00:00:00 → 00:00:03 สวัสดีครับเรื่องราวของยาหรือสารต่างๆไม่
00:00:03 → 00:00:06 ว่าจะเป็นสารสกัดธรรมชาติสมุนไพรหรืออะไร
00:00:06 → 00:00:09 ก็ตามนะครับที่มันไม่ได้ผลทางด้านการ
00:00:09 → 00:00:12 รักษาแต่มีการโฆษณาเกินจริงให้ความหวัง
00:00:12 → 00:00:15 กับผู้ป่วยต่างๆว่ามันสามารถรักษาโรคนั้น
00:00:15 → 00:00:19 โรคนี้ได้โดยเฉพาะโรคมะเร็งเนี่ยนะครับ
00:00:19 → 00:00:22 เรื่องราวแบบเนี้ยมันมีมานานแล้วมันก็ยัง
00:00:22 → 00:00:25 คงอยู่กับสังคมเราจนถึงตอนนี้วันนี้เนี่ย
00:00:25 → 00:00:28 ผมอยากจะพาทุกคนมารู้เท่าทันกับสารอย่าง
00:00:28 → 00:00:32 หนึ่งที่มีชื่อเรียกว่าamดาลินหรืออีก 2
00:00:32 → 00:00:35 ชื่อก็คือเลalกับวิตามิน B17 ทั้ง 3 ชื่อ
00:00:35 → 00:00:39 เนี้ยคือสิ่งๆเดียวกันนะครับหรือคล้ายกัน
00:00:39 → 00:00:44 แต่มันไม่สามารถรักษาโรคอะไรได้แล้วมันก็
00:00:44 → 00:00:48 ยังคงมีขายออนไลน์อยู่ในประเทศไทยด้วย
00:00:48 → 00:00:51 ครับวันนี้ผมก็เลยอยากจะหยิบยกเรื่องนี้
00:00:51 → 00:00:53 มาอธิบายให้เราฟังว่าไอ้ตัวเนี้ยมันมีที่
00:00:53 → 00:00:56 มาที่ไปอย่างไรมันอันตรายยังไงเดี๋ยวลอง
00:00:56 → 00:00:58 ฟังกันดูนะครับพบกับผมนะครับนายแพทย์
00:00:58 → 00:01:00 ธนีธนียาวเป็นอาจารย์แพทย์อยู่ที่ประเทศ
00:01:01 → 00:01:03 สหรัฐอเมริกาเชี่ยวชาญโรคปอดการปลูกถ่าย
00:01:03 → 00:01:06 ปอดและวิกฤตบำบัดนะครับในปัจจุบันเนี่ยนะ
00:01:06 → 00:01:11 ครับเราก็คงได้เคยได้ยินชื่อของสารหลายๆ
00:01:11 → 00:01:13 ตัวที่มันไม่ได้ผลถ้าใครติดตามช่องผมอยู่
00:01:13 → 00:01:16 เนี่ยนะครับก็จะเห็นผมพูดถึงเรื่องของ CDS
00:01:17 → 00:01:19 คลอรีนไดออกไซด์ซึ่งจริงๆมันเป็นน้ำยา
00:01:19 → 00:01:21 ล้างส้วมน้ำยาทำความสะอาดแล้วมันก็มี
00:01:21 → 00:01:24 ลัทธิกลุ่มนึงที่เอาไปใช้บอกว่ามันสามารถ
00:01:24 → 00:01:27 ล้างพิษได้รักษาโรคมะเร็งรักษาเบาความดัน
00:01:27 → 00:01:30 ได้ทุกอย่างนะครับแต่จริงจริงเค้าโกหกคุณ
00:01:30 → 00:01:32 เพื่อที่จะให้เค้าเนี่ยได้ตังค์จากคุณไป
00:01:32 → 00:01:34 นั่นเองนะครับตอนนี้ก็มีกลุ่มเนี่ยประเทศ
00:01:35 → 00:01:37 ไทยนะครับพยายามขายตัวนี้เยอะแยะไปหมดนะ
00:01:37 → 00:01:41 ฮะเอ่อเนี่ยก็คือสิ่งที่น่าตกใจบางคนจะ
00:01:41 → 00:01:44 บอกว่าการใช้ทองแดงเอามาใส่จะทำให้คุณหาย
00:01:44 → 00:01:47 ปวดเมื่อยนะครับช่วยทำให้พลังงานในร่าง
00:01:47 → 00:01:50 กายไหลวินดีอันนี้ก็โกหกอีกเช่นกันนะฮะ
00:01:50 → 00:01:52 บางคนก็ไปเคยได้ยินเรื่องของการใช้น้ำยา
00:01:52 → 00:01:56 borอแรกนะครับใช้ยาไเบอร์เมกตินใช้เอ่อ
00:01:56 → 00:01:58 Silเverอรคอลอยต่างๆในการรักษาโรคหรือบาง
00:01:58 → 00:02:00 คนก็บอกว่ากัญชารักษาโรคความจำเสื่อมได้
00:02:00 → 00:02:03 มีหมอบางคนเอากัญชาไปใช้ในคนไข้ความจำ
00:02:03 → 00:02:05 เสื่อมอ่าอันเนี้ก็เป็นปัญหาขึ้นมาได้นะ
00:02:05 → 00:02:07 ครับทั้งหมดทั้งมวลเนี่ยมันเป็นเรื่อง
00:02:07 → 00:02:10 โกหกล้วนๆแล้วก็เหตุผลอันหนึ่งซึ่งเป็น
00:02:10 → 00:02:12 เหตุผลคลาสสิคที่ใช้กันตั้งแต่อดีตจนถึง
00:02:13 → 00:02:14 ตอนเนี้ยซึ่งวันนี้ผมจะเล่าให้ฟังนะครับ
00:02:14 → 00:02:18 คืออะไรรู้มั้ยสิ่งที่เค้าพูดของที่เค้า
00:02:18 → 00:02:21 เอามาแนะนำเนี่ยเป็นของจากธรรมชาติไม่ใช่
00:02:21 → 00:02:25 สารเคมีแต่หมอแผนปัจจุบันเนี่ยเค้าไม่รู้
00:02:25 → 00:02:27 จัก
00:02:27 → 00:02:30 เค้าเนี่ยเป็นทาสของบริษัทยาบริษัทยา
00:02:30 → 00:02:32 ต้องการขายยาเคมีแต่ของเราเป็นสารสกัด
00:02:32 → 00:02:36 ธรรมชาติไม่ใช่ยาเคมีคุณจะเอาตังค์ไปให้
00:02:36 → 00:02:38 บริษัทซึ่งเขาจะเลี้ยงไข้คุณทำไมเจะใช้
00:02:38 → 00:02:40 เหตุผลอย่างเงี้ยในการอธิบายแล้วก็จะบอก
00:02:41 → 00:02:43 ว่ายาของเขาครอบจักรวาลสามารถปรับสมดุลใน
00:02:43 → 00:02:48 ร่างกายล้างพิษได้มาจากธรรมชาตินะครับ
00:02:48 → 00:02:50 เนี่ยเมื่อไหร่ที่บอกแบบนี้นะครับบอกได้
00:02:50 → 00:02:53 เลยว่าไม่จริงแล้วโกหกทั้งหมดนะครับคลิป
00:02:53 → 00:02:55 นี้อาจจะไม่ถูกใจสาวกที่ใช้ของพวกนี้อยู่
00:02:55 → 00:02:58 นะครับแต่ว่าบังเอิญผมไม่สามารถที่จะพูด
00:02:58 → 00:03:00 สิ่งที่ไม่จริงได้นะถ้าเกิดคุณยอมรับไม่
00:03:00 → 00:03:03 ได้ก็มันเป็นเรื่องของคุณนะครับเข้า
00:03:03 → 00:03:05 เรื่องกันเลยดีกว่าamิกคืออะไรแล้วมันมา
00:03:05 → 00:03:09 จากไหนนะครับamดินเนี่ยมันเป็นสารที่มี
00:03:09 → 00:03:14 อยู่ในเมล็ดของลูกpeีชricอนะครับหรือ
00:03:14 → 00:03:17 bitter alมondพวกนี้นะครับแล้วก็มีการ
00:03:17 → 00:03:21 สกัดมันออกมาได้โดยนักเคมีชาวฝรั่งเศสใน
00:03:21 → 00:03:25 ปี 1830 นะครับ 1830 เนี่ยเขาสกัดมันออก
00:03:25 → 00:03:29 มาได้แล้วในปี 1845 ทางประเทศรัสเซีย
00:03:29 → 00:03:33 เนี่ยก็ได้นำมันมาใช้ในการรักษาโรคมะเร็ง
00:03:33 → 00:03:35 นะครับตอนนั้นเขาอยากทดลองว่ามันรักษาได้
00:03:35 → 00:03:38 จริงหรือเปล่าสุดท้ายเนี่ยมันก็แพร่มาที่
00:03:38 → 00:03:41 อเมริกาในปี 1920 ตอนนั้นก็เริ่มมีคนใช้
00:03:41 → 00:03:43 สารตัวนี้เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆโดยตอนแรก
00:03:43 → 00:03:46 เนี่ยก็สกัดมาจากเมล็ดของแิคอนี่แหละครับ
00:03:46 → 00:03:49 เอามาบี้แล้วเอามาสกัดนะครับพอเอามาสกัด
00:03:49 → 00:03:52 เสร็จปุ๊บเนี่ยเค้าก็ไปลองใช้ตามที่ต่างๆ
00:03:52 → 00:03:55 ปรากฏว่ามันก็มีการรายงานว่าเฮ้ยเออคนนี้
00:03:56 → 00:03:58 มะเร็งใช้แล้วหักหายมะเร็งมันหดไปเลยนะ
00:03:58 → 00:04:00 ครับคนนี้ดีขึ้นอาการเจ็บป่วยจากมะเร็ง
00:04:00 → 00:04:04 มันดีขึ้นหมดเลยนะครับแต่ทางรัฐบาลก็รู้
00:04:04 → 00:04:06 สึกว่าเอ๊ถ้ามันดีอย่างนั้นเนี่ยควรจะ
00:04:06 → 00:04:09 ต้องทำการวิจัยให้มันชัดเจนไปเลยว่าตกลง
00:04:09 → 00:04:12 แล้วสารตัวไหนกันแน่ที่มันดีแล้วมันกลไก
00:04:12 → 00:04:14 การทำงานของมันคืออะไรนะครับเค้าก็เลยไป
00:04:14 → 00:04:18 ศึกษาปรากฏว่าอะไรรู้มั้ยครับมันไม่ได้ผล
00:04:18 → 00:04:22 ครับทำในหลอทดลองก็ไม่ได้ผลทำในคนก็ไม่
00:04:22 → 00:04:25 ได้ผลทำในสัตว์ก็ไม่ได้ผลไม่มีอะไรได้ผล
00:04:25 → 00:04:26 เลยแถม
00:04:26 → 00:04:29 มันเกิดพิษด้วยพิษจากอะไรรู้มั้ครับพิษ
00:04:29 → 00:04:31 จากไซยานายครับเพราะไอ้สารตัวเนี้ยมัน
00:04:31 → 00:04:35 สลายแล้วให้สารไซยานายออกมาเกิดพิษครับ
00:04:36 → 00:04:39 ทางรัฐบาลอเมริกาเนี่ยก็เลยมีความวิตก
00:04:39 → 00:04:41 กังวลเป็นอย่างมากว่าถ้าปล่อยให้ยาตัว
00:04:41 → 00:04:44 เนี้ยมันยังคงอยู่ในตลาดต่อไปจะต้องมีคน
00:04:44 → 00:04:48 เสียรู้แล้วก็เกิดปัญหาจากยาตัวเนี้ยมาก
00:04:48 → 00:04:51 ขึ้นแน่นอนนะครับแต่แน่นอนครับเนื่องจาก
00:04:51 → 00:04:54 มันเป็นธุรกิจใหญ่ก็เลยมีคนที่ได้ผล
00:04:54 → 00:04:56 ประโยชน์เค้าก็จะออกมาต่อต้านแล้วก็บอก
00:04:56 → 00:05:00 ว่าเนี่ยไอ้ยาตัวเนี้ยมันได้ผลคุณจะไปปิด
00:05:00 → 00:05:02 หูปิดตาประชาชนไม่ให้เขา้าถึงยามันไม่ได้
00:05:02 → 00:05:05 คนเขาเป็นโรคมะเร็งเต้องการหายเต้องการ
00:05:05 → 00:05:07 ความหวังคุณจะเอาความหวังไปจากเขาไม่ได้
00:05:07 → 00:05:10 นะครับก็เลยทะเลาะกันยกใหญ่เลยนะครับเอ่อ
00:05:10 → 00:05:13 ทำให้ตอนนั้นเนี่ยมี
00:05:13 → 00:05:16 คนคๆนึงนะครับคนๆเนี้ยต้องบอกว่าเป็นเจ้า
00:05:16 → 00:05:20 พ่อเลยในการโปรโมทศาลตัวนี้ให้เป็นที่
00:05:20 → 00:05:24 โด่งดังในอเมริกาเขาชื่อว่า Earn Theodor
00:05:24 → 00:05:27 CPS นะครับอ่าไม่ใช่คนเดียวกับคนที่ค้น
00:05:27 → 00:05:30 พบวัฏจักรเครปนะอันนั้นคือคนที่ค้นพบ
00:05:30 → 00:05:33 วัฏจักรแครป Adopt CPT นะครับอันนี้ถ้า
00:05:33 → 00:05:35 ใครเป็นเด็กสายวิเี้ยคงจะรู้จักนะครับ H
00:05:35 → 00:05:38 adopt CPT เนี่ยไม่มีความเกี่ยวข้องทาง
00:05:38 → 00:05:42 วงศาคณาทใดๆกับ Earn Step เลยสักนิด
00:05:42 → 00:05:44 เดียวนะครับแล้ว Earn Teodor Crep นี่
00:05:44 → 00:05:48 แหละครับเค้าเป็นคนที่เอาตัววิตามิน B17
00:05:48 → 00:05:52 เนี่ยหรือเค้าเรียกชื่อมันว่า LRAL นะ
00:05:52 → 00:05:55 ครับมาในการโปรโมทว่ามันใช้รักษาโรค
00:05:55 → 00:05:58 มะเร็งต่างๆได้แล้วถ้าใครไปขุดประวัติของ
00:05:58 → 00:06:02 Eartn Teodor CPS เนี่ยจะรู้เลยว่ามัน
00:06:02 → 00:06:06 มีปัญหามากขนาดไหนนะครับโดยนี่ครับผมขุด
00:06:06 → 00:06:08 มาให้คุณแล้วคุณก็ฟังผมไปแล้วกันถ้าอยาก
00:06:08 → 00:06:10 จะไปขุดเพิ่มผมจะทิ้งเว็บไซต์ให้คุณไป
00:06:10 → 00:06:14 อ่านได้เองนะครับคือ
00:06:14 → 00:06:15 Earn Teodor CP เนี่ยมีซีเนียรกับ
00:06:16 → 00:06:17 จูเนียรซีเนียรเป็นคนพ่อจูเนียร์เป็นคน
00:06:17 → 00:06:19 ลูกนะครับคนที่เป็นคนลูกเนี่ยเป็นตัวที่
00:06:19 → 00:06:22 ทำให้เรื่องเนี้ยมันโด่งดังขึ้นมานะครับ
00:06:22 → 00:06:25 คนพ่อเนี่ยนะครับก็เป็นหมอหมอครับเป็นหมอ
00:06:26 → 00:06:28 จริงๆนะครับแล้วเขาก็เชื่อมั่นไอ้ไอ้
00:06:28 → 00:06:30 เรื่องของวิตามิน B17 ซึ่งเขาเปลี่ยนชื่อ
00:06:30 → 00:06:32 มันนะจากamidarินเป็น B17 เดี๋ยวผมจะบอก
00:06:32 → 00:06:37 ว่าเปลี่ยนทำไมนะครับแล้วลูกของเขาเนี่ย
00:06:37 → 00:06:40 Eartnodor CPS Jูเนียรนะครับตอนแรกนะฮะ
00:06:40 → 00:06:42 เขาไปเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์ชื่อ
00:06:42 → 00:06:45 Hanaman นะครับ Hanaman เนี่ยอยู่ที่
00:06:45 → 00:06:49 ฟิลเดลียนะครับแล้วเไปเรียนที่ Hanaman
00:06:49 → 00:06:52 นี่แหละ Hanaman เนี่ยเป็นมหาวิทยาลัย
00:06:52 → 00:06:56 เอ่อการแพทย์แรกของอเมริกาที่เปิดหลัก
00:06:56 → 00:06:58 สูตรที่เรียกว่า Doctor of Osteopathic
00:06:58 → 00:07:02 นะครับซึ่งจะแตกต่างจาก MD Medical
00:07:02 → 00:07:04 Doctor คนละอย่างกัน Doctor ofatic
00:07:04 → 00:07:06 เนี่ยจะดูแลคนไข้แบบองค์รวมอาจจะมีการอ่า
00:07:06 → 00:07:10 กดจุดมีการทำไโรopคticการจัดกระดูกอะไร
00:07:10 → 00:07:12 พวกเนี้ยจะอยู่ในกลุ่ม DO นะครับซึ่งไม่
00:07:12 → 00:07:14 ใช่กลุ่ม MD อันนี้เป็นมหาวิทยาลัยแรกของ
00:07:14 → 00:07:17 อเมริกาที่ทำการเรียนการสอนเรื่องนี้นะ
00:07:17 → 00:07:21 ครับแล้ว Ernst Theodor CPS คนลูกเนี่ย
00:07:21 → 00:07:25 เขาไปเรียนที่นี่เ้าเรียนแค่ 3 ปีเค้าซ้ำ
00:07:25 → 00:07:28 ฉันปี 1 ในมหาลัยแพทย์นะปีที่ 3 ถูกไลฟ
00:07:28 → 00:07:33 ออกครับเพราะว่าสอบตกอ่าสอบตกแล้วเขาก็
00:07:33 → 00:07:35 เลยย้ายไปเรียนตามมหาวิทยาลัยต่างๆอีก
00:07:35 → 00:07:38 หลายที่เลยทีเดียวตกหมดเลยครับตกอะไรรู้
00:07:38 → 00:07:42 มั้ครับตกวิทยาศาสตร์สุดท้ายเลยได้ดีอัน
00:07:42 → 00:07:45 นึงชื่อ Bachelor of Arts นะครับจะไม่
00:07:45 → 00:07:47 ได้ Bachelor of Science เพราะว่าตก
00:07:47 → 00:07:51 วิทยาศาสตร์หมดทุกตัวไม่ผ่านนะครับแล้ว
00:07:51 → 00:07:53 เค้าก็เลยไปเรียนไอ้ University of
00:07:53 → 00:07:56 Illinoid เพื่อให้ตัวเองได้ประกาศบัตร
00:07:56 → 00:07:58 อะไรมาสักอย่างนะครับแล้วเขาก็เรียกตัว
00:07:58 → 00:08:03 เองว่าเป็นด
00:08:03 → 00:08:04 ถ้าไปขุดประวัติเนี่ยจะเจอว่าเขาไม่ได้จบ
00:08:05 → 00:08:08 ดอกเตอร์อะไรเลยแต่เขาเรียกตัวเองว่าเป็น
00:08:08 → 00:08:10 ดอกเตอร์เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ไม่ใช่
00:08:10 → 00:08:12 หมอไม่ใช่นักเคมีไม่ใช่อะไรเลยจบอะไรมาก็
00:08:13 → 00:08:15 ไม่รู้ไม่มีความรู้ด้านนี้แต่เชื่อมั่น
00:08:15 → 00:08:19 ว่าไอ้เนี่ยมันจะต้องรักษาโรคมะเร็งได้
00:08:19 → 00:08:23 แล้วแต่ก่อนมันชื่ออมิกดารินนะครับเค้า
00:08:23 → 00:08:26 เนี่ยมีการสกัดไอ้อมดาินเนี่ยมันเป็นสาร
00:08:26 → 00:08:29 ตัวนึงซึ่งเอาออกมาจากไอ้พวกเม็ดของตัว
00:08:29 → 00:08:32 Bitter Almond ตัว Apric หรือ Peach นะ
00:08:32 → 00:08:35 ครับสกัดออกมาเป็นสารตัวนึงอ่าชื่อว่า
00:08:35 → 00:08:39 Mendelo Nitril Beta D genio biosy
00:08:39 → 00:08:41 นะครับตัวเคือตัวที่สกัดออกมาจากเม็ดนะ
00:08:41 → 00:08:44 ครับก็คืออมิกดาินแต่เขา้าก็มีการสกัดให้
00:08:44 → 00:08:49 มันอ่าบริสุทธิ์ออกมาอีกนะครับชื่อ MITR
00:08:49 → 00:08:54 เบต้ากลูโคไซนนะครับตัวนี้เนี่ยมันจะมี
00:08:54 → 00:08:57 ชื่อเรียกอีกชื่อนึงว่า latrial นะครับมา
00:08:57 → 00:09:01 จากคำ 2 คำผสมกันคำแรกก็คือ levo
00:09:01 → 00:09:04 rotatory นะครับ le rotatory ถ้าใคร
00:09:04 → 00:09:07 เรียนเคมีเนี่ยจะรู้จากว่าเออมันโครง
00:09:07 → 00:09:09 สร้างทางเคมีมันมีการหมุนซ้ายหมุนขวาได้
00:09:09 → 00:09:12 อันนี้ก็คืออันหนึ่ง leatory นะครับกับ
00:09:12 → 00:09:16 ชื่อที่ 2 menelit ก็เอาชื่อเลก็คือเอา
00:09:16 → 00:09:19 ตัวเลตัวเลตัวแรกมาแล้วก็ลงกับทริก็เป็น
00:09:19 → 00:09:24 เลทินะครับนี่คือเป็นชื่อของเขาแต่ว่าคุณ
00:09:24 → 00:09:27 เอodorเนี่ยเขาฉลาดกว่านั้นเรู้สึกว่าถ้า
00:09:27 → 00:09:31 เราใช้ชื่อเนี้ยมันมันไม่ปังมันไม่มีคน
00:09:31 → 00:09:35 ฟังเราต้องใช้ชื่อมันว่าวิตามิน B17 มัน
00:09:35 → 00:09:37 เท่มันเป็นวิตามินคนเราขาดวิตามินเนี่ย
00:09:37 → 00:09:39 มันจะเกิดมะเร็งขึ้นมาเค้ามีความเชื่อ
00:09:39 → 00:09:42 อย่างยิ่งยวดเลยนะครับว่าการที่คนเราขาด
00:09:42 → 00:09:44 วิตามินชนิดใดชนิดหนึ่งในร่างกายเนี่ยจะ
00:09:44 → 00:09:47 ทำให้เกิดมะเร็งขึ้นมาได้แล้ววิตามินตัว
00:09:47 → 00:09:50 เนี้ยก็คือวิตามิน B17 ซึ่งถ้าเราไปดูตาม
00:09:50 → 00:09:53 เหตุเหตุผลในการตั้งชื่อว่าเป็นวิตามิน
00:09:53 → 00:09:55 เนี่ยจะไม่ตรงกันสักอย่างคำว่าวิตามินแปล
00:09:55 → 00:09:58 ว่าร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์สารตัวนั้น
00:09:58 → 00:10:01 ได้ด้วยตัวเองนะครับยกเว้นว่าจะมีอาหาร
00:10:01 → 00:10:03 หรือมีอะไรเข้าไปจะถึงสังเคราะห์ได้แล้ว
00:10:03 → 00:10:06 สารนั้นจำเป็นต่อร่างกายถ้าไม่มีมันจะ
00:10:06 → 00:10:10 เกิดปัญหาขึ้นมาแต่ไอ้ตัวเรทริตัวนี้
00:10:10 → 00:10:12 เนี่ยคุณกินเข้าไปมันไม่ได้ทำให้ร่างกาย
00:10:12 → 00:10:15 ของคุณมีความดีขึ้นมาเลยนะครับแล้วมันก็
00:10:15 → 00:10:17 ไม่ได้มีประโยชน์อะไรกับร่างกายของคุณ
00:10:17 → 00:10:20 ด้วยนะฮะมันเลยเป็นปัญหาอย่างนึงซึ่งมัน
00:10:20 → 00:10:22 ไม่ใช่ให้วิตามิน B17 แน่ๆเพียงแต่ว่าเขา
00:10:22 → 00:10:24 ตั้งชื่อให้มันดูเท่ๆแล้วก็คนสนใจขึ้นมา
00:10:25 → 00:10:27 เฉยๆเพราะว่าตอนนั้นน่ะคนก็รู้ว่าถ้าเกิด
00:10:27 → 00:10:30 ขาดวิตามินในร่างกายก็จะเกิดปัญหาขึ้นมา
00:10:30 → 00:10:32 เ้าเลยเปลี่ยนชื่อเรทริเนี่ยให้เป็นคำว่า
00:10:32 → 00:10:36 วิตามิน B17 นะครับนั่นคือที่มาของการใช้
00:10:36 → 00:10:39 ชื่อตัวนี้แล้วเค้าเนี่ยก็ต่อสู้กับทาง
00:10:39 → 00:10:42 รัฐบาลอเมริกาในช่วงปี 1970 ตอนนั้นเนี่ย
00:10:42 → 00:10:46 เป็นการต่อสู้แบบเยอะแยะไปหมดนะครับคือ
00:10:46 → 00:10:49 ทางรัฐบาลเนี่ยออกมาประกาศว่าไอ้ยาเนี้ย
00:10:49 → 00:10:51 มันไม่ได้ผลนะครับมันไม่ได้ผลในการรักษา
00:10:51 → 00:10:56 โรคมะเร็งเลยแล้วมันมีอันตรายด้วยนะฮะแต่
00:10:56 → 00:10:58 คนเนี้ย Earth Zero CRPS ก็บอกว่าไม่
00:10:58 → 00:11:01 ได้มันได้ผลแล้วมันก็มีคนนั้นคนนี้ไงบอก
00:11:01 → 00:11:02 ว่ามันได้ผลนะครับเหมือนตอนนี้เปี๊ยเลย
00:11:02 → 00:11:06 ใช่มั้ยที่บอกว่าเฮ้ยกิน CDS เนี่ยแล้ว
00:11:06 → 00:11:08 มันได้ผลมีคนนั้นใช้ได้ผลคนนี้ใช้ได้ผล
00:11:08 → 00:11:10 คือโกหกทั้งนั้นแล้วก็หลายๆคนเนี่ยมโนไป
00:11:10 → 00:11:13 เองล้วนๆเลยนี่ก็เหมือนกันซ้ำรอยกับสมัย
00:11:13 → 00:11:16 ก่อนนะครับคือ Earn เนี่ยเขาก็บอกว่า
00:11:16 → 00:11:18 เนี่ยคนนั้นใช้ได้ผลคนนี้ใช้ได้ผลถ้าพอ
00:11:18 → 00:11:19 เอารายงานมาดูจริงๆมันไม่ได้ผลครับหรือ
00:11:19 → 00:11:21 บางคนก็ไม่ยงส่งรายงานด้วยซ้ำไปทำให้
00:11:21 → 00:11:25 รัฐบาลเนี่ยเค้าก็บอกว่าไม่ได้ละถึงแม้
00:11:25 → 00:11:28 ว่าจะมีการต่อสู้แล้วทำให้รัฐมีประมาณ 20
00:11:28 → 00:11:31 รัฐในตอนนั้นน่ะเปิดให้มีการใช้เรทิลได้
00:11:31 → 00:11:34 เนี่ยนะครับทางรัฐบาลก็ออกมาบอกว่าคุณไม่
00:11:34 → 00:11:36 มีหลักฐานคุณทำอย่างนี้ไม่ได้สุดท้ายก็
00:11:36 → 00:11:39 ต้องปิดโครงการนี้ไปนะครับพอปิดเนี่ย
00:11:39 → 00:11:41 แบรนด์เรื่องนี้ออกจากอเมริการู้ไม่เรว
00:11:41 → 00:11:43 ที่มันไปไหน
00:11:43 → 00:11:46 ไปที่เม็กซิโกครับดังนั้นคุณจะเห็นว่าที่
00:11:46 → 00:11:49 เม็กซิโกเนี่ยจะมีคลินิกที่ฉีดเรททริให้
00:11:49 → 00:11:51 ได้แล้วก็มีเรทริแบบกลินเรทริเนี่ยจะมี
00:11:51 → 00:11:53 ฟอร์มฉีดกับฟอร์มกินโดยทั่วไปเาจะฉีดสัก
00:11:53 → 00:11:55 ประมาณ 2-3 อาทิตย์แล้วหลังจากนั้นจะให้
00:11:55 → 00:11:57 กินเข้าไปทุกวันทุกวันไปเรื่อยๆไม่มีวัน
00:11:57 → 00:12:01 หยุดนะครับอ่าถ้าใครที่สมัยก่อนบอกว่าอ๋อ
00:12:02 → 00:12:04 เนี่ยยาธรรมชาติน่ะมันไม่ต้องกินไปตลอด
00:12:04 → 00:12:05 ชีวิต
00:12:05 → 00:12:08 จริงหรือเปล่าถ้าคุณไปดูสมุนไพรต่างๆ
00:12:08 → 00:12:10 เนี่ยเขาจะให้คุณกินไปตลอดชีวิตนะหลายตัว
00:12:10 → 00:12:13 นะอาจจะมีบางตัวที่คุณกินระยะสั้นๆแต่บาง
00:12:13 → 00:12:16 ตัวเจะบอกให้คุณกินไปเรื่อยๆกินไปตลอดมัน
00:12:16 → 00:12:18 ดีต่อร่างกายเป็นสารธรรมชาติไม่อันตราย
00:12:18 → 00:12:21 ไอ้เลก็โฆษณาแบบเดียวกันเปี๊ยบเลยให้คุณ
00:12:21 → 00:12:24 กินไปตลอดเพื่อที่จะทำให้ร่างกายมันปรับ
00:12:24 → 00:12:26 สมดุลจะได้ไม่มีมะเร็งมาก่อกวนในร่างกาย
00:12:26 → 00:12:29 ของของคุณนั่นแหละครับนั่นน่ะคือที่มาของ
00:12:29 → 00:12:32 การที่ตอนนี้มันหาได้ที่เม็กซิโก
00:12:32 → 00:12:35 แล้วซ้ำไปก่อนนั้นครับเลิที่เขาสกัดที่
00:12:35 → 00:12:38 เม็กซิโกเนี่ยมีคนเคยไปตรวจสอบแล้วครับ
00:12:38 → 00:12:42 ว่าบางทีสารมันเยอะเกินไปบางทีมีสารเจือ
00:12:42 → 00:12:44 ป่นบางทีมีแบคทีเรียเจือปนคุณฉีดเข้าไป
00:12:44 → 00:12:46 คุณติดเชื้อแบคทีเรียในกระแสเลื่อนได้
00:12:46 → 00:12:48 ครับอันนี้คือสิ่งที่น่ากังวลเพราะว่า
00:12:48 → 00:12:51 มาตรฐานของทางเม็กซิโกที่เขาดูแลเรื่อง
00:12:51 → 00:12:53 เนี้ยมันไม่ชัดเจนแล้วก็มีในคลินิกบาง
00:12:53 → 00:12:55 คลินิกแล้วเค้าก็ฉีดอะไรให้คุณก็ไม่มีใคร
00:12:55 → 00:12:59 รู้ดังนั้นจึงมีความต้องน่าเป็นห่วงอย่าง
00:12:59 → 00:13:02 ยิ่งนะครับในการดูแลเรื่องของอ่าสุลักษ
00:13:02 → 00:13:04 อนามัยของคนพวกเนี้ยนะครับที่เขาไปใช้สาร
00:13:04 → 00:13:07 แปลกๆเข้ามาในร่างกายนะครับ
00:13:07 → 00:13:11 คำถามก็คือแล้วการแคบบอกว่าไอ้ตัวเนี้ย
00:13:11 → 00:13:14 มันเป็นวิตามิน B17 แล้วมันอ่าสามารถที่
00:13:14 → 00:13:17 จะใช้รักษาโรคนั้นโลกนี้มีคนเชื่อแค่แพ
00:13:17 → 00:13:20 นั้นน่ะมันน้ำหนักยังไม่พอนะครับก็ต้องมี
00:13:20 → 00:13:24 การบอกกลไกทางด้านการออกฤทธิ์ทางการแพทย์
00:13:24 → 00:13:26 ว่าเฮ้ยในทางด้านการแพทย์นะมันไปทำอะไรใน
00:13:27 → 00:13:29 ร่างกายมันถึงทำให้มะเร็งมันหายไปได้ถ้า
00:13:29 → 00:13:31 มีข้อมูลตรงนี้เพิ่มมากขึ้นเนี่ยมันจะทำ
00:13:31 → 00:13:33 ให้คนที่เขาเชื่อเรื่องเนี้ยเชื่อเข้าไป
00:13:33 → 00:13:34 ใหญ่เลยเพราะว่านี่ไงมีหลักฐานทาง
00:13:34 → 00:13:37 วิทยาศาสตร์มีกลไกทางด้านของการออกฤทธิ์
00:13:37 → 00:13:40 ของยาแล้วก็มีคนไข้หายมาแล้วเหมือนตอนนี้
00:13:40 → 00:13:42 เปี๊ยบเลยใช่มั้ยครับที่มีหมออยู่บางคน
00:13:42 → 00:13:45 เนี่ยบอกว่าการใช้วัคซีนโควิดเนี่ยมันทำ
00:13:45 → 00:13:47 ให้ร่างกายเกิดปัญหานะครับแล้วก็อธิบาย
00:13:47 → 00:13:49 ตายเยอะแยะไปหมดนะครับจริงๆคือโกหกล้วนๆ
00:13:49 → 00:13:53 เลยอันนี้เหมือนกันนะครับอันนี้ก็คือเอ่อ
00:13:53 → 00:13:56 เค้ามีการให้
00:13:56 → 00:14:00 เอ่อคำอธิบายไว้ว่าเซลล์มะเร็งกับเซลล์
00:14:00 → 00:14:03 ปกติเนี่ยมันจะมีเอนไซม์ที่ไม่เหมือนกัน
00:14:03 → 00:14:05 นะครับเอนไซม์ที่ไม่เหมือนกันในที่นี้ก็
00:14:05 → 00:14:08 คือเวลาที่เรากินเรทริalเข้าไปในร่างกาย
00:14:08 → 00:14:10 เนี่ยเซลล์มะเร็งเนี่ยมันจะทำการย่อย
00:14:10 → 00:14:12 เรทริได้เร็วกว่าแล้วปล่อยสารไซยานไนด์
00:14:12 → 00:14:15 ออกมาทำให้ตัวมันเนี่ยโดนสารไซยานไนาย
00:14:15 → 00:14:17 แล้วมันก็ตายไปส่วนเซลล์ปกติปกติเนี่ยนะ
00:14:17 → 00:14:20 ครับมันมีเอนไซม์ตัวนึงชื่อโรนีสนะครับ
00:14:20 → 00:14:23 โรนีสเนี่ยคือมันจะจัดการกับตัวอ่าไอ้
00:14:23 → 00:14:26 ไซานได้ทำให้มันไม่เป็นไรแล้วมันก็ไม่
00:14:26 → 00:14:28 ค่อยมีการย่อยสารตัวนี้ด้วยทำให้ไซยานา
00:14:28 → 00:14:30 ไม่ค่อยปล่อยออกมานะครับซึ่งเราก็พบแล้ว
00:14:30 → 00:14:33 ครับว่ามันไม่จริงเออมันไม่จริงนะที่มัน
00:14:33 → 00:14:35 ไม่เป็นแบบนั้นเลยนะครับแล้วเราก็มีการทด
00:14:35 → 00:14:36 ลองที่มันใหญ่กว่านั้นก็เจอว่ามันไม่ได้
00:14:36 → 00:14:40 มีผลประโยชน์อ่าต่อร่างกายเลยนะครับแล้ว
00:14:40 → 00:14:44 ซ้ำร้ายกว่านั้นครับคือการฉีดเรทลเข้ามา
00:14:44 → 00:14:46 ในร่างกายสมมุติถ้าฉีดเรทริที่สะอาดจริงๆ
00:14:46 → 00:14:49 เนี่ยเนี่ยมันอาจจะไม่อันตรายนะแต่มันก็
00:14:49 → 00:14:52 ไม่ได้ผลอะไรเหมือนกันปัญหาก็คือตอนเนี้ย
00:14:53 → 00:14:55 ประเทศไทยคุณสามารถหาวิตามิน B17 หรือ
00:14:55 → 00:14:58 เรทิได้ออนไลน์ครับคุณสามารถไปหาได้นะ
00:14:58 → 00:15:01 ครับพอหามาได้แล้วเนี่ยต้องบอกว่าแบบกิน
00:15:01 → 00:15:05 เนี่ยอันตรายกว่าแบบฉีดถามว่าทำไม
00:15:05 → 00:15:08 เพราะว่าถ้าคุณกินมันเข้าไปนะครับ
00:15:08 → 00:15:11 แบคทีเรียในลำไส้ของคุณเนี่ยมันจะมี
00:15:11 → 00:15:14 เอนไซม์กลุ่มหนึ่งชื่อเอ่อเบต้ากลูเดสนะ
00:15:14 → 00:15:18 ครับมันจะย่อย่อยไอ้สารเรทริเนี่ยให้
00:15:18 → 00:15:21 ปล่อยออกมาเป็นไซยานไนาย
00:15:21 → 00:15:25 เออมันจะปล่อยไซยานไนายออกมาแล้วก็จะเกิด
00:15:25 → 00:15:27 พิษของไซยานาย
00:15:27 → 00:15:29 พิษไซยานายเป็นยังไงคลื่นไส้อาเจียนปวด
00:15:29 → 00:15:33 หัวหายใจไม่ออกหัวใจมีปัญหาตับวายนะครับ
00:15:33 → 00:15:36 การเคลื่อนไหวผิดปกติการพูดจาผิดปกติตาย
00:15:36 → 00:15:41 ได้นั่นคือพิษของมันแล้วอาหารบางอย่างก็
00:15:41 → 00:15:43 มีเอนไซม์ตัวนี้ด้วยเช่นแครอทเช่นผักบาง
00:15:43 → 00:15:47 อย่างก็มีนะครับงั้นถ้าเกิดคุณกินไอ้ของ
00:15:47 → 00:15:50 พวกนี้เข้าไปร่วมกับการกินวิตามิน B17
00:15:50 → 00:15:53 เนี่ยคุณอาจจะแย่ก็ได้นะมีสารไซไซยานาย
00:15:53 → 00:15:55 สะสมในร่างกายหรือบางคนก็อาจจะเสียชีวิต
00:15:55 → 00:15:59 เลยตอนนั้นก็ได้นี่คือกรณีของเรทริ
00:15:59 → 00:16:01 ส่วนบางคนที่บอกว่าเนี่ยซื้อมาตั้งนานกิน
00:16:01 → 00:16:04 ก็ไม่เห็นเป็นไรแต่คุณกินแล้วคุณได้
00:16:04 → 00:16:06 ประโยชน์อะไรบ้างล่ะครับถ้าคุณได้
00:16:06 → 00:16:08 ประโยชน์นะคุณมโนไปเองแล้วครับเพราะว่ายา
00:16:08 → 00:16:10 ตัวนี้มันไม่มีประโยชน์อะไรสักอย่างใน
00:16:10 → 00:16:14 ร่างกายเลยสักนิดเดียวก็ไม่มีนะครับแล้ว
00:16:14 → 00:16:16 ไอ้เรทริเนี่ยเนี่ยต้องบอกว่านอกเหนือจาก
00:16:16 → 00:16:18 มันไม่มีประโยชน์แล้วคุณจะรู้ได้ไงว่าใน
00:16:18 → 00:16:20 นั้นมันมีอะไรอยู่บ้างมันอาจจะไม่มีเรทิ
00:16:20 → 00:16:22 เลยก็ได้มันอาจจะมีวิตามินอย่างอื่นมัน
00:16:22 → 00:16:24 อาจจะมีสารเจือปนอะไรอย่างอื่นซึ่งคุณไม่
00:16:24 → 00:16:27 รู้แล้วคุณก็กินเข้าไปแล้วบอกว่าเอ้ยมัน
00:16:27 → 00:16:29 ไปได้มาจากแหล่งที่น่าเชื่อถือคุณรู้ได้
00:16:29 → 00:16:31 ยังไงคุณเอามันไปตรวจหรือเปล่าถ้าคุณไม่
00:16:31 → 00:16:33 ไปตรวจอ่าเช่นส่งไปกรมวิทย์ตรวจวิเคราะห์
00:16:33 → 00:16:35 ศาลข้างในว่ามีอะไรบ้างคุณก็ไม่รู้นะครับ
00:16:35 → 00:16:38 แล้วผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าของที่มันไม่
00:16:38 → 00:16:42 ดีแบบเนี้ยมันยังปล่อยให้อยู่บนโลก
00:16:42 → 00:16:44 ออนไลน์ของประเทศไทยได้ยังไงผมเคยเขียน
00:16:44 → 00:16:46 รายงานไปนะไม่เกิดอะไรขึ้นยังอยู่เหมือน
00:16:46 → 00:16:48 เดิมยังขายเหมือนเดิมเปี๊ยบเลยนะครับมัน
00:16:48 → 00:16:52 เลยทำให้ประเทศไทยเนี่ยมันผู้บริโภคเนี่ย
00:16:52 → 00:16:54 อันตรายเพราะว่าก็มาจากแหล่งเว็บไซต์ที่
00:16:54 → 00:16:57 น่าเชื่อถือได้บางคนโฆษณาเนี่ยมาจากหมอ
00:16:57 → 00:16:59 เองด้วยนะครับหมอผู้เชี่ยวชาญด้านนั้น
00:16:59 → 00:17:02 ด้านนี้อ่าหมอระบบประสาทบอกว่ากัญชากิน
00:17:02 → 00:17:05 แล้วดีทำให้สมองหายเสื่อมอย่างเงี้ยไป
00:17:05 → 00:17:07 เชื่อเขาก็มีปัญหาได้นี่ก็เหมือนกันนะ
00:17:07 → 00:17:08 ครับ
00:17:08 → 00:17:11 Earn Steelor Crep เนี่ย
00:17:11 → 00:17:14 เค้าถึงแม้ว่าจะโดนต่อต้านเยอะนะแต่เค้า
00:17:14 → 00:17:17 ก็มีสาวกของเขาเยอะเหมือนกันนะครับแล้ว
00:17:17 → 00:17:20 ต้องบอกว่าเป็นความโชคร้ายอีกชั้นนึงก็
00:17:20 → 00:17:23 คือคนที่กระจายความเชื่อผิดๆเหล่าเนี้ย
00:17:23 → 00:17:26 มักจะมีเงินแล้วก็มักจะตายยากด้วยคุณ
00:17:26 → 00:17:30 เอิ้นเนี่ยนะครับกว่าจะตายอายุ 85
00:17:30 → 00:17:34 เบางคนก็จะบอกว่าเห็นมั้ยขนาดคนที่เป็น
00:17:34 → 00:17:36 เจ้าลัทธิที่เขาทำอย่างเงี้เค้าใช้เองนะ
00:17:36 → 00:17:38 เค้าอายุยืนไม่มีปัญหาอะไรกับร่างกายเลย
00:17:38 → 00:17:41 แต่คุณจะเรียนรู้ได้ไงว่าเค้าใช้จริงหรือ
00:17:41 → 00:17:43 บางทีเขาใช้จริงเขาอาจจะมโนไปเองก็ได้
00:17:43 → 00:17:45 เพราะว่าหลายครั้งเนี่ยนะครับต้องบอก
00:17:45 → 00:17:47 อย่างงี้ต่อให้คุณเป็นนักวิทยาศาสตร์
00:17:47 → 00:17:50 รางวัลโนเบล
00:17:50 → 00:17:52 ก็ยังมีข้อผิดพลาดในการใช้ของพวกนี้เลยนะ
00:17:52 → 00:17:54 ครับถ้าใครที่ไม่รู้เนี่ยคุณลองไปเสิร์ช
00:17:55 → 00:17:58 คำว่า Nobel Laureate แล้วก็พวกเ่อ
00:17:58 → 00:18:00 Conspiracy Theories ก็ได้คุณจะเจอนัก
00:18:00 → 00:18:02 วิทยาศาสตร์รางวัลโนเบลที่มีความเชื่อผิด
00:18:02 → 00:18:05 ๆหลายครั้งแล้วบางคนเนี่ยออกไปกล่าวในงาน
00:18:05 → 00:18:07 รับรางวัลโนเบลของตัวเองเสียด้วยทำให้คน
00:18:07 → 00:18:12 อื่นเขา้าแบบไม่เชื่อเลยอ่ะนะครับอ่าถ้า
00:18:12 → 00:18:14 เกิดไม่แน่ใจผมอยากจะให้คุณไปเสิร์ชคนนึง
00:18:14 → 00:18:17 ชื่อว่า Linus Pauling คนเนี้ยดังมากๆ
00:18:17 → 00:18:19 เลยถ้าใครเรียนเคมีต้องรู้จัก Linus
00:18:19 → 00:18:21 Pauling ไม่รู้จักนี่ไม่รู้จะว่าไงละคุณ
00:18:21 → 00:18:23 ลองไปหาดูว่าประวัติของเขาเกี่ยวข้องกับ
00:18:23 → 00:18:25 โนเบลแล้วสิ่งที่เขาเชื่อเนี่ยมันมีอะไร
00:18:25 → 00:18:28 บ้างที่ผิดคนเก่งระดับเนี้ยยังมีสิ่งที่
00:18:28 → 00:18:31 ผิดเลยคุณลองไปหาดูนะครับงั้นการที่เราจะ
00:18:31 → 00:18:33 เชื่อใครคนใดคนหนึ่งถึงแม้ว่าเขาจะเป็นคน
00:18:33 → 00:18:35 ที่เก่งระดับโลกเนี่ยมันเชื่อไม่ได้เรา
00:18:35 → 00:18:38 ต้องมาดูที่ข้อมูลจริงๆที่มีในปัจจุบันนะ
00:18:38 → 00:18:41 ครับแล้วก็ต้องบอกว่าคุณรู้มั้ยว่าถ้า
00:18:41 → 00:18:44 เป็นบริษัทใหญ่บริษัทยาต่างๆเนี่ยนะครับ
00:18:44 → 00:18:47 แล้วเทำของออกมาแล้วถ้ามันไม่ได้มาตรฐาน
00:18:47 → 00:18:50 เนี่ยเค้าเนี่ยแหละที่จะโชคร้ายเค้านี่
00:18:50 → 00:18:52 แหละที่จะขาดทุนไม่มีใครที่เขาอยากทำอะไร
00:18:52 → 00:18:55 ออกมาแล้วมันใช้ไม่ได้หรอกครับนะฮะส่วนคน
00:18:55 → 00:18:59 ที่ไปบอกว่าเฮ้ยเอ่อบริษัทนั้นเค้ามีกำไร
00:18:59 → 00:19:02 เค้าไปซื้อสื่อเค้าซื้อวิจัยอะไรได้นะ
00:19:02 → 00:19:05 ครับตัวคุณเองเนี่ยคุณยังไม่มีวิจัยเลย
00:19:05 → 00:19:08 ที่มีก็ตีความไม่ถูกต้องหรือโกหกขึ้นมา
00:19:08 → 00:19:11 หรือบางทีใช้ความใช้ความโด่งดังของตัวเอง
00:19:11 → 00:19:13 ในการสร้างเรื่องสร้างราวขึ้นอ่าซึ่งต้อง
00:19:13 → 00:19:16 บอกว่าเนี่ยมันมีให้เห็นถึงในอดีตแล้วอ่ะ
00:19:16 → 00:19:20 นะครับเออมันก็เป็นซะอย่างนี้ดังนั้นถ้า
00:19:20 → 00:19:22 ตอนนี้เนี่ยนะครับใครเห็นเรื่องของ
00:19:22 → 00:19:26 วิตามิน B17 อิกลินหรือไทรนะครับไม่ต้อง
00:19:26 → 00:19:30 ซื้อนะครับไม่ต้องซื้อเลยนะฮะมันมีปัญหา
00:19:30 → 00:19:32 แล้วเรื่องเนี้ยนะครับผมอยากจะให้อย.
00:19:32 → 00:19:34 เนี่ยไปตรวจสอบด้วยซ้ำไปว่าถ้าเกิดว่าไป
00:19:34 → 00:19:38 เจอของแบบเนี้ยขายอยู่ออนไลน์อ่ะอย.น่าจะ
00:19:38 → 00:19:41 ต้องลงดาบนะเพราะว่ามันอันตรายแล้วไอ้ยา
00:19:41 → 00:19:43 พวกเนี้ยกินเข้าไปถ้ามันเป็นเรทจริงๆนะ
00:19:43 → 00:19:47 มันปล่อยไซยานายออกมานะครับคุณกล้ากินใน
00:19:47 → 00:19:50 ไซยานายมั้ฮะถ้าคุณกล้าแล้วแต่คุณเลยครับ
00:19:50 → 00:19:54 แต่ถ้าคุณไม่กล้าก็อย่าให้มันมีอยู่บน
00:19:54 → 00:19:56 เว็บไซต์เลยครับเพราะว่าคุณไม่รู้หรอกว่า
00:19:56 → 00:19:58 มันจะเกิดอะไรขึ้นถ้าเกิดว่ามีญาติของคุณ
00:19:58 → 00:20:01 ไปบอกอุ๊ยนี่ไงวิตามิน B17 เป็นวิตามิน
00:20:01 → 00:20:05 ใหม่ที่หมอเพิ่งค้นพบเอามากินแย่เลยครับ
00:20:05 → 00:20:07 เพราะว่าไอ้ตัวเนี้ยไม่ใช่วิตามินแล้วมัน
00:20:07 → 00:20:09 ก็ไม่ได้มีมาตอนนี้ไม่ได้หมอเพิ่งค้นพบ
00:20:09 → 00:20:13 เค้ารู้มาตั้งนานแล้วแล้วเค้าก็ตีมันตกไป
00:20:13 → 00:20:15 ตั้งนานแล้วแต่พอมันตกไปก็มีคนไปเห็นปุ๊บ
00:20:16 → 00:20:18 เอาชูโรงขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะทำการตลาด
00:20:18 → 00:20:19 ขายมันนี่แหละครับเป็นอันตรายต่อมนุษย์
00:20:19 → 00:20:21 โลกเรานี่แหละนะฮะดังนั้นก็ต้องระวัง
00:20:21 → 00:20:24 เรื่องนี้เป็นพิเศษเลยนะครับโอเควันนี้ผม
00:20:24 → 00:20:26 ก็เล่าให้ฟังถึงประวัติของวิตามิน B17
00:20:26 → 00:20:28 เพียงเท่านี้นะครับต่อไปก็อย่าเรียกมัน
00:20:28 → 00:20:31 ว่าวิตามินครับเรียกว่ายาไซยาจะดีกว่า
00:20:31 → 00:20:33 ครับแล้วไม่ต้องหามากินนะครับโอเควันนี้
00:20:33 → 00:20:38 เท่านี้นะครับขอบคุณมากครับสวัสดีครับ