00:00:06 → 00:00:11 137 นะคะมันจะมีรังสี 2 ชนิดที่แผ่ออกมา
00:00:11 → 00:00:15 จากตัวมันก็คือรังสีเบต้ากับรังสีแกมมาก็
00:00:15 → 00:00:20 เป็นตัวรังสีที่แผ่ตัวสารกัมมันตรังสีออก
00:00:20 → 00:00:23 มาการที่จะเกิดผิดปกติทางผิวหนังเนี่ยที่
00:00:23 → 00:00:26 มีผื่นแดงมีแผลมักจะเกิดจากการสัมผัส
00:00:26 → 00:00:31 รังสีชนิดนี้โดยตรงระยะประชิดประมาณ 2-5
00:00:31 → 00:00:35 เมตรคนที่ทำงานสัมผัสกับสารกัมมันตรังสี
00:00:35 → 00:00:38 หรือสารซีเซียม 137 เนี่ยก็จะต้องเฝ้า
00:00:38 → 00:00:43 ระวังอาการต่างๆทั้งทางเดินอาหารโลหิตจาง
00:00:43 → 00:00:45 ระบบประสาทระบบผิวหนัง
00:00:45 → 00:00:47 [เพลง]
00:00:47 → 00:00:51 ฟังทุกเรื่องสุขภาพอัปเดตทุกโรคภัยฟังราย
00:00:51 → 00:00:57 การรองหมอกับดิฉันสุรีพรวงสถิตพรค่ะ
00:00:57 → 00:01:00 สวัสดีค่ะคุณผู้ฟังคะขอต้อนรับเข้าสู่ราย
00:01:00 → 00:01:02 การโรงหมอทาง ThaiPBS podcast ค่ะวันนี้
00:01:02 → 00:01:05 เรามาพบกันเช่นเคยนะคะติดตามสาระวันนี้
00:01:05 → 00:01:07 กันได้คุยกันถึงเรื่องของซีเซียม 137 ค่ะ
00:01:07 → 00:01:10 กับแพทย์หญิงเชาวรัตน์ประสานแพทย์ชำนาญ
00:01:10 → 00:01:13 การพิเศษโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีค่ะสวัสดี
00:01:13 → 00:01:16 ค่ะคุณหมอคะสวัสดีค่ะวันนี้คุยกันถึง
00:01:16 → 00:01:18 เรื่องของซีเซียม 137 กันหน่อยนะคะโอ้ย
00:01:18 → 00:01:21 วันนี้ต้องทำความเข้าใจทำความรู้จักกับ
00:01:21 → 00:01:24 ซีเซียมตัวนี้เลยนะอ่ะถามคุณหมอก่อนเลย
00:01:24 → 00:01:27 เพราะว่าเราได้ยินคำๆนี้แต่อาจจะเพิ่งได้
00:01:27 → 00:01:30 ยินน่ะเนาะว่าซีเซียม 137 เนี่ยถามคุณหมอ
00:01:30 → 00:01:33 ก่อนเลยว่าเขาคืออะไรคะคุณหมอซีเซียม
00:01:33 → 00:01:37 เนี่ยมันเป็นของแข็งนะคะคล้ายกับผงเกลือ
00:01:37 → 00:01:40 ฟุ้งกระจายได้นะคะประโยชน์ของมันเนี่ยใช้
00:01:40 → 00:01:44 วัดพวกความชื้นวัดอัตราการไหลของเหลวแล้ว
00:01:44 → 00:01:47 ก็วัดความหนาของวัสดุ
00:01:47 → 00:01:51 ซีเซียม 137 นะคะมันจะมีรังสี 2 ชนิดที่
00:01:51 → 00:01:55 แผ่ออกมาจากตัวมันก็คือรังสีเบต้ากับ
00:01:55 → 00:01:59 รังสีแกมมาค่ะซึ่งตรงนี้รังสี 2 ชนิดนี้
00:01:59 → 00:02:03 จะมีผลกระทบกับร่างกายของมนุษย์ค่ะทั้ง
00:02:03 → 00:02:07 แกมม่าและเบต้าคือจริงๆเราจะได้ยินคำว่า
00:02:07 → 00:02:11 รังสีแกรมม่าเบต้าแต่จริงๆคือทั้ง 2 ตัว
00:02:11 → 00:02:14 นี้มันจะมาใช้ต่างกันใช่ไหมคะในการเอามา
00:02:14 → 00:02:17 ช่วยทางการแพทย์หรือว่าอุตสาหกรรมอะไรก็
00:02:17 → 00:02:21 ว่าไปใช่ไหมคะก็คือรังสีเนี่ยมันคือพลัง
00:02:21 → 00:02:24 งานที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบคลื่นแม่
00:02:24 → 00:02:28 เหล็กไฟฟ้าหรืออนุภาครังสีเบต้ากับ
00:02:28 → 00:02:32 แกรมม่าเนี่ยก็เป็นตัวรังสีที่แผ่ตัวสาร
00:02:32 → 00:02:36 กัมมันตรังสีออกมานะคะซึ่งตรงนี้เนี่ยทำ
00:02:36 → 00:02:39 ให้มันมีผลกระทบกับร่างกายในมนุษย์ทั้ง
00:02:39 → 00:02:43 ระยะสั้นและระยะยาวโดยแบ่งเป็น 2 กลุ่ม
00:02:43 → 00:02:46 โลกแล้วก็นะคะกลุ่มแรกเนี่ยเรียกว่าเป็น
00:02:46 → 00:02:49 กลุ่มโรค accue radiation Syndrome นะ
00:02:49 → 00:02:54 คะจะมีผลต่อร่างกายใน 3 ระบบใหญ่ๆก็คือ
00:02:54 → 00:02:58 ระบบโลหิตนะคะเริ่มจากมีโลหิตจางอ่อน
00:02:58 → 00:03:02 เพลียเหนื่อยง่ายแล้วก็ระบบทางเดินอาหาร
00:03:02 → 00:03:06 ก็จะมีคลื่นไส้อาเจียนหากปวดท้องได้นะคะ
00:03:06 → 00:03:10 ระบบที่ 3 ก็คือระบบประสาทแล้วก็ระบบหัว
00:03:10 → 00:03:15 ใจทำให้อาจจะมึนงงเวียนศีรษะแล้วก็อาจจะ
00:03:15 → 00:03:19 รุนแรงถึงเสียชีวิตได้นะคะถ้ามีผลกับระบบ
00:03:19 → 00:03:20 หัวใจ
00:03:20 → 00:03:23 ส่วนอีกอันนึงก็คือ
00:03:23 → 00:03:27 คิวเทสชั่นซินโดมนะคะจะมีผลกับผิวหนัง
00:03:27 → 00:03:30 ซึ่งส่วนใหญ่แล้วเนี่ยการที่จะเกิดผิด
00:03:30 → 00:03:34 ปกติทางผิวหนังเนี่ยที่มีผื่นแดงมีแผลมัก
00:03:34 → 00:03:37 จะเกิดจากการสัมผัสรังสีชนิดนี้โดยตรง
00:03:37 → 00:03:40 ระยะประชิดประมาณ 2-5 เมตรเพราะฉะนั้น
00:03:40 → 00:03:44 เนี่ยคนที่ทำงานสัมผัสกับศาลกัมมันตรังสี
00:03:44 → 00:03:49 หรือสารซีเซียม 1 ก็จะต้องเฝ้าระวังอาการ
00:03:49 → 00:03:54 ต่างๆทั้งทางเดินอาหารโลหิตจางระบบประสาท
00:03:54 → 00:03:57 ระบบผิวหนังค่ะเฝ้าระวังสังเกตอาการ
00:03:57 → 00:04:02 ก็เรียกได้ว่าคือในการที่บางทีเราอาจจะ
00:04:02 → 00:04:06 ไม่รู้ว่าบริเวณนั้นอาจจะมีรังสีพวกนี้
00:04:06 → 00:04:09 กระจายอยู่แค่บังเอิญอยู่ตรงจุดนั้นก็อาจ
00:04:09 → 00:04:11 จะได้รับผลกระทบได้แล้วเหมือนกันใช่ไหมคะ
00:04:11 → 00:04:14 ใช่ค่ะถ้าอย่างซีเซียม 1 3 7 นะคะคนที่
00:04:14 → 00:04:17 จะได้รับผลกระทบโดยตรงเนี่ยก็คือจะเป็น
00:04:17 → 00:04:20 ผู้ปฏิบัติงานโดยเฉพาะที่อยู่ในระยะ 2
00:04:20 → 00:04:23 ถึง 5 เมตรระยะประชิดนะคะส่วนประชาชนใน
00:04:23 → 00:04:27 พื้นที่เนี่ยก็อาจจะได้รับผลกระทบในกรณี
00:04:27 → 00:04:31 ที่คนในครอบครัวทำงานสัมผัสสารรังสีแล้ว
00:04:31 → 00:04:34 มันจะติดไปตามเสื้อผ้าในกรณีที่เขาไม่ได้
00:04:34 → 00:04:37 เปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนกลับบ้านก็อาจจะติดไป
00:04:37 → 00:04:41 ที่บ้านแล้วก็คนในครอบครัวได้นะคะมัน
00:04:41 → 00:04:44 สามารถที่จะติดกันง่ายๆขนาดนี้เลยหรอคะ
00:04:44 → 00:04:46 รังสีคือแบบพอออกมาข้างนอกมันไม่ได้แบบ
00:04:46 → 00:04:49 ฟุ้งเข้าใจมันไม่เลยถ้าอยู่ก็ตามเสื้อผ้า
00:04:49 → 00:04:51 อย่างนี้ใช่มันฟุ้งกระจายค่ะแต่ว่าเรามี
00:04:51 → 00:04:54 วิธีการป้องกันนะคะคือคนที่ปฏิบัติงาน
00:04:54 → 00:04:57 เนี่ยแล้วรู้ว่าตัวเองทำงานสัมผัสสาร
00:04:57 → 00:04:59 กัมมันตรังสีเนี่ยควรที่จะมีการเปลี่ยน
00:04:59 → 00:05:03 เสื้อผ้าก่อนกลับบ้านนะคะแล้วก็ตัวเนี่ย
00:05:03 → 00:05:07 ควรจะอาบน้ำชะล้างออกไปก่อนอันนี้ก็จะ
00:05:07 → 00:05:10 สามารถกำจัดสารรังสีได้ส่วนหนึ่งประมาณ
00:05:10 → 00:05:14 80-90% เลยสารพวกนี้ส่วนใหญ่เราใช้ใน
00:05:14 → 00:05:17 ระบบไหนบ้างอ่ะคะซีเซียมเนี่ยจะใช้ในการ
00:05:17 → 00:05:22 ที่อุตสาหกรรมวัดอัตราการไหลของเหลววัด
00:05:22 → 00:05:26 ความหนาของวัสดุวัดความชื้นต่างๆค่ะใช้ใน
00:05:26 → 00:05:28 ทางอุตสาหกรรมในทางการแพทย์ก็จะมีใช้บ้าง
00:05:28 → 00:05:33 นะคะในอ่าเวชศาสตร์นิวเคลียร์ในอ่ารังสี
00:05:33 → 00:05:37 วินิจฉัยแล้วก็รังสีรักษาค่ะแต่ว่าปริมาณ
00:05:37 → 00:05:40 อาจจะแบบว่าน้อยกว่าน้อยกว่าใช่ค่ะแต่ถ้า
00:05:40 → 00:05:43 ไปในระบบอุตสาหกรรมคือก็ใช้โดยตรงเลยแต่
00:05:43 → 00:05:46 เขามีระบบการเซฟตี้อยู่ในโรงงาน
00:05:46 → 00:05:48 อุตสาหกรรม
00:05:48 → 00:05:51 แต่ว่ามันก็ไม่ได้หมายความว่าการเซฟตี้
00:05:51 → 00:05:54 เนี่ยมันอาจจะในบางครั้งมันอาจจะมีการ
00:05:54 → 00:05:58 หลุดรอดหรือว่ามันอาจจะมีอะไรอยู่เขา
00:05:58 → 00:06:01 เรียกว่าเหมือนกับเซฟตี้อาจจะไม่ดีพอหรือ
00:06:01 → 00:06:04 ในบางครั้งก็อาจจะทำให้สารพวกนี้มันออกมา
00:06:04 → 00:06:08 ได้เหมือนกันใช่ไหมคะใช่ค่ะก็คือในตาม
00:06:08 → 00:06:11 หลักการป้องกันของโรงงานอุตสาหกรรมเนี่ย
00:06:11 → 00:06:14 ก็จะใช้หลักการป้องกันตั้งแต่ระบบ
00:06:14 → 00:06:18 วิศวกรรมนะคะแล้วก็ระบบการบริหารจัดการ
00:06:18 → 00:06:21 แล้วก็การป้องกันที่ตัวคนค่ะถ้าอย่างระบบ
00:06:21 → 00:06:26 วิศวกรรมก็จะมีการออกแบบอยู่และว่ามีตัว
00:06:26 → 00:06:30 detect ปริมาณรังสีมีตัวเครื่องครอบ
00:06:30 → 00:06:32 เครื่องกั้นไม่ให้รังสีในแผ่ออกมานะคะ
00:06:32 → 00:06:35 ส่วนการบริหารจัดการเนี่ยก็คือจะมีเรื่อง
00:06:35 → 00:06:39 ของการติดป้ายเตือนมีการตรวจวัดเป็นประจำ
00:06:39 → 00:06:42 ปีว่ามีการรั่วไหลมั้ยส่วนที่ตัวบุคคลก็
00:06:42 → 00:06:46 จะมีการตรวจวัดปริมาณรังสีที่คนทำงานจะ
00:06:46 → 00:06:48 ได้รับเป็นประจำปีแล้วก็ส่ง
00:06:48 → 00:06:51 กรมวิทยาศาสตร์นะคะเพื่อที่จะวัดปริมาณ
00:06:51 → 00:06:54 รังสีว่าเกินหรือเปล่าค่ะงั้นแสดงว่า
00:06:54 → 00:06:57 อย่างคนที่ต้องทำงานในระบบอุตสาหกรรมแล้ว
00:06:57 → 00:06:59 ก็มี serium 137 ที่ใช้อยู่ในระบบแบบนี้
00:07:00 → 00:07:00 เนี่ย
00:07:00 → 00:07:04 โอเคชุดอาจจะ Safety ละในระบบก็เซฟฟี่และ
00:07:04 → 00:07:06 แต่ยังไงก็ต้องตรวจ
00:07:06 → 00:07:10 ร่างกายเป็นประจำทุกปีอาจจะมีจังหวะที่
00:07:10 → 00:07:12 สารพวกนี้เล็ดร่อยเข้ามาหรือว่าเราอาจจะ
00:07:12 → 00:07:16 ควบคุมดูแลเซฟตี้ตัวเองไม่ดีพอเป็นการ
00:07:16 → 00:07:18 ตรวจเพื่อการเฝ้าระวังด้วยอย่างที่ย้อนไป
00:07:18 → 00:07:21 ตอนต้นคือรังสีมีผลกระทบกับร่างกายในระยะ
00:07:21 → 00:07:25 สั้นและระยะยาวค่ะซึ่งระยะยาวเนี่ยส่วน
00:07:25 → 00:07:28 ใหญ่เราจะมีผลกับระบบเม็ดเลือดของร่างกาย
00:07:28 → 00:07:31 ค่ะก็อาจจะส่งผลให้เกิดมะเร็งเม็ดเลือด
00:07:31 → 00:07:35 ได้นะคะในในระยะยาวในกรณีที่คนทำงานได้
00:07:35 → 00:07:38 รับสัมผัสเป็นระยะเวลานานสัมผัสโดยตรง
00:07:38 → 00:07:41 อย่างเงี้ยค่ะแต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะเป็น
00:07:41 → 00:07:45 มะเร็งนะคะก็คือแล้วแต่สภาพร่างกายของแต่
00:07:45 → 00:07:48 ละบุคคลด้วยโรคมะเร็งเนี่ยไม่สัมผัสรังสี
00:07:48 → 00:07:50 ก็มีโอกาสเป็นได้อย่างที่เรารู้กันเนาะ
00:07:50 → 00:07:53 ค่ะการที่สัมผัสสารรังสิตก็จะเป็นปัจจัย
00:07:53 → 00:07:56 เสี่ยงอันนึงที่อาจจะทำให้อ่ามันมีโอกาส
00:07:57 → 00:08:00 ที่จะเป็นมากขึ้นได้อย่างเงี้ยค่ะก็เราก็
00:08:00 → 00:08:04 พยายามที่จะตรวจเช็คดูความเสี่ยงนั้นซึ่ง
00:08:04 → 00:08:06 เวลาเราตรวจสุขภาพประจำปีเราก็จะมีการ
00:08:06 → 00:08:09 ตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดตรวจเอกซเรย์
00:08:09 → 00:08:12 ตรวจร่างกายกับแพทย์อยู่แล้วซึ่งอันนี้ก็
00:08:12 → 00:08:15 สามารถเป็นการเฝ้าระวังป้องกันได้แต่ว่า
00:08:15 → 00:08:18 สิ่งที่จะต้องเพิ่มขึ้นในคนที่ทำงาน
00:08:18 → 00:08:22 ปฏิบัติรังสีหรือว่าผู้ที่สงสัยว่าตัวเอง
00:08:22 → 00:08:24 สัมผัสรังสีเนี่ยต้องมีการสังเกตอาการว่า
00:08:24 → 00:08:28 ในช่วงนี้เรามีอาการท้องเสียถ่ายเหลวมี
00:08:28 → 00:08:31 อาการอ่อนเพลียง่ายกว่าปกติหรือเปล่ามี
00:08:31 → 00:08:36 ตามผิวหนังมีแผลมีผื่นอะไรผิดปกติไหมถ้า
00:08:36 → 00:08:40 มีอาการเหล่านี้บวกกับอ่ามีประวัติสัมผัส
00:08:40 → 00:08:44 รังสีมาในระยะประชิดหรือว่าคนในครอบครัว
00:08:44 → 00:08:47 ทำงานที่สัมผัสรังสีมาก่อนเนี่ยก็ควรที่
00:08:47 → 00:08:51 จะมารับการตรวจที่โรงพยาบาลซึ่งการตรวจ
00:08:51 → 00:08:54 ที่โรงพยาบาลเนี่ยค่ะก็จะมีทั้งการตรวจ
00:08:54 → 00:08:56 ความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดตรวจร่างกายโดย
00:08:56 → 00:08:58 แพทย์ด้วยตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดรวม
00:08:58 → 00:09:01 ถึงจะมีการตรวจวัดการสัมผัสปริมาณสาร
00:09:01 → 00:09:05 ซีเซียมในปัสสาวะเพื่อดูว่ามีการสัมผัส
00:09:05 → 00:09:08 เยอะน้อยแค่ไหนค่ะแล้วเราก็จะเอาข้อมูล
00:09:08 → 00:09:11 ทั้งหมดมาวิเคราะห์ทั้งการซักประวัติตรวจ
00:09:11 → 00:09:14 ร่างกายการตรวจหาการสัมผัสสารเซียมแล้วก็
00:09:14 → 00:09:17 ตรวจผลกระทบของเม็ดเลือดมาดูว่าคนนี้เป็น
00:09:17 → 00:09:20 อาการผิดปกติจากตัวสารซีเซียมหรือว่าสาร
00:09:20 → 00:09:23 รังสีอื่นๆหรือเปล่านั่นหมายความว่าคือ
00:09:23 → 00:09:25 ถ้าอย่างบางคนที่ทำงานอยู่ในระบบ
00:09:25 → 00:09:27 อุตสาหกรรมที่ใช้ซีเซียม 137 นี้อยู่แล้ว
00:09:27 → 00:09:30 เนี่ยก็แน่นอนตรวจสุขภาพประจำปีแต่คนใน
00:09:30 → 00:09:32 ครอบครัวก็ต้องตรวจด้วยซึ่งอันนี้เรา
00:09:33 → 00:09:35 จำเป็นที่จะต้องบอกอ่าคุณหมอไหมคะเวลาที่
00:09:35 → 00:09:38 เราไปตรวจร่างกายเพื่อหาค่าอะไรต่างๆ
00:09:38 → 00:09:41 เหล่านี้เนี่ยว่าเรามีความใกล้ชิดกับคน
00:09:42 → 00:09:43 ที่ทำงานในโรงงานอุตสาหกรรมเพื่อที่จะแบบ
00:09:43 → 00:09:47 ตรวจได้ได้มีความรัดกุมมากยิ่งขึ้นด้วยนะ
00:09:47 → 00:09:50 คะคนที่จะบอกด้วยค่ะเพราะว่าก็ถือเป็น
00:09:50 → 00:09:55 ความเสี่ยงอย่างนึงค่ะเอ่อเขาก็จะได้คุณ
00:09:55 → 00:09:58 หมอจะได้ตรวจให้ครอบคลุมมากขึ้นแนะนำการ
00:09:58 → 00:10:03 ตรวจที่อ่าดูเฝ้าระวังอาการผิดปกติหรือ
00:10:03 → 00:10:05 โรคที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงนั้นๆ
00:10:05 → 00:10:08 ได้เพิ่มมากขึ้นอย่างงั้นให้คุณหมอทวนว่า
00:10:08 → 00:10:12 อาการที่เราสังเกตได้เบื้องต้นเนี่ยนะคะ
00:10:12 → 00:10:15 ว่ามีความเสี่ยงตรงนี้เนี่ยมันจะมีทั้ง
00:10:15 → 00:10:17 ท้องเสียใช่ไหมคะใช่ค่ะอ่อนเพลียอ่อน
00:10:17 → 00:10:21 เพลียจากภาวะโลหิตจางหรือว่าปริมาณเม็ด
00:10:21 → 00:10:24 เลือดขาวในเลือดต่ำกว่าปกติทำให้ภูมิคุ้ม
00:10:24 → 00:10:28 กันต่ำลงอาจจะไม่สบายง่ายอ่อนเพลียอย่าง
00:10:28 → 00:10:32 นี้ค่ะแล้วก็จะมีเรื่องของตัวระบบประสาท
00:10:32 → 00:10:38 เวียนศีรษะบ่อยนะคะหรือว่าจะมีอาการของ
00:10:38 → 00:10:44 หัวใจค่ะที่ทำงานผิดปกติรวมถึงผิวหนังก็
00:10:44 → 00:10:49 จะมีผื่นมีแผลเป็นที่หาสาเหตุไม่ได้อาการ
00:10:49 → 00:10:51 พวกนี้มันจะมาพร้อมๆกันไหมคะหรือว่ามันจะ
00:10:51 → 00:10:55 ค่อยๆมีบางอย่างแสดงออกมาอาการเริ่มแรก
00:10:55 → 00:10:58 เนี่ยจะเริ่มจากระบบหลอดเลือดก่อนนะคะ
00:10:58 → 00:11:01 ระบบเม็ดเลือดก่อนระบบเม็ดเลือดก่อนค่ะ
00:11:01 → 00:11:06 อ่าลำดับที่ 2 คือระบบทางเดินอาหารค่ะ
00:11:06 → 00:11:10 ระบบที่ 3 คือหัวใจแล้วก็ระบบประสาทเพราะ
00:11:10 → 00:11:12 ฉะนั้นจะสังเกตเห็นว่าที่มีการเฝ้าระวัง
00:11:12 → 00:11:14 ทางสุขภาพทั้งได้คนปฏิบัติงานหรือผู้
00:11:15 → 00:11:17 สัมผัสสารรังสีเนี่ยตัวแรกที่จะตรวจเลยก็
00:11:17 → 00:11:21 คือความสมบูรณ์ของเม็ดเลือดค่ะส่วนอาการ
00:11:21 → 00:11:25 ทางผิวหนังมักจะเกิดในคนที่สัมผัสโดยตรง
00:11:25 → 00:11:29 ค่ะก็จะอาจจะมีความแตกต่างกันไปแต่ว่ามัน
00:11:29 → 00:11:32 จะฟังดูแล้วเนี่ยหลายคนอาจจะสับสนว่า
00:11:32 → 00:11:35 เพราะมันอาจจะท้องเสียเราไปกินอะไรมาหรือ
00:11:35 → 00:11:37 ว่าแบบช่วงนี้เวียนหัวบ่อยนอนน้อยหรือ
00:11:37 → 00:11:39 เปล่าความดันหรือเปล่าอาจจะไปคิดแบบนั้น
00:11:39 → 00:11:42 แต่ว่าอันนี้จะเป็นอีกจุดนึงที่ให้คิด
00:11:42 → 00:11:45 เพิ่มขึ้นว่าคนในครอบครัวของเราหรือว่า
00:11:45 → 00:11:48 เราอาจจะไปสัมผัสโดนศาลพวกเนี้ยในช่วง
00:11:48 → 00:11:51 ระยะเวลาที่ไม่นานมานี้มันเลยอาจจะทำให้
00:11:51 → 00:11:54 มีอาการที่แบบอยู่ๆเราไม่ได้เป็นอะไรเลย
00:11:54 → 00:11:56 เราแข็งแรงอยู่อย่างเงี้ยอยู่ๆก็มีอาการ
00:11:56 → 00:11:58 พวกเนี้ยขึ้นมาอันนี้ก็คือจุดที่ให้
00:11:58 → 00:12:01 สังเกตเพิ่มเติมนะคะแล้วก็จะได้แจ้งคุณ
00:12:01 → 00:12:04 หมอบอกว่าได้วินิจฉัยได้ตรงจุดคือจริงๆ
00:12:04 → 00:12:07 มองแล้วว่ามันอาจจะเป็นส่วนน้อยหรือเปล่า
00:12:07 → 00:12:11 คะคุณหมอคนที่จะไปสัมภาษณ์ไปอยู่ใกล้ชิด
00:12:11 → 00:12:13 หรือคนที่ทำงานงานในระบบอุตสาหกรรมที่ใช้
00:12:13 → 00:12:16 ซีเซียม 137 แบบนี้ดูเหมือนอาจจะไม่ได้มี
00:12:16 → 00:12:20 จำนวนคนค่อนข้างมากเท่าไหร่แต่ก็ไม่ได้
00:12:20 → 00:12:23 หมายความว่าเราจะไม่ระวังใช่คนปฏิบัติงาน
00:12:23 → 00:12:26 นี้อาจจะเสี่ยงที่สุดเพราะว่าสัมผัสใกล้
00:12:26 → 00:12:29 ชิดเพราะฉะนั้นก็คืออุปกรณ์ป้องกันก็
00:12:29 → 00:12:30 สำคัญ
00:12:30 → 00:12:34 ถ้าเป็นตัวซีเซียมนะคะก็แนะนำควรจะใส่ชุด
00:12:34 → 00:12:38 ที่ป้องกันชุดคลุมคล้ายๆชุดโควิดอ่ะค่ะ
00:12:38 → 00:12:41 ถ้าเป็นทางการแพทย์ก็จะเป็นเขาจะแบ่งเป็น
00:12:41 → 00:12:44 ลำดับการป้องกันอุปกรณ์คุ้มครองความปลอด
00:12:44 → 00:12:49 ภัยส่วนบุคคลจะมีระดับ a b c d ค่ะ A
00:12:49 → 00:12:52 นี่คือจะแบบสูงสุดเลยคือเราจะไม่รู้เลย
00:12:52 → 00:12:55 ว่าสารที่เราจะไปสัมผัสคืออะไรก็จะมี
00:12:55 → 00:12:59 แทงค์ออกซิเจนอ่ามีชุดคลุมทั้งหมดค่ะไม่
00:12:59 → 00:13:02 ให้หายใจออกอากาศภายนอกเข้าไป
00:13:02 → 00:13:05 อ๋อเขามีแทงค์เป็นของตัวเองถังออกซิเจนไป
00:13:05 → 00:13:09 เลยใช่ค่ะจะเห็นในหน่วยบรรเทาสาธารณภัย
00:13:09 → 00:13:13 ที่ต้องเข้าไปดับเพลิงหรือในกรณีโรงงาน
00:13:13 → 00:13:16 อุตสาหกรรมไฟไหม้เขาจะไม่รู้ว่าต้องเจอ
00:13:16 → 00:13:18 สารอะไรบ้างเขาก็จะต้องใส่ชุดนี้เข้าไป
00:13:18 → 00:13:23 คือระดับ a ระดับสูงสุดค่ะถ้าระดับ B
00:13:23 → 00:13:27 เนี่ยก็จะลองลงมาหน่อยนะคะจะมีตัวตัวกรอง
00:13:27 → 00:13:32 สารเคมีนะคะมีทั้งออกซิเจนก็ได้หรืออะไร
00:13:32 → 00:13:34 ก็มีตัวกรองก็ได้แต่ชุดเนี่ยก็จะกันผิว
00:13:34 → 00:13:38 หนังได้น้อยกว่าของระดับ a ค่ะถ้าระดับ C
00:13:38 → 00:13:42 เนี่ยก็คือที่เราเห็นคือชุดโควิดก็จะกัน
00:13:42 → 00:13:47 ผิวหนังการอ่าระบบทางเดินหายใจมีการกรอง
00:13:47 → 00:13:51 อากาศจากภายนอกก่อนที่จะเข้าสู่อ่าทาง
00:13:51 → 00:13:53 เดินหายใจของคนๆนั้นที่จะเข้าไปปฏิบัติ
00:13:53 → 00:13:58 งานค่ะซึ่งตัวรังสีนะคะที่ทำงานสำหรับผู้
00:13:58 → 00:14:16 สัมผัสรังสีในตัวซีเซียมที่มีตัวเบต้ากับ
00:14:16 → 00:14:36 [เพลง]
00:15:02 → 00:15:06 ในความฟุ้งกระจายของเขาเนี่ยมันก็เรา
00:15:06 → 00:15:09 สามารถตรวจวัดได้จากทั่วๆไปไม่ต้องเอาแบบ
00:15:09 → 00:15:11 เครื่องไปจ่อกับ
00:15:11 → 00:15:15 อนุภาคนั้นโดยตรงอะไรขนาดนั้นเลยการวัดจะ
00:15:15 → 00:15:19 มี 2 แบบค่ะมีการวัดในสิ่งแวดล้อมค่ะวัด
00:15:19 → 00:15:22 ในสภาพแวดล้อมการทำงานกับส่วนที่ 2 ก็คือ
00:15:22 → 00:15:27 วัดที่ตัวบุคคลค่ะตัวบุคคลหรือว่าวัดที่
00:15:27 → 00:15:28 วัตถุก็ได้
00:15:29 → 00:15:33 ก็จะปริมาณมันก็จะรู้ได้เลยว่าเกินค่า
00:15:33 → 00:15:35 มาตรฐานหรืออะไรยังไงไหมหรือว่ามัน
00:15:35 → 00:15:38 อันตรายแค่ไหนใช่ค่ะถ้าอยากรู้ว่าบุคคล
00:15:38 → 00:15:41 นี้ได้รับการสัมผัสรังสีซีเซียมเยอะน้อย
00:15:41 → 00:15:45 แค่ไหนก็จะมีการตรวจการสัมผัสโดยตรวจใน
00:15:45 → 00:15:48 ปัสสาวะเหมือนที่ล่าอ่ามีการตรวจวัด
00:15:48 → 00:15:51 ปริมาณการสัมผัสซีเซียมในปัสสาวะในช่วง
00:15:51 → 00:15:55 ที่ผ่านมานะคะอืมในผู้ปฏิบัติงานโอ้โหก็
00:15:55 → 00:15:57 น่าสนใจนะเพราะว่าพออันนี้ปุ๊บเราก็จะ
00:15:57 → 00:16:01 เห็นว่าเอ๊ะเจ้ามันพอๆเราได้ข้อมูลข่าว
00:16:01 → 00:16:04 สารด้วยความที่หลายคนอาจจะยังไม่ได้รู้
00:16:04 → 00:16:06 จักซีเซียมคือมันไม่ได้เป็นที่แพร่หลาย
00:16:06 → 00:16:08 ที่ทุกคนจะต้องรู้จักใช่ไหมคะความกังวล
00:16:08 → 00:16:11 มันเกิดขึ้นการที่เจ้าหน้าที่เข้าไปทดสอบ
00:16:11 → 00:16:15 ไปตรวจสอบดูค่ารังสีมันมีอันตรายหรืออะไร
00:16:15 → 00:16:18 ไหมแล้วเขาเห็นเขาไม่ได้ใส่ชุดแล้วก็เอ๊ะ
00:16:18 → 00:16:22 มันจะส่งผลกระทบอะไรไหมที่เข้าไปโดยที่ก็
00:16:22 → 00:16:25 ชุดปกตินี่แหละเข้าไปอันนั้นก็ไม่ได้มี
00:16:25 → 00:16:28 อันตรายอะไรใช่ไหมคะคือถ้าชุดปกติเนี่ย
00:16:28 → 00:16:29 คือไม่แนะนำ
00:16:29 → 00:16:33 ค่ะคนที่จะใส่ชุดป้องกันขั้นต่ำคือ Level
00:16:33 → 00:16:37 4 อย่างที่บอกค่ะเลเวล 4 ก็คือชุดคลุม
00:16:37 → 00:16:43 ศีรษะแขนขาลำตัวค่ะเป็นอันนี้แหละใช่แล้ว
00:16:43 → 00:16:45 ก็หน้ากากอย่างน้อยคนจะเป็นหน้ากาก n95
00:16:45 → 00:16:49 ค่ะหรือหน้ากากที่ตัวกรองสารเคมีสาร
00:16:49 → 00:16:53 อนุภาคขนาดเล็กได้ค่ะแล้วก็แว่นตาด้วย
00:16:53 → 00:16:57 แว่นตาเพื่อการรังสีค่ะโอ้โหมันสามารถ
00:16:57 → 00:16:59 สัมผัสเราได้
00:16:59 → 00:17:01 ทุกทิศทุกทางหายใจ
00:17:01 → 00:17:04 มันเข้าสู่ร่างกายเราได้ทางอ่าทางทางผิว
00:17:04 → 00:17:07 หนังก่อนแล้วก็ทางหายใจเข้าใจแล้วก็ทาง
00:17:07 → 00:17:10 เดินอาหารโดยการที่เรามือเราหยิบจับแล้ว
00:17:10 → 00:17:14 เราไปอ่าหยิบอาหารเข้ามามันก็เข้าทางเดิน
00:17:14 → 00:17:17 อาหารได้อย่างเงี้ยค่ะมันๆๆแบบง่ายมาก
00:17:17 → 00:17:20 เกินง่ายมากอ่ะแล้วอย่างเงี้ยถ้าสมมุติ
00:17:20 → 00:17:22 มือเราไปสัมผัสแล้วหยิบอาหารเนี่ยถ้าเกิด
00:17:22 → 00:17:25 เราไปล้างมือก่อนเฉยๆแค่ล้างมือ
00:17:25 → 00:17:27 ได้ไหมคะได้
00:17:27 → 00:17:29 การที่เราจะ
00:17:29 → 00:17:34 ดีคอนแทมิเนตหรือว่าลดปริมาณรังสีก็คือ 1
00:17:34 → 00:17:36 ถอดเสื้อผ้าที่เราไปสัมผัสรังสีออกมานะคะ
00:17:36 → 00:17:38 2 ก็คือใช้น้ำเปล่า
00:17:38 → 00:17:41 ผสมสบู่หรือน้ำเปล่าธรรมดาเนี่ยค่ะล้าง
00:17:41 → 00:17:45 ตัวก่อนก็สามารถขจัดตัวรังสีออกไปได้
00:17:45 → 00:17:48 80-90% อาบน้ำสระผมไปเลยว่างั้นใช่ค่ะ
00:17:48 → 00:17:52 ใช่ค่ะแล้วแล้วชุดที่ที่แบบเราถอดออกมา
00:17:52 → 00:17:55 เงี้ยค่ะสมมุติกลับไปบ้านอันนี้เราคือ
00:17:55 → 00:17:57 จริงๆควรทำความสะอาดเลยเหมือนโควิดเลย
00:17:57 → 00:17:59 เนอะที่แบบว่าพอกลับบ้านเราต้องทำความ
00:17:59 → 00:18:02 สะอาดชุดเลยค่ะใช่ค่ะคือถ้าอย่างน้อยถ้า
00:18:02 → 00:18:05 มีเสื้อผ้ากันไว้เนี่ยอันตรายมันก็จะน้อย
00:18:05 → 00:18:09 ลงแต่ว่ากรณีที่จะเกิดอ่าผลกระทบต่อร่าง
00:18:09 → 00:18:12 กายในระบบต่างๆข้างต้นที่บอกว่าดูจาก
00:18:12 → 00:18:15 อันตรายเนี่ยจะเกิดในกรณีที่สัมผัสโดยตรง
00:18:15 → 00:18:19 ขาหรือว่าหายใจเข้าไปโดยตรงเอ่ออันเนี้ย
00:18:19 → 00:18:22 จะอันตรายมันจะรู้สึกได้ทันทีเลยใช่มั้ย
00:18:22 → 00:18:24 การไปสัมผัสอย่างอาการหายใจอย่างเงี้ย
00:18:24 → 00:18:27 รังสีเนี่ยไม่มีกลิ่นนะคะอร่อย
00:18:27 → 00:18:29 [เพลง]
00:18:29 → 00:18:32 เพราะฉะนั้นก็คือเราจะรู้ว่าเราสัมผัส
00:18:32 → 00:18:36 รังสีก็คืออ่าเราไปใกล้บริเวณที่เรารู้
00:18:36 → 00:18:38 ว่ามีรังสีเช่นไปอยู่ในบริเวณ
00:18:38 → 00:18:44 โรงงานอุตสาหกรรมที่ใช้รังสีนั้นในกระบวน
00:18:44 → 00:18:48 การผลิตค่ะเขาก็จะมีป้ายติดเตือนว่าเนี่ย
00:18:48 → 00:18:52 เป็นศาลรังสีอันตรายนะอ่าอันนี้เราก็ต้อง
00:18:52 → 00:18:55 ระวังแล้วค่ะโอ้โหมันไม่มีกลิ่นด้วยมัน
00:18:55 → 00:18:59 มองไม่เห็นไม่มีกลิ่นไม่มีสีหาเป็นพลัง
00:18:59 → 00:19:04 งานบางอย่างก็เป็นได้แต่ดูดูจากถ้าเกิด
00:19:04 → 00:19:07 ว่าเพราะว่าโรงงานอุตสาหกรรมในประเทศไทย
00:19:07 → 00:19:11 เรามีอยู่ทุกหนแห่งใช่ไหมคะแล้วก็มีชุมชน
00:19:11 → 00:19:14 อยู่แถวๆนั้นอยู่แล้วอะไรแบบนี้เนี่ยก็
00:19:14 → 00:19:17 เพราะฉะนั้นก็คือคนที่อยู่ในชุมชนก็คงจะ
00:19:17 → 00:19:19 ทราบแหละเนาะว่าบ้านเราอยู่ใกล้กับโรงงาน
00:19:19 → 00:19:21 ที่อาจจะมีความเสี่ยงในพวกสาร
00:19:21 → 00:19:24 กัมมันตรังสีหรือรังสีอะไรพวกนี้อยู่ก็
00:19:24 → 00:19:27 ต้องระมัดระวังเพิ่มขึ้นใช่ไหมคะ
00:19:27 → 00:19:29 เพราะขนาดแบบ
00:19:29 → 00:19:31 อย่างที่เคยเป็นข่าวที่แบบเกิดเหตุเพลิง
00:19:31 → 00:19:34 ไหม้หรืออะไรเงี้ยแล้วโอ้โหแบบว่าชาวบ้าน
00:19:34 → 00:19:37 ได้รับผลกระทบถามคุณหมอนิดนึงเพราะว่าพอ
00:19:37 → 00:19:38 แล้วถ้าเกิดเมื่อกี้เราคุยกันบอกว่ามัน
00:19:38 → 00:19:40 เป็นเรื่องของการไปสัมผัสไปสู่อะไรก็แล้ว
00:19:40 → 00:19:43 แต่ที่เห็นเว้ยมันสามารถที่จะอยู่ในสิ่ง
00:19:43 → 00:19:45 แวดล้อมได้ไหมคะศาลพวกนี้ที่มันแบบว่า
00:19:45 → 00:19:47 ฟุ้งกระจายมันอะไรเงี้ยมันไปอยู่ในแหล่ง
00:19:47 → 00:19:50 น้ำได้ไหมหรือมันไปอยู่ตาม
00:19:50 → 00:19:53 สิ่งแวดล้อมอื่นๆได้ไหมแล้วเราแบบบังเอิญ
00:19:53 → 00:19:57 อยู่แถวนั้นพอดีมันฟุ้งกระจายได้ค่ะมัน
00:19:57 → 00:20:02 เป็นมันเป็นฝุ่นผงนะคะฟุ้งกระจายในอากาศ
00:20:02 → 00:20:09 ในดินในน้ำได้ค่ะแต่ว่าทั้งนี้ทั้งนั้นก็
00:20:09 → 00:20:12 คือขึ้นกับปริมาณด้วยนะคะถ้าปริมาณน้อย
00:20:12 → 00:20:18 เนี่ยมันก็จะไม่ได้แบบอยู่ในอากาศเยอะนะ
00:20:18 → 00:20:21 คะอย่างนี้ถ้าครึ่งชีวิตของมันนะคะ 30 ปี
00:20:21 → 00:20:23 หมายความว่า
00:20:23 → 00:20:26 หมายความว่า 30 ปีเนี่ยมันจะลดปริมาณ
00:20:26 → 00:20:30 ครึ่งนึง 30 ปีลดปริมาณครึ่งหนึ่งลดเหลือ
00:20:30 → 00:20:35 ครึ่งนึง 50% อันตรายของมันก็จะลดลง 50%
00:20:35 → 00:20:39 ในระยะเวลา 30 ปีถ้าถ้าปริมาณเยอะมาก
00:20:39 → 00:20:43 อย่างกรณีโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เชิงโนบิลที่
00:20:43 → 00:20:47 ระเบิดอันนั้นน่ะค่ะก็คือจะมีผลกระทบมาก
00:20:47 → 00:20:52 ค่ะก็จะฟุ้งกระจายไปในดินในน้ำอืมอ่าใน
00:20:52 → 00:20:55 อากาศแล้วก็ระยะเวลานานเพราะว่ามันปริมาณ
00:20:55 → 00:21:01 มากค่ะแต่ว่าอย่างบางกรณีหาที่ใช้ใน
00:21:01 → 00:21:04 อุตสาหกรรมปริมาณน้อยเนี่ยค่ะมันก็ฟุ้ง
00:21:04 → 00:21:08 กระจายไปอ่าปริมาณน้อยค่ะแต่ว่าระยะเวลา
00:21:08 → 00:21:11 เนี่ยก็คือ 30 ปีเหมือนกันแต่อันตรายมัน
00:21:11 → 00:21:12 ก็จะน้อยกว่า
00:21:12 → 00:21:18 มันขึ้นกับปริมาณของรังสีขึ้นกับระยะเวลา
00:21:18 → 00:21:21 รวมถึงฟุ้งกระจายเนี่ยมันก็ขึ้นกับทิศทาง
00:21:21 → 00:21:25 ลมด้วยไอน้ำก็ทิศทางของน้ำกระแสน้ำอะไร
00:21:25 → 00:21:28 ต่างๆด้วยในดินก็มันขึ้นกับหลายปัจจัยค่ะ
00:21:28 → 00:21:32 มันไม่ใช่ว่าจะทุกอันเนี่ยมันจะอยู่ครึ่ง
00:21:32 → 00:21:35 ชีวิต 30 ปีมันขึ้นกับปัจจัยต่างๆ
00:21:35 → 00:21:40 ทีนี้มันก็เอาเป็นว่าเชื่อว่าในหน่วยงาน
00:21:40 → 00:21:43 ภาครัฐเองก็ดูแลอย่างเต็มที่ในส่วนตรงจุด
00:21:43 → 00:21:46 นี้แต่วันนั้นที่เห็นคือมันมีเรื่องของ
00:21:46 → 00:21:50 ฝุ่นแดงซีเซียม 137 นี่พอมันเอามาหลอกมัน
00:21:50 → 00:21:52 มาทำอะไรปุ๊บเนี่ยมันแบบมันเป็นฝุ่นผงเลย
00:21:52 → 00:21:57 ใช่ไหมคะใช่ค่ะ 4 สีเห็นชัดเจน
00:21:57 → 00:22:01 ค่ะก็อ่าจริงๆในฝุ่นของนั้นมันก็จะมีตัว
00:22:01 → 00:22:06 รังสีอยู่นะคะซึ่งในทางการเนี่ยที่เขาวัด
00:22:06 → 00:22:11 ปริมาณรังสีเนี่ยอ่าปริมาณรังสีไม่เกิน
00:22:11 → 00:22:15 ค่ามาตรฐานนะคะเอ่อที่ติดตามข่าวเนี่ยก็
00:22:15 → 00:22:20 จะได้ประมาณ 0.06 ถึง 0.08 micross ใน
00:22:20 → 00:22:25 สิ่งแวดล้อมซึ่งปริมาณต่ำนะคะอืมแทบจะไม่
00:22:25 → 00:22:28 ส่งผลกับร่างกายมนุษย์เลยแต่ว่าอันนี้ใน
00:22:28 → 00:22:44 สิ่งแวดล้อมมั้ยคะ
00:22:44 → 00:23:15 [เพลง]
00:23:29 → 00:23:32 ที่จะทานได้เพราะว่าเอ่อ
00:23:32 → 00:23:37 มันอย่างที่บอกเวลาที่เจอสารกัมมันตรังสี
00:23:37 → 00:23:39 ตัวนี้
00:23:39 → 00:23:43 เบต้าแกรมม่าตัวซีเซียมตัวนี้ 137 สามารถ
00:23:43 → 00:23:47 ที่จะดีคอนแทมิเนตหรือว่ากำจัดสารรังสี
00:23:47 → 00:23:50 ได้บางส่วนจากการที่ล้างน้ำนะคะแล้วก็
00:23:50 → 00:23:53 เช็ดๆถอดเสื้อผ้าออกเงี้ยค่ะถ้าเป็นคนก็
00:23:53 → 00:23:56 คือถอดเสื้อผ้าออกค่ะถ้าเป็นผลไม้ก็ล้าง
00:23:56 → 00:24:01 น้ำค่ะปรุงประกอบอาหารให้สุกใช่ค่ะสะอาด
00:24:01 → 00:24:03 ปลอดภัยดีกว่าเพราะเราไม่รู้หรอกว่ามัน
00:24:03 → 00:24:07 มันไปทิศทางไหนมันอาจจะไม่ได้ปริมาณมาก
00:24:07 → 00:24:10 หรอกแต่เพื่อความปลอดภัยเพื่อความปลอดภัย
00:24:10 → 00:24:13 ก็อันนี้เป็นเป็นส่วนหนึ่งที่เรามาคุยกัน
00:24:13 → 00:24:15 อ่ะท้ายนี้คุณหมอฝากอะไรทิ้งท้ายหน่อยไหม
00:24:15 → 00:24:19 คะเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ฝากอ่าเกี่ยวกับ
00:24:19 → 00:24:23 ข่าวซีเซียม 137 ค่ะสำหรับประชาชนก็ไม่
00:24:23 → 00:24:26 ต้องตื่นตระหนกนะคะอยากจะให้รับฟังข่าว
00:24:27 → 00:24:30 จากแหล่งข่าวที่น่าเชื่อถือได้นะคะแล้วก็
00:24:30 → 00:24:32 ในกลุ่มผู้ปฏิบัติงาน
00:24:32 → 00:24:36 ที่สัมผัสสารรังสีรวมถึงกลุ่มประชาชนนะคะ
00:24:36 → 00:24:38 ที่อยู่ในพื้นที่นั้นหรือว่ามีครอบครัว
00:24:38 → 00:24:42 ที่ทำงานสัมผัสรังสีนี้ให้เฝ้าสังเกต
00:24:42 → 00:24:47 อาการนะคะอาการอ่อนเพลียเหนื่อยง่ายผื่น
00:24:47 → 00:24:50 ผิวหนังผิดปกติท้องเสียไทยเหลวหรือว่ามี
00:24:50 → 00:24:54 เวียนศีรษะบ่อยหัวใจเต้นผิดปกติอันนี้
00:24:54 → 00:24:59 ร่วมกับมีประวัติสัมผัสรังสีอยากจะให้มา
00:24:59 → 00:25:01 ที่โรงพยาบาลเพื่อมาตรวจเพิ่มเติมนะคะ
00:25:01 → 00:25:06 แล้วก็อ่าอย่าตระหนกไปว่ามันจะเกิดมะเร็ง
00:25:06 → 00:25:09 ในทุกคนที่สัมผัสสารรังสิตอย่าลืมว่าถึง
00:25:09 → 00:25:12 แม้ไม่สัมผัสสารรังสีเราก็มีโอกาสที่จะ
00:25:12 → 00:25:15 เกิดโรคมะเร็งได้นะคะเพราะฉะนั้นก็คือ
00:25:15 → 00:25:18 ขึ้นอยู่กับการดูแลสุขภาพร่างกายด้วยนะคะ
00:25:18 → 00:25:22 อ่าให้ร่างกายแข็งแรงกินอาหารพักผ่อนให้
00:25:22 → 00:25:26 เพียงพอรวมถึงเราต้องมีอ่าวิธีการป้องกัน
00:25:26 → 00:25:29 ดูแลตัวเองใครที่อยู่ในพื้นที่ที่มีศาล
00:25:29 → 00:25:33 รังสีอยู่นะคะก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงการ
00:25:33 → 00:25:35 สัมผัสสารรังสีถ้ามีโอกาสก็อย่างที่บอก
00:25:36 → 00:25:39 ค่ะถ้ามีโอกาสทำภาษารังสีให้ถอดเสื้อผ้า
00:25:39 → 00:25:44 แล้วก็ชำระล้างร่างกายก็จะสามารถกำจัดสาร
00:25:44 → 00:25:47 รังสีได้ 80-90% แต่ถ้าไม่แน่ใจมีความ
00:25:47 → 00:25:50 กังวลก็ควรที่จะปรึกษาแพทย์ในพื้นที่โดย
00:25:50 → 00:25:54 จะต้องแจ้งก่อนว่าเออมีประวัติสัมผัสสาร
00:25:54 → 00:25:57 รังสีนะคุณหมอจะได้ให้คำแนะนำแล้วก็แนะนำ
00:25:57 → 00:25:59 การตรวจการเฝ้าระวังสุขภาพที่ถูกต้อง
00:25:59 → 00:26:02 เหมาะสมได้ค่ะนี่ก็เป็นแนวทางนะคะซึ่ง
00:26:02 → 00:26:04 จริงๆก็ไม่อยากให้ตื่นตระหนกกันไปนะคะ
00:26:04 → 00:26:07 เพราะว่าข้อมูลมันอาจจะหลากหลายทิศทางนะ
00:26:07 → 00:26:11 คะแต่ว่าถ้าเราเสพข่าวหรือข้อมูลต่างๆนะ
00:26:11 → 00:26:15 คะอย่างมีสติแล้วก็อ่าฟังจากหน่วยงานที่
00:26:15 → 00:26:18 เชื่อถือได้นะคะแล้วก็ตรงนี้เราจะได้ปลอด
00:26:18 → 00:26:21 ภัยจากเอ่อศาลรังสีอะไรต่างๆเหล่านี้ได้
00:26:21 → 00:26:23 ซึ่งมันไม่ได้อาจจะไม่ได้เกิดบ่อยนะแต่
00:26:23 → 00:26:26 ว่าก็เรียนรู้ไว้ระวังไว้ก็เป็นส่วนที่ดี
00:26:26 → 00:26:28 นะคะวันนี้ขอบคุณคุณหมอด้วยนะคะที่มาร่วม
00:26:28 → 00:26:32 พูดคุยในรายการค่ะขอบคุณค่ะสวัสดีค่ะเอา
00:26:32 → 00:26:33 ล่ะค่ะคุณผู้ฟังทั้งหมดเวลาแล้วนะคะกับ
00:26:33 → 00:26:36 รายการโรงหมอทาง ThaiPBS podcast ค่ะวัน
00:26:36 → 00:26:38 นี้ลาไปก่อนนะคะขอบคุณที่ติดตามรับฟัง
00:26:38 → 00:26:39 สวัสดีค่ะ
00:26:39 → 00:26:43 thoy PBS คนที่ใจดีและเป็นมิตรต่อตัว
00:26:43 → 00:26:46 เรามากที่สุดคือใครและลักษณะรูปแบบหรือ
00:26:46 → 00:26:49 สถานการณ์ใดที่เรียกว่าใจร้ายต่อตัวเองดร
00:26:49 → 00:26:52 สุวาวุธวงศ์ทางสวัสดิ์นักจิตวิทยาการ
00:26:52 → 00:26:56 ศึกษามาเล่าให้ฟังครับผมว่าจริงๆแล้วตัว
00:26:56 → 00:26:59 เราอ่ะครับคือมิตรแท้ของตัวเองแต่บาง
00:26:59 → 00:27:01 ครั้งการใช้ชีวิตในสังคมปัจจุบันนะครับ
00:27:01 → 00:27:03 มันเหมือนเราถูกเชื่อมสอนเนอะผมไม่รู้ว่า
00:27:03 → 00:27:04 เรียกเชื่อมสอนไหมหรือว่าถูกปลูกฝังหรือ
00:27:04 → 00:27:08 ถูกชักจูงให้เราต้องยิ่งเข้มยิ่งต้องมี
00:27:08 → 00:27:11 วินัยยิ่งต้องกดดันอะไรบางอย่างตัวเองให้
00:27:11 → 00:27:14 มากขึ้นเพื่อให้เป็นคนที่เก่งขึ้นทำอะไร
00:27:14 → 00:27:17 ได้มากขึ้นยิ่งใหญ่ขึ้นอะไรก็ไม่รู้ครับ
00:27:17 → 00:27:20 พวกนี้มันเหมือนเป็นการโบยตีตัวเองนะใช้
00:27:20 → 00:27:23 คำว่าปกติตัวเองเดี๋ยวเป็นการกดดันหรือ
00:27:23 → 00:27:26 เป็นการทุบตีเฆี่ยนตีตัวเองเพื่อให้ตัว
00:27:26 → 00:27:29 เองได้วิ่งได้ไปต่อในแบบที่อาจจะแบบล้อไป
00:27:29 → 00:27:32 ตามยุคอุตสาหกรรมมั้งที่แบบทุกคนจะต้อง
00:27:32 → 00:27:35 แบบคล้ายๆกล้าขึ้นจะต้องหยาบขึ้นจะต้องทน
00:27:35 → 00:27:38 จะต้องอึดมากขึ้นแต่การเป็นอย่างนั้นมัน
00:27:38 → 00:27:40 ก็คล้ายๆเราก็ห่างไกลจากความอ่อนโยนกับ
00:27:40 → 00:27:42 ตัวเองอย่างนี้ครับมันเลยกลายเป็นว่าสุด
00:27:42 → 00:27:44 ท้ายเนี่ยโลกภายนอกทุกคนอาจจะได้ไม่ได้
00:27:44 → 00:27:46 เป็นมิตรกับเราแล้วมันจะเหลือแค่เราอ่ะ
00:27:46 → 00:27:48 ครับว่ายังเป็นมิตรกับตัวเองได้หรือเปล่า
00:27:48 → 00:27:51 บางครั้งความใจดีกับตัวเองมันหมายถึงเรา
00:27:51 → 00:27:53 ยังคงรักษาคุณภาพของการที่เราเป็นมิตรกับ
00:27:53 → 00:27:55 ตัวเองรับประทานดีกับตัวเองได้หรือเปล่า
00:27:55 → 00:27:57 อย่างเงี้ยครับการได้เสพสุขบางอย่างที่
00:27:57 → 00:28:00 เป็นเรื่องของวัตถุหรือการบริโภคอย่าง
00:28:00 → 00:28:02 เงี้ยครับพวกนี้ก็เป็นการเหมือนการให้
00:28:02 → 00:28:04 รางวัลตัวเองหรือการพาตัวเองได้ไปสัมผัส
00:28:04 → 00:28:08 สิ่งของเนาะอาจเป็นอาหารการกินรสชาติที่
00:28:08 → 00:28:10 เมื่อกินแล้วรู้สึกว่าชีวิตมันดีเนอะที่
00:28:10 → 00:28:13 เราได้สัมผัสประสบการณ์อย่างนี้รสชาติ
00:28:13 → 00:28:16 อย่างนี้สัมผัสของวัตถุแบบนี้พวกนี้ก็
00:28:16 → 00:28:18 เป็นการเติมเติมความรู้สึกดีกับตัวเองได้
00:28:18 → 00:28:20 เหมือนกันการใจร้ายกับตัวเองจะต้องมีผล
00:28:20 → 00:28:24 ลัพธ์ที่มันจะบ่งชี้ได้เช่นเรารู้สึกว่า
00:28:24 → 00:28:28 สุขภาพเราเริ่มถดถอยเรามีปัญหาการเงินบาง
00:28:28 → 00:28:30 อย่างที่มันเริ่มเข้าเนื้อเรากลายเป็นว่า
00:28:30 → 00:28:32 เราเริ่มเป็นหนี้เป็นสินซะเองเราเกิดความ
00:28:32 → 00:28:34 ลำบากของเราซะเองถ้ามันมีอะไรก็ตามที่
00:28:34 → 00:28:36 เป็นข้อบ่งชี้ว่าเรากำลังลำบากแล้วเราไม่
00:28:36 → 00:28:38 เซฟตัวเองนะครับอันนี้เรียกว่าใจร้ายเรา
00:28:38 → 00:28:39 เองนะ
00:28:39 → 00:28:46 [เพลง]
00:28:46 → 00:28:49 ติดตามรายการทางเว็บไซต์และแอปพลิเคชั่น
00:28:49 → 00:29:04 ของไทย beautiful
00:29:04 → 00:29:09 [เพลง]