00:00:02 → 00:00:06 ใครอยากจะถามอาจารย์นิดนึงว่าไอ้อาการตก
00:00:06 → 00:00:09 หลุมรักน่ะค่ะมันเป็นเกิดจากจิตใจหรือสาร
00:00:09 → 00:00:11 ของสมองนะคะมันสั่งการเราคะอาจารย์ว่าให้
00:00:11 → 00:00:14 เราต้องรักคนคนนี้อ่ะค่ะอาจารย์
00:00:14 → 00:00:19 แต่ต้องแบ่งเป็น 2 เรื่องนะครับโดยคน
00:00:19 → 00:00:22 สงสัยแล้วก็มีการหาคำตอบกันยาวๆนานมากนะ
00:00:22 → 00:00:26 ครับแต่เดี๋ยวจะ 2 ส่วนได้เห็นภาพง่าย
00:00:26 → 00:00:27 ขึ้นมากันว่า
00:00:27 → 00:00:32 การตกหลุมรักมันเกิดจากอะไรกับการตกหลุม
00:00:32 → 00:00:37 รักใครอันเนี้ยเป็นคนละเรื่องกัน
00:00:37 → 00:00:40 การตกหลุมรักเนี่ยจริงๆมันเป็นเรื่องปกติ
00:00:40 → 00:00:44 ของของสิ่งมีชีวิตนะครับอันนี้มันเป็น
00:00:44 → 00:00:48 เพราะว่าเอ่อตัวสมองด้วยของชีวิตเนี่ยโดย
00:00:48 → 00:01:50 เขาจะมีระบบ
00:01:50 → 00:01:53 หรือว่าคนในครอบครัวในความรักเนี่ยเราไม่
00:01:53 → 00:01:55 ได้มีการสืบพันธุ์อยู่มันก็เป็นการเพื่อ
00:01:55 → 00:01:58 ให้เราปกป้องดูแลครอบครัว
00:01:58 → 00:02:01 ก็คือความรักเนี่ยมันก็มันมันก็เป็นสมอง
00:02:01 → 00:02:04 แหละสั่งเป็นพันธุกรรมให้เราสิ่งดีๆคืน
00:02:04 → 00:02:08 นั้นมีพฤติกรรมที่เราจะต้องดูแลอะไรก็ตาม
00:02:08 → 00:02:10 อันนี้ก็แล้วแต่ประเภทของความรักแต่ว่า
00:02:10 → 00:02:13 ถ้าเป็นวาเลนไทน์เนี่ยก็
00:02:13 → 00:02:17 หลายๆคนก็จะโฟกัสที่ว่ามีคู่ครองเป็นแบบ
00:02:17 → 00:02:20 เป็นแฟนใช่มั้ยวาเลนไทน์เนี่ยหลังๆเราก็
00:02:20 → 00:02:24 เอ่อรณรงค์บอกว่ารักได้เยอะเลยนะรัก
00:02:24 → 00:02:26 เพื่อนรักครอบครัวอะไรเป็นบวกนะครับแต่
00:02:27 → 00:02:30 ว่าเอาเป็นว่า 1 ความรักเกิดจากสมองนะ
00:02:30 → 00:02:34 ครับแต่ก็จะมีมีหลายๆบริเวณเลยแหละที่ทำ
00:02:34 → 00:02:36 ให้เกิดความรักแล้วก็มีสัตว์เคมีที่
00:02:36 → 00:02:38 เกี่ยวข้องอันนี้ปัจจุบันเรารู้แล้วว่า
00:02:38 → 00:02:41 เสืออะไรแต่ไอ้ที่มันเป็นเรียกว่าลี้ลับ
00:02:41 → 00:02:46 มากๆเลยนะครับก็คือทำไมเรารักใครอ่ะไล่คน
00:02:46 → 00:02:49 นั้นเป็นเวลารับคนนี้เป็นคนเป็นคนดีแต่
00:02:49 → 00:02:52 เราไม่รักเขาอ่ะเออเอออันนี้อันนี้ต้อง
00:02:52 → 00:02:55 บอกก่อนว่ามันเป็นเรื่องที่ปัจจุบันนะ
00:02:55 → 00:02:58 ครับเราก็ยังหาคำตอบไม่ได้ 100% นะครับ
00:02:58 → 00:03:03 แต่ว่าเราเราเจอทฤษฎีแล้วอันที่ที่มันดู
00:03:03 → 00:03:05 ว่าเอ๊ะมันอาจจะมีคำเข้าเขาหรือมีความ
00:03:05 → 00:03:06 เป็นไปได้
00:03:06 → 00:03:10 ในบางคนหรือในบางเรื่องนะคะแต่ว่าต้องบอก
00:03:10 → 00:03:12 เลยไม่มีทฤษฎีใหม่หรือยังไม่สามารถหาคำ
00:03:12 → 00:03:16 ตอบได้ว่าทำไมเราต้องรับคนๆนึงทำไมไม่รัก
00:03:16 → 00:03:18 คนอื่นอย่างนี้ทำไมมันเลือกอะไรทำไมต้อง
00:03:18 → 00:03:19 เป็นเรื่องแบบนี้ด้วยนะครับ
00:03:19 → 00:03:22 ข้อที่ 1 อาจจะมีก็ดีแรกก็คืออาจจะเป็น
00:03:22 → 00:03:25 เรื่องของประสบการณ์ในอดีต
00:03:25 → 00:03:29 เพราะว่าที่ผ่านมาเนี่ยถ้าเกิดเราโตมาเรา
00:03:29 → 00:03:32 เจอแบบคนที่ลักษณะท่าทางแบบนี้เขาทำให้
00:03:32 → 00:03:35 เรารู้สึกดีปลอดภัยใจดีนะเมื่อเราโตขึ้น
00:03:35 → 00:03:39 เราก็มีแววเบาที่เราผลิตภาพแบบนั้น
00:03:39 → 00:03:43 เออเราก็อาจจะรู้สึกแบบหน้าตาแบบนี้ถ้าทำ
00:03:43 → 00:03:46 แบบเนี้ยอุ๊ยเมื่อก่อนเราจัดการเราดี้ดี
00:03:46 → 00:03:49 อาจจะอาจจะรู้ตัวหรือไม่รู้ตัวก็ได้นะเรา
00:03:49 → 00:03:51 ก็รู้สึกว่าเราก็เลือกคนที่เรารู้สึกดี
00:03:51 → 00:03:55 ประสบการณ์ที่ดีด้วยแต่บางคนก็อาจจะเป็น
00:03:55 → 00:03:57 เรื่องคนที่มีประสบการณ์ที่ไม่ดีก็ได้นะ
00:03:57 → 00:03:58 ครับ
00:03:58 → 00:04:01 เรารู้สึกว่าไอ้หน้าตาแบบที่ท่าทางสวยแบบ
00:04:01 → 00:04:04 นี้โอ้โหมันแย่มากเลยแต่ว่าถ้าเราชอบคน
00:04:04 → 00:04:07 แบบนี้มันก็อาจจะมีทฤษฎีหลายๆอย่างบอกว่า
00:04:07 → 00:04:10 อาจจะคิดได้สำนึกเราอยากจะแบบเอาชนะหรือ
00:04:10 → 00:04:13 อย่าไปแก้ไขอดีตหรือจะไปอะไรก็ตามอย่าง
00:04:13 → 00:04:16 เงี้ยมันก็อาจจะมีเกี่ยวข้องดังนั้นบางที
00:04:16 → 00:04:19 เราก็อาจจะรักคนที่เราชอบเหมือนคนที่ดี
00:04:19 → 00:04:22 หรือคนที่เราไม่ชอบก็ได้หรือบางครั้งมัน
00:04:22 → 00:04:24 อาจจะเป็นเรารักคนที่
00:04:24 → 00:04:28 เราต้องการแบบเต็มก็ได้นะหรือเราต้องการ
00:04:28 → 00:04:31 รักคนที่เราไม่ต้องการจับเงินก็ได้เราจะ
00:04:31 → 00:04:33 มีบุคลิกภาพบางอย่างที่เรารู้สึกว่าเรา
00:04:33 → 00:04:36 อยากจะเป็นแบบเนี้ยเราก็เลยชอบคนดูรักคน
00:04:36 → 00:04:39 ดีบางครั้งที่เราไม่อยากจะเป็นแต่เราก็ไป
00:04:39 → 00:04:42 ชอบอย่างเงี้ยก็มีนะครับเพราะฉะนั้นมันก็
00:04:42 → 00:04:45 จะมีแตกออกไปอีกหลาย 10 ข้อเลยนี้มันก็
00:04:45 → 00:04:49 เป็นประสบการณ์แต่ว่าอันที่ 2 ที่อาจจะมี
00:04:49 → 00:04:51 ทฤษฎีที่หลายคนพูดถึงก็อาจจะมีพันธุกรรม
00:04:51 → 00:04:53 ด้วยนะครับเพราะว่าความรู้จักของเราเนี่ย
00:04:53 → 00:04:57 มันอาจจะทำให้เหมือนกับว่าเอ่อพันธุกรรม
00:04:57 → 00:05:03 ที่อาจจะมีแนวโน้มที่จะชอบหรืออาจจะรักคน
00:05:03 → 00:05:05 ละคนที่มีลักษณะบางอย่างได้ง่ายกว่า
00:05:05 → 00:05:08 ลักษณะอื่นอย่างนี้ครับเราก็เคยเห็นแบบ
00:05:08 → 00:05:11 เหมือนแต่แบบบางคนเนี่ยรักคนที่ท่าทาง
00:05:11 → 00:05:15 หรืออะไรที่มันคลายกันนะครับก็ได้ทีนี้
00:05:15 → 00:05:17 มันก็แต่เขาบอกทั้งปวงเลยครับมันไม่มี
00:05:17 → 00:05:20 อะไรตายตัวเลยนะครับ
00:05:20 → 00:05:25 มันไม่ได้แบบอันนี้แบบนี้เป๊ะๆเปิดวิธี
00:05:25 → 00:05:27 แบบนี้มันจะเป๊ะขนาดนั้นในเรื่องของความ
00:05:27 → 00:05:30 รักนะเป็นความรู้สึกมันค่อนข้างที่จะมี
00:05:30 → 00:05:34 เรื่องราวของวิธีการหรือว่ารูปแบบที่ที่
00:05:34 → 00:05:36 ค่อนข้างที่จะหลากหลายเหมือนกันนะคุณหมอ
00:05:36 → 00:05:37 นะ
00:05:37 → 00:05:40 ใช่แล้วถึงไม่บอกว่าจริงๆมันเป็นความรู้
00:05:40 → 00:05:43 ล้ำถึงตรงนี้แล้วเนี่ยอย่าเพิ่งตกอกตกใจ
00:05:43 → 00:05:47 ไปหรืออย่างบางคนแบบตายแล้วพันธุกรรมหรือ
00:05:47 → 00:05:50 เปล่าหรือฉันมีอดีตที่ทำให้ฉันต้องรับคน
00:05:50 → 00:05:53 บางประเทศหรือเปล่าถูกไหมถ้าเรามีรักที่
00:05:53 → 00:05:56 ผมหวังแล้วเนี่ยไปแต่บางคนแบบไปเจอคนเอา
00:05:57 → 00:06:01 แต่ 3 คนเป็นเพื่อนหนุ่มปุ๊บคนก็คือทุกคน
00:06:01 → 00:06:04 บางคนเนี่ยไปชอบสาวๆบางคนปราสาททุกคนที่
00:06:04 → 00:06:08 เขาชอบเจ้าชู้หมดเลยก็มีอ่าทีนี้เราต้อง
00:06:08 → 00:06:10 บอกอย่างงี้มั้ยคะว่าเอ่อ
00:06:10 → 00:06:16 มนุษย์เนี่ยมีฟังก์ชันนึงที่อาจจะอาจจะ
00:06:16 → 00:06:19 พัฒนาค่อนข้างดีเลยคือเราเกิดการเรียนรู้
00:06:19 → 00:06:22 ได้ดังนั้นเนี่ยไอ้สิ่งประการที่เราชอบ
00:06:22 → 00:06:25 หรืออะไรก็ตามที่ผ่านมาเนี่ยเราเจอว่า
00:06:25 → 00:06:29 เนี่ยพอพอเรารู้แล้วว่าความสัมพันธ์หรือ
00:06:29 → 00:06:31 ความรักบางอย่างที่มันไม่ใช่
00:06:31 → 00:06:36 รู้จักเรียนรู้ที่เราจะทำให้มันดีขึ้นคือ
00:06:36 → 00:06:41 ปรับปรุงแก้ไขจุดดำได้นะครับหรือถ้าคุณไป
00:06:41 → 00:06:44 แล้วรู้สึกแบบไม่ใช่เราสามารถที่จะเลือก
00:06:44 → 00:06:46 วิธีในการที่แบบแยกย้ายจบความสัมพันธ์
00:06:46 → 00:06:50 เพื่อไปมีรักใหม่กว่าคนอื่นได้
00:06:50 → 00:06:53 มันเป็นเรียกว่าจะบอกผลการเรียนรู้เนี่ย
00:06:53 → 00:06:57 โดยการของมนุษย์เนี่ยค่อนข้างดีนะครับดัง
00:06:57 → 00:07:00 นั้นก็จะมีกรณีที่เราสามารถเปลี่ยนได้เรา
00:07:00 → 00:07:02 มีการเรียนรู้เพิ่มเติมได้ไอ้แบบนี้มัน
00:07:02 → 00:07:05 ไม่ดีเราเก็บไว้เราจำแบบเราก็เปลี่ยนเป็น
00:07:05 → 00:07:08 ที่ดีกว่านะครับแต่ว่าบางครั้งการเรียน
00:07:08 → 00:07:10 รู้ของบางคนเนี่ยอาจจะเกิดการเปลี่ยน
00:07:10 → 00:07:14 เปลี่ยนคนแล้วล่ะแต่ว่าลืมไปว่าต้อง
00:07:14 → 00:07:17 ต้องเปลี่ยนผมเลือกใหม่ด้วยแหละเรื่องแบบ
00:07:17 → 00:07:22 เดิมซ้ำๆเปลี่ยนกฎหมาย
00:07:22 → 00:07:24 นี่พออาจารย์พูดถึงแบบอ่ะรักเป็นความรัก
00:07:24 → 00:07:28 ไม่เป็นเรื่องของลี้ลับไงหยกนึกถึงคำพูด
00:07:28 → 00:07:30 คำหนึ่งเลยนะเขาพูดครั้งนี้ด้วยนะคะน้อง
00:07:30 → 00:07:33 โอ๋บอกว่าความรักก็เหมือนผีเป็นสิ่งที่
00:07:33 → 00:07:35 แบบมีแต่ก็มองไม่เห็น
00:07:35 → 00:07:37 แล้วให้อาการตกหลุมรักเนี่ยค่ะอาจารย์แบบ
00:07:37 → 00:07:40 ว่าเราจะรู้ได้ไงว่าเนี่ยฉันรักคุณไงนอก
00:07:40 → 00:07:43 จากประสบการณ์ในอดีตพันธุกรรมที่เราจะรู้
00:07:43 → 00:07:44 สึกของเราเองอ่ะค่ะถ้าเกิดว่าเราสังเกต
00:07:45 → 00:07:48 ว่าเนี่ยเออฉันเนี่ยเริ่มชอบเขาแล้วนะและ
00:07:48 → 00:07:50 ที่อาจารย์บอกว่าบางคนเนี่ยทำไมแบบยุติ
00:07:50 → 00:07:52 ความสัมพันธ์อย่างเดียวทั้งคนเริ่มต้น
00:07:52 → 00:07:55 ใหม่เร็วจังเลยแต่บางคนก็แบบ
00:07:55 → 00:07:59 จำอยู่นั่นมันไม่ลืมไม่เลิกไม่ลาสักทีค่ะ
00:07:59 → 00:08:02 อาจารย์แต่ละคนทำไมมันไม่มันมันมัน
00:08:02 → 00:08:05 เป็นยังไงคะอาจารย์เลิกเร็วเลิกช้ารวมถึง
00:08:05 → 00:08:09 ยังไงคะอาจารย์และเหล่านี้มันก็อาจจะเป็น
00:08:09 → 00:08:12 ประสบการณ์ในอดีตด้วยนะครับแล้วก็อาจจะ
00:08:12 → 00:08:13 เป็นเรื่องของพฤติกรรมเรียนรู้เข้าไป
00:08:13 → 00:08:16 เกี่ยวข้องเยอะถ้าเกิดเราแบบเอ่อสภาวะแวด
00:08:16 → 00:08:19 ล้อมที่เราโตมาเราเราเห็นแบบเอ่อมีตัว
00:08:19 → 00:08:22 อย่างให้เราเห็นเป็นเหมือนเป็นการได้
00:08:22 → 00:08:25 ประสบการณ์พ่ออย่างเงี้ยบางทีผมก็ช่วยได้
00:08:25 → 00:08:29 หรือบางคนมีประสบการณ์ตรงๆบางทีก็เก็บ
00:08:29 → 00:08:35 เราได้ครับแต่ว่าเอ่อแต่ละช่วงวัยเด็กจะ
00:08:35 → 00:08:37 ปรับเปลี่ยนหรือการที่ความรู้สึกว่าความ
00:08:37 → 00:08:39 รักเนี่ยมันจะไม่เท่ากันนะครับเพราะว่า
00:08:39 → 00:08:42 อ่าโดยเฉพาะเรื่องถ้าเป็นความรักของของ
00:08:42 → 00:08:45 ความเป็นคู่ครองหรือกลุ่มดาวนะครับเราก็
00:08:45 → 00:08:48 จะเจอว่าในวัยรุ่นหรือหนุ่มสาวเนี่ยเขาจะ
00:08:48 → 00:08:51 มีคอโบว์เค้ามาเกี่ยวข้องด้วยนะครับ
00:08:51 → 00:08:54 ฮอร์โมนเหล่านี้เป็นปีโป้ฮอร์โมนเพศอะนะ
00:08:54 → 00:08:57 ครับก็จะทำให้คนรู้สึกว่ามันแบบร่างกาย
00:08:57 → 00:09:00 สภาวะร่างกายเนี่ยมันเหมือนมีการเปลี่ยน
00:09:00 → 00:09:04 แปลงเพื่อให้รู้สึก
00:09:04 → 00:09:06 รับได้รับการจัดการข้อมูลเนี่ยทำให้เรา
00:09:06 → 00:09:09 รู้สึกว่ามันถูกกระตุ้นเพื่อให้เราสนใจ
00:09:09 → 00:09:13 นะครับหรือใส่ใจกับกับเรื่องนี้มากขึ้นนะ
00:09:13 → 00:09:15 ครับเพราะมันเกี่ยวข้างบนโดยเฉพาะห้อง
00:09:15 → 00:09:18 เนี่ยบางทีก็เวลาที่ไปเกี่ยวกับความการ
00:09:18 → 00:09:20 หลุดตกหลุมรัก
00:09:20 → 00:09:23 จะรู้สึกแบบคิดเนียนก๊อบได้หลับ
00:09:23 → 00:09:25 กระสับกระส่ายอะไรก็แล้วแต่เพราะฮอร์โมน
00:09:25 → 00:09:28 มันขึ้นนะครับ
00:09:29 → 00:09:32 เพราะว่าถ้าเกิดว่าเราไม่มีความรู้สึกแบบ
00:09:32 → 00:09:34 นี้เหมือนเขาบอกว่ามันไม่ทำงานเราก็อาจจะ
00:09:34 → 00:09:36 ไม่เกิดการมีคู่ครองมันอาจจะไม่สามารถ
00:09:36 → 00:09:39 ดำรงเผ่าพันธุ์ได้เพราะว่าเราจะไปทำอย่าง
00:09:39 → 00:09:42 อื่นกันหมดเลยอ่ะนะครับไอ้ตัวฮอร์โมนก็ก็
00:09:42 → 00:09:45 มันเกิดเพื่อให้เราเกิดเกิดแบบลมเผ่า
00:09:45 → 00:09:47 พันธุ์ต่อไปนั่นแหละไอ้เป็นเบื้องต้นนะ
00:09:47 → 00:09:50 ครับแต่ว่าในวัยที่ฮอร์โมนเหล่าเนี้ยมัน
00:09:50 → 00:09:52 ทำงานมากไอ้เรื่องความรักพวกนี้มันก็จะ
00:09:52 → 00:09:56 เป็นความเป็นสำคัญกับเขามากไปต่ำผบหรือ
00:09:56 → 00:09:59 ตามวัยที่เกิดขึ้น
00:09:59 → 00:10:01 ก็เหมือนประมาณว่าวัยรุ่นอาจให้ความสำคัญ
00:10:01 → 00:10:03 พออายุมากขึ้นแล้วก็ไม่ได้สำคัญแล้วล่ะ
00:10:03 → 00:10:08 ใช่ไหมคะอาจารย์โฟกัส
00:10:08 → 00:10:12 แทนลดลงนะครับแล้วก็ประสบการณ์ที่มากขึ้น
00:10:12 → 00:10:16 ก็อาจจะอาจจะรู้วิธีการอยู่กับความรักยัง
00:10:16 → 00:10:20 ไงให้เป็นมีความสุขขึ้นหรือมีความทุกข์
00:10:20 → 00:10:22 น้อยลงยาได้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนอายุ
00:10:22 → 00:10:26 มากขึ้นแล้วจะไม่รับนะครับคนที่อาจจะ
00:10:26 → 00:10:30 มีอายุมากเป็นผู้สูงวัยเขาก็มีรักใหม่ได้
00:10:30 → 00:10:32 แต่ว่าบางทีเกี่ยวกับเรื่องของทางเพศ
00:10:32 → 00:10:35 เนี่ยมันก็อาจจะแปรเปลี่ยนไปตามระดับ
00:10:35 → 00:10:41 ฮอร์โมนเพศที่ได้เท่ากันในแต่ละวัย
00:10:41 → 00:10:44 มันก็มีมีเรื่องของอายุมีเรื่องของ
00:10:44 → 00:10:50 ประสบการณ์เข้ามาเกี่ยวข้องแต่ก็ไม่
00:10:50 → 00:10:53 ว่าเกือบๆทั้งหมดที่ไม่ใช่แต่เรื่องของ
00:10:53 → 00:10:57 ของความรู้สึกเองก็ไม่ได้ทำให้หรือ
00:10:57 → 00:11:00 ประสบการณ์ที่ผ่านมามันก็ทำให้ให้เข็ดใน
00:11:00 → 00:11:03 เรื่องหรือว่าหลับในเรื่องของความรักนะ
00:11:03 → 00:11:04 คุณหมอนะ
00:11:04 → 00:11:09 ก็ยังก็ยังยังขวนขวายที่จะหาความรักต่อ
00:11:09 → 00:11:10 เนื่องต่อไป
00:11:10 → 00:11:13 ไม่ว่าจะเป็นรักอะไรรักแบบหนุ่มสาวก็แล้ว
00:11:13 → 00:11:16 แต่หรือเดี๋ยวนี้เขามีรักอีกหลายรูปแบบนะ
00:11:16 → 00:11:19 คุณหมอรักกับแบบสัตว์เลี้ยงบ้างล่ะเรียก
00:11:19 → 00:11:21 เป็นลูกเรียกเป็นอะไรแบบนี้บ้างเลือดรัก
00:11:21 → 00:11:25 สิ่งของรักเกี่ยวกับเอ่อของสะสมอะไรก็มี
00:11:25 → 00:11:28 อันนี้ก็เป็นการแสดงออกความรักได้อีกหลาก
00:11:28 → 00:11:29 หลายแบบนะ
00:11:29 → 00:11:33 ครับแต่ว่าความรักเราถ้าเราพูดถึงทฤษฎี
00:11:33 → 00:11:36 ความรักเนี่ยจริงๆเราก็จะบอกว่ากลไกบางคน
00:11:36 → 00:11:39 ไกลเรื่องความรักที่เป็นหนุ่มสาวหรือเป็น
00:11:39 → 00:11:42 คู่ครองเนี่ยบางทีมันก็อาจจะถ้าเรา
00:11:42 → 00:11:44 วิเคราะห์กันแล้วเนี่ยมันก็จะมีความรัก
00:11:44 → 00:11:47 หลายรูปแบบอยู่ในความสัมพันธ์ไม่ได้มี
00:11:47 → 00:11:50 ความไม่ได้มีรูปแบบเดียวอาจจะมีแบบเชิง
00:11:50 → 00:11:53 ชั้น 3 เป็นคู่ครองมีความเป็นเพื่อนมี
00:11:53 → 00:11:55 ความรักเป็นแบบเป็นครอบครัวเป็นใยมันมี
00:11:55 → 00:11:58 ความรักแต่ละแบบนิยามที่ไม่สนใจความรู้
00:11:58 → 00:12:00 สึกมันก็จะมีความต่างต่างนะครับเพราะว่า
00:12:00 → 00:12:03 มันก็มีหลายคนไกลทีนี้เราอยากปัจจุบัน
00:12:03 → 00:12:07 เนี่ยเราเราก็จะต้องเราก็มีเราเราก็จะออก
00:12:07 → 00:12:11 มาเอ่อให้ความเข้าใจกันปลูกไปแต่ว่าภาพ
00:12:11 → 00:12:14 ลักษณ์เนี่ยมันมีหนักหวานนะครับแล้วก็เรา
00:12:14 → 00:12:17 สามารถให้ความรักกับคนทุกคนได้แต่ว่ารูป
00:12:18 → 00:12:21 แบบอาจจะแตกต่างกันไปแต่ละบุคคลเท่านั้น
00:12:21 → 00:12:25 เองแต่ว่าทั้งดีทั้งนั้นฝากไว้สำหรับวัน
00:12:25 → 00:12:29 วาเลนไทน์ก็คือพวกมึงอ่ะนะ
00:12:29 → 00:12:31 ตอนนี้อาจจะมีกระแสในสังคมค่อนข้างเยอะ
00:12:31 → 00:12:35 ต้องบอกเลยว่าความรุนแรง
00:12:35 → 00:12:39 เท่ากับความรักนะครับท่านเจ้าของก่อน
00:12:39 → 00:12:42 เพราะหลายๆคนถามหมอเยอะมากพวกนี้ว่าอุ้ย
00:12:42 → 00:12:44 ทำไมแบบรักกันแล้วต้องใช้ความรุนแรงมัน
00:12:44 → 00:12:50 เป็นแบบตัวที่สุดความรักเป็นด่างโคตรเลว
00:12:50 → 00:12:53 เก็บแต้มเก็บประสบการณ์ความรักหรอใช่นะ
00:12:53 → 00:12:58 ครับคือคือต้องบอกว่าความรักคนทั่วโลกมี
00:12:58 → 00:13:00 ความรักที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่แบบวัย
00:13:00 → 00:13:05 หนุ่มจะแก่ได้แดกเข้ามาได้เลยแล้วก็มี
00:13:05 → 00:13:09 สุขภาพที่มีความสุขกับชีวิตมากๆเนี่ยต้อง
00:13:09 → 00:13:13 เข้าไว้เลยนะครับความเมื่อมีความรักมัน
00:13:13 → 00:13:15 ไม่มีมันไม่จำเป็นต้องมีความรุนแรงแล้วก็
00:13:15 → 00:13:17 อย่าบอกว่าความรุนแรงเป็นส่วนหนึ่งของ
00:13:17 → 00:13:20 ความรักเพราะว่าหลายๆคนมักจะไปเข้าใจผิด
00:13:20 → 00:13:23 แล้วก็ยอมให้อีกฝั่งนึงทำร้ายพรรคร่างกาย
00:13:23 → 00:13:26 หรือจิตใจเพราะว่าผมว่ามันคือการแสดงออก
00:13:26 → 00:13:27 ความรักซึ่งมันไม่ใช่
00:13:27 → 00:13:31 อันนี้ก็เคยสงสัยนะคะว่าทำไมเขาตกมาเรา
00:13:31 → 00:13:35 ต้องทนด้วยเออแล้วเราตบกลับได้ไหมก็จะ
00:13:35 → 00:13:37 ยิ่งแรงตอบฉันอาจารย์แต่ทางที่ดีคือถ้า
00:13:37 → 00:13:42 เกิดไม่ตีกันน่าจะดีสุดเนาะแต่ว่า
00:13:42 → 00:13:45 ในเรื่องของอย่างในเรื่องของปัจจุบันพี่
00:13:45 → 00:13:48 หยกคุณหมอเออปัจจุบันเนี่ยเรามีโซเชียล
00:13:48 → 00:13:53 เยอะมีช่องทางที่เห็นภาพต่างๆในมุมมองของ
00:13:53 → 00:13:57 ความรับเกี่ยวกับเอาผมกดลงไปที่วัยรุ่น
00:13:57 → 00:13:59 เลยไอ้เด็กเลยละกันเด็กอย่างเงี้ย
00:13:59 → 00:14:04 เขาๆไปไปรับข้อมูลในการแสดงออกความรักแบบ
00:14:04 → 00:14:07 แบบผิดๆนะฮะแบบที่เราเห็นกันอุ๊ยรวมกลุ่ม
00:14:07 → 00:14:12 กันแย่งแย่งเอ่อ
00:14:12 → 00:14:18 อาจารย์
00:14:18 → 00:14:21 สมัยด้วย
00:14:21 → 00:14:24 ต่อจากการแย่งกันมันดีนะแต่ส่วนใหญ่เป็น
00:14:24 → 00:14:28 หนุ่มๆแย่งสาว
00:14:28 → 00:14:30 พูด
00:14:30 → 00:14:32 ๆ
00:14:32 → 00:14:34 [เพลง]
00:14:34 → 00:14:37 ด้วยกันก็มี
00:14:37 → 00:14:52 ปัจจุบันปัจจุบันแล้วนะครับ
00:14:52 → 00:14:57 มันเป็นเรื่องปกติมากๆแล้วแต่ว่าอย่างที่
00:14:57 → 00:15:00 บอกไม่ว่าจะแบบไหนนะครับ
00:15:00 → 00:15:02 เพศอะไรเนี่ย
00:15:02 → 00:15:06 ถ้าเราเอ่ออยู่กับความรักหรือมองความรัก
00:15:06 → 00:15:08 ไม่ถูกเนี่ยบางทีเราอาจจะได้อย่างอื่นมา
00:15:08 → 00:15:10 มันเป็นแค่ความรักแต่เรานึกว่ามันเป็น
00:15:10 → 00:15:15 ความรักอะไรที่มันแบบจะปลอมตัวมาในภาพ
00:15:15 → 00:15:17 เด็กเราจะมองว่ามันคือความไม่ใช่อย่าง
00:15:17 → 00:15:20 เช่นการ
00:15:21 → 00:15:24 อยากจะครอบครองอ่า
00:15:24 → 00:15:26 คือต้องบอกว่าอาการ
00:15:26 → 00:15:28 การเป็นเป็นคู่ครองหรือความรักที่ได้มา
00:15:28 → 00:15:31 จริงๆมันไม่มีวัฒนธรรมต้องได้เท่าไหร่จะ
00:15:31 → 00:15:34 ได้เท่าไหร่นะแต่บางคนจะต้องชนะมันมีการ
00:15:34 → 00:15:37 แข่งขันอันนี้ก็เป็นความรักที่สุดทางละ
00:15:37 → 00:15:44 มัน
00:15:44 → 00:15:47 เธอจะต้องทำตามฉันทุกอย่าง
00:15:47 → 00:15:49 ไม่ให้คบเพื่อน
00:15:49 → 00:15:53 ไม่ติดต่อพ่อแม่เราก็ยังเคยเห็น
00:15:53 → 00:16:00 ครับ
00:16:00 → 00:16:04 คุณก็จะเป็นความบิดเบี้ยวของความ
00:16:04 → 00:16:07 เรื่องของมุมมองความรู้สึกของความ
00:16:07 → 00:16:10 สัมพันธ์ไปแล้วนะครับแล้วก็จะมีหลายอย่าง
00:16:10 → 00:16:13 เลยเช่นความรักที่จริงๆมันอาจจะไม่ใช่รัก
00:16:13 → 00:16:16 อ่ะแต่มันอาจจะเป็นเหมือนแบบเห็นคนอื่น
00:16:16 → 00:16:18 เขาทำกันก็เลยทำตามแล้วเข้าใจแล้วก็คือ
00:16:18 → 00:16:21 ความรักอย่างเช่นการที่จะต้องแบบคบคนหลาย
00:16:21 → 00:16:26 ๆคนนะเห็นเขามีแฟนพาไปสมัยก่อนเค้ามีกิ๊ก
00:16:26 → 00:16:29 อยู่มันก็เราก็ไม่ค่อยใช้คำดูแล้วครับแต่
00:16:29 → 00:16:31 ว่าอะไรเสมอก่อนก็บอกว่าจะต้องมีคบกันแบบ
00:16:31 → 00:16:34 เป็นการแล้วก็คิดกับคนอื่นอะไรอย่างเงี้ย
00:16:34 → 00:16:37 ไอ้พวกนี้มันก็จะไม่ใช่ความรักละอันนี้
00:16:37 → 00:16:41 มันก็จะมันจะเป็นการสนุกกับการได้เล่น
00:16:41 → 00:16:43 สนุกกับความสัมพันธ์แทนแล้วซึ่งมันอาจจะ
00:16:43 → 00:16:47 แย่ไปเยอะได้เลยนะครับ
00:16:47 → 00:16:52 ถามนิดนึงพออาจารย์พูดถึงเนี่ยรักผิดนู่น
00:16:52 → 00:16:54 นี่นี่ค่ะการที่อาจารย์พูดมาหนูนึกถึงอัน
00:16:54 → 00:16:57 นี้อีกอันนึงนะพฤติกรรมของคนสมัยนี้หลอก
00:16:57 → 00:17:00 ให้รักอ่ะค่ะรวมทั้งสแกนน่ะซึ่งจริงๆอ่ะ
00:17:00 → 00:17:03 สงสัยมากเลยว่ารักเนี่ยการที่เราคุยกัน
00:17:03 → 00:17:07 เห็นทางไลน์หรือว่าทางแชททางแบบ Facebook
00:17:07 → 00:17:09 เนี่ยแค่เพียงไม่กี่นาทีที่เรารักกันได้
00:17:09 → 00:17:12 หรอคะจากตัวอักษรมันไม่ได้สัมผัสจับต้อง
00:17:12 → 00:17:14 เราไม่ได้มีประสบการณ์ร่วมกันเราจะรักกัน
00:17:14 → 00:17:28 ได้หรอคะอาจารย์อันนี้อยากให้อาจารย์
00:17:28 → 00:17:30 สมัยนี้เป็นอย่างอะไรอย่างเงี้ย
00:17:30 → 00:17:34 ประมาณนั้น
00:17:34 → 00:17:37 ว่าอย่าไปคิดว่าเป็นเด็กสมัยนี้เลยเพราะ
00:17:37 → 00:17:40 ว่าไอ้เรื่องที่นัดกันผ่านตัวอักษรมีตั้ง
00:17:40 → 00:17:45 แต่สมัยจดหมาย
00:17:45 → 00:17:49 ในสมัยตั้งแต่อยุธยาที่เราเห็นกันนะครับ
00:17:49 → 00:17:51 ก็เขาไปตัดผมสาวเข้ามาเจอกันแล้วก็ส่ง
00:17:51 → 00:17:53 จดหมาย
00:17:53 → 00:17:57 ส่งอะไรกันไปมันก็ไม่ได้เจอกันโดยตรงแต่
00:17:57 → 00:17:59 เขาก็รักกันไปหาตัวอักษร
00:17:59 → 00:18:01 [เพลง]
00:18:01 → 00:18:06 ขึ้นได้ไหมมันเกิดขึ้นได้นะครับแต่ว่าบาง
00:18:06 → 00:18:07 ทีสิ่งที่เกิดขึ้นเนี่ยมันจะต้องตั้งสติ
00:18:07 → 00:18:11 ให้ดีว่ามันจะเป็นความรักจริงหรือเปล่า
00:18:11 → 00:18:13 แต่ว่าความรักที่มันเกิดจากการผ่าน
00:18:13 → 00:18:27 ประวัติศาสตร์
00:18:27 → 00:18:31 เนี่ยถ้าคนสองคนเนี่ยพยายามทำความเข้าใจ
00:18:31 → 00:18:34 พยายามเป็นตัวของตัวเอง
00:18:34 → 00:18:34 มี
00:18:34 → 00:18:38 พยายามมองตัวตนอยู่เป็นตัวเขาจริงๆนะครับ
00:18:38 → 00:18:41 ถ้าเราเนี้ยมันก็อาจจะทำให้เรียนรู้การ
00:18:41 → 00:18:45 อ่านตัวอักษรได้แต่ว่าปัญหาที่เกิดขึ้น
00:18:45 → 00:18:47 บางทีมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเพราะว่าการ
00:18:47 → 00:18:49 ที่เราพิมพ์ไปเดี๋ยวบางทีเราอาจจะไม่เป็น
00:18:49 → 00:18:52 ตัวของตัวเอง 100% ให้มันเนี่ยก็ได้ข้อ
00:18:52 → 00:18:58 ความ
00:18:58 → 00:19:01 ให้มันรักแต่เพราะตัวจริงมันออกมาก็อาจจะ
00:19:01 → 00:19:03 ไม่ใช่นะอีกฝ่ายหนึ่งก็จะทำเหมือนกันหรือ
00:19:03 → 00:19:06 เปล่าหรือบางทีเนี่ยเราอาจจะจินตนาการ
00:19:06 → 00:19:10 อีกฝั่งนึงมันโดนเรียกว่าง่ายมโนเอาว่า
00:19:10 → 00:19:12 เขาเป็นเด็กที่เราคิดเวลาที่มันเป็นแค่
00:19:12 → 00:19:13 ตัวอักษรหรือ
00:19:13 → 00:19:17 คำพูดไม่เห็นสีหน้าตา
00:19:17 → 00:19:22 ดังนั้นเนี่ยบางทีอาจจะตีความผิดได้
00:19:22 → 00:19:25 แล้วมีความโชคดีมีความสุขเรียนรู้กันดี
00:19:25 → 00:19:28 มันอาจจะสำเร็จก็ดีนะครับแต่ว่าส่วนใหญ่
00:19:28 → 00:19:32 เนี่ยมันมีความผิดว่าอาจจะเกิดการเข้าไป
00:19:32 → 00:19:33 ผิดหรือไม่ไป
00:19:33 → 00:19:37 หวังไว้สูงนะครับส่วนใหญ่สมัยนี้มันเป็น
00:19:37 → 00:19:40 มิตรอ่ะค่ะที่
00:19:40 → 00:19:42 แบบว่าเนี่ยอยู่ดีๆก็แบบเงี้ยค่ะถ้าเรา
00:19:42 → 00:19:45 บางคนแบบมันจะเห็นแบบเขาจะเข้าไปใน
00:19:45 → 00:19:47 กิจกรรมของเราที่เราแบบว่าเข้ามาแล้วว่า
00:19:47 → 00:19:50 เออชอบเหมือนกันเลยนะครับอะไรอย่างนี้
00:19:50 → 00:19:52 หรือว่าชอบเหมือนกันเลยนะคะอะไรอย่างนี้
00:19:52 → 00:19:55 แล้วก็จะแบบว่าแบบอยู่ดีๆก็รักจังเลยคิด
00:19:55 → 00:19:58 ถึงจังเลยคืออันนี้ค่ะที่ที่หยกสงสัยแต่
00:19:58 → 00:20:00 หยกเข้าใจที่อาจารย์บอกว่าคนเรารักขวัญ
00:20:00 → 00:20:02 ตัวอักษรถ้าคุณแสดงความเป็นตัวตนของคุณ
00:20:02 → 00:20:05 เปิดเผยจริงใจเราก็สามารถสานต่อความ
00:20:05 → 00:20:07 สัมพันธ์ได้แต่ช่วงระยะการโต้ตอบอ่ะค่ะ
00:20:07 → 00:20:10 อาจารย์ความรักทางตัวอักษรเนี่ยมันยาวนาน
00:20:10 → 00:20:12 ไหมคะอาจารย์กับการที่เราได้ใช้แบบ
00:20:12 → 00:20:14 รีเลชั่นคิดเจอกันเนี่ยอันไหนมันยาวนาน
00:20:14 → 00:20:20 กว่ากันหรือว่ามันระยะเวลามันสั้นกว่าไหม
00:20:20 → 00:20:24 เราก็เจอว่าเราก็เจอว่าคนที่คุยกันเค้า
00:20:24 → 00:20:27 คุยกันหลายปีแล้วเขายังความสัมพันธ์ที่ดี
00:20:27 → 00:20:30 อันนี้มันก็ดีใช่ไหมครับแต่ว่าคนที่มาเจอ
00:20:30 → 00:20:32 กันเลยแบบว่าอาจจะไปเจอกันเลยแล้วนี่เป็น
00:20:32 → 00:20:36 แฟนกันด่วนเลยอย่างเงี้ยสักพักนึงก็ดี
00:20:36 → 00:20:39 ดังนั้นอย่างที่บอกแล้วแต่ตอนราคาสุดท้าย
00:20:39 → 00:20:42 แล้วความรักเนี่ยมันมันเป็นเรื่องลึกอยู่
00:20:42 → 00:20:45 นะครับ
00:20:45 → 00:20:48 ประสบการณ์ชีวิตความคิดมุมมองหลายๆอย่าง
00:20:48 → 00:20:51 ที่เป็นเข้ามาดังนั้นดีที่สุดเนี่ยเราก็
00:20:51 → 00:20:55 ยังไม่รู้ว่าวิธีไหนคือดีที่สุดสำหรับคนๆ
00:20:55 → 00:20:59 นึงแต่ว่าเราเชื่อว่าแต่ละคนถ้าเรามี
00:20:59 → 00:21:03 ประสบการณ์เกิดการเรียนรู้เอาประสบการณ์
00:21:03 → 00:21:07 ในอดีตเนี่ยแบบเป็นแบบเรียนเป็นตัวตัวนึง
00:21:07 → 00:21:09 ที่ทำให้เรามีกำลังใจ
00:21:09 → 00:21:11 แล้วเอาประสบการณ์ทางพ่อบอกคนอื่นเนี่ย
00:21:11 → 00:21:14 มันเรียนรู้เพื่อเราไม่จำเป็นต้องผิดพลาด
00:21:14 → 00:21:17 ซ้ำแบบคนอื่นเหมือนยาเบื่อหนูอ่ะครับ
00:21:17 → 00:21:21 เนี่ย
00:21:21 → 00:21:24 อะไรที่เรารู้ว่าไม่มีเราก็จำเป็นต้องทด
00:21:24 → 00:21:26 ลองกับตัวเองก็ได้อย่างเงี้ยมันก็เพื่อ
00:21:26 → 00:21:27 เป็น
00:21:27 → 00:21:29 การๆกลั่นกรองระดับหนึ่งให้เราอาจจะเลือก
00:21:29 → 00:21:33 คนหรือความรักที่มันปลอดภัยขึ้นและสุด
00:21:33 → 00:21:36 ท้ายก็ไม่มีอะไร 100% นะครับบางทีเราก็
00:21:36 → 00:21:39 อาจจะถูกกว่าได้แต่คนที่แม้ว่าเขาจะดีมาก
00:21:39 → 00:21:41 ๆก็ตามเพราะว่าคือเราก็ไม่ได้รักคนอื่น
00:21:41 → 00:21:42 ทุกคน
00:21:42 → 00:21:46 นะครับแล้วเราจะทันเกมเอ่อคนกลุ่มนี้ยัง
00:21:46 → 00:21:49 ไงครับเพราะว่าผมมองว่าเขาจะมีเชิง
00:21:49 → 00:21:52 จิตวิทยาของเขาในการนำมาใช้หว่านล้อม
00:21:52 → 00:21:55 เหมือนกันนะเพราะกว่าจะถูกหลอกได้เนี่ยก็
00:21:55 → 00:21:56 ใช้เวลา
00:21:56 → 00:22:00 3-4 วันถึงจะหลงกล
00:22:00 → 00:22:02 เราจะ
00:22:02 → 00:22:06 รู้ใจคนพวกนี้ได้บ้างไหมครับ
00:22:06 → 00:22:10 บางทีเราก็ดูค่อนข้างยากเพราะว่าบางครั้ง
00:22:10 → 00:22:13 เนี่ยเขาอาจจะเป็นของจริงก็ได้ของจริงที่
00:22:13 → 00:22:16 เค้าปรับเร็วแต่อย่าลืมว่าคนที่ชอบเลวเขา
00:22:16 → 00:22:19 ก็เบื่อเร็วได้เหมือนกัน
00:22:19 → 00:22:23 บางทีบางทีอาจจะไม่ได้มาหลอกนะ
00:22:23 → 00:22:28 ดังนั้นถ้าเราไม่อยากจะกลายเป็น
00:22:28 → 00:22:31 เหยื่อของพฤติกรรมของเขาหรือเราไม่อยากจะ
00:22:31 → 00:22:33 กลายเป็นคนผิดหวังก็ต้องค่อยๆดูแล้วใช้
00:22:33 → 00:22:36 เวลานานๆเพราะว่าสุดท้ายแล้วเนี่ยผมไม่มี
00:22:36 → 00:22:38 ใครอยากจะมีความสำคัญแบบความสัมพันธ์แบบ
00:22:39 → 00:22:41 ควบคู่ก็ยาวคนส่วนใหญ่ก็คงอยากจะมีความ
00:22:41 → 00:22:45 ชันที่แบบไปแบบต่อด้วยกันได้เรื่อยๆนะ
00:22:45 → 00:22:48 ครับยกเว้น 18 คนที่ชอบงานฉันแบบขอคุย 5
00:22:48 → 00:22:50 วันฉันเปลี่ยนคนละแบบก็ก็ดูแลตัวเองดีๆ
00:22:50 → 00:22:54 แล้วก็คนส่วนใหญ่ก็ไม่อยากจะมานั่งผิด
00:22:54 → 00:22:56 หวังหรือมานั่งคุยกับใครบ่อยๆเจ็บใหม่
00:22:56 → 00:22:59 บ่อยๆนะครับเพราะฉะนั้นก็ค่อยๆทำดูดูให้
00:22:59 → 00:23:03 มั่นใจก่อนบางทีเรื่องบางเรื่องเนี่ยมัน
00:23:03 → 00:23:06 ไม่ใช่ว่าเร็วและดีกว่าหมูไปเพราะว่าคน
00:23:06 → 00:23:07 เราจะไปประยุกต์ปัจจุบันเนี่ยเจอโฆษณา
00:23:07 → 00:23:10 แล้วสมองเรามันเยอะว่าเร็วเท่านั้นถึงจะ
00:23:10 → 00:23:13 ดีจริงๆไม่ใช่เรื่องบางเรื่องช้าหน่อยจะ
00:23:13 → 00:23:17 ดีกว่าก็ทั้งวันอาจจะปลอดภัยกว่าแล้วเรา
00:23:17 → 00:23:20 จะสบายใจกว่าจะได้ครับอันนี้เหมือนประมาณ
00:23:20 → 00:23:22 แบบแต่มันก็ไม่เชิงการรีบแต่ว่ามันเป็น
00:23:22 → 00:23:26 แบบว่าให้ช้าๆหน่อยค่อยๆรอให้ค่อยๆตกหลุม
00:23:26 → 00:23:29 รักค่อยๆรักกันเรื่อยๆเรื่อยๆใช่ไหมคะ
00:23:29 → 00:23:40 อาจารย์จะได้ดูไปเรื่อยๆ
00:23:40 → 00:23:48 ครับ
00:23:48 → 00:23:52 เบื้องหลังปลอมเหมือนก็มีเพราะฉะนั้นต้อง
00:23:52 → 00:24:05 เช็คให้ดีก่อนใช่ไหมอาจารย์
00:24:05 → 00:24:08 โซเชียลมีเดียเยอะมาก
00:24:08 → 00:24:13 ใส่เสื้ออะไร
00:24:13 → 00:24:17 ดีอีกนะแล้วก็หลอกให้ตกหลุมรักแล้วก็ให้
00:24:17 → 00:24:19 โอนเงิน
00:24:19 → 00:24:22 นะครับหรือว่าเหมือนแบบว่านั่งคุยเล่นที่
00:24:22 → 00:24:26 โน่นชวนไปเล่นต่ออย่างเงี้ยตอนที่ 5 นะ
00:24:26 → 00:24:30 ครับดังนั้นจะไปแลกใครเนี่ยดูดีๆต่อเนาะ
00:24:30 → 00:24:33 มีคน
00:24:33 → 00:24:43 มีคนไข้ของอาจารย์เจิม
00:24:43 → 00:24:46 Facebook ก็มีหมดเลยอย่างเงี้ยตอนนี้มัน
00:24:46 → 00:24:49 เยอะมาก
00:24:49 → 00:24:53 เกิดจากใครก็ได้แล้วผมบอกเลยนะบางทีเสียง
00:24:53 → 00:24:58 คนเก่งแค่ไหนประสบการณ์พวกคนแค่ไหนจบชั้น
00:24:58 → 00:25:01 อะไรมาก็เป็นเหยื่อได้ถ้าเราไม่ระวัง
00:25:01 → 00:25:05 จริงบางคนแบบมาได้จังหวะพอดีกำลังรู้ได้
00:25:05 → 00:25:08 ที่เขาบอกว่าที่นี้ขอคู่แล้วแบบมาพอดีเลย
00:25:08 → 00:25:11 เขาทักมาพอดีเลยก็เชื่อกันเถอะนะคะ
00:25:11 → 00:25:15 อาจารย์เป็นโรงบอกเขานี่ว่าไปบูมมา
00:25:15 → 00:25:28 ลงเฟซบุ๊กอะไรอย่างนี้นะ
00:25:28 → 00:25:31 ครับ
00:25:32 → 00:25:35 เพราะว่าบางทีเพราะว่าเราทำนายไปได้ว่ามา
00:25:35 → 00:25:40 ตลาดแต่ว่าที่แน่ๆถ้าเราไม่อยากลงตัวหรือ
00:25:40 → 00:25:43 ดวงไม่ดีเมื่อไหร่ก็ตามที่คุยไปแล้วแล้ว
00:25:43 → 00:25:46 เขาเริ่มขอตังค์หรือให้อะไรที่เกี่ยวกับ
00:25:46 → 00:25:50 เงินเนี่ยให้คิดเลยไว้ก่อนเลย 90% คือ
00:25:50 → 00:25:52 นิสัยที่
00:25:52 → 00:26:06 มีนะครับ
00:26:06 → 00:26:09 จริงค่ะอาจารย์นี่คุณผู้ฟังบอกว่าสมัยนี้
00:26:09 → 00:26:11 ค่ะคนตัวเลือกเยอะแล้วถึงกับแอดมินไม่มี
00:26:11 → 00:26:14 แอปหาคู่ด้วย
00:26:14 → 00:26:18 คุณหมอครับอีกสักเรื่องนึงอันนี้ผมนึก
00:26:18 → 00:26:23 ขึ้นได้แว๊บๆขึ้นมาพอดีมันมีคาถาไหมว่า
00:26:23 → 00:26:26 ถ้าเราผิดหวังจากเรื่องความรัก
00:26:26 → 00:26:29 เราจะฟื้นตัวเองให้ไม่ให้จมอยู่กับเรื่อง
00:26:29 → 00:26:30 นั้นแล้วก็
00:26:30 → 00:26:33 ทำในสิ่งที่มัน
00:26:33 → 00:26:36 ส่งผลไม่ดีต่อเราเนี่ยมันจะพอมีคาถาให้
00:26:36 → 00:26:42 เราหลุดจากช่วงนั้นได้ไหม
00:26:42 → 00:26:43 [เพลง]
00:26:43 → 00:26:49 ว่าจะขอให้ข้อหลักการ 3 ข้อเป็นการประคบ
00:26:49 → 00:26:51 พยาบาลจิตใจเรา
00:26:51 → 00:26:56 1 ทั้งสติเลยเราก็บอกตัวเองว่าถ้าเราผิด
00:26:57 → 00:27:03 หวังเราอกหักการเสียใจไม่ใช่เรื่องผิด
00:27:03 → 00:27:05 หวัง
00:27:05 → 00:27:08 คนทุกคนในโลกนี้
00:27:08 → 00:27:17 คือถ้าเกิดอกหักกระดูกหัก
00:27:17 → 00:27:20 ถ้าเราไม่ได้ป่วยนะถ้าเราเป็นคนปกติเรา
00:27:20 → 00:27:22 ต้องผิดหวังเสียใจแน่นอน
00:27:22 → 00:27:27 2 นะครับข้อที่ 2 ถ้าเราเสียใจเนี่ยเรา
00:27:27 → 00:27:29 เสียใจที่เสร็จเสียใจก็คือเราเป็นคนปกติ
00:27:29 → 00:27:33 เสียใจก็คือเสียใจยอมรับว่า
00:27:33 → 00:27:36 เรารู้สึกเสียใจผิดหวังจำเป็นจะต้องโทษ
00:27:36 → 00:27:39 ตัวเองหรือเปล่าจำเป็นต้องโทษใครหรือ
00:27:39 → 00:27:41 เปล่าบางทีเรื่องบางเรื่องก็ไม่จำเป็น
00:27:41 → 00:27:44 ต้องโทษใครเพราะว่าความรักบางทีมันก็ไม่
00:27:44 → 00:27:47 ได้มีใครผิดหรือไปถูกมันอาจจะแค่มันบอก
00:27:47 → 00:27:50 กันหรือเปล่าแต่ถ้าเป็นผิดหรือถูกชัดเจน
00:27:50 → 00:27:53 ถ้าเรามีส่วนผิดเราเก็บไว้แก้ไขสำหรับ
00:27:53 → 00:27:56 ความรักครั้งต่อไปประเทศอื่นถ้าเกิดคนถือ
00:27:56 → 00:28:00 ว่าทำผิดกับเราปล่อยวางปล่อยให้ระพายและ
00:28:00 → 00:28:02 ให้มันผ่านไปเพื่อเราจะได้เดินหน้าต่อ
00:28:02 → 00:28:05 เพราะว่าบางทีเก็บเอาไว้เนี่ยบางทีเขาก็
00:28:05 → 00:28:07 ไม่รู้สึกอะไรหรอกเขาก็ไม่ได้เดือดร้อน
00:28:07 → 00:29:11 อะไรมีแต่เราที่เก็บเอาไว้ที่เราจะเบื่อ
00:29:11 → 00:29:14 ทำร้ายคนอื่นทำร้ายพวกบุคคลที่ 3 เลย
00:29:14 → 00:29:17 เงี้ยเหล่าเนี้ยสุดท้ายแล้วชีวิตเราก็จะ
00:29:17 → 00:29:20 เหนื่อยไม่จบสักทีหาหมอช่วยดีกว่านะครับ
00:29:20 → 00:29:22 แล้วก็หลายๆคนเนี่ยชีวิตมีความสุขกว่า
00:29:22 → 00:29:27 เดิมมากไม่รู้กี่เท่า
00:29:27 → 00:29:31 อันนี้คุณอกหักนะไว้เยียวยาตัวเองนะคะก็
00:29:31 → 00:29:35 ยอมรับความจริงเนอะแล้วก็ก้าวต่อไปแล้วคน
00:29:35 → 00:29:37 ที่แบบว่าต้องการรักษาความสัมพันธ์ให้ยาว
00:29:37 → 00:29:40 นานนะคะอาจารย์ต้องทำยังไงบ้างคะอาจารย์
00:29:40 → 00:29:44 สำคัญอย่างเลอะอย่างแรกเลยนะครับก็
00:29:44 → 00:29:47 เทคนิคมันคงมีหลายเทคนิคคิดว่าอันที่มัน
00:29:47 → 00:29:50 ดีมากๆหนึ่งนะครับที่เป็นคนไทยด้วยก็คือ
00:29:50 → 00:29:53 เอาใจเขามาใส่ใจเรา
00:29:53 → 00:29:57 นะครับ
00:29:57 → 00:29:59 เราอย่าทำเดือดร้อน
00:29:59 → 00:30:03 ถ้าเราจะถ้าเรารู้สึกดีกับใครเขาทำดีเลย
00:30:03 → 00:30:06 อยากให้คุณทำดีกับเรายังไงเราก็ทำดีกว่า
00:30:06 → 00:30:09 เดิมว่าดังนั้นต้องมีการสื่อสารมาด้วยนะ
00:30:09 → 00:30:11 ครับไม่ใช่ว่าจะไปยัดเยียดสิ่งดีๆที่เขา
00:30:11 → 00:30:14 ไม่ต้องการอันเนี้ยการ
00:30:14 → 00:30:17 ดังนั้นก็เอาใจเขาไปใส่ใจเรามีการสื่อสาร
00:30:18 → 00:30:22 ที่ดีไม่ยัดเยียดความคิดของเราใส่เทาแล้ว
00:30:22 → 00:30:25 ก็ถ้าเรารู้สึกไม่โอเคก็สื่อสารกันดีๆโดย
00:30:25 → 00:30:29 ใช้เหตุและผลได้ใช้อารมณ์ดังนั้นถ้าทำตรง
00:30:29 → 00:30:31 นี้ได้มันก็จะเบาไปแล้วส่วนตัวเองแต่นอก
00:30:31 → 00:30:34 จากนั้นเนี่ยถ้าเกิดว่าบางทีบางคนจะเป็น
00:30:34 → 00:30:37 พ่อเป็นแม่เนี่ยบางทีก็ลืมไปว่าฉันเคย
00:30:37 → 00:30:40 เป็นสามีภรรยาไปก่อนเนาะมันก็ดีมันขาดตอน
00:30:40 → 00:30:43 ที่แบบเลี้ยงลูกกันไปสักพักแล้วอ๋อเพราะ
00:30:43 → 00:30:47 ว่าผมลืมความเป็นสันภรรยาแล้วมัวแต่เป็น
00:30:47 → 00:30:51 พ่อเป็นแม่
00:30:51 → 00:30:54 เติมความหวานคือเป็นระยะมีเวลาให้จัดเป็น
00:30:54 → 00:30:57 ระยะอย่าทอดอย่ากินกันถึงแม้ว่าเราจะมี
00:30:57 → 00:31:00 ภาระหน้าที่ตั้งนานทั้งลูกทั้งพ่อแม่แล้ว
00:31:00 → 00:31:03 ก็ตามแต่ว่าหาเวลาที่จะ
00:31:03 → 00:31:07 เติมความหวานมาด้วยความรักมันก็จะได้ที่
00:31:07 → 00:31:21 สุดจากนะครับ
00:31:21 → 00:31:23 เพิ่มความหวานเข้าไป
00:31:23 → 00:31:26 วันนี้ต้องแบบว่าขอบพระคุณอาจารย์มากเลย
00:31:26 → 00:31:30 นะคะก็ได้รับความคิดเห็นหรือว่าแบบเขา
00:31:30 → 00:31:32 เรียกว่าเหมือนอาจารย์สอนแล้วก็บอกเล่า
00:31:32 → 00:31:35 เราถึงเกี่ยวกับเรื่องว่าเราควรมองยังไง
00:31:35 → 00:31:39 วางใจยังไงนะคะที่จะทำให้แบบไม่ตกหลุมรัก
00:31:39 → 00:31:41 ก็ไม่ตามบ่อยโกรธใครหรือความรุนแรงก็ไม่
00:31:42 → 00:31:44 ควรใช้เราจะได้รู้ว่ารักให้ดีรักให้เป็น
00:31:44 → 00:31:46 ต้องเป็นยังไงวันนี้ต้องขอขอบพระคุณ
00:31:46 → 00:31:51 อาจารย์อภิชาติมากนะคะอาจารย์
00:31:51 → 00:31:54 สวัสดีค่ะ