00:00:00 → 00:00:02 อีกครั้งหนึ่ง
00:00:02 → 00:00:05 มีนักล่าคนหนึ่ง
00:00:05 → 00:00:12 ไปพบสุนัขล่านะสุนัขล่านกตัวนึงที่มี
00:00:12 → 00:00:17 คุณสมบัติพิเศษมากกูวิ่งเร็วจะวิ่งเร็วจน
00:00:17 → 00:00:20 กระทั่งสามารถวิ่งบนน้ำได้
00:00:20 → 00:00:23 นักล่าท่านนี้นี่ก็รู้สึกประทับใจและรู้
00:00:23 → 00:00:28 สึกสุนัขนี่มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างแล้ว
00:00:28 → 00:00:34 พิเศษมากจึงตัดสินใจซื้อสุนัขตัวนี้มา
00:00:34 → 00:00:36 เลี้ยง
00:00:36 → 00:00:42 จนกระทั่งวันนึงเนี่ยเขาอยากจะจะพาสุนัข
00:00:42 → 00:00:45 เค้าเนี่ยไปให้เพื่อนเขาดู
00:00:45 → 00:00:48 อนุมาอยากจะอวดเพื่อนอยากจะให้เพื่อนดู
00:00:48 → 00:00:52 ว่าสุนัขเค้าเนี่ยมันพิเศษมาก
00:00:52 → 00:00:56 เพื่อนเขากับเขาก็รวมตัวกันไปไปล่าสัตว์
00:00:56 → 00:01:00 หรือราดไปยิงนกอ่ะนะ
00:01:00 → 00:01:04 ในระหว่างที่ยิงนกเสร็จต้มก็จะให้สุนัข
00:01:04 → 00:01:08 เนี่ยวิ่งไปวิ่งไปคาบนกอ่ะ
00:01:08 → 00:01:12 ครึ่งสุนัขนี่ก็วิ่งเร็วมากวิ่งบนน้ำเลย
00:01:12 → 00:01:18 นะแต่คาบดอกไม้ปักบาทไม่จมเลย
00:01:18 → 00:01:22 ผ่านไปชั่วโมง 2 ชั่วโมงผู้ชายก็เริ่ม
00:01:22 → 00:01:27 สังเกตว่าเฮ้ยเพื่อนไม่ทักหรือไม่ไม่พูด
00:01:27 → 00:01:30 อะไรเกี่ยวกับสุนัขเลย
00:01:30 → 00:01:35 ก็ไม่ได้คิดอะไรก็เอานะทำตอบก็เล่นยิงปืน
00:01:35 → 00:01:40 กันต่อยิงล่านกราดสัตว์นับให้สุนัขไปเอา
00:01:40 → 00:01:43 สุนัขก็วิ่งเร็ว
00:01:43 → 00:01:48 วิ่งบนน้ำได้ไอ้คาบนกมากับมาทำเองนี้อยู่
00:01:48 → 00:01:49 ทั้งวัน
00:01:49 → 00:01:53 มาดูกันท่านตกเย็นเนี่ยผู้ชายคนนี้สังเกต
00:01:53 → 00:01:57 ว่าเพื่อนไม่ชมสุนัขหรือไม่ถามถึงเรื่อง
00:01:57 → 00:02:00 สุนัขเลยเขาก็เลยตัดสินใจถามเพื่อนเองว่า
00:02:00 → 00:02:02 ให้
00:02:02 → 00:02:07 เธอสังเกตอะไรเกี่ยวกับสุนัขเราไหมมันมี
00:02:07 → 00:02:09 มันมีอะไร
00:02:09 → 00:02:13 แตกต่างจากสุนัขที่ผ่านมาไหม
00:02:13 → 00:02:16 เพื่อนก็ตอบว่าใช่
00:02:16 → 00:02:20 ฉันจะบอกอยู่พอดีเลยงั้นสังเกตมาตั้งแต่
00:02:20 → 00:02:21 เช้าแล้ว
00:02:21 → 00:02:26 สุนัขเองเนี่ยมันว่ายน้ำไม่เป็น
00:02:26 → 00:02:30 ที่ทานเรื่องนี้สอนให้รู้อะไรครับ
00:02:30 → 00:02:32 สอนให้รู้ว่า
00:02:32 → 00:02:41 ถ้าคบคนที่มีแต่มองในแง่ลบพบคนที่มีแต่จะ
00:02:41 → 00:02:44 จับผิดเรา
00:02:44 → 00:02:47 จะไม่มีวันไปไกลได้เราจะเสียความรู้สึก
00:02:47 → 00:02:49 ง่าย
00:02:49 → 00:02:53 จะเป็นตัวที่บั่นทอนความรู้สึกมาก
00:02:53 → 00:02:58 มันจะเป็นตัวที่กดความสร้างสรรค์ของเรานะ
00:02:58 → 00:03:02 แล้วก็เป็นอุปสรรคที่ทำให้เราไม่กล้าที่
00:03:02 → 00:03:04 จะเดินหน้าต่อ
00:03:04 → 00:03:09 ผมเชื่อว่าเราหลายคนก็ในชีวิตก็คงเคยตั้ง
00:03:09 → 00:03:10 ใจทำอะไร
00:03:10 → 00:03:17 แต่อาจจะตกม้าตายที่ไปฟังความคิดเห็นไป
00:03:17 → 00:03:23 ฟังข้อติหรือข้อนินทาของบุคคลที่ก็อาจจะ
00:03:23 → 00:03:26 ไม่เห็นด้วยหรือคิดลบเกี่ยวกับงานเราหรือ
00:03:26 → 00:03:29 ตัวของเรา
00:03:29 → 00:03:34 วันนี้ก็เลยตั้งใจทำ 6 ข้อต่อยอดจะคลิป
00:03:34 → 00:03:37 ที่ผ่านมา
00:03:37 → 00:03:41 คือทำยังไงให้เราเข้าใจสัจธรรม
00:03:41 → 00:03:45 ให้เรารู้ทิศทางลม
00:03:45 → 00:03:51 และเดินออกจากคนที่มองในแง่นี่หรือคนที่
00:03:51 → 00:03:53 มีบุคลิก - ๆ
00:03:53 → 00:03:56 ก็
00:03:56 → 00:04:01 คือผมชื่อว่าเราก็คงเคยผ่าน
00:04:01 → 00:04:04 บุคลิกแบบนี้มา
00:04:04 → 00:04:10 ผมเองก็เคยอาจจะมีบุคลิกลบในช่วงหนึ่งของ
00:04:10 → 00:04:13 ชีวิตผมชื่อว่าเราทุกคนก็คงมีบ้างเพราะ
00:04:13 → 00:04:17 เราก็ไม่มีใครเพอร์เฟคเราก็เรียนรู้พัฒนา
00:04:17 → 00:04:21 ไปเรื่อยๆคือปัจจุบันนี้เราอยู่ในยุคที่
00:04:21 → 00:04:24 ใครๆก็แสดงความคิดเห็นได้
00:04:24 → 00:04:29 ใครๆก็มีความคิดเห็นสามารถเขียนลงใน
00:04:29 → 00:04:35 โซเชียล a เชิงลบในช่วงบวกงั้นเราจะอยู่
00:04:35 → 00:04:39 ในยุคที่ติดไข่ก็ออกความคิดเห็นเกี่ยวกับ
00:04:39 → 00:04:43 งานเราเกี่ยวกับตัวเราเกี่ยวกับผลงานของ
00:04:43 → 00:04:47 เราเกี่ยวกับที่สัยทัศน์เราออกความคิด
00:04:47 → 00:04:51 เห็นบนสื่อได้ง่ายนะครับและเราอยู่ในยุค
00:04:51 → 00:04:56 ที่ที่การแสดงออกมีคนทุกคนเนี่ย
00:04:56 → 00:05:01 มันจะการสแกนหรือเราจะมองเห็นได้ง่ายขึ้น
00:05:01 → 00:05:05 อายุบนก่อนเราอาจจะไม่ทราบว่าได้คนมีความ
00:05:05 → 00:05:09 เห็นยังไงเกี่ยวกับตัวเราผลงานเรานะหรือ
00:05:09 → 00:05:12 ความคิดเราในปัจจุบันมันไม่ใช่ละก็ทิศทาง
00:05:12 → 00:05:15 อนาคตมันก็จะเป็นอย่างนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
00:05:15 → 00:05:19 ก็จะมีช่องทางที่คนแสดงความคิดเห็นมาก
00:05:19 → 00:05:22 ขึ้นเรื่อยๆไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ
00:05:22 → 00:05:25 คอมเมนต์ในรูปแบบของ
00:05:25 → 00:05:28 ทำนิ้วอย่างเงี้ยหรือว่าทำทราบนะหรือ
00:05:28 → 00:05:29 ดิสไลค์
00:05:29 → 00:05:34 มีหมดนะครับผมชื่อว่าอีก 2 3 ปีข้างหน้า
00:05:34 → 00:05:38 ก็จะมีการแสดงความคิดถึงดิมากขึ้นเรื่อยๆ
00:05:38 → 00:05:42 งั้นอันนี้สำหรับใครที่กำลังตั้งต้นใหม่
00:05:42 → 00:05:46 ก็อยากให้เราทุกคนเนี่ยเข้าใจสัจธรรมก่อน
00:05:46 → 00:05:49 อ่ะและ 2
00:05:49 → 00:05:56 อื่นตัวรู้ทันก็ 3 เดินออกหรือว่าทำยังไง
00:05:56 → 00:06:02 ให้เราไม่กระทบจากความคิดเห็นของคนที่มอง
00:06:02 → 00:06:07 หรือคนที่มีแง่ลบเกี่ยวกับเราล่ะ
00:06:07 → 00:06:13 ยามนะครับถ้าเรามีเป้าของเราชัดเจนจิตใจ
00:06:13 → 00:06:15 เราคิดว่าเราบริสุทธิ์เราตั้งหน้าตั้งตา
00:06:15 → 00:06:19 ทำก็จะไม่แปลกนะที่จะมีคนที่ไม่เห็นด้วย
00:06:19 → 00:06:25 แต่มันจะยากมากถ้าเราไปใส่ใจคนที่พูดลบ
00:06:25 → 00:06:27 เกี่ยวกับเรา
00:06:27 → 00:06:32 จะพูดไม่ดีกับผลงานของเราโดยที่เขาอาจจะ
00:06:32 → 00:06:35 ไม่ได้ตั้งใจศึกษาหรือไม่ได้ใส่ใจที่จะ
00:06:35 → 00:06:40 เรียนรู้ด้วยซ้ำว่าเราทำอะไรอยู่นะอันนี้
00:06:40 → 00:06:43 ผมอยากจะเบื่อเรานิดนึงว่าอยากให้เข้าใจ
00:06:43 → 00:06:48 สัจธรรมก่อนว่าคนเหล่านี้มีจริงถ้าเรา
00:06:48 → 00:06:51 เรียกในกระติกฟิวเพิ่ลคนที่คิดลบคนที่มอง
00:06:51 → 00:06:53 ลบทุกอย่าง
00:06:53 → 00:06:56 เพื่อคนเหล่านี้เนี่ยเขาไม่ได้มองลบด้วย
00:06:56 → 00:07:00 นิสัยเขาเองอาจจะเป็นเรื่องหลักก็อาจจะ
00:07:00 → 00:07:05 เติบโตมาในสภาพแวดล้อมที่อาจจะไม่ได้ทำ
00:07:05 → 00:07:08 ให้เขามองอะไรในแง่บวก
00:07:08 → 00:07:11 สองข้อจะอยู่ในสถานการณ์ที่เขาไม่ได้มอง
00:07:11 → 00:07:13 ลูกในแง่บวก
00:07:13 → 00:07:17 หรือ 3 ก็จะมีประสบการณ์ที่ไม่ดีก็เลยทำ
00:07:17 → 00:07:21 ให้เขามองโลกในแง่ลบตลอดแต่คนเหล่านี้
00:07:21 → 00:07:25 เนี่ยก็จะมีปัญหาโดยบุคลิกเค้าอยู่แล้ว
00:07:25 → 00:07:30 เขาอาจจะหาเพื่อนยากมีเพื่อนที่จริงใจยาก
00:07:30 → 00:07:33 อาจจะมีปัญหาในที่ทำงาน
00:07:33 → 00:07:38 ในมีปัญหาในรีเลชั่นหรือความสัมพันธ์กับ
00:07:38 → 00:07:44 แฟนนะอาจจะมีปัญหาในช่วงที่เขาแต่งงาน
00:07:44 → 00:07:47 แล้วก็จะก็จะมีความ
00:07:47 → 00:07:53 ข้อความลบๆเขาจะมีการโทษสิ่งแวดล้อมเพราะ
00:07:53 → 00:07:56 จะมีเป้าหมายในชีวิตที่ไม่ได้กว้างมาก
00:07:56 → 00:08:00 บางคนอาจจะสุขภาพไม่ค่อยดีมีคนอาจจะ
00:08:00 → 00:08:03 เครียดหรือตลอดเวลามีโรคซึมเศร้าหรือมี
00:08:03 → 00:08:08 ภาวะอารมณ์แปรปรวนแล้วก็ต้องเข้าใจมาก
00:08:08 → 00:08:13 สัจธรรมของคนที่เขามองโลกในแง่ลบเนี่ย
00:08:13 → 00:08:17 เค้าอาจจะมีอะไรเบื้องล่ะเขาอันนี้คือ
00:08:17 → 00:08:20 เรามองที่ตัวเขาก่อน
00:08:20 → 00:08:24 นั้นสมมติเราเริ่มต้นอะไรนี่ในชีวิตเรา
00:08:24 → 00:08:28 แต่เฉพาะหลังโควิชตั้งใจว่าคุณจะทำอะไร
00:08:28 → 00:08:32 แต่มันอื่นคุณไปเจอคนเข้ามาเขียนหรือมา
00:08:32 → 00:08:38 พูดหรือมามาชีสโดยที่คุณรู้สึกว่าเค้าอาจ
00:08:38 → 00:08:41 จะไม่ได้เข้าใจในเจตนาคุณหรือผลงานคุณ
00:08:41 → 00:08:47 วิธีคุณอาจจะแทนที่จะเป็นโมโหเขาหรือไปจะ
00:08:47 → 00:08:50 ไปเอาคืนหรือไปไปเสียเวลากับเขาเนี่ย
00:08:50 → 00:08:54 เพียงแค่เราเข้าใจสัจธรรมเนี่ยมันก็ทำให้
00:08:54 → 00:08:58 คุณเนี่ยนิ่งได้มากขึ้นมาทำให้คุณเฉยมาก
00:08:58 → 00:09:02 ขึ้นแนะนำให้คุณไม่ไม่ตอบสนองต่อสิ่ง
00:09:02 → 00:09:08 กระตุ้นเหล่านี้นะย้ำนะครับถ้าคนเหล่านี้
00:09:08 → 00:09:11 เขาไม่รู้จักคุณไม่รู้จักเจตนาหรือไม่ได้
00:09:11 → 00:09:15 แสดงความพยายามที่จะรู้ว่าคุณทำอะไรอยู่
00:09:15 → 00:09:21 ผมว่าอยากให้คุณลองใช้จิตวิทยาเนี้ยในการ
00:09:21 → 00:09:25 คุยกับตนเองเพราะอะไรครับเพราะว่ามนุษย์
00:09:25 → 00:09:29 เราในเวลามีใครมาพูดอะไรไม่ดีหรือพี่ใคร
00:09:29 → 00:09:32 มาชี้เรามาติเรานี่ถึงแม้เขาจะรู้จักเรา
00:09:32 → 00:09:35 หรือไม่รู้จักเราเรานี่แหละจะรู้สึกไม่ดี
00:09:35 → 00:09:39 ใช่ไหมครับถ้าคุณไม่ได้เป็นคนที่หนังแข็ง
00:09:39 → 00:09:42 อยู่แล้วนะคุณจะรู้สึกไม่ค่อยดีมันจะรู้
00:09:42 → 00:09:43 สึกไม่สบายใจ
00:09:43 → 00:09:45 แต่
00:09:45 → 00:09:49 ผมอยากจะเตือนก็จะปล่อยให้ความรู้สึกนั้น
00:09:49 → 00:09:53 มันกินคุณนั่นมันห้ามคุณที่จะเดินหน้าต่อ
00:09:53 → 00:09:58 อย่าลืมคุณใช้หลักจิตดวงนี้ว่าฉันจะทำของ
00:09:58 → 00:10:02 คนเหล่านี้คืออะไรมันก็ทำให้คุณสบายใจมาก
00:10:02 → 00:10:07 ขึ้นอันจะทำให้คุณก้าวข้ามความรู้สึกที่
00:10:07 → 00:10:11 คุณมีแล้วเริ่มต้น Chapter ใหม่หรือเดิน
00:10:11 → 00:10:13 หน้าต่อในชีวิต
00:10:13 → 00:10:16 แต่ผมเชื่อนะครับว่าคนเหล่านี้ที่เข้ามา
00:10:16 → 00:10:18 ในชีวิตคนเนี่ย
00:10:18 → 00:10:21 เขาเข้ามาด้วยวัตถุประสงค์
00:10:21 → 00:10:24 หรือวัตถุประสงค์นั้นอ่ะกำลังทำให้คุณน่ะ
00:10:24 → 00:10:27 เก่งขึ้น
00:10:27 → 00:10:30 ผมเชื่อนะครับว่า
00:10:30 → 00:10:35 การที่มนุษย์มีศัตรูย่อมดีกว่ามนุษย์มี
00:10:35 → 00:10:38 แต่เพื่อนๆและก็มีศัตรูหรือมีการมีคู่
00:10:38 → 00:10:43 แข่งเนี่ยทำให้เราเนี่ยได้แต่ๆตอบนั้นได้
00:10:43 → 00:10:47 ฝึกฝนแล้วก็ได้พัฒนาตนเองให้ดีขึ้นดีขึ้น
00:10:47 → 00:10:49 อย่างน้อย
00:10:49 → 00:10:53 มันเป็นแรงกระตุ้นอันนึงที่จะผักให้คุณ
00:10:53 → 00:10:56 เนี่ยเดินหน้าต่อแล้วก็ดึงความเป็น
00:10:56 → 00:11:01 เอกลักษณ์หรือความสุดยอดของคุณออกมาได้นะ
00:11:01 → 00:11:04 ครับงั้นคนนั้นก็ตีปีเพิ่มหรือคนที่เขามา
00:11:04 → 00:11:08 คอมเม้นหรือมาพูดไม่ดีคุณลองเอามุมนี้ไป
00:11:08 → 00:11:13 ต่อรองกับความรู้สึกตนเองถ้าลองพัฒนาบน
00:11:13 → 00:11:16 พื้นฐานความคิดนี้คุณจะได้ต่อยอดและเดิน
00:11:16 → 00:11:20 หน้าได้มากขึ้น
00:11:20 → 00:11:23 ในช่วงชีวิตนึงเนี่ย
00:11:23 → 00:11:28 ผมเชื่อว่าหลายคนนะผมเองก็ก็มีนะครับก็มี
00:11:28 → 00:11:33 แล้วก็มีไม่น้อยด้วยนะครับก็มีคนที่มองใน
00:11:33 → 00:11:37 แง่ลบพูดในแง่ลบพูดไม่ดีมีมา
00:11:37 → 00:11:42 ดูเฉพาะคนที่โตมาด้วยกันหรือหรือเป็น
00:11:42 → 00:11:47 เพื่อนในเงี้ยแต่มองเรานี่ลบมอนของงานเรา
00:11:47 → 00:11:51 เนี่ยลบมันจะยิ่งทำให้เรารู้สึกเสียใจและ
00:11:51 → 00:11:55 เจ็บใจนะแต่ว่าผมก็เชื่อว่าคุณก็ต้องสุด
00:11:55 → 00:11:58 สุดไปเรื่อยๆของคนที่มันไม่ได้เกิดข้าม
00:11:58 → 00:12:02 วันข้ามคืนมันต้องฝึกฝึกขัดเกลาความรู้
00:12:02 → 00:12:06 สึกที่จะที่จะเข้าใจสัจธรรมที่จะไม่ตอบ
00:12:07 → 00:12:12 สนองแล้วก็อยู่นิ่งตอบคำลบๆเนี้ย
00:12:12 → 00:12:16 ถึงจุดหนึ่งคุณจะเก่งเก่งขึ้นเรื่อยๆเก่ง
00:12:16 → 00:12:20 ขึ้นเรื่อยๆก็คุณก็จะบรรลุไปเรื่อยๆบรรลุ
00:12:20 → 00:12:24 ธรรมมากขึ้นเรื่อยๆอันนี้ทางตรงกันข้ามใน
00:12:24 → 00:12:25 ต่างครับ
00:12:25 → 00:12:29 แต่ผมก็ยังเชื่อนะครับคนที่เขาเข้ามาพูด
00:12:29 → 00:12:33 ในแง่ลบหรือมาติเราเนี่ยเขาก็อาจจะมันก็
00:12:33 → 00:12:36 จะมีคนบางคนที่ต้องการจะสอนเราอ่ะฉัน
00:12:36 → 00:12:39 ต้องการจะพัฒนาแล้วอันนั้นก็ขึ้นอยู่ที่
00:12:39 → 00:12:43 คุณแล้วล่ะว่าคุณเป็นคนที่เปิดใจหรือรับ
00:12:43 → 00:12:47 รู้แค่ไหนถ้าเราไม่เปิดใจรับฟังหรือไม่
00:12:47 → 00:12:51 เปิดใจที่จะยอมรับความผิดพลาดตนเองอันนี้
00:12:51 → 00:12:53 คุณอาจจะลำบากหน่อยอันนี้ก็เป็นเป็น
00:12:53 → 00:12:56 บุคลิกที่คุณจะต้องขัดเกลาอยู่แล้วยังไหม
00:12:56 → 00:12:59 ครับเราไปคุยกันแล้วว่าบุคลิกที่ดีก็คือ
00:12:59 → 00:13:02 เป็นบุคลิกที่น้ำผึ้งแก้วเราเรียนรู้อยู่
00:13:02 → 00:13:07 ตลอดเวลาแต่ยามนะครับผลที่จะมาสอนเราหรือ
00:13:07 → 00:13:11 จะมาติดเราเนี่ยคุณก็ต้องแฟร์กับตนเองนะ
00:13:11 → 00:13:14 คนคนนั้นเขาก็จะต้องอย่างน้อย
00:13:14 → 00:13:18 ใส่ใจในสิ่งที่เราทำปอดเรียนรู้ในสิ่งที่
00:13:18 → 00:13:22 เราพยายามจะทำก่อนถึงจะมาติหรือจะมาพูดใน
00:13:22 → 00:13:27 แง่ลบได้แต่ถ้าคนที่ไม่ได้รู้อะไรเลยหรือ
00:13:27 → 00:13:29 ไม่ได้ไม่ได้แม้กระทั่งมีเวลาที่จะ
00:13:29 → 00:13:33 มาเรียนรู้ในสิ่งที่เราทำแต่มาปุ๊บพูด
00:13:33 → 00:13:37 ปั๊บเลยนะเรื่องลบๆนี้ผมว่าควรอย่าถอย
00:13:37 → 00:13:40 หนึ่งก้าวนะครับยังไม่เปิดรับฟังทุก
00:13:40 → 00:13:42 เรื่องเพราะว่าเปิดทับลังสุดเรื่องว่าทำ
00:13:42 → 00:13:47 ให้คุณช้าไปเรื่อยๆนะฮะก็อย่างที่บอกการ
00:13:47 → 00:13:50 จะเลือกคนที่จะมาติเราหรือจะมาสอนเราที่
00:13:50 → 00:13:52 เราก็ต้องคัดกันแล้วก็ต้องดูปลาเหมือนกัน
00:13:52 → 00:13:57 ว่าเขาลงแรงลงใจกับเราแค่ไหนที่เขาจะมา
00:13:57 → 00:14:02 ติดเหล้าหรือจะมาสอนแล้ว
00:14:02 → 00:14:05 เหมือนที่เขาเคยพูดว่า
00:14:05 → 00:14:09 คุณทำดีแค่ไหนแต่ถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นพ่อ
00:14:09 → 00:14:15 ค้าก็จะมองว่าคุณกำลังจะขายในเขาอยู่
00:14:15 → 00:14:19 คุณทำดีแค่ไหนถ้าฝ่ายตรงข้ามเป็นตำรวจ
00:14:19 → 00:14:24 เป็นหน้ากฎหมายข้อจะมองว่าคุณกำลังปกปิด
00:14:24 → 00:14:27 หรือลบข้อมูลอะไรบางอย่างหรือหลักฐานอะไร
00:14:27 → 00:14:31 บ้างเนี่ยนะครับบางทีการที่เราตั้งใจทำดี
00:14:31 → 00:14:35 หรือคิดดีเนี่ยก็ต้องดูด้วยว่าฝ่ายตรง
00:14:35 → 00:14:38 ข้ามเนี่ยเขาอ่ามุมไหนก็มาจากแองโก้หน่อย
00:14:38 → 00:14:45 เขาเป็นใครนะมึงที่เราการที่เราไปไวต่อ
00:14:45 → 00:14:49 คอมเม้นท์หรือความรู้สึกของเขาเนี่ยมันก็
00:14:49 → 00:14:50 ทำให้เราลำบาก
00:14:50 → 00:14:53 อันยกตัวอย่าง
00:14:53 → 00:14:57 เราตั้งใจทำดีแล้วเขียนดีแล้วพูดดีเราสอน
00:14:57 → 00:15:00 ดีแต่บังเอิญเราไปเจอเพื่อนที่เป็นพ่อค้า
00:15:00 → 00:15:06 เขาบอกโอ้ยเก่งนะการตลาดเธอดีมากก็มองก็
00:15:06 → 00:15:11 มองเป็นการตลาดไปเลยโอ้การตลาดคือดีมากนะ
00:15:11 → 00:15:15 แต่ตรงกันข้ามจะไปหาคนไข้ที่เขาต้องการ
00:15:15 → 00:15:17 ความช่วยเหลือ
00:15:17 → 00:15:21 เขาจะบอกว่าดีมากเลยนะครอบข้อมูลที่ถือ
00:15:21 → 00:15:26 ให้ทำให้คะเนี่ยดูแลตนเองได้ดีมากอดภาระ
00:15:26 → 00:15:29 ที่ฉันจะต้องมาโรงพยาบาลได้ดีมากขอบคุณ
00:15:29 → 00:15:30 มาก
00:15:30 → 00:15:32 ใช่ไหมครับ
00:15:32 → 00:15:36 การที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำดีเนี่ยอ่ะและ
00:15:36 → 00:15:40 นอกจากเราจะเข้าใจสัจธรรมละ
00:15:40 → 00:15:44 บางทีหลอดจะต้องรู้อีกมุมนึงว่าฝ่ายตรง
00:15:44 → 00:15:51 ข้ามเค้าคือใครมุมมองเขาคืออะไร
00:15:51 → 00:15:54 เพราะถ้าเราเข้าใจเนี่ยเราจะไม่ถือเขาเลย
00:15:54 → 00:15:55 ก็จะรู้เลยว่า
00:15:55 → 00:16:00 ก็เพราะว่าเขาอยู่ในสิ่งแวดล้อมแบบเนี้ย
00:16:00 → 00:16:06 มันไม่แปลกเลยเขาจะคิดอย่างนี้
00:16:06 → 00:16:10 คุณลองไปเขื่อนคุณลองสัมผัสกับคนที่ทำงาน
00:16:10 → 00:16:15 ในแง่เซลล์ในแง่เป็นพนักงานขายเนี่ย
00:16:15 → 00:16:17 คุณจะรู้เลยว่าอ้อ
00:16:17 → 00:16:20 บางทีเราพูดอะไรจริงเนี่ยเขาจะไม่ค่อย
00:16:20 → 00:16:24 เชื่อเลยบางที่เราพยายามจะแนะนำอะไรเขา
00:16:24 → 00:16:28 เนี่ยเขาจะเชื่อยากมากเขาถึงบอกว่า
00:16:28 → 00:16:32 พนักงานขายเนี่ยเชื่อคนยากมากเลยอันนี้
00:16:32 → 00:16:36 คุณลองไปคิดดูว่าทำไมก็จะเชื่อคนแยกเป็น
00:16:36 → 00:16:40 แต่พ่อเขาเองเวลาจะขายเนี่ยเขาจะทำให้
00:16:40 → 00:16:41 ฝ่ายตรงข้ามเนี่ยเชื่อ
00:16:41 → 00:16:45 เขาก็เลยจะถูกปั้นมาก็จะมีความคิดอะไรบาง
00:16:45 → 00:16:48 อย่างว่าการที่เราจะทำให้ฝ่ายตรงข้าม
00:16:48 → 00:16:51 เชื่อได้เนี่ยมันจะต้องมีกลยุทธ์อะไรบ้าง
00:16:51 → 00:16:55 เนี้ยนั้นมนุษย์ที่พูดออกมาเนี่ยไม่ได้
00:16:55 → 00:16:58 พูดด้วยจิตใจที่บริสุทธิ์แต่พูดด้วย
00:16:58 → 00:17:02 กลยุทธ์เพื่อหวังผลอะไรบ้างเนี่ย
00:17:02 → 00:17:05 ผมเองนะครับก็มีแม้กระทั่งญาติพี่น้อง
00:17:05 → 00:17:09 หรือเพื่อนสนิทที่ทำงานอยู่ในสายอาชีพ
00:17:09 → 00:17:15 saves บางทีเราแนะนำผมสัมผัสได้นะแต่ว่า
00:17:15 → 00:17:18 ก็ไม่ได้บอกเขาตรงๆแต่ว่าสัมผัสได้ว่าคน
00:17:18 → 00:17:21 เหล่านี้เนี่ยบางทีเราแนะนำอะไรไปตรงๆ
00:17:21 → 00:17:26 เนี่ยบางทีเขาอาจจะไม่ได้เชื่อเราตรงๆเขา
00:17:26 → 00:17:30 อาจจะมีความคิดของเขาซึ่งมันเป็นกำแพงที่
00:17:30 → 00:17:33 เขาถูกสร้างขึ้นมาเขาหลอมขึ้นมาอย่างนี้
00:17:33 → 00:17:36 โดยที่เขาไม่รู้ตัวมันเกินมันเลยกลายมี
00:17:36 → 00:17:40 ระบบความเชื่อหรือบินลิส System ของเขาไป
00:17:40 → 00:17:45 แล้วนะอันนี้ก็อยากให้เข้าใจว่าฝ่ายตรง
00:17:45 → 00:17:47 ข้ามเราคืออะไร
00:17:47 → 00:17:52 ที่นี้นอกจากที่เราจะเข้าใจสัจธรรมละว่า
00:17:52 → 00:17:55 คนที่มองในแง่ลบมีจริง
00:17:55 → 00:18:00 คนในแง่ลบบางทีก็มีเบื้องหลังเขาหรือเขา
00:18:00 → 00:18:05 อยู่ในวงการการทำงานวิถีชีวิตเขามันลบ
00:18:05 → 00:18:09 หรือมันเชื่อคนยากที่สุดท้ายแล้วมันขึ้น
00:18:09 → 00:18:13 อยู่ที่อยู่อ่ะผมว่าอยู่ตรงฝึกล่ะสุดที่
00:18:13 → 00:18:14 จะเดินออก
00:18:14 → 00:18:17 เพราะเรารู้แล้วว่าสถานการณ์อย่างนี้เป็น
00:18:17 → 00:18:21 จริงเราเจอคนคนนั้นรอบตัวเราจริงเรามี
00:18:21 → 00:18:25 เป้าหมายของเราที่เราจะไปถึงศิลปะที่คุณ
00:18:25 → 00:18:29 จะต้องฝึกฝึกเดินออกจากคนที่
00:18:29 → 00:18:35 มองทุกอย่างในแง่ลบคิดทุกอย่างในแง่ลบคุณ
00:18:35 → 00:18:37 ต้องสุดเดือนออก If you walk away
00:18:37 → 00:18:43 from the เนติฟีเบิ้ล
00:18:43 → 00:18:46 คือการเดินออกในที่นี้ไม่ได้หมายถึงเรา
00:18:46 → 00:18:50 เราเดินออกฤทธิ์เคอรี่นะอื่นๆไม่ใช่นะ
00:18:50 → 00:18:54 เดือนนี้เขาไม่ใช่นะแต่การเดินออกของผม
00:18:54 → 00:18:57 หมายถึงว่าเราต้องรู้จักเปลี่ยนเปลี่ยนบท
00:18:57 → 00:19:00 หรือตัดบทคนเหล่านี้ให้เป็น
00:19:00 → 00:19:04 อันที่ 1 คือตัดคนเหล่านี้เนี่ยเขาเขาพูด
00:19:04 → 00:19:05 เรื่องลบ
00:19:05 → 00:19:09 ข้างหลังเราหรือภายหลังเราที่เราไม่ได้
00:19:09 → 00:19:12 อยู่นี้คุณก็ต้องเฉยๆไม่ต้องไปตอบสนอง
00:19:12 → 00:19:15 อะไรมากผมว่านะ
00:19:15 → 00:19:19 ถ้าเขาพูดเวลาที่คุณไม่หยุดหรือพูดกับคน
00:19:19 → 00:19:23 ที่ 3 คนก็อาจจะไม่ต้องพิสูจน์อะไรใคร
00:19:23 → 00:19:26 เพราะว่าอะไรอ้ะเพราะว่าหน้าที่ของเราคือ
00:19:26 → 00:19:30 เราต้องโฟกัสที่จะพัฒนาตนเองให้ดีขึ้น
00:19:30 → 00:19:34 เรื่อยๆอย่าไปเสียเวลาในการพิสูจน์ตนเอง
00:19:34 → 00:19:37 ให้กับคนอื่นโดยเฉพาะคนหมอเขาไม่ได้ลงแรง
00:19:37 → 00:19:41 ลงใจกับเราย้ำนะครับเรามีเป้าที่เราจะ
00:19:41 → 00:19:46 ต้องไปถึงเรามีอิสระที่เราจะต้องไปถึงถึง
00:19:46 → 00:19:50 เร็วก็ดีถึงช้าก็ดีเดี๋ยวอ้าอาจจะเสีย
00:19:50 → 00:19:53 เวลาอะไรไปบางส่วนนะฮะทุกอย่างอันไหน
00:19:53 → 00:19:57 เสร็จเร็วก็ดีอยู่เสมอนั้นยามนะครับถ้าคน
00:19:57 → 00:20:01 ที่เค้าพูดเรื่องลบผมว่าว่าเขาพูดหลังเรา
00:20:01 → 00:20:04 มีให้เรียว Bag เล็ก go ปล่อยออกไม่ต้อง
00:20:04 → 00:20:09 พิสูจน์อ่ะอันที่สองคือถ้าเขาพูดเรื่องลบ
00:20:09 → 00:20:11 บนสื่อ
00:20:11 → 00:20:16 บนบนโซเชียลของคุณบน YouTube บน Facebook
00:20:16 → 00:20:17 บน Instagram
00:20:17 → 00:20:22 แล้วคุณไม่รู้จักเขาโดยส่วนตัวหรือเขาไม่
00:20:22 → 00:20:24 รู้จักคุณโดยส่วนตัว
00:20:24 → 00:20:28 โดยส่วนตัวเลยนะครับไม่ใช่รู้จักแบบอันๆ
00:20:28 → 00:20:32 นะนะพืชนรี่รู้จักคุณหรือพยายามที่จะรู้
00:20:32 → 00:20:36 จักคุณคุณก็ต้องฝึกที่จะเดินออกหรือเฉยๆ
00:20:36 → 00:20:40 ก็อาจผ่านหูผ่านตาไป
00:20:40 → 00:20:45 สายตาเราจะต้องคัดกรองข้อมูลในแง่ว่าสิ่ง
00:20:45 → 00:20:49 ที่เขาพูดเราจะเป็นอย่างนั้นจริงหรือไม่
00:20:49 → 00:20:53 เราจะเอามาพัฒนาตรงนั้นได้ยังไงถ้ามัน
00:20:53 → 00:20:56 เป็นจริงแต่ถ้าคุณรู้ตัวเองอยู่แล้วว่า
00:20:56 → 00:21:00 มันไม่ใช่สิ่งที่เขาพูดมันเป็นเป็น
00:21:00 → 00:21:02 Negative comment หรือเป็นคอมเม้นท์
00:21:02 → 00:21:05 เชิงลบล้วนๆเลยโดยที่เขาปราศจากความรู้
00:21:05 → 00:21:08 ให้ผ่าน
00:21:08 → 00:21:11 ฝึกหนักฝึกผ่าน
00:21:11 → 00:21:13 อันที่สาม
00:21:13 → 00:21:17 ถ้าเราเจอคนลบที่เราจะต้องประเชิญหน้าทุก
00:21:17 → 00:21:19 วันโดยเฉพาะที่ทำงาน
00:21:19 → 00:21:25 อันนี้เนี่ยเดินออกเดินหาก
00:21:25 → 00:21:29 สัมผัสให้น้อยเพราะอะไรครับเพราะเราจะ
00:21:29 → 00:21:33 ต้องเก็บแรงไปอยู่กับคนที่เขาข้อสิทธิไป
00:21:33 → 00:21:38 ฟังไปอ่านไปอยู่รอบๆฮะคนที่เขา
00:21:38 → 00:21:42 คิด Positive หรือมองโลกในแง่เพราะสิติ
00:21:42 → 00:21:45 หรือทำในสิ่งที่เราคิดว่ามันถูกจริตกัน
00:21:45 → 00:21:46 แล้ว
00:21:46 → 00:21:48 ถ้าเลือกได้
00:21:48 → 00:21:51 แต่ถ้าเลือกไม่ได้อันนี้จะเริ่มยากขึ้น
00:21:51 → 00:21:52 และ
00:21:52 → 00:21:56 ทำงานภายใต้ผู้บังคับบัญชาหรือเพื่อนร่วม
00:21:56 → 00:22:01 งานที่เราก็คิดว่าเราตั้งใจทำดีนะแต่เขา
00:22:01 → 00:22:06 ก็ยังมองเราในแง่ลบพูดถึงเราในแง่ลบติเรา
00:22:06 → 00:22:10 ในแง่ลบตอนนี้แหละคุณก็ต้องดูว่านะเขารู้
00:22:10 → 00:22:13 จักคุณจริงหรือไม่
00:22:13 → 00:22:18 ถ้าเขาไม่รู้จักคุณแล้วมันเป็นหน้าที่คุณ
00:22:18 → 00:22:21 ที่คุณจะต้องทำให้เขารู้จักคุณก็ต้องฝึก
00:22:21 → 00:22:25 Company ที่อีกต้องสื่อสารให้เป็นสื่อ
00:22:25 → 00:22:30 สารกับคนที่เขามองเราในแง่ลบก็ต้องสุดฝึก
00:22:30 → 00:22:33 ยังไงให้เขามองเราในแง่บวก
00:22:33 → 00:22:38 ก็ต้องทำยังไงให้เขาเข้าใจเจตนาจะทำยังไง
00:22:38 → 00:22:41 ให้เขาเห็นผลงานเราทำยังไงให้เขารู้
00:22:41 → 00:22:44 วิสัยทัศน์เราความคิดเราอันนี้ก็ไม่ได้
00:22:44 → 00:22:47 โจทย์อย่างที่คุณจะต้องไปสุดก็มีหนังสือ
00:22:47 → 00:22:51 เล่มนึงนะที่ดีเนี่ยก็เป็นหนังสือที่ How
00:22:51 → 00:22:53 to Win Friends send it When
00:22:53 → 00:22:58 People พอดีนะฮะแล้วก็อีกเล่มนึงก็คือผม
00:22:58 → 00:23:01 จำชื่อเต็มๆได้เป็นหนังสือที่ดีนะฮะว่า
00:23:01 → 00:23:06 อยู่อยู่ๆก็ติด here at it เดี๋ยวว่างๆ
00:23:06 → 00:23:09 ผมจะมาแชร์ให้ดูคือสรุปผมต้องการจะบอกว่า
00:23:09 → 00:23:14 ทุกๆศิลปะคุณก็ต้องฝึกจับมันให้เจอแล้วหา
00:23:14 → 00:23:21 ตัวช่วยและขัดเกลาและ
00:23:21 → 00:23:23 มีแต่
00:23:23 → 00:23:29 อธิบ่นะคนลบเหล่านั้นทำงานกับเราแล้วเขา
00:23:29 → 00:23:36 ไม่แสดงเจตนาที่จะรู้จักเราหรือไม่ไม่
00:23:36 → 00:23:39 อยากรู้เกี่ยวกับเราถึงแม้เราพยายามแล้ว
00:23:39 → 00:23:42 อันนี้คุณก็ต้องเลือกล่ะตอนนี้คุณต้อง
00:23:42 → 00:23:47 เลือกล่ะอยาก Smith Choice เลือกที่จะ
00:23:47 → 00:23:49 อยู่หรือที่จะไป
00:23:49 → 00:23:53 ถ้าเราไม่มีอำนาจในการต่อรองถ้าคุณไม่มี
00:23:53 → 00:23:54 เบรด
00:23:54 → 00:23:58 อำนาจการต่อรองไม่ได้อยู่ในตัวมือคุณคุณ
00:23:58 → 00:24:02 ต้องเลือกที่จะอยู่หรือที่จะไปเหตุผล
00:24:02 → 00:24:06 เพราะว่าคุณต้องฝึกในการที่จะตัดสินมัน
00:24:06 → 00:24:08 เป็นเรื่องที่สำคัญ
00:24:08 → 00:24:12 เท่าเราอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ลบ
00:24:12 → 00:24:16 โดยที่เราพยายามแล้ว
00:24:16 → 00:24:21 แต่ยังไงประตูไม่เปิด
00:24:21 → 00:24:24 ถ้าคุณอาจจะต้องเลือกที่จะไป
00:24:24 → 00:24:28 ไปเพราะอะไรอ่ะไปเพราะคุณต้องให้โอกาสกับ
00:24:28 → 00:24:32 ชีวิตตนเองคุณต้องให้โอกาสกับตัวเองเพราะ
00:24:32 → 00:24:36 เราจะไปถึงเป้าหมายนั้นเนี่ยถ้าคุณไม่ได้
00:24:36 → 00:24:40 เป็นคนที่กำกับชีวิตคุณเองเนี่ย
00:24:40 → 00:24:41 หนัง
00:24:41 → 00:24:46 เรื่องนี้จะไม่มีวันจบสวยคุณต้องตกเป็น
00:24:46 → 00:24:47 แพะ
00:24:47 → 00:24:51 ของความรู้สึกเนี่ยตลอดเวลาอันนี้คือถ้า
00:24:51 → 00:24:56 คุณเลือกได้ผมมองว่าคุณควรจะไป
00:24:56 → 00:24:57 [เพลง]
00:24:57 → 00:25:02 ในทางตรงข้ามถ้าคุณเลือกไม่ได้เช่นหนึ่ง
00:25:02 → 00:25:05 คุณไปไม่ได้เพราะว่าไม่รู้จะไปที่ไหน 2
00:25:05 → 00:25:10 ไม่มีที่รับหรือ 3 ยังมีภาระอุพัน 4 ยัง
00:25:10 → 00:25:15 มีสัญญาอะไรก็ตามหรือ 5 ดูแล้วพรุ่งนี้
00:25:15 → 00:25:19 ยังตอบโจทย์ในเรื่อง 1 2 3 อยู่นี่คุณ
00:25:19 → 00:25:22 ก็ต้องต่อรองกับตนเองว่ากูที่อยู่ในพื้น
00:25:22 → 00:25:26 ที่ลบอย่างนี้อีกต่อไปได้นานแค่ไหนก็อยาก
00:25:26 → 00:25:31 ให้คุณมีเวลามีทำลายที่คุณจะทนอยู่ได้อีก
00:25:31 → 00:25:32 เท่าไหร่
00:25:32 → 00:25:37 อย่าปล่อยนะครับอย่าปล่อยให้ชีวิตคุณล้อม
00:25:37 → 00:25:40 รอบด้วยบรรยากาศหรือคนที่ลบอยู่ตลอดเวลา
00:25:40 → 00:25:45 เพราะสุดท้ายวันนึงคุณจะกลายเป็นคนลบแบบ
00:25:45 → 00:25:50 เขาคุณก็จะมองรูปในแง่ลบคุณก็จะติดทุก
00:25:50 → 00:25:53 เรื่องคุณก็จะไม่มีความสุขและทุกข์เรื่อง
00:25:53 → 00:25:57 คุณก็จะขาดเป้าหมายในชีวิตคุณก็ไม่อยากทำ
00:25:57 → 00:26:01 ในสิ่งที่คุณต้องการจะทำแล้วความรู้สึก -
00:26:01 → 00:26:05 นี้มันก็จะสืบทอดไปยังลูกของคุณที่คุณ
00:26:05 → 00:26:09 ทำลังจะมีเนี่ยน่ะทดความรู้สึก - จะเป็น
00:26:09 → 00:26:13 กระจายสูบแฟนคุณสามีภรรยาคุณเป็นคนรอบ
00:26:13 → 00:26:15 ข้าง
00:26:15 → 00:26:18 อย่าลืมนะครับคุณเรานำมันจะมองโลกในแง่
00:26:18 → 00:26:21 บวกได้เนี่ยมันก็ต้องอยู่
00:26:21 → 00:26:25 มีอากาศที่ปลูกบรรยากาศที่ที่ผลักดันให้
00:26:25 → 00:26:30 เขามองโลกในแง่ดีอ่ะ
00:26:30 → 00:26:34 ถ้างั้นสิ่งที่เราต้องทำคือคุณต้องฝึก
00:26:34 → 00:26:38 นั้นอบผมย้ำเลยนะครับอันนี้ก็เป็นศิลปะ
00:26:38 → 00:26:42 ที่เราทุกคนต้องค่อยๆตีโจทย์ให้แต่ว่าเรา
00:26:42 → 00:26:46 อยู่ในจุดไหนของสถานการณ์
00:26:46 → 00:26:50 ถ้าเราอยู่ในจุดที่คนมาพูดโดยที่เขาไม่
00:26:50 → 00:26:53 รู้จักเราหรือพูดน่ะลับหลังเราอันนี้ผม
00:26:53 → 00:26:59 ว่าแค่ฝึกที่จะไม่ไปวันไหวต่อความรู้สึก
00:26:59 → 00:27:02 หรือการพูดเหล่านั้นเราเรียกว่าปี stable
00:27:02 → 00:27:06 with a Negative comment นะ Not to
00:27:06 → 00:27:08 be emotions Walk จะไปมีอารมณ์ร่วม
00:27:08 → 00:27:14 อยู่นิ่งๆแต่ใช้สมาธิใช้สติในการคัดกรอง
00:27:14 → 00:27:17 ข้อมูลว่าที่เค้าติมาแล้วจะเอาอะไรไป
00:27:17 → 00:27:22 พัฒนาตนเองได้ไหมโอเคนะฮะตรงกันข้ามถ้า
00:27:22 → 00:27:27 อยู่ในที่ที่เราจะต้องอยู่เผชิญกันก็ลอง
00:27:27 → 00:27:31 ลองคอมเมนต์เขตลองสื่อสารด้วยเหรียญหลวง
00:27:31 → 00:27:34 พ่อธนาบุคลิกตัวเองในงานพูดในสิ่งที่ตัว
00:27:34 → 00:27:37 เองรู้สึกนะเพราะว่าบางทีถ้าลงเงียบเขาก็
00:27:37 → 00:27:41 ไม่รู้เราก็ต้องฝึกพูดแต่ถ้าเราพูดแล้ว
00:27:41 → 00:27:42 เราพยายามแล้ว
00:27:42 → 00:27:46 สำนักงานไม่เปลี่ยนคุณต้องเลือกที่จะอยู่
00:27:46 → 00:27:51 หรือเลือกที่จะไปจะอยู่ก็ต้องต่อเมื่อไม่
00:27:51 → 00:27:55 มีขาดที่จะไปหรือไม่มี Choice หรือด้วย
00:27:55 → 00:27:59 เหตุอะไรที่เราคุยกันแต่เป้าหมายสุดท้าย
00:27:59 → 00:28:05 ของคลิปนี้อยากให้เราเข้าใจสัจธรรมว่า
00:28:05 → 00:28:09 ดังเดินที่เรากำลังจะไปถึงเป้าหมายของเรา
00:28:09 → 00:28:13 นอกจากเราจะพัฒนาบุคลิกตัวเองแล้วเนี่ย
00:28:13 → 00:28:19 หัวข้อที่สองนะคนที่คิดลบมองลบแล้วก็พูด -
00:28:20 → 00:28:21 เรา
00:28:21 → 00:28:25 มันจะต้องรู้ทิศทางหลบคุณจะต้อง manage
00:28:25 → 00:28:28 คนเหล่านี้ให้เป็นบริหารคนเหล่านี้ให้
00:28:28 → 00:28:31 เป็นบริหารสถานการณ์เหล่าขอเลขเด็ด
00:28:31 → 00:28:38 ที่ไหมครับผมพูดเสมอนะฮะเราจะเริ่มวิ่ง
00:28:38 → 00:28:41 ไปถึงเส้นชัยเนี่ย
00:28:41 → 00:28:44 ถ้าทุกๆวันเนี่ย
00:28:44 → 00:28:48 คุณจะต้องมาปวดขาคุณจะต้องมาปวดเข่า
00:28:48 → 00:28:52 คุณจะต้องมาได้ยินเสียงคนตะกูลจากข้างๆ
00:28:52 → 00:28:56 เว้ยห่วยแตกห่วยแตกคุณคิดว่าคุณจะวิ่งถึง
00:28:56 → 00:29:01 เส้นชัยไหมไม่ได้อันนั้นอะไรที่มันติดลบ
00:29:01 → 00:29:04 ทั้งหมดเนี่ยมันต้องเริ่มจัดการเคลียร์
00:29:04 → 00:29:07 เรื่องลบๆออกให้ได้เกาะน
00:29:07 → 00:29:11 เคลียร์ให้เสร็จปุ๊บตอนนี้แหละคุณจะวิ่ง
00:29:11 → 00:29:15 ด้วยจิตใจที่มันลูกมากอันนี้สำคัญมากนะ
00:29:15 → 00:29:18 เราจะทำอะไรสักอย่างเราจะไปถึงเป้าหมาย
00:29:18 → 00:29:22 เนี่ยถ้ามันมีอะไรที่เราแบบอยู่ในใจแบบ
00:29:22 → 00:29:26 อยู่ในไหล่เราจะวิ่งได้ไม่ดีเราจะวิ่งได้
00:29:26 → 00:29:30 สะดุดแล้วเราจะวิ่งได้ไม่ถึงอ่ะก็สเต็ป
00:29:30 → 00:29:34 ที่ 2 และนอกจากพัฒนาเข้าใจ
00:29:34 → 00:29:38 บุคลิกแล้วว่าที่สำคัญคุณต้องเข้าใจในการ
00:29:38 → 00:29:42 เพลียพื้นที่ตัวเองให้สะอาดเกาะ
00:29:42 → 00:29:48 ตัดเดินออกหรือบริหารสถานการณ์ลบๆให้เก่ง
00:29:48 → 00:29:53 ให้เป็นอันนี้เป็นศิลปะที่ต้องฝึก
00:29:53 → 00:29:59 ขอบคุณเก่งมันก็จะนำไปสู่สุขหัวข้อที่ 3
00:29:59 → 00:30:03 ดาวเราค่อยคุยกันขอให้โชคดีครับสวัสดี
00:30:03 → 00:30:06 ครับอ่า