00:00:00 → 00:00:02 พ่อพูดไม่ได้พ่อขยับไม่ได้อีกหนึ่งในสิ่ง
00:00:02 → 00:00:04 ที่ญาติไม่เข้าใจผมจะบอกว่าญาติบางคนบอก
00:00:04 → 00:00:06 ว่าทำไมไม่สู้ล่ะทำไมไม่ทำหน่อยล่ะนู่น
00:00:06 → 00:00:08 นี่นั่นแต่ให้นึกอีกอย่างนึงว่าคนที่
00:00:08 → 00:00:11 หงุดหงิดกว่าคุณคือคนไข้ที่เคยยกแขนได้
00:00:11 → 00:00:13 แต่ตอนนี้ยกไม่ได้ผมเชื่อว่าหลายๆคนก็ฝึก
00:00:13 → 00:00:16 อยู่ไม่น้อยเราให้กำลังใจในลักษณะที่เป็น
00:00:16 → 00:00:18 Positive เฮ้ยทำได้แล้วเฮ้ยเมื่อวานทำ
00:00:18 → 00:00:22 ไม่ได้เ้ยวันนี้เราเห็นแล้วเริ่มทำได้
00:00:22 → 00:00:25 จริงยินดีต้อนรับเข้าสู่เป็น Club นะครับ
00:00:25 → 00:00:30 มาพบกับจันและอมในเมื่อคุณตอนนี้เราพูด
00:00:30 → 00:00:34 ถึงเรื่องโรคหลอดเลือดสมองต่อใช่เป็นตอน
00:00:34 → 00:00:37 ที่ 2 นะครับเมื่อกี้ที่ติดกันไว้ก็คือใน
00:00:37 → 00:00:39 ตอนแรกเราเล่าหมดแล้วว่ามันคืออะไรเป็น
00:00:40 → 00:00:43 ยังไงเราคาดหวังอะไรกับมันพอได้ประมาณไหน
00:00:43 → 00:00:46 อาการที่จะเกิดขึ้นอ่าสำคัญที่สุดทวนอีก
00:00:46 → 00:00:48 ครั้งขออนุญาตที่ขอโทษที่ทวนบ่อยอย่า
00:00:48 → 00:00:49 เพิ่งเบื่อกันเพราะสิ่งนี้คือสิ่งที่
00:00:50 → 00:00:52 สำคัญที่สุดสำหรับคุณในคลิปนี้เออแต่ว่า
00:00:52 → 00:00:54 ที่เหลือก็จะเป็นแบบเป็นรายละเอียดทำให้
00:00:54 → 00:00:57 เข้าใจตัวโรคมากขึ้นจำเอาไว้เนาะ bfast b
00:00:57 → 00:01:00 e f a s นะครับเป็นตัวย่อเนาะเราต้อง
00:01:00 → 00:01:04 รีบทำให้เร็วเนาะอ่า b คือ Balance เนาก็
00:01:04 → 00:01:09 คือการทรงตัวนะเดินไม่ตรงนะครับ e คือ E
00:01:09 → 00:01:12 ใช่มยอ่ามีอาการผิดปกติจากการมองเห็นเมอง
00:01:12 → 00:01:16 เห็นไม่ชัดมองผิดไปแๆตาข้างนึงดับใช่
00:01:16 → 00:01:18 เหมือนตาข้างนึงดับจำวันนี้ได้อ่า f f
00:01:18 → 00:01:21 คืออะไรนะ f คือ f คืออะไรนะอ๋อหน้า
00:01:21 → 00:01:24 เบี้ยวใช่มั้เฟซคือหน้าเบี้ยวนะครับอ่ามี
00:01:25 → 00:01:29 การเบี้ยวของปากเนาะอ่า a a นี่อะไรนะ
00:01:29 → 00:01:33 อ่าออารมแขนยกไม่ขึ้นข้างใดข้างหนึ่งเนาะ
00:01:33 → 00:01:35 มันค่อนข้างจะน้อยที่ที่จะยกไม่ขึ้นทั้ง 2
00:01:35 → 00:01:38 ข้างแต่ว่าถ้าแค่ยกข้างนึงไม่ขึ้นตามใจก็
00:01:38 → 00:01:41 คือต้องรีบติดต่ออ่อนแรงข้างเดียวมักจะ
00:01:41 → 00:01:44 เป็นข้างเดียวหรือว่าขาก็ได้นะบางทีแบบจะ
00:01:44 → 00:01:46 เดินขาข้างเยันได้ปกติขาข้างนี้ลากแล้ว
00:01:46 → 00:01:48 เอ้ยเกิดอะไรขึ้นซึ่งนี้ก็จะอยู่กับ
00:01:48 → 00:01:49 Balance ด้วยใช่มอยู่ตตอยู่กับ Balance
00:01:50 → 00:01:52 ด้วยส่วนนึงใช่มันก็คือทั้งแขนทั้งขาเนาะ
00:01:52 → 00:01:54 ใช่มันมักจะไปคู่กันโอเค S คือ spe หรือ
00:01:54 → 00:01:57 ว่าพูดอ่าลิ้นแข็งพูดไม่ชัดจากเดิมเคยพูด
00:01:57 → 00:01:59 เยอจากเดิมพูดเร็วๆมากอันนี้ต้องอาจจะพูด
00:01:59 → 00:02:02 ชช้าลงหรือว่าพูดไม่เป็นคำมันจะไม่เป็นคำ
00:02:02 → 00:02:04 เลยมันจะพูดเอ่อแบเหมือนๆเหมือนออกเสียง
00:02:04 → 00:02:06 ไม่ได้ลิ้นติดเนาะใช่
00:02:07 → 00:02:10 โอเคมาอย่างงี้เลยจริงอแล้วก็คือตัว T ก็
00:02:10 → 00:02:14 คือให้โทรโทรหาฉุกเฉินนะครับก็คือ 1669
00:02:14 → 00:02:17 1669 ใช่ให้เร็วสุดถ้าใกล้บ้านท่านมี
00:02:17 → 00:02:19 เบอร์อื่นที่แบบมันคิดว่าเร็วกว่ารู้ไว้
00:02:19 → 00:02:21 ซะหน่อยก็เบอร์อะไรก็ได้แต่โทรหาโรง
00:02:21 → 00:02:24 พยาบาลแล้วกันอ่านะครับบอกไว้เตือนทุกๆคน
00:02:24 → 00:02:28 นะครับเป็นอ่าสิ่งที่รู้ไว้แล้วดีกว่าอือ
00:02:28 → 00:02:31 ฮึเนาะเพื่อที่จะได้อช่วยเหลือและฟื้นฟู
00:02:31 → 00:02:33 สภาพของผู้ป่วยได้ทันและดีที่สุดอแล้วก็
00:02:33 → 00:02:35 นี่คือพาร์ทแรกเนาะที่ให้พี่จั่นทวนให้
00:02:35 → 00:02:39 ฟังเพราะว่านี่ทุกคนดูพี่จั่นเป็นมนุษย์
00:02:39 → 00:02:42 ตัวอย่างเด็กสายสินคนหนึ่งที่ไม่ไม่ค่อย
00:02:42 → 00:02:43 รู้วิทยาศาสตร์หรอกแต่เผอิญเามี
00:02:43 → 00:02:45 ประสบการณ์นิดนึงเคก็จะจำได้หน่อยบอกตรงๆ
00:02:45 → 00:02:48 ว่าฟิสิกเคมีชีวะนี่ไม่เคยเรียนเลยนะอ่า
00:02:48 → 00:02:50 ใช่มั้ยเรียนแต่วิทพื้นฐานเออนั่นแหละวิ
00:02:50 → 00:02:53 พื้นวิดพื้นแต่เรารู้สึกว่าอ่าเรื่อง
00:02:53 → 00:02:56 เรื่องสุขภาพหรือว่าแบบโรคใกล้ตัวถ้ารู้
00:02:56 → 00:03:00 ตั้งแต่เด็กอ่ะมันยิ่งมีมีความตระหนักรู้
00:03:00 → 00:03:01 มากขึ้นอย่างสมมุติว่าถ้าเรารู้เรื่องแบบ
00:03:02 → 00:03:04 โรคเบาหวานความดันโรคหัวใจอ่ะว่าแบบ
00:03:04 → 00:03:06 สาเหตุมันคืออะไรยังไงอย่าเงี้ยมันจะยิ่ง
00:03:06 → 00:03:09 แบบว่าหักห้ามตัวเองได้มากขึ้นเออมันรู้
00:03:09 → 00:03:12 เอาปูนนี้มันมันก็ไม่ใช่ว่าสายไปแต่ว่า
00:03:12 → 00:03:14 อ่าอย่างน้อยๆเราก็มีแบบการตระหนักรู้
00:03:14 → 00:03:16 หรือ awareness มันยังห้ามตัวเองทันไม่
00:03:16 → 00:03:19 ให้แบบเกินเลยไปมากกว่านี้ได้ทันไม่ทัน
00:03:19 → 00:03:21 ไม่รู้แต่ว่าวันเนี้ยรู้แล้วใช่อ่าให้ดู
00:03:21 → 00:03:26 แลตัวเองใช่เออรู้ที่แย่ที่สุดคือรู้งี้
00:03:26 → 00:03:29 ครับเออจริงคือถ้าสมมุติว่าเกิดกับคนใกล้
00:03:29 → 00:03:33 ตัวกคุณนะแล้วมารู้ทีหลังว่าทำอะไรได้ดี
00:03:33 → 00:03:35 กว่าเนี้ยเออหรือว่ารู้อะไรไม่สู้รู้งี้
00:03:35 → 00:03:38 อ่ะรู้งี้แย่มันมันเรารู้สึกแย่ที่
00:03:38 → 00:03:40 สุดละบางทีแบบถ้าทุกคนจะทำใจยอมรับได้นะ
00:03:40 → 00:03:43 ไม่มีปัญหาแต่บางคนรู้สึกว่ามันน่าจะดี
00:03:43 → 00:03:45 กว่านี้ได้เนาะณตอนนั้นอะไรเงี้ยมันก็จะ
00:03:45 → 00:03:48 เสียดายเนาะนะครับเอามาต่อมาสดชื่นสดชื่น
00:03:48 → 00:03:49 ไม่เอาเมื่อกี้มีเมื่อกี้มีอีกนิดนึงด้วย
00:03:49 → 00:03:53 ป่ะไอ้เรื่องแบบว่าที่เให้เทสยิ้มยิ้มอ่า
00:03:53 → 00:03:55 ใช่ใช่ถ้าเกิดว่ายิ้มแล้วแบบปากเบี้ยวก็
00:03:55 → 00:03:58 คือแบบอ่ะอาจจะเกิดอาการอ่าเป็นโรคหลอด
00:03:58 → 00:04:01 เลือดในสมใช่เจะติหรือแตกก็ไม่รู้แต่ว่า
00:04:02 → 00:04:04 ต้องรีบไปหาหมองแต่หน้าตาคุณผู้ฟังอาจจะ
00:04:04 → 00:04:07 ดูดีกว่าผมนะครับดูประหลาดๆหน่อยแต่ว่า
00:04:07 → 00:04:10 เวลาที่คนไข้พยายามจะยิ้มยิงฟันให้เราที่
00:04:10 → 00:04:13 เท่ากันแล้วข้างนึงมันไม่มาให้รู้ไเลยเออ
00:04:13 → 00:04:15 ให้สงสัยไวในของเทปที่แล้วมีการพูดถึงเบ
00:04:15 → 00:04:18 py ไว้หน่อยนึงเส้นประัฝั่งนึงตรงเยอ่อน
00:04:18 → 00:04:20 แรงซึ่งอาการอาจจะมาคล้ายกันปากเบี้ยว
00:04:20 → 00:04:23 เหมือนกันแต่โรคพวกเเกิดช้าปากเบี้ยวหลับ
00:04:23 → 00:04:26 ตาไม่ลงเนาะอ่ากินน้ำแล้วน้ำไหลออกอะไร
00:04:26 → 00:04:30 อย่างเงี้ยเออคือไม่ใช่ว่าอ่าพพอปัก
00:04:30 → 00:04:32 เบี้ยวแล้วจะต้องเป็นสกอย่างเดียวเนาะแต่
00:04:32 → 00:04:35 ว่าอ่ารีบไปหาหมอก่อนต่อให้มันเป็นอย่าง
00:04:35 → 00:04:38 อื่นไม่เป็นสตกเราไม่รู้หรอกตอนนั้นใช่
00:04:38 → 00:04:42 ป่ะอย่างน้อยถ้าเป็นอย่างอื่นก็ได้รักษา
00:04:42 → 00:04:45 เออถ้าเกิดว่าเป็นสกจะได้รักษาทันท่วงถี
00:04:45 → 00:04:47 ได้เร็วที่สุดไปหาหมอหมอเทสอยู่แล้วว่า
00:04:47 → 00:04:50 ถ้าหลับตาไม่สนิทด้วยอ่ะมักจะไม่ใช่มักจะ
00:04:50 → 00:04:52 ไม่ใช่สตกเออมันจะเป็นเบ paly เพราะว่าเบ
00:04:52 → 00:04:55 paly เป็นหมดหนี้อเส้นประสาทที่ที่คุม
00:04:55 → 00:04:57 กล้ามเนื้อใบหน้าทั้งหมดอ่ะครับเ poy มัน
00:04:57 → 00:04:59 ไปมันไปทุกก้านเลยไอ้ 5 ก้านตรงเนี้ยมัน
00:04:59 → 00:05:01 จะแบบมีไปคอนโทรลตรงนี้ตรงนี้ตรงนี้ตรง
00:05:01 → 00:05:04 นี้ตรนี้ไปหมดแต่ถ้าเป็นสกอ่ะข้างบนมัน
00:05:04 → 00:05:07 มักจะเหลือเพราะข้างบนมันสามารถมันสามารถ
00:05:07 → 00:05:10 ช่วยกันได้อ๋อเวี่คือปลายประสาทอักเสบ
00:05:10 → 00:05:13 ปลายเส้นประสาทบริเวณใบหน้าอักเสบเกิดได้
00:05:13 → 00:05:15 จากหลายสาเหตุช่างหมันยังไม่เคทำโรคนี้
00:05:15 → 00:05:18 ถ้าอยากรู้คอมเมนต์มาครับแล้วนัอ่าน
00:05:18 → 00:05:20 คอมเมนต์ตามใช่เราแค่พูดถึงเฉยๆนะว่ามัน
00:05:20 → 00:05:23 มีอาการที่ค้างเคียงกับโรคนี้อ่าแต่ว่า
00:05:23 → 00:05:25 ห้ามนิ่งนอนใจนะครับไม่ใช่ว่าแบบโอ๊คง
00:05:25 → 00:05:29 เป็นเบลพาซี่แหละแล้วก็นอนหลับไม่เอานะ
00:05:29 → 00:05:33 เออไปฉุกเฉินนะไปหาหมอนะครับโทร 1669
00:05:33 → 00:05:35 หรือถ้าไม่โทร 1669 นะจริงๆสมมุติว่า
00:05:35 → 00:05:38 อาการคนไข้เป็นไม่เยอะเช่นปากเบี้ยวอย่าง
00:05:38 → 00:05:40 เดียวยังเดินได้ยังอะไรได้ทั้งหมดพาขึ้น
00:05:40 → 00:05:42 รถแล้วเราขับไปเลยก็ได้โอเคนั่นคืออาการ
00:05:42 → 00:05:44 ไม่หนักยังไงขอให้เร็วที่สุดเท่าๆที่เรา
00:05:44 → 00:05:47 อาจจะทำได้เนาอใช่แล้วเวลาไปให้ไปในโรง
00:05:47 → 00:05:50 พยาบาลที่แบบมันมีการดูแลที่ค่อนข้างครบ
00:05:50 → 00:05:53 มันจะไวกว่าออ่ะพูดตามตรงเราเราเห็นระบบ
00:05:53 → 00:05:56 สาสุขไทยที่แบบถ้าทุกโรงพยาบาลมีงบ
00:05:56 → 00:05:57 สนับสนุนเพียงพอให้ซื้อเครื่อง CT ได้
00:05:57 → 00:06:00 เพราะโรคพวกเนี้ต้องใช้ CT สแกนเราต้องดู
00:06:00 → 00:06:02 ว่าเกิดอะไรขึ้นกับสมองเนาะใช่ว่าเกิด
00:06:02 → 00:06:04 อะไรขึ้นมันจะได้รักษาได้เร็วอไม่ใช่ทุก
00:06:04 → 00:06:07 โรงพยาบาลในปัจจุบันที่จะมีเครื่อง CT นะ
00:06:07 → 00:06:09 ครับ CT สแกนเนอร์เนี่ยก็คือเป็นเครื่อง
00:06:09 → 00:06:13 มือที่ค่อนข้างใหญ่และมีราคาสูงมั้ยใช่
00:06:13 → 00:06:16 มันก็เลยว่ายังไม่ได้ไปทุกหัวทุกที่
00:06:16 → 00:06:18 ปัจจุบันก็เยอะแล้วนะเยอะขึ้นมากละตั้ง
00:06:18 → 00:06:20 แต่สมัยก่อนคือถ้าเทียบกับสมัยก่อนที่แบบ
00:06:20 → 00:06:22 จะเป็นโรงพยาบาลศูนย์ใหญ่ๆเท่านั้น
00:06:22 → 00:06:24 ปัจจุบันโรงพยาลจังหวัดทุกที่คิดว่ามีะ
00:06:24 → 00:06:26 อือนั่นแหละแล้วก็โรงพยาบาลอำเภอบางที่
00:06:26 → 00:06:28 เดี๋ยวนี้ก็เริ่มมีะนะครับแต่เราคิดว่า
00:06:28 → 00:06:30 มันยังไปได้เยอะกว่านี้เพื่อการดูแลทุกคน
00:06:30 → 00:06:32 ที่ดีกว่านี้ไม่เป็นไรค่อยๆไปค่อยๆไปสิ่ง
00:06:32 → 00:06:35 เหล่านี้มันคงต้องใช้เวลาอือนะครับอ่ะมา
00:06:35 → 00:06:38 ค่อยๆต่อวันไอ้ใน EP 2 ที่เราตั้งใจจะ
00:06:38 → 00:06:42 คุยกันคืออาการแล้วก็ประวัติที่มีคนหนึคน
00:06:42 → 00:06:45 เคยประสบขอเสียงปรบมือให้กับคุณจตุรนะ
00:06:45 → 00:06:48 ครับผมไม่เคยเป็นนะผมอ่านตัวไว้ก่อนอ่า
00:06:48 → 00:06:50 เหรอโอเคประสบการณ์คือสมาชิกในครอบครัวก็
00:06:50 → 00:06:53 คือคุณพ่อเป็นอ่าโรคหลอดเลือดสมองแตกกี่
00:06:53 → 00:06:57 ปีะตอนนี้กี่ปีแล้วจำไม่ได้น่าจะ 3-4 ปี
00:06:57 → 00:07:00 แล้วมั้งประมาณประมาณ 4 ปีแล้วกัน
00:07:00 → 00:07:03 เอจำได้ว่าเกิดตอนตอนช่วงปลายๆปีเนี่ย
00:07:04 → 00:07:08 แหละอือเออคืออ่าคือพ่ออ่ะเป็นคนที่เป็น
00:07:08 → 00:07:12 ผู้ใหญ่ดื้อคนนึงก็คือผู้ใหญ่ปกติจะพูดคำ
00:07:12 → 00:07:14 นี้เลยคือผู้ใหญ่ปกติเนาะเพราะว่าเราก็
00:07:14 → 00:07:17 มักจะเจอกับคุณพ่อคุณแม่ที่จะดื้อกับเรา
00:07:17 → 00:07:19 หรือว่าเาก็เก็ฟังเราบ้างไม่ฟังเราบ้าง
00:07:19 → 00:07:21 เนาก็คือคนปกติทั่วไปนั่นแหละทีนี้เนี่ย
00:07:21 → 00:07:26 อ่าอย่างที่เคยเล่าๆแย้มๆแง้มๆไว้จาก Ep
00:07:26 → 00:07:29 ที่แล้วว่าพ่อเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ไปหาหม
00:07:29 → 00:07:31 หมอเท่าไหร่แต่พ่ออ่ะเป็นโรคมีโรคประจำ
00:07:31 → 00:07:33 ตัวอยู่แล้วคือเป็นโรคเก๊าเออส่วนเรื่อง
00:07:33 → 00:07:35 ความดันน่ะเราไม่เคยคุยกับพ่อเลยบอกตรงๆ
00:07:35 → 00:07:37 ว่าพ่อเป็นหรือไม่เป็นหรือยังไงแต่ว่าพ่อ
00:07:37 → 00:07:40 จะพยายามแบบกินยาเองนี่คือสิ่งที่ไม่ควร
00:07:40 → 00:07:43 ทำนะถ้ากินยาต้องไปให้หมอดูด้วยว่าเป็น
00:07:44 → 00:07:47 ยังไงบ้างน้องไปให้หมอเช็คร่างกายพอพ่อ
00:07:47 → 00:07:49 เกษียณมาปกติออฟฟิศถ้าอยู่เนี่ยก็คือเขา
00:07:49 → 00:07:52 ก็จะมีตรวจร่างกายประจำปีถูกมั้ยเออแต่
00:07:52 → 00:07:55 ว่าพ่อไม่ได้ไปหาหมอไม่ได้ไปเช็คร่างกาย
00:07:55 → 00:07:58 เท่าไหร่เออหลังจากที่เกษียณมาเป็นเรื่อง
00:07:58 → 00:08:01 ปกติเช่นกันอืถ้าไม่ได้แบบเอ่อส่วนมาก
00:08:01 → 00:08:04 แล้วเท่าที่ผมเห็นน่ะถ้าพู้สูงอายุที่เคย
00:08:04 → 00:08:06 เข้าโรงพยาบาลแล้วหมอนัดก็จะมีกลุ่มนึง
00:08:06 → 00:08:09 ที่ออไปตามนัดหมอหน่อยแล้วกันอนะครับกับ
00:08:09 → 00:08:11 อีกกลุ่มนึงคือบอกว่าเอ้ยไม่มีอาการอะไร
00:08:11 → 00:08:15 หรอกไไปอ่าซึ่งพ่อค่อนข้างแข็งแรงพ่อเป็น
00:08:15 → 00:08:18 คนที่ทำอะไรเองดูแบบโหดูแข็งแรงทำนู่นทำ
00:08:18 → 00:08:21 นี่ยกของเดี๋ยวแกก็แบบมีแบบกิจกรรมแกชอบ
00:08:21 → 00:08:23 แบบยิงบีบกันยิงเป้าอะไรอย่างเงี้ยขอตรง
00:08:23 → 00:08:26 นี้นิดนึงมีจุดประเด็นสำคัญ 1 อันเลยเอ่อ
00:08:26 → 00:08:29 คนหลายๆคนนะครับชอบชะล่าใจนิดนึงตรงที่
00:08:29 → 00:08:31 ว่าบอกว่าเราสามารถทำได้ทุกอย่างเราแข็ง
00:08:31 → 00:08:35 แรงดีเราจะไม่เป็นโรคประโยคเไม่จริงก็คือ
00:08:35 → 00:08:38 การที่เราแข็งแรงปัจจุบันถ้าโรคเกิดปุ๊บ
00:08:38 → 00:08:40 เราจะกลายเป็นคนป่วยทันทีนึกออกมั้ยมัน
00:08:40 → 00:08:42 มันจะไม่ได้บอกว่าเพราะสิ่งเนี้ยเราจะ
00:08:42 → 00:08:44 แข็งแรงไปตลอดชีวิตมันมันไม่ใช่ต่อให้
00:08:44 → 00:08:47 เป็นผมต่อให้เป็นคนที่แบบสุขภาพดียังไงก็
00:08:47 → 00:08:50 ตามจั่นเข้าใจเลยเพราะว่าเป็นคนนึงที่อ่า
00:08:50 → 00:08:52 ไม่ได้ชอบการไปโรงพยาบาลไม่มีใครชอบการไป
00:08:52 → 00:08:54 โรงพยาบาลหรอกเอ้ยอาจจะมีก็ได้คงก็ไม่ได้
00:08:54 → 00:08:56 ชอบเหมือนกันิเออแต่ว่าไม่เราไม่ชอบป่วย
00:08:56 → 00:08:58 กันเเราไม่ชอบป่วยอยู่แล้วแล้วเราก็ไม่
00:08:58 → 00:09:01 อยากป่วยอือเออแต่ว่าอาการป่วยมันมันแฝง
00:09:01 → 00:09:04 อยู่ในตัวเราได้แล้วเออทำอะไรได้ทุกอย่าง
00:09:04 → 00:09:08 ปกติไม่ใช่ว่าเราสบายดีมันอาจจะมีอะไรที่
00:09:08 → 00:09:11 แฝงอยู่อย่างเราเราอาจจะแบบมีไขมันเยอะ
00:09:11 → 00:09:13 คอเลสเตอรอลเยอะมีความดันสูงถ้าเราไม่ไป
00:09:13 → 00:09:16 ตรวจหรือว่ามันไม่แสดงอาการหรอกถูกมั้ย
00:09:16 → 00:09:18 บางคนอาจจะคิดแบบนี่ไงเราแบบไม่เห็นเป็น
00:09:18 → 00:09:21 ไรเลยเราก็ใช้ชีวิตอยู่ได้แข็งแรงแข็งแรง
00:09:21 → 00:09:23 จริงๆแล้วเนี่ยมันมีอะไรหลายอย่างที่ซ่อน
00:09:23 → 00:09:26 อยู่ในนั้นอือฮึเป็นสิ่งที่ไม่อยากคิดเอง
00:09:26 → 00:09:29 เหมือนกันคืออยากคิดว่าตัวเองทำอะไรได้
00:09:29 → 00:09:32 อ๋อคงปกติดีแต่จริงๆแล้วมันอาจจะไม่สบาย
00:09:32 → 00:09:35 อยู่ข้างในนะครับห้ามมั่นใจไปเองโอเคเออ
00:09:35 → 00:09:38 ซึ่งผู้ใหญ่หลายท่านชอบเคลมตรงนี้ว่าฉัน
00:09:38 → 00:09:41 แข็งแรงดีขอโทษถ้าไปแบบล่่งเกินใดๆนะครับ
00:09:41 → 00:09:44 แต่ว่าอ่าส่วนมากที่เราเจอมาหลายๆท่าน
00:09:44 → 00:09:47 เป็นเป็นเช่นนั้นเราเราเองเราก็เราเป็นคน
00:09:47 → 00:09:50 ดื้อเหมือนกันเอใช่ผมก็เป็นเนาะคือทุกคือ
00:09:50 → 00:09:52 ทุกคนเป็นอย่างที่เราบอกว่าสิ่งที่เราพูด
00:09:52 → 00:09:55 มาไม่ใช่ว่าเราไม่เป็นเราถึงเข้าใจว่าแบบ
00:09:55 → 00:09:58 โอ๊ยเราเรามักจะอ่ากล่าวอ้างกับตัวเองเรา
00:09:58 → 00:10:00 มักจะบอกตัวเองว่าแบบเฮ้ยฉันทำนู้นทำนี่
00:10:00 → 00:10:03 ได้ฉันแข็งแรงจังเลยอะไรอย่างเงี้ยฉันยัง
00:10:03 → 00:10:04 ยกของได้อยู่เลยฉันยังวิ่งอยู่เลยฉันยัง
00:10:05 → 00:10:06 แบบออกกำลังกายได้อยู่เลยไม่เหนื่อยไม่
00:10:06 → 00:10:09 อะไรมาแต่ว่าจุดที่มันจะเกิดขึ้นเราไม่
00:10:09 → 00:10:12 รู้หรอกว่ามันจะเกิดเมื่อไหร่ใช่ป่ะเพราะ
00:10:12 → 00:10:14 ฉะนั้นน่ะเ่าคลิปเหล่านี้ที่เราทำขึ้นมา
00:10:14 → 00:10:17 ครับอยากเอาไว้ให้ทุกคนมีความรู้เพื่อที่
00:10:17 → 00:10:19 จะได้รับมือกับมันถ้ามีโอกาสตรวจร่างกาย
00:10:19 → 00:10:22 บอกตัวเองด้วยเนาะก็ดีเออเพื่อที่จะได้
00:10:23 → 00:10:26 รับมือมันทันกินยาไม่ได้ทำลายไตไม่ได้
00:10:26 → 00:10:29 ทำลายตับเสมอไปนะครับถ้ากังวลถามหมอได้
00:10:29 → 00:10:32 แชร์แชร์ไปแชร์ไปบอกทุกๆคนบอกทุกคนที่อ่า
00:10:32 → 00:10:35 เราเป็นห่วงแล้วก็รักนะครับเอาคลิปนี้ไป
00:10:35 → 00:10:38 ให้เขาดูนะอ่ะมาเลต่อตอนนั้นเกิดเหตุยัง
00:10:38 → 00:10:42 ไงเล่าๆเล่าของตอนตอนคุณพ่อแม่โทรมาหาเลย
00:10:42 → 00:10:44 คือตอนนั้นจำได้ว่านั่งเล่นคอมอยู่หน้า
00:10:44 → 00:10:48 หน้าสตชสตีมของเรานั่นแหละช่วงนั้นอืมไม่
00:10:48 → 00:10:52 แน่ใจว่าเป็นช่วงโควิดหรือยังน่าจะยังถ้า
00:10:52 → 00:10:54 น่าจะยังก็ต้องเกินเกิน 4 ปีแล้วล่ะเกือบ
00:10:54 → 00:10:58 เข้าโควิดเออๆใชเิแล้วใช่มั้ยๆจำจำไม่ได้
00:10:58 → 00:11:00 เลยเพราะว่าเอาจริงๆคือเป็นช่วงเวลาที่
00:11:00 → 00:11:03 รู้สึกแบบหนักกับครอบครัวเหมือนกันเออ
00:11:03 → 00:11:05 เป็นห่วงทั้งแม่เป็นห่วงทั้งพ่ออะไรอย่าง
00:11:05 → 00:11:08 เงี้ยเพราะแม่เป็นคนที่ดูแลอือฮึเออแม่เ
00:11:08 → 00:11:10 โทรมาบอกว่ามีมีเพื่อนของพ่ออ่ะโทรมาบอก
00:11:11 → 00:11:13 อีกทีนึงเพราะว่าได้รับโทรศัพท์จากเหมือน
00:11:13 → 00:11:17 แบบสายฉุกเฉินน่ะว่าแบบรู้จักคนนี้มยอเออ
00:11:17 → 00:11:20 คือแม่ก็บอกว่าแบบจั่นไปหาพ่อหน่อยพ่อ
00:11:20 → 00:11:23 อยู่โรงพยาบาลนี้ที่อยู่ใกล้ๆบ้านเออคือ
00:11:23 → 00:11:26 พ่ออ่ะชอบแบบอ่าออกไปนู่นไปนี่ช้อปปิ้ง
00:11:26 → 00:11:28 อะไรของแกอะไรอย่างเงี้ยเองเออแล้วแกก็
00:11:28 → 00:11:31 ขับรถไปเองอือฮึเออแล้วอยู่ๆแม่ก็บอก
00:11:31 → 00:11:33 อย่างงี้ไปตอนนั้นคือทั้งแม่อ่าก็ไปต่าง
00:11:33 → 00:11:36 จังหวัดพี่ก็อยู่ต่างจังหวัดกำลังกลับกัน
00:11:36 → 00:11:40 ทั้งคู่เราอ่ะอยู่บ้านคนเดียวเราก็เลยแบบ
00:11:40 → 00:11:43 รีบไปโรงพยาบาลอือฮึไปถึงก็คือพ่ออยู่ที่
00:11:43 → 00:11:46 ฉุกเฉินจำไม่ได้ว่าน่าน่าจะแบบเหมือนใส่
00:11:46 → 00:11:49 ใส่ภาพใส่ผ้าอ้อมอ่ะอืเพราะใส่ผ้าอ้อม
00:11:49 → 00:11:51 อยู่เสื้อยืดยเป็นเสื้อยืดๆนานมั้ยกว่า
00:11:51 → 00:11:52 พี่จัจะไปถึงแบบหลังเกิดเหตุนานมั้หรือ
00:11:53 → 00:11:55 ยังไงพอพอพสัมาพอได้รับโทรศัพท์ไปน่าจะไป
00:11:55 → 00:11:58 ถึงไม่เกิน 20 นาที 15 นาที 20 นาทีโอเค
00:11:58 → 00:12:01 แล้วตอนนั้นคุณพ่อทำอะไรอยู่อ่าคุณพ่อ
00:12:01 → 00:12:03 หมายถึงว่าตอนที่เกิดเหตุตอนที่เกิดเหตุ
00:12:03 → 00:12:05 พอรู้แบบอาอย่างแค่แบบไปเดินห่างเหรือ
00:12:06 → 00:12:08 เดี๋ยวเราเลเล่าตามการรับรู้ของเรากันว่า
00:12:08 → 00:12:12 แบบเ่าคุณพ่อเอ่อนอนอยู่ในสภาพนั้นรู้สึก
00:12:12 → 00:12:15 ตกใจแต่ก็คือเข้าไปคุยกับพ่อพ่อลืมพ่อยัง
00:12:15 → 00:12:18 ลืมตาได้แล้วพ่อก็มองหน้าเราเราแบบพ่อพ่อ
00:12:18 → 00:12:20 ไม่เป็นไรนานใจเย็นๆเดี๋ยวแม่กับพี่จี้
00:12:20 → 00:12:23 กำลังมาเออก็บอกไปว่าแบบพี่ชายกับแม่
00:12:23 → 00:12:25 กำลังจะมานะอะไรอย่างเงี้ยพ่อเก็แบบ
00:12:25 → 00:12:28 เหมือนแบบพยักหน้าเออแต่ว่าพ่อพูดไม่ได้
00:12:28 → 00:12:33 พ่อขยับไม่ได้เลยอือเออพูดไม่ได้เลยอ่ะตน
00:12:33 → 00:12:35 ตตอนนั้นน่ะคือเหมือนกับได้แค่แบบส่วนบน
00:12:35 → 00:12:37 แค่คอแค่หัวพี่จั่นจำได้แค่ประมาณนั้นเลย
00:12:38 → 00:12:40 ูมั้จำได้แค่นั้นคือพ่อพๆเขาก็แบบเหมือน
00:12:40 → 00:12:42 ไม่มีแรงทั้งตัวเลยอ่ะอเออเป็นอย่างงั้น
00:12:42 → 00:12:45 แล้วเราก็เลยถามพยาบาลอะไรอย่างเงี้ยตอบ
00:12:45 → 00:12:47 ว่ายังไงอ่ะเขาก็เล่าให้ฟังว่าอ๋อฉุกเฉิน
00:12:47 → 00:12:51 พามาส่งแล้วเก็แบบพยายามติดต่อเออแบบ
00:12:51 → 00:12:53 เหมือนกับว่าติดต่อกับเบอร์ล่าสุดซึ่งก็
00:12:53 → 00:12:54 เป็นเบอร์ของแบบเหมือนเพื่อนพ่อคนนี้อะไร
00:12:54 → 00:12:56 อย่างเงี้ยแล้วเก็เลยเหมือนเพื่อนพ่อคน
00:12:56 → 00:12:59 นี้เก็เลยโทรหาแม่สิ่งที่ได้ได้รับการบอก
00:13:00 → 00:13:04 ก็คือว่าหมอหมอศัลยกรรมสมองมั้ยอือๆๆเออ
00:13:04 → 00:13:07 ซึ่งเป็นตอนนั้นคือคุณหมอแบบคุณหมอหนุ่ม
00:13:07 → 00:13:09 มากคุณหมอดูเด็กมากแล้วก็แบบดูมีความรู้
00:13:09 → 00:13:12 มากอ่ะแต่ว่าคุณหมอเขาจะแบบค่อยๆอธิบาย
00:13:12 → 00:13:14 แล้วฟังหมอเบอกว่าโรคนี้เป็นโรคที่ต้อง
00:13:14 → 00:13:17 ใช้ความเข้าใจเยอะนะเพราะฉะนั้นถ้าเกิด
00:13:17 → 00:13:22 ว่าอ่าไม่เข้าใจนะให้บอกหมอได้เดี๋ยวหมอ
00:13:22 → 00:13:25 จะอธิบายซ้ำอีกครั้งนึงเขาจะค่อยๆเล่า
00:13:25 → 00:13:27 อย่างค่อยๆเป็นค่อยไปว่าเขารู้ว่ามันซับ
00:13:27 → 00:13:31 ซ้อนและการสติของเราอ่ะรับเรื่องเขาได้
00:13:31 → 00:13:34 มากน้อยไม่เท่ากันเอ่อในแต่ละคนหมอเขาจะ
00:13:34 → 00:13:37 บอกเลยแลยิ่งจังหวะตกใจนะคนไข้แต่ละคนบาง
00:13:37 → 00:13:40 คนแบบหูดับอ่ะไม่พร้อมจะฟังอะไรเหมือนม
00:13:40 → 00:13:42 เวลาดูซีรีส์แล้วแบมันวิงอ่ะมันอย่างงั้น
00:13:42 → 00:13:44 เลยสมมุตินะอย่างคุณพ่อเองเกิดเหตุกับตัว
00:13:44 → 00:13:47 เองหรือว่าเราที่แบบเราก็เป็นแบบคนที่รัก
00:13:47 → 00:13:50 คุณพ่อแล้วมันเกิดขึ้นน่ะแล้วแล้วทุก
00:13:50 → 00:13:52 อย่างมันประดังประเดมาหมดมันเป็นแบบนั้น
00:13:52 → 00:13:55 จริงๆเพราะฉะนั้นน่ะเอ่อใช้เวลาสอบถามพูด
00:13:55 → 00:13:58 คุยเอาให้เข้าใจเพราะว่าเอ่อตั้งสติก่อน
00:13:58 → 00:14:02 อย่างแรกสำคัญอืหมอก็อ่าอธิบายแหละว่ามัน
00:14:02 → 00:14:05 เกิดอะไรขึ้นคือถึงตอนไปตอนนั้นน่ะคิดว่า
00:14:05 → 00:14:08 หมอน่าจะสแกนอะไรเรียบร้อยดูแล้วแล้วหมอ
00:14:08 → 00:14:12 ก็บอกว่าเป็นเส้นเลือดในสมองแตกแต่ว่าตอน
00:14:12 → 00:14:15 เนี้ยหมอต้องดูอาการก่อนยังไม่ได้ให้ยา
00:14:15 → 00:14:18 อะไรเออเพราะว่าเอ่ออันนี้ต้องบอกว่าแต่
00:14:18 → 00:14:20 ละคนไม่เหมือนกันเนาะว่าความแตกน้อยแตก
00:14:20 → 00:14:23 มากเขาก็บอกว่าเลือดในสมองเนี่ยมันหยุด
00:14:23 → 00:14:25 ไหลแหละมันเหมือนแบบเป็นกลุ่มเลือดที่
00:14:25 → 00:14:28 เลือดมันก็ยังคั่งอยู่ของพ่ออ่ะไม่ได้ผ่า
00:14:28 → 00:14:31 อือไม่มีการอต้องดนออกหรืออะไรหมอบอกว่า
00:14:31 → 00:14:34 เลือดที่ออกจะซึมหายไปได้เองเพียงแต่ว่า
00:14:34 → 00:14:37 ยังไงเราก็ต้องเฝ้าดูอาการอืเอ่อเพราะว่า
00:14:37 → 00:14:41 บางทีการผ่าสมองมันมีเอฟเฟคถูกผลเสียมาก
00:14:41 → 00:14:44 กว่าผลดีก็มีเนาะอ่าเพราะฉะนั้นถ้าเป็นไป
00:14:44 → 00:14:48 ได้เขาจะดูว่ามันควรผ่ามั้ยหรือถ้าไม่ควร
00:14:48 → 00:14:50 ผ่าเก็จะปล่อยเออแล้วก็ดูอาการไปแต่ถ้า
00:14:50 → 00:14:53 เกิดว่าฉุกเฉินอะไรใดๆอ่ะก็จะต้องรีบจัด
00:14:53 → 00:14:57 การนะพ่อก็อยู่ ICU อืขอขอเถียงนิด 1 คำ
00:14:57 → 00:15:01 ครับออไม่ใช่ไม่ทำอะไรอะไรออๆโอเคอ่ะคือ
00:15:01 → 00:15:04 คืออย่างี้เนี่ๆนี่คือเรื่องไม่ไม่ว่าๆ
00:15:04 → 00:15:06 เป็นการขอขอเคลมก่อนว่าเป็นการรับรู้ของ
00:15:06 → 00:15:08 คนไข้
00:15:08 → 00:15:12 กดเข้าใจคือหมออ่ะทำไปแล้วแหละเรียบร้อย
00:15:12 → 00:15:13 แล้วเประเมินทุกอย่างหมดแล้วสิ่งสิ่งที่
00:15:13 → 00:15:16 ทำสำคัญของโลกนี้เล่าให้ฟังนี่คือเอ่อ
00:15:16 → 00:15:19 ความดันโลหิตสูงมากๆจนเลือดเส้นเลือดสมอง
00:15:19 → 00:15:22 แตกนะเดาอย่างงี้เลยนะเดาไว้ก่อนเลยนะ
00:15:22 → 00:15:23 ครับอาจจะเป็นกรณีอื่นก็ได้นะเพราะเส้น
00:15:23 → 00:15:25 เลือดในสมองแตกนอกจากความดันสูงมันยังมี
00:15:26 → 00:15:29 แบบบางคนหลอดเลือดมันโป่งพองเป็นกระเปาะ
00:15:29 → 00:15:32 ในสมองตามซีรีส์หบางอย่างก็มีมันมันเป็น
00:15:32 → 00:15:33 กระเปาะเสร็จปุ๊บกระเปาะนี้ก็แตกง่ายอาจ
00:15:33 → 00:15:35 จะไม่ต้องความดันสูงก็แตกแต่ว่าหลังจาก
00:15:35 → 00:15:38 สมมุติว่ามาเจอแล้วอ่ะคิดว่าความดันสูง
00:15:38 → 00:15:41 หมอเราจะคุมความดันมันให้ลงมาให้เร็ว
00:15:41 → 00:15:43 หน่อยประมาณนั้นเพราะว่าเราอยากหยุดเลือด
00:15:43 → 00:15:46 ถ้าปล่อยความดันสูงต่อไปมันก็ยังฉีดปิ๊ดๆ
00:15:46 → 00:15:49 อาจจะไปต่อก็ได้ใช่อาจจะไปหยไปต่อก็ได้
00:15:49 → 00:15:51 และอีกอย่างนึงอันนี้ขอเสริมเพิ่มให้ว่า
00:15:51 → 00:15:54 เหตุผลที่เจอหมอศัลยกรรมระบบประสาทเพราะ
00:15:54 → 00:15:58 ว่าถ้าเป็นหลอดเลือดตีบจะเจอหมออายุรกรรม
00:15:58 → 00:16:00 ระบบประสาทอเป็นคุณหมอคนละท่านกันเพราะ
00:16:00 → 00:16:03 ว่าอย่างที่บอกว่าถ้าเป็นแบบตีบรักษาด้วย
00:16:03 → 00:16:05 ยาเห็นป่ะถ้าเป็นแบบแตกมีเลือดออกต้องผ่า
00:16:05 → 00:16:07 มต้องอะไรรือเปล่าก็จะเป็นหมอศัลยกรรม
00:16:07 → 00:16:10 หรือผ่าตัดอประมาณนั้นประมาณนั้นไม่ไม่
00:16:10 → 00:16:12 ว่ากันนะเข้าใจเข้าใจจริงๆมันเกิดขึ้นไป
00:16:12 → 00:16:14 แล้วตอนที่เราไม่เห็นนั่นแหละคือพูดพูด
00:16:14 → 00:16:18 ด้วยความที่ว่าเราเราเราเรคุณหมอเนาะว่าเ
00:16:18 → 00:16:21 ดูแลแล้วเขาตัดสินใจเรียบร้อยแล้วอ่ะ
00:16:21 → 00:16:23 เพราะฉะนั้นน่ะเราจะไม่กังขาเราจะรู้สึก
00:16:23 → 00:16:27 ว่าคุณหมอให้เวลากับตรงเยเต็มที่ไอคำว่า
00:16:27 → 00:16:29 ที่พูดว่าไม่ทำอะไรคือรู้สึกว่าอโอเคหมอ
00:16:29 → 00:16:31 เห็นว่าทำอย่างเงี้ดีที่สุดหมอทำไปแล้ว
00:16:31 → 00:16:34 ด้วยแต่ไม่รู้เออหรือว่าไม่เห็นเราก็จะ
00:16:34 → 00:16:37 คิดแบบนั้นว่าแบบเอเทำเคงดูอาการก่อนหน้า
00:16:37 → 00:16:39 อะไรอย่างเงี้ยเออซึ่งจริงๆแล้วอย่างที่
00:16:39 → 00:16:41 โอมบอกว่าหมอจัดการแล้วเราไม่รู้หรอกเไม่
00:16:41 → 00:16:43 ได้เล่าทั้งหมดหรือว่าเขาอาจจะเล่าไปแล้ว
00:16:43 → 00:16:45 เราอาจจะจำไม่ได้ด้วยซ้ำเพราะว่าราย
00:16:45 → 00:16:48 ละเอียดตอนนั้นทั้งความตื่นเต้นอ่า
00:16:48 → 00:16:50 สถานการณ์ที่มันแบบตึงมากสิ่งที่คิดเลย
00:16:50 → 00:16:52 แบบแล้วพ่อจะกลับมาเหมือนเดิมได้มพ่อจะ
00:16:52 → 00:16:55 เป็นอะไรหรือเปล่าจะรอดมยังยังคิดเลยด้วย
00:16:55 → 00:16:59 ซ้ำในเวลาวินาทีนั้นแล้วก็แบบมันแบงอมัน
00:16:59 → 00:17:02 แบบเออถามว่ามีสติมมีแต่ก็ตกใจควรจัดการ
00:17:02 → 00:17:05 อะไรจัดการตามที่มันเกิดขึ้นพี่เราตกใจ
00:17:05 → 00:17:08 แม่เราตกใจอย่างน้อยเราก็แบบพยายามที่จะ
00:17:08 → 00:17:10 แบบใจเย็นที่สุดเท่าที่จะทำได้อะไรอย่าง
00:17:10 → 00:17:13 เงี้ยนอนโรงพยาบาลนานมั้ยตอนนั้นเป็น
00:17:13 → 00:17:16 เดือนๆเลยเป็นเดือนเยอะเดือน ICU นี่อยู่
00:17:16 → 00:17:19 ก็น่าน่าจะเป็นเดือนถ้าเล่าในลักษณะของคน
00:17:19 → 00:17:21 ไข้หลายๆคนที่เคยเจอแล้วกันตามประสบการณ์
00:17:21 → 00:17:25 ผมนะคือถ้าเลือดออกในสมองแล้วเป็นเยอะมาก
00:17:25 → 00:17:28 ๆอือคุณพ่อจะไม่สมมติเกิดกับคุณพ่อคุณพ่อ
00:17:28 → 00:17:30 จะไม่ตื่นหรือคนไข้จะไม่ตื่นอือๆอันนั้น
00:17:30 → 00:17:33 คือหนักเป็นเยอะมากอันนี้อาจจะมีเลือดออก
00:17:33 → 00:17:37 พอประมาณอ่าเออคือที่เห็นคือพ่อยังได้สติ
00:17:37 → 00:17:42 อาจจะหลับบ้างแต่ว่าก็จะตื่นขึ้นมาอ่า
00:17:42 → 00:17:44 เริ่มเริ่มแบบเหมือนกับพยักหน้าได้มอง
00:17:44 → 00:17:47 นู่นนี่อะไรอย่างเงี้ยคือยังยังเห็นอยู่
00:17:47 → 00:17:50 ก็ยังดีว่าโอเคพ่อแต่ว่าพ่อยังพูดไม่ได้
00:17:50 → 00:17:52 อาจจะออกเสียงได้นิดหน่อยอะไรอย่างเงี้ย
00:17:52 → 00:17:56 เราก็รู้ว่าเหมือนแบบปากเปรี้ยวเอ่ออ่อ
00:17:56 → 00:17:59 เขี้ยวกินกินน้ำไม่ได้หรอกอือเออแค่กิน
00:17:59 → 00:18:01 น้ำยังไม่ได้เลยอะไรอย่างเงี้ยพ่อก็ต้อง
00:18:01 → 00:18:04 ให้สายฟีดแล้วเขาก็จะมีเรื่องของแบบต้อง
00:18:04 → 00:18:07 ระวังเรื่องลิ่มเลือดต้องระวังอะไรใดๆพวก
00:18:07 → 00:18:09 เนี้ยแล้วเขาก็จะมีการแบบ consult กับแบบ
00:18:09 → 00:18:13 อ่าคซก็คือปรึกษาเนาะกับโรงพยาบาลอื่นเลย
00:18:13 → 00:18:16 ด้วยซ้ำเหมือนกับเขาหาแบบว่ายาที่
00:18:16 → 00:18:20 เหมาะเออตอนนั้นที่แบบเหมือนกับว่ามีมี
00:18:20 → 00:18:23 ทั้งเรื่องของอะไรนะเคกลัวเรื่องเรื่อง
00:18:23 → 00:18:25 ลิ่มเลือดไปอุดหรืออะไรสักอย่างลิ่มเลือด
00:18:25 → 00:18:28 ที่ขาอ๋อมันเป็นอีกอีกเรื่องนึงเนาะเรื
00:18:28 → 00:18:32 นอนนานดโอเคอันนั้นคือภาวะที่ตามมาทีหลัง
00:18:32 → 00:18:35 นะครับก็คือให้เล่าคร่าวๆนะคือเอ่อคนไข้
00:18:35 → 00:18:38 ที่นอนนิ่งๆนานๆเกินแบบ 7 วัน 14 วันหรือ
00:18:38 → 00:18:42 แบบขยับตัวเองไม่ได้ขามีโอกาสเกิดบวมพอบว
00:18:42 → 00:18:44 บวมจากบวมที่นี้คือด้วยความที่ขาไม่ขยับ
00:18:44 → 00:18:47 นานแล้วก็มันจะมีหลอดเลือดดำของคนเราอ่ะ
00:18:47 → 00:18:49 เลือดจะไหลกลับยากแล้วก็อาจจะเกิดลิ่ม
00:18:49 → 00:18:51 เลือดในนั้นเกิดขาบวมเพิ่มขึ้นการให้ยา
00:18:51 → 00:18:53 สลายอะไรเี้อันนี้คือเรื่องๆเรืองเรื่อง
00:18:53 → 00:18:56 นึงแต่ว่าเรื่องของหลอดเลือดสมองในช่วง
00:18:56 → 00:18:59 แรกยังไงก็ตามมันก็จะมีการประเมินเนาะอัน
00:18:59 → 00:19:01 นี้ที่อยากให้พี่จัดเล่าให้ฟังเลยเพราะ
00:19:01 → 00:19:04 ว่าในช่วงแรกๆคุณพ่อมีปัญหาหลายอย่างผมผม
00:19:04 → 00:19:07 แอบถามมาเบื้องต้นถูกมั้ยอคือจำจำไม่ได้
00:19:07 → 00:19:09 ละเอียดเลยอ่ะคือมันก็แบบเป็นแบบชมานาน
00:19:09 → 00:19:12 แล้วเนาะแล้วก็เป็นช่วงเวลาที่แบบโดูคลุม
00:19:12 → 00:19:14 เครือุมเครือมากจำได้ให้แบบต้องรู้สึกว่า
00:19:14 → 00:19:17 เราต้องผ่านไปแต่ละวันให้ได้โดยที่ว่าแบบ
00:19:17 → 00:19:20 ก็ต้องเป็นกำลังใจให้แม่เป็นห่วงแม่ที่
00:19:20 → 00:19:24 สุดมากๆเออเป็นห่วงพ่อจริงๆบอกว่าเป็น
00:19:24 → 00:19:26 ห่วงแม่มากกว่าพ่อยังได้เลยอเออเพราะเรา
00:19:26 → 00:19:29 รู้สึกว่าแบบพ่อก็ต้องสู้ตามตามตาม
00:19:29 → 00:19:32 ศักยภาพที่มีเออคือคิดทำใจไว้เผื่อด้วย
00:19:32 → 00:19:36 ซ้ำว่าถ้าพ่อไม่ไหวอ่ะมันก็ต้องก็ต้องมัน
00:19:36 → 00:19:38 ก็ต้องอย่างงั้นเราเราเราจะแบบให้ปั๊ม
00:19:38 → 00:19:41 ขึ้นมาหรืออะไรมาแล้วแบบเขสภาพนั้นเออคือ
00:19:41 → 00:19:43 แบบก็ต้องทำใจเผื่อไว้เออขณะเดียวกันก็
00:19:43 → 00:19:46 แบบเป็นห่วงแม่มากๆเพราะว่าแบบทั้งชีวิต
00:19:46 → 00:19:50 แม่เมีแต่พ่ออ่ะเออแล้วก็อ่าเรื่องของการ
00:19:50 → 00:19:52 ให้ให้ยาให้อะไรอย่างเงี้ยเราก็ต้องแบบ
00:19:52 → 00:19:55 คุยกับหมอเยอะมากหมอเขาจะค่อยอธิบายว่า
00:19:55 → 00:19:57 แบบเป็นอย่างงี้อย่างงี้นะเดี๋ยวหมอจะดู
00:19:57 → 00:20:00 อาการแบบนี้แบบนี้นะแล้วไอ้เรื่องไอ้
00:20:00 → 00:20:02 เรื่องลิ่มเลือดที่ขาอะไรอย่างเงี้ยเนาะ
00:20:03 → 00:20:05 ตอนนั้นเพิ่มมาอีกที่ว่าต้องผ่าแล้วเอา
00:20:05 → 00:20:07 แบบตัวฟิลเตอร์ไปกรองไปอะไรอีกซึ่งก็แบบ
00:20:07 → 00:20:10 ว่าจะให้ยาสลายเดี๋ยวมันจะเป็นเอฟเฟคที่
00:20:10 → 00:20:13 ที่ที่ตรงหัวมั้พอไปลิ่มเสร็จปุ๊บอ่ะพอ
00:20:13 → 00:20:15 ให้ยาสลายบางทีสลายไม่ได้สลายหมดอ่ะมัน
00:20:15 → 00:20:17 กลายเป็นก้อนที่ลอยขึ้นไปแล้วไปอุดตรงไหน
00:20:17 → 00:20:18 รือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยซึ่งมันแบบมันเป็น
00:20:18 → 00:20:21 เรื่องละเอียดอ่อนมากแล้วก็ซับซ้อนเรื่อง
00:20:21 → 00:20:23 นี้ถ้าอยากฟังใครใครอยากรู้เรื่องนี้นี่
00:20:23 → 00:20:25 ถนัดมากหมอกระดูกอ่ะต้องดีกับเรื่องนี้
00:20:25 → 00:20:28 เยอะมากเพราะคนไข้ที่นอนนอนนานเดินไม่ได้
00:20:28 → 00:20:31 อเพเดนได้ใช่มผมก็เจอเพราะขาหักแต่นี้ก็
00:20:31 → 00:20:33 คือเพราะหลอเลิสมองเนาะอีกพาร์ทนึงที่
00:20:33 → 00:20:36 อยากให้พี่จัเล่าคือคุณพ่อมีปัญหานอกจาก
00:20:36 → 00:20:39 อ่อนแรงเนาะเดินไม่ได้เนาะตอนช่วงแรกแก
00:20:39 → 00:20:41 ไม่ต้องพูดถึงพูดไม่ค่อยได้อยู่ละกลืนอ่า
00:20:41 → 00:20:44 กำลังจะเล่าต่อไปก็คือว่าพ่อพ่อต้องหัด
00:20:44 → 00:20:46 ออกเสียงใหม่อันนั้นคือในช่วงในช่วงหลัง
00:20:47 → 00:20:49 และในช่วงกายภาพแล้วแต่ว่าก่อนหน้านั้น
00:20:49 → 00:20:55 น่ะแค่น้ำยังเสี่ยงสำลักเลยอ่าหมอบอกว่า
00:20:55 → 00:20:57 กลัวในด้านการสำลักเนาะถ้าเกิดให้กลืน
00:20:57 → 00:21:00 หรือให้อะไรมาเก็ต้องแบบฟีดอาหารแทนใช่
00:21:00 → 00:21:02 มั้หรือว่าให้น้ำเกลือทีนี้เนี่ยมันมียา
00:21:02 → 00:21:07 บางตัวที่หมอจะให้มาแต่หมอบอกว่าอ่ายามัน
00:21:07 → 00:21:11 น่ะไม่สามารถที่จะบดหรือว่าให้ทางสายได้
00:21:11 → 00:21:14 ยาเต้องกลืนปกติคนที่กลืนไม่ได้เราจะใส่
00:21:14 → 00:21:18 สายอาหารทางจมูกแล้วก็บดยาแล้วก็ใส่ไปยา
00:21:18 → 00:21:20 บางตัวมันบดไม่ได้อ่ะนี้คือคือการกินเนาะ
00:21:21 → 00:21:23 คือกลับไปบ้านมันคงให้น้ำเกลือตลอดเวลา
00:21:23 → 00:21:25 ไม่ได้กลับไปบ้านก็คนไข้ก็ต้องแบบสามารถ
00:21:25 → 00:21:29 มีการดูแลในการกินเนาะการพูดหรือการเข้า
00:21:29 → 00:21:31 ห้องน้ำต่างๆคือต้องมีแหละเข้าห้องน้ำก็
00:21:31 → 00:21:33 แพมเพิดเนาะการกินน่ะปกติเราจะให้อาหาร
00:21:33 → 00:21:36 ทางสายยางเข้าไปในกระเพาะแล้วก็เหมือนกับ
00:21:36 → 00:21:38 เหมือนกับกินนั่นแหละก็เป็นอาหารเหลวเใช่
00:21:38 → 00:21:40 แต่ว่าในการเรียนการสอนตรงเนี้ยหนึ่งในยา
00:21:40 → 00:21:44 บางชนิดที่แบบเกิดปัญหานี้คือบดไม่ได้เขา
00:21:44 → 00:21:46 ก็อยากให้ยาตัวเนี้ยเพราะคิดว่าเหมาะแล้ว
00:21:46 → 00:21:49 ก็ดีกับพ่อมากที่สุดแต่ว่าพ่อกลืนไม่ได้เ
00:21:49 → 00:21:52 ก็เลยบอกว่าถ้ากลืนไม่ได้ต้องหัดกลืนอ่า
00:21:52 → 00:21:55 เริ่มต้นด้วยน้ำเปล่าๆเนี่ยนะครับเขายัง
00:21:55 → 00:21:57 บอกว่าอันตรายกับการกลืนอย่างงี้เลยเพราะ
00:21:57 → 00:22:00 เดี๋ยวสำลักจะสำลักง่ายเริ่มต้นด้วยการ
00:22:00 → 00:22:04 ผสมให้หนืดอือเออเหมือนเป็นแบบกึ่งๆ
00:22:04 → 00:22:06 เยลลี่หรือว่าอะไรสักอย่างหน่อยแต่ว่าเมี
00:22:06 → 00:22:09 ตัวทำหนืดของเขาคนะเออแล้วก็คือเหมือนแบบ
00:22:09 → 00:22:12 ป้อนเออแล้วก็ค่อยๆลองให้ชิมเลเวลนี้ได้
00:22:12 → 00:22:15 มั้ยระดับนี้ได้มั้ยแล้วก็เพิ่มความหนืด
00:22:15 → 00:22:17 มากขึ้นหรือว่าเพิ่มในระดับที่มันอ่าท้า
00:22:17 → 00:22:20 ทายมากขึ้นว่าแบบไหวหรือเปล่าก็คือเหลว
00:22:20 → 00:22:23 ขึ้นเรื่อยๆอ่าจนถึงที่ว่าโอเคดูกลืนได้
00:22:23 → 00:22:26 ลองดูน้ำเปล่าอ่าก็ลองดูอ่ะกลืนอันนี้ได้
00:22:26 → 00:22:30 โอเคงั้นกินยาอันนี้ได้ใชจำไม่ได้เลยว่า
00:22:30 → 00:22:32 นานเท่าไหร่แต่ว่าใช้ใช้เวลาสักพักนึงแต่
00:22:32 → 00:22:35 ไม่นานมากเออพ่อก็คือกลืนได้แล้วก็อ่ะได้
00:22:35 → 00:22:38 ยาตัวนี้ไปเอาฮะเออก็คือก็ก็อาการก็ดูดี
00:22:38 → 00:22:41 ขึ้นอือฮึอืออ่าซึ่งตรงเนี้ยมันเป็นพารท
00:22:42 → 00:22:44 ของการไกผาบำบัดเนาะนี่คือสิ่งที่อยากจะ
00:22:44 → 00:22:46 บอกเิดในคนไข้ทุกรายไม่ว่าจะเป็นหลอเลือด
00:22:46 → 00:22:48 ตีบหรือแตกหรือเป็นสตกเนี่ยไม่ว่าจะแบบ
00:22:48 → 00:22:51 ไหนก็ตามอการฟื้นฟูหลังจากเกิดเหตุไม่ว่า
00:22:51 → 00:22:53 จะต้องผ่าตัดหรือไม่หรือให้ยาอะไรก็ตาม
00:22:53 → 00:22:56 การรักษาเหมือนกันหมดคือดูแลเนื้อสมองที่
00:22:56 → 00:22:59 มันสูญเสียหรือบาดเจ็บช่วงนั้นไปให้กลับ
00:22:59 → 00:23:01 มาดีที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ได้แค่ไหนไม่
00:23:01 → 00:23:04 รู้นะต้องบอกงี้ก่อนแต่ว่ามันจะมีช่วง
00:23:04 → 00:23:08 เวลาที่ดีที่สุดคือช่วง 3-6 เดือนแรกมัน
00:23:08 → 00:23:10 จะเป็นช่วงที่เหมือนกับสมองพยายามปรับ
00:23:10 → 00:23:13 สภาพจากการสูญเสียตรงไหนมันตายไปก็ช่าง
00:23:13 → 00:23:15 มันสมองเราเก่ง Golden Period เลยใช่
00:23:15 → 00:23:17 Golden peri Golden Period คือช่วง
00:23:17 → 00:23:20 เวลาที่สำคัญที่สุดแล้วที่เบอกว่าจะจะ
00:23:20 → 00:23:23 เห็นอ่าพัฒนาการได้สูงที่สุดชัดที่สุด
00:23:23 → 00:23:25 แล้วหลังจากเนี้ยอาจจะไม่ได้แบบเห็นก้าว
00:23:25 → 00:23:28 กระโดดขนาดนี้แล้วสิ่งเนี้ยสมองเราเก่ง
00:23:28 → 00:23:28 มาก
00:23:28 → 00:23:31 มันมันมีสิ่งที่เรียกว่า neuroplasticity
00:23:31 → 00:23:33 plasticity พลาสติคือให้นึกภาพมันมีความ
00:23:33 → 00:23:35 ยืดหยุ่นพลาสติกมีความยืดหยุ่นสมองเรามี
00:23:35 → 00:23:38 ความยืดหยุ่นในการแก้ไขปัญหาจากเดิมที่
00:23:38 → 00:23:42 อ่ะสมองส่วนนี้เคยเอาไว้ยกแขนอ่ะปัจจุบัน
00:23:42 → 00:23:45 ยกไม่ได้สมองข้างๆไอเซลล์สข้างๆอ่ะมันจะ
00:23:45 → 00:23:47 พยายามทำงานแทนอาจจะไม่เหมือนเดิมหรอกจาก
00:23:47 → 00:23:49 เดิมจากเดิมเคยยกแขนได้อย่างงี้ยกแขนได้ๆ
00:23:49 → 00:23:52 เลยยกอย่างงี้กลายเป็นตอนตอนหลังจากนี้ก็
00:23:52 → 00:23:54 อาจจะยกได้แบบอย่างเงี้ยจากจากเดิมที่ตอน
00:23:54 → 00:23:56 แรกยกไม่ได้เลยยกไม่ได้ศูเลยก็กลายเป็นยก
00:23:56 → 00:23:58 ได้แบบประมาณอย่างเงี้ยก็ยังดีกว่ายกไม่
00:23:58 → 00:24:01 ได้และนี่คือการทำงานของสมองที่สมองบาคน
00:24:01 → 00:24:05 เราเก่งและต้องฝึกไม่ฝึกไม่ได้ให้นึกภาพ
00:24:05 → 00:24:08 เราตีกอล์ฟไม่เป็นเราฝึกไปสัก 3 เดือน 6
00:24:08 → 00:24:10 เดือนเราจะเริ่มตีกับเป็นและเก่งอือนี่
00:24:11 → 00:24:13 คือการเรียนรู้ของสมองซึ่งสมองก็ทำแบบ
00:24:13 → 00:24:15 เนี้ยได้แม้จะอยู่ในสภาวะป่วยก็ตามอื
00:24:15 → 00:24:17 เนี่ยนี่คือความเก่งของสมองเรานะเพราะ
00:24:17 → 00:24:20 ฉะนั้นช่วงแรกสุดนะครับในทุกๆคนเป็นกำลัง
00:24:20 → 00:24:23 ใจให้มากๆในการทำกายภาพให้สกเลยว่าต้องทำ
00:24:23 → 00:24:27 ทุกวันแคนขาที่แม้จะยังขยับไม่ได้เขาก็จะ
00:24:27 → 00:24:29 ให้ฝึกงอเหยียดเนาะญาติจะต้องทำเป็นสิ่ง
00:24:29 → 00:24:32 เนี้ยจะอยู่ในโรงพยาบาลและทุกคนต้องเจอ
00:24:32 → 00:24:35 มันต้องมีคนดูแล่พอดูแลเสร็จงอเหยียดได้
00:24:35 → 00:24:37 เพื่ออยู่มาวันนึงถ้าสมมุติเขาเริ่มจะ
00:24:37 → 00:24:40 ขยับยืนเดินข้อต่อเขาไม่ติดเขาจะฝึกได้
00:24:40 → 00:24:44 เลยอสิ่งเหล่านี้สำคัญมากณตอนนี้คุณพ่อ
00:24:44 → 00:24:47 เป็นไงบ้างหลังจากที่แบบฝึกๆๆๆมาตอนแรกทำ
00:24:47 → 00:24:49 ไม่ได้ตอนนี้ทำได้มีอะไรบ้างมันเป็นการ
00:24:49 → 00:24:53 ต่อสู้กับโลกในระยะยาวเนาะเพราะว่าอ่าต่อ
00:24:53 → 00:24:55 ไปนี้ชีวิตพ่อจะเปลี่ยนไปละมันไม่เหมือน
00:24:55 → 00:24:59 เดิมแน่นอนเนาะแล้วแบบครึ่งซีกนึงมันเ่อ
00:24:59 → 00:25:03 ขยับยากอือฮึอ่าขายังพอได้แต่แขนเนี่ยไม่
00:25:03 → 00:25:07 ค่อยอไม่ค่อยกลับมาเนาะไม่ค่อยอ่าแต่ว่า
00:25:07 → 00:25:10 อย่างน้อยๆคือจากวันแรกที่พ่อแทบจะขยับ
00:25:10 → 00:25:12 ไม่ได้เลยกลายเป็นว่าง 2 ข้างด้วยใช่มย
00:25:12 → 00:25:14 พ่ออ่าทั้งทั้ง 2 ข้างเลยทั้งดูทั้งเป็น
00:25:14 → 00:25:17 ทั้งตัวเลยอ่ะกลายเป็นว่าอ่ะฝั่งนึงยัง
00:25:17 → 00:25:20 ขยับได้ะขยับได้แทบจะปกติเลยแต่อาจจะช้า
00:25:20 → 00:25:23 ลงทั้งตัวแต่ว่าก็ยังมีเพิมีแบบจังหวะที่
00:25:23 → 00:25:27 มันแบบขยับได้ฝั่งที่อ่อนแรงอย่างน้อยๆก็
00:25:27 → 00:25:30 ดูอ่าประคองได้คือทำกายภาพมาตลอดทุกวัน
00:25:30 → 00:25:32 นี้พ่อก็ยังทำกายภาพอยู่นะครับอดีๆๆเออก็
00:25:32 → 00:25:34 แบบเหมือนกับมีนักกายภาพมาดูให้อะไรอย่าง
00:25:34 → 00:25:37 เงี้ยเออแต่ว่าช่วงแรกๆก็อาจจะแบบหนัก
00:25:37 → 00:25:40 หน่อยแล้วก็แน่นอนว่าแบบผู้ป่วยอ่ะพอแบบ
00:25:40 → 00:25:43 เขาอยู่ในสภาพเนี้ยมันก็มีความลำบากในการ
00:25:43 → 00:25:46 แบบบังคับร่างกายหรือว่าการขยับแล้ว
00:25:46 → 00:25:49 กายภาพมันเหมือนการออกกำลังอ่ะถูกมันคือ
00:25:49 → 00:25:52 การออกกำลังกไม่มีใครชอบจริงๆมันเหนื่อย
00:25:52 → 00:25:54 มันเหนื่อยแล้วแบบกับแบบสภาพการที่แบบว่า
00:25:54 → 00:25:57 โหร่างกายเกิดสิ่งนี้มาเพึ่งฟื้นฟูอ่ะมัน
00:25:57 → 00:26:00 ก็แบบไม่ได้จะมีแรงอะไรขนาดนั้นอะไรอย่าง
00:26:00 → 00:26:02 เงี้ยแล้วแบบการที่ว่าเรากินไม่ได้เหมือน
00:26:02 → 00:26:05 เดิมเราทำอะไรไม่ได้เหมือนเดิมอ่าอารมณ์
00:26:05 → 00:26:08 ก็หงุดหงิดเนาะร่างกายก็เรียกว่าเหมือน
00:26:08 → 00:26:11 แบบขาดพลังไม่ได้แบบดีเท่าเดิมอย่างเงี้ย
00:26:11 → 00:26:13 เออหลายๆอย่างมันคือการต่อสู้อ่ะอีกหนึ่ง
00:26:13 → 00:26:16 ในสิ่งที่ญาติไม่เข้าใจคือผมจะบอกว่าญาติ
00:26:16 → 00:26:19 บางคนบอกว่าทำไมไม่สู้ล่ะทำไมไม่ทำหน่อย
00:26:19 → 00:26:21 ล่ะนู่นนี่นั่นคำพวกนี้จริงๆถามว่าดีมั้ย
00:26:21 → 00:26:24 มันมันก็ดีแหละเพราะว่าเราก็ต้องการหวัง
00:26:24 → 00:26:26 ดีกับเขาแต่ให้นึกอีกอย่างนึงว่าคนที่
00:26:26 → 00:26:29 หงุดหงิดกว่าคุณคือคนขใที่เคยยกแขนได้แต่
00:26:29 → 00:26:32 ตอนนี้ยกไม่ได้ใช่เขาผมเชื่อว่าหลายๆคนก็
00:26:32 → 00:26:36 ฝึกอยู่ไม่น้อยเราให้กำลังใจในลักษณะที่
00:26:36 → 00:26:38 เป็น Positive หรือเป็นแบบเป็นสิ่งที่ดี
00:26:38 → 00:26:40 เฮ้ยทำได้แล้วเฮ้ยเมื่อวานทำไม่ได้เ้ยวัน
00:26:40 → 00:26:42 นี้เราเห็นแล้วเริ่มทำได้จริงไม่ใช่ซมซี้
00:26:42 → 00:26:44 ซเหมือนกันนะก็เห็นแล้วเฮ้ยเริ่มทำได้มาก
00:26:44 → 00:26:46 ขึ้นเฮ้ยพรุ่งนี้มันอาจจะไปดีขึ้นนะ
00:26:46 → 00:26:48 พยายามเชียร์เไม่ใช่บอกว่าทำไมไม่พยายาม
00:26:48 → 00:26:51 เลยโอ้โหนึกออกมั้ยมันมันมันเป็นเรื่อง
00:26:51 → 00:26:54 ของกำลังใจจริงๆนะอยู่ที่ว่าแม่เป็นคนที่
00:26:54 → 00:26:58 สู้แล้วแม่ก็แบบเหมือนใจเย็นกับคณนรักพ่อ
00:26:58 → 00:27:02 มากเออคือแบบให้กำลังใจตลอดแล้วก็แบบว่าเ
00:27:02 → 00:27:04 พยายามที่จะแบบเหมือนแบบลุยอ่ะสู้ไปด้วย
00:27:04 → 00:27:07 กันอะไรอย่าเงี้ยให้กำลังใจมีวิธีการพูด
00:27:07 → 00:27:12 อ่าพ่อเองพ่อก็ท้อบ้างบางทีพ่อแบบพ่อรู้
00:27:12 → 00:27:14 สึกว่าแบบเป็นความผิดตัวเองด้วยซ้ำพ่อเคย
00:27:14 → 00:27:16 มีความคิดที่แบบเหมือนกับเคคุยกับแม่เนาะ
00:27:16 → 00:27:19 อารมณ์ประมาณว่าแบบถ้าเกิดว่าแบบไม่อยู่
00:27:19 → 00:27:21 แล้วไม่เป็นภาระคนอื่นดีกว่าซึ่งแม่ก็จะ
00:27:21 → 00:27:25 แบบว่าอย่ามองแบบนั้นอเอออยู่ถึงตรงเนี้ย
00:27:25 → 00:27:28 ได้อ่ะดีแล้วแล้วตอนนี้มันจะดีขึ้นจนปั
00:27:28 → 00:27:31 บันนี้ก็คือว่าพ่อพูดพ่อก็พูดได้โต้ตอบ
00:27:31 → 00:27:33 ได้คุยได้อาจจะไม่ได้เหมือนเดิมแต่อย่าง
00:27:33 → 00:27:36 น้อยๆพ่อก็ยังแบบอ่ะเข้าใจเข้าใจเราอ่ะ
00:27:36 → 00:27:38 กลับบ้านมาคุยกับพ่อพ่อเป็นไงบ้างพ่อบอก
00:27:38 → 00:27:42 เอออื้ออ้าก็คุยได้ดีเออก็อาจจะไม่ได้แบบ
00:27:42 → 00:27:45 เหมือนเดิมขนาดนั้นแต่ว่าก็เราว่าพ่อก็มา
00:27:45 → 00:27:49 ไกลมากๆจากจุดที่เป็นตอนนั้นออือนั่นแหละ
00:27:49 → 00:27:52 ก็นี่เป็นหนึ่งในตัวอย่างนะที่บอกว่าเอ่อ
00:27:52 → 00:27:56 การดูแลอย่างอย่างแข็งขันะกันแล้วก็ความ
00:27:56 → 00:27:58 ช่วยเหลือจากคนรอบตัวบางทีต้องปรับ
00:27:58 → 00:28:01 เปลี่ยนชีวิตปรับเปลี่ยนบ้านเพราะว่าหลาย
00:28:01 → 00:28:03 ๆคนคุณพ่อเป็นเสาหลักบ้านอย่างเงี้ยมันก็
00:28:03 → 00:28:05 จะมีการปรับเปลี่ยนเยอะถูกมั้ยในในในบ้าน
00:28:05 → 00:28:09 ต่างๆผมเชื่อว่ากระทบมากแต่ว่ามันก็จะ
00:28:09 → 00:28:11 ผ่านไปในในรูปแบบนึงของมันแล้วก็ทำใจ
00:28:11 → 00:28:14 เรียนรู้ยอมรับไปด้วยกันแล้วก็มีความสุข
00:28:14 → 00:28:17 ด้วยกันผมว่าดีสุดอครอบครัวสำคัญนะครับ
00:28:17 → 00:28:19 จริงๆต้องแบบซัพพอร์ตเนาต้องให้กำลังใจ
00:28:19 → 00:28:22 สนับสนุนกันอ่าสิ่งที่สำคัญเลยครับก็คือ
00:28:22 → 00:28:25 ว่ายิ่งมีสมมุติมีพี่น้องนะอือเอ่ออย่า
00:28:25 → 00:28:28 โทษกันว่าเป็นความผิดของใครหรือว่าไม่
00:28:28 → 00:28:30 ต้องหาเหตุผลถ้ามันเกิดขึ้นแล้วก็คือรับ
00:28:30 → 00:28:32 มือกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอตั้งสติไว้แล้วก็
00:28:32 → 00:28:35 อ่าลองดูว่าเราทำอะไรได้บ้างทำอะไรไม่ได้
00:28:35 → 00:28:38 บ้างและที่สำคัญไม่น้อยไปกว่านั้นก็คือ
00:28:38 → 00:28:41 ประกันสุขภาพทำไว้นะ
00:28:41 → 00:28:45 ครับทำพ่อไม่ได้ทำบอกเลยว่าขออนุญาตถาม
00:28:45 → 00:28:48 เสียไปเท่าไหร่เป็นล้านบอกเลยว่าเป็นล้าน
00:28:48 → 00:28:51 เ่าล้านเดียวเกินเกินล้านนึงเกินล้านนึง
00:28:51 → 00:28:56 แน่ๆ่เพ 2 ถึงมั้ยน่าจะเกินอีกเออคือคือ
00:28:56 → 00:28:58 แล้วมันไม่ใช่เงินน้อยๆอ่ะมันเป็นเงินที่
00:28:58 → 00:29:02 แบบแบบกระทบหลายๆอย่างมากแล้วก็คือยิ่ง
00:29:02 → 00:29:05 ยิ่งอยู่ในช่วงที่ว่าโควิดมาอีกหรือว่า
00:29:05 → 00:29:08 อะไรแบบเนี้ยมันยิ่งหนักหนาซ้ำเติมเขอีก
00:29:08 → 00:29:11 แต่ว่าเราก็พยายามสู้กันมาแหละเออเราไม่
00:29:11 → 00:29:14 ได้เป็นแบบบ้านที่แบบว่าโหมีเงินสำรอง
00:29:14 → 00:29:16 เหลือหรืออะไรมากมายขนาดนั้นอะไรอย่าง
00:29:16 → 00:29:18 เงี้ยเออแต่ว่าการมีประกันสุขภาพไว้กับ
00:29:18 → 00:29:22 ตัวอย่างน้อยๆก็คือแบ่งเบาภาระเนาะแล้วก็
00:29:22 → 00:29:24 ช่วยดูแลในด้านความเสี่ยงให้มันเป็น
00:29:24 → 00:29:27 รูปธรรมมากขึ้นไม่มีโฆษณาไม่ได้มีการไอิน
00:29:27 → 00:29:30 อะไรมันจะตลกมากถ้าแบบลงมาแล้วแบบเป็น
00:29:30 → 00:29:32 ชื่อประกันแบรนด์นึงอ่ะอันนี้ไม่มีมีอัน
00:29:32 → 00:29:35 นี้ไม่มีแต่ว่าอยากแนะนำที่จริงๆคือคือ
00:29:35 → 00:29:38 ประกันไม่ได้เราอาจจะคิดว่าเราเสีย 20,000
00:29:38 → 00:29:40 30,000 ต่อต่อปีมันเป็นเอ้ยแบบเหมือน
00:29:40 → 00:29:42 เหมือนทิ้งเปล่ามันไม่ได้ทิ้งเปล่าหรอก
00:29:42 → 00:29:45 มันเป็นการซื้อความสบายใจแล้วก็ดูแลคนรอบ
00:29:45 → 00:29:49 ตัวนอกจากตัวเราแล้วมันดูแลเงินของคนรอบๆ
00:29:49 → 00:29:52 ด้านที่เขารักคุณน่ะที่เขายอมที่จะควัก
00:29:52 → 00:29:55 เงินดูแลคุณเพราะฉะนั้นแบบซื้อไปคันไป
00:29:55 → 00:29:58 เถอะอย่างอย่าทีมเราก็จะมีทีมพี่พี่ภูเขา
00:29:58 → 00:30:00 เนาที่เขาดูแลเรื่องเรื่องการเงินประกัน
00:30:00 → 00:30:02 ผมจะบอกว่าหนในสิ่งที่สำคัญอีกไม่แพ้กัน
00:30:02 → 00:30:05 ก็คือหาตัวแทนประกันที่ดีด้วยเอออันนี้ผม
00:30:05 → 00:30:07 ก็เพิ่งรู้เพิ่งรู้จากจากทีมนี่แหละผมก็
00:30:07 → 00:30:09 ไม่เคยรู้มาก่อนเหมือนกันอ่ะประมาณนี้
00:30:09 → 00:30:12 คร่าวๆเนาะน่าจะสมควรแก่เวลาเอาจริงๆมัน
00:30:12 → 00:30:14 ก็้าให้เล่าอีกก็ยาวถ้าอยากฟังตรงไหนเป็น
00:30:14 → 00:30:16 พิเศษให้เจาะลึกตรงไหนหรือเรื่องโรคอะไร
00:30:16 → 00:30:19 เพิ่มเติมก็คอมเมนต์มาเล่าแบบคร่าวๆแล้ว
00:30:19 → 00:30:22 กันเพราะว่าจริงๆแบบถ้าขยายเนี่ยยาวมาก
00:30:22 → 00:30:24 เอาตอนเต็มมั้ยเอาตอนเต็มมั้ยงเอาคอมเมมา
00:30:24 → 00:30:28 คมาทั้งช่วงแบบว่าอ่ากายภาพมันมีหลายหล
00:30:28 → 00:30:29 ความรู้สึกที่มันเกิดขึ้นเนาะทั้งช่วงที่
00:30:29 → 00:30:32 แบบรู้สึกว่าแบบเฮ้ยเห็นพัฒนารของพ่อดีใจ
00:30:32 → 00:30:33 จังเลยอะไรเงี้ยหรือว่าความสัมพันธ์
00:30:33 → 00:30:36 ระหว่างทีนกายภาพกับคุณพ่อเพราะว่ามันคือ
00:30:36 → 00:30:38 การสู้ในระยะยาวอย่างที่บอกอ่ะเราจะรู้
00:30:38 → 00:30:41 จักคนเหล่าเนี้บุคลากรเหล่าเนี้ยลึกลงไป
00:30:41 → 00:30:45 อีกเออมีความแบบว่าอ่าต้องจัดการอารมณ์
00:30:45 → 00:30:48 กับอ่าผู้ป่วยด้วยดูแลผู้ป่วยแล้วต้องดู
00:30:48 → 00:30:50 แลคนที่ดูแลผู้ป่วยอีกทีนึงใช่ก็ขอบคุณ
00:30:50 → 00:30:53 แขกรับเชิญของเราไม่ใช่ยินดีนะครับขอบคุณ
00:30:53 → 00:30:56 พี่จั่นมากนะครับเป็นพิธีกรและเป็นผู้ถูก
00:30:56 → 00:30:58 สัมภาษณ์เอาจรประสบการ์เนี่ยผมอยากให้พี่
00:30:58 → 00:31:01 จันทร์เล่าผมก็บอกเลยว่าสิ่งเนี้ยมันมัน
00:31:01 → 00:31:03 น่าจะช่วยให้อีกหลายๆคนที่จะเจอไม่ว่าจะ
00:31:03 → 00:31:05 มากกว่าหรือน้อยกว่าพี่จันทร์อย่างไรก็
00:31:05 → 00:31:08 ตามคือทุกคนต้องผ่านความรู้สึกที่ยาก
00:31:08 → 00:31:11 ลำบากการตัดสินใจการเปลี่ยนแปลงของชีวิต
00:31:11 → 00:31:13 ทุกการเปลี่ยนแปลงลำบากเสมอนี่ก็หนึ่งใน
00:31:13 → 00:31:16 เรื่องที่เขาผ่านมาได้แล้วก็ตอนนี้โชคดี
00:31:16 → 00:31:19 ว่าเค้าเรียกว่าอะไรสามารถสามารถผ่านมัน
00:31:19 → 00:31:22 มาได้อย่างไม่ทุกข์มากอยู่ในจุดที่เ่า
00:31:22 → 00:31:24 เหมือนแบบเรารู้สึกว่าโอเคแบบสิ่งใเกิด
00:31:24 → 00:31:26 ขึ้นสิ่งนั้นดีเสมอแหละหมาถึงว่ายอมรับ
00:31:26 → 00:31:29 มันแล้วก็มีความความสุขกับปัจจุบันเห็น
00:31:29 → 00:31:32 แม่มีความสุขกับชีวิตได้ก็รู้สึกดีขึ้นนะ
00:31:33 → 00:31:35 เห็นคุณพ่อยังหัวเราะได้ยังยิ้มได้ก็ก็
00:31:35 → 00:31:37 ยังดีใจเราเรารู้สึกว่าอ่าอยากเป็นกำลัง
00:31:37 → 00:31:41 ใจให้กับอ่าทุกคนที่ดูแลคนป่วยที่แบบเป็น
00:31:41 → 00:31:43 อมีสภาวะติดเตียงหรือว่ามีอาการเกี่ยวกับ
00:31:43 → 00:31:46 โรคทั้งทั้งโรคหลอดเลือดหรือว่าจะเป็นโรค
00:31:46 → 00:31:49 อื่นๆที่แบบต้องอาศัยแบบความอดทนมากๆเลย
00:31:49 → 00:31:52 อ่ะเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับก็อยากให้ดู
00:31:52 → 00:31:55 แลทั้งตัวเองแล้วก็ดูแลคนป่วยถ้าเกิดว่า
00:31:55 → 00:31:57 เราไม่ได้ดูแลตัวเองเราคงไปดูแลอ่าผู้
00:31:57 → 00:32:00 ป่วยที่ดีไม่ได้เป็นกำลังใจให้เสมอนะจาก
00:32:00 → 00:32:03 พวกเราทุกคนใช่ก็แชร์แชร์ไปนะครับเรื่อง
00:32:03 → 00:32:05 เหล่านี้ผมว่าคืออยากให้อยากให้ทุกคนเข้า
00:32:05 → 00:32:08 ใจแล้วกันแล้วก็อย่างน้อยเรียนรู้แลป้อง
00:32:08 → 00:32:11 กันตัวมันจะดีกับท่านมากๆๆๆอย่างบางโรค
00:32:11 → 00:32:13 อย่างโรกเนี้ยดูแลตัวเองไม่ได้ไม่เป็นไร
00:32:13 → 00:32:15 รู้ว่าต้องทำยังไงนี่คือสิ่งที่ต้อง
00:32:15 → 00:32:18 เตรียมตัวไว้อืนะครับไม่เจอดีแล้วไม่อยาก
00:32:18 → 00:32:21 ให้ทุกคนป่วยถ้าป่วยต้องทำยังไงตอนหน้า
00:32:21 → 00:32:23 เรื่องอะไรเดี๋ยวว่ากันอยากรู้เรื่องอะไร
00:32:23 → 00:32:27 บอกฝากหน่อยนะครับคอคอมเมนต์ได้คอมเมนต์
00:32:27 → 00:32:29 อยากรู้เรื่องอะไรบอกได้แล้วก็ฝากแชร์ไป
00:32:29 → 00:32:31 ให้คนที่แบบรู้สึกว่ามันน่าจะมีประโยชน์
00:32:31 → 00:32:33 กับเขาไม่มากก็น้อยหรือว่ามีอ่า
00:32:33 → 00:32:37 ประสบการณ์เนาะที่อยากอ่าระบายอยากเล่า
00:32:37 → 00:32:41 อยากให้หลายๆคนมาเอาใจช่วยเนาะหรือเป็น
00:32:42 → 00:32:44 กำลังใจให้จริงๆคอมเมนต์ไว้ได้เนาะอ่า
00:32:44 → 00:32:48 อย่างน้อยๆถือว่าได้เล่าไว้ในที่ที่นึง
00:32:48 → 00:32:51 อ่ากำลังใจมันมันเกิดขึ้นได้ทุกที่อ่ะ
00:32:51 → 00:32:54 แล้วเราเชื่อว่ามันเป็นสิ่งที่สำคัญเนาะ
00:32:54 → 00:32:56 อย่าเก็บไว้คนเดียวนะครับอ่าอย่างน้อยๆ
00:32:56 → 00:32:58 แบบอย่าอย่างอย่าฟังเรื่องของคนสั่นไป
00:32:58 → 00:33:00 เนี่ยแชร์กันมาก็ได้ครับว่าอ่ามี
00:33:00 → 00:33:02 ประสบการณ์ยังไงกันบ้างเนาะแล้วก็เป็น
00:33:02 → 00:33:05 กำลังใจให้อย่างที่บอกว่ามันเป็นการต่อ
00:33:05 → 00:33:09 สู้ในระยะยาวกับตัวเองเนาะแล้วก็ทั้งคน
00:33:09 → 00:33:12 ตัวคนป่วยเองด้วยแล้วก็คนที่ดูแลเองก็
00:33:12 → 00:33:16 เหมือนกันเนาะมันเป็นการเอ่อใช้คุณทรัพย์
00:33:16 → 00:33:19 มากในการดูแลใครสักคนนึงเนนถ้าเกิดว่าเรา
00:33:19 → 00:33:22 ลดความเสี่ยงเราควบคุมอะไรพวกนี้ได้อ่ะ
00:33:22 → 00:33:25 มันก็คงจะดีขึ้นตามติดตามกันไว้นะครับ
00:33:25 → 00:33:26 อยากไปอยากไปถึงแสนทรัพย์แล้วเนี่ยอยาก
00:33:27 → 00:33:30 ได้อยากได้โลกอยากได้โล่มาโชว์ทุกคนบงพวก
00:33:30 → 00:33:33 เราก็อยากให้เราอยากให้คนเข้าใจในหลายๆ
00:33:33 → 00:33:35 เรื่องมากขึ้นแล้วแบบอย่างเราอ่ะเราเรา
00:33:35 → 00:33:37 เหมือนเราเป็นตัวแทนชาวบ้านเราแบบเราเป็น
00:33:37 → 00:33:39 เด็กศิลน่ะเราไม่ได้แบบรู้จักแบบมีความ
00:33:39 → 00:33:43 รู้ในแบบโรคหรือว่าวิทยาศาสตร์หรือว่า
00:33:43 → 00:33:47 ชีวะอวิทยาเอออะไรอย่างเงี้ยมันเลยแบบว่า
00:33:47 → 00:33:50 พอเราได้มาเจอกันเจอกับเจอกับเจอกับโอม
00:33:50 → 00:33:53 หรือว่าแบบอ่าประสบการณ์ที่แบบว่าเ้ยพ่อ
00:33:53 → 00:33:54 คุณพ่อป่วยอะไรเงี้ยมันทำให้เราได้เรียน
00:33:54 → 00:33:56 รู้หลายอย่างแล้วก็อย่างน้อยๆเรามีความ
00:33:56 → 00:33:58 รู้มากขึ้นดูแลเองและคนรอบข้างได้ดีดี
00:33:59 → 00:34:02 ขึ้นก็น่าจะดีครับโอเคแล้วก็พบกันใหม่นะ
00:34:02 → 00:34:04 ครับกลับเป็นไขลับนะครับไคลับของเพื่อน
00:34:04 → 00:34:07 ที่อยู่ข้างคุณนะครับบ๊ายบายขอบคุณมากที่
00:34:07 → 00:34:11 ดูจนจบนะครับ