00:00:00 → 00:00:03 [เพลง]
00:00:03 → 00:00:07 ปกติแล้วเนี่ยในอาหารรสจัดๆอย่างเช่นบ้าน
00:00:07 → 00:00:10 เราพริกเยอะอย่างเงี้ยค่ะพริกเนี่ยมันจะ
00:00:10 → 00:00:12 มีสารประกอบอันนึงของในตัวพริกก็คือ
00:00:12 → 00:00:16 แคปไซซินซึ่งเป็นสารที่สามารถที่จะระคาย
00:00:16 → 00:00:19 เคืองเยื่อบุของกระเพาะอาหารได้ถ้า
00:00:19 → 00:00:21 กระเพาะมีการอักเสบอยู่แล้วแล้วมีอาหาร
00:00:21 → 00:00:24 ที่แบบระคายเคืองเพิ่มขึ้นอย่างเช่นโอเค
00:00:24 → 00:00:27 พริกหรือมะนาวมะนาวมีความเป็นกรดสูง
00:00:27 → 00:00:30 กระเพาะเองก็มีน้ำย่อยมีกรดอยู่ละยิ่ง
00:00:30 → 00:00:32 เพิ่มความเป็นกรดมากขึ้นเท่าไหร่ในเยื่อ
00:00:32 → 00:00:35 บุกที่มีการระคายเคืองมันก็จะทำให้เกิด
00:00:35 → 00:00:38 อาการไม่สุขสบายเพิ่มมากขึ้น
00:00:38 → 00:00:40 [เพลง]
00:00:40 → 00:00:45 ได้คราวนี้นอกจากในกลุ่มของแบบรสจัดๆพริก
00:00:45 → 00:00:48 มะนาวซึ่งหลายๆท่านอาจจะเข้าใจว่าโต้อง
00:00:49 → 00:00:52 ทานแบบเผ็ดมากๆเลยจริงๆแล้วอ่ะแค่มีส่วน
00:00:52 → 00:00:55 ประกอบของพริกเนี่ยก็สามารถระคายเคือง
00:00:55 → 00:00:58 กระเพาะอาหารได้แล้วนะคะโดยที่บางทียัง
00:00:58 → 00:01:01 ไม่รู้สึกเผ็ดเลยแล้วก็รวมถึงเครื่องเทศ
00:01:01 → 00:01:05 บางประเภทที่ออกรสเผ็ดร้อนอย่างเช่นพริก
00:01:05 → 00:01:09 ไทยกระเทียมเยอะๆกลุ่มเนี้ยก็กระตุ้นการ
00:01:09 → 00:01:12 ลังกรดระคายเคืองด้วยเช่นเดียว
00:01:12 → 00:01:15 [เพลง]
00:01:15 → 00:01:19 กันโรคกระเพาะอาจจะยากนิดนึงในแง่ของ
00:01:19 → 00:01:22 อาการคือถ้าอาการที่ตรงไปตรงมานั่นคือ
00:01:22 → 00:01:25 เริ่มปวดท้องแสดท้องแต่กลุ่มเนี้ยถ้ามี
00:01:26 → 00:01:28 อาการประเภทนี้แล้วมาหายเนี่ยแสดงว่า
00:01:28 → 00:01:30 เยื่อปุผิวของเพราะอาหารจะต้องมีการ
00:01:30 → 00:01:33 อักเสบพอสมควรถึงได้รู้สึกได้ถึงความแสบ
00:01:33 → 00:01:36 ร้อนคราวนี้อาการน้อยๆนิดๆหน่อยๆเบื้อง
00:01:36 → 00:01:39 ต้นเนี่ยอาจจะยังไม่ต้องถึงขั้นแสบหรือ
00:01:39 → 00:01:43 ปวดอาจจะอย่างเช่นรู้สึกว่าท้องอืดหลัง
00:01:43 → 00:01:46 ทานอาหารหรืออาหารไม่ย่อยอาหารบางประเภท
00:01:46 → 00:01:51 ที่เราคิดว่าย่อยง่ายอาจจะอย่างเช่นมื้อ
00:01:51 → 00:01:54 เช้าของเราคือจ๊กถ้วยนึงข้าวต้มถ้วยนึง
00:01:54 → 00:01:57 แล้วเที่ยงเรายังไม่รู้สึกหิวเลยเนี่ย
00:01:57 → 00:02:00 หรือเป็นความรู้สึกว่าเหมือนกับกกลายเป็น
00:02:00 → 00:02:02 ว่าอิ่มนานแล้วท้องอึดเข้ามาแทนนั่นก็อาจ
00:02:02 → 00:02:04 จะเป็นสัญญาณเตือนแล้วว่าการย่อยของเรา
00:02:04 → 00:02:06 อ่ะเริ่มไม่
00:02:06 → 00:02:08 [เพลง]
00:02:08 → 00:02:13 ดีความเครียดเองก็เป็นหนึ่งในสาเหตุที่ทำ
00:02:13 → 00:02:16 ให้เกิดกระเพาะอาหารอักสบได้เพราะว่าความ
00:02:16 → 00:02:18 เครียดหรือ stress เนี่ยมันจะมีคำเรียก
00:02:18 → 00:02:22 ว่าเป็น stress indu aler ก็คือความ
00:02:22 → 00:02:26 เครียดเองกระตุ้นการหลังกรดให้มากขึ้น
00:02:26 → 00:02:30 กว่าปกติงั้นภาวะที่มีกรดมากเกินไปก็จะทำ
00:02:30 → 00:02:32 ให้เกิดการระคายเคืองของเยื่อบุผิวของทาง
00:02:32 → 00:02:36 เดินอาหารนอกจากนี้เนี่ยบางบางกรณีที่เรา
00:02:36 → 00:02:40 มีความเครียดเยอะๆบางคนก็จะมาแสดงอาการ
00:02:40 → 00:02:43 ออกด้วยอย่างเช่นว่าเบื่ออาหารไม่อยากทาน
00:02:43 → 00:02:47 ไม่อยากทำอะไรเลยซึ่งพอยิ่งไม่มีอาหารลง
00:02:47 → 00:02:50 ไปท้องว่างก็ยิ่งกระตุ้นการหลังกรดมาก
00:02:50 → 00:02:53 ขึ้นความเครียดทำให้เราพักผ่อนไม่เพียงพอ
00:02:53 → 00:02:56 ร่างกายไม่ได้พัก activity เยอะทานอะไร
00:02:56 → 00:02:58 ไม่ได้มันก็จะวนหลูกกันเนาะทำให้เกิดแบบ
00:02:58 → 00:03:01 การระคายเคืองของของพวกเยื่อปุพวกเยเพิ่ม
00:03:01 → 00:03:02 ขึ้น
00:03:02 → 00:03:04 [เพลง]
00:03:04 → 00:03:08 ได้นอกเหนือจากแบบความเครียดก็จะเป็น
00:03:08 → 00:03:11 ไลฟ์สไตล์เป็นพฤติกรรมละไม่ว่าจะเป็นอทำ
00:03:11 → 00:03:16 งานเยอะมากอ่าไม่มีเวลาทำให้เราต้องข้าม
00:03:16 → 00:03:20 มืออาหารนั้นๆไปคือถ้าเอาตามปกติที่เรา
00:03:20 → 00:03:24 ควรจะทานอาหารเนี่ยแนะนำว่าถ้าสามารถทำ
00:03:24 → 00:03:28 ได้เนี่ยเราก็ควรทานให้ครบ 3 มื้อค่ะโดย
00:03:28 → 00:03:30 ที่แต่ละมื้อเนี่ยถว่ากับยังไงที่ว่าจะ
00:03:30 → 00:03:34 ต้องแบบห่างกันกี่ชั่วโมงมันขึ้นกับ
00:03:34 → 00:03:36 ลักษณะอาหารที่เราทานด้วยเพราะอาหารบาง
00:03:36 → 00:03:39 ประเภทก็อยู่ท้องได้นานอย่างเช่นถ้าทาน
00:03:39 → 00:03:42 เป็นแบบแนวแบบสเต็กเลยเนื้อสัตว์เยอะๆ
00:03:43 → 00:03:45 กลุ่มเนี้ยโปรตีนเนี่ยจะอยู่ท้องได้นาน
00:03:45 → 00:03:48 กว่าพวกแนวคาร์โบไฮเดรตข้าวต้มไฟเบอร์กาก
00:03:48 → 00:03:52 ใยพวกนี้จะย่อยเร็วค่ะแล้วก็แคลอรี่เขาก็
00:03:52 → 00:03:55 ไม่ได้เยอะมากเท่าโปรตีนงั้นร่างกายเราก็
00:03:55 → 00:03:59 จะหิวบ่อยขึ้นกว่าค่ะงั้นถ้าใครที่แบบออก
00:03:59 → 00:04:02 แนวทางทานผักเยอะๆโปรตีนนิดเดียวไม่มี
00:04:02 → 00:04:04 คาร์โบไฮเดรตเลยเพราะว่าจะคุมน้ำหนัก
00:04:04 → 00:04:07 เนี่ยกลุ่มนี้อย่าลืมว่าบางทีเราหิวเร็ว
00:04:07 → 00:04:09 แต่ว่าเราอาจจะไม่ได้รู้สึกถึงความหิว
00:04:09 → 00:04:13 นั้นเพราะว่ากากใยเนี่ยพอย่อยแล้วเนี่ย
00:04:13 → 00:04:17 มักจะมีแก๊สมีลมตามมาทำให้รู้สึกท้องอืด
00:04:17 → 00:04:20 ภาวะท้องอืดอ่ะทำให้เรารู้สึกไม่หิวเราก็
00:04:20 → 00:04:22 จะรู้สึกว่าฉันก็ไม่ได้หิวนี่นาแต่จริงๆ
00:04:22 → 00:04:25 แล้วอ่ะมันกลายเป็นว่ามันมีลมเข้าไปแทน
00:04:25 → 00:04:28 ที่ปริมาณแคลอรีจริงๆอ่ะไม่พองั้นกลุ่ม
00:04:28 → 00:04:31 เนี้ยอาจจะต้องต้องทานให้บ่อยขึ้นถีขึ้น
00:04:31 → 00:04:33 หรือไม่งั้นก็เติมโปรตีนเข้าไปเพื่อให้
00:04:33 → 00:04:36 อยู่ท้องแล้วก็ถ้าเป็นไปได้ก็อย่างที่บอก
00:04:36 → 00:04:39 ค่ะคืออยากให้ครบ 3 มื้อหรือบวกลบถ้านอน
00:04:40 → 00:04:43 ดึกก็อาจจะมีแบบมื้อเบาๆช่วงก่อนนอนสัก
00:04:43 → 00:04:46 2-3 ช่วโมงได้ด้วยก็จะลดความเสี่ยงในการ
00:04:46 → 00:04:54 เกิดโรคกระเพาะอาหารอักเสบลง
00:04:54 → 00:04:57 ค่ะ