00:00:00 → 00:00:03 ผู้ชายหรือหญิงบางครั้งก็ดูแตกต่างกัน
00:00:03 → 00:00:06 อย่างสิ้นเชิงเหมือนคำว่าอะไรนะชายมาจาก
00:00:06 → 00:00:08 ดาวอังคารหญิงมาจากดาวศุกร์ยอมรับถือว่า
00:00:08 → 00:00:11 เราทุกคนต่างมีรูปร่างลักษณะที่ต่างกัน
00:00:11 → 00:00:15 บุคลิกรสนิยมหรือแม้แต่สีผมก็ด้วยซึ่งไม่
00:00:15 → 00:00:17 ใช่การแข่งขันกันหรอกเราทุกคนมีความโดด
00:00:17 → 00:00:20 เด่นเป็นของตัวเองแต่เราก็ปฏิเสธความแตก
00:00:20 → 00:00:22 ต่างเชิงชีวภาพระหว่างชายและหญิงไม่ได้
00:00:22 → 00:00:24 เมื่อพูดถึงเพศชายเพราะอ่านไม่ได้มาจาก
00:00:24 → 00:00:27 ดาวอื่นเท่าที่รู้แล้วนะแล้วก็มีเรื่อง
00:00:27 → 00:00:29 มากมายกับร่างกายเพศชายที่จะทำให้คุณ
00:00:29 → 00:00:32 ประหลาดใจเอาล่ะสมเสื้อคุณหมอและเตรียมหู
00:00:32 → 00:00:35 ฟังไว้ตรวจสอบความจริงแปลกๆของร่างกายเพศ
00:00:35 → 00:00:38 ชายกันเทสโทสเตอร์โรนเป็นอย่างนี้ปัจจัย
00:00:38 → 00:00:41 สำคัญของลักษณะกายภาพแบบเพศชายซึ่งรวมถึง
00:00:41 → 00:00:44 การเติบโตของเส้นคนบนเรือนร่างผู้ชายตัว
00:00:44 → 00:00:47 อย่างเช่นบนหน้าอกและใบหน้าแต่สิ่งที่ไม่
00:00:47 → 00:00:50 เคยสังเกตกันก็คือความหนาของผิวหนังและ
00:00:50 → 00:00:52 เรากำลังหมายถึงความหนาจริงๆด้วยระดับ
00:00:52 → 00:00:55 ฮอร์โมนเทสโทสเตอร์โรนสูงกว่าผู้ชายที่
00:00:55 → 00:00:57 ไม่มีผิวหนังหนากว่าผู้หญิง 20-25
00:00:57 → 00:00:59 เปอร์เซ็นต์โดยเฉพาะอย่างยิ่งชั้นหนังแท้
00:00:59 → 00:01:02 ที่อยู่หรือต่อไปสิ่งที่ทำให้ผู้ชายมีผิว
00:01:02 → 00:01:05 หยาบกร้านและมีเนื้อสัมผัสยากว่ามีไม่ได้
00:01:05 → 00:01:08 หมายความว่าผู้ชายได้เปรียบมากกว่าความ
00:01:08 → 00:01:10 จริงแล้วผู้ชายจะสูญเสียคอลลาเจนในอัตรา
00:01:10 → 00:01:13 ที่สม่ำเสมอผู้หญิงอย่างน้อยก็ได้ช่วงวัย
00:01:13 → 00:01:15 หนุ่มก็สูญเสียคอลลาเจนส่งผลให้ผิวหนัง
00:01:15 → 00:01:18 บางลงหย่อนคล้อยและทำให้เกิดริ้วรอยง่าย
00:01:18 → 00:01:21 ขึ้นดังนั้นยิ่งอายุมากขึ้นผิวผู้ชายก็จะ
00:01:21 → 00:01:24 ยิ่งบางลงในขณะเดียวกันผิวหนาของผู้ชาย
00:01:24 → 00:01:26 กลับช่วยป้องกันริ้วรอยแห่งวัยได้ดีกว่า
00:01:26 → 00:01:29 รวมแล้วก็มีข้อดีพอๆกับข้อเสียนั่นแหละ
00:01:29 → 00:01:32 ว่าผู้หญิงจะมีริ้วรอยแห่งวัยง่ายกว่าแต่
00:01:32 → 00:01:34 กระบวนการชราภาพเมื่อมันเกิดขึ้นของผู้
00:01:34 → 00:01:37 ชายจะเร็วกว่าเร็วรอยจะมาเป็นร่องเลย
00:01:37 → 00:01:41 โลกคิดว่าผิวคุณเป็นอย่างลบสิยิ่งยางลบ
00:01:41 → 00:01:43 หนามันก็ยิ่งใช้ได้นานแต่ถ้ามันสึกหรอ
00:01:43 → 00:01:46 หรือมีรอยแตกเหมือนก็จะเห็นได้ชัดการดูแล
00:01:46 → 00:01:48 ผิวอย่างถูกวิธีสามารถช่วยรักษาผิวให้
00:01:48 → 00:01:51 เนียนและมีสุขภาพดีได้สิ่งที่สำคัญก็คือ
00:01:51 → 00:01:54 การทาครีมกันแดดเป็นประจำแม้ว่าจะอยู่ใน
00:01:54 → 00:01:57 ร่มนี่ฉันคิดไปเองเลือกอ่านี่มันร้อนกัน
00:01:57 → 00:01:59 ผู้นั้นเคยเถียงกับเพื่อนหรือคนใน
00:01:59 → 00:02:02 ครอบครัวที่อยู่กับอุณหภูมิในห้องว่าคน
00:02:02 → 00:02:05 เร่งหรือเปล่าแอร์ดีหรือเปิดพัดลมแทนโดย
00:02:05 → 00:02:07 ส่วนใหญ่แล้วเวลาอยู่ในห้องผู้ชายจะร้อน
00:02:07 → 00:02:09 ง่ายกว่าแม้ว่ามติเรื่องอย่างไม่เป็น
00:02:09 → 00:02:13 เอกฉันท์แต่ก็มันก็ไม่ได้ผิดตัวรับความ
00:02:13 → 00:02:15 เย็นหลักในผิวผู้ชายรับความรู้สึกช้าแต่
00:02:16 → 00:02:17 ไม่ใช่ว่าผู้ชายถูกสร้างให้ไปอยู่ในแถบ
00:02:17 → 00:02:20 อาร์กติกหรอกนะเพลงแค่พวกเขาทนทานต่อความ
00:02:20 → 00:02:22 เย็นได้มากกว่านอกจากนี้ว่าคำนึงถึง
00:02:22 → 00:02:25 อุณหภูมิร่างกายระบบหมุนเวียนโลหิตก็ยัง
00:02:25 → 00:02:27 มีความต่างผู้หญิงมีอุณหภูมิภายในสูงกว่า
00:02:27 → 00:02:30 แล้วตอบรับต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิรอบๆ
00:02:30 → 00:02:32 อย่างฉับพลันจะของผู้ชายจะไม่ค่อยเปลี่ยน
00:02:32 → 00:02:34 แปลงซึ่งทำให้พวกเขาไม่รู้สึกว่าอุณหภูมิ
00:02:34 → 00:02:36 มีการเปลี่ยนแปลงเรื่องอุณหภูมิห้องไม่
00:02:36 → 00:02:38 ใช่สิ่งเดียวที่ทั้งสองเพศเห็นไม่ตรงกัน
00:02:38 → 00:02:41 ไม่รู้ที่ดวงตากันผู้ชายมองเห็นช่วง 400
00:02:41 → 00:02:44 กว่าผู้หญิงแดงในขณะที่ผู้ชายเห็นเป็นสี
00:02:44 → 00:02:47 ฟ้าผู้หญิงเห็นเฉดสีที่ละเอียดกว่าชื่อสี
00:02:47 → 00:02:51 ฟ้าและ Render ในขณะเดียวกันผู้ชายกลับ
00:02:51 → 00:02:53 มองวัตถุที่เคลื่อนไหวอยู่ไปไกลดีกว่าจึง
00:02:53 → 00:02:55 ไม่ได้มีแค่เรื่องสีหลอกที่ทั้งสองเพศ
00:02:55 → 00:02:58 เห็นไม่เหมือนกันมีข้อมูลระบุว่าสาเหตุ
00:02:58 → 00:03:01 ที่ทำให้ทั้งสองเพศมองเห็นต่างและก็คือเท
00:03:01 → 00:03:03 สโทสเตอร์โรนผู้ชายมีตัวละ Test ทดรอนมาก
00:03:03 → 00:03:05 กว่าผู้หญิงทำให้เซลล์ประสาทอีกเรื่อง
00:03:05 → 00:03:08 สมองส่วนการมองเห็นทำงานต่างกันทฤษฎีของ
00:03:08 → 00:03:10 เรื่องนี้อยู่ที่วิวัฒนาการอะเริ่มตั้ง
00:03:10 → 00:03:13 แต่สมัยเก็บของป่าล่าสัตว์ก็มีสายตายาว
00:03:13 → 00:03:15 ช่วยสังเกตเห็นเหยื่อและสำนักล่าได้จากใน
00:03:15 → 00:03:18 ๆในขณะเดียวกันผู้หญิงก็ต้องแยกสีสัน
00:03:18 → 00:03:21 เพื่อหาเสบียงและเก็บของป่าที่อยู่ใกล้ๆ
00:03:21 → 00:03:24 ทุกวันนี้ในการเก็บของป่าล่าสัตว์จะไม่มี
00:03:24 → 00:03:26 แล้วแต่ผู้ชายก็ยังเห็นร้านอาหารโปรดได้
00:03:26 → 00:03:30 จากระยะไกลขณะที่ขับรถผ่านนี่ยุคสมัย
00:03:30 → 00:03:32 เปลี่ยนไปขนาดนั้นแล้วเหรอผู้ชายมีฟันที่
00:03:32 → 00:03:35 ใหญ่กว่าเพื่อย่อยอาหารจานโปรดด้วยจริง
00:03:35 → 00:03:36 อยู่ที่เรื่องของไฟล์ในทางเพศชายและหญิง
00:03:36 → 00:03:39 นั้นขึ้นอยู่กับมุมมองแต่ผู้ชายมักได้
00:03:39 → 00:03:41 เปรียบเรื่องขนาดฟันด้วยฟันซี่ที่เห็นได้
00:03:41 → 00:03:44 ชัดเลยก็คือฟันหน้าและฟันเขี้ยวที่มีเส้น
00:03:44 → 00:03:46 ผ่านศูนย์กลางกว้างกว่าและคงกว่าซึ่งหมาย
00:03:46 → 00:03:48 ความว่ารอยยิ้มของผู้ชายจะมีเหลี่ยมมุม
00:03:48 → 00:03:51 และกว้างกว่าคำตอบของเรื่องนี้อยู่ที่
00:03:51 → 00:03:54 วิวัฒนาการเชิงสรีระ Bum พระบรมแรกเริ่ม
00:03:54 → 00:03:56 ของเรามีลำดับชั้นที่ชัดเจนซึ่งหมายความ
00:03:56 → 00:03:58 ว่าผู้ชายต้องเป็นฝ่ายกุมอำนาจ
00:03:58 → 00:04:01 เหมือนกับลิง You สิ่งที่เป็นไปได้ว่าตัว
00:04:01 → 00:04:04 ผู้ 4 แยกเขี้ยวเพื่อข่มคู่แข่งและผู้คาม
00:04:04 → 00:04:06 เที่ยวที่ใหญ่กว่าเป็นสัญลักษณ์ที่น่า
00:04:06 → 00:04:09 เกรงขามแมวผู้ชายยุคใหม่จะไม่ทำพฤติกรรม
00:04:09 → 00:04:11 ดังกล่าวแต่ฟันที่ใหญ่นี้ก็ส่งผลให้ขนาด
00:04:11 → 00:04:14 กลางกว้างขึ้นซึ่งกลายเป็นลักษณะที่บ่ง
00:04:14 → 00:04:17 บอกถึงความเป็นชายในทางกลับกันการยิ้มยิง
00:04:17 → 00:04:19 ฟันขาวว่าเป็นสัญญาณแห่งความสุขนายยิ้ม
00:04:19 → 00:04:22 หน่อยฟันขนาดใหญ่ไม่ใช่ลักษณะเฉพาะอย่าง
00:04:22 → 00:04:24 เดียวที่เกี่ยวกับปากฉันกำลังหมายถึง
00:04:24 → 00:04:26 เสียงกรนและคำรามที่เกิดขึ้นได้ขณะนอน
00:04:26 → 00:04:29 หลับจริงๆแล้วไม่ว่าเพศไหนก็นอนกรนได้แต่
00:04:29 → 00:04:32 ผู้ชายมีแนวโน้มที่จะทนถึง 2 เท่าการ
00:04:32 → 00:04:34 ศึกษาเรื่องนี้ระบุว่าผู้ชาย 4 ใน 10 คน
00:04:34 → 00:04:37 มัดนอนกรนเป็นประจำนั่นคือ 40% ของผู้ชาย
00:04:37 → 00:04:41 เทียบกับ 24 เปอร์เซ็นต์ของผู้หญิงนะว่า
00:04:41 → 00:04:43 ต้นต่อการนอนกรนจะเกิดได้จากหลายสาเหตุ
00:04:43 → 00:04:46 แต่ความเป็นชายก็ถึงสาเหตุหลักอยู่ดีใน
00:04:46 → 00:04:49 ด้านชีววิทยาผู้ชายมีทางเดินหายใจส่วนบน
00:04:49 → 00:04:52 ใหญ่กว่าและมีกล่องเสียงห้อยต่ำกวาจะมี
00:04:52 → 00:04:54 พื้นที่ขนาดใหญ่ด้านหลังคอซึ่งช่วยขยาย
00:04:54 → 00:04:57 เสียงกรนผู้ชายมักมีใครมาหน้าท้องมากกว่า
00:04:57 → 00:05:00 เพราะอ่ากินคาบอนเด่นเยอะกว่าน้ำหนักไรดี
00:05:00 → 00:05:04 กว่าโดยเฉพาะที่คอหน้าอกและทรวงอกแรงกด
00:05:04 → 00:05:06 ที่ทางเดินหายใจมากกว่าทำให้มีสิทธิ์ที่
00:05:06 → 00:05:09 จะนอนกรนซึ่งคนที่นอนด้วยอาจไม่ถูกใจนัด
00:05:09 → 00:05:11 ส่วนใหญ่แล้วการกนนั้นไม่เป็นอันตรายแต่
00:05:11 → 00:05:14 มันก็อาจเป็นสัญญาณของปัญหาสุขภาพที่ซ่อน
00:05:14 → 00:05:17 อยู่ได้สังเกตไว้หน่อยก็ดีที่นี่คุณเคย
00:05:17 → 00:05:19 สงสัยไหมว่าทำไมผู้ชายถึงมีเสียงถุงกว่า
00:05:19 → 00:05:22 เสียงทุ้มกว่าเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับลำคอ
00:05:22 → 00:05:25 โครงเสียงที่ใหญ่กว่าของผู้ชายมีผลต่อ
00:05:25 → 00:05:28 อวัยวะส่วนหนึ่งนั่นคือลูกกระเดือกกระดูก
00:05:28 → 00:05:31 อ่อนตรงข้อนี้เกิดขึ้นทดลองเสียงที่อยู่
00:05:31 → 00:05:33 ด้านหลังดันออกม้าแต่ทั้งนี้ผู้หญิงที่มี
00:05:33 → 00:05:36 กล่องเสียงใหญ่กว่าปกติก็สามารถมีลูกกัน
00:05:36 → 00:05:38 ได้เหมือนกันอย่างไรก็ตามเสียงก็จะยังคง
00:05:38 → 00:05:40 มีความแตกต่างกันอยู่เพราะเสียงของเรา
00:05:40 → 00:05:43 เกิดขึ้นจะกล่องเสียงกล่องเสียงขนาดใหญ่
00:05:43 → 00:05:45 จะสร้างสิ่งที่ทุ่มนะดังกว่าเพราะมีเนื้อ
00:05:45 → 00:05:47 ที่ให้การสั่นสะเทือนได้มากกว่าเนื่องจาก
00:05:47 → 00:05:49 ขนาดลูกกระเดือกขึ้นอยู่กับขนาดกล่อง
00:05:49 → 00:05:51 เสียงด้านหลังคนที่ลูกกระเดือกใหญ่จะมี
00:05:51 → 00:05:54 เสียงทุ้มก็ดูก่อนของลูกกระเดือกเป็น
00:05:54 → 00:05:56 เกราะป้องกันไม่ให้กล่องเสียงบาดเจ็บนอก
00:05:56 → 00:05:58 จากนั้นมันก็ไม่มีหน้าที่อื่นแต่ยังไงก็
00:05:58 → 00:06:00 ไม่แนะนำให้ร้องเพลงสู้กับคนที่นี่ก็
00:06:00 → 00:06:02 เดือนใหญ่กว่าเพราะมีแนวโน้มว่าคุณจะ
00:06:02 → 00:06:05 เปล่งเสียงสู้เขาไม่ได้น่ะสิไหนๆก็ไม่
00:06:05 → 00:06:07 อยู่แถวใบหน้ากันแล้วไม่รู้ที่ขนตากัน
00:06:07 → 00:06:10 บ้างรู้ไม่ว่าผู้ชายมีกรรมพันธุ์ที่ทำให้
00:06:10 → 00:06:13 ขนตาหนาและยาวกว่าพื้นฐานแล้วผมจะทำหน้า
00:06:13 → 00:06:15 ที่ป้องกันดวงตาจากสิ่งแปลกปลอมต่างๆ
00:06:15 → 00:06:17 เลี้ยงเป็นส่วนที่น่าดึงดูดบนๆด้วยเพราะ
00:06:17 → 00:06:20 งั้นต้องขอโทษสาวๆด้วยที่ผู้ชายชนะขาดลอย
00:06:20 → 00:06:23 ด้านี้จะทำไมผู้ชายถึงมีขนตาที่ยาวกว่าละ
00:06:23 → 00:06:25 มันต้องย้อนกลับไปถึงสาเหตุของความเป็น
00:06:26 → 00:06:29 ชายนั่นคือเทสโทสเตอร์โรนอย่างที่เรามา
00:06:29 → 00:06:31 ผู้ชายมีระดับเทสโทสเตอร์โรนที่สูงกว่าจะ
00:06:31 → 00:06:34 มีผลต่อการเติบโตของคนบนร่างกายซึ่งรวม
00:06:34 → 00:06:36 ถึงผลตากลับไปยังหน้าที่หลักของขนตา
00:06:36 → 00:06:39 เหมือนเป็นการป้องกันรูปแบบหนึ่งที่ช่วย
00:06:39 → 00:06:41 ดวงตาชุ่มชื่นป้องกันไม่ให้ตาแห้งและ
00:06:41 → 00:06:44 ระคายเคืองและป้องกันดวงตาจากอนุภาค
00:06:44 → 00:06:47 อันตรายในอากาศเช่นฝุ่นและละอองคนตาจึง
00:06:47 → 00:06:49 เป็นองค์ประกอบที่ครบเครื่องทั้งเรื่อง
00:06:49 → 00:06:51 หน้าที่และความสวยงามเลย
00:06:51 → 00:06:54 ในความแตกต่างเชิงชีวภาพเหมือนก็มีบาง
00:06:54 → 00:06:56 อย่างที่ทั้งสองเพศเหมือนกันอยู่มากกว่า
00:06:56 → 00:06:58 ที่คิดอย่างเช่นต้องเลิกคิดได้แล้วว่าการ
00:06:58 → 00:07:00 เปลี่ยนแปลงฮอร์โมนเกิดขึ้นเฉพาะผู้หญิง
00:07:00 → 00:07:02 เพราะในขณะที่ผู้หญิงตระหนักถึงความ
00:07:02 → 00:07:04 เปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นนี้ผู้ชายกลับไม่
00:07:04 → 00:07:07 รู้สึกรู้สามารอ่านไวๆขนาดรายเดือนแต่ผู้
00:07:07 → 00:07:09 ชายประมาณ 26 เปอร์เซ็นต์ก็มีการเปลี่ยน
00:07:09 → 00:07:12 แปลงฮอร์โมนตามปกติไม่ว่าสาเหตุของการ
00:07:12 → 00:07:14 เกิดอาจจะแตกต่างกันตาการก็มาคล้ายคลึง
00:07:14 → 00:07:17 กันมากซึ่งสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนี้
00:07:17 → 00:07:20 เกี่ยวกับถูกต้องเทสสโตรในล่าระดับ
00:07:20 → 00:07:22 เทสโทสเตอโรนของผู้ชายมีแนวโน้มที่จะ
00:07:22 → 00:07:25 เพิ่มและลดตลอดปีและเมื่อเกิดความผันผวน
00:07:25 → 00:07:27 เหล่านี้ก็ทำให้เกิดผลข้างเคียงเช่น
00:07:27 → 00:07:31 เหนื่อยล้าเป็นตัว Q ประสาทไวขึ้นขี้
00:07:31 → 00:07:34 หงุดหงิดและลมแปรปรวนอารมณ์แปรปรวนอ่ะเรา
00:07:34 → 00:07:37 ล้วนพบเจอกับมันดังนั้นทุกคนเข้าใจกันและ
00:07:37 → 00:07:39 กันให้มากขึ้นเมื่อ Hormone ของคนรอบข้าง
00:07:39 → 00:07:42 กำลังเปลี่ยนแปลงไป