00:00:00 → 00:00:03 พอพูดเบาก็ไม่ได้ยินพอพูดดังก็หาว่าตะคอก
00:00:03 → 00:00:06 บ้านไหนผู้สูงอายุกำลังมีปัญหาเรื่องภาวะ
00:00:06 → 00:00:09 หูตึงวันนี้บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแล
00:00:09 → 00:00:15 เป็นพ่อแม่ของคนเจนลูกจะคุยกันในวันนี้นะ
00:00:15 → 00:00:19 ครับถ้าเราพูดถึงเรื่องหูตึงก่อนนี่นะ
00:00:19 → 00:00:21 ครับแสดงว่าคนที่เข้ามาในนี้บางคนนี่มี
00:00:21 → 00:00:23 ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์มาด้วยสิครับใช่
00:00:23 → 00:00:26 เลยครับก็เริ่มปีกตัวออกจากสังคมเพราะว่า
00:00:26 → 00:00:30 เขรู้สึกพูดแล้วไม่มีใครตอบสนองเคอืไม่มี
00:00:30 → 00:00:32 ใครอยากพูดกับเขาที่
00:00:32 → 00:00:35 บ้านผมก็เข้าใจทางญาติหรือคนที่อยู่นะ
00:00:35 → 00:00:38 ครับว่าก็พูดเหมือนตะโกนเราก็คงไม่อยาก
00:00:38 → 00:00:40 ตะโกนตลอดเวลาถ้าผู้สูงอายุหรือผู้ที่สูญ
00:00:40 → 00:00:44 เสียกดินอยู่คอนโดอ่ะพี่ประสานอืและไฟ
00:00:44 → 00:00:46 ไหม้เสียงกิ่งเนี่ยเขาไม่ได้ยินนะพี่ก็มา
00:00:46 → 00:00:48 รู้ตัวอีกทีก็เสียชีวิต
00:00:48 → 00:00:52 [เพลง]
00:00:52 → 00:00:55 ครับผมเข้าใจว่าหลายๆครอบครัวนะครับพอที่
00:00:55 → 00:00:58 บ้านมีผู้สูงอายุในบ้านหรือว่าพ่อแม่อายุ
00:00:58 → 00:01:00 มากขึ้นภาวะอย่างหนึ่งที่จะจะเจอก็จะพบ
00:01:01 → 00:01:03 ว่าพ่อแม่นั้นฟังไม่ค่อยได้ยินนะครับหรือ
00:01:03 → 00:01:05 พูดง่ายๆว่าไม่แน่ใจว่าพ่อแม่ตัวเองนั้น
00:01:05 → 00:01:07 หูตึงหรือเปล่าหรือบางคนก็อาจจะรู้สึกว่า
00:01:07 → 00:01:10 ภาวะหูตึงนั้นเป็นเรื่องที่เป็นเรื่อง
00:01:10 → 00:01:12 ปกติธรรมดาสำหรับคนที่มีอายุมากๆแล้วนะ
00:01:13 → 00:01:15 ครับแต่ไม่แน่นะครับเรื่องภาวะหูตึงนี่
00:01:15 → 00:01:18 นอกจากความสัมพันธ์ในครอบครัวจะอาจจะมี
00:01:18 → 00:01:21 ปัญหาแล้วแต่อาจจะส่งผลกระทบต่อความป่วย
00:01:21 → 00:01:23 ไข้หรือว่าโรคภัยต่างๆของผู้สูงอายุใน
00:01:23 → 00:01:25 บ้านด้วยก็ได้นะครับเพราะฉะนั้นวันนี้เรา
00:01:25 → 00:01:27 จะมาคุยเรื่องนี้กันนะครับวันนี้เราจะคุย
00:01:27 → 00:01:29 กับคุณวุฒิจารุ
00:01:30 → 00:01:32 ผู้ก่อตั้งบริษัท hearing care Center
00:01:32 → 00:01:34 ศูนย์จำหน่ายเครื่องช่วยฟังนะครับสวัสดี
00:01:34 → 00:01:37 ครับคุณวุฒสวัดีครับพี่ศาครับสวัสดีครับ
00:01:37 → 00:01:39 เอาเลยครับคำถามแรกเลยครับจริงมั้ครับที่
00:01:39 → 00:01:42 ว่าอายุมากๆแล้วต้องหู
00:01:42 → 00:01:43 [เพลง]
00:01:44 → 00:01:48 ตึงก็ต้องเรียนวิ 3 ว่าจริงครับก็ภาวะหู
00:01:48 → 00:01:51 ตึงเนี่ยหรือถ้าทางการแพทย์เเรียกว่าการ
00:01:51 → 00:01:54 สูญเสียการได้ยินนะครับก็เกิดขึ้นได้เป็น
00:01:54 → 00:01:57 ปกติเพราะร่างกายมนุษย์เนี่ยเมื่ออายุมาก
00:01:57 → 00:02:00 ขึ้นก็เสื่อมสะสายไปตามวัยคล้ายกับสายตา
00:02:00 → 00:02:04 เราที่เราใส่แว่นกันทั้งคู่ก็ตอนแรกอายุ
00:02:04 → 00:02:06 น้อยๆก็สายตาสั้นเนาะพี่ประสานหลังๆก็จะ
00:02:07 → 00:02:09 เริ่มยาวขึ้นมันเป็นเรื่องปกติครับใช่
00:02:09 → 00:02:13 ครับแต่ปกติแล้วเนี่ยไม่ได้หมายความว่า
00:02:13 → 00:02:16 เราไม่ควรป้องกันหรืออวรมันดังนั้นอ่า
00:02:16 → 00:02:19 ยิ่งโดยเฉพาะคนที่อยู่ด้วยลูกหลานเนี่ยก็
00:02:19 → 00:02:22 ควรจะเข้าใจครับเพราะว่าปัจจุบันแล้ว
00:02:22 → 00:02:25 เนี่ยการสูญเสียการได้ยินนะครับไม่มียา
00:02:25 → 00:02:29 หรือการรักษาที่ทำให้หายขาดได้แต่มันช่วย
00:02:29 → 00:02:33 ชลองและบรรเทาแล้วก็ช่วยให้สุขภาพจิตและ
00:02:33 → 00:02:35 การใช้ชีวิตของผู้ที่สูญเสียการได้ยิน
00:02:35 → 00:02:38 เนี่ยดีขึ้นหรือดีกว่าที่เป็นอยู่ฮะแล้ว
00:02:38 → 00:02:40 ส่วนใหญ่คนที่เข้ามาหาคุณวุฒิคือเข้ามา
00:02:40 → 00:02:42 ที่ศูนย์นี่มาซื้อเครื่องมือนี่ส่วนใหญ่
00:02:42 → 00:02:44 อายุประมาณเท่าไหร่ครับต้องเรียนว่าในทาง
00:02:44 → 00:02:46 การแพทย์อ่ะครับเราจะพบผู้ที่สูญเสียการ
00:02:46 → 00:02:49 ได้ยินเนี่ยตั้งแต่อายุ 50 ปีขึ้นไปครับ
00:02:49 → 00:02:53 อ่าแล้วก็เคยมีงานวิจัยของสาธารณสุขพบว่า
00:02:53 → 00:02:58 อ่า 1 ใน 3 ของผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 65 -
00:02:58 → 00:03:01 74 ครับมีมีภาวะการสูญเสียการได้ยินนะ
00:03:01 → 00:03:04 ครับพี่ประสาท 1 ใน 3 เลยนะครับเดินมา 3
00:03:04 → 00:03:06 คนนี่มีประ 1 1 คนแต่เราไม่ทราบแล้วก็
00:03:06 → 00:03:09 คิดว่าเป็นเรื่องปกติก็แก่แล้วก็ต้องได้
00:03:09 → 00:03:12 ยินเป็นได้ยินไม่ชัดเป็นธรรมดาถูกต้อง
00:03:12 → 00:03:15 ครับเพราะมันเป็นถึง 1 ใน 3 ครับแต่เราก็
00:03:15 → 00:03:18 ต้องเรียนรู้แล้วก็จะอยู่แล้วก็อาจจะต้อง
00:03:18 → 00:03:21 มีอุปกรณ์ช่วยเหลือเพื่อทำให้คุณภาพชีวิต
00:03:21 → 00:03:23 ของผู้ที่สูญเสียการได้ยินเนี่ยดีขึ้น
00:03:23 → 00:03:25 เท่าที่มันจะเป็นไปได้ครับอ่าครับเนี่ย
00:03:25 → 00:03:27 ครับเพราะว่าในคอมเมนต์ที่เราถามเข้าไปใน
00:03:28 → 00:03:30 มนุษย์ต่างวัยนะครับก็ก็มีบรรดลูกๆมาแสดง
00:03:30 → 00:03:32 ความคิดเห็นพอสมควรนะครับก็บอกว่ามีคนนึง
00:03:32 → 00:03:36 บอกว่าคุณแม่อายุ 102 ปีโหอันนี้ก็น่าจะ
00:03:36 → 00:03:39 ก็น่าจะหูไม่ดีบอกว่าต้องตะโกนคุยกันนะ
00:03:39 → 00:03:42 ครับพอตะโกนก็หาว่าลูกเสียงดังใส่แม่แล้ว
00:03:42 → 00:03:44 ก็บอกว่ามันบาปนะลูกเสียงดังใส่แม่นะครับ
00:03:44 → 00:03:47 ใครไม่รู้ก็จะคิดว่าทะเลาะกันบอกว่าคุย
00:03:47 → 00:03:49 ด้วยเหนื่อยแต่ก็สงสารมากกว่าเพราะทำให้
00:03:49 → 00:03:51 คนแก่ไม่งั้นถ้าไม่คุยด้วยคนแก่จะต้อง
00:03:51 → 00:03:53 อยู่ในโลกเงียบๆคนเดียวนะครับเ่าบางบ้าน
00:03:53 → 00:03:55 ก็บอกว่ากำลังหาวิธีการแก้ไขปัญหานี้อยู่
00:03:55 → 00:03:58 กลับมาดูแลพ่อแม่ยามชราที่ต่างจังหวัดคุย
00:03:58 → 00:04:00 กับพ่ออายุ 81 แต่อันนี้มีอาการสมอง
00:04:00 → 00:04:03 เสื่อมนะครับคุณแม่อายุ 79 ก็มีอาการหู
00:04:03 → 00:04:05 ตึงแถมไม่เคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันมานาน
00:04:06 → 00:04:08 หลายสิบปีพอคุยกันก็จะรู้สึกว่าเสียงดัง
00:04:08 → 00:04:11 แล้วก็มีปัญหาในเชิงความสัมพันธ์ด้วยนะ
00:04:11 → 00:04:14 ครับถ้าเราพูดถึงเรื่องหูตึงก่อนนี่นะ
00:04:14 → 00:04:17 ครับแสดงว่าคนที่เข้ามาในนี้บางคนนี่มี
00:04:17 → 00:04:18 ปัญหาเรื่องความสัมพันธ์มาด้วยสิครับใช่
00:04:19 → 00:04:22 เลยครับก็ปกติแล้วอย่างที่คอมเมนต์ที่พี่
00:04:22 → 00:04:24 ประสานอ่านมาแล้วครับเป็นคลาสสิกจริงๆ
00:04:24 → 00:04:26 ต้องเรียนว่าไม่ใช่เฉพาะคนผู้สูงอายุนะ
00:04:26 → 00:04:31 ครับอือวัยรุ่นอย่างเราสามีมีภรรยาพี่
00:04:31 → 00:04:34 น้องก็มีเป็นปกติเลยครับเพราะถ้าพี่
00:04:34 → 00:04:36 ประสาทได้อยู่แล้วมีลูกค้าจริงเนี่ยเราจะ
00:04:36 → 00:04:38 เห็นว่าเราเหมือนทะเลาะกันเพราะเไม่ได้
00:04:38 → 00:04:41 ยินพี่ภาษาเาก็เลยต้องเร่งเสียงไงครับพี่
00:04:41 → 00:04:43 ดังนั้นคนที่เข้ามาเนี่ยก็จะมีปัญหา
00:04:43 → 00:04:46 เรื่องความสัมพันธ์เป็นส่วนมากเลยครับอื
00:04:47 → 00:04:50 สมความสัมพันธ์เช่นก็อ่าอย่างที่ผมเจอนะ
00:04:50 → 00:04:53 ครับมันเหมือนเรื่องตลกนะพี่สามีภรรยา
00:04:53 → 00:04:56 สามีเริ่มสูญเสียการได้ยินได้ยินเสียง
00:04:56 → 00:05:00 ภรรยาไม่ชัดแต่ได้ยินเสียงน้องๆเจ้าหน้า
00:05:00 → 00:05:03 ที่ผู้หญิงชัดก็ความถี่ไม่เท่ากันนครับ
00:05:03 → 00:05:05 แม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกันอ้าเขาได้ยิน
00:05:05 → 00:05:08 เสียงเจ้าหน้าที่ผมชัดอ่ะแต่ภรรยาอยู่
00:05:08 → 00:05:11 ด้วยกันข้างๆเรียกเออไม่ชัดมันเป็นเรื่อง
00:05:11 → 00:05:13 ปกติที่เกิดข้นได้เพียงแต่เราไม่ทราบเรา
00:05:13 → 00:05:17 ก็ต้องอธิบายว่าเอ้ยอครับเคผู้ที่สูญเสีย
00:05:17 → 00:05:20 การได้ยินมีภาวะแบบนี้นะอืๆการได้ยิน
00:05:20 → 00:05:22 เสียงแต่ละคนแม้จะเป็นผู้หญิงเหมือนกัน
00:05:22 → 00:05:24 ผู้ชายเหมือนกันความถี่มันแตกต่างกันครับ
00:05:25 → 00:05:28 สมมุติผมนี่อาจจะได้ยินเสียงคุณวุฒแต่พอ
00:05:28 → 00:05:30 อาจผมอาจจะน้องช่างภาพพูดบางทีผมอาจจะไม่
00:05:30 → 00:05:32 ได้ยินเสียงถูกต้องครับอาจจะได้ยินเป็น
00:05:32 → 00:05:35 บางคำนี่ก็เป็นปัญหาสำคัญว่าเอ๊ะไม่ใช่
00:05:35 → 00:05:38 ผู้ที่สูญเสียการได้ยินครับพี่ศาทไม่ใช่
00:05:38 → 00:05:40 ไม่ได้ยินเลยนะฮะได้ยินครับแต่ได้ยินเป็น
00:05:40 → 00:05:44 บางคำหรือได้ยินแต่จับคำพูดไม่ได้ซึ่งตรง
00:05:44 → 00:05:47 เนี้ยจะเป็นปัญหาของผู้สูงอายุอย่างมาก
00:05:47 → 00:05:49 ไม่ใช่ท่านไม่ได้ยินนะท่านได้ยินแต่ท่าน
00:05:49 → 00:05:52 ได้ยินเป็นบางคำและท่านก็จะพยายามว่าเข้า
00:05:52 → 00:05:55 ใจบงคแล้วเราหรือลูกหลานหรือคนที่อยู่
00:05:55 → 00:05:58 ด้วยก็จะคิดว่าท่านน่ะแกล้งเช่นสมมุติว่า
00:05:58 → 00:06:02 เอ่อหิวข้าวหรือยังอ่าอยากจะวันนี้อยากจะ
00:06:02 → 00:06:05 กินอะไรแต่เขาอาจจะได้ยินั้ทั้งหมดกินยิน
00:06:05 → 00:06:08 ใช่ได้ยินว่าอยากกินอ่าแล้วคืออะไรอ่ะมี
00:06:08 → 00:06:11 กรณีอื่นอีกมั้ยครับที่แบบการไม่ได้ยิน
00:06:11 → 00:06:14 นี่มันส่งผลต่อความสัมพันธ์นอกจากสามี
00:06:14 → 00:06:18 ภรรยาที่ไม่เมสักครอันเนี้ยก็มีครอบครัว
00:06:18 → 00:06:23 นึงครับก็เป็นอ่าเป็นคล้ายๆเอ่อแม่เลี้ยง
00:06:23 → 00:06:27 เดี่ยวที่เลี้ยงลูกเลี้ยงเลี้ยงพี่น้องมา
00:06:27 → 00:06:30 ก็มีหลายเจนตั้งแต่เจนที่อายุใกล้เคียง
00:06:30 → 00:06:33 กันพี่น้องกันอคุณป้าน่าจะประมาณสัก 60
00:06:33 → 00:06:36 ต้นๆอประเด็น
00:06:36 → 00:06:40 คือพี่น้องเสียงของพี่น้องตัวเองไม่ได้
00:06:40 → 00:06:45 ยินอืแต่ลูกหลานได้ยินเค้าก็มีปัญหาว่า
00:06:45 → 00:06:48 แกล้งเหรอไม่ได้อยากได้ยินเาก็คงมีพี่
00:06:48 → 00:06:50 น้องอเนาะมันก็คงมีเรื่องทะเลากันเป็น
00:06:50 → 00:06:53 ปกติแต่กลายเป็นว่าอ้าวเธอไม่ใช่ไม่ได้
00:06:53 → 00:06:56 ยินน่ะแล้วก็มาทะเลาะกันในร้านเลยครับมา
00:06:56 → 00:06:58 พูดมาพูดอีกฝ่ายนึงก็ขึ้นเสียเหมือนกัน
00:06:58 → 00:07:01 ว่าเฮ้ยครับไอ้คนที่หูปกตินะครับว่าอ้าว
00:07:01 → 00:07:04 เธอแกล้งเหรออะไรอย่างเงี้ยเพราะเธอก็ได้
00:07:04 → 00:07:07 ยินนิแต่ไม่ได้รู้เลยว่าจริงๆแล้วเขาสูด
00:07:07 → 00:07:09 เสียอย่างที่เราเรียนนะครับเสูญเสียเป็น
00:07:09 → 00:07:12 บางคำเป็นบางความถี่อืความถี่ที่ลูกหลาน
00:07:12 → 00:07:15 ที่เขาพูดและได้ยินน่ะก็อาจจะเป็นความถี่
00:07:15 → 00:07:18 ที่เขาไม่สูญเสียไงพี่ประสานแต่ญาติคุณ
00:07:18 → 00:07:21 น้องอของตัวเองเนี่ยครับเขาอาจจะสูญเสีย
00:07:22 → 00:07:25 ความถี่นไงครับเลยทำให้ไม่ได้ยินหรือได้
00:07:25 → 00:07:27 ยินเป็นบางคำมันเหมือนแกล้งพี่ประสาอเพ
00:07:27 → 00:07:29 แสดงแสดงว่ามันก็เป็นเรื่องละเอียดอ่อน
00:07:30 → 00:07:32 เหมือนกันเนาะเพราะบางเพราะบางทีเราเช่น
00:07:32 → 00:07:34 บางทีเราจะได้ยินบางคนไม่ได้ยินบางคนบาง
00:07:34 → 00:07:37 ทีทำให้เราไม่สามารถที่จะแบบชี้ชัดได้ว่า
00:07:37 → 00:07:40 เอ๊ะตกลงเป็นนะเพราะอะไรเราเป็นเพราะอะไร
00:07:40 → 00:07:41 การได้ยินของเราเสื่อมรือเปล่าอะไรอย่าง
00:07:41 → 00:07:44 งี้นะครับปกติแล้วอ่ะครับการสูญเสียการ
00:07:44 → 00:07:47 ได้ยินครับพี่ประสานจะเริ่มจากเสียงสูง
00:07:47 → 00:07:50 เป็นส่วนมากอืถ้าเสียงต่ำได้ยินผู้ชาย
00:07:50 → 00:07:53 เสียงต่ำออผู้หญิงเสียงสูงอ่าอย่างเงี้ย
00:07:53 → 00:07:56 ครับมันอ๋อปกติเราเราจะไม่เข้าใจว่าเราจะ
00:07:56 → 00:07:58 ได้ยินเสียงคนพูดเสียงต่ำไม่ชัดแต่จริงๆ
00:07:58 → 00:08:00 บางทีเราจะสุดเสียการได้ยินจากเสียงสูง
00:08:00 → 00:08:03 ส่วนมากจากเสียงสูงก่อนดึงเป็นที่มาว่า
00:08:03 → 00:08:06 ภรรยาผู้หญิงส่วนมากเสียงสูงไม่ได้ยินแต่
00:08:06 → 00:08:10 ผู้หญิงบางคนคือปกติแล้วถ้าได้ยินภรรยา
00:08:10 → 00:08:12 ไม่ชัดแล้วได้ยินผู้หญิงคนอื่นไม่ชัดไม่
00:08:12 → 00:08:15 มีปัญหาแต่บางทีมีจริงๆครับก็อย่างที่ผม
00:08:15 → 00:08:17 เล่าคือน้องเจ้าหน้าที่อ่ะพูดแล้วได้ยิน
00:08:17 → 00:08:21 อืก็อ้าวทำไมแตกต่างเพราะแม้เสียงสูงแต่
00:08:21 → 00:08:23 คลื่นความถี่ก็แตกต่างอใช่ภรรยาก็บอกว่า
00:08:23 → 00:08:25 ทำไมฉันพูดเธอไม่ได้ยินแต่น้องผู้หญิงคน
00:08:25 → 00:08:27 อื่นพูดเธอได้ยินใช่ครับเนี่ยพี่ประสาและ
00:08:27 → 00:08:31 อีกประเด็นนึงสำคัญก็คือถ้าภรรยาอาจจะติด
00:08:31 → 00:08:34 การพูดเร็วอืๆพูดรัวๆครับคนที่สูญเสียกาย
00:08:34 → 00:08:38 ได้ยินต้องพูดเป็นประโยคสั้นๆชะช้าครับอื
00:08:38 → 00:08:41 อ่าดังนั้นการเรียนรู้ที่จะอยู่กับผู้ที่
00:08:41 → 00:08:43 สูญเสียการได้ยินหรือผู้สูงอายุเนี่ยก็
00:08:43 → 00:08:46 ควรจะมีการเรียนรู้แล้วก็ปรับวิธีการใช้
00:08:46 → 00:08:50 ชีวิตในการพูดกับท่านการให้การศึกษาการ
00:08:50 → 00:08:53 สื่อสารการบอกกันเป็นเรื่องสำคัญมากโดย
00:08:53 → 00:08:56 เฉพาะผู้ที่อยู่ด้วยลูกหลานอันนี้สำคัญ
00:08:56 → 00:08:58 มากไม่ใช่เฉพาะตัวที่ผู้สูญเสียการได้ยิน
00:08:58 → 00:09:01 อย่างเดียวนะครับอเสูเสียการได้ยินเขก็
00:09:01 → 00:09:03 รู้สึกเรู้สึกแย่อยู่แล้วเป็นเรื่องปกติ
00:09:03 → 00:09:07 ครับคือคนคนเคยทำได้คนเคยได้ยินแต่เราคน
00:09:07 → 00:09:09 ที่อยู่รอบข้างต่างหากล่ะที่ควรจะให้ความ
00:09:09 → 00:09:12 สำคัญและเข้าใจเขาอ่าครับแล้วเพราะฉะนั้น
00:09:12 → 00:09:16 คำถามก็คือว่าแล้วเราจะรู้ได้ไงว่ากำลัง
00:09:16 → 00:09:19 ผู้สูงอายุที่บ้านกำลังมีภาวะหูตึงหรือ
00:09:19 → 00:09:23 ยังหรือว่าสูญเสียการได้ยินแล้วหรือ
00:09:23 → 00:09:27 ยหลักการง่ายๆเลยครับให้สังเกตประมาณ 4-5
00:09:27 → 00:09:30 ประการครับอย่างแรกก็คือผู้สูงอายุท่าน
00:09:30 → 00:09:34 นั้นเนี่ยใช้ชีวิตแล้วเริ่มเปิดทีวีดัง
00:09:34 → 00:09:37 ขึ้นมั้ยอืหรือของเรามายุคปัจจุบันหน่อย
00:09:38 → 00:09:41 เวลาคู่มือถือครับทำไมพี่ประสาน่าจะเคย
00:09:41 → 00:09:45 เห็นคนที่เราเดินไปในที่สาณะแล้วฟังมือ
00:09:45 → 00:09:48 ถือเนี่ยเผื่อแผ่เราได้ยินหมดเลยอ่าใช่ๆ
00:09:48 → 00:09:50 ใช่มั้ยเราก็เคดอืเเป็นอะไรอ่ะหรือบางคน
00:09:50 → 00:09:53 ไม่แน่ผูแต่บางคนเปิดเป็นสปีกเกอร์แล้ว
00:09:53 → 00:09:58 แล้วดังแบบมากๆอ่านี้ก็แวร์ได้เลยหรืออ
00:09:58 → 00:10:01 เป็นกรณีที่
00:10:01 → 00:10:05 เริ่มที่ออกไปข้างนอกที่ที่มีเสียงจอแจ
00:10:05 → 00:10:09 เช่นตลาดเซเว่นอย่างเงี้ยครับเริ่มไม่ได้
00:10:09 → 00:10:13 ยินเริ่มไม่เรียกไม่หันเราก็จะเจอสังเกต
00:10:13 → 00:10:16 ง่ายๆเลยว่าเนี่ยแหละคือเริ่มต้นแล้วว่า
00:10:16 → 00:10:19 มีการสูญเสียการได้ยินและออแสดงว่าเริ่ม
00:10:19 → 00:10:22 มีภาวะที่เราจะสังเกตกันใช่ครับง่ายๆเลย
00:10:22 → 00:10:25 ครับแล้วก็ควรไปพบแพทย์ครับไปพบแพทคไปเช็
00:10:25 → 00:10:28 ใช่ครับแล้วปกติแล้วการสูญเสียการได้ยิน
00:10:28 → 00:10:30 นะครับมันก็จะเริ่มจากสตจที่น้อยก่อนอ่า
00:10:30 → 00:10:33 เช่นหูตึงเล็กน้อยแต่ทางการแพทย์ก็จะมี
00:10:33 → 00:10:34 ระบุเลยนะครับว่าเป็นยังไงขึ่นความถี่
00:10:34 → 00:10:36 เท่าไหร่หูตึงเล็กน้อยเราเราจะไม่ได้ยิน
00:10:36 → 00:10:40 อะไรบ้างเราจะเริ่มไม่ได้ยินเสียงกระซิบ
00:10:40 → 00:10:43 อือ่าวิธีสังเกตง่ายๆคือถ้ากระซิบแล้วเคย
00:10:43 → 00:10:46 ได้ยินเนี่ยครับแล้วถ้าเริ่มมีปัญหาการ
00:10:46 → 00:10:49 สูญเสียการได้ยินก็คือเรื่องเสี่ยงกับสิ
00:10:49 → 00:10:52 ไม่ได้ยินครับปกติคนเราถ้าสื่อสารกันเรา
00:10:52 → 00:10:54 จะมองหน้ากันและเราจะเห็นว่าพี่ประสานมี
00:10:54 → 00:10:57 ปากขยับใช่บางคนผู้สวนเสียการได้ยินเนี่ย
00:10:57 → 00:11:00 ใช้วิธีการอ่านปากด้วยนะครับถ้าอย่างปกติ
00:11:00 → 00:11:02 แล้วเนี่ยถ้าพยัญชนะบังแต่ไม่ได้เป็นทุก
00:11:02 → 00:11:04 คนนะฮะไม่ได้เป็นทุกท่านส่วนมากถ้าเป็นหู
00:11:04 → 00:11:09 ตึงเล็กน้อยเนี่ยเราก็จะเจอว่าคฟันสอเสือ
00:11:09 → 00:11:12 อ่าหอหีบอะไรเงี้ยตามตารางเนี่ยครับก็จะ
00:11:12 → 00:11:15 เริ่มไม่ได้ยินดังนั้นพยัญชนะอะไรที่เป็น
00:11:15 → 00:11:20 ตัวสะกดในคำพูดนั้นก็จะเริ่มมีประเด็นว่า
00:11:20 → 00:11:23 ได้ยินเป็นบางคำและบางคำไม่ได้ยินอ๋อ
00:11:23 → 00:11:26 ประมาณนี้ครับครับอันนี้กรณีหูตึงเล็ก
00:11:26 → 00:11:28 น้อยก็จะมีบางตัวไม่ได้ยินเพราะถัดไปถัด
00:11:28 → 00:11:31 จากหูตึงก็จะเป็นหูตึงปานกลางครับปานกลาง
00:11:31 → 00:11:34 นี่ก็จะเริ่มว่าเวลาเราพูดสนทนากันปกติ
00:11:34 → 00:11:37 อย่างเงี้ยครับจะเริ่มไม่ได้ยินอออคืออัน
00:11:38 → 00:11:40 นี้สนทนาปกติปกติแลใช่ครับอันนี้เเรียกหู
00:11:40 → 00:11:42 ตึงปานกลางอย่างอย่างหูตึงปานกลางมันก็จะ
00:11:42 → 00:11:46 มีบอกอกันพยัญชนะบางตัวที่จะไม่ได้ยินอีก
00:11:46 → 00:11:50 เหมือนยยักษ์มม้าดเด็กปปลาบไมม้าอย่าง
00:11:50 → 00:11:53 เงี้ยครับเริ่มมีเขเพราะฉะนั้นคำบางคำที่
00:11:53 → 00:11:56 มันมีพยัญชนะพวกนี้อยู่มันก็เลยจะทำให้เ
00:11:56 → 00:11:58 ก็ไม่ได้ยินคำพวกนั้นเไม่ได้ยินจริงๆครับ
00:11:58 → 00:12:01 พี่เไม่ได้ไม่ได้ยินทั้งประโยคเไม่ได้ยิน
00:12:01 → 00:12:04 เฉพาะคำที่มีพัญชนะแบบนี้อครับครับครับ
00:12:04 → 00:12:08 อ่าแต่พอเลยสเตจปานกลางไปหูตึงมาก
00:12:08 → 00:12:10 อันเนี้ยไม่มีตัวอักษรแล้วครับเพราะจะ
00:12:10 → 00:12:13 เริ่มไม่ได้ยินและอืๆเสียงเครื่องดูดฝุ่น
00:12:13 → 00:12:17 พี่ประสานซึ่งก็ดังนะซึ่งดังมากอเริ่มไม่
00:12:17 → 00:12:20 ได้ยินออเสียงเด็กร้องไห้ครับเริ่มไม่ได้
00:12:20 → 00:12:23 ยินอครับประมาณนี้ครับถ้าถ้าเปรียบเทียบ
00:12:23 → 00:12:25 ง่ายๆเป็นการใช้ชีวิตประจำวันก็จะเป็น
00:12:25 → 00:12:29 ลักษณะประมาณนี้แล้วมันก็จะมีแต่สตตครับ
00:12:29 → 00:12:31 คงที่กับสูงขึ้นเรื่อยๆซึ่งตงนี้เราก็จะ
00:12:31 → 00:12:34 เริ่มเห็นความเปปลี่ยนแปลงหรือหรือผล
00:12:34 → 00:12:36 กระทบในชีวิตมันก็จะค่อยๆตามใช่ครับตรง
00:12:36 → 00:12:38 นี้ก็เป็นประเด็นที่ดีครับพี่ประสานเพราะ
00:12:38 → 00:12:41 ว่าปกติแล้วเนี่ยการเริ่มสูญเสียการได้
00:12:41 → 00:12:44 ยินเนี่ยครับมันจะเริ่มจากน้อยๆก่อนและ
00:12:44 → 00:12:47 เราก็จะรู้สึกเป็นเรื่องปกติไม่สนใจแล้ว
00:12:47 → 00:12:50 มันก็จะสเตดขึ้นเรื่อยๆอย่างที่ผมเรียนไป
00:12:50 → 00:12:53 เมื่อกี้จนมาส่วนมากที่เจอนะครับก็จะเป็น
00:12:53 → 00:12:57 หูตึงมากขึ้นไปและที่จะมาหาอพอเริ่มผล
00:12:57 → 00:12:59 กระทบแล้วพี่ถ้า
00:12:59 → 00:13:01 ไม่ได้ยินเสียงสนทนาเนี่ยหรือไม่ได้ยิน
00:13:01 → 00:13:03 เสียงเครื่องดูดฝุ่นเสียงเด็กร้องเนี่ย
00:13:03 → 00:13:07 ค่อนข้างหนักะออ่าก็จะเริ่มมาหาแพทย์หรือ
00:13:07 → 00:13:09 มาหาหมอหรือมาสูญเครื่องช่วยฟังกันช่วง
00:13:09 → 00:13:12 นั้นแหละครับผมผมคิดว่าปัญหานึงของของลูก
00:13:12 → 00:13:15 หลานที่เจอก็คืออยากหวังดีอยากจะซื้อให้
00:13:15 → 00:13:17 พ่อแม่หรือผู้สูงอายุที่บ้านใช้แต่ปรากฏ
00:13:17 → 00:13:21 ซื้อไปเสร็จไม่ได้ใส่เพราะว่าแน่นอนคนคน
00:13:21 → 00:13:24 มีอายุแล้วจะขี้รำคาเนอ่าจะรู้สึกใส่แล้ว
00:13:24 → 00:13:27 มันแปลกปลอมจริงๆแล้วโดยส่วนใหญ่ซื้อไปเข
00:13:27 → 00:13:29 ได้ใช้กันมครับจริงๆตรงนี้เป็นประเด็น
00:13:29 → 00:13:32 สำคัญมากครับพสาคือเคยมีรายงานของกระทรวง
00:13:32 → 00:13:35 สาธารสุขครับที่ไปสำรวจอ่ะนะครับจากผู้
00:13:35 → 00:13:38 สำรวจเนี่ยประมาณ 200 คนที่สูญเสียการได้
00:13:38 → 00:13:42 ยินร้อยละ 29 ครับร้อยละ 29 เลิกใช้
00:13:42 → 00:13:45 เครื่องช่วยฟังตั้งแต่ปีแรกอืมโเยอะ
00:13:45 → 00:13:48 เหมือนกันนะครับ 100 น 30 คนประมาณเกือบๆ
00:13:48 → 00:13:50 30 คนนซื้อไปแล้วไม่ได้ใช้ 30 คไม่ได้
00:13:50 → 00:13:55 ใช้และ 50% ของคนที่ไม่ได้ใช้เกิดจากเข้า
00:13:55 → 00:13:58 ใจว่าเครื่องช่วยฝากมีเสียงรบกวนคืออัน
00:13:58 → 00:14:01 นี้ก็เป็นปัญหาในครอบครัวพี่ศานเอาอยากจะ
00:14:01 → 00:14:05 เป็นเคสที่รู้สึกสะท้อนใจอืเป็นอากงครับ
00:14:05 → 00:14:08 พี่ปสานอายุ 91 ครับอากงยังแข็งแรงครับ
00:14:09 → 00:14:12 ยังเดินเหินได้ลูกชายเป็นคนพามาซึ่งปเป็น
00:14:12 → 00:14:15 ปกติเนาะอ่ามาๆมาจอดรถแต่ปัญหาคือที่ร้าน
00:14:15 → 00:14:18 เแหลที่ถ่ายกวิประสานเนี่ยแต่ลูกชายไม่
00:14:18 → 00:14:20 เข้ามาในร้านเลยครับอืนั่งรออยู่ข้างนอก
00:14:20 → 00:14:23 ทางเจ้าหน้าที่เราเนี่ยก็พยายามเรียกเข้า
00:14:23 → 00:14:26 มา 3-4 รอบเพื่อให้เข้ามาฟังว่าคืออะไร
00:14:26 → 00:14:30 ลูกชายบอกว่าไม่อ่ะเคจะต้องต้องเรียนรู้
00:14:30 → 00:14:33 ที่จะอยู่กับมันต้อง Survive ได้ด้วยตัว
00:14:33 → 00:14:36 เองอยากให้พ่อมาเรียนรู้ด้วยตัวเองเพราะ
00:14:36 → 00:14:39 พ่อก็ต้องทำใช้ตัวเองเขาไม่ได้ใช้ด้วยอ๋อ
00:14:40 → 00:14:42 ซึ่งซึ่งถูกครับเราไม่ได้ใช้หรอกแต่เราก็
00:14:42 → 00:14:45 ต้องช่วยกันมยอ่ะครับว่าเอ้ยเขาใช้ยังไง
00:14:45 → 00:14:47 แบบไหนเพราะเครื่องช่วยฟังเนี่ยมันเล็ก
00:14:47 → 00:14:50 ครับพี่ประสานคนแก่เนี่ยแค่เปลี่ยนถ่าน
00:14:50 → 00:14:52 เปลี่ยนอะไรเนี่ยมันไม่ได้เปลี่ยนกันได้
00:14:52 → 00:14:54 ง่ายๆนะครับแล้วก็เป็นอย่างคาดกับพี่
00:14:54 → 00:14:57 ประสานอพอหลังจากซื้อไปเรียบร้อยหมดแล้ว
00:14:57 → 00:15:01 ครับคุณอากงเนี่ยกลับมาหาเรา 3-4 รอบอื
00:15:01 → 00:15:04 เพราะจำไม่ได้ครับออว่าใช้ยังไงแล้วลูก
00:15:04 → 00:15:06 ชายก็พามานะครับและก็ยังคงไม่เข้ามา
00:15:06 → 00:15:09 เหมือนเดิมครับครับเราก็เลยพยายามถามว่า
00:15:09 → 00:15:13 เฮ้ยมีมีมีมีญาติคนอื่นมั้ยที่อยู่อย่าง
00:15:13 → 00:15:15 เงี้ยก็ปรากฏว่าไม่มีครับอันนี้ก็เป็น
00:15:15 → 00:15:18 สภาวะที่เรารู้สึกว่าเออทำไมเคไม่เข้า
00:15:18 → 00:15:20 มานะถ้าแค่เข้ามาเนี่ยเขาคก็จะบอกหรือ
00:15:20 → 00:15:23 ช่วยเตือนว่าอ๋อทำอย่างงี้ไงครับคุณพ่อ
00:15:23 → 00:15:25 เพราะฉะนั้นเวลามามาใช้อุปกรณ์พวกนี้ต้อง
00:15:25 → 00:15:27 มีลูกมาช่วยดูด้วยเพว่าผู้สอายุอย่าง
00:15:27 → 00:15:30 เดียวไม่ได้คส่วนมากจะแทบไม่มีมาคนเดียว
00:15:30 → 00:15:32 ครับส่วนมากถ้ามาคนเดียวก็จะเป็นคนที่วัย
00:15:32 → 00:15:34 รุ่นหน่อยอายุยังไม่เยอะไม่เกิน 50 เนี่ย
00:15:34 → 00:15:38 มีครับดังนั้นเนี่ยกลับมาเรื่องที่ว่าจาก
00:15:38 → 00:15:41 สถิติของสาธารสุขเนี่ยมันน่าตกใจมากเพราะ
00:15:41 → 00:15:45 ว่าพอไม่ได้ใส่ก็เท่ากับทำให้ทำให้สูญ
00:15:45 → 00:15:48 เสียมากขึ้นอือั้ดังนั้นเนี่ยเป็นเรื่อง
00:15:48 → 00:15:51 สำคัญมากที่ลูกหลานหรือคนที่อยู่ด้วย
00:15:51 → 00:15:54 เนี่ยควรจะต้องกระตุ้นเตือนว่าจะต้องใส่
00:15:54 → 00:15:57 นะและช่วยดูแลครับพี่ภษาว่าอ๋อคุณพ่อคุณ
00:15:57 → 00:16:00 แม่นี่มันปกติมันใช้ได้แลจะได้ให้ท่านใส่
00:16:00 → 00:16:03 อืเพื่อไม่ให้ซื้อไปแล้วก็วางวางทิ้งก็
00:16:03 → 00:16:06 ไม่ได้ใช้ก็เป็นการสูญเสียเก็จะสูญเสีย
00:16:06 → 00:16:08 การได้ยินมากขึ้นส่วนมากจะมาก็อย่างเงี้
00:16:08 → 00:16:11 แหละครับพี่ประสานคือเสียมากแล้วใช่ทั้ง
00:16:11 → 00:16:14 เสียเงินฟรีทั้งเงสูญเสียมากแล้วอย่าง
00:16:14 → 00:16:18 เงี้ยครับเพราะฉะนั้นถ้าจะเอาไปใช้ต้องทำ
00:16:18 → 00:16:21 ความเข้าใจต้องต้องปรับตัวอันนี้อันนี้
00:16:21 → 00:16:24 สำคัญมากๆใช่อ่าไม่งั้นเดี๋ยวเสียเงินฟรี
00:16:24 → 00:16:27 เนาะแล้วก็รู้สึกว่ากลายเป็นจะมีพูดง่ายๆ
00:16:27 → 00:16:29 มีใบแอไปเลยเนาะใช่ครับรู้สึกว่ามันซื้อ
00:16:29 → 00:16:33 ไปก็ไม่ใชซื้อใช้ซื้อไปไม่ได้ผลอะไรอย่าง
00:16:33 → 00:16:34 เงี้ยมันมันออันนี้อันนี้ต้องไปทำความ
00:16:34 → 00:16:37 เข้าใจกันใช่ครับอ่ามันมีคอมเมนต์บางส่วน
00:16:38 → 00:16:40 นะครับคุณวุฒบางคนบอกว่าอาจจะไม่ได้ไม่
00:16:40 → 00:16:43 ได้ใช้เครื่องช่วยฟังเนาะหรือว่าพูดง่ายๆ
00:16:43 → 00:16:46 ก็พยายามจะปรับตัวให้อยู่ได้เช่นอ่ายกตัว
00:16:46 → 00:16:47 อย่างอย่างเช่นคอมเมนต์นี้บอกบ้านนี้เลย
00:16:47 → 00:16:50 ครับแอบกระซิบกันข้างหูตอนนี้เพราะว่าคุย
00:16:50 → 00:16:52 กันไกลๆคงไม่ได้ยินนะฮะบางบ้านบอกใช้วิธี
00:16:52 → 00:16:55 การเขียนข้อความสั้นๆกินข้าวอาบน้ำกัน
00:16:55 → 00:16:57 เถอะแล้วแม่ก็ส่งเสียงตอบปกติหรือว่าพยัก
00:16:57 → 00:17:00 หน้าส่ายหัวก็ว่ากันไปอันนี้ผมเข้าใจว่า
00:17:00 → 00:17:02 น่าจะอาการพอสมควรนะต้องใช้วิธีการเขียน
00:17:02 → 00:17:04 บางคนก็บอกใช้เขียนไวท์บอร์ดคุยกันเลยนะ
00:17:04 → 00:17:07 ครับเพราะว่าเขียนเพราะว่าแรกๆนี่ต้องคอย
00:17:07 → 00:17:09 ตะเบ็งทำให้รู้สึกว่าอารมณ์ไม่ดีด้วยกัน
00:17:09 → 00:17:12 ทั้งคู่ก็เลยใช้วิธีการเขียนนะครับหรือ
00:17:12 → 00:17:15 บางคนบอกต้องไปฝึกปรับปรุงโทนเสียงระดับ
00:17:15 → 00:17:18 เสียงในการในการออกเสียงให้สอดรับกับความ
00:17:18 → 00:17:20 เปลี่ยนแปลงพวกนี้ช่วยได้มั้ครับจริงๆ
00:17:21 → 00:17:23 ต้องเรียนไปถามว่าช่วยได้ครับแต่ก็เป็น
00:17:23 → 00:17:27 การแก้ปัญหาที่ปลายเหตุอย่างที่เราเรียน
00:17:27 → 00:17:29 กันไปตั้งแต่ต้นรายการว่า
00:17:29 → 00:17:32 การสูญเสียการได้ยินเนี่ยมันมีผลกระทบและ
00:17:32 → 00:17:35 มันไม่มีทางรักษาหายครับพี่ประศามันมีแต่
00:17:35 → 00:17:39 สกับสูงขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเนี่ยเราควรจะ
00:17:39 → 00:17:43 ป้องกันการเขียนการกระซิบก็เป็นเรื่องที่
00:17:43 → 00:17:46 แก้ไขได้ครับแต่มันไม่ได้ตอบโจทย์ครับ
00:17:46 → 00:17:49 นั่นหมายความว่าผู้ที่สูญเสียการได้ยิน
00:17:49 → 00:17:52 เนี่ยไม่ได้ถูกกระตุ้นการได้ยินอมันก็อาจ
00:17:52 → 00:17:56 จะนำไปสู่เรื่องของประสาทของสมองครับแล้ว
00:17:56 → 00:18:00 ก็สูญเสียมากขึ้นเรื่อยๆจนส่วนบต่อความ
00:18:00 → 00:18:06 ปลอดภัยในชีวิตและร่างกายของ
00:18:06 → 00:18:08 เขาบางท่านเนี่ยสูญเสียระดับรุนแรงอ่ะนะ
00:18:09 → 00:18:11 ครับเเรียก Profile healing loss ก็คือ
00:18:11 → 00:18:14 ไม่ได้ยินเราพูดแล้วล่ะอแต่มาซื้อเครื่อง
00:18:14 → 00:18:18 ช่วยฟังนะครับเพราะต้องการไปเดินถนนนะฮะ
00:18:18 → 00:18:20 คุณจะยังได้ยินเสียงรถไงครับเสียงบีบแตไง
00:18:20 → 00:18:23 ครับเพื่อป้องกันไงเพราะเยังต้องใช้ชีวิต
00:18:23 → 00:18:26 ประจำวันปีประสานตรงนี้สำคัญมากอประเด็น
00:18:26 → 00:18:27 ผมว่าประเด็นนี้น่าสนใจเพราะว่าอย่างเช่น
00:18:27 → 00:18:29 เมื่อสักครู่นี้ามคอมเมนต์นี่ก็อาจจะเป็น
00:18:29 → 00:18:31 แค่เรื่องของการสื่อสารกันภายในบ้านนะ
00:18:31 → 00:18:33 ครับเขียนบอกกันแต่เราต้องไปลืมว่าเคต้อง
00:18:33 → 00:18:35 ออกไปใช้ชีวิตข้างนอกด้วยใู่ครับแล้วใช้
00:18:35 → 00:18:39 ชีวิตข้างนอกเดินริมถนนริมฟุตบาดไม่ได้
00:18:39 → 00:18:42 ยินเสียงรถไม่ได้ยินเสียงบีบแตรรถ10บล้อ
00:18:42 → 00:18:44 รถอะไรมาเสียงมันดังนะครับแต่เขาไม่ได้
00:18:44 → 00:18:47 ยินนะครับและก็อาจจะเกิดความสูญเสียเรา
00:18:47 → 00:18:50 ต้องคำนึงถึงจุดนี้ถ้าผู้สูงอายุหรือผู้
00:18:50 → 00:18:53 ที่สูญเสียกดนอยู่คอนโดอ่ะพี่ประสานอืและ
00:18:53 → 00:18:57 ไฟไหม้อ่าเค้าถ้าสูญเสียการได้ยินระดับ
00:18:57 → 00:18:59 รุนแรงเนี่ยเสียงกิ่งเนี่ยเไม่ได้ยินนะ
00:18:59 → 00:19:02 พี่อืไม่ได้ยินปุ๊บจะรู้ได้ไงอ่ะอ่าว่ามี
00:19:02 → 00:19:04 สัญญาณเตือนถูกต้องครับก็มารู้ตัวอีกทีก็
00:19:04 → 00:19:07 เสียชีวิตครับอืเพราะสำลักฟันไฟเรียบร้อย
00:19:07 → 00:19:10 แล้วครับเพราะมันส่งผลมากกว่าที่คิดอ
00:19:10 → 00:19:13 ประมาณนี้หรืออย่างผมเห็นบางกรณีบางทีเ
00:19:13 → 00:19:16 เปิดโทรศัพท์ไว้เข้าไปในแบบยกยกตัวอย่าง
00:19:16 → 00:19:18 นะเข้าไปที่ประชุมหรือในโรงหนังแต่ว่า
00:19:18 → 00:19:20 โทรศัพท์ดังครับบางทีดังบางบางคนต้องดัง
00:19:20 → 00:19:24 สัก 2-3 รอบนะถึงจะได้ยินกว่าจะรู้สึกตัว
00:19:24 → 00:19:27 ก็มีซึ่งคนอื่นก็จะเข้าใจไปแล้วว่าอ้าไม่
00:19:27 → 00:19:30 มีมารยาไม่มีมารยาอ่าไม่ไม่รู้จักเคารพ
00:19:30 → 00:19:32 ที่พื้นที่ส่วนตัวตรงเนี้สำคัญครับเขาอาจ
00:19:32 → 00:19:34 จะไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ถูกต้องครับอื
00:19:34 → 00:19:37 ครับเขาได้ยินได้ยินช้ากว่าเราแล้วนอกจาก
00:19:37 → 00:19:41 นั้นนะครับการสื่อสารเนี่ยถ้ายังสื่อสาร
00:19:41 → 00:19:45 ยังกระซิบยังเขียนยังพอโอเคแต่บางบ้านนะ
00:19:45 → 00:19:48 ครับเลือกที่จะไม่สื่อสารครับพี่เพราะมัน
00:19:48 → 00:19:50 เหมือนตะโกนคุยจริงๆครับพี่ประสามันก็
00:19:50 → 00:19:52 ตะโกนคุยจริงๆครับก็เไม่ได้ยินนะพี่เพราะ
00:19:52 → 00:19:54 คนตะโกนนึงก็เจ็บคอนะเหมือนเราทะเลาะกัน
00:19:54 → 00:19:57 น่ะพี่อ่าแต่เขาไม่ได้ยินแล้วเราพูดตลอด
00:19:57 → 00:19:59 พอเป็นอย่างงั้นปุ๊บก็เลือกที่จะไม่สื่อ
00:19:59 → 00:20:02 สารไม่สื่อสารปุ๊บก็ไม่แปลกครับผู้ที่สูญ
00:20:02 → 00:20:05 เสียการได้ยินก็จะรู้สึกแปลกแยกอืเพราะ
00:20:05 → 00:20:08 ว่าเขารู้สึกพูดแล้วไม่มีใครตอบสนองเไม่
00:20:08 → 00:20:10 มีใครอยากพูดกับเขาที่บ้านดังนั้นเราก็
00:20:11 → 00:20:14 ต้องมาพบกันครึ่งทางครับอ่าเริ่มฝึกการ
00:20:14 → 00:20:16 ใช้ชีวิตเหมือนอย่างคอมเมนต์ที่พี่ประสาน
00:20:16 → 00:20:19 พูดครับฝึกพูดถูกต้องครับแม้ใส่เครื่อง
00:20:19 → 00:20:22 ช่วยฟังครับพี่ประสานคุณก็ไม่ใช่พูด
00:20:22 → 00:20:25 เหมือนเดิมได้นะครับเพราะการสูญเสียได้
00:20:25 → 00:20:27 การได้ยินเป็นความพิการประเภทหนึงครับพี่
00:20:27 → 00:20:30 ประสาอครับเราเจอเป็นประจำเลยครับญาติพา
00:20:31 → 00:20:33 มาลองเครื่องช่วยฟังพอใส่ปุ๊บงั้นเดี๋ยว
00:20:33 → 00:20:36 พี่ลองกระซิบกันนะบอกพี่แล้วพี่จะกระซิบ
00:20:36 → 00:20:39 ทำไมครับปกติชีวิตพี่กระซิบเหรอจริงมั้ย
00:20:39 → 00:20:42 ครับจริงๆครับมันมันตลกบอกเฮ้ยไม่ได้เรา
00:20:42 → 00:20:44 ต้องเราถึงต้องเน้นย้ำในเรื่องของการเข้า
00:20:44 → 00:20:47 มาแลสื่อสารครับว่า 1 ยังตกอย่างง่ายๆิป
00:20:47 → 00:20:50 สาการปรับตัว 1 คุณควรพูดแบบต่อหน้ากัน
00:20:50 → 00:20:53 แบบนี้อืๆไม่ใช่ไปพูดด้วยด้วยน้ำเสียง
00:20:54 → 00:20:56 ความดังปกติน้ำสปกติใช่ครับแต่พูดโดยน้ำ
00:20:56 → 00:21:00 เสียงที่ชัดและและสำคัญคือต้องไม่พูดเร็ว
00:21:00 → 00:21:03 อ่าและอาจจะแบ่งคำเป็นประโยคประโยคอ่า
00:21:03 → 00:21:06 อย่างเงี้ยครับแม้ว่าใส่ก็ต้องปรับนะครับ
00:21:06 → 00:21:09 เพราะอย่าลืมว่ามันคือความพิการพประสาน
00:21:09 → 00:21:13 ญาติเราคุณปู่คุณย่าคุณพ่อคุณแม่ไม่
00:21:13 → 00:21:16 เหมือนเดิมแล้วใชะฉั้นเพราะงั้นเดี๋ยวไม่
00:21:16 → 00:21:18 งั้นเดี๋ยวคนซื้อไปนี่จะเข้าใจว่าทุก
00:21:18 → 00:21:21 อย่างมันจะเหมือนเดิมถูกต้องครับอ่าจริงๆ
00:21:21 → 00:21:22 มันมันไม่มันไม่มันไม่ใช่มันไม่เหมือน
00:21:22 → 00:21:24 เดิมแล้วมันคือมันเสูญเสียไปแล้วเหมือน
00:21:24 → 00:21:28 สายตาเราพสามันไม่กลับมาแล้วครับแล้วกรณี
00:21:28 → 00:21:31 นี้ครับคุณวุฒิกรณีถ้าเกิดการได้ยินมัน
00:21:31 → 00:21:33 เริ่มเ่อประสิทธิภาพมันเริ่มน้อยลลงหรือ
00:21:33 → 00:21:38 พูดง่ายๆหูตึงมากขึ้นจะส่งผลต่อโรคหรือ
00:21:38 → 00:21:41 ต่ออาการอะไรในอนาคตบ้างครับครับก็จะเป็น
00:21:41 → 00:21:44 อย่างงี้ครับพี่ประสานก็คือประสาทการได้
00:21:44 → 00:21:47 ยินนนะครับเป็น 1 ใน 5 เซ้นของร่างกายเรา
00:21:47 → 00:21:51 นะครับปกติแล้วเนี่ยอหูเนี่ยพอเราได้ยิน
00:21:51 → 00:21:53 เสียงกลไกก็คือเมื่อมีเสียงเสียงเป็นพลัง
00:21:53 → 00:21:55 งานอย่างหนึ่งใช่มั้ยครับเมื่อเข้าหู
00:21:55 → 00:21:59 เนี่ยอหูเราเนี่จะเปลี่ยนเสียงให้เป็น
00:21:59 → 00:22:02 ซื่นสัญญาณประสาทแล้วก็ส่งไปสมองเพื่อแปร
00:22:02 → 00:22:06 ความอันนี้คือปกติคนเราก็จะรู้ประมาณนี้
00:22:06 → 00:22:09 แต่ปกติแล้วครับพี่ประสาเสียงต่ำที่สุด
00:22:09 → 00:22:13 ที่คนเหลจะยินคืออยู่ที่ 0 เดซิเบลอืซ 0
00:22:13 → 00:22:15 เดซิเบลนี่ยังยังถือว่ามีเสียงอยู่ใช่
00:22:15 → 00:22:18 ครับเช่นมันจะเป็นเสียงถ้าเปรียบเทียบ
00:22:18 → 00:22:21 ง่ายคือเสียงยุงบินที่ห่างจากหูแล้ว 1
00:22:21 → 00:22:24 เมตครับถ้าหูปกติเราได้ยินครับโอ้ 1 เมตร
00:22:24 → 00:22:26 นี่ก็พอสมควรเหมือนกันอสมควรพี่ประสานผม
00:22:26 → 00:22:28 ว่าพี่น่าจะเคยได้ยินสมมุติเราไปอยู่ข้าง
00:22:28 → 00:22:29 นอก
00:22:29 → 00:22:33 อึๆนั่นน่ะหปิใช่อ๋อปกติเราจะเข้าใจว่า
00:22:33 → 00:22:36 อ่าสมมติมันมาวีหๆข้างหูเนี่ยเราคิดว่า
00:22:36 → 00:22:39 มันจะไม่ไกลกันแต่มันมันห่างถึง 1 เมนี่
00:22:39 → 00:22:42 ยังได้ยินแสดงว่าถ้าคนหูปกตินี่ยุงบิน
00:22:42 → 00:22:45 ห่างระดับ 1 เมตรนี่ยังได้ยินถูกต้องใน
00:22:45 → 00:22:47 ภาวะปกติครับที่ไม่มีเสียงรบกวนรอบข้าง
00:22:47 → 00:22:50 นี่คือภาวะปกตินั่นเพราะอะไรครับพี่ษา
00:22:50 → 00:22:54 นั่นเพราะสมองเราเนี่ยสังกามาที่หูให้
00:22:54 → 00:22:58 ขยายเสียงเพื่อเขาอยากจะได้ยินอืดังนั้น
00:22:58 → 00:23:00 ความคเชื่อมโยงระหว่างสมองกับหูเนี่ยมี
00:23:01 → 00:23:04 ความเชื่อมโยงกันดังนั้นถ้าเราสูญเสียการ
00:23:04 → 00:23:07 ได้ยินก็คือเราหูเราไม่ได้ยินเนาะพี่
00:23:07 → 00:23:10 ประสาทแลเราคงปล่อยครับไม่ใส่เครื่องช่วย
00:23:10 → 00:23:13 ฟังหรือไม่กระตุ้นให้มันได้ยินอก็จะไม่มี
00:23:13 → 00:23:17 สัญญาณสื่อประสาทวิ่งไปสมองอืพอไม่มีไป
00:23:17 → 00:23:20 มากๆสมองก็เป็นกล้ามเนื้อชนิดนึงครับพิสา
00:23:20 → 00:23:24 คงเคยกรณีที่เราแขนหักขาหักแพทย์ก็จะใส่
00:23:24 → 00:23:27 เฝือกดามไว้ใช่มครับสัก 2 อาทิตย์หรือ 1
00:23:27 → 00:23:31 เดือนอพอถอดเฝือกปุ๊บแขนสมมุติเป็นแขน
00:23:31 → 00:23:34 ซ้ายกับขวาแขนที่ใส่เฝือกครับมันก็จะดู
00:23:34 → 00:23:38 รีบกว่าแขนที่ไม่ได้ใส่เผือกเไม่ได้ใช้
00:23:38 → 00:23:40 งานถูกต้องครับพี่อสันเหมือนกันเลยครับ
00:23:40 → 00:23:43 ถ้าเราไม่ได้ยินแล้วเราคงปล่อยไว้อก็จะทำ
00:23:43 → 00:23:46 ให้กล้ามเนื้ออาที่เรียกง่ายๆนะครับคือ
00:23:46 → 00:23:49 สมองไม่ถูกกระตุ้นก็มีโอกาสเชื่อมโยงกับ
00:23:49 → 00:23:52 โรคอัลไซเมอร์หรือสมองเสื่อมได้ครับมีราย
00:23:52 → 00:23:55 งานการวิจัยที่แพทย์เคยบอกว่าถ้าเทียบกับ
00:23:55 → 00:23:57 ผู้ที่ได้ยินกับผู้ที่สูญเสียการได้ยิน
00:23:57 → 00:24:00 เนี่ยอผู้ที่สูญเสียไกดินจะมีโอกาสเป็น
00:24:00 → 00:24:03 อัลไซเมอร์มากกว่าครับออครับออแสดงว่ามัน
00:24:03 → 00:24:06 ก็ส่งผลไปไปไกลเหมือนกันกใช่ครับมากกว่า
00:24:06 → 00:24:10 ที่เรา
00:24:10 → 00:24:14 คิดกรณีเครื่องช่วยฟังนี่เวลาเข้ามานี่
00:24:14 → 00:24:17 เราจะต้องเลือกหรือจะต้องตัดสินใจยังไง
00:24:17 → 00:24:19 ครับเวลาถ้าต้องจำเป็นต้องซื้อยังไงคือ
00:24:19 → 00:24:21 ปกติแล้วครับถ้าเครื่องช่วยฟังที่ดีที่
00:24:21 → 00:24:24 สุดนะครับไม่จำเป็นต้องมาร้านผมนะครับคือ
00:24:24 → 00:24:26 ที่ไหนก็ได้ควรจะเข้ามาที่ร้านครับเพราะ
00:24:26 → 00:24:29 เราจะต้องลองเพราะว่าเครื่องช่วยฟังเนี่ย
00:24:29 → 00:24:32 ไม่ใช่ว่าซื้อราคาแพงที่สุดในร้านจะเข้า
00:24:32 → 00:24:35 กับผู้ที่สูญเสียท่านนั้นนะฮะไม่ใช่ครับ
00:24:35 → 00:24:37 เราก็ต้องมาฟังพี่ประสาว่าเหมือนหูฟังเรา
00:24:38 → 00:24:41 อ่ะครับว่าหูฟังแต่ละยี่ห้อก็เพลงเดียว
00:24:41 → 00:24:43 กันเนาะแต่เสียงความรู้สึกมันต่างกัน
00:24:43 → 00:24:45 เหมือนกันครับเครื่องช่วยฟังก็เช่นกันดัง
00:24:45 → 00:24:49 นั้นเนี่ยรองจะดีที่สุดคำถามที่ศาว่าถ้า
00:24:49 → 00:24:51 เข้ามาปุ๊บเนี่ยปกติแล้วเราก็จะมีการซัก
00:24:51 → 00:24:52 ประวัติเบื้องต้นอยู่แล้วต้องต้องวัดอะไร
00:24:52 → 00:24:54 บ้างอะไรเงี้ยใช่ครับก็เราก็ซักประวัติ
00:24:54 → 00:24:57 ความเป็นมาอายุโน่นนี่นั่นเริ่มมีการสวน
00:24:57 → 00:25:00 เสียประมาณอายุเท่าไหร่ยังไงเคยพบแพทถ้า
00:25:00 → 00:25:04 เคยขอใบรบรองแพทย์หรือเคยตรวจการได้ยินย
00:25:04 → 00:25:07 ถ้าไม่ถ้ามีเคยตรวจการได้ยินก็ส่งผลตรวจ
00:25:07 → 00:25:09 การได้ยินได้เลยครับเพราะมันเป็นสากลทั่ว
00:25:09 → 00:25:12 โลกตรวจเหมือนกันหมดครับแต่ถ้าไม่เคยตรวจ
00:25:12 → 00:25:14 เนี่ยที่นี่ก็มีบริการตรวจการได้ยินครับ
00:25:14 → 00:25:16 การตรวจการได้ยินเนี่ยก็จะเป็นการเข้า
00:25:16 → 00:25:20 ห้องพื้นที่ปราศจากเสียงแล้วก็ใส่หูฟัง
00:25:20 → 00:25:23 เพื่อเจ้าหน้าที่เนี่ยก็จะส่งคลื่นความ
00:25:23 → 00:25:27 ถี่อเสียงที่มีระดับที่แตกต่างกันแล้ว
00:25:27 → 00:25:30 เจ้าหน้าที่ก็จะพอว่าว่าผู้ที่สูญเสียการ
00:25:30 → 00:25:33 ได้ยินท่านนั้นเนี่ยสูญเสียที่ความถี่ไหน
00:25:34 → 00:25:36 แบบไหนมันก็จะเป็นหูซ้ายหูขวาไม่เท่ากัน
00:25:36 → 00:25:38 อีกนะครับพี่ภาสาบางทีหูซ้ายมากกว่าหูขวา
00:25:38 → 00:25:40 มากกว่าแล้วแต่แต่ส่วนมากจะเป็นทั้งคู่
00:25:40 → 00:25:44 ครับอ่าแต่อาจจะมากน้อยไม่เท่ากันครับพอ
00:25:44 → 00:25:47 เราได้กราฟแล้วปุ๊บเราถึงจะมาแมทกับ
00:25:47 → 00:25:50 เครื่องช่วยฟังว่าเครื่องช่วยฟังเนี่ยที่
00:25:50 → 00:25:52 เหมาะกับผู้ที่สการได้ยินท่านนั้นเนี่ย
00:25:52 → 00:25:55 ควรจะเป็นเครื่องช่วยฟังที่มีกำลังขยาย
00:25:55 → 00:25:57 ประมาณเท่าไหร่คือเครื่องช่วยฟังอ่ะครับ
00:25:57 → 00:26:01 ไม่ได้หมายความว่าขยายดังที่สุดจะดีที่
00:26:01 → 00:26:03 สุดนะครับพี่ประสานเหมือนกันครับพอเราได้
00:26:03 → 00:26:06 ยินเสียงดังกับพี่ประสานเสียงก็ทำร้ายเรา
00:26:06 → 00:26:08 นะครับใช่เพราะมันจะมันจะมันคงจะกวนไปหมด
00:26:08 → 00:26:11 คือมันทำให้หูเราแบบพูดง่ายๆหูเราจะดี
00:26:11 → 00:26:13 กว่าดีดีเป็นพิเศษใช่ครับแล้วเสียงพอดัง
00:26:13 → 00:26:16 ปุ๊บก็จะกระทบประสาทของเราเหมือนเราได้
00:26:16 → 00:26:19 ยินเสียงดังๆจนแก้วหูฉีกแก้วหูทะลุเหมือน
00:26:19 → 00:26:21 กันเลยครับดังนั้นมันก็ไม่ได้หมายความว่า
00:26:21 → 00:26:25 ดังที่สุดจะดีที่สุดมันต้องดูที่เหมาะสม
00:26:25 → 00:26:27 กับการสูญเสียของท่านนั้นๆครับแต่ปัญหา
00:26:27 → 00:26:30 นึงผมเข้าใจว่าบางทีลูกๆพาพ่อแม่มาเสร็จ
00:26:30 → 00:26:33 พ่อแม่วัดเสร็จเอาไปใส่ได้สัก 2 วันไม่
00:26:33 → 00:26:35 อยากใส่แล้วเพราะว่าครับอึดอัดไม่ชินใช่
00:26:35 → 00:26:38 ครับตรงนี้สำคัญมากครับทางลาเลยเน้นย้ำ
00:26:38 → 00:26:42 ว่าเวลามาเนี่ยควรจะมีญาติหรือมีคนที่ดู
00:26:42 → 00:26:44 แลมาด้วยไม่ใช่ญาติกันได้ครับคนที่อยู่
00:26:44 → 00:26:47 กับเขาอ่ะครับเพราะว่าจะได้เข้าใจและ
00:26:47 → 00:26:51 พยายามช่วยให้ผู้ที่สูญเสียการได้ยิน
00:26:51 → 00:26:54 เนี่ยใช้เครื่องช่วยฟังไม่แปลกครับพี่
00:26:54 → 00:26:57 ประจาพวกเราอ่ะพี่าทำวงการสื่อก็คงต้อง
00:26:57 → 00:27:00 ใส่หหูฟังแหละแต่พี่คงไม่ได้ใส่วันละ 8
00:27:00 → 00:27:03 ช่ม 9 ชั่วโมงใช่มั้ยครับแต่ถ้าผู้ที่สูญ
00:27:03 → 00:27:05 เสียการได้ยินนะครับเขาจะต้องใส่เครื่อง
00:27:05 → 00:27:08 ช่วยฟังเกิน 8 ชมงขึ้นไปนะครับเพราะมัน
00:27:08 → 00:27:11 คือการใช้ชีวิตประจำวันเขาอืก็พูดง่ายๆก็
00:27:11 → 00:27:14 คือเวลาตื่นน่ะนะครับเวลาที่เใช้ชีวิตผม
00:27:14 → 00:27:16 เคยเจอบางท่านนะครับที่เจอประจำเลยคือ
00:27:16 → 00:27:19 เครื่องฟังไม่กันน้ำนะครับพี่ใส่อาบน้ำ
00:27:19 → 00:27:23 เลยเพราะชินอืเพราะคุณได้ยินมาตลอดก็พัง
00:27:23 → 00:27:24 ครับเครื่องก็พังอ๋อมันไม่กันน้ำมันไม่
00:27:24 → 00:27:28 กันน้ำครับมันมันมันมันกันได้ระดับดึง
00:27:28 → 00:27:31 เท่านั้นพี่มันมันไม่สามารถลงน้ำได้
00:27:31 → 00:27:32 เหมือน iPhone อ่ะพี่ iPhone รุ่นใหม่กัน
00:27:32 → 00:27:35 น้ำเนาะเราก็คงไม่เอา iPhone เราไปแช่น้ำ
00:27:35 → 00:27:37 เล่นเหมือนกันอ่าดังนั้นเนี่ยพอเป็นอย่าง
00:27:37 → 00:27:41 นี้ปุ๊บเนี่ยเราก็จะต้องแนะนำคนที่อยู่
00:27:41 → 00:27:44 กับผู้ที่สูญเสียการได้ยินว่าเฮ้ยมันเป็น
00:27:44 → 00:27:47 สำคัญนะเหมือนคนแก่เดินเหินไม่สะดวกยัง
00:27:47 → 00:27:51 ใช้ไม้เท้าเลยพี่ประสานแล้วทำไมคนที่สูญ
00:27:51 → 00:27:53 เสียการได้ยินคุณไม่ใส่เครื่องช่วยฟังล่ะ
00:27:53 → 00:27:56 อไม่แปลกครับมันเป็นใส่เข้าไปในหูมัน
00:27:56 → 00:27:59 รำคาญอยู่แล้วครับช่วงแรกเราก็ต้องอธิบาย
00:27:59 → 00:28:01 ว่าอ่ะปรับตัวช่วยกันนะอ่ะวันนึง 2
00:28:01 → 00:28:05 ช่วโมงก่อนเริ่มจากที่เสียงไม่นิวอ่า
00:28:05 → 00:28:09 เสียงไม่รบกวนมากอ่าเช่นตื่นนอนมาแบบไป
00:28:09 → 00:28:12 กินกาแฟก่อนเงี้ยอ่าใส่ก่อนแล้วพอจะออกไป
00:28:12 → 00:28:13 ข้างนอกถอดก่อนก็ได้ไม่เป็นไรเดี๋ยวไม่
00:28:13 → 00:28:16 ชินแล้วค่อยๆเพิ่มระยะเวลามากขึ้นเรื่อยๆ
00:28:16 → 00:28:19 ในการใส่ให้เชินครับออ๋อคือสมมุติว่าเรา
00:28:19 → 00:28:21 ต้องใส่ทั้งวันแต่ว่าช่วงต้นๆนี้อาจจะไม่
00:28:21 → 00:28:23 ชินก็ทยอยอาจจะวันละสัก 2 ช่วโมงหรือ
00:28:23 → 00:28:25 อะไรงงี้ก่อนใช่มั้ยใช่ในช่วงเช้าที่ไม่
00:28:25 → 00:28:28 มีเสียงเสียงรบกวนนะครับแต่ั้ใชชีวิต
00:28:28 → 00:28:30 ประจำวันเราออกไปร้านค้าตลาดโน่นนี่นั่น
00:28:31 → 00:28:33 ก็อย่าเพิ่งใส่ครับเพราะเสียงมันขยายเรา
00:28:33 → 00:28:37 ตกใจเราได้ยินหมดเลยเราก็ค่อยๆเพิ่มเวลา
00:28:37 → 00:28:39 มากขึ้นเรื่อยๆอ๋อคือคนไม่ชินนี่บางทีมัน
00:28:39 → 00:28:42 ไม่ใช่ไม่ชินแค่มีวัสดุเข้าไปอยู่ในหูแต่
00:28:42 → 00:28:44 มันจะไม่ได้ชินมันจะไม่ชินถึงขนาดที่ว่า
00:28:44 → 00:28:46 เงได้ยินเสียงมันได้ยินเยอะขึ้นใชครับ
00:28:46 → 00:28:48 เหมือนเราเข้าผับครับเราก็ได้ยินทุกเสียง
00:28:48 → 00:28:52 เลยอ่ะแล้วก็ดังรำคาญแต่เราผับเราก็เดิน
00:28:52 → 00:28:55 ออกเนาะพี่แต่แคนที่สูญเสียยิงเเดินออก
00:28:55 → 00:28:57 ไม่ได้อ่าดังนั้นสมมุติผมยกตัวอย่างว่า
00:28:57 → 00:29:00 บอกใส่แล้วแล้วลองใส่แล้วไปตลาดไอ้ไอ้
00:29:00 → 00:29:03 เสียงที่มันเราไม่เคยได้ยินเราก็จะได้เรา
00:29:03 → 00:29:05 ก็จะได้ยินอยเพราะว่าปกติพูดสูญเสียกได้
00:29:05 → 00:29:08 ยินเนี่ยเขาบางทีเอย่างที่ผมเรียนพี่ษา
00:29:08 → 00:29:10 ว่าเขาไม่ใช่ไม่ได้ยินทั้งหมดนะเขาจะไม่
00:29:10 → 00:29:14 ได้ยินในพื้นที่ที่มีเสียงรบกวนอ่ามาก
00:29:14 → 00:29:16 กว่าเค้าไม่ได้ยินเขาก็ไม่มีปัญหาแต่พอ
00:29:16 → 00:29:19 เขาใส่ปุ๊บเขาได้ยินะเสียงมันก็จะเยอะไป
00:29:19 → 00:29:21 หมดเลยว่าเสียงคนโน้นคนนี้จ๊อกแจ๊กจอแจ
00:29:22 → 00:29:25 เขาก็อาจจะรำคาญครับดังนั้นเนี่ยความสูญ
00:29:25 → 00:29:28 เสียสำคัญที่สุดก็คือซื้อไปแล้วไม่ได้ใช้
00:29:28 → 00:29:32 หรือไม่ได้บอกวิธีการใช้บางบ้านครับมี
00:29:32 → 00:29:35 สัตว์เลี้ยงฮะสัตว์เลี้ยงจะมีการได้ยิน
00:29:35 → 00:29:37 ความถี่ที่แตกต่างกับเราเครื่องช่วยฟัง
00:29:37 → 00:29:40 นี่คือของเล่นเลยอ่ะอเขาก็จะมาเล่นเลย
00:29:40 → 00:29:42 ครับหมายถึงว่าสัตว์เจะได้ยินเสียงใช่
00:29:42 → 00:29:44 ครับขึ้นเพราะมันขึ้นก็คือลำโพงเล็กๆ
00:29:44 → 00:29:46 อย่างนั้นใช่มั้ยฮะสัก็จะได้ยินจากตรง
00:29:46 → 00:29:50 นั้นใช่แล้วเาก็มาเล่นแมวเนี้ยคลาสสิคมาก
00:29:50 → 00:29:53 รอยก็เรียบร้อยเละเทะก็สูญเสียพอเสียปุ๊บ
00:29:53 → 00:29:56 ก็ไม่ซื้อใหม่ไม่ซื้อใหม่ก็ไม่ใช้อ่าไม่
00:29:56 → 00:29:59 ไม่ใช้ก็การสูญเสียไกยินจากไม่เยอะก็ค่อย
00:29:59 → 00:30:02 ๆเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆอย่างเงี้ยสำคัญดัง
00:30:02 → 00:30:05 นั้นเนี่ยเราจะต้องสื่อสารให้กับทั้งผู้
00:30:05 → 00:30:08 ที่สูญเสียการได้ยินและญาติสำคัญมากว่า
00:30:08 → 00:30:11 ต้องเข้าใจว่ามันเป็นแบบนี้นะไม่ใช้ก็
00:30:11 → 00:30:13 ต้องถอดไม่ให้มันเครื่องมันออนตลอดเวลา
00:30:14 → 00:30:16 ไม่งั้นเดี๋ยวสัตว์อาจจะมารบกวนแล้วก็มา
00:30:16 → 00:30:18 เล่นเครื่องให้เสียหายได้แล้วการมาซื้อ
00:30:18 → 00:30:21 แบบนี้ต้องมีใบรับรองแพทย์ต้องหาหมอมา
00:30:21 → 00:30:23 ก่อนอะไรพวกนี้มั้ครับครับปกติแล้วจริงๆ
00:30:23 → 00:30:27 เนี่ยไม่จำเป็นครับถ้าเรามาตรวจการได้ยิน
00:30:27 → 00:30:29 แล้วเนี่ยมีกราฟมีอะไรก็สามารถซื้อได้แต่
00:30:29 → 00:30:33 ถ้าจะเบิกคือพี่าต้องเข้าใจว่าปกติแล้ว
00:30:33 → 00:30:35 เนี่ยเครื่องช่วยฟังเนี่ยก็เป็นอุปกรณ์
00:30:35 → 00:30:38 ชนิดหนึ่งซึ่งสามารถเบิกได้ตามสิทธิ์ของ
00:30:38 → 00:30:42 แต่ละท่านนะครับไม่ว่าจะเป็นข้าราชการรัฐ
00:30:42 → 00:30:45 วิสาหกิจหรือประกันสังคมอ้อประกันสังคม
00:30:45 → 00:30:46 ได้เบกได้
00:30:46 → 00:30:49 ด้วยาบัตรทองแต่ต้องเรียนว่าถ้าเป็นบัตร
00:30:50 → 00:30:52 ทองหรือสิทธิ์ประกันสุขภาพแห่งชาติเนี่ย
00:30:52 → 00:30:55 จะไม่สามารถซื้อเอกชนได้จะต้องไปในโรง
00:30:55 → 00:30:57 พยาบาลที่ตัวเองได้สิทธิ์เท่านั้นออแสดง
00:30:57 → 00:30:59 ว่าถ้าที่สูนี่แบบนี้อาจจะไม่ได้ไม่ได้
00:30:59 → 00:31:02 เฉพาะบัดทองนะครับแต่ถ้าเป็นประกันสังคม
00:31:02 → 00:31:05 ราชการและวิสาหกิจเบิกได้ครับเบิกได้นี่
00:31:05 → 00:31:07 ได้กี่เปอร์เซ็นต์อ่าจะเป็นอย่างงี้ครับ
00:31:07 → 00:31:10 ถ้าเป็นราชการเนี่ยตามระเบียบกรมบัญชี
00:31:10 → 00:31:12 กลางเนี่ยจะได้ข้างละ
00:31:12 → 00:31:16 13,500 บาทต่อข้างต่อ 3 ปีไม่ได้เบิกได้
00:31:16 → 00:31:19 ทุกปีนะพี่ประสานออเอ้เออมันมันเปลี่ยน
00:31:19 → 00:31:21 บ่อยมั้ยหมายถึงว่าปกติแล้วการสูญเสียการ
00:31:21 → 00:31:23 ได้ยินของเราจะเปลี่ยนทุกปีครับอ๋อแสดง
00:31:23 → 00:31:26 ว่าผมซื้อไปนี่ผมต้องต้องเปลี่ยนอ่าอาจจะ
00:31:26 → 00:31:28 ไม่ได้ถึงขนาดนั้นครับพี่เพราะเครื่องยุ
00:31:28 → 00:31:31 ฟังก็จะมีอัตรากำลังขยายที่มี Range ดัง
00:31:31 → 00:31:35 นั้นถ้าอการสูญเสียได้ยินพี่เพิ่มขึ้นพี่
00:31:35 → 00:31:38 ก็แค่เร่งวอลุ่มมันครับเสียงก็จะดังขึ้น
00:31:38 → 00:31:41 แต่ถ้ามันเกินกว่าเลนเชื่อกำหนดก็ต้องปิด
00:31:41 → 00:31:43 เครื่องครับอ๋อมันเหมือนตัดแว่นใช่ครับ
00:31:43 → 00:31:45 อ่าเหมือนสมมุติว่าสายตาเพิ่มขึ้นก็ต้อง
00:31:45 → 00:31:47 ไปตัดแว่นใหม่ใช่ครับแต่ของแว่นเนี่มัน
00:31:47 → 00:31:49 อาจจะเห็นชัดที่อสารแต่เครื่องช่วยฟังมัน
00:31:50 → 00:31:52 ยังมีเลนเหมือนเรามีกำลังขยายได้อย่าง
00:31:52 → 00:31:55 เงี้ยถ้าสมมุติเป็นศิทธิ์พวกนี้เค้าเจ่าย
00:31:55 → 00:31:57 ยังไงฮะจ่ายครั้งเดียวหรือว่าเเจ่ายเราเบ
00:31:57 → 00:32:01 เบกได้อย่าง้าข้าราชการนะครับ 13,500 บาท
00:32:01 → 00:32:03 ต่อข้างอ่าถ้าเราเป็น 2 ข้างก็เบิกได้ 2
00:32:03 → 00:32:06 ครั้งต้าแต่ต่อ 3 ปีง่ายๆเบิกได้ 3 ปี
00:32:06 → 00:32:09 ครั้ง 3 ปีได้ครั้งนึงได้ครั้งหนึงออไม่
00:32:09 → 00:32:12 สามารถที่จะไปเปลี่ยนทุกปีได้ใช่ๆครับจะ
00:32:12 → 00:32:15 เปลี่ยนทปีต้องออกเองอสทงใส่นี่ต้องใส่ 2
00:32:15 → 00:32:18 ข้างแล้วแต่ที่เป็นครับถูกต้องครับแต่ถ้า
00:32:18 → 00:32:21 แล้วอ่ามันก็จะมีหลักการการพิจารณาของ
00:32:21 → 00:32:23 แพทย์อ่ะนะครับถ้าจำเป็นแล้วถ้ากำลังซับ
00:32:23 → 00:32:27 ได้ถ้ามีปัญหา 2 ข้างก็ควรใส่ 2 ข้างอ่า
00:32:27 → 00:32:31 ครับแล้วก็ที่สำคัญเลยคือถ้าเป็นไปได้
00:32:31 → 00:32:34 ก่อนจะซื้อพวกนี้ต้องมาทดลองใช่ครับควรมา
00:32:34 → 00:32:37 เข้ามาทดลองทก่อนใช่ครับเพื่อฟังว่าอัน
00:32:37 → 00:32:41 ไหนเหมาะกับเราครับไม่ไม่ใช่ว่าของแพงจะ
00:32:41 → 00:32:43 เหมาะกับเราเสมอไม่ใช่ครับครับต้องดูว่า
00:32:43 → 00:32:46 เหมาะกับเรายังไงเช่นใส่แล้วโอเคโอเคมั้ย
00:32:46 → 00:32:48 ก็ความรู้สึกเพราะเครื่องยฟังมีหลายรูป
00:32:48 → 00:32:51 แบบครับมีแบบในช่องหูมีแบบคล้องหลังหู
00:32:51 → 00:32:53 อย่างเงี้ยอะไรถนัดไม่เหมือนอย่างพวกเรา
00:32:53 → 00:32:56 ใส่แว่นอย่างเงี้ยเราใส่คล้องหลังหูก็อาจ
00:32:56 → 00:32:58 จะไม่แมเพราะมันเพรามันโดนแว่นเงี้ใช่คือ
00:32:58 → 00:33:00 หรือบางคนใส่แว่นก็อาจจะชอบแบบมีจมูกแว่น
00:33:00 → 00:33:02 ไม่มีจมูกแว่นอันนี้แล้วแต่คนอันนี้ต้อง
00:33:02 → 00:33:04 มาลองเออจริงๆมันเราก็เรียกว่ามันจะคล้าย
00:33:05 → 00:33:07 ๆเหมือนแบบการวัดสายตาแงั้นนะต้องควทดลอง
00:33:07 → 00:33:09 ใช่ครับต้องควรทดลองอย่างยิ่งครับสำคัญ
00:33:09 → 00:33:11 มากเอาล่ะครับผมคิดว่าวันนี้น่าจะมี
00:33:11 → 00:33:14 ประโยชน์มากๆเพราะว่า 1 คือมันทำให้คน
00:33:14 → 00:33:17 เริ่มตระหนักว่าภาวะสูญเสียการได้ยินหรือ
00:33:17 → 00:33:19 เราเรียกกันง่ายๆหูตึงเนี่ยเออบางทีมัน
00:33:19 → 00:33:22 ไม่ใช่เรื่องแค่เรื่องแค่การมีอุปสรรคใน
00:33:22 → 00:33:23 การใช้ชีวิตประจำวันท่างนั้นแต่ว่ามันมี
00:33:23 → 00:33:25 เรื่องของความสัมพันธ์นำไปสู่เรื่องของ
00:33:25 → 00:33:28 อาการเจ็บป่วยด้วยนะครับเพราะฉนั้นถ้า
00:33:28 → 00:33:30 ต้องการตัวช่วยก็ลองมาหาเครื่องช่วยฟัง
00:33:30 → 00:33:32 ใช้ดูใช่ครับผมนะครับวันนี้ขอบคุณมากครับ
00:33:32 → 00:33:36 คุณวุฒยินดีครับขอบคุณครับขอบคุณครับ
00:33:36 → 00:33:37 [ปรบมือ]
00:33:37 → 00:33:45 [เพลง]