00:00:00 → 00:00:02 ลูกๆคนไหนรู้สึกเหนื่อยบ้างครับกับการดู
00:00:02 → 00:00:04 แลคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเจ็บป่วยอยู่ที่
00:00:04 → 00:00:07 บ้านนะครับพอจะหาพี่เลี้ยงมาช่วยดูแลก็
00:00:07 → 00:00:09 ไม่รู้ว่าจะจัดการอย่างไรพอจะส่งพ่อแม่ไป
00:00:09 → 00:00:12 อยู่ที่ศูนย์ดูแลก็อาจจะรู้สึกว่าตัวเอง
00:00:12 → 00:00:15 นั้นเป็นลูกที่ไม่กตัญญูและบางครั้งก็ไม่
00:00:15 → 00:00:17 กล้าที่จะมีความสุขอย่างเต็มที่นี่คือหัว
00:00:17 → 00:00:20 ข้อที่เราจะพูดคุยกันในบุพการีที่เคารพ
00:00:20 → 00:00:25 คู่มือการดูแลพ่อแม่ของคนจนลูกในวันนี้นะ
00:00:25 → 00:00:29 ครับปัญหานึงของแกีเบอร์นี่ก็ที่มักจะเจอ
00:00:29 → 00:00:31 กันก็คือเกี่ยวกับพวกเรื่องความกตัญญู
00:00:31 → 00:00:34 หรือว่าอะไรอย่างเงี้ยค้ำคอไว้ค้ำการตัด
00:00:34 → 00:00:37 สินใจไว้เวลาเราจะตัดสินใจอะไรแต่ละอย่าง
00:00:37 → 00:00:40 บางทีไอคำคำนี้มันจะวนกลับมาหาเราโจ๋มี
00:00:40 → 00:00:43 ปัญหากับพวกเรื่องพวกนี้
00:00:43 → 00:00:45 มั้ยอย่างเวลาคนมาเยี่ยมแล้วบางทีก็อาจจะ
00:00:45 → 00:00:47 พูดบางอย่างแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเรา
00:00:47 → 00:00:50 หงุดหงิดไปด้วยพวกเนี้ยมันมีผลต่อคนดูแล
00:00:50 → 00:00:52 เหมือนกันมีผลมากนะคะเพราะว่ามันทำให้เขา
00:00:52 → 00:00:56 เสียกำลังใจอ
00:00:56 → 00:00:58 ครับถามเรื่องพี่เลี้ยงหน่อยครับเพราะว่า
00:00:58 → 00:01:01 หลายๆบ้านก็อาจจะเจอปัญหาคล้ายๆกันคือมี
00:01:01 → 00:01:03 พี่เลี้ยงบางคนโชคดีหน่อยก็จะอยู่กันยาว
00:01:03 → 00:01:06 นานอยู่ทนบางบ้านก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆอาจ
00:01:06 → 00:01:08 จะทำงานได้ไม่ตรงใจเราเนาะเออวิธีการสื่อ
00:01:08 → 00:01:10 สารกับเค้าสื่อสารกันยัง
00:01:10 → 00:01:12 [เพลง]
00:01:12 → 00:01:15 ไงจะให้คุณพ่อไปอยู่ที่ศูนย์ก่อนบาง
00:01:15 → 00:01:18 ครอบครัวเขาก็อาจจะรู้สึกได้ว่าเฮ้ยเราก็
00:01:18 → 00:01:20 ดูแลได้นี่เราก็มีเวลาทำไมอยู่ๆเอาไปให้
00:01:20 → 00:01:23 คนอื่นดูแลตอนคุยกับที่บ้านตกลงกันลงตัว
00:01:23 → 00:01:23 ได้ยัง
00:01:23 → 00:01:25 [เพลง]
00:01:25 → 00:01:28 ไงเคยมีน้องบางคนบอกว่าไม่กล้าแม้กระทั่ง
00:01:28 → 00:01:30 ไปดูคอนเสิร์ตอย่างเงี้ยไม่กล้ามีความสุข
00:01:30 → 00:01:33 เพราะว่าพ่อป่วยอยู่ที่บ้านอ่ะฉันจะกัด
00:01:33 → 00:01:36 ฟันยอมทิ้งงานทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างมาดูแล
00:01:36 → 00:01:38 พ่อแม่แล้วพอเราทำอย่างงั้นมากๆเข้าอ่ะ
00:01:38 → 00:01:40 ว่าฉันไม่มีสิทธิ์มีความสุขฉันทำสิ่งนั้น
00:01:40 → 00:01:42 สิ่งนี้ไม่ได้อ่ะสุดท้ายอ่ะมันจะกลายเป็น
00:01:42 → 00:01:45 การที่เราโทษทุกคนบนโลกนี้เรามีสิทธิ์ที่
00:01:45 → 00:01:48 จะมีความสุขได้ค่ะมีสิทธิ์เต็มที่
00:01:48 → 00:01:50 [เพลง]
00:01:50 → 00:01:53 ด้วยบุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่
00:01:53 → 00:01:56 ของคนเจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืม
00:01:56 → 00:02:00 กด Subscribe ไว้ด้วยนะครับบุพการีที่รบ
00:02:00 → 00:02:02 คู่มือการดููแลพ่อแม่ของคนเจนลูกในตอนนี้
00:02:02 → 00:02:06 น่าจะเป็นอีกตอนนึงที่อยากจะชวนลูกๆโดย
00:02:06 → 00:02:08 เฉพาะอย่างยิ่งลูกๆที่เป็นแคร์กีร์มานั่ง
00:02:08 → 00:02:11 ฟังกันนะครับเพราะว่าคนที่รับบทบาทเป็น
00:02:11 → 00:02:14 แคร์กอร์หรือว่าคนที่จะต้องดูแลคุณพ่อคุณ
00:02:14 → 00:02:17 แม่หรือว่าผู้สูงอายุในบ้านนั้นจะต้องเจอ
00:02:17 → 00:02:20 ปัญหาหลายด้านทีเดียวนะครับเช่นอาจจะมี
00:02:20 → 00:02:24 ปัญหาในเรื่องของการดูแลชีวิตส่วนตัว
00:02:24 → 00:02:28 เรื่องของการงานรวมถึงเรื่องของสภาพจิตใจ
00:02:28 → 00:02:30 ด้วยนะครับเพราะฉะนั้นการได้ฟัง
00:02:30 → 00:02:34 ประสบการณ์จากแครอคนอื่นๆว่ามีวิธีคิดมี
00:02:34 → 00:02:36 วิธีการจัดการอย่างไรกับปัญหานี้ผมคิดว่า
00:02:36 → 00:02:38 น่าจะเป็นประโยชน์มากมากนะครับเพื่อที่จะ
00:02:38 → 00:02:42 ให้แต่ละท่านนั้นลองเอาวิธีการหรือวิธี
00:02:42 → 00:02:45 คิดนั้นลองไปปรับใช้กับตัวเองนะครับวัน
00:02:45 → 00:02:48 นี้เราจะคุยกับคุณโจ๋นะครับชนาพรเหลือง
00:02:48 → 00:02:52 ระฆังนะครับเป็นแคร์กีเบอร์ที่ต้องดูแล
00:02:52 → 00:02:54 คุณพ่อที่ป่วยนะครับสวัสดีครับโจ๋สวัสดี
00:02:54 → 00:02:57 ค่ะสวัสดีครับสวัสดีครับอ่าแนะนำตัวก่อน
00:02:57 → 00:03:00 ครับตอนนี้โจ๋ทำทำงานอะไรอยู่ครับช่วงนี้
00:03:00 → 00:03:03 โจก็ทำงานร่วมกลุ่มกับเพื่อนๆนะคะที่
00:03:03 → 00:03:06 เรียกว่ากุซจิตใจดีค่ะก็คือเราก็จะทำเป็น
00:03:06 → 00:03:09 กระบวนกรเนในการออกแบบ workshop สำหรับ
00:03:09 → 00:03:12 หน่วยงานต่างๆที่สนใจนะคะในการดูแลสุขภาพ
00:03:12 → 00:03:16 ใจของพนักงานในองค์กรค่ะแล้วก็ยังทำงาน
00:03:16 → 00:03:19 กับพฟสอยู่ค่ะออทำงานกับกลุ่มพฟสด้วยใช
00:03:19 → 00:03:22 ใช่ค่ะตอนนี้โจ๋รับหน้าที่รับบทบาทเป็น
00:03:22 → 00:03:25 แคร์กิฟเวอร์ดูแลคุณพ่อใช่มั้ยครับใช่ค่ะ
00:03:25 → 00:03:27 ครับคุณพ่อป่วยเป็นอะไรครับตอนนั้นอ่อคุณ
00:03:27 → 00:03:31 พ่อเป็นสตกค่ะแล้วก็อ่าอ่อนแรงซี่ขวาอื
00:03:31 → 00:03:33 อันนี้กี่ปีแล้วนะครับเป็นมาน่าจะเกือบ 4
00:03:33 → 00:03:36 ปีแล้วค่ะครับๆตอนเริ่มป่วยนี่คุณพ่ออายุ
00:03:36 → 00:03:39 สักเท่าไหร่คุณพ่ออายุน่าจะประมาณ 72 72
00:03:39 → 00:03:42 ถ้า 4 ปีปีนี้ก็อายุสัก 76 ใช่ครับเล่า
00:03:42 → 00:03:45 เรื่องราวหน่อยได้มั้ยครับว่าตอนตอนป่วย
00:03:45 → 00:03:47 วันนั้นเป็นยังไงบ้างหรือว่าก่อนป่วยคุณ
00:03:47 → 00:03:49 พ่อเป็นยังไงบ้างอตอนก่อนป่วยเนี่ยพ่อ
00:03:50 → 00:03:54 เป็นคนชอบสังคมมากค่ะลิงมีเพื่อนเขาจะมี
00:03:54 → 00:03:56 สภากาแฟตอนเช้าที่เขาแบบออกไปนั่งคุยกับ
00:03:57 → 00:03:58 เพื่อนบ้านเงี้ยค่ะแล้วก็มีไปเที่ยวต่าง
00:03:59 → 00:04:01 จังหวัดเหมว่าที่บ้านน่ะค่อนข้างชีวิต
00:04:01 → 00:04:04 อิสระกันแต่ละคนน่ะใช้ชีวิตเป็นของตัวเอง
00:04:04 → 00:04:06 เลยแม่ก็ทำอย่างที่แม่อยากทำพ่อก็ทำ
00:04:06 → 00:04:09 กิจกรรมที่พ่อชอบอทีนี้แสดงว่าตอนนั้นยัง
00:04:09 → 00:04:11 แข็งแรงก่อนตอนนั้นยังแข็งแรงค่ะแล้วก็เ
00:04:11 → 00:04:13 ก็จริงๆเคก็ตรวจพบว่าเขาอ่ะเป็นเหมือนกับ
00:04:13 → 00:04:17 ิหัวใจโป่งพองอ่ะมาประมาณเกือบ 10 ปีแล้ว
00:04:17 → 00:04:19 แต่เขาก็หาหมอ Follow up มาเรื่อยๆซึ่ง
00:04:19 → 00:04:22 ในตอนนั้นน่ะที่บ้านน่ะคือตัวเองอ่ะก็ยัง
00:04:22 → 00:04:25 ไม่คุ้นเคยกับการมีคนสูงอายุที่ป่วยใน
00:04:25 → 00:04:28 บ้านเราก็เลยไม่รู้ว่าเราอ่ะจะต้องควรจะ
00:04:28 → 00:04:31 ไปหาหมอกับเคหรือว่าเราควรจะติดตามประการ
00:04:31 → 00:04:34 เขายังไงเพราะเขาพูดว่าเโอเคโอเคเขาไปหา
00:04:34 → 00:04:36 หมอเองอะไรอย่างเงี้ยใช่มั้ยคะเราก็เราก็
00:04:36 → 00:04:39 ปล่อยเขาไปตามสบายเลยซึ่งเคก็ยังแข็งแรง
00:04:39 → 00:04:42 ด้วยเนาบางทีเก็อยากจะเก็ไปดูแลตัวเองได้
00:04:42 → 00:04:44 ใช่แต่เราก็มารู้ทีหลังว่าเขาไม่ได้ทานยา
00:04:44 → 00:04:47 ตามหมอสั่งออใช่ก็เลยทำให้อาการของเขาอ่ะ
00:04:47 → 00:04:49 มันหนักขึ้นแล้วก็ทำให้เป็นสาเหตุของเส้น
00:04:49 → 00:04:52 เลือดหัวใจตีบค่ะในวันนั้นเนี่ยก็คือก่อน
00:04:52 → 00:04:55 หน้านั้นประมาณ 23 วันน่ะค่ะก็เห็นว่าพ่อ
00:04:55 → 00:04:58 อ่ะหลับเยอะหลับเยอะมากเลยหลับแบบปลุก
00:04:58 → 00:05:00 แล้วก็ไม่ค่อยากจะลุกเลยอะไรเงี้ยซึ่ง
00:05:00 → 00:05:02 ปกติไม่ค่อยเป็นก็คือเขานอนหน้าทีวีอยู่
00:05:02 → 00:05:04 แล้วเราก็เลยเข้าใจว่าอันนั้นปกติมั้งแต่
00:05:05 → 00:05:07 ว่าคือมันหนักกว่าเดิมหนักหนักกว่าที่เรา
00:05:07 → 00:05:08 เคยเห็นอย่างเงี้ยค่ะเรียกแล้วไม่อยากจะ
00:05:08 → 00:05:11 ลุกอ๋อหมายถึงว่าไปเรียกกินข้าวอะไรอยใช่
00:05:12 → 00:05:14 เขย่าแล้วอะไรแล้วก็จะเหมือนกับไม่ไม่สน
00:05:14 → 00:05:16 ใจไม่อยากจะตื่นอะไรอย่าเงี้ยค่ะแล้วก็ใน
00:05:16 → 00:05:20 วันรุ่งขึ้นเขาก็คือทุกคนตื่นลงมาก็เห็น
00:05:20 → 00:05:23 ว่าเขาอ่ะนั่งกองอยู่ที่พื้นแล้วอืโดยที่
00:05:23 → 00:05:25 ไม่รู้ว่าเขาอยู่ตรงนั้นน่ะมาตั้งแต่กี่
00:05:25 → 00:05:27 โมงกองอยู่ที่พื้นนี่ก็คือพื้นในห้องหรือ
00:05:27 → 00:05:31 พื้นในห้องน้ำตรงหน้าทีวีที่เขาที่เขา
00:05:31 → 00:05:33 นั่งอยู่เรื่อยเงี้ค่ะออครับคือหมายถึง
00:05:33 → 00:05:36 ว่ากองนี่คือนอนใช่นั่งนั่งแล้วก็แบบหลัง
00:05:36 → 00:05:40 พิงโซฟาแบบออแล้วก็ทิ้งตัวไปเลยเงี้ยค่ะ
00:05:40 → 00:05:43 แล้วก็พูดพูดพูดอยู่คำเดียวว่าโอไม่เป็น
00:05:43 → 00:05:46 ไรโอไม่เป็นไรอย่างเงี้ยค่ะออเหรอฮะใช่อื
00:05:46 → 00:05:48 ก็เลยรู้สึกไม่ไม่ปกติแล้วก็เลยรีบเรียก
00:05:48 → 00:05:52 รถฉุกเฉินพาไปโรงพยาบาลค่ะก็นอนอยู่ 5
00:05:52 → 00:05:55 วันออกมาก็เป็นเอาพึกซี่ขวา
00:05:55 → 00:05:58 [เพลง]
00:05:58 → 00:06:02 เลยเไม่สามารถสื่อสารได้แล้วอ่ะค่ะภายใน
00:06:02 → 00:06:06 ช่วงข้ามคืนเลยคือพูดไม่รู้เรื่องจำจำคน
00:06:06 → 00:06:09 ได้แต่ไม่สามารถพูดได้ว่าคนๆนั้นชื่ออะไร
00:06:09 → 00:06:11 อืแล้วก็สื่อสารได้ไม่ตรงว่าตัวเอง
00:06:11 → 00:06:13 ต้องการอะไรอย่าเงี้ค่ะอครับครับนั่นหมาย
00:06:13 → 00:06:15 ถึงว่าพอหลังจากนั้นเราก็พาส่งเข้าโรง
00:06:15 → 00:06:20 พยาบาลก็ไปใช้คุณหมอวินิจฉัยว่าเป็นสต๊ก
00:06:20 → 00:06:23 ในจุดที่สำคัญเนาะใช่ค่ะเออๆไปอยู่กี่วัน
00:06:23 → 00:06:26 นะครับที่เมื่อกี้บอก 5 วัน 5 วัน 5 วัน
00:06:26 → 00:06:29 นั่นหมายถึงพอ 5 วันออกมาปุ๊บก็ร่างกาย
00:06:29 → 00:06:33 ซีกขวาขวาค่ะก็ใช้งานไวได้เลยก็พูดงเป็น
00:06:33 → 00:06:35 เป็นอัมพฤกษ์อ่ะเนาะใช่ใช่ๆเป็นอัมพฤกเลย
00:06:35 → 00:06:38 แล้วตอนนั้นเอาฝั่งคุณพ่อก่อนเขาตกใจใน
00:06:38 → 00:06:41 ตัวเองมั้ยอยู่ๆจากคนแข็งแรงอยู่ดีๆก็
00:06:41 → 00:06:44 ชีวิตก็เปลี่ยนเลยครับค่ะตรงนั้นน่ะคือ
00:06:44 → 00:06:46 ค่อนข้างจะตอบยากยากเหมือนกันเพราะว่าเ
00:06:46 → 00:06:49 ไม่สามารถสื่อสารได้ค่ะในตอนนั้นน่ะเราก็
00:06:49 → 00:06:53 ไม่รู้จริงๆว่าเค้าเรู้สึกยังไงหรือว่าเ
00:06:53 → 00:06:56 จะพูดออกมาได้ยังไงอย่างเงี้ยค่ะก็เลยแต่
00:06:56 → 00:07:00 ลเข้าใจว่าเขาอ่ะอาจจะทำใจได้ครับเพราะ
00:07:00 → 00:07:03 ว่าเขไม่ได้มีอาการก้าวร้าวอหรือว่าเรียก
00:07:03 → 00:07:06 ว่าค่ำครวญอะไรมากแต่ที่สังเกตคือเขาจะ
00:07:06 → 00:07:10 ร้องไห้ง่ายอ๋ออืแต่ว่าอาจจะพูดพูดไม่ได้
00:07:10 → 00:07:12 ว่าสิ่งที่รู้สึกอ่ะคืออะไรอย่าเงี้ยค่ะ
00:07:12 → 00:07:15 ซึ่งก็ได้คุยกับคุณหมอคือก็คือทุกอาการ
00:07:15 → 00:07:17 น่ะติดตามกับกับหมอหมดคุณหมอก็บอกว่ามี
00:07:18 → 00:07:20 อาการซึมเศร้าร่วมด้วยอือซึ่งหมอก็บอกว่า
00:07:20 → 00:07:23 เป็นซึมเศร้าเลยไม่ไม่ไม่ใช่แค่เศร้าปกติ
00:07:23 → 00:07:26 อะไรเงี้ค่ะเพราะว่าเนื่องจากสมองที่ไปไป
00:07:26 → 00:07:28 ก่นน่ะหรือตีบอ่ะมันก็อาจจะไปส่งผลกับ
00:07:29 → 00:07:31 อาการการที่เป็นทางสมองในส่วนอื่นๆก็ได้
00:07:31 → 00:07:33 อย่าเงี้ยค่ะอันนี้พูดถึงช่วงที่ช่วงต้นๆ
00:07:33 → 00:07:36 ที่ออกมาจากโรงพยาบาล้ต้นใช่ค่ะก็เลยทาน
00:07:36 → 00:07:39 ยาซึมเช้าด้วยเงี้ค่ะอที่บอกว่าร้องไห้
00:07:39 → 00:07:42 ง่ายคือเราจะเห็นน้ำตาร้องไห้เลยร้องไห้
00:07:42 → 00:07:44 เลยหรือว่าหรือว่าเราจะเห็นน้ำตาไหลปกติน
00:07:44 → 00:07:47 นั่งร้องไห้เลยสมมติดูข่าวแบบดูข่าวคนแก่
00:07:47 → 00:07:50 ที่แบบว่าเาเมีอาการแบบเนี่ยคล้ายๆกัน
00:07:50 → 00:07:52 อะไรอย่างเงี้ยเขาก็เาก็จะนั่งร้องไห้
00:07:52 → 00:07:55 อย่าเงี้ยค่ะอืออยู่เฉยๆก็ร้องไห้อะไร
00:07:55 → 00:08:00 เงี้อๆแล้วอันนี้ส่วนของของพ่อพที่มี
00:08:00 → 00:08:03 อาการป่วยแบบนี้แล้วส่วนของครอบครัวครับ
00:08:03 → 00:08:06 ส่วนของโจ๋เองอ่ะนั่นหมายถึงว่าพอพ่อ
00:08:06 → 00:08:08 ชีวิตเปลี่ยนนะจากเดิมที่แต่ละคนนี้ใช้
00:08:08 → 00:08:11 ชีวิตอิสระครอบครัวก็ต้องออกแบบกันใหม่
00:08:11 → 00:08:13 อยู่สิท่าถ้าลองเล่าให้ฟังตั้งแต่วันแรกๆ
00:08:13 → 00:08:16 ที่เขากลับมาเราเราทำอะไรกันบ้างตั้งแต่
00:08:16 → 00:08:18 ตอนที่เขาอยู่โรงพยาบาลน่ะพวกเราก็ตกใจ
00:08:18 → 00:08:22 ค่ะตกใจมากแล้วก็สงสารเขาด้วยคือสภาพเขา
00:08:22 → 00:08:26 จากคนที่แบบปกติอ่ะร่าเริงคุยเล่นกับเรา
00:08:26 → 00:08:29 อะไรเงี้ยเขาก็กลายเป็นคนนั่งตานอนตาลอย
00:08:29 → 00:08:32 ใส่สายอาหารพู้จาก็ไม่รู้เรื่องถามว่าเรา
00:08:32 → 00:08:35 เป็นใครก็ตอบไม่ได้เงี้ยค่ะที่บ้านก็รู้
00:08:35 → 00:08:39 สึกแบบสงสารตกใจเนาแล้วก็คิดว่าเราจะทำ
00:08:39 → 00:08:41 ยังไงต่อดีอะไรเงี้ยแต่ว่ามันมีความโชคดี
00:08:41 → 00:08:45 ตรงที่ว่าก่อนหน้าเค่ะมีอากงก็คือคุณตา
00:08:45 → 00:08:48 ที่ก็เป็นสต๊กเหมือนกันแล้วก็เพิ่งจะเสีย
00:08:48 → 00:08:51 ชีวิตไปตอนตอนที่ก่อนที่ปาเขาจะเป็นน่ะ
00:08:51 → 00:08:53 ไม่เกินปีนึงที่บ้านของอากงอ่ะก็เลยยัง
00:08:53 → 00:08:57 เก็บอุปกรณ์ต่างๆที่ใช้กับคนป่วยเอาไว้
00:08:57 → 00:09:00 แล้วก็จากโจกก็ได้ไปดูแลกงด้วยอืเราก็เลย
00:09:00 → 00:09:03 พอจะรู้ว่าอ่าการที่เราต้องดูแลคนแก่มัน
00:09:03 → 00:09:06 น่าจะมีการเตรียมอะไรบ้างเงี้ยค่ะก็เลยพอ
00:09:06 → 00:09:08 พอที่จะเข้าที่เข้าทางได้ง่ายแต่ว่าตัว
00:09:08 → 00:09:11 พวกเราเองอ่ะก็ไม่พร้อมที่จะแบบเข้าไปดู
00:09:11 → 00:09:16 แลแบบที่ว่าตลอดเวลา 24 ช่มค่ะโจก็เลยทำ
00:09:16 → 00:09:19 Family Meeting เลยกับที่บ้านว่าอ่า
00:09:19 → 00:09:21 ส่วนนี้เรามีทรัพยากรตรงนี้แล้วนะว่าเรา
00:09:21 → 00:09:24 มีอุปกรณ์สำหรับคนป่วยอ่ะพร้อมแล้วอแต่
00:09:24 → 00:09:27 ว่าโดยแรงงานน่ะจบไม่สามารถที่จะทำได้
00:09:27 → 00:09:29 เพราะว่าตอนนั้นป๊าเหมือนติดเตียงแล้ว
00:09:29 → 00:09:32 ต้องมีสายอาหารด้วยเราก็จะไม่มีแรงที่จะ
00:09:32 → 00:09:34 ไปทำให้เขาเราก็เลยบอกว่าคุยกันที่บ้าน
00:09:34 → 00:09:37 อย่างชัดเจนเลยว่าขอพี่เลี้ยงนะอืที่บอก
00:09:37 → 00:09:39 ว่ากลับมาทำ Family Meeting สมาชิกใน
00:09:39 → 00:09:41 ครอบครัวมีมีใครบ้างนะครับก็มีคุณพ่อคุณ
00:09:41 → 00:09:45 แม่มีโจ๋ค่ะอ่าน้องชายแล้วก็น้องสะใภ้มี
00:09:45 → 00:09:47 น้องชายแล้วก็น้องสฟทั้งหมดก็คือ 5 คนก็
00:09:47 → 00:09:50 ถือว่าครอบครัวไม่ใหญ่ 5 คนใช่ค่ะอ Family
00:09:50 → 00:09:52 Meeting นี่เกิดตอนไหนครับเกิดตอนที่พ่อ
00:09:52 → 00:09:54 อยู่ในโรงพยาบาลใช่ค่ะเราก็เลยเรียกกัน
00:09:54 → 00:09:56 เรียกคุยเลยหรือว่าชีวิตพ่อเปลี่ยนแน่
00:09:56 → 00:09:58 ชีวิตครอบครัวคนอื่นก็น่าจะเปลี่ยนแน่ใช่
00:09:58 → 00:10:01 มั้ยใช่คิดว่านี่แหละต้องรับอะไรบางอย่าง
00:10:01 → 00:10:03 แน่ๆอะไรอย่างเงี้ยก็เลยแบบมาคุยกันเลย
00:10:03 → 00:10:07 ว่าใครจะดูแลในส่วนไหนได้บ้างคือบทสนทนา
00:10:07 → 00:10:09 ที่คุยกับคนที่บ้านก็คือบอกว่าเออตอนนี้
00:10:09 → 00:10:13 อาการของป๊าคือแบบนี้นะเขาต้องการคนดูแล
00:10:13 → 00:10:16 นะคะแล้วก็หลังจากนี้น่าจะดูแลระยะยาวเลย
00:10:16 → 00:10:19 เออโจ๋จะทำหน้าที่ดูแลเป็นหลักนะแต่ว่า
00:10:19 → 00:10:23 ไม่ได้เหมือนกับว่าเปิดโอกาสให้คนอื่นน่ะ
00:10:23 → 00:10:26 เข้ามาร่วมดูแลด้วยกันนะอืแล้วก็ถ้าใคร
00:10:26 → 00:10:29 อยากจะเสริมตรงไหนใครคิดว่าอยากจะทำอะไร
00:10:29 → 00:10:33 ตรงไหนมั้ยอืก็คือโก็เป็นคำถามภเปิดว่า
00:10:33 → 00:10:35 เออเขาอยากจะช่วยอะไรตรงไหนมั้ยที่ที่เขา
00:10:35 → 00:10:38 คิดว่าเขาอยากจะทำอะไรอย่างเงี้ยค่ะเขาก็
00:10:38 → 00:10:42 บอกว่าแล้วแต่โจเลยอก็คือทุกคนก็น้องชาย
00:10:42 → 00:10:43 น้องกับน้องสะใภ้ก็บอกว่าถ้ามีอะไรที่เขา
00:10:43 → 00:10:46 ซัพพอร์ตได้อ่ะก็บอกบอกเขาเพราะว่าเขาก็
00:10:46 → 00:10:48 ไม่รู้จะต้องทำยังไงเหมือนกับว่าก็ให้โจ
00:10:48 → 00:10:50 เป็นคนที่ดูแลแล้วก็รับข้อมูลต่างๆเป็น
00:10:50 → 00:10:53 หลักแล้วก็มากระจายงานให้ก็ได้โจ๋นี่เป็น
00:10:53 → 00:10:56 ในฐานะลูกสาวคนโตค่ะอ่าลูกสาวคนโตแล้วตอน
00:10:56 → 00:10:58 นั้นทำงานอยู่หรือเปล่าครับตอนนั้นโชคดี
00:10:58 → 00:11:01 ตอนนั้นเป็นช่วงโควิดครับก็เลยแบบงานน่ะ
00:11:01 → 00:11:04 ไม่ค่อยเยอะออืคือทำงานในกิจการครอบครัว
00:11:04 → 00:11:05 อยู่แล้วด้วยใช่มั้ยใช่งานครอบครัวแล้วก็
00:11:05 → 00:11:08 งานพฟ de ด้วยก็ยังมีอยู่ค่ะครับนั่นหมาย
00:11:08 → 00:11:10 ถึงว่าอะไรคือเหตุผลที่เราคิดว่าต้องต้อง
00:11:10 → 00:11:13 ทำ Family Meeting หรือว่าเรียกพูดง่ายๆ
00:11:13 → 00:11:15 ก็คือเรียกคนในบ้านมามาล้อมวงคุยกันน่ะ
00:11:15 → 00:11:17 ใช่เพราโมองว่าการที่คนเราป่วยคนนึงใน
00:11:17 → 00:11:20 ครอบครัวค่ะมันไม่ใช่หน้าที่ของใครคนใดคน
00:11:20 → 00:11:23 หนึ่งอือที่จะเป็นคนดูแลทั้งหมดอืทุกคนใน
00:11:23 → 00:11:26 ครอบครัวมีส่วนร่วมเท่าๆกันอือๆเพียงแต่
00:11:26 → 00:11:28 ว่าอยู่ที่ว่าแต่ละคนน่ะจะรับหน้าที่หรือ
00:11:28 → 00:11:32 รับบทบาทไหนในการที่จะเข้ามาดูแลอย่างแม่
00:11:32 → 00:11:34 ก็ชัดเจนแม่บอกว่าเอ่อมีดูแลเรื่องเงิน
00:11:34 → 00:11:37 งี้คะอ่าก็คือไม่ต้องห่วงเรื่องนี้นะอะไร
00:11:37 → 00:11:39 อย่าเงี้ยน้องชายก็บอกยินดีซัพพอร์ตในทุก
00:11:39 → 00:11:41 ๆเรื่องมีอะไรขอให้บอกมาเลยอะไรเงี้ยแต่
00:11:42 → 00:11:44 น้องสะใภ้ก็เหมือนกันอย่าเงี้ยค่ะอๆแต่
00:11:44 → 00:11:46 ส่วนโจ๋ก็เหมือนคล้ายๆกับว่าทำหน้าที่
00:11:46 → 00:11:50 เป็นเป็นคนดูแลหลักใช่ค่ะแล้วก็แจ้งเขา
00:11:50 → 00:11:53 เลยว่าขอพี่เลี้ยงนะอือเหรอเพราะว่าเรา
00:11:53 → 00:11:56 เราดูแลคนเดียวไม่ไหวอี้ค่ะอหมายถึงว่า
00:11:56 → 00:11:58 ตอนนั้นแสดงว่าไอ้วิธีการคุยตรงนี้ว่าจะ
00:11:58 → 00:12:01 ต้องทำทำอะไรบ้างนี่มันมันออกมาตั้งแต่
00:12:01 → 00:12:04 ช่วงระยะเวลาต้นๆเลยใช่มั้ยใช่ค่ะทำไมตอน
00:12:04 → 00:12:06 นั้นถึงคิดว่าตัวเองเลือกที่จะเป็นคนดูแล
00:12:06 → 00:12:09 หลักครับค่ะคือเราก็มองว่าเป็นคนที่มี
00:12:09 → 00:12:12 เวลามากกว่าน้องชายซึ่งน้องชายจะต้องเดิน
00:12:12 → 00:12:16 ทางแล้วก็นั่งประชุมทั้งวันออเขาก็จะไม่
00:12:16 → 00:12:18 สามารถที่จะลงมาทำอะไรได้มากเท่าเราเราก็
00:12:18 → 00:12:21 มองว่าตรงนั้นน่ะเราทำได้มากกว่าเขาอือๆ
00:12:21 → 00:12:24 เราก็ทำเลยแต่ว่าทำในส่วนที่เรารู้สึกว่า
00:12:24 → 00:12:26 เท่าที่เราพอจะไหวว่าเราไหวประมาณนี้นะ
00:12:26 → 00:12:29 เพราะฉะนั้นส่วนที่ไม่ไหวก็ขอตัวช่วยครับ
00:12:30 → 00:12:32 ครับก็คือบอกว่ายังยังยังไงเสียก็ต้องมี
00:12:32 → 00:12:35 มีผู้ดูแลเลยคือจากประสบการณ์ของโจนี่ก็
00:12:35 → 00:12:37 คือว่าการคุยกันแบบนี้การทำ Family
00:12:37 → 00:12:39 Meeting คุยกันตั้งแต่ต้นนี้มันมีข้อดี
00:12:39 → 00:12:42 อย่างไรบ้างค่ะข้อดีก็คือว่าให้ทุกคนได้
00:12:42 → 00:12:44 รับรู้ค่ะว่าสิ่งที่กองอยู่ตรงหน้าเราอ่ะ
00:12:44 → 00:12:47 ไม่ใช่เรื่องของใครคนใดคนหนึ่งอแล้วก็ทุก
00:12:47 → 00:12:50 คนสามารถที่จะมีส่วนร่วมเข้ามาจัดการได้
00:12:50 → 00:12:52 คือในบางครั้งอ่ะถ้าเราเห็นว่าบางบาง
00:12:52 → 00:12:55 ครอบครัวค่ะคนที่รับหน้าที่เข้ามาดูแลเขา
00:12:55 → 00:12:58 ก็จะมองว่าฉันจะต้องทำคนเดียวแล้วเขาอาจ
00:12:58 → 00:13:01 จะกอดหน้าที่นั้นไว้โดยที่เขาไม่รู้ว่า
00:13:01 → 00:13:03 เขาสามารถขอความช่วยเหลือได้หรือว่ามีคน
00:13:03 → 00:13:06 อื่นที่เขาอาจจะเต็มใจเข้ามาช่วยดูแลแต่
00:13:06 → 00:13:09 ไม่รู้ว่าจะเข้ามาได้อย่างไรรเงี้ยค่ะ
00:13:09 → 00:13:11 เพราะฉะนั้นการที่ทำ Family Meeting อ่ะ
00:13:11 → 00:13:13 เหมือนกับเป็นการที่เราเปิดพื้นที่ให้ว่า
00:13:13 → 00:13:16 ใครสบายใจที่จะทำอะไรตรงไหนมแล้วเราจะ
00:13:16 → 00:13:19 สามารถที่เห็นทรัพยากรในครอบครัวเราได้
00:13:19 → 00:13:22 ว่าเรามีอะไรที่จะเอามาดูแลเขาได้บ้างมัน
00:13:22 → 00:13:25 เหมือนมันก็การเป็นการอะไรล่ะเปิดอกเปิด
00:13:25 → 00:13:27 อกคุยกันน่ะเนาะใช่ใช่มั้ยอจริงๆถ้า
00:13:28 → 00:13:30 สมมุติว่าเป็นครอบครัวที่เขาไม่ได้มีไม่
00:13:30 → 00:13:32 ได้มีขั้นตอนแบบนี้ค่ะสมมุติว่าเป็นขั้น
00:13:32 → 00:13:35 เป็นครอบครัวที่เ่อพอพอคุณพ่อคุณแม่ป่วย
00:13:35 → 00:13:39 ทีพี่สาวคนโตก็ทำหน้าที่บอกว่าเหมือนเหม
00:13:39 → 00:13:41 เป็นความเข้าใจกันเองอ่ะเนาะว่าพี่สาวคน
00:13:41 → 00:13:44 โตเป็นคนที่อยู่บ้านเขาก็เขาก็จะเข้าใจ
00:13:44 → 00:13:48 กันเองว่าคนเนี้ยคือคนต้องดูแลเอ่อแล้ว
00:13:48 → 00:13:50 เขาก็ทำหน้าที่ดูแลไปเรื่อยๆโดยที่คนอื่น
00:13:50 → 00:13:53 ๆไม่ไม่เข้าใจหรือว่าไม่รู้ถึงภาระหน้า
00:13:53 → 00:13:55 ที่สถานการณ์มันก็จะเป็นอีกแบบนึงใช่มั้ย
00:13:55 → 00:13:57 ครับใช่ค่ะใช่ตรงนั้นก็จะคนนั้นเขาก็จะ
00:13:57 → 00:14:00 รับไปแล้วก็คนอื่นก็จะไม่รู้ว่าตัวเอง
00:14:00 → 00:14:03 สามารถที่จะซัพพอร์ตเขได้นะอืออแต่เพียง
00:14:03 → 00:14:05 แต่ว่าไม่ไม่ได้ไม่ได้เคยรับรู้หรือไม่
00:14:05 → 00:14:08 ได้เคยได้รับการบอกกล่าวว่าสิ่งนี้มันควร
00:14:08 → 00:14:10 จะเกิดขึ้นในครอบครัวไม่ใช่การที่จะให้
00:14:10 → 00:14:13 ใครคนใดคนหนึ่งรับหน้าที่นั้นไปค่ะอือๆ
00:14:13 → 00:14:16 เพราะฉะนั้นตรงนี้ก็เลยคิดว่าน่าจะเป็น
00:14:16 → 00:14:20 ข้อดีมากๆข้อหนึ่งเลยเนาะใช่มั้ยครับผม
00:14:20 → 00:14:22 คิดว่าที่บ้านถ้าบ้านไหนแบบกำลังเผชิญ
00:14:22 → 00:14:24 เหตุการณ์เดียวกันอันถ้าจะบอกว่าเป็นขั้น
00:14:24 → 00:14:27 ตอนแรกๆก็ว่าได้ใช่มั้ยที่ที่ทุกคนจะต้อง
00:14:27 → 00:14:29 นั่งนั่งคุยกันนั่งหารือกันใชใช่ค่ะอ่า
00:14:29 → 00:14:33 แล้วก็อย่างนึงที่ที่มันเกินไปกว่าการ
00:14:33 → 00:14:36 สถานการณ์ในตอนนั้นน่ะก็คือต้องย้อนกลับ
00:14:36 → 00:14:39 ไปเลยค่ะว่าอ่าคนที่ก่อนหน้านี้ยังไม่
00:14:39 → 00:14:43 ป่วยใช่มั้ยคะเขามองภาพตัวเองป่วยไว้ยัง
00:14:43 → 00:14:47 ไงแล้วเขาได้เตรียมตัวเอาไว้ไหมว่าถ้าวัน
00:14:47 → 00:14:48 หนึ่งเขาดูแลตัวเองไม่ได้ต้องอยู่ในภาวะ
00:14:49 → 00:14:51 พึ่งพิงอ่ะครับจะเตรียมตัวเอาไว้ยังไง
00:14:51 → 00:14:54 ซึ่งตรงนี้โชคดีที่ว่ามีอากงที่เป็นตัว
00:14:54 → 00:14:57 อย่างแล้วว่าเมื่อมีคนป่วยคนนึงเราจะทำ
00:14:57 → 00:14:59 ยังไงใช่มั้ยคะเอ่อพ่ออาจจะไม่ได้เตรียม
00:14:59 → 00:15:01 ตัวว่าตัวเองจะเป็นแบบนี้แต่ว่าโอเคว่า
00:15:01 → 00:15:04 การที่เขาทำงานมาเขามีรายได้ที่เขาจะ
00:15:04 → 00:15:07 ซัพพอร์ตตัวเองในส่วนนี้ซึ่งทำให้เราอ่ะ
00:15:07 → 00:15:11 ไม่ต้องกังวลตรงเนี้ยค่ะมันก็ทำให้คนดูแล
00:15:11 → 00:15:13 สบายใจแล้วก็ดูแลได้ง่ายขึ้นเพราะว่าการ
00:15:13 → 00:15:15 ดูแลคนคุณมันก็มีทั้งเรื่องอ่ะการเงิน
00:15:15 → 00:15:18 เป็นเป็นหลักที่สำคัญเลยอ่ะแรงงานที่จะ
00:15:18 → 00:15:21 เกิดขึ้นใช่มั้ยคะการแพทย์ที่จะเกิดเข้า
00:15:21 → 00:15:23 มาความรู้ต่างๆที่เขาจะต้องมีอะไรอย่าง
00:15:23 → 00:15:25 เงี้ยเพราะฉะนั้นน่ะถ้าเกิดว่ามีคนมา
00:15:25 → 00:15:27 ซัพพอร์ตในประเด็นเหล่าเนี้ยครับตั้งแต่
00:15:27 → 00:15:30 ต้นหรือว่าคิดมาแล้วแล้วตั้งแต่ต้นน่ะมัน
00:15:30 → 00:15:32 ก็จะง่ายค่ะครับครับุแสดงว่าแต่อย่างของ
00:15:32 → 00:15:34 คุณพ่อโจ๋นี่อาจจะโชคดีหน่อยตรงที่อาจจะ
00:15:34 → 00:15:37 ทำงานมามีเงินเก็บมีเงินออมเนาะใช่แต่ถ้า
00:15:37 → 00:15:40 สำหรับบางครอบครัวเขาอาจจะสถานะทางการ
00:15:40 → 00:15:42 เงินก็อาจจะไม่พร้อมแบบนี้ใช่มั้ยแต่ว่า
00:15:42 → 00:15:45 อย่างน้อยเขาก็ควรคิดไว้บ้างใช่่มั้ยใช่
00:15:45 → 00:15:48 ว่าถ้าเคเกิดต้องป่วยแบบปุบปับขึ้นมาแล้ว
00:15:48 → 00:15:50 ต้องการการดูแลเนี่ยทางออกจะคืออะไรใช่
00:15:50 → 00:15:52 มั้ยครับใช่ค่ะถ้าคิดเอาไว้ล่วงหน้าหรือ
00:15:52 → 00:15:54 เราได้เห็นภาพล่วงหน้ามันมันมีประโยชน์
00:15:54 → 00:15:57 มากค่ะที่ที่จะแบบได้รับการดูแลง่ายขึ้น
00:15:57 → 00:15:59 หลังจากนั้นครับ
00:15:59 → 00:16:01 ครับแต่ก็ปิไม่ได้เบางีคุณพ่อคุณแม่บางที
00:16:01 → 00:16:03 เรื่องแบบนี้ไม่คิดแต่ไม่ใช่หมายถึงคุณ
00:16:03 → 00:16:05 พ่อคุณแม่ไม่คิดเราคิดว่าบางทีตัวเราเอง
00:16:05 → 00:16:08 ก็ไม่คิดเนาะว่าเราจะป่วยปุบปับอ่ะใช่มอ
00:16:08 → 00:16:10 แต่ว่ากรณีนี้ก็น่าสนใจนะครับว่าใน
00:16:10 → 00:16:13 ครอบครัวคุณพ่อคุณแม่หรือบรรดาลูกๆเองก็
00:16:13 → 00:16:17 เถอะก็ควรจะออกแบบนึกถึงว่าถ้าตัวเองต้อง
00:16:17 → 00:16:21 เกิดป่วยปุบปับขึ้นมาจะทำอย่างไรบ้างใช่ม
00:16:21 → 00:16:23 แล้วพอหลังจากนั้นเราตกลงทำ Family
00:16:23 → 00:16:26 Meeting แล้วตกลงกันแล้วว่าจะทำแบบนี้
00:16:26 → 00:16:29 กลับไปบ้านแล้วเหตุการณ์เป็นยังไงต่อเนาะ
00:16:29 → 00:16:33 ค่ะสถานการณ์ตอนั้นเ่าโจ๋ปรับตัวได้มั้ย
00:16:33 → 00:16:35 แบ่งงานกันอย่างไรเออมีปัญหาตามมาหรือ
00:16:35 → 00:16:37 เปล่าหลังจากที่เราแม้ว่าเราจะตกลงกัน
00:16:37 → 00:16:40 แล้วเนี่ยอืก็คือในตอนแรกยังกลับบ้านเลย
00:16:40 → 00:16:42 ไม่ได้เพราะว่าที่บ้านน่ะไม่ไม่ได้เตรียม
00:16:42 → 00:16:46 พื้นที่เอาไว้สำหรับคนป่วยเลยก็เลยใช้
00:16:46 → 00:16:48 บ้านอกงนั่นแหละอเออเพราะว่าอกงไม่อยู่
00:16:48 → 00:16:51 แล้วเนอะเราก็ใช้ใช้บ้านใช้ห้องอกงเลยโก็
00:16:51 → 00:16:54 ย้ายไปอยู่ที่บ้านอกงอืซึ่งอยู่อีกที่นึง
00:16:54 → 00:16:56 ใช่อยู่ที่บางแคบ้านอยู่ที่ท่าพระเงี้ยก็
00:16:56 → 00:16:58 ก็ไม่ห่างกันมากเท่าไหร่เงี้ยแต่โก็อยู่
00:16:58 → 00:17:01 ที่นั่นเลยพร้อมกับพี่เลี้ยง 1 คนอืค่ะก็
00:17:01 → 00:17:04 คืออยู่กันอยู่กันเนี่ย 3 คนนะคะกับพี่
00:17:04 → 00:17:07 เลี้ยงแล้วก็จะมีจะมีอี๊คือคุณน้าที่อยู่
00:17:07 → 00:17:10 ที่บ้านนั้นซึ่งเขาก็ไปๆมาๆอะไรเงี้ยอื
00:17:10 → 00:17:13 อยู่ด้วยทั้งหมดก็จริงๆรวมก็ 5 คนที่อยู่
00:17:13 → 00:17:15 ด้วยกันในบ้านหลังนั้นค่ะหมายถึงโจก็จะ
00:17:15 → 00:17:18 ผลัดเวรกับตัวพี่เลี้ยงใช่เอผลัดเวรกัน
00:17:18 → 00:17:20 ยังไงครับแบ่งหน้าที่กันยังไงจริงๆก็พี่
00:17:20 → 00:17:22 เลี้ยงอาจจะเป็นคนดูแลทางด้านร่างกายนะ
00:17:22 → 00:17:24 แบบอ่าการเปลี่ยนแพมเพิดการทำอาหารอะไร
00:17:24 → 00:17:27 เงี้ยโจก็จะเหมือนกับซไวคือดูแลพี่เลี้ยง
00:17:27 → 00:17:29 อีกทีนึงว่าเขาจะต้องทำอะไรอะไรบ้างแล้ว
00:17:30 → 00:17:34 ก็ช่วยกันช่วยกันดูแลในส่วนของตอนที่ไม่
00:17:34 → 00:17:38 ต้องใช้แรงงานมากอย่างเช่นอ่าเขาจะต้องมี
00:17:38 → 00:17:41 การพูดคุยเพื่อที่จะฝึกสมองอืเงี้ยค่ะให้
00:17:41 → 00:17:45 เขาแบบไม่ไม่ไม่ลืมแล้วก็ให้พัฒนาส่วนที่
00:17:45 → 00:17:47 แบบมันอาจจะเสียไปแล้วแต่มันพอจะพัฒนาได้
00:17:47 → 00:17:49 อย่างเงี้ยค่ะตรงนั้นน่ะโจกก็จะรับหน้า
00:17:50 → 00:17:52 ที่ในการแบบนั่งสอนเ้านั่งคุยกับเาเหมือน
00:17:52 → 00:17:54 เหมือนเรามีลูกอ่ะค่ะครับเหมือนเป็นเด็ก
00:17:54 → 00:17:56 อะไรอย่างเงี้ยส่วนพี่เลี้ยงก็จะดูใน
00:17:56 → 00:17:59 เรื่องพี่เลี้ยงเมีความรู้โชคดีมากที่ได้
00:17:59 → 00:18:01 พี่เลี้ยงคนแรกเนี่ยเขามีความรู้ในการดู
00:18:01 → 00:18:05 แลผู้ป่วยสโตกแล้วเขาก็พาป๊าหัดเดินอืคือ
00:18:05 → 00:18:07 เขาก็ค่อยๆดีขึ้นแล้วก็ช่วยกันสังเกตว่า
00:18:07 → 00:18:11 เฮ้ยเขาคลืนอาหารได้นะอืเเคลืนน้ำลายน้ำ
00:18:11 → 00:18:14 ลายเขาไม่ย้อยแสดงว่าเขากินข้าวได้เก็ลอง
00:18:14 → 00:18:16 ค่อยๆป้อนจู๊กครับเงี้ยค่ะเหมือนมเราผชญ
00:18:16 → 00:18:18 ภัยไปกับเขาด้วยกันเลยอ่ะเรามาลองทำอย่าง
00:18:18 → 00:18:20 งี้มั้ยเรามาลองทำอย่างงั้นมั้ยอะไรอย่า
00:18:20 → 00:18:23 เงี้ยแล้วก็พบว่าป๊ากินข้าวได้อืๆเราก็
00:18:23 → 00:18:26 เลยถอดสายอาหารเองเลยพุกนี้ก็ไม่ควรเอา
00:18:26 → 00:18:28 เยี่ยงอย่างนะคะจริงๆควรปรึกษาแพทย์ก่อน
00:18:28 → 00:18:31 ออใช่เราบเหมือนว่านไม่ไวเองว่าเราอยาก
00:18:31 → 00:18:33 ให้กินข้าวใช่เพราะว่าบาทีกินทางสายอาหาร
00:18:33 → 00:18:35 มันไมู่เเคก็ไม่รู้ไม่ไม่ไม่ไม่ได้รับรถ
00:18:35 → 00:18:37 อ่ะเนาะหรือไม่ได้กินในแบบที่เอยากจะกิน
00:18:37 → 00:18:39 ใช่ๆอย่างเงี้ยค่ะก็เลยถอดเลยแล้วปลาก็
00:18:40 → 00:18:43 กินอย่างแบบอรดอร่อยมากเลยสมมุติเล่นๆว่า
00:18:43 → 00:18:45 ถ้าสมมุติกลับบ้านไปแล้วตอนนั้นทาง
00:18:45 → 00:18:48 ครอบครัวไม่พร้อมที่จะตกลงว่าจะต้องจ้าง
00:18:48 → 00:18:51 ผู้ดูแลโจคิดว่าจะเป็นยังไงบ้างโหตอนนั้น
00:18:51 → 00:18:53 ก็คงจะทุกข์มากอาจจะเครียดมากเพราะว่าเรา
00:18:53 → 00:18:57 ไม่มีความรู้เลยว่าเราจะดูแลเขายังไงให้
00:18:57 → 00:19:00 ให้เขาได้แบบอมีความสุขหรือว่ามีคุณภาพ
00:19:00 → 00:19:03 ชีวิตที่ดีอย่างเงี้ยค่ะเราก็ต้องกลับไป
00:19:03 → 00:19:06 ดูแลเขาในลักษณะบ้านที่ไม่พร้อมอาจจะไม่
00:19:06 → 00:19:10 ได้นอนด้วยอือในตอนแรกแล้วก็อาจจะมีอความ
00:19:10 → 00:19:12 เครียดที่ค่อนข้างสูงเพราะเนื่องจากความ
00:19:12 → 00:19:15 ที่ไม่มีข้อมูลไม่รู้ว่าจะทำยังไงเงี้ย
00:19:15 → 00:19:18 ค่ะอออครับๆหรือแม้กระทั่งว่าตอนนี้มีผู้
00:19:18 → 00:19:20 ดูแลมาช่วยแบ่งเบาเราแต่เข้าใจว่าตอนนั้น
00:19:20 → 00:19:23 ก็ยังน่าจะอยู่มีภาวะความเครียดด้วยมั้ง
00:19:23 → 00:19:24 ใช่มันจะเครียดเรื่องอะไรบ้างครับตอนนั้น
00:19:24 → 00:19:27 เอ่อตอนนั้นก็เครียดในเรื่องของอืมหลาย
00:19:27 → 00:19:30 เรื่องนะคะอย่างเช่นเราไม่รู้ว่าจะอะไรจะ
00:19:30 → 00:19:32 เกิดขึ้นต่อไปเราจะต้องอยู่บ้านนี้อีกนาน
00:19:32 → 00:19:37 แค่ไหนอเพราะว่าเป็นคนที่ติดที่ทางของตัว
00:19:37 → 00:19:40 เองมากคือเราก็รักห้องนอนเราเเราก็อยาก
00:19:40 → 00:19:42 กลับบ้านคือใครๆก็อยากกลับบ้านน่ะแล้วก็
00:19:43 → 00:19:46 พอการที่เราต้องมาอยู่ที่เนี่ย 3 คนกับ
00:19:46 → 00:19:48 พี่เลี้ยงอ่ะมันก็เหมือนถูกปล่อยเกาะนิด
00:19:48 → 00:19:52 นึงอือๆครอบครัวก็มาเยี่ยมนะแต่ว่าเขาก็
00:19:52 → 00:19:55 ไม่ไม่ได้มาได้บ่อยๆอมาเท่าที่เขาจะมาได้
00:19:55 → 00:19:58 เงี้ยค่ะมันก็เลยทำให้เกิดความรู้สึก
00:19:58 → 00:20:00 อย่างนึงที่ว่าแล้วฉันต้องอยู่อย่างงนี้
00:20:00 → 00:20:03 อีกนานเท่าไหร่อืพอมันผ่านไปสักแบบ 4
00:20:03 → 00:20:07 เดือนไปแล้วก็ยังบ้านทำไมยังไม่เสร็จอย่า
00:20:07 → 00:20:10 เงี้ยรออะไรกันอยู่ไม่เห็นใจเราบ้างหรอ
00:20:10 → 00:20:12 อะไรเงี้ยมันก็มีความคิดอย่างงั้นเข้ามา
00:20:12 → 00:20:15 เหมือนกันอะไรเงี้ยค่ะแล้วก็จะมีความคาด
00:20:15 → 00:20:18 หวังจากคนอื่นที่ไม่ใช่เป็นคนมาดูแลอ่ะ
00:20:18 → 00:20:21 เออแต่ว่าเขาอาจจะปรารถนาดีแต่การแสดงออก
00:20:21 → 00:20:24 เขาอาจจะแบบอไม่เข้าหูเราหรือว่าเออทำให้
00:20:25 → 00:20:26 พูดแล้วทำให้บรรยากาศไม่ดีหรือทำให้เรา
00:20:26 → 00:20:29 รู้สึกไม่ดีว่าแล้วเรายังทำไม่ดีพออีกหรอ
00:20:29 → 00:20:32 อเงี้ยค่ะมันมันก็มียกตัวอย่างให้ฟัง
00:20:32 → 00:20:34 หน่อยได้มั้ยอย่างเวลาคนมาเยี่ยมแล้วบาง
00:20:34 → 00:20:36 ทีเเคก็อาจจะไม่ได้ตั้งใจอ่ะเนาะเช่นเอาจ
00:20:36 → 00:20:38 จะพูดบางอย่างแล้วทำให้เรารู้สึกว่าเรา
00:20:38 → 00:20:40 หงุดหงิดไปด้วยหรือบางทีทำให้เราแบบเบรม
00:20:40 → 00:20:42 ตัวเองอะไรอย่างเงี้ยค่ะทำไมตอนนั้นน่ะ
00:20:42 → 00:20:46 ไม่พาเขาไปโรงพยาบาลให้ทันอทำไมไม่บอกหมอ
00:20:46 → 00:20:49 ให้ฉีดยามันฉีดยาได้นะฉีดแล้วเขาจะได้ไม่
00:20:49 → 00:20:52 ต้องมาเป็นแบบนี้อย่างเงี้ยบอกก็ตอนนั้น
00:20:52 → 00:20:54 ไม่รู้ว่าเขาเป็นมาตั้งแต่กี่โมงคือคุณ
00:20:54 → 00:20:56 หมอเขาก็ต้องรู้ว่าเขาควรจะฉีดหรือไม่ฉีด
00:20:56 → 00:20:59 ออะไเงี้ยค่ะเราก็จะรู้สึกรู้สึกว่าอ้าว
00:20:59 → 00:21:01 แล้วจะให้ทำยังไงอ่ะเอ่ารเช่นพอมาดูเสร็จ
00:21:01 → 00:21:03 อุ๊ยผอมไปรือเปล่านี่ดูแลเรื่องกินการกิน
00:21:03 → 00:21:05 รือเปล่าอะไรอย่างงี้ใช่มั้ยคอยดูแลเคดี
00:21:05 → 00:21:08 มั้ยอ่ะทำไมอ่ะทำไมไม่ทำแบบนี้อ่ะจะจะโดน
00:21:08 → 00:21:10 คำถามเงี้ทำไมไม่ทำแบบนี้อ่ะอย่าเงี้ยคือ
00:21:10 → 00:21:13 โดนโดนบ่อยมากตอนนั้นก็จิตตกเลยแล้วก็แบบ
00:21:13 → 00:21:15 มีร้องไห้ด้วยนั่งร้องไห้เลยแล้วก็แบบรู้
00:21:15 → 00:21:17 สึกว่าแบบเฮ้ยแล้วแล้วเราต้องทำไงมันถึง
00:21:17 → 00:21:20 จะได้ดีหรออะไรอย่างเงี้ยแต่ก็มานั่งคิด
00:21:20 → 00:21:22 ว่าอต่อไปเราจะต้องโดนคำพูดอย่างเงี้ย
00:21:22 → 00:21:25 เรื่อยๆเราห้ามคนอื่นไม่ได้ในการที่เขาจะ
00:21:25 → 00:21:29 พูดสิ่งใดกับเราไม่สามารถที่จะห้ามได้
00:21:29 → 00:21:31 สิ่งที่จะห้ามได้คือการดูแลใจเราเองว่า
00:21:31 → 00:21:34 อ่าแล้วในเมื่อเาพูดอย่างงั้นเราเราทำไม่
00:21:34 → 00:21:38 ได้เพูดในบริบทของเขาพูดในสถานการณ์ของ
00:21:38 → 00:21:41 เขาพูดในความต้องการของเขาแต่นั่นคือตัว
00:21:41 → 00:21:44 เขาไม่ใช่ตัวเราอใช่เราคิดว่าถ้าถ้าเขา
00:21:44 → 00:21:47 สามารถทำได้ดีกว่าเราก็ให้เขามาทำเลยออัน
00:21:47 → 00:21:49 นั้นคือก็ตอบเนะบอกว่าก็ก็มาทำเองก็ได้นะ
00:21:49 → 00:21:52 คะ
00:21:52 → 00:21:54 [เพลง]
00:21:54 → 00:21:57 อะไรงนั่นคือน้ำเสียงจากคนมาเยี่ยมเนาะ
00:21:57 → 00:22:00 ที่บางทีเราจะรู้สึกว่าว่าเาอาจจะตั้งใจ
00:22:00 → 00:22:03 หรือไม่ตั้งใจก็ไม่รู้ล่ะแต่ว่าพวกเนี้ย
00:22:03 → 00:22:06 มันมีผลต่อ caregiver หรือว่ามีผลต่อคนดู
00:22:06 → 00:22:08 แลเหมือนกันมีผลมากนะคะเพราะว่ามันทำให้
00:22:08 → 00:22:11 เขาเสียกำลังใจเนาะอครับๆจริงๆเราอยากได้
00:22:11 → 00:22:14 ยินอะไรถ้าจริงๆเป็นการให้กำลังใจมากกว่า
00:22:14 → 00:22:16 เพราะว่าถ้าถามว่าเนื้อหาในการสอนสั่งอ่ะ
00:22:16 → 00:22:19 ว่าแบบเธอต้องทำแบบนั้นเธอต้องทำแบบนี้
00:22:19 → 00:22:21 อะไรเงี้ยเป็นสิ่งที่เราเรียนรู้จากโรง
00:22:21 → 00:22:23 พยาบาลแล้วคือจริงๆโรงพยาบาลน่ะแจ้งเรา
00:22:23 → 00:22:26 ทุกอย่างเราควรจะดูแลยังไงเสิ่งที่แคร์
00:22:26 → 00:22:29 กอร์ต้องการน่ะคือกำลังใจมากกว่าครับอย
00:22:29 → 00:22:32 ได้อะไเงี้คำพูดสั้นๆง่ายๆเลยค่ะแบไม่ไม่
00:22:32 → 00:22:35 ต้องพูดอะไรเยอะเลยแทนที่คนมาเยี่ยมนี่จะ
00:22:35 → 00:22:39 มานั่งโฟกัสที่ตัวคนป่วยอย่างเดียวเควรจะ
00:22:39 → 00:22:41 โฟกัสที่คนดูแลด้วยใช่มั้ยใช่ค่ะมันเป็น
00:22:41 → 00:22:43 การเยี่ยมไข้ยุคใหม่แล้วค่ะว่าแบบอ่าแคร
00:22:43 → 00:22:45 กีร์เขาต้องการอะไรใช่มบบคนป่วยกินได้ไม่
00:22:45 → 00:22:49 เยอะหรอกแครกีวอยากกินอะไรมั้ยอะไงอใช่ๆๆ
00:22:49 → 00:22:51 เอ่ออันนี้อันนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจ
00:22:51 → 00:22:53 เพราะว่าบางทีคนไปเยี่ยมแล้วเขาอาจจะแบบ
00:22:53 → 00:22:55 พูดด้วยความหวังดีหรือตั้งใจหรือไม่ตั้ง
00:22:55 → 00:22:57 ใจก็ไม่รู้ลเนาะเออบางทีเาจะทำมันก็มี
00:22:57 → 00:23:01 ส่วนทำร้ายคนดูแลด้วยเหมือนกันใช่ค่ะเออ
00:23:01 → 00:23:04 แสดงว่าตอนช่วงเวลาที่เราดูแลเนี่ยแม้ว่า
00:23:04 → 00:23:08 แม้ว่าโจ๋วอาจจะถือว่ายังยังยังโชคดีกว่า
00:23:08 → 00:23:10 คนอื่นๆเพราะว่ามีคนมาช่วยแบ่งเบาเนาะแต่
00:23:10 → 00:23:13 ภาวะความเครียดมันก็มันก็เกิดแล้วอยู่ใน
00:23:13 → 00:23:17 ภาวะที่อ่าอยู่บ้านหลังนั้นนะครับบ้านอาง
00:23:17 → 00:23:20 เนาะแล้วก็ดูแลมีพี่เลี้ยงคอยช่วยนี่อยู่
00:23:20 → 00:23:23 ยาวนานแค่ไหนครับน่าจะประมาณ 6 เดือนเลย
00:23:23 → 00:23:24 อ่ะค่ะถามเรื่องพี่เลี้ยงหน่อยครับเพราะ
00:23:25 → 00:23:27 ว่าหลายๆบ้านก็อาจจะเจอปัญหาคล้ายๆกันคือ
00:23:27 → 00:23:29 มีพี่เลี้ยงพี่เลี้ยงนี่ก็บางคนโชคดี
00:23:29 → 00:23:32 หน่อยก็จะอยู่กันยาวนานอยู่ทนดูแลเสมือน
00:23:32 → 00:23:35 ญาติเนาะแต่ถ้าบางแต่บางบ้านก็จะไม่
00:23:35 → 00:23:37 เหมือนกันบางบ้านก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
00:23:37 → 00:23:40 เรื่อยๆจนแบบจนชินน่ะนะนเปลี่ยนจนชินของ
00:23:40 → 00:23:42 โจ๋นี่เป็นแบบไหนเป็นแบบเปลี่ยนไปเรื่อยๆ
00:23:42 → 00:23:46 ค่ะอยู่กันโดยเฉลี่ยก็ประมาณ 6 เดือนครับ
00:23:46 → 00:23:49 เงี้อะไรคือปัญหาที่ทำให้เค้าลาออกหรือ
00:23:49 → 00:23:51 หรือว่าเค้าเปลี่ยนงานบ่อยโอได้หลายหลาย
00:23:51 → 00:23:54 อย่างเลยค่ะ 1 เขาอาจจะเจองานที่เขาชอบ
00:23:54 → 00:23:56 มากกว่าอันที่ 2 ว่าโดยบริบทของบ้านเรา
00:23:56 → 00:23:59 อ่ะเขาอาจจะไม่เคยชีนเพราะว่าที่บ้านน่ะ
00:23:59 → 00:24:01 ไม่ได้มีแค่ป๊าคนเดียวเนาแต่ว่าก็มีมีผู้
00:24:01 → 00:24:05 สูงอยู่อีก 2 คนก็คือมีแม่กับป้าซึ่งบาง
00:24:05 → 00:24:07 ทีแบบเขาก็ใช้ทำนู่นทำนี่บ้างอะไรอย่าง
00:24:07 → 00:24:10 เงี้ยบางทีเขาก็อาจจะรู้สึกว่างานๆนมัน
00:24:10 → 00:24:12 เกินหน้าที่หรือเปล่าอะไรเงี้ยตรงนี้เรา
00:24:12 → 00:24:14 ก็พิจารณาส่วนของเราด้วยเนาว่าโอเคเราดู
00:24:14 → 00:24:17 แลเอ่ะเหมือนญาติอยู่แล้วอืเพราะว่าโจมอง
00:24:17 → 00:24:21 ว่าในในการดูแลคนป่วย 1 คนน่ะค่ะไม่ว่าจะ
00:24:21 → 00:24:23 เป็นพี่เลี้ยงเป็นพ่อเป็นแม่หรือเป็นพี่
00:24:23 → 00:24:25 น้องก็แล้วแต่ค่ะระดับของความสัมพันธ์ควร
00:24:25 → 00:24:28 จะเท่ากันอืเราไม่ได้มองว่าเอ่ะด้อยกว่า
00:24:28 → 00:24:31 หรือต่ำกว่าหรือว่ามองว่าแม่ที่เป็นคน
00:24:31 → 00:24:33 จ่ายตังค์เนี่ยอยู่สูงกว่าแต่มองว่าเท่า
00:24:33 → 00:24:36 กันแล้วเราแล้วเรามาคุยกันด้วยด้วยแฟบว่า
00:24:36 → 00:24:37 เราจะทำอะไรกับตรงนั้นได้อย่างเงี้ค่ะ
00:24:37 → 00:24:39 เพราะฉะนั้นพี่เลี้ยงอ่ะที่เราคุยกันกับ
00:24:39 → 00:24:41 เขาอ่ะก็จะเหมือนเขาก็เป็นคนในบ้านเรานี่
00:24:42 → 00:24:44 แหละทานอะไรก็ทานเหมือนๆกันเราซื้ออะไรมา
00:24:44 → 00:24:46 ทานก็ก็ทานเหมือนกันอะไรอย่าเงี้ยค่ะหือ
00:24:46 → 00:24:50 เพียงแต่ว่าโดยอโดยที่ความโดยเนื้องาน
00:24:50 → 00:24:53 หรือว่าอะไรก็แล้วแต่หรือว่าเอิ่มปัญหา
00:24:53 → 00:24:56 ครอบครัวปัญหาส่วนตัวด้วยอะไรเงี้ยค่ะก็
00:24:56 → 00:24:59 ทำให้เขาลาออกเงี้ยอือือบางคนก็มีที่ว่า
00:25:00 → 00:25:03 เอ่อออกไปรับงานอื่นที่ว่าได้เงินเยอะ
00:25:03 → 00:25:06 กว่าเป็นการชั่วคราวแล้วกลับมาใหม่กว่าออ
00:25:06 → 00:25:08 แบแบบไปๆมาๆกับเราอะไรอย่างเงี้ยจนตอน
00:25:08 → 00:25:10 หลังก็บอกว่าไม่เอาดีกว่าเนออะไรเงี้ย
00:25:10 → 00:25:13 เพราะว่าเราก็จัดการยากเงี้ยค่ะอ๋อแสดง
00:25:13 → 00:25:15 ว่าแต่อันนึงที่น่าสนใจก็คือเรื่องของการ
00:25:15 → 00:25:17 รักษาระดับความสัมพันธ์ให้มันมีความเท่า
00:25:17 → 00:25:20 กันมันเหมือนส่วนนึงมันมันมีมันมีผลยังไง
00:25:20 → 00:25:22 บ้างเหมือนมันมีผลในการช่วยทำให้เขาอยู่
00:25:23 → 00:25:25 กับเราได้นานขึ้นหรือว่ายังไงอิ่มคิดว่า
00:25:25 → 00:25:29 ทำให้ให้การอยู่ด้วยกันน่ะมันเป็นความที่
00:25:29 → 00:25:31 อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขอืๆๆโดยที่เขา
00:25:31 → 00:25:35 ไม่ได้รู้สึกว่าเขาจะต้องมาพี่นอบพี่เทา
00:25:35 → 00:25:39 หรือว่ามีความเกร็งในการที่จะทำงานอค่ะ
00:25:39 → 00:25:41 ตัวกับกับคนในบ้านคนอื่นเองก็เหมือนกัน
00:25:41 → 00:25:43 คือเขาก็ไม่ต้องมานั่งคิดว่าอย่างจก็ไม่
00:25:43 → 00:25:47 ต้องมาคิดว่าฉันเป็นลูกแล้วจะต้องดูแลพ่อ
00:25:47 → 00:25:51 แม่แบบ vip มากๆโดยที่เราล้าเลยตัวเอง
00:25:51 → 00:25:53 เงี้ค่ะตรงนั้นน่ะมันมองเรื่องความ
00:25:53 → 00:25:56 สัมพันธ์ที่มันเท่ากันอือ๋อนี้จมหมายถึง
00:25:56 → 00:26:00 หมายถึงตัวเองด้วยอ่าในบ้านเลยค่ะครับๆ
00:26:00 → 00:26:01 ที่บอกว่าเปลี่ยนเปลี่ยนพี่เลี้ยงไป
00:26:01 → 00:26:03 เรื่อยๆนี่จเปลี่ยนพี่เลี้ยงไปทั้งหมดกี่
00:26:03 → 00:26:06 คนอูน่าจะแบบเอาที่อยู่อยู่จริงๆอยู่เกิน
00:26:06 → 00:26:09 6 เดือนอะไรอย่างเงี้เนาก็น่าจะออ 4-5
00:26:09 → 00:26:11 คนได้นะคะอืโอ 4-5 คนก็ถือก็ยังถือว่า
00:26:12 → 00:26:14 โอเคนะไม่เยอะมากแล้วช่วงระยะเวลาที่เค
00:26:14 → 00:26:16 อยู่กับเราโดยเฉลี่ยอยู่ที่กี่เดือนครับ
00:26:16 → 00:26:18 ประมาณ 6 เดือนแล้วที่เมื่อกี้บอกว่าคุย
00:26:18 → 00:26:20 เรื่องความสัมพันธ์นั่นหมายถึงว่าเวลาที่
00:26:20 → 00:26:24 เราปฏิบัติต่อเคเนาะหรือหรือทีต่อบรรดา
00:26:24 → 00:26:27 พี่เลี้ยงเนี่ยที่บอกว่าให้ทำให้มันเท่า
00:26:27 → 00:26:30 กันนั่นหมายถึงว่าคือเราก็ไม่ทรีทเา
00:26:30 → 00:26:32 เหมือนพูดง่ายๆเหมือนเป็นคนรับใช้ในบ้าน
00:26:32 → 00:26:35 อ่ะใช่มั้ยบางทีคนจะเข้าใจว่าเอ่อให้มาดู
00:26:35 → 00:26:38 แลคนป่วยแล้วก็เ้าให้ทำอย่างอื่นด้วยใช่
00:26:38 → 00:26:41 มั้ยอืใช่อันนี้เราก็ก็คือเหมือนกับว่าจะ
00:26:41 → 00:26:44 มีสขมงานที่ชัดเจนอ่ะค่ะจะมีตารางงานเลยอ
00:26:44 → 00:26:47 ว่าในแต่ละวันเต้องทำอะไรบ้างใช่เช้าทำ
00:26:47 → 00:26:49 อันนี้บ่ายทำอันนี้มีช่วงพักกลางวัน
00:26:49 → 00:26:52 ประมาณชั่วโมงกว่าๆเกือบ 2 ช่วโมงตรง
00:26:52 → 00:26:54 เนี้ยเราก็บอกคนที่บ้านเลยว่าอย่าไปยุ่ง
00:26:54 → 00:26:57 กับเนะอเออห้ามห้ามใช้พี่เลี้ยงทำอะไรใน
00:26:57 → 00:27:00 ช่วงเวลาที่เขาพักอย่าเงี้ยค่ะหลังถ้าเขา
00:27:00 → 00:27:02 อาบน้ำแล้วในตอนค่ำก็ไม่ควรจะไปเรียกเขา
00:27:02 → 00:27:05 ทำอะไรแล้วอะไรอย่าเงี้ยอืออเอออันนี้น่า
00:27:05 → 00:27:07 สนใจคือทำให้เารู้สึกว่าเ้ามีตารางชีวิต
00:27:07 → 00:27:10 ที่แน่นอนใช่แล้วแล้วมันคุยกันง่ายไงว่า
00:27:10 → 00:27:12 ทำอันนี้หรือยังอย่างเงี้ยมันเหมือนกับ
00:27:12 → 00:27:14 ว่าเราสามารถที่จะคุยกันได้เลยว่าทำงาน
00:27:14 → 00:27:17 ของตัวเองได้ครบถ้วนแล้วหรือยังโดยที่เอา
00:27:17 → 00:27:20 เหตุผลมาคุยกันอครับแล้วแล้วในกรณีที่เ
00:27:20 → 00:27:23 อาจจะทำงานได้ไม่ตรงใจเราเนาะในบางอย่าง
00:27:23 → 00:27:25 ที่เรารู้สึกว่าเออมันอาจจะไม่ถูกใจไม่ดี
00:27:25 → 00:27:27 พอเงี้ยเออวิธีการสื่อสารกเค้าสื่อสารกัน
00:27:27 → 00:27:29 ยังไงอก็จะเริ่มหลายระดับเนาะอย่างถ้า
00:27:29 → 00:27:32 ตารางงานอย่างเงี้ยเห็นแล้วว่าเอ๊ะทำไม
00:27:32 → 00:27:35 ตอนนี้ไม่ทำอันนี้นะก็บอกพี่อ 10:00 น
00:27:35 → 00:27:38 แล้วนะอะไรเงี้ยเตรียมอันนี้ยังอะไรอย่าง
00:27:38 → 00:27:40 เงี้ยอืก็จะเตือนเขาว่าเออให้ทำอันนี้นะ
00:27:40 → 00:27:43 แต่ถ้าเป็นในเรื่องของความสะอาดใช่มั้ยคะ
00:27:43 → 00:27:46 ก็จะคุยกันตรงๆเลยว่าอ่าการดูแลเค้าอ่ะ
00:27:46 → 00:27:48 อย่างเงี้ยมันไม่ได้เนาะทำแบบนี้แล้วกัน
00:27:48 → 00:27:51 นะอ่าหรือจะมีเคสนึงที่ว่าพี่เลี้ยง
00:27:51 → 00:27:53 อารมณ์ไม่ดีค่ะเหมือนกับว่าเขามีปัญหา
00:27:53 → 00:27:58 ส่วนตัวแต่เขาเอามาลงกับอกับผู้ป่วยซึ่ง
00:27:58 → 00:28:00 ป๊าเนี่ยจว่าเป็นคนดูแลง่ายมากพี่เลี้ยง
00:28:00 → 00:28:02 คนไหนมาจะรักเขามากเลยเพราะว่าเขาไม่
00:28:02 → 00:28:05 เรียกร้องเาไม่ก้าวร้าวให้ทำอะไรก็ทำให้
00:28:05 → 00:28:07 เดินก็เดินให้ความร่วมมือดีมากกลางคืนก็
00:28:07 → 00:28:10 นอนเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นเราคุยกับเขาว่า
00:28:10 → 00:28:13 เออช่วงนี้เป็นอะไรมยมีปัญหาอะไรหรือ
00:28:13 → 00:28:17 เปล่าอือเพราะว่าอ่าพ่อเราก็ดูแลง่ายนะ
00:28:17 → 00:28:19 อือถ้าเกิดว่าเขามีปัญหาอะไรที่รู้สึกไม่
00:28:19 → 00:28:22 โอเคอ่ะคุยกับเราก็ได้อะไรอย่างเงี้ยค่ะอ
00:28:22 → 00:28:24 สังเกตว่าช่วงนี้อารมณ์ไม่ดีนะไปลงกับคน
00:28:24 → 00:28:27 ป่วยเขาไม่ได้ผิดอะไรอะไรเงี้ยก็คุยกับ
00:28:27 → 00:28:30 เขาดีๆอ่ะออใช่ค่ะเขาก็แบบเออหนูผิดเอง
00:28:30 → 00:28:33 พี่เออหนูอารมณ์ไม่ดีอะไรอย่างเงี้ยออื
00:28:33 → 00:28:36 แต่ว่าส่วนหนึ่งก็คือใช้สื่อสารตรงๆแต่
00:28:36 → 00:28:38 ว่าอันนึงก็ต้องยอมทำใจเหมือนกันว่าการ
00:28:38 → 00:28:42 เปลี่ยนคนเนี่ยจะจะไม่ยาวแล้วเนามันจะจะ
00:28:42 → 00:28:44 ค่อนข้างสั้นน่ะเนาะใช่แล้วก็ส่วนนึงก็
00:28:45 → 00:28:47 ต้องแบบทำใจนิดนึงด้วยว่าการที่เราให้คน
00:28:47 → 00:28:49 มาดูแลอ่ะมันไม่ได้เต็ม 100% อย่างที่เรา
00:28:49 → 00:28:53 อยากได้ค่ะเราคิดว่าเทำได้สัก 80% ก็ถือ
00:28:53 → 00:28:56 ว่าโอเคแล้วอย่าเงี้ค่ะส่วนที่เหลือเราก็
00:28:56 → 00:28:58 ต้องวางใจไม่งั้นเราต้องมานั่งทำอีก
00:28:58 → 00:29:00 ครับครับเพราะว่าไม่งั้นเดี๋ยวเราอาจจะ
00:29:00 → 00:29:02 คาดหวังตลอดเนาะว่าเขาจะต้องดูแลพ่อเรา
00:29:03 → 00:29:05 แบบระดับ VIP อะไรอย่างเงี้ยแล้วนี่ตอน
00:29:05 → 00:29:07 นี้เท่ากับว่าก็เราก็ใช้ระบบในการให้พี่
00:29:07 → 00:29:10 เลี้ยงมาช่วยแบ่งเบาในการดูแลของเราตอน
00:29:10 → 00:29:13 ที่ผ่านมาถได้กี่ปีแล้วครับเกือบ 4 ปี
00:29:13 → 00:29:16 แล้วะค่ะ 4 ปีอโดยระบบก็เป็นเป็นแบบนี้
00:29:16 → 00:29:18 เลยเป็นแบบนี้ค่ะเห็นว่ามีมีบางช่วง
00:29:18 → 00:29:21 เหมือนกันที่ต้องส่งคุณพ่อไปอยู่ที่ศูนย์
00:29:21 → 00:29:23 เหมือนกันในกรณีที่หาพี่เลี้ยงไม่ได้ใช่
00:29:23 → 00:29:25 มั้ยใช่ค่ะเพราะว่าพี่เลี้ยงราออกบ่อย
00:29:25 → 00:29:29 เนาะพอจริงๆอ่ะบอกตรงๆว่าช่วงที่พี่เงลา
00:29:29 → 00:29:31 ออกทุกุครั้งอ่ะจะเป็นช่วงที่เครียดอื
00:29:31 → 00:29:34 เพราะว่ามันไม่ใช่เป็นการบอกล่วงหน้าแต่
00:29:34 → 00:29:37 ว่าบค่อนข้างจะกะทันหันอาจจะบอกล่วงหน้า
00:29:37 → 00:29:39 แค่อาทิตย์เดียวหรือ 2 อาทิตย์แต่ว่าเรา
00:29:39 → 00:29:41 มีอย่างอื่นที่ต้องทำมีบอกแล้วไปเลยอะไร
00:29:41 → 00:29:43 งี้มีมยน้อยๆค่ะบอกแล้วไปเลยนี่ส่วนใหญ่
00:29:43 → 00:29:46 มันอยู่แค่วัน 2 วันแล้วก็ไปเลยอะไรอย่าง
00:29:46 → 00:29:48 เงี้ยก็ดูแล้วฉันอยากไปทำที่อื่นมากกว่า
00:29:48 → 00:29:50 อะไรเงี้ยหรือว่าแค่แค่มาทำบ้านเราเพื่อ
00:29:50 → 00:29:54 รอเวลางานที่อื่นแต่ไม่บอกไม่แจ้งว่าว่า
00:29:54 → 00:29:55 มาทำบ้านนี้ 3 วันเพราะว่าฉันจะรอไปทำ
00:29:55 → 00:29:58 บ้านอื่นอะไรอย่าเงี้ยอันนั้นโอเคอือัน
00:29:58 → 00:30:00 นั้นก็แย่เหมือนกันนะบางทีความรู้สึกเรา
00:30:00 → 00:30:02 เราเราก็รู้สึกว่าเอเราอุตส่าห์แบบ
00:30:02 → 00:30:04 สัมภาษณรับสมัครมาแล้วอะไรเงี้ยใช่มั้ย
00:30:04 → 00:30:05 ใช่ใช่แล้วก็อันนั้นอาจจะเครียดหนักเพราะ
00:30:05 → 00:30:07 ว่าเพราะว่ากะทันหันเลยคือไม่ไม่บอกอะไร
00:30:07 → 00:30:11 กันเลยอะไรเงี้ยแล้วก็อเออมันก็ทำให้สิ่ง
00:30:11 → 00:30:13 ที่เราจะต้องทำอ่ะตารางที่วางเอาไว้หรือ
00:30:14 → 00:30:16 อะไรเงี้ยมันแบบมันรวนหรือเราต้องรีบหาคน
00:30:16 → 00:30:18 ใหม่เพื่อให้ทันกับสถานการณ์ที่มันจะเข้า
00:30:19 → 00:30:22 มาอย่างอย่างปีก่อนก็คือตัวจะต้องเดินทาง
00:30:22 → 00:30:25 ไปต่างประเทศอ่ะค่ะครับอีกแค่ 3 วันเออ
00:30:25 → 00:30:27 แล้วก็ต้องหาพี่เลี้ยงอ่ะให้ได้ภายใน 3
00:30:27 → 00:30:30 วันอย่างเงี้ยอืตอนนั้นนี่แบบตาโหลเลย
00:30:30 → 00:30:33 แล้วก็แบบว่าเครียดเลยอะไรเงี้ยอือมีแล้ว
00:30:33 → 00:30:36 แล้วมีช่วงที่เราไม่มีพี่เลี้ยงทิ้งห่าง
00:30:36 → 00:30:38 ไปนี่ยาวที่สุดนี่นานเท่าไหร่ครับเอ่อก็
00:30:38 → 00:30:41 ประมาณ 4-5 วันอ๋อก็ยังถือว่าสใช่ทีเนี้ย
00:30:41 → 00:30:43 พอพอหลังจากเกิดเหตุการณ์นั้นน่ะก็เริ่ม
00:30:43 → 00:30:45 มาคิดแล้วว่าเฮ้ยมันจะต้องมีเปลี่ยน
00:30:45 → 00:30:47 เรื่อยๆอ่ะเดี๋ยวจะต้องมีเหตุการณ์อย่าง
00:30:47 → 00:30:50 งี้เรื่อยๆอ่ะเราควรมีแผนสำรองอออือก็เลย
00:30:50 → 00:30:52 ไปสูญดีกว่าเนอะก็คุยกับที่บ้านถามที่
00:30:52 → 00:30:55 บ้านก่อนทุกๆอย่างก็จะคุยกันว่าที่บ้าน
00:30:55 → 00:30:59 โอเคมั้ยถ้าเกิดจะเอาพ้าไปอยู่ที่สูอ
00:30:59 → 00:31:01 เพราะว่าบางทีพี่เลี้ยงเราออกกระทันหัน
00:31:01 → 00:31:03 หรือว่าอะไรหรือว่าหาพี่เลี้ยงยังไม่ได้
00:31:03 → 00:31:06 อย่างเงี้ยแล้วป๊าอยู่กับเราบางทีเราก็
00:31:06 → 00:31:08 ไม่มีเวลาด้วยอย่าเงี้ใช่มั้ยคะไปอยู่ที่
00:31:08 → 00:31:11 ศูนย์อาจจะดีก็ได้นะลองดูมเงี้ค่ะก็เราก็
00:31:11 → 00:31:14 ลองทุกทางอ่ะลองดูก่อนใช่ค่ะแล้วก็ก็จะมี
00:31:14 → 00:31:17 เสียงตำหนิเหมือนกันว่าไปเยี่ยมเขาบ่อย
00:31:17 → 00:31:20 หรือเปล่าเออเขาอยู่ที่ศูนย์น่ะมันมัน
00:31:20 → 00:31:23 โอเคหรอเราเป็นลูกเราก็ต้องดูแลเขาสิ
00:31:23 → 00:31:26 อย่างเงี้ยค่ะซึ่งก็บอกขอไปลองดูก่อนครับ
00:31:26 → 00:31:29 แล้วตอนที่ตอนที่ตัดสินใจอะไรแบบนี้ยครับ
00:31:29 → 00:31:31 ว่าเออถ้าไม่มีช่วงไหนดูแลไม่ไหวหรือว่า
00:31:31 → 00:31:34 ไม่มีผู้ดูแลเนี่ยจะให้คุณพ่อไปอยู่ที่
00:31:34 → 00:31:36 ศูนย์ก่อนตอนนั้นวิธีคิดนี่เป็นยังไง
00:31:36 → 00:31:38 เพราะว่าบางครอบครัวเขาก็อาจจะรู้สึกได้
00:31:38 → 00:31:41 ว่าเฮ้ยเราก็มีเราก็ดูแลได้นี่เราก็มี
00:31:41 → 00:31:45 เวลาทำไมอยู่ๆเอาไปให้คนอื่นดูแลเออๆวิธี
00:31:45 → 00:31:48 คิดตรงนี้เป็นยังไงครับค่ะโจมองว่าคนดูแล
00:31:48 → 00:31:51 ทุกคนหรือคนในครอบครัวไม่ว่าใครก็แล้วแต่
00:31:51 → 00:31:54 ค่ะไม่ได้จำเป็นที่จะต้องอุทิศเวลาทั้ง
00:31:54 → 00:32:00 หมดอืในการดูแลคนป่วยอืก็คือ 1 เรามีหน้า
00:32:00 → 00:32:04 ที่รับผิดชอบความสุขของเรา 100% อืถ้าถ้า
00:32:04 → 00:32:06 การที่เราบอกว่าเราจะมาดูแลคนป่วยมันต้อง
00:32:06 → 00:32:10 เป็นความเต็มใจและสบายใจของเราเราจะดูแล
00:32:10 → 00:32:12 เขา 24 ชั่วโมก็ได้แต่ตรงนั้นคือทำด้วย
00:32:12 → 00:32:15 ความสบายใจคนป่วยก็เช่นกันค่ะคนป่วยก็รับ
00:32:15 → 00:32:17 หน้าที่ดูแลความรู้สึกของตัวเองและความ
00:32:17 → 00:32:20 สุขของตัวเอง 100% แต่ว่าเราอ่ะไปแบ่งเบา
00:32:20 → 00:32:22 ให้เขาได้ซึ่งตรรงนั้นน่ะจมองว่าโอเคการ
00:32:22 → 00:32:26 เอาพ่อไปอยู่ที่ศูนย์พ่ออาจจะมีความสุข
00:32:26 → 00:32:28 น้อยลงตรงที่ว่าเไม่ได้เห็นหน้าคนใน
00:32:28 → 00:32:31 ครอบครัวทุกวันค่ะแต่ก็เป็นส่วนหนึ่งที่
00:32:31 → 00:32:33 ว่าช่วยเหลือเหมือนกับเป็นการช่วยกันว่า
00:32:33 → 00:32:37 โอเคเาก็ดูแลเราในทางที่เขาทำได้ว่าเอาจ
00:32:37 → 00:32:39 จะลดความสุขสบายหรือความอะไรบางอย่างลงไป
00:32:39 → 00:32:42 นิดนึงใช่มั้ยคะแต่ว่าเราก็ดูแลเขาได้
00:32:42 → 00:32:45 ง่ายขึ้นอือันนี้จมมองด้วยพื้นฐานความคิด
00:32:45 → 00:32:48 แบบนั้นแล้วก็เลยบอกว่าลองดูก่อนว่าเอาไป
00:32:48 → 00:32:51 อยู่แล้วเป็นยังไงเพราะว่าเป้าหมายในการ
00:32:51 → 00:32:53 ดูแล่ะคือทำให้เขามีความสุขอยู่แล้วถ้าไป
00:32:53 → 00:32:56 อยู่แล้วเไม่มีความสุขอันนั้นเราก็ยินดี
00:32:56 → 00:32:58 ที่จะแบบพากลับมากลับมาบ้านแล้วเจอ
00:32:58 → 00:33:00 สถานการณ์เดิมๆนี่แหละว่าเดี๋ยวพี่เลี้ยง
00:33:00 → 00:33:02 ออกเดี๋ยวพี่เลี้ยงออกเราก็ยินดีเงี้ยค่ะ
00:33:02 → 00:33:06 อือแต่ขอให้ได้ลองสิ่งใหม่ๆอันนี้ดูก่อน
00:33:06 → 00:33:09 ปรากฏว่าเขาชอบอ๋อปรากฏว่าโชคดีที่พ่อ
00:33:09 → 00:33:12 อยู่ได้ใช่ค่ะอือก็เรียกว่าไปสำรวจหลาย
00:33:12 → 00:33:14 สูตเลยนะคะไปนั่งคุยกับเจ้าของไปอะไแบบ
00:33:14 → 00:33:16 หลายสูตรมากแล้วก็ดูงบประมาณที่มีว่าจะ
00:33:16 → 00:33:18 เป็นเท่าไหร่อะไรเงี้ยแม่ให้งบเท่าไหร่าม
00:33:18 → 00:33:21 แม่เอาประมาณนี้แล้วกันนะอะไรอย่างเงี้ย
00:33:21 → 00:33:24 ก็ไปไปคุยไปดูแล้วก็ให้พ่อไปอยู่อยู่แกๆก
00:33:24 → 00:33:26 เมีความสุขมากคือแบบเพราะว่าที่ศูนก็มี
00:33:26 → 00:33:29 ร้องเพลงมีคนหน้าใหม่ๆวนเวียนแต่ถ้าอยู่
00:33:29 → 00:33:32 ที่บ้านเราก็เจอแต่เนี่ยหน้านี้แหละแล้ว
00:33:32 → 00:33:34 ก็เราก็ไม่รู้จะคุยอะไรกับเมากมายเพราะ
00:33:34 → 00:33:36 ว่ามันเห็นหน้ากันทุกวันแต่พอไปเจอคนที่
00:33:36 → 00:33:39 ศูนยน่ะก็แบบมีน้องหน้าตาน่ารักแบน้องที่
00:33:39 → 00:33:41 ศูนย์มาคุยด้วยอะไรอย่างเงี้ยเรียกคุณลุง
00:33:41 → 00:33:46 คุณรุงอะไรเงี้ยเขาก็แบบสนุกอร้องรำทำ
00:33:46 → 00:33:49 เพลงใช่ตัวขยับไม่ได้ก็ขยับไหลเต้นกับเ
00:33:49 → 00:33:52 อะไรอย่างเงี้ยอเอออันนี้น่าสนใจเพราะว่า
00:33:52 → 00:33:54 บางทีอะไรล่ะบางทีลูกๆหรือว่าคนใน
00:33:54 → 00:33:58 ครอบครัวอาจจะคิดว่าการส่งผู้ป่วยหรือพ่อ
00:33:58 → 00:34:00 แม่ไปอยู่ที่ศูนย์เนี่ยพู้ดนเจะรู้สึกผิด
00:34:00 → 00:34:03 อืเออแต่บางทีเราเราอาจจะลืมไปก็ได้ว่า
00:34:03 → 00:34:06 มุมนึงเขาอาจจะชอบก็ได้ใช่อใ้ว่าเขาชอบ
00:34:06 → 00:34:09 แต่ว่าพอเขาอยู่ไปซักประมาณหลายเดือน
00:34:09 → 00:34:11 เหมือนกันเราสังเกตเขาตลอดนะคะคือไป
00:34:11 → 00:34:14 เยี่ยมถี่ๆเลยก็สังเกตว่ามันก็ดูซึมๆเนาะ
00:34:14 → 00:34:17 อืออแขนติดๆนิดนึงอะไรอย่าเงี้ยแต่ว่าตรง
00:34:17 → 00:34:20 นี้เราไม่ได้โทษสูยเพราะว่าการดูแลคนผู้
00:34:20 → 00:34:22 ป่วยที่เป็นนพฤกษ์อ่ะค่ะมันไม่เหมือนคนดู
00:34:22 → 00:34:24 แลติดเตียงหรือว่าคนที่ช่วยเหลือตัวเอง
00:34:24 → 00:34:26 ได้เหมือนเขาก้ำกึ่งอ่ะเพราะฉะนั้นเก็
00:34:26 → 00:34:30 ต้องการการดูต้องการเวลาในการที่จะอยู่
00:34:30 → 00:34:33 กับเขาอ่ะมากกว่าผู้ป่วยทั่วไปเงี้ยค่ะ
00:34:33 → 00:34:35 เราก็เลยอ่ะไวมั้ยเบื่อมั้ยอะไรอย่าเงี้ย
00:34:35 → 00:34:38 ก็ก็คอยคุยกับเขาเพราะเขารู้สึกไม่โอเคเ
00:34:38 → 00:34:41 แบบอ่ะหาหาพี่เลี้ยงมาใหม่แล้วก็พระกลับ
00:34:41 → 00:34:44 บ้านช่วงช่วงบางทีต้องพาไปอยู่ที่ศูนย์
00:34:44 → 00:34:48 นี้ยาวมั้ครับอืตอนนั้นน่าจะประมาณ 3
00:34:48 → 00:34:51 เดือนได้ค่ะออืครับในช่วงที่ยังพูดง่ายๆ
00:34:51 → 00:34:54 ยังจัดการเรื่องคนไม่ลงตัวแล้วตอนตอนคุย
00:34:54 → 00:34:57 กับที่บ้านตกลงกันลงตัวได้ยังไงเพราะว่า
00:34:57 → 00:35:00 บางทีเขาอาจจะรู้สึกว่าเ้าไม่มีพี่เลี้ยง
00:35:00 → 00:35:04 ก็ดูแลเองสิเราไปอยู่ตรงนั้นอะไรนะจะไป
00:35:04 → 00:35:06 ไว้ใจคนอื่นดูแลได้อย่างไรเออในใน
00:35:06 → 00:35:08 ครอบครัวคุยกันเรื่องนี้ว่ายังไงโชคดีที่
00:35:08 → 00:35:12 ว่าคนในครอบครัวมีทัศนคดีตรงกันหมดเลยอือ
00:35:12 → 00:35:14 ที่บอกว่าทุกคนใช้ชีวิตอสละกมาก่อนเพราะ
00:35:14 → 00:35:16 ฉะนั้นไม่มีใครจะต้องทิ้งชีวิตของตัวเอง
00:35:16 → 00:35:19 ไปน้องก็จะเห็นใจเราว่าแบบมีอะไรให้
00:35:19 → 00:35:22 ซัพพอร์ตบ้างอย่าเงี้ยค่ะเพราะฉะนั้นถ้า
00:35:22 → 00:35:25 เกิดบอกว่าเราไม่ไหวเราไม่จำเป็นที่จะ
00:35:25 → 00:35:28 ต้องเอาตัวเองลงไปอันนี้คือทุกคนชชเจนกับ
00:35:28 → 00:35:31 ตรงนี้แต่ว่าสิ่งที่แม่กังวลน่ะก็คือเอ่อ
00:35:31 → 00:35:34 ในในความคิดของคนรุ่นนั้นนะว่าไม่ไม่เคย
00:35:34 → 00:35:37 มีใครในครอบครัวเอาพ่อแม่ไปอยู่ศูนย์
00:35:37 → 00:35:41 เมื่อก่อนอ้าแม่ก็จะคิดว่าเราจะโดนตำหนิม
00:35:41 → 00:35:44 อืเออว่าคนอื่นเขาจะหาว่าเราอ่ะทอดทิ้ง
00:35:44 → 00:35:46 เขาหรือเปล่าอะไรอย่างเงี้ยค่ะจ๋ก็บอกคน
00:35:47 → 00:35:49 อื่นก็คือคนอื่นน่ะอือคือเขาเไม่ได้เป็น
00:35:49 → 00:35:51 คนในครอบครัวเราจ๋มองว่าคนในครอบครัวเข้า
00:35:51 → 00:35:54 ใจอ่ะเราจบแล้วออใช่เพราะว่าเขาเป็นผู้
00:35:54 → 00:35:57 ใหญ่เนาะเาก็อาจจะรู้สึกว่าเดี๋ยวญาติพี่
00:35:57 → 00:36:00 น้องเพื่อนจะว่าใช่มใช่อ่าเพราะว่าเอาจจะ
00:36:00 → 00:36:03 มีกรอบความคิดแบบเดิมอยู่ใช่ค่ะแล้วตัว
00:36:03 → 00:36:06 เขาเองอ่ะก็ก็ไม่เคยเออที่จะแบบไปอยู่
00:36:06 → 00:36:08 ศูนย์เนาะคือเขาไม่เคยไม่เคยเข้าไปสัมผัส
00:36:08 → 00:36:11 นะว่าศูนย์ดูแลเป็นยังไงเขาก็ไม่ได้มี
00:36:11 → 00:36:13 ความคิดนี้เมื่อก่อนอือพอตอนหลังพ่อไป
00:36:13 → 00:36:15 อยู่แล้วพ่อมีความสุขดีเขาก็เล่าให้คน
00:36:15 → 00:36:18 อื่นฟังอยู่เลยโอ๊ยตะเเริงศักดิ์เมีความ
00:36:18 → 00:36:21 สุขดีเนี่ยร้องรำทำเพลงฉันดีนะฉันว่า
00:36:21 → 00:36:22 เดี๋ยวถ้าเกิดฉันเป็นอะไรฉันอาจจะไปอยู่
00:36:22 → 00:36:25 บ้างอะไรอย่างเงี้ยอครับใช่เพราะว่ามุม
00:36:25 → 00:36:27 นึงบางคนอาจจะคิดว่าโอ๊สบายก็อย่างน้อยก็
00:36:27 → 00:36:30 มีเงินซัพพอร์ตนี่ก็พาเไปอยู่ศูนย์แต่บาง
00:36:30 → 00:36:35 ทีการไปอยู่ศูนย์แม้ว่าเราจะมีการเงินที่
00:36:35 → 00:36:37 สามารถดูแลได้แต่บางทีมันก็จะมีประเด็น
00:36:37 → 00:36:39 อื่นๆให้เราคิดด้วยเหมือนกันเใช่ค่ะอือก็
00:36:39 → 00:36:41 คือกับป๊าเนี่ยจะเคลียร์กับเขาทุกครั้ง
00:36:41 → 00:36:45 ที่เอาไปเข้าศูนย์เลยว่าไม่ได้ทิ้งนะออทำ
00:36:45 → 00:36:48 ความเข้าใจเลยว่าพี่เลี้ยงลาออกเนาะอือ
00:36:48 → 00:36:50 เข้าใจใช่มั้ยอะไรอย่างเงี้ยเออแบบไม่ได้
00:36:50 → 00:36:52 ทิ้งนะจะมาเยี่ยมเรื่อยๆเลยอะไรอย่าเงี้ย
00:36:52 → 00:36:55 ก็คือจกไวเยี่ยมมาทีละ 2 ครั้งค่ะแล้วก็
00:36:56 → 00:36:58 ซื้ออาหารที่ชอบไปให้นั่งเปิดเพลงให้ฟัง
00:36:58 → 00:37:01 คือก็ก็ใช้เวลากับเไม่ไม่ใช่แค่ไปเยี่ยม
00:37:01 → 00:37:04 เฉยๆอะไรอย่าเงี้ยค่ะออครับๆอันนี้คือคือ
00:37:04 → 00:37:06 เราก็ต้องทำความเข้าใจกับเาด้วยใช่คือ
00:37:06 → 00:37:08 ส่วนหนึ่งเขาก็ต้องทำความเก็พยายามจะเข้า
00:37:09 → 00:37:11 ใจด้วยมงว่าถ้าเขาอยู่ที่นี่บางทีมันก็
00:37:12 → 00:37:15 อาจจะส่งผลต่อคนดูแลคนอื่นๆครับค่ะคือตัว
00:37:15 → 00:37:18 เขาก็เข้าใจสถานการณ์แหละนี้ถามเขาก็บอก
00:37:18 → 00:37:20 ว่าโอเคมั้ยอ่ะอะไรอย่างเงี้ยแบบเขาก็บอก
00:37:20 → 00:37:23 ว่าโอเคแล้วชอบอยู่บ้านหรือชอบอยู่ที่
00:37:23 → 00:37:26 ศูนย์มากกว่าก็ชอบอยู่บ้านแต่อยู่ที่นี่
00:37:26 → 00:37:29 ก็ได้อืจะบอกอย่างงี้เงี้ยค่ะอสมมุติเล่น
00:37:29 → 00:37:32 ๆว่าถ้าไม่ไม่พาไปอยู่ศูนย์ไม่ไม่ตัดสิน
00:37:32 → 00:37:36 ใจพาไปอยู่ศูนย์ถ้าโจทดูแลเองอยู่ที่บ้าน
00:37:36 → 00:37:39 คิดว่าเหตุการณ์มันจะเป็นยังไงโอวนเวียน
00:37:39 → 00:37:41 เลยค่ะเพแบบพี่เลี้ยงออกหาใหม่พี่เลี้ยง
00:37:42 → 00:37:44 ออกหาใหม่แล้วก็ถ้าพี่เลี้ยงออกไม่มีคนดู
00:37:44 → 00:37:47 อันเนี้ยตารางทุกอย่างตารางงานที่เรามี
00:37:47 → 00:37:52 ไว้มันก็จะต้องเลื่อนหมดอืแล้วก็กลับเข้า
00:37:52 → 00:37:57 รูปเดิมๆครับอืมว่าเราจะเราจะแบ่งเวลายัง
00:37:57 → 00:38:00 ไงเราจะดูแลตัวเองยังไงเราจะดูแลเได้ยัง
00:38:00 → 00:38:02 ไงอะไรอย่างเงี้ยอืออมันจะแบบเหมือนกับ
00:38:02 → 00:38:05 กินเวลาเราไปทั้งหมดแล้วมันก็จะเป็นการ
00:38:05 → 00:38:08 สูบพลังมากอันนี้บอกบอกเลยเพราะว่าคือโจ
00:38:08 → 00:38:11 เคยไปดูแลกงใชครับแล้วช่วงที่ไม่มีพี่
00:38:11 → 00:38:13 เลี้ยงเหมือนกันตอนนั้นเรารู้เลยว่าการมี
00:38:13 → 00:38:16 พี่เลี้ยงเป็นสิ่งที่สำคัญเพียงแต่ว่าเรา
00:38:16 → 00:38:19 จะดูแลพี่เลี้ยงยังไงให้เขาอ่ะอยู่กับเรา
00:38:19 → 00:38:23 ได้ออย่าเงี้ยค่ะมากกว่าอครับก็คือว่า
00:38:23 → 00:38:26 อะไรล่ะแม้ว่าเราสามารถดูสมมุติถ้าเราไม่
00:38:26 → 00:38:29 ส่งเข้าไปแม้ว่าเราสามารถดูแลเได้โอแต่
00:38:29 → 00:38:32 ว่าตัวพลังในชีวิตเราก็จะหายไปเยอะถามว่า
00:38:32 → 00:38:35 ทำทำเองได้มั้ยทำได้นะดูแลได้หมดเลยพา
00:38:35 → 00:38:37 เดินพาอะไรแบบทำได้ทุกอย่างที่พี่เลี้ยง
00:38:37 → 00:38:41 ทำได้คอแต่พลังชีวิตเราก็จะหายไปเพราะว่า
00:38:41 → 00:38:43 1 คือเราไม่สามารถเอาไปทำงานอย่างอื่น
00:38:43 → 00:38:45 อะไรได้เลยใช่ครับแล้วถ้าสมมุติว่า
00:38:45 → 00:38:48 ครอบครัวที่เขาไม่มีเงินจ้างทั้งพี่
00:38:48 → 00:38:51 เลี้ยงไม่มีเงินส่งไปศูนย่ะเออโจมีคำแนะ
00:38:51 → 00:38:54 นำยังไงบ้างมั้ยอันนี้ส่งกำลังใจให้ก่อน
00:38:54 → 00:38:57 เลยนะคะแล้วก็คือถ้าถ้าไม่พอพร้อมอ่ะโอเค
00:38:58 → 00:39:00 ลูกๆต้องมาดูแลเองแหละแต่ว่าอย่างเราก็
00:39:00 → 00:39:02 ย้อนกลับไปช่วงทำ Family Meeting อ่ะค่ะ
00:39:02 → 00:39:05 ว่าเขาสามารถที่จะคุยกับคนในครอบครัวได้
00:39:05 → 00:39:08 นะว่าไม่ใช่คนคนเดียวที่จะมาดูแลแต่หาคน
00:39:09 → 00:39:13 มาสลับให้มีๆมีเวลาให้เขาในแต่ละวันได้
00:39:13 → 00:39:16 หยุดใช่ค่ะว่าอย่างน้อยจะเป็นวันอาทิตย์
00:39:16 → 00:39:18 เสาร์อาทิตย์ที่แบบคนในครอบครัวที่ต้องทำ
00:39:19 → 00:39:21 งานแล้วเขาว่างเสาร์อาทิตย์อย่างเงี้ยก็
00:39:21 → 00:39:24 ควรจะมาช่วยเขาสลับออเพื่อที่จะให้เขาอ่ะ
00:39:24 → 00:39:27 ได้ไปหยุดพักตรงเนี้ยพอพอคนที่ดูแลคป่วย
00:39:27 → 00:39:30 นานๆน่ะค่ะเขจะคิดว่าเอ่ะไม่สามารถที่จะ
00:39:30 → 00:39:34 หยุดพักได้อแล้วเก็จะต้องดูแลตลอดไปอาจจะ
00:39:34 → 00:39:37 รู้สึกผิดอย่างงั้นเหรอใช่ๆรู้สึกผิดรู้
00:39:37 → 00:39:40 สึกถ้าพลาดขึ้นมาครับจะเกิดอะไรขึ้นอะไร
00:39:40 → 00:39:43 อย่างเงี้ยค่ะแล้วก็ฉันฉันไม่สามารถวาง
00:39:43 → 00:39:45 มือจากเขาได้ซึ่งนี้เป็นความรู้สึกที่น่า
00:39:45 → 00:39:47 เป็นห่วงมากั้นถ้าเกิดว่าได้คุยกันตั้ง
00:39:47 → 00:39:49 แต่ต้นแล้วให้เขาได้รู้ว่าเขาไม่จำเป็น
00:39:49 → 00:39:52 ต้องอยู่ตลอดแต่มีคนมาสลับอาจจะถ้าใน
00:39:53 → 00:39:55 ระหว่างวันน่ะตีสนิทกับเพื่อนบ้านไปบ้าง
00:39:55 → 00:39:57 ก็ได้แบบฝากมาดูแป๊บนึงได้มั้ยไปเดินเล่น
00:39:57 → 00:40:00 โรตัสหน่อยอะไรอย่างเงี้ยอือซักแบบวันละ
00:40:00 → 00:40:03 ชั่วโมงก็ได้ซึ่งเขาคก็ต้องรู้สึกวางอยาก
00:40:03 → 00:40:05 วางด้วยเนาะเพราะว่าบางคนอาจจะแบบว่าฉัน
00:40:05 → 00:40:08 ก็อยากจะเบรกอ่ะแต่ว่าฉันก็ไม่ไว้ใจใคร
00:40:08 → 00:40:10 ใช่ตรงนั้นเป็นความรู้สึกที่หนักหนาที่
00:40:10 → 00:40:13 ที่ตัวเขาแบกรับเอาไว้มากเพราะฉะนั้นน่ะ
00:40:13 → 00:40:16 แบบเมองว่าการที่จะเป็นคนดูแลอ่ะเราอาจจะ
00:40:16 → 00:40:18 ต้องค่อยๆมองย้อนกลับมาที่ตัวเราด้วยว่า
00:40:18 → 00:40:21 การที่เราดูแลเค้าอ่ะมันไปหล่อเลี้ยงอะไร
00:40:21 → 00:40:25 เราอือือๆหล่อเลี้ยงความสุขของเราหล่อ
00:40:25 → 00:40:28 เลี้ยงความสบายใจของเราอเอ่อหรือไปหล่อ
00:40:28 → 00:40:32 เลี้ยงความอึดอัดขับข้องอืไปหล่อเลี้ยง
00:40:32 → 00:40:34 อีโก้ให้มันใหญ่ขึ้นอว่าเขาจะอยู่ไม่ได้
00:40:34 → 00:40:37 ถ้าไม่มีเราเงี้ยค่ะตรงนั้นก็เป็นสิ่งที่
00:40:37 → 00:40:40 คนที่เป็นแคร์กีออ่ะค่ะค่อยๆย้อนกลับมา
00:40:40 → 00:40:44 คุยกับตัวเองเรื่อยๆเอออนี้น่าสนใจนะว่าเ
00:40:44 → 00:40:46 ต้องกลับมาทบทวนด้วยนะว่าการการไปดูแลพ่อ
00:40:46 → 00:40:48 แม่นี่มันหล่อเลี้ยงอะไรเราเออใช่ค่ะอ
00:40:48 → 00:40:51 ซึ่งมันมีทั้งหล่อเลี้ยงทั้งด้านดีแล้วก็
00:40:51 → 00:40:54 หล่อเลี้ยงทางด้านที่แบบที่จะทำให้เรามี
00:40:54 → 00:40:56 ความทุกข์ด้วยอ่ะใช่ค่ะหรือเราให้อาหาร
00:40:56 → 00:40:57 อะไร
00:40:57 → 00:41:02 [เพลง]
00:41:02 → 00:41:05 ปัญหานึงของแอร์นี่ก็ที่มักจะเจอกันก็คือ
00:41:05 → 00:41:07 เกี่ยวกับพวกเรื่องความกตัญญูหรือว่าอะไร
00:41:07 → 00:41:11 อย่างเงี้ยมันจะเหมือนว่ามันจะค้ำค้ำคอ
00:41:11 → 00:41:14 ไว้ค้ำการตัดสินใจไว้เวลาเราจะตัดสินใจ
00:41:14 → 00:41:17 อะไรแต่ละอย่างบางทีไอ้คำๆนี้มันจะวนกลับ
00:41:17 → 00:41:21 มาหาเราอ่ะเนาะว่าเอ๊ะทำแบบนี้มันจะไม่
00:41:21 → 00:41:24 กตัญญูหรือเปล่าโจมีมีปัญหากับพวกเรื่อง
00:41:25 → 00:41:28 พวกนี้มั้ยตัวเองไม่มีนะคะว่า
00:41:28 → 00:41:30 อย่างที่บอกว่าบางทีที่ที่เราโดนคำพูด
00:41:30 → 00:41:32 อะไรบางอย่างที่มันกระทบใจเราหรือว่าสิ่ง
00:41:32 → 00:41:35 ที่สังคมให้ค่านิยมเนาะว่ากตัญญูจะต้อง
00:41:35 → 00:41:37 เป็นแบบนี้อะไรอย่างเงี้ยบางทีเราก็ถาม
00:41:37 → 00:41:40 ตัวเองกลับก็ได้ว่าแล้วใครให้คะแนนเราอ่ะ
00:41:40 → 00:41:43 อือือมันก็คือตัวเราครับคนอื่นไม่ได้
00:41:44 → 00:41:46 เกี่ยวข้องอะไรกับสิ่งที่เรากำลังพบเจอ
00:41:46 → 00:41:49 อยู่เลยอือถ้าเราทำตามที่เขาบอกว่าเขา
00:41:49 → 00:41:52 อยากให้เราเป็นคนที่มีความทุกข์คือใครก็
00:41:52 → 00:41:56 คือเราออือตรงเนี้ยก็ต้องพิจารณาด้วยว่า
00:41:56 → 00:42:00 เราทำได้ไหวแค่ไหนอีกอือือๆแล้วก็จริงๆ
00:42:00 → 00:42:03 แล้วคนที่ทุกข์ที่สุดน่ะก็คือคนที่ป่วย
00:42:03 → 00:42:06 ไม่ใช่ตัวเราตรงนั้นน่ะก็เป็นการที่เรียก
00:42:06 → 00:42:09 ว่าดูแลตัวเองเหมือนกันว่าบางคนผู้ดูแลก็
00:42:09 → 00:42:13 อาจจะแบบเหมือนกับจมลงไปกับความรู้สึกของ
00:42:13 → 00:42:17 คนป่วยว่าเาทุกข์มากเลยเขาจะต้องแบบ
00:42:17 → 00:42:19 เครียดมากอะไเงี้ยทำให้เราเศร้าไปด้วย
00:42:19 → 00:42:21 อย่างเงี้ยค่ะตรงเเหมือนกับว่าการที่ทำ
00:42:21 → 00:42:23 ให้การที่เราดูแลใครคนใดคนหนึ่งอ่ะควรจะ
00:42:23 → 00:42:27 ทำให้เราเติบโตอือมากกว่าที่จะทำให้เรา
00:42:27 → 00:42:30 รู้สึกถูกอ่ะค่ะอืคือการที่ได้ย้อนกลับมา
00:42:30 → 00:42:32 คุยกับตัวเองเรื่อยๆอย่างสม่ำเสมอมันเป็น
00:42:32 → 00:42:35 สิ่งที่ดีอืมเอาไยกยกตัวอย่างอันนึงว่า
00:42:35 → 00:42:38 ตอนที่โ๋ดูแลปาแรกๆอ่ะค่ะเหมือนกับว่าเรา
00:42:38 → 00:42:40 ก็ต้องชวนเขาคุยฝึกสมองเนาะแล้วการที่เขา
00:42:40 → 00:42:42 เป็นแรกๆอ่ะเขาจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆอ่ะ
00:42:43 → 00:42:45 ค่ะแค่ถามว่าวันนี้วันจันทร์พรุ่งนี้วัน
00:42:45 → 00:42:47 อะไรอย่างเงี้ยเขาก็จะไม่รู้แล้วว่าคือ
00:42:47 → 00:42:50 พรุ่งนี้คือวันอะไรอืออันนี้สีอะไรถามสี
00:42:51 → 00:42:53 นั้นประยกๆหยิบสีนั้นสีเดิมขึ้นมาใหม่เขา
00:42:53 → 00:42:55 ตอบไม่ได้แล้วอย่างเงี้ยตอนนั้นโจอารมณ์
00:42:55 → 00:42:59 เสียมากเลยค่ะหงิดมากอือทำไมอ่ะทำไมจำไม่
00:42:59 → 00:43:01 ได้อะไรเงี้ยแล้วมันก็เอ๊ะขึ้นมาอีกว่า
00:43:01 → 00:43:05 เราทำอย่างงั้นไปอ่ะอเราก็เครียดอือเก็
00:43:05 → 00:43:09 เครียดตัวคนที่ทุกข์ที่สุดน่ะคือเขาแล้ว
00:43:09 → 00:43:12 เราล่ะมั้ยคะนายโจกก็เปลี่ยนใหม่เลยว่า
00:43:12 → 00:43:16 แบบเทำไม่ได้แล้วทำไมอ่ะอือืเทำไม่ได้ก็
00:43:16 → 00:43:18 ไม่เห็นเป็นไรรเลยอือแค่เมีความสุขก็ดี
00:43:18 → 00:43:21 เราไงอือเงี้ยค่ะตเขมมุมนั้นว่าเพราะ
00:43:21 → 00:43:24 ฉะนั้นนะสิ่งสิ่งที่คนที่เป็นแกีอควรจะ
00:43:24 → 00:43:26 ใส่ใจมากที่สุดเลยอย่างที่บอกว่ารับผิด
00:43:26 → 00:43:28 ชอบความความสุขสุขของตัวเองอือือแล้วก็
00:43:28 → 00:43:31 ให้ผู้ป่วยรับรู้ด้วยว่าเขาก็รับผิดชอบใน
00:43:31 → 00:43:34 ส่วนที่เขาทำได้ด้วยเช่นกันว่าก็คือเมตตา
00:43:34 → 00:43:37 กันน่ะอยู่ด้วยกันอย่างนี้ดีกว่าอือคือ
00:43:37 → 00:43:39 ต่างคนต่างก็มีหน้าที่ในการรับผิดชอบความ
00:43:39 → 00:43:42 สุขของตัวเองครับเพราะไม่อย่างงั้นเดี๋ยว
00:43:42 → 00:43:44 เราก็ 1 ก็คือเราก็จะไปฟังคำพูดของคนอื่น
00:43:44 → 00:43:46 น่ะเนาะเออคนอื่นพูดอย่างนั้นอย่างงี้เรา
00:43:46 → 00:43:49 ก็เอาคำเอาคำพูดของเขามามาสร้างความทุกข์
00:43:49 → 00:43:52 ให้กับตัวเองอีกในขณะเดียวกันเอ่ออะไรล่ะ
00:43:52 → 00:43:55 ความคาดหวังที่เราลงไปให้ผู้ป่วยหรือบาง
00:43:55 → 00:43:58 ทีไปคิดแทนเอ่ะว่าเจะต้องทุกข์ใจนู่นนี่
00:43:59 → 00:44:01 นั่นมันก็จะทำมันก็จะบั่นทอนตัวเราเองอีก
00:44:01 → 00:44:03 ใช่มั้ยอืๆใช่เพราะว่าเข้าใจเลยนะว่าคน
00:44:03 → 00:44:07 ที่ดูแลพ่อแม่เงี้ยเป็นลูกๆเงี้ยบางทีเเ
00:44:07 → 00:44:09 ก็คงจะรู้สึกสงสารพ่อแม่อ่ะเช่นพ่อแม่พูด
00:44:09 → 00:44:11 ไม่ได้พ่อแม่นู่นนี่นั่นไม่ได้เงี้ยบางที
00:44:11 → 00:44:14 เราก็จะเราก็จะเอาใจเราลงไปคิดถึงความ
00:44:14 → 00:44:16 ทุกข์เาแล้วมันก็จะทำให้ตัวเองเราทุกข์
00:44:16 → 00:44:18 ด้วยใช่มั้ยโจก็เป็นเหมือนกันใช่มั้ยพวก
00:44:18 → 00:44:20 นี้ใช่แรกๆก็เป็นค่ะแต่ว่าพอสักพักก็แบบ
00:44:20 → 00:44:23 เอ้ยก็คือนี่แหละอย่างที่บอกเทุกข์สุด
00:44:23 → 00:44:25 แล้วเนี่แหละทุกข์ที่สุดแล้วอเออเพราะ
00:44:25 → 00:44:29 ฉะนั้นน่ะเราอ่ะไม่ต้องไปเติมความทุกข์
00:44:29 → 00:44:31 หรือเติมบรรยากาศที่มันเป็นความทุกข์
00:44:31 → 00:44:33 เพิ่มไปอีกหรอกอะไเงี้ยค่ะอืออเพราะเคก็
00:44:33 → 00:44:36 เจออยู่แล้วเเเจออยู่แล้วแล้วก็ถ้าถ้าเขา
00:44:36 → 00:44:38 จะไม่ดีขึ้นหรือถ้าเขาจะเป็นไงมันมันแล้ว
00:44:38 → 00:44:41 มันเป็นยังไงอ่ะใช่ป่ะอืออทำเท่าที่เราทำ
00:44:41 → 00:44:43 ได้สิอย่าเงี้ยค่ะอเออแล้วอย่างกรณีเรา
00:44:43 → 00:44:45 ฟื้นฟูเค้ามากๆแล้วเกิดว่าเค้าไม่ดีขึ้น
00:44:45 → 00:44:47 นู่นนี่นั่นน่ะบางทีบางคนก็จะมีอารมณ์
00:44:47 → 00:44:50 ประมาณแบบใช่ 1 อย่างที่บอกเนาะก็คือเบรม
00:44:50 → 00:44:51 เค้าด้วยว่าเ้าด้วยบทิดโทษตัวเองด้วยฉัน
00:44:51 → 00:44:54 ดูแลไม่พอรือเปล่าทำไมเ้าไม่ดีขึ้นสักทีจ
00:44:54 → 00:44:56 ก็อันนี้อันนี้เราก็ต้องใช้วิธีคิดแบบนี้
00:44:56 → 00:44:58 เหมือนกันใช่มั้ยวางใจอ่ะว่าแบบอเ้าดีได้
00:44:58 → 00:45:01 แค่นี้เรียกว่าตอนแรกจากที่ต้องสายใส่สาย
00:45:01 → 00:45:03 อาหารมาถึงตอนนี้ได้นี่เรียกว่ากำไรแล้ว
00:45:03 → 00:45:06 นะออใช่ถ้าเขาจะดีขึ้นมากไปกว่านี้อีกก็
00:45:06 → 00:45:09 เป็นเรื่องน่าชื่นใจเค่ะแต่ถ้าเขาจะไม่ดี
00:45:09 → 00:45:13 ขึ้นเค้าเก็เราก็ดูแลเา้าไปอ่ะอย่างที่
00:45:13 → 00:45:16 มันเป็นอย่างนี้แหละอครับใช่เพราะบางทีเ
00:45:16 → 00:45:19 อาจจะไปตั้งโกว่าจะต้องกลับมาใช่ปกติอัน
00:45:19 → 00:45:21 นั้นนาจจะเป็นเรื่องที่อันตรายมากเลย
00:45:21 → 00:45:24 เพราะว่ามันทำให้ตะเกียกตะกายพี่จะเข้าไป
00:45:24 → 00:45:26 สู่เป้าหมายอันนั้นใช่แต่ว่าเรามองเาใน
00:45:26 → 00:45:28 แต่ละวันว่าว่าให้เขารู้สึกดีขึ้นในแต่ละ
00:45:28 → 00:45:31 วันแล้วชื่นชมกันได้ในแต่ละวันด้วยเป้า
00:45:31 → 00:45:34 หมายสั้นๆอ่ะอมันก็สนุกกว่าด้วยอย่างเงี้
00:45:34 → 00:45:36 ค่ะเอออันนี้น่าสนใจก็คือว่าพยายามมีความ
00:45:36 → 00:45:38 สุขกับเป้าหมายสั้นๆว่าดีขึ้นสั้นๆเนาะ
00:45:39 → 00:45:41 แต่ถ้าเราไปตั้งตั้งไว้ว่าเขาจะกลับมา
00:45:41 → 00:45:43 แข็งแรงเหมือนที่เขาเคยแข็งแรงอย่างเงี้
00:45:43 → 00:45:46 โอ้โหอย่างเงี้ยเราจะไม่พึงพอใจสักทีใช่
00:45:46 → 00:45:49 ค่ะอก็เท่าที่โจ๋มองป๊าโจ๋ก็รู้สึกว่าอุย
00:45:49 → 00:45:51 เราภูมิใจตัวเองมากแล้วนะเพราะว่าจากตอน
00:45:51 → 00:45:54 แรกเขาแบบแมพเลยแทบจะติดเตียงแล้วอ่ะตอน
00:45:54 → 00:45:57 นี้คุยกับเรารู้เรื่องแล้วผ่านไป 4 ปี
00:45:57 → 00:46:00 ใช้เวลาเกือบ 4 ปีกว่าป๊าจะบอกได้ว่าเขา
00:46:00 → 00:46:03 จะเข้าห้องน้ำเพราะอุจจาระหรือปัสสาวะอื
00:46:03 → 00:46:05 อย่างเงี้ยจากตอนแรกบอกไม่ได้เลยราดด้วย
00:46:05 → 00:46:09 ราดบ่อยมากอะไรเงี้ยอือซึ่งการที่คนป่วย
00:46:09 → 00:46:12 ทำเลอะเทอบ่อยๆอันนั้นก็คนดุแลก็อาจจะ
00:46:12 → 00:46:14 หงุดหงิดด้วยอะไรเงี้ยแต่ว่าโอเคเราก็ทำ
00:46:14 → 00:46:16 ใจทุกครั้งถอยกมาก่อนทุกครั้งแล้วก็แบบ
00:46:16 → 00:46:18 ไม่เป็นไรอะไรอย่างเงี้ยค่ะแบบเออเขาไม่
00:46:18 → 00:46:21 ผิดอะไรนะที่เขาจะเป็นแบบนั้นอะไรเงี้ยอ
00:46:21 → 00:46:23 เพราะว่าเวลาเาทำอะไรเลอเทอะตัวเคก็รู้
00:46:23 → 00:46:26 สึกผิดด้วยเนาะเก็รู้สึกไม่ดีอยู่แล้วเออ
00:46:26 → 00:46:29 ๆครับโอ้กมันแสดงว่า 4 ปีนี่มันก็ต้อง
00:46:29 → 00:46:32 ค่อยๆเรียนรู้ไปเหมือนกันเนาะใช่ค่ะแล้ว
00:46:32 → 00:46:34 มันเป็นความสุขเป็นเป็นโมเมนที่ดีอ่ะในใน
00:46:35 → 00:46:37 ทุกๆครั้งค่ะว่าแบบเฮ้ยมันมีการพัฒนาการ
00:46:37 → 00:46:40 เกิดขึ้นเล็กๆเรื่อยๆเงี้ยค่ะครับนี่แสดง
00:46:40 → 00:46:43 ว่า 4 ปีมันนี่เรียนรู้อะไรในการดูแลคุณ
00:46:43 → 00:46:47 พ่อมากที่สุดเลยในฐานะของแบบแอร์คนนึงฮะ
00:46:47 → 00:46:51 การวางใจค่ะการวางใจใช่อือทำใจได้เลยว่า
00:46:51 → 00:46:55 แบบสิ่งที่ทำมันดีที่สุดแล้วอืถ้าจะเกิด
00:46:55 → 00:46:58 อะไรขึ้นหลังจากนี้เนี่ยมันเป็นสิ่งที่
00:46:58 → 00:47:02 มันจะต้องเกิดอือือๆเราก็วางใจได้ครับเขา
00:47:02 → 00:47:05 จะไม่ดีกว่านี้เขาจะแย่กว่านี้หรือว่าคน
00:47:05 → 00:47:07 อื่นจะพูดอะไรในสิ่งที่ไม่เข้าหูเราอ่ะอื
00:47:07 → 00:47:12 ระวังหมดเลยอืออืก็คือให้วางใจค่ะใช่ค่ะ
00:47:12 → 00:47:14 แล้วก็เรียนรู้ที่จะถอยกลับมาก่อนทุก
00:47:14 → 00:47:17 ครั้งอืว่าถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นมาเกิด
00:47:17 → 00:47:20 เหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดพี่เลี้ยงลาออกหรือ
00:47:20 → 00:47:21 อะไรก็แล้วแต่หรือปาต้องเข้าโรงพยาบาล
00:47:21 → 00:47:24 อะไรอย่าเงี้ยค่ะอเอ่อจะไม่เป็นคนที่รีบ
00:47:24 → 00:47:27 กระโจนลงไปแต่ว่าถอยให้ตัวเองกลับมาตั้ง
00:47:27 → 00:47:33 หลักก่อนออืว่าใจเย็นๆคิดก่อนว่าตอนเเรา
00:47:33 → 00:47:36 อ่ะต้องสงบก่อนอืออือแล้วถึงจะรู้ว่าจะ
00:47:36 → 00:47:39 ต้องทำอะไรต่อไปอืออย่าเพิ่งเดินไปข้าง
00:47:39 → 00:47:42 หน้าถอยกมาก่อนเงี้ค่ะอือให้ตัวเราพร้อม
00:47:42 → 00:47:45 ก่อนก็ค่อยคิดเรื่องอื่นออครับเพราะไม่
00:47:45 → 00:47:47 งั้นเดี๋ยวบางทีอยู่ในช่วงเศร้าก็กระโจน
00:47:47 → 00:47:50 ไปกอดความเศร้าไว้อะไรอย่างงี้เนาะบางที
00:47:50 → 00:47:52 มันก็แก้ไม่ได้สักทใช่หรือไม่ก็รีบไปทำ
00:47:52 → 00:47:54 อะไรบางอย่างที่แบบโดยที่มันไม่จำเป็นน่ะ
00:47:54 → 00:47:57 อือรีบๆแบบว่ามันจะต้องทำแบบนี้มันจะต้อง
00:47:57 → 00:48:00 ทำแบบนั้นฉันจะต้องรีบเอาเค้าไปทำอะไรบาง
00:48:00 → 00:48:02 อย่างอะไรอย่างเงี้ยเออซึ่งบางทีมันแบบ
00:48:02 → 00:48:05 มันเปลืองแรงเนาะก็กลับกลับมาตั้งหลัก
00:48:05 → 00:48:07 ก่อนเออว่าแบบบางทีไม่จำเป็นที่จะต้อง
00:48:07 → 00:48:10 เหนื่อยหรือว่าไม่จำเป็นที่จะต้องทำขนาด
00:48:10 → 00:48:13 นั้นก็ได้อะไเงี้ค่ะออครับนี่คือจริงๆ
00:48:13 → 00:48:15 แล้วถ้าในฐานะของแกีร์คนนึงถ้าต้องบอกกับ
00:48:16 → 00:48:19 แครกีอคนอื่นๆนี่ก็น่าจะบอกว่าให้อยากให้
00:48:19 → 00:48:21 เขาคเมตตาตัวเองด้วยใช่มั้ยใช่ค่ะรักตัว
00:48:21 → 00:48:24 เองเยอะๆอใช่มันจะมีแอร์หลายแบบนะคะอย่า
00:48:24 → 00:48:26 แบบอ่ะอย่างคนส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบที่เรา
00:48:26 → 00:48:29 คุ้นเคยกันใช่มั้ยคะว่าแบบโอ๊ยฉันทำอะไร
00:48:29 → 00:48:32 ไม่ได้เลยฉันจะต้องดูแลเค้ามีตกอยู่ใน
00:48:32 → 00:48:34 ความเศร้าอะไรอย่างเงี้ยคือขอให้รักตัว
00:48:34 → 00:48:37 เองเยอะเยอะแล้วก็อยากให้เขามองภาพค่ะว่า
00:48:37 → 00:48:40 สักวันนึงถ้าเขาไม่มีคนที่ดูแลคนนั้นอยู่
00:48:40 → 00:48:43 แล้วอืเขาอยากให้ตัวเองอ่ะมีชีวิตอยู่แบบ
00:48:43 → 00:48:47 ไหนอือแล้วก็คงสิ่งนั้นเอาไว้ในทุกๆวัน
00:48:47 → 00:48:50 ได้เลยโดยที่ไม่ต้องรอให้เขาจากไปค่ะ
00:48:50 → 00:48:53 อย่างเช่นโจ๋อ่ะมองว่ายังไงเราก็มีงานทำ
00:48:53 → 00:48:56 มีชีวิตของตัวเองมีเวลาในการออกกำลังกาย
00:48:56 → 00:48:59 ด้วยเงี้ยค่ะเราก็ทำสิ่งนั้นแหละครับไปใน
00:48:59 → 00:49:02 ทุกๆวันในขณะเดียวกันเราก็ดูแลเขาด้วย
00:49:02 → 00:49:05 เงี้ยค่ะแล้วเราก็มองภาพตัวเองในช่วงที่
00:49:05 → 00:49:07 เขาไม่อยู่ด้วยว่าอ้อถ้าเราไม่มีเขาอยู่
00:49:07 → 00:49:10 แล้วอ่ะอืออืเราก็จะไปใช้ชีวิตในแบบที่
00:49:10 → 00:49:13 เราอยากใช้ออือแต่ไม่ใช่หมายความว่าตอน
00:49:13 → 00:49:15 นี้เราใช้ชีวิตแบบนั้นไม่ได้แต่ว่าแค่ยัง
00:49:15 → 00:49:18 ไม่เต็มรอยเท่านั้นเองเอออันนี้น่าสนใจ
00:49:18 → 00:49:21 เพราะว่าคนเป็นแครกิอช่วงช่วงระหว่างดูแล
00:49:21 → 00:49:24 เนี่ยก็อาจจะแบบว่าไม่ไม่ไปทำอะไรอย่าง
00:49:24 → 00:49:28 อื่นเลยที่เป็นชีวิตของตัวเองใช่เช่นเคย
00:49:28 → 00:49:30 มีน้องบางคนบอกว่าไม่กล้าแม้กระทั่งไปดู
00:49:30 → 00:49:32 คอนเสิร์ตอย่าเงี้ยไม่กล้ามีความสุขอ
00:49:32 → 00:49:34 เพราะว่าพ่อป่วยอยู่ที่บ้านเงี้ยซึ่งจริง
00:49:34 → 00:49:36 ๆสำหรับโจทย์นี่ไม่ใช่เลยใช่มั้ยไม่ใช่
00:49:36 → 00:49:39 เลยค่ะคือความรู้สึกผิดน่ะมันเป็นสิ่งที่
00:49:39 → 00:49:42 ทำร้ายจริงๆอือคือถึงเราจะรู้สึกผิดหรือ
00:49:42 → 00:49:46 ว่าอะไรไปอ่ะเขาไม่ได้ดีขึ้นครับแล้วก็
00:49:46 → 00:49:48 ไม่ได้ทำให้เขารู้สึกดีขึ้นอืแต่กลับทำ
00:49:48 → 00:49:51 ให้ตัวเราเองนี่แหละที่ทำร้ายตัวเองอยู่
00:49:51 → 00:49:53 อือเรามีสิทธิ์ที่จะมีความสุขได้ค่ะมี
00:49:53 → 00:49:55 สิทธิ์เต็มที่ด้วยอมีสิทธ์ที่มีความสุข
00:49:55 → 00:49:59 ได้โรงพาบาลอยู่ค่ะอืโจบก็มาทำงานเนาะเออ
00:49:59 → 00:50:02 มามานั่งคุยกับกับพี่ประสานใช่มั้ยคะแล้ว
00:50:02 → 00:50:04 ก็มีออกไปกินข้าวกับเพื่อนบ้างอะไรอย่าง
00:50:04 → 00:50:06 เงี้ยเออแต่ในขณะเดียวกันก็ไปดูแลป้าใน
00:50:06 → 00:50:09 ช่วงเวลาที่เขาให้เยี่ยมเงี้ยค่ะอืไปหา
00:50:09 → 00:50:12 พ่อด้วยไปเยี่ยมพ่อที่สูนด้วยในตอนนี้
00:50:12 → 00:50:13 อย่างเงี้ยค่ะใช่เพราะว่าบางคนเหมือนแบบ
00:50:13 → 00:50:15 อย่างที่เมื่อกี้บอกว่าไม่กล้ามั้ไปดู
00:50:15 → 00:50:17 คอนเสิร์ตบางคนก็ไม่กล้าไปเที่ยวบางคนก็
00:50:17 → 00:50:20 บอกว่าอ่ะฉันจะกัดฟันยอมทิ้งงานทิ้งทุก
00:50:20 → 00:50:23 สิ่งทุกอย่างมาดูแลพ่อแม่เพราะรู้สึกว่า
00:50:23 → 00:50:26 เออมันเป็นช่วงของการแสดงความกตัญญูแต่
00:50:26 → 00:50:29 ว่าอเราลืมคิดไปว่าถ้าเกิดวันนึงพ่อแม่
00:50:29 → 00:50:31 ของเราหรือคนดูแลของเราเไม่อยู่แล้วเเออ
00:50:31 → 00:50:34 แล้วชีวิตเราจะจะยังไงใช่มั้ยใช่แล้วพอ
00:50:34 → 00:50:35 เราทำอย่างงั้นมากๆเข้าอ่ะว่าฉันไม่มี
00:50:35 → 00:50:37 สิทธิ์มีความสุขฉันทำสิ่งนั้นสิ่งนี้ไม่
00:50:37 → 00:50:41 ได้อ่ะสุดท้ายอ่ะมันจะกลายเป็นการที่เรา
00:50:41 → 00:50:46 โทษทุกคนบนโลกนี้อือือสิ่งนี้ทำให้ฉันเอ
00:50:46 → 00:50:48 เป็นแบบนั้นเพราะฉันต้องมาดูแลเไงฉันถึง
00:50:48 → 00:50:50 ได้เป็นแบบนี้ถึงได้ย้อนกลับมาคำนั้นแหละ
00:50:50 → 00:50:53 ค่ะว่าเราอ่ะรับผิดชอบตัวเอง 100% ออืๆ
00:50:53 → 00:50:55 ตรงนั้นเป็นความสุขของเราที่เราต้องรับ
00:50:55 → 00:50:57 ผิดชอบใช่ไม่งั้นเดี๋ยวมันสมมุติอยู่กับ
00:50:57 → 00:50:59 พี่น้องหลายๆคนก็จะเที่ยวเที่ยวแบบพานโทษ
00:50:59 → 00:51:02 คนอื่นเนาะเก็แกโชคดีแกได้ไปทำงานข้างนอก
00:51:03 → 00:51:05 รเงี้ยแกก็ไปมีครอบครัวไอ้ฉันเนี่ยต้องมา
00:51:05 → 00:51:07 ทนลำบากอยู่ที่นี่ซึ่งไม่ได้มีใครบอกให้
00:51:08 → 00:51:10 ทำไม่ได้มีใครอาจจะไม่มีใครบอกให้ทำขนาด
00:51:10 → 00:51:12 นั้นอะไรอย่าเงี้ยหรือถ้าเขาบอกให้ทำขนาด
00:51:12 → 00:51:16 นั้นจริงๆเราเลือกได้ค่ะอือเราไม่ต้องทำ
00:51:16 → 00:51:19 ขนาดนั้นอะไอครับหรือแต่ที่สำคัญก็คือว่า
00:51:19 → 00:51:22 ถ้าต้องทำก็ก็เว้นช่องว่างให้ชีวิตตัวเอง
00:51:22 → 00:51:24 บ้างใช่ใช่่ค่ะมีเวลาให้ตัวเองบ้างค่ะเรา
00:51:24 → 00:51:26 มีเรามีสิทธิ์ที่จะมีคือบางคนบอกว่าแม้
00:51:26 → 00:51:28 แต่นอนกลางวันยังไม่กล้านอนเลยอย่างเงี้ย
00:51:28 → 00:51:32 เออใช่ๆใช่อเพราะว่าอืใช่เพราะว่าเข้าใจ
00:51:32 → 00:51:34 ว่าหลายๆคนก็เป็นอย่างงั้นนะใช่อครับซึ่ง
00:51:34 → 00:51:36 เอาเข้าจริงๆพอมันต้องอยู่กับความทุกข์
00:51:36 → 00:51:38 มันอยู่ไม่ได้นานขนาดนั้นใช่ค่ะมันจะกัด
00:51:38 → 00:51:40 กินเราอ่ะก็คือว่าแน่นอนแหละมันอยู่ใน
00:51:40 → 00:51:43 สถานการณ์ที่ไม่ปกติแต่ถ้าเราสามารถใส่
00:51:43 → 00:51:46 ความปกติในแบบชีวิตที่เราอยากจะเป็นบ้าง
00:51:46 → 00:51:48 เอออันนั้นมันมันก็ทำให้ตัวเองได้มีโอกาส
00:51:48 → 00:51:51 หายใจได้ได้ลึกขึ้นใช่ใช่เหลือพื้นที่ตัว
00:51:51 → 00:51:54 เองบ้างเงี้ค่ะได้ยกับตัวเองบ้างอครับเอา
00:51:54 → 00:51:56 ล่ะครับผมเข้าใจว่าวันนี้คุยกับโจ๋นี่น่า
00:51:56 → 00:51:58 จะเป็นประโยชน์สำหรับลูกๆมากๆเลยนะครับ
00:51:58 → 00:52:00 ไม่ว่าลูกที่กำลังดูแลคุณพ่อคุณแม่อยู่
00:52:00 → 00:52:03 หรืออาการป่วยแบบนี้หรือว่าความไม่สบาย
00:52:03 → 00:52:05 เป็นแบบนี้อาจจะยังไม่เกิดกับพ่อแม่ก็ได้
00:52:05 → 00:52:09 เนาะเออแต่ว่าเราสามารถที่จะเอาเิอแบบ
00:52:09 → 00:52:11 เนี้ยเหตุการณ์แบบเนี้ยลองมาทาบกับชีวิต
00:52:11 → 00:52:13 ตัวเองบ้างว่าจริงๆถ้าตัวเองเจอแล้วเนี่ย
00:52:13 → 00:52:16 ตัวเองจะมีวิธีการรับมือกับสถานการณ์
00:52:16 → 00:52:18 อย่างนี้ยังไงนะครับผมเข้าใจว่าเรื่องที่
00:52:18 → 00:52:19 เราคุยอยู่เมันอาจจะไม่ใช่เรื่อง How to
00:52:19 → 00:52:21 ในการดูแลพ่อแม่ 1 2 3 4 แต่มันเป็น
00:52:21 → 00:52:23 เรื่องของการดูแลใจเนาะซึ่งซึ่งอันเนี้ยน
00:52:23 → 00:52:26 น่าจะเป็นเรื่องที่แบบว่าสำคัญที่สุดนะ
00:52:26 → 00:52:28 ครับคิดยังไงว่าดูแลไปด้วยแล้วทำให้ตัว
00:52:28 → 00:52:32 เองสามารถมีมีชีวิตของเราอยู่ได้ด้วยเนาะ
00:52:32 → 00:52:34 ครับอันนี้ยังโชคดีเพราะว่ายังไม่ต้องไป
00:52:34 → 00:52:36 เจอเรื่องภาวะทางการเงินเถ้าสำหรับสำหรับ
00:52:37 → 00:52:39 บางคนนี่โอ้โหต้องรับภาระทางการเงินด้วย
00:52:39 → 00:52:42 ต้องรับภาระทางด้านจิตใจด้วยมันจะประดัง
00:52:42 → 00:52:44 ประเดเข้าไปเยอะมากๆเลยนะครับวันนี้
00:52:44 → 00:52:47 ขอบคุณโจ๋มากๆนะครับที่มาเล่าประสบการณ์
00:52:47 → 00:52:51 ให้ฟังขอบคุณครับขอขอบคุณค่ะขอบคุณครับ
00:52:51 → 00:52:58 [เพลง]
00:52:58 → 00:53:01 บุพการีที่เคารพคู่มือการดูแลพ่อแม่ของคน
00:53:01 → 00:53:03 เจนลูกถ้าชอบเนื้อหาแบบนี้ก็อย่าลืมกด
00:53:03 → 00:53:07 Subscribe ไว้ด้วยนะครับ