00:00:00 → 00:00:08 [เพลง]
00:00:08 → 00:00:11 โรคเอดส์ไม่ใช่โรคที่น่ากลัวอีกต่อไปค่ะ
00:00:11 → 00:00:14 เพราะในปัจจุบันนะคะเรามีวิทยาการทางการ
00:00:14 → 00:00:17 แพทย์ที่สามารถช่วยให้คนที่ติดเชื้อไวรัส
00:00:17 → 00:00:21 HIV ค่ะชะลอการที่จะเป็นดส์แต่ก็อีกละ
00:00:21 → 00:00:24 ค่ะว่าหลายท่านยังเข้าใจผิดนะคะว่าโรค
00:00:24 → 00:00:27 เอดส์กับภาวะการติดเชื้อ hiv เป็นเรื่อง
00:00:27 → 00:00:30 ราวเดียวกันจริงๆตรงนี้ค่ะเราต้องมาทำ
00:00:30 → 00:00:33 ความเข้าใจในเรื่องของการติดเชื้อ hiv
00:00:33 → 00:00:36 รวมไปถึงการที่เชื้อเนี่ยพัฒนาตัวทำให้คน
00:00:36 → 00:00:40 ไข้เนี่ยมีภาวะโรคเอดค่ะปัญหาคือว่าเมื่อ
00:00:40 → 00:00:44 คนไข้ได้รับเชื้อ HIV แล้ว HIV จะไปทำลาย
00:00:44 → 00:00:48 เซลล์เมล็ดขาวในร่างกายที่ชื่อ cd4 ถ้า
00:00:48 → 00:00:51 หากค่า cd4 ลดลงต่ำกว่าระดับ 200 เมื่อ
00:00:51 → 00:00:55 ไหร่จะเข้าสู่ภาวะโรคเอดคือเมื่อร่างกาย
00:00:55 → 00:00:58 ไม่เหลือ cd4 ไว้กำจัดเชื้อโรคแล้วจึง
00:00:58 → 00:01:01 สามารถเกิดโรครุมเร้าหลายชนิดได้พร้อมกัน
00:01:01 → 00:01:05 และมีโอกาสถึงกับชีวิตได้ในที่สุดอย่าง
00:01:05 → 00:01:07 ที่เราทราบกันเป็นอย่างดีแล้วค่ะว่าณวัน
00:01:07 → 00:01:10 นี้เชื้อ HIV สามารถที่จะควบคุมได้ด้วย
00:01:10 → 00:01:13 การรับประทานยาต้านซึ่งทำให้ผู้ติดเชื้อ
00:01:13 → 00:01:17 สามารถมีคุณภาพชีวิตและอายุขายได้เทียบ
00:01:17 → 00:01:21 เท่าคนปกติสามารถมีลูกได้และไม่แพร่เชื้อ
00:01:21 → 00:01:24 ไปยังผู้อื่นต่อได้อีกด้วยจึงทำให้เกิดคำ
00:01:24 → 00:01:28 ว่า U เท่ากับ U คือ undetectable เท่า
00:01:28 → 00:01:30 กับ untransmittable
00:01:30 → 00:01:34 แปลเป็นภาษาไทยได้ว่าไม่พบเท่ากับไม่แพร่
00:01:34 → 00:01:38 แม้ยอดผู้ติดเชื้อ hiv ในทุกวันนี้จะลดลง
00:01:38 → 00:01:41 แต่ก็ยังมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ในทุกวันโดย
00:01:41 → 00:01:45 ข้อมูลจากศูนย์รวมข้อมูลสารสนเทศด้าน HIV
00:01:45 → 00:01:48 ของประเทศไทยเปิดเผยว่ากลุ่มผู้ติดเชื้อ
00:01:48 → 00:01:52 มากที่สุดยังเป็นกลุ่มชัยรักชายร้อยละ 62
00:01:52 → 00:01:57 และในระหว่างปี 2564 ถึงเดือนเมษายน
00:01:57 → 00:02:02 2565 มีผู้รับยาต้านวไวรัสอยู่ที่จำนวน
00:02:02 → 00:02:06 4476 คนและมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ประมาณ
00:02:06 → 00:02:10 6,500 คนต่อปีโดยจังหวัดที่มีผู้ติด
00:02:10 → 00:02:12 เชื้อรายใหม่มากที่สุดคือ
00:02:12 → 00:02:16 กรุงเทพมหานครแล้วคำถามคืออาการของผู้ที่
00:02:16 → 00:02:18 เป็นเอดสนั้นเป็นอย่างไรต้องเข้าใจก่อน
00:02:18 → 00:02:21 ค่ะว่าเมื่อผู้ป่วยนะคะได้รับเชื้อ HIV
00:02:21 → 00:02:24 เข้าไปแล้วจะเกิดการติดเชื้อในระยะแรก
00:02:24 → 00:02:27 เริ่มโดยอาการนะคะจะเกิดขึ้นในช่วงระยะ
00:02:27 → 00:02:31 2-4 สัปดาห์ผู้ป่วยจะมีอาการไอจามน้ำำ
00:02:31 → 00:02:34 มูกนะคะอาจจะมีผื่นแดงคันหรือว่ามีต่อม
00:02:34 → 00:02:37 น้ำเหลืองโตซึ่งทั้งนี้หลายคนค่ะจะเพิก
00:02:37 → 00:02:40 เฉยนะคะแล้วก็อาการอาจจะหายไปเองทำให้คน
00:02:40 → 00:02:43 ไข้เนี่ยไม่ได้เข้ารับการตรวจกับแพทย์ค่ะ
00:02:43 → 00:02:47 หลังจากนั้นอาจใช้เวลานานถึง 5-10 ปีที่
00:02:47 → 00:02:50 ผู้ป่วยจะเข้าสู่ระยะที่ไม่แสดงอาการหรือ
00:02:50 → 00:02:53 ระยะติดเชื้อเรื้อรังโดยที่เชื้อไวรัสจะ
00:02:53 → 00:02:56 เพิ่มปริมาณมากขึ้นจนทำให้ภูมิต้านทานต่ำ
00:02:56 → 00:02:59 ลงเรื่อยๆซึ่งเสี่ยงต่อการติดเชื้อช่วย
00:02:59 → 00:03:02 โอกาสต่างๆได้ง่ายขึ้นรวมถึงผู้ป่วยจะ
00:03:02 → 00:03:06 แสดงอาการที่ชัดเจนเช่นมีไข้เรื้อรังท้อง
00:03:06 → 00:03:10 ร่วงอ่อนล้าต่อมน้ำเหลืองบวมมีเชื้อราใน
00:03:10 → 00:03:14 ช่องปากเป็นต้นคุณผู้ชมจะเห็นได้นะคะว่า
00:03:14 → 00:03:17 การที่คนๆนึงได้รับเชื้อ HIV เข้าสู่ร่าง
00:03:17 → 00:03:21 กายเนี่ยจะต้องใช้ระยะเวลายาวนานกว่า 5-10
00:03:21 → 00:03:23 ปีเลยค่ะถึงจะเข้าสู่ระยะที่เริ่มแสดง
00:03:23 → 00:03:27 อาการนะคะซึ่งตรงนี้ค่ะการคัดกรองถ้ากรณี
00:03:27 → 00:03:29 ที่ตัวเราเองเรารู้ตัวว่ามีประวัติเสี่ยง
00:03:29 → 00:03:32 ในการสัมผัสเชื้อ HIV ย่อมดีกว่ารอให้
00:03:32 → 00:03:36 เกิดอาการของโรคที่ชัดเจนแล้วขอบคุณนะคะ
00:03:36 → 00:03:39 สำหรับการรับชมรายการ TNN Health ค่ะและ
00:03:39 → 00:03:43 อย่าลืมค่ะกด Subscribe กดไลค์กดแชร์ใน
00:03:43 → 00:03:46 ทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN ช่อง 16 ค่ะ
00:03:46 → 00:03:49 เพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมรายการสดคลิป
00:03:49 → 00:03:56 วดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะคะ