00:00:00 → 00:00:00 [เพลง]
00:00:00 → 00:00:04 เรื่องสุขภาพไม่ได้ยากอย่างที่คิดที่
00:00:04 → 00:00:10 สุภาพสนทนามามีคำตอบให้สุขภาพดีเริ่มต้น
00:00:10 → 00:00:14 จากความเข้าใจ
00:00:14 → 00:00:15 [เพลง]
00:00:15 → 00:00:19 >> เคยรู้สึกมั้คะว่าพอเริ่มกินยาลดไขมันใน
00:00:19 → 00:00:21 เลือดกลุ่มสตาตินแล้วอยู่ๆก็มีอาการปวด
00:00:21 → 00:00:24 กล้ามเนื้อขึ้นอาการที่หลายคนเชื่อว่า
00:00:24 → 00:00:28 เป็นผลคั่งคินจากยาจนสุดท้ายก็เลือกที่จะ
00:00:28 → 00:00:32 หยุดยาเองแต่เดี๋ยวก่อนคุณรู้ไหมคะว่า
00:00:32 → 00:00:34 จริงๆแล้วอาการปวดกล้ามเนื้อนั้นอาจไม่
00:00:34 → 00:00:37 ใช่ผลข้างเคียงจากยาเสมอไปและที่สำคัญ
00:00:37 → 00:00:41 กว่านั้นการหยุดยาเองอาจนำไปสู่ผลลัพธ์
00:00:41 → 00:00:44 ที่อันตรายถึงชีวิตได้เลยนะคะวันนี้เราจะ
00:00:44 → 00:00:47 มาไขความจริงกันค่ะว่าอาการปวดกล้ามเนื้อ
00:00:47 → 00:00:50 จากสตาตินที่เราเข้าใจแท้จริงแล้วมันคือ
00:00:50 → 00:00:53 อะไรกันแน่และถ้ากำลังเผชิญกับอาการนี้
00:00:53 → 00:00:57 อยู่ควรจะทำอย่างไรให้ปลอดภัยและถูกต้อง
00:00:57 → 00:01:01 ที่สุดสุขภาพดีเริ่มต้นจากความเข้าใจค่ะ
00:01:01 → 00:01:03 >> สวัสดีครับคุณเกดเมื่อกี้คุณเกดพูดถึง
00:01:03 → 00:01:05 ประเด็นที่น่าสนใจมากเลยนะครับเป็นความ
00:01:05 → 00:01:08 เข้าใจผิดที่เจอกันบ่อยมากๆในคลินิกเลย
00:01:08 → 00:01:11 จริงๆคือพอคนไข้เริ่มกินยาสตาตินแล้วมี
00:01:11 → 00:01:13 อาการปวดกล้ำเนื้อสิ่งที่คนไข้ส่วนใหญ่
00:01:13 → 00:01:16 คิดเป็นอย่างแรกคือยาทันทีเลยแต่จริงๆ
00:01:16 → 00:01:18 แล้วมันมีหลายปัจจัยมากนะครับที่เราต้อง
00:01:18 → 00:01:19 มาพิจารณา
00:01:19 → 00:01:22 >> นั่นสิคะคุณกันเพราะเกดก็เป็นคนนึงที่ได้
00:01:22 → 00:01:26 ยินคนรอบข้างบ่นเรื่องนี้บ่อยมากจนบางที
00:01:26 → 00:01:29 เราก็เริ่มกลัวตามไปด้วยเลยว่าถ้าต้องกิน
00:01:29 → 00:01:31 ยาตัวนี้ขึ้นมาจริงๆจะต้องเจอกับอาการแบบ
00:01:31 → 00:01:34 นี้ไหมแล้วถ้าเจอล่ะจะทำยังไง
00:01:35 → 00:01:37 >> ครับและนั่นคือเหตุผลที่เราต้องมาคุยกัน
00:01:37 → 00:01:39 ในวันนี้ครับเพราะเราไม่ได้จะมาบอกว่า
00:01:39 → 00:01:42 สตาตินทำให้ปวดกล้ามเนื้อหรือไม่ปวดแต่
00:01:42 → 00:01:44 เราจะมาแยกแยะความจริงกับความเข้าใจผิด
00:01:44 → 00:01:47 ออกจากกันเพื่อให้ทุกคนสามารถตัดสินใจได้
00:01:47 → 00:01:49 อย่างถูกต้องและปลอดภัยที่สุดครับ
00:01:49 → 00:01:52 >> งั้นเรามาเริ่มกันที่คำถามแรกที่อยู่ในใจ
00:01:52 → 00:01:55 ทุกคนเลยดีกว่าค่ะยาลดไขมันในกลุ่มสตาติน
00:01:55 → 00:01:57 เนี่ยมันทำงานยังไงกันแน่คะแล้วมันไป
00:01:57 → 00:02:00 เกี่ยวข้องอะไรกับกล้ามเนื้อของเราได้ยัง
00:02:00 → 00:02:00 ไง
00:02:00 → 00:02:03 >> คำถามนี้สำคัญมากเลยครับเพราะถ้าเราเข้า
00:02:03 → 00:02:05 ใจการทำงานของมันเราจะเข้าใจได้ง่ายขึ้น
00:02:05 → 00:02:08 ว่าทำไมถึงเกิดอาการต่างๆขึ้นได้
00:02:08 → 00:02:11 >> งั้นขอเกดรบกวนช่วยอธิบายแบบที่คนทั่วไป
00:02:11 → 00:02:12 เข้าใจได้ง่ายๆหน่อยนะคะ
00:02:12 → 00:02:16 >> ได้เลยครับก่อนอื่นเลยนะครับสตาตินเนี่ย
00:02:16 → 00:02:18 เป็นกลุ่มยาที่ถูกออกแบบมาเพื่อลดระดับ
00:02:18 → 00:02:21 คอเลสเตอรอลในเลือดโดยเฉพาะตัวร้ายอย่าง
00:02:21 → 00:02:25 LDL หรือที่เราเรียกกันว่าไขมันเลวการทำ
00:02:25 → 00:02:28 งานหลักๆของมันก็คือการประยับยั้งเอนไซม
00:02:28 → 00:02:30 ตัวหนึ่งในตับที่มีหน้าที่สร้าง
00:02:30 → 00:02:33 คอเลสเตอรอลลองนึกภาพนะครับตับของเราก็
00:02:33 → 00:02:37 เหมือนโรงงานผลิตคอเลสเตอรอลส่วนยาสตินก็
00:02:37 → 00:02:39 เหมือนเจ้าหน้าที่ที่เข้าไปสั่งให้โรงงาน
00:02:39 → 00:02:42 นี้ลดกำลังการผลิตลงทำให้ปริมาณ
00:02:42 → 00:02:45 คอเลสเตอรอลโดยรวมในร่างกายลดลงตามไปด้วย
00:02:45 → 00:02:45 ครับ
00:02:45 → 00:02:48 >> เกดเข้าใจแล้วค่ะแล้วทำไมเราต้องกินยาตัว
00:02:48 → 00:02:50 นี้ด้วยคะในเมื่อคอเลสเตอรอลก็สำคัญกับ
00:02:50 → 00:02:52 ร่างกายไม่ใช่หรอ
00:02:52 → 00:02:54 >> เป็นคำถามที่ดีมากครับจริงครับที่
00:02:54 → 00:02:58 คอเลสเตอรอลมีบทบาทสำคัญในการสร้างเซลล์
00:02:58 → 00:03:01 และฮอร์โมนในร่างกายแต่ปัญหาคือเมื่อมี
00:03:01 → 00:03:05 มากเกินไปโดยเฉพาะไขมันเลวอย่าง LDL มัน
00:03:05 → 00:03:07 จะเริ่มไปสะสมที่ผนังหลอดเลือดทำให้หลอด
00:03:07 → 00:03:11 เลือดแข็งและตีบลงเรื่อยๆจนในที่สุดก็อาจ
00:03:11 → 00:03:14 จะอุดตันได้นี่คือจุดที่สตาตินมีบทบาท
00:03:14 → 00:03:17 สำคัญครับเพราะการลดระดับไขมันเลว LDL
00:03:17 → 00:03:20 ให้ต่ำลงอย่างมีนัยยะสำคัญจะช่วยลดความ
00:03:20 → 00:03:23 เสี่ยงของการเกิดโรคที่อันตรายถึงชีวิต
00:03:23 → 00:03:26 เช่นโรคหลอดเลือดสมองและโรคหลอดเลือดหัว
00:03:26 → 00:03:28 ใจซึ่งเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้นๆ
00:03:28 → 00:03:30 ของคนทั่วโลกเลยนะครับ
00:03:30 → 00:03:33 >> ฟังดูแล้วยาตัวนี้สำคัญมากๆเลยนะคะแต่ใน
00:03:33 → 00:03:35 เมื่อมันมีประโยชน์ขนาดนี้แล้วมันไป
00:03:35 → 00:03:37 เกี่ยวอะไรกับอาการปวดกล้ามเนื้อที่เรา
00:03:37 → 00:03:39 พูดถึงตั้งแต่แรกได้ยังไงคะ
00:03:39 → 00:03:42 >> นั่นคือคำถามที่เราจะเจาะลึกในส่วนถัดไป
00:03:42 → 00:03:44 ครับเพราะถึงแม้จะเป็นยาที่มีประโยชน์
00:03:44 → 00:03:48 มหาศาลแต่ก็เหมือนกับยาอื่นๆที่อาจจะมีผล
00:03:48 → 00:03:50 ข้างเคียงและเราจำเป็นต้องเข้าใจมันอย่าง
00:03:50 → 00:03:53 ถ่องแท้เพื่อที่จะรับมือได้อย่างถูกต้อง
00:03:53 → 00:03:56 ครับมาถึงประเด็นหลักที่หลายคนสงสัยนะ
00:03:56 → 00:03:59 ครับสตินทำให้ปวดกล้ำเนี้ยได้จริงไหมคำ
00:03:59 → 00:04:03 ตอบคือได้ครับแต่ไม่ใช่ทุกคนและไม่ได้
00:04:03 → 00:04:06 เกิดจากเหตุผลที่คุณคิดเสมอไปในทางการ
00:04:06 → 00:04:09 แพทย์เรามีศัพท์เรียกว่า Statin
00:04:09 → 00:04:12 Associated Muscle Symptoms หรือ SAMS
00:04:12 → 00:04:15 ซึ่งหมายถึงอาการไม่สบายที่กล้ามเนื้อที่
00:04:15 → 00:04:19 สัมพันธ์กับใช้ยาสตาตินอาการเหล่านี้อาจ
00:04:19 → 00:04:23 รวมถึงปวดเมื่อยตึงหรือรู้สึกอ่อนแรงแต่
00:04:23 → 00:04:26 กลไกที่แท้จริงยังไม่แน่ชัดร้อย 100% แต่
00:04:26 → 00:04:30 ทฤษฎีนึงที่ได้รับการยอมรับคือสตtinอาจ
00:04:30 → 00:04:33 ส่งผลกระทบต่อการทำงานของไมโตคอนเดรีย
00:04:33 → 00:04:35 ซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงานของเซลล์กล้าม
00:04:35 → 00:04:39 เนื้อทำให้เซลล์ทำงานได้ไม่เต็มที่และอาจ
00:04:39 → 00:04:41 ก่อให้เกิดอาการปวดขึ้นได้ครับ
00:04:41 → 00:04:43 >> ฟังดูน่ากลัวเหมือนกันนะคะแล้วสถิติบอก
00:04:44 → 00:04:46 ว่าคนส่วนใหญ่ที่กินยาตัวนี้จะมีอาการแบบ
00:04:46 → 00:04:48 นี้ทุกคนเลยหรือเปล่าคะ
00:04:48 → 00:04:51 >> ไม่เลยครับนี่คือความเข้าใจผิดที่สำคัญ
00:04:51 → 00:04:54 มากๆเลยครับจากข้อมูลทางการแพทย์ทั่วโลก
00:04:54 → 00:04:57 อาการแซมสมักจะเกิดขึ้นกับผู้ใช้ยาน้อย
00:04:57 → 00:05:00 กว่า 5-10% เท่านั้นและในกลุ่มที่เกิด
00:05:00 → 00:05:03 อาการจริงๆส่วนใหญ่จะเป็นอาการปวดเมื่อย
00:05:03 → 00:05:07 แบบเบาๆที่สามารถทนได้ครับและถ้าเราไปดู
00:05:07 → 00:05:10 สถิติที่ละเอียดขึ้นไปอีกเราจะพบว่าอาการ
00:05:10 → 00:05:13 ปวดกล้ามเนื้อที่รุนแรงถึงขั้นทำลายกล้าม
00:05:13 → 00:05:17 เนื้อหรือที่เรียกว่าแรปdorไมโอลisนั้นพบ
00:05:17 → 00:05:20 น้อยมากๆครับคือประมาณ 1 ใน 10,000 คนที่
00:05:20 → 00:05:23 ใช้ยาเลยทีเดียวนั่นหมายความว่าความ
00:05:23 → 00:05:25 เสี่ยงของอาการรุนแรงนั้นต่ำกว่าที่คุณจะ
00:05:26 → 00:05:28 เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ซะอีก
00:05:28 → 00:05:28 ครับ
00:05:28 → 00:05:31 >> แล้วเราจะรู้ได้ยังไงคะว่าเป็นอาการปวด
00:05:31 → 00:05:33 กล้ามเนื้อที่เกิดจากสตาตินจริงๆมันมี
00:05:33 → 00:05:34 ลักษณะเฉพาะมย
00:05:35 → 00:05:38 >> มีครับลองสังเกตลักษณะเหล่านี้ดูนะครับ
00:05:38 → 00:05:41 อาการปวดมักจะเกิดขึ้นทั้งสข้างของร่าง
00:05:41 → 00:05:44 กายหรือเป็นแบบสมมาตรเช่นปวดต้นขาซ้ายและ
00:05:44 → 00:05:48 ขวาพร้อมๆกันมักเกิดในกล้ามเนื้อขนาดใหญ่
00:05:48 → 00:05:52 เช่นกล้ามเนื้อต้นขาน่องหลังและต้นแขน
00:05:52 → 00:05:55 อาการมักจะแย่ลงเมื่อเพิ่มขนาดยาหรือ
00:05:55 → 00:05:59 เริ่มยาใหม่ในช่วงสัปดาห์แรกๆอาการปวดไม่
00:05:59 → 00:06:02 ได้มาจากสาเหตุอื่นเช่นการออกกำลังกาย
00:06:02 → 00:06:05 หนักหรืออุบัติเหตุแต่ถึงกระนั้นอาการ
00:06:05 → 00:06:07 เหล่านี้ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้อง
00:06:07 → 00:06:10 หยุดยาเองนะครับเพราะมันยังมีสาเหตุอื่น
00:06:10 → 00:06:13 อีกมากมายที่ทำให้เกิดอาการปวดกล้ามเนื้อ
00:06:13 → 00:06:16 ซึ่งเป็นความจริงที่คนส่วนใหญ่พลาดไป
00:06:16 → 00:06:19 >> เมื่อสักครู่ที่บอกว่าอาการปวดกล้ามเนื้อ
00:06:19 → 00:06:22 อาจไม่ได้มาจากยาสตาตินเสมอไปแล้วมันมี
00:06:22 → 00:06:24 สาเหตุอะไรอีกบ้างคะที่เราต้องลองมองหา
00:06:24 → 00:06:27 >> เยอะเลยครับและนี่คือจุดที่สำคัญมากที่
00:06:27 → 00:06:30 เราต้องแยกแยะให้ได้ก่อนที่จะตัดสินใจ
00:06:30 → 00:06:33 หยุดยาเองผมจะยกตัวอย่างสาเหตุที่พบบ่อย
00:06:33 → 00:06:35 และคนมักจะมองข้ามนะครับภาวะขาดวิตามิน
00:06:35 → 00:06:39 และแร่ธาตุเช่นภาวะขาดวิตามินดีวิตามิน
00:06:39 → 00:06:42 B12 หรือแมกนีเซียมซึ่งมีส่วนสำคัญในการ
00:06:42 → 00:06:45 ทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทการได้
00:06:45 → 00:06:47 รับวิตามินเหล่านี้ไม่เพียงพออาจทำให้
00:06:47 → 00:06:50 เกิดอาการปวดเมื่อยหรืออ่อนแรงได้ง่าย
00:06:50 → 00:06:53 ภาวะไทรรอยด์ทำงานผิดปกติไม่ว่าจะเป็น
00:06:53 → 00:06:55 ภาวะวะไทรรอยด์เป็นพิษไฮเปอร์ไทรอยดิึม
00:06:56 → 00:06:59 หรือไทรอยด์ทำงานต่ำไฮปโปไทroidิึมล้วน
00:06:59 → 00:07:01 แล้วแต่สามารถทำให้เกิดอาการปวดเมื่อย
00:07:01 → 00:07:07 กล้ามเนื้ออ่อนเพลียหรือแม้กระทั่งแต่คร
00:07:07 → 00:07:09 นี้พบบ่อยที่สุดเลยครับโดยเฉพาะในกลุ่ม
00:07:09 → 00:07:12 ผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกายใหม่ๆหรือ
00:07:12 → 00:07:14 กลับมาออกกำลังกายหลังจากหยุดพักไปนาน
00:07:14 → 00:07:17 กล้ามเนื้อที่ไม่คุ้นชินอาจเกิดการอักเสบ
00:07:17 → 00:07:20 และปวดขึ้นมาได้การใช้ยาอื่นร่วมกันยาบาง
00:07:20 → 00:07:23 ชนิดเมื่อใช้ร่วมกับสตาตินอาจเพิ่มความ
00:07:23 → 00:07:25 เสี่ยงของอาการปวดกล้ามเนื้อได้เช่นยา
00:07:25 → 00:07:28 ปฏิชีวนะบางกลุ่มยาต้านเชื้อราหรือยาที่
00:07:28 → 00:07:32 ใช้รักษาโรคหัวใจบางตัวโรคประจำตัวอื่นๆ
00:07:32 → 00:07:35 เช่นโรคเบาหวานโรคไขข้ออักเสบโรค
00:07:35 → 00:07:37 ไฟโบรไมอลเจียหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับ
00:07:38 → 00:07:40 ระบบประสาทซึ่งอาการของโรคเหล่านี้ก็มี
00:07:40 → 00:07:43 อาการปวดกล้ามเนื้อเป็นอาการเด่นเช่นกัน
00:07:43 → 00:07:46 >> โอ้โหพอฟังแบบนี้แล้วก็ยิ่งไม่แน่ใจใหญ่
00:07:46 → 00:07:48 เลยค่ะว่าปวดเพราะอะไรกันแน่แล้วอย่างนี้
00:07:48 → 00:07:50 เราจะทำยังไงดีคะ
00:07:50 → 00:07:52 >> นั่นคือเหตุผลว่าทำไมการปรึกษาแพทย์จริง
00:07:52 → 00:07:55 สำคัญที่สุดครับเพราะแพทย์จะช่วยซัก
00:07:55 → 00:07:57 ประวัติตรวจร่างกายและอาจพิจารณาการตรวจ
00:07:58 → 00:08:00 เลือดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของอาการปวด
00:08:00 → 00:08:03 เพื่อให้แน่ใจว่ามันไม่ได้มาจากโรคหรือ
00:08:03 → 00:08:06 ภาวะอื่นและที่สำคัญที่สุดห้ามหยุดยาเอง
00:08:06 → 00:08:08 โดยเด็ดขาดการตัดสินใจหยุดยาเองเปรียบ
00:08:08 → 00:08:11 เหมือนการปิดประตูแก้ไขปัญหาอย่างถูกวิธี
00:08:11 → 00:08:14 และอาจทำให้เกิดผลเสียร้ายแรมตามมาได้
00:08:14 → 00:08:14 ครับ
00:08:14 → 00:08:16 >> เข้าใจแล้วค่ะเหมือนเราต้องเป็นนักสืบ
00:08:16 → 00:08:19 ร่วมกับหมอเพื่อหาตัวการที่แท้จริงของ
00:08:19 → 00:08:20 อาการปวดนี้ให้เจอ
00:08:20 → 00:08:23 >> ถูกต้องเลยครับและเมื่อเรารู้สาเหตุที่
00:08:23 → 00:08:26 แท้จริงแล้วการแก้ปัญหาก็จะตรงจุดและปลอด
00:08:26 → 00:08:27 ภัยที่สุดครับ
00:08:27 → 00:08:30 >> สมมุติว่าตอนนี้มีคนดูอยู่และกำลังมี
00:08:30 → 00:08:32 อาการปวดกล้ามเนื้อจากการกินสตาตินอยู่พอ
00:08:32 → 00:08:35 ดีเลยค่ะแล้วเขาควรจะทำยังไงเป็นอันดับ
00:08:35 → 00:08:35 แรก
00:08:35 → 00:08:38 >> สิ่งสำคัญที่สุดคือห้ามตื่นตระหนกและห้าม
00:08:38 → 00:08:41 หยุดยาเองเด็ดขาดครับเพราะการหยุดยาโดย
00:08:41 → 00:08:44 ไม่มีคำแนะนำจากแพทย์อาจทำให้ระดับไขมัน
00:08:44 → 00:08:46 ในเลือดกลับมาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วและ
00:08:46 → 00:08:48 เพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือด
00:08:48 → 00:08:51 หัวใจและหลอดเลือดสมองเฉียบพลันได้ครับ
00:08:51 → 00:08:54 แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องคือสังเกตอาการ
00:08:54 → 00:08:57 ลองบันทึกว่าอาการปวดเกิดขึ้นเมื่อไหร่
00:08:57 → 00:09:00 ปวดที่ส่วนไหนของร่างกายและมีความรุนแรง
00:09:00 → 00:09:03 แค่ไหนนัดพบแพทย์ผู้รักษานำข้อมูลที่คุณ
00:09:03 → 00:09:06 บันทึกไว้ไปปรึกษาแพทย์โดยตรงไม่ใช่การ
00:09:06 → 00:09:09 หยุดยาและรอให้หายเองรับการประเมินจาก
00:09:09 → 00:09:11 แพทย์แพทย์จะทำการตรวจร่างกายและอาจ
00:09:12 → 00:09:14 พิจารณาการตรวจเลือดเพื่อดูระดับเอนไซม์
00:09:14 → 00:09:17 ของกล้ามเนื้อ CK หรือ CPK เพื่อยืนยัน
00:09:17 → 00:09:20 ว่ายาคือสาเหตุของอาการปวดจริง
00:09:20 → 00:09:22 >> แล้วหลังจากนั้นแพทย์จะแนะนำให้ทำอะไร
00:09:22 → 00:09:23 บ้างคะ
00:09:23 → 00:09:25 >> แพทย์มีทางเลือกหลายอย่างครับไม่ใช่แค่
00:09:25 → 00:09:27 การสั่งให้หยุดยาอย่างที่หลายคนเข้าใจผิด
00:09:28 → 00:09:31 แพทย์อาจจะลดขนาดยา Dose reduction ใน
00:09:31 → 00:09:34 บางกรณีการลดขนาดยาลงเพียงเล็กน้อยก็
00:09:34 → 00:09:37 สามารถทำให้อาการดีขึ้นได้โดยที่ยังคง
00:09:37 → 00:09:39 ประสิทธิภาพในการควบคุมไขมันเปลี่ยนชนิด
00:09:39 → 00:09:42 ของสตาตินสตาตินแต่ละชนิดมีความแรงและ
00:09:42 → 00:09:45 โอกาสในการเกิดผลข้างเคียงไม่เท่ากัน
00:09:45 → 00:09:47 แพทย์อาจพิจารณาเปลี่ยนไปใช้ชนิดที่อ่อน
00:09:47 → 00:09:51 โยนกว่าหยุดยาชั่วคราว drug ในบางราย
00:09:51 → 00:09:53 แพทย์อาจแนะนำให้หยุดยาชั่วคราวเพื่อดู
00:09:53 → 00:09:56 ว่าอาการดีขึ้นหรือไม่เพื่อยืนยันว่ายา
00:09:56 → 00:09:59 คือสาเหตุของอาการปวดจริงปรับการกินยาใน
00:09:59 → 00:10:02 บางกรณีการเปลี่ยนเวลาการกินยาเป็นช่วง
00:10:02 → 00:10:05 กลางคืนอาจช่วยลดอาการได้จะเห็นได้ว่ามี
00:10:05 → 00:10:08 หลายทางออกมากครับที่ไม่ใช่แค่การหยุดยา
00:10:08 → 00:10:10 ซึ่งเป็นสิ่งสุดท้ายที่แพทย์จะพิจารณา
00:10:10 → 00:10:13 เมื่อวิธีอื่นๆไม่ได้ผลจริงๆ
00:10:13 → 00:10:16 >> ฟังมาถึงตรงนี้แล้วเกดคิดว่ามีคำถามที่
00:10:16 → 00:10:19 ค้างคาใจผู้ชมหลายคนอยู่ค่ะเรามาสรุปใน
00:10:19 → 00:10:21 รูปแบบ Q&A สั้นๆกันดีมั้ยคะ
00:10:21 → 00:10:23 >> ดีเลยครับถามมาได้เลยครับ
00:10:23 → 00:10:26 >> คำถามแรกค่ะกินยาสตาตินแล้วต้องปวดกล้าม
00:10:27 → 00:10:28 เนื้อทุกคนใช่ไหม
00:10:28 → 00:10:31 >> ไม่จริงครับนี่คือความเข้าใจผิดที่ใหญ่
00:10:31 → 00:10:33 ที่สุดเลยครับอาการปวดกล้ามเนื้อที่
00:10:33 → 00:10:35 สัมพันธ์กับยาสตาตินนั้นเกิดขึ้นกับผู้
00:10:35 → 00:10:38 ใช้ยาเพียง 5-10% เท่านั้นและส่วนใหญ่
00:10:38 → 00:10:41 เป็นอาการไม่รุนแรงอย่าเพิ่งกลัวจนไม่
00:10:41 → 00:10:44 กล้าเริ่มยาเพราะนั่นหมายถึงคุณกำลังพลาด
00:10:44 → 00:10:47 โอกาสในการป้องกันโรคที่อันตรายถึงชีวิต
00:10:47 → 00:10:47 ครับ
00:10:47 → 00:10:50 >> คำถามที่ 2 ค่ะถ้าปวดนิดหน่อยต้องหยุดยา
00:10:50 → 00:10:51 เลยไหม
00:10:51 → 00:10:54 >> ไม่ควรหยุดเองเด็ดขาดครับถ้าอาการปวดไม่
00:10:54 → 00:10:57 รุนแรงมากให้ลองสังเกตอาการและทำกิจกรรม
00:10:57 → 00:11:00 ในชีวิตประจำวันต่อไปได้แต่ถ้าอาการแย่ลง
00:11:00 → 00:11:04 จนรบกวนการใช้ชีวิตให้รีบปรึกษาแพทย์ครับ
00:11:04 → 00:11:06 การหยุดยาโดยไม่มีคำแนะนำจากแพทย์ถือเป็น
00:11:06 → 00:11:08 ความเสี่ยงที่ร้ายแรงมาก
00:11:08 → 00:11:11 >> คำถามที่ 3 กินโคอนไซมคิวทนช่วยป้องกัน
00:11:12 → 00:11:13 อาการปวดกล้ามเนื้อได้จริงไหม
00:11:13 → 00:11:17 >> โคไซม Q1 มีบทบาทสำคัญในการผลิตพลังงานใน
00:11:17 → 00:11:20 เซลล์กล้ามเนื้อครับและมีงานวิจัยบางชิ้น
00:11:20 → 00:11:23 ที่บอกว่าการเสริมตัวนี้อาจช่วยลดอาการ
00:11:23 → 00:11:26 ได้ในบางคนแต่หลักฐานทางวิชาการอย่างไม่
00:11:26 → 00:11:29 ชัดเจนในทุกกรณีทางที่ดีที่สุดคือปรึกษา
00:11:29 → 00:11:32 แพทย์ก่อนเสมอครับเพราะแพทย์จะสามารถให้
00:11:32 → 00:11:34 คำแนะนำที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้
00:11:34 → 00:11:37 >> คำถามสุดท้ายถ้าหยุดยาสตาตินแล้วจะเกิด
00:11:37 → 00:11:38 อะไรขึ้น
00:11:38 → 00:11:41 >> สิ่งที่เกิดขึ้นคือระดับไขมันในเลือดจะ
00:11:41 → 00:11:43 กลับมาสูงขึ้นอย่างรวดเร็วภายในไม่กี่
00:11:43 → 00:11:46 สัปดาห์ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ
00:11:46 → 00:11:49 และหลอดเลือดได้ทันทีครับการหยุดยาโดยไม่
00:11:49 → 00:11:51 มีคำแนะนำจากแพทย์จึงเป็นเรื่องอันตราย
00:11:51 → 00:11:54 ที่ต้องหลีกเลี่ยงครับจำไว้เสมอครับว่ายา
00:11:54 → 00:11:58 สตาตินไม่ใช่วิตามินที่เราจะกินหยุดได้
00:11:58 → 00:12:00 ตามใจชอบแต่เป็นยาที่ต้องกินอย่างต่อ
00:12:00 → 00:12:03 เนื่องเพื่อควบคุมความเสี่ยงของโรคในระยะ
00:12:03 → 00:12:06 ยาวครับสุดท้ายนี้ครับจากที่ได้คุยกันมา
00:12:06 → 00:12:10 ทั้งหมดสตาตินเป็นยาที่มีประสิทธิภาพสูง
00:12:10 → 00:12:12 และมีความสำคัญอย่างยิ่งในการป้องกันโรค
00:12:12 → 00:12:16 หลอดเลือดหัวใจและหลอดเลือดสมองอาการปวด
00:12:16 → 00:12:18 กล้ามเนื้อที่หลายคนกังวลนั้นเกิดขึ้นกับ
00:12:18 → 00:12:22 คนส่วนน้อยมากและในหลายกรณีก็มาจากสาเหตุ
00:12:22 → 00:12:23 อื่นที่เราคาดไม่ถึง
00:12:23 → 00:12:25 >> สรุปแล้วสิ่งที่เราต้องจำไว้เป็นอันดับ
00:12:26 → 00:12:29 แรกเลยก็คือห้ามหยุดยาเองและปรึกษาแพทย์
00:12:29 → 00:12:31 ทุกครั้งที่มีอาการผิดปกติใช่มั้ยคะ
00:12:31 → 00:12:33 >> ถูกต้องเลยครับเพราะการรับยาอย่างต่อ
00:12:33 → 00:12:36 เนื่องตามคำแนะนำของแพทย์คือหัวใจสำคัญ
00:12:36 → 00:12:39 ของการรักษาและเป็นก้าวแรกที่จะทำให้คุณ
00:12:39 → 00:12:42 มีสุขภาพที่ดีในระยะยาว
00:12:42 → 00:12:44 >> เกดว่าการได้ข้อมูลที่ถูกต้องแบบนี้ทำให้
00:12:44 → 00:12:47 เกดและผู้ชมทุกคนสบายใจขึ้นมากเลยค่ะ
00:12:47 → 00:12:49 >> การมีความรู้ที่ถูกต้องจะช่วยให้เราตัด
00:12:49 → 00:12:52 สินใจได้อย่างชานฉลาดและปลอดภัยที่สุด
00:12:52 → 00:12:54 ครับเหมือนสโลแกนที่เรายึดถือมาตลอด
00:12:55 → 00:12:57 สุขภาพดีเริ่มต้นจากความเข้าใจ
00:12:57 → 00:13:00 >> สำหรับวันนี้พวกเรา 2 คนต้องขอลาไปก่อน
00:13:00 → 00:13:04 แล้วพบกันใหม่ในตอนหน้าสวัสดีค่ะสุขภาพดี
00:13:04 → 00:13:09 เริ่มต้นจากความเข้าใจ
00:13:09 → 00:13:12 [เพลง]