00:00:00 → 00:00:02 เราจะมาพูดคุยกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจาก
00:00:02 → 00:00:05 แอปพลิเคชันหมอดีในเรื่องของสัญญาณเตือน
00:00:05 → 00:00:07 โรคไข้เลือดออก
00:00:07 → 00:00:16 [เพลง]
00:00:16 → 00:00:19 กันสวัสดีค่ะอาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรก
00:00:19 → 00:00:22 เลยนะคะสำหรับคำถามแรกค่ะอาจารย์อุบัติ
00:00:22 → 00:00:24 การณ์ของโรคไข้เลือดออกในปีนี้เป็นอย่าง
00:00:24 → 00:00:27 ไรบ้างคะอาจารย์ครับอุบัติการ์ไข้เลือด
00:00:27 → 00:00:30 ออกของปีนี้นะครับตั้งแต่เดือนมกราคมจน
00:00:30 → 00:00:34 ถึงประมาณเดือนเมษายนนะครับปี 2566 ก็มี
00:00:34 → 00:00:36 คนเป็นไข้เลือดออกไปแล้วประมาณ 10,000 คน
00:00:36 → 00:00:38 นะครับเสียชีวิตทั้งหมด 11 คนนะครับข้อ
00:00:38 → 00:00:41 มูลจากกรรมควบคุมโรกกระทรวงสาธารณสุขนะ
00:00:41 → 00:00:45 ครับแล้วก็แนวโน้มอ่าส่วนใหญ่จะมีมากใน
00:00:45 → 00:00:47 ช่วงฤดูฝนนะครับก็คือตั้งแต่ช่วงพฤษภาคม
00:00:47 → 00:00:50 เป็นต้นไปจนถึงต้นฤดูหนาวนะครับก็ประมาณ
00:00:50 → 00:00:52 สัก 4 เดือนนะครับแต่ว่าไข้เลือดออกจริงๆ
00:00:52 → 00:00:55 แล้วเนี่ยเอ่อเป็นได้ตลอดทั้งปีเลยนะครับ
00:00:55 → 00:00:58 ไม่ได้จำกัดแค่ฤดูฝนแต่จะมีเคสมากแค่ช่วง
00:00:58 → 00:01:01 ฤดูฝนอย่างเดียวฮะแล้วไข้เลือดออกเกิด
00:01:01 → 00:01:03 ขึ้นได้อย่างไรคะอาจารย์ครับไข้เลือดออก
00:01:03 → 00:01:06 นะครับเกิดจากไวรัสนะครับซึ่งติดต่อผ่าน
00:01:06 → 00:01:09 โดยยุงนะครับยุงก็คือยุงลายนะครับที่ติด
00:01:09 → 00:01:12 เชื้อเนี่ยมาเมื่อมากัดคนแล้วตัวเชื้อไข้
00:01:12 → 00:01:14 เลือดออกเนี่ยไวรัสไข้เลือดออกเนี่ยก็จะ
00:01:14 → 00:01:18 เข้าไปสู่เม็ดเลือดขาวของคนนะครับพอเข้า
00:01:18 → 00:01:20 ไปสู่เม็ดเลือดขาวของคนแล้วมันก็จะไปแพร่
00:01:20 → 00:01:22 เชื้ออยู่ในพวกพวกเม็ดเลือดขาวแล้วก็พวก
00:01:22 → 00:01:25 เซลล์ของหลอดเลือดพวกเยครับทำให้มี
00:01:25 → 00:01:29 ปฏิกิริยาต่อภูมิคุ้มกันพวกเยครับทำให้
00:01:29 → 00:01:31 เซลล์พวกผนังหลอดเลือดเนี่ยมันถูกทำลาย
00:01:31 → 00:01:34 หรือว่าผิดปกติไปก็เลยทำให้มีเลือดออกมา
00:01:34 → 00:01:36 จากเส้นเลือดได้เเลยเรียกว่าเป็นไข้เลือด
00:01:36 → 00:01:38 ออกอครับอาจารย์ขาไข้เลือดออกนั้นมีกี่
00:01:38 → 00:01:41 สายพันธุ์คะแล้วคนไทยมักเป็นสายพันธุ์
00:01:41 → 00:01:43 อะไรมากที่สุดคะอาจารย์ครับไขเลือดออกมี
00:01:43 → 00:01:46 ทั้งหมด 4 สายพันธุ์นะครับใช้ชื่อย่อว่า
00:01:46 → 00:01:48 Den นะครับแต่ละสายพันธุ์ก็ถ้าเป็นสาย
00:01:48 → 00:01:51 พันธุ์ที่ 1 ก็ en1 จนถึงสายพันธุ์ที่ 4
00:01:51 → 00:01:55 คือ Den 4 นะครับซึ่งคนไทยนะครับส่วน
00:01:55 → 00:01:57 ใหญ่จะเป็นสายพันธุ์ที่ 2 นะครับใน
00:01:57 → 00:01:59 ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้นะครับจะ
00:01:59 → 00:02:02 เป็นสายพันธุ์ที่ 2 ซะส่วนใหญ่แต่ว่ามัน
00:02:02 → 00:02:04 อาจจะมีการเปลี่ยนของสายพันธุ์ได้เ้า
00:02:04 → 00:02:06 เรียกว่าซีร type ครับสายพันธุ์ภาษา
00:02:06 → 00:02:08 อังกฤษเาเรียกซีร type ก็อาจจะมีการ
00:02:08 → 00:02:11 เปลี่ยนกันได้ระหว่างสายพันธุ์อาจจะเป็น
00:02:11 → 00:02:14 ช่วงไม่กี่ประมาณสัก 10 ปีที่ผ่านมาเป็น
00:02:14 → 00:02:17 ช่วงที่สายพันธุ์ที่ 2 มีจำนวนมากนะครับ
00:02:17 → 00:02:20 แต่ว่าก่อนหน้านี้ประมาณสัก 15 ปีที่แล้ว
00:02:20 → 00:02:22 อะไรแบบนี้ก็จะเป็นสายพันธุ์ที่ 1 ที่จะ
00:02:22 → 00:02:25 เด่นนะครับแต่ว่าหลักหลักๆก็คือเอเชียัน
00:02:25 → 00:02:27 ออกเฉียงใต้จะเป็นสายพันธุ์ที่ 2 ครับ
00:02:27 → 00:02:30 อาจารย์ขาแล้วสายพันธุ์ไหนมีอาการรุนแรง
00:02:30 → 00:02:32 มากที่สุดคะสายพันธุ์ค่าเลออกที่รุนแรง
00:02:32 → 00:02:35 มากสุดนะครับเ่อจริงๆแล้วทุกสายพันธุ์
00:02:35 → 00:02:37 ทั้ง 4 สายพันธุ์เนี่ยมีความรุนแรงในการ
00:02:37 → 00:02:39 ก่อโรคได้เท่ากันนะครับไม่มีความแตกต่าง
00:02:39 → 00:02:43 กันแต่ว่ามันจะมีความแตกต่างกันตรงที่การ
00:02:43 → 00:02:46 ติดเชื้อครั้งที่ 2 นะครับอ่าการศึกษาราย
00:02:46 → 00:02:48 งานมาก่อนหน้าเนี้ยพบว่าถ้าสมมุติว่าติด
00:02:48 → 00:02:51 เชื้อครั้งที่ 2 เป็นสายพันธุ์ที่ 2 นะ
00:02:51 → 00:02:56 ครับจะทำให้มีการเกิดโรครุนแรงกว่าสาย
00:02:56 → 00:02:58 พันธุ์อื่นๆนะครับบุคคลกลุ่มไหนคะอาจารย์
00:02:58 → 00:03:00 ที่เป็นกลุ่มเสี่ยงที่ที่จะเป็นไข้เลือด
00:03:00 → 00:03:03 ออกแล้วมีโอกาสเสียชีวิตได้คะกลุ่มเสียง
00:03:03 → 00:03:06 ที่จะเป็นไข้เลือดออกนะครับจากการศึกษา
00:03:06 → 00:03:10 การรายงานของกรมควบคุมโลกนะครับของประเทศ
00:03:10 → 00:03:13 ไทยเนาะช่วงปีเนี้ยครับกลุ่มเสียงก็คือ
00:03:13 → 00:03:16 เป็นกลุ่มที่อายุ 15-24 ปีแล้วก็อาศัย
00:03:16 → 00:03:18 อยู่ในภาคใต้ครับเป็นกลุ่มที่มีความ
00:03:18 → 00:03:21 เสี่ยงมากสุดอาจารย์คะอาการของไข้เลือด
00:03:22 → 00:03:25 ออกนั้นเป็นอย่างไรบ้างคะแล้วมีกี่ระยะคะ
00:03:25 → 00:03:28 เราจะมีวิธีในการสังเกตอาการแต่ละระยะ
00:03:28 → 00:03:30 อย่างไรบ้างคะค่ะอาการของไข้เลือดออกนะ
00:03:30 → 00:03:34 ครับส่วนใหญ่ก็จะช่วง 3-7 วันแรกนะครับเ
00:03:34 → 00:03:36 เรกเจะเรียกว่าเป็นภาวะไข้นะครับก็จะมี
00:03:36 → 00:03:40 อาการไข้สูงนะครับอาจจะมีผื่นตามตัวได้
00:03:40 → 00:03:43 บ้างนะครับผื่นก็จะเป็นแบบผื่นจุดเล็กๆ
00:03:43 → 00:03:45 หรือผื่นจุดเลือดออกเป็นจ้ำๆพวกนี้เล็กๆ
00:03:45 → 00:03:48 นะครับแล้วก็หลักๆเลยก็จะมีอาการปวดนะ
00:03:48 → 00:03:51 ครับก็มี 4 ปวดได้แก่ปวดกระบอกตาปวดศีรษะ
00:03:51 → 00:03:53 นะครับปวดกล้ามเนื้อแล้วก็รู้สึกเหมือน
00:03:53 → 00:03:56 ปวดกระดูกนะครับอันนี้คืออาการที่ส่วนคน
00:03:56 → 00:03:58 ส่วนใหญ่จะมีแล้วก็มาพบแพทย์นะครับ
00:03:58 → 00:04:00 เครื่องัดออกมี 3 ระยะยะครับก็คือระยะไข้
00:04:00 → 00:04:04 ครับเป็นประมาณ 3-7 วันนะครับแล้วก็ระยะ
00:04:04 → 00:04:08 เ่อวิกฤตนะครับประมาณ 48 ชม 12 -48 ชมนะ
00:04:08 → 00:04:11 ครับแล้วก็หลังจากนั้นก็จะเป็นระยะฟื้น
00:04:11 → 00:04:14 ตัวนะครับระยะฟื้นตัวก็จะเป็นประมาณซัก
00:04:14 → 00:04:17 3-5 วันประมาณเนี้ยครับแต่ว่าระยะที่น่า
00:04:17 → 00:04:20 กังวลก็คือระยะวิกฤตนะครับเพราะว่าจะเป็น
00:04:20 → 00:04:23 ช่วงที่ของเหลวในเส้นเลือดเมันจะรั่วออก
00:04:23 → 00:04:26 มาจากเอ่อเส้นเลือดได้นะครับช่วง 48 ชม
00:04:26 → 00:04:29 เนี้ยทำให้อาจจะต้องถ้าไม่สามารถมาติดตาม
00:04:29 → 00:04:31 มาการที่โรงพยาบาลได้หรือว่าอะไรพวกเนี้ย
00:04:31 → 00:04:34 หรือมีปัจจัยเสี่ยงในการที่จะเป็นโรครุน
00:04:34 → 00:04:38 แรงได้ก็เลยเเลยแนะนำให้ช่วงเนี้ย 48 ช่ม
00:04:38 → 00:04:40 เนี่ยให้มา admit ที่โรงพยาบาลเพื่อที่จะ
00:04:40 → 00:04:43 มอนิเตอร์พวกสัญญาณชีพต่างๆนะครับแล้วก็
00:04:43 → 00:04:46 อาจจะต้องมีการให้พวกสารน้ำทดแทนป้องกัน
00:04:46 → 00:04:49 ภาวะช็อที่เกิดขึ้นได้ส่วนระยะสุดท้ายคือ
00:04:49 → 00:04:52 ระยะฟื้นตัวก็คือช่วงที่คนไข้จะเริ่มทาน
00:04:52 → 00:04:55 อาหารได้จะมีผื่นคันตามตัวซึ่งเป็น
00:04:55 → 00:04:58 สัญลักษณ์ของการว่าอันเนี้ยโรคเนี้ยหาย
00:04:58 → 00:05:00 แล้วเป็นผื่นที่จะรู้สึกคันมากๆแล้วก็
00:05:00 → 00:05:04 ปัสสาวะเริ่มออกนะครับเพราะว่าปริมาณน้ำ
00:05:04 → 00:05:06 น้ำในหลอดเลือดเนี่ยมันกลับเข้ามาสู่ปกติ
00:05:06 → 00:05:09 แล้วนะครับแล้วก็หัวใจเต้นช้าลงจนสู่ภาวะ
00:05:09 → 00:05:13 ปกติครับอาการขาดน้ำเกิดจากอันแรกก็คือคน
00:05:13 → 00:05:15 ไข้เนี่ยอุณหภูมิมันสูงขึ้นนะครับอาจจะ
00:05:15 → 00:05:18 ต้องมีการเผาผลาญมากขึ้นก็เลยทำให้ใช้น้ำ
00:05:18 → 00:05:21 มากขึ้นอย่างแรกนะครับอย่างที่ 2 ก็คือคน
00:05:21 → 00:05:23 ไข้ไม่ค่อยอยากจะทานอาหารเท่าไหร่รู้สึก
00:05:23 → 00:05:26 ไม่มีความอยากอาหารลดจะลดการทานน้ำนะครับ
00:05:26 → 00:05:28 แล้วก็อย่างที่ 3 เลยหลักๆเลยที่มีภาวะ
00:05:28 → 00:05:31 ขัดน้ำก็คืออย่างที่ว่าไปคือหลอดเลือด
00:05:31 → 00:05:34 เนี่ยมันเ่อมีความผิดปกติมันขยายตัวหรือ
00:05:34 → 00:05:36 ว่าผนังหลอดเลือดมันผิดปกติจากเอ่อภูมิ
00:05:36 → 00:05:38 คุ้นกันของร่างกายต่อไวรัสนะครับมันเลยทำ
00:05:39 → 00:05:41 ให้มีเลือดหรือว่าของเหลวที่อยู่ในเส้น
00:05:41 → 00:05:43 เลือดเนี่ยมันรั่วออกมาจากเส้นรั่วออกมา
00:05:43 → 00:05:45 จากเส้นเลือดนะครับทำให้ปริมาณเลือดที่
00:05:45 → 00:05:47 อยู่ในหลอดเลือดน่ะมันน้อยลงทำให้เกิด
00:05:47 → 00:05:50 ภาวะช็อกได้ครับอาจารย์คะแล้วอาการของไข้
00:05:50 → 00:05:53 เลือดออกไข้หวัดใหญ่รวมถึงโควิดนั้นมี
00:05:54 → 00:05:58 อาการแตกต่างกันอย่างไรคะ 3 ตัวเนะคะเป็น
00:05:58 → 00:06:00 เกิดจากเชื้อไวรัสเหมือนเหมือนกันนะครับ
00:06:00 → 00:06:04 ดังนั้นการรักษาเนี่ยก็เน้นไปที่การรักษา
00:06:04 → 00:06:07 โดยประคับประคองอาการยาต้านไวรัสต่างๆ
00:06:07 → 00:06:10 เนี่ยอาจจะไม่จำเป็นที่จะต้องใช้มากนะ
00:06:10 → 00:06:12 ครับนอกจากนี้สิ่งที่เหมือนกันนะครับก็
00:06:12 → 00:06:15 คือจะมีเรื่องของอาการที่จะมีอาการไข้ได้
00:06:15 → 00:06:17 นะครับหลักๆเลยก็มีอาการไข้นะครับแต่ว่า
00:06:17 → 00:06:20 ข้อแตกต่างนะครับส่วนใหญ่ไข้เลือดออก
00:06:20 → 00:06:23 เนี่ยจะไม่ค่อยมีอาการทางระบบทางเดินหาย
00:06:23 → 00:06:25 ใจอย่างเช่นไอน้ำมูกมากเท่าไหร่นะครับ
00:06:25 → 00:06:28 ต่างจากไข้หวัดใหญ่กับโควิดนะครับนอกจาก
00:06:28 → 00:06:33 นี้ถ้าถ้าเอาชุดตรวจ atk ของโควิดหรือว่า
00:06:33 → 00:06:36 ไข้หวัดใหญ่พวกนี้ไปตรวจก็จะไม่ขึ้นเชื้อ
00:06:36 → 00:06:40 นะครับแล้วก็ไข้เลือดออกเนี่ยจะเน้นไปที่
00:06:40 → 00:06:43 การที่มีผื่นคล้ายๆจ้ำจุดเลือดออกออกช่วง
00:06:43 → 00:06:47 นี้มากกว่านะครับอาจารย์คะทำไมคนที่เป็น
00:06:47 → 00:06:49 ไข้เลือดออกครั้งที่ 2 แล้วถึงมีอาการ
00:06:49 → 00:06:52 รุนแรงแล้วก็มีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตได้
00:06:52 → 00:06:55 คะไข้เลือดออกมันมี 4 สายพันธุ์นะครับคน
00:06:55 → 00:06:57 ที่ติดเชื้อไปแล้ว 1 สายพันธุ์เนี่ยจะมี
00:06:57 → 00:06:59 ภูมิคุ้นกันยาวไปตลอดชีวิตต่อสายพันธุ์
00:06:59 → 00:07:03 นั้นซึ่งทำให้ถ้าสมมติถ้าสมมุติว่าคนไข้
00:07:03 → 00:07:04 ติดสายพันธุ์ที่ 1 ไปแล้วก็จะมีโอกาสติด
00:07:04 → 00:07:06 สายพันธุ์ที่ 2 3 4 ได้นะครับเพราะ
00:07:06 → 00:07:09 ฉะนั้นใน 1 ครั้ง 1 ช่วงชีวิตของคนคนึง
00:07:09 → 00:07:11 เนี่ยมีโอกาสติดเชื้อไข้เล็ดออกได้ทั้ง
00:07:11 → 00:07:15 หมด 4 ครั้งนะครับแต่ว่าการติดเชื้อที่
00:07:15 → 00:07:19 มันจะทำให้มีอาการรุนแรงนะครับก็จะต้อง
00:07:19 → 00:07:22 ติดเชื้อครั้งที่ 2 3 4 เนี่ยแตกต่าง
00:07:22 → 00:07:24 จากการติดเชื้อสายพันธุ์ของครั้งแรกนะ
00:07:24 → 00:07:26 ครับอย่างเช่นถ้าครั้งแรกติดสายพันธุ์ที่
00:07:26 → 00:07:28 1 ครั้งที่ 2 ติดสายพันธุ์ที่ 3 อย่าง
00:07:28 → 00:07:31 งี้ก็ก็จะมีอาการรุนแรงมากขึ้นนะครับก็จะ
00:07:31 → 00:07:33 ไม่มีจะไม่มีโอกาสที่จะมาติดสายพันธุ์ที่
00:07:33 → 00:07:35 1 ซ้ำอีกครั้งนึงแล้วนะครับกระบวนการที่
00:07:36 → 00:07:38 ทำให้การติดเชื้อครั้งที่ 2 เนี่ยรุนแรง
00:07:38 → 00:07:41 กว่าครั้งแรกนะครับเามีการศึกษาก่อนหน้า
00:07:41 → 00:07:44 เขาบอกว่าเกิดจากการที่ภูมิคุ้มกันของ
00:07:44 → 00:07:46 ร่างกายเนี่ยมันไม่สามารถที่จะกำจัดเชื้อ
00:07:46 → 00:07:49 ไข้เลือดออกครั้งที่มาจากการติดเชื้อ
00:07:49 → 00:07:51 ครั้งที่ 2 ได้ทั้งหมดนอกจากนี้ภูมิคุ้ม
00:07:51 → 00:07:55 กันพวกเนี้ยมันยังไปส่งเสริมให้เชื้อไข้
00:07:55 → 00:07:57 เลือดออกของการเชจากการติดเชื้อครั้งที่ 2
00:07:57 → 00:08:00 เนี่ยเข้าไปในเซลล์ของร่างกายกายมากขึ้น
00:08:00 → 00:08:02 ทำให้มีการแบ่งตัวของไวรัสมากขึ้นก็เลยทำ
00:08:02 → 00:08:04 ให้มีการติดเชื้อรุนแรงมากขึ้นนะครับเป็น
00:08:04 → 00:08:07 กระบวนการของร่างกายโดยปกติทั่วไปอาจารย์
00:08:07 → 00:08:09 ขาในเรื่องของวัคซีนไข้เลือดออกเนี่ยค่ะ
00:08:09 → 00:08:13 เอ่อมันเหมาะสมกับใครบ้างคะแล้วมีวิธีการ
00:08:13 → 00:08:15 ฉีดได้อย่างไรบ้างคะครับวัคซีนคขเลือดออก
00:08:15 → 00:08:18 ในประเทศไทยนะครับตอนนี้มีอยู่ 2 ชนิดนะ
00:08:18 → 00:08:21 ครับเป็นวัคซีนเชื้อเป็นทั้งคู่เลยนะครับ
00:08:21 → 00:08:25 วัคซีนตัวแรกนะครับก็แนะนำให้ฉีดเฉพาะคน
00:08:25 → 00:08:27 ที่เคยเป็นไข้เลือดออกมาแล้วครั้งแรกนะ
00:08:27 → 00:08:29 ครับจุดประสงคของวัคซีนตัวชนิดแรกเนี่ย
00:08:29 → 00:08:32 เพื่อที่จะป้องกันไม่ให้เป็นไข้เลือดออก
00:08:32 → 00:08:34 ที่รุนแรงในการติดเชื้อครั้งที่ 2 นะครับ
00:08:34 → 00:08:37 แนะนำให้ฉีดสำหรับคนที่อายุ 6 ปีถึง 45
00:08:37 → 00:08:41 ปีนะครับฉีด 3 เข็มก็คือเอ่อเดือนที่ 0
00:08:41 → 00:08:43 ก็คือวันที่ฉีดวันสมมุติว่าฉีดวันนี้นะ
00:08:43 → 00:08:45 ครับแล้วก็นับไปอีก 6 เดือนนะครับอีกเข็ม
00:08:45 → 00:08:47 นึงแล้วก็นับไปอีก 12 เดือนจากวันเนี้นะ
00:08:47 → 00:08:50 ครับฉีดทั้งหมด 3 เข็มนะครับเอ่อส่วน
00:08:50 → 00:08:54 วัคซีนตัวที่ 2 นะครับเป็นวัคซีนเชื้อ
00:08:54 → 00:08:57 เป็นเหมือนกันนะครับแต่ว่าตัวเนี้ยฉีด
00:08:57 → 00:09:00 สำหรับคนที่อายุ 4-6 10 ปีนะครับฉีดแค่ 2
00:09:00 → 00:09:02 เข็มห่างกัน 3 เดือนก็คือฉีดวันนี้สมมุติ
00:09:02 → 00:09:04 ว่าฉีดวันนี้นะครับนับไปอีก 3 เดือนก็ฉีด
00:09:04 → 00:09:07 อีกเข็มนึงตัวนี้ไม่ได้จำกัดเฉพาะคนที่
00:09:07 → 00:09:10 เคยเป็นไข้เลือดออกมาก่อนแล้วนะครับฉีดใน
00:09:10 → 00:09:12 คนที่ยังไม่เคยเป็นไข้เลือดออกเลยก็ได้นะ
00:09:12 → 00:09:16 ครับดังนั้นเอ่อสำหรับวัคซีนตัวแรกนะครับ
00:09:16 → 00:09:18 ที่ต้องต้องเป็นไข้เลือดออกมาก่อนถึงจะ
00:09:18 → 00:09:21 ฉีดนะครับอันนี้ก็อาจจะต้องตรวจภูมิก่อน
00:09:21 → 00:09:23 ก่อนฉีดวัคซีนนะครับว่าเคยเป็นมาก่อนหรือ
00:09:23 → 00:09:26 เปล่าถ้าเคยถ้าเคยเป็นมาก่อนเราถึงจะฉีด
00:09:26 → 00:09:27 ได้ถ้าไม่เคยเป็นก็ไม่แนะนำให้ฉีดเพราะ
00:09:27 → 00:09:30 ว่าถ้าสมมุติว่าฉีดวัคซีนตัวนั้นไปปุ๊บ
00:09:30 → 00:09:32 ติดเชื้อไขยเลือดออกอีกครั้งนึงก็อาจจะทำ
00:09:32 → 00:09:35 ให้มีอาการรุนแรงได้ต้องต้องตรวจก่อนนะ
00:09:35 → 00:09:37 ครับโดยเฉพาะในเด็กเล็กที่อาจจะไม่เคย
00:09:37 → 00:09:39 เป็นมาก่อนเลยพวกเนี้ยครับอาจารย์คะแล้ว
00:09:39 → 00:09:42 การป้องกันการเกิดไข้เลือดออกทำอย่างไร
00:09:42 → 00:09:44 ได้บ้างคะครับในช่วงนี้นะครับก็เข้าสู่
00:09:44 → 00:09:49 ฤดูฝนแล้วนะครับอาจจะมีฝนตกพายุเข้าหรือ
00:09:49 → 00:09:51 อะไรพวกนี้นะครับทำให้มีแหล่งน้ำขังได้
00:09:51 → 00:09:53 เพราะฉะนั้นลองสังเกตดูรอบรอบบ้านนะครับ
00:09:53 → 00:09:56 ว่ามีแหล่งน้ำขังอยู่หรือเปล่านะครับถ้า
00:09:56 → 00:09:59 มีแหล่งน้ำขังอยู่ก็เทน้ำออกนะครับหรือ
00:09:59 → 00:10:01 หรือว่าถ้าไม่สามารถจะเทน้ำออกได้อย่าง
00:10:01 → 00:10:04 เช่นมันเป็นบ่ออะไรพวกนี้นะครับก็โรยพวก
00:10:04 → 00:10:07 ทรายทรายค่าลูกน้ำพวกนี้ใส่ไปในบ่อน้ำก็
00:10:07 → 00:10:09 ได้นะครับหรือว่าอีกวิธีนึงก็คือเลี้ยง
00:10:09 → 00:10:12 พวกปลาหางนกยุงที่จะช่วยกินลูกน้ำอะไรพวก
00:10:12 → 00:10:16 นี้ก็ได้นะครับนอกจากนี้คนที่อยู่บ้าน
00:10:16 → 00:10:20 หรือว่าอาจจะมีการสัมผัสกับพวกยุงอะไรพวก
00:10:20 → 00:10:22 นี้ได้นะครับก็แนะนำให้ทายากันยุงอะไรพวก
00:10:22 → 00:10:26 นี้ก็ได้นะครับหรือฉีดยาพวกไล่ยุงพวกพวก
00:10:26 → 00:10:29 สารไล่ยุงอะไรพวกนี้ประมาณสักสัดลาละ
00:10:29 → 00:10:32 เดือนละ 1 ครั้งก็โอเคนะครับหรือว่าคนที่
00:10:32 → 00:10:35 มีปัจจัยเสี่ยงต่างๆแล้วก็อาจจะมีโอกาส
00:10:35 → 00:10:38 ที่จะสัมผัสกับเชื้อคเลือดออกอีกครั้งนึง
00:10:38 → 00:10:40 ถูกยุงกัดอีกครั้งนึงก็อาจจะพิจารณา
00:10:40 → 00:10:42 เรื่องการฉีดวัคซีนได้ครับครับถ้าสงสัย
00:10:42 → 00:10:46 ว่ามีอาการไข้หรือว่าปวดไม่ตามตัวหรือว่า
00:10:46 → 00:10:48 ปวดศีรษะพวกนี้หรือว่ามีความกังวลเรื่อง
00:10:48 → 00:10:50 ไข้เลือดออกนะครับสามารถที่จะมาปรึกษา
00:10:50 → 00:10:52 แพทย์ได้ที่แอปพลิเคชันหมอดีได้ตลอด 24
00:10:52 → 00:10:56 ชั่วโมงเลยนะครับขอบคุณนะคะสำหรับการรับ
00:10:56 → 00:10:59 ชมรายการ TNN Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด
00:10:59 → 00:11:02 Subscribe กดไลคกดแชร์ในทุกช่องทาง
00:11:02 → 00:11:06 ออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่
00:11:06 → 00:11:09 พลาดการรับชมรายการสดคลิปวีดีโอที่น่าสน
00:11:09 → 00:11:12 ใจของทาง TNN นะ
00:11:12 → 00:11:16 คะกลับเข้าสู่