00:00:00 → 00:00:00 The
00:00:00 → 00:00:04 Voice สวัสดีครับผมวีรพงษ์ทวีศักดิ์
00:00:04 → 00:00:08 ดิฉันสุธิราพรปรีเปรมและนี่คือสัยกรรม
00:00:08 → 00:00:11 ความสุขรายการที่ฟังแล้วทำให้คุณมีความ
00:00:11 → 00:00:15 สุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อยลงคุณผู้ฟังอาจ
00:00:15 → 00:00:18 จะไม่เห็นภาพแต่ผมเห็นภาพทุกครั้งที่มา
00:00:18 → 00:00:20 บันทึกรายการหรือว่ามาพูดคุยกับพี่อ้อย
00:00:20 → 00:00:23 เนี่ยพี่อ้อยเนี่ยเป็นคนที่ต้องอธิบายให้
00:00:23 → 00:00:25 คุณฝั่งๆนะครับพี่อ้อยเป็นคนที่แต่งตัวมี
00:00:26 → 00:00:30 สไตล์มากนะโอนะแบบว่าเสื้อผ้าหนผม
00:00:30 → 00:00:34 accessor อื้อหือเพียบเลยนะฮะแต่ว่าอพี่
00:00:34 → 00:00:36 อ้อยเนี่ยเวลาที่ทุกครั้งที่มาเนี่ยพี่
00:00:36 → 00:00:40 อ้อยก็จะใส่หมวกแล้วก็ชุดก็จะสีสันสดใส
00:00:40 → 00:00:43 อะไรอย่างเงี้ยเอ่อแต่ว่าผมสังเกตเห็นว่า
00:00:43 → 00:00:47 พี่ใส่แว่นด้วยครับคุณผู้ฟังนะแต่ว่าผม
00:00:47 → 00:00:51 สังเกตเห็นว่าพี่อ้อยเนี่ยไม่ค่อยใส่อะไร
00:00:51 → 00:00:54 บางอย่างสิ่งที่พี่อ้อยไม่ที่ผมเห็นตอน
00:00:54 → 00:00:58 นี้เลยนะพี่อ้อยมีบางอย่างแต่ว่ายังขาด
00:00:58 → 00:01:01 อะไรบางอย่างอืส่งที่ยังขาดนี่ก็คือขาด
00:01:02 → 00:01:03 เครื่อง
00:01:03 → 00:01:07 [เพลง]
00:01:07 → 00:01:12 ประดับอืพี่วีคะครับทำไมพี่วีพูดรอเรือ
00:01:12 → 00:01:16 ไม่ชัดอ่ะเออเออใช่เมื่อกี้พี่วีพูดว่า
00:01:16 → 00:01:19 เครื่องประดับเหรอคะเครื่องเครื่องประดับ
00:01:19 → 00:01:21 ใช่ประดับเหรอคะจริงมันต้องเป็นยังไงฮะ
00:01:21 → 00:01:24 อืมถ้าพูดอย่างงี้เดี๋ยวไทย PBS เขาจะคอน
00:01:24 → 00:01:27 นะคนใช่มั้ยไม่ถูกใช่มันต้องพูดว่า
00:01:27 → 00:01:30 เครื่องประดับหรือเปล่าคะอ๋อเครื่อง
00:01:30 → 00:01:35 ประดับเหรอเอ้ออ๋อก็คือแต่จริงๆผมหมายถึง
00:01:35 → 00:01:39 เครื่องเครื่องประดับจริงๆนะเหรอคะไม่มีร
00:01:39 → 00:01:43 เรือเหรอคะไม่มีรเรือไม่มีประดับอ้าวไม่
00:01:43 → 00:01:47 เคยได้ยินนะเครื่องประดับเลยอ่ะอ้าไม่เคย
00:01:47 → 00:01:49 ได้ยินค่ะคือจริงๆแล้วคุณผู้ฟังต้องบอก
00:01:49 → 00:01:52 ก่อนนะที่พี่อ้อยพูดคำว่าเครื่องประดับ
00:01:52 → 00:01:56 ใหม่ดีฮะอิวรอเรือนะเออใช่ๆๆก็คือเอาเอ่อ
00:01:57 → 00:02:00 เป็นเครื่องตกแต่งเพิ่มเติมเออๆๆมีหรือ
00:02:00 → 00:02:04 ไม่มีก็ไม่เป็นไรแต่ว่าถ้ามีเข้ามาเพิ่ม
00:02:05 → 00:02:08 ก็จะดูดีขึ้นหรือว่าอะไรประมาณนี้เราก็
00:02:08 → 00:02:12 เรียกว่าเครื่องประดับประดับใช่มั้ยแต่
00:02:13 → 00:02:18 ว่าผมอ่ะจงใจที่จะพูดเครื่องประดับออไม่
00:02:18 → 00:02:21 มีรอเรือเลยแล้วมันคืออะไรล่ะคะพี่วีอ่ะ
00:02:21 → 00:02:24 ถ้าพูดถึงเครื่องแบบพี่อ้อยก่อน
00:02:24 → 00:02:28 อ่าเครื่องประดับเนี่ยมีรเรือเนี่ยหมาย
00:02:28 → 00:02:31 ถึงอะไรฮะอย่างที่เมื่อกี้บอกไปแล้วก็คือ
00:02:32 → 00:02:34 เป็นอะไรก็ตามที่เอามาเพิ่มเติมแล้วทำให้
00:02:34 → 00:02:38 เราดูดีขึ้นถ้าเป็นผู้หญิงก็เช่นเออๆเอ่อ
00:02:38 → 00:02:44 ใส่ตุ้มหูเอ่อแหวนสร้อยๆเพชร 50 กะรัด
00:02:44 → 00:02:48 อะไรประมาณเป็นต้นนี่ไงอันนี้คือเครื่อง
00:02:48 → 00:02:52 ประดับไงใช่มั้ใช่แล้วทำให้ผมนึกถึงบอก
00:02:52 → 00:02:55 ว่าก่อนที่จะผมจะบอกว่าทำไมผมถึงพูดคำว่า
00:02:55 → 00:03:00 เครื่องปะดับนะอืผมจะพูดถึงเครื่องประดับ
00:03:00 → 00:03:03 ก่อนอ่าค่ะพี่ย้อยเคยไปซื้อต้มหูมั้ยอ้อ
00:03:03 → 00:03:06 เคยสิคะเคยใช่มั้ยเวลาที่สุภาพสตรีเคไป
00:03:06 → 00:03:10 ซื้อต้มหูนี่เเค้าทำยังไงขั้นตอนก็ต้อง
00:03:10 → 00:03:14 เลือกแบบที่ชอบที่ชอบ 1 แล้วก็ลองลองดู
00:03:14 → 00:03:18 ด้วยค่ะลองแต่ว่าอย่างตัวเองเนี่ยชัดเจน
00:03:18 → 00:03:21 เลยถ้าเป็นต้มหูเนี่ยอือๆๆเป็นคนที่ใส่
00:03:21 → 00:03:26 ต้มหูแบบห้อยระยาไม่ได้อืโอ้จะดูไม่ไหว
00:03:26 → 00:03:29 เลยใช่มอันนั้นคือก็จะเป็นต้มหูที่ติดกับ
00:03:29 → 00:03:32 หูอ๋อเป็นเล็กๆๆๆแต่ว่าไม่ใช่ย้วยๆเยอะๆ
00:03:32 → 00:03:34 อะไรงงี้ไม่ได้่อ่าจะจะเล็กจะใหญ่ไม่เป็น
00:03:34 → 00:03:37 ไรแต่ว่าถ้ามันห้อยลงมาข้างล่างเนี่ยไม่
00:03:37 → 00:03:41 ใช่เลยอ๋ออันนี้เป็นความรู้สึกหรือมีใคร
00:03:41 → 00:03:44 บอกนะเออเราดูตัวเราประเมินตัวเราเองตัว
00:03:44 → 00:03:47 เองใช่มเออนี่ไงมันทำให้ผมนึกถึงภาพเวลา
00:03:47 → 00:03:50 ที่สุภาพสตรีไปซื้อตมหูนะคุณผู้ฟังค่ะ
00:03:51 → 00:03:54 เท่าที่ผมสังเกตนะก็คือไปถึงที่ร้านปึ๊บเ
00:03:54 → 00:03:57 บอกชี้ก่อนเลยขอดูอันนี้หน่อยนะขอดีอัน
00:03:57 → 00:04:01 นี้ปึ๊บอยากลองอันนี้เก็ส่งมาให้แล้วก็
00:04:01 → 00:04:04 ใส่ปึ๊บใส่เสร็จแล้วไงต่อฮะเราก็ส่อง
00:04:04 → 00:04:06 กระจกเออที่ร้านนี้ก็ต้องมีกระจกส่อง
00:04:06 → 00:04:08 กระจกเสร็จแล้วก็หันซ้ายหันขวาอะไรอย่าง
00:04:08 → 00:04:11 งี้ใช่มั้ยแล้วก็บอกเฮ้ยอันนี้
00:04:11 → 00:04:16 ดีคือคนเวลาที่ซื้อต้มหูเนี่ยพี่อ้อยค่ะ
00:04:16 → 00:04:18 เา้าก็จะต้องเลือกอย่างที่พี่อ้อยบอกอ่ะ
00:04:18 → 00:04:21 พี่อ้อยรู้ว่าตัวเองเหมาะกับอย่างงี้แล้ว
00:04:21 → 00:04:23 เราก็มีความคิดว่าแบบเนี้ยใส่แล้วเราจะดู
00:04:23 → 00:04:27 ดีขึ้นอแต่มีบางแบบที่เราใส่แล้วเรารู้
00:04:27 → 00:04:30 สึกว่าเราดูไม่ได้ดูดีขึ้นน่ะ
00:04:30 → 00:04:33 เราก็ไม่ซื้อไงเราก็ไม่ซื้อก็ไม่เลือกอัน
00:04:33 → 00:04:38 นี้ไงคือเครื่องประดับใช่คนที่ใส่เครื่อง
00:04:38 → 00:04:42 ประดับเนี่ยค่ะเค้ามีความเชื่อหรือเขาคมี
00:04:42 → 00:04:46 ความคิดว่าสิ่งเหล่านั้นเมื่อนำเข้ามา
00:04:46 → 00:04:51 อยู่กับตัวแล้วเค้าจะดูดีขึ้นอืใช่ใช่ม
00:04:51 → 00:04:55 ค่ะใชแต่ว่าอะไรก็ตามที่เราเอาเข้ามาอยู่
00:04:55 → 00:04:59 กับตัวแล้วเนี่ยอือเอามาติดกับตัวแล้วเรา
00:04:59 → 00:05:02 อืออไม่ได้ทำให้เราดูดีขึ้นเนี่ยอือผม
00:05:02 → 00:05:06 เรียกสิ่งนั้นว่าเครื่องประดับ
00:05:06 → 00:05:09 อ๋อคือเอามาปะกับตัวแล้วดับ
00:05:09 → 00:05:14 อ่ะดดับแบบว่าไฟเหมือนปิดไฟเลยชีวิตดับ
00:05:14 → 00:05:19 สูคือไม่ได้ดูดีขึ้นน่ะอืคือดับ
00:05:19 → 00:05:24 อ่ะนึกถึงแว่นกันแดดเออยังไงะพี่อ้อยแว่น
00:05:24 → 00:05:27 กันแดดพี่อ้อยเนี่ยจะบอกตัวเองเลยว่าเอ
00:05:28 → 00:05:30 แว่นกันแดดที่ตัวเองใส่ดได้มันจะเป็นทรง
00:05:30 → 00:05:34 เร็วๆนิดนึงเอแต่ว่ามันจะมีความนิยมแว่น
00:05:34 → 00:05:38 กระแดดใหญ่ๆอ่าใหญ่แล้วก็มีโค้งๆกลมๆใส่
00:05:38 → 00:05:40 แล้วเห็นตัวเองเหมือนหน้าตาเหมือนตัว
00:05:41 → 00:05:44 บีเวอร์ทุกทีเลยอย่างงี้เป็นต้นค่ะ
00:05:44 → 00:05:47 อันเนี้ยคือคุณผู้ฟังครับดีนะที่พี่อ้อย
00:05:47 → 00:05:49 เค้าพูดเองเนี่ยถ้าเกิดว่าผมเป็นคนพูดนี่
00:05:49 → 00:05:53 ้าเับเป็นการบูลี่นะเออๆๆค่ะแต่พี่อ้อย
00:05:53 → 00:05:55 เข้าใจเลยใช่มั้ยว่าทำไมผมถึงพูดคำว่า
00:05:55 → 00:05:59 เครื่องปะปะดับดับเพราะว่าเอามาปะกับตัว
00:05:59 → 00:06:04 แล้วเนี่ยดับเลยดับก็คือแบบโอหมดดูแย่ลง
00:06:04 → 00:06:08 แย่เลยอืค่ะแต่แน่นอนครับคุณผู้ฟัง
00:06:08 → 00:06:12 สัญกรรมความสุขเราไม่ได้พูดถึงวัตถุสิ่ง
00:06:12 → 00:06:15 ของค่ะแต่ผมกำลังจะชวนพี่อ้อยพี่อ้อย
00:06:15 → 00:06:17 อย่างพี่อ้อยเนี่ยชัดเจนเรื่องวัตถุสิ่ง
00:06:17 → 00:06:21 ของเนี่ยจะรู้บอกตัวเองว่าตมหูห้อยระย้า
00:06:21 → 00:06:25 ใส่มานี่ดับแน่นอนใช่มั้ยเออมันไม่ประดับ
00:06:25 → 00:06:28 แต่มันดับเลยมันดับหรือว่าพี่อ้อยก็รู้
00:06:28 → 00:06:31 ชัดเจนว่าแว่นน่ะถ้าเป็นแว่นกันแดดถ้า
00:06:31 → 00:06:35 ใหญ่ๆปึ๊บอเอามาใส่เอามาปะอยู่กับตัวเอง
00:06:35 → 00:06:38 เอามาใส่ที่ใบหน้าตัวเองปุ๊บดับเลยใช่ใช่
00:06:38 → 00:06:43 มั้ยเราดูแย่ลงทันทีแต่คำถามคือแล้ว
00:06:43 → 00:06:47 สำหรับสิ่งที่ไม่ใช่เป็นวัตถุสิ่งของอ่ะ
00:06:47 → 00:06:52 พี่้อยวในชีวิตเราอ่ะพี่ย้อยว่าเราแยกออก
00:06:52 → 00:06:56 ชัดเจนมยว่าสิ่งที่ไม่ใช่วัตถุสิ่งของนะ
00:06:56 → 00:07:02 อย่างเช่นอเอ่อคำพูดหรือพฤติกรรมอค่ะหรือ
00:07:02 → 00:07:08 อากักิริยาอหรือความคิดเออค่ะมันมีทั้ง 2
00:07:08 → 00:07:13 ฟากนี้เหมือนกันมั้ยมีเออคำพูดอากักิริยา
00:07:13 → 00:07:20 อาการหรือความคิดความเชื่อใดๆมีมยที่มัน
00:07:20 → 00:07:25 คือเครื่องประับประดับประดับมีรอเรือเออ
00:07:25 → 00:07:28 ใช่คือมันมีสิมีสิ่งนั้นแล้วพูดแบบนั้น
00:07:28 → 00:07:33 แล้วชเชื่อแบบนั้นแล้วทำให้เราดูดีขึ้น
00:07:33 → 00:07:37 แต่ในอีกฟากนึงมีมั้ยอคำพูดความเชื่อหรือ
00:07:37 → 00:07:41 ความคิดหรือพฤติกรรมที่เป็นเครื่องประดับ
00:07:41 → 00:07:47 อืมีแล้วทำให้ชีวิตดับเลยมีทั้ง 2 ฟังเออ
00:07:47 → 00:07:49 ค่ะนี่ไงวันนี้ผมก็
00:07:49 → 00:07:54 เลยอยากจะมาชวนคุยว่าออไม่ใช่ต้มหูไม่ใช่
00:07:54 → 00:07:59 แว่นไม่ใช่สร้อยอค่ะแต่เป็นคำพูดความคิด
00:07:59 → 00:08:04 คิดความเชื่อพฤติกรรมอืใดๆเที่ทำให้เราดู
00:08:04 → 00:08:09 ดีขึ้นกับที่ทำให้เราดูแย่ลงอือๆอือค่ะ
00:08:09 → 00:08:13 อันนี้อยากจะมาชวนแยกเลยอืค่ะเอาฟากไหน
00:08:13 → 00:08:16 ก่อนดีพี่อ้อยเอาตามใจพี่วีเลยค่ะเอาฟาก
00:08:16 → 00:08:21 ที่เอาเอาเรื่องคำพูดก่อนคำพูดคำพูดคำพูด
00:08:21 → 00:08:27 ที่ทำให้เราดูดีขึ้นจริงๆเออที่เราพมีรอ
00:08:27 → 00:08:31 เรือเออใช่เนี่ยขึ้นจริงๆคำพูดที่เราทำ
00:08:31 → 00:08:33 ให้เราดูดีขึ้นค่ะอ่ะมียยกตัวอย่างเช่น
00:08:34 → 00:08:38 อะไรบ้างพี่้อยคือง่ายที่สุดเนี่ยง่ายที่
00:08:38 → 00:08:40 สุดที่คิดปุ๊บขึ้นมาเลยเนี่ยในชีวิตประจำ
00:08:40 → 00:08:46 วันเนี้ยอขอบคุณค่ะขอโทษอือืค่ะโอ้ค่ะถ้า
00:08:46 → 00:08:49 เราพูดคำว่าขอบคุณแล้วก็ขอโทษเนี่ยโอโห
00:08:49 → 00:08:52 เราดูดีขึ้นเลยนะอค่ะใช่มั้ยค่ะมันทำให้
00:08:52 → 00:08:56 เราดูแบบโอ้โหมันทำให้ผมนึกถึงมันทำให้ผม
00:08:56 → 00:09:00 นึกถึงเอ่อคำสอนของอาจารย์ผมคนนึงท่าน
00:09:00 → 00:09:03 เป็นชาวอิตาเลียนนะออเป็นบาทหลวงนะค่ะ
00:09:03 → 00:09:08 เค้าบอกว่าคำว่าขอบคุณนะค่ะคุณพูดได้ตลอด
00:09:08 → 00:09:12 เวลาเลยอือทั้งๆที่คนที่ได้ยินคำนี้เจะ
00:09:12 → 00:09:15 สงสัยว่าขอบคุณเรื่องอะไรอ่ะอ่าแบบนี้ไม่
00:09:15 → 00:09:18 เห็นต้องใช้คำว่าขอบคุณเลยอ่าคือเค้าสอน
00:09:18 → 00:09:21 ผมว่าคำว่าขอบคุณเนี่ยนะเป็นคำที่คุณใช้
00:09:21 → 00:09:27 แบบผิดเวลาคุณก็จะไม่ได้ดูแย่อืขอบคุณโดย
00:09:27 → 00:09:30 ที่ไม่ได้มีเรื่องต้องขอบคุณน่ะอืออือค่ะ
00:09:30 → 00:09:35 จริงๆแอบคิดว่าเอ่อยังนึกไม่ออกนะคะที่
00:09:35 → 00:09:38 พี่วีพูดว่าขอบคุณโดยไม่มีเรื่องที่จะ
00:09:38 → 00:09:41 ต้องขอบคุณแต่ว่าอย่างที่ตัวเองทำเนี่ย
00:09:41 → 00:09:44 เช่นเช่นเอ่อไปเข้าห้องน้ำสาธารณะหรือว่า
00:09:44 → 00:09:47 ห้องน้ำในในออฟฟิศนี่แหละเออๆแล้วก็แม่
00:09:47 → 00:09:52 บ้านคนทำความสะอาดอ่ะห้องน้ำอ่ะคือเราคิด
00:09:52 → 00:09:55 พี่อ้อยคิดแบบนี้ค่ะก็คิดว่าจะมีใครสัก
00:09:55 → 00:09:59 กี่คนนะที่ที่เค้าได้รับคำขอบคุณอืเอใน
00:10:00 → 00:10:03 การที่ดูแลห้องน้ำซึ่งมันเป็นสิ่งที่แบบ
00:10:03 → 00:10:06 ก็ถ้าถ้ามีอาชีพอื่นก็คงไม่อยากทำอ่ะมาทำ
00:10:06 → 00:10:09 ความสะอาดส้วมหรืออะไรอย่างเงี้ยเออแต่
00:10:09 → 00:10:12 ว่าเขาทำได้ดีได้สะอาดอ่ะพี่อ้อยจะมักจะ
00:10:12 → 00:10:16 พูดขอบคุณเสมอแล้วก็บอกขอบคุณนะคะห้องน้ำ
00:10:16 → 00:10:18 สะอาดจังเลยขอบคุณที่ดูแลดีมากอย่างเงี้ย
00:10:18 → 00:10:23 อเออมีความรู้สึกว่าอะไรที่มันเล็กๆแล้ว
00:10:23 → 00:10:27 เราขอบคุณได้เนี่ยคนเสิร์ฟในร้านอาหาร
00:10:27 → 00:10:30 อย่างเงี้ยอ่าขอบคุณค่ะอะไรอย่าเงี้ยก็ก็
00:10:30 → 00:10:33 ทำได้ทำแต่ว่าเราก็ยังรู้สึกว่ามันมีเหตุ
00:10:33 → 00:10:36 แห่งการขอบคุณอ่าใช่ก็คือว่ามีเหตุก็คือ
00:10:36 → 00:10:40 ว่าเราก็มีอะไรต้องขอบคุณเค้านะแต่ถามว่า
00:10:40 → 00:10:42 จำเป็นต้องขอบคุณเค้ามั้ยเอออาจจะไม่
00:10:42 → 00:10:47 จำเป็นก็ได้นะอ่าค่ะเพราะว่าเอ่อบางคนนะ
00:10:47 → 00:10:49 ก็บอกว่าก็ก็เเป็นหน้าที่เค้าอ่ะค่ะใช่
00:10:49 → 00:10:51 มั้ยอย่างงี้เป็นต้นหรือว่าเค้าก็ทำหน้า
00:10:51 → 00:10:53 ที่เค้าเป็นหน้าที่เค้าเต้องเสิฟอาหารให้
00:10:53 → 00:10:56 เราอะไรอย่างเงี้ยก็ไม่ขอบคุณเป็นไรมั้ย
00:10:56 → 00:10:59 อือๆไม่ไม่ได้ดูแย่นะค่ะแต่ขอบคุณพูดแล้ว
00:10:59 → 00:11:02 กลายเป็นดูดีค่ะแต่ว่าพอพี่อ้อยพูดอย่าง
00:11:02 → 00:11:05 นี้ปุ๊บผมทำให้ทำให้ผมนึกถึงเคสเๆนึงซึ่ง
00:11:05 → 00:11:10 แบบดังไปทั่วโลกเลยออเป็นคนไทยคนนึงที่
00:11:10 → 00:11:15 เอ่อถ้าเค้าไม่ขอบคุณก็ไม่ได้มีใครมา
00:11:15 → 00:11:19 ตำหนิเค้านะค่ะแต่เขาคขอบคุณทุกคนที่ทำ
00:11:19 → 00:11:23 สิ่งนี้อออคือคนนี้ก็เป็นนักแบดมินตัน
00:11:23 → 00:11:27 ชื่อดังของไทยเออค่ะคือเวลาที่เ้าไปแข่ง
00:11:28 → 00:11:32 แบดมินตันน่ะค่ะแล้วมีพื้นเปียกน่ะก็จะมี
00:11:32 → 00:11:35 พนักงานเข้ามาเช็ดพื้นอืเ้าไหว้พนักงาน
00:11:35 → 00:11:38 เช็ดพื้นทุกครั้งเลยอืพี่อ้อยนึกออกมั้ย
00:11:38 → 00:11:42 คนนี้ชื่ออะไรเออพี่วีตอบพี่อ้อยไม่เอ่อ
00:11:43 → 00:11:46 จำได้แต่นึกชื่อไม่ออกค่ะอ้าเออพอพอพอพี่
00:11:46 → 00:11:49 อ้อยโยนมาปุ๊บผมก็เลยนึกลืมชื่อเ้าไปเลย
00:11:49 → 00:11:51 นะเป็นนัก
00:11:51 → 00:11:55 แบดมินตันผู้หญิงชื่อน้องอะไรนะเ้าลืม
00:11:55 → 00:11:59 ชื่อเฉยเลยครับคุณู้ฟังน้องเจะ่มยาวๆ
00:11:59 → 00:12:02 รักน่ารักมีความเป็นไทยเ้าอยู่ๆเราก็ลืม
00:12:02 → 00:12:04 ชื่อนะคุณู้ฟังตอนนี้ต้องช่วยผมเดี๋ยวเรา
00:12:04 → 00:12:06 มาบอกทีหลังเออเรามาบอกชื่อนะตอนนี้มีแต่
00:12:06 → 00:12:10 ถ้าผู้หญิงเนี่ยน้องเทนนิสน้องเทนนิสเทน
00:12:10 → 00:12:13 เออๆน้องเทนนิสแต่ว่าเออน้องล่าสุดนี้เรา
00:12:13 → 00:12:15 ยังเชียร์เค้าอยู่เลยนะค่ะอ้าอยู่ๆเราก็
00:12:15 → 00:12:17 ลืมชื่อนี่เป็นไปได้นะครับคุณผู้ฟังต้อง
00:12:17 → 00:12:19 ขออภัยด้วยนะแต่ว่าผมเชื่อว่าคุณผู้ฟัง
00:12:19 → 00:12:22 นึกออกทุกคนเลยค่ะแต่ภาพที่เราเห็นใน
00:12:22 → 00:12:24 โซเชียลมีเดียพี่อ้อยทุกครั้งที่มี
00:12:24 → 00:12:27 พนักงานมาเช็ดพื้นเขาจะวายอือๆแล้วกลาย
00:12:27 → 00:12:32 เป็นประเด็นที่ถามว่าเราเคยเจอเอ่อนัก
00:12:32 → 00:12:35 แบดมินตันในโลกใบนี้คนไหนมั้ยอืที่ไห้คน
00:12:36 → 00:12:39 เช็ดพื้นเอาค้อจริงไม่เคยเห็นเลยอือแต่คน
00:12:39 → 00:12:41 เไหว้ตลอดเวลาแล้วกลายเป็นประเด็นที่
00:12:41 → 00:12:44 โซเชียลมีเดียเลยอย่างเงี้ยคแต่ประเด็น
00:12:44 → 00:12:47 ที่เรากำลังพูดถึงตอนนี้ก็คือคำว่าคำพูด
00:12:47 → 00:12:50 ที่ทำให้เราดูดีขึ้นค่ะเหมือนกับเป็น
00:12:50 → 00:12:54 เครื่องประระดับเดับของชีวิตที่ทำให้ดูดู
00:12:54 → 00:12:57 สวยขึ้นดูดีขึ้นอพี่ก็ยกคำว่าคำขอบคุณ
00:12:57 → 00:13:01 ขอบคุณกับขอโทษขอโทษอย่างเงี้ยนะแล้ว
00:13:01 → 00:13:07 อย่างพอเราพูดถึงคำพูดแล้วเอาคำพูดที่
00:13:07 → 00:13:12 เป็นเครื่องประดับอืค่ะมีมั้ยพี่อ้อยลอง
00:13:12 → 00:13:16 นึกนึกถึงคำนมีได้ยินบ่อยออกที่พอคนที่
00:13:16 → 00:13:20 พูดคำนี้ปึ๊บดับเลยดับเลยพชีวิตเราดูแย่
00:13:20 → 00:13:23 เลยได้ยินบ่อยด้วยอย่างเช่นคำว่าอะไรครับ
00:13:23 → 00:13:29 รู้มั้ยออรู้มั้ยว่าันรูรูกใครโอ้โหโอ้โห
00:13:29 → 00:13:32 โหเออเอาคจริงๆพี่อ้อยเวลาที่ผมยกประเด็น
00:13:32 → 00:13:35 มาผมยังนึกถึงคำไม่ออกนะเออผมยังนึกถึงคำ
00:13:35 → 00:13:37 ไม่ออกแต่ว่าผมเอ๊ะมันต้องมีแน่เลยแต่ว่า
00:13:38 → 00:13:42 พี่อ้อยกมานี่โอโหคำนี้เอ่อเป็นคำคำเด่น
00:13:42 → 00:13:46 มากในฟากนี้เลยนะอือแล้วก็แล้วก็ใช้กัน
00:13:46 → 00:13:49 บ่อยด้วยนะบ่อยมากแล้วทำให้ผมเพราะว่าคิด
00:13:49 → 00:13:52 ว่าจะดีขึ้นเออนี่ไงอคือคนที่พูดคำเหล่า
00:13:52 → 00:13:57 นี้อันนี้น่าสนใจพี่อ้อยค่ะคนที่พูดคำ
00:13:57 → 00:14:00 เหล่านี้เนี่ยเวลาที่ที่เาพูดเนี่ยเค้า
00:14:00 → 00:14:05 คิดว่ามันจะทำให้เค้ามีพลังอำนาจใช่แล้ว
00:14:05 → 00:14:10 ก็แบบว่าสูงขึ้นสูงขึ้นแต่ผมก็แปลกใจว่า
00:14:10 → 00:14:13 ค่ะคนที่ใช้คำเหล่านี้เค้าไม่เคยเกิดการ
00:14:13 → 00:14:17 เรียนรู้เลยเหรอว่าถ้าเค้าเรียนรู้เค้าก็
00:14:17 → 00:14:21 จะไม่ใช้ไงซะพี่หรือสังเกตนิดนึงดิว่าคน
00:14:21 → 00:14:24 ที่ใช้คำนี้ดับทุกคนน่ะเอ๊ะอ่ะเออเกิด
00:14:24 → 00:14:27 อะไรขึ้นน่ะอืทำไมเออมันเกิดอะไรขึ้น
00:14:27 → 00:14:31 สงสัยนะเนี่ยคือจริงๆเอาจจะเคยใช้แล้วได้
00:14:31 → 00:14:35 ผลนะพี่วีหมายความว่าถ้าเขาไปใช้ในบาง
00:14:35 → 00:14:40 กรณีเนี่ยแล้วก็มีบอกว่ารู้มยตรูลูกใคร
00:14:40 → 00:14:43 แล้วอีกฝั่งนึงก็เลยหยุดการกระทำบางอย่าง
00:14:43 → 00:14:46 อ๋ออ่าคือแบบไม่ตอบโต้หรืออะไรอย่างเงี้ย
00:14:46 → 00:14:49 แล้วเก็คิดว่าสิ่งเนี้ยเป็นสิ่งที่ทำให้
00:14:49 → 00:14:53 เค้ามีอำนาจมากขึ้นยกระดับตัวเองคนกลัว
00:14:54 → 00:14:58 อะไรอย่างเงี้ยอเออๆมีเหตุผลเคยได้ผลมา
00:14:58 → 00:15:02 ก่อนได้ผลแต่ว่าลืมไปว่าคาถานี้ใช้ไม่ได้
00:15:02 → 00:15:07 ทุกที่ใช่มั้ยใช่เออแสดงว่าเออๆอันนี้มี
00:15:07 → 00:15:10 เหตุผลทำให้ผมพอเข้าใจเได้หน่อยนึงะว่า
00:15:10 → 00:15:14 เออทำไมเไม่เรียนรู้ว่าอะไรเงี้นะอ๋อรู้
00:15:14 → 00:15:17 แล้วเคยใช้ได้ผลใช่แล้วอันนั้นก็เลยกลาย
00:15:17 → 00:15:21 เป็นความจดจำของเขาใช่ว่าเฮ้ยนี่แหละเว
00:15:21 → 00:15:25 หือว่าใช่อ่าเวิร์ใช่มั้ยค่ะเไม่ได้ผลเออ
00:15:25 → 00:15:27 ใช่ๆแล้วมีอย่างอื่นมีคำอื่นอีกมั้ยพี่
00:15:27 → 00:15:32 อ้อยที่แบบว่าสำหรับคนทั่วไปเลยอ่ะอือฮึ
00:15:32 → 00:15:36 ที่ใช้คำนี้ปั๊บจะดูแย่ทันทีเลยมีนึกออก
00:15:36 → 00:15:40 มั้ยฮะปะดับพูดคำนี้แต่ว่าไม่ใช่ลักษณะ
00:15:40 → 00:15:45 ของการมีอิทธิพลอือฮึอในแวดวงของคนทำงาน
00:15:45 → 00:15:49 ดีกว่าเอออือแวดวงคลทำงานถ้าถ้าถามผมผม
00:15:49 → 00:15:52 นึกถึงคำๆนึงนะครับอือตอนที่ผมเป็นเด็ก
00:15:52 → 00:15:56 ค่ะเวลาที่เรียนเรียนในโรงเรียนประถมเลย
00:15:56 → 00:15:59 เนี่ยอแล้วเวลาที่มีเพื่อนสักคนนึงทำ
00:15:59 → 00:16:04 พฤติกรรมอะไรบางอย่างอืที่ไม่ถูกต้องค่ะ
00:16:04 → 00:16:07 แล้วครูก็มาเห็นมาจับได้เนี่ยเคส่วนใหญ่
00:16:07 → 00:16:10 มักจะพูดคำนี้ครับพอเค้ากำลังทำอะไรบาง
00:16:10 → 00:16:14 อย่างผมเปล่าใช่ผมเปล่าคับเลยผมเปล่าทำ
00:16:14 → 00:16:18 เลยเนี่ยอืก็คือคำพูดนี้เนี่ยพอกำลังคือ
00:16:18 → 00:16:21 มันโดนจับได้คาหนังคาเขาว่ากำลังทำสิ่ง
00:16:21 → 00:16:25 นั้นน่ะอก็ยังปฏิเสธเออแล้วคำพูดเมันทำ
00:16:25 → 00:16:30 ให้เราดูแย่ลงอือฮึหรือดีขึ้นแย่ลงแย่ลง
00:16:30 → 00:16:33 อือเนี่ยมันก็เลยประหลาดใจว่าแต่ว่าอัน
00:16:33 → 00:16:36 นี้มันพูดด้วยความตกใจไงพี่ห้อยอือมันทำ
00:16:36 → 00:16:39 ให้ผมเคยเอาเคสเดียวกันนี้เลยนะเวลาที่
00:16:39 → 00:16:43 เราทำอะไรผิดพลาดนะแล้วโดนจับได้นะอือผม
00:16:43 → 00:16:48 เกิดการเรียนรู้เลยว่าอย่าปฏิเสธอืแล้วดู
00:16:48 → 00:16:52 ในข่าวเออพวกที่ทำอะไรผิดอ่ะเออเค้าจะพูด
00:16:52 → 00:16:56 เ้าจะปฏิเสธก่อนเสมอเออแล้วก็พอถูกคั้นๆๆ
00:16:57 → 00:17:01 ๆค่อยถึงมายอมรับอืๆนี่ไงแสดงว่าอันนี้
00:17:01 → 00:17:04 คือคำพูดมีอะไรไม่รู้ปฏิเสธไว้ก่อนเนี่ย
00:17:04 → 00:17:09 นะมันจะทำให้ดูดีขึ้นหรือแย่ลงอ่าแย่ลง
00:17:09 → 00:17:13 แย่ลงแต่เราก็ลืมไปไม่ไม่เกิดการเรียนรู้
00:17:13 → 00:17:16 แล้วเคสนักเรียนเพื่อนๆนักเรียนที่ทำผิด
00:17:16 → 00:17:20 แล้วปฏิเสธปุ๊บผมมีความรู้สึกเฮ้ยมันมัน
00:17:20 → 00:17:22 แย่สถานการณ์มันหนักกว่าเดิมนะอือๆๆผมก็
00:17:22 → 00:17:25 เลยเกิดการเรียนรู้ครับพี่ห้อยค่ะมีอยู่
00:17:25 → 00:17:29 วันนึงผมก็ทำผิดกฎเลยอ่ะค่ะอันนี้ต้อง
00:17:30 → 00:17:32 เล่าให้ฟังเลยผิดกฎออพี่วีเคยทำผิดกฎด้วย
00:17:32 → 00:17:35 เหรออูยเคยตอนตอนเป็นนักเรียนมัธยมนะพี่
00:17:35 → 00:17:38 ห้อยอ๋อค่ะเราก็จะมีกฎระเบียบแบบอยู่ในหอ
00:17:38 → 00:17:44 พักอ่ะนะอือเมีกฎระเบียบว่าห้ามไปซื้อขนม
00:17:44 → 00:17:48 มากินนอกเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งตอนค่ำๆ
00:17:48 → 00:17:51 อะไรอย่างเงี้ยอคือเราอยู่ในเวลาในตาราง
00:17:51 → 00:17:54 เวลาค่ะมีอาหารเช้าอาหารเที่ยงอาหารเย็น
00:17:54 → 00:17:56 อาหารว่างอะไรอย่าเงี้ยอค่ะแล้วก็ต้อง
00:17:56 → 00:17:59 เข้าห้องเรียนแล้วต้องนอนกี่โมงอะไรอย่า
00:17:59 → 00:18:02 เงี้ยอืหลัง 22:00 นไปแล้วเนี่ยเป็นเวลา
00:18:02 → 00:18:05 นอนแล้วห้ามไปซื้อขนมมากินนอกเวลาอันนี้
00:18:05 → 00:18:08 เป็นระเบียบเลยนะอือฮึคราวนี้มีอยู่วัน
00:18:08 → 00:18:11 นึงผมกับเพื่อนๆกลุ่มนึงเแต่ว่ามันเราก็
00:18:11 → 00:18:13 มีความรู้สึกว่าเฮ้ยเราก็รู้ว่านี่เป็น
00:18:13 → 00:18:16 ระเบียบแต่ช่วงนี้มันเป็นช่วงปิดเทอมน่า
00:18:16 → 00:18:19 จะหย่อนนิดนึงอะไรอย่างเงี้ยใช่มเราก็รู้
00:18:19 → 00:18:21 สึกว่าเอ้ยมันน่าจะผ่อนคลายนิดหน่อยมั้ย
00:18:21 → 00:18:24 อะไรอย่างเงี้ยนะเราก็คิดของเราเองนะอ
00:18:24 → 00:18:28 เสร็จแล้วหลังอาหารมื้อเย็นเพี่อ้อยค่ะ
00:18:28 → 00:18:33 เราก็หนีออกไปอืนะ 20:00 นเราก็หนีมี
00:18:33 → 00:18:36 เพื่อนหน่วยกล้าตายหนีออกไป 2 คนไปซื้อ
00:18:36 → 00:18:40 ขนมที่เราอยากกินมาเต็มเลยนะเสร็จปึ๊บพอ
00:18:40 → 00:18:43 ได้เวลาที่ทุกคนนอนแล้ว 22:00 นแล้วเนี่ย
00:18:43 → 00:18:46 อือพวกเรา 4-5 คนก็ไปรวมตัวกันนะแกะขนม
00:18:47 → 00:18:50 ที่ที่ที่ศาลากลางน้ำออนะในมุมมืดเราก็
00:18:50 → 00:18:54 นั่งกินขนมกันนะกินิอยู่ปุ๊บระหว่างที่
00:18:54 → 00:18:59 กินน่ะครูฝ่ายปกครองมาโอ้โหพี่อ้อยวงแตก
00:19:00 → 00:19:03 สิครับคอือหนีวิ่งทางใครทางมันเลยป่าค่ะ
00:19:03 → 00:19:06 หนีกันกระเจิงเลยหนีกันซุบหายหมดเลยเหลือ
00:19:06 → 00:19:09 ผมอยู่คนเดียวหนีไม่ทันอืเออประจันหน้า
00:19:09 → 00:19:14 ครูแล้วผมอผมไม่ปฏิเสธเลยวิธีที่ผมใช้ผม
00:19:14 → 00:19:18 ไม่ปฏิเสธเลยออือผมก็บอกว่าผมขอโทษครับ
00:19:18 → 00:19:24 อือแล้วก็บอกบอกเหตุผลตามที่เราคิดเลยว่า
00:19:24 → 00:19:29 ครูครับผมก็อเอ่อทำครับอผิดจริงคิดทำจริง
00:19:30 → 00:19:32 ทำจริงครับแต่ผมพวกเราก็คิดกันว่าช่วงนี้
00:19:32 → 00:19:36 เป็นช่วงปิดเทอมอืๆมันน่าจะหย่อนนิดนึง
00:19:36 → 00:19:38 อะไรอย่างเงี้ยแลอีกอย่างวันนี้เนี่ยตอน
00:19:38 → 00:19:41 กลางวันเนี่ยพวกเราก็ทำงานกันแบบคือพอปิด
00:19:42 → 00:19:45 เทอมปุ๊บเนี่ยเราก็จะทำงานพิเศษอย่างเช่น
00:19:45 → 00:19:49 แบบว่าทำสวนหรือว่าอะไรนะดายหญ้าตัด
00:19:49 → 00:19:53 หญ้าอะไรอย่างเงี้ยนะนเหนื่อยพวกเราก็ทำ
00:19:53 → 00:19:55 เหนื่อยอ่ะก็เลยมีความรู้สึกว่าอยากกิน
00:19:55 → 00:19:58 ขนมนิดหน่อยครับอะไรอย่างเงี้ยอคือยอมรับ
00:19:58 → 00:20:02 เลยค่ะๆก็อธิบายเหตผลพร้อมความคิดด้วยค่ะ
00:20:02 → 00:20:06 ครูฝ่ายปกครองก็บอกว่าทำไมไม่บอกครูแต่
00:20:06 → 00:20:11 แรกอือันนี้คือแทนที่เราไม่ปฏิเสธปุ๊บเรา
00:20:11 → 00:20:14 ยอมรับและอธิบายเหตุผลปุ๊บกลายเป็นครูรู้
00:20:14 → 00:20:18 สึกผิดอืครูรู้สึกผิดบอกว่าครูเค้าก็เข้า
00:20:18 → 00:20:22 ใจในเหตุผลของเราอืแล้วก็เลยบอกว่าครูขอ
00:20:22 → 00:20:26 โทษนะไปตามเพื่อนๆมากินต่อเร็วอืน่ารัก
00:20:26 → 00:20:31 จังคือ Happy Ending อันนี้ก็คือเรื่อง
00:20:31 → 00:20:34 เรื่องนี้นี่มันมาจากว่าเราเกิดการเรียน
00:20:34 → 00:20:37 รู้ว่าเวลาที่เราทำความผิดแล้วเราปฏิเสธ
00:20:37 → 00:20:41 เนี่ยมันจะหนักขึ้นออืมันหนักขึ้นแค่นั้น
00:20:41 → 00:20:43 เองค่ะก็เลยกลายเป็นว่านอันนี้เป็นเรื่อง
00:20:43 → 00:20:46 ของคำพูดนะพี่ห้อยค่ะแล้วมันยังมีเรื่อง
00:20:46 → 00:20:51 ของความคิดอืมีความคิดอะไรมั้ยครับพี่
00:20:51 → 00:20:54 อ้อยหรือว่า mindset อะไรมยครับที่เราคิด
00:20:54 → 00:20:57 แล้วมันจะทำให้เราแบบชีวิตเราแย่ลงอ่ะคือ
00:20:57 → 00:21:00 เอามาความคิดนี้มาปะกับตัวเองแล้วดับเลย
00:21:00 → 00:21:02 เอาสักอันนึงแล้วเออสักอันนึงแล้วนะมี
00:21:02 → 00:21:07 ความคิดอะไรมั้ยก็คือความไม่รักตัวเองอ่ะ
00:21:07 → 00:21:11 อืคือมีเรื่องมีราวก็จะโทษตัวเองอืฉันมัน
00:21:11 → 00:21:17 ไม่ดีฉันมันไม่เก่งฉันมันแย่ฉันทำดำเนิน
00:21:17 → 00:21:20 ชีวิตมาสมัยก่อนพี่อ้อยนะคิดว่าอะไร่ะคะเ
00:21:20 → 00:21:24 ฉันเป็นคนตัดสินใจผิดทุกครั้งอออย่างงี้
00:21:24 → 00:21:28 เลยูโหอันนี้ใช่เลยนะเพื่อเพราะความคิด
00:21:28 → 00:21:31 นี้มันแปะอยู่กับตัวเราอยู่ปึ๊บมันทำให้
00:21:31 → 00:21:34 เราชีวิตเราดับเลยติใจใช่อื
00:21:34 → 00:21:37 โอ้โหแล้วถ้าอย่างงั้นเอาฟากตรงข้ามพอ
00:21:37 → 00:21:40 เป็นอย่างงั้นปุ๊บหลังจากเปลี่ยนแล้วความ
00:21:40 → 00:21:47 คิดใหม่มาปะละอืก็คือประดับละเอเนี่ยจริง
00:21:47 → 00:21:51 ๆคนเราทุกคนเนี่ยมันต่างกันอืเอ่อไม่ใช่
00:21:51 → 00:21:54 คนที่เก่งเขาจะะดีอย่างเงี้ยไม่ใช่เคจะ
00:21:54 → 00:21:57 เก่งทุกเรื่องดีทุกเรื่องจ้าเราก็มีความ
00:21:57 → 00:22:00 เก่งของเราเราก็มีความดีของเราในมุมของ
00:22:00 → 00:22:05 เราเออเราก็ใช้ด้านนั้นสิอออ่าในการที่จะ
00:22:05 → 00:22:08 แบบดำเนินชีวิตไม่ใช่ว่ามีเรื่องดี 5
00:22:08 → 00:22:11 เรื่องมีเรื่องแย่ 1 เรื่องก็คิดแต่
00:22:11 → 00:22:13 เรื่องแย่คิดแต่เรื่องแย่เอาเรื่องแย่มา
00:22:13 → 00:22:16 ทับถมตัวเองเออทำไมอ่ะเรื่องดีตั้ง 4
00:22:16 → 00:22:18 เรื่องเรื่องเก่งตั้ง 4 เรื่องทำไมไม่เอา
00:22:18 → 00:22:22 เรื่องนั้นนำชีวิตอ่ะก็เลยเปลี่ยนออก็เลย
00:22:22 → 00:22:26 มาเพราะจริงๆทุกคนมีดีมีเสียอืมีข้อดีมี
00:22:26 → 00:22:30 ข้อเสียมีข้อด้อยมีข้อเด่นใช่มั้ฮค่ะ
00:22:30 → 00:22:34 โอ้โหคุณผู้ฟังครับอันนี้เราคือจริงๆแล้ว
00:22:34 → 00:22:38 เนี่ยพูดถึงสิ่งที่จะเอามาประดับทำให้เรา
00:22:38 → 00:22:42 ดูดีขึ้นกับเอามาปะแล้วเราดับเนี่ยมันมี
00:22:42 → 00:22:47 โอ้โหมากมายหลายเรื่องหลายมิติมากนะวัน
00:22:47 → 00:22:50 นี้เวลาเรามีมาเยอะเราก็ยกตัวอย่างได้แค่
00:22:50 → 00:22:54 คำพูดนะอกับความคิดค่ะแล้วก็คำพูดนี่เรา
00:22:54 → 00:22:57 ก็ยกตัวอย่างได้นิดเดียวนะฮะคำพูดที่ทำ
00:22:57 → 00:22:59 ให้เราดูดีขึ้นเลยก็คือ
00:22:59 → 00:23:02 โทค่ะนะฮะส่วนคำพูดที่ทำให้เราดูแย่ลงก็
00:23:02 → 00:23:07 คือผมเปล่าครับใช่มั้ใช่ปึ๊บปฏิเสธปั๊บ
00:23:07 → 00:23:10 แย่ลงทันทีค่ะส่วนความคิดนี่พี่อ้อยก็
00:23:10 → 00:23:12 เสนอว่าก็คือเรื่องเกี่ยวกับความคิดที่
00:23:12 → 00:23:16 รู้สึกว่าเราเราเราไม่เก่งเราตัดสินใจผิด
00:23:16 → 00:23:19 พลาดอย่างเงี้ยค่ะซึ่งเราถ้าสมมุติว่ามัน
00:23:19 → 00:23:22 เนื่องจากมันมีหลายมิติในชีวิตนะที่จะเอา
00:23:22 → 00:23:25 มาปะเนี่ยอือพี่อ้อยก็เลยมองว่าถ้าเลือก
00:23:25 → 00:23:30 อือเลือกเรื่องความคิดกับความเชื่ออื
00:23:30 → 00:23:33 เลื่องอันนี้ก่อนอ่าสำคัญอ่าแล้วมาแล้วมา
00:23:33 → 00:23:37 ปรับอ่าถ้าเคยคิดแบบนี้ถ้าเคยคิดว่าไหว้
00:23:37 → 00:23:40 ฉันแย่ฉันตัดสินใจผิดทุกครั้งเอ๊ะคิดแบบ
00:23:40 → 00:23:42 อื่นดูซิอย่างเงี้ยค่ะแล้วก็ถ้ามีความ
00:23:42 → 00:23:47 เชื่ออะไรที่ทำให้ไปในทางลบทำให้มันเอ่อ
00:23:47 → 00:23:51 การดำเนินชีวิตมันมันแย่ลงเราก็เปลี่ยนซะ
00:23:51 → 00:23:54 เราก็เว้นไว้ก่อนอะไรอย่างเงี้ยเริ่มจาก 2
00:23:54 → 00:23:57 อันนี้โองั้นเริ่มจะอะไรก็ตามทีนะจะทำให้
00:23:57 → 00:24:01 เราดูดีขึ้นหรือแย่ลงพี่อเสนอว่าเลือก
00:24:01 → 00:24:04 เริ่มต้นที่ความคิดค่ะกับความเชื่อใช่ค่ะ
00:24:04 → 00:24:06 2 เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตเพราะ
00:24:06 → 00:24:10 ว่าเดี๋ยวพฤติกรรมคำพูดอะไรมันจะตามมาอ่า
00:24:10 → 00:24:13 ใช่ๆๆโอ้ใช่เลยเพราะฉะนั้นเนี่ยศัลกรรม
00:24:13 → 00:24:16 ความสุขในวันนี้นะครับคุณผู้ฟังเริ่มมา
00:24:16 → 00:24:21 จากเครื่องประดับค่ะนะแต่ว่าเราก็โยงไป
00:24:21 → 00:24:25 ถึงเรื่องของเครื่องประดับด้วยอะไรก็ตาม
00:24:25 → 00:24:28 ที่ทำให้ชีวิตเราดีขึ้นหรือแย่ลงค่ะค่ะ
00:24:28 → 00:24:31 พี่อเสนอว่าคือความคิดกับความเชื่อนี่
00:24:31 → 00:24:34 แหละค่ะใส่ใจ 2 เรื่องนี้อ่ะแล้วก็หาให้
00:24:34 → 00:24:37 เจอทั้ง 2 ฟากค่ะนะฮะแล้วก็จะทำให้ชีวิต
00:24:37 → 00:24:41 เรามีความสุขมากขึ้นมีความทุกข์น้อยลงตาม
00:24:41 → 00:24:45 แนวทางของรายการศัลยกรรมความสุขครับวัน
00:24:45 → 00:24:47 นี้ผมพี่วีและพี่อ้อยก็ต้องลาไปก่อนนะ
00:24:47 → 00:24:51 ครับสวัสดีครับสวัสดี
00:24:51 → 00:24:54 ค่ะติดตามรายการทางเว็บไซต์และ
00:24:54 → 00:24:58 แอปพลิเคชันของไย PBS podcast spotify
00:24:58 → 00:25:00 Sou Cloud Google podcast Apple
00:25:00 → 00:25:04 podcast และ YouTube Channel Thai PBS
00:25:04 → 00:25:07 podcast tha PBS podcast View the
00:25:07 → 00:25:09 world via The Voice
00:25:09 → 00:25:15 [เพลง]