00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็จะเป็นตอนที่
00:00:02 → 00:00:04 6 แล้วนะครับของซีรีส์ที่เราคุยกันอยู่
00:00:04 → 00:00:06 นะครับก็คือเรื่องของไมโครไบโอมนะครับหัว
00:00:06 → 00:00:09 ข้อในวันนี้จะเป็นเรื่องของโรคออโต้โม dcs
00:00:09 → 00:00:11 นะครับหรือว่าลองคิดภูมิคุ้มกันของร่าง
00:00:11 → 00:00:14 กายเราเนี่ยโจมตีร่างกายของเราเองว่ามัน
00:00:14 → 00:00:16 สัมพันธ์กับแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของ
00:00:16 → 00:00:19 เรายังไงเพราะจะขอเปิดเรื่องราวนี้พิเศษ
00:00:19 → 00:00:21 นี้นะครับด้วยการเล่าเรื่องราวนะครับซึ่ง
00:00:21 → 00:00:24 เป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในอดีตคดีนี้นะ
00:00:24 → 00:00:27 เคยเป็นคดีดังของเก็บมาประมาณสัก 130 ปี
00:00:27 → 00:00:29 ที่แล้วนะครับก่อนที่เราจะเข้าเนื้อหาของ
00:00:29 → 00:00:32 เรากันนะครับจะขอพูดถึงผู้สนับสนุนซีรีส์
00:00:32 → 00:00:34 Micro ไปอมของเราก่อนนะครับก็คือบริษัท
00:00:34 → 00:00:37 มดกัดนะครับประสานงดการนะครับเป็นบริษัท
00:00:37 → 00:00:39 ที่ก่อตั้งขึ้นโดยทีมนักวิทยาศาสตร์นัก
00:00:39 → 00:00:41 วิจัยที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยว
00:00:41 → 00:00:44 กับธนัชไมโครโฟนนะครับจากมหาวิทยาลัย
00:00:44 → 00:00:47 เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีบางมดประสำรถ
00:00:47 → 00:00:50 คันให้เขาทำอะไรเขามีเปิดให้บริการนะครับ
00:00:50 → 00:00:52 ส่วนวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่นะ
00:00:52 → 00:00:55 ครับให้กับคนทั่วไปเพื่อให้คนที่ไปตรวจ
00:00:55 → 00:00:58 เนี่ยรู้ว่าจุลินทรีย์หนูไปเคลียร์นำไส้
00:00:58 → 00:01:00 เนี่ยมีสภาพเป็นยังไงนะครับแล้วจะมีแค่
00:01:00 → 00:01:02 รู้ว่าแบคทีเรียในลำไส้เป็นยังไงเท่านั้น
00:01:02 → 00:01:04 นะครับแต่ทั้งหมดก็ยังมีทีมของนัก
00:01:04 → 00:01:07 โภชนาการผู้เชี่ยวชาญเนี้ยที่คอยแนะนำ
00:01:07 → 00:01:09 เรื่องของการกินด้วยนะครับเพื่อปรับสมดุล
00:01:09 → 00:01:11 ของจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ยให้
00:01:11 → 00:01:14 อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นสำหรับใครที่สนใจข้อ
00:01:14 → 00:01:15 มูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทหมดก๊าซนะ
00:01:15 → 00:01:18 ครับก็สามารถที่จะเข้าไปดูได้นะครับ
00:01:18 → 00:01:20 เดี๋ยวผมจะใส่ลิงค์ไว้ให้ข้างล่างนะครับ
00:01:20 → 00:01:21 อาจารย์ใส่ไว้ในคอมเมนท์หรือว่าใส่ใน
00:01:21 → 00:01:24 Description นะครับแล้วในตอนท้ายของคลิป
00:01:24 → 00:01:26 เนี่ยก็จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทมด
00:01:26 → 00:01:28 กัดเพิ่มเติมให้ด้วยนะครับกลับมาที่
00:01:28 → 00:01:33 เรื่องของเราก็ต่อนะครับ
00:01:33 → 00:01:35 เรื่องราว 1 เรื่องต้นมาจากบอกคนนึงนะ
00:01:35 → 00:01:38 ครับที่มีชื่อว่าโทมัสแม้ Hurt นะครับ
00:01:38 → 00:01:41 ซึ่งเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งชื่อ
00:01:41 → 00:01:44 ว่าอิสเบลล่าแบงค์เนื่องจากที่รู้จักกัน
00:01:44 → 00:01:46 ได้ไม่นานเดี๋ยวประมาณ 3 เดือนบอสไม่เท็จ
00:01:46 → 00:01:49 ก็ขอแบงค์ใส่งานนะครับแล้วจากแต่งงานได้
00:01:49 → 00:01:52 ไม่นานอิสเบลล่านะครับซึ่งแต่เดิมก็มี
00:01:52 → 00:01:54 ร่างกายก่อนอายุแล้วก็เริ่มมีอาการป่วย
00:01:54 → 00:01:58 ที่รุนแรงมากขึ้นอาการป่วยส่วนใหญ่ที่ว่า
00:01:58 → 00:02:00 นะครับเสด็จพระเรื่องของระบบทางเดินอาหาร
00:02:00 → 00:02:03 ก็คือว่าจะมีอาการของท้องเสียนะครับเกิด
00:02:03 → 00:02:06 ขึ้นบ่อยแล้วก็มีอาเจียนรุนแรงกินไม่ค่อย
00:02:06 → 00:02:08 ได้นะครับแล้วก็มีบางครั้งมีลักษณะของการ
00:02:08 → 00:02:11 ถ่ายเป็นเลือดปนออกมาด้วยนี่ในช่วงแรกนะ
00:02:11 → 00:02:14 ครับช่วงที่พยานเนี่ยเริ่มป่วยมากขึ้น
00:02:14 → 00:02:16 มอเตอร์ไซค์เธออาเซียนก็พยามจะรักษา
00:02:16 → 00:02:18 พยาบาลด้วยตัวเองนะครับแต่ว่าหลังจากที่
00:02:18 → 00:02:20 รักษาไปสักระยะนึงเนี่ยอาการของ insulin
00:02:20 → 00:02:24 เนี่ยก็ไม่ดีขึ้นเขาก็เลยต้องไปปรึกษาหมอ
00:02:24 → 00:02:27 คนอื่นนะครับเพื่อให้มาช่วยรักษาแต่ไม่
00:02:27 → 00:02:29 ว่าจะมีหมอหลายคนนะครับหมอที่มีชื่อเสียง
00:02:29 → 00:02:31 มาช่วยกันรักษาอย่างเต็มที่อาการของอิส
00:02:31 → 00:02:34 เบลล่านะครับกับแย่ลงเรื่อยๆนะครับจนบ่
00:02:34 → 00:02:36 ที่มารักษาเนี่ยก็รู้สึกแปลกใจนะครับ
00:02:36 → 00:02:38 เพราะว่าตอนแรกดูเหมือนไม่น่าจะยากอะไรนะ
00:02:38 → 00:02:40 ครับราชการก็มันเป็นโรคทางเดินอาหาร
00:02:40 → 00:02:43 ธรรมดาแต่ยิ่งรักษาอาการยิ่งแย่ลงแล้ว
00:02:43 → 00:02:45 เหมือนกับว่าอิซาเบลล่าเนี่ยไม่ตอบสนอง
00:02:45 → 00:02:47 การรักษาอะไรเลยที่นี่อากาศโดยใช้เวลา
00:02:47 → 00:02:49 นั้นก็ทรุดลงเรื่อยๆนะครับจนกระทั่งร่าง
00:02:49 → 00:02:53 กายเนี่ยสุดโซมากนะครับคือผอมแล้วก็อ่อน
00:02:53 → 00:02:55 เพลียจนไม่สามารถจะลุกไปไหนได้นะครับคือ
00:02:55 → 00:02:57 ต้องนอนติดอยู่กับเตียงตลอดเวลาแล้วด้วย
00:02:57 → 00:03:00 ความที่อาการของ Stella นะครับสุดลงยาและ
00:03:00 → 00:03:03 เร็วมากนะครับหนึ่งได้หมอรักษาเกรดแนะนำ
00:03:03 → 00:03:05 นะครับว่าไอ้น่าจะลองนำอุจจาระของสบายล่ะ
00:03:05 → 00:03:09 เนี่ยไปส่งให้นักเคมีที่ชำนาญจังหวัดดูดี
00:03:09 → 00:03:11 ไหมเพื่อจะดูว่ามันมีสารพิษอะไรเนี่ยควร
00:03:11 → 00:03:14 อยู่ในอุจจาระบ้างหรือเปล่าแล้วในช่วง
00:03:14 → 00:03:16 เวลาเรียกนี้กันเองนี้นะครับก็คือหมอสมัย
00:03:16 → 00:03:18 Test และก็คิดว่าพยายามตัวเองเนี่ยป่วย
00:03:18 → 00:03:22 มากแล้วนะครับอาการเนี้ยสุดลงเร็วมากจน
00:03:22 → 00:03:25 อาจจะไม่รอดชีวิตนะครับก็เลยคุยกับแฟนล่ะ
00:03:25 → 00:03:27 ว่าขอให้ช่วยเขียนที่ในกำรให้หน่อยได้ไหม
00:03:27 → 00:03:29 ซึ่งตัวจะเป็นล่างเนี่ยก็ไม่ขัดข้องนะ
00:03:29 → 00:03:32 ครับแล้วก็ตัดสินใจเขตพินัยกรรมยกทรัพย์
00:03:32 → 00:03:35 สมบัติทั้งหมดเนี่ยให้กับสามีที่นี่หลัง
00:03:35 → 00:03:37 จากที่เขียนพินัยกรรมเสร็จนะครับที่สอง
00:03:37 → 00:03:39 สามวันถัดมาเนี่ยผลการตรวจคิดอยู่จุฬา
00:03:39 → 00:03:43 เนี่ยก็กลับมาพอดีแล้วพร้อมกับคนที่กลับ
00:03:43 → 00:03:46 มานะครับก็มีจดหมายแนบมาด้วยซึ่งจดหมาย
00:03:46 → 00:03:48 นี้เขียนโดยล็อกเกอร์ of frets เว้น
00:03:48 → 00:03:50 Taylor นะครับซึ่งก็เป็นนักเคมีที่ทำ
00:03:50 → 00:03:53 หน้าที่ตรวจสารพิษคนนั้นแล้วก็เป็นผู้
00:03:53 → 00:03:54 เชี่ยวชาญเรื่องสารพิษที่มีชื่อเสียงของ
00:03:54 → 00:03:57 ลอนดอนในจดหมายของตัว Taylor เนี่ยเขา
00:03:57 → 00:04:00 เขียนให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าได้ว่าเขา
00:04:00 → 00:04:02 แม่ไม่สบายล่ะเนี่ยอาจจะถูกวางยาพิษแล้ว
00:04:02 → 00:04:05 สารพิษที่ว่าน่าจะเป็นสารจำพวกยาเบื่อหนู
00:04:05 → 00:04:08 นะครับหรือว่าที่มีชื่อว่าอาร์เซนิกเขา
00:04:08 → 00:04:10 เกรงแนะนำว่าควรจะรีบให้การรักษาโดยเร่ง
00:04:10 → 00:04:13 ด่วนไม่ใช่นะเนี่ยผู้ป่วยเนี่ยอาจจะมี
00:04:13 → 00:04:16 อันตรายถึงชีวิตได้และที่สำคัญคือว่าเขา
00:04:16 → 00:04:19 เขียนไว้ว่าการดูแลรักษาเนี่ยควรจะอยู่
00:04:19 → 00:04:22 ภายใต้การดูแลของคนที่สมัครไว้ใจได้เพื่อ
00:04:22 → 00:04:25 ให้แน่ใจว่าน้ำและอาหารที่ 10 เวลากิน
00:04:25 → 00:04:28 แล้วมันดื่มเนี่ยไม่ถูกวางยาพิษพูดง่ายนะ
00:04:28 → 00:04:31 ครับที่นี่สรรค์จากที่ผลตรวจพริกกลับมา
00:04:31 → 00:04:34 เนี่ยในประมาณ 5 โมงเย็นของวันนั้นนะครับ
00:04:34 → 00:04:37 ตำรวจในก็มาที่บ้านเขาบอกสมัยเถิดเราก็
00:04:37 → 00:04:39 จับกุมตัวเอาไว้ต่อมานะครับในวันรุ่งขึ้น
00:04:39 → 00:04:43 นะครับคือวันที่ 3 พฤษภาคมปี 1859 เนี่ย
00:04:43 → 00:04:47 insult ก็เสียชีวิตลงการจับกุมหมอ smeta
00:04:47 → 00:04:49 ก็เลยกลายเป็นข่าวใหญ่นะครับในก่อน
00:04:49 → 00:04:52 หนังสือพิมพ์ของลอนดอนนะครับเขาก็ลงว่า
00:04:52 → 00:04:55 เป็นหมอเนี่ยค่าพญาตัวเองวางพิทยาตัวเอง
00:04:55 → 00:04:58 ทำให้ชาวดอยแล้วชาวกรีกเนี่ยสนใจข่าวนี้
00:04:58 → 00:05:00 กันอย่างมากแล้วก็คอยติดตามข่าวเจอกัน
00:05:00 → 00:05:03 อย่างใกล้ชิดแล้วระหว่างที่การไต่สวนคดี
00:05:03 → 00:05:06 นี้นะครับเกิดขึ้นเนี่ยมันก็มีเรื่องราว
00:05:06 → 00:05:08 ต่างๆที่น่าสนใจและมีหลักฐานมีข้อมูลใหม่
00:05:08 → 00:05:11 ๆที่ที่เรียกว่าช่วยมาเสริมกามากของ
00:05:11 → 00:05:15 เรื่องให้มันเข้มข้นขึ้นไปอีกมีการพริกนะ
00:05:15 → 00:05:17 ครับคดีพลิกกลับไปกลับมาหลายครั้งด้วยกัน
00:05:17 → 00:05:20 ตัวอย่างเช่นนะครับหลังจากที่ชันสูตรศพ
00:05:20 → 00:05:23 isa ล่าไปเนี่ยก็ไปเจอสิ่งที่ไม่มีใคร
00:05:23 → 00:05:26 คาดมาเกาะนะครับไม่มีใครรู้มาก่อนหน้าก็
00:05:26 → 00:05:29 คือว่าขณะที่เสียชีวิตในสมัยล่าในการตั้ง
00:05:29 → 00:05:32 ครรภ์อยู่ประมาณหกสัปดาห์มันก็เลยทำให้
00:05:32 → 00:05:34 เหมือนกับเรื่องมาดูดราม่ากันอีกว่าโอ้
00:05:34 → 00:05:38 สามีเนี่ยวางยาฆ่าพญาอนุชิตเราจะมีลูกต่อ
00:05:38 → 00:05:40 มานะครับก็มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นขึ้นอีก
00:05:40 → 00:05:42 นะครับเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญนะครับก็คือ
00:05:42 → 00:05:44 ตัวล็อกเกอร์ Taylor เนี่ยเกิดไปตรวจพบ
00:05:44 → 00:05:46 สารคิดนะครับศาลอาร์เซนิกเรียนรู้ว่าศยา
00:05:46 → 00:05:49 เบื่อหนูเนี่ยเจือปนอยู่ได้ยาที่ใช้รักษา
00:05:49 → 00:05:52 ไอ้ Stella ซึ่งการค้นพบครั้งนี้นะครับก็
00:05:52 → 00:05:54 เหมือนเป็นหลักฐานสำคัญนะครับที่เหมือน
00:05:54 → 00:05:57 กับมัดตัวบ่สมรรถนะเสี่ยในเน้นๆยิ่งขึ้น
00:05:57 → 00:06:00 แต่บอสไปเธอก็ยังไม่ยอมรับนะครับว่าร้าน
00:06:00 → 00:06:03 อาหารพญาเขาปฏิเสธว่าเขายังไม่ได้วางยา
00:06:03 → 00:06:06 พิษพญาเค้ารักษาพยานด้วยความตั้งใจจริง
00:06:06 → 00:06:10 ถ้าจะมีคนลอบวางยาพิษแล้วนำเอายามาเบอร์
00:06:10 → 00:06:12 หนูไปใส่ในระยะยาวเนี่ยก็จะเป็นหมอคนอื่น
00:06:12 → 00:06:15 ก็ได้แต่คำแก้ตัวนี้ก็ฟังไม่ขึ้นเพราะว่า
00:06:15 → 00:06:18 insulin ป่วยมาก่อนที่มองคนอื่นๆจะเข้า
00:06:18 → 00:06:20 มาร่วมรักษานะครับแล้วบอกคนอื่นๆก็ไม่มี
00:06:20 → 00:06:24 แรงจูงใจที่จะมาวางยาพิษ Stella ต่อมา
00:06:24 → 00:06:27 ความน่าสนใจของคดีมันก็เพิ่มมากขึ้นนะ
00:06:27 → 00:06:29 ครับเพราะเมื่อตรวจผลชิ้นเนื้อนะครับที่
00:06:29 → 00:06:32 ได้จากการชันสูตรศพความไม่พบสารพิษหรือ
00:06:32 → 00:06:35 ว่าสนิทที่อยู่ในร่างกายของสบายล่าเลยมัน
00:06:35 → 00:06:37 ก็เลยดูแปลกไม่ใช่ไหมครับเพราะว่าตัวสาร
00:06:37 → 00:06:39 พิเศษจุรัตน์เจอแต่พ่อไปดูในเนื้อเยื่อ
00:06:39 → 00:06:42 จริงๆกลับไม่เจอได้ยังไงก็เลยมีการตรวจ
00:06:42 → 00:06:46 สอบอีกทีนะครับสุดท้ายนี้ก็พบว่าความผิด
00:06:46 → 00:06:48 พลาดมันเกิดขึ้นที่หลักของด็อกเตอร์เทเลอ
00:06:48 → 00:06:51 a เพราะว่าตอนที่เด็กก Taylor เนี่ยเอา
00:06:51 → 00:06:54 อุจจาระแล้วก็เอายาอิสลามเวลาไปตรวจเนี้ย
00:06:54 → 00:06:57 ปรากฏว่าตัวน้ำยาที่ใช้ตรวจมันมีการปน
00:06:57 → 00:06:59 เปื้อนของสารแอดเน็กซ์อยู่หรือว่าสารพิษ
00:06:59 → 00:07:02 อยู่เหตุผลก็เลยออกมาว่ามีสารพิษเนี่ยปน
00:07:02 → 00:07:05 เปื้อนอยู่ทั้งที่จริงๆในอุจจาระกัลยา
00:07:05 → 00:07:08 เนี่ยไม่ได้มีสารพิษอยู่เลยเรื่องนี้ก็จะ
00:07:08 → 00:07:10 เป็นข่าวใหญ่มากนะครับโดยเฉพาะในวงการ
00:07:10 → 00:07:12 วิทยาศาสตร์เพราะว่าตัวด็อกเตอร์ Taylor
00:07:12 → 00:07:15 เนี่ยเป็นนักเคมีที่มีชื่อเสียงมากในยุค
00:07:15 → 00:07:18 นั้นนะครับแล้วก็เป็นที่เคารพนะครับแล้ว
00:07:18 → 00:07:20 ก็ที่ผ่านมาเขาก็มีส่วนร่วมในการไขคดี
00:07:20 → 00:07:23 สำคัญสำคัญเนี่ยเมื่อหลายคดีคนก็เลยรู้
00:07:23 → 00:07:26 สึกว่าคนระดับนี้เนี่ยพลาดได้ยังไงนะครับ
00:07:26 → 00:07:29 แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือว่าเหมือนกัน
00:07:29 → 00:07:31 ว่าหลักฐานสำคัญที่ใช้มักจะวัดเม็ด
00:07:31 → 00:07:33 Terrace นะคะที่จับมาจับเข้ามาตั้งแต่
00:07:33 → 00:07:35 แรกเนี่ยมากลายเป็นหลักฐานที่ผิดขึ้นมา
00:07:35 → 00:07:38 แต่แล้วก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นอีก
00:07:38 → 00:07:40 ครั้งนะครับระหว่างที่ไต่สวนคดีเนี่ยก็มี
00:07:40 → 00:07:43 การไปค้นพบข้อมูลรับอันนึงก็คือว่าก่อน
00:07:43 → 00:07:45 ที่เหมาะสมอินเทอร์เน็ตจะมาแต่งงานกับ
00:07:45 → 00:07:48 Stella เนี่ยเขามีพญาอยู่แล้ว 1 คนนะ
00:07:48 → 00:07:50 ครับซึ่งเป็นพญาที่มีอายุมากกว่าเขาในถึง
00:07:50 → 00:07:53 20 ปีดังนั้นในการแต่งงานของบอส
00:07:53 → 00:07:56 อินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นการแต่งงานสอนซึ่ง
00:07:56 → 00:07:58 สำหรับชาวอังกฤษในยุคนั้นนะครับทุกสมัย
00:07:58 → 00:08:00 นั้นเนี่ยถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าอย่า
00:08:00 → 00:08:02 คิดมากนะครับเป็นพฤติกรรมที่ผิดเสร็จแล้ว
00:08:02 → 00:08:04 ทำมากกระแสสังคมเนี่ยก็เลยตีกลับนะครับ
00:08:04 → 00:08:06 จากเดิมที่มองว่าเขานี่เหมือนกับเป็น
00:08:06 → 00:08:09 เหยื่อก็เลยบอกว่าหมอจะเป็นเทอร์เน็ตเป็น
00:08:09 → 00:08:11 คนไม่ดีนะครับเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้
00:08:11 → 00:08:14 แล้วก็จะวางยาพิษพญาจริงๆสุดท้ายนะครับ
00:08:14 → 00:08:17 หลังจากที่สุดพอดีต่ออีกนานอยู่หลายเดือน
00:08:17 → 00:08:20 เลยนะครับในเดือนสิงหาคมปี 1859 เนี่ยคณะ
00:08:20 → 00:08:23 ลูกขุนและก็ลงความเห็นนะครับตัดสินว่าบอส
00:08:23 → 00:08:27 ไม่ใช่เนี่ยมีความผิดจริงแล้วสารเนี่ยก็
00:08:27 → 00:08:30 ตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิตเขาด้วยการแขวน
00:08:30 → 00:08:32 คอแต่เรื่องยังไม่จบนะครับเพราะว่าสุด
00:08:32 → 00:08:34 ท้ายหมอเซ็นเทอร์เน็ตก็สามารถรอดจากการ
00:08:34 → 00:08:38 ถูกแขวนคอมาได้คืออย่างที่บอกไปว่าด้วย
00:08:38 → 00:08:40 ความที่คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนชาว
00:08:40 → 00:08:42 เกรดมากมายและก็รวมไปถึงนะคะยาศาสตร์ที่
00:08:42 → 00:08:45 เชี่ยวชาญต่างๆสาขาต่างในวงการด้วยนะครับ
00:08:45 → 00:08:48 ที่นี่เบื่อคำตัดสินออกมาบอกไม่เธอจะมี
00:08:48 → 00:08:51 ความผิดและมีโทษประหารเนี่ยหลายคนที่ติด
00:08:51 → 00:08:53 ตามข่าวมาตลอดนะครับอย่างใกล้ชิดเนี่ยก็
00:08:53 → 00:08:57 รู้สึกว่าไม่เห็นด้วยนะครับคำตัดสินคือ
00:08:57 → 00:08:59 แปลว่าคนส่วนใหญ่นะครับจะไม่ชอบเหมาะสม
00:08:59 → 00:09:01 interest แต่หลายคนก็จะเชื่อว่าเขาไม่
00:09:01 → 00:09:04 ใช่คนดีหรือว่าจริงๆแล้วเนี่ยอาจจะวางแผน
00:09:04 → 00:09:07 ฆ่าพญาจริงๆก็ได้เพื่อหวังสมบัติของพญา
00:09:07 → 00:09:09 แต่ด้วยความที่หลักฐานต่างๆที่มีเดี๋ยว
00:09:09 → 00:09:12 มันดูอ่อนเกินไปนะครับบวกกับมีความผิด
00:09:12 → 00:09:15 พลาดหลายครั้งที่เกิดขึ้นที่ให้เห็นนะ
00:09:15 → 00:09:17 ครับทำให้หลายคนมาว่าการตัดสินคดีนี่
00:09:17 → 00:09:20 เหมือนกับว่าทางตำรวจและทางสารเนี่ยพยาม
00:09:20 → 00:09:23 ที่จะปิดคดีให้เร็วที่สุดสุดท้ายเนี่ยมัน
00:09:23 → 00:09:26 ก็นำไปสู่การพิจารณาคดีซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
00:09:26 → 00:09:30 แล้วการตัดสินรอบหลังนี้ก็ตัดสินให้หมอ
00:09:30 → 00:09:32 เซ็นเธอเนี่ยรับการปล่อยตัวไปสำหรับคดี
00:09:32 → 00:09:35 นี้นะครับจนถึงทุกวันนี้เนี่ยก็ยังไม่มี
00:09:35 → 00:09:37 ใครรู้นะครับว่าบอสอินเทอร์เน็ตค่าพญาของ
00:09:37 → 00:09:39 เขาจริงหรือเปล่ามีแต่ความน่าสนใจของคดี
00:09:39 → 00:09:42 นี้สำหรับเรานะครับไม่ใช่เรื่องของว่าเขา
00:09:42 → 00:09:45 เลยค่าพญาจริงหรือเปล่าแต่มันเกี่ยวข้อง
00:09:45 → 00:09:47 กับเรื่องที่เราทุกคนวันนี้ครับเพราะว่า
00:09:47 → 00:09:50 ในบันทึกรายละเอียดนะครับตอนที่ชันสูตรศพ
00:09:50 → 00:09:53 พิซเซร่าเนี่ยหมอที่ชั้นสุดในเวลานั้นได้
00:09:53 → 00:09:56 บันทึกว่าเขียนบรรยายลักษณะต่างๆที่ตรวจ
00:09:56 → 00:09:59 พบในไว้อย่างละเอียดแล้วความผิดปกติที่พบ
00:09:59 → 00:10:03 นะครับโดยเฉพาะปะรอยถ่ายต่างในลำไส้รวม
00:10:03 → 00:10:06 ถึงอาการต่างๆของเอเบลล่าเนี่ยเมื่อหมอใน
00:10:06 → 00:10:09 ยุคปัจจุบันเนี่ยมีโอกาสได้มาอ่านคดีนี้ 3
00:10:09 → 00:10:12 อีกทีนะครับมาศึกษาคดีอย่างละเอียดแล้วก็
00:10:12 → 00:10:14 อ่านเรื่องของชันสูตรศพต่างๆก็ให้ความ
00:10:14 → 00:10:17 เห็นกันว่าลักษณะที่บรรยายไว้เนี่ยไม่
00:10:17 → 00:10:20 เหมือนอาการได้รับสารพิษแต่ลักษณะของแผน
00:10:20 → 00:10:23 นำใส้ที่เขาบรรยายไว้เนี่ยมันจะเหมือนโรค
00:10:23 → 00:10:26 โรคนึงนะครับที่ปัจจุบันเนี่ยเรารู้จัก
00:10:26 → 00:10:28 กันในชื่อว่าเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:10:28 → 00:10:32 คำถามคือว่าแล้วทำไมในเวลานั้นนะครับหมอ
00:10:32 → 00:10:34 ที่รักษาเนี่ยถึงไม่รู้จักโลกนี้คำตอบก็
00:10:34 → 00:10:36 คือว่าเพราะว่าปัจจุบันนะครับถือว่าอิส
00:10:36 → 00:10:39 เบลล่าเนี่ยเป็นผู้ป่วยคนแรกนะผู้ที่ป่วย
00:10:39 → 00:10:40 เป็นโรคนี้แล้วถูกบันทึกเอาไว้อย่างเป็น
00:10:40 → 00:10:43 ทางการหมายความว่าในช่วงเวลานั้นนะครับ
00:10:43 → 00:10:45 ไม่มีหมอที่รู้จักโรคนี้นะครับแล้วก็ทำ
00:10:45 → 00:10:48 ให้หมอที่รักษาในรู้สึกวงมากนะครับว่าผู้
00:10:48 → 00:10:50 ป่วยในป่วยเป็นโรคอะไรแล้วทำไมถึงได้
00:10:50 → 00:10:53 รักษาอาการเน็ตเธอไม่ดีขึ้นแล้วก็เป็นโรค
00:10:53 → 00:10:55 ที่เหมือนกับว่าดูเหมือนว่าในยุคนั้น
00:10:55 → 00:10:58 เนี่ยหมอเลยไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่ในเวลา
00:10:58 → 00:11:00 ต่อมานะครับไม่เราเจอคนไข้ที่มีอาการ
00:11:00 → 00:11:03 อย่างนี้มากขึ้นเจอผลการตรวจหรือว่า
00:11:03 → 00:11:05 ลักษณะของแผลในลำไส้ที่แบบนี้มากขึ้น
00:11:05 → 00:11:07 เนี่ยเราก็รู้ว่าในเป็นโรคใหม่โลกนึงนะ
00:11:07 → 00:11:09 ครับซึ่งอย่างที่บอกไปก็คือมีชื่อในภาษา
00:11:09 → 00:11:12 ไทยว่าลำไส้อักเสบเรื้อรังนะครับชื่อภาษา
00:11:12 → 00:11:14 อังกฤษคือว่าอยู่ทำไมทวี bowel disease
00:11:14 → 00:11:17 แล้วก็ตลอดมานะครับเป็นช่วงร้อยปีเนี่ย
00:11:17 → 00:11:20 ตั้งแต่โรคนี้นะครับถูกบันทึกไว้ครั้งแรก
00:11:20 → 00:11:22 นะครับก็คือกรณีของที่สุดในล่าเนี่ยก็บอก
00:11:22 → 00:11:24 ว่าโรคนี้เนี่ยในวงการแพทย์ในทุกเป็นโรค
00:11:24 → 00:11:27 ที่พบน้อยมากมาตลอดนะครับแต่ความน่าสนใจ
00:11:27 → 00:11:30 ก็คือว่าในช่วง 50 กว่าปีที่ผ่านมานี้นะ
00:11:30 → 00:11:32 ครับบ่อนะครับเพราะว่าอุบัติการณ์ของโรค
00:11:32 → 00:11:34 ลมแทรกเสียงระหว่างมันเพิ่มขึ้นเร็วมาก
00:11:34 → 00:11:36 เขาขาวๆมันเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เท่าในช่วง
00:11:36 → 00:11:40 50 ปีที่ผ่านมานะครับจะทำให้โรคที่เคยพบ
00:11:40 → 00:11:42 น้อยมากๆครับถ้าจะไม่พบเลยเนี่ยกลายเป็น
00:11:42 → 00:11:45 โรคที่เริ่มพบได้เรื่อยๆนะครับโดยเฉพาะใน
00:11:45 → 00:11:48 ทางตะวันตกได้อีกลักษณะที่น่าสนใจก็คือ
00:11:48 → 00:11:50 ว่าแต่เดิมโลกนี้นะครับเคยชื่อว่าเป็นโรค
00:11:50 → 00:11:53 ที่พบเฉพาะในเช้าตนตอบเท่านั้นไม่พบในคน
00:11:53 → 00:11:56 เอเชียแต่ปรากฏว่าในช่วง 10 กว่าปีที่
00:11:56 → 00:11:58 ผ่านมานี้นะครับก็มีหลักฐานนะครับมีข้อ
00:11:58 → 00:12:01 มูลมากขึ้นว่าอุบัติการณ์ของโรคนี้ในคน
00:12:01 → 00:12:04 เอเชียเนี่ยพบมากขึ้นนะครับโดยเฉพาะใน
00:12:04 → 00:12:07 หลายประเทศที่เรียกว่าพัฒนาเร็วนะครับ
00:12:07 → 00:12:10 เช่นประเทศจีนประเทศญี่ปุ่นนะครับประเทศ
00:12:10 → 00:12:13 เกาหลีใต้ประเทศไต้หวันสำหรับในประเทศไทย
00:12:13 → 00:12:15 นะครับตัวเลขยังไม่ค่อยชัดเจนนะครับแต่ก็
00:12:15 → 00:12:18 ยังถือว่าเป็นโรคที่พบน้อยมากๆแต่ถ้าดูด
00:12:18 → 00:12:21 Trend ของโลกนะครับเช่นของเอเชียเนี่ยก็
00:12:21 → 00:12:24 มีโอกาสที่โรคนี้จะพบเพิ่มขึ้นเป็นเหมือน
00:12:24 → 00:12:26 กันนะครับในเมืองไทยจะได้ก่อนที่เราจะไป
00:12:26 → 00:12:28 คุยกันต่อนะครับผมอยากจะขอเบรคนิดนึงนะ
00:12:28 → 00:12:30 ครับแล้วก็มาคุยกันสักนิดนึงนะครับว่าไอ้
00:12:30 → 00:12:32 โลกที่เรียกว่าภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:12:32 → 00:12:34 ด้วยนะครับหรือว่า SM ทวี bowel disease
00:12:34 → 00:12:37 เนี่ยมันคือโรคอะไรนะครับมันมีลักษณะหน้า
00:12:37 → 00:12:41 ตาเป็นยังไงอ่ะแต่
00:12:41 → 00:12:44 จริงๆก็ค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับก็คือตาม
00:12:44 → 00:12:47 ชื่อเลยภาวะเนี่ยก็คือภาวะที่มันเกิดการ
00:12:47 → 00:12:49 อักเสบขึ้นมานะครับและการเกษตรที่ว่า
00:12:49 → 00:12:51 หนึ่งเป็นการเสร็จแบบเรื้อรังคือไม่ได้
00:12:51 → 00:12:52 เกิดขึ้นครั้งนึงแล้วก็หายไปเลยแต่ว่า
00:12:52 → 00:12:55 เกิดขึ้นซ้ำๆนะครับเป็นเวลาเป็นหลายๆ
00:12:55 → 00:12:58 เดือนนะครับเป็นจนถึงเป็นปีหรือว่าหลายๆ
00:12:58 → 00:13:01 ปีเลยก็ได้โดยที่สาเหตุเราไม่รู้ว่าอะไร
00:13:01 → 00:13:03 ที่ทำให้เกิดการอักเสบแต่สิ่งที่เรารู้ก็
00:13:03 → 00:13:06 คือว่าการเกษตรมันเกิดขึ้นจากระบบภูมิ
00:13:06 → 00:13:09 คุ้มกันเนี่ยมันโจมตีไปที่ตัวผนังของลำ
00:13:09 → 00:13:11 ไส้นะครับก็คือภูมิคุ้มกันของเราเองทำ
00:13:11 → 00:13:13 ร้ายลำไส้ของเราเองแต่ทำให้ภูมิคุ้มกัน
00:13:13 → 00:13:16 ถึงทำร้ายเนี่ยเราไม่รู้นะครับที่นี่
00:13:16 → 00:13:19 อาการของผู้ป่วยก็จะมีอาการทางระบบทาง
00:13:19 → 00:13:21 เดินอาหารนะครับเป็นอาการเด็ดอาการก็จะมี
00:13:21 → 00:13:23 เรื่องของอาการปวดท้องนะครับมีอาการท้อง
00:13:23 → 00:13:25 เสียบางคนนั้นก็จะมีถ่ายบนเรื่องมาด้วย
00:13:25 → 00:13:29 ที่นี่ความรุนแรงของการอักเสบมันก็มีได้
00:13:29 → 00:13:31 หลากหลายนะคะบางคนนะคะก็จะเป็นไม่มากแต่
00:13:31 → 00:13:33 หลายคนอาการก็เป็นมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
00:13:33 → 00:13:36 ยิ่งเป็นนานแล้วก็เป็นมากขึ้นเรื่อยๆจน
00:13:36 → 00:13:39 กระทั่งมีภาวะเหมือนกับ 4 นะครับเพราะว่า
00:13:39 → 00:13:41 มีการเสียเลือดในทางเดินอาหารอย่างต่อ
00:13:41 → 00:13:43 เนื่องเป็นระยะยาวนานก็จะทำให้มีอาการรู้
00:13:43 → 00:13:46 สึกเหนื่อยง่ายอ่อนเพลียเกิดขึ้นมาได้แต่
00:13:46 → 00:13:48 ในบางรายนะครับอาการเนี่ยมันรุนแรงกว่า
00:13:48 → 00:13:50 นั้นนะครับอาการที่ว่าดูแลเนี่ยมันถึง
00:13:50 → 00:13:52 ขั้นที่เรียกว่าเหมือนกับท้องเสียตลอด
00:13:52 → 00:13:54 เวลานะครับคือว่านึงเดี๋ยวถ่ายวัน 20
00:13:54 → 00:13:57 ครั้ง 30 ครั้งถ่ายเป็นน้ำนะครับถ่ายเหลว
00:13:57 → 00:13:59 ปวดท้องตลอดเวลาแล้วก็ไปไหนไม่ได้เลยนะ
00:13:59 → 00:14:01 ครับก็คือพูดง่ายๆคือไม่สามารถออกจากบ้าน
00:14:01 → 00:14:04 ได้เพราะว่าต้องเข้าห้องน้ำแต่เวลาแล้วก็
00:14:04 → 00:14:07 หลายคนไม่ตอบสนองต่อการรักษาจนบางคนนะ
00:14:07 → 00:14:09 ครับถึงขั้นที่ต้องตัดลำไส้ทิ้งเลยนะครับ
00:14:09 → 00:14:11 เพราะเราใช่มันมีการเกษตรเกิดขึ้นบ่อยมาก
00:14:11 → 00:14:13 เราต้องเอาผนังลำไส้ส่วนที่เหลือได้มา
00:14:13 → 00:14:16 เปิดที่หน้าท้องแล้วก็ขับถ่ายธนทองเพราะ
00:14:16 → 00:14:18 ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนะครับยังเป็นการ
00:14:18 → 00:14:21 รักษาเดียวที่ทำได้ที่จะทำให้ผู้ป่วยไม่
00:14:21 → 00:14:24 เสียชีวิตคำถามนะครับก็คือว่าอะไรนะครับ
00:14:24 → 00:14:26 ที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบอย่างที่บอกนะ
00:14:26 → 00:14:28 ครับเรายังไม่รู้นะครับว่าอะไรเป็นตัว
00:14:28 → 00:14:29 กระตุ้นนะครับก็รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกัน
00:14:29 → 00:14:32 บอกภูมิคุ้มกันที่มันโจมตีตัวลำไส้นะครับ
00:14:32 → 00:14:35 ที่นี่มันก็มีหลายสวัสดีขานะครับเช่นแต่
00:14:35 → 00:14:37 เดิมเนี่ยเคยมีความเชื่อว่ามันอาจจะ
00:14:37 → 00:14:39 เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเมียจ๋านะครับ
00:14:39 → 00:14:41 แต่เราก็หาไม่พบว่าการจะเชื่อที่ว่ามัน
00:14:41 → 00:14:44 คืออะไรนะครับและที่น่าสนใจก็คือว่าเมื่อ
00:14:44 → 00:14:46 มีคนป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
00:14:47 → 00:14:49 ก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เปิดโลกนี้มากจะ
00:14:49 → 00:14:52 เป็นคนที่มีฐานะดีนะคะมีการศึกษาสูงแล้ว
00:14:52 → 00:14:53 ก็อย่างที่บอกนะครับในประเทศที่พบโรคนี้
00:14:53 → 00:14:56 มากขึ้นเนี่ยก็มักจะเป็นประเทศที่มีการ
00:14:56 → 00:14:58 พัฒนาทางเศรษฐกิจนะครับดีขึ้นเร็วก็คือ
00:14:59 → 00:15:01 ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นนะครับการ
00:15:01 → 00:15:04 สาธารณสุขมูลฐานอ่ะแต่ในดีขึ้นคนร่ำรวย
00:15:04 → 00:15:07 มากขึ้นก็พบพวกนี้มากขึ้นนอกเหลือจากนั้น
00:15:07 → 00:15:10 นะครับก็มีสมมุติฐานว่าว่าอาจจะเป็น
00:15:10 → 00:15:12 เรื่องของสารเคมีนะครับเราไปเรื่องของ
00:15:12 → 00:15:13 โลหะหนักที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะ
00:15:13 → 00:15:16 กระตุ้นให้ผู้การของเราเนี่ยโจมตีลำไส้
00:15:16 → 00:15:18 ของเราเองหรือแม้กระทั่งเรื่องของจิตใจนะ
00:15:18 → 00:15:20 ครับก็อยู่ในซองอธิษฐานนะครับบางคนก็ชื่อ
00:15:20 → 00:15:22 ว่าเกี่ยวข้องกับความเครียดหรือว่าเกี่ยว
00:15:22 → 00:15:24 ข้องกับภาวะซึมเศร้าที่พบมากขึ้นในสังคม
00:15:24 → 00:15:27 และแน่นอนนะครับก็มีเรื่องของพันธุกรรม
00:15:27 → 00:15:29 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะว่าจะพบว่าโรค
00:15:29 → 00:15:32 นี้หลายครั้งพบในครอบครัวนะครับก็คือว่า
00:15:32 → 00:15:34 ถ้ามีใครในครอบครัวเป็นเนี่ยคนในครอบครัว
00:15:34 → 00:15:35 ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้เนี่ย
00:15:35 → 00:15:38 เพิ่มขึ้นมากกว่าประชากรทั่วไปและอีก 1 ป
00:15:38 → 00:15:40 และที่สำคัญนะครับก็คือว่าปัจจุบันอย่าง
00:15:40 → 00:15:43 มีข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆนะครับว่าโรคนี้
00:15:43 → 00:15:46 เกี่ยวข้องกับการเสียสมดุลนะครับของ
00:15:46 → 00:15:49 แบคทีเรียในลำไส้ของเราด้วยแล้วการที่โลก
00:15:49 → 00:15:50 นี้เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียในลำไส้นะครับ
00:15:51 → 00:15:53 การจะเป็นคำ 7 อธิบายได้ว่าทำไมโลกนี้ถึง
00:15:53 → 00:15:55 ได้พบมากขึ้นเรื่อยๆในยุคปัจจุบันนะครับ
00:15:55 → 00:15:58 โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้วหรือว่าพัฒนา
00:15:58 → 00:16:00 เร็วที่คุยไปก่อนหน้ามันก็เลยเกิดคำถาม
00:16:00 → 00:16:02 ที่น่าสนใจขึ้นมาคำถามหน่อยนะครับว่าแล้ว
00:16:02 → 00:16:05 แต่เคลียร์นำไส้เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับ
00:16:05 → 00:16:09 ระบบภูมิคุ้มกันได้ยังไง
00:16:09 → 00:16:12 แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องนั้นนะครับ
00:16:12 → 00:16:14 ผมอยากจะพูดถึงเรื่องของโลกชื่อว่า Auto
00:16:14 → 00:16:17 มูล dcs หรือว่าโลกที่ระบบกันจะโจมตีร่าง
00:16:17 → 00:16:19 กายของเราสักเล็กน้อยนะครับโรค Auto
00:16:19 → 00:16:22 bonuses ต่างๆนะครับหลายๆโลกเนี่ยเพิ่ม
00:16:22 → 00:16:25 จำนวนมากขึ้นเช่นกันนะครับโดยเฉพาะในช่วง
00:16:25 → 00:16:28 ประมาณซัก 40-50 ปีที่ผ่านมาทำให้เชื่อนะ
00:16:28 → 00:16:30 ครับหรือว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นนะ
00:16:30 → 00:16:33 ครับว่าการที่โรคเหล่านี้เพิ่มขึ้นเนี่ย
00:16:33 → 00:16:35 มีโอกาสที่มันจะเกี่ยวข้องกับแบตทีเรีย
00:16:35 → 00:16:38 ที่อยู่ในลำไส้ของเราได้เช่นกันเพราะขอ
00:16:38 → 00:16:40 โต้บอดี้อันนี้นะครับถ้าจากใจออกมาเนี่ย
00:16:40 → 00:16:43 จะบอกว่ามันมีเยอะมากเลยนะคะจะมีถึง 70
00:16:43 → 00:16:45 ถึง 80 โลกนะครับหรืออาจจะมากกว่านั้นเลย
00:16:45 → 00:16:48 ลงแต่เมื่อขึ้นว่าระบบ Hook กันเดี๋ยวมัน
00:16:48 → 00:16:51 โจมตีไปที่ไหนนะครับเช่นถ้ามันโจมตีไปที่
00:16:51 → 00:16:53 ผนังของลำไส้นะครับก็จะเกิดโรคที่เรียก
00:16:53 → 00:16:55 ว่าตามแจ้งเสียบหลังๆนะครับอย่างที่คุย
00:16:55 → 00:16:57 กันไปก็คือทำไมทวี bowel disease นะครับ
00:16:57 → 00:17:00 แต่ถ้าระบบคู่กันในมันโจมตีมาที่ตัวตับ
00:17:00 → 00:17:03 อ่อนของเรานะครับโดยเฉพาะเล่นเด็กเนี่ยก็
00:17:03 → 00:17:05 จะทำให้ตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้
00:17:05 → 00:17:07 ก็จะเกิดโรคประวัติชนิดที่หนึ่งที่เราเคย
00:17:07 → 00:17:09 คุยกันไปตอนที่เราคุยเรื่องของโรคเบาหวาน
00:17:10 → 00:17:12 นะครับหรือถ้าระบบภูมิคุ้มกันในมันโจมไป
00:17:12 → 00:17:14 ที่ตอบไทรอยด์นะครับตอนที่เราได้อยู่แถวๆ
00:17:14 → 00:17:17 คอเนี่ยก็อาจจะทำให้เกิดโรคของต่อม
00:17:17 → 00:17:19 ไทรอยด์ได้ซึ่งมันก็จะมีอยู่ 2 โลกด้วย
00:17:19 → 00:17:21 กันนะครับซึ่งมีรูปแบบที่ต่างกันโรคนึงนะ
00:17:21 → 00:17:24 ครับเป็นโรคที่มีชื่อว่าแปรง theses นะ
00:17:24 → 00:17:27 ครับคนที่เปิดโลกนี้และเมื่อโดนภูมิคุ้ม
00:17:27 → 00:17:29 กันเนี่ยไปไปเกาะนะครับจะกระตุ้นให้ต่อม
00:17:29 → 00:17:31 ไทรอยด์ทำงานมากขึ้นก็เกิดภาวะไทรอยด์
00:17:31 → 00:17:35 เป็นพิษขึ้นมาแต่ไปทางตรงกันข้ามนะครับ
00:17:35 → 00:17:38 มันก็มีโรคที่ทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำ
00:17:38 → 00:17:40 งานพี่น้องนะครับมีชื่อว่าฮาชิมะตกแค่ราย
00:17:40 → 00:17:44 ได้เต็ดนะครับก็คือว่าตัวผมไปในมันทำลาย
00:17:44 → 00:17:47 ต่อมไทรอยด์ทำให้เราสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน x
00:17:47 → 00:17:50 ตีน้อยลงถ้าภูมิคุ้มกันนะครับมันโจมตีไป
00:17:50 → 00:17:53 ที่ตามเยื่อหุ้มข้อนะครับโดยเฉพาะพอตาม
00:17:53 → 00:17:56 ข้อนิ้วมือนะครับพอดูเท้าเนี่ยว่าข้อเข่า
00:17:56 → 00:17:59 ก็จะเกิดโรคที่มีชื่อว่าโรคข้ออักเสบรูมา
00:17:59 → 00:18:01 ตอยด์นะครับหรือว่ารูมาตอยด์อ่ะไทยเต็ด
00:18:01 → 00:18:04 ซิ่งลบโรคนี้นะคะมันก็จะว่าจะลุกลามจน
00:18:04 → 00:18:07 กระทั่งทำลายกระดูกและข้อต่างๆของเราได้
00:18:07 → 00:18:09 หรือถ้าระบบภูมิคุ้มกันนะครับมันโจมตีพิษ
00:18:09 → 00:18:12 ที่เยื่อหุ้มประสาทนะครับก็คือตัวปะติด
00:18:12 → 00:18:14 เส้นประสาทของเรามันจะมีตัวเยื่อหุ้มอยู่
00:18:14 → 00:18:16 นะครับเป็นไขมันเป็นเหมือนเป็นปลอกผมอยู่
00:18:16 → 00:18:19 คัดตัวปลอกหุ้มเนี้ยนะคะมันโดนโจมตีด้วย
00:18:19 → 00:18:22 ระบบคุมการเนี่ยจะเกิดโรคที่มีชื่อว่า
00:18:22 → 00:18:26 Morris นะครับซึ่งก่อโรคนี้เนี่ยอาการ
00:18:26 → 00:18:28 ของผู้ป่วยก็จะเป็นเรื่องของอาการทางระบบ
00:18:28 → 00:18:31 ประสาทก็ขึ้นกับว่าเราเส้นประสาทไหนที่
00:18:31 → 00:18:33 โดนโจมตีเราว่าโดนเส้นประสาทไหนที่เสีย
00:18:33 → 00:18:36 หายถ้าเป็นภาษาที่เกี่ยวข้องไปเลี้ยงตานะ
00:18:36 → 00:18:38 ครับหรือเกี่ยวข้องกับตานี้เขาจะทำมี
00:18:38 → 00:18:42 อาการต่อตามตามมวลนะครับว่าตาบอดได้หรือ
00:18:42 → 00:18:45 อาจจะเกิดเช่นภาษาทิศเลี้ยงตาแดกเสพถ้า
00:18:45 → 00:18:47 เป็นพวกเส้นประสาทที่ไปเอาที่อยู่แถวไข
00:18:47 → 00:18:49 สันหลังนะครับร้องจากไขสันหลังเนี่ยก็จะ
00:18:49 → 00:18:52 นำไปสู่อาการความแรงของแขนและก็ขาได้หรือ
00:18:52 → 00:18:55 ถ้าเป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันมันโจมตีเป็นที่
00:18:55 → 00:18:58 ผิวหนังนะครับว่าจะเกิดภาวะโรคนะครับชื่อ
00:18:58 → 00:19:00 ว่าโรคหนังแข็งนะครับหรือชื่อในภาษา
00:19:00 → 00:19:02 อังกฤษก็คือว่า suspicious นะครับนอกจาก
00:19:03 → 00:19:05 นี้กันอีกรอบนึงนะครับก็คือโรคสะเก็ดกัน
00:19:05 → 00:19:07 นะครับหรือที่ภาษาหรือว่า soulless นะ
00:19:07 → 00:19:09 ครับซึ่งผู้ป่วยก็จะมีอาการเหมือนกับผิว
00:19:09 → 00:19:11 หนังหรือในการลอกเป็นคุยนะครับเพราะว่า
00:19:11 → 00:19:14 เซลล์ที่หนังถูกกระตุ้นให้มีการสร้างตัว
00:19:14 → 00:19:16 ละแบ่งตัวนี้เพิ่มขึ้นเร็วนะครับอยู่หนัง
00:19:16 → 00:19:19 ก็จะลองคุยออกมาจะได้ที่เราทั้งหมดนะครับ
00:19:19 → 00:19:22 อยากเห็นเฉยว่าโรคในวันนี้เยอะมากนะครับ
00:19:22 → 00:19:24 ขึ้นกับว่าตัวภูมิคุ้มกันเนี่ยมันจะโจมตี
00:19:24 → 00:19:27 ที่อวัยวะไหนนะครับหรืออย่างในบางโลกนะ
00:19:27 → 00:19:29 ครับอยู่ตรง sle นะครับที่คนไทยรู้จักใน
00:19:29 → 00:19:31 ชื่อโรคพุ่มพวงนะครับเพราะว่าเคยเกิดขึ้น
00:19:31 → 00:19:34 กับอดีตนักร้องนะครับพุ่มพวงดวงจันทร์นะ
00:19:34 → 00:19:37 ครับโรคนี้ก็จะมีความผิดปกติของหลายระบบ
00:19:37 → 00:19:40 ด้วยนะครับก็คือจะมีต่อไปวายนะครับเรื่อง
00:19:40 → 00:19:42 ของตัวใครก็ดูนะครับที่ไม่สามารถสร้าง
00:19:42 → 00:19:45 เม็ดเลือดได้มีเรื่องของผิวหนังนะครับที่
00:19:45 → 00:19:48 เกิดของทีมนักเสพขึ้นมาแล้วก็อื่นๆอีก
00:19:48 → 00:19:51 หลายระบบนะครับทีนี้อย่างที่บอกไปก็คือ
00:19:51 → 00:19:53 ปัจจุบันเรายังไม่รู้ว่าอะไรนะคะที่ทำให้
00:19:53 → 00:19:55 ระบบภูมิคุ้มกันอย่ามาหันมาทำร้ายร่างกาย
00:19:55 → 00:19:57 ของเราเราก็ไม่รู้ว่าทำไมผมคุ้มกันแต่มัน
00:19:58 → 00:20:00 เลือกทำร้ายบางระบบหรือบางก็วัยวะแต่เรา
00:20:01 → 00:20:02 ก็รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายๆ
00:20:02 → 00:20:04 อย่างนะครับมันเป็นโรคที่ซับซ้อนตัวอย่าง
00:20:04 → 00:20:06 เช่นเรื่องของพันธุกรรมนะครับก็เพราะว่า
00:20:06 → 00:20:09 โลกหลายโลกเหนือมันออกพบว่าในครอบครัวนะ
00:20:09 → 00:20:12 ครับถ้ามีใครสักคนเป็นเนี่ยคนอื่นใน
00:20:12 → 00:20:14 ครอบครัวก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นมากขึ้น
00:20:14 → 00:20:16 หรือว่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมนนะครับโดย
00:20:16 → 00:20:18 เฉพาะเรื่องของฮอร์โมนเพศเพราะโรคกลุ่ม
00:20:18 → 00:20:20 นี้บางโลกเนี่ยจะพบเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้
00:20:20 → 00:20:23 ชายแล้วด้วยความที่โรคเหล่านี้นะครับมัน
00:20:23 → 00:20:25 เพิ่มขึ้นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเนี่ย
00:20:25 → 00:20:28 ทำให้ทางนักเรียนศาสตร์เชื่อว่ามันน่าจะ
00:20:28 → 00:20:30 มีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมในเข้ามาเกี่ยว
00:20:30 → 00:20:32 ข้องด้วยซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของสารเคมี
00:20:32 → 00:20:35 ต่างๆในสิ่งแวดล้อมนะครับเรื่องของเราหา
00:20:35 → 00:20:37 หนักเรื่องของอาหารการกินที่เปลี่ยนไป
00:20:37 → 00:20:39 แล้วก็ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ
00:20:39 → 00:20:42 จุลินทรีย์หรือแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่
00:20:42 → 00:20:44 เปลี่ยนไปโอเคพอเรารู้จักแล้วนะครับพอ
00:20:44 → 00:20:46 เห็นภาพนะครับว่าโลกที่ว่าโลกก็ตาม
00:20:46 → 00:20:48 disease ที่เหมือนกับพบมากขึ้นใน
00:20:48 → 00:20:51 ปัจจุบันเนี่ยมันมีลักษณะแบบไหนคราวนี้
00:20:51 → 00:20:53 เราจะมาตอบคำถามที่เราค้างกันไว้นะครับก็
00:20:53 → 00:20:55 คือว่าแบตเตอรี่ในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ย
00:20:55 → 00:20:58 มันมาเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของเรา
00:20:58 → 00:21:01 ได้ยังไง
00:21:01 → 00:21:04 ในการจะเข้าใจเรื่องนี้นะครับมันต้อง
00:21:04 → 00:21:06 เริ่มจากข้อเท็จจริง 2 ข้อก่อนข้อแรกก็
00:21:06 → 00:21:09 คือลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ยซึ่งเรารู้สึกว่า
00:21:09 → 00:21:12 มันเป็นอวัยวะที่อยู่ภายในจริงๆเป็น
00:21:12 → 00:21:14 อวัยวะที่สัมพันธ์กับโลกภายนอกนะครับคือ
00:21:14 → 00:21:17 สัมผัสกับโลกภายนอกเยอะมากซึ่งเดี๋ยวจะ
00:21:17 → 00:21:19 อธิบายให้ฟังข้อเท็จจริงที่สอนนะครับก็
00:21:19 → 00:21:21 คือในอวัยวะทั้งหลายแหล่ในร่างกายของเรา
00:21:21 → 00:21:24 นะครับลำไส้ใหญ่เป็นอวัยวะที่มีแบคทีเรีย
00:21:24 → 00:21:27 เนี่ยเข้ามาอาศัยอยู่ภายในเดือนมากที่สุด
00:21:27 → 00:21:29 แล้วตอนนี้เราจะมาดูกันนะครับทีละข้อนะ
00:21:29 → 00:21:31 ครับว่าข้อจริง 2 ข้อเนี่ยมันบอกอะไรเรา
00:21:31 → 00:21:33 บ้างนะครับข้อแรกสุดนะครับที่บอกว่าลำไส้
00:21:33 → 00:21:35 ของเรานะเพื่อนได้วัดที่สัมผัสกับโลกภาย
00:21:35 → 00:21:38 นอกมากเนี่ยมันหมายความว่าอย่างนี้ครับ
00:21:38 → 00:21:41 มีสติระลึกถึงลำไส้แล้วก็เพราะอาหารต่างๆ
00:21:41 → 00:21:44 มันเป็นระยะที่อยู่ภายในร่างกายของเราได้
00:21:44 → 00:21:47 จริงๆคิดดูนะครับก็คือว่าพื้นที่ผิวนะ
00:21:47 → 00:21:49 ครับภายในโพรงของตัวทางเดินอาหารของเรา
00:21:49 → 00:21:52 เนี่ยมันสัมผัสกับอาหารตลอดเวลาถูกไหม
00:21:52 → 00:21:54 ครับซึ่งปัจจุบันมีการปนเปื้อนของเชื้อไป
00:21:54 → 00:21:57 เที่ยวต่างๆก็จะเข้าไปสัมผัสกับผนังภายใน
00:21:57 → 00:22:01 ของลำไส้ของเราดังนั้นนะครับก็คือภายใน
00:22:01 → 00:22:03 ทางเดินหาของเราแล้วมันก็เหมือนเป็นด่าน
00:22:03 → 00:22:05 หน้านะครับที่คอยสัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ
00:22:05 → 00:22:08 หรือว่าสิ่งแปลกปลอมที่มาจากภายนอกเพราะ
00:22:08 → 00:22:10 ฉะนั้นตัวลำไส้เราจะต้องเหมือนก็มีประการ
00:22:10 → 00:22:12 มีคนไกลนะครับที่ป้องกันไม่ให้ตัวพวกไป
00:22:12 → 00:22:15 เที่ยวต่างๆจะได้ซึ่งต่างๆเนี่ยมาสามารถ
00:22:15 → 00:22:17 เจาะทะลุผนังลำไส้ในเข้าไปได้ง่ายเพราะจะ
00:22:17 → 00:22:19 เข้าไปได้ก็จะเข้าไปในเส้นเลือดของเราได้
00:22:19 → 00:22:21 นะครับแล้วก็นำไปสู่ภาวะการติดเชื้อใน
00:22:21 → 00:22:23 เส้นเลือดได้และด้วยเหตุนี้นะครับตัวผนัง
00:22:24 → 00:22:26 ลำไส้เนี่ยมันก็มีความสามารถที่จะคอยแยก
00:22:26 → 00:22:28 ว่าสิ่งที่เข้ามาภายในลำไส้เนี่ยมันเป็น
00:22:28 → 00:22:31 สิ่งที่ปลอดภัยหรือเปล่ามีประโยชน์กับ
00:22:31 → 00:22:33 ร่างกายเราหรือเปล่าถ้ามีประโยชน์หรือไม่
00:22:33 → 00:22:36 ค่อยเลือกที่ดูดซึมเข้าไปแล้ว 1 วิธีการ
00:22:36 → 00:22:38 ที่ตัวผนังลำไส้ของเราป้องกันไม่ให้ตัวไป
00:22:38 → 00:22:42 เคลียร์ 6 เข้าไปก็คือว่ามันจะมีการนำพวก
00:22:42 → 00:22:44 เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันในจำนวนมากเนี่ยมา
00:22:44 → 00:22:47 ประจำการอยู่ที่ประเวณที่ผิวของผนังลำไส้
00:22:47 → 00:22:49 ของเราแล้วเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่
00:22:49 → 00:22:52 เข้ามาสายอยู่เยอะจนกระทั่งอาจจะได้ว่าลำ
00:22:52 → 00:22:54 ไส้ใหญ่ของเราเนี่ยเป็นอวัยวะที่อยู่ใน
00:22:54 → 00:22:56 ระบบภูมิคุ้มกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน
00:22:56 → 00:22:58 ร่างกายก็ว่าได้คราวนี้นะครับเรามาคุยถึง
00:22:58 → 00:23:01 ภูมิคุ้มกันนิดนึงสมัยเกาะเนี่ยเวลาเรา
00:23:01 → 00:23:04 เทียบเรานิยมที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันเหมือน
00:23:04 → 00:23:06 เป็นกองทัพของร่างกายที่ทำหน้าที่ป้องกัน
00:23:06 → 00:23:08 ไม่ให้แบคทีเรียเข้ามาทุกร้านในร่างกาย
00:23:08 → 00:23:11 ของเรานี่ในการทำงานของมันเนี่ยมันก็ต้อง
00:23:11 → 00:23:14 แยกก่อนว่าเซลล์ที่มันเผชิญหน้ามันเห็น
00:23:14 → 00:23:15 เนี่ยมันคือเซลล์ร่างกายของเราหรือเปล่า
00:23:16 → 00:23:17 หรือเป็นเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอื่นหรือว่า
00:23:17 → 00:23:20 เป็นเซลล์แบคทีเรียหรือว่าสิ่งแปลกปลอม
00:23:20 → 00:23:22 เหมือนอื่นๆแต่ถ้าเซลล์ภูมิคุ้มกันมอง
00:23:22 → 00:23:23 แล้วว่านี่ไม่ใช่เซลล์ที่เป็นร่างกายของ
00:23:23 → 00:23:26 เรามันก็จะโจมตีเซลล์นั้นแต่มันก็มีปัญหา
00:23:26 → 00:23:28 อยู่ว่าภายในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ยจะไม่
00:23:28 → 00:23:30 ได้แบคทีเรียอาศัยอยู่มากมายถูกไหมครับ
00:23:30 → 00:23:32 เพราะที่เราคุยกันมาตลอดก็คือว่าไปช่วย
00:23:32 → 00:23:35 เราเนี่ยมันไม่ใช่ศัตรูนะครับก็คือมัน
00:23:35 → 00:23:37 เข้ามาใส่อยู่ในร่างกายของเราแล้วมันก็มี
00:23:37 → 00:23:39 ประโยชน์กับร่างกายของเราด้วยณที่นี้
00:23:39 → 00:23:41 ปัญหาก็ถือว่าครับระบบภูมิคุ้มกันบอกว่า
00:23:41 → 00:23:43 เนี่ยเป็นเซลล์อื่นนะครับเสียงที่ไม่ใช่
00:23:43 → 00:23:46 ร่างกายของเราแล้วมันโจมตีเนี่ยคนที่เกิด
00:23:46 → 00:23:48 ขึ้นก็คือมันจะทำลายแบคทีเรียเหล่านี้นะ
00:23:48 → 00:23:49 ครับซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์กับ
00:23:50 → 00:23:52 ร่างกายของเราและยิ่งไปกว่านั้นก็คือถ้า
00:23:52 → 00:23:55 มันเลือกที่จะโจมตีนะครับก็คือมันใช้พวก
00:23:55 → 00:23:58 สารเคมีต่างๆค่ะเหมือนระดมยิงหรือว่าถล่ม
00:23:58 → 00:24:00 ระเบิดเข้าใส่ทุเรียนเนี่ยผลที่เกิดขึ้น
00:24:00 → 00:24:02 ตามมาก็คือว่าจะเกิดการอักเสบครั้งใหญ่
00:24:02 → 00:24:05 เลยนะครับขึ้นในลำไส้ใหญ่ของเราเพราะว่า
00:24:05 → 00:24:08 เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันในการโจมตีแน่นอนก็
00:24:08 → 00:24:10 คือเหมือนกันทำสงครามว่าคือมันจะทำให้
00:24:10 → 00:24:13 บ้านเรือนรอบๆเสียหายจากสาร Kim Young
00:24:13 → 00:24:15 ต่างที่มันหลังออกมาเพื่อที่จะฆ่าพวก
00:24:15 → 00:24:18 เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆดังนั้นนะครับจะเห็น
00:24:18 → 00:24:20 ว่าการเปรียบเทียบว่าระบบภูมิคุ้มกันเป็น
00:24:20 → 00:24:23 เหมือนทหารเราจงคอยโจมตีอย่างเดียวเนี่ย
00:24:23 → 00:24:26 มันจึงไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่แต่ยังไง
00:24:26 → 00:24:28 ก็ตามนะครับแบตเตอรี่ที่อยู่ในลำไส้ของ
00:24:28 → 00:24:30 เราเนี่ยเราต้องเข้าใจก่อนว่าว่าเป็นธุระ
00:24:30 → 00:24:32 เหล่านี้จริงๆก็ไม่ใช่เพื่อนของเรานะครับ
00:24:32 → 00:24:34 หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากับไป
00:24:34 → 00:24:36 ทุเรียนนะมันจะไหมครับศัตรูที่ไม่มีทาง
00:24:36 → 00:24:40 เลือกนะครับแต่ว่าถ้าอยู่ด้วยกันนะครับ
00:24:40 → 00:24:42 อยู่ด้วยกันไปเกาะนะอาจจะบอกว่ามันก็ไป
00:24:42 → 00:24:44 ศัตรูที่เป็นติดเกาะอยู่ร่วมกันก็ได้ก็
00:24:44 → 00:24:46 คือเราไม่สามารถจะต่อสู้กันได้เราต้อง
00:24:46 → 00:24:49 ช่วยเหลือกันไปก่อนเพราะถ้ามองในมุมของ
00:24:49 → 00:24:51 แบคทีเรีย n สิ่งที่มันต้องการก็คือมัน
00:24:51 → 00:24:53 ต้องการทรัพยากรต่างๆก็คือเรื่องของอาหาร
00:24:53 → 00:24:56 เรื่องของที่อยู่ทำมาหากินภายในลำไส้ของ
00:24:56 → 00:24:58 เราแต่แบคทีเรียเนี่ยมันก็ต้องแข่งกันเอง
00:24:58 → 00:25:00 ถูกไหมครับแต่นั้นแบคทีเรียไหนก็ตามที่
00:25:00 → 00:25:03 มันเหมือนครับมีแนวโน้มจะกินลึกกว่านะ
00:25:03 → 00:25:06 ครับหรือว่ากินมูมมามกว่าเนี่ยก็มีโอกาส
00:25:06 → 00:25:08 ที่จะชนะแบตเตรียมตัวอื่นซึ่งแน่นอนว่า
00:25:08 → 00:25:11 ถ้ามองในมุมของร่างกายเรานะครับหรือมองใน
00:25:11 → 00:25:13 ระบบภูมิคุ้มกันของเราเนี่ยเราก็ไม่
00:25:13 → 00:25:15 ต้องการให้แบตเตรียมทำงานอย่างนั้นก็บอก
00:25:15 → 00:25:17 พบกันเนี่ยต้องการที่จะให้มีกันคงระยะ
00:25:17 → 00:25:19 ห่างระหว่างเซลล์ของร่างกายมนุษย์กับไป
00:25:19 → 00:25:22 เที่ยวทั้งหลายให้ทางไว้ประมาณระดับหนึ่ง
00:25:22 → 00:25:25 ไม่ให้พวกแบบทีเดียวมันรุกล้ำเข้ามามาก
00:25:25 → 00:25:27 เกินไปแต่มันจะเห็นว่าความสัมพันธ์
00:25:27 → 00:25:29 ระหว่าง Bentley นำไส้ของเรานะครับกับตัว
00:25:29 → 00:25:32 ระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยมันก็ไม่ใช่เป็น
00:25:32 → 00:25:34 เพื่อนที่ดีต่อการทำเหมือนกับเป็นจะรู้
00:25:34 → 00:25:36 ว่ามันเป็นสงครามเย็นอยู่ก็ได้ก็คือต่าง
00:25:36 → 00:25:38 ฝ่ายโจทก์จะต้องๆกันอยู่นะครับถ้ามีมี
00:25:38 → 00:25:41 อะไรแต่ละฝ่ายเนี่ยก็มีโอกาสที่จะรุกนะ
00:25:41 → 00:25:44 ครับเข้าไปในดินได้ของอีกฝ่ายนึงมากขึ้น
00:25:44 → 00:25:46 แต่ได้คนประดิษฐ์ทั่วไปนะครับมันจะไม่
00:25:46 → 00:25:48 เข้าไปที่เรียกระบบภูมิคุ้มกันของเรา
00:25:48 → 00:25:51 เนี่ยมันเหมือนก็จะสามารถเจรจานะครับแล้ว
00:25:51 → 00:25:54 ก็หาข้อตกลงที่ลงตัวนะครับแล้วได้
00:25:54 → 00:25:55 ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายคือจะเรียกว่ามันอยู่
00:25:55 → 00:25:58 ในจุดที่สมดุลจุดหนึ่งก็ได้อย่างไรก็ตาม
00:25:58 → 00:26:01 นะครับสมดุลจุดนี้เนี่ยมันอาจจะไม่คงที่
00:26:01 → 00:26:04 ตลอดไปเหมือนกับว่าถ้าเทียบกับสงครามเย็น
00:26:04 → 00:26:06 น่ะจะบอกว่าบางครั้งเนี่ยอาจจะมีเหตุ
00:26:06 → 00:26:08 การณ์ตึงเครียดขึ้นมาได้แล้วก็จะมีอัน
00:26:08 → 00:26:10 กระทบกระทั่งเกิดขึ้นเช่นแบคทีเรียที่
00:26:10 → 00:26:12 อยู่ในลำไส้ใหญ่หรือว่าจะมีการเปลี่ยน
00:26:12 → 00:26:15 แปลงอย่างเกิดขึ้นแล้วทำให้ไปเรียนมีความ
00:26:15 → 00:26:18 ก้าวร้าวมากขึ้นและพยายามที่จะลุกล้ำค่า
00:26:18 → 00:26:21 มากขึ้นแน่นอนว่าภูมิคุ้มกันของเรานั้นก็
00:26:21 → 00:26:24 จะต้องตื่นตัวแล้วก็ตอบสนองกลับไปซึ่งใน
00:26:24 → 00:26:25 การต่อสู้อ้วนที่เกิดขึ้นเนี่ยมันก็จะนำ
00:26:25 → 00:26:28 ไปสู่ภาวะการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในลำไส้
00:26:28 → 00:26:31 ของเราดังนั้นคำถามที่น่าสนใจก็คือว่า
00:26:31 → 00:26:33 แล้วอะไรบ้างนะครับที่ทำให้เกิดเหมือนกับ
00:26:33 → 00:26:36 เสียความสมดุลระหว่างไปเคลียร์ในลำไส้กับ
00:26:36 → 00:26:38 ระบบภูมิคุ้มกันของเราได้บ้างคำตอบนะและ
00:26:38 → 00:26:41 ก็เหมือนกับที่เราเคยคุยกันไปในหลายไปสด
00:26:41 → 00:26:43 ก่อนหน้านะครับคือไม่มีปัจจัยหลายอย่าง
00:26:43 → 00:26:45 ที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:26:45 → 00:26:47 ของอาหารที่เรากินนะครับก็คือเรื่องของ
00:26:47 → 00:26:50 การกินพวกใยอาหารน้อยนะครับกินพวกน้ำตาล
00:26:50 → 00:26:52 หรือไขมันสูงเพื่อจะเป็นเรื่องของปัจจัย
00:26:52 → 00:26:54 ทางจิตใจก็เกี่ยวข้องด้วยนะครับเช่น
00:26:54 → 00:26:57 เรื่องของความเครียดต่างๆนะครับอาจจะนำไป
00:26:57 → 00:27:00 สู่ภาวะการอักเสบในลำไส้ได้จะได้คุยมาถึง
00:27:00 → 00:27:02 ตรงนี้นะครับคิดว่าน่าจะพอเห็นภาพนะครับ
00:27:02 → 00:27:04 ว่าแบตช่วยในลำไส้ใหญ่มันไปเกี่ยวข้องกับ
00:27:05 → 00:27:07 ระบบของการได้ยังไงนะครับและนำไปสู่ภาวะ
00:27:07 → 00:27:09 การอักเสบที่เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ได้อย่าง
00:27:09 → 00:27:11 ไรคำถามต่อไปก็คือรับภาวะการเกษตรนะครับ
00:27:11 → 00:27:13 ที่เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่เนี่ยรู้ไปเคลียร์
00:27:13 → 00:27:16 กับภูมิคุ้มกันในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันไปมีผล
00:27:16 → 00:27:19 ต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในส่วนอื่น
00:27:19 → 00:27:24 ของร่างกายได้ยังไงกับ
00:27:24 → 00:27:27 คำอธิบายนะครับก็คือว่าสงครามหรือว่าการ
00:27:27 → 00:27:29 ปะทะกันที่เกิดขึ้นลำไส้ใหญ่นะครับมันไม่
00:27:29 → 00:27:32 ได้จบลงแค่ในลำไส้ใหญ่แต่เซลล์ในระบบภูมิ
00:27:32 → 00:27:34 คุ้มกันเดี๋ยวมาสามารถที่จะเข้าไปในกระแส
00:27:34 → 00:27:36 เลือดนะครับหรือว่าสารการเกษตรต่างๆที่
00:27:36 → 00:27:38 เกิดขึ้นลำไส้เนี่ยมันสามารถเข้าในเจาะ
00:27:38 → 00:27:41 เลือดแล้วก็ไหลเวียนไปตามที่ต่างๆของร่าง
00:27:41 → 00:27:44 กายได้ที่นี่คำถามว่าร่างกายเราทำอย่าง
00:27:44 → 00:27:46 นั้นเพื่ออะไรนะครับจริงมันเป็นคนใครที่
00:27:46 → 00:27:49 ดีนะครับเพราะอย่างนี้ครับคือนึกภาพนะ
00:27:49 → 00:27:51 ครับว่ามันมีความสุขว่าตัวดอกคู่กันเนี่ย
00:27:51 → 00:27:54 มันมาต่อสู้กับพวกเป็นทุเรียนนำไส้แล้ว
00:27:54 → 00:27:56 เนี่ยเราว่าพวกเชื้อโรคที่บุกเข้ามาแล้ว
00:27:56 → 00:28:00 แล้วมันมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นส่วนนึงจะ
00:28:00 → 00:28:02 ส่งเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยเข้าใน
00:28:02 → 00:28:04 กระแสเลือดนะครับแล้วก็ไหลเวียนเลือดจะ
00:28:04 → 00:28:07 พูดง่ายว่าส่งทหารที่มีประสบการณ์ในการ
00:28:07 → 00:28:10 ต่อสู้สมรภูมินี้มาแล้วเนี่ยคือเห็นหน้า
00:28:10 → 00:28:13 ตาคู่ต่อสู้มาแล้วเคยปะทะมาแล้วเนี่ยส่ง
00:28:13 → 00:28:15 เข้าไปในเลือดให้เป็นลาดตระเวนตามส่วน
00:28:15 → 00:28:17 ต่างๆของร่างกายแล้วเซลล์นะครับเหล่านี้
00:28:17 → 00:28:19 นะครับก็จะไหลวิ่งไปทำที่หน้าต่างของร่าง
00:28:19 → 00:28:23 กายรวมถึงพวกสารการเกษตรต่างๆด้วยซึ่งมัน
00:28:23 → 00:28:26 ก็จะมีประโยชน์ถ้ามันมีการรถรอดของ
00:28:26 → 00:28:28 แบตเตอรี่นะเข้าไปในร่างกายได้แต่ถ้าภาวะ
00:28:28 → 00:28:31 นี้มันเกิดมากเกินไปนะครับอย่างที่บอกไป
00:28:31 → 00:28:33 ก็คือว่าสมุดได้ลำไส้เราเกิดเสียสมดุล
00:28:33 → 00:28:36 ขึ้นมาแล้วการปะทะและการต่อสู้เนี่ยมัน
00:28:36 → 00:28:37 ไม่ได้จบลงสั้นๆแต่มันเป็นอย่างเรื้อรัง
00:28:37 → 00:28:40 นะครับมีการอักเสบที่เกิดขึ้นเนี่ยมันก็
00:28:40 → 00:28:42 จะรู้ว่าเค้าในเลือดในอย่างต่อเนื่องตลอด
00:28:42 → 00:28:45 เวลาเซลล์อักเสบต่างๆสร้างเสร็จต่างๆ
00:28:45 → 00:28:47 เนี่ยมันก็จะได้วิ่งในเลือดอยู่ตลอดเวลา
00:28:47 → 00:28:50 นะครับทำให้เกิดภาวะการเกษตรในเลือดได้
00:28:50 → 00:28:52 มากขึ้นแล้วศาลอักเสบต่างๆเหล่านี้นะครับ
00:28:52 → 00:28:54 ที่ไหลเวียนอยู่เนี่ยมันก็สามารถก่อให้
00:28:54 → 00:28:58 เกิดผลเสียกับส่วนต่างๆของร่างกายได้ที่
00:28:58 → 00:29:00 นี่นะครับถ้าเรามองในภาพใหญ่เนี่ยมันจะ
00:29:00 → 00:29:03 เหมือนกับว่าแตะชื่อในลำไส้ใหญ่ของเรา
00:29:03 → 00:29:06 เนี่ยมันสามารถที่จะควบคุมนะครับเพราะการ
00:29:06 → 00:29:08 ทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทั่วร่างกายได้
00:29:08 → 00:29:11 อาจจะมองว่ามันเหมือนกับมีคันเร่งอยู่ใน
00:29:11 → 00:29:13 ลำไส้ใหญ่ของเราเราควรที่คอยบังคับคัน
00:29:13 → 00:29:16 เร่งเนี่ยก็คือตัวแบคทีเรียน้ำไส้ของเรา
00:29:16 → 00:29:18 ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างไปเคลียร์ในลำไส้
00:29:18 → 00:29:20 ใหญ่กับเรื่องเซลล์ในระบบผู้การของเรา
00:29:20 → 00:29:23 เนี้ยออกค่อนข้างเป็นไปอย่างราบรื่นนะ
00:29:23 → 00:29:25 ครับเป็นไปได้ดีเนี่ยก็มันก็จะไม่ไป
00:29:25 → 00:29:28 กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันแต่ถ้า
00:29:28 → 00:29:30 มันมีเหตุการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนะ
00:29:30 → 00:29:32 คะแนนที่ว่าไปเนี่ยมันก็จะทำให้ระบบคุ้ม
00:29:32 → 00:29:34 กันทั่วร่างกายเดี๋ยวมันไม่กลับตื่นตัว
00:29:34 → 00:29:36 มากขึ้นและระบบภูมิคุ้มกันที่แต่ตัวมาก
00:29:36 → 00:29:39 ขึ้นนะครับก็จะนำไปสู่โรคคะข้อมูลต่างๆนะ
00:29:39 → 00:29:41 ครับที่พบมากขึ้นอย่างที่เราคุยกันไปแล้ว
00:29:41 → 00:29:43 ทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราวนะครับที่
00:29:43 → 00:29:45 อยากจะเล่าให้ฟังเรื่องที่สนนี้นะครับก็
00:29:45 → 00:29:48 คิดว่าน่าจะพอเห็นภาพแล้วนะครับว่าไปช่วย
00:29:48 → 00:29:50 นำใส่ของเราเดี๋ยวมันเกี่ยวข้องกับการทำ
00:29:50 → 00:29:53 งานของระบบภูมิคุ้มกันได้ยังไงแต่ก่อนจะ
00:29:53 → 00:29:56 จบนะครับผมก็อยากจะขอสรุปเรื่องราวที่เรา
00:29:56 → 00:29:57 คุยกัน 1 Episode นี้นะครับเป็นเขาเขา
00:29:57 → 00:30:00 ให้ใส่สักรอบนะครับอย่างแรกสุดเลยนะครับ
00:30:00 → 00:30:02 อาจจะพูดได้ว่าลำไส้ใหญ่ของเราและเป็นที่
00:30:02 → 00:30:04 อยู่ของ 2 กองทัพใหญ่ก็ได้นะครับที่เป็น
00:30:04 → 00:30:08 ชัดทรูกันกองทัพหนึ่งก็คือพวก 8 ชื่อทั้ง
00:30:08 → 00:30:10 สามที่อยู่ในลำไส้นะครับอีกกองทัพหนึ่งก็
00:30:10 → 00:30:13 คือระบบภูมิคุ้มกันนะครับของเราเองข้อที่
00:30:14 → 00:30:17 สองก็คือว่ากองทัพทั้งสองนี้นะครับออกแม้
00:30:17 → 00:30:19 ว่าจะอยู่กันอย่างสันติจริงแต่ว่าทั้งคู่
00:30:19 → 00:30:21 เนี่ยทั้ง 2 กองทัพเนี่ยก็ไม่ใช่เพื่อน
00:30:21 → 00:30:23 สนิทกันนะครับแต่เหมือนเป็นสงครามเย็นที่
00:30:23 → 00:30:27 ทั้งสองฝ่ายเนี่ยก็สามารถที่จะหาจุดลงตัว
00:30:27 → 00:30:31 แล้วก็คงสันติภาพก็ไม่ได้ก็ดีสามก็คือว่า
00:30:31 → 00:30:34 ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงของสมดุลของพวก
00:30:34 → 00:30:36 แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ของ
00:30:36 → 00:30:39 เรานะครับมาอาจจะนำไปสู่หนังสงครามเย็น
00:30:39 → 00:30:42 ที่มีความตึงเครียดมากขึ้นนะครับแล้วเกิด
00:30:42 → 00:30:45 การปะทะกันมากขึ้นทำให้เกิดภาวะการเกษตร
00:30:45 → 00:30:47 ในลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นได้ข้อที่ 4 นะครับ
00:30:47 → 00:30:49 เซลล์อักเสบละสารเกษตรต่างๆที่เกิดขึ้น
00:30:49 → 00:30:52 ภายในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันไม่ได้จำกัดอยู่
00:30:52 → 00:30:54 แค่ในลำไส้ใหญ่นะครับแต่มันสามารถที่จะ
00:30:54 → 00:30:56 หลุดรอดเข้าไปในกระแสเลือดนะครับและ
00:30:56 → 00:30:59 กระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกายได้เราก็
00:30:59 → 00:31:01 ทำให้เกิดภาวะการอักเสบในเลือดเพิ่มขึ้น
00:31:01 → 00:31:03 แล้วทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในวันนี้การทำ
00:31:03 → 00:31:06 งานที่เหมือนกับอะผิดปกติไปนะครับมีการ
00:31:06 → 00:31:08 เปลี่ยนตัวไหนมากขึ้นแล้วก็ได้ไปสู่ข้อ
00:31:08 → 00:31:10 ที่ 5 นะครับก็คือว่าการเดินแปลงทั้งหมด
00:31:10 → 00:31:13 ที่พูดมานะครับมันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
00:31:13 → 00:31:15 นะครับที่ทำให้โลกก็ต้องดูดีซีซั่นต่างๆ
00:31:15 → 00:31:18 เนี่ยเพิ่มมากขึ้นซึ่งอย่างที่ว่าไปเมื่อ
00:31:18 → 00:31:21 คือว่าทุกวันนี้เรายังไม่เข้าใจกลไกการ
00:31:21 → 00:31:22 เกิดของมันทั้งหมดนะครับก็คือมันเป็นโรค
00:31:22 → 00:31:25 ที่มีคนไทยซับซ้อนแล้วก็เชื่อว่ามีหลาย
00:31:25 → 00:31:27 ปัจจัยเนี่ยเกี่ยวข้องนะครับว่าจะเป็น
00:31:27 → 00:31:28 เรื่องของพันธุกรรมนะครับเรื่องของ
00:31:28 → 00:31:31 ฮอร์โมนเรื่องของขอสิ่งแวดล้อมนะครับว่า
00:31:31 → 00:31:33 จะเรื่องของโลหะหนักเรื่องของสารพิษต่างๆ
00:31:33 → 00:31:36 สิ่งแวดล้อมแล้วก็มีข้อมูลสับสนุนมากขึ้น
00:31:36 → 00:31:38 เรื่อยๆนะครับว่าโรคเขาจะบริษัทต่างๆที่
00:31:38 → 00:31:41 พบฮะเนี่ยน่าจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยน
00:31:41 → 00:31:43 แปลงของแบตเตอรี่นำสายของเราด้วยและนั่น
00:31:43 → 00:31:46 ก็เป็น 5 หัวข้อหลักๆนะครับที่เราคุยกัน
00:31:46 → 00:31:48 ไปในคลิปนี้นะครับแต่ก็จะจากกันไปนะครับ
00:31:48 → 00:31:50 ก็อย่างที่สัญญาไว้ตอนแรกนะครับว่าผมจะ
00:31:50 → 00:31:52 เล่าเกี่ยวกับบริษัทมดกัดให้ฟังนะครับ
00:31:52 → 00:31:55 เพื่อท่านใดสนใจนะครับเราไปทำความรู้จัก
00:31:55 → 00:31:57 กับบริษัทมดกัดกันนะครับถึงช่วงเวลาที่
00:31:57 → 00:32:00 สัญญากันไว้นะครับก็คือจะเล่าเกี่ยวกับ
00:32:00 → 00:32:02 ผู้สับสน Series ใน Chrome ไอโอมของเรานะ
00:32:02 → 00:32:05 ครับบริษัทมดกัดนะครับบริษัทรถกันนะครับ
00:32:05 → 00:32:07 เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยนักวิจัยนะคะ
00:32:07 → 00:32:09 เป็นทีนะคะยศาสตร์ที่เชี่ยวชาญทางด้าน
00:32:09 → 00:32:11 เทคโนโลยี Micro Bio นะครับจาก
00:32:11 → 00:32:14 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
00:32:14 → 00:32:17 บางมดนะครับโดยทางทีมของนักเรียนศาสตร์
00:32:17 → 00:32:20 ของมหาวิทยาลัยนะครับของบางบอนนะครับร่วม
00:32:20 → 00:32:23 มือกับภาคเอกชนก็คือบริษัทไบโอเทค Global
00:32:23 → 00:32:25 Survey ชั่นนะครับตั้งเป็นบริษัทใหม่
00:32:25 → 00:32:27 ขึ้นมานะครับแล้วก็ให้ชื่อว่าเป็นบริษัท
00:32:27 → 00:32:30 มดกัดนะครับเขาหมดเนี่ยมาจากคำว่าบางมดนะ
00:32:30 → 00:32:32 ครับส่วนคำว่ากัดนะครับจะอยู่ที่กัดเนี่ย
00:32:32 → 00:32:35 เป็นคำในภาษาอังกฤษนะครับที่นิยมใช้ในทาง
00:32:35 → 00:32:38 การแพทย์จะมีความหมายว่าลำไส้จะนี่บริษัท
00:32:38 → 00:32:40 มดกัดมีอะไรนะครับทั้งหมดการ์ดเนี่ยก็คือ
00:32:40 → 00:32:42 เปิดให้บริการนะครับตรวจแล้วก็วิเคราะห์
00:32:42 → 00:32:46 จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไปเพื่อให้คน
00:32:46 → 00:32:48 ที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณเนี้ยได้รู้ว่า
00:32:48 → 00:32:50 สภาวะของจุลินทรีย์นำไส้ของตัวเองเนี่ย
00:32:50 → 00:32:53 อยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับท่านไหนนะครับที่
00:32:53 → 00:32:55 สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม
00:32:55 → 00:32:58 เกี่ยวกับบริษัทมดกัดนะครับเช่นประโยชน์
00:32:58 → 00:33:00 ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไรบ้างนะครับ
00:33:00 → 00:33:02 แล้วก็ในการตรวจยังมีรายละเอียดอะไรบ้าง
00:33:02 → 00:33:04 ยังไงบ้างนะครับหรือว่าขั้นตอนในการตรวจ
00:33:04 → 00:33:07 มันมีรายละเอียดอะไรบ้างผมจะแปะลิงค์ไว้
00:33:07 → 00:33:09 ใต้ Description นะครับหรือว่าเอาไว้ใน
00:33:09 → 00:33:12 ช่องคอมเม้นต์นะครับใครสนใจในก็ลองติดต่อ
00:33:12 → 00:33:15 ไปคุยเพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะว่าถ้าบอก
00:33:15 → 00:33:16 ความรู้ทางด้านนี้มันเปลี่ยนเร็วมากนะ
00:33:16 → 00:33:18 ครับท่านที่มาดูคลิปเนี่ย 3 เดือน 6
00:33:18 → 00:33:20 เดือนแล้วว่าปีหนึ่งจากที่ผมโพสหรือว่าลง
00:33:20 → 00:33:23 คลิปไว้เนี่ยอาจจะมีความรู้ใหม่ๆเนี้ยที่
00:33:23 → 00:33:27 ต่างไปจากเดิมในออกมามากมายนะครับถ้าสนใจ
00:33:27 → 00:33:30 ก็ลองติดต่อดูนะครับมดกัดนะครับสิ่งเล็กๆ
00:33:30 → 00:33:32 ที่สร้างให้ชีวิตเราต่างกันสำหรับวันนี้
00:33:32 → 00:33:34 ผมขอลาไปเกาะนะครับว่าเรามาพบกันใหม่ใน
00:33:34 → 00:33:37 โซนหน้านะครับในซีรีส์ของไม่ค่อยโอมส่วน
00:33:37 → 00:33:40 ดีครับโน้ท
00:00:00 → 00:00:02 ก็สวัสดีทุกคนนะครับวันนี้ก็จะเป็นตอนที่
00:00:02 → 00:00:04 6 แล้วนะครับของซีรีส์ที่เราคุยกันอยู่
00:00:04 → 00:00:06 นะครับก็คือเรื่องของไมโครไบโอมนะครับหัว
00:00:06 → 00:00:09 ข้อในวันนี้จะเป็นเรื่องของโรคออโต้โม dcs
00:00:09 → 00:00:11 นะครับหรือว่าลองคิดภูมิคุ้มกันของร่าง
00:00:11 → 00:00:14 กายเราเนี่ยโจมตีร่างกายของเราเองว่ามัน
00:00:14 → 00:00:16 สัมพันธ์กับแบคทีเรียที่อยู่ในลำไส้ของ
00:00:16 → 00:00:19 เรายังไงเพราะจะขอเปิดเรื่องราวนี้พิเศษ
00:00:19 → 00:00:21 นี้นะครับด้วยการเล่าเรื่องราวนะครับซึ่ง
00:00:21 → 00:00:24 เป็นคดีฆาตกรรมที่เกิดขึ้นในอดีตคดีนี้นะ
00:00:24 → 00:00:27 เคยเป็นคดีดังของเก็บมาประมาณสัก 130 ปี
00:00:27 → 00:00:29 ที่แล้วนะครับก่อนที่เราจะเข้าเนื้อหาของ
00:00:29 → 00:00:32 เรากันนะครับจะขอพูดถึงผู้สนับสนุนซีรีส์
00:00:32 → 00:00:34 Micro ไปอมของเราก่อนนะครับก็คือบริษัท
00:00:34 → 00:00:37 มดกัดนะครับประสานงดการนะครับเป็นบริษัท
00:00:37 → 00:00:39 ที่ก่อตั้งขึ้นโดยทีมนักวิทยาศาสตร์นัก
00:00:39 → 00:00:41 วิจัยที่เชี่ยวชาญทางด้านเทคโนโลยีเกี่ยว
00:00:41 → 00:00:44 กับธนัชไมโครโฟนนะครับจากมหาวิทยาลัย
00:00:44 → 00:00:47 เทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรีบางมดประสำรถ
00:00:47 → 00:00:50 คันให้เขาทำอะไรเขามีเปิดให้บริการนะครับ
00:00:50 → 00:00:52 ส่วนวิเคราะห์จุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่นะ
00:00:52 → 00:00:55 ครับให้กับคนทั่วไปเพื่อให้คนที่ไปตรวจ
00:00:55 → 00:00:58 เนี่ยรู้ว่าจุลินทรีย์หนูไปเคลียร์นำไส้
00:00:58 → 00:01:00 เนี่ยมีสภาพเป็นยังไงนะครับแล้วจะมีแค่
00:01:00 → 00:01:02 รู้ว่าแบคทีเรียในลำไส้เป็นยังไงเท่านั้น
00:01:02 → 00:01:04 นะครับแต่ทั้งหมดก็ยังมีทีมของนัก
00:01:04 → 00:01:07 โภชนาการผู้เชี่ยวชาญเนี้ยที่คอยแนะนำ
00:01:07 → 00:01:09 เรื่องของการกินด้วยนะครับเพื่อปรับสมดุล
00:01:09 → 00:01:11 ของจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ยให้
00:01:11 → 00:01:14 อยู่ในสภาพที่ดีขึ้นสำหรับใครที่สนใจข้อ
00:01:14 → 00:01:15 มูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับบริษัทหมดก๊าซนะ
00:01:15 → 00:01:18 ครับก็สามารถที่จะเข้าไปดูได้นะครับ
00:01:18 → 00:01:20 เดี๋ยวผมจะใส่ลิงค์ไว้ให้ข้างล่างนะครับ
00:01:20 → 00:01:21 อาจารย์ใส่ไว้ในคอมเมนท์หรือว่าใส่ใน
00:01:21 → 00:01:24 Description นะครับแล้วในตอนท้ายของคลิป
00:01:24 → 00:01:26 เนี่ยก็จะมีรายละเอียดเกี่ยวกับบริษัทมด
00:01:26 → 00:01:28 กัดเพิ่มเติมให้ด้วยนะครับกลับมาที่
00:01:28 → 00:01:33 เรื่องของเราก็ต่อนะครับ
00:01:33 → 00:01:35 เรื่องราว 1 เรื่องต้นมาจากบอกคนนึงนะ
00:01:35 → 00:01:38 ครับที่มีชื่อว่าโทมัสแม้ Hurt นะครับ
00:01:38 → 00:01:41 ซึ่งเขาได้พบกับผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งชื่อ
00:01:41 → 00:01:44 ว่าอิสเบลล่าแบงค์เนื่องจากที่รู้จักกัน
00:01:44 → 00:01:46 ได้ไม่นานเดี๋ยวประมาณ 3 เดือนบอสไม่เท็จ
00:01:46 → 00:01:49 ก็ขอแบงค์ใส่งานนะครับแล้วจากแต่งงานได้
00:01:49 → 00:01:52 ไม่นานอิสเบลล่านะครับซึ่งแต่เดิมก็มี
00:01:52 → 00:01:54 ร่างกายก่อนอายุแล้วก็เริ่มมีอาการป่วย
00:01:54 → 00:01:58 ที่รุนแรงมากขึ้นอาการป่วยส่วนใหญ่ที่ว่า
00:01:58 → 00:02:00 นะครับเสด็จพระเรื่องของระบบทางเดินอาหาร
00:02:00 → 00:02:03 ก็คือว่าจะมีอาการของท้องเสียนะครับเกิด
00:02:03 → 00:02:06 ขึ้นบ่อยแล้วก็มีอาเจียนรุนแรงกินไม่ค่อย
00:02:06 → 00:02:08 ได้นะครับแล้วก็มีบางครั้งมีลักษณะของการ
00:02:08 → 00:02:11 ถ่ายเป็นเลือดปนออกมาด้วยนี่ในช่วงแรกนะ
00:02:11 → 00:02:14 ครับช่วงที่พยานเนี่ยเริ่มป่วยมากขึ้น
00:02:14 → 00:02:16 มอเตอร์ไซค์เธออาเซียนก็พยามจะรักษา
00:02:16 → 00:02:18 พยาบาลด้วยตัวเองนะครับแต่ว่าหลังจากที่
00:02:18 → 00:02:20 รักษาไปสักระยะนึงเนี่ยอาการของ insulin
00:02:20 → 00:02:24 เนี่ยก็ไม่ดีขึ้นเขาก็เลยต้องไปปรึกษาหมอ
00:02:24 → 00:02:27 คนอื่นนะครับเพื่อให้มาช่วยรักษาแต่ไม่
00:02:27 → 00:02:29 ว่าจะมีหมอหลายคนนะครับหมอที่มีชื่อเสียง
00:02:29 → 00:02:31 มาช่วยกันรักษาอย่างเต็มที่อาการของอิส
00:02:31 → 00:02:34 เบลล่านะครับกับแย่ลงเรื่อยๆนะครับจนบ่
00:02:34 → 00:02:36 ที่มารักษาเนี่ยก็รู้สึกแปลกใจนะครับ
00:02:36 → 00:02:38 เพราะว่าตอนแรกดูเหมือนไม่น่าจะยากอะไรนะ
00:02:38 → 00:02:40 ครับราชการก็มันเป็นโรคทางเดินอาหาร
00:02:40 → 00:02:43 ธรรมดาแต่ยิ่งรักษาอาการยิ่งแย่ลงแล้ว
00:02:43 → 00:02:45 เหมือนกับว่าอิซาเบลล่าเนี่ยไม่ตอบสนอง
00:02:45 → 00:02:47 การรักษาอะไรเลยที่นี่อากาศโดยใช้เวลา
00:02:47 → 00:02:49 นั้นก็ทรุดลงเรื่อยๆนะครับจนกระทั่งร่าง
00:02:49 → 00:02:53 กายเนี่ยสุดโซมากนะครับคือผอมแล้วก็อ่อน
00:02:53 → 00:02:55 เพลียจนไม่สามารถจะลุกไปไหนได้นะครับคือ
00:02:55 → 00:02:57 ต้องนอนติดอยู่กับเตียงตลอดเวลาแล้วด้วย
00:02:57 → 00:03:00 ความที่อาการของ Stella นะครับสุดลงยาและ
00:03:00 → 00:03:03 เร็วมากนะครับหนึ่งได้หมอรักษาเกรดแนะนำ
00:03:03 → 00:03:05 นะครับว่าไอ้น่าจะลองนำอุจจาระของสบายล่ะ
00:03:05 → 00:03:09 เนี่ยไปส่งให้นักเคมีที่ชำนาญจังหวัดดูดี
00:03:09 → 00:03:11 ไหมเพื่อจะดูว่ามันมีสารพิษอะไรเนี่ยควร
00:03:11 → 00:03:14 อยู่ในอุจจาระบ้างหรือเปล่าแล้วในช่วง
00:03:14 → 00:03:16 เวลาเรียกนี้กันเองนี้นะครับก็คือหมอสมัย
00:03:16 → 00:03:18 Test และก็คิดว่าพยายามตัวเองเนี่ยป่วย
00:03:18 → 00:03:22 มากแล้วนะครับอาการเนี้ยสุดลงเร็วมากจน
00:03:22 → 00:03:25 อาจจะไม่รอดชีวิตนะครับก็เลยคุยกับแฟนล่ะ
00:03:25 → 00:03:27 ว่าขอให้ช่วยเขียนที่ในกำรให้หน่อยได้ไหม
00:03:27 → 00:03:29 ซึ่งตัวจะเป็นล่างเนี่ยก็ไม่ขัดข้องนะ
00:03:29 → 00:03:32 ครับแล้วก็ตัดสินใจเขตพินัยกรรมยกทรัพย์
00:03:32 → 00:03:35 สมบัติทั้งหมดเนี่ยให้กับสามีที่นี่หลัง
00:03:35 → 00:03:37 จากที่เขียนพินัยกรรมเสร็จนะครับที่สอง
00:03:37 → 00:03:39 สามวันถัดมาเนี่ยผลการตรวจคิดอยู่จุฬา
00:03:39 → 00:03:43 เนี่ยก็กลับมาพอดีแล้วพร้อมกับคนที่กลับ
00:03:43 → 00:03:46 มานะครับก็มีจดหมายแนบมาด้วยซึ่งจดหมาย
00:03:46 → 00:03:48 นี้เขียนโดยล็อกเกอร์ of frets เว้น
00:03:48 → 00:03:50 Taylor นะครับซึ่งก็เป็นนักเคมีที่ทำ
00:03:50 → 00:03:53 หน้าที่ตรวจสารพิษคนนั้นแล้วก็เป็นผู้
00:03:53 → 00:03:54 เชี่ยวชาญเรื่องสารพิษที่มีชื่อเสียงของ
00:03:54 → 00:03:57 ลอนดอนในจดหมายของตัว Taylor เนี่ยเขา
00:03:57 → 00:04:00 เขียนให้ความเห็นเพิ่มเติมว่าได้ว่าเขา
00:04:00 → 00:04:02 แม่ไม่สบายล่ะเนี่ยอาจจะถูกวางยาพิษแล้ว
00:04:02 → 00:04:05 สารพิษที่ว่าน่าจะเป็นสารจำพวกยาเบื่อหนู
00:04:05 → 00:04:08 นะครับหรือว่าที่มีชื่อว่าอาร์เซนิกเขา
00:04:08 → 00:04:10 เกรงแนะนำว่าควรจะรีบให้การรักษาโดยเร่ง
00:04:10 → 00:04:13 ด่วนไม่ใช่นะเนี่ยผู้ป่วยเนี่ยอาจจะมี
00:04:13 → 00:04:16 อันตรายถึงชีวิตได้และที่สำคัญคือว่าเขา
00:04:16 → 00:04:19 เขียนไว้ว่าการดูแลรักษาเนี่ยควรจะอยู่
00:04:19 → 00:04:22 ภายใต้การดูแลของคนที่สมัครไว้ใจได้เพื่อ
00:04:22 → 00:04:25 ให้แน่ใจว่าน้ำและอาหารที่ 10 เวลากิน
00:04:25 → 00:04:28 แล้วมันดื่มเนี่ยไม่ถูกวางยาพิษพูดง่ายนะ
00:04:28 → 00:04:31 ครับที่นี่สรรค์จากที่ผลตรวจพริกกลับมา
00:04:31 → 00:04:34 เนี่ยในประมาณ 5 โมงเย็นของวันนั้นนะครับ
00:04:34 → 00:04:37 ตำรวจในก็มาที่บ้านเขาบอกสมัยเถิดเราก็
00:04:37 → 00:04:39 จับกุมตัวเอาไว้ต่อมานะครับในวันรุ่งขึ้น
00:04:39 → 00:04:43 นะครับคือวันที่ 3 พฤษภาคมปี 1859 เนี่ย
00:04:43 → 00:04:47 insult ก็เสียชีวิตลงการจับกุมหมอ smeta
00:04:47 → 00:04:49 ก็เลยกลายเป็นข่าวใหญ่นะครับในก่อน
00:04:49 → 00:04:52 หนังสือพิมพ์ของลอนดอนนะครับเขาก็ลงว่า
00:04:52 → 00:04:55 เป็นหมอเนี่ยค่าพญาตัวเองวางพิทยาตัวเอง
00:04:55 → 00:04:58 ทำให้ชาวดอยแล้วชาวกรีกเนี่ยสนใจข่าวนี้
00:04:58 → 00:05:00 กันอย่างมากแล้วก็คอยติดตามข่าวเจอกัน
00:05:00 → 00:05:03 อย่างใกล้ชิดแล้วระหว่างที่การไต่สวนคดี
00:05:03 → 00:05:06 นี้นะครับเกิดขึ้นเนี่ยมันก็มีเรื่องราว
00:05:06 → 00:05:08 ต่างๆที่น่าสนใจและมีหลักฐานมีข้อมูลใหม่
00:05:08 → 00:05:11 ๆที่ที่เรียกว่าช่วยมาเสริมกามากของ
00:05:11 → 00:05:15 เรื่องให้มันเข้มข้นขึ้นไปอีกมีการพริกนะ
00:05:15 → 00:05:17 ครับคดีพลิกกลับไปกลับมาหลายครั้งด้วยกัน
00:05:17 → 00:05:20 ตัวอย่างเช่นนะครับหลังจากที่ชันสูตรศพ
00:05:20 → 00:05:23 isa ล่าไปเนี่ยก็ไปเจอสิ่งที่ไม่มีใคร
00:05:23 → 00:05:26 คาดมาเกาะนะครับไม่มีใครรู้มาก่อนหน้าก็
00:05:26 → 00:05:29 คือว่าขณะที่เสียชีวิตในสมัยล่าในการตั้ง
00:05:29 → 00:05:32 ครรภ์อยู่ประมาณหกสัปดาห์มันก็เลยทำให้
00:05:32 → 00:05:34 เหมือนกับเรื่องมาดูดราม่ากันอีกว่าโอ้
00:05:34 → 00:05:38 สามีเนี่ยวางยาฆ่าพญาอนุชิตเราจะมีลูกต่อ
00:05:38 → 00:05:40 มานะครับก็มีเรื่องที่น่าตื่นเต้นขึ้นอีก
00:05:40 → 00:05:42 นะครับเพราะว่าผู้เชี่ยวชาญนะครับก็คือ
00:05:42 → 00:05:44 ตัวล็อกเกอร์ Taylor เนี่ยเกิดไปตรวจพบ
00:05:44 → 00:05:46 สารคิดนะครับศาลอาร์เซนิกเรียนรู้ว่าศยา
00:05:46 → 00:05:49 เบื่อหนูเนี่ยเจือปนอยู่ได้ยาที่ใช้รักษา
00:05:49 → 00:05:52 ไอ้ Stella ซึ่งการค้นพบครั้งนี้นะครับก็
00:05:52 → 00:05:54 เหมือนเป็นหลักฐานสำคัญนะครับที่เหมือน
00:05:54 → 00:05:57 กับมัดตัวบ่สมรรถนะเสี่ยในเน้นๆยิ่งขึ้น
00:05:57 → 00:06:00 แต่บอสไปเธอก็ยังไม่ยอมรับนะครับว่าร้าน
00:06:00 → 00:06:03 อาหารพญาเขาปฏิเสธว่าเขายังไม่ได้วางยา
00:06:03 → 00:06:06 พิษพญาเค้ารักษาพยานด้วยความตั้งใจจริง
00:06:06 → 00:06:10 ถ้าจะมีคนลอบวางยาพิษแล้วนำเอายามาเบอร์
00:06:10 → 00:06:12 หนูไปใส่ในระยะยาวเนี่ยก็จะเป็นหมอคนอื่น
00:06:12 → 00:06:15 ก็ได้แต่คำแก้ตัวนี้ก็ฟังไม่ขึ้นเพราะว่า
00:06:15 → 00:06:18 insulin ป่วยมาก่อนที่มองคนอื่นๆจะเข้า
00:06:18 → 00:06:20 มาร่วมรักษานะครับแล้วบอกคนอื่นๆก็ไม่มี
00:06:20 → 00:06:24 แรงจูงใจที่จะมาวางยาพิษ Stella ต่อมา
00:06:24 → 00:06:27 ความน่าสนใจของคดีมันก็เพิ่มมากขึ้นนะ
00:06:27 → 00:06:29 ครับเพราะเมื่อตรวจผลชิ้นเนื้อนะครับที่
00:06:29 → 00:06:32 ได้จากการชันสูตรศพความไม่พบสารพิษหรือ
00:06:32 → 00:06:35 ว่าสนิทที่อยู่ในร่างกายของสบายล่าเลยมัน
00:06:35 → 00:06:37 ก็เลยดูแปลกไม่ใช่ไหมครับเพราะว่าตัวสาร
00:06:37 → 00:06:39 พิเศษจุรัตน์เจอแต่พ่อไปดูในเนื้อเยื่อ
00:06:39 → 00:06:42 จริงๆกลับไม่เจอได้ยังไงก็เลยมีการตรวจ
00:06:42 → 00:06:46 สอบอีกทีนะครับสุดท้ายนี้ก็พบว่าความผิด
00:06:46 → 00:06:48 พลาดมันเกิดขึ้นที่หลักของด็อกเตอร์เทเลอ
00:06:48 → 00:06:51 a เพราะว่าตอนที่เด็กก Taylor เนี่ยเอา
00:06:51 → 00:06:54 อุจจาระแล้วก็เอายาอิสลามเวลาไปตรวจเนี้ย
00:06:54 → 00:06:57 ปรากฏว่าตัวน้ำยาที่ใช้ตรวจมันมีการปน
00:06:57 → 00:06:59 เปื้อนของสารแอดเน็กซ์อยู่หรือว่าสารพิษ
00:06:59 → 00:07:02 อยู่เหตุผลก็เลยออกมาว่ามีสารพิษเนี่ยปน
00:07:02 → 00:07:05 เปื้อนอยู่ทั้งที่จริงๆในอุจจาระกัลยา
00:07:05 → 00:07:08 เนี่ยไม่ได้มีสารพิษอยู่เลยเรื่องนี้ก็จะ
00:07:08 → 00:07:10 เป็นข่าวใหญ่มากนะครับโดยเฉพาะในวงการ
00:07:10 → 00:07:12 วิทยาศาสตร์เพราะว่าตัวด็อกเตอร์ Taylor
00:07:12 → 00:07:15 เนี่ยเป็นนักเคมีที่มีชื่อเสียงมากในยุค
00:07:15 → 00:07:18 นั้นนะครับแล้วก็เป็นที่เคารพนะครับแล้ว
00:07:18 → 00:07:20 ก็ที่ผ่านมาเขาก็มีส่วนร่วมในการไขคดี
00:07:20 → 00:07:23 สำคัญสำคัญเนี่ยเมื่อหลายคดีคนก็เลยรู้
00:07:23 → 00:07:26 สึกว่าคนระดับนี้เนี่ยพลาดได้ยังไงนะครับ
00:07:26 → 00:07:29 แล้วที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือว่าเหมือนกัน
00:07:29 → 00:07:31 ว่าหลักฐานสำคัญที่ใช้มักจะวัดเม็ด
00:07:31 → 00:07:33 Terrace นะคะที่จับมาจับเข้ามาตั้งแต่
00:07:33 → 00:07:35 แรกเนี่ยมากลายเป็นหลักฐานที่ผิดขึ้นมา
00:07:35 → 00:07:38 แต่แล้วก็มีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นอีก
00:07:38 → 00:07:40 ครั้งนะครับระหว่างที่ไต่สวนคดีเนี่ยก็มี
00:07:40 → 00:07:43 การไปค้นพบข้อมูลรับอันนึงก็คือว่าก่อน
00:07:43 → 00:07:45 ที่เหมาะสมอินเทอร์เน็ตจะมาแต่งงานกับ
00:07:45 → 00:07:48 Stella เนี่ยเขามีพญาอยู่แล้ว 1 คนนะ
00:07:48 → 00:07:50 ครับซึ่งเป็นพญาที่มีอายุมากกว่าเขาในถึง
00:07:50 → 00:07:53 20 ปีดังนั้นในการแต่งงานของบอส
00:07:53 → 00:07:56 อินเทอร์เน็ตถือว่าเป็นการแต่งงานสอนซึ่ง
00:07:56 → 00:07:58 สำหรับชาวอังกฤษในยุคนั้นนะครับทุกสมัย
00:07:58 → 00:08:00 นั้นเนี่ยถือว่าเป็นพฤติกรรมที่น่าอย่า
00:08:00 → 00:08:02 คิดมากนะครับเป็นพฤติกรรมที่ผิดเสร็จแล้ว
00:08:02 → 00:08:04 ทำมากกระแสสังคมเนี่ยก็เลยตีกลับนะครับ
00:08:04 → 00:08:06 จากเดิมที่มองว่าเขานี่เหมือนกับเป็น
00:08:06 → 00:08:09 เหยื่อก็เลยบอกว่าหมอจะเป็นเทอร์เน็ตเป็น
00:08:09 → 00:08:11 คนไม่ดีนะครับเป็นคนที่เชื่อถือไม่ได้
00:08:11 → 00:08:14 แล้วก็จะวางยาพิษพญาจริงๆสุดท้ายนะครับ
00:08:14 → 00:08:17 หลังจากที่สุดพอดีต่ออีกนานอยู่หลายเดือน
00:08:17 → 00:08:20 เลยนะครับในเดือนสิงหาคมปี 1859 เนี่ยคณะ
00:08:20 → 00:08:23 ลูกขุนและก็ลงความเห็นนะครับตัดสินว่าบอส
00:08:23 → 00:08:27 ไม่ใช่เนี่ยมีความผิดจริงแล้วสารเนี่ยก็
00:08:27 → 00:08:30 ตัดสินให้ลงโทษประหารชีวิตเขาด้วยการแขวน
00:08:30 → 00:08:32 คอแต่เรื่องยังไม่จบนะครับเพราะว่าสุด
00:08:32 → 00:08:34 ท้ายหมอเซ็นเทอร์เน็ตก็สามารถรอดจากการ
00:08:34 → 00:08:38 ถูกแขวนคอมาได้คืออย่างที่บอกไปว่าด้วย
00:08:38 → 00:08:40 ความที่คดีนี้เป็นที่สนใจของประชาชนชาว
00:08:40 → 00:08:42 เกรดมากมายและก็รวมไปถึงนะคะยาศาสตร์ที่
00:08:42 → 00:08:45 เชี่ยวชาญต่างๆสาขาต่างในวงการด้วยนะครับ
00:08:45 → 00:08:48 ที่นี่เบื่อคำตัดสินออกมาบอกไม่เธอจะมี
00:08:48 → 00:08:51 ความผิดและมีโทษประหารเนี่ยหลายคนที่ติด
00:08:51 → 00:08:53 ตามข่าวมาตลอดนะครับอย่างใกล้ชิดเนี่ยก็
00:08:53 → 00:08:57 รู้สึกว่าไม่เห็นด้วยนะครับคำตัดสินคือ
00:08:57 → 00:08:59 แปลว่าคนส่วนใหญ่นะครับจะไม่ชอบเหมาะสม
00:08:59 → 00:09:01 interest แต่หลายคนก็จะเชื่อว่าเขาไม่
00:09:01 → 00:09:04 ใช่คนดีหรือว่าจริงๆแล้วเนี่ยอาจจะวางแผน
00:09:04 → 00:09:07 ฆ่าพญาจริงๆก็ได้เพื่อหวังสมบัติของพญา
00:09:07 → 00:09:09 แต่ด้วยความที่หลักฐานต่างๆที่มีเดี๋ยว
00:09:09 → 00:09:12 มันดูอ่อนเกินไปนะครับบวกกับมีความผิด
00:09:12 → 00:09:15 พลาดหลายครั้งที่เกิดขึ้นที่ให้เห็นนะ
00:09:15 → 00:09:17 ครับทำให้หลายคนมาว่าการตัดสินคดีนี่
00:09:17 → 00:09:20 เหมือนกับว่าทางตำรวจและทางสารเนี่ยพยาม
00:09:20 → 00:09:23 ที่จะปิดคดีให้เร็วที่สุดสุดท้ายเนี่ยมัน
00:09:23 → 00:09:26 ก็นำไปสู่การพิจารณาคดีซ้ำอีกครั้งหนึ่ง
00:09:26 → 00:09:30 แล้วการตัดสินรอบหลังนี้ก็ตัดสินให้หมอ
00:09:30 → 00:09:32 เซ็นเธอเนี่ยรับการปล่อยตัวไปสำหรับคดี
00:09:32 → 00:09:35 นี้นะครับจนถึงทุกวันนี้เนี่ยก็ยังไม่มี
00:09:35 → 00:09:37 ใครรู้นะครับว่าบอสอินเทอร์เน็ตค่าพญาของ
00:09:37 → 00:09:39 เขาจริงหรือเปล่ามีแต่ความน่าสนใจของคดี
00:09:39 → 00:09:42 นี้สำหรับเรานะครับไม่ใช่เรื่องของว่าเขา
00:09:42 → 00:09:45 เลยค่าพญาจริงหรือเปล่าแต่มันเกี่ยวข้อง
00:09:45 → 00:09:47 กับเรื่องที่เราทุกคนวันนี้ครับเพราะว่า
00:09:47 → 00:09:50 ในบันทึกรายละเอียดนะครับตอนที่ชันสูตรศพ
00:09:50 → 00:09:53 พิซเซร่าเนี่ยหมอที่ชั้นสุดในเวลานั้นได้
00:09:53 → 00:09:56 บันทึกว่าเขียนบรรยายลักษณะต่างๆที่ตรวจ
00:09:56 → 00:09:59 พบในไว้อย่างละเอียดแล้วความผิดปกติที่พบ
00:09:59 → 00:10:03 นะครับโดยเฉพาะปะรอยถ่ายต่างในลำไส้รวม
00:10:03 → 00:10:06 ถึงอาการต่างๆของเอเบลล่าเนี่ยเมื่อหมอใน
00:10:06 → 00:10:09 ยุคปัจจุบันเนี่ยมีโอกาสได้มาอ่านคดีนี้ 3
00:10:09 → 00:10:12 อีกทีนะครับมาศึกษาคดีอย่างละเอียดแล้วก็
00:10:12 → 00:10:14 อ่านเรื่องของชันสูตรศพต่างๆก็ให้ความ
00:10:14 → 00:10:17 เห็นกันว่าลักษณะที่บรรยายไว้เนี่ยไม่
00:10:17 → 00:10:20 เหมือนอาการได้รับสารพิษแต่ลักษณะของแผน
00:10:20 → 00:10:23 นำใส้ที่เขาบรรยายไว้เนี่ยมันจะเหมือนโรค
00:10:23 → 00:10:26 โรคนึงนะครับที่ปัจจุบันเนี่ยเรารู้จัก
00:10:26 → 00:10:28 กันในชื่อว่าเป็นโรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:10:28 → 00:10:32 คำถามคือว่าแล้วทำไมในเวลานั้นนะครับหมอ
00:10:32 → 00:10:34 ที่รักษาเนี่ยถึงไม่รู้จักโลกนี้คำตอบก็
00:10:34 → 00:10:36 คือว่าเพราะว่าปัจจุบันนะครับถือว่าอิส
00:10:36 → 00:10:39 เบลล่าเนี่ยเป็นผู้ป่วยคนแรกนะผู้ที่ป่วย
00:10:39 → 00:10:40 เป็นโรคนี้แล้วถูกบันทึกเอาไว้อย่างเป็น
00:10:40 → 00:10:43 ทางการหมายความว่าในช่วงเวลานั้นนะครับ
00:10:43 → 00:10:45 ไม่มีหมอที่รู้จักโรคนี้นะครับแล้วก็ทำ
00:10:45 → 00:10:48 ให้หมอที่รักษาในรู้สึกวงมากนะครับว่าผู้
00:10:48 → 00:10:50 ป่วยในป่วยเป็นโรคอะไรแล้วทำไมถึงได้
00:10:50 → 00:10:53 รักษาอาการเน็ตเธอไม่ดีขึ้นแล้วก็เป็นโรค
00:10:53 → 00:10:55 ที่เหมือนกับว่าดูเหมือนว่าในยุคนั้น
00:10:55 → 00:10:58 เนี่ยหมอเลยไม่เคยเจอกันมาก่อนแต่ในเวลา
00:10:58 → 00:11:00 ต่อมานะครับไม่เราเจอคนไข้ที่มีอาการ
00:11:00 → 00:11:03 อย่างนี้มากขึ้นเจอผลการตรวจหรือว่า
00:11:03 → 00:11:05 ลักษณะของแผลในลำไส้ที่แบบนี้มากขึ้น
00:11:05 → 00:11:07 เนี่ยเราก็รู้ว่าในเป็นโรคใหม่โลกนึงนะ
00:11:07 → 00:11:09 ครับซึ่งอย่างที่บอกไปก็คือมีชื่อในภาษา
00:11:09 → 00:11:12 ไทยว่าลำไส้อักเสบเรื้อรังนะครับชื่อภาษา
00:11:12 → 00:11:14 อังกฤษคือว่าอยู่ทำไมทวี bowel disease
00:11:14 → 00:11:17 แล้วก็ตลอดมานะครับเป็นช่วงร้อยปีเนี่ย
00:11:17 → 00:11:20 ตั้งแต่โรคนี้นะครับถูกบันทึกไว้ครั้งแรก
00:11:20 → 00:11:22 นะครับก็คือกรณีของที่สุดในล่าเนี่ยก็บอก
00:11:22 → 00:11:24 ว่าโรคนี้เนี่ยในวงการแพทย์ในทุกเป็นโรค
00:11:24 → 00:11:27 ที่พบน้อยมากมาตลอดนะครับแต่ความน่าสนใจ
00:11:27 → 00:11:30 ก็คือว่าในช่วง 50 กว่าปีที่ผ่านมานี้นะ
00:11:30 → 00:11:32 ครับบ่อนะครับเพราะว่าอุบัติการณ์ของโรค
00:11:32 → 00:11:34 ลมแทรกเสียงระหว่างมันเพิ่มขึ้นเร็วมาก
00:11:34 → 00:11:36 เขาขาวๆมันเพิ่มขึ้นประมาณ 40 เท่าในช่วง
00:11:36 → 00:11:40 50 ปีที่ผ่านมานะครับจะทำให้โรคที่เคยพบ
00:11:40 → 00:11:42 น้อยมากๆครับถ้าจะไม่พบเลยเนี่ยกลายเป็น
00:11:42 → 00:11:45 โรคที่เริ่มพบได้เรื่อยๆนะครับโดยเฉพาะใน
00:11:45 → 00:11:48 ทางตะวันตกได้อีกลักษณะที่น่าสนใจก็คือ
00:11:48 → 00:11:50 ว่าแต่เดิมโลกนี้นะครับเคยชื่อว่าเป็นโรค
00:11:50 → 00:11:53 ที่พบเฉพาะในเช้าตนตอบเท่านั้นไม่พบในคน
00:11:53 → 00:11:56 เอเชียแต่ปรากฏว่าในช่วง 10 กว่าปีที่
00:11:56 → 00:11:58 ผ่านมานี้นะครับก็มีหลักฐานนะครับมีข้อ
00:11:58 → 00:12:01 มูลมากขึ้นว่าอุบัติการณ์ของโรคนี้ในคน
00:12:01 → 00:12:04 เอเชียเนี่ยพบมากขึ้นนะครับโดยเฉพาะใน
00:12:04 → 00:12:07 หลายประเทศที่เรียกว่าพัฒนาเร็วนะครับ
00:12:07 → 00:12:10 เช่นประเทศจีนประเทศญี่ปุ่นนะครับประเทศ
00:12:10 → 00:12:13 เกาหลีใต้ประเทศไต้หวันสำหรับในประเทศไทย
00:12:13 → 00:12:15 นะครับตัวเลขยังไม่ค่อยชัดเจนนะครับแต่ก็
00:12:15 → 00:12:18 ยังถือว่าเป็นโรคที่พบน้อยมากๆแต่ถ้าดูด
00:12:18 → 00:12:21 Trend ของโลกนะครับเช่นของเอเชียเนี่ยก็
00:12:21 → 00:12:24 มีโอกาสที่โรคนี้จะพบเพิ่มขึ้นเป็นเหมือน
00:12:24 → 00:12:26 กันนะครับในเมืองไทยจะได้ก่อนที่เราจะไป
00:12:26 → 00:12:28 คุยกันต่อนะครับผมอยากจะขอเบรคนิดนึงนะ
00:12:28 → 00:12:30 ครับแล้วก็มาคุยกันสักนิดนึงนะครับว่าไอ้
00:12:30 → 00:12:32 โลกที่เรียกว่าภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง
00:12:32 → 00:12:34 ด้วยนะครับหรือว่า SM ทวี bowel disease
00:12:34 → 00:12:37 เนี่ยมันคือโรคอะไรนะครับมันมีลักษณะหน้า
00:12:37 → 00:12:41 ตาเป็นยังไงอ่ะแต่
00:12:41 → 00:12:44 จริงๆก็ค่อนข้างตรงไปตรงมานะครับก็คือตาม
00:12:44 → 00:12:47 ชื่อเลยภาวะเนี่ยก็คือภาวะที่มันเกิดการ
00:12:47 → 00:12:49 อักเสบขึ้นมานะครับและการเกษตรที่ว่า
00:12:49 → 00:12:51 หนึ่งเป็นการเสร็จแบบเรื้อรังคือไม่ได้
00:12:51 → 00:12:52 เกิดขึ้นครั้งนึงแล้วก็หายไปเลยแต่ว่า
00:12:52 → 00:12:55 เกิดขึ้นซ้ำๆนะครับเป็นเวลาเป็นหลายๆ
00:12:55 → 00:12:58 เดือนนะครับเป็นจนถึงเป็นปีหรือว่าหลายๆ
00:12:58 → 00:13:01 ปีเลยก็ได้โดยที่สาเหตุเราไม่รู้ว่าอะไร
00:13:01 → 00:13:03 ที่ทำให้เกิดการอักเสบแต่สิ่งที่เรารู้ก็
00:13:03 → 00:13:06 คือว่าการเกษตรมันเกิดขึ้นจากระบบภูมิ
00:13:06 → 00:13:09 คุ้มกันเนี่ยมันโจมตีไปที่ตัวผนังของลำ
00:13:09 → 00:13:11 ไส้นะครับก็คือภูมิคุ้มกันของเราเองทำ
00:13:11 → 00:13:13 ร้ายลำไส้ของเราเองแต่ทำให้ภูมิคุ้มกัน
00:13:13 → 00:13:16 ถึงทำร้ายเนี่ยเราไม่รู้นะครับที่นี่
00:13:16 → 00:13:19 อาการของผู้ป่วยก็จะมีอาการทางระบบทาง
00:13:19 → 00:13:21 เดินอาหารนะครับเป็นอาการเด็ดอาการก็จะมี
00:13:21 → 00:13:23 เรื่องของอาการปวดท้องนะครับมีอาการท้อง
00:13:23 → 00:13:25 เสียบางคนนั้นก็จะมีถ่ายบนเรื่องมาด้วย
00:13:25 → 00:13:29 ที่นี่ความรุนแรงของการอักเสบมันก็มีได้
00:13:29 → 00:13:31 หลากหลายนะคะบางคนนะคะก็จะเป็นไม่มากแต่
00:13:31 → 00:13:33 หลายคนอาการก็เป็นมากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
00:13:33 → 00:13:36 ยิ่งเป็นนานแล้วก็เป็นมากขึ้นเรื่อยๆจน
00:13:36 → 00:13:39 กระทั่งมีภาวะเหมือนกับ 4 นะครับเพราะว่า
00:13:39 → 00:13:41 มีการเสียเลือดในทางเดินอาหารอย่างต่อ
00:13:41 → 00:13:43 เนื่องเป็นระยะยาวนานก็จะทำให้มีอาการรู้
00:13:43 → 00:13:46 สึกเหนื่อยง่ายอ่อนเพลียเกิดขึ้นมาได้แต่
00:13:46 → 00:13:48 ในบางรายนะครับอาการเนี่ยมันรุนแรงกว่า
00:13:48 → 00:13:50 นั้นนะครับอาการที่ว่าดูแลเนี่ยมันถึง
00:13:50 → 00:13:52 ขั้นที่เรียกว่าเหมือนกับท้องเสียตลอด
00:13:52 → 00:13:54 เวลานะครับคือว่านึงเดี๋ยวถ่ายวัน 20
00:13:54 → 00:13:57 ครั้ง 30 ครั้งถ่ายเป็นน้ำนะครับถ่ายเหลว
00:13:57 → 00:13:59 ปวดท้องตลอดเวลาแล้วก็ไปไหนไม่ได้เลยนะ
00:13:59 → 00:14:01 ครับก็คือพูดง่ายๆคือไม่สามารถออกจากบ้าน
00:14:01 → 00:14:04 ได้เพราะว่าต้องเข้าห้องน้ำแต่เวลาแล้วก็
00:14:04 → 00:14:07 หลายคนไม่ตอบสนองต่อการรักษาจนบางคนนะ
00:14:07 → 00:14:09 ครับถึงขั้นที่ต้องตัดลำไส้ทิ้งเลยนะครับ
00:14:09 → 00:14:11 เพราะเราใช่มันมีการเกษตรเกิดขึ้นบ่อยมาก
00:14:11 → 00:14:13 เราต้องเอาผนังลำไส้ส่วนที่เหลือได้มา
00:14:13 → 00:14:16 เปิดที่หน้าท้องแล้วก็ขับถ่ายธนทองเพราะ
00:14:16 → 00:14:18 ว่าไม่มีทางเลือกอื่นนะครับยังเป็นการ
00:14:18 → 00:14:21 รักษาเดียวที่ทำได้ที่จะทำให้ผู้ป่วยไม่
00:14:21 → 00:14:24 เสียชีวิตคำถามนะครับก็คือว่าอะไรนะครับ
00:14:24 → 00:14:26 ที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบอย่างที่บอกนะ
00:14:26 → 00:14:28 ครับเรายังไม่รู้นะครับว่าอะไรเป็นตัว
00:14:28 → 00:14:29 กระตุ้นนะครับก็รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกัน
00:14:29 → 00:14:32 บอกภูมิคุ้มกันที่มันโจมตีตัวลำไส้นะครับ
00:14:32 → 00:14:35 ที่นี่มันก็มีหลายสวัสดีขานะครับเช่นแต่
00:14:35 → 00:14:37 เดิมเนี่ยเคยมีความเชื่อว่ามันอาจจะ
00:14:37 → 00:14:39 เกี่ยวข้องกับการติดเชื้อเมียจ๋านะครับ
00:14:39 → 00:14:41 แต่เราก็หาไม่พบว่าการจะเชื่อที่ว่ามัน
00:14:41 → 00:14:44 คืออะไรนะครับและที่น่าสนใจก็คือว่าเมื่อ
00:14:44 → 00:14:46 มีคนป่วยเป็นโรคนี้มากขึ้นเรื่อยๆนะครับ
00:14:47 → 00:14:49 ก็เพราะว่าคนส่วนใหญ่ที่เปิดโลกนี้มากจะ
00:14:49 → 00:14:52 เป็นคนที่มีฐานะดีนะคะมีการศึกษาสูงแล้ว
00:14:52 → 00:14:53 ก็อย่างที่บอกนะครับในประเทศที่พบโรคนี้
00:14:53 → 00:14:56 มากขึ้นเนี่ยก็มักจะเป็นประเทศที่มีการ
00:14:56 → 00:14:58 พัฒนาทางเศรษฐกิจนะครับดีขึ้นเร็วก็คือ
00:14:59 → 00:15:01 ประชาชนมีชีวิตที่ดีขึ้นนะครับการ
00:15:01 → 00:15:04 สาธารณสุขมูลฐานอ่ะแต่ในดีขึ้นคนร่ำรวย
00:15:04 → 00:15:07 มากขึ้นก็พบพวกนี้มากขึ้นนอกเหลือจากนั้น
00:15:07 → 00:15:10 นะครับก็มีสมมุติฐานว่าว่าอาจจะเป็น
00:15:10 → 00:15:12 เรื่องของสารเคมีนะครับเราไปเรื่องของ
00:15:12 → 00:15:13 โลหะหนักที่อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่จะ
00:15:13 → 00:15:16 กระตุ้นให้ผู้การของเราเนี่ยโจมตีลำไส้
00:15:16 → 00:15:18 ของเราเองหรือแม้กระทั่งเรื่องของจิตใจนะ
00:15:18 → 00:15:20 ครับก็อยู่ในซองอธิษฐานนะครับบางคนก็ชื่อ
00:15:20 → 00:15:22 ว่าเกี่ยวข้องกับความเครียดหรือว่าเกี่ยว
00:15:22 → 00:15:24 ข้องกับภาวะซึมเศร้าที่พบมากขึ้นในสังคม
00:15:24 → 00:15:27 และแน่นอนนะครับก็มีเรื่องของพันธุกรรม
00:15:27 → 00:15:29 เข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเพราะว่าจะพบว่าโรค
00:15:29 → 00:15:32 นี้หลายครั้งพบในครอบครัวนะครับก็คือว่า
00:15:32 → 00:15:34 ถ้ามีใครในครอบครัวเป็นเนี่ยคนในครอบครัว
00:15:34 → 00:15:35 ก็จะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคนี้เนี่ย
00:15:35 → 00:15:38 เพิ่มขึ้นมากกว่าประชากรทั่วไปและอีก 1 ป
00:15:38 → 00:15:40 และที่สำคัญนะครับก็คือว่าปัจจุบันอย่าง
00:15:40 → 00:15:43 มีข้อมูลมากขึ้นเรื่อยๆนะครับว่าโรคนี้
00:15:43 → 00:15:46 เกี่ยวข้องกับการเสียสมดุลนะครับของ
00:15:46 → 00:15:49 แบคทีเรียในลำไส้ของเราด้วยแล้วการที่โลก
00:15:49 → 00:15:50 นี้เกี่ยวข้องกับแบคทีเรียในลำไส้นะครับ
00:15:51 → 00:15:53 การจะเป็นคำ 7 อธิบายได้ว่าทำไมโลกนี้ถึง
00:15:53 → 00:15:55 ได้พบมากขึ้นเรื่อยๆในยุคปัจจุบันนะครับ
00:15:55 → 00:15:58 โดยเฉพาะประเทศที่เจริญแล้วหรือว่าพัฒนา
00:15:58 → 00:16:00 เร็วที่คุยไปก่อนหน้ามันก็เลยเกิดคำถาม
00:16:00 → 00:16:02 ที่น่าสนใจขึ้นมาคำถามหน่อยนะครับว่าแล้ว
00:16:02 → 00:16:05 แต่เคลียร์นำไส้เนี่ยมันไปเกี่ยวข้องกับ
00:16:05 → 00:16:09 ระบบภูมิคุ้มกันได้ยังไง
00:16:09 → 00:16:12 แต่ก่อนที่เราจะไปคุยกันเรื่องนั้นนะครับ
00:16:12 → 00:16:14 ผมอยากจะพูดถึงเรื่องของโลกชื่อว่า Auto
00:16:14 → 00:16:17 มูล dcs หรือว่าโลกที่ระบบกันจะโจมตีร่าง
00:16:17 → 00:16:19 กายของเราสักเล็กน้อยนะครับโรค Auto
00:16:19 → 00:16:22 bonuses ต่างๆนะครับหลายๆโลกเนี่ยเพิ่ม
00:16:22 → 00:16:25 จำนวนมากขึ้นเช่นกันนะครับโดยเฉพาะในช่วง
00:16:25 → 00:16:28 ประมาณซัก 40-50 ปีที่ผ่านมาทำให้เชื่อนะ
00:16:28 → 00:16:30 ครับหรือว่ามีข้อมูลเพิ่มเติมมากขึ้นนะ
00:16:30 → 00:16:33 ครับว่าการที่โรคเหล่านี้เพิ่มขึ้นเนี่ย
00:16:33 → 00:16:35 มีโอกาสที่มันจะเกี่ยวข้องกับแบตทีเรีย
00:16:35 → 00:16:38 ที่อยู่ในลำไส้ของเราได้เช่นกันเพราะขอ
00:16:38 → 00:16:40 โต้บอดี้อันนี้นะครับถ้าจากใจออกมาเนี่ย
00:16:40 → 00:16:43 จะบอกว่ามันมีเยอะมากเลยนะคะจะมีถึง 70
00:16:43 → 00:16:45 ถึง 80 โลกนะครับหรืออาจจะมากกว่านั้นเลย
00:16:45 → 00:16:48 ลงแต่เมื่อขึ้นว่าระบบ Hook กันเดี๋ยวมัน
00:16:48 → 00:16:51 โจมตีไปที่ไหนนะครับเช่นถ้ามันโจมตีไปที่
00:16:51 → 00:16:53 ผนังของลำไส้นะครับก็จะเกิดโรคที่เรียก
00:16:53 → 00:16:55 ว่าตามแจ้งเสียบหลังๆนะครับอย่างที่คุย
00:16:55 → 00:16:57 กันไปก็คือทำไมทวี bowel disease นะครับ
00:16:57 → 00:17:00 แต่ถ้าระบบคู่กันในมันโจมตีมาที่ตัวตับ
00:17:00 → 00:17:03 อ่อนของเรานะครับโดยเฉพาะเล่นเด็กเนี่ยก็
00:17:03 → 00:17:05 จะทำให้ตับอ่อนไม่สามารถสร้างอินซูลินได้
00:17:05 → 00:17:07 ก็จะเกิดโรคประวัติชนิดที่หนึ่งที่เราเคย
00:17:07 → 00:17:09 คุยกันไปตอนที่เราคุยเรื่องของโรคเบาหวาน
00:17:10 → 00:17:12 นะครับหรือถ้าระบบภูมิคุ้มกันในมันโจมไป
00:17:12 → 00:17:14 ที่ตอบไทรอยด์นะครับตอนที่เราได้อยู่แถวๆ
00:17:14 → 00:17:17 คอเนี่ยก็อาจจะทำให้เกิดโรคของต่อม
00:17:17 → 00:17:19 ไทรอยด์ได้ซึ่งมันก็จะมีอยู่ 2 โลกด้วย
00:17:19 → 00:17:21 กันนะครับซึ่งมีรูปแบบที่ต่างกันโรคนึงนะ
00:17:21 → 00:17:24 ครับเป็นโรคที่มีชื่อว่าแปรง theses นะ
00:17:24 → 00:17:27 ครับคนที่เปิดโลกนี้และเมื่อโดนภูมิคุ้ม
00:17:27 → 00:17:29 กันเนี่ยไปไปเกาะนะครับจะกระตุ้นให้ต่อม
00:17:29 → 00:17:31 ไทรอยด์ทำงานมากขึ้นก็เกิดภาวะไทรอยด์
00:17:31 → 00:17:35 เป็นพิษขึ้นมาแต่ไปทางตรงกันข้ามนะครับ
00:17:35 → 00:17:38 มันก็มีโรคที่ทำให้เกิดภาวะต่อมไทรอยด์ทำ
00:17:38 → 00:17:40 งานพี่น้องนะครับมีชื่อว่าฮาชิมะตกแค่ราย
00:17:40 → 00:17:44 ได้เต็ดนะครับก็คือว่าตัวผมไปในมันทำลาย
00:17:44 → 00:17:47 ต่อมไทรอยด์ทำให้เราสร้างไทรอยด์ฮอร์โมน x
00:17:47 → 00:17:50 ตีน้อยลงถ้าภูมิคุ้มกันนะครับมันโจมตีไป
00:17:50 → 00:17:53 ที่ตามเยื่อหุ้มข้อนะครับโดยเฉพาะพอตาม
00:17:53 → 00:17:56 ข้อนิ้วมือนะครับพอดูเท้าเนี่ยว่าข้อเข่า
00:17:56 → 00:17:59 ก็จะเกิดโรคที่มีชื่อว่าโรคข้ออักเสบรูมา
00:17:59 → 00:18:01 ตอยด์นะครับหรือว่ารูมาตอยด์อ่ะไทยเต็ด
00:18:01 → 00:18:04 ซิ่งลบโรคนี้นะคะมันก็จะว่าจะลุกลามจน
00:18:04 → 00:18:07 กระทั่งทำลายกระดูกและข้อต่างๆของเราได้
00:18:07 → 00:18:09 หรือถ้าระบบภูมิคุ้มกันนะครับมันโจมตีพิษ
00:18:09 → 00:18:12 ที่เยื่อหุ้มประสาทนะครับก็คือตัวปะติด
00:18:12 → 00:18:14 เส้นประสาทของเรามันจะมีตัวเยื่อหุ้มอยู่
00:18:14 → 00:18:16 นะครับเป็นไขมันเป็นเหมือนเป็นปลอกผมอยู่
00:18:16 → 00:18:19 คัดตัวปลอกหุ้มเนี้ยนะคะมันโดนโจมตีด้วย
00:18:19 → 00:18:22 ระบบคุมการเนี่ยจะเกิดโรคที่มีชื่อว่า
00:18:22 → 00:18:26 Morris นะครับซึ่งก่อโรคนี้เนี่ยอาการ
00:18:26 → 00:18:28 ของผู้ป่วยก็จะเป็นเรื่องของอาการทางระบบ
00:18:28 → 00:18:31 ประสาทก็ขึ้นกับว่าเราเส้นประสาทไหนที่
00:18:31 → 00:18:33 โดนโจมตีเราว่าโดนเส้นประสาทไหนที่เสีย
00:18:33 → 00:18:36 หายถ้าเป็นภาษาที่เกี่ยวข้องไปเลี้ยงตานะ
00:18:36 → 00:18:38 ครับหรือเกี่ยวข้องกับตานี้เขาจะทำมี
00:18:38 → 00:18:42 อาการต่อตามตามมวลนะครับว่าตาบอดได้หรือ
00:18:42 → 00:18:45 อาจจะเกิดเช่นภาษาทิศเลี้ยงตาแดกเสพถ้า
00:18:45 → 00:18:47 เป็นพวกเส้นประสาทที่ไปเอาที่อยู่แถวไข
00:18:47 → 00:18:49 สันหลังนะครับร้องจากไขสันหลังเนี่ยก็จะ
00:18:49 → 00:18:52 นำไปสู่อาการความแรงของแขนและก็ขาได้หรือ
00:18:52 → 00:18:55 ถ้าเป็นโรคที่ภูมิคุ้มกันมันโจมตีเป็นที่
00:18:55 → 00:18:58 ผิวหนังนะครับว่าจะเกิดภาวะโรคนะครับชื่อ
00:18:58 → 00:19:00 ว่าโรคหนังแข็งนะครับหรือชื่อในภาษา
00:19:00 → 00:19:02 อังกฤษก็คือว่า suspicious นะครับนอกจาก
00:19:03 → 00:19:05 นี้กันอีกรอบนึงนะครับก็คือโรคสะเก็ดกัน
00:19:05 → 00:19:07 นะครับหรือที่ภาษาหรือว่า soulless นะ
00:19:07 → 00:19:09 ครับซึ่งผู้ป่วยก็จะมีอาการเหมือนกับผิว
00:19:09 → 00:19:11 หนังหรือในการลอกเป็นคุยนะครับเพราะว่า
00:19:11 → 00:19:14 เซลล์ที่หนังถูกกระตุ้นให้มีการสร้างตัว
00:19:14 → 00:19:16 ละแบ่งตัวนี้เพิ่มขึ้นเร็วนะครับอยู่หนัง
00:19:16 → 00:19:19 ก็จะลองคุยออกมาจะได้ที่เราทั้งหมดนะครับ
00:19:19 → 00:19:22 อยากเห็นเฉยว่าโรคในวันนี้เยอะมากนะครับ
00:19:22 → 00:19:24 ขึ้นกับว่าตัวภูมิคุ้มกันเนี่ยมันจะโจมตี
00:19:24 → 00:19:27 ที่อวัยวะไหนนะครับหรืออย่างในบางโลกนะ
00:19:27 → 00:19:29 ครับอยู่ตรง sle นะครับที่คนไทยรู้จักใน
00:19:29 → 00:19:31 ชื่อโรคพุ่มพวงนะครับเพราะว่าเคยเกิดขึ้น
00:19:31 → 00:19:34 กับอดีตนักร้องนะครับพุ่มพวงดวงจันทร์นะ
00:19:34 → 00:19:37 ครับโรคนี้ก็จะมีความผิดปกติของหลายระบบ
00:19:37 → 00:19:40 ด้วยนะครับก็คือจะมีต่อไปวายนะครับเรื่อง
00:19:40 → 00:19:42 ของตัวใครก็ดูนะครับที่ไม่สามารถสร้าง
00:19:42 → 00:19:45 เม็ดเลือดได้มีเรื่องของผิวหนังนะครับที่
00:19:45 → 00:19:48 เกิดของทีมนักเสพขึ้นมาแล้วก็อื่นๆอีก
00:19:48 → 00:19:51 หลายระบบนะครับทีนี้อย่างที่บอกไปก็คือ
00:19:51 → 00:19:53 ปัจจุบันเรายังไม่รู้ว่าอะไรนะคะที่ทำให้
00:19:53 → 00:19:55 ระบบภูมิคุ้มกันอย่ามาหันมาทำร้ายร่างกาย
00:19:55 → 00:19:57 ของเราเราก็ไม่รู้ว่าทำไมผมคุ้มกันแต่มัน
00:19:58 → 00:20:00 เลือกทำร้ายบางระบบหรือบางก็วัยวะแต่เรา
00:20:01 → 00:20:02 ก็รู้ว่ามันเกี่ยวข้องกับปัจจัยหลายๆ
00:20:02 → 00:20:04 อย่างนะครับมันเป็นโรคที่ซับซ้อนตัวอย่าง
00:20:04 → 00:20:06 เช่นเรื่องของพันธุกรรมนะครับก็เพราะว่า
00:20:06 → 00:20:09 โลกหลายโลกเหนือมันออกพบว่าในครอบครัวนะ
00:20:09 → 00:20:12 ครับถ้ามีใครสักคนเป็นเนี่ยคนอื่นใน
00:20:12 → 00:20:14 ครอบครัวก็มีความเสี่ยงที่จะเป็นมากขึ้น
00:20:14 → 00:20:16 หรือว่าจะเป็นเรื่องของฮอร์โมนนะครับโดย
00:20:16 → 00:20:18 เฉพาะเรื่องของฮอร์โมนเพศเพราะโรคกลุ่ม
00:20:18 → 00:20:20 นี้บางโลกเนี่ยจะพบเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้
00:20:20 → 00:20:23 ชายแล้วด้วยความที่โรคเหล่านี้นะครับมัน
00:20:23 → 00:20:25 เพิ่มขึ้นในช่วงหลายสิบปีที่ผ่านมาเนี่ย
00:20:25 → 00:20:28 ทำให้ทางนักเรียนศาสตร์เชื่อว่ามันน่าจะ
00:20:28 → 00:20:30 มีปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมในเข้ามาเกี่ยว
00:20:30 → 00:20:32 ข้องด้วยซึ่งอาจจะเป็นเรื่องของสารเคมี
00:20:32 → 00:20:35 ต่างๆในสิ่งแวดล้อมนะครับเรื่องของเราหา
00:20:35 → 00:20:37 หนักเรื่องของอาหารการกินที่เปลี่ยนไป
00:20:37 → 00:20:39 แล้วก็ที่สำคัญที่สุดก็คือเรื่องของ
00:20:39 → 00:20:42 จุลินทรีย์หรือแบคทีเรียในลำไส้ใหญ่ที่
00:20:42 → 00:20:44 เปลี่ยนไปโอเคพอเรารู้จักแล้วนะครับพอ
00:20:44 → 00:20:46 เห็นภาพนะครับว่าโลกที่ว่าโลกก็ตาม
00:20:46 → 00:20:48 disease ที่เหมือนกับพบมากขึ้นใน
00:20:48 → 00:20:51 ปัจจุบันเนี่ยมันมีลักษณะแบบไหนคราวนี้
00:20:51 → 00:20:53 เราจะมาตอบคำถามที่เราค้างกันไว้นะครับก็
00:20:53 → 00:20:55 คือว่าแบตเตอรี่ในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ย
00:20:55 → 00:20:58 มันมาเกี่ยวข้องกับระบบภูมิคุ้มกันของเรา
00:20:58 → 00:21:01 ได้ยังไง
00:21:01 → 00:21:04 ในการจะเข้าใจเรื่องนี้นะครับมันต้อง
00:21:04 → 00:21:06 เริ่มจากข้อเท็จจริง 2 ข้อก่อนข้อแรกก็
00:21:06 → 00:21:09 คือลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ยซึ่งเรารู้สึกว่า
00:21:09 → 00:21:12 มันเป็นอวัยวะที่อยู่ภายในจริงๆเป็น
00:21:12 → 00:21:14 อวัยวะที่สัมพันธ์กับโลกภายนอกนะครับคือ
00:21:14 → 00:21:17 สัมผัสกับโลกภายนอกเยอะมากซึ่งเดี๋ยวจะ
00:21:17 → 00:21:19 อธิบายให้ฟังข้อเท็จจริงที่สอนนะครับก็
00:21:19 → 00:21:21 คือในอวัยวะทั้งหลายแหล่ในร่างกายของเรา
00:21:21 → 00:21:24 นะครับลำไส้ใหญ่เป็นอวัยวะที่มีแบคทีเรีย
00:21:24 → 00:21:27 เนี่ยเข้ามาอาศัยอยู่ภายในเดือนมากที่สุด
00:21:27 → 00:21:29 แล้วตอนนี้เราจะมาดูกันนะครับทีละข้อนะ
00:21:29 → 00:21:31 ครับว่าข้อจริง 2 ข้อเนี่ยมันบอกอะไรเรา
00:21:31 → 00:21:33 บ้างนะครับข้อแรกสุดนะครับที่บอกว่าลำไส้
00:21:33 → 00:21:35 ของเรานะเพื่อนได้วัดที่สัมผัสกับโลกภาย
00:21:35 → 00:21:38 นอกมากเนี่ยมันหมายความว่าอย่างนี้ครับ
00:21:38 → 00:21:41 มีสติระลึกถึงลำไส้แล้วก็เพราะอาหารต่างๆ
00:21:41 → 00:21:44 มันเป็นระยะที่อยู่ภายในร่างกายของเราได้
00:21:44 → 00:21:47 จริงๆคิดดูนะครับก็คือว่าพื้นที่ผิวนะ
00:21:47 → 00:21:49 ครับภายในโพรงของตัวทางเดินอาหารของเรา
00:21:49 → 00:21:52 เนี่ยมันสัมผัสกับอาหารตลอดเวลาถูกไหม
00:21:52 → 00:21:54 ครับซึ่งปัจจุบันมีการปนเปื้อนของเชื้อไป
00:21:54 → 00:21:57 เที่ยวต่างๆก็จะเข้าไปสัมผัสกับผนังภายใน
00:21:57 → 00:22:01 ของลำไส้ของเราดังนั้นนะครับก็คือภายใน
00:22:01 → 00:22:03 ทางเดินหาของเราแล้วมันก็เหมือนเป็นด่าน
00:22:03 → 00:22:05 หน้านะครับที่คอยสัมผัสกับเชื้อโรคต่างๆ
00:22:05 → 00:22:08 หรือว่าสิ่งแปลกปลอมที่มาจากภายนอกเพราะ
00:22:08 → 00:22:10 ฉะนั้นตัวลำไส้เราจะต้องเหมือนก็มีประการ
00:22:10 → 00:22:12 มีคนไกลนะครับที่ป้องกันไม่ให้ตัวพวกไป
00:22:12 → 00:22:15 เที่ยวต่างๆจะได้ซึ่งต่างๆเนี่ยมาสามารถ
00:22:15 → 00:22:17 เจาะทะลุผนังลำไส้ในเข้าไปได้ง่ายเพราะจะ
00:22:17 → 00:22:19 เข้าไปได้ก็จะเข้าไปในเส้นเลือดของเราได้
00:22:19 → 00:22:21 นะครับแล้วก็นำไปสู่ภาวะการติดเชื้อใน
00:22:21 → 00:22:23 เส้นเลือดได้และด้วยเหตุนี้นะครับตัวผนัง
00:22:24 → 00:22:26 ลำไส้เนี่ยมันก็มีความสามารถที่จะคอยแยก
00:22:26 → 00:22:28 ว่าสิ่งที่เข้ามาภายในลำไส้เนี่ยมันเป็น
00:22:28 → 00:22:31 สิ่งที่ปลอดภัยหรือเปล่ามีประโยชน์กับ
00:22:31 → 00:22:33 ร่างกายเราหรือเปล่าถ้ามีประโยชน์หรือไม่
00:22:33 → 00:22:36 ค่อยเลือกที่ดูดซึมเข้าไปแล้ว 1 วิธีการ
00:22:36 → 00:22:38 ที่ตัวผนังลำไส้ของเราป้องกันไม่ให้ตัวไป
00:22:38 → 00:22:42 เคลียร์ 6 เข้าไปก็คือว่ามันจะมีการนำพวก
00:22:42 → 00:22:44 เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันในจำนวนมากเนี่ยมา
00:22:44 → 00:22:47 ประจำการอยู่ที่ประเวณที่ผิวของผนังลำไส้
00:22:47 → 00:22:49 ของเราแล้วเซลล์ระบบภูมิคุ้มกันยังไม่
00:22:49 → 00:22:52 เข้ามาสายอยู่เยอะจนกระทั่งอาจจะได้ว่าลำ
00:22:52 → 00:22:54 ไส้ใหญ่ของเราเนี่ยเป็นอวัยวะที่อยู่ใน
00:22:54 → 00:22:56 ระบบภูมิคุ้มกันที่มีขนาดใหญ่ที่สุดใน
00:22:56 → 00:22:58 ร่างกายก็ว่าได้คราวนี้นะครับเรามาคุยถึง
00:22:58 → 00:23:01 ภูมิคุ้มกันนิดนึงสมัยเกาะเนี่ยเวลาเรา
00:23:01 → 00:23:04 เทียบเรานิยมที่ว่าระบบภูมิคุ้มกันเหมือน
00:23:04 → 00:23:06 เป็นกองทัพของร่างกายที่ทำหน้าที่ป้องกัน
00:23:06 → 00:23:08 ไม่ให้แบคทีเรียเข้ามาทุกร้านในร่างกาย
00:23:08 → 00:23:11 ของเรานี่ในการทำงานของมันเนี่ยมันก็ต้อง
00:23:11 → 00:23:14 แยกก่อนว่าเซลล์ที่มันเผชิญหน้ามันเห็น
00:23:14 → 00:23:15 เนี่ยมันคือเซลล์ร่างกายของเราหรือเปล่า
00:23:16 → 00:23:17 หรือเป็นเซลล์ของสิ่งมีชีวิตอื่นหรือว่า
00:23:17 → 00:23:20 เป็นเซลล์แบคทีเรียหรือว่าสิ่งแปลกปลอม
00:23:20 → 00:23:22 เหมือนอื่นๆแต่ถ้าเซลล์ภูมิคุ้มกันมอง
00:23:22 → 00:23:23 แล้วว่านี่ไม่ใช่เซลล์ที่เป็นร่างกายของ
00:23:23 → 00:23:26 เรามันก็จะโจมตีเซลล์นั้นแต่มันก็มีปัญหา
00:23:26 → 00:23:28 อยู่ว่าภายในลำไส้ใหญ่ของเราเนี่ยจะไม่
00:23:28 → 00:23:30 ได้แบคทีเรียอาศัยอยู่มากมายถูกไหมครับ
00:23:30 → 00:23:32 เพราะที่เราคุยกันมาตลอดก็คือว่าไปช่วย
00:23:32 → 00:23:35 เราเนี่ยมันไม่ใช่ศัตรูนะครับก็คือมัน
00:23:35 → 00:23:37 เข้ามาใส่อยู่ในร่างกายของเราแล้วมันก็มี
00:23:37 → 00:23:39 ประโยชน์กับร่างกายของเราด้วยณที่นี้
00:23:39 → 00:23:41 ปัญหาก็ถือว่าครับระบบภูมิคุ้มกันบอกว่า
00:23:41 → 00:23:43 เนี่ยเป็นเซลล์อื่นนะครับเสียงที่ไม่ใช่
00:23:43 → 00:23:46 ร่างกายของเราแล้วมันโจมตีเนี่ยคนที่เกิด
00:23:46 → 00:23:48 ขึ้นก็คือมันจะทำลายแบคทีเรียเหล่านี้นะ
00:23:48 → 00:23:49 ครับซึ่งเป็นแบคทีเรียที่มีประโยชน์กับ
00:23:50 → 00:23:52 ร่างกายของเราและยิ่งไปกว่านั้นก็คือถ้า
00:23:52 → 00:23:55 มันเลือกที่จะโจมตีนะครับก็คือมันใช้พวก
00:23:55 → 00:23:58 สารเคมีต่างๆค่ะเหมือนระดมยิงหรือว่าถล่ม
00:23:58 → 00:24:00 ระเบิดเข้าใส่ทุเรียนเนี่ยผลที่เกิดขึ้น
00:24:00 → 00:24:02 ตามมาก็คือว่าจะเกิดการอักเสบครั้งใหญ่
00:24:02 → 00:24:05 เลยนะครับขึ้นในลำไส้ใหญ่ของเราเพราะว่า
00:24:05 → 00:24:08 เซลล์ระบบภูมิคุ้มกันในการโจมตีแน่นอนก็
00:24:08 → 00:24:10 คือเหมือนกันทำสงครามว่าคือมันจะทำให้
00:24:10 → 00:24:13 บ้านเรือนรอบๆเสียหายจากสาร Kim Young
00:24:13 → 00:24:15 ต่างที่มันหลังออกมาเพื่อที่จะฆ่าพวก
00:24:15 → 00:24:18 เชื้อจุลินทรีย์ต่างๆดังนั้นนะครับจะเห็น
00:24:18 → 00:24:20 ว่าการเปรียบเทียบว่าระบบภูมิคุ้มกันเป็น
00:24:20 → 00:24:23 เหมือนทหารเราจงคอยโจมตีอย่างเดียวเนี่ย
00:24:23 → 00:24:26 มันจึงไม่ค่อยถูกต้องสักเท่าไหร่แต่ยังไง
00:24:26 → 00:24:28 ก็ตามนะครับแบตเตอรี่ที่อยู่ในลำไส้ของ
00:24:28 → 00:24:30 เราเนี่ยเราต้องเข้าใจก่อนว่าว่าเป็นธุระ
00:24:30 → 00:24:32 เหล่านี้จริงๆก็ไม่ใช่เพื่อนของเรานะครับ
00:24:32 → 00:24:34 หมายความว่าความสัมพันธ์ระหว่างเรากับไป
00:24:34 → 00:24:36 ทุเรียนนะมันจะไหมครับศัตรูที่ไม่มีทาง
00:24:36 → 00:24:40 เลือกนะครับแต่ว่าถ้าอยู่ด้วยกันนะครับ
00:24:40 → 00:24:42 อยู่ด้วยกันไปเกาะนะอาจจะบอกว่ามันก็ไป
00:24:42 → 00:24:44 ศัตรูที่เป็นติดเกาะอยู่ร่วมกันก็ได้ก็
00:24:44 → 00:24:46 คือเราไม่สามารถจะต่อสู้กันได้เราต้อง
00:24:46 → 00:24:49 ช่วยเหลือกันไปก่อนเพราะถ้ามองในมุมของ
00:24:49 → 00:24:51 แบคทีเรีย n สิ่งที่มันต้องการก็คือมัน
00:24:51 → 00:24:53 ต้องการทรัพยากรต่างๆก็คือเรื่องของอาหาร
00:24:53 → 00:24:56 เรื่องของที่อยู่ทำมาหากินภายในลำไส้ของ
00:24:56 → 00:24:58 เราแต่แบคทีเรียเนี่ยมันก็ต้องแข่งกันเอง
00:24:58 → 00:25:00 ถูกไหมครับแต่นั้นแบคทีเรียไหนก็ตามที่
00:25:00 → 00:25:03 มันเหมือนครับมีแนวโน้มจะกินลึกกว่านะ
00:25:03 → 00:25:06 ครับหรือว่ากินมูมมามกว่าเนี่ยก็มีโอกาส
00:25:06 → 00:25:08 ที่จะชนะแบตเตรียมตัวอื่นซึ่งแน่นอนว่า
00:25:08 → 00:25:11 ถ้ามองในมุมของร่างกายเรานะครับหรือมองใน
00:25:11 → 00:25:13 ระบบภูมิคุ้มกันของเราเนี่ยเราก็ไม่
00:25:13 → 00:25:15 ต้องการให้แบตเตรียมทำงานอย่างนั้นก็บอก
00:25:15 → 00:25:17 พบกันเนี่ยต้องการที่จะให้มีกันคงระยะ
00:25:17 → 00:25:19 ห่างระหว่างเซลล์ของร่างกายมนุษย์กับไป
00:25:19 → 00:25:22 เที่ยวทั้งหลายให้ทางไว้ประมาณระดับหนึ่ง
00:25:22 → 00:25:25 ไม่ให้พวกแบบทีเดียวมันรุกล้ำเข้ามามาก
00:25:25 → 00:25:27 เกินไปแต่มันจะเห็นว่าความสัมพันธ์
00:25:27 → 00:25:29 ระหว่าง Bentley นำไส้ของเรานะครับกับตัว
00:25:29 → 00:25:32 ระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยมันก็ไม่ใช่เป็น
00:25:32 → 00:25:34 เพื่อนที่ดีต่อการทำเหมือนกับเป็นจะรู้
00:25:34 → 00:25:36 ว่ามันเป็นสงครามเย็นอยู่ก็ได้ก็คือต่าง
00:25:36 → 00:25:38 ฝ่ายโจทก์จะต้องๆกันอยู่นะครับถ้ามีมี
00:25:38 → 00:25:41 อะไรแต่ละฝ่ายเนี่ยก็มีโอกาสที่จะรุกนะ
00:25:41 → 00:25:44 ครับเข้าไปในดินได้ของอีกฝ่ายนึงมากขึ้น
00:25:44 → 00:25:46 แต่ได้คนประดิษฐ์ทั่วไปนะครับมันจะไม่
00:25:46 → 00:25:48 เข้าไปที่เรียกระบบภูมิคุ้มกันของเรา
00:25:48 → 00:25:51 เนี่ยมันเหมือนก็จะสามารถเจรจานะครับแล้ว
00:25:51 → 00:25:54 ก็หาข้อตกลงที่ลงตัวนะครับแล้วได้
00:25:54 → 00:25:55 ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายคือจะเรียกว่ามันอยู่
00:25:55 → 00:25:58 ในจุดที่สมดุลจุดหนึ่งก็ได้อย่างไรก็ตาม
00:25:58 → 00:26:01 นะครับสมดุลจุดนี้เนี่ยมันอาจจะไม่คงที่
00:26:01 → 00:26:04 ตลอดไปเหมือนกับว่าถ้าเทียบกับสงครามเย็น
00:26:04 → 00:26:06 น่ะจะบอกว่าบางครั้งเนี่ยอาจจะมีเหตุ
00:26:06 → 00:26:08 การณ์ตึงเครียดขึ้นมาได้แล้วก็จะมีอัน
00:26:08 → 00:26:10 กระทบกระทั่งเกิดขึ้นเช่นแบคทีเรียที่
00:26:10 → 00:26:12 อยู่ในลำไส้ใหญ่หรือว่าจะมีการเปลี่ยน
00:26:12 → 00:26:15 แปลงอย่างเกิดขึ้นแล้วทำให้ไปเรียนมีความ
00:26:15 → 00:26:18 ก้าวร้าวมากขึ้นและพยายามที่จะลุกล้ำค่า
00:26:18 → 00:26:21 มากขึ้นแน่นอนว่าภูมิคุ้มกันของเรานั้นก็
00:26:21 → 00:26:24 จะต้องตื่นตัวแล้วก็ตอบสนองกลับไปซึ่งใน
00:26:24 → 00:26:25 การต่อสู้อ้วนที่เกิดขึ้นเนี่ยมันก็จะนำ
00:26:25 → 00:26:28 ไปสู่ภาวะการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในลำไส้
00:26:28 → 00:26:31 ของเราดังนั้นคำถามที่น่าสนใจก็คือว่า
00:26:31 → 00:26:33 แล้วอะไรบ้างนะครับที่ทำให้เกิดเหมือนกับ
00:26:33 → 00:26:36 เสียความสมดุลระหว่างไปเคลียร์ในลำไส้กับ
00:26:36 → 00:26:38 ระบบภูมิคุ้มกันของเราได้บ้างคำตอบนะและ
00:26:38 → 00:26:41 ก็เหมือนกับที่เราเคยคุยกันไปในหลายไปสด
00:26:41 → 00:26:43 ก่อนหน้านะครับคือไม่มีปัจจัยหลายอย่าง
00:26:43 → 00:26:45 ที่เข้ามาเกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่อง
00:26:45 → 00:26:47 ของอาหารที่เรากินนะครับก็คือเรื่องของ
00:26:47 → 00:26:50 การกินพวกใยอาหารน้อยนะครับกินพวกน้ำตาล
00:26:50 → 00:26:52 หรือไขมันสูงเพื่อจะเป็นเรื่องของปัจจัย
00:26:52 → 00:26:54 ทางจิตใจก็เกี่ยวข้องด้วยนะครับเช่น
00:26:54 → 00:26:57 เรื่องของความเครียดต่างๆนะครับอาจจะนำไป
00:26:57 → 00:27:00 สู่ภาวะการอักเสบในลำไส้ได้จะได้คุยมาถึง
00:27:00 → 00:27:02 ตรงนี้นะครับคิดว่าน่าจะพอเห็นภาพนะครับ
00:27:02 → 00:27:04 ว่าแบตช่วยในลำไส้ใหญ่มันไปเกี่ยวข้องกับ
00:27:05 → 00:27:07 ระบบของการได้ยังไงนะครับและนำไปสู่ภาวะ
00:27:07 → 00:27:09 การอักเสบที่เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่ได้อย่าง
00:27:09 → 00:27:11 ไรคำถามต่อไปก็คือรับภาวะการเกษตรนะครับ
00:27:11 → 00:27:13 ที่เกิดขึ้นในลำไส้ใหญ่เนี่ยรู้ไปเคลียร์
00:27:13 → 00:27:16 กับภูมิคุ้มกันในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันไปมีผล
00:27:16 → 00:27:19 ต่อการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันในส่วนอื่น
00:27:19 → 00:27:24 ของร่างกายได้ยังไงกับ
00:27:24 → 00:27:27 คำอธิบายนะครับก็คือว่าสงครามหรือว่าการ
00:27:27 → 00:27:29 ปะทะกันที่เกิดขึ้นลำไส้ใหญ่นะครับมันไม่
00:27:29 → 00:27:32 ได้จบลงแค่ในลำไส้ใหญ่แต่เซลล์ในระบบภูมิ
00:27:32 → 00:27:34 คุ้มกันเดี๋ยวมาสามารถที่จะเข้าไปในกระแส
00:27:34 → 00:27:36 เลือดนะครับหรือว่าสารการเกษตรต่างๆที่
00:27:36 → 00:27:38 เกิดขึ้นลำไส้เนี่ยมันสามารถเข้าในเจาะ
00:27:38 → 00:27:41 เลือดแล้วก็ไหลเวียนไปตามที่ต่างๆของร่าง
00:27:41 → 00:27:44 กายได้ที่นี่คำถามว่าร่างกายเราทำอย่าง
00:27:44 → 00:27:46 นั้นเพื่ออะไรนะครับจริงมันเป็นคนใครที่
00:27:46 → 00:27:49 ดีนะครับเพราะอย่างนี้ครับคือนึกภาพนะ
00:27:49 → 00:27:51 ครับว่ามันมีความสุขว่าตัวดอกคู่กันเนี่ย
00:27:51 → 00:27:54 มันมาต่อสู้กับพวกเป็นทุเรียนนำไส้แล้ว
00:27:54 → 00:27:56 เนี่ยเราว่าพวกเชื้อโรคที่บุกเข้ามาแล้ว
00:27:56 → 00:28:00 แล้วมันมีการเพิ่มจำนวนมากขึ้นส่วนนึงจะ
00:28:00 → 00:28:02 ส่งเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกันเนี่ยเข้าใน
00:28:02 → 00:28:04 กระแสเลือดนะครับแล้วก็ไหลเวียนเลือดจะ
00:28:04 → 00:28:07 พูดง่ายว่าส่งทหารที่มีประสบการณ์ในการ
00:28:07 → 00:28:10 ต่อสู้สมรภูมินี้มาแล้วเนี่ยคือเห็นหน้า
00:28:10 → 00:28:13 ตาคู่ต่อสู้มาแล้วเคยปะทะมาแล้วเนี่ยส่ง
00:28:13 → 00:28:15 เข้าไปในเลือดให้เป็นลาดตระเวนตามส่วน
00:28:15 → 00:28:17 ต่างๆของร่างกายแล้วเซลล์นะครับเหล่านี้
00:28:17 → 00:28:19 นะครับก็จะไหลวิ่งไปทำที่หน้าต่างของร่าง
00:28:19 → 00:28:23 กายรวมถึงพวกสารการเกษตรต่างๆด้วยซึ่งมัน
00:28:23 → 00:28:26 ก็จะมีประโยชน์ถ้ามันมีการรถรอดของ
00:28:26 → 00:28:28 แบตเตอรี่นะเข้าไปในร่างกายได้แต่ถ้าภาวะ
00:28:28 → 00:28:31 นี้มันเกิดมากเกินไปนะครับอย่างที่บอกไป
00:28:31 → 00:28:33 ก็คือว่าสมุดได้ลำไส้เราเกิดเสียสมดุล
00:28:33 → 00:28:36 ขึ้นมาแล้วการปะทะและการต่อสู้เนี่ยมัน
00:28:36 → 00:28:37 ไม่ได้จบลงสั้นๆแต่มันเป็นอย่างเรื้อรัง
00:28:37 → 00:28:40 นะครับมีการอักเสบที่เกิดขึ้นเนี่ยมันก็
00:28:40 → 00:28:42 จะรู้ว่าเค้าในเลือดในอย่างต่อเนื่องตลอด
00:28:42 → 00:28:45 เวลาเซลล์อักเสบต่างๆสร้างเสร็จต่างๆ
00:28:45 → 00:28:47 เนี่ยมันก็จะได้วิ่งในเลือดอยู่ตลอดเวลา
00:28:47 → 00:28:50 นะครับทำให้เกิดภาวะการเกษตรในเลือดได้
00:28:50 → 00:28:52 มากขึ้นแล้วศาลอักเสบต่างๆเหล่านี้นะครับ
00:28:52 → 00:28:54 ที่ไหลเวียนอยู่เนี่ยมันก็สามารถก่อให้
00:28:54 → 00:28:58 เกิดผลเสียกับส่วนต่างๆของร่างกายได้ที่
00:28:58 → 00:29:00 นี่นะครับถ้าเรามองในภาพใหญ่เนี่ยมันจะ
00:29:00 → 00:29:03 เหมือนกับว่าแตะชื่อในลำไส้ใหญ่ของเรา
00:29:03 → 00:29:06 เนี่ยมันสามารถที่จะควบคุมนะครับเพราะการ
00:29:06 → 00:29:08 ทำงานของระบบภูมิคุ้มกันทั่วร่างกายได้
00:29:08 → 00:29:11 อาจจะมองว่ามันเหมือนกับมีคันเร่งอยู่ใน
00:29:11 → 00:29:13 ลำไส้ใหญ่ของเราเราควรที่คอยบังคับคัน
00:29:13 → 00:29:16 เร่งเนี่ยก็คือตัวแบคทีเรียน้ำไส้ของเรา
00:29:16 → 00:29:18 ถ้าความสัมพันธ์ระหว่างไปเคลียร์ในลำไส้
00:29:18 → 00:29:20 ใหญ่กับเรื่องเซลล์ในระบบผู้การของเรา
00:29:20 → 00:29:23 เนี้ยออกค่อนข้างเป็นไปอย่างราบรื่นนะ
00:29:23 → 00:29:25 ครับเป็นไปได้ดีเนี่ยก็มันก็จะไม่ไป
00:29:25 → 00:29:28 กระตุ้นการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันแต่ถ้า
00:29:28 → 00:29:30 มันมีเหตุการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนะ
00:29:30 → 00:29:32 คะแนนที่ว่าไปเนี่ยมันก็จะทำให้ระบบคุ้ม
00:29:32 → 00:29:34 กันทั่วร่างกายเดี๋ยวมันไม่กลับตื่นตัว
00:29:34 → 00:29:36 มากขึ้นและระบบภูมิคุ้มกันที่แต่ตัวมาก
00:29:36 → 00:29:39 ขึ้นนะครับก็จะนำไปสู่โรคคะข้อมูลต่างๆนะ
00:29:39 → 00:29:41 ครับที่พบมากขึ้นอย่างที่เราคุยกันไปแล้ว
00:29:41 → 00:29:43 ทั้งหมดนี้นะครับก็คือเรื่องราวนะครับที่
00:29:43 → 00:29:45 อยากจะเล่าให้ฟังเรื่องที่สนนี้นะครับก็
00:29:45 → 00:29:48 คิดว่าน่าจะพอเห็นภาพแล้วนะครับว่าไปช่วย
00:29:48 → 00:29:50 นำใส่ของเราเดี๋ยวมันเกี่ยวข้องกับการทำ
00:29:50 → 00:29:53 งานของระบบภูมิคุ้มกันได้ยังไงแต่ก่อนจะ
00:29:53 → 00:29:56 จบนะครับผมก็อยากจะขอสรุปเรื่องราวที่เรา
00:29:56 → 00:29:57 คุยกัน 1 Episode นี้นะครับเป็นเขาเขา
00:29:57 → 00:30:00 ให้ใส่สักรอบนะครับอย่างแรกสุดเลยนะครับ
00:30:00 → 00:30:02 อาจจะพูดได้ว่าลำไส้ใหญ่ของเราและเป็นที่
00:30:02 → 00:30:04 อยู่ของ 2 กองทัพใหญ่ก็ได้นะครับที่เป็น
00:30:04 → 00:30:08 ชัดทรูกันกองทัพหนึ่งก็คือพวก 8 ชื่อทั้ง
00:30:08 → 00:30:10 สามที่อยู่ในลำไส้นะครับอีกกองทัพหนึ่งก็
00:30:10 → 00:30:13 คือระบบภูมิคุ้มกันนะครับของเราเองข้อที่
00:30:14 → 00:30:17 สองก็คือว่ากองทัพทั้งสองนี้นะครับออกแม้
00:30:17 → 00:30:19 ว่าจะอยู่กันอย่างสันติจริงแต่ว่าทั้งคู่
00:30:19 → 00:30:21 เนี่ยทั้ง 2 กองทัพเนี่ยก็ไม่ใช่เพื่อน
00:30:21 → 00:30:23 สนิทกันนะครับแต่เหมือนเป็นสงครามเย็นที่
00:30:23 → 00:30:27 ทั้งสองฝ่ายเนี่ยก็สามารถที่จะหาจุดลงตัว
00:30:27 → 00:30:31 แล้วก็คงสันติภาพก็ไม่ได้ก็ดีสามก็คือว่า
00:30:31 → 00:30:34 ถ้ามีการเปลี่ยนแปลงของสมดุลของพวก
00:30:34 → 00:30:36 แบคทีเรียหรือจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ของ
00:30:36 → 00:30:39 เรานะครับมาอาจจะนำไปสู่หนังสงครามเย็น
00:30:39 → 00:30:42 ที่มีความตึงเครียดมากขึ้นนะครับแล้วเกิด
00:30:42 → 00:30:45 การปะทะกันมากขึ้นทำให้เกิดภาวะการเกษตร
00:30:45 → 00:30:47 ในลำไส้ใหญ่เพิ่มขึ้นได้ข้อที่ 4 นะครับ
00:30:47 → 00:30:49 เซลล์อักเสบละสารเกษตรต่างๆที่เกิดขึ้น
00:30:49 → 00:30:52 ภายในลำไส้ใหญ่เนี่ยมันไม่ได้จำกัดอยู่
00:30:52 → 00:30:54 แค่ในลำไส้ใหญ่นะครับแต่มันสามารถที่จะ
00:30:54 → 00:30:56 หลุดรอดเข้าไปในกระแสเลือดนะครับและ
00:30:56 → 00:30:59 กระจายไปตามส่วนต่างๆของร่างกายได้เราก็
00:30:59 → 00:31:01 ทำให้เกิดภาวะการอักเสบในเลือดเพิ่มขึ้น
00:31:01 → 00:31:03 แล้วทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในวันนี้การทำ
00:31:03 → 00:31:06 งานที่เหมือนกับอะผิดปกติไปนะครับมีการ
00:31:06 → 00:31:08 เปลี่ยนตัวไหนมากขึ้นแล้วก็ได้ไปสู่ข้อ
00:31:08 → 00:31:10 ที่ 5 นะครับก็คือว่าการเดินแปลงทั้งหมด
00:31:10 → 00:31:13 ที่พูดมานะครับมันอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้อง
00:31:13 → 00:31:15 นะครับที่ทำให้โลกก็ต้องดูดีซีซั่นต่างๆ
00:31:15 → 00:31:18 เนี่ยเพิ่มมากขึ้นซึ่งอย่างที่ว่าไปเมื่อ
00:31:18 → 00:31:21 คือว่าทุกวันนี้เรายังไม่เข้าใจกลไกการ
00:31:21 → 00:31:22 เกิดของมันทั้งหมดนะครับก็คือมันเป็นโรค
00:31:22 → 00:31:25 ที่มีคนไทยซับซ้อนแล้วก็เชื่อว่ามีหลาย
00:31:25 → 00:31:27 ปัจจัยเนี่ยเกี่ยวข้องนะครับว่าจะเป็น
00:31:27 → 00:31:28 เรื่องของพันธุกรรมนะครับเรื่องของ
00:31:28 → 00:31:31 ฮอร์โมนเรื่องของขอสิ่งแวดล้อมนะครับว่า
00:31:31 → 00:31:33 จะเรื่องของโลหะหนักเรื่องของสารพิษต่างๆ
00:31:33 → 00:31:36 สิ่งแวดล้อมแล้วก็มีข้อมูลสับสนุนมากขึ้น
00:31:36 → 00:31:38 เรื่อยๆนะครับว่าโรคเขาจะบริษัทต่างๆที่
00:31:38 → 00:31:41 พบฮะเนี่ยน่าจะเกี่ยวข้องกับการเปลี่ยน
00:31:41 → 00:31:43 แปลงของแบตเตอรี่นำสายของเราด้วยและนั่น
00:31:43 → 00:31:46 ก็เป็น 5 หัวข้อหลักๆนะครับที่เราคุยกัน
00:31:46 → 00:31:48 ไปในคลิปนี้นะครับแต่ก็จะจากกันไปนะครับ
00:31:48 → 00:31:50 ก็อย่างที่สัญญาไว้ตอนแรกนะครับว่าผมจะ
00:31:50 → 00:31:52 เล่าเกี่ยวกับบริษัทมดกัดให้ฟังนะครับ
00:31:52 → 00:31:55 เพื่อท่านใดสนใจนะครับเราไปทำความรู้จัก
00:31:55 → 00:31:57 กับบริษัทมดกัดกันนะครับถึงช่วงเวลาที่
00:31:57 → 00:32:00 สัญญากันไว้นะครับก็คือจะเล่าเกี่ยวกับ
00:32:00 → 00:32:02 ผู้สับสน Series ใน Chrome ไอโอมของเรานะ
00:32:02 → 00:32:05 ครับบริษัทมดกัดนะครับบริษัทรถกันนะครับ
00:32:05 → 00:32:07 เป็นบริษัทที่ก่อตั้งขึ้นโดยนักวิจัยนะคะ
00:32:07 → 00:32:09 เป็นทีนะคะยศาสตร์ที่เชี่ยวชาญทางด้าน
00:32:09 → 00:32:11 เทคโนโลยี Micro Bio นะครับจาก
00:32:11 → 00:32:14 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี
00:32:14 → 00:32:17 บางมดนะครับโดยทางทีมของนักเรียนศาสตร์
00:32:17 → 00:32:20 ของมหาวิทยาลัยนะครับของบางบอนนะครับร่วม
00:32:20 → 00:32:23 มือกับภาคเอกชนก็คือบริษัทไบโอเทค Global
00:32:23 → 00:32:25 Survey ชั่นนะครับตั้งเป็นบริษัทใหม่
00:32:25 → 00:32:27 ขึ้นมานะครับแล้วก็ให้ชื่อว่าเป็นบริษัท
00:32:27 → 00:32:30 มดกัดนะครับเขาหมดเนี่ยมาจากคำว่าบางมดนะ
00:32:30 → 00:32:32 ครับส่วนคำว่ากัดนะครับจะอยู่ที่กัดเนี่ย
00:32:32 → 00:32:35 เป็นคำในภาษาอังกฤษนะครับที่นิยมใช้ในทาง
00:32:35 → 00:32:38 การแพทย์จะมีความหมายว่าลำไส้จะนี่บริษัท
00:32:38 → 00:32:40 มดกัดมีอะไรนะครับทั้งหมดการ์ดเนี่ยก็คือ
00:32:40 → 00:32:42 เปิดให้บริการนะครับตรวจแล้วก็วิเคราะห์
00:32:42 → 00:32:46 จุลินทรีย์ในลำไส้แก่คนทั่วไปเพื่อให้คน
00:32:46 → 00:32:48 ที่ไปตรวจนะครับแล้วตัวคุณเนี้ยได้รู้ว่า
00:32:48 → 00:32:50 สภาวะของจุลินทรีย์นำไส้ของตัวเองเนี่ย
00:32:50 → 00:32:53 อยู่ในสภาวะแบบไหนสำหรับท่านไหนนะครับที่
00:32:53 → 00:32:55 สนใจแล้วก็อยากจะได้ข้อมูลเพิ่มเติม
00:32:55 → 00:32:58 เกี่ยวกับบริษัทมดกัดนะครับเช่นประโยชน์
00:32:58 → 00:33:00 ที่จะได้จากการตัวนั้นมีอะไรบ้างนะครับ
00:33:00 → 00:33:02 แล้วก็ในการตรวจยังมีรายละเอียดอะไรบ้าง
00:33:02 → 00:33:04 ยังไงบ้างนะครับหรือว่าขั้นตอนในการตรวจ
00:33:04 → 00:33:07 มันมีรายละเอียดอะไรบ้างผมจะแปะลิงค์ไว้
00:33:07 → 00:33:09 ใต้ Description นะครับหรือว่าเอาไว้ใน
00:33:09 → 00:33:12 ช่องคอมเม้นต์นะครับใครสนใจในก็ลองติดต่อ
00:33:12 → 00:33:15 ไปคุยเพิ่มเติมดูได้นะครับเพราะว่าถ้าบอก
00:33:15 → 00:33:16 ความรู้ทางด้านนี้มันเปลี่ยนเร็วมากนะ
00:33:16 → 00:33:18 ครับท่านที่มาดูคลิปเนี่ย 3 เดือน 6
00:33:18 → 00:33:20 เดือนแล้วว่าปีหนึ่งจากที่ผมโพสหรือว่าลง
00:33:20 → 00:33:23 คลิปไว้เนี่ยอาจจะมีความรู้ใหม่ๆเนี้ยที่
00:33:23 → 00:33:27 ต่างไปจากเดิมในออกมามากมายนะครับถ้าสนใจ
00:33:27 → 00:33:30 ก็ลองติดต่อดูนะครับมดกัดนะครับสิ่งเล็กๆ
00:33:30 → 00:33:32 ที่สร้างให้ชีวิตเราต่างกันสำหรับวันนี้
00:33:32 → 00:33:34 ผมขอลาไปเกาะนะครับว่าเรามาพบกันใหม่ใน
00:33:34 → 00:33:37 โซนหน้านะครับในซีรีส์ของไม่ค่อยโอมส่วน
00:33:37 → 00:33:40 ดีครับโน้ท