในตัวยาที่
00:23:04 → 00:23:07 จะมีอ่าเม็ดยาที่มันจะมีฮอร์โมนอยู่เนี่ย
00:23:07 → 00:23:10 จะมีอยู่เฉพาะ 21 เม็ดนะครับ 2 เม็ดหลัง
00:23:11 → 00:23:13 เนี่ยจะเป็นเหมือนกับยาหลอกเฉยๆนะครับค่ะ
00:23:13 → 00:23:16 เหตุผลก็คือว่ารอบประจำเดือนธรรมชาติของ
00:23:16 → 00:23:19 ผู้หญิงเราเนี่ยโดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ
00:23:19 → 00:23:22 28 วันนะครับเพราะฉะนั้นการที่จะให้ยาไม
00:23:22 → 00:23:24 กุมกำเนิดเนี่ยไปออกฤทธิ์กลไกในการควบคุม
00:23:24 → 00:23:26 การตั้งครรภ์ของเราเนี่ยนะครับป้องกันไม่
00:23:26 → 00:23:29 ให้ท้องเนี่ยนะครับเเก็พยายามจัดให้มันมี
00:23:29 → 00:23:32 ปริมาณเม็ดยา 28 วันมันให้มันเหมือนกับ
00:23:32 → 00:23:35 ให้ให้มันมีเหมือนกับเป็นไปตามรอบอ่ะเวลา
00:23:35 → 00:23:37 เราใช้เป็นไปตามรอบของประจำเดือนก็จะทำ
00:23:37 → 00:23:40 ให้เรามีระบบอ่ามีเมื่อใช้ยไม่กำเนิด
00:23:40 → 00:23:43 เนี่ยประจำเดือนมันก็จะมาสม่ำเสมอทุกๆ 28
00:23:43 → 00:23:47 วันครับค่ะเอ่อดังนั้นวิธีในการใช้ยา
00:23:47 → 00:23:49 เนี่ยนะครับถ้าเราใช้แบบชนิดที่เป็น 21
00:23:49 → 00:23:53 เม็ดนะครับเราจำเป็นจะต้องเว้น 7 วันด้วย
00:23:53 → 00:23:56 นะครับก่อนที่จะขึ้นอ่าแผงใหม่ค่ะคือให้
00:23:56 → 00:23:59 เหมือนให้เหมือนโดยรวมมันเป็น 28 เหมือน
00:23:59 → 00:24:02 เดิมนะครับส่วนท่านที่ใช้แยแบบ 28 เม็ด
00:24:02 → 00:24:04 เนี่ยอันเนี้ยพอเราทานหมดแผงแล้วก็คือเรา
00:24:04 → 00:24:08 ก็ขึ้นแผงใหม่ต่อได้เลยไม่การลืมอ่ะนะคะ
00:24:08 → 00:24:10 ค่ะอ่าไม่ใช่ๆอันนี้เหมือนเอาไว้นับอครับ
00:24:10 → 00:24:13 อีก 7 เม็ดที่เหลือนครับนะครับเอ่อการใช้
00:24:13 → 00:24:15 ยาเม็คงกำเนิดเนี่ยนะครับชนิดฮอร์โมนรวม
00:24:15 → 00:24:19 เนี่ยนะครับเอ่อการเริ่มใช้เม็ดแรกของแผง
00:24:19 → 00:24:22 แรกเนี่ยนะครับขอให้เริ่มใช้ภายใน 5 วัน
00:24:22 → 00:24:24 แรกของของการมีประจำเดือนนะครับนั่นหมาย
00:24:24 → 00:24:26 ถึงว่าถ้าประจำเดือนเรามาวันเนี้ยเรานับ
00:24:26 → 00:24:28 วันนี้เป็นวันที่ 1 เนี่ยต้องเลือเริ่ม
00:24:28 → 00:24:30 ใช้อาจจะวันนี้ก็ได้หรือภายในไม่เกิน 5
00:24:30 → 00:24:34 วันเหตุผลก็คือถ้าเราใช้ช้ากว่าวันที่ 5
00:24:34 → 00:24:37 เนี่ยอ่าโดยทั่วไปเนี่ยไขมันจะเกิดขึ้น
00:24:37 → 00:24:39 แล้วครับมันจะไม่สามารถไปยับยั้งการสร้าง
00:24:39 → 00:24:42 ไข่ได้ทันละอือ่าเพราะฉะนั้นอย่างที่หมอ
00:24:42 → 00:24:45 บอกกลไกอันที่สำคัญอันแรกก็คือมันจะไป
00:24:45 → 00:24:47 ป้องกันการสร้างไข่ใช่มครับเพราะฉะนั้น
00:24:47 → 00:24:49 ถ้าให้ดีเนี่ยเม็ดแรกเต้องทานภายใน 5 วัน
00:24:49 → 00:24:51 นะครับจะทานวันที่ 1 2 3 4 หรือวันที่
00:24:51 → 00:24:54 5 ก็ยังทันนะครับเสร็จแล้วเมื่อเรารับ
00:24:54 → 00:24:56 ประทานแล้วเนี่ยขอให้รับประทานต่อเนื่อง
00:24:56 → 00:25:00 กันทุกวันนะครับนะโดยพยายามทานในช่วงเวลา
00:25:00 → 00:25:02 เดียวกันนะครับเช่นบางท่านทานเช้าก็เช้า
00:25:02 → 00:25:04 ทุกวันหรือบางท่านทานกอดนอนก็กอดนอนทุก
00:25:04 → 00:25:07 วันนะครับคราวนี้โดยทั่วๆไปถ้าเป็นหมอมัน
00:25:07 → 00:25:10 ก็แนะนำให้ทันก่อนนอนเพราะว่า 1 เราก็
00:25:10 → 00:25:12 สะดวกเราเราไม่ต้องพกยาออกไปนอกบ้านน่ะนะ
00:25:12 → 00:25:15 ครับบางทีลืมเอาออกมาเงี้ยไปถึงที่ทำนั้น
00:25:15 → 00:25:17 อ่าพายลืมกินวันเนี้ยเดี๋ยวก็ไปทุมๆต่อมๆ
00:25:17 → 00:25:19 ที่บ้านอีกว่าจะท้องมั้ยใช่มั้ยครับเพราะ
00:25:19 → 00:25:22 ฉะนั้นอ่าบางทีเอาวางไว้ตรงหัวนอนนะครับ
00:25:22 → 00:25:25 มันก็ก่อนนอนทานทุกวันเทานครับแล้วเราก็
00:25:25 → 00:25:29 ทานเครับสมมุติเราทานเงี้ยขแทรกนิดนึงเรื
00:25:29 → 00:25:33 กันไปถ้าถ้าทานสมมุติว่าไม่ไม่ไม่ตรงเวลา
00:25:33 → 00:25:36 เดียวกันทานเช้าทานทานเย็นอะไรแบบเนี้ย
00:25:36 → 00:25:39 ค่ะมันมันจะเกิดอะไรขึ้นอ่ะคะประสิทธิภาพ
00:25:39 → 00:25:42 ของยาเนี่ยนะครับนะเอ่อปริมาณยาเนี่ยถ้า
00:25:42 → 00:25:44 มันจะออกฤทธิ์ในการป้องกันการตั้งครรภ์
00:25:45 → 00:25:47 ได้ดีทั้ง 3 คนไขเนี่ยนะครับเควรจะมี
00:25:47 → 00:25:50 ระดับปริมาณเ่อฮอร์โมนในเลือดเนี่ยที่คง
00:25:50 → 00:25:53 ที่อ๋อนะครับที่คงที่ก็แปลว่าคือในแต่ละ
00:25:53 → 00:25:56 เม็ดยาเนี่ยมันมีฮอร์โมนเท่าๆกันก็จริง
00:25:56 → 00:25:59 แต่ว่าระยะเวลาที่เราทานมีผลคอย่างสมมติ
00:25:59 → 00:26:02 ถ้าเราทานเมื่อวานเนี้ยเราทานเราทานกลาง
00:26:02 → 00:26:04 คืนอแต่วันนี้เรามาทานกลางวันอันนี้โอเค
00:26:04 → 00:26:07 เพราะว่ามันก็ถือว่าเรายังทานไม่เกิน 24
00:26:07 → 00:26:10 ช่มอ๋อใช่มั้ยครับระดับยาในเลือดเมันยัง
00:26:10 → 00:26:12 ไม่ตกลงไปแต่ว่าถ้าเกิดที่ที่เราต้องแนะ
00:26:12 → 00:26:14 นำให้ทานเวลาเดีั้นก็เพราะว่าถ้าบังเอิญ
00:26:14 → 00:26:17 เมื่อวานเราไปทานเช้าแล้วอ้าเช้าลืมเอาไป
00:26:17 → 00:26:19 วันนี้เรามาทานกลางคืนเนี่ยมันจะมีช่วง
00:26:19 → 00:26:21 ห่างที่พอเราอาสมมุติเช้าเมื่อวานมาถึง
00:26:21 → 00:26:24 เช้าวันเนี้ยระดับยายังดีอยู่แต่ผ้นจาก
00:26:24 → 00:26:27 เช้าวันนี้มาเนี่ยระดับยามันเริ่มลดลงะอื
00:26:27 → 00:26:30 เหมือนกับเราเตเข้าไปชาเกินไปนะครับอ
00:26:30 → 00:26:32 เพราะฉะนั้นถ้าเป็นไปได้เนี่ยเราไม่ไม่
00:26:32 → 00:26:34 ใช่ถ้าเป็นไปได้เป็นข้อแนะนำเลยนะครับควร
00:26:34 → 00:26:37 จะทานในในช่วงเวลาเดียวกันทุกวันออแล้วก็
00:26:37 → 00:26:39 ทานต่อเนื่องกันไปจนกว่าจะหมดแผงแล้ว
00:26:39 → 00:26:41 อย่างที่หมอบอกถ้าเป็นแผง 21 เม็ดก็หมด
00:26:41 → 00:26:44 แผงปุ๊บก็เว้น 7 วันนะครับแล้วค่อยขึ้น
00:26:44 → 00:26:47 แผงใหม่ถ้าเป็นแบบ 28 เม็ดนะครับไม่ต้อง
00:26:47 → 00:26:51 เว้นนะครับก็คือขึ้นแผงใหม่ต่อไปได้เลยนะ
00:26:51 → 00:26:53 ครับโดยที่การขึ้นแผงใหม่เนี่ยเราไม่
00:26:53 → 00:26:55 จำเป็นต้องดูแล้วนะครับว่าตอนนั้นเป็นวัน
00:26:55 → 00:26:59 ที่ประจำเดือนมา 5 วันแรกหรือเปล่าอือ่า
00:26:59 → 00:27:01 คือสำหรับที่เราบอกว่าให้ทานภายใน 5 วัน
00:27:01 → 00:27:03 แรกให้ทันเนี่ยนะครับอันนั้นน่ะหมาย
00:27:03 → 00:27:06 สำหรับการขึ้นแผงแรกอืแต่ถ้าเป็นแผงต่อๆ
00:27:06 → 00:27:08 ไปแล้วเนี่ยนะครับนะพอเราทานยาหมกเนี่ย
00:27:08 → 00:27:10 ช่วงท้ายๆของแผงยาเนี่ยนะครับหรือเป็น
00:27:10 → 00:27:12 ช่วงที่เราเว้น 7 วันเจะเป็นช่วงนั้นห
00:27:12 → 00:27:15 ครับที่ร่างกายเราจะมีประจำเดือนออกมาค่ะ
00:27:15 → 00:27:17 ซึ่งมันจะออกมา 1 วัน 2 วัน 3 วันไม่ต้อง
00:27:17 → 00:27:21 สนใจครับถ้าเราครบครบอ่าเราเว้นครบ 7 วัน
00:27:21 → 00:27:23 แล้วให้ขึ้นแผงใหม่ได้เลยหรือถ้าเป็นแบบ
00:27:23 → 00:27:25 28 เม็ดเนี่ยพอหมดแผงก็ขึ้นแผงใหม่ได้
00:27:25 → 00:27:27 เลยโดยไม่ต้องสนใจว่าแผงใหม่นั้นน่ะวัน
00:27:27 → 00:27:31 แรกเป็นวันที่เท่าไหร่ของประจำเดือนอ๋อนะ
00:27:31 → 00:27:34 ครับค่ะคราวนี้พูดถึงกรณีเอ่อถ้าเรารับ
00:27:34 → 00:27:38 ประทานแล้วเราลืมถ่านอ่าอ่านะครับยาไม่
00:27:38 → 00:27:39 คุมกำเนิดเนี่ยนะครับอย่างที่มองบอกแล้ว
00:27:39 → 00:27:41 ระดับยาในเลือดมันก็คงที่กันวันต่อวัน
00:27:41 → 00:27:44 เพราะฉะนั้นถ้าเราลืมทาน 1 วันเนี่ยจริงๆ
00:27:44 → 00:27:46 ก็ยังพอไหวนะครับยังถือว่าก็การ
00:27:46 → 00:27:48 ประสิทธิภาพในการป้องกันก็ยังพอใช้ได้
00:27:48 → 00:27:52 อยู่เช่นเมื่อคืนถ้าเราลืมทานใช่มั้ยครับ
00:27:52 → 00:27:55 สมมุติเช้านี้เราตื่นมาเรานึกได้เนี่ยให้
00:27:55 → 00:27:59 เรารีบทานเม็ดของเมื่อคืนทันทีค่ะนะทันที
00:27:59 → 00:28:01 ที่นึกได้อ่ะให้รีบทานทันทีแล้วก็พอมาถึง
00:28:01 → 00:28:04 คืนเนี้ยเราก็ทานเม็ดของคืนนี้ต่อไปตาม
00:28:04 → 00:28:08 ปกติค่ะนะครับก็เหมือนกับเม็ดที่ลืมไป
00:28:08 → 00:28:11 เนี่ยเหมือนกับวันนี้เอามาทานเบิ้ลอืนะ
00:28:11 → 00:28:13 ครับเสร็จแล้วพอพรุ่งนี้กลางคืนเราก็ทาน
00:28:13 → 00:28:16 ต่อไปกลางคืนกลางคืนต่อไปเรื่อยๆสนบดแผ่
00:28:16 → 00:28:20 ถ้าเราลืม 2 วันนะครับพอดีเป็นคนขี้ลืมนะ
00:28:20 → 00:28:23 มันไปต่างจังหวัดพอดีอะไรงี้นะฮะลืม 2
00:28:23 → 00:28:26 วันเนี่ยนะครับให้เอาเม็ดที่ลืม 2 วัน
00:28:26 → 00:28:29 เนี่ยค่ะมาทาเบิ้ลเป็น 2 วันเหมือนกันอ
00:28:29 → 00:28:31 อ๋ออย่างอย่าสมมุติเราเราไป่าจังหวัดเรา
00:28:32 → 00:28:33 ลืมเสาร์อาทิตย์ไม่ได้เอาไปใช่มั้ยลืมทาง
00:28:33 → 00:28:35 คืนวันเสาร์ลืมทางคืนวันอาทิตย์เนี่ยพอ
00:28:35 → 00:28:38 เรากลับมาปุ๊บเช้าวหรือนึกได้ปุ๊บเช้าวัน
00:28:38 → 00:28:40 จันทร์เนี่ยครับก็ให้ทานเม็ดของวันเสาร์
00:28:41 → 00:28:43 ที่ลืมไปแล้วก็คืนวันจันทร์ก็ทานเม็ดวัน
00:28:43 → 00:28:46 จันท์ตามปกติค่ะส่วนวันอังคารก็เอาเม็ด
00:28:46 → 00:28:49 วันอาทิตย์ที่ลืมอ่ะมาทานตอนเช้าแล้วก็
00:28:49 → 00:28:51 คืนวันอังคารก็ทานต่อตามปกติแล้วพวันพุธ
00:28:52 → 00:28:53 เนี่ยเราทานแต่กลางคืนพฤหัสทานแต่กลางคืน
00:28:53 → 00:28:56 ต่อไปเรื่อยๆได้เลยค่ะก็คือพูดง่ายๆว่า
00:28:56 → 00:28:58 เอามาทานเบิ้ล 2 วันนะฮะค่ะแล้วก็วันต่อๆ
00:28:59 → 00:29:01 ไปก็กลับมาทานเหมือนเดิมได้นะครับค่ะถ้า
00:29:01 → 00:29:04 เราลืมตั้งแต่ 3 วันเป็นต้นไปอันนี้ถือ
00:29:04 → 00:29:06 ว่าไม่ได้แล้วนะครับถ้า 3 วันเนี่ยระดับ
00:29:06 → 00:29:09 ยาในเลือดเรามันคงลดลงไปมากเกินไปะเราจะ
00:29:09 → 00:29:11 มีความเสี่ยงต่อการตั้งครรภ์นะเพราะ
00:29:11 → 00:29:14 ฉะนั้นถ้าเกิดเราลืมตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป
00:29:14 → 00:29:16 ให้เราหยุดใช้ยาแผงนั้นเลยครับแล้วใช้
00:29:16 → 00:29:19 วิธีคุมกำเนิดอย่างอืร่วมด้วยอ๋อหรืองด
00:29:19 → 00:29:23 การีเพกสัมพันธ์ไปก่อนนะครับเสร็จแล้วพอ
00:29:23 → 00:29:26 เราหยุดยาเนี่ยนะครับทันทีที่เราหยุดยา
00:29:26 → 00:29:29 เนี่ยมันจะไปเหมือนกับกเหมือนกับเราสิ้น
00:29:29 → 00:29:31 สุดแผงการทานยานะครับเพราะฉะนั้นพอเรา
00:29:32 → 00:29:33 หยุดยาปุ๊บเนี่ยเดี๋ยวแป๊บนึงเลือดประจำ
00:29:34 → 00:29:36 เดือนมันจะมาครับอ๋อมันมาเลยมันมาแเกิน 7
00:29:36 → 00:29:38 วันเพราะฉะนั้นรอบประจำเดือนเราจะผิดไป
00:29:38 → 00:29:41 คือมันจะสเราเพิ่งกินแผงแรกไปได้ 6-7 วัน
00:29:41 → 00:29:43 ใช่มั้ยครับจริงๆประจำเดือนมันต้องโอีก
00:29:43 → 00:29:45 ตั้งนานกว่าจะมาแต่พอเราเอ้ยเราทันลืมทาน
00:29:45 → 00:29:47 ไป 3 วันเราต้องหยุดแล้วพอเราหยุดปุ๊บ
00:29:47 → 00:29:49 เนี่ยอีก 5-7 วันประจำเดือนมันจะมาทันที
00:29:49 → 00:29:53 ฮะก็เป็นการเตั้งรอบอันใหม่อ๋อตั้งรฉนั้น
00:29:53 → 00:29:55 พอประจำเดือนพอประจำเดือนมาใหม่เนี่ยนะ
00:29:55 → 00:29:58 ครับเราใช้ยาแผงเดิมไม่ได้แล้วนะครับค่ะ
00:29:58 → 00:30:01 ค่ะให้เริ่มใช้ยาแผงใหม่โดยใช้สูตรเดิม
00:30:01 → 00:30:03 ครับเมื่อเป็นแผงใหม่นะครับเราจะเริ่มทัน
00:30:03 → 00:30:06 เม็ดแรกของแผงใหม่เนี่ยภายใน 5 วันแรกของ
00:30:06 → 00:30:10 ประจำเดือนค่ะอ่าแล้วก็ทต่อเด้วกันไปนะ
00:30:10 → 00:30:14 ครับเพราะฉะนั้นเ่าลืม 1-2 วันยังเอามา
00:30:14 → 00:30:16 เบิ้ลได้นะครับแต่ 3 วันขึ้นไปไม่ได้แล้ว
00:30:16 → 00:30:19 นะครับอถือว่าประสิทธิภาพจะไม่แน่นอนะ
00:30:19 → 00:30:22 คราวนี้ข้อดีของการใช้ยให้คุมกำเนิดแบบ
00:30:22 → 00:30:25 ฮอร์โมนรวมเนี่ยนะครับก็คือเทียบกับยา
00:30:25 → 00:30:27 ไม่มคุแบบฉุกเฉินก็คือฮอร์โมนรวมเนี่ยเขา
00:30:27 → 00:30:29 จะต้องกันทั้ง 3 กลไกครับเพราะฉะนั้น
00:30:29 → 00:30:31 ประสิทธิภาพในการป้องกันกตั้งคจะดีกว่า
00:30:31 → 00:30:34 ครับสูงประสิทธิภาพเนี่ยสูงถึง 99% ที
00:30:34 → 00:30:37 เดียวอืในขณะที่ยไม่ชนิฮอร์โมนรวมเนี่ย
00:30:37 → 00:30:39 บางบางครั้งถ้าใช้แบบยิ่งถ้ารับรับประทาน
00:30:39 → 00:30:42 ช้าเนี่ยประสิทธิภาพตกลงไปเหลือประมาณ 95
00:30:42 → 00:30:45 96% ทีเดียวค่ะก็มีความเสี่ยงสูงขึ้นนะ
00:30:45 → 00:30:49 ครับคราวนี้ข้อดีของอื่นๆของการใช้ยาไม่
00:30:49 → 00:30:53 กุชื้นฮอร์โมนรวมก็คือ 1 มันจะช่วยให้เ่อ
00:30:53 → 00:30:55 เรามีปริมาณประจำเดือนน้อยลงครับเพราะว่า
00:30:55 → 00:30:58 ตัวยาไม่คุมกำเนิดเนี่ยกลไกอันนึงคือเไป
00:30:58 → 00:31:00 เปลี่ยนแปลงสภาพของเยื่อบุพงลูกทำให้ตัว
00:31:00 → 00:31:03 ฝัตัวไม่ได้ดีใช่มครับพอไปเปลี่ยนแปลง
00:31:03 → 00:31:05 สภาพเยื่อบุพงลูกเเยื่อบุพวกเมันจะบางลง
00:31:05 → 00:31:08 เวลาเยื่อบุจะลอกเป็นประจำเดือนออกมาเรา
00:31:08 → 00:31:10 จะมีปริมาณประจำเดือนที่น้อยลงเพราะ
00:31:10 → 00:31:12 ฉะนั้นคนไหนที่เคยมีประจำเดือนเยอะๆหยมี
00:31:12 → 00:31:14 ทีแบบเวียนหัวเลยแบบเสียเลือดเยอะเนี่ย
00:31:14 → 00:31:16 การใช้ยเหนือเนี่ก็จะมีประโยชน์ในการควบ
00:31:16 → 00:31:19 คุมไม่ให้เรามีประจำเดือนเยอะเกินไปแล้ว
00:31:19 → 00:31:22 ก็เสียเลือดจนกระทั่งเป็นโลหิตจานะครับ
00:31:22 → 00:31:24 เพราะฉะนั้นนี่คือประโยชน์อันที่ 1
00:31:24 → 00:31:27 ประโยชน์อันที่ 2 นะครับเอ่อคนที่เคยมี
00:31:27 → 00:31:29 อาการปวดประจำเดือนเนี่ยเมื่อใช้ยำคุณ
00:31:29 → 00:31:32 กำเนิดชนิดฮอร์โมนรวมเนี่ยจะทำให้บริการ
00:31:32 → 00:31:35 ปวดประจำเดือนเนี่ยน้อยลงค่ะนะครับเอ่อ
00:31:35 → 00:31:37 การยำให้คกำเนิดชนิดฮอรโมนรวมเนี่ยจะช่วย
00:31:37 → 00:31:40 ทำให้คนที่เคยมีเลือดประจำเดือนกระปิด
00:31:40 → 00:31:42 กระปอยระหว่างรอบเนี่ยกลายเป็นว่าไม่มี
00:31:42 → 00:31:45 ครับคือเลือดกบอยมันก็จะหายไปถ้าจะกลาย
00:31:45 → 00:31:47 เป็นมีประจำเดือนที่มาสม่ำเสมอแล้วก็ค่อน
00:31:47 → 00:31:50 ข้างจะตรงนะครับแล้วก็เดี๋ยวเนี้ยยาไม่ค
00:31:50 → 00:31:54 กำเนิดเนี่ยเจะมีการเลือกชนิดของฮอร์โมน
00:31:54 → 00:31:57 โปรเจสตินที่ใช้ที่ต่างๆกันไปนะครับทำให้
00:31:57 → 00:32:00 เดี๋ยวเนี้ยเก็มีประโยชน์งอื่นๆ
00:32:00 → 00:32:03 เช่นบางประเภทเนี่ยนะครับก็จะมีผลต่อการ
00:32:03 → 00:32:06 ที่อ่าไม่มีการบวมน้ำเราอาจจะเคยได้ยิน
00:32:07 → 00:32:08 ว่าทานยาไม่กำเนิดแล้วเหมือนแบบตัวฉุๆ
00:32:08 → 00:32:12 เหมือนอ้วนขึ้นอะไรครับยาไม่กำเนิดอ่าที่
00:32:12 → 00:32:14 เขาเลือกชนิดโปรเจสตินอื่นๆคือบอกก็ไม่
00:32:14 → 00:32:16 อยากจะพูดถึงตัวยี่ห้อนะครับจะเหมือนกับ
00:32:16 → 00:32:19 ทางการค้าเกินไปแต่ว่าก็อ่าเราเลือกได้
00:32:19 → 00:32:22 ครับก็ปรึกษาเกษตกรได้ก็มันจะมีฮอร์โมน
00:32:22 → 00:32:25 ชนิดที่ไม่เพิ่มน้ำหนักก็ทำให้เราไม่เกิด
00:32:25 → 00:32:27 บวมน้ำไม่ไม่อันนี้ก็เหมาะสำหรับคนสาวๆ
00:32:28 → 00:32:29 วัยทำงานที่ิไม่อยากให้กินแล้วมันดูอ้วน
00:32:30 → 00:32:33 ฉูนะครับอือค่ะอ่าบางชนิดเนี่ยก็จะสามารถ
00:32:33 → 00:32:36 ลดอาการของการบางคนเนี่ยช่วงที่มีประจำ
00:32:36 → 00:32:38 เดือนเนี่ยจะมีเเรียกกลุ่มอาการก่อนมี
00:32:39 → 00:32:41 ประจำเดือนเราเรียกว่า pms นะครับซึ่งเรา
00:32:41 → 00:32:44 ก็เคยพูดไปเหลายๆสัปดาห์ก่อนอาการเนี้ยว
00:32:44 → 00:32:46 ก่อนจำเดือนจะมีอาการปวดหัวนะครับจะมี
00:32:46 → 00:32:49 อาการเวียงศีรษะแบบบางทีแบบทำงานไม่ได้
00:32:49 → 00:32:51 อะไรอย่างเงี้ยนะครับเอ่อบางคนก็จะมี
00:32:51 → 00:32:53 ลักษณะบุคลิกภาพที่เปลี่ยนไปอันนี้เป็น
00:32:53 → 00:32:56 การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจริงๆซึ่งากคุณ
00:32:56 → 00:32:59 กำเนิดชนิดเอ่อที่เเแก้ไขตรงเนี้ยนะครับ
00:32:59 → 00:33:02 ก็จะเป็นากุงเหนือชนิดที่ต่างจากที่หมอ
00:33:02 → 00:33:04 บอกไปเป็นฮอร์โมนรวมเหมือนกันแต่ว่าเขจะ
00:33:04 → 00:33:07 เป็นแบบมีตัวยา 24 เม็ดแล้วก็ไม่มียา 4
00:33:07 → 00:33:10 เม็ดก็เป็น 24 + 4 แทนค่ะนะครับนะก็คือ
00:33:10 → 00:33:14 มีตัวยาของหอมนหลายเม็ดขึ้นนะครับแล้วก็
00:33:14 → 00:33:18 เอ่อยาเม็ดคุมกำเนิดบางประเภทเนี่ยนะครับ
00:33:18 → 00:33:23 ก็อ่าจะมีโปรเจสตินชนิดที่มันเหมือนกับมี
00:33:23 → 00:33:26 ทำให้เหมือนกับเต้านมมีขยายขนาดขนาดใหญ่
00:33:26 → 00:33:30 ขึ้นด้วยออครับอันนี้ก็จะมีเลยมีลักษณะ
00:33:30 → 00:33:34 ของบางทีเอ่อสาวประเภทสอะไเอามาใช้แล้วก็
00:33:34 → 00:33:37 หนุมขยายขด้วยใชอืครับหรือคุณผู้หญิงเอง
00:33:37 → 00:33:39 นะครับพอทราบว่ามีอันเนี้ยบางท่านก็ไปทาน
00:33:39 → 00:33:41 เพื่อเฮ้ยแเหมือนมันพอทานแล้วเหมือนเต้า
00:33:42 → 00:33:44 นมมันขยายขนาดขึ้นแต่ก็ต้องเรียนว่ามัน
00:33:44 → 00:33:46 ไม่ใช่การขยะขนาดถาวรนะฮะมันขยะขนาดเฉพาะ
00:33:47 → 00:33:49 ตอนที่เราทานยาพอเราหยุดทานเนี่ยมันก็
00:33:49 → 00:33:51 กลับไปอยู่สภาพเดิมนะฮะเพราะฉะนั้นท่าน
00:33:51 → 00:33:52 ไหนบอกว่าอุ้ยอันนี้เป็นประโยชน์อันนึง
00:33:52 → 00:33:54 เดี๋ยวเราไปทานเพิ่มขนาดอันนั้นถ้าเรา
00:33:54 → 00:33:56 ต้องการอย่างงั้นจริงๆไปหาคุณหมอศัลยกรรม
00:33:56 → 00:33:59 แล้วไปพาอะไรงั้นดีกว่าง่ายกว่านะคะอัน
00:33:59 → 00:34:02 นั้นได้อยู่ถาวรจะตรงกว่าด้วยถาวรกว่า
00:34:02 → 00:34:06 ด้วยนะครับเพราะฉะนั้น้าการว่ายาคุมเนี่ย
00:34:06 → 00:34:09 ครับมันมีประโยชนหลายๆอย่างนอกจากคุมแล้ว
00:34:09 → 00:34:12 ครับอืคุณหมอคะแต่ว่าการที่เรากินยาเม็ด
00:34:12 → 00:34:15 คุมกำเนิดแบบต่อเนื่องเป็นประจำอย่าง
00:34:15 → 00:34:18 เงี้ยค่ะมันจะมีผลต่อตับต่อไตหรือมีผลต่อ
00:34:18 → 00:34:20 การมีลูกยากมั้ยคะเห็นมันก็มีหลายๆคนที่
00:34:20 → 00:34:23 พูดถึงเรื่องพวกนี้ด้วยเหมือนกันนะคะครับ
00:34:23 → 00:34:27 สิ่งเนี้ยเป็นสิ่งที่เอ่อคนพูดกันมานาน
00:34:27 → 00:34:30 แล้วว่าพอเรายาทานยาคุมกันนานๆเป็น 5 ปี
00:34:30 → 00:34:32 10 ปีอะไรอย่าเงี้ยนะครับพอในอนาคตเนี่ย
00:34:32 → 00:34:35 กลายเป็นพอหยุดทานยาแล้วกลายเป็นมีบุตร
00:34:35 → 00:34:37 ยากนะครับค่ะจริงๆแล้วหมออยากจะเรียน
00:34:37 → 00:34:40 อย่างงี้นะครับเอ่อยาไม่คมกำเนิดอย่างที่
00:34:40 → 00:34:43 เราบอกกันเนี่ยนะครับเอ่อปริมาณยาเนี่ย
00:34:43 → 00:34:46 มันเหมือนกับแทบจะอยู่กันวันต่อวันนะครับ
00:34:47 → 00:34:49 เรายังกลัวที่หมอพูดไปเมื่อสักครู่อ่ะเรา
00:34:49 → 00:34:52 กลัวจะลืมทานมากกว่าถูกมั้ยลืมทานไปหน่อย
00:34:52 → 00:34:54 นึงอ้าวเดี๋ยวฮอร์โมนหมดจากร่างกายอ้า
00:34:54 → 00:34:56 เดี๋ยวท้องะนะครับเพราะฉะนั้นไอ้การที่
00:34:56 → 00:34:58 เราจะไปคิดว่าอุ๊ยเราทานยาคุมกำเนิดติด
00:34:58 → 00:35:01 ต่อเนื่องเป็นปีๆเนี่ยยามันจะสะสมในร่าง
00:35:01 → 00:35:03 กายเราทำให้กลายเป็นว่ามันไปทำให้เรามี
00:35:03 → 00:35:06 บุตยากอันนั้นน่ะไม่เกี่ยวข้องเลยครับอื
00:35:06 → 00:35:09 นะครับเพราะว่ายาเนี่ยมันหมดฤทธิ์วันต่อ
00:35:09 → 00:35:12 วันครับอเราคนไข้จะคนคนจะชอบคิดอย่าง
00:35:12 → 00:35:15 เงี้ยว่ากินนานเกินไปเดี๋ยวพอหยุดยาแล้ว
00:35:15 → 00:35:17 กลายเป็นอารเจริญพันธ์เราเสียไปเลยกลาย
00:35:17 → 00:35:20 เป็นกลายเป็นเหมือนไม่ไม่คุมกำเนิดถาวรไป
00:35:20 → 00:35:23 เลยไม่มีทางครับ