00:00:00 → 00:00:03 ภาวะหยุดหายใจขณะหลับภัยเงียบที่อันตราย
00:00:04 → 00:00:07 ถึงชีวิตและเราได้รับเกียรติจากอาจารย์
00:00:07 → 00:00:09 แพทย์ผู้เชี่ยวชาญค่ะอาจารย์นายแพทย์
00:00:09 → 00:00:13 ชยานุชิตไชยสุขแพทย์อายุรศาสตร์ปราสาท
00:00:13 → 00:00:18 วิทยาประจำสูงโรคระบบสมองโรงพยาบาลนวเวช
00:00:18 → 00:00:20 สวัสดีค่ะ
00:00:20 → 00:00:26 [เพลง]
00:00:26 → 00:00:30 อาจารย์ขอเริ่มที่คำถามแรกเลยนะคะอาจารย์
00:00:30 → 00:00:33 ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบไหนที่ต้องรีบพบ
00:00:33 → 00:00:36 แพทย์ด่วนคะจริงๆเราไม่ทราบหรอกครับว่า
00:00:36 → 00:00:39 เรามีการหยุดหายใจขณะหลับหรือเปล่านะครับ
00:00:39 → 00:00:41 เพราะว่าอาการที่จะมาก็คืออาการของการนอน
00:00:42 → 00:00:45 กลนอ่าเพียงแต่ว่าตัวคุณเองเนี่ยตอนที่
00:00:45 → 00:00:48 เรานอนอยู่เราก็จะไม่รู้อ่าว่าเกิดอะไร
00:00:48 → 00:00:52 ขึ้นนะครับอ่าคนไข้ที่จะมาที่จะพอที่จะพอ
00:00:52 → 00:00:56 ได้ก็คือมีเอ่อคนที่นอนด้วยบอกนะครับว่า
00:00:56 → 00:00:59 ตอนที่เรากำลังนอนอยู่พอนอนนอนแล้วก็มี
00:00:59 → 00:01:02 การหยุดหายใจกนกนดังขึ้นเรื่อยๆแล้วก็
00:01:02 → 00:01:05 เงียบช่วงที่เงียบก็คือช่วงที่หยุดหายใจ
00:01:06 → 00:01:09 พอหยุดหายใจเสร็จก็จะมีการเฮือกเหมือนงี้
00:01:09 → 00:01:12 ขึ้นมาครับอันเนี้ยคือการที่กลับมาหายใจ
00:01:12 → 00:01:14 ใหม่อ่าซึ่งอันเนี้ยเป็นการบ่งบอกว่าไม่
00:01:15 → 00:01:18 ใช่การนอนกลนธรรมดาทั่วๆไปนะครับมีการ
00:01:18 → 00:01:20 หยุดหายใจเกิดขึ้นด้วยพอเรามีการหยุดหาย
00:01:20 → 00:01:23 ใจเกิดขึ้นจะเกิดผลอะไรบ้างก็คือทำให้
00:01:23 → 00:01:26 คุณภาพในการนอนเราแย่ลงในบางคนที่มีการ
00:01:26 → 00:01:29 หยุดหายใจบ่อยมากเช่น 60 ครั้งต่อชั่วโมง
00:01:29 → 00:01:32 เนี่ยถ้าคิดง่ายๆคือ 60 ครั้งต่อชั่วโมง
00:01:32 → 00:01:35 ก็เท่ากับทุกๆ 1 นาทีค่ะพอเป็นบ่อยๆเข้า
00:01:35 → 00:01:38 บางคนก็จะเริ่มมีปัญหาเรื่องของสมาธิ
00:01:38 → 00:01:42 เรื่องของความจำการจะโฟกัสก็ทำให้เกิด
00:01:42 → 00:01:45 ปัญหาขึ้นได้อาจารย์คะแล้วสำหรับผู้ที่มี
00:01:45 → 00:01:48 ภาวะหยุดหายใจขณะหลับนั้นเนี่ยจะมีภาวะ
00:01:48 → 00:01:51 แทรกซ้อนหรือว่ามีโรคอื่นๆที่เป็นความ
00:01:51 → 00:01:54 เสี่ยงคือโรคอะไรได้บ้างคะจริงๆมีข้อมูล
00:01:54 → 00:01:56 มากขึ้นเรื่อยๆครับว่าถ้าเป็นแค่นอนกลน
00:01:56 → 00:02:00 เฉยๆอาจจะแค่สร้างความรำคาญนะครับแต่ถ้า
00:02:00 → 00:02:02 มีการหยุดไถแจขนาหลับเนี่ยอันนึงที่เจอ
00:02:02 → 00:02:05 ได้คือตอนเช้าบางคนจะมีอาการปวดศีรษะนะ
00:02:05 → 00:02:09 ครับบางคนมีอาการของความดันสูงตอนช่วง
00:02:09 → 00:02:11 เช้าโดยเฉพาะความดันสูงที่เกิดในคนอายุ
00:02:11 → 00:02:13 น้อยโดยเฉพาะอายุน้อยกว่า 40 ปีความ
00:02:14 → 00:02:16 เสี่ยงที่ทำให้เกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะได้
00:02:16 → 00:02:19 นะครับจนถึงมีข้อมูลที่อาจจะไม่ได้ชัดเจน
00:02:19 → 00:02:21 มากนะครับแต่เพิ่มโอกาสของการเกิดทั้ง
00:02:21 → 00:02:24 เรื่องของเส้เลือดสมองเส้เลือดหัวใจ
00:02:25 → 00:02:28 อาจารย์ขาเด็กๆมีโอกาสที่จะมีความเสี่ยง
00:02:28 → 00:02:32 ในเรื่องของาหยุดหายใจขณะหลับได้ไคะแล้ว
00:02:32 → 00:02:35 ผู้ปกครองควรจะทำอย่างไรคะคือของเด็ก
00:02:35 → 00:02:39 เนี่ยหลักๆเขาจะเกิดจากการอุดกั้นของแทาง
00:02:39 → 00:02:41 เดือนหายใจใน 2 จุดหลักๆอันที่ 1 คือ
00:02:41 → 00:02:45 ทอนซินต่อมทอนซินที่โตนะครับอีกจุดคือ
00:02:45 → 00:02:48 ต่อมอดินอยอนอยก็จะเป็นต่อมน้ำเหลืองอัน
00:02:48 → 00:02:52 นึงที่คล้ายๆกันกับตัวต่อมทอนซินนะครับ
00:02:52 → 00:02:55 อาจารย์ขาแล้วภาวะหยุดหายใจขณะหลับนั้น
00:02:55 → 00:02:58 ส่งผลต่อพัฒนาการของเด็กอย่างไรคะของใน
00:02:58 → 00:03:01 เด็กก็คือจริงๆคิดง่ายๆคือเหมือนเหมือน
00:03:01 → 00:03:06 เด็กเขาไม่ได้นอนปกติแล้วลักษณะของการนอน
00:03:06 → 00:03:10 คนเราคลื่นสมองจะมีการค่อยๆพัฒนานะครับ
00:03:10 → 00:03:13 มันจะมี 2 ช่วงหลักๆช่วงที่ 1 เราเรียก
00:03:13 → 00:03:16 ว่า non rem กับช่วงอีกช่วงนึงเรียกว่า
00:03:16 → 00:03:19 rem Sleep อ่านะครับ non rem นี่คือ
00:03:19 → 00:03:21 rem คือ rapid e movement คือมีการ
00:03:21 → 00:03:24 เคลื่อนไหวแบบกรอกตาเร็วๆนะครับช่วงนอน
00:03:24 → 00:03:28 remem เนี่ยเป็นช่วงที่อ่าจะยาวกว่านะ
00:03:28 → 00:03:31 ครับจะมีการแบ่งเป็นสตปเป็นช่วงนะครับ 1
00:03:31 → 00:03:34 2 3 4 อ่าแล้วก็เป็น rem Sleep rem
00:03:34 → 00:03:36 Sleep คือตอนที่เรากำลังฝันฝันคือครื่อง
00:03:36 → 00:03:39 หลับครึ่งตื่นนะครับธรรมชาติเนี่ยคลื่น
00:03:39 → 00:03:40 สมองเราจะเริ่มด้วย non remem แล้วก็ต่อ
00:03:40 → 00:03:44 ด้วย rem Sleep ต่อกันอ่าเป็นไซคิเป็นวง
00:03:44 → 00:03:48 จรนะครับในสมองเนี่ยเราจะใช้เวลาในช่วง
00:03:48 → 00:03:51 rem Sleep เนี่ยดึงเอาความจำที่อยู่ใน
00:03:51 → 00:03:54 แรมของเราคืออยู่ในที่นึงของสมองนะครับ
00:03:54 → 00:03:57 ออกมาเก็บเป็นความจำระยะยาวในอีกที่นึงก็
00:03:57 → 00:03:59 คือเหมือนเก็บไปในฮาร์ดดิสก์ของสมองนะ
00:04:00 → 00:04:03 ครับทีนี้ถ้าคุณไม่ค่อยมีคือคุณภาพการนอน
00:04:03 → 00:04:05 ไม่ดีอ่ามีปัญหาเรื่องของ rem
00:04:05 → 00:04:10 Sleep มันทำให้เหมือนมีขยะในสมองเยอะอ่า
00:04:11 → 00:04:14 อะไรก็จำไปหมดเลยแล้วพอเราจำเยอะๆเยอะๆ
00:04:14 → 00:04:17 เข้าเนี่ยมันจะเริ่มสับสนอ่าพอเราจะจำ
00:04:17 → 00:04:21 อะไรใหม่ๆจำไม่ได้ครับเพราะฉะนั้นก็เลยมี
00:04:21 → 00:04:25 ผลกับเรื่องของการพัฒนากันครับอยากให้
00:04:25 → 00:04:28 อาจารย์ช่วยอธิบายค่ะว่าการทำ Sleep Test
00:04:28 → 00:04:31 คืออะไรการทำ Sleep Test ก็คือต้องมานอน
00:04:31 → 00:04:34 โรงพยาบาลนะครับคือมีการตรวจของการนอน
00:04:34 → 00:04:37 ซึ่งทำให้เสมือนจริงเหมือนเรานอนอยู่ที่
00:04:37 → 00:04:40 บ้านนะครับตอนช่วงที่นอนโรงพยาบาลก็จะมี
00:04:40 → 00:04:43 การติดเครื่องนะครับเครื่องเนี่ยหลักๆก็
00:04:43 → 00:04:47 จะมีการติดเป็นสายครับอ่ากลุ่มแรกจะเป็น
00:04:47 → 00:04:51 ดูคลื่นสมองมีการตรวจวัดออกซิเจนในเลือด
00:04:51 → 00:04:54 นะครับมีการตรวจการเคลื่อนไหวของกระบางลม
00:04:54 → 00:04:58 มีการตรวจคลื่นหัวใจแล้วก็ในห้องเนี่ยก็
00:04:58 → 00:05:01 จะมีการตั้งกล้องนะครับที่เรคคอร์ดไว้
00:05:01 → 00:05:04 ทั้งคืนว่าในช่วงระหว่างกลางคืนที่เรานอน
00:05:04 → 00:05:07 เนี่ยมีการขยับตัวมีการฟลิกตัวมีการ
00:05:07 → 00:05:11 กระตุกของแขนขามีการหลับตื่นยังไงบ้างเขา
00:05:11 → 00:05:14 จะเอาข้อมูลตรงเนี้ยเก็บไว้อ่าใน
00:05:14 → 00:05:18 คอมพิวเตอร์เพื่อไปทำการ analy ข้อมูล
00:05:18 → 00:05:21 เสร็จแล้วในกรณีที่มีการหยุดหายใจขนาด
00:05:21 → 00:05:23 หลับอีกครึ่งคืนจะเป็นช่วงที่เรียกว่า
00:05:23 → 00:05:28 cpap pation คือช่วงของการรักษาโดยการ
00:05:28 → 00:05:30 ในคนที่มีปัญหาเรื่องการหยุดหายใจขนาด
00:05:30 → 00:05:32 หลับเนี่ยการรักษาในปัจจุบันคือเราจะต้อง
00:05:32 → 00:05:35 ใส่เครื่องช่วยหายใจนะครับแล้วแต่ว่าตอน
00:05:35 → 00:05:37 ที่คุณนอนเนี่ยคุณอ้าปากหรือเปล่าอันนี้
00:05:37 → 00:05:41 เห็นจากตอนที่ที่ตรวจนะครับถ้าเป็นคนที่
00:05:41 → 00:05:43 นอนแล้วไม่ได้อ้าปากก็ใส่เฉพาะครอบเฉพาะ
00:05:43 → 00:05:47 จมูกถ้าอ้าปากด้วยก็ครอบทั้งปากทั้งจมูก
00:05:47 → 00:05:51 มันจะเป็นหน้ากากนะครับแล้วต่อท่อไปที่
00:05:51 → 00:05:53 เครื่องนะครับตัวเครื่องเนี่ยเขาคก็จะเอา
00:05:53 → 00:05:55 อากาศในห้องเนี่ยแหละครับผ่านตัวกรองแล้ว
00:05:55 → 00:06:00 ก็พ่นลมเข้าไปหลักๆคือเพื่อไปยก
00:06:00 → 00:06:03 ทางเดินหายใจที่ข้างในข้างในคอเรานะครับ
00:06:03 → 00:06:08 ที่ตกไปปิดทางเดินหายใจยกขึ้นคุณก็จะไม่
00:06:08 → 00:06:11 มีการหยุดหายใจอเพื่อทำให้ไม่ไม่เกิดการ
00:06:11 → 00:06:14 หลับตื่นสลับกันก็ทำให้คุณภาพของการนอนดี
00:06:14 → 00:06:18 ขึ้นแล้วการรักษาภาวะหยุดหายใจขนาหลับทำ
00:06:18 → 00:06:21 ได้กี่วิธีคะอาจารย์ณปัจจุบันเนี่ยข้อมูล
00:06:21 → 00:06:23 ที่ชัดเจนที่สุดเนี่ยคือการใช้เครื่อง
00:06:23 → 00:06:26 ช่วยหายใจขนาดหลับนะครับโดยที่เราไม่ได้
00:06:26 → 00:06:29 ไปเปลี่ยนแปลงลักษณะทางกายภาพของคนไข้
00:06:30 → 00:06:33 แล้วเราจะมีวิธีป้องกันภาวะหยุดหายใจขนาด
00:06:33 → 00:06:35 หลับได้ด้วยตัวเองต้องทำอย่างไรบ้างคะ
00:06:35 → 00:06:39 จริงๆจะบอกว่าการหยุดหายใจขนาหลับเนี่ย
00:06:39 → 00:06:41 ไม่ได้มีวิธีการในการป้องกันโดยตรงนะครับ
00:06:41 → 00:06:44 เพราะว่าสาเหตุหลักๆคือลักษณะทางกายภาพ
00:06:45 → 00:06:47 ของเราอ่าคำว่าลักษณะกายภาพคือลักษณะของ
00:06:47 → 00:06:50 กะโลกศีรษะคนเราคนที่มีค้างสั้นคนที่น้ำ
00:06:50 → 00:06:54 หนักตัวเยอะพวกเนี้ยมีโอกาสแล้วจริงๆคน
00:06:54 → 00:06:57 ต้องบอกว่าคนเอเชียคนไทยก็เป็นคนเอเชียก็
00:06:57 → 00:07:00 ลักษณะคางเราจะเป็นลักษณะค่อนข้างสั้น
00:07:00 → 00:07:04 กว่าพวกต่างชาติพวกยุโรปพวกเอ่ออาหรับ
00:07:04 → 00:07:06 อยู่แล้วครับก็เลยมีโอกาสที่จะเกิดพวกนี้
00:07:06 → 00:07:10 ได้มากขึ้นเ่อมีการทานบางอย่างเช่น
00:07:10 → 00:07:13 แอลกอฮอล์บางคนมีสูบบุหรี่อ่าก็เป็นตัว
00:07:13 → 00:07:17 นึงที่กระตุ้นเรื่องของการกลนได้ครับจริง
00:07:17 → 00:07:19 ๆสาเหตุคือเราไปเรียกหลีกเลี่ยงตัว
00:07:19 → 00:07:21 กระตุ้นพวกนั้นมากกว่านะครับเพียงแต่ว่า
00:07:21 → 00:07:24 ถ้าสาเหตุทางทางกายภาพอาจจะเป็นแล้วแต่
00:07:25 → 00:07:28 บุคคลอาจารย์ขาอยากจะขอคำแนะนำในเรื่อง
00:07:28 → 00:07:31 ของการนอนหลับที่ดีค่ะจริงๆลักษณะของการ
00:07:31 → 00:07:34 นอนหลับที่แนะนำคืออ่าอยากแนะนำให้รู้จัก
00:07:34 → 00:07:38 คำว่า Sleep ไฮยีนครับ Sleep ไฮยีนคือการ
00:07:38 → 00:07:42 ทำให้สุขลักษณะของการนอนดีที่สุดนะครับ
00:07:42 → 00:07:45 โดยการที่นอนเร็วครับนอนเร็วในที่เนี้ผม
00:07:45 → 00:07:47 แนะนำว่าถ้าจะให้ดีคือไม่ควรเกินสัก 22:00
00:07:47 → 00:07:52 นแล้วก็ตื่นเช้าที่แนะนำให้นอนเร็วแล้ว
00:07:52 → 00:07:56 ตื่นเช้าคือเพื่อให้วงรอบหรือวงจรของการ
00:07:56 → 00:07:58 นอนเราใกล้เคียงกับธรรมชาติที่สุดออก
00:07:58 → 00:08:01 กำลังกายพยายามไปออกตอนช่วงเช้าถ้าจะให้
00:08:01 → 00:08:04 ดีคือให้ตามองเห็นแดดอาจจะไม่จำเป็นต้อง
00:08:04 → 00:08:06 ไปอยู่กลางแดดก็ได้นะครับแต่อยู่กลางแดด
00:08:07 → 00:08:09 บ้างก็ดีนะครับจริงๆตั้งช่วงเย็นเนี่ย
00:08:09 → 00:08:11 หลังจากสัก 18:00 น 19 นไปแล้วเนี่ย
00:08:11 → 00:08:15 พยายามลดการกระตุ้นของแสงทุกอย่างนะครับ
00:08:15 → 00:08:20 จากจอคอมพิวเตอร์จากจอโทรศัพท์นะครับจาก
00:08:20 → 00:08:22 จอทีวีหรืออะไรก็ตามเนี่ยพวกเนี้ยหรือว่า
00:08:22 → 00:08:26 แสงในห้องไฟที่เป็นไฟสว่างมากๆนะครับพวก
00:08:26 → 00:08:28 เนี้ยก็เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้ร่างกายเรา
00:08:28 → 00:08:30 เหมือนตื่นตัว
00:08:30 → 00:08:33 ขอบคุณนะคะสำหรับการรับชมรายการ TNN
00:08:33 → 00:08:36 Health ค่ะและอย่าลืมค่ะกด Subscribe กด
00:08:36 → 00:08:40 ไลคกดแชร์ในทุกช่องทางออนไลน์ของ TNN
00:08:40 → 00:08:43 ช่อง 16 ค่ะเพื่อที่จะไม่พลาดการรับชมราย
00:08:43 → 00:08:47 การสดคลิปวีีดีโอที่น่าสนใจของทาง TNN นะ
00:08:47 → 00:08:50 คะ