00:00:00 → 00:00:02 ก่อนอื่นต้องถามก่อนเลยครับคุณหมอครับว่า
00:00:02 → 00:00:06 เลือดกำเดาเนี่ยที่เราอ่ะเอาตัวผมแล้วกัน
00:00:06 → 00:00:08 ผมเนี่ยมักจะเกิดขึ้นตอนสมัยเด็กๆมันเป็น
00:00:09 → 00:00:12 สิ่งที่เหมกันเรามักจะต้องเจอกันได้ทุกคน
00:00:12 → 00:00:14 มยครับคุณหมอครับสักครั้งนึงในชีวิตนะฮะ
00:00:14 → 00:00:17 คุณหมอฮะอ่าก็เป็นความจริงครับก็คือว่า
00:00:18 → 00:00:20 จริงๆเรืองกอดอมันเป็นภาวะที่พบบ่อยอยู่
00:00:20 → 00:00:25 แล้วนะครับถ้าเอาสิิที่เราชอบสอนนักศึกษา
00:00:25 → 00:00:28 เนี่ยก็คือว่าเ่อในชีวิตคนเราเนี่ยนะครับ
00:00:28 → 00:00:32 ประมาณสัก 60% เนี่ยจะต้องเจอเอ่อเรือกำ
00:00:32 → 00:00:34 เดาไหลสักครั้งหนึงในชีวิตอนะครับในชีวิต
00:00:34 → 00:00:37 อือฮึอืส่วนใหญ่เนี่ยคุณหมอครับไอ้ช่วง
00:00:38 → 00:00:41 เวลาที่เรามักจะเจอมักจะต้องประสบปัญหา
00:00:41 → 00:00:44 เลือกกำเดาไหลลเนี่ยมันมักจะเจอในช่วงวัย
00:00:44 → 00:00:46 เด็กๆมั้ยครับคุณหมอหรือว่าเป็นผู้ใหญ่ก็
00:00:46 → 00:00:48 มักจะเจอได้เพราะว่าผมไม่ค่อยเห็นในวัย
00:00:48 → 00:00:51 ผู้ใหญ่สักเท่าไหร่อ่ะครับคุณหมอครับเอ่า
00:00:51 → 00:00:54 ใช่ครับก็คือเลือกคำดาเนี่ยมันมันชอบไหล
00:00:54 → 00:00:57 ในใน 2 ช่วงอายุก็คือว่าช่วงเด็กๆเนี่ย
00:00:57 → 00:01:00 รอบนึงแล้วก็ช่วงที่อายุเริ่มมากขึ้นนะ
00:01:00 → 00:01:03 ครับ 40 50 ขึ้นไปเนี่ยอีกสักรอบนึงครับ
00:01:03 → 00:01:07 โอหเหรอคะทำเออไอ้เด็กๆเราเราเจอกันแต่
00:01:07 → 00:01:09 เด็กๆแล้วเราก็หายเออเด็กๆเนี่ยพอเข้าใจ
00:01:09 → 00:01:12 แต่ว่าในช่วงวัย 40 50 เนี่ยนะคุณหมอ
00:01:12 → 00:01:14 ครับมันมีอีกเหรอคะมันมันมันมายังไงอ่ะ
00:01:14 → 00:01:17 ครับคุณหมอครับเอ่อมันมาอย่างนี้ครับ
00:01:17 → 00:01:19 เนื่องจากว่าพอเราอายุมากขึ้นเนี่ยเส้น
00:01:19 → 00:01:22 เลือดของเรามันจะเริ่มขาดความยืดหยุ่น
00:01:22 → 00:01:24 แล้วครับค่ะเอ่อเราอาจจะเริ่มมีโรคร่วม
00:01:24 → 00:01:28 บางอย่างด้วยเช่นโรคอ่าความดันสูงโรคไข
00:01:28 → 00:01:31 มันในเส้นเลือดสูงอะไรแบบนี้นะครับเอ่อ
00:01:31 → 00:01:34 ซึ่งจะทำให้เสื้อเลือดเนี่ยมันมันขาดขขาด
00:01:34 → 00:01:38 ความยืดหยุ่นนะครับพอมันขาดความยืดหยุ่น
00:01:38 → 00:01:41 เนี่ยมันจะแตกง่ายครับอืเวลามีอะไรมา
00:01:41 → 00:01:44 กระทบนิดนึงเช่นมีสั่งน้ำมูกแรงๆนะครับ
00:01:44 → 00:01:48 หรืออากาศมันร้อนมากๆนะครับอากาศมันมัน
00:01:48 → 00:01:52 ขาดความเอ่อเอ่อชุ่มชื้นเนี่ยนะครับจมูก
00:01:52 → 00:01:54 ก็พร้อมที่จะมีเลือกกำเดาไหลออกมาเลยจาก
00:01:54 → 00:01:57 เส้นเลือกที่มันเปาะอยู่แล้วครับโอ้โหอืม
00:01:57 → 00:02:00 แล้วแต่แต่วัยเด็กกับวัยผู้ใหญ่อ่ะเลือง
00:02:00 → 00:02:03 ของเลืกำเดาเนี่ยในภาวะของเด็กเขบอกว่า
00:02:03 → 00:02:06 เส้นเลือดฝอยเปราะบางของของผู้ใหญ่ก็ใช่
00:02:06 → 00:02:08 เหมือนกันอย่างงี้คล้ายๆกันเลยเหรอคะอ่า
00:02:08 → 00:02:12 คล้ายๆกันครับก็คือเอ่อของเด็กเนี่ยเส้น
00:02:12 → 00:02:14 เลือดเนี่ยมันมันมีความเปราะตามวัยก็คือ
00:02:14 → 00:02:17 ว่ามันยังไม่ได้พัฒนาจนมีความแข็งแรงเต็ม
00:02:17 → 00:02:21 ที่ในขณะที่พอคนสูงอายุเนี่ยก็พัฒนาเต็ม
00:02:21 → 00:02:26 ที่แต่ว่าเริ่มขาดความยึดหยุ่นละค่ะอื
00:02:26 → 00:02:29 เด็กๆอ่ะครับคุณหมอครับเด็กๆที่มักมักจะ
00:02:29 → 00:02:31 เจอมักจะเป็นกันเนี่ยคือมันมันก็มาจาก
00:02:31 → 00:02:32 สาเหตุอันนี้เป็นหลักใช่มั้ยครับผมบอกมัน
00:02:33 → 00:02:35 อาจจะไม่ใช่เกี่ยวกับเรื่องของไม่ใช่คำ
00:02:35 → 00:02:38 ดันโดนกระแทกโดนอะไรอย่างงี้แล้วกำเดามัน
00:02:38 → 00:02:39 ไหลอย่างงี้ใช่มั้ยครับคุณหมอครับเวลาไป
00:02:39 → 00:02:42 เล่นกับเพื่อนๆหรือว่าอะไรอย่างเงี้ยฮะก็
00:02:42 → 00:02:45 จริงๆเนี่ยสาเหตุของเด็กเนี่ยก็มีความ
00:02:45 → 00:02:47 หลากหลายนะครับเอาสาเหตุที่พบบ่อยที่สุด
00:02:48 → 00:02:52 ก่อนนะครับก็คือเด็กเนี่ยชอบเอ่อมีมีความ
00:02:52 → 00:02:55 คันจมูกอ่าฮะเช่นอาจจะเป็นภูมิแพ้เป็น
00:02:55 → 00:02:58 หวัดเนี่ยคือเด็กเราชอบเป็นหวัดบ่อยๆใช่ๆ
00:02:58 → 00:03:01 พอพอมีอาการคันหรือคัหรืออยากจะจามเนี่ย
00:03:01 → 00:03:04 ก็จะเอานิ้วเนี่ยไปขยี้จมูกไปแคะจมูกบ้าง
00:03:04 → 00:03:06 นะครับดังนั้นเนี่ยความที่เขาเป็นหวัด
00:03:07 → 00:03:10 บ่อยติดเชื้อบ่อยนะครับก็เลยทำให้เ่ออยาก
00:03:10 → 00:03:14 จะเอามือเนี่ยไปสัมผัสกับจมูกบ่อยๆด้วยอื
00:03:14 → 00:03:17 เลือดมันก็เลยชอบไหลตามมาครับนึกออกเลย
00:03:17 → 00:03:19 เพราะว่าเค้าเรียกว่าเอาง่ายๆเเรียกใช้คำ
00:03:19 → 00:03:22 ว่าแคะขี้มูกนะคุณหมอใชชเข้าไปแคะเข้าไป
00:03:22 → 00:03:25 นี่ก็คือในตัวเองเนี่ยประสบการณ์เนี่ยไหล
00:03:26 → 00:03:28 ทุกคืนเป็นเป็นการต่อเนื่องเลยนะคะคุณหมอ
00:03:29 → 00:03:31 ในสัปดาห์นี้อาจจะสัก 3-4 วันในช่วงเวลา
00:03:31 → 00:03:34 เดียวกันช่วงก่อนอนแล้วน้ำแข็งบคุมแพ้
00:03:34 → 00:03:37 ด้วยเนี่ยยิ่งยิ่งบ่อยใช่เลยแล้วเลือด
00:03:37 → 00:03:40 เนี่ยลงคอเลยรู้สึกเลยเป็นเป็นคาวเลือด
00:03:40 → 00:03:42 ออกมาเลยอันนี้อันนี้เป็นประสบการณ์ตรง
00:03:42 → 00:03:46 แล้วก็เพิ่งมาหายตอนที่ช่วงที่เอ่อจะเป็น
00:03:46 → 00:03:50 ทีนจค่ะคุณหมอไหลมาตลอดเลยแล้วทำไมมันหาย
00:03:50 → 00:03:55 เลยอ่ะคะมันหายไปเลยอืจริงๆก็เอ่ออาการ
00:03:55 → 00:03:57 เลือกกำดาวเนี่ยอาจจะหายแต่ว่าตัวโรค
00:03:57 → 00:04:00 เนี่ยไม่ได้หายนะครับอืเเป็นภูมิแพ้ก็ยัง
00:04:00 → 00:04:03 คงเป็นภูมิแพ้อยู่เพียงแต่ว่าพอเราโตขึ้น
00:04:03 → 00:04:06 เนี่ยเอ่อสภาพร่างกายเราแข็งแรงขึ้นตาม
00:04:06 → 00:04:10 วัยนะครับเเช่นเป็นเป็นวัยรุ่นนะฮแข็งแรง
00:04:10 → 00:04:13 ดีขึ้นเสืนเลือดเริ่มดีขึ้นนะครับมันก็
00:04:13 → 00:04:16 แตกยากขึ้นเท่านั้นเองครับอ๋อมันแข็งแรง
00:04:16 → 00:04:19 ขึ้นไปตามสภาพอันนี้ปัญหาของพวกกลุ่มวัย
00:04:19 → 00:04:21 รุ่นหรือกลุ่มวัยทำงานเนี่ยถ้าเลือดกเ
00:04:21 → 00:04:24 เราาไหลก็จะมาจากเอ่อการที่เกิด
00:04:24 → 00:04:26 อุบัติเหตุไปกระแทกที่จมูกนั่นแหละครับ
00:04:26 → 00:04:29 ครับหรือหรือถ้าเกิดว่าเป็นโรคอ่าที่ที่
00:04:29 → 00:04:32 มันหายากบางโรคเช่นเด็กผู้ชายวัยรุ่น
00:04:32 → 00:04:36 เนี่ยก็จะเป็นอีกอีกปัญหานึงครับโอ้โหอ๋อ
00:04:36 → 00:04:38 ออันนั้นอันนั้นก็คืออาจะเป็นอีกหนสาเหตุ
00:04:38 → 00:04:41 อุบัติเหเอออเป็นภาวะพิเศษไปแต่ว่าถ้าด
00:04:41 → 00:04:43 ส่วนใหญ่ก็มาจากเรื่องของอุบัติเหตุหรือ
00:04:43 → 00:04:46 หรือการสัมผัสจมูกแรงๆครับด้วยเหตุอะไรก็
00:04:46 → 00:04:49 ตามเพราะฉะนั้นเลือกกำดาวไหลเป็นภาวะที่
00:04:49 → 00:04:51 เกิดขึ้นได้ในช่วงเด็กถึงวัยรุ่นแล้วก็พอ
00:04:51 → 00:04:54 แข็งแรงขึ้นก็หายไปแต่บางคนมันก็ไม่หาย
00:04:54 → 00:04:58 มันมันจะเป็นอะไรที่เราต้องควรระมัดระวัง
00:04:58 → 00:05:01 อย่างไรคะบางคนยังมีอยู่โอเคเอ่อถ้าถ้า
00:05:01 → 00:05:04 เกิดว่าเอ่อมันเป็นไปตามวัยเช่นเช่นวัย
00:05:05 → 00:05:07 เด็กเป็นรอบนึงนะครับวัยเอ่อสูงอายุเป็น
00:05:07 → 00:05:10 รอบนึงอันนี้ก็อาจจะเป็นภาวะที่เจอได้
00:05:10 → 00:05:12 เรื่อยๆแต่ถ้าเกิดว่าเป็นวัยรุ่นอย่าง
00:05:12 → 00:05:14 เช่นยกตัวอย่างนะครับวัยรุ่นผู้ชายเนี่ย
00:05:14 → 00:05:18 เอ่อถ้าเลือกกำเดาไหลอันนี้เป็นสัญญะ
00:05:18 → 00:05:21 อันตรายเพราะมาจากก้อนเนื้อเอ่อที่หายาก
00:05:21 → 00:05:23 อยู่โรคนึงที่เราที่เราต้องเรียนกันในใน
00:05:23 → 00:05:26 หมู่นักศึกษาครับมันเป็นเนื้องอกเฉพาะของ
00:05:26 → 00:05:30 เด็กผู้ชายเลยหึก็เป็นเรื่องนึงนะครับออ
00:05:30 → 00:05:32 ครับเ่ออีกแบบนึงก็คือว่าเอ่อเรื่องของ
00:05:32 → 00:05:35 อุบัติเหตุอันนี้จะเจอบ่อยกว่าอนะครับ
00:05:35 → 00:05:38 เช่นอุบัติเหตุมอเตอร์ไซค์นะครับอย่าง
00:05:38 → 00:05:41 หรืออย่างการชกต่อยทะเลาะวิวาทกันแบบนี้
00:05:41 → 00:05:44 ครับหรือการที่เอามือไปสัมผัสหน้าแรงๆนะ
00:05:44 → 00:05:47 ครับแบบนี้อย่างเช่นการเอ่อถ้าเป็นผู้
00:05:47 → 00:05:50 หญิงอาจจะมีเรื่องของเอ่ออุบัติเหตุหรือ
00:05:50 → 00:05:53 ทะเลาะกันนะครับผู้ชายก็ชกกันแบบนี้ครับ
00:05:53 → 00:05:55 หรืออุบัติเหตุอยากกังกีฬาแบบนี้ครับก็
00:05:55 → 00:05:58 เกิดขึ้นได้นึกภาพออกคุณหมอบอกผู้หญิงอาจ
00:05:58 → 00:06:01 จะมีตึบๆอะไรกันบ้างอะไรอย่างงี้ใช่มั้ย
00:06:01 → 00:06:04 คะกระแทกกระทันก็โดยมากก็คือนึกนึกภาพออก
00:06:04 → 00:06:07 ง่ายๆคือจากการกระแทกจมูกนะครับเออออื
00:06:07 → 00:06:10 กระแทกจมูกเนาะคืออุบัติเหตุอคือการการ
00:06:10 → 00:06:13 แคะจมูกอะไรอย่างเงี้ยคือโดนทำให้ให้เส้น
00:06:13 → 00:06:16 เลือดตรงนั้นแตกคืออันนี้ก็เป็นสาเหตุที่
00:06:16 → 00:06:20 พบบ่อยครับแต่ว่าอ่าสาเหตุที่ไม่ไม่พบ
00:06:20 → 00:06:23 บ่อยๆหรือมันอาจจะเกิดขึ้นเองก็สักประมาณ
00:06:23 → 00:06:26 10% ครับครับอืคือหาสาเหตุอะไรไม่ได้
00:06:26 → 00:06:29 อยู่อยู่มันก็แตกกว่ามันเองนะครับคือไอ้
00:06:29 → 00:06:32 กรณีที่อยู่ๆมันก็ไหลของมันเองครับคุณหมอ
00:06:32 → 00:06:35 ครับไอ้นี้มันมันเป็นสัญญาณของโรคภัยไข้
00:06:35 → 00:06:38 เจ็บอะไรต่างๆที่มันอาจจะแฝงตัวอยู่ภายใน
00:06:38 → 00:06:41 ร่างกายของเรามครับคุณหมอฮะอือ่าเป็นไป
00:06:41 → 00:06:44 ได้ครับเ่อถ้าเอาแบบที่เจอบ่อยๆเลยก็คือ
00:06:44 → 00:06:47 ว่าอย่างภูมิแพ้เนี่ยนะครับซึ่งซึ่งอาจจะ
00:06:48 → 00:06:50 เจอได้ในทุกกลุ่มอายุอ่ะะนะครับครับภูมิ
00:06:50 → 00:06:53 แพ้เนี่ยมันจะทำให้อ่าเส้นเลือดเนี่ยมัน
00:06:53 → 00:06:56 มันโปร่งมันขยายตัวมากกว่ามากกว่าคนที่
00:06:56 → 00:06:58 ไม่เป็นเพราะว่ามันมีความอักเสบอยู่ใน
00:06:58 → 00:07:02 จมูกเรานะครับพอมีการอักเสบเนี่ยเเลือมัน
00:07:02 → 00:07:05 โปร่งมันพร้อมจะแตกอยู่แล้วครับเช่นถ้า
00:07:05 → 00:07:08 เกิดว่ามีการจามเพียงนิดเดียวเนี่ยหรือ
00:07:08 → 00:07:10 การสัมผัสจมูกเพียงนิดเดียวเนี่ยเส้น
00:07:10 → 00:07:12 เลือดที่มันพร้อมจะแตกอยู่แล้วมันก็แตก
00:07:12 → 00:07:16 เลยครับดังนั้นเนี่ยถ้าถ้ารู้สึกว่าอยู่ๆ
00:07:16 → 00:07:19 เนี่ยไม่ได้ทำอะไรนะครับแล้วเอ่อเลือดมัน
00:07:19 → 00:07:21 ไหลออกมาเนี่ยไม่ว่าเราจะรู้หรือไม่รู้
00:07:21 → 00:07:25 สาเหตุก็ตามครับก็เบื้องต้นเนี่ยสามารถกด
00:07:25 → 00:07:27 บีบจมูกอยู่ที่บ้านก่อนได้ครับอือฮึแต่
00:07:27 → 00:07:30 ถ้ามันไม่ไหลเนี่ยต้องต้องมาบแพทย์ลครับ
00:07:30 → 00:07:31 อ่าาสาเหตุละ
00:07:31 → 00:07:35 โอมันก็ดูอืเออมันดูน่ากังวลเหมือนกันนะ
00:07:35 → 00:07:38 ฮะคุณหมอครับไอ้เรื่องอาการแบบนี้เนี่ย
00:07:38 → 00:07:42 คุณหมอเรื่องของเอ่อเาบอกว่าหละผมไปอ่าน
00:07:42 → 00:07:44 ข้อมูลมาคุณหมอครับไอ้เลือดกำเดาไหลเนี่ย
00:07:44 → 00:07:46 เบอกว่ามันอาจจะเป็นสัญญาณนะเรื่องของ
00:07:46 → 00:07:49 เนื้องอกด้วยนี่ไม่ทราบว่ามันจริงขนาดไหู
00:07:49 → 00:07:52 หมอฮะออจริงครับอืคือเนื้องอกเนี่ยไม่ว่า
00:07:52 → 00:07:55 จะเป็นเนื้องอกแบบไม่ร้ายนะครับหรือเนื้อ
00:07:55 → 00:07:58 งอกแบบร้ายทีลเรียกว่ามะเร็งเนี่ยครับก็
00:07:58 → 00:08:01 ทำให้เลือกกำเดาหลได้ได้ทุกทุกอย่างเลย
00:08:01 → 00:08:04 ครับอเอ่ออย่างอย่างที่แจ้งว่าสมมุติถ้า
00:08:04 → 00:08:06 เป็นวัยรุ่นผู้ชายเนี่ยก็จะเป็นเนื้องอก
00:08:07 → 00:08:10 เฉพาะตัวนึงค่ะนะครับหรือถ้าเกิดว่าเป็น
00:08:10 → 00:08:14 เอ่ออย่างเพศหญิงหรือไม่ไม่จำกัดเพศเนี่ย
00:08:14 → 00:08:17 แล้วเป็นเ่อเนื้องอกอะไรขึ้นมาในจมูก
00:08:17 → 00:08:19 เนี่ยก็สามารถทำให้เลือกกำเดาไหลลได้ทั้ง
00:08:19 → 00:08:21 สิ้นเลยครับส่วนมากจะเป็นในเพศชายเพศหญิง
00:08:21 → 00:08:24 ครับคุณหมออันไหนมากกว่ากันเอ่อถ้าถ้าไม่
00:08:24 → 00:08:26 นับเนื้องอกที่เป็นในวรุ่นชายซึ่งซึ่ง
00:08:26 → 00:08:30 เป็นเคสที่หายากมากๆนะครับค่ะก็พบได้เอ่อ
00:08:30 → 00:08:33 ทั้ง 2 เพศเลยครับพอๆกันครับอเขาจะงอกตรง
00:08:33 → 00:08:36 ไหนคะเนื้องอกส่วนนี้เอ่อก็สามารถงอกได้
00:08:36 → 00:08:39 ทุกตำแหน่งของจมูกเลยครับเ่าอย่างเช่นนะ
00:08:39 → 00:08:42 ครับที่เจอบ่อยๆเลยเนี่ยเ่อก็อาจจะเป็น
00:08:42 → 00:08:44 ที่ตัวผนังกั้นจมูกนะครับหรือภายในโพง
00:08:44 → 00:08:49 ไซนัสนะครับอือฮะอืแต่ว่า 2 2 จุดเนี่ย
00:08:49 → 00:08:52 ที่มักจะเจอว่ามีเลือกกำเดาไหลเนี่ยที่
00:08:52 → 00:08:54 ที่เราเรียนกันเนี่ยก็คือว่าเป็นผนังกั้น
00:08:54 → 00:08:57 จมูกด้านหน้าอันนี้เนี่ยไม่ต้องเป็นเนื้อ
00:08:57 → 00:09:00 งอกก็ไหลเองได้นะครับเพราะว่ามันมันอยู่
00:09:00 → 00:09:02 ในจุดที่สามารที่จะโดนนิ้วมือได้ง่ายๆ
00:09:02 → 00:09:05 อยู่แล้วพูดง่ายๆก็คือว่าเอานิ้วชี้เนี่ย
00:09:05 → 00:09:07 สมมติเอานิ้วชี้ของเราเนี่ยนะครับอเอ่อ
00:09:07 → 00:09:10 ใส่เข้าไปในดูจมูกเนี่ยครับตำแหน่งที่
00:09:10 → 00:09:13 ตำแหน่งที่โดนแข็งๆเนี่ยอืตำแหน่งแรกเลย
00:09:13 → 00:09:16 นั่นคือผนังกั้นจมูกครับนั่นคือบริเวณที่
00:09:16 → 00:09:19 มันชอบไหลมากที่สุดออุ้ยครับหมายถึงว่า
00:09:19 → 00:09:22 ถ้าเราไปแงะแกะเกาอะไรตรงอาจจะมีน้ำมูกมี
00:09:22 → 00:09:24 แห้งๆอะไรอยู่อย่างเงี้ยไม่ได้เลยไม่ควร
00:09:24 → 00:09:29 ทำใช่มั้ยคะอืจะมีเรือกกำดาวไหลคโอ้โห
00:09:29 → 00:09:34 เนื้อถ้าถ้าเราคิดว่าเอ่อมันมีเลือกกำเน
00:09:34 → 00:09:37 ไหลแล้วรู้สึกว่าเอ่อมันไม่หยุดง่ายๆนะ
00:09:37 → 00:09:40 ครับหรือว่าหยุดไปแล้วสักพักนึงอ่ะก็ไหล
00:09:40 → 00:09:43 ใหม่โออืนะครับหรือว่ามีอาการร่วมอย่าง
00:09:43 → 00:09:47 อื่นเช่นมีอาการชาใบหน้านะครับมีอาการปวด
00:09:47 → 00:09:51 ที่อธิบายไม่ได้หรือมีอาการเอ่ออย่างอื่น
00:09:51 → 00:09:54 เช่นตามันเริ่มมองไม่ค่อยเห็นหรือมันกรอก
00:09:54 → 00:09:56 ไม่ได้อย่างอย่างเงี้ยนะครับโพอเป็น
00:09:56 → 00:10:00 สัญญาณที่อันตรายมากๆละอืจะต้องรีบมาตรวจ
00:10:00 → 00:10:03 มาส่องกล้องภายในโปงจมูกเพื่อหาสาเหตุล่ะ
00:10:03 → 00:10:06 ครับอืโอ้โหพวกนี้เป็นสัญญาณของเนื้องอก
00:10:06 → 00:10:11 ครับโอ้โหแล้วถ้าเรามาเจอเนื้องอกเนื้อ
00:10:11 → 00:10:14 ชิ้นนั้นเนี่ยสามารถตัดออกไปแล้วก็รักษา
00:10:14 → 00:10:17 ได้ถ้าไม่ใช่เนื้อร้ายเนี่ยมันก็หายใช่
00:10:17 → 00:10:19 มั้ยคะคุณหมอถ้าไม่ใช่เนื้อร้ายเนี่ยเรา
00:10:19 → 00:10:23 สามารถผ่าได้เอแบบผ่านกล้องไม่มีแผลภาย
00:10:23 → 00:10:26 นอกให้เห็นเลยโอ้โหแล้วก็หายขาดเลยครับมี
00:10:26 → 00:10:31 เยอะมยคะในกรณีนี้เออเยอะมากเลยครับถ้า
00:10:31 → 00:10:34 อย่างราชวิทถ้าถ้าเป็นโรงพยาบาลราชวิถี
00:10:34 → 00:10:36 ซึ่งเรารับส่งต่อเคสจากหลายๆจังหวัดเนี่ย
00:10:36 → 00:10:40 นะครับค่ะก็เรียกว่ามีผ่ากันอาทิตย์นึง
00:10:40 → 00:10:42 ต้องมี 2 เคส 3 เคสครับอุยโอ๊ยเยอะเหมือน
00:10:42 → 00:10:46 กันเนาะโอเยอะโดยเราไม่รู้มากร้อยครับที่
00:10:46 → 00:10:48 ที่ผ่าผ่านมืออย่าเงี้ยครับแสดงว่าเรื่อง
00:10:48 → 00:10:52 ของเนื้องอกที่เกิดในโพรงจมูกของบุคคล
00:10:52 → 00:10:57 ต่างๆทั้งโดยเฉพาะคนที่บ่านี่วัยวัยกำลัง
00:10:57 → 00:11:00 วัยรุ่นเลยอย่างเงี้ยมันเกิดจากสาเหตุ
00:11:00 → 00:11:03 อะไรคะคุณหมอฝุ่นละองหรืออะไรมถ้าถ้าเกิด
00:11:03 → 00:11:05 เป็นวัยรุ่นเนี่ยเอ่อสาเหตุเนื้องอกมักจะ
00:11:05 → 00:11:08 เจอไม่บ่อยครับเนื้องอกเนี่ยจะไปเจอบ่อย
00:11:08 → 00:11:12 ในคนที่อายุ 40 50 ขึ้นไปออกลางคนแล้ว
00:11:12 → 00:11:17 กลางคนครับอืคือการสัมผัสจากฝุ่นละออง
00:11:17 → 00:11:19 เกี่ยวมั้ยคะหรือว่าอะไรคะเอ่อจริงๆไม่
00:11:19 → 00:11:22 ได้ไม่ได้เกี่ยวไม่ได้เกี่ยวโดยตรงเอ่อ
00:11:22 → 00:11:24 เนื้องอกเนี่ยเวลามันเกิดขึ้นเนี่ยมัน
00:11:24 → 00:11:26 เกิดขึ้นของมันเองได้ครับอ๋อโดยมากก็คือ
00:11:26 → 00:11:29 ไม่มีสาเหตุครับไม่ไม่ไม่มีปัจจัยแล้วที่
00:11:29 → 00:11:32 เราควบคุมได้อืนึกว่ามันเกี่ยวกับการที่
00:11:32 → 00:11:35 เราสูดหายใจแล้วก็โพรงจมูกเราก็รับตรงนี้
00:11:35 → 00:11:38 เข้าไปเอ่อมันมีมะเร็งบางอย่างครับที่อาจ
00:11:38 → 00:11:40 จะเกี่ยวกับอาการอย่างเช่นเอ่อมะเร็งพรวง
00:11:40 → 00:11:44 จมูกบางชนิดเนี่ยเกี่ยวข้องกับพวกูด Dust
00:11:44 → 00:11:47 ก็คือเป็นผงละอองไม้อย่างในในโรงเลื่อย
00:11:47 → 00:11:51 โรงโรงไม้แบบเยก็อก็มีโอกาสครับแต่ว่าโดย
00:11:51 → 00:11:54 โดยทั่วไปแล้วก็ไม่ได้มีปัจจัยเฉพาะที่
00:11:54 → 00:11:58 ที่ที่เราสามารถที่จะระวังได้ใช่อืมัน
00:11:58 → 00:12:00 เกิดของมันเองครับน่าสนใจมากเนาะผ่าได้
00:12:00 → 00:12:03 อาทิตย์นึง 2 เคสอ่ะอย่างน้อยเออขั้นขั้น
00:12:03 → 00:12:05 ต่ำเนี่ยมี 2 เคสแน่ๆเค้าจะรำคาญขนาดไหน
00:12:05 → 00:12:08 ที่เคถึงมาหามาพบหมอแล้วก็ผ่าตัดออกไปค่ะ
00:12:08 → 00:12:11 คุณหมอโดยมากอาการเนี่ยจะมาเรื่องคัจมูก
00:12:11 → 00:12:15 ก่อนครับครับอือ่าแล้วก็อาจจะมีเลือดกำเน
00:12:15 → 00:12:18 หลายบ้างนะครับแล้วก็เอ่อมีน้ำน้ำมูกน้ำ
00:12:18 → 00:12:21 หนองเนี่ยไหลออกมาซึ่งซึ่งพบว่าอาการ
00:12:21 → 00:12:23 เหล่าเนี้ยถ้าพูดเนี่ยพูดเฉพาะอาการเนี่ย
00:12:23 → 00:12:26 มันแยกไม่ออกกับโรคไซนาเสบๆแยกไม่ออกกับ
00:12:26 → 00:12:29 ภูมิแพ้แยกไม่ออกกับอาการหวัดถูกมั้ยครับ
00:12:29 → 00:12:33 อ่าฮะแต่ว่าแต่ว่าเอ่อให้ให้ตั้งต้นี้ก
00:12:33 → 00:12:35 ครับถ้าอาการของเราเนี่ยเอ่อที่มันดู
00:12:35 → 00:12:37 คล้ายๆหวัดหรือไซนัสอักเสบเนี่ยมันเป็น
00:12:37 → 00:12:39 ประมาณสักอาทิตย์ 2 อาทิตย์เนี่ยแล้วหาย
00:12:40 → 00:12:42 ไปเนี่ยอย่างเงี้ไม่ค่อยน่าห่วงอืครับถ้า
00:12:42 → 00:12:44 เกิดว่ามันเป็นเกิน 2 อาทิตย์อันเนี้ยผม
00:12:44 → 00:12:48 ว่าควรจะต้องมาตรวจละโอ้โหมีในมีสีแบบช้ำ
00:12:48 → 00:12:50 เลือดช้ำหนองอะไรประมาณนั้นนะคะคือส่วน
00:12:50 → 00:12:53 ใหญ่อ่ะคุณหมอครับไอ้อาการลักษณะแบบนี้
00:12:53 → 00:12:55 เนี่ยมันมักจะมีเรื่องของเลือดกำเดาไหล
00:12:55 → 00:12:58 ออกมาเนี่ยอเอ่อเหมือนเหมือนเลือดกำเดา
00:12:58 → 00:13:00 ไหลไหลปกติมั้ยครับหรือว่าไอ้เลือดกำเดา
00:13:00 → 00:13:03 ไหลที่มันมาจากเรื่องของเนื้องอกอย่าง
00:13:03 → 00:13:05 อย่างที่คุณหมอได้อธิบายไปเมันเลือดมัน
00:13:05 → 00:13:08 อาจจะสีเข้มกว่าเป็นลิมลิ่มมั้มันอาจจะมี
00:13:08 → 00:13:11 ความผิดปกติจากเลือดที่เรามักจะคุ้นุ้นๆ
00:13:11 → 00:13:14 ตากันนะอ๋อไม่ได้เลยเหรอฮคุณหมอแยกไม่ได้
00:13:14 → 00:13:18 เลือดก็คือเลือดเลือหมดอครับอ๋อแต่คือถ้า
00:13:18 → 00:13:21 คือถ้ามันหายภายในระยะเวลา 1-2 สัปดาห์
00:13:21 → 00:13:23 เนี่ยโอเคมันก็ไม่ไม่ไม่น่าจะกวนอะไรมาก
00:13:23 → 00:13:26 แต่ว่าถ้าถ้ามันยังคงไหลอยู่เนี่ยในช่วง
00:13:26 → 00:13:30 สัปดาห์ที่ 2 เป็นต้นไปเนี่ยให้ให้ให้ให้
00:13:30 → 00:13:33 วิเคราะห์ว่ามันต้องผิดปกติแน่นอนอใช่
00:13:33 → 00:13:35 มั้ยฮะผมว่าผมว่าควรจะต้องมาตรวจแล้วก็
00:13:35 → 00:13:38 ส่องกล้องอดูให้แน่ใจแล้วครับว่าตกลงว่า
00:13:38 → 00:13:41 มันไหลจากอะไรอือมาอื้อหืออันนี้คือ
00:13:41 → 00:13:45 เรื่องของเนื้องอกนะครับคุณหมออีกหนึ่ง 1
00:13:45 → 00:13:48 โรคที่ที่ผมไปอ่านแล้วก็เจอมาก็เลยอยากจะ
00:13:48 → 00:13:50 ถามคุณหมอเพราะว่ามันจะมีสัญญาณเตือน
00:13:50 → 00:13:54 อย่างหนึ่งก็คือเรื่องของเอ่อเลือกกำเดา
00:13:54 → 00:13:57 ไหลการอักเสบในโพรงจมูกคุณหมอครับไอ้ตรง
00:13:57 → 00:13:59 นี้เนี่ยมันมันมันเป็น
00:13:59 → 00:14:01 มันเป็นสัญญาณบอกได้มากน้อยขนาดไหนครับ
00:14:01 → 00:14:05 กับเลือกกำเดาของเรา่ะฮะเอ่อก็การอักเสบ
00:14:05 → 00:14:08 เนี่ยโดยมากๆที่เราที่เราคุ้นเคยกันนี้ก็
00:14:08 → 00:14:11 คือภูมิแพ้ภูมิแพ้เนี่ยจริงๆชื่อเต็มๆของ
00:14:11 → 00:14:14 มันคือโรคโงจมูกอักเสบจากภูมิแพ้คือมีตัว
00:14:15 → 00:14:18 แพ้นะครับเอ่อโรคอักเสบอื่นๆอย่างอย่าง
00:14:18 → 00:14:20 ที่เราอาจจะรู้จักมากๆก็คือโรคไซนัส
00:14:20 → 00:14:23 อักเสบครับนะครับซึ่งก็จะมีแบบเฉียบพันธุ
00:14:23 → 00:14:26 มีแบบเรือรังนะครับอืเอ่อการอักเสบเหล่า
00:14:26 → 00:14:29 เนี้ยนะครับทำให้เลือกตำนาไหลได้ทั้งเลย
00:14:29 → 00:14:31 ครับ
00:14:31 → 00:14:34 อืทั้งหมดทั้งมวลนี้คือถ้ามันนานมันผิด
00:14:34 → 00:14:38 ปกติมันไม่ใช่เรือกกำดาวที่ในผ่านมาผ่าน
00:14:38 → 00:14:42 ไปเนี่ยต้องหาหมอแล้วล่ะอือืครับก็คือการ
00:14:42 → 00:14:46 อักเสบเนี่ยพูดง่ายๆจริงๆมันมันเป็นคือ
00:14:46 → 00:14:49 เรือกกำเดาเไม่ใช่เป็นอาการเฉพาะของโรค
00:14:49 → 00:14:53 ภาวะพวงสมอักเสบเอ่อเสียทีเดียวนะครับ
00:14:53 → 00:14:55 จริงๆเลือดกำดำมันเป็นภาวะของเส้นเลือด
00:14:55 → 00:14:58 ที่มันโปร่งแล้วแตกออกมาอ๋อซึ่งซึมันจะ
00:14:58 → 00:15:00 โปร่งหือหรือแตกออกมาด้วยสาเหตุอะไรอัน
00:15:00 → 00:15:03 นั้นก็ก็ต้องมาตรวจกันดูนะครับเพียงแต่
00:15:03 → 00:15:05 ว่างสหมอักเสบเนี่ยเส้นเรือเนี่ยมันมัน
00:15:05 → 00:15:08 โปร่งเพราะมันอักเสบอยู่แล้วครับมันก็เลย
00:15:08 → 00:15:11 มันก็เลยพร้อมที่จะแตกแม้ว่าจะมีแรงไป
00:15:11 → 00:15:13 กระทบมันเพียงนิดหน่อยก็พร้อมจะแตกอยู่
00:15:13 → 00:15:17 แล้วครับอืมันจะต้องมันจะต้องมีเลือด
00:15:17 → 00:15:19 กำเดาไหลกันมากน้อยขนาดไหนที่ที่รู้สึก
00:15:19 → 00:15:22 ว่าเอ๊ะมันมันมันดูไม่ไม่ปกติแล้วฮะคุณ
00:15:22 → 00:15:24 หมอระยะเวลานี่บอกบอกได้มั้ยครับคุณหมอ
00:15:24 → 00:15:28 ครับได้ได้ครับก็คือว่าจริงๆเนี่ยพอเลือก
00:15:28 → 00:15:31 กำเดาไหลลนะครับครับเอ่อให้เราเ่อนั่งก้ม
00:15:31 → 00:15:34 หน้าอ้าปากแล้วบีบจมูก 2 ข้างเข้าหกันนะ
00:15:34 → 00:15:36 ครับก้มหน้าอ้าปากบีบจมูกทั้ง 2 ข้างเลย
00:15:36 → 00:15:39 เหรอคุณหมนั่งหลังตรงใช่นั่งหลังตรงนะ
00:15:39 → 00:15:42 ครับก้มหน้าแล้วอ้าปากหายใจแล้วบีบจมูก
00:15:42 → 00:15:45 เอาไว้อ่าเข้าหากัน 2 ข้างอีกจมูกของเรา
00:15:45 → 00:15:48 นี่แหละครับที่นิ่ๆหายใจอก็บีบไว้เนี่ย
00:15:48 → 00:15:51 ประมาณ 5-10 นาทีค่ะนะครับโดยทั่วไปเนี่ย
00:15:51 → 00:15:55 เกิน 90% เนี่ยมันหยุดครับอืโดยทั่วไปนะ
00:15:55 → 00:15:58 ครับสมมุติถ้ามันหยุดนะครับแล้วก็เป็น
00:15:58 → 00:16:01 เป็นหายเนี่ยประมาณ 1-2 อาทิตย์เนี่ยแล้ว
00:16:01 → 00:16:04 แล้วมันก็ไม่เกิดขึ้นอีกอย่างเงี้ยไม่น่า
00:16:04 → 00:16:07 จะมีอะไรอาจจะเป็นแค่โพงจมูกอักเสบนะครับ
00:16:07 → 00:16:09 หรืออาจจะเกิดเพียงครั้งเดียวก็ได้แล้วก็
00:16:09 → 00:16:13 หายไปนะครับอันนี้ไม่มีอะไรแต่ถ้าเกิดว่า
00:16:13 → 00:16:15 ทำบ่อยๆเอ๊ะเดี๋ยวมาอีกแล้วอย่างนี้นะ
00:16:16 → 00:16:18 ครับอันนี้ต้องตรวจแล้วครับแปลว่ามันมัน
00:16:18 → 00:16:20 น่าจะมีอะไรซีเรียสบางอย่างซ่อนอยู่ในพวง
00:16:20 → 00:16:22 จมูก
00:16:22 → 00:16:25 อ๋ออันนี้มันก็มีทริกเหมือนกันนิดนึง
00:16:25 → 00:16:27 เรื่องของลักษณะเลือดที่มันไหลออกมาคุณ
00:16:27 → 00:16:29 หมออันนี้อันนี้มันมันเป็นตัวที่บ่งบอก
00:16:29 → 00:16:32 ได้ด้วยมครับปกติคือมันก็จะเป็นน้ำๆเลย
00:16:32 → 00:16:35 แต่ว่าบางคนเนี่ยที่ผมไปดูข้อมูลมามันบอก
00:16:36 → 00:16:40 ว่ามีเป็นเป็นลิ่มเลือดเลยฮะคุณหมอฮะเอ่อ
00:16:41 → 00:16:44 ก็จริงๆคคำว่าไหลออกมาเป็นน้ำเนี่ยก็ถือ
00:16:44 → 00:16:48 ว่าเลือดอ่ะมันยังไม่ทันจะแข็งตัวอยู่อ
00:16:48 → 00:16:51 แต่ว่าการการที่ที่บอกว่าเป็นลิ่มๆเนี่ย
00:16:51 → 00:16:53 ก็หมายความว่ามันมันไหลแล้วก็ค้างอยู่ใน
00:16:53 → 00:16:56 จมูกจมูกสักระยะนึงมันก็เลยแข็งแล้วก็
00:16:56 → 00:17:00 เป็นลิ่มๆเท่านั้นเองครับมันบ่งบอกแค่ว่า
00:17:00 → 00:17:03 เวลาที่มันไหลอ่ะไหลมานานหรือยังหือหลาย
00:17:03 → 00:17:06 ครั้งในพงมูกนานหรือยังครับนั้นเองคส่วน
00:17:06 → 00:17:09 คนส่วนมากก็จะเอาผ้าเอาน้ำแข็งมาประคบที่
00:17:09 → 00:17:11 จมูกแล้วก็เงยหน้าขึ้นนะแล้วก็ไม่ได้ว่า
00:17:11 → 00:17:13 ก้มหน้าอะไรอย่างที่คุณหมอบอกเงี้ยแล้ว
00:17:13 → 00:17:15 มันก็หายไปแล้วแล้วควรจะเงยหน้าหรือก้ม
00:17:15 → 00:17:18 หน้ายังไงคุณหมออ่าเราควรจะก้มหน้าครับ
00:17:18 → 00:17:21 จริงๆเอ่อตอนผมเป็นเด็กเนี่ยคุณก็ให้เงย
00:17:21 → 00:17:24 หน้าแล้วน้ำแข็งประคบใช่ทำอย่างงี้ตลอด
00:17:24 → 00:17:26 เลยค่ะแล้วก็บีบจมูกคุณพ่อให้ทำแล้วน้ำ
00:17:26 → 00:17:29 แข็งประคบไว้ยสันจมูกเอก็ไม่ไม่ไม่ถูก
00:17:29 → 00:17:31 ครับจริงๆต้องนั่งก้มหน้าอ้าปากอแล้ว
00:17:31 → 00:17:35 เลือดมันก็ไหลลงคอเราถ้าเงยหน้าเลือดมัน
00:17:35 → 00:17:37 ไหลลงคอครับแล้วเราก็อาจจะกืนลงไปแล้วเรา
00:17:37 → 00:17:40 อาจจะอ้วกออกมาครับออ้าอันนั้นเราไม่รู้
00:17:40 → 00:17:42 สึกว่าเราไม่ให้เลือดเราออกไปจากร่างกาย
00:17:42 → 00:17:45 แล้วก็ทำให้เข้าใจผิดว่าเลือดมันไหลอาจจะ
00:17:45 → 00:17:48 ไหลจากกระเพาะหรือเปล่าเราย้อนขึ้นมาก็
00:17:48 → 00:17:52 ยิ่งทำให้สับสนกันโอโอหมันนี่ผมเชื่อว่า
00:17:52 → 00:17:54 คุณผู้ฟังคุณผู้ฟังทางบ้านเนี่ยที่ฟัง
00:17:54 → 00:17:59 อยู่ก็อาจจะเอออ้าปากค้างเหวอแบบแบบที่ผม
00:17:59 → 00:18:01 เยหน้าแล้วก็จะกลืนเลือดอ่ะคุณหมอจะมี
00:18:01 → 00:18:04 ความรู้สึกว่ากินข้าวเลือดมันนึกออกเลย
00:18:04 → 00:18:07 อ่ะแม้จะหลายปีมาแล้วแล้วแต่พอวัยรุ่นพอ
00:18:07 → 00:18:09 โตขึ้นมันก็หายไปเลยนะคะแล้วก็ไม่เป็นอีก
00:18:09 → 00:18:11 ก็คือว่าเออโชคดีไปตอนนั้นเนี่ยจะรู้เวลา
00:18:12 → 00:18:14 ของมันเลยแล้วก็าน้ำแข็งมาเลือกกำเดาออก
00:18:14 → 00:18:17 อีกแล้วอืแต่วิธีการแก้ที่ที่คุณหมอแนะนำ
00:18:17 → 00:18:19 ก็คือจะต้องก้มหน้านะคุณหมอก้มหน้าอ้าปาก
00:18:19 → 00:18:23 แล้วก็บีบจมูกเนาะครับผลที่ที่แนะนำเ่อ
00:18:23 → 00:18:26 แบบนี้ก็เพราะว่าอย่างนี้ครับเวลาที่เรา
00:18:26 → 00:18:29 นั่งนั่งตัวตรงเนี่ยนะครับเอ่อความดันมัน
00:18:29 → 00:18:32 ขึ้นไปที่กะโหลกศีรษะเนี่ยน้อยลงกว่าท่า
00:18:32 → 00:18:35 นอนค่ะอ๋อนึกออกมั้ยครับเพราะว่าจริงๆเรา
00:18:35 → 00:18:37 เราต้องการให้ความดันมันขึ้นมาจมูกน้อยๆ
00:18:38 → 00:18:40 เลือดมันจะอยู่อเรานั่งแต่นี่เรานอนคุณ
00:18:40 → 00:18:42 หมอตอนเด็กๆเราจะนอนเรานอนเนี่ยเลือดมัน
00:18:42 → 00:18:46 ก็พุ่งไปที่เอ่อที่จมูกเนี่ยก็อาจจะตาม
00:18:46 → 00:18:48 ปกติใช่มั้ยครับแต่ถ้าเกิดเรายืนหรือเรา
00:18:48 → 00:18:51 นั่งเลือดมันก็ขึ้นไปที่จมูกน้อยลงเบาลง
00:18:51 → 00:18:54 พูดง่ายๆเลือดมันพุ่งไปเบาลงนะครับอือหือ
00:18:54 → 00:18:57 ทีนี้ให้นั่งเ่อแล้วก้มหน้านั่งแล้วก้ม
00:18:57 → 00:19:00 หน้าจหาทำไมต้องก้มหน้าป่ะก็เพราะว่าถ้า
00:19:00 → 00:19:04 เราเงหน้าเลือกมันลงคออือหือเราฮะพอพอเรา
00:19:04 → 00:19:07 บีบจมูกเราก็อยากจะต้องหายใจถูกมั้ยครับ
00:19:07 → 00:19:11 ก็เลยต้อง่าปากครับแค่แค่นั้นเองครับอื
00:19:11 → 00:19:14 ฟังเอาไว้เนาะให้นั่งนะโอยังนึภาพไม่ออก
00:19:14 → 00:19:18 เลยอ่ะเพราะภาพภาพที่คุณหมอพูดมาเนี่ยไม่
00:19:18 → 00:19:22 มีไม่มีในไม่มีในชุดการปฐมพยาบาลของทั้ง
00:19:22 → 00:19:25 คุณครูที่โรงเรียนแล้วก็คุณพ่อคุณแม่นนลง
00:19:25 → 00:19:30 นลงที่บ้านอใช่แล้วก็เงยหน้าเอออนี้โอเค
00:19:30 → 00:19:32 นี้เป็นความรู้ทางการแพทย์ที่ที่ที่ที่
00:19:32 → 00:19:35 คุณหมอแนะนำกันนะแต่อย่าไปกลัวใช่มั้ยคะ
00:19:35 → 00:19:38 คุณหมอก็คือว่ามันก็เกิดขึ้นได้แล้วก็อ่า
00:19:38 → 00:19:40 ครับไม่ต้องกลัวครับเลคดาเนี่ยเป็นภาวะ
00:19:40 → 00:19:45 ที่เราเจอบ่อยมากๆอดังนั้นนก็ก็ถ้ามันจะ
00:19:45 → 00:19:47 เกิดขึ้นกับตัวเราเนี่ยก็ลองบีบจมูกดู
00:19:47 → 00:19:51 ก่อนครับเ่าโดยมากแล้วเหยุดนะครับถ้าไม่
00:19:51 → 00:19:54 หยุดก็มาโรงพยาบาลแล้วก็แพทย์เทุกคนเนี่ย
00:19:54 → 00:19:56 มีประสบการณ์กับเลือคำเดาไหลอยู่แล้วก็
00:19:56 → 00:19:59 พร้อมจะรักษาให้อยู่แล้วครับเอ่อเเดี๋ยว
00:19:59 → 00:20:01 ขอถามย้ำอีกทีคุณหมอไอ้เรื่องของเลือด
00:20:01 → 00:20:05 เนี่ยมันควรจะต้องหยุดไหลได้ในช่วงระยะ
00:20:05 → 00:20:09 เวลากี่นาทีครับคุณหมอมันถึงจะดูไม่ต้อง
00:20:09 → 00:20:13 อืกังวลมากอ่ะโอเคเลือดชันกำเดาไหลละโอเค
00:20:13 → 00:20:15 ฉันก็กลัวอยู่แล้วแหละฉันฉันกลัวเลือดฉัน
00:20:15 → 00:20:18 ไม่ชอบเลือดแต่ว่าเอคนเราไม่อยากให้มัน
00:20:18 → 00:20:20 ออกมาเยอะใช่ช่วงระยะเวลาเนี่ยยมันควรจะ
00:20:20 → 00:20:23 ต้องหายไปภายในระยะเวลาสักกี่นาทีคุณมฮะ
00:20:23 → 00:20:26 สมมุติถ้ากดแล้วเนี่ยนะครับ 10 นาทีเนี่ย
00:20:26 → 00:20:29 หยุดก็จบ 10 ถ้า 10 นาทีทไม่หยุดต้องวโรง
00:20:29 → 00:20:33 พยาบาลแล้วครับอืออภายใน 10 นาทีใช่มฮะ 10
00:20:33 → 00:20:35 นี่นาน่านานเหมือนกันนะคุณหมอนะ 10 นาที 5
00:20:35 → 00:20:38 นาทีอ่ะน่าจะหยุดเอ่อแต่แต่เชื่อมั้ยครับ
00:20:38 → 00:20:42 ว่าการกด 10 นาทีเนี่ยนานมากใช่นนานกว่า
00:20:42 → 00:20:46 ใจเราใช่ว่าเราเราจะเราจะบีบเนี่ยมานาที
00:20:46 → 00:20:49 นึงเต็มที่นะครับแล้วก็ปล่อยละแล้วก็เอา
00:20:49 → 00:20:52 เอากระดาษทิชชู่มาซับดูซิมันหยุดหรือยัง
00:20:52 → 00:20:55 อือๆๆนะครับอันนี้ซึ่งเป็น pitfall จริงๆ
00:20:55 → 00:20:58 แล้วเนี่ยหนังสือเนี่ยเแนะนำให้กดแล้วบีบ
00:20:58 → 00:21:01 ีบเอาไว้เนี่ยแล้วทำใจแข็งนะครับกดให้มัน
00:21:01 → 00:21:04 ถึง 10 นาทีอือแล้วค่อยเปิดดูแล้วค่อย
00:21:04 → 00:21:07 แล้วค่อยคลายแล้วก็อาจจะเอาเอ่อสำลีอะไร
00:21:07 → 00:21:10 นิ่มๆเนี่ยซับๆดูก็ได้ครับว่าว่าอยากรู้
00:21:10 → 00:21:13 ว่ามันหยุดหรหรือยังนะครับออการที่เรากด
00:21:13 → 00:21:16 แล้วรีบปล่อยเนี่ยเนื่องจากว่าเราอาจจะใจ
00:21:16 → 00:21:18 ร้อนเนี่ยมันทำให้เลือดเไม่หยุดสักทีครับ
00:21:18 → 00:21:22 อืก็คือทำใจให้มันนานให้มากที่สุดอ่าอ
00:21:22 → 00:21:28 แข็งใจหน่อยนิดนึงค่อยๆเปิดมันดูปอืโอแต่
00:21:28 → 00:21:30 ว่าพอถึงเวลาจริงๆนะคุณหมอนะเรื่อง
00:21:30 → 00:21:33 เรืื่องของเลือดเนี่ยโหใครๆก็อยากจะให้
00:21:33 → 00:21:35 มันหยุดให้มันจบไปไวๆอะไรอย่างเงี้ย 10
00:21:35 → 00:21:39 นาทีนี่เลือดกันนานราวกับครึ่งชั่วโมง
00:21:39 → 00:21:41 จริงๆนะครับคุณหมออีกหนึ่งปัญหาคุณหมอ
00:21:41 → 00:21:45 ครับที่ผมไปหาข้อมูลมาแล้วก็อยากจะถามคุณ
00:21:45 → 00:21:48 หมอเลยว่าไอ้เรื่องของเลือดกำเดาที่มัน
00:21:48 → 00:21:51 ไหลออกมาเนี่ยมันเป็นการแสดงถึงความผิด
00:21:51 → 00:21:55 ปกติทางการวิพากษ์ที่อยู่ภายในช่องจมูก
00:21:55 → 00:21:58 ของเราด้วยใช่มั้ยครับคุณหมอครับอ่าใช่
00:21:58 → 00:22:01 ครับแน่นอนมีอะไริดปกตินะครับก็พร้อมที่
00:22:01 → 00:22:04 จะเลือกกำเดาหลายได้เลยครับฮะผมยกตัว
00:22:04 → 00:22:06 อย่างเช่นนะครับเอาง่ายๆที่คนเราเป็นกัน
00:22:06 → 00:22:09 เยอะๆเนี่ยอย่างผนังกั้นจมูกคดเนี่ยผนัง
00:22:09 → 00:22:12 กั้นช่องจมูกคดมันเกิดจากอะไรกจมูกอ๋อ
00:22:12 → 00:22:15 ผนังกั้นจมูกคดกระดูกที่บอกคุณหมอบอกอ่ะ
00:22:15 → 00:22:18 ที่แหย่เข้าไปแล้วเจออใช่ที่แข็งๆเวลาเรา
00:22:18 → 00:22:22 เออแข็งตรงแกนกลางจมูกอใช่อันนี้เรียกังก
00:22:22 → 00:22:25 จมูกมันมีตรงกลลางอันเดียวไอ้เนี่ยมันคด
00:22:25 → 00:22:27 กันได้นะครับออืมันคดเนี่ยมันเป็นตั้งแต่
00:22:27 → 00:22:31 เกิดก็คือว่าจมูกของเราเนี่ยมันมันโตน้อย
00:22:31 → 00:22:35 กว่าความสูงของผนังกั้นจมูกมันก็เลย
00:22:35 → 00:22:40 เบี้ยวพอพอมันเบี้ยวเนี่ยลมฝั่งที่มันมัน
00:22:40 → 00:22:43 ผ่านจมูกข้างที่มันคดเนี่ยมันจะไหลมันจะ
00:22:43 → 00:22:46 ไหลเร็วมันเกิดเป็น turbulent Flow มัน
00:22:46 → 00:22:49 เป็นลมหมุนวนนะครับหมุนแบบไลทิศทางมันก็
00:22:49 → 00:22:52 จะทำให้จมูกฝั่งนั้นมันแห้งกว่าปกติครับ
00:22:52 → 00:22:55 แล้วเลือกกำดำมามันจะไหลข้างนั้นได้อัน
00:22:55 → 00:22:58 นี้ก็เป็นสาเหตุที่เราเจอกันได้เรื่อยๆ
00:22:58 → 00:23:00 ว่าเลือกกำดาวอยู่ๆมันก็ไหลข้างใดข้าง
00:23:00 → 00:23:02 หนึ่งโดยที่ไม่มีสาเหตุจริงๆแล้วมันข้าง
00:23:02 → 00:23:05 เดียวมันเป็นกวิภาคที่มันผิดปกติซึ่งเจอ
00:23:05 → 00:23:09 ได้ในคนประมาณสัก 60% นะครับโอ้จมูกคด
00:23:09 → 00:23:12 เป็น 60 60 เลยเหรอฮหมอฮะก็คือมันไหใช่
00:23:12 → 00:23:15 ที่เอาเอาคนทั่วไปเนะครับที่เดินตามท้อง
00:23:15 → 00:23:18 ถนนเนี่ยเอามาดูจับถ 100 คนมา 2 กล้อง
00:23:18 → 00:23:22 เนี่ยจะเจอ 60 60 คนเที่ผนังกมุคตครับ
00:23:22 → 00:23:24 โอ้โหนี่คุณหมอพูดว่า 60 นี่ผมต้องรีบ
00:23:24 → 00:23:28 เปิดหน้ากากแล้วก็จับจมูกเลยแต่ว่าน้ำมูก
00:23:28 → 00:23:30 ด้วยมั้ยคะน้มุกไหลข้างใด้างหนึ่งอะไร
00:23:30 → 00:23:32 เกี่ยวกันด้วยไม่เกี่ยวไม่เกยวแต่ว่าการ
00:23:32 → 00:23:35 ที่ผนังก้าจมูคดเนี่ยมันไม่ได้เป็นโรคนะ
00:23:35 → 00:23:38 ครับครับมันเป็นลักษณะธเราสามารถจะอยู่
00:23:38 → 00:23:41 กับมันไปจนจนเราเราเสียชีวิตได้เลยแต่ไม่
00:23:41 → 00:23:44 ได้ทำอะไรกับร่างกายเรามากนักอ๋ออ่าเพียง
00:23:44 → 00:23:47 แต่ว่าถ้าพูดถึงอพักเอ่อพูดถึงเรื่องเรื
00:23:47 → 00:23:49 เรื่องกับดาวไหลเนี่ยอันนี้ก็เป็นเหตุนึง
00:23:49 → 00:23:52 ได้เป็นเหตุนึงเหมือนมันเป็นแรงกดใช่มั้
00:23:52 → 00:23:54 คะที่บอกว่ามันมีเรื่องของการวิพากษ์ก็
00:23:54 → 00:23:56 อันนี้ครับเป็นเป็นเรื่องนึ่งหรืออย่าง
00:23:56 → 00:24:00 อย่างอื่นเช่นเราอาจจะเจอว่ามันมีฤิสีดวง
00:24:00 → 00:24:03 งอกอยู่ในพวงจมูกอย่างเงี้ยนะครับก็เป็น
00:24:03 → 00:24:06 สาเหตุที่ทำให้เลือดกำดาวไหลลได้หรือ
00:24:06 → 00:24:08 อย่างการที่เ่อเนื้องอกอะไรบางอย่างที่
00:24:08 → 00:24:12 มันงอกขึ้นมาแล้วแล้วมันไปกดเบียดเ่อการ
00:24:12 → 00:24:14 วิพากษ์บางอย่างหรือไปทำลายการวิพากบาง
00:24:14 → 00:24:17 อย่างของเส้นเส้นเลือดในพองจมูกก็ทำให้
00:24:17 → 00:24:21 เลือดกตาไหลได้ครับอเออเรื่องของจมูกช่อง
00:24:21 → 00:24:25 ผนังกั้นจมูกคดนี่คุณหมอฮะเราสมมุติอ่ะถม
00:24:25 → 00:24:29 ถ้าคุณหมอบอกว่า 60% ของคนไทยที่มักจะเจอ
00:24:29 → 00:24:32 กันเี่มันสามารถไปผ่าตัดหรือว่าไปมีวิธี
00:24:32 → 00:24:35 การอะไรที่ทำให้มันได้ปกติได้มั้สมมุติ
00:24:35 → 00:24:37 บางคนไม่รู้สึกว่าไม่ไม่ไม่โอเคกับมาไง
00:24:37 → 00:24:39 แต่ข้างนอกมันไม่เห็นอะไรใช่มั้คะมันเป็น
00:24:39 → 00:24:42 แต่เพียงด้านไม่เห็นอซึ่งซึ่งจริงๆอเรา
00:24:42 → 00:24:45 สามารถผ่าเพื่อปรับแก้ได้ครับอ้าวเหรอคะ
00:24:45 → 00:24:48 อือฮึก็คือผ่าผ่านกล้องนี่แหละครับโดยที่
00:24:48 → 00:24:51 ไม่มีแพรข้างนอกอเอ่อแต่ว่าโดยมากแล้ว
00:24:51 → 00:24:54 เนี่ยคนเรามีผนังขมุคดเนี่ยเราไม่ต้อง
00:24:54 → 00:24:57 รักษาอครับบางคนเท่านั้นเองที่ที่ต้องที่
00:24:57 → 00:25:00 ต้องมาผ่าตัดทีนี้คำถามต่อมาก็คือว่ามัน
00:25:00 → 00:25:04 จะต้องมีอาการอะไรเราถจะผ่าตัดผนังกั้น
00:25:04 → 00:25:06 จมูกใช่มั้ยครับก็อย่างเช่นเลือกกำดาว
00:25:06 → 00:25:08 หลายข้างนั้นเนี่ยอ่าอันนี้ก็เป็นเรื่อง
00:25:08 → 00:25:11 นึงอืหรือ 2 การหายใจฝั่งนั้นเนี่ยมันมี
00:25:11 → 00:25:16 ปัญหาเช่นเอ่อคนไข้จะบอกเลยว่าหายใจฝั่ง
00:25:16 → 00:25:19 เนี้ยหายใจไม่โล่งเดีอืเข้าอีกฝั่งนึงนะ
00:25:19 → 00:25:21 ครับแล้วก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
00:25:21 → 00:25:23 อย่างเงี้ยนะครับอันนี้ก็เป็นอีกสาเหตุ
00:25:23 → 00:25:26 หนึงก็คือเรื่องของอาการคัดจมูกฝั่งใด
00:25:26 → 00:25:31 ฝั่งหนึ่งอือืสามารมาพาสัปแได้คนคนที่มี
00:25:31 → 00:25:34 ผนังกั้นจมูกคดเนี่ยจะมีความสัมพันธ์กับ
00:25:34 → 00:25:37 ภูมิแพ้เจะเป็นภูมิแพ้ด้วยมั้ยคะไม่ไม่
00:25:37 → 00:25:40 เกี่ยวเกไม่เกี่ยวกอืหายใจที่เสียงเบี้ๆ
00:25:40 → 00:25:42 ไงนนี่ไม่เกี่ยวกันใช่มั้ยคะไม่เกี่ยวไม่
00:25:42 → 00:25:44 เกี่ยวครับภูมิแพ้นี่คือมันต้องมีตัวแพ้
00:25:44 → 00:25:48 ครับอืภูมิแพ้ต้องมีตัวแพ้เนาะคุณหมอที่
00:25:48 → 00:25:51 นี้มันมีสารก่อภูมิแพ้ครับอืครับผมคุณหมอ
00:25:52 → 00:25:55 นี่มีคำถามจากทางบ้านถามมาถามคุณหมอ
00:25:55 → 00:25:59 เหมือนกันครับว่าความเสี่ยงเอ่อเอ่อการ
00:25:59 → 00:26:03 เป็นสตกเนี่ยมันมีทำให้เลือดกำเดาเนี่ย
00:26:03 → 00:26:05 ไหลได้ด้วยมครับคุณหมอ
00:26:05 → 00:26:08 ครับหมายถึงความความเสี่ยงหมายถึงความเออ
00:26:08 → 00:26:09 หมายถึงว่าเรืองกำเดาที่มันไหลเนี่ยที่
00:26:09 → 00:26:12 มันไหลออกมาเนี่ยนะฮะมันมันมันบ่งบอกว่า
00:26:12 → 00:26:14 เอ๊ะเราอาจจะมีความเสี่ยงเกี่ยวกับเรื่อง
00:26:14 → 00:26:15 ของสตกอะไรอย่างเงี้ยเกี่ยวข้องด้วยมั้ย
00:26:15 → 00:26:18 ครับครับไม่ครับบอกไม่ได้อย่างงั้นบอกไม่
00:26:18 → 00:26:21 ได้ขนาดนั้นครับอ๋อบอกไม่ได้อารอาการเอ่อ
00:26:21 → 00:26:24 เลือกคำดาไลเนี่ยเป็นอาการที่ไม่จำเพาะนะ
00:26:24 → 00:26:27 ครับค่ะหมายความว่ามันเกิดกับโรคได้เป็น
00:26:27 → 00:26:30 จำนวนมากๆเลยดังนั้นเนี่ยเ่อเราจะเราจะ
00:26:30 → 00:26:33 ไม่สามารถบ่งชี้ได้ว่าเลือดไหลแบบเนี้ย
00:26:33 → 00:26:36 จากจมูกอย่างเงี้ยเนี่ยคือคุณเป็นสตกอัน
00:26:36 → 00:26:38 เยบอกไม่ได้ต้องไปตรวจอย่างอื่นครับไม่
00:26:38 → 00:26:41 ใช่ออ๋อมันไม่สัมพันธ์ไม่มีความสัมพันธ์
00:26:41 → 00:26:43 ไม่ไม่ขนาดนั้นแล้วบอกไม่ได้ขนาดนั้นมี
00:26:43 → 00:26:45 คุณผู้ฟังถามมาว่าน้ำมูกหลายอยู่ข้าง
00:26:45 → 00:26:47 เดียวต้องสั่งน้ำมูกตลอดเลยอันเนี้ย
00:26:47 → 00:26:50 เหมือนสิ่งที่ที่ผู้จัจะสงสัยอยู่ว่าที่
00:26:50 → 00:26:52 บอกว่าผนังกจมูกคดมันสาเหตุเกี่ยว
00:26:52 → 00:26:55 สัมพันธ์กับเรื่องของน้ำมูกหลาย้างเดียว
00:26:55 → 00:26:59 เรือกกำเดาออกมันเป็นอเราแต่ไม่เกี่ยวกับ
00:26:59 → 00:27:02 น้ำมูกครับอ๋อโอครับทีนี้ถ้าน้ำหมูกน้ำ
00:27:02 → 00:27:06 มูกเดียวเนี่ยเครับอย่างเงี้ยต้องสงสัย
00:27:06 → 00:27:08 แล้วครับว่าเป็นอะไรบางอย่างต้องมา 2
00:27:08 → 00:27:11 กลองแล้วครับอ๋อเพราะว่าปกติปิต้องไล 2
00:27:11 → 00:27:14 ข้างต้องต้องไหล 2 ข้างอืเช่นถ้าคนเป็น
00:27:14 → 00:27:16 ภูมิแพ้นะครับน้มู่เนี่ยมันจะไม่เลิกข้าง
00:27:16 → 00:27:21 ครับมันจะไหลทั้ง 2 ข้างนะครับอย่าวแก็จะ
00:27:21 → 00:27:23 ไหล 2 ข้างน้ำมุกไม่เลือกข้าถ้าเป็นไซนัส
00:27:23 → 00:27:26 เรื้อรังเนี่ยก็จะมักจะไหล 2 ข้างอ๋อไม่
00:27:26 → 00:27:29 มีไม่มีตอยู่ขข้านึงก็ไม่มีเลยนะคไม่มี
00:27:29 → 00:27:32 ไม่มีโรคทางจมูกส่วนใหญ่แล้วเนี่ยมักจะ
00:27:32 → 00:27:35 เป็น 2 ข้างเท่าๆกันไปด้วยกันอืเมื่อไหร่
00:27:35 → 00:27:37 ก็ตามเมีปัญหาเพียงข้างใดข้างหนึ่งต้องมา
00:27:38 → 00:27:41 ตรวจนะครับมาตรวเอ้เราก็ไม่เคยสังเกต
00:27:41 → 00:27:43 เหมือนกันนะว่าด้านใดด้านหนึ่งมันแต่ถึง
00:27:44 → 00:27:46 ว่าก็มา 2 ข้างเวลาเราสั่ง้ามูกอ่ะก็จะ
00:27:46 → 00:27:49 สั่งด้านซ้ายแล้วก็ด้านขวามันก็เท่าๆกัน
00:27:49 → 00:27:52 คุณผู้ฟังอาจจะต้องไปพบแพทย์แต่ว่ามันจะ
00:27:52 → 00:27:55 มีช่วงแต่ว่ามันจะมีบางช่วงที่ที่รู้สึก
00:27:55 → 00:27:57 ว่าเหมือนน้ำมูกอ่ะฮะคุณหมอมันมันเหมือน
00:27:57 → 00:27:59 มันจะเริ่มแห้งอะไรอย่างเงี้ยแต่มันมัน
00:27:59 → 00:28:01 ดันไปแห้งข้างเดียวมันก็เลยทำให้รู้สึก
00:28:01 → 00:28:03 ว่าจมูกข้างนึงเนี่ยมันยังพอหายใจได้แต่
00:28:04 → 00:28:06 อีกข้างนึงโหมันแน่นไปด้วยเหมือนเหมือน
00:28:06 → 00:28:08 น้ำมู่ที่มันแห้งคาอยู่ในจมูกอันนี้ถือ
00:28:08 → 00:28:10 ว่าเป็นเป็นเรื่องปกติอยู่ใช่มั้ยคุณหมอฮ
00:28:10 → 00:28:14 อ่าอ่ามันมีภาวะอันนึงครับจะเรียกว่าปกติ
00:28:14 → 00:28:16 ก็ได้เค้าเรียก nasal Cycle ครับก็คือ
00:28:16 → 00:28:19 วัฏจักรของจมูกครับไอ้ nasal cyc เนี่ย
00:28:19 → 00:28:23 เอ่อมันจะมันคือภาวะที่จมูกเนี่ยมันบวม
00:28:23 → 00:28:26 ข้างแฟบข้างสลับกันไปสลับกันมาครับอืเอ่อ
00:28:26 → 00:28:29 คุณีมเคยเป็นมั้ยครับนี่แครับถึงาคุณบ
00:28:29 → 00:28:31 ครับพอจะเข้าใจอยู่เนี่ยเป็นไงครับคุณมอ
00:28:31 → 00:28:32 มันเหมือนร่างกายมันจะเป็นธรรมชาติให้เรา
00:28:32 → 00:28:35 ได้หายใจไอ้ล่าสุดเลยที่เป็นเหมือนเหมือน
00:28:35 → 00:28:37 เป็นหวัดอ่ะเหมือนเป็นบัดเจอฝนเจอแดดอะไร
00:28:37 → 00:28:39 เงี้ยมาคือมันเป็นน้ำมู่ข้าคัดจมูกอ่าน้ำ
00:28:39 → 00:28:41 มูเนี่ยไหลกันอยู่ประมาณสัก 2 วัน 3 วัน
00:28:41 → 00:28:44 แล้วพอกินยาไปมันเริ่มแห้งไอ้้อีกข้างนึง
00:28:44 → 00:28:48 เนี่ยมันพอหายใจได้แต่อีกข้างโอโหคุณหมอ
00:28:48 → 00:28:51 มันเหมือนรูตันน่ะคุณหมอท่อมันตันเลยอ่ะ
00:28:51 → 00:28:54 เออมันก็ให้เราหายใจได้สมมุติถ้าคุณคุณีม
00:28:54 → 00:28:56 เป็นหวัดอีกรอบนึงนะครับลองจัดสังเกตดู
00:28:56 → 00:29:00 ว่าตอนที่จมมันเริ่มแห้งเลยนะครับฮะเอ่อ
00:29:00 → 00:29:03 พอข้างไหนเนี่ยหายใจโล่งๆนะครับอีกสักพัก
00:29:03 → 00:29:07 นครับประมาณ 2-4 ชั่วโมงมันจะสลักอรอ๋อผม
00:29:07 → 00:29:09 ไม่ได้เคยสังเกตเลยพี่เคยสังเกตอันนี้
00:29:09 → 00:29:11 เค้าเรียกว่า nal Cycle มันเป็นคือมัน
00:29:11 → 00:29:15 เป็นภาวะของปกตินะครับของของมนุษย์ปกติ
00:29:15 → 00:29:17 ทุกคนจะมียังยังนึกอยู่เหมือนกันใช่ค่ะ
00:29:17 → 00:29:19 คุณหมอเหมือนแบบว่าเออถ้ามันไม่ช่วยเรา
00:29:19 → 00:29:22 เราจะหายใจไม่ออกอืทีนี้ทำไมถามว่าคนเรา
00:29:23 → 00:29:25 เนี่ยถ้ามี nal ไคเป็นปกติเนี่ยทำไมเรา
00:29:26 → 00:29:28 ไม่รู้สึกค่ะแล้วไปรู้สึกตอนที่เป็นวัดต
00:29:28 → 00:29:32 เหตุผลก็คือว่าตอนตอนที่ตอนที่เราเ่อ
00:29:32 → 00:29:35 สุขภาพปกติเนี่ยนะครับมันเกิดขึ้นช้าๆ
00:29:35 → 00:29:37 เนี่ยเราไม่รู้ตัวเพราะว่าเราก็หายใจ 2
00:29:37 → 00:29:40 ข้างตามปกติแต่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เรา
00:29:40 → 00:29:43 เป็นหวัดเนี่ยจมูกเนี่ยมันบวมครับคือมัน
00:29:43 → 00:29:45 บวมอยู่แล้วด้วยทุ่นเดิมจากการติดเชื้อ
00:29:45 → 00:29:47 หวัดครับนะครับพอมันมี nasal ไซเคิลขึ้น
00:29:47 → 00:29:50 มาไอ้ข้างที่โปร่งเนี่ยนะครับมันโปร่ง
00:29:50 → 00:29:53 ขึ้นมาอีกนนิดนึงเนี่ยมันก็ตันเลยครับอือ
00:29:53 → 00:29:57 ฮึอือหือตันเลยอ๋อตันเลยโอคุณหมอจะมันมัน
00:29:57 → 00:29:59 ไม่มีโอกาสปตัน 2 ข้างเลยมันเป็นไปไม่ได้
00:29:59 → 00:30:03 ใช่มั้คะแล้วว่าอ้าปากหายใจอมันตันมันตัน
00:30:03 → 00:30:05 พร้อมกัน 2 ข้างก็ได้ครับถ้ามันบวมจริงๆอ
00:30:05 → 00:30:08 นะครับเออบางคนอ้าปากหายใจอก็ต้องอ้าปาก
00:30:08 → 00:30:11 หายใจแต่ถ้าเกิดว่ามันมันตันขึ้นมานิด
00:30:11 → 00:30:15 หน่อยนะครับเอ่อมันจะพอมันจะพอมีเฟสที่
00:30:15 → 00:30:18 มันยุบแฟบๆลงแล้วก็หายใช้สลับข้างได้มัน
00:30:18 → 00:30:21 พอจะมีอยู่ครับอส่วนมากจะเป็นแบบนั้นโอเค
00:30:21 → 00:30:23 อันนี้พอเห็นภาพแล้วโอเคเดี๋ยววันหลังจะ
00:30:23 → 00:30:25 ได้เวลาสมมุติถ้าอ่ะถ้าคุณผู้ฟังท่านไหน
00:30:25 → 00:30:27 ที่รู้สึกเป็นหวัดขึ้นมาอะไรอย่างเงี้ย
00:30:27 → 00:30:29 เออลองสังเกตเองดูคุณหมอมีคำถามจากทาง
00:30:29 → 00:30:32 บ้านถามมาเหมือนกันครับเอ่อคนที่สมัยเด็ก
00:30:32 → 00:30:35 ๆเนี่ยเลื่อยกำเดาออกบ่อยมากเวลาที่อ่ะ
00:30:35 → 00:30:39 อายุผ่านไปวัยรุ่นเอยวัยทำงานสู่วัยสูง
00:30:39 → 00:30:41 อายุเนี่ยมันจะกลับมาไหลได้อีกมครับคุณ
00:30:41 → 00:30:45 หมอครับไหลได้อีกครับก็คือว่าพอเริ่มมี
00:30:45 → 00:30:48 โรคร่วมเช่นความดันไขมันเนี่ยเดี๋ยวเสื้อ
00:30:48 → 00:30:50 เร่มมันต่อมันแปกใหม่ครับโอความดันนี่
00:30:50 → 00:30:53 เป็นสาเหตุนึงด้วยใช่มั้ยคะความดันสูง
00:30:53 → 00:30:56 อว่าความดันสูงมากๆเนี่ยแรงดันเลือดมันชน
00:30:56 → 00:30:59 ายหนังเส้นเลือตลดเวลาด้วยความด้วยความ
00:30:59 → 00:31:02 ดันสูงอืดังนั้นเอ่อมันจะขาดมันจะเริ่ม
00:31:02 → 00:31:05 ขาดความยืดหยุ่นมันจะแข็งครับครับแล้วมัน
00:31:05 → 00:31:08 ก็จะพร้อมจะแตกได้ครับออแก้ยังไงอ่ะคะถ้า
00:31:08 → 00:31:12 คนสูงอายุอ่ะก็ต้องต้องคุมความดันครับก็
00:31:12 → 00:31:15 คือหาหมอเอ่อปรึกษาหมออายุรกรรมแล้วก็คุม
00:31:15 → 00:31:18 ความดันครับอืคุมความดันเอาไว้นะฟังไว้นะ
00:31:18 → 00:31:21 พี่นกเราอายุเยอะแล้วตอนเป็นแต่ตอนเด็กๆ
00:31:21 → 00:31:24 แต่ว่าไม่อยากจะพูดว่าก็รู้สึกว่าเส้น
00:31:24 → 00:31:27 เลือดก็จะแข็งแรงดีพอสมควรงี้นะชซะแล้วนะ
00:31:27 → 00:31:29 ฮะคุณหมอมีคำถามอีกหนึ่งคำถามจากทางบ้าน
00:31:30 → 00:31:33 ครับคือในช่วงที่ผ่านมาช่วงที่ฝุ่นบ้าน
00:31:33 → 00:31:35 เรามันเยอะๆหลายคนเนี่ยโดยเฉพาะพี่น้อง
00:31:36 → 00:31:38 ทางภาคเหนือเนี่ยโอโหเราก็จะเห็นาเลือด
00:31:38 → 00:31:40 กำเดาไหลเนี่ยไอ้ฝุ่น PM 2.5 เนี่ยมันมี
00:31:40 → 00:31:43 ส่วนเกี่ยวข้องด้วยมั้ยครับที่ทำให้เลือด
00:31:43 → 00:31:45 กำเดาไหลเพราะว่าเท่าที่คุณหมออธิบายมา
00:31:45 → 00:31:48 ตั้งแต่ต้นจนถึงณเวลาเนี้ยไม่ได้มีการพูด
00:31:48 → 00:31:51 ถึงเจ้าฝุ่น PM 2.5 เลยคุณเออเกี่ยวๆ
00:31:51 → 00:31:53 เกี่ยวข้องด้วยมั้ยครับคุณหมอฮะเอ่อ
00:31:53 → 00:31:56 เกี่ยวแน่นอนนะครับก็ก็คือว่าการที่มันมี
00:31:56 → 00:32:00 ฝ่นเอ่อมากๆในในบรรยากาศเนี่ยนะครับมันก็
00:32:00 → 00:32:03 ทำให้เกิดการอักเสบเพราะฉะนั้นเนี่ยพอพอ
00:32:03 → 00:32:07 พูดถึงคำว่ามีการอักเสบขึ้นมาปุ๊บก็ก็จะ
00:32:07 → 00:32:10 เข้ากลไกเดิมครับเ้นเลก็จะพองขึ้นมาอื
00:32:10 → 00:32:13 แล้วก็มีแรงอะไรเข้าไปกระทำนิดนึงก็แตก
00:32:13 → 00:32:17 เลยนะครับทงก็จะเห็นว่าอะไรก็ตามนะครับ
00:32:17 → 00:32:20 ปัจจัยอะไรก็ตามที่ทำให้เสเลือมันมีการ
00:32:20 → 00:32:24 อักเสบนะก็จะตามมาด้วยเรือกำดาวไหลครับออ
00:32:24 → 00:32:27 มันมันนอกจากฝุ่นแล้วมันมีอีกภาวะนึงที่
00:32:27 → 00:32:31 เป็นเป็นข่าวเมื่อ 2 2-3 วันนี้ที่มีคน
00:32:31 → 00:32:33 ที่เป็นคัดจมูกแล้วเาก็โอโหไม่รู้เป็น
00:32:33 → 00:32:36 อะไรเลือกำดาวไหลออกมาครับพอไปตรวจดู
00:32:36 → 00:32:39 อย่างละเอียดเนี่ยเจอหนอนโอ้โหมันเป็นไป
00:32:39 → 00:32:41 ได้อย่างงั้นเลยเหรอโหใช่เห็นภาพขาวแล้ว
00:32:42 → 00:32:44 ขนลุกขนพอครับคุณบใช่เป็นรเป็นนับเป็น
00:32:44 → 00:32:47 ร้อยอ่ะค่ะเข้าไปได้ยังไงอ่ะคะเอ่อมันก็
00:32:48 → 00:32:50 คือแมลงวันเนี่ยมันไปวางไข่ครับมันบิน
00:32:50 → 00:32:53 เข้าไปในจมูกเราเนี่ยเหรอคะใช่ๆออหคือ
00:32:53 → 00:32:56 อย่างงี้ครับเอ่อไอ้ไอ้ภาวะหนอนในจมูก
00:32:56 → 00:33:00 เนี่ยถ้าถ้าทางการแพทยเคเรียก nasis นะ
00:33:00 → 00:33:04 ครับมันคือมันคือการที่เอ่อแมลงเนี่ยไปไป
00:33:04 → 00:33:07 วางไข่แล้วมันก็ฟักออกมาเป็นตัวหนอนเอ่อ
00:33:07 → 00:33:10 โดยมากเนี่ยสาเหตุก็คือว่าในจมูกเราเนี่ย
00:33:10 → 00:33:12 มันต้องมีพยาที่สภาพอะไรบางอย่างก็คือพูด
00:33:12 → 00:33:15 ง่ายๆมันมีความผิดปกติครับนะครับแล้วทำ
00:33:15 → 00:33:18 ให้มันเกิดกลิ่นอือมันเกิดกลิ่นขึ้นมานะ
00:33:19 → 00:33:22 ครับแล้วแมลงวันเนี่ยที่ไหนมันมีกลิ่นมัน
00:33:22 → 00:33:26 ก็มันก็เข้าไปทีนี้โดยคนคนทั่วไปเนี่ยมัน
00:33:26 → 00:33:29 จะไม่มีภาวะเนี้ยครับเพราะว่าเราก็รับรู้
00:33:29 → 00:33:32 กันปกติใช่มั้มีอะไรมาใกล้ๆจมูกเนี่ยแล้ว
00:33:32 → 00:33:35 ก็ปัดออกใช่มั้ยครับแต่ว่าคนไขบางคนเนี่ย
00:33:35 → 00:33:39 เการรับรู้เนี่ย Sensation เนี่ยเขาอาจจะ
00:33:39 → 00:33:42 ด้อยลงเช่นคนเป็นเบาหวานอืนะครับเคยเรา
00:33:42 → 00:33:45 เคยได้ยินว่าคนเป็นประวัติเเวลาเดินเตะ
00:33:45 → 00:33:48 เตะเตะเพเนี่ยไม่รู้ตัวเคยได้ยินมั้ยครับ
00:33:48 → 00:33:52 เพราะว่าเส้นเส้นปลายประสาทเนี่ยเค้าเโดน
00:33:52 → 00:33:55 ทำลายจากเอ่อภาวะของเสื้อไอ้เสื้อเลือด
00:33:55 → 00:33:59 มันมีน้ำตาลสูงครับอืนะครับก็ก็เหมือนกัน
00:33:59 → 00:34:02 ก็คือว่าคนเป็นเบาหวานเนี่ยการรับรู้ว่า
00:34:02 → 00:34:04 มันมีอะไรอยู่ในร่างกายเขาเนี่ยมันจะรับ
00:34:04 → 00:34:08 รู้น้อยลงพอมันมีแมลงวันหรือมีอะไรเข้าไป
00:34:08 → 00:34:10 ในจมูกเนี่ยถ้าเป็นคนธรรมดาเราก็รู้ตัวะ
00:34:11 → 00:34:14 อืแต่คนที่มีโรคบางอย่างในจมูกหรือว่าเขา
00:34:14 → 00:34:16 เคลื่อนไหวร่างกายลำบากเเขาก็ไม่สามารถ
00:34:16 → 00:34:18 รับรู้จุดนั้นได้หรือว่าถึงรับรู้เนี่ยก็
00:34:18 → 00:34:21 ไม่สามารถจะปรักป้องได้เช่นคนเป็นสตกนอน
00:34:21 → 00:34:23 ติดเตียงเนี่ยแขนขาไม่มีแรงอย่างเงี้ย
00:34:23 → 00:34:26 ครับอะไรมาบินเกาะจมูกเขาก็ไม่สามารถที่
00:34:26 → 00:34:30 จะไล่มันได้ค่ะดังนั้นเนี่ยเอ่อมันก็เข้า
00:34:30 → 00:34:33 ไปในจมูกเราแล้วก็ไปไข่ไว้ครับโอ้โหแต่
00:34:33 → 00:34:35 ถ้าเป็นคนธรรมดาอย่างเราเรารู้ตัวเนี่ย
00:34:35 → 00:34:38 เราเรารู้สึกมีอะไรมาตอมจูแล้วก็ปัดละมัน
00:34:38 → 00:34:42 จะออกมาได้เขไม่ลึกนะคะคุณหมอคือถ้าเกิด
00:34:42 → 00:34:45 ว่ามันมีหนอนอยู่ในจมูกเนี่ยเอ่อจริงๆ
00:34:45 → 00:34:48 รักษาไม่ได้ยากครับก็คือขอให้ตรวจเจอเถอะ
00:34:48 → 00:34:50 ไม่ต้องผ่าอะไรใช่มั้ยคะคีบีบเข้าไปก็ก็
00:34:50 → 00:34:53 ออกแล้วใช่มใช่เอากล้องใส่เข้าไปแล้วเอา
00:34:53 → 00:34:56 เครื่องมือไปีบมันออกมาแล้วก็ล้างด้วยน้ำ
00:34:56 → 00:35:01 เกลือผสมยาอืออืออก็เรียบร้อยครับจริงๆก็
00:35:01 → 00:35:05 คือแทนที่เอ่อเราเราไม่ควรจะไปจะไปโฟกัส
00:35:05 → 00:35:07 เรื่องเรื่องหนอนเพียงอย่างเดียวนะครับ
00:35:07 → 00:35:10 คือเราต้องโฟกัสว่าเหตุอะไรแมลงมันมันถึง
00:35:10 → 00:35:13 เข้าไปไข่ในจมูกเราด้วยนะครับก็คือไป
00:35:13 → 00:35:16 รักษาไอไอ้โรคโรคบางอย่างที่มันทำให้เกิด
00:35:16 → 00:35:19 ปัจจัยของของแมลงหวานบิคนธรรมดาจะเข้าไป
00:35:19 → 00:35:23 ได้มั้ยคะเอ่อไม่ไม่ได้คนธรรมดาอย่าง
00:35:23 → 00:35:26 อย่างเราเนี่ยมีอะไรมาตอง้าปัดแล้วเพราะ
00:35:26 → 00:35:30 เรารู้เราเรามีความรู้สึกตามปกติอือืแมง
00:35:30 → 00:35:33 นอกจากแมงวันแมงหวีก็ได้ใช่มั้ยคะแมลงหวี
00:35:33 → 00:35:36 มีจรแมลงอะไรก็ได้มันมันเข้าไปในในนั้น
00:35:36 → 00:35:38 ได้หมดเลยครับโหแต่แมงวานี่มันตัวใหญ่นะ
00:35:38 → 00:35:41 แมงหวี่ยังพอเข้าใจแมงหวีตัวน้อยๆถามมา
00:35:41 → 00:35:44 ว่าแมงหวี่ก็จะเป็นนอนมั้ยคะอ๋อคือคือ
00:35:44 → 00:35:47 ต้องไปดูที่ต้นเหตุเนาะคุณหมอเนาะอือใช่
00:35:47 → 00:35:51 ใช่จริงๆก็ก็คือเอ่อแมลงแมลงวันเนี่ยมัน
00:35:51 → 00:35:54 มันจะมันจะเจอเยอะครับโดยเฉพาะในเขตร้อน
00:35:54 → 00:35:57 ชื้นอย่างเราหรืออย่าหรืออย่างประเทศ
00:35:57 → 00:35:59 อินเดียอย่าเงี้ยครับแมลงวันมันเยอะอยู่
00:35:59 → 00:36:02 แล้วนะครับเ่อทนี้ถ้าคนปกติจมูกปกติเนี่ย
00:36:02 → 00:36:04 มันไม่เข้าไปอยู่แล้วฮะครับมันจะเข้ามัน
00:36:04 → 00:36:07 จะเข้าไปตามกลิ่นครับอืคนที่มีโรคบาง
00:36:07 → 00:36:10 อย่างอยู่ในจมูกเนี่ยครับแล้วมันมีกลิ่น
00:36:10 → 00:36:13 เนี่ยมันถึงจะมีแมลงวันไปตอมครับอ๋อมีโรค
00:36:13 → 00:36:17 นะครับนึกถึงผ้าผ้าคาดนี่นะเอ่อแมสนะถ้า
00:36:17 → 00:36:20 ใส่เอาไว้ก็ป้องกันได้หมดเลยกันแมงวัน
00:36:20 → 00:36:23 โอ๊ยฟังแล้วขนลุขนพอจริงๆไอ้หนอนมะลงแมลง
00:36:23 → 00:36:25 อะไรเงี้ยคุณหมอช่วงท้ายแล้วครับคุณหมอ
00:36:25 → 00:36:28 ครับอ่าอยากจะให้คุณหมอทิ้งท้ายให้กับคุณ
00:36:28 → 00:36:30 ผู้ฟังทางบ้านนิดนึงครับว่าเรื่องของ
00:36:30 → 00:36:34 เลือดกำเดาเนี่ยโอเคมันเป็นกันได้แต่ว่า
00:36:34 → 00:36:38 ลักณะลักษณะแบบไหนที่เราควรจะต้องเอ่อ
00:36:38 → 00:36:40 สังเกตตัวเองว่าอ่ะอันเนี้ยมันไม่ปกติ
00:36:40 → 00:36:43 แล้วฮะคุณหมอฮะเคครับ 1 ก็คือว่าเลื่อง
00:36:43 → 00:36:48 กันมาที่เอ่อต้องับต้องกดนานเกินไปนะครับ
00:36:48 → 00:36:50 ครับอย่างที่บอกว่ากดนานเกินกว่า 10 นาที
00:36:50 → 00:36:53 เนี่ยควรถ้าถ้ามันไม่หยุดเนี่ยควรจะต้อง
00:36:53 → 00:36:56 ไปละก็คือนั่งตรงนะคะแล้วก็ก้มหน้าครับ
00:36:56 → 00:36:59 บีบจมูกอีอันนคือดูเรื่องความรุนแรงครับ
00:36:59 → 00:37:03 คือเลือดกำเดาโดยมากเนี่ยมันไหลแบบซึมๆอื
00:37:03 → 00:37:06 นะครับออกมาเนี่ยบีบบีบก็หยุดแต่ถ้าเมื่อ
00:37:06 → 00:37:08 ไหล่มันไหลออกมาเหมือนกับบางคนเรียกท่อ
00:37:09 → 00:37:11 ประปาแตกอะไรเงี้ยนะครับหรือไหลโจ๊กๆแบบ
00:37:11 → 00:37:14 เหมือนน้ำก๊อกมาอย่างงี้อย่างงี้ต้องต้อง
00:37:14 → 00:37:17 มาหารโรงพยาบาลไม่ต้องรอบีบบูกนะครับคือ
00:37:17 → 00:37:19 คือก็บีบนั่นแหละแต่ว่ารีบมาโรงพยาบาล
00:37:19 → 00:37:22 ด้วยมันอาจจะมีภาวะอะไบางอย่างที่ที่
00:37:22 → 00:37:25 อันตรายซ่อนอยู่ครับโอได้ครับคุณหมอวัน
00:37:25 → 00:37:27 นี้ต้องขอกราบขอบพระคุณคุณหมอมากๆนะครับ
00:37:27 → 00:37:29 ที่สละเวลาแล้วก็มาให้ความรู้กับเรา 2 คน
00:37:29 → 00:37:33 รวมทั้งคุณผู้ฟังทางบ้านรายการรเอด้วยนะ
00:37:33 → 00:37:35 ครับขอบพระคุณครับคุณหมอครับสวัสครับ
00:37:35 → 00:37:38 สวัสดีครับคุณ