00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับตอนนี้ในช่องทางอินเทอร์เน็ตนะ
00:00:02 → 00:00:05 ครับก็มีการแชร์คลิปของหมอท่านหนึ่งซึ่ง
00:00:05 → 00:00:07 มีอายุพอสมควรนะครับเป็นถึงศาสราจารย์ดร.
00:00:08 → 00:00:10 นายแพทย์นะครับแล้วในคลิปนั้นเนี่ยก็มี
00:00:10 → 00:00:13 การบอกว่าอย่าไปฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เลย
00:00:13 → 00:00:16 เพราะว่ามันสามารถทำให้เกิดหลอดเลือดใน
00:00:16 → 00:00:19 สมองอุดตันจากลิ่มเลือดได้นะครับเรื่อง
00:00:19 → 00:00:21 นี้เนี่ยมันมีที่มาที่ไปอย่างไรนะครับวัน
00:00:21 → 00:00:24 นี้ผมจะหยิบยกมาเล่าให้ทุกคนฟังแต่ต้องขอ
00:00:24 → 00:00:26 บอกไว้ชัดๆเลยนะครับว่าวัคซีนค่าวัดใหญ่
00:00:26 → 00:00:29 เนี่ยปลอดภัยแล้วก็มีประสิทธิภาพสูงเลยที
00:00:29 → 00:00:31 เดียวในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนจากโรค
00:00:31 → 00:00:34 ประจำตัวต่างๆแล้วเดี๋ยววันนี้เราจะลงราย
00:00:34 → 00:00:36 ละเอียดกันนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:00:36 → 00:00:38 ธนีธนียยววัเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:38 → 00:00:40 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:40 → 00:00:43 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับต้องขอบอก
00:00:43 → 00:00:46 ไว้ก่อนนะครับว่าคลิปวีดีโอตัวนี้เนี่ยผม
00:00:46 → 00:00:48 ไม่สามารถนำมาให้ทุกท่านดูได้เนื่องจาก
00:00:48 → 00:00:51 ว่ามันมีปัญหาทางด้านกฎหมายแน่ๆนะครับแต่
00:00:51 → 00:00:53 ผมคิดว่ามันหาไม่ยากหรอกครับแล้วเผลอๆ
00:00:53 → 00:00:56 หลายท่านเนี่ยจะเห็นคลิปนี้มาแล้วเพราะ
00:00:56 → 00:00:59 ว่ามีคนส่งมาให้ดูแล้วก็คงจะกังวลใจว่า
00:00:59 → 00:01:01 มันเป็นยังไงนะครับผมต้องขอเริ่มอย่างนี้
00:01:01 → 00:01:04 ก่อนว่าศาสดราจารย์ดร.นายแพทย์ท่านนี้
00:01:04 → 00:01:08 เนี่ยเป็นใครนะครับต้องขอแจ้งให้ชัดเจนนะ
00:01:08 → 00:01:11 ครับว่านายแพทย์ท่านนี้ไม่ได้จบแพทย์ที่
00:01:11 → 00:01:13 ประเทศไทยนะครับดังนั้นถ้าเอาชื่อไปค้น
00:01:14 → 00:01:16 แพทยสภาเนี่ยก็จะไม่เจอแต่ถ้าไปค้นที่
00:01:16 → 00:01:19 ประเทศญี่ปุ่นก็จะเจอชื่อว่าเค้าเนี่ยจบ
00:01:19 → 00:01:22 แพทย์ที่ประเทศญี่ปุ่นนะครับสมัยก่อนเท่า
00:01:22 → 00:01:24 ที่ผมไปหาประวัติมาเนี่ยเา้าเป็นเด็กที่
00:01:24 → 00:01:26 เรียนเก่งนะครับแล้วก็ได้ทุนไปเรียนที่
00:01:26 → 00:01:28 ประเทศญี่ปุ่นจบแพทย์ศาสตร์ที่ญี่ปุ่น
00:01:28 → 00:01:30 หลังจากนั้นก็ทำงานเป็นอาจารย์อยู่ที่
00:01:30 → 00:01:33 นั่นสักพักนึงนะครับแต่เท่าที่ผมไปตรวจ
00:01:33 → 00:01:36 ตรวจสอบเว็บไซต์ของทางญี่ปุ่นเนี่ยก็ไม่
00:01:36 → 00:01:39 ได้เจอว่าท่านเนี่ยจบเฉพาะทางด้านไหนนะ
00:01:39 → 00:01:41 ครับถ้าเกิดว่าใครที่อ่านภาษาญี่ปุ่นเป็น
00:01:41 → 00:01:43 ก็ลองไปค้นดูนะครับเผื่อว่าจะได้ข้อมูล
00:01:43 → 00:01:45 เพิ่มมากกว่าที่ผมไปค้นเพราะว่าของผม
00:01:45 → 00:01:48 เนี่ยผมใช้ AI ในการแปลภาษาญี่ปุ่นเป็น
00:01:48 → 00:01:50 ภาษาอังกฤษกับภาษาไทยเพื่อที่จะดูว่ามัน
00:01:50 → 00:01:52 มีแหล่งข้อมูลอะไรที่บ่งบอกถึงวุฒการ
00:01:52 → 00:01:55 ศึกษาของหมอท่านนี้หรือไม่นะครับส่วน
00:01:55 → 00:01:58 ดอกเตเนี่ยท่านก็เป็น PhD นะครับแต่ว่าผม
00:01:58 → 00:02:00 ก็หาไม่เจอเหมือนกันว่า PhD ด้านไหนที่
00:02:00 → 00:02:03 ท่านเรียนนะครับแล้วก็จบจากที่ไหนตรงนี้
00:02:03 → 00:02:05 หาข้อข้อมูลไม่เจอจริงๆนะครับแล้วก็
00:02:05 → 00:02:07 ตำแหน่งศาสราจารย์อันนี้ผมก็ไม่ทราบ
00:02:07 → 00:02:09 เหมือนกันนะครับว่าได้จากที่ไหนมานะครับ
00:02:09 → 00:02:12 ก็ต้องลองไปค้นเหมือนกันเพราะว่า 2 อย่าง
00:02:12 → 00:02:14 เนี้ยทั้งดอกเตอร์แล้วก็ศาสราจารย์ผมหา
00:02:14 → 00:02:16 ไม่เจอจริงๆว่าได้จากไหนแล้วใครเป็นคนให้
00:02:16 → 00:02:19 ตำแหน่งนะครับท่านเนี่ยเคยมาทำงานแล้วก็
00:02:19 → 00:02:22 ได้รางวัลที่มหิดลอยู่ปีนึงนะครับครั้ง
00:02:22 → 00:02:26 หนึ่งนะทำให้คนเนี่ยมีความเชื่อถือเป็น
00:02:26 → 00:02:29 อย่างมากแล้วหลังจากจบออกมาแล้วนะครับก็
00:02:29 → 00:02:33 ย้ายออกมาทำเป็นการรักษาส่วนตัวแล้วก็
00:02:33 → 00:02:36 เป็นคนที่เชื่อเรื่องของน้ำเหลืองมากนะ
00:02:36 → 00:02:39 ครับการรักษาทำให้น้ำเหลืองดีแล้วก็จะทำ
00:02:39 → 00:02:42 ให้โรคต่างๆมันไม่มีแล้วก็มีการกล่าวว่า
00:02:42 → 00:02:45 ตัวเองเนี่ยเป็นบุผู้บุกเบิกวิธีในการ
00:02:45 → 00:02:47 รักษาเกี่ยวข้องกับการน้ำเหลืองคนแรกของ
00:02:47 → 00:02:49 โลกเลยทีเดียวนะครับซึ่งทั้งหมดเนี่ยต้อง
00:02:49 → 00:02:52 บอกว่ามันมีหลายอย่างที่น่าสงสัยนะครับ
00:02:52 → 00:02:54 ถ้าใครที่ไปค้นข้อมูลจริงๆก็จะเจอข้อ
00:02:54 → 00:02:57 สงสัยอย่างเยอะเลยทีเดียวอ่ะเรามาเริ่ม
00:02:57 → 00:02:59 กันเลยดีกว่าว่าในคลิปวีดีโอของหมอท่าน
00:02:59 → 00:03:02 นี้เนี่ยเค้ากล่าวอะไรไว้บ้างนะครับเค้าเ
00:03:02 → 00:03:07 เนี่ยบอกว่าในปี 1984 ญี่ปุ่นได้มีการฉีด
00:03:07 → 00:03:10 วัคซีนไข้หวัดใหญ่เพื่อป้องกันการเกิด
00:03:10 → 00:03:12 ภาวะแทรกซ้อนเวลาที่เราติดไข้วัดใหญ่โดย
00:03:12 → 00:03:14 เฉพาะในเด็กแล้วก็คนสูงอายุนะครับแต่เขา
00:03:15 → 00:03:17 บอกว่าหลังจากฉีดไปแล้วเนี่ยมันก็เริ่มมี
00:03:18 → 00:03:21 การรายงานของโรคหลอดเลือดสมองและเขายกตัว
00:03:21 → 00:03:25 อย่าง 2 เคสซึ่งเป็นเคสเด็กครับเด็ก 2 คน
00:03:25 → 00:03:28 นี้เนี่ยหลังจากฉีดวัคซีนไปสักพักนึง
00:03:28 → 00:03:32 เนี่ยก็รู้สึกเหมือนมีปัญหาทางด้านจิต
00:03:32 → 00:03:36 แล้วก็นำไปสู่การจบชีวิตตัวเองนะครับสืบ
00:03:36 → 00:03:38 แล้วก็ไม่เจอว่าเด็ก 2 คนนี้มีปัญหาอะไร
00:03:38 → 00:03:42 มาก่อนนะครับเป็นเด็กที่เรียนดีนะฮะแล้ว
00:03:42 → 00:03:44 อย่างเดียวที่เขาเจอก็คือเรื่องของวัคซีน
00:03:44 → 00:03:47 ดังนั้นหมอท่านนี้เขาก็เลยบอกว่ามันอาจจะ
00:03:47 → 00:03:48 เกี่ยวข้องกับวัคซีนตัวนี้นี่แหละก็ยืน
00:03:48 → 00:03:52 ยันไปเลยแล้วก็บอกว่าทางญี่ปุ่นเนี่ยก็
00:03:52 → 00:03:55 ได้มีการออกมากล่าวขอโทษนะครับโดยนายกคน
00:03:55 → 00:03:59 นึงชื่ออิ่คันนาโอโตะนะครับซึ่งต้องบอก
00:03:59 → 00:04:02 ว่าจริงๆเนี่ยอ่าอ่าญี่ปุ่นมีการฉีด
00:04:02 → 00:04:04 วัคซีนไข้วัดใหญ่มานานแล้วจริงๆนะครับใน
00:04:05 → 00:04:07 ปี 1980 เท่าที่ผมลองค้นดูเนี่ยก็มีการ
00:04:08 → 00:04:10 ฉีดบ้างแต่ฉีดมากน้อยแค่ไหนเนี่ยหาข้อมูล
00:04:10 → 00:04:12 ไม่ได้ครับแต่ว่ามีแล้วตั้งแต่ตอนนั้นนะ
00:04:12 → 00:04:15 ครับอย่างไรก็ตามครับคันนาโอโตะไม่ได้
00:04:15 → 00:04:17 เป็นนายกในช่วงนั้นครับคันนาโอโตะเนี่ย
00:04:17 → 00:04:21 เป็นนายกในปี 2010-211 ครับก่อนหน้านั้น
00:04:21 → 00:04:24 ไม่ได้เป็นอะไรนะครับแล้วปี 1984 ท่านก็
00:04:24 → 00:04:26 ไม่ได้ออกมาขอโทษอะไรในตอนนั้นนะครับดัง
00:04:26 → 00:04:29 นั้นเนี่ยจะเห็นว่าหมอท่านนี้เนี่ยคือเอา
00:04:29 → 00:04:31 ข้อมูล 2 อย่างมารวมกันโดยที่ฟังแล้วดู
00:04:31 → 00:04:34 น่าเชื่อถือแต่มันไม่ใช่อ่ะครับนะมันไม่
00:04:34 → 00:04:37 ใช่เลยตั้งแต่แรกนะครับและอีกอย่างหนึ่ง
00:04:37 → 00:04:42 นะครับการที่เราจะบอกว่าเด็ก 2 คนนี้จบ
00:04:42 → 00:04:45 ชีวิตตัวเองลงเพราะอะไร
00:04:45 → 00:04:48 ถ้าเกิดคุณหาสาเหตุไม่ได้แล้วคุณไปโยนให้
00:04:48 → 00:04:50 กับวัคซีนที่เคยฉีดมาก่อนหน้านั้นนะครับ
00:04:50 → 00:04:53 อันเนี้ยเราเรียกว่าผู้ที่มีสมองทางด้าน
00:04:53 → 00:04:57 วิทยาศาสตร์ไม่ครบถ้วนครับนะโดยทั่วไปนะ
00:04:57 → 00:05:00 ครับเวลาที่เราจะหาว่าสิ่งหนึ่งทำให้เกิด
00:05:00 → 00:05:03 ผลอย่างหนึ่งหรือไม่เราจำเป็นจะต้องมีการ
00:05:03 → 00:05:06 ศึกษาที่ชัดเจนจำนวนตัวอย่างเนี่ยแค่ 2
00:05:06 → 00:05:08 ตัวอย่างก็ไม่ได้แล้วครับแล้วอีกอย่างนึง
00:05:09 → 00:05:12 ถ้าเราบอกว่าวัคซีนส่งผลทำให้ 2 คนนี้จบ
00:05:12 → 00:05:15 ชีวิตตัวเองลงมันก็เปรียบเสมือนกับผมบอก
00:05:15 → 00:05:18 ว่าวันเนี้ยผมเปิดกลอนประตูด้วยมือข้าง
00:05:18 → 00:05:22 ขวาผมจึงไม่สามารถที่จะได้งานที่ต้องการ
00:05:22 → 00:05:26 ได้หรือผมก้าวเท้าซ้ายออกจากบ้านก่อนใน
00:05:26 → 00:05:29 วันนี้ดังนั้นวันนี้ฝนมันเลยตกนะครับ
00:05:29 → 00:05:32 อันเนี้ยเนี่ยก็เป็นสิ่งที่มันใช้ไม่ได้
00:05:32 → 00:05:34 ในเชิงวิทยาศาสตร์นะครับแล้วผมก็รู้สึก
00:05:34 → 00:05:37 เป็นกังวลอย่างนึงว่าระดับคนที่เรียนเก่ง
00:05:37 → 00:05:41 ขนาดนี้นะครับเป็นนายแพทย์เป็นศาสราจารย์
00:05:41 → 00:05:43 จริงๆเป็นดอกเตอร์สมมุติถ้าทั้งหมดเป็น
00:05:43 → 00:05:47 ความจริงนะครับแล้วมีความคิดได้แค่นี้อัน
00:05:47 → 00:05:49 นี้ผมรู้สึกว่าเป็นห่วงเพราะว่าตรรกะใน
00:05:49 → 00:05:53 การพิจารณาข้อมูลเนี่ยหายไปหมดแล้วนะครับ
00:05:53 → 00:05:55 หายไปเกลี้ยงเลยนะครับเรื่องนี้ไม่สามารถ
00:05:55 → 00:05:58 ที่จะเป็นเช่นนั้นได้นะครับต้องบอก
00:05:58 → 00:06:01 อย่างี้ครับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เนี่ยมันมี
00:06:01 → 00:06:04 ความปลอดภัยค่อนข้างที่จะสูงเลยทีเดียวนะ
00:06:04 → 00:06:06 ครับโดย
00:06:06 → 00:06:08 เวลาที่เราฉีดเนี่ยผลข้างเคียงที่เจอนะ
00:06:08 → 00:06:10 ครับก็จะมีอาการปวดตรงบริเวณที่ฉีดนะครับ
00:06:10 → 00:06:13 อาจจะมีไข้ได้บางคนก็มีกรดไหลย้อนมีอาการ
00:06:13 → 00:06:15 เพลียได้ซึ่งมันก็จะหายของมันเองคุณไม่
00:06:15 → 00:06:18 ต้องทำอะไรนะครับอย่างไรก็ตามครับถามว่า
00:06:18 → 00:06:22 ผลข้างเคียงที่รุนแรงมีมั้ยมีครับแต่น้อย
00:06:22 → 00:06:24 มากแทบจะเรียกได้เลยว่า 1 ในล้านอะไร
00:06:24 → 00:06:27 อย่างี้ก็ได้นะครับยกตัวอย่างเช่นอาจจะมี
00:06:27 → 00:06:29 การเกิดการแพ้ที่รุนแรงที่เราเรียกว่า
00:06:29 → 00:06:31 anfalaxis ซึ่งมันจะต้องเกิดอาการภายใน
00:06:31 → 00:06:34 เวลา 24 ชมงหลังจากที่เราฉีดเข้าไปนะครับ
00:06:34 → 00:06:37 โดยมันจะมีอาจจะมีผื่นขึ้นตามตัวนะครับ
00:06:37 → 00:06:39 หน้าบวมหายใจไม่ออกความดันตกอย่างนี้นะ
00:06:39 → 00:06:41 ครับอันนี้คืออาการแพ้รุนแรงแล้วก็ถ้า
00:06:41 → 00:06:44 เป็นแบบนี้เนี่ยจะรับวัคซีนชนิดนี้ซ้ำอีก
00:06:44 → 00:06:46 ไม่ได้นะครับเพราะว่าอาจจะเสียชีวิตได้นะ
00:06:46 → 00:06:49 ครับแต่โอกาสเกิดก็น้อยมากเช่นกันนะฮะต่อ
00:06:49 → 00:06:51 มาอาจจะมีผลทางระบบประสาทที่เราเรียกว่า
00:06:51 → 00:06:54 กี Bary Syndrome นะครับภาวะเนี่ยก็จะมี
00:06:54 → 00:06:57 การเกิดกรัมพาตขึ้นนะครับแต่ก็เจอน้อยมาก
00:06:57 → 00:07:00 เหมือนกันนะฮะงั้นถามถามว่าภาวะที่เป็น
00:07:00 → 00:07:02 ภาวะแทรกซ้อนจริงๆที่แบบรุนแรงมีมยมีแต่
00:07:03 → 00:07:05 โอกาสเจอน้อยมากนะครับส่วนใหญ่ผลข้าง
00:07:05 → 00:07:07 เคียงที่เราเจอเกือบร้อยทั้งรอยเนี่ยนะ
00:07:07 → 00:07:10 ครับก็จะเป็นอาการปวดบวมแล้วก็อาจจะมีไข้
00:07:10 → 00:07:14 ตรงตอนที่เราฉีดเสร็จใหม่ๆนะครับและผล
00:07:14 → 00:07:16 ประโยชน์ของมันที่จะได้คืออะไรนะครับต้อง
00:07:16 → 00:07:18 บอกอย่างี้ครับวัคซีนไข้หวัดใหญ่เนี่ยไม่
00:07:18 → 00:07:21 ได้มีเพื่อป้องกันไม่ให้ท่านติดไข้หวัด
00:07:21 → 00:07:24 ใหญ่นะแต่มันมีไว้กรณีที่สมมุติว่าติด
00:07:24 → 00:07:27 ขึ้นมาแล้วเนี่ยอาการมันอาจจะรุนแรงได้
00:07:27 → 00:07:29 แต่ถ้าเราได้รับการฉีดวัคซีนไว้อาการก็จะ
00:07:29 → 00:07:33 ไม่รุนแรงหลายคนอาจจะพอจำเคสไข้วัดใหญ่ใน
00:07:33 → 00:07:35 น้องคนนึงที่ผมเอามาเล่าให้ฟังได้นะครับ
00:07:35 → 00:07:38 เพราะมีน้องคนนึงในประเทศไทยนี่แหละเค้า
00:07:38 → 00:07:39 ไปติดไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ A แล้วมันขึ้น
00:07:39 → 00:07:43 สมองครับขึ้นสมองถ้าน้องเาได้รับการฉีด
00:07:43 → 00:07:46 วัคซีนไข้หวัดใหญ่ไปนะครับเขาก็จะไม่มี
00:07:46 → 00:07:50 ปัญหานั้นนะครับมันจะไม่ขึ้นสมองนะและยัง
00:07:50 → 00:07:52 มีงานวิจัยรับรองเรื่องของวัคซีนแค่วัด
00:07:52 → 00:07:55 ใหญ่ไว้อีกเยอะแยะไปหมดว่ามันสามารถป้อง
00:07:55 → 00:07:59 กันโรคหลอดเลือดในสมองได้มันไม่ได้ทำให้
00:07:59 → 00:08:01 เป็นอย่างที่หมอท่านนี้เค้าบอกนะครับแต่
00:08:01 → 00:08:03 มันป้องกันได้นะครับป้องกันโรคหลอดเลือด
00:08:03 → 00:08:07 สมองป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจป้องกันโรค
00:08:07 → 00:08:11 ปอดกำเริบได้ครับนะดังนั้นทั้งหมดเนี้ย
00:08:12 → 00:08:15 มันไม่ได้เอาไว้ป้องกันการติดเชื้อไข้
00:08:15 → 00:08:17 หวัดใหญ่แต่มันเอาไว้ป้องกันการเกิดอาการ
00:08:17 → 00:08:20 หนักจากไข้หวัดใหญ่นะครับและป้องกันการ
00:08:20 → 00:08:23 ที่โรคประจำตัวของแต่ละคนจะเกิดการกับ
00:08:23 → 00:08:25 ฤิกษขึ้นมาได้ดังนั้นคนที่มีความเสี่ยง
00:08:25 → 00:08:28 เช่นคนที่ภูมิต้านทานต่ำในเด็กในคนอายุ
00:08:28 → 00:08:31 เยอะในคนท้องนะครับการฉีดวัคซีนเนี่ยก็จะ
00:08:31 → 00:08:34 ช่วยท่านได้เยอะและในคนที่มีความเสี่ยง
00:08:34 → 00:08:36 ทางด้านของโรคประจำตัวเช่นเรามีโรคอ้วนมี
00:08:36 → 00:08:39 โรคไตเรื้อรังโรคหัวใจโรคสมองโรคอะไร
00:08:39 → 00:08:41 อย่างเงี้ยเรื้อรังทั้งหลายแหละการฉีด
00:08:41 → 00:08:43 วัคซีนไข้หวัดใหญ่ก็จะสามารถป้องกันไม่
00:08:43 → 00:08:46 ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากตัวไข้หวัดใหญ่เอง
00:08:46 → 00:08:48 และก็จะไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนจากตัวโรค
00:08:49 → 00:08:51 ที่เขาเป็นอยู่เองได้ตรงเนี้ยข้อมูลชัด
00:08:51 → 00:08:53 เจนมากแล้วก็มีเยอะเสียด้วยนะครับดังนั้น
00:08:53 → 00:08:56 เนี่ยต้องบอกว่าตรงนี้ทางญี่ปุ่นนะครับ
00:08:56 → 00:08:59 เขาก็ยังมีการแนะนำให้ฉีดวัคซีนไข้หวัด
00:08:59 → 00:09:02 ใหญ่อยู่ดีจนปัจจุบันนี้นะครับไม่ได้ให้
00:09:02 → 00:09:05 เลิกฉีดไปแต่อย่างใดแล้วตอนนั้นนะครับที่
00:09:05 → 00:09:08 มีข่าวออกมาบอกว่าเอ่อทางคุณหมอท่านเนี้ย
00:09:08 → 00:09:11 ศาสราจารย์ดร.นายแพทนี้เบอกว่าหลังจากที่
00:09:11 → 00:09:14 เด็ก 2 คนนั้นเนี่ยจบชีวิตตัวเองลงนะครับ
00:09:14 → 00:09:18 คุณคันนาโอโตะเนี่ยนะครับก็ออกมาขอโทษนะ
00:09:18 → 00:09:21 ครับแล้วก็จะรับผิดชอบเรื่องของค่าใช้
00:09:21 → 00:09:23 จ่ายเรื่องของผลข้างเคียงต้องบอกว่าไม่
00:09:23 → 00:09:27 ใช่ครับคุณคานโตะเนี่ยไม่ได้ไม่ได้ออกมา
00:09:27 → 00:09:30 ขอโทษอะไรในปี 1984 ครับท่านเป็นนายกตอน
00:09:30 → 00:09:33 ประมาณปี 2010-211 คนละอย่างกันเลยครับ
00:09:33 → 00:09:35 แล้วก็ไม่ได้ขอโทษเรื่องนี้ด้วยนะครับ
00:09:35 → 00:09:39 สิ่งที่ขอโทษคือมีในปี 2013 จะมีเรื่อง
00:09:39 → 00:09:42 ของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกครับตอน
00:09:42 → 00:09:44 นั้นเนี่ยมีคนฉีดไปแล้วแล้วก็เกิดผลข้าง
00:09:44 → 00:09:47 เคียงเขาก็เลยออกมาขอโทษแล้วก็ยกเลิกการ
00:09:47 → 00:09:50 แนะนำเรื่องของวัคซีนป้องกันมะเร็งปากม
00:09:50 → 00:09:54 ลูกไปแต่ปรากฏว่าเค้ายกเลิกไปในตอนนั้นใน
00:09:54 → 00:10:00 กรณีที่เอ่อมีการทำแบบนั้นเพื่อศึกษาดูซิ
00:10:00 → 00:10:02 ว่าตกลงแล้วผลข้างเคียงที่เป็นเนี่ยมัน
00:10:03 → 00:10:05 เป็นจากไอ้วัคซีนนี้หรือเปล่าแล้วรู้อะไร
00:10:05 → 00:10:09 มั้ยครับต่อมามันไม่ได้เป็นจากวัคซีนครับ
00:10:09 → 00:10:12 มันไม่ได้เป็นจากวัคซีนทางญี่ปุ่นนะครับ
00:10:12 → 00:10:15 หลังจากที่ยกเลิกคำแนะนำในการฉีดวัคซีน
00:10:15 → 00:10:20 ป้องกันมะเร็งปากมดลูกไปในปี 2013 ผ่านมา
00:10:20 → 00:10:25 อีก 9 ปีในปี 2022 ข้อมูลมันก็ชัดเจนมาก
00:10:25 → 00:10:28 แล้วว่าวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกนั้น
00:10:28 → 00:10:30 ไม่ได้มีปัญหาอะไรครับในปี 2022 ทาง
00:10:30 → 00:10:33 ญี่ปุ่นจึงกลับมาแนะนำให้ฉีดวัคซีนป้อง
00:10:33 → 00:10:37 กันมะเร็งปากมดลูกใหม่อีกครั้งนึงครับอ่า
00:10:37 → 00:10:39 ตรงเนี่ยหลายคนจะไม่รู้ใช่มั้ครับเขาจะ
00:10:39 → 00:10:43 คิดว่าเฮ้ยญี่ปุ่นเนี่ยเค้ายกเลิกการแนะ
00:10:43 → 00:10:45 นำวัคซีนมะเร็งปากมดลูกไปตอนนั้นแล้วก็ไป
00:10:45 → 00:10:47 บวกกับบริษัทเมิคโดนฟ้องอะไรอย่างเงี้ยนะ
00:10:47 → 00:10:49 ครับซึ่งจริงๆอ่ะต้องบอกว่าถ้าตามเรื่อง
00:10:49 → 00:10:52 ทั้งหมดจริงๆก็จะเจอว่าวัคซีนมะเร็งปากมด
00:10:52 → 00:10:55 ลูกไม่มีปัญหาอะไรครับนะสามารถฉีดได้แล้ว
00:10:55 → 00:10:58 มันก็ดีด้วยแล้วที่สำคัญครับทางญี่ปุ่น
00:10:58 → 00:11:01 ได้มีการประมาณการความเสียหายจากการที่
00:11:01 → 00:11:03 ไม่ได้ฉีดวัคซีนในช่วง 9 ปีนั้นคืออะไร
00:11:03 → 00:11:05 รู้มั้ครับ
00:11:05 → 00:11:08 ชาวญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะเกิดมะเร็งปากบน
00:11:08 → 00:11:11 ลูกเพิ่มขึ้นมาอีก 5,000 เคสที่จะต้อง
00:11:11 → 00:11:14 เสียชีวิตเพราะว่าไม่ได้มีการฉีดวัคซีน
00:11:14 → 00:11:17 มะเร็งปากรูปตอนนั้นนั่นแหละครับตอนเนี้ย
00:11:17 → 00:11:20 ทางญี่ปุ่นเขาก็เลยมีการต้องคุยกันภายใน
00:11:20 → 00:11:23 แล้วว่าต่อไปถ้าเกิดว่าเราจะยกเลิกการแนะ
00:11:23 → 00:11:25 นำอะไรสักอย่างเนี่ยอาจจะต้องศึกษาผลให้
00:11:25 → 00:11:29 ดีกว่านั้นเพราะว่าเนี่ยยกเลิกเร็วเกินไป
00:11:29 → 00:11:31 แล้วกว่าจะกลับมาใช้ได้อีกตั้ง 9 ปีใน
00:11:31 → 00:11:34 ช่วง 9 ปีคนไม่ได้ฉีดวัคซีนไปอีกเยอะ
00:11:34 → 00:11:37 โอกาสที่ผู้หญิงชาวญี่ปุ่นจะเสียชีวิตจาก
00:11:37 → 00:11:38 มะเร็งป่ามนลูกเนี่ยเพิ่มขึ้นอีกตั้ง
00:11:39 → 00:11:42 5,000 เคสนะครับอันนี้ก็เป็นสิ่งที่น่า
00:11:42 → 00:11:44 กลัวนะครับแล้วอีกอย่างนึงหมอท่านเนี้ย
00:11:44 → 00:11:47 ศาสราจารย์ดร.นายแพทย์ก็จับเอา 2 เหตุ
00:11:47 → 00:11:50 การณ์มารวมกันเฉยเลยบอกว่าคุณคันนาโวโตะ
00:11:50 → 00:11:54 ซึ่งตอนนั้นเนี่ยไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับ
00:11:54 → 00:11:57 การมาขอโทษในปี 1984 ที่เริ่มฉีดวัคซีน
00:11:57 → 00:11:59 ไข้หวัดใหญ่นะแล้วเด็ก 2 คนนั้นที่เสีย
00:11:59 → 00:12:02 ชีวิตก็ไม่เกี่ยวอะไรกับคานาวโตะไม่
00:12:02 → 00:12:05 เกี่ยวกับรัฐบาลแล้วเอาจับแพะชนแกะออกมา
00:12:05 → 00:12:08 แล้วขอโทษได้ยังไงอันนี้คือผมก็ยังงงนะ
00:12:08 → 00:12:11 ครับแต่แน่นอนครับมันไม่มีใครไปหาข้อมูล
00:12:11 → 00:12:14 เชิงลึกแบบนี้หรอกครับยกเว้นถ้าท่านมี
00:12:14 → 00:12:17 ความสงสัยอย่างผมก็จะเข้าไปหาแล้วก็จะ
00:12:17 → 00:12:19 ประติดประต่อเรื่องได้ว่าเอ๊ะนี่เค้าเอา
00:12:19 → 00:12:21 เรื่องนั้นมาชนเรื่องนี้จนมันมั่วไปหมด
00:12:21 → 00:12:24 ซึ่งไม่ถูกต้องนะครับอ่าไม่ถูกต้องเลยที
00:12:24 → 00:12:27 เดียวแต่ก็ไม่ใช่แค่นั้นครับที่หมอท่าน
00:12:27 → 00:12:30 นี้เค้าพูดไว้นะครับอ่างั้นตอนนี้เรารู้
00:12:30 → 00:12:33 แล้วนะครับญี่ปุ่นยังแนะนำให้ฉีดวัคซีน
00:12:33 → 00:12:36 ไข้หวัดดใหญ่อยู่จนปัจจุบันนี้เด็ก 2 คน
00:12:36 → 00:12:39 นั้นที่มีการเสียชีวิตก่อนวัยอังควนนะ
00:12:39 → 00:12:42 ครับที่จบชีวิตตัวเองจะไปโทษวัคซีนไม่ได้
00:12:42 → 00:12:44 มันมีเหตุผลอีกตั้งหลายอย่างแล้วคุณก็รู้
00:12:44 → 00:12:46 ว่าญี่ปุ่นเนี่ยเป็นประเทศที่จบชีวิตตัว
00:12:46 → 00:12:48 เองสูงมากๆเป็นอันดับต้นของโลกนะครับ
00:12:48 → 00:12:51 เพราะอะไรรู้มั้ยฮะเพราะความเครียดและ
00:12:51 → 00:12:53 วัฒนธรรมของเขาไงครับเรื่องนี้เป็นเรื่อง
00:12:53 → 00:12:57 ที่รู้กันชัดเจนอยู่แล้วคนที่ดูปกติและจบ
00:12:57 → 00:12:59 ชีวิตตัวเองในประเทศญี่ปุ่นมันอาจจะไม่
00:12:59 → 00:13:02 ปกติในประเทศคนอื่นก็ได้ถ้าเรามาดูจริงๆ
00:13:02 → 00:13:05 หลายครั้งมันมีความเครียดที่สะสมอยู่ใน
00:13:05 → 00:13:08 วัฒนธรรมของเค้านะครับตรงนี้ถ้าใครไม่รู้
00:13:08 → 00:13:11 เนี่ยผมว่าแปลกแล้วแหละอาจจะเป็นคนที่ไม่
00:13:11 → 00:13:13 ได้ติดตามข่าวสารอะไรของประเทศญี่ปุ่นเลย
00:13:13 → 00:13:15 ด้วยซ้ำถึงไม่รู้ว่าวัฒนธรรมของญี่ปุ่น
00:13:15 → 00:13:19 มันเคร่งเครียดขนาดไหนจึงทำให้มีการจบ
00:13:19 → 00:13:21 ชีวิตตัวเองสูงกว่าประเทศอื่นอีกหลาย
00:13:21 → 00:13:25 ประเทศนะครับนะฮะดังนั้นการที่ 2 คนนี้มา
00:13:25 → 00:13:29 บอกว่าเอ้ยจบชีวิตตัวเองเพราะว่าวัคซีน
00:13:29 → 00:13:30 เนื่องจากมันไม่มีปัญหาอะไรมาก่อนไอ้นี่
00:13:31 → 00:13:35 ก็ไม่ใช่แล้วครับผิดเยอะเลยหมอคนนี้เนี่ย
00:13:35 → 00:13:38 เค้ายังบอกเพิ่มเติมอีกนะครับว่าเห็นมั้ย
00:13:38 → 00:13:41 ว่าในช่วงโควิดเนี่ยในช่วงโควิดมีการฉีด
00:13:41 → 00:13:43 วัคซีนโควิดเยอะแยะไปหมดเลยก็เลยทำให้มี
00:13:43 → 00:13:46 คนเกิดโรคหลอดเลือดสมองเยอะแยะเต็มไปหมด
00:13:46 → 00:13:50 เลยครับอันนี้ก็ไม่จริงถามว่าทำไมไม่จริง
00:13:50 → 00:13:55 นะครับผมจะยกตัวอย่างเคสแรกในโลกเอ่อจริง
00:13:55 → 00:13:58 ๆเคสแรกในโรงพยาบาลที่ผมเคยทำงานคือที่
00:13:58 → 00:14:00 Breckham and Women Hospital เป็นเคส
00:14:00 → 00:14:03 โควิดครั้งแรกที่เราเจอเคสนั้นเนี่ยเป็น
00:14:03 → 00:14:06 เคสที่ไม่มีอาการทางเดินหายใจครับแต่มาหา
00:14:06 → 00:14:09 หมอด้วยโรคสokeกคือมีลิ่มเลือดไปอุดตันใน
00:14:09 → 00:14:12 สมองนะครับแล้วหมอเขาเข้าไปแล้วดึงเอา
00:14:12 → 00:14:14 ลิ่มเลือดออกมามันยาวยาวประมาณขนาดเนี้ย
00:14:14 → 00:14:17 ยาวมากเลยนะครับแล้วเขาก็สงสัยว่าทำไมมัน
00:14:17 → 00:14:19 ถึงเจอลิ่มเลือดได้ยาวขนาดนั้นก็ไปตรวจ
00:14:19 → 00:14:22 ปรากฏว่าคนเนี้ยเป็นโควิดแล้วตอนนั้นครับ
00:14:22 → 00:14:26 ยังไม่มีวัคซีนไม่มียารักษา
00:14:26 → 00:14:29 ไม่มีอะไรใดๆเลยดังนั้นจะมาโทษว่าเป็นจาก
00:14:29 → 00:14:31 วัคซีนเนี่ยไม่ได้แน่ๆมันเป็นจากตัวโควิด
00:14:31 → 00:14:34 ตรงๆนั่นแหละนะครับตอนนั้นก็ยังไม่ปักใจ
00:14:34 → 00:14:35 เชื่อว่าเกี่ยวอะไรกับโควิดอาจจะเป็นสิ่ง
00:14:35 → 00:14:38 ที่เจอโดยบังเอิญก็ได้มั้งอย่างไรก็ตาม
00:14:38 → 00:14:42 ครับมีการศึกษาต่อมาอีกเยอะแยะไปเจอว่า
00:14:42 → 00:14:45 โควิดน่ะมันทำให้เกิดโรคลิ่มเลือดในร่าง
00:14:45 → 00:14:48 กายได้เพิ่มมากขึ้นจนตรงเนี้ยชัดเจนแล้ว
00:14:48 → 00:14:50 ว่าตัวโควิดทำให้เกิดลิ้นเลือดในร่างกาย
00:14:50 → 00:14:54 ครับแต่วัคซีนโควิดไม่ได้ทำให้เกิดแบบ
00:14:54 → 00:14:57 นั้นเรามีข้อมูลชัดเจนอย่างเยอะแล้วนะ
00:14:57 → 00:15:00 ครับสำหรับคนที่ไม่เห็นด้วยกับวัคซีนเก็
00:15:00 → 00:15:04 คงจะรู้สึกเอ้ทำไมผมถึงเชียร์วัคซีนจะ
00:15:04 → 00:15:06 เหลือเกินนะครับหลักฐานของเขาก็มีเยอะแยะ
00:15:06 → 00:15:09 ผมเคยเอาหลักฐานที่กลุ่มที่เขา้าไม่เห็น
00:15:09 → 00:15:10 ด้วยกับวัคซีนน่ะมาอ่านให้ทุกคนฟังแล้ว
00:15:10 → 00:15:13 ว่าเค้าสรุปผิดยังไงหลักฐานมันไม่ถูกต้อง
00:15:13 → 00:15:16 ตรงไหนนะครับเพียงแต่คุณอาจจะรับไม่ได้ใน
00:15:16 → 00:15:18 ตรรกะที่ถูกต้องเท่านั้นเองคุณก็เลยไม่
00:15:18 → 00:15:19 เชื่อผมนะครับแต่ไม่เป็นไรนะครับเพราะว่า
00:15:20 → 00:15:22 แต่ละคนก็มีสิทธิ์จะเชื่อในสิ่งที่ตัวเอง
00:15:22 → 00:15:25 อยากจะเชื่อก็แล้วกันนะครับอ่ะนี่ก็คือ
00:15:25 → 00:15:27 เรื่องของโควิดวัคซีนซึ่งหมอท่านนี้เขาก็
00:15:27 → 00:15:30 พ่วงเรื่องนี้เข้าไปด้วยนะครับซึ่งก็ไม่
00:15:30 → 00:15:33 ถูกต้องนะครับอีกอย่างซึ่งอยากจะบอกนะ
00:15:33 → 00:15:35 ครับคือหมอท่านเนี้ยศาสราจารย์ดร.นาย
00:15:35 → 00:15:39 แพทย์ท่านเนี้ยเค้าก็บอกอีกว่าไข้หวัด
00:15:39 → 00:15:41 ใหญ่เนี่ยไม่ใช่โรคอันตรายถ้าดูแลตัวเอง
00:15:41 → 00:15:44 ดีเนี่ยมันก็ไม่เป็นหรอกหรือบอกว่าถ้าดู
00:15:44 → 00:15:45 แลตัวเองดีเนี่ยนะครับไข้หวัดใหญ่เดี๋มัน
00:15:46 → 00:15:49 ก็หายเองอ่าตรงนี้เนี่ยคือไม่ถูกหลาย
00:15:49 → 00:15:52 อย่างนะครับอย่างแรกนะครับไข้หวัดใหญ่
00:15:52 → 00:15:55 เนี่ยถามว่าดูแลตัวเองดีมันเป็นได้ไหมก็
00:15:55 → 00:15:58 ยังเป็นได้อยู่ดีคุณยังจำช่วงโควิดระบาด
00:15:58 → 00:16:01 ได้มั้ยถึงแม้ว่าคุณจะดูแลตัวเองดีเต็ม
00:16:01 → 00:16:03 ที่ยังไงล้างมือบ่อยๆรักษาระยะห่างใส่
00:16:03 → 00:16:06 หน้ากากแล้วเนี่ยเนี่ยบางทีคุณก็ยังติดมา
00:16:06 → 00:16:09 ได้อยู่ดีทั้งนี้คุณคิดว่าไม่ได้หละหลวม
00:16:09 → 00:16:12 อะไรนะครับเหตุผลที่มันเป็นเช่นนั้นก็
00:16:12 → 00:16:14 เพราะว่าเชื้อโลกพวกเนี้ยมันเป็นสิ่งที่
00:16:14 → 00:16:17 คุณมองไม่เห็นดังนั้นมันมีโอกาสที่จะเล็ด
00:16:17 → 00:16:21 รอดมาจนถึงคุณได้มันไม่ใช่แบบรถคันนึง
00:16:21 → 00:16:23 วิ่งมาแล้วเราเห็นโอ้รถวิ่งมาแต่ไกลเราจะ
00:16:23 → 00:16:26 หยุดเพื่อให้รถมันวิ่งผ่านไปก่อนเราจะไม่
00:16:26 → 00:16:28 ได้รถชนอันนั้นคือคุณมองเห็นไงครับคุณ
00:16:28 → 00:16:30 หลีกเลี่ยงมันได้แต่ไอ้เนี่ยเชื้อโรคพวก
00:16:30 → 00:16:32 นี้คุณมองไม่เห็นยังไงคุณก็หลีกเลี่ยงมัน
00:16:32 → 00:16:35 ไม่ได้และในกรณีที่หลีกไม่ได้และบังเอิญ
00:16:35 → 00:16:38 ติดเข้ามาถ้าเกิดคุณไม่มีวัคซีนอยู่ใน
00:16:38 → 00:16:40 ร่างกายที่ทำให้เกิดภูมิต้านทานต่อไท้
00:16:41 → 00:16:43 หวัดใหญ่เนี่ยคุณก็จะเกิดอาการรุนแรงขึ้น
00:16:43 → 00:16:47 มาได้นะครับแล้วถามว่าเมื่อกี้หมอ
00:16:47 → 00:16:48 ศาสราจารย์ดร.เมื่อนายแพทย์ท่านนี้ก็บอก
00:16:48 → 00:16:51 ว่าโควิดเนี่ยเออตัวไข้หวัดใหญ่เนี่ยมัน
00:16:51 → 00:16:54 ไม่อันตรายอันตรายครับก็ยกตัวอย่างเคสที่
00:16:54 → 00:16:58 ผมเคยเอามาวิเคราะหฟังน้องที่เค้าติดไข้
00:16:58 → 00:17:01 หวัดใหญ่เข้าไปเนี่ยไข้วัดใหญ่ขึ้นสมองนะ
00:17:01 → 00:17:03 ครับแล้วเป็นไข้หวัดใหญ่ก็เสียชีวิตกัน
00:17:03 → 00:17:07 หลายคนผมเคยดูเคสไข้หวัดใหญ่ใน ICU ก็มี
00:17:07 → 00:17:10 เสียชีวิตไปบ้างแล้วบางครั้งครับมันไม่
00:17:10 → 00:17:14 ใช่แค่ไข้หวัดใหญ่ที่เป็นปัญหาแต่มันมี
00:17:14 → 00:17:16 การติดเชื้ออย่างอื่นแทรกซ้อนโดยเฉพาะ
00:17:16 → 00:17:18 เชื้อแบคทีเรียนะครับไข้หวัดใหญ่เป็น
00:17:18 → 00:17:20 ไวรัสนะครับแล้วมันก็ติดเชื้อแบคทีเรีย
00:17:20 → 00:17:22 ได้เพราะว่าในช่วงที่เราติดไข้หวาดใหญ่
00:17:22 → 00:17:25 เนี่ยภูมิต้านทานของเราก็จะอ่อนแอลงนะ
00:17:25 → 00:17:27 ครับปอดของเรามันโดนทำลายไปได้ง่ายเชื้อ
00:17:27 → 00:17:29 โรคอื่นๆมันก็จะฉวยโอกาสช่วงเนี้ยยกตัว
00:17:29 → 00:17:33 อย่างเช่นเชื้อโรคสฟิโลคอกคัอียสเชื้อ
00:17:33 → 00:17:36 นวโมคอกคัสพวกนี้เป็นต้นนะครับซึ่งมันทำ
00:17:36 → 00:17:38 ให้ปอดอักเสบได้ 2 เด้งเลยเด้งแรกเนี่ย
00:17:38 → 00:17:41 เกิดจากแค่หวัดใหญ่เด้งที่ 2 เกิดจาก
00:17:41 → 00:17:44 เชื้อแบคทีเรียนะครับ
00:17:44 → 00:17:46 และอันนี้แหละครับเดี๋ยวเนี้ยเรามีวัคซีน
00:17:46 → 00:17:49 เพฟ 5 20 ซึ่งมันเป็นวัคซีนป้องกันปอด
00:17:49 → 00:17:52 อักเสบจากเชื้อนวโมคอกัส 20 สายพันธุ์นะ
00:17:52 → 00:17:54 ครับถ้าเราได้ฉีดตัวนี้เข้าไปด้วยเราก็จะ
00:17:54 → 00:17:57 ป้องกันได้อีกอย่างนึงก็คือคุณฉีดวัคซีน
00:17:57 → 00:17:59 ไข้หวัดใหญ่อ่ะป้องกันการเกิดอาการหนัก
00:17:59 → 00:18:02 จากไข้หวัดใหญ่ได้แต่ว่าคุณฉีดแพรบหน้า 20
00:18:02 → 00:18:04 ด้วยก็จะป้องกันการเกิดปอดอักเสบจากเชื้อ
00:18:05 → 00:18:07 นวโมคอกคัสได้ด้วยอีกเช่นกันนะครับดัง
00:18:07 → 00:18:09 นั้นจะเห็นว่าความสำคัญของวัคซีนมันมี
00:18:09 → 00:18:11 ขนาดนี้นะครับ
00:18:11 → 00:18:13 อีกอย่างนึงซึ่งเวลาคุณติดไข้วัดใหญ่แล้ว
00:18:13 → 00:18:15 มันจะเป็นนะครับคือโรคประจำตัวของคุณ
00:18:15 → 00:18:17 เนี่ยมันกำเริบ
00:18:17 → 00:18:19 ไม่ว่าจะเป็นโรคหัวใจโรคหลอดเลือดสมองเบา
00:18:19 → 00:18:22 หวานคุมไม่ได้นะครับโรคต่างๆมันจะมาหมดนะ
00:18:22 → 00:18:25 ครับโรคปอดที่คุณเป็นก็จะเกิดการอาการ
00:18:25 → 00:18:27 หนักขึ้นมาในตอนนั้นดังนั้นเนี่ยเวลาที่
00:18:28 → 00:18:29 เขาไปวิจัยเรื่องวัคซีนไข้หวัดใหญ่เขาจึง
00:18:29 → 00:18:32 เจอว่าคนเหล่าเนี้ยเวลาที่เขาฉีดวัคซีน
00:18:32 → 00:18:34 ไข้วัใหญ่ไปแล้วเนี่ยมันสามารถป้องกันไม่
00:18:34 → 00:18:38 ให้โรคประจำตัวของตัวเองมันเกิดการกำเริบ
00:18:38 → 00:18:41 ขึ้นมาได้นะครับตรงเนี้ยชัดเจนแล้วข้อมูล
00:18:41 → 00:18:43 มีออกมาตั้งนานแล้วแล้วก็มีออกมาเรื่อยๆ
00:18:43 → 00:18:46 ว่ามันสามารถป้องกันได้นะครับอ่าอีกอย่าง
00:18:47 → 00:18:49 นึงซึ่งผมจะขอพ่วงเรื่องของศาสราจารย์ดร.
00:18:49 → 00:18:52 เมื่อนายแพทย์ท่านนี้กับอีกท่านนึงก็คือ
00:18:52 → 00:18:56 ศาสราจารย์นายแพทย์อีกคนนึงซึ่งเป็นคนที่
00:18:56 → 00:18:58 เค้าออกมาแล้วก็พูดเรื่องของงานวิจัย
00:18:58 → 00:19:02 เรื่องไข้วัดใหญ่เบอกว่าวัคซีนไข้วัดใหญ่
00:19:02 → 00:19:04 มันป้องกันอะไรไม่ได้อันที่ 2 เขาบอกอีก
00:19:04 → 00:19:08 ว่ายาที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดดใหญ่เนี่ยมัน
00:19:08 → 00:19:12 ไม่ได้ผลตรงเผมเคยทำคลิปไปแล้วนะครับบอก
00:19:12 → 00:19:15 ว่าหมอท่านเนี้ก็พูดไม่ถูกต้องหลายอย่าง
00:19:15 → 00:19:17 อย่างแรกนะคือวัคซีนแค่วัดใหญ่ยังคงป้อง
00:19:17 → 00:19:19 กันอาการหนักได้ดีอยู่มากๆเลยครับอย่าง
00:19:19 → 00:19:23 ที่ 2 คือยาต้านไวรัสไข้หวัดดใหญ่เนี่ย
00:19:23 → 00:19:26 ยังได้ผลดีมากอยู่ถ้าคุณบังเอิญไปเชื่อ 2
00:19:26 → 00:19:29 หมอเนี้ยแล้วคุณไปทำตามนะคุณบอกว่าเออคุณ
00:19:29 → 00:19:32 ไม่ฉีดวัคซีนแค่วัดใหญ่แล้วถ้าเกิด
00:19:32 → 00:19:34 บังเอิญคุณเป็นขึ้นมาคุณบอกว่าคุณจะดูแล
00:19:34 → 00:19:36 ตัวเองได้
00:19:36 → 00:19:38 แล้วถ้าเกิดคุณอาการหนักล่ะถ้าคุณอาการ
00:19:38 → 00:19:41 น้อยคุณก็ไม่เป็นไรนะครับถ้าคุณอาการหนัก
00:19:41 → 00:19:44 ปกติเวลาคุณอาการหนักคุณทำยังไงครับคุณ
00:19:44 → 00:19:47 โทรติดต่อหาหมอ 2 ท่านนี้แล้วขอไปให้หมอ
00:19:47 → 00:19:50 เค้ารักษามั้ยหรือคุณจะไปโรงพยาบาลคุณจะ
00:19:50 → 00:19:53 ไปห้องฉุกเฉินหรือคุณจะโทร 1669 ขึ้นมาใน
00:19:53 → 00:19:57 กรณีที่คุณหายใจไม่ออกแล้วคุณคิดดูแล้ว
00:19:57 → 00:19:58 กันครับ
00:19:58 → 00:20:02 หมอคนที่ไม่เคยดูคนไข้หนักขนาดนี้ใน ICU
00:20:02 → 00:20:05 ในโรงพยาบาลเขาจะพูดอะไรก็พูดได้ครับ
00:20:05 → 00:20:08 เพราะเขาไม่ใช่คนที่ต้องมารับผิดชอบคุณ
00:20:08 → 00:20:12 เค้าเป็นคนที่ก็พูดไปตามที่เขาอยากจะพูด
00:20:12 → 00:20:16 ให้คนมาฟังเค้าแค่นั้นเลยแต่คนที่ต้องมา
00:20:16 → 00:20:18 ทำงานหนักแทนเค้าเนี่ยก็คือหมอท่านอื่น
00:20:18 → 00:20:22 ที่ยังอยู่ในทำนองครองธรรมยังมีจริยาบรรณ
00:20:22 → 00:20:25 ยังมีจริยธรรมแล้วก็จรรยาบรรณทางการแพทย์
00:20:25 → 00:20:29 ดีอยู่ก็จะต้องมารับมือกับคนไข้พวกนี้ที่
00:20:29 → 00:20:32 ถ้าไม่ฉีดวัคซีนป่วยหนักก็มาโรงพยาบาลที
00:20:32 → 00:20:34 นี้ถ้าเกิดคุณลองคิดอีกอย่างนึงถ้าไป
00:20:34 → 00:20:37 เชื่อหมอเหล่าเนี้ยแล้วบอกว่าเออยาไข้
00:20:37 → 00:20:39 หวัดใหญ่เนี่ยยาต้านไวรัสเนี่ยมันไม่ดี
00:20:39 → 00:20:42 ไม่ได้ผลเวลาคุณอาการหนักมาโรงพยาบาลหมอ
00:20:42 → 00:20:43 ก็จะบอกว่าเฮ้ยคุณต้องกินยาตัวนี้แล้ว
00:20:44 → 00:20:46 แหละอาการคุณหนักถึงขั้นต้องเข้า ICU
00:20:46 → 00:20:49 แล้วคุณไม่กินไม่ได้ละอันนี้แย่แล้วนะ
00:20:49 → 00:20:51 แล้วถ้าเกิดคุณบอกว่าไม่ได้ไม่ได้ไม่ได้
00:20:51 → 00:20:53 หมอท่านนั้นบอกว่าไม่ให้ยาตัวนี้เพราะว่า
00:20:53 → 00:20:56 มันไม่ได้ผลนี่หมอจะขายยาฉันหรือเปล่าฉัน
00:20:56 → 00:20:58 ไม่อยากจะซื้อยาของฝรั่งนะมันแพงอย่าง
00:20:58 → 00:21:00 งู้นอย่างี้นะครับแล้วหมอจะชาร์จตังค์ฉัน
00:21:00 → 00:21:04 เพิ่มหรือเปล่าคุณลองคิดหน่อยสิถ้าเกิด
00:21:04 → 00:21:07 คุณเจอแบบนี้เข้าไปเนี่ยเกิดอะไรขึ้นคุณ
00:21:07 → 00:21:10 คนไข้ก็อาจจะเสียชีวิตก็ได้นะถูกมั้ยทั้ง
00:21:10 → 00:21:13 ๆที่มีโอกาสจะรอดไปเชื่อหมอ 2 ท่านนี้
00:21:13 → 00:21:16 แล้วอาจจะเสียชีวิตก็ได้แล้วไม่เพียงแค่
00:21:16 → 00:21:17 นั้นถ้าเสียชีวิตขึ้นมาจริงๆเนี่ยเนี่ย
00:21:17 → 00:21:21 เค้าโทษใครครับโทษหมอที่ดูแลไม่ดีนั่น
00:21:21 → 00:21:24 แหละครับหมอที่อยู่ในโรงพยาบาลที่ดูแล
00:21:24 → 00:21:28 เนี่ยเค้าก็จะโทษคนนี้ดูแลไม่ดีทำไมไม่
00:21:28 → 00:21:30 ให้อย่างงู้นทำไมไม่ย้ายไปโรงพยาบาลนั้น
00:21:30 → 00:21:34 ทำไมไม่ทำอย่างงั้นไม่ทำอย่างี้คือคนที่
00:21:34 → 00:21:35 เป็นศาสราจารย์ดร.นายแพทย์กับอีกคนนึงคือ
00:21:36 → 00:21:38 ศาสจารย์นายแพทย์ที่มาพูดเรื่องเนี้ยลอย
00:21:38 → 00:21:41 ตัวนะครับไม่โดนอะไรเลยไม่โดนอะไรเลยสัก
00:21:41 → 00:21:45 อย่างเค้าถึงพูดอย่างนี้ได้ไงครับอ่ะบาง
00:21:45 → 00:21:47 คนบอกว่าเป็นไข้บัดใหญ่ก็ใช้ฟ้าทลายโจร
00:21:47 → 00:21:49 อะไรอย่างงี้สิมันช่วยเรื่องของโรคติดต่อ
00:21:49 → 00:21:52 ทางเดินหายใจนะครับไวรัสต่างๆต้องบอก
00:21:52 → 00:21:55 อย่างงี้ครับว่ามันช่วยบรรเทาอาการแต่มัน
00:21:55 → 00:21:58 ไม่ได้รักษาครับข้อมูลในมนุษย์ว่ามัน
00:21:58 → 00:22:02 รักษาได้เนี่ยไม่มีนะครับไม่มีแต่ในหลอด
00:22:02 → 00:22:04 ทดลองในเซลล์และไอ้ของในหลอดทดลองเนี่ยจะ
00:22:04 → 00:22:08 เอามาใช้กับคนก็ไม่ได้ขนาดผมบางคนยังบอก
00:22:08 → 00:22:09 ว่าเฮ้ยเนี่ยเราเป็นหนูทดลองวัคซีนหรือ
00:22:09 → 00:22:12 เปล่าคุณไม่ใช่หนูทดลองครับเค้าทดลองกับ
00:22:12 → 00:22:14 คนมาเรียบร้อยเถึงมาใช้กับคุณนะครับแต่
00:22:14 → 00:22:17 ถ้าเกิดฟ้าทลายโจรน่ะหรือว่าสมุนไพรต่างๆ
00:22:17 → 00:22:20 ที่เขาบอกอ่ะแล้วบอกว่ามันค่าไวรัสฆ่า
00:22:20 → 00:22:22 อะไรต่างๆได้คุณกำลังเป็นหนูทดลองของจริง
00:22:22 → 00:22:25 นะเพราะว่ามันทดลองในหลอดทดลองหรือใน
00:22:25 → 00:22:29 สัตว์ไม่ได้ทดลองในคนนะครับทดลองในคน
00:22:29 → 00:22:34 เนี่ยตอนช่วงโควิดระบาดมันก็มีการทดลอง
00:22:34 → 00:22:37 รองฟ้าทลายโจรนะครับเป็นหมอคนไทยนี่แหละ
00:22:37 → 00:22:41 ทำวิจัยไปแล้วสุดท้ายทำไงรู้มั้ยครับดึง
00:22:41 → 00:22:44 งานวิจัยขับครับไม่ยอมส่งต่อผมไม่รู้
00:22:44 → 00:22:46 เหมือนกันว่าทำไมทำให้งานวิจัยที่มันควร
00:22:46 → 00:22:49 จะมีมันก็ไม่มีมันอาจคือการดึงงานวิจัย
00:22:49 → 00:22:51 กลับเนี่ยมันเป็นไปได้หลายสาเหตุนะสาเหตุ
00:22:51 → 00:22:55 แรกก็คือว่าทำแล้วผลมันไม่ดีอันที่ 2 คือ
00:22:55 → 00:22:58 ทำแล้วรู้ว่าสิ่งที่ทำมันผิดพลาดส่งไป
00:22:58 → 00:23:01 เดี๋ยวปล่อยไก่ไม่ได้เดี๋ยวโดนก็เลยต้อง
00:23:01 → 00:23:04 ดึงกลับอย่างที่ 3 รู้ตัวไม่ผ่านแน่เนี่ย
00:23:04 → 00:23:06 แต่ตอนแรกทำออกมาเพื่อเป็นข่าวเพราะอะไร
00:23:06 → 00:23:09 ก็ไม่รู้นะครับแล้วต้องดึงกลับนี่แหละคือ
00:23:09 → 00:23:11 เหตุผลไม่มีไม่กี่อย่างในการที่ถอนงาน
00:23:11 → 00:23:13 วิจัยตัวเองถอนด้วยตัวเองด้วยนะไม่ใช่
00:23:13 → 00:23:16 เค้าดันงานวิจัยกลับนะถอนด้วยตัวเองนะ
00:23:16 → 00:23:19 ครับแต่บางคนก็บอกว่าเอ้ยโดนกดดันโดนอะไร
00:23:19 → 00:23:22 หรือเปล่าไม่ครับของพวกนี้กดดันไม่ได้นะ
00:23:22 → 00:23:24 ครับถ้าใครอยู่วงการงานวิจัยก็จะทราบตรง
00:23:24 → 00:23:27 ดีๆว่ามันกดดันไม่ได้มันส่งได้ส่วนเขาจะ
00:23:27 → 00:23:29 รับหรือเปล่าอีกเรื่องนึงนะครับไม่ใช่ว่า
00:23:29 → 00:23:31 ท่านถอนตั้งแต่แรกโดยที่เขายังไม่ได้
00:23:31 → 00:23:33 พิจารณาอะไรเกี่ยวข้องกับงานตัวนั้นเลยนะ
00:23:33 → 00:23:38 ฮะอ่ะดังนั้นเราจะรู้ว่าตรงนี้เนี่ยเอิ่ม
00:23:38 → 00:23:41 มีหลายอย่างที่ไม่ถูกต้องนะครับสรุปให้
00:23:41 → 00:23:45 ชัดๆเลยนะวัคซีนไข้หวัดใหญ่เนี่ยปลอดภัย
00:23:45 → 00:23:48 นะครับไม่ได้ทำให้เกิดรีบเลื่อนในสมองมัน
00:23:48 → 00:23:50 ป้องกันรีบเลื่อนในสมองด้วยซ้ำไปป้องกัน
00:23:50 → 00:23:52 การเกิดอาการหนักจากไข้หวัดใหญ่แต่ไม่ได้
00:23:52 → 00:23:55 ป้องกันเรื่องของการติดป้องกันการกำเริบ
00:23:55 → 00:23:57 ของโรคประจำตัวเช่นโรคหล่อเลือดหัวใจหล่อ
00:23:57 → 00:24:00 เลือดสมองนะครับโรคเปาะป้องกันพวกนี้ได้
00:24:00 → 00:24:04 ญี่ปุ่นยังคงแนะนำให้ใช้วัคซีนไข้วัดใหญ่
00:24:04 → 00:24:08 อยู่จนปัจจุบันนี้เด็ก 2 คนที่หมอท่านนึง
00:24:08 → 00:24:10 ศาสราจารย์ดร.นายแพทย์อ้างว่าเสียชีวิต
00:24:10 → 00:24:13 เพราะวัคซีนไม่ใช่ครับถ้าสมองระดับ
00:24:13 → 00:24:16 ศาสราจารย์ดร.เมื่อนายแพทย์คิดได้แค่ว่า 2
00:24:17 → 00:24:19 เคสนี้เสียชีวิตจากวัคซีนท่านผิดแล้วครับ
00:24:19 → 00:24:23 2 เคสจะมาโยนให้วัคซีนไม่ได้เคสมันจำนวน
00:24:23 → 00:24:25 น้อยขนาดนี้ก็ไม่ได้อยู่แล้วแล้วเหตุผล
00:24:25 → 00:24:27 มันมีอีกตั้งหลากหลายเรื่องของวัฒนธรรม
00:24:27 → 00:24:29 เรื่องความเครียดเรื่องอย่างอื่นที่
00:24:29 → 00:24:32 อธิบายเรื่องของการจบชีวิตก่อนวัยควรได้
00:24:32 → 00:24:34 นะครับนี่ง่ายๆเลยนะครับไม่จำเป็นจะต้อง
00:24:34 → 00:24:36 เป็นแพทย์ก็รู้อยู่แล้วว่า 2 เคสเอามายก
00:24:36 → 00:24:40 ตัวอย่างมันไม่ได้นะครับแล้วยังมีเรื่อง
00:24:40 → 00:24:42 ของการจับแพะชนแกะเอาเรื่องของคุณ
00:24:43 → 00:24:45 คราโอโตะมาบอกบอกว่าเฮ้ยเาออกมาขอโทษใน
00:24:45 → 00:24:47 กรณีเด็ก 2 คนนี้คือไม่เกี่ยวอะไรกันเด็ก
00:24:47 → 00:24:50 2 คนนี้อยู่ต้องปี 1984 นี่ปี 2010 มัน
00:24:50 → 00:24:52 คนละอย่างกันแล้วแล้วที่เขาขอโทษก็ไม่ใช่
00:24:52 → 00:24:55 ขอโทษเรื่องนี้เขอโทษเรื่องวัคซีนมะเร็ง
00:24:55 → 00:24:57 ปากมรูปครับคนละอย่างกันเลยแล้วอย่าง
00:24:57 → 00:25:00 วัคซีนมะเร็งปากมนุษย์ที่ขอโทษไปสุดท้าย
00:25:00 → 00:25:03 สิ่งที่ขอโทษนะก็ไม่จริง
00:25:03 → 00:25:04 เพราะว่าวัคซีนมะเร็งปากบลลูกมันไม่ได้ทำ
00:25:04 → 00:25:06 ให้เกิดเรื่องแบบนั้นครับสุดท้ายญี่ปุ่น
00:25:07 → 00:25:09 ก็กลับมาใช้วัคซีนป้องกันมะเร็งปากบัดลูก
00:25:09 → 00:25:11 แล้วรู้ตัวว่าตัวเองทำผิดพลาดไปแล้วในการ
00:25:11 → 00:25:13 ถอนมันออกไปตั้งแต่ตอนนั้นเพราะว่ามันทำ
00:25:13 → 00:25:16 ให้คนญี่ปุ่นมีโอกาสเกิดมะเร็งปากบรู
00:25:16 → 00:25:18 เพิ่มขึ้นแล้วก็เสียชีวิตได้อีกตั้ง 5,000
00:25:18 → 00:25:22 เคสจากการที่เขาประมาณการไว้นั่นแหละครับ
00:25:22 → 00:25:25 เป็นไงครับรู้ทุกอย่างแล้วมันกระจ่างกัน
00:25:25 → 00:25:29 เลยใช่มั้ยครับน่าแต่จะขอแถมให้อีกอย่าง
00:25:29 → 00:25:31 นึงศาสราจารย์ดร.เมื่อนายแพทย์ท่านนี้
00:25:31 → 00:25:34 เนี่ยครับเามีความเชื่อในเรื่องของน้ำ
00:25:34 → 00:25:36 เหลืองที่มันไม่ดีถ้าเกิดว่าเรารักษาน้ำ
00:25:36 → 00:25:38 เหลืองให้มันดีไม่มีการบวมน้ำเหลืองเนี่ย
00:25:38 → 00:25:40 มันจะสามารถรักษาโรคต่างๆได้อีกเยอะแยะ
00:25:41 → 00:25:42 ซึ่งอันเนี้ยต้องบอกว่ามันจริงแค่บาง
00:25:42 → 00:25:45 อย่างครับแต่มันไม่ได้จริงทุกอย่างแล้วก็
00:25:45 → 00:25:48 มีการบอกว่าเฮ้ยมันมีโรคน้ำเหลืองไม่ดี
00:25:48 → 00:25:50 ต้องบอกคำว่าน้ำเหลืองไม่ดีเนี่ยไม่มี
00:25:51 → 00:25:54 จริงนะครับไม่มีจริง
00:25:54 → 00:25:57 เออคำว่าน้ำเหลืองไม่ดีเนี่ยเป็นคำสมัย
00:25:57 → 00:26:00 ก่อนคำโบราณเค้าใช้ในตอนที่เรายังไม่รู้
00:26:00 → 00:26:03 ด้วยซ้ำไปว่าร่างกายของคนเราเนี่ยมันเกิด
00:26:03 → 00:26:06 อะไรขึ้นข้างในแต่เดี๋ยวนี้ครับเรามีคำ
00:26:06 → 00:26:10 ว่าภูมิคุ้มกันวิทยาเรารู้จักเซลล์นะครับ
00:26:10 → 00:26:12 เรารู้ถ้าใครตามช่องผมก็จะรู้จักอ่าเรามี
00:26:12 → 00:26:16 BซellTซell MaRge NKซellมีไซตไซนมี
00:26:16 → 00:26:18 compliment มี antibody มีอะไรตั้งหลาย
00:26:18 → 00:26:21 อย่างของพวกเนี้ยอยู่ในวิชาภูมิคุ้มกัน
00:26:21 → 00:26:23 วิทยาแล้วมันทำให้เรารู้ว่าเกิดอะไรขึ้น
00:26:23 → 00:26:25 กับร่างกายเราทำให้เรารู้ว่าเราเสี่ยง
00:26:25 → 00:26:27 เป็นอะไรเวลาที่เราไม่สบายติดเชื้อหรือ
00:26:27 → 00:26:29 เป็นโรคภูมิต่อต้านตัวเองแล้วมันเกิดจาก
00:26:29 → 00:26:32 อะไรนะครับเรารู้ว่ามันเกิดจากอะไรทั้ง
00:26:32 → 00:26:34 หมดเพราะว่ากลไกทั้งหมดเหล่านี้ถ้าท่าน
00:26:34 → 00:26:36 เรียนภูมิคุ้มกันวิทยามาจะรู้เรื่องพวก
00:26:36 → 00:26:38 นี้แต่ถ้าไม่ได้เรียนภูมิการวิทยามาเลย
00:26:38 → 00:26:40 หรือไม่รู้เรื่องอะไรเลยเนี่ยก็จะบอกว่า
00:26:41 → 00:26:43 น้ำเหลืองไม่ดีนะครับคำว่าน้ำเหลืองไม่ดี
00:26:43 → 00:26:46 ดังนั้นจึงไม่มีความเป็นความจริงแต่อย่าง
00:26:46 → 00:26:50 ใดน้ำเหลืองไม่ดีไม่มีอยู่ในโลกนี้นะครับ
00:26:50 → 00:26:53 มันมีอยู่ในโลกของคนโบราณที่ยังไม่เข้าใจ
00:26:53 → 00:26:55 ระบบร่างกายได้ดีเท่านั้นเองนะครับโอเค
00:26:55 → 00:26:57 แต่อาจจะใช้เป็นคำชาวบ้านให้ชาวบ้านเข้า
00:26:57 → 00:27:00 ใจง่ายๆได้อย่างไรก็ตามครับคุณจะไม่เคย
00:27:00 → 00:27:03 ได้ยินคำว่าน้ำเหลืองไม่ดีออกจากปากของ
00:27:03 → 00:27:05 หมอแผนปัจจุบัน
00:27:05 → 00:27:08 ถามว่าทำไมก็เพราะว่าหมอแผนปัจจุบันเนี่ย
00:27:08 → 00:27:11 เค้าเข้าใจในเรื่องของภูมิคุ้มกันวิทยาไง
00:27:11 → 00:27:15 ครับจะมีแต่หมอแผนที่ไม่ได้ติดตามข้อมูล
00:27:15 → 00:27:17 ข่าวสารในปัจจุบันเลยสักนิดเดียวนะครับ
00:27:17 → 00:27:21 ที่จะพูดว่าน้ำเหลืองมันไม่ดีนะครับอ่า
00:27:21 → 00:27:23 ดังนั้นเรื่องนี้ก็ต้องมีความเข้าใจให้
00:27:23 → 00:27:25 ชัดเจนไว้ด้วยนะครับว่ามันเกิดอะไรขึ้น
00:27:25 → 00:27:28 บ้างนะครับเพราะว่าผมไม่อยากจะให้ทุกคน
00:27:28 → 00:27:31 เข้าใจอะไรผิดพลาดพลาดไปนะครับโอเคสุด
00:27:31 → 00:27:35 ท้ายผมขอจบตัวอย่างนึงก็คือมีคนบอกว่า
00:27:35 → 00:27:38 เมื่อไหร่ผมจะเลิกอวยวัคซีนซะทีนะครับ
00:27:38 → 00:27:41 ทำไมผมถึงเข้าข้างวัคซีนนักหนาทำไมผมถึง
00:27:41 → 00:27:43 บอกว่าทุกอย่างไม่ได้เกิดจากวัคซีนผมต้อง
00:27:43 → 00:27:47 ขอบอกเองครับว่าผมเนี่ยเชื่อในข้อมูลหลัก
00:27:47 → 00:27:50 ฐานที่มีทั้งหมดนะครับสิ่งที่กลุ่มที่เขา
00:27:50 → 00:27:53 ไม่เห็นด้วยกับวัคซีนเอาข้อมูลมาให้ผมดู
00:27:53 → 00:27:55 เนี่ยผมก็เอามาดูผมเอามาอ่านให้ทุกคนฟัง
00:27:55 → 00:27:57 ผมก็ชี้ให้เห็นว่าตรงไหนมันผิดตรงไหนมี
00:27:57 → 00:28:00 อคติติแล้วคุณฟังหรือเปล่าครับคุณได้คิด
00:28:00 → 00:28:03 ตามหรือเปล่าหรือคุณแค่ฟังศาสราจารย์ดร.
00:28:03 → 00:28:05 เพื่อนายแพทย์มาแล้วก็เชื่อเป็นอย่างงั้น
00:28:05 → 00:28:07 ถ้าอย่างเงี้ยคุณผิดแล้วล่ะครับเชื่อที่
00:28:07 → 00:28:10 ตัวบุคคลไม่ได้เชื่อที่ข้อมูลหลักฐานบาง
00:28:10 → 00:28:12 คนบอกว่านี่ไงวัคซีนโควิดฉีดแล้วมันมี
00:28:12 → 00:28:14 ปัญหาอะไรเยอะแยะวัคซีนแค่วัดใหญ่ฉีดแล้ว
00:28:14 → 00:28:16 มีปัญหาอะไรเยอะแยะข้อมูลหลักฐานมีเยอะ
00:28:16 → 00:28:19 แยะคุณก็เอาข้อมูลหลักฐานตรงนั้นน่ะมาคุย
00:28:19 → 00:28:21 กันสิครับผมอ่ะเอาข้อมูลหลักฐานที่คุณ
00:28:21 → 00:28:23 อ้างเนี่ยมาอ่านให้ฟังด้วยซ้ำไปมันยังเจอ
00:28:23 → 00:28:27 เลยนะครับว่ามันผิดตรงไหนผิดหมดเลยนะครับ
00:28:27 → 00:28:30 ดังนั้นถ้าถามผมว่าเมื่อไหร่ที่ผมจะเลิก
00:28:30 → 00:28:32 เห็นด้วยกับวัคซีนก็ต่อเมื่อมี 2 อย่าง
00:28:32 → 00:28:35 เท่านั้นครับอย่างแรกมีข้อมูลใหม่ในอนาคต
00:28:35 → 00:28:37 ที่เชื่อถือได้แล้วอ่านแล้วไม่มีอคติบอก
00:28:37 → 00:28:39 ว่ามันมีปัญหานะครับตรงนั้นผมถึงจะ
00:28:40 → 00:28:42 เปลี่ยนใจและกรณีที่ 2 ซึ่งไม่มีทางเกิด
00:28:42 → 00:28:45 ขึ้นได้ก็คือเมื่อผมไม่มีจรรยาบรรณทางการ
00:28:45 → 00:28:48 แพทย์อีกต่อไปถ้าเมื่อไหร่ผมหมดจรรยาบรร
00:28:48 → 00:28:51 การแพทย์ผมต้องการขายของผมต้องการโกหกผม
00:28:51 → 00:28:54 ถึงจะบอกว่าวัคซีนมันไม่ดี
00:28:54 → 00:28:58 นะครับแต่ตอนนี้มันไม่ได้นะฮะถ้าเกิดใคร
00:28:58 → 00:29:02 ที่ยังมีตรรกะทางวิทยาศาสตร์อยู่บ้างยัง
00:29:02 → 00:29:04 ยังคงมีความเป็นหมออยู่บ้างยังมี
00:29:04 → 00:29:09 จรรยาแพทย์อยู่บ้างนะครับจะไม่มีใครคนไหน
00:29:09 → 00:29:13 ที่บอกว่าวัคซีนมันไม่ดีครับมันมีการทด
00:29:13 → 00:29:16 ลองมาตลอดเวลาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน
00:29:16 → 00:29:20 ชี้ชัดว่ามันดีทุกบริษัทที่เขาทำออกมา
00:29:20 → 00:29:22 เนี่ยไม่ได้หวังกำไรตั้งแต่แรกนะเาหวัง
00:29:22 → 00:29:24 ให้มันมีประสิทธิภาพสูงเพราะถ้า
00:29:24 → 00:29:27 ประสิทธิภาพไม่ดีไม่มีทางทำกำไรได้ครับ
00:29:27 → 00:29:30 เหมือนคุณทำของมาอย่างนึงคุณขายอ่ะถ้า
00:29:30 → 00:29:32 เกิดคุณทำแบบขอไป
00:29:32 → 00:29:34 คุณก็ขายไม่ได้ครับหรือขายได้แป๊บเดียว
00:29:34 → 00:29:38 เดี๋ยวคุณก็ต้องเจ๊งนะครับคุณก็ต้องเจ๊ง
00:29:38 → 00:29:42 ต่อให้คุณจะพยายามยังไงมันก็ต้องเจ๊งนะ
00:29:42 → 00:29:45 งั้นคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญครับถ้าไม่มี
00:29:45 → 00:29:48 คุณภาพมันอยู่มาได้ไม่ถึงตอนนี้หรอกครับ
00:29:48 → 00:29:53 นะเนี่ยเรามีข้อพิสูจน์จากเวลาที่ผ่านมา
00:29:53 → 00:29:55 ทั้งหมดนั่นแหละครับมันถึงเป็นแบบนี้ดัง
00:29:55 → 00:29:57 นั้นเนี่ยถ้าถามผมนะศาสราจารย์ดร.นาย
00:29:57 → 00:30:00 แพทย์ท่านเนี้ยหลายครั้งแล้วที่ผมไปฟัง
00:30:00 → 00:30:02 แล้วไม่ถูกสักเรื่องเลยนะครับมีการจับแพะ
00:30:02 → 00:30:05 ชนแกหลายอย่างละแต่ว่าถ้าท่านจะยังคง
00:30:05 → 00:30:07 เชื่อเค้ายังคงไม่เห็นด้วยกับวัคซีนนั่น
00:30:08 → 00:30:10 ก็เป็นสิทธิของท่านแล้วครับท่านลองคิดใน
00:30:10 → 00:30:12 หัวแล้วกันเวลาท่านป่วยถ้าป่วยหนักท่านจะ
00:30:12 → 00:30:15 ไปหาใครท่านจะโทรหาหมอท่าน 2 ท่านนี้แล้ว
00:30:15 → 00:30:17 ไปอยู่กับเขามั้ยหรือจะมีหมอท่านอื่นนะ
00:30:17 → 00:30:20 ครับที่คิดเหมือนกันแล้วก็อยู่ในวงการ
00:30:20 → 00:30:22 เดียวกันที่ท่านอยากจะไปอยู่กับเขาเวลา
00:30:22 → 00:30:24 ที่ท่านป่วยท่านมั่นใจเขาเวลาที่ท่านป่วย
00:30:25 → 00:30:26 แล้วไปรักษากับเขาเป็นไข้หวัดใหญ่หนัก
00:30:26 → 00:30:28 ขึ้นมานะครับหรือเป็นโควิดหนักขึ้นมาแล้ว
00:30:28 → 00:30:31 ไปอยู่บ้านหมอ 2 2-3 คนนี้ให้เขาตรวจ
00:30:31 → 00:30:33 รักษาท่านมั้ยถ้าท่านคิดอย่างนั้นดีเลย
00:30:33 → 00:30:37 ครับจะได้ช่วยแบ่งเบาภาระของหมอทั่วๆไป
00:30:37 → 00:30:39 ซึ่งเขายังคงมีจรรยาบรรณทางการแพทย์สูง
00:30:39 → 00:30:41 กว่านะครับอ่ะเล่าไว้เท่านี้นะครับวันนี้
00:30:42 → 00:30:45 ขอบคุณมากครับสวัสดี Ja.