00:00:00 → 00:00:02 สวัสดีครับช่วงนี้ผมเห็นมีคนให้ความสนใจ
00:00:02 → 00:00:06 กับเรื่องของวาสก้าแล้วก็สาร dmt ค่อน
00:00:06 → 00:00:08 ข้างที่จะมากเลยนะครับผมก็เลยอยากจะเอา
00:00:08 → 00:00:10 เรื่องนี้มาเล่าให้ฟังนะครับว่ามันมีที่
00:00:10 → 00:00:12 มาที่ไปอย่างไรนะครับพบกับผมนะครับนาย
00:00:12 → 00:00:14 แพทย์ธานีธนียวันเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่
00:00:14 → 00:00:16 ประเทศสหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการ
00:00:17 → 00:00:19 ปลูกถ่ายปอดและวิกฤตบำบัดนะครับสำหรับ
00:00:19 → 00:00:24 วาสก้านั้นมันเป็นสิ่งที่สกัดมาจากรากไม้
00:00:24 → 00:00:27 นะครับแล้วก็ใบไม้หลากหลายชนิดเลยทีเดียว
00:00:27 → 00:00:31 นะครับแล้วมันมีที่ใช้ในแทแบบอ่าอเมซอนนะ
00:00:31 → 00:00:33 ครับแล้วก็อเมริกาใต้ตรงบริเวณเปรู
00:00:33 → 00:00:37 เอกวาดอร์บราซิลนะครับพวกเนะครับก็มีการ
00:00:37 → 00:00:40 ใช้กันค่อนข้างที่จะเยอะโดยมันใช้ในพิธี
00:00:40 → 00:00:43 การนะครับอย่างหนึ่งนะฮะทำวาสก้าก็คือคน
00:00:43 → 00:00:45 เนี่ยจะต้องมาดื่มไอ้้น้ำตัวนี้เข้าไปนะ
00:00:45 → 00:00:48 ครับแล้วพอหลังจากดื่มเนี่ยมันจะมีฤทธิ์
00:00:48 → 00:00:50 ทำให้เกิดการหลอนประสาทบางอย่างนะครับ
00:00:50 → 00:00:54 แล้วเวลาเราเห็นการหลอนประสาทพวกนี้เนี่ย
00:00:54 → 00:00:56 มันจะทำให้ประสาทสัมผัสหลายๆอย่างมันไว
00:00:56 → 00:01:00 ขึ้นนะครับเราก็จะเห็นในสิ่งที่เราไม่เคย
00:01:00 → 00:01:02 เห็นมาก่อนนะครับบางอย่างเนี่ยเป็นความ
00:01:02 → 00:01:05 ทุกข์เป็นภาพแฟลชแดชที่เราไม่อยากจะเจอ
00:01:05 → 00:01:08 หรือเราซ่อนมันไว้ในส่วนลึกของจิตใจของ
00:01:08 → 00:01:11 เรานะครับอ่าพอเราเห็นพวกนี้แล้วความรู้
00:01:11 → 00:01:13 สึกมันเหมือนกับว่าเรากำลังจะตายเลยที
00:01:13 → 00:01:15 เดียวนะครับบางคนจะมีความรู้สึกแบบนั้น
00:01:15 → 00:01:18 บางคนจะรู้สึกกลัวมากนะครับแล้วพอเกิดแบบ
00:01:18 → 00:01:20 นี้ขึ้นมาเนี่ยมันจะสามารถทำให้เรามอง
00:01:20 → 00:01:23 เห็นต้นตอแห่งความทุกข์แห่งปัญหาต่างๆ
00:01:23 → 00:01:26 เป็นแหงปมต่างๆที่มันซ่อนอยู่ในจิตใจของ
00:01:26 → 00:01:29 เราแล้วก็ถ้าเกิดว่ามีคนที่ช่วยนำจิตวิ
00:01:29 → 00:01:31 วิญญาณของเราในช่วงนั้นเนี่ยนะครับมันก็
00:01:31 → 00:01:34 สามารถที่จะทำให้เราผ่านช่วงเวลานั้นไป
00:01:34 → 00:01:37 ได้แล้วก็รู้ด้วยว่าเราสามารถจะแก้ไข
00:01:37 → 00:01:40 ปัญหาต่างๆในชีวิตของเราได้อย่างไรก็เป็น
00:01:40 → 00:01:43 ตัวที่ทำให้เราสามารถที่จะแก้ไขโรคต่างๆ
00:01:43 → 00:01:46 ได้เช่นซึมเศร้านะครับโรควิตกกังวลหรือปม
00:01:46 → 00:01:49 ปัญหาชีวิตต่างๆนะครับหลังจากทำเสร็จ
00:01:49 → 00:01:51 เนี่ยก็จะเหมือนกับว่าเราได้เกิดใหม่เป็น
00:01:51 → 00:01:54 คนใหม่ที่มีชีวิตแล้วก็คุณภาพต่างๆที่ดี
00:01:54 → 00:01:56 กว่านะครับดังนั้นจึงเป็นที่สนใจเป็น
00:01:56 → 00:01:59 อย่างมากนะครับสำหรับหลายๆคนที่เ่อคุย
00:01:59 → 00:02:03 เรื่องนี้นะครับทีนี้ไอ้ตัววสกเนี่ยมันมี
00:02:03 → 00:02:05 อะไรอยู่ข้างในบ้างนะครับก็ต้องบอกว่ามัน
00:02:05 → 00:02:08 มีการใช้มาเนินานแล้วนะครับแต่ว่าในนั้น
00:02:08 → 00:02:11 เนี่ยมันจะมีสารสำคัญอยู่หลักๆอยู่ 2
00:02:11 → 00:02:14 อย่างนะครับอย่างแรกก็คือสารชื่อว่า dmt
00:02:14 → 00:02:18 นะครับหรือ DIY tryptamine นะครับตัวนี้
00:02:18 → 00:02:21 เนี่ยจะเป็นตัวที่หลอนประสาทเป็นตัวหลัก
00:02:21 → 00:02:25 นะครับหรือที่เราเรียกว่าไซคินะครับอ่า
00:02:25 → 00:02:28 ไซคลิกสารตัวเนี้ยไซคลิกเนี่ยบางคนอาจจะ
00:02:28 → 00:02:30 เคยได้ยินมาเหมือนกันนะครับครับเนื่องจาก
00:02:30 → 00:02:35 ว่ามันมีในสิ่งชนิดอื่นด้วยเช่นสารไลไซิน
00:02:35 → 00:02:37 ในเห็ดนะครับบางคนจะใช้เห็ดบำบัดนะครับ
00:02:38 → 00:02:40 Magic mushroom ที่ผมเคยเล่าไปแล้วนะ
00:02:40 → 00:02:42 ครับนั้นก็เป็นสารที่เอาไว้หลอนประสาท
00:02:42 → 00:02:44 เหมือนกันนะครับอีกอย่างนึงหลายคนอาจจะ
00:02:44 → 00:02:49 เคยได้ยิน LSD ครับ LSD ตัวนี้ก็เป็นสาร
00:02:49 → 00:02:51 ตัวนึงที่มันเป็นสารเสพติดเหมือนกันนะ
00:02:51 → 00:02:55 ครับก็มีฤทธิ์ในการหลอนประสาทเช่นกันนะฮะ
00:02:55 → 00:02:58 ทีนี้นอกเหนือจากสาร dmt ที่มันมีแล้ว
00:02:58 → 00:03:01 เนี่ยมันยังมีสารสอีกกลุ่มนึงซึ่งมีความ
00:03:01 → 00:03:04 จำเป็นมากในวาสก้านั่นก็คือการที่เราเอา
00:03:04 → 00:03:07 รากไม้หลายๆอย่างมาผสมกันแล้วก็สกัดออกมา
00:03:07 → 00:03:10 นะครับมันจะมีสารตัวนึงชื่อว่าฮาอคอยนะ
00:03:10 → 00:03:13 ครับฮาอคอยเนี่ยมันก็ประกอบไปด้วยสารหลาย
00:03:13 → 00:03:18 ๆตัวเช่นมีนนะครับแล้วก็เีนแล้วก็มีตัว
00:03:18 → 00:03:20 อื่นๆที่คล้ายๆกันนะฮะโดยตัวเมันจะสกัดมา
00:03:21 → 00:03:23 จากพืชตัวนึงอ่าชื่อ
00:03:23 → 00:03:27 bsis cy นะครับตัวนี้เนี่ยมันเป็นตัว
00:03:27 → 00:03:31 หลักเลยที่ให้สารอ่าตัวาคลอยออกมานะครับ 2
00:03:31 → 00:03:33 ตัวนี้จำเป็นมากที่ต้องทำงานคู่กันเพราะ
00:03:33 → 00:03:36 ว่า dmt เนี่ยถ้าเรากินเข้าไปนะครับมันจะ
00:03:36 → 00:03:39 ถูกร่างกายย่อยสลายไปทันทีเลยนะครับย่อย
00:03:39 → 00:03:41 สลายจนกระทั่งมันไม่สามารถออกฤทธิ์ได้เลย
00:03:41 → 00:03:44 นะครับแต่การที่มันมี hamara อคอยอยู่ใน
00:03:44 → 00:03:47 นั้นเนี่ยมันจะไปยับยั้งกระบวนการย่อย
00:03:47 → 00:03:50 สลายของ dmt นะครับดังนั้นเนี่ยทั้ง 2
00:03:50 → 00:03:52 อย่างนี้มีความจำเป็นที่จะต้องใช้ร่วมกัน
00:03:53 → 00:03:57 นะครับคนที่กินวาสก้าเข้าไปเนี่ยมันจะมี
00:03:57 → 00:04:00 ผลอย่างไรบ้างนะครับก่อนอื่นผมต้องบอก
00:04:00 → 00:04:02 ก่อนนะครับว่าคนที่กินวาสก้าหรือดื่ม
00:04:02 → 00:04:05 วาสก้าเข้าไปเนี่ยนะครับมันจะต้องมีเหตุ
00:04:05 → 00:04:08 ผลก่อนว่าเค้าจะดื่มไปทำไมนะครับอยู่ๆไม่
00:04:08 → 00:04:11 ใช่ว่าอยู่ๆจะไปดื่มก็ดื่มนะส่วนใหญ่คน
00:04:11 → 00:04:15 ที่เข้าไปเนี่ยจะต้องมีการตั้งตั้งเอ่อ
00:04:15 → 00:04:17 ความต้องการไว้อย่างเช่นฉันมีปมอะไรสัก
00:04:17 → 00:04:19 อย่างที่อยากจะแก้ฉันอยากจะแก้ไขปัญหา
00:04:19 → 00:04:21 เรื่องนั้นเรื่องนี้แต่ไม่รู้จะแก้มันยัง
00:04:21 → 00:04:23 ไงนะครับคนพวกที่มีเป้าหมายในการทำเข้าไป
00:04:23 → 00:04:26 เนี่ยมักจะได้ผลที่ดีกว่าคนที่อยู่ๆเข้า
00:04:26 → 00:04:28 ไปทำแล้วก็ไม่มีเป้าหมายใดๆทั้งสิ้นนะ
00:04:28 → 00:04:31 ครับหลังจากดื่มเข้าไปจะเกิดอะไรขึ้นนะ
00:04:31 → 00:04:34 ครับในช่วงเวลาประมาณ 10-15 นาทีเนี่ย
00:04:34 → 00:04:37 เอ่อก็จะมีอาการคล้ายๆเริ่มเริ่มมีอาการ
00:04:37 → 00:04:39 หลอนประสาทละนะครับแล้วที่สำคัญมันจะมี
00:04:39 → 00:04:42 อาการคลื่นไส้ปวดท้องบางคนท้องเสียก็จะมี
00:04:42 → 00:04:45 นะครับแต่ในพิธีกรรมเนี่ยเขาจะบอกว่านั่น
00:04:45 → 00:04:48 คือ purging นะครับเหมือนเป็นการไล่สิ่ง
00:04:48 → 00:04:50 ไม่ดีออกมานะครับอ่าบางคนก็จะบอกว่ามัน
00:04:50 → 00:04:54 เป็นการที่ทำให้ร่างกายของเราอยู่ใกล้
00:04:54 → 00:04:56 สภาวะที่ใกล้ตายที่สุดนะครับแล้วมีความ
00:04:56 → 00:04:58 รู้สึกว่าเวลาคนเราใกล้ตายเนี่ยสิ่งที่
00:04:58 → 00:05:01 สำคัญที่สุดในชีวิตเนี่ยมันจะแวบออกมาตรง
00:05:01 → 00:05:04 นั้นนะครับจะเห็นทุกอย่างมันเป็นฉากๆและ
00:05:04 → 00:05:06 สิ่งที่สำคัญเนี่ยเราจะรู้ได้เลยว่าออ
00:05:06 → 00:05:09 อันเนี้ยสำคัญที่สุดในชีวิตดังนั้นเนี่ย
00:05:09 → 00:05:12 เมื่อมีผู้นำทางจิตวิญญาณหรือชามานนะครับ
00:05:12 → 00:05:15 ทำพิธีร่วมไปด้วยนะครับมันก็จะทำให้เราตก
00:05:15 → 00:05:19 อยู่ในภวังของเสียงเพลงของพิธีกรรมแล้ว
00:05:19 → 00:05:21 บวกกับสารที่หลอนประสาทเข้าไปด้วยเนี่ย
00:05:21 → 00:05:24 มันก็เลยสามารถที่จะนำให้เรามองเห็นปัญหา
00:05:24 → 00:05:27 ต่างๆให้เรากลัวในสิ่งต่างๆแล้วก็รู้ด้วย
00:05:27 → 00:05:29 ซ้ำไปว่าสิ่งไหนที่เรากำลังกลัวแล้วกลับ
00:05:29 → 00:05:33 ไปแก้มันได้นะครับนี่คือสิ่งซึ่งอ่าทำได้
00:05:33 → 00:05:36 นะครับแล้วก็ฤทธิ์ของมันเนี่ยมันแล้วแต่
00:05:36 → 00:05:39 ว่าส่วนผสมมีอะไรนะครับจะเยอะจะน้อยหรือ
00:05:39 → 00:05:42 ถ้าเกิดคนไม่เคยทำมาก่อนหรือคคยทำมาก่อน
00:05:42 → 00:05:44 เนี่ยครับมันก็จะมีความแตกต่างกันได้นะ
00:05:44 → 00:05:46 ครับบางทีฤทธิ์ก็อยู่ประมาณ 4-5 ช่มหรือ
00:05:46 → 00:05:50 อาจจะนานถึง 7 ช่วโมงในบางกรณีนะครับแล้ว
00:05:50 → 00:05:52 ทีนี้หลังจากทำหลายๆคนก็จะรู้สึกเหมือน
00:05:52 → 00:05:54 ว่าเออมันดีขึ้นทุกๆอย่างเรารู้สึกว่า
00:05:54 → 00:05:57 คลี่คลายเข้าใจปมในอดีตนะครับคนไหนที่เคย
00:05:57 → 00:05:59 มีปัญหากับครอบครัวก็รู้ว่าปัญหามันอยู่
00:05:59 → 00:06:01 ตรงไหนไหนกันแน่นะครับอ่าซึ่งมันเป็นสิ่ง
00:06:01 → 00:06:06 ที่ดีนะทีนี้แล้วมันมีปัญหายังไงนะครับ
00:06:06 → 00:06:10 มันมีปัญหายังไงต้องทราบก่อนว่าสาร dmt
00:06:10 → 00:06:13 เนี่ยมันเป็นสารผิดกฎหมายนะถือว่าเป็นยา
00:06:13 → 00:06:15 เสพติดแล้วเราไม่สามารถเอามันมาใช้ได้นะ
00:06:15 → 00:06:19 ครับแล้วทีเนี้ยปัญหามันอยู่ตรงนี้ครับ
00:06:19 → 00:06:20 ถ้าคุณทำ
00:06:20 → 00:06:25 วาสก้าแล้วมีคนนำมีคนดูแลทุกอย่างได้ดีนะ
00:06:25 → 00:06:27 ครับอันเนี้ยไม่ค่อยมีปัญหาอะไรเท่าไหร่
00:06:27 → 00:06:31 นะครับแต่ถ้าเกิดคุณดันไปทำในในการที่แบบ
00:06:31 → 00:06:33 ว่าเออนี่มันหลอนประสาทเอาไปใช้เองอย่าง
00:06:33 → 00:06:35 เช่นคนที่ใช้เห็ดหลอนประสาทเองคนที่กิน
00:06:35 → 00:06:38 LSD หรือว่าคนที่ไปใช้วสกด้วยตัวเองโดย
00:06:39 → 00:06:41 ที่ไม่มีคนที่คอยช่วยเหลืออยู่รอบๆข้าง
00:06:41 → 00:06:44 เนี่ยบางทีเนี่ยจิตมันมีปัญหานะครับ
00:06:44 → 00:06:46 เหมือนกับกรณีที่ผมเคยพูดเรื่องของการควบ
00:06:46 → 00:06:49 คุมฝันหรือ vivid Dream นั่นเองในลึกๆ
00:06:49 → 00:06:52 ของจิตใจเราเนี่ยถ้าเกิดคนไหนควบคุมความ
00:06:52 → 00:06:54 ฝันได้ดีนะมันจะมีกล่องดำอยู่อันนึงซึ่ง
00:06:54 → 00:06:56 เราอ่ะไม่ควรจะไปยุ่งมันก่อนที่จะถึงเวลา
00:06:57 → 00:07:00 อันควรที่เราสามารถควบคุมตัวเองได้และถ้า
00:07:00 → 00:07:02 เราดันไปยุ่งกับมันก็คือไปยุ่งในปมของจิต
00:07:02 → 00:07:05 ใจเนี่ยมันจะเกิดปัญหาขึ้นมามากมายแล้วก็
00:07:05 → 00:07:07 ยิ่งมันปัญหาต่อจิตนะครับแล้วคุณคิดดูถ้า
00:07:08 → 00:07:10 เกิดคุณใช้มันมากจนเกินไปจนหลอนไปเลย
00:07:10 → 00:07:13 เนี่ยคุณอาจจะกลัวทุกอย่างแล้วก็ทำร้ายคน
00:07:13 → 00:07:15 รอบข้างได้นะครับเหมือนเป็นคนบ้าขึ้นมา
00:07:15 → 00:07:18 เลยคนนึดังนั้นเนี่ยการที่เราจะใช้ของพวก
00:07:18 → 00:07:21 นี้นะครับของพวกไซเคเดลิกเนี่ยจำเป็น
00:07:21 → 00:07:23 อย่างยิ่งที่จะต้องมีผู้ดูแลนะครับที่ดี
00:07:23 → 00:07:26 แล้วก็เข้าใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นบ้างนะ
00:07:26 → 00:07:29 ครับนั้นนี่คือสิ่งที่สำคัญมากๆทีนี้ต่อ
00:07:29 → 00:07:33 ต่อมาเรื่องของสาร dmt มันมีที่มาที่ไป
00:07:33 → 00:07:35 อย่างไรในวิทยาศาสตร์ทางการแพทย์ก็ต้อง
00:07:35 → 00:07:38 บอกว่าสารตัวนี้เนี่ยเาสกัดมาจากพืชได้
00:07:38 → 00:07:41 ตั้งนานแล้วนะครับแล้วก็มีคนเ่อเอามาทด
00:07:41 → 00:07:43 ลองเอาสารพวกเนี้ยมาฉีดเข้าไปในร่างกาย
00:07:43 → 00:07:45 แล้วปรากฏว่าเกิดการหลอนประสาทก็เลยทำให้
00:07:45 → 00:07:47 เข้าใจว่าเออสารเนี้ยมันมีฤทธิ์อย่างไร
00:07:47 → 00:07:49 บ้างนะครับแต่นั้นคือเา้าเอาสารตัวอื่น
00:07:50 → 00:07:53 อ่าที่มันมาจากพืชชนิดอื่นในการฉีดนะครับ
00:07:53 → 00:07:56 แต่เค้าก็เรียนรู้ว่าเออพืชมันมีสารหลอน
00:07:56 → 00:08:00 ประสาทได้อยู่นะนะทีนี้สาร dmt ตัวนี้
00:08:00 → 00:08:03 เนี่ยมันเป็นที่โด่งดังขึ้นมาได้เพราะ
00:08:03 → 00:08:05 อะไรนะครับในทางวิทยาศาสตร์แต่ก่อนมันมี
00:08:05 → 00:08:08 อวกซึ่งไม่มีคนศึกษาว่าข้างในมันมีอะไร
00:08:08 → 00:08:12 บ้างแล้วมันก็มีจิตแพทย์คนนึงนะครับเอามา
00:08:12 → 00:08:14 ศึกษาอย่างชัดเจนนะครับแล้วก็เขียนเป็น
00:08:14 → 00:08:17 หนังสืออันนึงอ่าชื่อว่าเอ่อ The Spirit
00:08:17 → 00:08:20 molecule dmt the spirit molecule
00:08:20 → 00:08:24 อันนี้โดยคุณอ่า rick strm นะครับ R
00:08:24 → 00:08:26 osman เนี่ยเขาเขียนในเล่มนี้ออกมานะ
00:08:26 → 00:08:28 ครับแต่ว่ามันก็มีหลายๆอย่างเหมือนกันที่
00:08:28 → 00:08:31 เขาเขียนแล้วอาจจะไม่ถูกต้องนะครับโดยมัน
00:08:31 → 00:08:33 มีอยู่ 2 อย่างที่ผมอยากจะเคลียร์ให้ทุก
00:08:33 → 00:08:38 คนเข้าใจเลยนะครับว่าข้อแรกมีคนบอกว่าสาร
00:08:38 → 00:08:41 dmt เนี่ยสามารถสร้างขึ้นได้เองในมนุษย์
00:08:41 → 00:08:44 ที่ต่อมไพเนี่ยวนะครับอ่าต่อมไพเนวถ้า
00:08:44 → 00:08:46 เกิดว่าใครยังไม่เคยฟังที่ผมเล่าไปว่า
00:08:46 → 00:08:48 ต่อมไนลคืออะไรนะครับลองย้อนไปฟังคลิป
00:08:48 → 00:08:52 เรื่องต่อมไนลที่ผมเคยเล่านะฮะต่อมไนล
00:08:52 → 00:08:54 เนี่ยเอาสั้นๆก็คือมันเป็นต่อมที่อยู่ใน
00:08:54 → 00:08:57 บริเวณกลางสมองของเรานะมีขนาดเล็กมาก
00:08:57 → 00:09:00 ลักษณะเหมือนเ่าต้นสดสนเหมือนเหมือนเ่อไน
00:09:00 → 00:09:03 โคนนะครับเหมือนกับไอ้ตัวโคนของไอ้ตรงต้น
00:09:03 → 00:09:06 สนที่เป็นเป็นผลไม้ของมันน่ะนะครับมีขนาด
00:09:06 → 00:09:10 เล็กมากเลยขนาดประมาณ 0.2 กรัมซึ่งเลก
00:09:10 → 00:09:14 จิ๋วนะครับแล้วเขาเชื่อว่ามันเป็นตาที่ 3
00:09:14 → 00:09:16 ของมนุษย์นะครับมีความเกี่ยวข้องกับจิต
00:09:16 → 00:09:19 วิญญาณเบื้องบนนะครับทั้งตัวตนของตัวเอง
00:09:19 → 00:09:22 ในปัจจุบันในอดีตแล้วก็อนาคตมีการเชื่อม
00:09:22 → 00:09:24 กันนะครับเเลยเชื่อว่าไอ้สิ่งเนี้ยมัน
00:09:24 → 00:09:26 เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์มากๆแล้วก็ผลิตสาร
00:09:26 → 00:09:31 dmt แต่เอาจริงๆนะครับคือสาร dmt เนี่ย
00:09:31 → 00:09:33 ต้องบอกอย่างนี้ครับว่ามันไม่ได้ผลิตมา
00:09:33 → 00:09:35 จากต่อมไพเนวอย่างเดียวครับคือเ้าไปเจอ
00:09:35 → 00:09:39 เอนไซม์ที่ใช้ในการผลิตสาร dmt เนี่ยอยู่
00:09:39 → 00:09:41 ในต่อมไนลเหมือนกันแต่มันก็อยู่ในที่อื่น
00:09:41 → 00:09:47 ด้วยเช่นปอดหัวใจต่อมน้ำเหลืองไทรรอยด์นะ
00:09:47 → 00:09:49 ครับคืออีกหลากหลายที่ในร่างกายก็สามารถ
00:09:49 → 00:09:52 สร้างมันได้แล้วบริเวณอื่นของสมองก็สร้าง
00:09:52 → 00:09:55 มันได้เหมือนกันนะครับทีนี้ในเมื่อมัน
00:09:55 → 00:09:57 สามารถสร้างได้จากหลายๆแหล่งแล้วเนี่ยคน
00:09:58 → 00:10:00 ก็จะสงสัยว่าเฮ้ยเอ่อแล้วต่อมไพเนี่ยมัน
00:10:00 → 00:10:03 มีความสำคัญอย่างไรกับในการสร้างสารตัว
00:10:03 → 00:10:06 นี้นะครับต่อมไพเนี่ยถ้าทุกคนพอจำได้มัน
00:10:06 → 00:10:10 จะสร้างสารเมลาโทนินออกมานะครับต่อมไนล
00:10:10 → 00:10:14 มันมีขนาดประมาณ 0.2 กรัมหรือ 200
00:10:14 → 00:10:18 มิลกรัมนะครับถ้ามันจะสร้างสาร dmt จน
00:10:18 → 00:10:21 กระทั่งเกิดภาวะหลอนประสาทมันจะต้องสร้าง
00:10:21 → 00:10:25 สารตัวนี้ออกมา 25
00:10:25 → 00:10:30 มกรนะครับ 25 มกรนะคือจะจะต้องสร้างสร้าง
00:10:30 → 00:10:34 มาอย่างเยอะมากเลยนะครับเยอะมากๆนะฮะแต่
00:10:34 → 00:10:37 ผมจะให้คุณลองคิดดูว่าต่อมไนลเนี่ยปกติ
00:10:37 → 00:10:40 เวลามันสร้างเมลาโทนินมันสร้างออกมาวันละ
00:10:40 → 00:10:45 แค่ 30 ไมโครกรัมไมโครไม่ใช่มิลนะครับ
00:10:45 → 00:10:47 ไมโครกรัมหมายความว่ามันน้อยกว่ามิลลิ
00:10:47 → 00:10:50 เป็นระดับ 1,000 เท่านะครับดังนั้นมัน
00:10:50 → 00:10:54 หมายความว่าถ้าไนลจะสามารถสร้างสาร dmt
00:10:54 → 00:10:56 ขึ้นมาได้แล้วก็สารตัวเนี้ยจะเป็นผลต่อ
00:10:56 → 00:10:58 สภาพจิตใจของมนุษย์แล้วล่ะก็มันจะต้อง
00:10:58 → 00:11:01 สามารถสร้างได้มหาศาลนะครับเลยทีเดียว
00:11:01 → 00:11:03 ซึ่งโอกาสเป็นแบบนั้นเนี่ยค่อนข้างที่จะ
00:11:03 → 00:11:07 เป็นไปไม่ได้นะครับข้อที่ 2 คืออย่างที่
00:11:07 → 00:11:09 ผมบอกคือสารตัวเนี้ยเมื่อเราหลั่งออกมา
00:11:09 → 00:11:12 แล้วมันจะโดนทำลายทันทีด้วยเอนไซม์ตัว
00:11:12 → 00:11:15 หนึ่งชื่อว่า maoi mon amine oxidase
00:11:15 → 00:11:18 inhibitor นะครับเอ่อ monin ออกซิเดสไม่
00:11:18 → 00:11:20 ใช่ inhibitor inhibitor เป็นยานะครับ
00:11:20 → 00:11:24 Mao นะครับ monin oxidase มันจะไปย่อย
00:11:24 → 00:11:27 สลายสาร dmt ตัวนี้ทันทีทำให้มันหมดฤทธนะ
00:11:27 → 00:11:30 ครับทำให้มันหมดฤทธิไปเลยดังนั้นโอกาสที่
00:11:30 → 00:11:34 ไนลต่อมไนลจะสร้างสาร dmt จนกระทั่งมีผล
00:11:34 → 00:11:36 ต่อจิตประสาทเนี่ยบอกได้เลยครับว่าแทบจะ
00:11:36 → 00:11:38 เป็นไปไม่ได้เลยนะครับหรือเป็นศูนเลยก็
00:11:38 → 00:11:42 ได้ทีนี้มันก็มีคนพูดอีกเหมือนกันว่าคน
00:11:42 → 00:11:45 เราเนี่ยจะหลั่งสาร dmt ออกมาตอนเกิดตอน
00:11:45 → 00:11:48 ตายแล้วก็หลังจากตายไปอีกสักระยะหนึ่งนะ
00:11:48 → 00:11:50 ครับคนที่บอกอย่างนี้ก็คือด strm นี่แหละ
00:11:50 → 00:11:53 ที่เมื่อกี้เราเล่านะครับแต่เอาจริงๆใน
00:11:53 → 00:11:55 หลักฐานทางการแพทย์เนี่ยไม่มีจริงนะครับ
00:11:55 → 00:11:58 ว่าเป็นแบบนั้นนะฮะไม่มีการบอกว่ามัน
00:11:58 → 00:12:00 สามารถหลั่งออกมาตอนตอนเกิดตอนตายแล้วก็
00:12:00 → 00:12:02 หลังากตายตรงนี้ยังไม่มีหลักฐานทางการ
00:12:02 → 00:12:04 แพทย์ก็คือเขียนขึ้นมาเองล้วนๆเลยนะครับ
00:12:04 → 00:12:09 อันนี้ยังเชื่อถือไม่ได้นะครับทีนี้ศาล
00:12:09 → 00:12:12 dmt เนี่ยเอ่อก็จะมีคนคิดบอกว่าเฮ้ยเ่อ
00:12:12 → 00:12:15 มันหลั่งมาตอนเกิดตอนตายตอนตอนที่จะมี
00:12:15 → 00:12:17 ประสบการณ์เ่าเรียกว่า Near Death
00:12:17 → 00:12:19 experience คือประสบการณ์เกือบตายนะครับ
00:12:19 → 00:12:23 มันถึงจะหลั่งออกมาแล้วก็จะถามบอกว่าเฮ้ย
00:12:23 → 00:12:25 แล้วไอ้คนที่ประสบการณ์เฉียดตายเนี่ยมัน
00:12:25 → 00:12:29 จะมีการเห็นภาพที่มันมาเป็นฉากๆเห็นทุก
00:12:29 → 00:12:31 อย่างเนี่ยมันไม่ใช่เพราะว่าสาร dmt หรอก
00:12:31 → 00:12:35 เหรอเปล่าครับมันมีตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า
00:12:35 → 00:12:37 ในวิทยาศาสตร์ยังถกเถียงกันอยู่ว่าสาร
00:12:37 → 00:12:40 อะไรที่ทำให้เกิดภาวะแบบแชบเห็นทุกๆอย่าง
00:12:40 → 00:12:43 ออกมาได้ในตนก่อนตายนะครับแต่ว่าสารที่
00:12:43 → 00:12:45 น่าจะเป็นไปได้มากที่สุดในปัจจุบันนี้ก็
00:12:45 → 00:12:47 คือสารที่เรียกว่าดอฟินหรือฮอร์โมนที่เรา
00:12:47 → 00:12:50 หลั่งออกมาเป็นความสุขนั่นเองดอฟินเนี่ย
00:12:50 → 00:12:54 มันจะเป็นเรียกว่าเป็น endogenous opioid
00:12:54 → 00:12:57 นะครับคือมันเหมือนฝิ่นนะครับฝิ่นที่ออก
00:12:58 → 00:13:00 มาแล้วทำให้ร่างกายของเรานี่มีความสุขนะ
00:13:00 → 00:13:03 ครับเบาสบายฟินนะครับเหมือนกับว่าเราเห็น
00:13:03 → 00:13:05 แบบแสงที่ปลายอุโมงค์มีคนมาโบกมือให้เรา
00:13:05 → 00:13:08 อะไรอย่าเงี้ยนะครับนั้นจะเป็นสารเคมีจาก
00:13:08 → 00:13:10 เอนโดฟินเสียมากกว่าการที่เป็นฤทธิ์จัก
00:13:10 → 00:13:13 dmt ฤทธิ์จาก dmt ถ้าเกิดว่าใครเคยทำ
00:13:13 → 00:13:16 วาสก้าก็คงจะรู้มันจะมีการเห็นภาพที่มัน
00:13:16 → 00:13:19 เกินจริงสีสันเกินจริงเสียงก็จะไม่ไม่ใช่
00:13:19 → 00:13:22 เสียงปกติจะเป็นเสียงที่อยู่ๆมันมันโผล่
00:13:22 → 00:13:24 เข้ามาในหัวเราได้เองนะครับหรือว่ามันมี
00:13:24 → 00:13:27 เอ่อกลิ่นหรืออะไรอย่างเงี้ยนะครับมันก็
00:13:27 → 00:13:29 จะชัดเจนกว่าปกติแล้วบางกลิ่นมันก็ก็หลอน
00:13:29 → 00:13:31 ไปเองโดยที่มันไม่มีของแบบนั้นอยู่จริง
00:13:31 → 00:13:35 ด้วยนะครับซึ่งแตกต่างจากกลไกของดอฟินนะ
00:13:35 → 00:13:38 ครับแล้วก็กลไกการเห็นภาพต่างๆนะฮะนั้น
00:13:38 → 00:13:42 ตรงนี้เนี่ยก็เลยคิดว่ามันไม่น่าจะมีความ
00:13:42 → 00:13:45 เกี่ยวข้องกับบอกว่าสาร dmp จะหลั่งแค่ 2
00:13:45 → 00:13:47 ครั้งในชีวิตก็คือตอนเกิดกับตอนตายเท่า
00:13:47 → 00:13:49 นั้นนะครับอันเนี้ยก็คือไม่น่าจะใช่นะ
00:13:49 → 00:13:51 ครับแล้วก็หลักฐานที่บอกว่าเป็นเช่นนั้น
00:13:51 → 00:13:55 มันก็ไม่มีเสียด้วยนะครับสาร dmt เนี่ย
00:13:55 → 00:13:58 มันมีลักษณะคล้ายกับสารตัวนึงที่ผมเคย
00:13:58 → 00:14:00 เล่าไปนะครับครับก็คือสารชื่อว่า
00:14:00 → 00:14:04 ซีโรโทนินแล้วที่สำคัญก็คือไอ้สาร dmt
00:14:04 → 00:14:06 เนี่ยมันดันไปจับกับตัวรับของซีโรโทนิน
00:14:06 → 00:14:09 ตัวนึงด้วยมันก็เลยออกฤทธิ์คล้ายๆ
00:14:09 → 00:14:12 เซโรโทนินนั่นเองนะครับอ่าออกฤทธิ์คล้ายๆ
00:14:12 → 00:14:16 ซีโรโทนินนะทีนี้เวลาเราใช้อวกเนี่ยนะ
00:14:16 → 00:14:20 ครับต้องบอกอย่างนี้ก่อนว่าอวกเมื่อกี้
00:14:20 → 00:14:23 เนี่ยมันมีสาร 2 ตัวใช่มั้ยมี dmt แล้วก็
00:14:23 → 00:14:26 มีอ่า Ham อัลคาลอยด์ dmt เนี่ยบอกแล้ว
00:14:26 → 00:14:28 ว่ากินเข้าไปเนี่ยมันไม่ได้ผลนะครับเพราะ
00:14:28 → 00:14:30 ว่ามันจะถูกร่างกายย่อยทิ้งหมดเลยมันเลย
00:14:30 → 00:14:33 ต้องมีฮาลอคอยซึ่งฮาอคอยเนี่ยมีฤทธิ์ยับ
00:14:33 → 00:14:38 ยั้งเอนไซม์โอมีนออกซิเดสมีฤทธิ์ยับยั้ง
00:14:38 → 00:14:41 ดังนั้นมันจึงทำให้ dmg ที่เรากินเข้าไป
00:14:41 → 00:14:44 เนี่ยสามารถเข้าสู่สมองแล้วเกิดปเอ่อ
00:14:44 → 00:14:48 ปรากฏการณ์ต่างๆที่เ่อเราเมื่อกี้เล่าไป
00:14:48 → 00:14:51 ได้นะครับแล้วตรงนี้เนี่ยเอ่อมันมีความ
00:14:51 → 00:14:54 สำคัญแบบนี้นี่แหละนะงั้นตอนนี้เนี่ยผมก็
00:14:54 → 00:14:57 อยากจะให้ทุกคนเข้าใจเลยว่าเออมัน dnp
00:14:58 → 00:14:59 มันมีที่มาที่ไปอย่างอะไรแล้วพเนี่ยวไป
00:14:59 → 00:15:01 เกี่ยวอะไรด้วยนะครับจริงๆมันไม่ได้
00:15:01 → 00:15:03 เกี่ยวอะไรกันนะครับแล้วที่สำคัญคือบางคน
00:15:03 → 00:15:05 ก็บอกว่าเออในเมื่อ dmt เนี่ยมันหลั่งออก
00:15:06 → 00:15:08 มาตอนเกิดตอนตายแล้วมันมีคนบอกว่าถ้าเรา
00:15:08 → 00:15:14 ทำสมาธิล่ะทำสมาธิทำโยคะทำวิธีหายใจแบบ
00:15:14 → 00:15:17 โยคะหรือว่าบางคนที่อเมริกาเนี่ยจะมีการ
00:15:17 → 00:15:20 นั่งแล้วดูคริสตัลนะครับคริสตัลลูกกลมๆ
00:15:20 → 00:15:22 อย่างเงี้ยนะครับหรือใช้คริสตัลอย่างอื่น
00:15:22 → 00:15:24 นะฮะคริสตัลที่มันเป็นหินอะไรอย่างเงี้ย
00:15:24 → 00:15:28 นะฮะก็มีการใช้แบบนั้นการใช้มนบางอย่างนะ
00:15:28 → 00:15:31 ครับการใช้ใช้อาหารเสริมการทำช Cleansing
00:15:31 → 00:15:33 หรือเข้าพิธีต่างๆเนี่ยสามารถที่จะทำให้
00:15:33 → 00:15:35 ร่างกายของเราหลั่ง dmt ออกมาได้หรือไม่
00:15:35 → 00:15:40 คำตอบก็คือไม่ได้ครับไม่ได้และที่สำคัญก็
00:15:40 → 00:15:42 คือมันไม่มีหลักฐานว่าทำเช่นนั้นได้ด้วย
00:15:42 → 00:15:45 นะครับนะมันไม่สามารถทำเช่นนั้นได้นะครับ
00:15:45 → 00:15:48 ดังนั้นกรณีแบบนี้เนี่ยก็เลยอยากจะมาให้
00:15:48 → 00:15:50 เราเข้าใจก่อนว่า
00:15:50 → 00:15:53 วาสก้าเนี่ยมันมีข้อดีนะครับแต่สิ่งซึ่ง
00:15:53 → 00:15:57 เอามาอธิบายวสกเนี่ยมันเกินจริงซะส่วน
00:15:57 → 00:16:01 ใหญ่นะครับถามว่าวสกมีข้อดีอะไรบ้างอ่ะ
00:16:01 → 00:16:03 มันสามารถทำให้เราเข้าถึงตัวตนที่แท้จริง
00:16:04 → 00:16:06 เข้าใจเหตุแห่งทุกข์นะครับปัญหาปมต่างๆ
00:16:07 → 00:16:09 ซึ่งซอดอยู่ในจิตใจแล้วถ้ามันมีคนมานำเรา
00:16:09 → 00:16:12 ดีๆเนี่ยมันจะสามารถทำให้เราแก้ไขปมต่างๆ
00:16:12 → 00:16:15 ซึ่งโผล่อมาในตอนนั้นได้แล้วทำให้เราเกิด
00:16:15 → 00:16:17 เป็นคนใหม่จริงๆนะครับอันนี้ก็คือแก้ไข
00:16:17 → 00:16:21 ได้จริงๆโดยที่คนที่เข้าไปทำเนี่ยถ้ามี
00:16:21 → 00:16:24 เป้าหมายในการทำมันจริงๆนะครับมีปัญหา
00:16:24 → 00:16:26 อะไรักอย่างที่ต้องการคำตอบแล้วเข้าไปทำ
00:16:26 → 00:16:30 แบบนั้นเนี่ยน่าจะได้ประโยชน์นะครับน่าจะ
00:16:30 → 00:16:33 ได้ประโยชน์แต่ไอ้สิ่งที่จะมีโทษก็คือถ้า
00:16:33 → 00:16:36 คุณไปทำด้วยตัวคุณเองไม่มีคนนำนะครับไม่
00:16:36 → 00:16:40 ได้อยู่ในสถานที่ปลอดภัยเอาไปใช้ในเหตุผล
00:16:40 → 00:16:42 ที่บอกว่าเออมันอยากจะหลอนประสาทอยากให้
00:16:42 → 00:16:44 รู้สึกตัวเองมัน High ขึ้นมาอย่างเงี้ย
00:16:44 → 00:16:47 ไอ้อย่างเงี้ยมีปัญหาแล้วก็ไม่ควรทำแล้ว
00:16:47 → 00:16:50 ก็เห็นด้วยนะครับว่ามันควรจะเป็นสารเสพ
00:16:50 → 00:16:52 ติดซึ่งเราไม่สามารถที่จะเอามาใช้ได้ด้วย
00:16:52 → 00:16:54 ตัวเองถ้าคุณจะใช้คุณก็ต้องไปตามประเทศ
00:16:54 → 00:16:57 ที่เขาอนุโลมให้ใช้นะครับเช่นทางเปรู
00:16:57 → 00:16:59 เอกวาดอร์บราซิลอะไรอย่างเงี้ยนะครับ
00:16:59 → 00:17:02 กลุ่มพวกนั้นเนี่ยเค้าใช้ได้ก็คุณก็ต้อง
00:17:02 → 00:17:04 ไปใช้ในประเทศของเค้านะครับเอามาประเทศ
00:17:04 → 00:17:06 ไทยไม่ได้นะครับมันก็จะอาจจะมีปัญหาได้
00:17:06 → 00:17:09 อยู่นะครับถ้าเกิดว่าเอ่อเจอกฎหมายเข้าก็
00:17:09 → 00:17:12 จะแย่นะครับนี่คือสิ่งที่มีประโยชน์แล้ว
00:17:12 → 00:17:14 ก็โทษของมันนะครับบางคนใช้แล้วขึ้นไอจน
00:17:14 → 00:17:17 พวกนี้มีนะฮะแล้วทุกคนน่ะจะมีอาการแบบนี้
00:17:17 → 00:17:20 ไม่มากก็น้อยด้วยนะฮะส่วนที่ไม่จริงนะ
00:17:21 → 00:17:25 ครับแล้วไม่มีหลักฐานข้อแรกไอ้ dmt ไม่
00:17:25 → 00:17:27 ได้ถูกสร้างมาจาก pineal แกนที่เดียวครับ
00:17:27 → 00:17:29 มันถูกสร้างมาจากหลายๆที่แล้วปริมาณที่
00:17:29 → 00:17:32 สร้างงวจาก pel แนเนี่ยน้อยมากนะครับถ้า
00:17:32 → 00:17:35 เราคิดจริงๆน้อยมากแล้วแถมมันถูกสลไปทัน
00:17:35 → 00:17:37 ทีอีกต่างหากมันยังไม่ทันทำหน้าที่อะไร
00:17:37 → 00:17:39 เลยนะครับดังนั้นเรื่องของ dmt ที่ถูก
00:17:39 → 00:17:42 สั่งสร้างออกมาจากตัว P glan เนี่ย
00:17:42 → 00:17:44 อันเนี้ยผมคิดว่าไม่น่าจะใช่นะครับอันที่
00:17:44 → 00:17:48 2 การฝึกเปิดตายที่ 3 ให้ pel แกนหลัง
00:17:48 → 00:17:50 ออกมันมามากๆมันก็ทำไม่ได้เช่นกันนะครับ
00:17:50 → 00:17:53 ไม่มีหลักฐานว่ามันทำแบบนั้นได้แล้วก็การ
00:17:53 → 00:17:55 ที่มันหลั่งออกมามันไม่เกี่ยวข้องอะไรกับ
00:17:55 → 00:17:57 การเรื่องของ dmt ที่มันหลั่งออกมาจากตรง
00:17:57 → 00:18:00 บริเวณอ่าใชนิ้วแกนเลยนะครับดังนั้นตรง
00:18:00 → 00:18:03 นี้เราก็ต้องเข้าใจด้วยนะครับแล้วเราไม่
00:18:03 → 00:18:07 สามารถไปนั่งโยคะไปหายใจแบบพิเศษกินอะไร
00:18:07 → 00:18:08 เข้าไปนะครับเพื่อที่จะให้ร่างกายมัน
00:18:08 → 00:18:10 หลั่งตัวนั้นออกมาได้นะ
00:18:10 → 00:18:15 ครับแล้วที่สำคัญก็คือมีอย่างนึงนะครับ
00:18:15 → 00:18:17 บอกว่าคนที่ทำวาสก้าเนี่ยหลังจากนั้น
00:18:17 → 00:18:21 เนี่ยจะหายซึมเศร้าไปเยอะเลยทีเดียวมีอัน
00:18:21 → 00:18:24 นึงซึ่งผมกำลังสงสัยอยู่เพราะว่ามันอาจจะ
00:18:24 → 00:18:26 เกี่ยวข้องกันนะครับไม่ใช่เพราะว่า dmt
00:18:26 → 00:18:28 นะครับแต่ว่ามันเพราะว่าไอ้ตัว Ham
00:18:28 → 00:18:30 แอลคาลอยด์เพราะว่าฮาลแอลคาลอยด์เนี่ยมัน
00:18:30 → 00:18:34 มีฤทธิ์นะครับยับยั้งเอนไซมชื่อว่าโอมีน
00:18:34 → 00:18:36 ออกซิเดสหรือ Mao นะครับซึ่งในทางการแพทย
00:18:37 → 00:18:41 เนี่ยเรามียาที่ไปยับยั้งโอมินออกซิเดส
00:18:41 → 00:18:44 เพื่อแก้ไขโรคซึมเศร้าอยู่แล้วดังนั้น
00:18:44 → 00:18:46 เนี่ยคุณกินไอ้ตัวเนี้ยมันอาจจะได้ผล
00:18:46 → 00:18:48 เหมือนทางการแพทย์ในการรักษาโรคซึมเศร้า
00:18:48 → 00:18:53 ก็ได้นะครับนะก็ได้นะฮะงั้นตรงนี้ก็คิด
00:18:53 → 00:18:55 ว่าชี้แจงให้หลายๆคนฟังน่าจะได้ประโยชน์
00:18:55 → 00:18:58 ไม่มากก็น้อยนะครับแล้วก็ตอนนี้เนี่ยงาน
00:18:58 → 00:19:00 วิจัยในเรื่องของไซเคเดลิกหรือสารหลอน
00:19:00 → 00:19:03 ประสาทเนี่ยเริ่มจะพอมีคนเอามาใช้แล้วก็
00:19:03 → 00:19:05 วินิจัยเรื่องวิทยาศาสตร์เยอะขึ้นนะครับ
00:19:05 → 00:19:08 เช่นไลไซบินนะครับแล้วก็ไอ้ตัววาสก้านี่
00:19:08 → 00:19:10 ก็จะเป็นอีกตัวนึรวมทั้งสารล้อมรักษาส
00:19:10 → 00:19:14 อื่นๆนะครับแต่มันจะต้องใช้ภายใต้แพทย์
00:19:14 → 00:19:17 เท่านั้นนะครับจะต้องมีคนที่เชี่ยวชาญ
00:19:17 → 00:19:19 เป็นคนกำกับดูแลไม่ใช่เอาไปใช้เองนะครับ
00:19:19 → 00:19:22 ถ้าเอาไปใช้เองนั้นผิดกฎหมายแล้วก็อาจจะ
00:19:22 → 00:19:24 มีอันตรายได้นะครับเพราะว่าของที่หลอน
00:19:24 → 00:19:27 ประสาทพวกนี้ถ้าเราใช้ไม่เป็นผิดปริมาณ
00:19:27 → 00:19:29 เข้าไปแล้วล่ะก็คุณอาจจะหลอนประสาททำร้าย
00:19:29 → 00:19:32 คนข้างเคียงแล้วก็เกิดปัญหาต่างๆทางกฎ
00:19:32 → 00:19:35 หมายตามมาได้นะครับดังนั้นเรื่องพวกนี้ก็
00:19:35 → 00:19:39 แล้วแต่ท่านนะครับถ้าท่านจะทำก็ดูในที่
00:19:39 → 00:19:41 สถานที่ที่มันสมควรจะทำแล้วกันนะครับทำ
00:19:41 → 00:19:44 ที่นี้เหมาะสมนะครับโอเควันนี้ก็เท่านี้
00:19:44 → 00:19:46 นะครับถ้าเกิดว่าใครมีอะไรสงสัยก็สอบถาม
00:19:46 → 00:19:51 มาแล้วกันนะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ