00:00:00 → 00:00:03 เราต้องตรวจสุขภาพประจำปีทุกปีใครคิดคำ
00:00:03 → 00:00:06 นี้ขึ้นมาเอาจริงๆป่ะก็คือไม่รู้ใครเป็น
00:00:06 → 00:00:10 คนคิดตรวจสุขภาพประจำปีอือไม่มีพ่อแม่
00:00:10 → 00:00:12 ส่วนมากเนี่ยกลัวลูกจะเจ็บจากการเจาะ
00:00:12 → 00:00:16 เลือดแต่ไม่กลัวลูกจะซีดและโง่โง่เลยหรอ
00:00:16 → 00:00:19 โง่เลยเด็กไทยเนี่ยทั้ง IQ และ EQ เนี่ย
00:00:19 → 00:00:21 ต่ำกว่าเดิมเยอะการตรวจพัฒนการของเด็ก
00:00:21 → 00:00:26 เนี่ยเป็นปัญหาของใครพ่อแม่ลูกหมอหรือคุณ
00:00:26 → 00:00:31 ครูก็ต้องพ่อแม่ป่ะเป็นปัญหาของชาติ
00:00:31 → 00:00:34 ทำไมบางคนตวจสุขภาพทุกปีแต่สุดท้ายก็กลับ
00:00:34 → 00:00:36 เป็นมะเร็งคนส่วนใหญ่คิดว่าโรคกระดูกพุ่น
00:00:36 → 00:00:38 น่ะอาจจะไม่ค่อยได้แบบอันตรายแต่ประเด็น
00:00:38 → 00:00:42 คือเวลาล้มขึ้นมามันหักเลยสะโพกหักทับ
00:00:42 → 00:00:45 เส้นประสาทบ้างเป็นอัมพฤกษ์อัมพัตการตร
00:00:45 → 00:00:47 สุภาพอ่ะไม่ใช่ถูกถูกเราจะรู้ได้ไงว่าอัน
00:00:47 → 00:00:50 ไหนควรตรวจไม่ควรตรวจถ้าเรามีงบจำกัดอ่ะ
00:00:50 → 00:00:52 สิ่งที่ควรตรวจมากที่สุด
00:00:52 → 00:00:55 คือหลายคนน่ะอาจจะคุ้นชินกับประโยคที่ว่า
00:00:55 → 00:00:58 ฮอร์โมนหัวใจว้าวุ่นเพราะฮอร์โมนเแหละทำ
00:00:58 → 00:01:01 ให้ร่างกายเราว้าวุ่นไปหมดเลยสวยทำให้
00:01:01 → 00:01:04 ผิวผ่องรู้สึกดีกับกันทำให้รู้สึกเหี่ยว
00:01:04 → 00:01:07 ซึมเศร้าไม่มีแรงวิธีการตรวจอ่ะคือคนไทย
00:01:07 → 00:01:10 เนี่ยชอบไปหาหมอดูเพื่อถามคำถามมากมายแต่
00:01:10 → 00:01:12 การตรวจสุขภาพนี่แหละที่คุณจะได้คำตอบที่
00:01:12 → 00:01:15 แม่นยำที่สุดว่าคุณเนี่ยมีความเครียดไมจะ
00:01:15 → 00:01:17 เป็นโรคอะไรในอนาคตหรือเปล่าหรือจะมีลูก
00:01:17 → 00:01:20 ยากมขนาดหมอดูอ่ะยังขอวันเดือนปีเกิดวัน
00:01:20 → 00:01:23 ตกฟากเลยหมอก็ขอตรวจเลือดหน่อยได้
00:01:23 → 00:01:26 มยสวัสดีครับยินดีต้อนรับเข้าสู่ doct
00:01:26 → 00:01:28 Talk podcast ที่หมอและผู้เชี่ยวชาญทาง
00:01:29 → 00:01:30 ด้านสุขภาพจจะมาพูดคุยประเด็นเรื่อง
00:01:30 → 00:01:33 สุขภาพต่างๆอยู่กับผมหมอจิมมี่แพทย์ผู้
00:01:33 → 00:01:36 เชี่ยวชาญทางด้านวิทยศาสตร์ป้องกันและหมอ
00:01:36 → 00:01:38 เอมมี่แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้าวิทยาศาสตร์
00:01:38 → 00:01:41 ป้องกันก่อนอื่นเลยหมอขอขอบคุณทุกแชร์ทุก
00:01:41 → 00:01:44 ไลค์และคอมเมนต์นะครับหมอดีใจที่ podcast
00:01:44 → 00:01:46 Doctor Talk เป็นประโยชน์ต่อสุขภาพของ
00:01:46 → 00:01:50 ทุกๆคนที่ผ่านมามีคำถามมากมายทางทีมงาน
00:01:50 → 00:01:53 และหมอก็ไม่สามารถตอบทันทุกอันนะครับหมอ
00:01:53 → 00:01:55 ก็เลยอยากต้องการสร้าง podcast ขึ้นมา
00:01:55 → 00:01:59 ใหม่เพื่อตอบคำถามต่างๆให้ทุกคนได้ใครมี
00:01:59 → 00:02:01 คำถามอะไรก็สามารถกดลิงก์ข้างล่างนี้ได้
00:02:01 → 00:02:04 หรือสแกน QR Code นะครับทั้งทีมหมอและ
00:02:04 → 00:02:07 ทีมงานก็จะเลือกคำถามที่เหมาะสมแล้วมาตอบ
00:02:07 → 00:02:10 ใน podcast ต่อไปแต่ก่อนที่จะเขียนมานั้น
00:02:10 → 00:02:12 หมอก็อยากจะให้เล่าเรื่องประวัติของตัว
00:02:12 → 00:02:16 เองไลฟ์สไตล์ยาตรวจอะไรมาบ้างหมอจะได้ตอบ
00:02:16 → 00:02:19 คำถามใน podcast ต่อไปได้อย่างแม่นยำครับ
00:02:19 → 00:02:20 ทุกคนรู้อยู่แล้วแหละว่าต้องตรวจสุขภาพ
00:02:21 → 00:02:23 แต่ไอ้คำว่าตรวจสุขภาพอ่ะมันคือตรวจอะไร
00:02:23 → 00:02:26 กันแน่ถ้าเราดูในปัจจุบันเนี่ยหลายๆที่
00:02:26 → 00:02:28 ไม่ว่าเป็นสถานโรงพยาบาลหรือคลินิกก็แล้ว
00:02:28 → 00:02:31 แต่เนี่ยมีแพ็คเกจมากมาสำหรับเรื่องการ
00:02:31 → 00:02:33 ตรวจสุขภาพคือส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของ
00:02:33 → 00:02:36 อายุเนาะอายุ 30 ปีเท่านี้ตรวจอันนี้อายุ
00:02:36 → 00:02:38 40 50 ปีตรวจเท่านี้แต่เราบางคนก็อาจจะ
00:02:38 → 00:02:41 ไม่เข้าใจว่าอ้าเราต้องตรวจอะไรอะไรเหมาะ
00:02:41 → 00:02:43 สมอะไรไม่เหมาะสมแล้วเมื่อไหร่ถึงจะไป
00:02:43 → 00:02:46 ตรวจต้องเข้าใจก่อนคำว่าคำว่าตรวจสุขภาพ
00:02:46 → 00:02:50 เนี่ยมันหมายถึงว่าคุณอาจจะยังไม่เป็นโรค
00:02:50 → 00:02:53 แต่เราต้องการไปตรวจเพื่อหาปัจจัยเสี่ยง
00:02:53 → 00:02:55 หรืออะไรก็แล้วแต่ที่อาจจะทำให้เราเป็น
00:02:55 → 00:02:58 โลกในอนาคตก็ได้รวมไปถึงการปรับเปลี่ยน
00:02:58 → 00:03:01 พฤติกรรมการตรวจสุขภาพไม่ได้หมายความว่า
00:03:02 → 00:03:05 เราต้องให้คุณเป็นโรคนะแต่เราหาปัจจัยว่า
00:03:05 → 00:03:07 เอ๊ะคุณสามารถปรับเปลี่ยนอะไรบ้างหมอ
00:03:07 → 00:03:09 เอมมี่เคยได้ยินมยว่าเราต้องตรวจสุขภาพ
00:03:09 → 00:03:13 ประจำปีทุกปีเป็นปกติเลยอย่างงี้ก็คือเอา
00:03:13 → 00:03:15 อย่างี้ดีกว่าใครคิดคำนี้ขึ้นมาเอาจริงๆ
00:03:16 → 00:03:18 ป่ะก็คือไม่รู้เ้ยจริงๆอันเนี้ยอันนี้หมอ
00:03:18 → 00:03:20 จิมมี่ก็ไปเสิร์ชเหมือนกันใน Google ใคร
00:03:20 → 00:03:24 เป็นคนคิดตรวจสุขภาพประจำปีอือไม่มีออเออ
00:03:24 → 00:03:27 แล้วทำไมต้องตรวจทุกปีบางคนบอกว่าเออฉัน
00:03:27 → 00:03:30 ต้องตรวจทุกปีทุกวันที่ 1 มลาหรือตอนต้น
00:03:30 → 00:03:32 ปีใหม่ไปรูดบัตรเครดิตรู้สึกสุขภาพดีแหละ
00:03:32 → 00:03:35 ขอแค่รูดแค่รูดก็รู้สึกดีเหมือนๆเหมือนคน
00:03:35 → 00:03:37 จะไปออกกำลังกายอยากลดน้ำหนักเออขอให้
00:03:37 → 00:03:40 ซื้อรองเท้าคู่นึงหรือไปสมัครยิมรู้สึกดี
00:03:40 → 00:03:43 แล้วรู้สึกผอมและเหมือนกันคนไทยเนี่ยเขา
00:03:43 → 00:03:46 บอกว่าปีที่แล้วเนี่ยเสียเงินกับการตรวจ
00:03:46 → 00:03:50 สุขภาพประจำปี 2,200 ล้านบาทถือว่าเยอะ
00:03:50 → 00:03:52 มากคถือว่าเยอะมากแต่ตรวจไม่ตรวจอันนี้
00:03:52 → 00:03:54 ไม่รู้อีกเรื่องนึ่งคราวนี้ต้องมาดูว่า
00:03:54 → 00:03:58 ตรวจสุขภาพเพื่ออะไร 1 เราต้องหาคำว่าภัย
00:03:58 → 00:04:00 เงียบในร่างกายของเรามันมีภัยอะไรหรือ
00:04:00 → 00:04:03 เปล่าที่ทำให้เราเป็นโรคในอนาคตเช่นเบา
00:04:03 → 00:04:06 หวานไขมันความดันเอาง่ายๆเลยเพราะโรคพวก
00:04:06 → 00:04:09 เนี้ยมันใช้เวลานานกว่าจะแสดงอาการเป็น
00:04:09 → 00:04:12 โรคตอนแรกๆเนี่ยไม่มีอาการชะด้วยซ้ำแต่
00:04:12 → 00:04:15 การตรวจสุขภาพเนี่ยมันจะอาจจะดีทคได้หรือ
00:04:15 → 00:04:18 ทราบได้ว่าเอ๊ยคุณมีความเสี่ยงนะแล้วเรา
00:04:18 → 00:04:20 จะได้ป้องกันมันยังไงรวมไปถึงโรคมะเร็ง
00:04:20 → 00:04:23 ด้วยถ้าคุณเป็นโรคมะเร็งแบบระยะแรกๆเช่น
00:04:23 → 00:04:27 มะเร็งเต้านมหรือมะเร็งมดลูกเนี่ยคือถ้า
00:04:27 → 00:04:29 detect หรือตรวจได้ตั้งแต่แรกคุณก็ส
00:04:29 → 00:04:32 สามารถรักษาและป้องกันบางเคสสามารถหายได้
00:04:32 → 00:04:35 เลยทีเดียวอันที่ 2 คือหาปัจจัยเสี่ยง
00:04:35 → 00:04:39 หมายความว่าเอ๊ะดื่มเหล้าสุบบหรี่ความ
00:04:39 → 00:04:42 เครียดไม่ออกกำลังกายการรับประทานอาหาร
00:04:42 → 00:04:44 คุณมีความเสี่ยงอะไรหรือเปล่าแล้วหมอมี
00:04:44 → 00:04:47 หน้าที่ในการทำให้ปัจจัยเสี่ยงนั้นเนี่ย
00:04:47 → 00:04:50 ค่อยๆลดหรือหลีกเลี่ยงมันไปเพื่อทำให้
00:04:50 → 00:04:53 สุขภาพแข็งแรงมากยิ่งขึ้นก็จริงแต่ว่ามัน
00:04:53 → 00:04:55 ไม่ใช่ว่าแค่เราแนะนำคนไข้นะแต่ว่าคนไข้
00:04:55 → 00:04:58 ต้องทำด้วยอ่าอันนั้นน่ะสำคัญที่สุดเลย
00:04:58 → 00:05:00 เพราะว่าอะไรเพราะว่าประเด็นคือปัจจุบัน
00:05:00 → 00:05:02 เนี้ยคนนไข้อ่ะไม่ค่อยเข้าใจว่าแบบว่าไอ้
00:05:02 → 00:05:04 การตรวจสุขภาพมันมีอะไรบ้างเพราะว่ามัน
00:05:04 → 00:05:06 เยอะมากใช่ป่ะแล้วก็เราไม่สามารถอธิบาย
00:05:06 → 00:05:08 ทุกอย่างให้คนไข้เข้าใจได้เพราะมันค่อน
00:05:08 → 00:05:10 ข้างซับซ้อนคราวนี้คนไข้ก็เลยอาจเข้าใจ
00:05:10 → 00:05:13 ว่าเอ๊ะการตรวจแบบเป็นตามช่วงวัยหรืออายุ
00:05:13 → 00:05:15 เนี่ยมันง่ายเพราะมันเข้าใจว่าเออ้อายุ
00:05:15 → 00:05:17 น้อยกว่า 15 ปีมากกว่า 30 ปีมากกว่า 50
00:05:17 → 00:05:20 ปีฉันควรตรวจแพ็คเกจนั้นแต่ประเด็นคือ
00:05:20 → 00:05:21 ปัจจุบันเนี้ยอย่างที่เราพูดกันเนาะ
00:05:21 → 00:05:25 ไลฟ์สไตล์คววามรีบเร่งความเครียดต่างๆ
00:05:25 → 00:05:27 แล้วก็ที่สำคัญมนตภาวะโดยเฉพาะถ้าเราอยู่
00:05:27 → 00:05:30 ในกรุงเทพฯเนี่ย pm 2. 5 เอย
00:05:30 → 00:05:32 ไมโครพลาสติกต่างๆเอยเนี่ยมันอาจจะกระทบ
00:05:32 → 00:05:34 สุขภาพเรามากกว่านั้นก็ได้คือมันเยอะกว่า
00:05:34 → 00:05:37 สมัยก่อนใช่ทำให้ว่าแพ็คเกจการตรวจแบบตาม
00:05:37 → 00:05:41 อายุมันอาจจะไม่พอไงเนาะคราวเนี้ยของหมอ
00:05:41 → 00:05:43 เองเนี่ยก็แบบมีเหมือนกันก็คือแบว่ามีคน
00:05:43 → 00:05:46 ไข้เนี่ยอายุประมาณ 35 ปีเองเนาะมามาตรวจ
00:05:46 → 00:05:48 กับเราเงี้ยก็บอกว่าเอ๊ะทำไมมาตรวจก็แบบ
00:05:48 → 00:05:50 เห็นแบบไปซื้อแพ็คเกจเยอะมากแบบว่าไปไป
00:05:50 → 00:05:53 ตามแบบโรงพาบาลคลินิกอ่ะ 2-3 คลินิกแล้ว
00:05:53 → 00:05:55 ตรวจทุกอย่างเขาบอกปกติเลยแล้วบอกว่าเอ๊ะ
00:05:55 → 00:05:58 คนไข้เป็นอะไรคนไข้บอกว่าเนี่ยหมอคะบอก
00:05:58 → 00:06:02 ว่ามีการแบบเหนื่อยค่ะตื่นแบบไม่เฟรชเลย
00:06:02 → 00:06:04 แล้วก็บอกว่าเป็นภูมิแพ้คือแบบว่ามีผื่น
00:06:04 → 00:06:06 ขึ้นตามหน้าตามตัวตลอดเวลานอนไม่ได้เลย
00:06:06 → 00:06:09 เพราะมันคันไงอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็บอกว่า
00:06:09 → 00:06:12 เอ๊ะแบบว่าทำอาชีพอะไรคนไข้บอกว่าอ๋อเป็น
00:06:12 → 00:06:14 สัตวแพทย์ค่ะอะไรอย่าเงี้ยต้องทำงานเยอะ
00:06:14 → 00:06:17 มากเ้าบอกว่าทำงานเนี่ยตั้งแต่ 8:00 นถึง
00:06:17 → 00:06:19 20:00 นแต่ 20:00 นนี่คือไม่ได้เสร็จดี
00:06:19 → 00:06:21 นะกว่าถึงบ้าน 23:00 นแล้วก็กได้นอนคือ
00:06:22 → 00:06:23 เที่ยงคืนแล้วก็ตื่น 18:00 นคือทำอย่าง
00:06:23 → 00:06:25 เงี้ยเป็นรูทีนทุกวันทุกวันแล้วบอกว่าได้
00:06:25 → 00:06:28 หยุดบ้างมั้ยอาทิตย์นึงก็อาจจะหยุดแค่วัน
00:06:28 → 00:06:30 เดียวอย่างเงี้ยซึ่งมันทำงานค่อนข้าง
00:06:30 → 00:06:32 โอเวอโหลดมากก็เลยทำให้คนไข้อ่ะมีภาวะ 1
00:06:32 → 00:06:35 ความเครดสะสมใช่ป่ะที่เราคุยกัน 2 พัก
00:06:35 → 00:06:37 ผ่อนไม่เพียงพอเวลาออกกำลังกายไม่ต้องพูด
00:06:38 → 00:06:40 ถึงเนาะคือมันแบบไม่โอเคกินอาหารก็ไม่ตรง
00:06:40 → 00:06:42 เวลาแล้วก็ไม่เหมาะสมกับตัวเองด้วยอย่าง
00:06:42 → 00:06:46 เงี้ยแล้วที่สำคัญคนไข้มีอาการแพ้ขนสัตว์
00:06:46 → 00:06:49 อีกแล้วก็คุณก็ทำในอาชีพนั้นเออคุณทำ
00:06:49 → 00:06:51 อาชีพนั้นไงคุณก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้
00:06:51 → 00:06:54 ันนี้เราเราตรวจมาก็คือ 1 ตรวจเลือดมาการ
00:06:54 → 00:06:57 อักเสบก็ผิดปกติใช่มเพราะว่าแพ้ขนอะไร
00:06:57 → 00:07:00 อย่างเงี้ย 2 ฮอร์โมนเนาะที่ตรวจมาก็คือ
00:07:00 → 00:07:03 แบบอายุ 35 แต่ฮอร์โมนเหมือนคนอายุ 560
00:07:03 → 00:07:05 อ่ะเพราะมันแบบพักผ่อนไม่พอมันซ่อมแซนตัว
00:07:05 → 00:07:08 เองไม่ได้อย่างเงี้ย 3 ก็คือทำให้เป็นโรค
00:07:08 → 00:07:09 ที่เป็นภูมิแพ้เนี่ยหนักยิ่งขึ้นการ
00:07:09 → 00:07:12 อักเสบมากขึ้นฉะนั้นถ้าเราไม่ตรวจตรงนี้
00:07:12 → 00:07:14 เลยตรวจแค่ตามวยมันอาจจะไม่เจออะไรเลย
00:07:14 → 00:07:16 แล้วเราก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาของคนไข้ได้
00:07:17 → 00:07:19 อันนี้ก็คือเคสแรกๆที่เจอเนาะจริงๆอย่าง
00:07:19 → 00:07:21 ที่หมอเอมมี่พูดมาก็ถูกนะครับเนาะเพราะ
00:07:21 → 00:07:23 ว่าหลายๆคนเนี่ยอาจจะคิดว่าเอ้ยต้องรอ
00:07:23 → 00:07:26 อายุจนกว่า 30 40 แล้วค่อยไปตรวจเพราะ
00:07:26 → 00:07:28 ฉะนั้นเนี่ยคือถ้าปัจจุบันเนี่ยมันด้วย
00:07:28 → 00:07:31 ความว่ามีมลพิษมากมายแล้วเรื่องของความ
00:07:31 → 00:07:33 เครียดมาด้วยเนี่ยคือคุณไม่ต้องรอถึงอายุ
00:07:33 → 00:07:36 30 แล้วไปตรวจเนิๆเนี่ยถ้าคุณรู้ว่าคุณ
00:07:36 → 00:07:38 มีปัจจัยเสี่ยงคุณมีอาการแล้วเนี่ยก็ควร
00:07:38 → 00:07:40 ไปตรวจสุขภาพตั้งแต่แรกๆเราจะได้รู้ว่า
00:07:40 → 00:07:43 เราอ่ะเป็นโรคอะไรหรือสามารถป้องกันอะไร
00:07:43 → 00:07:45 ได้บ้างถึงแม้การตรวจสุขภาพตามอายุอาจจะ
00:07:45 → 00:07:48 ไม่ครอบคลุมสำหรับใครบางคนแต่จริงๆแล้ว
00:07:48 → 00:07:50 เนี่ยเราต้องมาดูก่อนเรื่องของมาตรฐานการ
00:07:50 → 00:07:53 ตรวจสุภาพของเมืองไทยแบ่งออกมาเป็นกี่
00:07:53 → 00:07:55 ชนิดตามที่กระทรวงแนะนำปกติแล้วเนี่ยเขา
00:07:55 → 00:07:58 จะแบ่งมาทั้งหมด 4 กลุ่มด้วยกัน 1 คือ
00:07:58 → 00:07:59 เด็กต่ำอายุ 18
00:08:00 → 00:08:03 กลุ่มที่ 2 18-60 ปีกลุ่มที่ 3 คือมาก
00:08:03 → 00:08:06 กว่า 60 ปีและกลุ่มสุดท้ายคือกลุ่มตั้ง
00:08:06 → 00:08:08 ครรภ์แต่เดี๋ยวหมอขอบอกไว้ก่อนนะครับ EP
00:08:08 → 00:08:11 นี้เนี่ยเราจะไม่พูดถึงคนตั้งครรภ์นะครับ
00:08:11 → 00:08:13 เนาะก็สามารถกดลิงก์ได้นะครับสำหรับใคร
00:08:13 → 00:08:15 ที่สนใจเรื่องของกลุ่มคนตั้งครรภ์นะครับ
00:08:15 → 00:08:18 เนาะอ่ะเดี๋ยวเรามาดูแต่ละกลุ่มเลยดีกว่า
00:08:18 → 00:08:21 อันแรกเนี่ยคือเด็กหรือว่าที่ต่ำกว่าอายุ
00:08:21 → 00:08:24 18 ปีเราต้องตรวจคัดกรองทั้งหมด 3 อย่าง
00:08:24 → 00:08:27 ด้วยกันอันแรกนี่เรื่องของการได้ยินเรา
00:08:27 → 00:08:29 ควรดูว่าเด็กมีการพัฒนาการได้ยินก่อน 6
00:08:30 → 00:08:32 เดือนหรือเปล่าอย่าไปลังเลใจว่าเอ๊ะเด็ก
00:08:32 → 00:08:34 เขาจะได้ยินหรือเปล่าเพราะว่า้ามากกว่า 6
00:08:34 → 00:08:37 เดือนขึ้นไปเนี่ยเด็กอาจจะเป็นใบ้ก็ได้
00:08:37 → 00:08:39 หรือทำให้การพัฒนาการของเด็กเนี่ยเลือ
00:08:40 → 00:08:44 ด้านภาษาลดน้อยลงอือ 2 ภาวะซีดเด็กไทย 1
00:08:44 → 00:08:47 ใน 4 คนเนี่ยจะมีภาวะซีดแต่การภาวะซีด
00:08:47 → 00:08:49 เนี่ยเราไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้เพราะ
00:08:49 → 00:08:51 ฉะนั้นเนี่ยวิธีการวินิจฉัยที่ดีที่สุด
00:08:51 → 00:08:54 คือการเจาะเลือดอันเนี้ยไปอ่านในเว็บไซต์
00:08:54 → 00:08:56 มาของกระทรวงสาธารสุขขออนุญาตอ่านนะครับ
00:08:56 → 00:08:58 เขาบอกไว้ว่าพ่อแม่ส่วนมากเนี่ยไม่ให้
00:08:58 → 00:09:01 ความสำคัญของภาวะซีดเพราะกลัวลูกจะเจ็บ
00:09:01 → 00:09:04 จากการเจาะเลือดเพื่อเป็นการตรวจคัดก้อง
00:09:04 → 00:09:08 แต่ไม่กลัวลูกจะซีดและโง่โง่เลยเหรอโง่
00:09:08 → 00:09:10 เลยคืออย่างงี้ก็คืออันเนี้ยขอแทรกนิดนึง
00:09:10 → 00:09:13 เผอิญว่าเจอเยอะเหมือนกันเพราะว่าแบบมีคน
00:09:13 → 00:09:16 ไข้ไม่ใช่คนไข้คือคนไข้อ่ะเอาลูกมาหาแล้ว
00:09:16 → 00:09:18 ก็แบบมาให้อ่านผลเลือดไงแล้วก็บอกว่าเออ
00:09:18 → 00:09:21 ลูกเนี่ยมีภาวะซีดนะจะกินแบบว่าเม็ดเลือด
00:09:21 → 00:09:24 ได้มคือกินธาตุเหล็กนั่นเองประเด็นก็คือ
00:09:24 → 00:09:27 ว่าส่วนใหญ่พ่อแม่กลัวลูกเจ็บก็เลยไม่
00:09:27 → 00:09:29 อนุญาตให้ตรวจพอไม่ตรวจก็ไม่รู้ว่าลูกจะ
00:09:29 → 00:09:32 ซีดแล้วซีดจากอะไรเป็นสาเหตุอะไรก็เลยอาจ
00:09:32 → 00:09:34 จะโง่อย่างที่บอกก็ได้อืมอ่ะและอันสุด
00:09:34 → 00:09:36 ท้ายนะครับเนาะก็คือเรื่องของภาวะช่องปาก
00:09:36 → 00:09:39 และฟันนั่นเองเพราะว่าเด็กก็ชอบกินขนมชอบ
00:09:39 → 00:09:41 กินอะไรมันก็มีเรื่องของฟันผุเพราะฉะนั้น
00:09:41 → 00:09:43 เด็กเรื่องของสุขภาพช่องปากก็ควรตรวจก่อน
00:09:43 → 00:09:46 อายุ 3 ขวบเพราะว่าถ้าสุขภาพช่องปากไม่ดี
00:09:46 → 00:09:49 ก็อาจจะให้เด็กเนี่ยเตี้ยได้และการพัฒนาก
00:09:49 → 00:09:51 งารนที่ช้าลงคราวนี้อยากจะถามหมอเอมี่
00:09:51 → 00:09:54 หน่อยว่าการตรวจพัฒนาการของเด็กเนี่ยเป็น
00:09:54 → 00:09:59 ปัญหาของใครพ่อแม่ลูกหมอหรือคุณครูก็ต้อง
00:09:59 → 00:10:02 พ่อแม่ป่ะเป็นปัญหาของชาติของชาติเลยเหรอ
00:10:02 → 00:10:05 ของชาติเลยเพราะว่าปัจจุบันเนี่ยเด็กไทย
00:10:05 → 00:10:08 เนี่ยทั้ง IQ และ EQ เนี่ยต่ำกว่าเดิม
00:10:08 → 00:10:10 เยอะประมาณ 1 ใน 3 เลยเพราะฉะนั้นเนี่ย
00:10:10 → 00:10:12 การพัฒนาการของเด็กเนี่ยเราต้องตรวจทั้ง
00:10:13 → 00:10:15 หมด 3 รอบด้วยกันก็คือ 9 เดือน 18 เดือน
00:10:15 → 00:10:19 และ 24 เดือนถ้าเด็กไม่เป็นไปตามเดือนที่
00:10:19 → 00:10:22 เราดูไว้เนี่ยตามพัฒนาการเนี่ยก็รีบไปหา
00:10:22 → 00:10:24 แพทย์แล้วเราจะได้ป้องกันไม่ให้เด็กเนี่ย
00:10:24 → 00:10:27 มี IQ หรือ EQ ต่ำได้แล้วจริงๆแล้วเนี่ย
00:10:27 → 00:10:29 ที่หมอจิมมี่พูดมาเนาะว่าการการตรวจเลือด
00:10:29 → 00:10:32 ซี่ของเด็กเนาะแล้วก็การตรวจช่องปากหรือ
00:10:32 → 00:10:35 ฟันเนี่ยจริงๆแล้วอ่ะทางกระทรวงสาธารณสุข
00:10:35 → 00:10:37 เนี่ยเขาก็ไปให้บริการในโรงเรียนอยู่แล้ว
00:10:37 → 00:10:40 เพื่อให้แบบว่าเด็กได้ตรวจฟรีเนาะหรือแม้
00:10:40 → 00:10:42 กระทั่งการรับวัคซีนบางอย่างจริงๆก็แค่
00:10:42 → 00:10:44 พ่อแม่อ่ะให้เซ็นอนุญาตไปเนาะแล้วก็เด็ก
00:10:44 → 00:10:47 ก็จะได้รับการบริการตามความเหมาะสมอ่า
00:10:47 → 00:10:49 โอเคอ่ะคราวนี้เดี๋ยวเรามาดูช่วงที่ 2
00:10:49 → 00:10:51 แล้วกันเนาะช่วงที่ 2 ก็คืออายุตั้งแต่ 18
00:10:51 → 00:10:54 ปีถึง 60 ปีสิ่งแรกที่ต้องดูเรื่องของคำ
00:10:54 → 00:10:58 ว่าหวานดันมันอือเบาหวานความดันและไขมัน
00:10:58 → 00:11:01 นั่นเองอว่าหวานดันมันเนี่ยใช้เวลานานมาก
00:11:01 → 00:11:03 กว่าจะเป็นโรค 10-15 ปีเลยก็ได้เพราะ
00:11:03 → 00:11:05 ฉะนั้นต้องมีการตรวจคัดกรองว่าคุณมีความ
00:11:05 → 00:11:07 เสี่ยงของ 3 โรคนี้หรือเปล่าที่หมอจิไม่
00:11:07 → 00:11:10 พูดถึงเรื่องหวานดันมันเนาะทีนี้ก็อยากขอ
00:11:10 → 00:11:12 ยกตัวอย่างเคสเรื่องดันะกันเนี่ยมีคนไข้
00:11:12 → 00:11:15 เพิ่งมาหาเลยใกล้ๆนี้เนาะก็คือแบบว่าเป็น
00:11:15 → 00:11:17 ผู้ชายไทยอายุประมาณแบบ 60 ปีแล้วเขาก็
00:11:17 → 00:11:20 บอกว่าเนี่ยเผอิญช่วงโควิดอ่ะเป็นโควิด
00:11:20 → 00:11:23 คือหมือนถึงว่าหมาคนคนไเป็นโควิดเยอะก็
00:11:23 → 00:11:25 เลยไม่กล้าไปตรวจสุขภาพเพราะว่ากลัวที่จะ
00:11:25 → 00:11:28 เป็นโควิดอ่าก็เลยไม่ได้ไปคราวนี้เบอกว่า
00:11:28 → 00:11:30 เก็กินอาหารตามปกตินะแต่เขาก็รู้ว่าเอ่ะ
00:11:30 → 00:11:33 มีโรคความดันแต่ก็เป็นไม่ได้เยอะไงก็เลย
00:11:33 → 00:11:35 ไม่ได้กินยานึกว่าไม่เป็นอะไรคราวนี้อยู่
00:11:36 → 00:11:38 ๆเนี่ยก็ปีนี้เดือนเดือนประมาณเดือน
00:11:38 → 00:11:40 พฤษภาคมก็อยู่ว่าเอ๊ะทำไมแบบน้ำหนักมัน
00:11:40 → 00:11:43 ขึ้นเยอะตัวบวมจากกน้ำหนัก 70 ขึ้นเป็น 90
00:11:43 → 00:11:45 แล้วแบบเหนื่อยมากแบบหายใจไม่ออกคราวนี้
00:11:45 → 00:11:47 นึกว่าเป็นโรคหัวใจก็เลยไปที่โรงพยาบาล
00:11:48 → 00:11:49 แล้วปรากฏว่าหมอตรวจออกมาก็คือว่าเป็น
00:11:50 → 00:11:53 ภาวะไตวายฉับพลั่นเออก็คือแบบว่าตัวบวม
00:11:53 → 00:11:55 จากที่ไตไม่ทำงานก็เลยต้องมีการรักษาขับ
00:11:56 → 00:11:58 ปัสสาวะขับน้ำออกอะไรออกรักษาไตอะไรอย่าง
00:11:58 → 00:12:01 เงี้ยก็เลยถึงจะว่าประคองมาได้แล้วก็น้ำ
00:12:01 → 00:12:03 หนักลดลงไปเหลือ 70 กว่าแล้วก็คือคุมน้ำ
00:12:03 → 00:12:05 ได้แล้วประเด็นเรื่องนี้ก็คืออยากบอกว่า
00:12:05 → 00:12:07 การที่เราปล่อยป่ารักเลยเรื่องความดันมา
00:12:07 → 00:12:10 เป็นระยะเวลานานๆโดยที่เราไม่ได้ไปเ้า
00:12:10 → 00:12:12 เรียกว่าตรวจต่อเนื่องเนาะทำให้ท้ายที่
00:12:12 → 00:12:15 สุดอ่ะไตพังได้เลยนะก็เมื่อกี้หมอเอไม่
00:12:15 → 00:12:17 พูดมาเรื่องของดันเนาะอันนี้คือเรื่องของ
00:12:17 → 00:12:19 หวานกับมันแล้วกันเนาะเรื่องของความหวาน
00:12:19 → 00:12:21 เนี่ยหลายๆคนอาจจะบอกว่าอุ๊ยฉันชอบติด
00:12:21 → 00:12:23 หวานชอบกินนู้นแต่ไปตรวจเลือดมาแล้วเนี่ย
00:12:23 → 00:12:26 ก็ไม่ได้เป็นเบาหวานแต่น้ำตาลเริ่มเกินก็
00:12:26 → 00:12:29 เอ๊ะไม่ได้เป็นโรคนี่แค่น้ำตาลเกินก็กิน
00:12:29 → 00:12:31 ต่อไม่เห็นเป็นไรฉันไม่ได้เป็นโรคนี่ไม่
00:12:31 → 00:12:33 ได้เห็นเป็นภาวะอะไรไม่ได้ไม่ได้รู้สึก
00:12:33 → 00:12:35 เหนื่อยไม่ได้เป็นปัสสาวะบ่อยไม่เห็นมี
00:12:35 → 00:12:38 ภาวะแต่ถ้าคุณยังทำพฤติกรรมนั้นไปเรื่อยๆ
00:12:38 → 00:12:40 ปล่อยความหวานไปเรื่อยๆเพิ่มความหวานเข้า
00:12:40 → 00:12:43 ไปในร่างกายเรื่อยๆเนี่ยสุดท้ายแล้วเนี่ย
00:12:43 → 00:12:45 คุณก็จะเป็นเบาหวานอเพราะสิ่งสำคัญเนี่ย
00:12:45 → 00:12:47 ถ้าคุณเป็นเบาหวานเมื่อไหร่เนี่ยมันจะไป
00:12:47 → 00:12:50 ส่งกระทบต่ออวัยวะอื่นด้วยเรื่องของตาย
00:12:50 → 00:12:52 เรื่องของตาถูกมั้ยครับเนาะแล้วก็ไขมัน
00:12:52 → 00:12:55 เหมือนกันถ้าคุณปล่อยละเลยมากๆไข่มันถ้า
00:12:55 → 00:12:59 มันก่อขึ้นมากเรื่อยๆในระยะ 10-5 ปีเนี่ย
00:12:59 → 00:13:01 ก็อาจจะทำให้คุณเป็นเรื่องของอัมพฤกษ์
00:13:01 → 00:13:03 อัมพาดเรื่องของหลอดเลือดและหัวใจหรือ
00:13:03 → 00:13:05 เรื่องของสตกเลยก็ได้ทีเดียวจริงเพราะว่า
00:13:05 → 00:13:08 อันนี้ขอยกตัวอย่างนิดนึงก็คือมีคนไข้
00:13:08 → 00:13:10 เป็นคนต่างชาติเาะเป็นฝรั่งอายุแค่แบบ 40
00:13:10 → 00:13:13 กว่าปีเองบอกว่าเอ้ยหมอผมแบบฟิตมากมาเจอ
00:13:13 → 00:13:15 เราเพราะบอกว่าอยากดูแลตัวเองให้ดีไงคราว
00:13:15 → 00:13:17 นี้ก็เลยบอกว่าก็เลยแบบว่าออกกำลังกาย
00:13:17 → 00:13:21 ด้วยดูแลสุขภาพด้วยแต่ชอบกินของทอดมาก
00:13:21 → 00:13:24 แล้วชอบกินของทอดไม่ธรรมดาบอกว่าหมู 3
00:13:24 → 00:13:25 ชั้นอะไรอย่างเงี้ยเนาะแล้วก็เป็นของ
00:13:25 → 00:13:28 อาหารเยอรมันขาหมูทออะไรอย่างเงี้ยชอบกิน
00:13:28 → 00:13:30 มากเลยคราวนี้ไม่อยู่วันนึงเค้าบอกว่า
00:13:30 → 00:13:32 กำลังเดินลู่สายพานอยู่ปกติเขาจะเดินอยู่
00:13:32 → 00:13:35 ะอยู่ๆก็บอกว่าอุ๊ยเจ็บแน่นหน้าอกหาใจไม่
00:13:35 → 00:13:37 ออกเลยอะไรอย่างเงี้ยคราวนี้ก็เลยไปตรวจ
00:13:37 → 00:13:39 แล้วก็เจอว่าเออเส้นเส้นเลือดอ่ะคือมัน
00:13:39 → 00:13:41 บล็อกไปเลยนะไม่ใช่คอร์ดมันบล็อกไปเลยจน
00:13:42 → 00:13:44 ก็ต้องแบบต้องสวนหัวใจทั้งที่อายุแค่ 10
00:13:44 → 00:13:47 กว่า 4 กว่าเองอันนี้ก็เป็นบอกว่าเออถึง
00:13:47 → 00:13:49 แม้ว่าคุณน่ะคิดว่าการตรจสุขภาพทุกอย่าง
00:13:49 → 00:13:52 ดูปกตินะแต่เรื่องนี้ก็อาจจะเกิดได้เพราะ
00:13:52 → 00:13:55 ว่าคุณมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมอืออันที่ 2
00:13:55 → 00:13:57 คือเรื่องของโรคมะเร็งนะครับเนาะก็คือ
00:13:57 → 00:14:00 เรื่องของมะเร็งเต้านมมะเร็งปากมดลูกและ
00:14:00 → 00:14:03 ก็มะเร็งลำไส้และอันสุดท้ายก็คืออ่าเขา
00:14:03 → 00:14:05 เรียกว่าอะไรพฤติกรรมเสี่ยงเช่นการสูบ
00:14:05 → 00:14:07 บุหรี่และดื่มเหล้านั่นเองถึงแม้ว่า
00:14:07 → 00:14:10 ปัจจุบันจะมีการรณรงค์มากมายเรื่องของไม่
00:14:10 → 00:14:13 ไหสูบบุหรี่เรื่องของโทษของการดื่มสุรา
00:14:13 → 00:14:16 แต่วัยทำงานเนี่ยก็ยังมีปัญหามากแต่อีก
00:14:16 → 00:14:19 อันนึงเพิ่งไปฟัง podcast ของต่างประเทศ
00:14:19 → 00:14:21 มาเขาบอกว่า sitting is the new
00:14:21 → 00:14:24 Smoking มันหมายความว่าไงหมก็หมายความ
00:14:24 → 00:14:26 ว่าการที่เรานั่งนานๆหรือว่ามีพฤติกรรม
00:14:26 → 00:14:28 ที่เนื่อยนิ่งเนี่ยมีความอันตรายมากกับ
00:14:28 → 00:14:30 การสูบถูกต้องเพราะฉะนั้นเนี่ยอันนี้อาจ
00:14:30 → 00:14:32 จะเป็น 1 พฤติกรรมก็ได้ที่ควรเข้าไปอยู่
00:14:32 → 00:14:36 ในเรื่องของคนอายุประมาณ 18-60 ปีอ่าแล้ว
00:14:36 → 00:14:39 มาช่วงสุดท้ายก็คืออายุมากกว่า 60 ปีเป็น
00:14:39 → 00:14:41 ต้นไปสิ่งที่ต้องตรวจคือเรื่องของตาอัน
00:14:41 → 00:14:44 นี้สำคัญมากเพราะว่าไม่ว่าจะเป็นต้อหิน
00:14:44 → 00:14:46 หรือว่าต้อกระจกหรือจอเค้าเรียกว่าอะไร
00:14:47 → 00:14:50 อ่ะจอจอสาตาเสื่อมสายตาสั้นสายตายาวเพราะ
00:14:50 → 00:14:52 ฉะนั้นเนี่ยคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีขึ้น
00:14:52 → 00:14:56 ไปควรไปเจอจักสุแพทย์นิดนึงเพื่อไปตูจว่า
00:14:56 → 00:14:58 เอ๊ะตาปัจจุบันเนี่ยมีปัญหาอะไรหรือเปล่า
00:14:58 → 00:15:01 อือแล้วจะได้แก้ไขได้เพราะถ้าคุณปล่อย
00:15:01 → 00:15:03 ทิ้งเอาไว้นานๆเนี่ยอาจจะไปถึงทำให้คุณ
00:15:03 → 00:15:06 เป็นตาบอดเลยะทีเดียวและมันก็จะไปส่งผล
00:15:06 → 00:15:10 ต่อชีวิตของคุณไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการ
00:15:10 → 00:15:13 กินการนอนการใช้ชีวิตหรือแม้กระทั่งอาจจะ
00:15:13 → 00:15:15 เกิดอุบัติเหตุก็ได้ถ้าสายตาของคุณไม่ดี
00:15:15 → 00:15:17 ใช่เฉพาะอันเนี้ยโดยเฉพาะว่าเรื่องตาเนาะ
00:15:17 → 00:15:19 เป็นเรื่องสำคัญเพราะว่าคุณภาพชีวิตของ
00:15:19 → 00:15:21 คุณน่ะวันๆนึงคุณต้องใช้ตาทำอะไรมากมาย
00:15:21 → 00:15:23 ถ้าคุณมองไม่เห็นเนี่ยคุณก็ต้องพึ่งพาคน
00:15:23 → 00:15:26 อื่นและคุณไม่สามารถแบบว่าใช้ชีวิตด้วย
00:15:26 → 00:15:28 ตัวเองได้ออ่าอันที่ 2 ต่อมาคือเรื่องของ
00:15:28 → 00:15:30 ฟันเหมือนเด็กเลยเด็กก็คือต้องตรวจฟันผู้
00:15:30 → 00:15:32 ใหญ่ก็ต้องตรวจฟันเหมือนกันไฟมันก็จะ
00:15:32 → 00:15:34 เสื่อมมากขึ้นแล้วก็เรื่องของเหงือก
00:15:34 → 00:15:37 เรื่องของฟันแล้วก็มะเร็งในช่องปากส่วน
00:15:37 → 00:15:39 อันสุดท้ายที่ควบคุมเรื่องของโรคต่างๆของ
00:15:39 → 00:15:42 ผู้สูงอายุก็คือ 1 เรื่องของโรคกระดูกพุน
00:15:42 → 00:15:44 นะครับเนาะคราวนี้เนี่ยถ้าใครอายุมากกว่า
00:15:44 → 00:15:47 60 ปีเป็นต้นไปที่จึงไปสามารถเสิร์ชใน
00:15:47 → 00:15:48 อินเทอร์เน็ตได้เลยนะครับเขาเรียกว่า
00:15:48 → 00:15:52 aosta osta มันเป็นเหมือนคำถามว่าคุณมี
00:15:52 → 00:15:54 ความเสี่ยงจะเป็นโรคกระดูกพุนหรือเปล่า
00:15:54 → 00:15:56 ซึ่งผู้หญิงจะมีความเสี่ยงมากกว่าผู้ชาย
00:15:56 → 00:15:58 อยู่แล้วเรื่องของประจำเดือนถูกมเรื่องวั
00:15:58 → 00:16:00 ทองนั่นเองมีตัวอย่างมาให้ฟังนิดนึงแล้ว
00:16:00 → 00:16:02 กันคือคนส่วนใหญ่คิดว่าโรคกระดูกพุนน่ะ
00:16:02 → 00:16:04 อาจจะไม่ค่อยได้แบบอันตรายหรือใส่ใจเท่า
00:16:04 → 00:16:07 ไหร่ใช่ป่ะเคคิดว่าเฮ้ยยังไงแก่ไปแบบก็
00:16:07 → 00:16:10 เป็นปกติที่จะกระดูกพุนแต่ประเด็นคือเวลา
00:16:10 → 00:16:13 ล้มขึ้นมาอย่างเงี้ยประสบดขึ้นมาประเด็น
00:16:13 → 00:16:16 คืออะไรมันหักเลยสะโพคหักบ้างกระดูกสัน
00:16:16 → 00:16:18 หลังหักบ้างอย่างเงี้ยซึ่งมันอันตรายมาก
00:16:18 → 00:16:20 เพราะว่ามันเป็นใทับเส้นประสาทบ้างเป็น
00:16:20 → 00:16:22 อัมพฤกษ์อัมพาตได้เลยเนาะคราวนี้ก็เลย
00:16:22 → 00:16:24 อยากเน้นว่าเออพอเราตรวจว่ามันมีกระดูก
00:16:24 → 00:16:27 พรนแล้วอ่ะไม่ใช่กระดูกพุนแล้วเฉยๆแล้วไป
00:16:27 → 00:16:29 กินแคลเซียมแล้วจบคือไม่ใช่ใช่คุณต้องไล
00:16:29 → 00:16:31 ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมออกกำลังกายสร้าง
00:16:31 → 00:16:33 กล้ามเนื้อใช่มั้ยเพราะกล้ามเนื้อที่เรา
00:16:33 → 00:16:35 เน้นย้ำแกหนาว่ามันสำคัญเนี่ยไม่ใช่แค่
00:16:35 → 00:16:38 ผอมนะแต่ว่าเรื่องกระดูกด้วยก็สำคัญเนาะ
00:16:38 → 00:16:40 แล้วก็บางทีก็จำเป็นจะต้องใช้ยาเนาะอาจจะ
00:16:40 → 00:16:42 เป็นยาฉีดเนี่ยเพื่อให้มวลกระดูกมันแข็ง
00:16:42 → 00:16:45 แรงมากขึ้นอันนี้ก็เลยอยากให้ทุกคนน่ะไป
00:16:45 → 00:16:46 ไปตรวจดูตัวเองแล้วกันว่ามีปัญหาหรือ
00:16:46 → 00:16:49 เปล่าอ่าอันที่ 2 ก็คือภาวะซึมเศร้าด้วย
00:16:49 → 00:16:52 ความว่าอาจจะมีอายุมากขึ้นลูกหลานไม่อยู่
00:16:52 → 00:16:54 อาจจะต้องอยู่คนเดียวเพราะฉะนั้นภาวะซึม
00:16:54 → 00:16:57 เศร้าก็เป็นอีกอันนึงนะครับเนาะและอันสุด
00:16:57 → 00:17:00 ท้ายก็คือเรื่องของสมองเสื่อมถ้าเป็นมาก
00:17:00 → 00:17:02 ที่สุดก็คือเรื่องของโรคอัลไซเมอร์นั่น
00:17:02 → 00:17:05 เองคือถ้าคุณแบบมีอายุมากขึ้นแล้วคุณทำ
00:17:05 → 00:17:08 กิจกรรมน้อยลงคุณทำ activity ไม่ออกกำลัง
00:17:09 → 00:17:12 กายสมองคุณก็จะเริ่มเสื่อมและเ่อความจำก็
00:17:12 → 00:17:15 จะลดน้อยลงมากยิ่งขึ้นอคราวนี้เนี่ยอยาก
00:17:15 → 00:17:17 จะบอกว่าการตรวจสุขภาพเนี่ยมันตรวจอะไร
00:17:17 → 00:17:19 บ้างอย่างแรกเลยง่ายๆนี้ทุกคนรู้หมดเลย
00:17:19 → 00:17:22 อันแรกคือ CBC Complete บัเขา Complete
00:17:22 → 00:17:25 บัดเขาคือดูว่าเม็ดเลือดของเรามีอะไรบ้าง
00:17:25 → 00:17:27 เช่นเม็ดเลือดแดงเม็ดเลือดขาวหรือเกล็ด
00:17:27 → 00:17:29 เลือดในร่างกายเป็นยังไงแต่จริงๆเนี่ย
00:17:29 → 00:17:31 หลายๆคนเนี่ยไปตรวจหรือไม่ว่าที่ทำงานก็
00:17:32 → 00:17:36 แล้วแต่ตรวจปกติค่ะปกติ่ะแต่จริงๆอ่ะลอง
00:17:36 → 00:17:39 อ่านสักนิดนึงคือมันอาจจะเริ่มผิดปกติ
00:17:39 → 00:17:41 แล้วก็ได้แต่คุณยังไม่เป็นโรคเท่านั้นเอง
00:17:41 → 00:17:43 ขอยกตัวอย่างเช่นเม็ดเลือดเนี่ยอย่างเช่น
00:17:43 → 00:17:47 คริเนาะผู้ชายเนี่ยก็คือไม่ควรต่ำกว่าแบบ
00:17:47 → 00:17:50 ประมาณ 40 บางคนน่ะเริ่ม 40 และหรือ 39
00:17:50 → 00:17:53 อันเนี้ยต้องสังเกตและเอ๊ะเลือดจางหรือ
00:17:53 → 00:17:56 เปล่ามีขาดสารอาหารอะไรหรือเปล่าหรือว่า
00:17:56 → 00:17:59 ค่าของ mcv เหมือนกัน mcv ก็บ่งบอกได้หๆ
00:17:59 → 00:18:01 อย่างไม่ว่าจะเป็นการขาดวิตามินต่างๆใน
00:18:01 → 00:18:04 ร่างกายวิตามิน b6 b9 หรือ B12 หรือคุณ
00:18:04 → 00:18:07 มีปัญหาเรื่องการดูดซึมของวิตามิน D เข้า
00:18:07 → 00:18:10 ร่างกายเนาะเพราะฉะนั้นเนี่ย CBC บอกได้
00:18:10 → 00:18:12 หลายอย่างอันที่ 2 ที่ Common ก็คือ
00:18:12 → 00:18:15 เรื่องของการตรวจค่าไขมันอไม่ว่าจะเป็น
00:18:15 → 00:18:19 คอเลสเตอรอลไซไน hdl ldl แต่ละตัวเนี่ย
00:18:19 → 00:18:21 ก็จะบ่งบอกไม่เหมือนกันว่าไขมันดีในร่าง
00:18:21 → 00:18:24 กายคุณเท่าไหร่ผู้ชายเท่าไหร่ผู้หญิงควร
00:18:24 → 00:18:26 อยู่เท่าไหร่หรือว่าไขมันเรวหรือ ldl
00:18:26 → 00:18:29 นั่นเองอันที่ 3 ที่คนตรวจบ่อยก็คือ
00:18:29 → 00:18:33 เรื่องของการตรวจฆ่าไตเติน bu cretin
00:18:33 → 00:18:35 คือการตรวจฆ่าไตเนี่ยอาจจะต้องดูนิดนึง
00:18:35 → 00:18:38 ว่าคุณเป็นคนกินอาหารเสริมเครตินหรือ
00:18:38 → 00:18:40 เปล่าอือยิ่งคุณกินอาหารเสริมพวกนี้เข้า
00:18:40 → 00:18:43 ไปเนี่ยมันอาจจะทำให้ค่าไตสูงขึ้นก็ได้อ
00:18:43 → 00:18:46 อ่าขอยกตัวอย่างเคสนึงผู้ชายเนี่ยเป็นคน
00:18:46 → 00:18:49 ที่ชอบออกกำลังกายมากไปเข้าฟิตเนสทุกวัน
00:18:49 → 00:18:52 เลยก็จะกินอาหารเสริมเรียกว่าเทีนเนาะใส่
00:18:52 → 00:18:54 เข้าไปก่อนที่จะไปออกกำลังกายคราวนี้ก็
00:18:54 → 00:18:56 อยากไปตรวจสุขภาพพอปรวจสุขภาพก็ไปตรวจ
00:18:56 → 00:18:59 ทั่วๆไปค่าตาย้าขายมันค่าเลือดต่างๆตวด
00:18:59 → 00:19:03 ออกมาปึ๊บปรากฏว่าค่าไตที่เรียกว่าเที
00:19:03 → 00:19:05 เนี่ยมันสูงสูงของเค้าเนี่ยคือเขาได้
00:19:05 → 00:19:07 ประมาณ 1.8 เลยทีเดียวปกติแล้วเนี่ยค่า
00:19:07 → 00:19:11 เทีเนี่ยเราจะเอาอยู่ประมาณ 0.6 - 1.3
00:19:11 → 00:19:14 แต่ของเขามันสูงเกินค่าแล้วหมอเนี่ยที่
00:19:14 → 00:19:17 ได้ผลที่จากโรงพยาบาลเบอกว่าอุ๊ยคุณเป็น
00:19:17 → 00:19:20 โรคตายเรียบร้อยแล้วเพราะพพอเราคำนวณออก
00:19:20 → 00:19:22 มาเนี่ยโดยการใช้ค่าเครตินเนี่ยมันเราดู
00:19:22 → 00:19:26 จำนวนค่าเขาเรียกว่า GFR ปกติค่า GFR ของ
00:19:26 → 00:19:28 ถ้าเป็นคนวัยทำงานเนี่ยมันดีๆมันก็คือ
00:19:28 → 00:19:31 ประมาณ 80-120 ถูกมั้ยหมอเอมมี่แต่ของคนๆ
00:19:31 → 00:19:35 เนี้ยมันต่ำมากกว่า 60 ซะด้วยซ้ำทำให้หมอ
00:19:35 → 00:19:38 ที่อ่านผลน่ะคิดว่าเขาอ่ะเป็นโรคไตวาย
00:19:38 → 00:19:40 เรียบร้อยแล้วอคราวนี้คนไข้ก็เลยรีบมาหา
00:19:40 → 00:19:42 เราเลยแล้วบอกว่าหมอครับรูผลให้หน่อยครับ
00:19:42 → 00:19:45 เนี่ยผมอ่ะเป็นไตวายแล้วเาแบบแนะนำว่า
00:19:45 → 00:19:47 เรื่องของอนาคตจะไปต้องล้างไตนู่นนี่นั่น
00:19:48 → 00:19:50 ตอนแรกหมอก็ดูก็ตกใจเหมือนกันเ้ยทำไมสูงจ
00:19:50 → 00:19:53 เฮ้ยทำไมมันสูงจังแต่พอคราวนี้พอเราได้
00:19:53 → 00:19:56 ซักประวัติคนไข้พอเราดูรูปร่างก็รู้แล้ว
00:19:56 → 00:19:59 แหละเอดูรูปร่างเออตัวใหญ่ก้า
00:19:59 → 00:20:02 แล้วก็ประเอคุณกนอะไไปบ้างนะก็อ่ะอ๋อมัน
00:20:02 → 00:20:04 อาจจะเป็นไปได้เพราะการที่คุณคินอาหาร
00:20:04 → 00:20:07 เสริมเรียกว่าเทนเนี่ยประมาณ 5-10 กรัม
00:20:07 → 00:20:09 ต่อวันเนี่ยมันอาจจะส่งผลทำให้ค่าของค่า
00:20:09 → 00:20:13 ไตเทีเนี่ยสูงขึ้นได้เหมือนกันแต่ถึงแม้
00:20:13 → 00:20:15 ว่าเรารู้อยู่แล้วว่าเขาอ่ะกินอาหารเสริม
00:20:15 → 00:20:18 ันนี้ก็ไม่ควรเขาเรียกว่าละเลยเนาะเราอาจ
00:20:18 → 00:20:21 จะไปตรวจเลือดที่มันเฉพาะเจาะจงมากกว่า
00:20:21 → 00:20:24 นี้เช่นเรียกว่า syy มันจะบอกถึงเรื่อง
00:20:24 → 00:20:26 ของความเสื่อมของไตได้โดยตรงหรืออีกอัน
00:20:26 → 00:20:29 นึงก็แนะนำให้คนไข้อาจจะไปทำซาก่อนก็ได้
00:20:29 → 00:20:31 ว่าไตของเขาอ่ะเออมันยังทำงานจริงนะมัน
00:20:32 → 00:20:34 ไม่ได้เสื่อมจริงนะมันไม่ได้บวมมันไม่ได้
00:20:34 → 00:20:36 บวมมันเป็นเพราะว่าเขาอ่ะแค่กินอาหาร
00:20:36 → 00:20:39 เสริมเข้าไปแต่เขาอ่ะไม่มีภาวะไายวายอัน
00:20:39 → 00:20:41 นี้จริงอันนี้เห็นด้วยเพราะว่าจริงๆแล้ว
00:20:41 → 00:20:43 เวลาแพทย์เจอเนาะเราก็ต้องซักประวัติ
00:20:43 → 00:20:45 ละเอียดไงไม่งั้นเราก็ไม่สามารถแบบว่า
00:20:45 → 00:20:47 สรุปได้ว่าเอ๊ะตกลงคนไข้เป็นจากอะไรจริงๆ
00:20:47 → 00:20:49 ต่อมาก็คือเรื่องของค่าตับเนาะค่าตับส่วน
00:20:49 → 00:20:53 มากเราก็ตรวจคือเรียกว่า as al ดูว่าการ
00:20:53 → 00:20:55 ทำงานของตับเป็นยังไงบ้างแล้วก็มีเ้า
00:20:55 → 00:20:59 เรียกว่าการอักเสบของเอ่อของของตับมาก
00:20:59 → 00:21:01 น้อยแค่ไหนอันนี้คือการตรวจแบบเบสิคคราว
00:21:01 → 00:21:03 นี้เรามาดูเรื่องของลึกเข้าไปอีกอยากตรวจ
00:21:03 → 00:21:06 อะไร 1 เรื่องของโฮร์โมนเดี๋ยวเราจะคุย
00:21:06 → 00:21:08 เรื่องของโฮร์โมนแบบดีเทลเลยอันที่ 2 คือ
00:21:08 → 00:21:10 เรื่องของวิตามินและๆ่ธาตุปัจจุบันเนี่ย
00:21:10 → 00:21:12 เราสามารถตรวจได้ทั้งหมด 18 ตัวด้วยกัน
00:21:12 → 00:21:15 ว่าวิตามิน a b D เนี่ยเลเวลอยู่ที่
00:21:15 → 00:21:17 เท่าไหร่รวมไปถึงแร่ธาตุด้วยการตรวจ
00:21:17 → 00:21:21 อันเนี้ยมันสามารถบอกได้ว่าคุณรับประทาน
00:21:21 → 00:21:24 อาหารที่เหมาะสมหรือเปล่าหรืออาหารที่คุณ
00:21:25 → 00:21:27 เข้าไปเนี่ยไม่มีสารอาหารและร่ธาตุเลยก็
00:21:27 → 00:21:28 ได้หรือไม่มีความหลากหลายอะไรไม่มีความ
00:21:28 → 00:21:31 หลากหลายเลยแต่คราวนี้เนี่ยก็มีเคสเหมือน
00:21:31 → 00:21:34 กันคนไข้ไปตรวจมาโอโหสวยหมดเลยทุกอย่าง
00:21:34 → 00:21:37 สูงหมดเลยในเลือดต้องเข้าใจว่าอันเนี้ย
00:21:37 → 00:21:39 มันคือตรวจจากเลือดถูกมั้ยครับเนาะแต่มัน
00:21:39 → 00:21:42 จะมีภาวะบางภาวะที่ค่าพวกเนี้ยมันสูงใน
00:21:42 → 00:21:46 เลือดแต่คนไข้ไม่สามารถเอาไปใช้ได้ในร่าง
00:21:46 → 00:21:48 กายอ่าจริงจริงใช่มยเอ่อเพราะฉะนั้นคนไข
00:21:48 → 00:21:51 บอกว่าอุ๊ยฉันก็ดีหมดแล้วดิอาหารเสริมก็
00:21:51 → 00:21:53 ไม่ต้องกินอาหารสุขภาพก็กินแค่วันละครั้ง
00:21:53 → 00:21:55 2 ครั้งก็พอเพราะร่างกายฉันเต็มหมดทุก
00:21:55 → 00:21:58 อย่างทุกอย่างออร่าหมดทุกอย่างอ่าค่ะมี
00:21:58 → 00:22:01 อาการเคลียร์เหนื่อยง่ายยังมีอาการนู่น
00:22:01 → 00:22:04 นี่นั่นคือร่างกายของคุณน่ะมีแต่คุณเอาไป
00:22:04 → 00:22:07 ใช้ไม่ได้อ่าคราวนี้เนี่ยสารน่ะมันไม่ยอม
00:22:07 → 00:22:09 ดูดซึมเข้าร่างกายเอ๊ะแล้วร่างกายจะไปเอา
00:22:09 → 00:22:12 ไว้ไหนอ่ะเอาไปทำยังไงอ่ะในเรื่องของ
00:22:12 → 00:22:14 วิตามินแล่ธาตุเมื่อกี้ที่ตรวจออกมาหมอ
00:22:14 → 00:22:16 ไอมีว่ายังไงอ่ะครับเรื่องนี้อันนี้คือขอ
00:22:16 → 00:22:18 ยกตัวอย่างก่อนจะได้เห็นภาพง่ายๆเนาะก็
00:22:18 → 00:22:21 คือเวลาเราตรวจไมโครนิคหรือว่าการตรวจดู
00:22:21 → 00:22:23 แล่ธาตุวิตามินต่างๆเนี่ยมันจะมีตัวนึง
00:22:23 → 00:22:26 เลยที่เจอได้บ่อยนะก็คือวิตามิน B12 คราว
00:22:26 → 00:22:28 เนี้ยคนไข้ส่วนใหญ่มาถึงก็เอ๊ยวิตามิน B
00:22:28 → 00:22:31 12 ก็ดีแล้วนี่แต่ทำไมเวลาตรวจดูความ
00:22:31 → 00:22:33 สมบูรณ์ของเม็ดเลือดอ่ะเม็ดเลือดก็ยังไม่
00:22:33 → 00:22:35 ได้ดีตัวใหญ่ผิดปกติเนาะเเราเรียกว่า mcv
00:22:35 → 00:22:37 มันใหญ่เกินไปที่เราพูดกันก็หมายความว่า
00:22:37 → 00:22:40 คนไข้จริงๆแล้วมีภาวะขาดวิตามิน B12 แต่
00:22:40 → 00:22:42 ในผลเลือดดูเหมือนจะดีอันเนี้ยหมายถึง
00:22:42 → 00:22:45 อะไรอันเนี้ยหมายถึงว่า 1 ภาวะที่คนไข้
00:22:45 → 00:22:47 อาจจะมีลำไส้ไม่ได้ดีมากพอใช่ป่ะพอลำไส้
00:22:47 → 00:22:50 ไม่ดีมากพออาจจะมีแบบว่าภาวะผิดปกติของ
00:22:50 → 00:22:52 อ่าลำไส้ของแบคทีเรียที่มันมี Over
00:22:52 → 00:22:55 Growth หรือมีตัวไม่ดีเยอะเกินไปพูดง่าย
00:22:55 → 00:22:57 ๆมันก็เลยดูเหมือนว่าค่าวิตามิน B12 ใน
00:22:57 → 00:22:59 เลือดดูดีนะแต่จริงๆแล้วคนไข้เนี่ยไม่
00:22:59 → 00:23:02 สามารถเอาวิตามิน B12 ไปใช้ได้เนาะเพราะ
00:23:02 → 00:23:05 ว่ามันไม่ได้มีจริงๆนะคะอันที่ 2 ที่เจอ
00:23:05 → 00:23:08 ได้บ่อยก็คือค่าของเซรัม tin ินส่วนใหญ่
00:23:08 → 00:23:10 เนี่ยเป็นค่าของการดูว่าคนไข้อ่ะมีธาตุ
00:23:10 → 00:23:13 เหล็กที่สะสมอยู่ในอวัยวะมากพอหรือเปล่า
00:23:13 → 00:23:15 แต่ประเด็นคือมันไม่ได้บอกแค่ธาตุเหล็กนะ
00:23:15 → 00:23:18 มันบอกเกี่ยวกับว่าคุณอาจจะมีการเค้า
00:23:18 → 00:23:20 เรียกว่าภาวะ silent inflammation หรือ
00:23:20 → 00:23:22 การอักเสบแบบแฝงๆได้อยู่เหมือนกันเนาะ
00:23:22 → 00:23:26 ฉะนั้นคนไขนี่ก็เอ๊ะหมอแต่เซรัมินฉันดูดี
00:23:26 → 00:23:27 แล้วนี่ฉันไม่ได้มีแบบขาดธาตุเหล็กเลย
00:23:27 → 00:23:29 เนาะแต่ว่าบอกว่าตัวออกมาโอ้โหแบบถ้า
00:23:29 → 00:23:32 เหล็กกบขาดจ๋ามากอันนี้ก็เป็นไปได้เหมือน
00:23:32 → 00:23:34 กันเพราะว่ามันมันไม่ได้แปลได้อย่างเดียว
00:23:34 → 00:23:36 ไงคราวนี้ก็เลยบอกว่าเออเวลาที่คุณน่ะ
00:23:36 → 00:23:38 ซื้อแพ็คเกจการต่อสุขภาพอ่ะแล้วเจอว่าดี
00:23:38 → 00:23:40 อ่ะจริงๆมันอาจจะไม่ดีอย่างที่คุณคิดก็
00:23:40 → 00:23:43 ได้สรุปก็คือจากผลเลือดที่เราดูอ่ะไม่ได้
00:23:43 → 00:23:45 หมายความว่าถ้าคุณมีอยู่ในแบบเลือดเยอะ
00:23:46 → 00:23:48 แล้วเซลล์คุณจะสามารถใช้ได้หรือดึงไปใช้
00:23:48 → 00:23:50 ได้นั่นเองเนาะแล้วก็อีกอย่างคือความหมาย
00:23:50 → 00:23:52 อย่างเดียวของมันน่ะมันแปลได้หลายอย่าง
00:23:52 → 00:23:55 มันไม่ได้ไปได้อย่างเดียวต่อมาอันจที่ 3
00:23:55 → 00:23:57 ก็คือตรวจเรื่องของเา้าเรียกว่าโลหะหนัก
00:23:57 → 00:24:00 Heavy เมอันนี้ปกติสามารถตรวจได้ทั้งทาง
00:24:00 → 00:24:02 ปัสสาวะและทางเลือดได้เหมือนกันอันนี้ก็
00:24:02 → 00:24:05 จะดูเรื่องว่ามลพิษจากสิ่งแวดล้อมของคุณ
00:24:05 → 00:24:08 เนี่ยที่เข้าไปอยู่ในร่างกายมีมากน้อย
00:24:08 → 00:24:11 เท่าไหร่หลายคนคิดว่าหมอคะเป็นไปไม่ได้
00:24:11 → 00:24:13 หนูไม่ได้สูบบุหรี่หนูไม่ได้ทำงานในโรง
00:24:13 → 00:24:16 งานหนูไม่มีหรอกอือไม่จริงคือสิ่งที่พวก
00:24:16 → 00:24:19 เนี้ยสารมลพิษจากสิ่งแวดล้อมอ่ะมันเข้าไป
00:24:19 → 00:24:21 มันอาจจะเข้าไปตั้งแต่คุณอายุเด็กเลยก็
00:24:21 → 00:24:24 ได้และคุณสะสมจนมาถึงอายุในปัจจุบันไอ้
00:24:25 → 00:24:27 สะสมพวกเเนี่ยมันค่อยๆทำให้ร่างกายของคุณ
00:24:27 → 00:24:30 เสื่อมมากยิ่งขึ้นเนาะมันทำลายเซลล์และ
00:24:30 → 00:24:33 เป็นสารก่อมะเร็งด้วยอเออจริงๆอันนี้ขอ
00:24:33 → 00:24:35 แทรกนิดนึงเพราะว่าถึงคุณจะบอกว่าคุณไม่
00:24:35 → 00:24:38 ได้ทำงานโรงงานไม่ได้เจอแบบว่าสารเคมีแต่
00:24:38 → 00:24:41 1 ถ้าคุณอยู่ในกรุงเทพฯคุณสูดแบบว่า PM
00:24:41 → 00:24:43 เข้าไปทุกวันโลหหนักเข้าไปทุกวันนะจ๊ะถูก
00:24:43 → 00:24:46 ป่ะ 2 คุณไม่ได้ทำสารพิษอะไรเลยแต่คุณ
00:24:46 → 00:24:49 ย้อมผมคุณทาเล็บคุณแต่งหน้าก็เจออยู่
00:24:49 → 00:24:51 เหมือนกันถูกมั้ยฉะนั้นการที่บอกว่าเราจะ
00:24:51 → 00:24:53 ไม่เจอสารเคมีอ่ะแท้าจะเป็นไปไม่ได้เลย
00:24:53 → 00:24:56 หรือ 4 เอาอันง่ายๆเลยนะพลาสติกมีใครบ้าง
00:24:56 → 00:24:58 บอกว่าชาตินี้ฉันไม่ใช้พลาสติกหรืออุ่น
00:24:58 → 00:25:01 อาหารด้วยพลาสติกใช่ฉะนั้นไมโครพลาสติก
00:25:01 → 00:25:03 อ่ะเข้าไปอยู่แล้วเข้าไปทุกวันอยู่แล้ว
00:25:03 → 00:25:05 แต่ประเด็นคือ 1 เข้าไปมากน้อยแค่ไหน 2
00:25:05 → 00:25:07 ร่างกายคุณสามารถขับออกได้แค่ไหนอันเนี้ย
00:25:07 → 00:25:10 สำคัญกว่าแล้วนอกเหนือจากการตรวจเมื่อกี้
00:25:10 → 00:25:12 ที่พูดมาก็อันอื่นอาจจะเป็นการใช้เครื่อง
00:25:12 → 00:25:15 ใหญ่ๆะกันเนาะที่ตามโรงพยาบาลมีไม่ว่าจะ
00:25:15 → 00:25:17 เป็นเครื่อง xray เครื่อง CT สแกนเครื่อง
00:25:17 → 00:25:20 MRI หรือ P สแกนเพื่อเจาะจงตามที่คุณหมอ
00:25:20 → 00:25:23 คนนั้นเขาอยากดูว่าเป็นอะไรคราวนี้เราจะ
00:25:23 → 00:25:26 ลึกๆๆเข้าไปอีกลึกที่สุดเลยลึกที่สุด
00:25:26 → 00:25:29 อย่างเช่นการตรวจยีนอืเนาปัจจุบันมีการ
00:25:29 → 00:25:31 ตรวจยีนดูได้ว่าคุณเนี่ยมีความเสี่ยง
00:25:31 → 00:25:35 กรพันธ์ส่งโรคเเรียกว่าอะไรอ่ะโรคอะไรต่อ
00:25:35 → 00:25:38 กับบุตรของคุณก็ได้ถูคือคุณได้อะไรมาจาก
00:25:38 → 00:25:41 พ่อแม่บ้างสคเสสให้ลูกคุณได้บ้างอะไร
00:25:41 → 00:25:43 เงี้ยนทาพันธุกรรมอ่าถูกต้องแล้วก็มันจะ
00:25:43 → 00:25:45 บอกไวว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบา
00:25:45 → 00:25:48 หวานไขมันโรคอ่ามะเร็งอะไรได้บ้างมันบอก
00:25:48 → 00:25:51 เป็นดีเทลค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวรวมไปถึง
00:25:51 → 00:25:54 ความไวยต่อสารอาหารความไวต่อสารอาหาร
00:25:54 → 00:25:57 อย่างเช่นเอ๊ะทำไมบางคนดื่มกาแฟได้บางคน
00:25:57 → 00:26:01 ดื่มกาแฟไม่ได้
00:26:01 → 00:26:03 อหรือ
00:26:03 → 00:26:05 ว่าความ
00:26:05 → 00:26:08 ความหรืออาหารเผ็ดเนี่ยบางคนกินได้บางคน
00:26:08 → 00:26:10 กินไม่ได้การตรวจยีนเนี่ยมันจะบอกมาเลย
00:26:10 → 00:26:12 ว่าคุณเป็นคน sensitive มากน้อยเท่าไหร่
00:26:12 → 00:26:15 อันที่ 2 แน่นอนคือเรื่องของการตรวจ
00:26:15 → 00:26:18 มะเร็งอันนี้เดี๋ยวการตรวจมะเร็งดีเทล
00:26:18 → 00:26:20 เยอะมากๆค่อยว่ากันค่อว่ากันแลอันสุดท้าย
00:26:20 → 00:26:22 เนี่ยคือการตรวจความยาว
00:26:22 → 00:26:25 ของเนี่ยมันสามารถบ่งบอกถึงเรื่องของอายุ
00:26:25 → 00:26:29 เซลของเราได้หมอไี่เคยตรวจเรื่องของเมมา
00:26:29 → 00:26:31 ก่อนมครับเคยตรวจเนาะก็คืออย่างงี้อยากจะ
00:26:31 → 00:26:34 อธิบายสั้นๆก็คือว่าปกติแบบว่ายีนเราส่วน
00:26:34 → 00:26:36 ใหญ่มันจะมาเป็นรูปปลาตองโก๋ใช่ป่ะคราว
00:26:36 → 00:26:39 นี้ตรงปลายแคปของปลาตั้งโก๋อ่ะมันจะมี
00:26:39 → 00:26:41 เป็นส่วนนึงที่เราเรียกว่าเทรมซึ่งปกติ
00:26:41 → 00:26:43 แล้วถ้าเวลาเราเกิดมาไอ้ตัวปลายแคปตรงเ
00:26:43 → 00:26:45 ของปลาตั้งโก๋มันจะยาวคือพูดแขนปลาต้อง
00:26:45 → 00:26:48 โกะยาวอ่ะแต่พอคุณแกะปาโกะมันสั้นลงสั้น
00:26:48 → 00:26:50 ลงสั้นลงคือแขนมันสั้นลงเรื่อยๆก็แปลว่า
00:26:50 → 00:26:53 คุณน่ะเซลล์มันเริ่มแก่แล้วนะคุณแก่แล้ว
00:26:53 → 00:26:55 นะคราวนี้เราก็เลยเอาอันเนี้ยมาใช้ในการ
00:26:55 → 00:26:57 ตรวจไงว่าเซลล์ของคุณน่ะกับอายุของเราที่
00:26:57 → 00:26:59 แท้จริงจริงอ่ะมันเป็นยังไงเช่นมันเหมาะ
00:26:59 → 00:27:01 สมกันึเปล่ามันมันพอดีกันรือเปล่าเช่นตอน
00:27:01 → 00:27:04 เนี้ยเราอายุ 35 ใช่มยแต่ว่าเซลล์ฉันอาจ
00:27:04 → 00:27:06 จะไป 45 ก็ได้ไงคราวนี้เทลเมียก็เลยบอก
00:27:07 → 00:27:09 ว่าเออเธอใช้พฤติกรรมในชีวิตเนี่ยเหมาะสม
00:27:09 → 00:27:12 มั้ยกินกินดีมั้ยนอนดีมั้ยพฤติกรรมเป็น
00:27:12 → 00:27:14 ยังไงบ้างเอามาใช้ปรับพฤติกรรมนั่นเองอัน
00:27:14 → 00:27:17 นี้ที่หมอจิมมี่พูดมาก็คือจะเป็นคร่าวๆ
00:27:17 → 00:27:19 เนาะแต่มันลงลึกมากเลยคราวนี้เดี๋ยวเรามา
00:27:19 → 00:27:22 ดูกันง่ายๆดีกว่าว่าการตรวจสุขภาพเนี่ย
00:27:22 → 00:27:25 จริงๆแล้วถ้าคนไข้อ่ะไปหาหมอเนี่ยจริงๆ
00:27:25 → 00:27:27 แล้วควรจะซื้อแพ็คเกจเองเลยมยหรือควรไป
00:27:27 → 00:27:29 เจอแพทย์ก่อนเพราะว่าอยากบอกว่ามันก็ได้
00:27:29 → 00:27:32 ทั้ง 2 กรณีกรณีแรกหมายถึงว่าฉันพร้อมที่
00:27:32 → 00:27:35 จะจ่ายอ่ะถ้าฉันพร้อมที่จะจ่ายอ่ะคุณจ่าย
00:27:35 → 00:27:37 ไปเลยก็ได้แต่ประเด็นคือเวลาคุณเจอแพทย์
00:27:37 → 00:27:40 กรุณาบอกเหมือนกับว่าอาการที่คุณมีจริงๆ
00:27:40 → 00:27:42 อ่ะว่าแบบว่าเป็นรยละเอียดอ่ะว่าคุณมี
00:27:42 → 00:27:44 อะไรบ้างเพราะว่าบางทีแล้วเนี่ยการที่เรา
00:27:44 → 00:27:47 ซื้อมาอาจจะไม่ครอบคุณกับอาการที่คุณมี
00:27:47 → 00:27:50 เพราะถ้าคุณบอกกับแพทย์โดยแบบว่าโดย in
00:27:50 → 00:27:52 Detail หรือละเอียดมากพออ่ะแพทย์เขาจะ
00:27:52 → 00:27:54 บอกให้เจาะเพิ่มอยู่แล้วหรือตรวจอะไร
00:27:54 → 00:27:58 เพิ่มเติมเช่นอาจจะอายุแค่ 28 29 แต่บอก
00:27:58 → 00:28:01 ว่าเออรู้สึกแบบเจ็บเต้านมหรือคำเต้านม
00:28:01 → 00:28:04 เจออย่างเงี้ยคณก็ควรจะตรวจแมมโมแกรมก่อน
00:28:04 → 00:28:06 ใช่ป่ะอ่าอันนี้อันที่ 1 เนาะคือซื้อมา
00:28:06 → 00:28:09 แล้วแต่ว่าต้องบอกรายละเอียดเพิ่มเติมกับ
00:28:09 → 00:28:12 แบบที่ 2 คือไม่รู้จะซื้ออะไรไม่มีไอเดีย
00:28:12 → 00:28:14 เลยอย่างเงี้ยก็ให้ไปคุยกับแพทย์โดย
00:28:14 → 00:28:15 ละเอียดเพราะอะไรเพราะว่าการเจอแพทย์
00:28:16 → 00:28:18 เนี่ยแพทย์จะซักประวัติโดยละเอียดถาม
00:28:18 → 00:28:20 ประวัติเนาะแล้วก็ต้องซักละเอียดมากมาย
00:28:20 → 00:28:23 เลยว่าเออคุณเป็นยังไงอาชีพการงานเป็นไง
00:28:23 → 00:28:25 อะไรเป็นยังไงแพทย์ถึงจะดีไซนออกมาได้ว่า
00:28:25 → 00:28:28 เออจริงๆแล้วเราควรจะตรวจอะไรบ้างเนาะ
00:28:28 → 00:28:30 แล้วก็เราเหมาะสมที่จะตรวจอะไรเราถึงจะ
00:28:30 → 00:28:32 ได้บอกว่าที่เขาบอกว่าเป็นแบบเฉพาะบุคคล
00:28:32 → 00:28:34 ออกมาแล้วก็เหมาะกับคุณว่าเอ๊ะอันเนี้ย
00:28:34 → 00:28:37 น่าจะครอคุณเพียงพอแล้วว่าคุณเป็นอะไรมี
00:28:37 → 00:28:40 อะไรหรือเปล่าแล้วก็จะแก้ไขยังไงได้บ้าง
00:28:40 → 00:28:42 ที่จริงอีกเรื่องนึงก็คือการตรวจสภาพอ่ะ
00:28:42 → 00:28:45 เป็นอะไรที่สำคัญแต่นอกจากการตรวจสุขภาพ
00:28:45 → 00:28:48 แล้วคือการคุยกับหมออันนี้สำคัญมากเพราะ
00:28:48 → 00:28:51 หลายๆที่เนี่ยอซื้อเลยไม่ต้องคุยกับหมอไป
00:28:51 → 00:28:54 ตรวจก่อนเลยเจาะก่อนแล้วค่อยให้หมอมานั่ง
00:28:54 → 00:28:57 แปลคือจริงๆแล้วเนี่ยคุณการที่คุณได้คุย
00:28:57 → 00:29:00 กับหมอเล่าประวัติของคุณเล่าไลฟ์สไตล์ของ
00:29:00 → 00:29:03 คุณเนี่ยหมออาจจะคิดว่าคุณอาจจะเป็นโรคมี
00:29:03 → 00:29:05 ความเสี่ยงอะไรไปแล้วมากกว่าครึ่งแล้ว
00:29:05 → 00:29:07 ด้วยซ้ำแล้วคุณค่อยไปตรวจแลบที่มันจำเป็น
00:29:08 → 00:29:10 เท่านั้นก็เพียงพอแลบางคนเนี่ยคือซื้อไว้
00:29:10 → 00:29:13 ก่อนเลยแล้วบางครั้งเนี่ยหมอแทบจะไม่มี
00:29:13 → 00:29:16 เวลาให้คือเราหมอก็เข้าใจว่าหลายๆหลายๆ
00:29:16 → 00:29:19 ที่โรงพยาบาลโรงอย่างเช่นโรงพยาบาลรัฐ
00:29:19 → 00:29:21 เนี่ยคือหมอไม่นั่งมีเวลาแบบมานั่งคุยแต่
00:29:21 → 00:29:24 ละคนเพราะว่าคนไข้ก็เยอะมากถูกมยเพราะ
00:29:24 → 00:29:26 ฉะนั้นคุณอาจจะควรหาหมอที่เขามีเวลาให้
00:29:26 → 00:29:29 คุณในการคุยเรื่องของชีวิตของคุณเรื่อง
00:29:29 → 00:29:32 ของไสไลของคุณในการปรับเปลี่ยนและส่ง
00:29:32 → 00:29:34 เสริมทำให้สุขภาพคุณดีมากยิ่งขึ้นเพราะ
00:29:34 → 00:29:36 ฉะนั้นเนี่ยการคุยหรือ consultation กับ
00:29:36 → 00:29:38 แพทย์เนี่ยเป็นอะไรที่สำคัญมากจริงแล้วก็
00:29:38 → 00:29:41 ต้องบอกความจริงด้วยเออไม่ใช่ว่าแบบว่า
00:29:41 → 00:29:44 หมอคะปวดหัวจังเลยค่ะแต่แบบว่าทำทุกอย่าง
00:29:44 → 00:29:46 ดีหมดมันน่าจะเป็นไปไม่ได้ทำไมบางคนตรวจ
00:29:46 → 00:29:48 สุขภาพทุกปีแต่สุดท้ายก็กลับเป็นมะเร็ง
00:29:48 → 00:29:50 หรือเป็นโรคร้ายระยะสุดท้ายหมอเอมมี่ว่า
00:29:50 → 00:29:52 ไงบ้างครับคือต้องบอกก่อนว่าจริงๆแล้วการ
00:29:53 → 00:29:55 ตรวจสุขภาพทุกปีอ่ะบางทีมันอาจจะไม่ได้
00:29:55 → 00:29:58 ครอบคลุมเนาะอย่างที่เราบอกเพราะว่าถ้า
00:29:58 → 00:30:00 สมมุติว่าเราอายุสัก 30 ขึ้นไปอย่างเงี้ย
00:30:00 → 00:30:01 เราอาจจะมีให้การตรวจเค้าเรียกว่า tumor
00:30:01 → 00:30:04 มาเกอร์เนาะหรือว่าเป็นเลือดที่บ่งบอกว่า
00:30:04 → 00:30:06 อาจจะมีความผิดปกติของการเป็นมะเร็งได้
00:30:07 → 00:30:08 บางอย่างต้องบอกว่าส่วนใหญ่จะตรวจอะไร
00:30:08 → 00:30:11 บ้างก็คือ 1 ดู afp ใช่ป่ะเกี่ยวกับ
00:30:11 → 00:30:13 เรื่องมะเร็งตับอะไรอย่างเงี้ยอาจจะดู CA
00:30:13 → 00:30:16 มะเร็งลำไส้ใหญ่นะคะแล้วก็ของผู้หญิงจะมี
00:30:16 → 00:30:20 CA 153 มะเร็งเต้านม ca 125 เกี่ยวกับ
00:30:20 → 00:30:22 มะเร็งรังไข่เนาะอะไรอย่างเงี้ยอันประมาณ
00:30:22 → 00:30:25 นี้เนาที่เราจะตรวจกันประเด็นคือ 1 ไม่
00:30:25 → 00:30:28 ใช่มะเร็งเช่นมะเร็งเต้านม 153 ไม่ใช่ทุก
00:30:28 → 00:30:31 มะเร็งเต้านมจะตรวจ CA 153 ขึ้นก็แปลว่า
00:30:31 → 00:30:34 ถ้าคุณตรรวจแค่ ca 153 แล้วมันเป็นค่า
00:30:34 → 00:30:36 ปกติอ่ะคุณก็อาจจะเป็นมะเร็งเ้านมได้
00:30:36 → 00:30:38 เพราะว่ามันไม่เซ้นกับค่าตรวจไงใช่มย
00:30:38 → 00:30:40 ฉะนั้นก็หมายถึงว่าถ้าคุณตรวจแค่เลือดแต่
00:30:41 → 00:30:43 คุณไม่ได้ตรวจแมมโมแกรมคุณก็จะพลาดในการ
00:30:44 → 00:30:45 ที่ควรจะแบบเป็นมะเร็งเต้านมหรือเปล่าอัน
00:30:45 → 00:30:47 นี้อันที่ 1 เนาะก็คือมันมันไม่แมทชกัน
00:30:47 → 00:30:50 นั่นเองเนาะอันที่ 2 เนาะก็คือคุณอาจจะ
00:30:50 → 00:30:53 ตรวจก็จริงอ่ะแต่ว่าเขาเรียกว่าอะไรอ่ะ
00:30:53 → 00:30:56 มันตรวจไม่ครบเข้าใจป่ะก็คืออย่างที่บอก
00:30:56 → 00:30:58 ก็คือว่าเมื่อกี้บอกว่าอ่ะไม่ได้ตรวจไม่
00:30:58 → 00:31:00 ได้ตรวจอ่าแมมโมแกรมใช่ป่ะแต่ไม่ได้ตรวจค
00:31:00 → 00:31:03 มันถึงว่าว่าอะไรเช่นคุณอาจจะปวดท้องเนาะ
00:31:03 → 00:31:05 ปวดท้องเรื้อรังแต่หมออาจจะคิดว่าเป็นโรค
00:31:05 → 00:31:08 กระเพาะไม่ได้เป็นอะไรเกี่ยวกับมะเร็งไง
00:31:08 → 00:31:10 เพราะว่าเราไม่ได้ส่งกล้องไปดูพอเราไม่
00:31:10 → 00:31:12 ได้ส่งกล้องไปดูมันไม่ได้ตรวจถูกจุดก็เลย
00:31:12 → 00:31:15 ไม่รู้ว่าจริงๆแล้วการที่คุณปวดท้องเนี่ย
00:31:15 → 00:31:17 เป็นมะเร็งกระเพาะเนาะอันนี้คืออันที่ 2
00:31:17 → 00:31:19 ก็คือตรวจไม่ตรงจุดถูกป่ะแล้วก็อันที่ 3
00:31:20 → 00:31:22 อนะที่เกิดขึ้นค่อนได้บ่อยแล้วก็เจอก็คือ
00:31:23 → 00:31:26 ตรวจแล้วนะแต่มันดันไม่เจอแล้วมะเร็งมัน
00:31:26 → 00:31:28 โตเร็วอันเนี้ยเกิดขึ้นกับคนใกล้ตัว
00:31:28 → 00:31:30 เหมือนกันก็คือว่าผู้ใหญ่เนี่ยคือพออายุ
00:31:31 → 00:31:33 60 ขึ้นไปอ่ะส่วนใหญ่เ้าจะมีการตรวจส่ง
00:31:33 → 00:31:35 กล้องอะไรอย่างเงี้ยทุกอย่างคราวนี้เคส
00:31:35 → 00:31:37 นี้เกิดขึ้นว่าเค้าอ่ะเพิ่งส่องกล้องมา 6
00:31:37 → 00:31:39 เดือนที่แล้วเองแต่อยู่ๆก็บอกว่ามีอาการ
00:31:39 → 00:31:42 กลืนแล้วแบบติดแบบกลืนแล้วแน่นแบบอาหาร
00:31:42 → 00:31:44 ไม่ย่อยเลยไปหาหมอหมอก็นึกว่าเป็นโรค
00:31:44 → 00:31:46 กระเพาะก็เลยให้ยาแบบว่ารดกดอะไรอย่าง
00:31:46 → 00:31:48 เงี้ยคราวนี้กินรดกดแล้วก็ยังไม่ดีขึ้น
00:31:48 → 00:31:50 แล้วก็ถ่ายไม่ได้ด้วยอะไรด้วยอย่างเงี้ย
00:31:50 → 00:31:53 ปรากฏว่าไปเช็คกลายเป็นโรคมะเร็งกระเพาะ
00:31:53 → 00:31:55 อาหารก็บอกว่าเอ๊ะแต่หมอเพิ่งตรวจ 6
00:31:55 → 00:31:57 เดือนที่แล้วเองอ่ะแล้วทำไมถึงเป็นอันนี้
00:31:57 → 00:32:00 ก็ต้องบอกว่าเเป็นมะเร็งที่มันค่อนข้างดุ
00:32:00 → 00:32:02 แล้วมันเติบโตเร็วมาก 6 เดือนมันก็โตได้
00:32:02 → 00:32:04 เยอะแล้วอะไรอย่างเงี้ยมันก็เลยบอกว่าเออ
00:32:04 → 00:32:06 มันมีหลายสาเหตุนะว่าทำไมจริงๆแล้วเราอาจ
00:32:06 → 00:32:09 จะตรวจสุขภาพทุกปีแต่มันแบบตรวจได้แบบว่า
00:32:09 → 00:32:11 ไม่ครบแล้วมันก็แบบทำให้เป็นมะเร็งโรค
00:32:11 → 00:32:13 ร้ายแรงได้อ้าแล้วถ้า 6 เดือนเนี่ยยังไม่
00:32:13 → 00:32:15 พอตรวจแล้วมันเป็นมะเร็งเนี่ยเราต้องตรวจ
00:32:15 → 00:32:17 อะไรบ้างให้มันแม่นยำมากกว่าเนี้ยคือ
00:32:17 → 00:32:19 อย่างงี้บอกก่อนว่าอันที่ 1 เนาะตรวจให้
00:32:19 → 00:32:21 ครอบคลุมก่อนไม่ใช่ว่าตรวจแค่เลือดแล้วก็
00:32:21 → 00:32:24 จบใช่ป่ะตรวจให้ครอบควก็คือว่าอะไรที่มัน
00:32:24 → 00:32:26 ต้องสแกนก็ต้องสแกนอะไรที่ไม่จำเป็นอะไร
00:32:26 → 00:32:29 ที่ต้องเป็นต้อง 2 ก็ 2 ค้องแต่ว่าเอ๊ะ
00:32:29 → 00:32:30 แต่ถ้าตรวจครบแล้วจริงๆเนี่ยแต่ว่ามันยัง
00:32:31 → 00:32:33 เป็นอยู่อ่ะจะทำไงดีก็คือ 1 1 ดู
00:32:33 → 00:32:36 พฤติกรรมก่อนมีความเสี่ยงมย 2 คุณมีแบบ
00:32:36 → 00:32:38 ว่าความเสี่ยงด้านพันธุกรรมด้วยมยถ้ามี
00:32:38 → 00:32:39 สิ่งเหล่านั้นน่ะเราอาจจะตรวจเพิ่มเติม
00:32:39 → 00:32:42 ได้ปัจจุบันเนี้ยมันมีการตรวจมะเร็งแบบลง
00:32:42 → 00:32:44 ลึกแบบเจาะลึกอ่ะค่ะที่ตรวจในเลือดเขา
00:32:44 → 00:32:46 เรียกว่าการตรวจ circulating tumor Cell
00:32:46 → 00:32:48 เนาะซึ่งปกติการตรวจแบบเนี้ยมันจะเป็นการ
00:32:48 → 00:32:51 ตรวจการติดตามมากกว่าเนาะว่าแบบมันจะมี
00:32:51 → 00:32:53 แบบมะเร็งเซลล์เล็กๆที่อาศัยอยู่ในร่าง
00:32:54 → 00:32:56 กายที่ยังไม่เป็นก้อนไม้คือสแกนก็ยังไม่
00:32:56 → 00:32:58 เจออันเนี้ยอาจจะตรวจได้เนาะเนาะอันที่ 2
00:32:58 → 00:33:00 ตเนี้ยเค้าก็จะมีการตรวจจากต่างประเทศอ่ะ
00:33:00 → 00:33:03 ค่ะอย่างประเทศเยอรมันเนาะเจะมีตรวจเเ
00:33:03 → 00:33:05 เรียกว่าตัวเป็นมาร์เกอร์บางตัวมาร์เกอร์
00:33:05 → 00:33:07 ที่เขาตรวจส่วนใหญ่ก็คือเรียก Apple 10
00:33:07 → 00:33:10 กับ TK T1 นะคะอันเนี้ยก็คือว่าถ้าคุณมี
00:33:10 → 00:33:12 มาร์เกอร์เหล่านี้ผิดปกติแปลว่าคุณอาจจะ
00:33:12 → 00:33:15 มีเซลล์ที่เริ่มเติบโตผิดปกติแล้วนะซึ่ง
00:33:15 → 00:33:17 เซลล์เหล่านั้นอาจจะเป็นเซลล์มะเร็งได้
00:33:17 → 00:33:19 ฉะนั้นการตรวจเลือดแบบเนี้ยจะเป็นการตรวจ
00:33:19 → 00:33:21 เจาะลึกลงไปแต่ต้องปรึกษาแพทย์ก่อนนะผู้
00:33:21 → 00:33:23 เชวชอนก่อนว่าเออฉันเหมาะสมที่จะตรวจพวก
00:33:23 → 00:33:26 นี้มั้ยแล้วถ้าคุณเหมาะสมก็โอเคไปตรวจดู
00:33:26 → 00:33:28 จะได้รู้เพิ่มเตว่าคุณมีความเสี่ยงที่จะ
00:33:28 → 00:33:30 เป็นหรือเปล่าอย่างน้อยก็ตรวจอะไรเพิ่ม
00:33:30 → 00:33:33 เติมเข้าไปเพื่อเราจะได้ป้องกันได้ถึงแม้
00:33:33 → 00:33:35 ว่าเราอาจะไปตรวจสุขภาพทุกปีทุกปีอยู่
00:33:35 → 00:33:38 แล้วแต่ว่าการตรวจแบบเปิที่เจาะจงทีเดียว
00:33:38 → 00:33:41 เนี่ยอาจจะช่วยทำให้คุณไม่ให้เป็นมะเร็ง
00:33:41 → 00:33:43 ในอนาคตก็ได้ใช่คือเขาเรียกว่าเป็น Early
00:33:43 → 00:33:45 detection หรือว่าการตรวจแบบว่ารวดเร็ว
00:33:46 → 00:33:48 จะได้ป้องกันแบบโรคแพร่กระจายได้เนาะแต่
00:33:48 → 00:33:51 ประเด็นคืออย่าตรวจวอร์หรือเยอะเกินไป
00:33:51 → 00:33:53 เพราะอันนั้นจะทำให้คุณอเสียเงินโดยเปล่า
00:33:53 → 00:33:55 ประโยชน์โรคร้ายแทบทั้งหมดสามารถป้องกัน
00:33:55 → 00:33:58 ได้ถ้าเราตรวจเจอเร็วอย่างถูกวิธีโรคร้าย
00:33:58 → 00:34:01 เนี่ยพูดถึงโรค ncd หรือโรคเรื้อรังแบบ
00:34:01 → 00:34:03 ไม่ติดต่อคราวนี้เนี่ยอยากจะขอพูดถึง
00:34:03 → 00:34:06 เรื่องของการตรวจ 4 วิธีที่คนส่วนมากไม่
00:34:06 → 00:34:09 ค่อยให้ความสำคัญเท่าไหร่แต่มีความจำเป็น
00:34:09 → 00:34:11 เพื่อเอามาใช้วินิจฉัยโรคและการป้องกัน
00:34:11 → 00:34:13 ไม่ให้คุณมีสุขภาพที่เสื่อมลงหลายคนน่ะ
00:34:14 → 00:34:16 อาจจะคุ้นชินกับประโยคที่ว่าฮอร์โมนหัวใจ
00:34:16 → 00:34:18 ว้าวุ่นอันเนี้ยไม่เกินจริงนะเพราะ
00:34:18 → 00:34:20 ฮอร์โมนเนี่แหละทำให้ร่างกายเราว้าวุ่นไป
00:34:20 → 00:34:22 หมดเลยไม่ว่าจะเป็นตอนที่เราเด็กเนี่ยมี
00:34:22 → 00:34:26 ความกระตือรือล้นสวยทำให้ผิวผ่องรู้
00:34:26 → 00:34:29 สึกดีความงามอันนี้เป็นเรื่องของฮอร์โมน
00:34:29 → 00:34:31 แต่กลับกันอีกอันนึงก็คือทำให้รู้สึก
00:34:31 → 00:34:35 เหี่ยวอซึมเศร้าไม่มีแรงทำให้สุขภาพร่าง
00:34:35 → 00:34:37 กายปวนไปหมดเลยอันเนี้ยเพราะมันเกิดความ
00:34:37 → 00:34:40 หวาวุ่นคราวนี้เนี่ยการตรวจฮอร์โมนวิธี
00:34:40 → 00:34:42 การตรวจอ่ะคือต้องบอกก่อนว่าการตรวจ
00:34:42 → 00:34:45 ฮอร์โมนส่วนใหญ่เนี่ยจะตรวจได้ในรูปแบบ
00:34:45 → 00:34:47 ของ 3 วิธีอันแรกส่วนมากคือ 1 การเจาะ
00:34:47 → 00:34:49 เลือดเนาะที่ตรวจเป็นบ่อยที่สุดอันดับที่
00:34:49 → 00:34:52 2 ก็คือถ้าเราอยากดูอะไรที่มันแบบแปลกๆ
00:34:52 → 00:34:54 นิดนึงเช่นดูแบบเซรั่มคอลโซลฮอร์โมนความ
00:34:54 → 00:34:56 คิดแบบเจาะจงตามเวลาอะไอย่างเงี้ยส่วน
00:34:56 → 00:34:59 ใหญ่จะตรวจจน้ำลายเพราะจะให้คนไข้มาตรวจส
00:34:59 → 00:35:01 เวลาต่อวันคงไม่ไหวเจาะสรอบมันมันมากเกิน
00:35:01 → 00:35:04 ไปการตรวจสุดท้ายก็คือการตรวจจากปัสสาวะ
00:35:04 → 00:35:06 เพราะบางทีเราอาจจะอยากจะรู้ว่าแบบว่า
00:35:06 → 00:35:08 เอ๊ะอันนี้มันผิดปกติตรงนี้มันมีอะไรไป
00:35:08 → 00:35:11 ใช้ในพารไหนของร่างกายหรือเปล่าอาจจะลง
00:35:11 → 00:35:13 ลึกไปอีกก็อาจจะตรวจในปัสสาวะได้คราวนี้
00:35:13 → 00:35:15 เนี่ยต้องเข้าใจก่อนว่าการตรวจฮอร์โมน
00:35:15 → 00:35:17 เนี่ยฮอร์โมนมีความสำคัญมากเพราะควบคุม
00:35:17 → 00:35:20 ทุกเกือบทุกอวัยวะในร่างกายของเราวันนี้
00:35:20 → 00:35:22 หมอจะเอาขอมาพูดคุยเรื่องของ 4 ฮอร์โมน
00:35:22 → 00:35:24 หลักๆเลยแล้วกันอันแรกเลยคือเรื่องของ
00:35:24 → 00:35:26 ฮอร์โมนไทรรอยด์ต่อมไทรรอยด์เราเนี่ยอยู่
00:35:26 → 00:35:28 ตรงคอถูกมั้ยครับเนาะคราวนี้ฮอร์โมน
00:35:28 → 00:35:30 ไทรรอยด์มีหน้าที่เกี่ยวกับเรื่องของควบ
00:35:30 → 00:35:33 คุมระบบการเผาผลาในร่างกายหรือ metabolism
00:35:33 → 00:35:36 นั่นเองคราวนี้บางคนอาจจะเป็นไทรรอยด์มาก
00:35:36 → 00:35:40 จนเกินไปหรือไทรรอยด์น้อยจนเกินไปถ้ามาก
00:35:40 → 00:35:42 เกนเกินไปคุณอาจจะเป็นไทรรอยด์เป็นพิษได้
00:35:42 → 00:35:46 เช่นออน้ำหนักไม่เคยเอาขึ้นเลยสักเีย
00:35:46 → 00:35:48 พร้อมตลอดเวลาหิ้วตลอดกินเท่าไหร่น้ำหนัก
00:35:48 → 00:35:52 ไม่ขึ้นท้องเสียผมร่วงเนาะแล้วก็บางคนมี
00:35:52 → 00:35:54 อาการถึงใจสั่นเลยทีเดียวอันนี้ต้องระมัด
00:35:54 → 00:35:57 ระวังนะครับเนาะกกับการอีกอันนึงคือไทรอย
00:35:57 → 00:36:02 อต่ำอตรงกันข้ามเลยเฉื่อยชาขี้เกียจท้อง
00:36:02 → 00:36:05 ผูกผมร่วงขี้หนาวหรือบางคนเนี่ยอาจจะเป็น
00:36:05 → 00:36:07 ถึงโรคซึมเซร้าเลยทีเดียวเพราะฉะนั้น
00:36:07 → 00:36:11 เนี่ยการตรวจไทรรอยด์เป็นอะไรที่สำคัญ
00:36:11 → 00:36:13 เพื่อจะดูว่าระบบการเผ่าผันของคุณน่ะเป็น
00:36:13 → 00:36:14 ยังไงและคุณมีความเสี่ยงที่จะเป็น
00:36:14 → 00:36:18 ไทรรอยด์สูงหรือไทรอยด์ต่ำก็ได้อันที่ 2
00:36:18 → 00:36:20 คือการตรวจเขาเรียกว่าฮอร์โมนต่อมหมวกไต
00:36:20 → 00:36:22 ฮอร์โมนที่ไปต้านกว่าความเครียดนั่นเอง
00:36:23 → 00:36:25 คืออย่างที่เราพูดมาทั้งหมดการตรวจสุขภาพ
00:36:25 → 00:36:27 ตามแต่แต่ละอายุเนี่ยพอเรามีอายุมากมาก
00:36:27 → 00:36:30 ขึ้นเราอาจเรามีความเครียดแน่นอนแหละแต่
00:36:30 → 00:36:33 ถ้าคุณไม่รู้จักการจัดการกับความเครียด
00:36:33 → 00:36:35 ที่ดีแล้วคุณสะสมความเครียดไปเรื่อยๆไม่
00:36:35 → 00:36:38 จะเป็นว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความ
00:36:38 → 00:36:40 เครียดของทางด้านจิตใจการงานการเงิน
00:36:40 → 00:36:43 ครอบครัวความเครียดพวกเนี้ยมันก็จะส่งผล
00:36:43 → 00:36:45 ต่อสุขภาพของคุณทำให้เสื่อมเร็วมากยิ่ง
00:36:45 → 00:36:49 ขึ้นแล้วสุดท้ายเนี่ยคุณอาจจะมีภาวะเช่น
00:36:49 → 00:36:52 เบื่อโรคอือไม่มีเป้าหมายในชีวิตตื่นมา
00:36:52 → 00:36:54 แล้วไม่รู้สึกสดชื่นเลยติดหวานอันนี้เจอ
00:36:54 → 00:36:58 เยอะมากติดหวานอยากกินกาแฟอยากกินของหวาน
00:36:58 → 00:37:01 อยากกินของมันและอยากกินของเค็มอือบางคน
00:37:01 → 00:37:04 อาจจะมีภาวะเรียกว่าง่วงตอนบ่าย 1400 น
00:37:04 → 00:37:07 ง่วงะออยากต้องกินของเหมือนกันแล้วก็
00:37:07 → 00:37:09 อารมณ์หงุดหงิดได้ง่ายออืออันที่ 3 คือ
00:37:09 → 00:37:12 ฮอร์โมนเพศฮอร์โมนเพศก็คืออ่ะง่ายๆคือ
00:37:12 → 00:37:15 ฮอร์โมนเพศชายและฮอร์โมนเพศหญิงถ้า
00:37:15 → 00:37:17 ฮอร์โมนเพศหญิงที่ผิดปกติไปมันอาจจะทำให้
00:37:17 → 00:37:20 ประจำเดือนของคุณเลื่อนก็ได้หรือภาวะที่
00:37:20 → 00:37:22 เราเจอบ่อยมากในสมัยนี้คือภาวะเรียกว่า
00:37:22 → 00:37:25 pcos ทำไมครับ polycystic ent Syndrome
00:37:25 → 00:37:27 คือไขไม่ยอมตกภาวะไขไม่ยอมตกสักทีอันนี้
00:37:27 → 00:37:31 อาจจะทำให้คุณเป็นคนหน้ามันสิวขึ้นขนดกก็
00:37:31 → 00:37:34 ได้แล้วก็มีภาวะที่ว่าโรคอ้วนตามมาหรือมี
00:37:34 → 00:37:37 ความเสี่ยงที่จะเป็นโรคเบาหวานสำหรับผู้
00:37:37 → 00:37:39 ชายก็เหมือนกันฮอร์โมนเพศชายเป็นอะไร
00:37:39 → 00:37:44 สำคัญมากที่ทำให้คุณมีความแข็งแรงความ
00:37:44 → 00:37:46 ต้องการทางเพศเนาะแล้วก็ทำให้กล้ามเนื้อ
00:37:46 → 00:37:50 ต่างๆความมั่นใจในตัวเองรวมถึงเส้นผมกรวม
00:37:50 → 00:37:53 ถึงสมองด้วยถ้าคุณมีเพศชายที่น้อยไปหรือ
00:37:53 → 00:37:56 ต่ำเกินเกณฑ์เนี่ยมันก็จะทำให้คุณอ้วน
00:37:56 → 00:38:01 ง่ายอือกล้ามเนื้อไม่พัฒนาความจำไม่ดีพูด
00:38:01 → 00:38:03 เรื่องของสภาทางเพศอันเนี้ยไปก่อนเลย
00:38:03 → 00:38:05 อย่างแรกเลยและมีความเสี่ยงที่เป็นโรค
00:38:05 → 00:38:08 หล่อเลื่อดหัวใจเบาหวานความดันตามมาแล้ว
00:38:08 → 00:38:10 ฮอร์โมนสุดท้ายที่อยากจะพูดถึงคือเรื่อง
00:38:10 → 00:38:12 ของ Growth ฮอร์โมนหรือฮอร์โมนการเจริญ
00:38:12 → 00:38:15 เติบโตดฮอร์โมนเนี่ยหลายๆคนไม่ให้ไม่ค่อย
00:38:15 → 00:38:19 ให้ความสสำคัญักเท่าไหร่เพราะว่าอ้ายังไง
00:38:19 → 00:38:21 คุณทุกคนก็ต้องแกยังไงมันก็ต้องต่ำแล้ว
00:38:21 → 00:38:23 เราก็โตแล้วด้วยเราก็โตแล้วด้วยแต่จริงๆ
00:38:23 → 00:38:26 แล้วเนี่ยการตรวจโธฮอร์โมนเมันมองลึกได้
00:38:26 → 00:38:29 มากกว่านั้น 3 มันบอกว่าการนอนของคุณเป็น
00:38:29 → 00:38:32 ยังไงคุณออกกำลังกายหรือเปล่าคุณกินสาร
00:38:32 → 00:38:35 อาหารโปรตีนถึงหรือเปล่าและที่จริงเนี่ย
00:38:35 → 00:38:37 มันบอกถึงทางด้านจิตใจเลยะด้วยซ้ำ
00:38:37 → 00:38:39 อันเนี้ยขอยกตัวอย่างเคสอือไม่ไม่นานมา
00:38:39 → 00:38:42 นี้เองคือคนไข้เนี่ยมาตรวจฮอร์โมนแล้วเอา
00:38:42 → 00:38:46 ผลมาให้ดูคือโคดฮอร์โมนผลที่ออกมาคือคน
00:38:46 → 00:38:50 ไข้อายุแค่ 30 กว่าเองอือต่ำแบบต่ำมากต่ำ
00:38:50 → 00:38:52 กว่าอายุของเขาอ่ะถ้าเราไปดู criteria
00:38:52 → 00:38:54 เนาะว่า Range ของคนอายุเท่านี้มันควร
00:38:54 → 00:38:56 อยู่เท่านี้แต่ของเขาต่ำกว่าเกณฑอีกอก็
00:38:56 → 00:39:00 เลยถามคนไข้ไปเลยว่าที่ผ่านมาคือคุณนอน
00:39:00 → 00:39:02 แย่มากเลยหรอหรือคุณไปเจออะไรมาในชีวิต
00:39:02 → 00:39:05 ทำไมมันถึงแย่ได้ขนาดนี้แล้วคนไข้ก็เลย
00:39:05 → 00:39:08 เล่าให้ฟังว่ามันแย่จริงๆแล้วมันเป็นตัว
00:39:08 → 00:39:11 นึงที่ทำให้เขาอ่ะอาจจะนึกถึงอยากฆ่าตัว
00:39:11 → 00:39:13 ตายหรือเป็นโรคซึมเศร้าเลยซะด้วยซ้ำและ
00:39:13 → 00:39:14 อีกอย่างของเรื่องโกดฮอร์โมนก็คือโกด
00:39:14 → 00:39:17 ฮอร์โมนเนี่ยเป็นตัวซ่อมแซมอวัยวะหรือ
00:39:17 → 00:39:20 เซลล์ต่างๆในร่างกายของเราถ้าเรามีโกด
00:39:20 → 00:39:22 ฮอร์โมนที่น้อยเนี่ยการที่จะไปซ่อมแซมทำ
00:39:22 → 00:39:25 ให้เซลล์เนี่ยกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมก็
00:39:25 → 00:39:29 จะน้อยลงแล้วคุณก็จะเสื่อมโทรมแก่เร็ว
00:39:29 → 00:39:32 เร็วมากกว่าวัยของคุณด้วยซ้ำจริงเนาะคือ
00:39:32 → 00:39:34 หมอหลายๆคนหรือหลายคนน่ะไม่ค่อยให้ความ
00:39:34 → 00:39:37 สำคัญของการตรวจฮอร์โมนเพราะคิดว่ามัน
00:39:37 → 00:39:40 เป็นเรื่องปกติที่คนเราต้องแก่เจ็บตายแต่
00:39:40 → 00:39:43 บางคนน่ะแก่เร็วตามกว่าอายุอีกเพราะ
00:39:43 → 00:39:45 ฉะนั้นเนี่ยเราควรชะลอไม่ให้คุณแก่หรือ
00:39:45 → 00:39:49 เสื่อมเร็วกว่าไวหรือจริงๆชะลอไว้ได้ดี
00:39:49 → 00:39:52 ที่สุดเนาะเอออันนี้ก็อยากจะบอกว่าจริงๆ
00:39:52 → 00:39:54 แล้วร่างกายของคนเราอ่ะมันค่อนข้างซับ
00:39:54 → 00:39:56 ซ้อนมากนะเพราะว่าทุกข์แบบอวัยวะเนี่ยมัน
00:39:56 → 00:39:58 ไม่ใช่ว่าสมองก็คือสมองหัวใจก็คือหัวใจ
00:39:58 → 00:40:00 จริงๆทุกอย่างมันเชื่อมโยงกันหมดเลยเนาะ
00:40:01 → 00:40:02 ฉะนั้นเราจะเห็นได้ว่าอย่างคนไข้ที่เป็น
00:40:03 → 00:40:04 โรคซุมเศร้าเมื่อกี้ที่พูดมาอย่างเงี้ย
00:40:04 → 00:40:07 จริงๆไม่ใช่ว่าคุณแไปตรวจ MRI Brain
00:40:07 → 00:40:09 สแกนแล้วบๆว่าเอ้ยคนไข้เป็นรคซุมเศร้านะ
00:40:09 → 00:40:11 มันไม่ใช่มันจะมีวิธีการตรวจอื่นๆใช่ม
00:40:11 → 00:40:15 เช่นว่าการซักประวัติคนไข้ถามคนไข้มาเนาะ
00:40:15 → 00:40:17 หรือสมัยใหม่เนี่ยก็จะมีการตรวจใหม่ๆมาก
00:40:17 → 00:40:20 มากมายเช่นการตรวจกัดไมโครไบโอมเนาะเอา
00:40:20 → 00:40:22 เอาอุจจระคนไข้มาใช่มแล้วเราก็มาดูว่า
00:40:22 → 00:40:25 เอ๊ะมันมีแบบว่าเา้าเรียกว่าอะไรอ่ะ
00:40:25 → 00:40:28 แบคทีเรียตัวดีตัวไม่ดีแค่ไหนไหนมีตัว
00:40:28 → 00:40:30 จุลินทรีย์อันอื่นเช่นว่าพวกเหมือนกับ
00:40:30 → 00:40:33 พาราไซต์เนาะหรือพวกพยาธเนี่ยมากมเนาะ
00:40:33 → 00:40:36 แล้วก็ที่สำคัญต้องดูด้วยว่าคนไข้เนี่ยมี
00:40:36 → 00:40:38 การอักเสบในลำไส้เช่นผนังลำไส้มีการ
00:40:38 → 00:40:40 อักเสบหรือเปล่าหรือมีอะไรหรือเปล่าเนาะ
00:40:40 → 00:40:42 เหล่านี้คราวนี้พอการตรวจกัดไมโครไบโอม
00:40:42 → 00:40:45 อ่ะค่ะหรือว่าตัวจุลินทรีย์ในลำไส้เนี่ย
00:40:45 → 00:40:47 ก็จะทำให้เรารู้ว่าเอ๊ะคนไข้คนเนี้ยเอ่อ
00:40:47 → 00:40:49 มีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้าหรือ
00:40:49 → 00:40:51 เปล่าถูกป่ะแล้วก็จะได้แก้ไขได้ถูกจุด
00:40:51 → 00:40:54 คราวนี้การตรวจของกัดไมโครไบโอมหรือการดู
00:40:54 → 00:40:56 อุจจระเนี่ยมันก็ไม่ใช่แค่ว่าเป็นโรคซึม
00:40:56 → 00:40:58 เศร้านะอย่างที่บอกบอกว่าร่างกายเรามัน
00:40:58 → 00:41:00 เชื่อมโยงกันไปหมดเนาะมันก็จะมีหลายๆ
00:41:00 → 00:41:02 เปเปอร์อ่ะค่ะที่บอกว่าจริงๆแล้วการตรวจ
00:41:02 → 00:41:04 ลำไส้เนี่ยมันดูได้หลายอย่างนะการตรวจ
00:41:05 → 00:41:07 อุจาระนี่แหละก็คือ 1 ดูทั้งการเชื่อมโยง
00:41:07 → 00:41:10 ของสมองการเชื่อมโยงของภูมิคุ้มกันเพราะ
00:41:10 → 00:41:13 มันก็มีหลายๆอย่างบอกว่าถ้าลำไส้คุณไม่ดี
00:41:13 → 00:41:15 คุณจะดูดซึมยังไงใช่ป่ะคุณจะเอาใช้อาหาร
00:41:15 → 00:41:18 ไปใช้ยังไงภูมิคุณมันจะโอเคหรือเปล่าอัน
00:41:18 → 00:41:20 ที่ 3 ที่เจอได้ง่ายมากอีกอันก็คือผิว
00:41:20 → 00:41:23 หนังมันก็มีหลายเคสที่ว่าพอลำไส้คุณไม่ดี
00:41:23 → 00:41:26 อ่ะจะเป็นผื่นก็ง่ายใช่ป่ะเป็นโรคสะกด
00:41:26 → 00:41:28 สะเก็ดเงินก็ได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะที่เจอ
00:41:28 → 00:41:30 ได้ค่อนข้างเยอะหรือที่เจอบ่อยเป็นสิวที่
00:41:30 → 00:41:32 หน้าทีนี้การเป็นสิวที่หน้ามันอาจจะไม่
00:41:32 → 00:41:35 ใช่ว่าเอ้ยคุณแบบจะไปแบบว่าหาหมอสิวรักษา
00:41:35 → 00:41:38 แค่หน้าที่สิวไงที่ผิวจริงๆคุณอาจจะต้อง
00:41:38 → 00:41:40 แก้ที่ลำไส้ก่อนก็ได้เนาะหรือแม้กระทั่ง
00:41:40 → 00:41:43 ความเครียดที่มันทำให้คนเราแบบปวดท้อง
00:41:43 → 00:41:45 เงี้ยเป็นโรคบอกว่าภาวะลำไส้แปรปวนเงี้ย
00:41:45 → 00:41:48 ฉะนั้นการตรวจการตรวจอุจจระเหล่าเนี้ก็
00:41:48 → 00:41:50 เลยทำให้เราสามารถมาช่วยรักษาโรคต่างๆได้
00:41:50 → 00:41:52 ดีขึ้นเนาะแต่ไม่ใช่การตวยอุจจาระอย่าง
00:41:52 → 00:41:55 เดียวนะคราวนี้ก็เลยอยากยกตัวอย่างเคสนิด
00:41:55 → 00:41:58 นึงคราวนี้ก็แบบว่ามีคนไขแบบอายุแบบ 10
00:41:58 → 00:42:00 18 19 เพิ่งเรียนมหาลัยเองมหาแต่ว่า
00:42:00 → 00:42:02 เรียนอยู่ต่างประเทศคราวนี้ประเด็นของ
00:42:02 → 00:42:04 น้องคนนี้คือเค้าแบบเค้าเล่านะว่าเนี่ย
00:42:04 → 00:42:07 เค้าอ่ะรู้สึกว่าเขาเป็นซึมเศร้ากับกับ
00:42:07 → 00:42:09 เป็นโรควิตกกังวลตั้งแต่ 7-8 ขวบเลยนะคือ
00:42:10 → 00:42:12 เป็นตั้งแต่เด็กมากเบอกว่าเคจำไม่ค่อยได้
00:42:12 → 00:42:15 เลยว่าเาแบบมีความสุขเมื่อไหร่ประเด็นคือ
00:42:15 → 00:42:17 เด็กคนเนี้ยที่มาหาเนี่ยไม่ใช่ซึมเศร้านะ
00:42:17 → 00:42:19 ตอนแรกตอนแรกมาหาเบอกว่าเป็นผืนที่คอก่อน
00:42:19 → 00:42:22 แต่เขาคบอกว่าเนี่ยเค้าเป็นผื่นแปลกๆที่
00:42:22 → 00:42:24 คออย่างเงี้ยไปหาหมอหลายคนแล้วไม่หายอะไร
00:42:25 → 00:42:27 อย่างเงี้ยเค้าก็เลยดูผื่นที่คอเอ๊ะทำ
00:42:27 → 00:42:29 เป็นแบบหน้าตาเหมือนสะเก็ดเงินจังก็เลยมา
00:42:29 → 00:42:31 ซักประวัติเพิ่มเติมแล้วพบว่าเออเขาอ่ะ
00:42:31 → 00:42:34 เป็นวิตกกังวลมานานมากแล้วแล้วก็กินยาหมอ
00:42:34 → 00:42:37 ให้กินยาตั้งแต่อายุ 12 13 จนกินมาถึง
00:42:37 → 00:42:39 ปัจจุบันก็ 7-8 ปีแล้วใช่ป่ะแต่ก็ไม่เห็น
00:42:39 → 00:42:42 จะดีขึ้นเลยก็เลยซักต่อไปว่าเกิดอะไรขึ้น
00:42:42 → 00:42:44 ประเด็นคือน้องคนเนี้ยเป็นลูกครึ่งแล้วก็
00:42:44 → 00:42:46 เติบโตที่ต่างประเทศตอนนี้อยู่อเมริกา
00:42:46 → 00:42:51 ประเด็นอาหารก็คือกินนมเนาะกินไข่กินพวก
00:42:51 → 00:42:54 ขนมปังอาหารฝรั่งอ่ะอาหารฟแปรรูปค่อนข้าง
00:42:54 → 00:42:57 เยอะแล้วกินมาตลอดคราวนี้เราก็เลยเอ๊ะสงส
00:42:57 → 00:42:59 ว่าบบว่ามันจะเกี่ยวข้องกันมอย่างที่บอก
00:42:59 → 00:43:01 ว่าเอ้ลำไส้มันก็เกี่ยวข้องกับเรื่องพวก
00:43:01 → 00:43:04 นี้ได้ชัดเจนคราวนี้เราก็เลยบอกว่าเอาอม
00:43:04 → 00:43:06 ปัสสาวะของน้องเนี่ยมาตรวจดูน้องก็พบว่า
00:43:06 → 00:43:09 แบบว่าไอ้น้องแบบลำไส้ไม่ค่อยโอเคเลยอ่ะ
00:43:09 → 00:43:11 มีการเหมือนกับว่า 1 มีภาวะแบบลำไส้รั่ว
00:43:12 → 00:43:14 ค่อนข้างเยอะลำไส้อักเสบเยอะมากเนาะแล้ว
00:43:14 → 00:43:16 ก็เจอบอกว่าสารสื่อประสาทสมองอ่ะมีความ
00:43:16 → 00:43:19 เครียดอ่ะโดพามีนนี่สูงมากเลยเนาะแล้วก็
00:43:19 → 00:43:21 มีพวกธนินนี่น้อยมากเลยก็หมายความว่าอะไร
00:43:21 → 00:43:24 เมีภาวะเครียดเยอะมากแล้วก็ร่างร่างกาย
00:43:24 → 00:43:26 ไม่สามารถสร้างฮอร์โมนความสุขเนาะหรือว่า
00:43:26 → 00:43:29 สารสืบสาตที่ชื่อว่าโทนิได้ก็เลยทำให้เขา
00:43:29 → 00:43:31 มีอารมณ์ที่เหมือนกับว่าซึมเศร้าได้ง่าย
00:43:31 → 00:43:34 เนาะประเด็นก็คือเรารู้อยู่แล้วว่าเค้ามี
00:43:34 → 00:43:37 ลำไส้อักเสบแต่ว่าเพราะอะไรทำให้ลำไส้
00:43:37 → 00:43:39 อักเสบก็ต้องไปหาเพิ่มเติมใช่ป่ะคราวนี้
00:43:39 → 00:43:42 ก็เลยขอตรวจเลือดเพิ่มก็เลยไปเจอว่าเอ๊ะ
00:43:42 → 00:43:44 น้องเ้าเนี่ยจริงๆไม่สามารถกินกูเทิลได้
00:43:44 → 00:43:47 นะเพราะว่าอาหารที่แพ้มากเราจะไม่บอกว่า
00:43:47 → 00:43:49 แพ้เนาะเราบอกว่าอาหารที่น้องเาเซ้นเนาะ
00:43:49 → 00:43:52 sensitive เนี่ยก็คือเป็นพวกอาหารแปรรูป
00:43:52 → 00:43:55 พวกขนมปังเงี้ยพวกยีสพวกอะไรอย่างงี้หมด
00:43:55 → 00:43:57 เลยเราก็เลยสว่าเอ๊ะน้องคนเนี้ยน่าจะมี
00:43:57 → 00:44:00 ปัญหาเรื่องแบบกูทละคราวนี้ก็เลยอยากรู้
00:44:00 → 00:44:03 ว่าเอ๊ะน้องเเป็นแบบว่าเป็นโรครคมั้ยซค
00:44:03 → 00:44:05 หมายถึงโรคที่ร่างกายเราไม่สามารถกินกลู
00:44:05 → 00:44:07 เทิลได้แล้วไปทำให้ลำไส้เราเองอักเสบ
00:44:07 → 00:44:11 ปรากฏว่ารีแอคก็ไม่ใช่เนาะน้องเเป็นโรค
00:44:11 → 00:44:14 ประเภทที่ว่าแพ้กลูเทิลแต่ว่าทำให้ลำไส้
00:44:14 → 00:44:16 อักเสบแต่ไม่ใช่ิรกแค่นั้นเองก็เลยบอก้อง
00:44:16 → 00:44:19 ว่าเออลองงดกูทัมั้ยแล้วก็ลองกิน
00:44:19 → 00:44:22 โพรไบโอติกมั้ยปรับเปลี่ยนแบบลำไส้ดู
00:44:22 → 00:44:24 ปรากฏว่างดแค่แบบ 2 อาทิตย์อ่ะคืออาการดี
00:44:24 → 00:44:27 ขึ้นชัดเจนเนาะก็คือจากที่เขาซึมเศร้า
00:44:27 → 00:44:29 นู่นนี่นั่นเบอกว่าเอออาการดีขึ้นและ
00:44:29 → 00:44:31 เริ่มกินยาได้น้อยลงเนาะวิตกกังวลน้อยลง
00:44:32 → 00:44:34 เครียดน้อยลงแล้วที่สำคัญผื่นดีขึ้นด้วย
00:44:34 → 00:44:36 การที่เขาออกเป็นสะเก็ดเงินน่ะมันก็ค่อยๆ
00:44:36 → 00:44:39 แบบว่าลดลงหายลงไปเอออันนี้ก็เลยเป็นแบบ
00:44:39 → 00:44:41 ว่าเคสตัวอย่างว่าจริงๆแล้วเราเป็นอันนึง
00:44:41 → 00:44:43 อ่ะมันอาจจะไม่ใช่แค่อย่างเดียวเราต้อง
00:44:43 → 00:44:45 เจาะลึกลงไปว่าเป็นอะไรระบบอะไรที่คุณมี
00:44:45 → 00:44:48 ปัญหาการตรวจเ่ออุจจาระเนี่ยที่จริงมัน
00:44:48 → 00:44:50 ดีเทลค่อนข้างเยอะเลยทีเดียวไม่ว่าจะเป็น
00:44:50 → 00:44:53 บอกตัวดีตัวร้ายเนาะบอกเรื่องของระบบภูมิ
00:44:53 → 00:44:55 คุ้มกันบอกสารอาหารที่ผลิตจากจุลินทรีย์
00:44:55 → 00:44:59 ในร่างกายอบอกไว้ก่อนว่าไม่ใช่ว่าคุณไป
00:44:59 → 00:45:01 ซื้อจุลินทรีย์หรือโพรไบโอติกมากินเองลำ
00:45:01 → 00:45:04 ไส้แข็งแรงแล้วไม่ใช่หลายๆคนคนไข้แบบอุ๊ย
00:45:04 → 00:45:07 ใช่เนี่ยหมอโชว์เลยกินซัพพลีเมนท์ 10
00:45:07 → 00:45:10 กว่าตัวมีจุลิมีโพรไบโอติกมีพรีไบโอติก
00:45:10 → 00:45:14 ด้วยมีทุกอย่างเลยแข็งแรงแน่นอนอือคือ
00:45:14 → 00:45:17 ตรวจออกมาไม่เข้าร่างกายเลยะกเออก็มี
00:45:17 → 00:45:19 เหมือนกันหรือบางคนเนี่ยคิดว่ากินการกิน
00:45:19 → 00:45:22 โบติกแล้วจะไม่มีปัญหาเรื่องของลำไส้จริง
00:45:22 → 00:45:25 ๆแล้วถ้าคุณยังไม่ไปฆ่าเชื้อโรคหรือแก้
00:45:25 → 00:45:27 ปัญหาเรื่องของระบบูมกันการดูซึมเนี่ยกิน
00:45:27 → 00:45:31 โปรไบโอติกไปเนี่ยไม่มีข้อเสียแต่อาจจะ
00:45:31 → 00:45:33 ไม่ได้ข้อดีจากการกินโปรไบโอติกไปก็ได้
00:45:33 → 00:45:36 จริงๆต้องบอกว่าถ้าไม่มีข้อเสียแบบเลยก็
00:45:36 → 00:45:38 อาจจะไม่ใช่นะมันจะมีเคสเหมือนกันว่าบาง
00:45:38 → 00:45:41 คนน่ะชอบกินโบติกซ้ำๆตัวเดิมและกินเยอะ
00:45:42 → 00:45:44 มากๆใช่ป่ะก็เลยอาจจะทำให้เกิดอาการที่
00:45:44 → 00:45:47 เป็นซีบได้ก็คือแบบว่าแบคทีเรียอกได้เนาะ
00:45:47 → 00:45:50 ก็เลยทำให้แบบจริงๆไม่คุ้มที่จะกินออออัน
00:45:50 → 00:45:52 ที่ 3 ที่อยากจะพูดคือเรื่องของการตรวจ
00:45:52 → 00:45:54 ยูรินออร์แกนิหรือการตรวจกรดอินทรีย์ใน
00:45:54 → 00:45:57 ปัสสาวะซึ่งการตรวจกรดอินทรีย์ในปัสสาวะ
00:45:57 → 00:45:59 เนี่ยตรวจทั้งหมด 6 อย่างด้วยกันนะครับ
00:45:59 → 00:46:02 เนาะอย่างแรกดูเรื่องของระบบการเผาผลาญใน
00:46:02 → 00:46:05 ร่างกายของเราตั้งแต่การย่อยแป้งไขมัน
00:46:05 → 00:46:08 โปรตีนผลิตพลังงานเราได้ยังไงอันที่ 2 ดู
00:46:08 → 00:46:11 เรื่องของการอักเสบของระบบประสาทและสมอง
00:46:11 → 00:46:15 ของเราอันที่ 3 ดูเรื่องของการอักเสบหรือ
00:46:15 → 00:46:17 เชื้อแบคทีเรียและเชื้อราในลำไส้แต่อัน
00:46:17 → 00:46:19 นี้เป็นการ screening ไม่เหมือนการตรวจ
00:46:19 → 00:46:22 แบบอุจจาระออ่ามันไม่ได้ดีเทลเยอะซะขนาด
00:46:22 → 00:46:25 นั้นอันที่ 4 ดูเรื่องของความเสื่อมของ
00:46:25 → 00:46:28 เซลล์ในร่างกายของเราอันที่ 5 พูดถึง
00:46:28 → 00:46:31 เรื่องของสารมลพิษที่เราได้จากสิ่งแวด
00:46:31 → 00:46:34 ล้อมไม่ว่าจะเป็นสารโลหะหนักพลาสติก PM
00:46:34 → 00:46:38 สารเคมีต่างๆอันนี้สามารถดูได้เนาะและอัน
00:46:38 → 00:46:40 สุดท้ายเนี่ยคือดูสารสื่อประสาทในสมอง
00:46:40 → 00:46:42 ทั้งหมดเนี่ยดู 6 อย่างด้วยกันตรวจลิส์
00:46:42 → 00:46:45 ออกมาเนี่ยตรวจแบบมีเา้าเรียกว่ามี
00:46:45 → 00:46:47 มาร์เกอร์นะครับมีมาร์เกอร์ประมาณ 50
00:46:47 → 00:46:49 กว่าชนิดเพราะฉะนั้นน่ะมันลงดีเทลค่อน
00:46:49 → 00:46:52 ข้างเยอะเลยทีเดียวแต่การตรวจยูรีน
00:46:52 → 00:46:54 ออร์แกนิเนี่ยไม่ใช่เป็นการตรวจเพื่อ
00:46:54 → 00:46:58 วินิจฉัยโรคต้องบอกไว้ก่อนแต่เป็นการตรวจ
00:46:58 → 00:47:01 เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงในร่างกายของคุณ
00:47:01 → 00:47:04 ว่าร่างกายคุณณปัจจุบันเนี่ยมันทำงานยัง
00:47:04 → 00:47:07 ไงมีอะไรขัดข้องมีอะไรผิดปกติหรือเปล่า
00:47:07 → 00:47:09 เพราะฉะนั้นเป็นตัวที่ช่วยทำให้หมอเนี่ย
00:47:09 → 00:47:12 หาสาเหตุได้ว่ามันเกิดผิดปกติในตรงไหนใน
00:47:12 → 00:47:14 ร่างกายแล้วเราสามารถปรับปรุงตรงไหนได้
00:47:15 → 00:47:17 บ้างสามารถเสริมวิตามินตัวไหนและธาตุตัว
00:47:17 → 00:47:20 ไหนที่คุณขาดเพื่อไปแก้หรือมีสารเคมีอะไร
00:47:20 → 00:47:23 ที่เราต้องเอาออกจากร่างกายเป็นเป็นตัว
00:47:23 → 00:47:25 หลักที่ทำให้เกิดสารอักเสบในร่างกายของ
00:47:25 → 00:47:28 คืนหรือคนที่ยังไม่อยากตรวจเรื่องของการ
00:47:28 → 00:47:31 อุจาระอุ๊ยเก็บลำบากมันต้องเก็บที่บ้าน
00:47:31 → 00:47:33 มันโอ้โหมันขยะแขยงหรืออะไรก็แล้วแต่
00:47:33 → 00:47:36 เนี่ยการตรวจอันนี้ก็เป็นการ screening
00:47:36 → 00:47:38 เบื้องต้นแล้วะกันว่าเออปัจจุบันเนี่ยล้ำ
00:47:38 → 00:47:40 ไส้ของคุณเนี่ยมันทำงานโอเคหรือเปล่าหรือ
00:47:40 → 00:47:42 มีการติดเชื้อหรือเปล่าถ้าเรากำลังจะเป็น
00:47:42 → 00:47:45 โรคไร้อะไรสักอย่างเราจะสังเกตตัวเองได้
00:47:45 → 00:47:48 ยังไงโรคไร้ส่วนมากจะมีสาเหตุที่แตกต่าง
00:47:48 → 00:47:51 กันแต่จะมีสิ่งนึงที่เหมือนกันคือการ
00:47:51 → 00:47:53 อักเสบการอักเสบเนี่ยต้องบอกก่อนว่าส่วน
00:47:53 → 00:47:55 ใหญ่จะเป็นเขาเรียกว่า chronic
00:47:55 → 00:47:57 inflammation เนาะหรือการอักเสบเสที่
00:47:57 → 00:47:59 เรือหลังต้องบอกก่อนว่าไม่ใช่แค่โรคร้าย
00:47:59 → 00:48:02 นะแม้กระทั่ง aging process หรือบอกว่า
00:48:02 → 00:48:05 การที่เราชราลงอ่ะเกิดจาก inflammation
00:48:05 → 00:48:06 เหมือนกันหรือการอักเสบนั่นเองเพราะว่า
00:48:07 → 00:48:09 อะไรเพราะการอักเสบพอมันมีขึ้นมาเนาะ 1
00:48:10 → 00:48:12 มันทำให้ร่างกายอ่ะเกิดความเรียกว่าความ
00:48:12 → 00:48:14 ร้อนหรืออะไรที่เกิดขึ้นใช่ป่ะที่เราบอก
00:48:14 → 00:48:16 ว่าบวมแดงร้อนที่เราสามารถสังเกตได้เลย
00:48:16 → 00:48:18 เนาะเช่นคนเป็นรูมาตอยเป็นอะไรอย่างเงี้ย
00:48:18 → 00:48:20 ค่ะมีการอักเสบเรื้อรังใช่ป่ะรู้สึกว่า
00:48:20 → 00:48:23 ปวดเจ็บอะไรอย่างเงี้ยแล้วก็ร้อนในข้อ
00:48:23 → 00:48:26 เนาะกอีกแบบนึงที่มีก็คือการอักเสบแบบ
00:48:26 → 00:48:28 เงียบเงียบการอักเสบแบบเงียบๆหมายถึงว่า
00:48:28 → 00:48:31 อะไรเราไม่รู้สึกอะไรเลยแต่มันมีการที่
00:48:31 → 00:48:34 บอกว่าเซลล์แปรเปลี่ยนสภาพไปเช่นอะไรเช่น
00:48:34 → 00:48:37 ทำให้หลอดเลือดเสื่อมลงเกิดการไขมันอุด
00:48:37 → 00:48:39 ตันก็เกิดจากการอักเสบเนาะก็ทำให้เรา
00:48:39 → 00:48:41 สามารถเป็นโรคหัวใจได้ฉะนั้นโรคโดยส่วน
00:48:41 → 00:48:44 มากอ่ะเกิดจากการอักเสบแทบทั้งนั้นก็บอก
00:48:44 → 00:48:46 ว่ามีคนไข้คนนึงอ่ะที่มาหาอันนี้คนไข้บมี
00:48:46 → 00:48:48 มาจากต่างประเทศเนาะคนไข้อายุประมาณแบบ 60
00:48:48 → 00:48:52 ละประเด็นของคนไข้คือมีโรคเบาหวานเป็นมา
00:48:52 → 00:48:54 ประมาณ 15 ปีและแล้วก็ที่อยากมาเจอเพราะ
00:48:54 → 00:48:58 อะไรอ้าปากมาเนี่ยนะโอ้โหขาวทั้งปากเลย
00:48:58 → 00:49:00 ขาวทั้งปากเนี่ยเราเรียกเป็นภาษาอังกฤษ
00:49:00 → 00:49:03 ว่าโคเคียโคเคียนี่เป็นโรคลอยขาวโรครอย
00:49:03 → 00:49:06 ขาวหมายถึงอะไรส่วนมากเนี่ยถ้าเราไม่จัด
00:49:06 → 00:49:08 การกับโรครอยขาวเนี่ยจะสามารถเปลี่ยนเป็น
00:49:08 → 00:49:10 มะเร็งในช่องปากได้เนาะคนใก็บอกว่าเนี่ย
00:49:10 → 00:49:13 หมอไม่ไหวแล้วต้องมาเจอเพราะบอกว่าเป็น
00:49:13 → 00:49:16 มะเร็งในช่องปากมาแล้ว 4 ครั้งพอเป็นปุ๊บ
00:49:16 → 00:49:18 เจอก็ผ่าผ่าเสร็จก็เป็นเป็นเสร็จก็ผ่าอีก
00:49:18 → 00:49:21 เขาบอกว่าเนี่ยฉันฉันจะลิฟกับมะเร็งหรือ
00:49:21 → 00:49:23 อยู่กับมะเร็งไม่ไหวแล้วนะทำยังไงดีก็เลย
00:49:23 → 00:49:26 ซักประวัติก่อนยูสูบบุหรี่มั้ยบอกว่าตอน
00:49:26 → 00:49:28 นี้ไม่สูบแล้วประเด็นของคนอินเดียเหมือน
00:49:28 → 00:49:31 คนไทยสมัยก่อนชอบเขี้ยวหมากอืแต่เขาบอก
00:49:31 → 00:49:33 ว่าแต่ฉันหยุดหมากมานานแล้วนะแล้วทำไมยัง
00:49:33 → 00:49:35 เป็นอะไรอย่างเงี้ยคราวนี้ก็เลยบอกว่า
00:49:35 → 00:49:38 เอ๊ะมันต้องมีอะไรผิดปกติสิใช่มยเพราะว่า
00:49:38 → 00:49:39 เรารู้อยู่แล้วว่าการอักเสบมันทำให้เกิด
00:49:39 → 00:49:41 พวกนี้ก็เลยบอกว่าเฮ้ยเป็นอะไรเบอกว่า
00:49:42 → 00:49:43 เนี่ยเป็นเบาหวานเอาเบาหวานเป็นตัวนึงะ
00:49:43 → 00:49:45 เพราะว่าการที่คุณเป็นเบาหวานน้ำตาลใน
00:49:45 → 00:49:48 เลือดมากๆมันทำให้เซลล์เสื่อมไงแล้วก็แปล
00:49:48 → 00:49:50 ว่าคุณจะมีการอักเสบอยู่ตลอดเวลาเนาะคราว
00:49:50 → 00:49:52 นี้ก็โอเคคุณเป็นเบาหวานคุณต้องแก้ที่เบา
00:49:52 → 00:49:54 หวานนะคบคุมน้ำตาลให้ได้พอเราคุมน้ำตาล
00:49:54 → 00:49:57 ได้แล้วการอักเสบเราจะพอคุมได้ใช่มั้ยอีก
00:49:57 → 00:49:59 อันนึงที่เจอเนื่องจากคนไข้อ่ะเป็น
00:49:59 → 00:50:02 มังสวิรัตไม่กินเนื้อใช่ป่ะขาดธาตุเหล็ก
00:50:02 → 00:50:04 อย่างรุนแรงเมื่อกี้เราพูดไปแล้วว่าธาตุ
00:50:04 → 00:50:06 เหล็กเด็กในเด็กอ่ะทำให้แบบว่ามีปัญหา
00:50:06 → 00:50:09 เรื่องสติปัญญาได้เนาะคราวนี้ในคนสูงวัย
00:50:09 → 00:50:10 นอกจากจะทำให้เกิดเป็นเา้าเรียกว่าโรค
00:50:10 → 00:50:13 โลหิตจางได้แล้วเลือดจางได้เนี่ยก็ทำให้
00:50:13 → 00:50:15 ภูมิทำงานได้ไม่ดีใช่ไหมมทำให้เกิดการ
00:50:15 → 00:50:17 อักเสบเรื้อหลังคราวนี้วิธีการของเราก็
00:50:17 → 00:50:21 คือว่าการแก้ไขการอักเสบเนาะแล้วก็แก้ไข
00:50:21 → 00:50:23 เรื่องของเลือดของคนไข้ให้เรียบร้อยของ
00:50:23 → 00:50:25 ท่าตเหล็กให้เรียบร้อยไอ้พวกเนี้ยก็ค่อยๆ
00:50:25 → 00:50:27 ลดลงได้ฉั้นก็เลยอยากบอกว่าจริงๆแล้ว
00:50:27 → 00:50:30 เนี่ยการอักเสบอ่ะมันเป็นแบบสิ่งสำคัญที่
00:50:30 → 00:50:32 เราต้องดูแต่คราวนี้บอกว่าเอ๊ะแล้วถ้าจะ
00:50:32 → 00:50:35 ตรวจอ่ะตรวจยังไงดีก็แน่นอนการการอักเสบ
00:50:35 → 00:50:38 เนี่ยตรวจได้จาก 1 ในเลือดเนาะแล้วก็ 2
00:50:38 → 00:50:40 ก็คือดูลักษณะของคนไข้อยู่แล้วว่าเราเห็น
00:50:40 → 00:50:43 ว่าเป็นยังไงบ้างก็ต้องคุยกับแพทย์ก่อน
00:50:43 → 00:50:45 ว่าเฮ้ยการอักเสบที่เรามีเนี่ยควรจะตรวจ
00:50:45 → 00:50:47 แบบไหนเพราะมันมีการเจาะลงลึกแล้วก็มีการ
00:50:47 → 00:50:50 ตรวจแบบว่าภูมิคำคุมดูมีการตรวจแบว่าดู
00:50:50 → 00:50:52 ภูมิคุ้มกันโดยคร่าวๆด้วยว่าเอ๊ะเม็ด
00:50:52 → 00:50:54 เลือดขาวคุณทำงานเยอะไปมั้ยเม็ดเลือดขาว
00:50:54 → 00:50:56 คุณทำงานน้อยไปมั้ยจะให้เกิดการบาลานซ์
00:50:56 → 00:50:58 เกิดขึ้นแล้วทำให้ภูมิคุณกลับมาแข็งแรง
00:50:58 → 00:51:00 ได้ในที่สุดอืมถ้าเราดูทั้งหมดเนี่ยการ
00:51:00 → 00:51:03 การตรวจแบบพิเศษแบบนี้แล้วกันเนาะมีทั้ง
00:51:03 → 00:51:04 หมดเมื่อกี้ที่เราพูดมามีทั้งหมด 4 อย่าง
00:51:04 → 00:51:06 ด้วยกันไม่ว่าจะเป็นการตรวจฮอร์โมนการ
00:51:06 → 00:51:09 ตรวจอุจจาระกัดไมโครไบโอมการตรวจยูริน
00:51:09 → 00:51:12 Organic เ่าสารอินทรีย์ในปัสสาวะและอัน
00:51:12 → 00:51:15 สุดท้ายคือเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันก็ถ้า
00:51:15 → 00:51:17 ใครสนใจอยากจะตรวจพวกนี้เนี่ยสามารถไป
00:51:17 → 00:51:20 ตรวจที่สถานพยาบาลได้หลายๆที่ก็มีเหมือน
00:51:20 → 00:51:23 กันแต่สิ่งสำคัญคือดูว่ามันเหมาะสำหรับ
00:51:23 → 00:51:25 ตัวคุณหรือเปล่าคุณจำเป็นที่จะต้องตรวจ
00:51:25 → 00:51:28 พวกนี้หรือเปล่าแลก็ให้หมอพิจารณาว่าอ่ะ
00:51:28 → 00:51:30 มันเหมาะสำหรับคุณนะแล้วคุณก็ไปตรวจเพื่อ
00:51:30 → 00:51:33 ไปดูแลสุขภาพของคุณให้ดีมากขึ้นอีกปัจจัย
00:51:33 → 00:51:35 นึงที่สำคัญนอกจากความเหมาะสมแล้วดู
00:51:35 → 00:51:38 เรื่อง budget ด้วยดูว่าคุณสามารถเหมือ
00:51:38 → 00:51:41 กับว่าสามารถจ่ายได้แค่ไหนเอาที่จำเป็นก็
00:51:41 → 00:51:43 พอเนาะไม่จำเป็นต้องว่าหมอบอกว่าเนี่ยคุณ
00:51:43 → 00:51:46 หมอ 10 อย่างแต่ฉันจ่ายได้แค่ 1 อย่าง
00:51:46 → 00:51:48 เงี้ยอันนี้มันก็เยอะเกินไปก็ดูว่าเออเรา
00:51:48 → 00:51:50 สอาจจะปรึกษาแพทย์นิดนึงเออว่าเราบอกว่า
00:51:50 → 00:51:53 มี budget เท่านี้อ่ะค่ะสามารถตรวจอะไร
00:51:53 → 00:51:55 ที่สำคัญที่สุดก่อนก็ได้จะได้รู้ว่าเออ
00:51:55 → 00:51:58 อันเนี้ยตรวจก่อนนจะได้มาแก้ไขก่อนใช่การ
00:51:58 → 00:52:00 ตรวจสุขภาพอ่ะไม่ใช่ถูกๆเราจะรู้ได้ไงว่า
00:52:00 → 00:52:03 อันไหนควรตรวจไม่ควรตรวจถ้าเรามีงบจำกัด
00:52:03 → 00:52:05 อ่ะสิ่งที่ควรตรวจมากที่สุดคืออันนี้ก็
00:52:05 → 00:52:08 ต้องบอกก่อนว่าการตรวจสุขภาพเนาะย้อนไป
00:52:08 → 00:52:11 นิดนึงเนาะก็คือต้องเจอแพทย์ก่อนเสมอ
00:52:11 → 00:52:13 เพราะว่าแพทย์อาจจะเป็นคนช่วยไกดคุณได้
00:52:13 → 00:52:15 ว่าคุณควรจะตรวจอะไรมากที่สุดเพราะว่า
00:52:15 → 00:52:18 อย่างที่บอกไปแล้วว่าอันดับแรกคือ 1 นอก
00:52:18 → 00:52:20 จากวัยอ่ะที่คุณที่คุณอายุเท่านั้นเท่า
00:52:20 → 00:52:23 นี้ใช่ป่ะคืออาการของคุณว่าคุณมีอาการยัง
00:52:23 → 00:52:26 ไงบอกแพทย์ไปเลยมีปัญหาอะไรทางด้านสุขภาพ
00:52:26 → 00:52:28 เนาะเนาะพอแพทย์อ่ะได้พูดคุยมาเค้าจะ
00:52:28 → 00:52:30 สามารถบอกได้เ็นว่าอันเนี้ยอันที่ 1 ที่
00:52:30 → 00:52:33 คุณจำเป็นจะต้องตรวจที่สุด 2 3 4 5 มี
00:52:33 → 00:52:36 อะไรบ้างเนาะแล้วก็มา discus กันหรือว่า
00:52:36 → 00:52:38 มาคุยกันว่าเออว่าคุณสามารถจ่ายได้มาก
00:52:38 → 00:52:41 น้อยแค่ไหนเพราะว่าการที่คุณแบบคิดเอาเอง
00:52:41 → 00:52:43 หรือว่าอะไรเอาเองอ่ะมันอาจจะไม่ใช่ก็ได้
00:52:43 → 00:52:45 ก็เลยบอกว่าการที่คุยกับแพทย์ก่อนนะบอก
00:52:45 → 00:52:47 รายละเอียดให้เรียบร้อยก่อนคราวนี้เราจะ
00:52:47 → 00:52:49 ได้รู้เลยว่าอันเนี้ยสำคัญที่สุดและ
00:52:49 → 00:52:51 จำเป็นต้องตรวจตอนนี้คราวนี้หมอขอทิ้ง
00:52:51 → 00:52:54 ท้ายหน่อยแล้วกันหลายคนอาจจะยังไม่มีเวลา
00:52:54 → 00:52:56 หรืองบประมาณก็แล้วกันที่จะไปดูแลสุขภาพ
00:52:56 → 00:53:00 หรือไปตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาลที่จริงอ่ะ
00:53:00 → 00:53:02 เราสามารถเริ่มดูแลตัวเองที่บ้านเลยก็ได้
00:53:02 → 00:53:04 มันจะมีการตรวจ 3 อย่างที่คุณสามารถทำเอง
00:53:04 → 00:53:06 ที่บ้านได้แล้วมันสามารถบอกว่าสุขภาพของ
00:53:06 → 00:53:08 คุณณปัจจุบันมีความเสี่ยงอะไรบ้างหรือ
00:53:08 → 00:53:11 เปล่าอันแรกคือการวัดรอบเอวรอบเอวหมายถึง
00:53:11 → 00:53:13 วัดตรงสะดือของคุณเนาะผู้ชายเนี่ยพูดง่าย
00:53:13 → 00:53:16 ๆไม่ควรเกิน 90 ซมผู้หญิงไม่ควรเกิน 80
00:53:16 → 00:53:18 ถ้ามันมากกว่านั้นคุณอาจจะเสี่ยงเป็นโรค
00:53:18 → 00:53:21 ต่างๆโรคอ้วนโลงพุงหรือโรคไขมันต่างๆได้
00:53:21 → 00:53:24 อันที่ 2 คือวัดความดันอหมอว่าหลายๆคนเคย
00:53:24 → 00:53:26 ไปวัดความดันแอันนี้ที่จริงมันก็สามารถ
00:53:26 → 00:53:28 ซื้อเองมาไว้ที่บ้านก็ได้ก็ดีเหมือนกัน
00:53:28 → 00:53:30 เนาะวิธีการวัดเนี่ยก็คือวัดหลังจากที่
00:53:30 → 00:53:33 เราตื่นนอนสัก 1 ชมแล้วพักผ่อนเนาะไม่ใช่
00:53:33 → 00:53:35 ไปออกกำลังกายแล้วมานั่งวัดยังไงก็สูง
00:53:35 → 00:53:38 เวลาที่วัดความดันก็ความดันไม่ควรเกิน 120
00:53:38 → 00:53:40 80 ละกันแต่ห้ามเมื่อไหร่มันมากเกินไป
00:53:40 → 00:53:44 อย่างเช่น 4 140 90 แล้วเอ้ยมันอาจจะมี
00:53:44 → 00:53:46 ความเสี่ยงหรือเปล่าอันนี้ก็ต้องลองไปที่
00:53:46 → 00:53:49 โรงพยาบาลดูอันที่ 3 คือเราเ้าเรียกว่า
00:53:49 → 00:53:53 การวัด BMI ค่าดัชนีมวลหลังของร่างกาย
00:53:53 → 00:53:56 เนาะอ่าการค่าวัดค่า BMI เนี่ยเราดูส่วน
00:53:56 → 00:53:59 สูงและน้ำหนักแล้วะกันเนาะก็คือดูว่าส่วน
00:53:59 → 00:54:02 เ่อน้ำหนักเนี่ยหารด้วยส่วนสูงยกกำลัง 2
00:54:02 → 00:54:05 ในเมตรคราวนี้พอเราคำนวณออกมาถ้ามันมาก
00:54:05 → 00:54:09 กว่า 22 คุณก็อาจจะมีเสียงเป็นภาวะเอิน้ำ
00:54:09 → 00:54:11 หนักเกินหรือเป็นโรคอ้วนก็ได้แต่ถ้าต่ำ
00:54:11 → 00:54:15 กว่า 18 ผอมไปขาดสารอาหารหรือเปล่าอันนี้
00:54:15 → 00:54:19 ก็เป็นการดูแลสุขภาพง่ายๆที่หลายๆคนอาจจะ
00:54:19 → 00:54:21 ไปทำเองที่บ้านก็ได้คนไทยเนี่ยชอบไปหาหมอ
00:54:21 → 00:54:24 ดูเพื่อถามคำถามมากมายแต่การตรวจสุขภาพ
00:54:24 → 00:54:26 นี่แหละที่คุณจะได้คำตอบที่แม่นยำที่สุด
00:54:26 → 00:54:29 เพราะเป็นผลจากตัวคุณเองว่าคุณเนี่ยมี
00:54:29 → 00:54:31 ความเครียดมั้ยจะเป็นโรคอะไรในอนาคตหรือ
00:54:31 → 00:54:34 เปล่าหรือจะมีลูกยากมยขนาดหมอดูอ่ะยังขอ
00:54:34 → 00:54:37 วันเดือนปีเกิดวันตกฟากเลยหมอก็ขอตรวจ
00:54:37 → 00:54:39 เลือดหน่อยได้มยก็ขอยกตัวอย่างนิดนึงก็
00:54:39 → 00:54:42 คือมีคนไข้คนนึงเงี้ยมาหาหมอใช่ป่ะแล้วก็
00:54:42 → 00:54:45 บอกว่าหมอคะนอนไม่หลับเลยค่ะขอยาหน่อยได้
00:54:45 → 00:54:48 มยยาอะไรขอยานอนหลับค่ะประเด็นคืออยากจะ
00:54:48 → 00:54:50 อธิบายให้คนไข้เข้าใจว่าจริงๆการนอนไม่
00:54:51 → 00:54:52 หลับอ่ะมันมีหลายสาเหตุเนาะไม่ว่าอาจจะ
00:54:52 → 00:54:55 เป็นเรื่องความเครียดก็ได้คุณขาดสารอาหาร
00:54:55 → 00:54:57 อะไรบางอย่างหรือเปล่าถูกมหรือว่าคุณมี
00:54:57 → 00:54:59 อะไรความผิดปกติเช่นติดเชื้ออะไรหรือ
00:54:59 → 00:55:02 เปล่าอย่างเงี้ยก็คือหมออยากขอตรวจนิดนึง
00:55:02 → 00:55:04 ว่าคุณนอนไม่หลับเกิดจากอะไรได้บ้างแล้ว
00:55:04 → 00:55:06 ก็เราจะได้แก้ที่ถูกจุดไงอีกอันนึงเหมือน
00:55:06 → 00:55:10 กันที่เจอมาคืออันนี้คนไข้ดีมากขอตรวจแต่
00:55:10 → 00:55:13 คนไข้เล่าประวัติน้อยมากคราวนี้ตรวจออกมา
00:55:13 → 00:55:15 ผลออกมาปึ๊บโดยเฉพาะเรื่องของโฮร์โมนก็
00:55:15 → 00:55:17 เลยแปลผลโฮร์โมนให้คนไข้ฟังพอแปลเสร็จ
00:55:18 → 00:55:21 ปุ๊บคนไข้บอกหมอคะหมอเป็นหมอดูเหรอคะทำไม
00:55:21 → 00:55:23 รู้หมดเลยว่าหนูเครียดทั้งมาทั้งชีวิตพัง
00:55:23 → 00:55:27 มาขนาดนี้ก็เจอได้หลากหลายรูแบบอกันจาก
00:55:27 → 00:55:29 ที่เราพูดคุยกันมาทั้งหมดก็หวังว่า EP
00:55:29 → 00:55:31 เนี้ยจะเป็นประโยชน์ให้กับหลายๆคนจะได้
00:55:31 → 00:55:33 เข้าใจว่าทำไมถึงควรตรวจสุขภาพแล้วการ
00:55:33 → 00:55:36 ตรวจสุขภาพเนี่ยสำคัญยังไงจะได้เอาไปใช้
00:55:36 → 00:55:39 ได้ในชีวิตจริงถ้าใครมีคำถามสุขภาพอะไรก็
00:55:39 → 00:55:41 สามารถเขียนลงมาด้านล่างนี้ได้นะครับหมอ
00:55:41 → 00:55:43 ก็อยากฝากกด Subscribe หน่อยแล้วกันนะ
00:55:43 → 00:55:46 ครับเพื่อเป็นกำลังใจให้หมอทั้ง 2 คนทำ EP
00:55:46 → 00:55:48 หน้าต่อมาเพื่อเป็นความรู้ให้กับผู้ฟัง
00:55:48 → 00:55:51 หลายๆคนนะครับและนี่คือรายการ Doctor
00:55:51 → 00:55:53 Talk podcast ที่หมอและผู้เชี่ยวชาญทาง
00:55:53 → 00:55:56 ด้านสุขภาพจะมาพูดคุยประเด็นเรื่องสุขภาพ
00:55:56 → 00:55:59 ต่างๆฝากกดไลค์คอมเมนกดแชร์และเป็นกำลัง
00:55:59 → 00:56:02 ใจให้หมอทั้ง 2 คนด้วยครับสวัสดีครับ
00:56:02 → 00:56:05 สวัสดีค่ะ